ตอนที่ 32
‘อาจารย์มหาวิทยาลัยดัง เปิดตัวชัดว่าเป็นคู่รักเพศเดียวกันในงานแฟชั่นโชว์!’มือบางซึ่งถือไอแพดเอาไว้กำแน่นจนสั่นระริก กระทู้ข่าวถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วตามความกว้างไกลของเทคโนโลยี แม้ในภาพจะพาดแถบปิดตาแต่นั่นก็แทบไม่ได้ช่วยอะไร ไม่นานนักประวัติของหินบางส่วนก็ถูกขุดคุยจากโลกอินเทอร์เน็ต
แฟนเห็นข่าวนี้จากที่นัทส่งมาให้ในไลน์กรุ๊ป กว่าจะรู้ว่ามันไปไกลขนาดไหนก็เป็นตอนที่เห็นคอมเมนต์พุ่งขึ้นไปจนถึงหลักร้อย และยอดการกดไลก์หลายพัน
เหมือนคนสร้างข่าวจงใจให้เห็นหินเป็นส่วนใหญ่ จากทุกรูปแล้วจะเห็นแฟนเพียงแค่เสี้ยวหน้าหรือด้านหลัง หากแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
Bee : คอมเมนต์มันก็ไม่ได้แย่อะไร มีคนชมพี่หินเยอะแยะ มึงอย่าคิดมากนะ
Nut : จริง เดี๋ยวนี้โลกมันไปไกลแล้ว เป็นเกย์นะไม่ได้เป็นไข้หวัดนก เขาไม่ถือสาหรอก
ข้อความปลอบใจจากเพื่อนช่วยบรรเทาความหนักอึ้งได้เพียงเล็กน้อย ด้วยเพราะไม่คาดคิดว่าประเด็นการเป็นอาจารย์ของหินจะถูกหยิบยกมาโจมตีจึงไม่ได้คิดให้มากกว่านี้กับการพาอีกคนไปออกงาน
Fan : เดี๋ยวกูคุยกับพี่หินก่อน
Nut : ค่ะ มีอะไรให้ช่วยก็บอก
Bee : พร้อมไฝว้เสมอ
Fan : *ส่งสติกเกอร์
แฟนวางไอแพดในมือลงพลางถอนหายใจ ไม่แน่ใจว่าหินเห็นข่าวพวกนี้แล้วหรือยังเนื่องจากอีกฝ่ายไม่ได้ติดโซเชียลหรือสนใจกับอะไรเทือกนี้มากนัก
โทรศัพท์มือถือซึ่งวางอยู่บนโต๊ะถูกหยิบขึ้นมาจากนั้นแฟนจึงรีบต่อสายหาคนที่อยู่ในเวลาพักผ่อนของช่วงปิดเทอม อีกทั้งวันนี้หินยังไม่ได้ออกไปไหน
(ว่าไง) ปลายสายกดรับหลังจากที่รอเสียงสัญญาณดังเพียงไม่กี่ครั้ง
“ทำอะไรอยู่”
(นอนฟังเพลงไปเรื่อย มีอะไรหรือเปล่า) น้ำเสียงของอีกคนยังคงฟังดูปกติ จึงเป็นไปได้ว่าหินยังไม่เห็นข่าวนั่น
“แค่โทรหาเฉยๆ...”
(หึ คิดถึงกูเหรอ เพิ่งบ่ายโมงนะ)
ถ้อยคำหยอกเย้านั้นทำให้เรื่องขุ่นมัวในอกเบาบางลงราวกับมีใครมายกออกไปบางส่วน ไม่ว่าจะอย่างไรการมีหินอยู่เคียงข้างก็รู้สึกราวกับปัญหาที่ผ่านเข้ามาจะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยในที่สุด
“ถ้าบอกว่าคิดถึงจะมาหาหรือเปล่า” แฟนเอ่ยเสียงเบา เกิดความอยากอ้อนอยากคลอเคลียอีกคนขึ้นมาเนื่องจากกำลังต้องการพลังงานทางใจ
รู้อย่างนี้ลากมาบริษัทด้วยก็ดี
(วันนี้มาแปลก) หินพึมพำ
“มาหาหน่อยสิ แล้วตอนเย็นก็ไปกินข้าวข้างนอกกัน”
น้ำเสียงที่คนพูดคิดว่าเป็นปกติกลับทอความออดอ้อนโดยไม่รู้ตัว ทางด้านคนฟังยังไม่รับปากหากแต่มือก็กดปิดเพลง ปิดคอมพิวเตอร์ ปิดทุกอย่างไปแล้วเรียบร้อย
(ท่าจะอาการหนัก เป็นอะไร เรื่องงานรึเปล่า) ยังคงถามต่อขณะกำลังเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อเปลี่ยนชุด
“เปล่า แค่คิดถึงมึงเฉยๆ”
(แน่ใจ?)
