ตอนที่27
ผมกับพี่กาจน์กลับมาที่คอนโดพี่กิตต์ตอนบ่ายสาม ใช้เวลาจัดของครึ่งชั่วโมงก็ออกไปรับไอ้อัท ผมกับพี่กาจน์ใช้กระเป๋าเดินทางใบเดียวกันเพราะผมไม่อยากเปลืองเงินซื้อใหม่แถมของก็มีไม่มาก พอไอ้อัทเปิดที่เก็บของหลังรถเก็บสัมภาระของมันเสร็จมันก็เข้ามานั่งเบาะหลังแบบงงๆ
ผมเห็นมันมองซ้ายมองขวาก็เลยถามว่า”หาอะไรเหรอ”
“กระเป๋ามึงอ่ะ?”มันถาม
“อ้อ กูใช้ใบเดียวกะพี่กาจน์”
“หูยยย เหม็นความรัก”มันทำเป็นเบ้ปากใส่ผมก็เข้าสู่โหมดหลับ มันหลับเร็วจนผมตกใจ มันสะดุ้งตื่นอีกทีตอนพี่เจขึ้นมาบนรถ ตอนลืมตาขึ้นมาเจอหน้าโจรๆของพี่เจเพื่อนผมถึงกับผงะ
วินาทีนั้นมันคงคิดว่าโจรมาจี้ชิงรถ สงสารมันผมเลยชิงอธิบาย”นี่พี่เจ เพื่อนพี่กาจน์”
เพื่อนผมพยักหน้ามึนๆ พอมันรู้ว่าไม่มีอะไรมันก็หลับต่อ ส่วนเพื่อนพี่กาจน์สบตากับผมผ่านกระจกมองหน้าแถมฉีกยิ้มกว้างให้อีก
“สวัสดีน้องคนละพ่อละแม่ของไอ้เจ้าชาย”จำได้เลยว่าวันแรกที่เจอทีมบาสคณะสถาปัตถ์พี่กาจน์แนะนำว่าผมเป็นน้องคนละพ่อละแม่
ผมหัวเราะเพราะไม่คิดว่าพี่เขาจะจำได้แถมเก็บมาแซะ แต่คนที่ถูกเรียกว่าไอ้เจ้าชายกลับขมวดคิ้ว
ทีแรกพี่เจตกใจเพราะคิดว่าตัวเองพูดอะไรไม่เข้าหูเจ้าชาย แต่คนที่ตกใจทีหลังคือผมเนื่องจากคำชี้แจงของพี่กาจน์
“น้องเหี้ยไร นี่แฟน”
ผมแทบจะไหลตัวมุดลงไปตรงที่พักขาเมื่อพี่เคราแพะหันขวับมามองหน้าผมแรงจนผมกลับว่าคอพี่แกจะเคล็ด แถมด้วยสีหน้าตะลึ่งตึงตังตามมาด้วยเสียงอุทาน”ว้าว!!”นั่นอีก ผมรู้สึกเขินกับรีแอคชั่นเล่นใหญ่นั้น
“จริงดิ น้องเป็นแฟนมึงแล้วเหรอ เหยดดด อย่าบอกนะที่มึงยอมโทรหากูก็เพราะน้องอ่ะ โห เอาใจพี่ไปเลย พี่รักน้องครับ”พี่เจกล่าวพลางเขย่าเบาะนั่งของผมไปมาอย่างไม่เกรงใจเจ้าของรถ
“เชี่ยเจ มึงแย่งบอกรักนิทานก่อนกูได้ไง”พี่กาจน์กล่าวกระฟัดกระเฟียด
“อ้าวมึง ยังไม่ได้บอกเหรอว่า อ่อนว่ะ แล้วจะบอกเมื่อไหร่”
“ไอ้ห่า มึงก็ถามซะต่อหน้าเจ้าตัวเลยนะ”
ผมเห็นด้วยกับพี่กาจน์ พี่สองคนไม่ควรมาคุยอะไรแบบนี้ให้ผมได้ยินอ่ะ ผมก็เขินเป็นนะเว้ย ไอ้อัทที่ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ส่งยิ้มมาให้ผ่านกระจกมองหลังด้วย ในรถนี้ไม่มีใครเป็นพวกผมสักคนผมเลยต้องหันหน้าหนีออกไปมองทิวทัศน์ริมทาง
เนื่องจากคนเก็บเงินไว้เที่ยวตอนปีใหม่ทำให้ถนนจากกรุงเทพสู่ชลบุรีไม่มีรถติดพวกเราจึงมาถึงที่พักในเวลาต่อมา ซึ่งที่พักก็ไม่ใช่ที่แปลกใหม่อะไร ที่ๆคณะผมมาจัดค่ายรับน้องแล้วผมเจอพี่กาจน์มารำลึกความหลังนั่นแหละ
“ไม่ได้มานานเลยว่ะ”พี่เจพูดพลางยืนบิดขี้เกียจอยู่ข้างรถ
“ตอนนั้นพี่บอกว่ามาหาคนรู้จักที่นี่จำได้ใช่มั้ย”พี่กาจน์เกริ่นขณะยกของลงจากหลังรถ ผมกับอัทพยักหน้ากันหงึกหงัก
“เจ้าของที่นี่คือแม่ของพี่ฟ้า คราวนั้นที่คณะพี่มาจัดค่ายที่นี่ก็เพราะได้ส่วนลดพิเศษนี่แหละ”เป็นข้อมูลใหม่ที่ผมค่อนข้างตกใจ ผมพยามนึกหน้าคุณหญิงเจ้าของรีสอร์ทที่มาร่วมพิธีมอบช่อดอกไม้ปิดค่ายเมื่อตอนนั้น อืม...จะว่าไปโครงหน้าก็มีส่วนคล้ายไอ้ครามอยู่
