Chapter 5
“Yes, I made the choice
For papa, I will stay
But I don't deserve
to lose my freedom in this way
You monster
If you think that what you've done
is right, well then
You're a fool
Think again”
“ร้องเพลงเพราะนะ”
“เฮ้ย! ตกใจหมด!”
“พี่มาทำอะไรตรงนี้ดึกๆดื่นๆ” เซฟถอนหายใจเบาๆ เขาเห็นคนตัวเล็กนั่งอ่านบทละครแล้วก็ร้องเพลงวนไปวนมาอย่างนี้ได้เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ตอนแรกที่ก็อดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นรุ่นพี่ตัวเล็กมานั่งอยู่ที่ระเบียงหน้าคอนโดของเขา แอบนั่งมองอยู่ไกลๆตั้งนานก็ดูเหมือนว่าเล้งจะไม่รู้ตัว ขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากหนังสือเสียที เซฟเลยตัดสินใจเดินเข้ามานั่งลงข้างๆจนสะดุ้งอย่างที่เห็น
“ก็..ตรงนี้มันสว่าง” เล้งยิ้มแหยเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าเริ่มจะอธิบายยังไงให้รุ่นน้องตรงหน้าเข้าใจ
“พี่พักที่ไหนกันแน่ ผมจำได้ว่าเมื่อเย็นไม่ได้มาส่งพี่แถวนี้นะ” ชายหนุ่มจ้องคนตรงหน้าเขม็ง คนโดนจ้องก็เอาแต่ยิ้มแห้งเป็นคำตอบ
“เอ่อ..พักหอเพื่อน..ตึกเขียวๆ2ชั้นตรงนั้นน่ะ ส่วนที่ไปส่งก็หอไอ้ปลื้มไอ้ดิน ไปคุยเรื่องละครต่อ พรุ่งนี้จะซ้อมวันแรกแล้วไง” เล้งชี้ไปที่หอพักเล็กๆฝั่งตรงข้าม เพราะที่นั่นไม่มีล็อบบี้ด้านล่างเหมือนคอนโดหรูฝั่งนี้ เขาเลยต้องข้ามมาขออาศัยแสงไฟในการอ่านหนังสือ
“ไม่เห็นบอกเลยว่าอยู่แถวนี้” เซฟถอนหายใจเบาๆ
“วันแรกก็ให้มาส่งแถวนี้นะ” พอเล้งแย้งก็ดูเหมือนว่าคนตัวสูงจะเอะใจนิดหน่อย ลองคิดย้อนกลับไป หลังกินข้าวมันไก่ในวันที่แลกเบอร์กัน รุ่นพี่ตัวเล็กก็บอกให้ส่งลงเซเว่นหน้าปากซอยนี่นา ..ไอ้เซฟหนอไอ้เซฟ พี่เขาอยู่แค่ปลายจมูกนี่เอง
“..แล้วทำไมพี่ไม่ขึ้นไปอ่านบนห้องดีๆ มานั่งอ่านข้างนอกให้ยุงกัดทำไม”
“เอ่อ.. เพื่อนมันพาสาวมาที่ห้องน่ะ”
“งั้นไปห้องผม ยุงกัดหมดแล้ว” เซฟถือวิสาสะปิดหนังสือลงแล้วถือไว้เอง มืออีกข้างรวบข้อมือบางแล้วออกแรงให้คนเป็นพี่เดินตามเขาไป
“ว้าว” เล้งตามเข้าไปในคอนโดราคาแพง ดวงตากลมมองซ้ายขวาด้วยความสนใจ เพราะเขาไม่เคยมาที่คอนโดนี้มาก่อน เหมือนว่าที่นี่จะเพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นานด้วย