“อืม” แฟนรับคำเสียงแผ่ว
(งั้นเดี๋ยวกูไปหา อยากได้อะไรหรือเปล่า)
หินไม่คิดเซ้าซี้ในเมื่อแฟนยังไม่อยากบอก จะไม่ไปกระตุ้นความไม่สบายใจด้วยการคาดคั้นให้อีกคนพูดถึง
“อยากกินชาไข่มุกกับเค้ก เอาร้านไหนก็ได้”
เวลาสมองหนักอึ้งและใจเหนื่อยล้าของหวานจะช่วยเยียวยาทุกอย่าง แม้จะสั่งให้ใครไปซื้อก็ได้แต่ความรู้สึกยามหินซื้อมาให้นั้นไม่เหมือนกัน
คนที่ต้องรับหน้าที่ไปซื้อขนมรับคำโดยไม่มีอิดออด หินถามเพียงแค่เรื่องของรสชาติจากนั้นจึงวางสายไป
ขณะที่คนทางหนึ่งถอนหายใจกับข่าวที่ได้รู้ คนอีกทางก็กำลังเกิดความสงสัย
แฟนไม่ปกติ ต้องมีเรื่องอะไรบางอย่าง
1 ชั่วโมงผ่านไปก๊อก ก๊อก
“เชิญครับ” ร่างเล็กซึ่งกำลังจดจ่ออยู่กับเอกสารเอ่ยอนุญาตผู้ช่วยโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้น แฟนกวาดสายตาอ่านทุกตัวอักษรอีกครั้ง เมื่อพบว่าไม่มีตรงไหนผิดพลาดจึงตวัดปากกาเซ็นลงไป
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
เอ่ยถามคนที่คาดว่าคงเข้ามาคุยเรื่องงานพร้อมทั้งปิดแฟ้มเอกสารลงแล้วเลื่อนไปไว้ทางขวามือ หากแต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็นถุงขนมที่วางลงตรงหน้า
“พี่หิน” เมื่อเงยหน้าขึ้นแล้วพบว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ผู้ช่วยอย่างที่เข้าใจร่างเล็กก็รีบผุดลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมไปหา “ทำไมไม่โทรบอกว่ามาถึงแล้ว”
“เซอร์ไพร์สไง”
คนถูกถามตอบด้วยรอยยิ้มน้อยๆ รอยยิ้มซึ่งทำให้แฟนก้าวเข้าไปชิดมากกว่าเดิม จากนั้นจึงสอดแขนโอบรอบเอวสอบพลางทิ้งร่างกายเข้าหา
“เป็นอะไร”
คำถามนั้นดังขึ้นทันทีเนื่องจากความผิดปกติของแฟนที่สัมผัสได้ เหมือนร่างเล็กมีเรื่องบางอย่างตั้งแต่คำพูดทางโทรศัพท์ อีกทั้งท่าทีในตอนนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่เป็นปกติ
ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นลูบแผ่นหลังบางไปมาแผ่วเบา ก่อนจะกระชับแฟนเข้ามาในอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“แค่เหนื่อยกับงาน”
น้ำเสียงนั้นดังอู้อี้เมื่อจมูกของคนพูดเบียดซุกอยู่กับอกแกร่ง แฟนเลือกที่จะไม่บอกเรื่องนั้นออกไปเนื่องจากไม่อยากเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องไปใส่หัวของหิน ด้วยทั้งอยากดูความเคลื่อนไหวและกระแสข่าวให้แน่ใจมากกว่านี้
“งานหนักก็ค่อยๆ คิดค่อยๆ ทำ” เสียงทุ้มเอ่ยปลอบแม้จะยังไม่เชื่อทั้งหมดว่าเป็นแค่เรื่องงาน
“อื้อ อยากอ้อนมึงเลยโทรให้มาหา”
“อยากอ้อนก็อ้อนให้เต็มที่”
พูดจบก็กดจูบลงบนหัวเล็กราวกับเติมพลังให้จนแฟนระบายยิ้ม ผละออกจากการใกล้ชิดกันเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้น