ระหว่างยืนคิดอะไรเพลินๆก็มีลูกลิงกระโดดขี่หลังผม ลูกลิงตัวนี้น้ำหนักไม่ใช่น้อยๆเพราะเป็นลูกลิงที่เรียนอยู่ปี1แล้ว ผมเกือบหน้าคว่ำเพราะเสียหลักโชคดีที่ไอ้ครามมันยอมลงจากหลังผมและช่วยคว้ามือผมเอาไว้ แต่มันไม่คว้าผมเปล่าๆ มันลากแขนผมไปเกาะด้วย
“นิทานนน คิดถึงจัง”ผมคิดว่าก่อนหน้านี้มันเข้าหาผมเพราะอยากรู้นิสัยใจคอก็จริงแต่ตอนนี้มันน่าจะชินมือแล้วล่ะ เห็นหน้าเป็นต้องเข้ามาอ้อล้อ
“มายังไงเนี่ย”ผมถาม
“ขับรถมา”นี่เป็นอีกข้อที่ผมแปลกใจ คนตัวเล็กน่ารักแบบนี้ขับรถเป็นในขณะที่ผมไม่”มานี่สินิทาน เดี๋ยวแนะนำให้แม่รู้จัก พี่ก็รีบๆขนกระเป๋าตามมานะ”คำหลังมันหันไปพูดกับพี่กาจน์ก่อนเดินควงผมเข้าไปยังบริเวณฟรอนต์
ลุงคนขายขนมยังนั่งอยู่หน้าเคาเตอร์ตัวเดิม ผมยังจำไม่ลืมนะว่าลุงเคยปิดร้านหนีผมอ่ะ
“แม่ๆ นี่นิทาน”ไอ้ตัวเล็กมันพาผมไปหาแม่จริงๆ อย่างกับเปิดตัวแฟนเล่นเอาผมปั้นหน้าไม่ถูก ได้แต่ยืนยิ้มแล้วก็ยกมือไหว้
“ไหว้พระเถอะจ่ะ ว่าแต่เจ้ากาจน์ล่ะ”แม่ของครามไม่สนใจผมเท่าไหร่ เจ้าหล่อนชะเง้อหาลูกค้าขาประจำอย่างพี่กาจน์ซึ่งลากกระเป๋าเข้ามาทักทายหล่อนพี่พอดี
พอพี่กาจน์ยกมือไหว้เธอก็ลุกขึ้นไปลูบหัวลูบหางคนหล่ออย่างเอ็นดู”เดี๋ยวพ่อกับแม่จะตามมาค่ำๆใช่มั้ยจ๊ะ ฝาแฝดของเราที่มาถึงก่อนเขาบอกไว้แต่ป้าไม่คิดว่าจะมากันเยอะขนาดนี้ ชื่ออะไรเป็นใครกันบ้างจ๊ะเนี่ย”
“เอ่อ เจครับ เพื่อนไอ้กาจน์”
“เหรอลูกเหรอ คุ้นๆหน้าเหมือนเคยมางานเจ้าฟ้าใช่มั้ย ตอนนั้นขอบคุณนะคะ แล้วเราล่ะ”ท้ายประโยคหันไปหาไอ้อัท เพื่อนผมออกอาการอ้ำอึ้งเพราะมันไม่รู้ว่าจะลำดับญาติมันกับพี่กาจน์ยังไงดี
“หง่า...ผมอัทครับ เพื่อนไอ้นิทาน”สุดท้ายไม่ก็ลอกประโยคแนะนำตัวจากพี่เจมาทั้งดุ้น
ทีนี้มันรอดแต่คนซวยคือผม คุณป้าเลิกคิ้วอย่างแปลกใจขณะหันมาพิจารณาผมอีกครั้ง
นิทานเป็นใคร สนิทกับใครในที่นี้ถึงขั้นพาเพื่อนมาทำบุญให้ลูกชายของหล่อนขนาดนั้นเลยเหรอ
“เอิ่ม...”ผมส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังพี่กาจน์
“นิทานเป็นแฟน... อุ๊บส์”ผมกับพี่เจรีบตะครุบปากของพี่กาจน์เอาไว้แทบไม่ทัน
โชคดีที่พี่ยังไม่ทันพูดคำว่าเป็นแฟนผมจบประโยคเพราะขืนพูดออกไปงานนี้คงมีคนช็อคจนเป็นลม สำหรับคุณป้า พี่กาจน์คือแฟนของพี่ฟ้า แฟนที่ทำให้ลูกชายของเธอถูกฆ่า การที่พี่กาจน์พาแฟนใหม่มาเคารพพี่ฟ้าก็คือการไม่ให้เกียรติลูกของเธอ
ใช่ เพราะไม่มีใครรู้ว่าพี่กาจน์กับพี่ฟ้าไม่ได้คบกันจริงๆ
แต่นั่นก็อีก บอกว่าแค่โดนลงโทษเลยคบกันก็ไม่ได้อีก ประเด็นอ่อนไหวควรหลีกเลี่ยงสุดๆ
“แฟนเหรอจ๊ะ”คุณป้าเอียงคอแบบงงๆ”แฟนของใครเหรอ”
“แฟนผมเอง!!!!”และคนที่เข้ามากู้(?)สถานการณ์ก็คือไอ้คราม มันเดินมาดึงแขนผมไปเกาะโดยไม่สนใจพี่กาจน์ที่มองมันตาเขียวปั๊ด
