สวัสดีตอนเช้าค่ะ เหตุการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยปกติ เดินทางไปไหนมาไหน ก็ระวังเนื้อระวังตัวกันหน่อยนะคะ
วันนี้ บก. มาส่งตอนใหม่ให้เจ้าของเรื่องเล่าแล้วค่า
*******************
ระหว่างนั้นนอกจากมันทำงานของโปรเจคค์มันที่ต้องจะส่ง ก็จะง่วนอยู่กับแฮมจัง เดี๋ยวเอามาอุ้ม มาปล่อยให้เดินไปเดินมาอยู่บนโต๊ะตอนมันทำงานบ้าง ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันชอบหนูอะไรขนาดนั้น เพราะว่าก็ได้แต่มองมันไปมองมันมา แหย่เล่นก็ไม่ได้เหมือนแมว เชื่องก็ไม่ขนาดหมา แต่เห็นมันได้มีอะไรเล่นก็ปล่อยมันครับ
ผมเองก็เริ่มทบทวนความรู้ที่เรียนมา เตรียมตัวสอบโท แต่ช่วงนั้นก็มีเรื่องเสียก่อน วันนึงพ่อผมโทรมาหาบอกว่า ปู่ไม่ค่อยสบายนะ (คือปู่ผมท่านเป็นโรคหัวใจครับ) แล้วช่วงนั้นก็อยากให้ผมกลับไปคอยดูแลปู่หน่อย เพราะผมเป็นหลานชายคนโต ก็เรียกง่ายๆ ว่าคนโปรดอ่ะครับ ผมก็เลยบอกป่านว่าผมอาจจะต้องไปนอนที่บ้านนะช่วงนั้น ป่านมันก็โอเค
อาการปู่ผมก็ไม่มีอะไรมากนะครับในตอนนั้น ก็มีแน่นหน้าอกบ้าง ซึ่งก็มียา และก็แผ่นแป่ะหน้าอกตามที่หมอให้มาอะไรประมาณนี้ และปู่เองก็บอกว่าเขาโอเคดี ช่วงที่ผมอยู่บ้าน ก่อนนอนก็จะแวะไปคุยกับเขา ประจบอะไรไปตามเรื่อง แล้วถึงค่อยมาโทรหาไอ้ป่าน คุยกันจนมันหลับเหมือนเดิม
ช่วงนั้นผมก็ทำงานตามปกติ
ก่อนนอนก็จะแวะคุยกับปู่ แล้วคืนนึง ผมเข้าไปหา เห็นปู่เอาแผ่นแป่ะหน้าอกไว้ ผมก็เลยถามว่า วันนี้เหนื่อยๆ หรือครับ ปู่ก็บอกว่านิดหน่อย เนี่ยเดี๋ยวจะนอนแล้ว เพราะพรุ่งนี้ไปหาหมอเช็คตามที่หมอนัด ผมก็เลยลาไปนอน
พอมาตอนเช้า ผมออกจากบ้านไปทำงานตามปกติ โทรปลุกไอ้ป่านมันให้ตื่นไปเรียน แต่ พอผมไปถึงที่ทำงาน ผมกลับรู้สึกว่า มันกระวนกระวายแปลกๆ เหมือนอยากกลับบ้านตลอดเวลา แต่ผมก็แบบ ทำงานต่อ เพราะวันนั้นงานก็เยอะพอสมควร แต่พอเวลาสักประมาณ 10 โมงเช้า
พ่อผมก็โทรมา
เอ
ครับพ่อ
ปู่เสียแล้วนะลูก
ผมได้แต่อึ้ง ถามไปได้ว่า ปู่อยู่ที่ไหน พ่อบอกว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาล
ผมเก็บของทันที ลาหัวหน้างาน ก่อนจะเดินงงๆ ออกจากที่ทำงานมา (วันนั้นไม่ได้ขับรถไปครับ)
ผมกดโทรศัพท์หาไอ้ป่าน มันรับสาย
ผมก็บอกได้แค่ ปู่เสียแล้ว
ไอ้ป่านตกใจเหมือนกัน (มันเคยไปหาผมที่บ้านครับ ไปประจบปู่ผมไว้เยอะเหมือนกัน) มันถามผมว่าอยู่ไหน ผมบอกว่ากำลังจะออกจากที่ทำงาน มันเลยบอกให้ผมรออยู่ที่นั่น มันจะไปรับ
ป่านมีเรียนไม่ใช่เหรอ
ไม่เป็นไรเอ วิชานี้โดดได้ รอป่านนะ
มันว่าแล้ววางสายไป
ผมก็เลยนั่งรอมันที่ใต้ตึก ตอนนั้นยังเบลอๆ งงๆ เหวอๆ อยู่นะครับ ผมเพิ่งคุยกับปู่เมื่อคืนเอง แล้วตอนนี้พ่อโทรมาบอกว่าปู่เสีย เป็นอะไรอ่ะ เกิดอะไรขึ้น คือพ่อยังไม่ได้บอกรายละเอียดผมน่ะครับ พ่อเองก็คงกำลังวุ่นวายกับการจัดการอะไรต่างๆ ด้วย ผมเองก็ถามพ่อไปนะครับ ว่าให้ทำอะไรไหม ไอ้บีกับแม่รู้ยัง พ่อก็บอกว่ารู้แล้ว ไม่ต้องทำไร พ่อกับลูกน้องพ่อจัดการกันอยู่
ผมไม่รู้ว่าผมรอป่านมันนานแค่ไหน ตอนนั้นมันก็เบลอๆ ครับ
จนเห็นรถมันเลี้ยวมาน่ะแหล่ะ
ผมก็เปิดประตูขึ้นรถไปแบบเบลอๆ ป่านมันก็ถามรพ. พอผมบอก มันก็ อึ้งไปพักนึง
รพ. ที่ปู่ผมเสีย เป็นโรงพยาบาลเดียวกับพ่อมันครับ
มันขับรถไป มองผมไป ผมก็ยังไม่พูดอะไร มันก็ได้แต่จับมือผมไปวางบนตักมัน ตอนนั้นจำไม่ได้เหมือนกันครับว่าคิดอะไร แต่อย่างนึงคือก็เสียใจที่ผมยังไม่ได้เอาปริญญาโท มาให้ปู่อย่างที่เขาอยากให้ผมเรียน เพราะผมขอว่าขอทำงานก่อนสักพัก แล้วถึงจะเรียนต่อ
เราไปถึง รพ ผมก็เดินไปตามทางที่ผมเคยเดินไปหาไอ้ป่านเมื่อครึ่งปีก่อน แต่ตอนนี้มันเดินอยู่ข้างๆ ผม
แต่หนนี้ ผมเดินเลยลึกเข้าไปข้างใน ไปหาเจ้าหน้าที่ บอกเขา บอกชื่อนามสกุลปู่ผม
เขาตรวจสอบ แล้วก็เปิดประตูออก
ผมไม่ทันตั้งตัวว่าจะเห็น ปู่ ผม นอน อยู่ ทันทีที่ประตูเปิดออก
ตอนนั้นผมไม่รู้ตัวแล้วครับ ไอ้ป่านมันบอกผมทีหลังว่า ผมทรุดลงไปนั่ง แล้วร้องไห้ มันเป็นประคองผมขึ้นมากอดไว้ พลางสอบถามเรื่องต่างๆ ที่ต้องทำในตอนนั้นกับเจ้าหน้าที่ว่ามีอะไรบ้าง โดยที่มือยังกอดผมอยู่
ผมร้องไห้อยู่นาน จนมันประคองมานั่งเก้าอี้โซฟา ที่มันเคยนั่งรอผม แล้วกอดผมไว้ ตบหลังตบไหล่ผม เรียกสติ จนผมเริ่มสงบลง แล้วที่ตามมาคือหน้าที่และงานที่ต้องทำต่อไป