“ถ้าอ้อนขอซื้อกระเป๋าจะให้หรือเปล่า”
“คนละเรื่อง”
หินเคาะนิ้วลงบนหน้าผากเด็กเจ้าเล่ห์หนึ่งที ขณะที่แฟนหัวเราะออกมาแผ่วเบา
เพียงเท่านี้ความหนักอึ้งในอกก็บรรเทาลง พี่หินมีของวิเศษอะไรกันนะ
“มีอะไรให้กินบ้าง” แฟนถามไปอีกเรื่องพร้อมทั้งหันกลับไปมองถุงขนมบนโต๊ะ
“ก็อยากกินชาไข่มุกกับเค้กไม่ใช่หรือไง”
“แล้วกินคนที่ซื้อมาให้ได้รึเปล่า” สายตาของคนพูดเป็นประกายวิบวับ มีความแพรวพราวมากกว่าจะขัดเขิน
“ไปล็อกห้องสิ” คนถูกเย้าแหย่ตอบด้วยใบหน้าเรียบนิ่งทว่าแฝงความเอาจริงจนแฟนส่ายหัว
“เรื่องแบบนี้นี่ไวเชียว”
“ไม่ได้ไวแค่คำพูด”
มือหนาไล้จากเอวเล็กขึ้นมาถึงกลางหลัง ปลายนิ้วแกร่งขยับเขี่ยไปมาแผ่วเบาสื่อความหมาย ยามส่วนล่างที่ขยับเข้ามาแนบชิดก็ตั้งใจบ่งบอกให้รู้ว่ามีอะไรที่ไวกว่านั้น
“ไอ้หื่น” แฟนทำปากยู่หลังจากว่าคนแสนว่องไวด้วยความเอือมระอา
“หึ ใครบอกให้เล่นก่อน...ไปกินขนมได้แล้วไป เดี๋ยวน้ำจะละลายก่อน”
ร่างสูงผละออกห่างพลางพยักเพยิดหน้าไปทางถุงขนมที่อุตสาห์นั่งแท็กซี่ไปถึงร้านที่แฟนชอบเพื่อซื้อมาให้
“โอเค เดี๋ยวกูเอาไปใส่จานแล้วมากินด้วยกัน”
แฟนหมุนตัวไปหยิบขนมแล้วเดินเข้าไปยังส่วนของห้องพักซึ่งมีเคาน์เตอร์และเครื่องครัวอีกเล็กน้อย โดยที่หินก้าวเท้าไปทางโซฟากลางห้อง ทำเพียงนั่งรออีกคนจัดแจงกับสิ่งที่ซื้อมา
--
ด้วยความคิดที่ว่าเวลาผ่านไปกระทู้ข่าวคงซาลงจึงปล่อยผ่าน แต่แล้วมันกลับไม่เป็นอย่างนั้น ไม่เพียงแค่ประวัติส่วนตัวของหินที่ถูกขุดคุ้ย แต่ประวัติการทำงานก็เช่นกัน ราวกับต้นตอของข่าวไม่ยอมให้กระแสมันหายไปแม้ว่าหินจะไม่ใช่ดาราหรือเป็นคนดังก็ตาม
คนปล่อยข่าวต้องการอะไร
แฟนวนเวียนคิดแต่เรื่องนี้จนไม่รู้ตัวเลยว่าสองสามวันที่ผ่านมานี้ตัวเองมีใบหน้าเคร่งเครียด ระหว่างรอให้คนไปสืบว่าเรื่องของหินหลุดออกมาได้อย่างไรก็เฝ้าขบคิดหาทางออกไม่หยุด
“แฟน”
“...”
“แฟน”
“หะ หืม”
คนที่กำลังเหม่อลอยเนื่องจากจมจ่ออยู่กับเพียงปัญหาที่เกิดขึ้นสะดุ้งสุดตัวพร้อมขานรับทั้งที่อีกคนไม่ได้ตะโกนเรียก ท่าทางนั้นทำให้หินไม่อาจทนเฉยได้อีกต่อไป ตลอดสามวันที่ผ่านมาแฟนไม่ปกติจนตัดสินใจว่าต้องคุยกันอย่างจริงจัง
“กูว่าเราต้องคุยกัน”
“คุยอะไร” ร่างเล็กถามกลับเสียงเบา ดวงตาคู่สวยที่มักฉายความมั่นใจคราวนี้กลับสั่นไหว
“สามวันมานี้มึงเป็นอะไร เหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ คิดอะไรอยู่ในหัวตลอดเวลา”
ซีรีส์สืบสวนสอบสวนต่างประเทศที่กำลังฉายถึงฉากสำคัญไม่ได้รับความสนใจอีกต่อไป หินขยับตัวไปทางแฟน นั่งจ้องคนที่มีเรื่องปกปิดกันไม่วางตา
ขณะที่คนถูกถามกัดริมฝีปากแน่น ไม่อยากให้เรื่องนี้สร้างปัญหาให้หินเลยสักนิด
“...”