งานนี้ผมกลัวเรื่องจะบานปลายเลยกระซิบบอกพี่กาจน์ให้เออออตามน้ำไปก่อน นั่นยิ่งทำให้พี่กาจน์งอนหนักกว่าเดิม
“ตายจริง นิทานเป็นแฟนเจ้าครามเหรอ เห้อ ลูกชายแม่ไม่มีใครชอบผู้หญิงเลยเหรอเนี่ย เอาเถอะๆ นั่งพักดื่มน้ำกันก่อนนะลูก เดี๋ยวป้าให้คนมาเอากุญแจให้ พอดีห้องสำหรับแขก 2คนยังทำความสะอาดไม่เสร็จ ป้าต้องขอโทษด้วยนะ ส่วนเจ้าคราม ตามแม่มานี่เลย ไหน เล่าให้ฟังซิว่าแฟนคนนี้ได้มายังไง”ป้าแกรัวเป็นชุดก่อนจะดึงหูลูกชายออกไปจากวงสนทนา
“โหยยย ผมก็อุตส่าห์พามาแนะนำตัวคนแรกเลยไง แต่แม่ไม่สนนิทานเองอ่ะ สนใจแต่พี่กาจน์”นั่นคือประโยคสุดท้ายของครามที่พวกเราได้ยิน
“...”บรรยากาศตึงเครียดเข้าปกคลุมทันทีที่ที่เหลือแค่พวกเรา
“ไอ้กาจน์ มึงก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควร มึงจะไปบอกแม่พี่ฟ้าว่ามึงพาแฟนใหม่มาด้วยได้ไงวะ”พี่เจพยามช่วยผม
“จริงพี่ ไอ้นิทานมันกลัวพี่โดนเกลียดหรอก มันก็เสียใจเหมือนกันอ่ะที่ต้องเออออเป็นแฟนไอ้คราม”อัทเพื่อนรักกล่าวเสริม
“แล้วคิดจะปิดเป็นความลับไปถึงไหน ยังไงคุณป้าก็ต้องรู้ความจริงเพราะคดีที่เกิดขึ้นเมื่อวานมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ พอแม่กับพ่อพี่มาทั้งคู่ก็ต้องบอกว่าเอิญไม่ใช่คนลงมือ คนร้ายตัวจริงเพิ่งถูกจับเมื่อวาน แล้วคุณป้าเขาจะไม่สงสัยเหรอว่าทำไมจู่ๆคนร้ายก็โผล่มา คนร้ายบุกมาหานิทาน แล้วทำไมนิทานถึงตกเป็นเป้าล่ะ? เห็นมั้ย พวกเราปิดไม่ได้หรอกเว้ยว่านิทานคือแฟนพี่”
กริบสิครับ
คือ ณ จุดที่อยู่ต่อหน้าแม่ของครามทุกคนก็ต้องปิดเรื่องที่ผมเป็นแฟนพี่กาจน์ไว้ก่อนแต่พอตั้งสติแล้วฟังที่พี่กาจน์อธิบายแล้วพูดได้คำเดียวครับว่างานเข้ากูแล้ว
สักพักแม่ของครามก็กลับมาพร้อมกุญแจห้องพัก 2ห้อง แต่ไม่ยักเห็นคนลูก สงสัยโดนแม่คุมความประพฤติอยู่มั้ง
“พักผ่อนกันตามสบายเลยนะลูก อ๊ะ ป้าต้องขอโทษนิทานด้วยนะจ๊ะ คืนนี้นอนกับเพื่อนไปก่อนเนอะ ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่ป้าคิดว่ามันไม่เหมาะที่เราจะนอนห้องเดียวกับคราม อย่าโกรธป้าเลยนะลูก”ผมรับกุญแจห้องและหันไปสบตากับไอ้อัท มันส่งยิ้มแห้งๆพร้อมชูสองนิ้วมาให้แทนกำลังใจ
คืนนี้ผมน้องตอนกับอัทสินะ
“ครับ ผมครับใจครับ”ผมยิ้มให้หญิงวัยกลางคนตรงนั้น เธอยิ้มกลับมาและลูบหัวลูบหางผมด้วยสายตาอ่อนโยน
“ไม่คิดเลยว่าตาครามจะได้แฟนสุภาพขนาดนี้ แม่ฝากดูแลครามด้วยนะ”
“ครับ”
อะเฮือก คลื่นความผิดบาปซัดหน้าผมแทบหงายอ่ะ โชคดีที่ไอ้อัทเข้ามาตบไหล่ผมและกล่าวขอตัวคุณป้า”งั้นพวกผมขอตัวไปเก็บของก่อนนะครับ”
ผมก้มหัวให้แม่ของครามก่อนเดินตามเพื่อนไป ทว่าเดินไปได้สามก้าวก็โดนทักซะก่อน
“อ้าว นิทานลืมกระเป๋ารึป่าวลูก”
โฮลี่ชิท!
ผมเงิบกับความปารถนาดีนั้นอีกครั้ง เจ้าหล่อนสอดส่ายสายตาหากระเป๋าเดินทางของผมแต่ก็ไม่พบ
“เอ่อ...”