“พี่มาทำละครกี่เดือน” เสียงนิ่งๆของคนตัวสูงทำให้เล้งเหล่สายตาไปมองนิ้วยาวๆที่กดลงบนเลข17 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของคอนโดนี้
“ถ้านับเดือนนี้ด้วยน่าจะ7เดือน”
“ทำไมไม่หาห้องพักส่วนตัวละครับ ถ้าเพื่อนพี่พาผู้หญิงมาห้องบ่อยๆพี่จะทำยังไง” เซฟขมวดคิ้วมองรุ่นพี่หลบสายตาเขาไปทางอื่น แต่เพราะด้านข้างของลิฟท์มันเป็นกระจก ถึงหลบไปทางนั้นก็ยังได้สบตากันในกระจกอยู่ดี
“ยังไม่มีตังค์หาห้องเลย เงินค่าตัวก็ต้องรอออกพร้อมงบงวดแรกที่มหาลัยจะให้ ทุกวันนี้คณะก็สำรองจ่ายได้แค่ค่าใช้จ่ายบางอย่างเท่านั้นแหละ” เล้งลูบใบหูเบาๆพลางถอนหายใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พูดเรื่องนี้กับใครสักคน
เซฟเงียบทันทีหลังจากได้ฟัง เขาขบริมฝีปาก ขมวดคิ้วนิดๆเหมือนคนกำลังใช้ความคิด หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหาพี่ชาย รอไม่นานปลายสายก็กดรับ
“พี่เผ่าอยู่ห้องไหม อืม กำลังพาพี่เล้งกลับห้อง ออกมาคุยกันหน่อย เดี๋ยวนี้เลย”
“อยู่กับไอ้เผ่า! งั้นไม่ไปแล้ว มันชอบกวนตีน”
เล้งพยายามจะดึงหนังสือคืนแต่ก็โดนสายตาคนตัวสูงข่มขู่ไว้ แถมยังเอาหนังสือไปซ่อนไว้ด้านหลังด้วย เป็นจังหวะเดียวกับที่พวกเขาถึงชั้น17 เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก เซฟก็จูงมือคนพี่ให้เดินตามไปที่ห้องของเขาทันที ชายหนุ่มเสียบคีย์การ์ด เปิดประตูแล้วส่งสายตากึ่งบังคับให้คนตัวเล็กเดินเข้าไปก่อน
“มึงแขวนขุนแผนรุ่นไหนวะเซฟถึงลากพี่กูเข้าห้องได้เนี่ย”
“ลากพ่องสิไอ้เผ่า!” เล้งตั้งใจจะพุ่งไปเตะรุ่นน้องคณะตัวสูง แต่ทักษะการหลบของเผ่าดูจะเหนือกว่าเล็กน้อย
“พี่เล้ง พี่เผ่า อย่าเพิ่งเล่น มานี่ ทั้งคู่” เสียงเรียบๆแต่ทว่าจริงจังของคนที่อาวุโสน้อยสุดทำให้คนเป็นพี่ทั้งสองคนนิ่งค้าง แววตาและน้ำเสียงที่ไม่มีแววล้อเล่นเลยแม้แต่น้อยทำให้เผ่าต้องเดินตามน้องชายอย่างว่าง่าย
“ใครเป็นพี่ใครเป็นน้องกันแน่วะเผ่า” เล้งแอบกระซิบถาม
“เคยมีพีคกว่านี้อีก ไอ้นี่มันชอบทำตัวเป็นผู้ใหญ่”
“พี่เผ่า ห้องเล็กตรงนี้เอาของออก อันไหนที่ไม่ใช้แล้วก็เอากลับบ้านไป ..พี่เล้งครับ มุมนี้เอาเตียงเล็ก3.5ฟุตกับตู้เสื้อผ้ามาลง ห้องนอนอาจจะแคบหน่อยแต่ห้องครัวกับห้องรับแขกข้างนอกพี่ใช้หมดเลย พี่..จะมา..อยู่กับผมไหม”
“..เซฟ..”