“เราสัญญากันว่าอะไร กูปรับตัวที่จะเล่าให้มึงฟังทุกเรื่องแล้ว แต่มึงกลับกำลังปกปิดบางอย่างกับกู”
ประโยคนั้นทำให้แฟนสะอึก ดวงตาของหินมีความจริงจังบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวคงไม่ยอมปล่อยผ่านหากไม่บอกความจริง สุดท้ายแล้วแฟนจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ขยับเข้าหาคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโซฟา จากนั้นจึงแทรกตัวเข้าไปนั่งตัก ยกมือขึ้นโอบรอบลำคอแล้วซบหน้าลงกับไหล่กว้าง
ท่าทางเหมือนเด็กอ้อนพ่อกับแม่
“กูขอโทษ”
“...”
“แค่ไม่อยากให้เรื่องนี้ทำให้มึงไม่สบายใจ”
“เรื่องอะไร”
หินถามกลับพลางยกแขนขึ้นโอบอีกคนตอบ คนถูกถามเงียบไปหลายวินาที ตั้งสติและคิดเรียบเรียงคำพูดจนแน่ใจก่อนจะเปิดปากเล่า
“เมื่อสี่วันก่อนมีกระทู้ข่าวเรื่องของมึงตอนไปร่วมงาน เขาพูดถึงเรื่องที่มึงชอบเพศเดียวกันแล้วก็เล่นประเด็นที่ว่าเป็นถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยดัง”
“แล้วยังไง”
ประโยคที่ถูกเอ่ยออกมาราบเรียบ ไร้ซึ่งความตกใจหรือความไม่สบายใจใดๆ ในน้ำเสียง คนที่กังวลไปไกลจึงผละออกมามองหน้า
“มึงไม่รู้สึกกังวลอะไรเลยเหรอ”
“ทำไมต้องกังวล กูเห็นข่าวนั่นแล้ว แต่ไม่ได้สนใจอะไร”
ถึงจะไม่ใช่คนที่สนใจโซเชียลแต่เพราะความกว้างไกลของมันจึงทำให้เพื่อนหลายคนส่งกระทู้นั้นมาให้ดู แต่หินก็ไม่คิดจะใส่ใจหรือให้ค่ากับเรื่องนี้เลยสักนิด
“มึงเห็นแล้วเหรอ”
แฟนเอ่ยถามด้วยความฉงน ท่าทางของหินตลอดสี่วันมานี้เป็นปกติ ไม่ได้ผิดแปลกอะไรเลยแม้แต่น้อย
“อืม เพื่อนกูส่งมาให้ดู...กูไม่ได้สนใจต่อให้ข่าวจะพูดถึงอะไร มันอาจสร้างความวุ่นวายกับชีวิตกูบ้างแต่ถ้าเราไม่ใส่ใจมันก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“แต่เรื่องงานของมึง...” แฟนพูดถึงเรื่องซึ่งเป็นกังวลที่สุด ใบหน้าสวยฉายถึงความไม่สบายใจ
“กูคุยกับอาจารย์เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร กูสอนที่นั่นได้ไม่ใช่เพราะว่ากูเป็นเพศไหน แต่เพราะว่ากูมีความสามารถมากพอ”
หินยกยิ้มยามเอ่ยด้วยท่าทางสบายๆ และนั่นคือความจริงเพราะตอนสมัครและทดสอบความสามารถ เพศไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำให้ได้งานนี้
เป็นชายแท้ หญิงแท้แล้วจะเป็นอาจารย์ได้เลยงั้นหรือ?
หากเราเก่งและมีความสามารถ ต่อให้เป็นเพศไหนคนก็ยอมรับ
“...”
“ถ้านี่คือเรื่องที่มึงไม่สบายใจมาตลอดหลายวันก็เลิกคิดซะ เขาอยากคอมเมนต์อะไร พูดอะไรก็ปล่อยไป อีกไม่กี่วันกระทู้มันก็หาย กูไม่ใช่ดาราสักหน่อย”
“แต่ก็มีคนเอาเฟซมึงมาแปะเต็มไปหมด”
คนในโลกออนไลน์สมัยนี้รวดเร็วราวกับเป็นนักสืบ เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงชื่อเฟซของหินก็เด่นหราอยู่ในหลายคอมเมนต์
“กูล็อกไว้แต่แรก ส่องไปก็เท่านั้น”
“มีประวัติการเป็นโปรดิวเซอร์เพลงของมึงด้วย”
“ก็ดีสิ เขาจะได้รู้ว่ากูไม่ใช่คนที่ใครจะดูถูกได้”
ยิ่งขุด ยิ่งค้น คนที่ตั้งใจปล่อยข่าวทำลายจะได้รู้...