“เสื้อผ้านิทานอยู่ในกระเป๋าผมครับ มันเป็นทริปด่วน น้องเพิ่งรู้เมื่อสายเลยเตรียมตัวไม่ทัน”ผมเม้มปากแน่นเมื่อพี่กาจน์ตอบออกมาแบบนั้น คุณป้ามีสีหน้าสงสัยชัดเจนเพราะผมกับพี่กาจน์ไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้องใดๆต่อกันแล้วทำไมผมถึงเอาของไปรวมกับเขาได้
“เมื่อคืน...พวกเราไปค้างห้องพี่กิตต์น่ะครับ”คราวนี้ผมตอบบ้าง ไม่อยากโกหกคนแก่เยอะๆกลัวนรกจะกินกบาล
“เหรอ...”
“ถะ ถ้ายังไงพวกเราขอตัวก่อนดีกว่าครับ”พี่เจจกกุญแจจากมือของพี่กาจน์และเดินนำลิ่วไปทางห้องพักเดี๋ยวนั้นเลย นับว่าเป็นการตัดบทที่ห้วนสั้นมาก
ผมเดินเข้าห้องพักมาได้ก็รีบกระโจนขึ้นเตียง นอนแหงเป็นเจ๊กขาดทุน
“ชีวิตรักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบมึง มันต้องมีขวากหนามด้วย”รูมเมทอย่างไอ้อัทลอยหน้าลอยตาพูดปรัชญา
ผมมองแรงใส่มันไปทีนึง”กูไม่เห็นมึงกับอรจะมีอะไรมากมายแบบนี้เลย”
“ไม่มีห่าไรล่ะ ทุกวันนี้ยังเป็นเพื่อนกันอยู่เลยเนี่ย กูกลัวเป็นเพื่อนกันไปนานๆจะข้ามเฟร์นโซนไปไม่ได้ว่ะ ไอ้แก๊ปก็กลัวเหมือนกูเนี่ย”
“ไม่หรอกมั้ง สองสาวก็ดูโอเคกับพวกมึงนี่”จำตอนดูหนังที่คอนโดได้ป่ะ นั่งจับมือกันซะขนาดนั้น
“ใสๆไปป่ะมึง”
“มึงแหละคิดมาก สู้เอาเวลาไปหาโอกาสสารภาพรักอรดีกว่าป่ะ”
“เหมือนพี่กาจน์อ่ะเหรอ ใช่สิ มึงเป็นเมียนี่ ไม่เข้าใจความกังวลของลูกผู้ชายเขาหรอก”
“เห้ยนาย ทำไมนายถึงพูดแบบนั้น เราไม่โอเคนะนาย”
“ไม่โอเคหรือเขินเอาตรงๆ หน้าแดงนะมึง เป็นเมียก็ยอมรับว่าเป็นเมียดิ”
“ยังไม่ได้เป็นเว้ยยย ตายซะเถอะไอ้เพื่อนเวรรร ย๊ากกกก”ผมลากแขนมันขึ้นมาไล่ขวิดบนเตียง ด้วยความบ้าจี้ของมันทำให้มันชักดิ้นชักงอเป็นปลาเกยตื้น ผมยิ่งได้ใจปลุกปล้ำมันใหญ่ มันก็สู้กลับนะแต่ผมไม่บ้าจี้อ่ะ เสียใจด้วยมึง
“ฮ่าๆๆๆ เชี่ยๆๆๆๆๆ ปล่อยกู!! กูไม่ใช่พี่กาจน์”ไอ้อัทพยามร้องขอชีวิต แต่มันเลือกใช้คำผิด
“พูดว่าเมียๆๆๆไม่เลิก มึงนั่นแหละมาเป็นเมียกูเลย”ไม่แน่ใจนักว่าพวกเราอายุกี่ขวบแล้ว เล่นอะไรเป็นเด็กๆ หัวเราะจนหน้าแดงดิ้นจนเสื้อผ้าหลุดลุ่ยไปหมดแล้ว
“ทำไมไม่ล็อคประ— ทำอะไรกันอยู่น่ะ”ผมกับเพื่อนเด้งตัวออกจากเหมือนโดนของร้อนเมื่อมีคนเปิดประตูเข้ามาในห้อง
พี่กาจน์มองพวกเราด้วยสายตาเข้มๆ ไม่สิ มองผมเนี่ยแหละที่เล่นกับเพื่อนจนเสื้อมันเลิกขึ้นมาจนถึงราวนม ผมยันตัวนั่งพับเพรียบเรียบร้อย จัดแต่งเสื้อผ้าและส่งยิ้มหวานไปหาพี่กาจน์
“อัทแกล้งผมก่อน”
“มันแหละเริ่ม”
“อยากตายใช่มั้ยไอ้อัท”
“มึงไม่กล้าหรอก แค่โดนผัวจ้องก็หงอแล้ว กระจอกสัส”
“พี่มาตามไปกินข้าวเย็น”เพราะผมกับอัททำท่าจะเริ่มมวยปล้ำยกที่สองพี่กาจน์จึงรีบพูดธุระก่อน เขาเดินเขามายื่นมือให้ผม สุดท้ายผมก็โดนเขาจูงออกมาจากห้อง โชคดีที่มีพี่กาจน์อยู่ไอ้อัทมันเลยไม่กล้าแซวอะไร