เผ่าแทบอยากจะระเบิดตัวเองหายออกไปจากตรงนี้ ตอนคุยกับเขาใช้เสียงหนึ่ง พอหันไปอีกคนก็เปลี่ยนน้ำเสียงทันที แถมแววตาอ้อนวอนของน้องชายที่มองรุ่นพี่ตัวเล็ก โปรดบอกเขาทีว่าน้องของเขามันแค่ชวนให้พี่เล้งมาอยู่ห้องด้วย ไม่ใช่การขอแต่งงาน
“ใครก็ได้ เล่าให้ไอ้เผ่าฟังสิ ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นมายังไง”
- - - - - - - - - - - - - -
วันต่อมา ที่ห้องประชุมคณะนิเทศศาสตร์
นักศึกษาชั้นที่ปี4 เล้งและรุ่นน้องปี3 ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับละครเวทีทั้งหมด รวมตัวกันประชุมร่วมกับอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อรายงานความคืบหน้าของละครเวทีประจำปี รายชื่อของผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน50คน ถูกส่งให้เจ้าหน้าฝ่ายโสตทำการประกาศอย่างเป็นทางการที่หน้าเพจของคณะและหน้าเพจมหาวิทยาลัย
“มีอีกเรื่องที่ครูเป็นห่วงมาก กว่าจะถึงวันแสดงมันจริงจะมีปัญหาอีกเยอะที่พวกเราต้องเจอ นักแสดงลาออกบ้าง บางคนก็บาดเจ็บไม่เล่นต่อ หรือแม้แต่เรื่องอื่นๆที่เราคาดการณ์ไม่ได้ ดังนั้นสต๊าฟทุกคนต้องจำบทให้ได้ทุกหน้าทุกบรรทัด ถึงวันจริงเกิดปัญหากับตัวละครขึ้นมา ทุกคนต้องเล่นแทนได้ คุณานนท์เรื่องนี้เธอเป็นผู้กำกับหลัก ปัญหาเฉพาะหน้าเธอต้องแก้ให้ได้ วรัชญ์ ช่วยน้องด้วยนะ”
คณบดีคณะนิเทศศาสตร์หรือที่นักศึกษาทุกคนแอบตั้งชื่อให้ว่าอาจารย์ป้าหันไปพูดปิดท้ายกับดินและเล้งที่นั่งอยู่ไม่ไกล สองคนที่เป็นความหวังเพื่อให้คณะได้เชิดหน้าชูตากับผลงานในครั้งนี้ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่สองหัวเรี่ยวหัวแรงหลักที่ถูกเลือกมาแล้วจริงๆ
“ประชุมกันต่อนะ ครูขอตัวก่อน”
“ขอบคุณครับอาจารย์” ดินลุกขึ้นและยกมือไหว้ลาจากนั้นคนอื่นๆในห้องก็ยกมือไหว้ตามจนอาจารย์ป้าเดินออกจากห้องไป
“ประชุมไรต่อวะ” คำแรกที่หลุดจากปากดินทำให้เพื่อนๆน้องๆแต่ละคนปรบมือให้ผู้กำกับตัวน้อยแต่ใจใหญ่ด้วยความพอใจ เพราะแค่ที่ประชุมร่วมกับอาจารย์เมื่อกี้ก็น่าเข้าใจตรงกันหมดแล้ว
“แยก! กูหิวข้าวววว” เล้งยกมือสุดแขนเพราะความหิวมันไปปรานีเขาเลย เมื่อเช้าเขาตื่นสาย ทำให้เขาได้กินแค่ขนมปังก้อนเดียวเท่านั้นก่อนเข้าห้องประชุม
“งั้นแยกย้ายเจอกันอีกทีสี่โมงเย็น ไอ้เปาอย่าลืมของเอามาเล่นเกมนะเว้ย”
“โอเคค้าบลูกพี่ดิน”
เล้งมองข้อความที่ถูกส่งกลับมาในมือถือแล้วก็ได้แต่พ่นลมหายใจออกจากปากเบาๆ เมื่อสรุปได้ว่าเพื่อนกินข้าวของเขาไม่ว่าง และคิดว่ามื้อเที่ยงวันนี้คงได้ลากรุ่นน้องคณะไปกินด้วยแทน
“ไปกินข้าวกัน”
“กินไหนพี่ โรงอาหารเหรอ” ปลื้มแบกกระเป๋าขึ้นบ่าทันทีเพราะเขาเองก็รู้สึกเหมือนจะหิวแล้วเหมือนกัน
“เออโรงอาหารนี่แหละ กูไม่ไหวแล้ว ไอ้เผ่าเร็ว” เล้งคว้าคอปลื้มกับดินด้วยแขนทั้งสองข้าง ออกแรงพาเดินไปตามทางเดินจากห้องซ้อมหลักที่ใช้เป็นห้องประชุมจนไปถึงโรงอาหารคณะโดยมีเผ่าและรุ่นน้องคนอื่นๆเดินตามหลังไปเงียบๆ
“พี่เล้งกินไร”
“กูต้องพึ่งข้าวแกง เร็วสุดละ” รุ่นพี่ตัวบางปล่อยมือที่คว้าคอรุ่นน้องทันทีเมื่อเห็นร้านข้าวแกงเป้าหมาย เขาพุ่งเข้าไปเกาะตู้แล้วสั่งพิเศษเพราะหิวจัด หันกลับมาอีกทีต้องตกใจเมื่อเห็นเผ่ามาคืนซ้อนหลังเขาอยู่
“!คิดว่ากูตกใจไหม!”