“กูขอโทษนะที่พามึงไปงานแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้”
สองสายตามองสบกันยามที่ดวงตาคู่สวยวูบไหวด้วยความรู้สึกผิด หินไม่ได้พูดแต่ตอบกลับด้วยจูบลึกซึ้ง ริมฝีปากได้รูปบดคลึง ดูดดึง บ้างก็ใช้ฟันครูดเบาๆ ราวกับลงโทษคนที่คิดมาก ทว่าสุดท้ายแล้วปลายลิ้นหนาก็ทำหน้าที่ปลอบประโลม มอบความอ่อนหวานให้จนคนได้รับแทบหลอมละลาย
“คิดมากทำไม เราปิดปากคนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว ฉะนั้นก็แค่ปิดหูของตัวเองซะ” หินเอ่ยพูดชิดริมฝีปากสีสดก่อนจะกดจูบลงไปซ้ำๆ
“อื้อ” แฟนทั้งรับคำพร้อมทั้งส่งเสียงในลำคอเมื่อสัมผัสของหินกำลังเลยเถิดมากขึ้น จากอ่อนหวานก็กลายเป็นเร่าร้อน จนในที่สุดร่างเล็กก็ถูกช้อนอุ้มแล้วตรงไปทางห้องนอน โทรทัศน์ถูกเปิดทิ้งไว้อย่างนั้นโดยไม่มีใครสนใจ
“ส่งให้ถึงมือมัน...แล้วก็บอกว่าถ้าไม่หยุดกระพือข่าว กระทู้ต่อไปจะเป็นกระทู้ของเรื่องในซองนี้”
(ครับ)
เมื่อปลายสายรับคำหินจึงตัดสายโทรศัพท์ขณะที่คนซึ่งนอนอยู่ในอ้อมแขนขยับตัวเล็กน้อย
ริมฝากได้รูปกดจูบลงบนหัวเล็กแผ่วเบา จากนั้นแฟนจึงนิ่งลงคล้ายกับว่าหาตำแหน่งที่สบายตัวได้แล้ว ส่วนคนที่เพิ่งคุยธุระเสร็จก็นอนคิดอะไรไปเพลินๆ พลางยกยิ้มกับตัวเอง
จะเอาคืนเขาด้วยวิธีนี้มันกระจอกสิ้นดี ถ้าไม่หยุดก็จะได้รู้กัน
--
ทางด้านคนที่ได้รับซองเอกสารสีน้ำตาลในเช้าวันต่อมาก็มือสั่นระริก ดวงตาวาวโรจน์เหมือนอยากฆ่าคนตรงหน้าซึ่งทำหน้าที่มาส่งสารจากอีกคน
“เจ้าของซองนี้ฝากบอกคุณว่า ถ้าไม่หยุดกระพือข่าว ข่าวต่อไปจะเป็นข่าวนี้”
“มึง!” คนพูดกัดฟันกรอด ซองในมือถูกกำจนยับย่น
“ผมว่าคุณคงฉลาดพอที่จะรู้ว่าควรทำยังไง หยุดสิ่งที่จะทำนั่นซะ แล้วเรื่องนี้จะไม่ถูกแพร่งพรายออกไป”
“แล้วกูจะมั่นใจได้ยังไงว่ามันจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร”
“คุณศิลาไม่ใช่หมาลอบกัดหรอกครับ...ถ้าคุณทำตามสิ่งที่เขาต้องการ คุณก็จะได้ในสิ่งที่คุณต้องการ”
“...” ประโยคที่ราวกับถูกตบหน้ายิ่งทำให้คอร์สอยากพุ่งตัวไปเอาคืนใครบางคน ทว่าเรื่องในซองนี้กลับใหญ่จนไม่อาจเสี่ยงจะทำอะไรหินได้
“แล้วก็อย่าคิดจะเข้าใกล้หรือยุ่งเกี่ยวกับคุณแฟนอีก เพราะไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ก็อาจจะหลุดออกไปได้เช่นกัน”
“...”