“กูขอขี้แป๊ป มื้อนี้ฟรีใช่ป่ะ จะได้จัดเยอะๆ!!”แว่วเสียงอัทตะโกนไล่หลงมา
พอเดินไปถึงหาดพี่กาจน์ก็ปล่อยมือผมและเดินแยกไปอีกทาง แม่ของไอ้ครามหันมากวักมือเรียกผม ท่านยกยิ้มและยื่นจานกระดาษมาให้”เย็นนี้กินอาหารทะเลกันลูก นิทานไม่แพ้อาหารทะเลใช่มั้ยจ๊ะ”
“ครับ ผมทานได้ทุกอย่าง”ผมกล่าวอย่างสุภาพ
พี่กิตต์กับพี่เฟิร์นจับจองเก้าอี้ชายหายอยู่มุมหนึ่ง นั่งซบคุยกันหงุงหงิง ตัดภาพมาที่พี่กาจน์กับพี่เจ ทั้งสองคนปูเสื่อและเตรียมก๊งเหล้ากัน ผมถึงกับเลือกไม่ถูกเลยว่าจะไปร่วมแจมวงไหนดีสุดท้ายผมเลยเลือกช่วยคุณป้าปิ้งกุ้งหอยปูปลา
เตาบาร์บีคิวเริ่มร้อนได้ที่ผมจึงเริ่มคีบกุ้งไปวาง แค่คิดถึงมันกุ้งเผาก็น้ำลายสอแล้วอ่ะ
“คุณป้าไปนั่งรอก่อนสิครับ เดี๋ยวตรงนี้ผมจัดการเอง”
“ได้ที่ไหนกัน ป้าเป็นเจ้าบ้าน แค่ทุกคนมาเยี่ยมลูกชายป้าก็มีความสุขแล้ว นิทานแหละ ไปนั่งดื่มกับพวกกาจน์เถอะ ดูซิเนี่ย พระอาทิตย์ยังไม่ทันตกดินดีก็เริ่มเมากันแล้ว ใช้ไม่ได้ๆ”ถึงปากจะบอกว่าใช้ไม่ได้สายตาของเธอบ่งบอกว่าชื่นชมในตัวพี่กาจน์มาก
“นิทานอาจจะไม่รู้ แต่พอลูกชายคนโตของป้าเสียเจ้ากาจน์ก็มาที่นี่ มานั่งมองพระอาทิตย์ตกดินแทบจะเดือนเว้นเดือน คนแก่อย่างป้าจะยึดติดกับฟ้าก็ไม่แปลก แต่ป้าสงสารคนหนุ่มอย่างเขา ด้วยอายุเท่านี้ควรจะเริ่มต้นใหม่เร็วๆ ทั้งๆที่ป้าควรจะคิดแบบนั้นแต่ป้าก็เห็นแก่ตัว กลัวว่าเจ้ากาจน์มีคนใหม่แล้วจะไม่มาหาฟ้าอีก”
“...”
“เจ้าตัวน่ะตายไปแล้วแต่ยังมีชีวิตต่อไปในความทรงจำ ป้าอยากให้กาจน์เป็นอิสระแต่ป้าก็ไม่อยากให้เรื่องราวของฟ้าค่อยๆหายไป”
“แม่ๆ ผมอยากกินหอยอ่ะ ย่างให้หน่อย”ครามที่ยืนฟังอยู่เอ่ยขัดขึ้น มันคงพยามเปลี่ยนเรื่องแต่ดันโดนแม่ด่าว่าเป็นง่อยแถมยังถูกใช้ให้ไปหยิบกระติกน้ำแข็งจากครัวรีสอร์ทมาอีก
คนตัวเล็กเดินหน้าง่ำออกไป
“ลูกคนเล็กนี่ก็ใช้ไม่ได้ แม่ล่ะเป็นห่วงจริงๆ ว่าแต่เมื่อกี๊ป้าต้องขอโทษเราด้วยนะลูก พอดีอินไปหน่อย ป้าเสียดายแทนตาฟ้า อุตส่าห์ได้เจอคนดีๆอย่างกาจน์ทั้งที... แต่นิทานก็ดีนะลูก แค่ป้าเพิ่งรู้จักเราป้าเลยไม่มีอะไรพูดถึงมาก”
“พี่กาจน์ไม่มีวันลืมพี่ฟ้าแน่ครับ แล้วผมก็จะไม่ยอมให้เขาลืมด้วย ถึงตอนนี้เขาจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้แล้วแต่เขาไม่ใช่ผู้ชายที่จะทอดทิ้งอดีตของตัวเอง เขาอาจจะไม่คิดถึงตลอดเวลาแต่เขาจะระลึกถึงพี่ฟ้าเสมอ พี่กาจน์เป็นผู้ชายแบบนั้น”ผมอินมากถึงขั้นวางที่คีบกับจานกุ้งลง ทำหน้าจริงจังและหันไปกุมมือคุณป้า
“พี่กาจน์ทรมาณมาตลอด แค่จะนอนยังนอนไม่หลับเลย แต่เมื่อคืนพี่เขาไม่ฝันร้ายอีกแล้ว นั่นไม่ใช่เพราะพี่กาจน์ลืมพี่ฟ้าพี่กาจน์แค่นึกถึงความทรงจำดีๆที่มีร่วมกันออก ถึงมันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ...”