“ทำเป็นดุ แหม แหม ทีไอ้เซฟไม่มีด่า” เผ่ากดมุมปากลงทั้งสองข้างก่อนขยับตัวหลบคนตัวเล็กที่ทั้งผลักทั้งดันเขาให้พ้นทาง
“น้องมันไม่ได้กวนตีนเหมือนมึงไง หลบเลยกูจะแดกข้าว”
เล้งรีบเดินเลี่ยงหนีออกมาเพราะไม่อยากอยู่ต่อให้โดนแซวอีก ดวงตากลมใสกวาดมองหาที่ว่างที่ใกล้ที่สุดแล้วรีบเดินไปวางจานข้าวจองโต๊ะไว้ ส่งสัญญาณให้ดินและปลื้มรู้ว่าจองตรงนี้เสร็จก็ผละจากโต๊ะไปร้านน้ำที่อยู่ไม่ไกล
“โอวันตินแก้วใหญ่ น้ำเปล่าหนึ่งขวดครับ” เล้งนับเหรียญในมือเตรียมจ่าย แต่พอเงยหน้าขึ้นเขาก็เห็นว่า เพื่อนกินข้าว คนที่บอกว่าไม่ว่างมากินด้วยได้มายืนยิ้มอยู่ข้างๆเขาแล้ว
“เซฟ! มาไง..ไหนบอกไม่ว่าง”
“อืมมม คิดว่าไม่เซอร์ไพรส์พี่ดีกว่ากลัวจะไม่ถูกใจ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จผมพาไปเลือกเอง พี่เล้งบอกว่าว่างนี่นา”
“ไปไหนอ่ะ”
“ซื้อของเข้าหอเราไง” คนตัวสูงยิ้มบางๆแต่ทำเอาแม่ค้าที่กำลังตักโอวันตินใส่แก้วถึงกับเคลิ้มไปแล้ว ส่วนเล้งก็ทำหน้านิ่งพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้พร้อมเสตามองไปทางอื่น ต้องขอบคุณทักษะการแสดงของเขาที่ทำให้เก็บอาการที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้เป็นอย่างดี
“ดิน ตอนแรกกูตั้งใจจะแดกนมชมพูเว้ยยยย แต่ตอนนี้กูคิดว่าร่างกายกูต้องการกาแฟดำขมๆ กูกลัวเบาหวานแดกตายยยย” เสียงของปลื้มที่ดังมาจากข้างหลังทำให้คนทั้งคู่หันมามอง เซฟยกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสองคนแล้วหันมาสั่งโอวันตินอีกแล้วให้ตัวเขาเอง
“เค้าสั่งเหมือนกันด้วยนะมึง”
“งั้นกูควรสั่งเหมือนมึงไหมที่รักดิน”
“เอาสิที่รัก ปลื้มสั่งให้ดินด้วยนะ กูเอาชาเย็น”
“ทำไมต้องชาเย็น เมื่อวานกูแดกแล้ว เปลี่ยนบ้างได้ไหม”
“มึงก็แดกอย่างอื่นไปสิกูจะแดกชาเย็น”
“เออ.. พี่ค้าบชาเย็นแก้ว นมชมพูแก้ว”
“ฮ่ะๆๆ พวกพี่ตลกดี โทษครับ” เซฟกลั้นขำไม่อยู่ เขาหันมายกมือไหว้ขอโทษรุ่นพี่ตัวเล็กทั้งสองคนอีกครั้งก่อนหันไปรับแก้วโอวันตินแล้วรีบดันไหล่เล้งให้เดินนำกลับไปที่โต๊ะ
“กินข้าวมายัง”
“ที่จะให้ผมกินตอนไหน เรียนเสร็จก็มาเนี่ย”