“หน้าที่ของผมเสร็จเรียบร้อยแล้วคงต้องขอตัว...อ้อ อีกเรื่อง ไม่ต้องพยายามติดต่อคุณศิลาไปนะครับ เขาบอกว่าไม่คุย เงื่อนไขทุกอย่างก็ตามที่ผมบอกไปทั้งหมด...สวัสดี”
คนส่งสารเดินออกจากห้องทำงานของลูกชายนายตำรวจดังไปด้วยท่าทางสบายๆ ต่างจากคนในห้องที่แทบมีไฟลุกออกมาจากตัว
--
“มีคนแอดมึงมาเต็มไปหมด ห้ามรับใครทั้งนั้น”
แฟนที่กำลังไล่ดูคำร้องขอเป็นเพื่อนของหินบ่นกระปอดกระแปด หัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนแทบชิด ตาจ้องเขม็งไปที่รูปโปรไฟล์ของแต่ละคนไม่วางตาพร้อมด้วยนิ้วมือที่กดลบคำขอรัวๆ
“ก็ไม่ได้รับอยู่แล้ว” หินเอ่ยด้วยเสียงขบขันเนื่องจากขำกับท่าทางจริงจังนั้นของแฟน
“ลองรับดูสิ กูจะลบแอคมึงทิ้ง ไม่ให้มึงเล่นเฟซอีกต่อไป” อีกคนตวัดสายตามามองพร้อมทั้งเอ่ยด้วยเสียงเข้มๆ
“บอกตัวเองเถอะ คนแอดมึงมาน้อยซะเมื่อไหร่”
หินโคลงหัว เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาแน่นอนว่ามันต้องเข้าตัวแฟนไม่น้อย เพราะโดยปกติแล้วมีคนแอดเขามาบ้างแต่ก็ไม่ได้มากเป็นปกติเหมือนของคนตรงหน้า
“กูก็รับแค่คนรู้จักเหมือนกัน”
“แต่คนติดตามเป็นพัน”
“ก็เขาติดตามของเขาเอง”
เถียงเสร็จก็หันกลับไปสนใจกับการลบคำขอเช่นเดิม หากคนไหนขึ้นว่ามีเพื่อนร่วมกันเยอะแฟนก็จะหันมาถามว่าคนรู้จักหรือไม่ ทำอยู่อย่างนั้นกระทั่งคำขอทั้งหมดหายไป
“มีความพยายามอะไรขนาดนั้น”
หินเอ่ยพูดพร้อมทั้งรั้งตัวคนที่ยังสวมเพียงเสื้อยืดตัวโคร่งของเมื่อคืนขึ้นมานั่งตัก โดยเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“ไม่ได้หรอก กูต้องปลอดภัยไว้ก่อน” แฟนตอบด้วยสีหน้ามาดมั่น
“ไม่เชื่อใจกู?”
“เชื่อใจมึงน่ะเชื่ออยู่แล้ว แต่ไม่เชื่อคนอื่น...เออ พ่อกับแม่ก็ถามถึงเรื่องกระทู้ของมึงด้วย กูบอกไปว่าโอเคแล้ว”
สองวันมานี้กระแสของกระทู้ดังกล่าวเริ่มซาลง คอมเมนต์ต่างๆ เหลือเพียงเข้ามากรี๊ดอาจารย์สุดฮอตพร้อมทั้งขอวาร์ปกันเต็มไปหมด ส่วนคอมเมนต์ด้านลบนั้นมีเพียงเล็กน้อย
“ก็บอกแล้วว่าไม่กี่วันมันก็หาย”
“แปลก ก่อนหน้านี้เหมือนมีคนปั่นกระแส อยู่เฉยๆ ก็หายไป” แม้แต่คนที่ให้ไปตามเรื่องยังไม่อาจหาต้นตอของข่าวนี้ได้
“คิดมาก กูเป็นคนทั่วไปใครเขาจะมาสนใจอะไรนักหนา”
“ขนาดเป็นคนทั่วไปยังมีคนแอดมาขนาดนี้”
แฟนยังคงติดอยู่กับประเด็นนี้เนื่องด้วยความหวงแหน เวลาเข้าไปส่องคอมเมนต์แล้วเห็นข้อความแทะโลมหินก็อดรู้สึกหึงเล็กๆ ไม่ได้
หึ แต่ก็ช่างเถอะ ไอ้ที่อยากทำน่ะเขาทำมาหมดแล้ว ชนะ!
“เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้วน่า”
คนฟังส่งเสียงเหอะในลำคอพลางเชิดหน้าหนีไปทางอื่น หินจึงก้มลงกัดซอกคอขาวๆ นั่นหนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว
ดื้อเป็นที่หนึ่ง
“เจ็บ!” คนถูกกัดร้องออกมา
“ไปอาบน้ำได้แล้ว จะเที่ยงอยู่แล้ว” หินผละหน้าออกมาบอก
“ขี้เกียจ” คนขี้เกียจแกล้งเอนตัวไปทางซ้ายทีขวาทีจนมือหนาต้องรั้งให้หยุดอยู่นิ่ง
“รีบไปอาบ จะได้รีบกลับบ้านมึง”
เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ที่ต้องกลับบ้านอย่างทุกสัปดาห์ ทว่าตอนนี้แฟนกลับยังเลื้อยไปเลื้อยมาตั้งแต่สาย ไม่ยอมไปอาบน้ำเสียที
“ฮื่อ อุ้มไปส่งที่ห้องน้ำหน่อย”
หินได้แต่ส่ายหัวให้กับเด็กแสนขี้เกียจตรงหน้าก่อนจะใช้ท่อนแขนช้อนใต้ตูดของแฟนแล้วอุ้มอีกฝ่ายขึ้น พาไปส่งตามคำขอ
“ถอดเสื้อผ้าให้หน่อย” คราวนี้ดวงตาคมปรายมองคนพูด ขณะที่แฟนนั้นยกยิ้มทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“อย่ายั่ว รีบอาบจะได้รีบกลับบ้าน”
เมื่อคนตัวโตไม่ยอมทำตามขอแฟนจึงถอดเสื้อตัวเดียวบนกายทิ้งทั้งยังถอดกางเกงชั้นในออกไปกองบนพื้นด้วยกัน เสร็จแล้วจึงเอื้อมมือไปหยิบยาสีฟันมาบีบลงบนแปรง เริ่มต้นแปรงฟันอย่างไม่สนคนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างตัว
หินลอบถอนหายใจให้กับการกระทำนี้จากนั้นจึงฟาดมือลงไปบนบั้นท้ายขาวเนียนจนคนกำลังแปรงฟันส่งเสียงร้อง
“สิบนาที ให้เสร็จ”
ทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนหินจะเดินออกจากห้องน้ำไปให้แฟนบ่นพึมพำตามหลังไม่หยุด
--
“คุณแฟนคะ มีคนมาขอพบค่ะ” เสียงจากผู้ช่วยหน้าห้องดังขึ้นเมื่อแฟนกดรับสัญญาณอินเตอร์คอมบนโต๊ะทำงาน
“ใครครับ”
“คุณไก่ บรรณาธิการนิตยสาร SOULMATE ค่ะ”
แฟนร้องเอ๋ขึ้นมาด้วยความคาดไม่ถึงเมื่อได้ยินชื่อของคนที่เข้ามาขอพบ
กับพี่ไก่ก็ถือว่ารู้จักกันในระดับหนึ่ง เคยร่วมงานกันมาบ้าง ทว่าตอนนี้ที่อีกฝ่ายมาหาถึงที่นี่กลับคิดไม่ออกเลยว่าจะมาด้วยเรื่องอะไร
“งั้นเชิญพี่ไก่เข้ามาเลยครับ”
“ได้ค่ะ”
มือบางวางปากกาในมือลงพร้อมทั้งเลื่อนเอกสารไปอีกทางระหว่างรอคนที่มาหา ไม่นานนักประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดเข้ามา แฟนจึงลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งยกมือขึ้นไหว้อีกฝ่าย
“สวัสดีจ้ะน้องแฟน” หญิงสาววัยกลางคนรับไหว้ด้วยคำพูดและรอยยิ้ม
“นั่งก่อนครับพี่ไก่ ทำไมไม่โทรมาหาแฟนก่อนล่ะครับ” ถามขึ้นพร้อมทั้งทรุดตัวนั่งลงพร้อมกัน
“คือพี่มาธุระแถวนี้พอดีน่ะจ้ะ เลยลองเสี่ยงดวงดูว่าจะได้เจอน้องแฟนไหม”
“แล้วมาหาแฟนถึงที่นี่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”
“งั้นพี่เข้าเรื่องเลยนะ...พอดีว่าพี่เห็นกระทู้ในเฟซบุ๊กแล้วจำชุดที่น้องแฟนใส่ไปงานได้เลยรู้ว่าเราเป็นคนรักของอาจารย์หนุ่มสุดฮอตคนนั้น”