ต่อแต่นี้ไปสำหรับพี่กาจน์ พี่ฟ้าจะเป็นรุ่นพี่ที่เขาพบครั้งแรกที่หาดทรายแห่งนี้ ไม่ใช่รุ่นพี่ที่นอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้าเขา
ผมคิดว่าผมพูดมากเกินไปกลัวจะไปย้ำปมอะไรหญิงตรงหน้าเลยหุบปาก แต่เธอกลับบีบมือผมแถมยิ้มอย่างอ่อนโยนกลับมาให้
“นิทานมีอะไรจะบอกป้ามั้ย”
ผมกระอักกระอ่วนกับคำถามนั้น แต่สุดท้ายผมก็พ่ายแพ้สายตาของเธอ ผมน้ำตาคลอ ยกมือไหว้หล่อนแล้วก็พูดคำว่าขอโทษ
“ผมขอโทษครับ ที่จริง... ผมเป็นแฟนของพี่กาจน์”พี่กาจน์ที่นั่งดื่มอยู่คงเห็นผมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เลยเดินมาดู และเมื่อได้ยินคำสารภาพของผมพี่เขาก็อ้าปากเตรียมพูดอะไรบางอย่าง ทว่าคุณแม่ของครามกลับยกมือห้ามก่อน
“ว่าแล้วเชียว”
“คุณป้ารู้เหรอครับ”พี่กาจน์ถาม
“สงสัยตั้งแต่ตอนที่กาจน์ทำหน้าจริงจังตอนป้าถามว่านิทานคือใครแล้ว ตอนนั้นจะบอกว่าเป็นแฟนเราล่ะสิแต่ลูกป้าดันขัดซะก่อน”แกบ่นลูกชายกระปอดกระแปดตามประสาผู้หญิงวัยกลางคน
ท่าทางไม่ตกใจ เสียใจ สะเทือนใจหรืออะไรใดๆเลยของเธอทำให้ผมกับพี่กาจน์หันไปมองหน้ากันงงๆ
“คนที่ต้องขอโทษอาจจะเป็นป้าก็ได้นะ ที่จริง...วันนั้นที่ฟ้ากับเพื่อนเล่นเกมส์กันป้าแอบดูอยู่ ป้ารู้ว่าที่พวกเด็กๆคบกันเป็นแค่เกมส์แต่ป้าก็หลอกตัวเอง ลูกป้าถูกฆ่าเพราะฆาตกรเข้าใจว่าเขาคบกับกาจน์ ป้าไม่อยากให้ลูกตายเปล่าก็เลยหลอกตัวเองมาตลอด ขอโทษจริงๆ แต่วันนี้กาจน์พาแฟนมาหาฟ้าแล้ว ถ้าป้ายังหลอกตัวเองไม่เลิกฟ้าคงโกรธป้าแย่ ขอโทษด้วยจริงๆ ป้าขอโทษ...”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ผิดที่ไม่บอกคุณ”
ความจริงเรื่องนี้ไม่มีใครผิด ผมโคตรอยากลากทั้งสองคนมากอดอ่ะ
อา...ไม่ดิ ต้องสาม
ครามที่โผล่เข้าซีนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้มองพวกเราสามคนด้วยสีหน้าตกใจ เดาว่าเจ้าตัวคงมาทันได้ยินความจริงชุดใหญ่เมื่อครู่
“ว่าไงนะ แม่บอกว่าพี่ฟ้าคบกับพี่กาจน์เพราะเล่นเกมส์แพ้...งั้นเหรอ”
“คราม...”คุณป้าเอ่ยชื่อลูกชายเสียงแผ่ว
“พี่ฟ้าต้องตายเพราะเล่นเกมส์แพ้งั้นเหรอ!!?”
โครม!
น้ำขงน้ำแข็งกระจายหมดอ่ะ ไอ้ครามน้ำตาไหลพรากโยนกระติกในมือใส่พื้นแล้วก็วิ่งออกไป
ผมกับพี่กาจน์ทำท่าจะวิ่งตามแต่โดนคุณป้ารั้งข้อมือเอาไว้”ปล่อยมันไปก่อน เวลาแบบนี้ยิ่งเข้าไปปลอบครามยิ่งร้องไห้”
“...”
“ป้าหย่ากับสามีตั้งแต่ครามยังอยู่อนุบาล ป้าต้องทำงานคนเดียวเลยไม่ค่อยมีเวลาคนที่เลี้ยงครามมาคือฟ้า บางทีครามอาจจะผูกพันกับฟ้ามากกว่าป้า...อ่ะ ป้าขอตัวไปพักก่อนนะ”ผมเห็นคุณป้าน้ำตาคลอขณะเดินจากพวกเราไป พี่เจ พี่กิตต์ และพี่เฟิร์นคงได้ยินไอ้ครามตะโกนเลยมีสีหน้าเจื่อนๆ
บาร์บีคิวมื้อใหญ่เกือบล่มโชคดีที่อัทขี้เสร็จพอดีมันผู้ไม่ได้รู้เรื่องราวยืนแดกกุ้งที่ผมแกะไว้อย่างเอร็ดอร่อย ทำให้พี่เจโวยวายกลัวโดนแย่งไปหมด เดือดร้อนผมกับพี่เฟิร์นที่ต้องคอยย่างซีฟู้ดเสริฟให้พวกคุณชายทั้งหลาย
พ่อกับแม่ของพี่กาจน์มาถึงตอนสามทุ่มกว่า พวกท่านพาเอิญไปขอขมาแม่ครามอีกครั้งก่อนจะค่อยๆเล่าความจริง