ผมโทรหาพ่อ สอบถามเรื่องต่างๆ ว่ายังไง พ่อบอกคร่าวๆ ว่าปู่มาตรวจสุขภาพตามที่หมอนัดตามปกติ แต่เมื่อเช้าดูปู่เหนื่อยๆ แล้วมาถึงปู่ก็ไปห้องน้ำ แล้วเหมือนไปช๊อคในนั้น ก็พยายามช่วยกัน แต่ก็ไม่ทัน ปู่ผมไปโดยไม่ได้สั่งเสียอะไรไว้
ผมฟังแล้วก็อึ้งๆ แล้วก็ถามพ่อต่อว่า ผมต้องทำอะไรบ้าง แต่โชคดีที่ผมไม่ต้องทำอะไรมากเหมือนไอ้ป่านมันตอนงานพ่อมัน เพราะบรรดาลูกน้องของพ่อก็ประสานงานต่างๆ กันเรียบร้อย ตลอดเวลาไอ้ป่านก็อยู่ข้างผม มันคอยช่วยเหลือทุกอย่างเท่าที่มันทำได้
คืนนั้นหลังจากสวดคืนแรกแล้ว ผมขอตัวที่บ้านกลับคอนโดกับไอ้ป่าน
ผมไม่ได้ร้องไห้อีก เพราะผมร้องไปตอนที่ไปถึง รพ แล้ว แต่ไอ้ป่านบอกว่าผมเงียบมาก
เอ ไหวไหม มันถามเมื่อเรามาอยู่ในห้องกันแล้ว
อืม ผมตอบ
กินอะไรหน่อยนะ
อืม อะไรก็ได้
มันก็ไปหาโน่นนี่มาให้ผมกิน กินไปได้ไม่มากหรอกครับ
เอ ไหวแน่นะ มันว่าพลางมากอดไหล่ผม
เอแค่รู้สึกว่า เอไม่ได้ทำให้ปู่อย่างที่เขาอยากได้เลย อย่างน้อยก็เรื่องเรียนโท ผมพูดออกมา
เอครับบบบบ แต่เอกำลังจะเรียน ปู่เอเค้าคอยดูความสำเร็จของเออยู่น่า เค้าไม่ไปไหนหรอก เชื่อป่านดิ มันว่าพลางกอดผมโยกไปโยกมา
อื้ม
เดี๋ยวป่านเรียนจบ ทำงาน เอก็ไปเรียนโท เดี๋ยวป่านไปช่วยเอทำ thesis ด้วยเอ้า มันพูดไปกอดผมไป
อื้ม
เข็มแข็งนะครับ เอคนดีของป่าน ป่านมีเอเป็นหลักอยู่น๊า สู้ๆ มันว่า
หลักอะไรเหรอ
หลักกิโลมั้ง มันพยายามแหย่ให้ผมหัวเราะ แต่ตอนนั้นก็ได้แค่ยิ้ม
ป่านรักเอนะครับ ปู่เอเค้าก็รักเอ เอเคยบอกว่า พ่อป่านก็คอยดูแลป่านอยู่ ตอนนี้ ปู่เอก็คงเหมือนกัน ดีไม่ดี ไปคุยกะพ่อป่านแล้วมั้ง
ระวังปู่มาเข้าฝันนะ ผมบอกมัน มันทำหน้าย่น ไอ้ป่านกลัวผีไงครับ แต่มันก็บอกว่า
เอาฟะ จะได้ฝากตัวเป็นหลานอีกคน
ผมก็ทำได้แต่กอดมันแน่น ผมดีใจนะครับ ที่มันก็อยู่ข้างๆ คอยดูแลผม เหมือนที่ผมดูแลมัน
คืนนั้น ผมนอนกอดมันไว้ ร้องไห้เงียบๆ โดยที่มันก็คอยลูบหลังปลอบโยนผมตลอด
ความทุกข์ ทำให้เรารู้จริงๆ นะครับว่า ใครรักเรามากแค่ไหน
******************