“ยังไม่แดกก็ไปซื้อมาแดก ไม่ใช่มานั่งมองหน้าพี่เค้า คงอิ่มล่ะมึง” เผ่าวางจานพร้อมนั่งลงข้างๆน้องชาย รู้สึกหมั่นไส้ไม่น้อยที่เห็นมันมาโผล่ที่โรงอาหารคณะตัวเอง ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่มีทางที่เซฟจะมาเหยียบคณะนี้ได้เลยสักครั้ง
“จองตรงนี้นะ” เซฟเอาแก้วโอวันตินของเขาวางไว้ตำแหน่งที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเล้งแล้วลุกไปที่ร้านข้าวแกงไม่ไกล
ดินกับปลื้มรวมถึงรุ่นน้องคนอื่นๆพอกลับมานั่งที่โต๊ะก็ได้แต่อมยิ้มกรุ้มกริ่มให้รุ่นพี่คนสวย แต่เล้งก็ไม่ได้รู้ตัวสักนิดว่าโดนแซวทางสายตา คนตัวเล็กที่บ่นว่าหิวๆกลับหยิบเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปแก้วโอวันตินสองใบที่วางข้างกัน ดูก็รู้ว่ากำลังถ่วงเวลารอคนที่กำลังซื้อข้าวอยู่ แล้วก็เป็นจริงอย่างที่พวกเขาคิด เมื่อรุ่นน้องรูปหล่อจากคณะเศรษฐศาสตร์เดินกลับมาที่โต๊ะ รุ่นพี่ตัวเล็กก็บ่นว่าอีกคนช้าจากนั้นถึงได้เริ่มกินข้าวพร้อมกัน
“เผ่าๆ พี่เล้งย้ายไปอยู่กับมึงเหรอ” ปลื้มกระซิบถามเพื่อนตัวใหญ่ที่พอฟังคำถามแล้วก็เบะปากคว่ำ
“เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง” เผ่ายักคิ้วให้สองครั้งอย่างคนเหนือกว่าแต่มันก็ดูน่าหมั่นไส้ไม่น้อยสำหรับปลื้ม ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประธานกองเสือกแห่งชาติ
“กูขอละเอียดยิบ”
“ปลื้ม..เสือกนะมึง”
“ไม่ต่างจากมึงหรอก”
เผ่ากับปลื้มมองหน้าแล้วยิ้มให้กัน ดินที่นั่งอยู่ข้างเล้งเห็นเลยเอาช้อนเคาะจานข้าวเผ่าแล้วพูดลอยๆว่า “กูด้วย” นี่สินะเขาถึงเรียกว่าคนศีลเสมอกันถึงจะอยู่ด้วยกันได้
- - - - - - - - - - - - - - -
“พี่เล้ง เอาเตียงนี่ไหม” เซฟกึ่งลากกึ่งจูงคนตัวบางมาที่เตียงเดี่ยวสีโอ๊คแบบที่เขาชอบ แต่เจ้าของมือขาวที่เขากุมอยู่กลับดึงให้เดินออกมาห่างจากพนักงานขายก่อน
“เซฟ..ไม่เอาเตียง แพงว่ะ”
“ก็บอกว่าผมจะซื้อแล้วให้พี่ยืม พอพี่กลับเตียงก็เป็นของผมไง” เล้งฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว ถึงอีกคนจะพูดแบบนั้นก็เถอะ เขาก็ยังรู้สึกเหมือนว่าเขาเอาเปรียบอยู่ดี
“ซื้อที่นอนปิคนิคดีกว่า”
“มันเล็ก”
“ก็นอนคนเดียวไหม”
“อึดอัด”
“ก็นอนได้น่า”