ผมกับพวกพี่กาจน์ถูกกันออกมาเพราะผู้ใหญ่ไม่อยากให้วัยรุ่นมาเครียดกับเรื่องนี้ซ้ำๆ พวกเราจึงแยกย้ายกันไปนอน
“อ้าว ตกลงว่านอนห้องนี้เหรอครับ”ผมแกล้งถามคนที่เพิ่งหอบกระเป๋าเดินทางเข้ามาในห้องของผม พี่กาจน์หน้ามุ่ยทันทีที่ผมทำท่าจะไม่แบ่งเตียงนอนให้เขา ผมหัวเราะชอบใจเมื่อคนตัวสูงกว่ากลิ้งผมให้เข้าไปชิดเตียงด้านใน
ผมวางมือถือก่อนหันไปผลักคนที่พยามเข้ามานัวเนียออกไป
“อย่าเย็นชากับพี่แบบนี้สิครับ พี่ยังใจหายอยู่เลย นิทานโอ๋พี่หน่อยเร็ว”
“ไม่ต้องมาแอ๊บสำออยเลย จิตใจพี่แข็งแกร่งดั่งหินผา พี่นั่นแหละต้องโอ๋ผม”คนเพิ่งถูกมีดไล่เมื่อวานแถมวันนี้ยังต้องมาเจออะไรหนักๆอีก จิตใจผมเริ่มรับไม่ไหว
“โอ๋ๆนะครับคนดีของพี่ ขวัญเอ๊ยขวัญมา”พี่เขาดึงตัวผมเข้าไปกอดแล้วก็นั่งโยกไปมาเหมือนกล่อมเด็ก”ไม่ต้องกลัวนะครับ เหมียวจะมาทำอะไรพวกเราไม่ได้อีกแล้ว”
“หืม ทำไมล่ะ”ผมถามเพราะเมื่อครู่ก่อนที่พี่กาจน์จะไล่ไอ้อัทออกไปผมเห็นเขาเพิ่งแยกกับคุณพ่อ เดาว่าท่านอาจจะคุยเรื่องความคืบหน้าของคดี
“พ่อพี่บอกว่าจัดการพาเหมียวเข้ารพ.บำบัดจิตแล้วครับ แถมยังส่งคนไปจับตาดูตลอด 24ชม.อีก ถ้าบำบัดจนหายดีเมื่อไหร่เหมียวก็ต้องรับโทษ คดีฆ่าคนตาย ข่มขู่คนให้คนรับผิดแทน แถมยังพยามฆ่าโทษไม่ใช่น้อยๆ ถึงเมื่อ4ปีก่อนเธอจะเป็นแค่เยาวชนแต่ทนายของบ้านพี่ฝีมือดี รับรองจัดการให้ติดคุกยาวแน่”
“โฮยยย ให้ติดตลอดชีวิตเลยได้มั้ย”ผมกลัวนางจะถูกปล่อยตัวออกมาแล้ววิ่งเอามีดมาฟันกันอีกจริงๆ
“ฮ่ะๆ ไม่ต้องห่วงครับ ครอบครัวพี่มีวิธีจัดการอะไรแบบนี้”บ้านพี่ทำมาหากินอะไรมิทราบ!!”จริงสิ เอิญบอกว่าจะไปเรียนต่ออเมริกา ฮ่ะๆ สุดท้ายก็หนีหน้าพี่เหมือนเดิม แต่ก็ดีนะ เพราะแม่ก็อยู่วอชิงตันคนเดียว เอิญไปอยู่ด้วยแม่จะได้ไม่เหงา”
“จริงสิ ทีนี้ผมก็กลับไปอยู่หอเดิมได้แล้วใช่มั้ย”
“อะไรนะ?”พี่กาจน์ถามย้ำเพื่อให้แน่ใจว่าฟังไม่ผิด
“พี่ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงผมแล้วนี่ เหมียวก็โดนจับไปแล้ว อ๊ะ...”มีคนโทรหาผมครับ
ยังไม่ทันจบประโยคผมก็ต้องรีบรับสายเพราะคนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่น พี่โน้ตนั่นเอง
“มีไร”ผมถามเสียงห้วนเพราะไม่ชอบหน้าพี่ชายคนนี้นัก โทรมาทีไรก็มีแต่เรื่องแกล้งผม
“คุณน้องครับ ได้ข่าวว่าสอบเสร็จแล้ว ทำไมไม่ยอมกลับบ้านล่ะครับ พี่ชายคิดถึง”
ชะอุ่ย โทรมาด้วยเรื่องนี้นี่เอง
“แฮ่ๆ”ผมเรียนที่กรุงเทพมาตั้งแต่เด็กก็จริงแต่บ้านผมอยู่นครปฐมครับ มันค่อนข้างไกลจากมหาลัยผมเลยไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่นี่คือปิดเทอมครั้งแรกในชีวิตปี1ของผม พ่อกับแม่คงชะเง้อคอรอผมแย่
“มาเที่ยวทะเลกับเพื่อน”
“เข้ามหาลัยแล้วหัดแรดเหรอ กลับกรุงเทพรีบกลับมาบ้านเลยนะ พี่คิดถึง”
“ค้าบๆ”
“เออ แค่นี้แหละ แค่โทรมาเช็คว่ายังไม่ตายใช่มั้ย”
“นอนกันเถอะ”พี่กาจน์ดูไม่พอใจที่ผมพูดคำนั้นหลังจากวางสายพี่โน้ต คิ้วคมขมวดเข้าหากันเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“เรายังคุยกันไม่จบเลยนะ”หมายถึงเรื่องที่ผมจะกลับไปอยู่หอสินะ