“ครับ...” แฟนรับคำยามที่ยังคงมีความสงสัย ทั้งยังไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่พี่ไก่เข้ามาขอพบเท่าไหร่นัก
“พี่เลยอยากจะติดต่อเรากับแฟนไปขึ้นปกให้หน่อยน่ะจ้ะ”
“แฟนกับพี่หินเนี้ยนะครับ” ถามออกไปทันทีเนื่องจากไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินและเข้าใจถูกต้องหรือเปล่า
“ใช่ ก็อย่างที่รู้ นิตยสารพี่เป็นนิตยสารเกี่ยวกับคู่รัก พี่มองว่าเราทั้งสองเป็นคนที่เหมาะสมมากๆ สำหรับประเด็นที่พี่คิดว่าจะทำ”
“แต่ปกตินิตยสารของพี่ไก่เป็นดาราเสียส่วนใหญ่ไม่ใช่เหรอครับ”
“ใช่จ้ะ แต่คราวนี้พี่อยากจะสื่อในเรื่องความเท่าเทียมของคู่รักเพศอื่นด้วย พอเห็นกระทู้ข่าวแล้วก็อยากได้น้องทั้งสองมาขึ้นปกมาก”
นิตยสาร SOULMATE ไม่เคยมีคู่รักเพศเดียวกันขึ้นปกมาก่อน แต่การเลือกทำในสิ่งที่แตกต่างซึ่งเป็นเรื่องราวที่ดีเธอมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ต้องคิดให้มากเลย
“เอ่อ พี่ไก่ครับ แต่แฟนว่าแฟนกับพี่หินคงไม่เหมาะ กลัวว่านิตยสารของพี่จะขายไม่ออกน่ะสิครับ”
คนพูดหัวเราะแห้งๆ เมื่อไม่คิดว่าตัวเองและหินจะเป็นที่สนใจพอให้คนหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน
“เชื่อพี่สิว่ามันต้องดีแน่นอน หรือยังไงน้องแฟนกลับไปถามแฟนก่อนแล้วค่อยมาคุยกันอีกทีก็ได้นะ”
“คือ...”
“พี่อยากให้คนอ่านได้สัมผัสเรื่องราวและได้เรียนรู้อะไรจากเราสองคนจริงๆ ”
จากประวัติของหินที่ได้อ่านมาบางส่วนทำให้บก.นิตยสารคนดังไม่รอช้าที่จะเข้ามาติดต่อ ไม่ใช่เพียงเพื่อยอดขายของสำนักพิมพ์แต่อยากให้คนอ่านได้รับอะไรดีๆ หรืออาจเป็นแรงบันดาลใจซึ่งส่งต่อไปยังคนอื่นได้
แฟนนิ่งงันยามกำลังใช้ความคิดในการตัดสินใจ และคนที่อายุมากกว่าก็ไม่คิดจะเร่งรัด
“ไปคุยกับแฟนมาก่อนแล้วค่อยติดต่อพี่มานะจ๊ะ...แล้วพี่ก็หวังว่าจะได้รับคำตอบที่ดี”
“...”
“วันนี้พี่ไม่รบกวนเวลาน้องแฟนแล้ว ไว้เจอกันจ้ะ”
หญิงวัยกลางคนกระชับกระเป๋าของตัวเองพลางหยัดกายลุกขึ้นแล้วส่งยิ้มให้คนที่ยังคิดไม่ตก
“ไว้ยังไงแฟนจะติดต่อกลับไปนะครับ แต่ไม่รับปากจริงๆ ว่าจะตกลงเพราะพี่หินเขาไม่ชอบงานอะไรแบบนี้” แฟนพูดอย่างแบ่งรับแบ่งสู้
ถ้าหากทำงานนี้แล้วมีประโยชน์ต่อคนอื่นตัวเองก็ไม่คิดขัด ติดที่หินจะโอเคหรือไม่กับการต้องเปิดเผยโลกส่วนตัวบางส่วนให้คนอื่นรับรู้
“อย่างน้อยมาลองคุยกันก่อนก็ยังดี” พี่ไก่พูดด้วยน้ำเสียงใจดี ไม่ได้มีแววคาดคั้นแต่อย่างใดจนแฟนต้องรับคำ
“ครับ”
TBC.
มาแล้ววววว~
ตอนหน้าก็จบแล้วโนะ ไม่รู้จะพูดอะไร ช่วงนี้เหนื่อยๆ เพราะเป็นวันนั้นของเดือนนนน
เอาเป็นว่าเดี๋ยวพูดพรุ่งนี้ทีเดียวเนอะ><
ยังไงก็ขอกำลังใจก่อนจะจบด้วยน้า อย่าลืมแท็ก #พี่หินคนห่าม เน่อ
แล้วเจอกันพรุ่งนี้ค่ะ^^
แฟนเพจ : https://www.facebook.com/writerexsoull/
Twitter : https://twitter.com/exsoull_ ฝากติดแท็ก #พี่หินคนห่าม ด้วยนะคะ