“มันไม่สบายตัว”
“ก็เตียงมันแพง”
“โอเค ผมมีวิธีที่พี่ไม่ต้องซื้ออะไรเลย สนใจไหม”
“ยังไง”
“ไปนอนเตียงผม 5ฟุตกว้างพอ ตีลังกาม้วนหน้าได้ ผอมๆอย่างพี่นอนด้วยกันได้สบายไม่อึดอัดแน่ๆ เอาไหม”
เล้งถึงกับนิ่งสนิท เม้มริมฝีปากเบาๆเมื่อเถียงต่อไม่ได้ แววตาที่รุ่นน้องตัวสูงมองมาที่เขาทำให้รู้สึกพ่ายแพ้ราบคาบ มันรู้สึกแตกต่าง ไม่เหมือนเวลาที่เขาต้องไปนอนห้องเพื่อน แน่นอนว่าเล้งสามารถแย่งเตียงเพื่อนผู้ชายได้สบายๆ ..แต่กับรุ่นน้องคนนี้ มันต่างไป เล้งรู้ว่าเขาจะต้องนอนไม่หลับแน่ๆ ถ้าได้อยู่บนเตียงเดียวกับคนตรงหน้า
“งั้น..เอาฟูกได้ไหม”
“อืม..ไปเลือกกัน”
สายตาที่ดูหวั่นไหวของคนตรงหน้าทำไมเซฟจะมองไม่เห็น เขาหมุนตัวอีกคนให้หันไปอีกทาง ใช้สองมือจับไหล่แคบ ดันร่างผอมโปร่งให้เดินนำไปที่โซนที่มีเฉพาะฟูกนอนหลากหลายขนาด
ยอมรับว่าในใจของเขาเองก็เต้นรัวตอนที่บอกให้อีกคนมานอนด้วยกัน รู้สึกโล่งใจไม่น้อยที่เล้งไม่ตอบตกลง เพราะถ้าลองได้นอนอยู่บนเตียงเดียวกันเมื่อไหร่ เขาเอาคงหยุดตัวเองไม่ให้ขย้ำรุ่นพี่ไม่ได้
“เซฟ ฟูก5ฟุตมันวางในห้องนั้นได้ไหม”
“ได้ครับ ห้องมัน3x3 ฟูก5ฟุตก็จะเหลือพื้นที่น้อยหน่อย”
“ไม่เป็นไรที่กลิ้งเยอะๆแหละดี”
“เผื่อไปนอนอ่านบทด้วย”
“เอาสิ! เดี๋ยวติวให้ นี่ผู้ช่วยผู้กำกับเลยนะ ไม่อยากจะโม้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งนะเฟ้ยยย” รุ่นพี่ตัวเล็กยืดคอเชิดหน้าขึ้นด้วยความภูมิใจ
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้าบ”
“ฝากเนื้อฝากตัวได้ แต่ใจไม่รับฝากนะ”
“อ้าว..ไม่รับหน่อยเหรอ”
“ใจอ่ะ มันฝากกันได้ที่ไหน ของแบบนี้มันต้องให้เลย จะให้ก็รีบให้ไม่ต้องยึกยัก ..เอ่อ..พี่ครับ..แนะนำฟูกหน่อยอยากได้แบบที่มันแน่นๆสปริงเยอะๆอ่ะครับ”
เล้งพูดกับรุ่นน้องตัวสูงเสร็จก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเพราะรู้ตัวว่าตอนนี้แก้มของเขาคงแดงไปหมดแล้ว คนตัวเล็กเลี่ยงเดินหนีไปหาพนักงาน ปล่อยให้เซฟยังคงอึ้งค้างอยู่ที่เดิม ชายหนุ่มทรุดลงที่เตียงนอนแถวๆนั้น เพราะรู้สึกเหมือนหัวใจโดนจู่โจมอย่างแรง
“ผู้ชายแน่เหรอวะ แม่งโคตรน่าฟัด!”
//TBC// #ctcเซฟเล้ง