ผมยิ้มให้เขา พวกเราไม่ควรมาทะเลาะกันเพราะเรื่องแบบนี้”พ่อผมต้องโกรธแน่ๆถ้ารู้เรื่องลูกชายคนเล็กอยู่กินกับผู้ชาย”
“จะว่าไปนิทานก็เพิ่งอยุ่ปี 1นี่หว่า”พี่กาจน์เริ่มมีท่าทีคล้อยตาม เขาครุ่นคิดอะไรอยู่พักใหญ่”อายุ 18กฎหมายเขาห้ามอยู่กินกับแฟนเหรอ”
“งอแงว่ะ แค่นี้ก็รอไม่ได้”
“พูดอะไรไม่เห็นใจคนแก่ใจร้อนเลย ถ้านิทานไม่นอนข้างๆพี่นอนไม่หลับนะ เอางั้นใช่ม้า จะทิ้งพี่สินะ ทิ้งพี่จริงๆสินะ”แค่ผมเกริ่นเรื่องกลับไปนอนหอทำไมมันกลายเป็นวาระแห่งชาติไปได้ล่ะครับ”ก็ได้ จำไว้”
คนขี้งอนปิดไฟตัดบทด้วยการดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง
“โอ๋ พี่กาจน์คนดีอย่างอนน้อง น้องขอเวลาคิดก่อนแล้วกัน ยังไงพี่กาจน์ก็ต้องหาคอนโดใหม่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ”
“เออว่ะ”คนที่แกล้งหลับเด้งตัวออกมาจากผ้าห่ม กดสายหาลูกน้องฝ่ายไหนของพ่อก็ไม่ทราบแต่ที่แน่ๆคือพี่แกสั่งให้คนของพ่อหาคอนโดทำเลใกล้มหาลัยของผมให้ห้องหนึ่ง
“เอาเป็นว่านิทานต้องอยู่คอนโด อย่างน้อยมันก็มีระบบรักษาความปลอดภัยดีกว่าหอพักนักศึกษา ถ้าพี่ไม่ได้อยู่ด้วยพี่จะได้ไม่เป็นห่วง”
“พูดถึงระบบรักษาความปลอดภัยไอ้คอนโดหรูของพี่มันไม่ปลอดภัยยิ่งกว่าเหรอครับ”
“อันนั้นไม่นับดิ ก็เหมียวลงทุนไปสมัครงานเป็นคนรับใช้บ้านเจ้าของห้องนั้นเพื่อขโมยคีย์การ์ดสำรองอ่ะ”
“ปะ เป็นผู้หญิงที่มีมานะดีนะครับ”
“สุดลิ่มทิ่มประตูเลย”
ทิ่มจริงครับ แค่คิดถึงเสียงมีดแซะลูกบิดเมื่อตอนนั้นผมก็สยองแล้ว เหมือนพี่กาจน์จะรู้เลยดึงผมเข้าไปกอด
“โอ๋ๆนะครับ อยู่กับพี่ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
“พูดไปสิ ตอนนั้นไม่ได้อยู่กับผมนิ”
“พี่ว่าเหมียวสืบตารางสอนแล้วรู้ว่าวันนั้นพี่จะกลับดึกว่ะ”
“อันนี้ผมก็คิดอยู่เหมือนกัน แฟนพันธ์แท้มากอ่ะ”
“ไม่เอาดิ อย่าย้ำ พี่เริ่มกลัวแล้วนะ เชี่ย พรุ่งนี้เช้าต้องไปตรวจรถหน่อยละว่ามีเครื่องดักฟังมั้ย”
“โอ๋ๆน้า ผมอยู่ตรงนี้ พี่กาจน์ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว”
“กลัวสุดคือไม่ได้อยู่กับเราเนี่ยแหละ”
“อะฮ่ะๆๆ อยู่ด้วยกันก็ได้วะ ไม่ย้ายละ”
“น่ารักสุดอ่ะ”
ผมเคยบอกแล้วใช่ป่ะว่าผมเป็นคนว่าง่ายอ่ะ แค่ตื๊อผมหน่อยผมก็ใจอ่อนยวบแล้ว
เช้าวันต่อมาพวกเราก็พากันไปเข้าวัดทำบุญ พี่เจกับไอ้อัทลำบากหน่อยเพราะเป็นสายนอนดึกตื่นเช้า กว่าจะช่วยกันขุดสองคนนี้ออกจากเตียงพวกผู้ใหญ่ก็ต้องนั่งรอ ระหว่างทำบุญกันอยู่นั้นจอมตื่นสายสองคนจึงสงบปากสงบคำเป็นพิเศษ
ในส่วนของครามนั้น...ร้องไห้จนน่าสงสาร
กอดเข่านั่งจ๋องอยู่หน้ารูปพี่ชายแล้วก็สะอึกสะอื้นอยู่คนเดียวเงียบๆ
พวกเราปล่อยให้ครามนั่งอยู่อย่างนั้นและหลบฉากออกมาให้อาหารปลา แต่ให้จนอิ่มแล้วเด็กอักษรก็ยังไม่เลิกร้อง จนแม่ของมันเห็นว่าทุกคนอยากกลับแล้วเลยเข้าไปดึงตัวลูกชายออกมา
------------------------------------
เรากำลังหาคู่ให้น้องอยู่นะคะ
แต่ยังไม่ลงตัวสักที ผู้ชายในเรื่องก็มีคู่ไปหมดแล้ว orz
เหลือแค่พี่เจกับพี่ช่างแอร์ซึ่งเรามองแล้วแบบ...
เออ ถ้าเหลือแบบนี้ก็ให้น้องโสดไปเหอะ 5555+