ตอนที่25
“ไอ้นิทานโว้ย อัทเพื่อนของมึงมาช่วยแล้ว!!!!!!”แม้จะซุกหัวอยู่ไหนห้องนอนแต่ผมกับครามก็ได้ยินเสียงของอัทชัดเจนเพราะมันตะโกนดังมาก”อรกับแจนกำลังเรียกรปภ.มาที่นี่ เธอหนีไม่พ้นแล้ว ยอมมัวตัวซะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“ใช่ๆ เธอหนีไม่พ้นแล้ว ปล่อยสองคนนั้นแล้ววางมีดลงซะ!!!!!!”แก๊ปเสริม
“อัทททททททททททททททททท”ผมตะโกนบ้าง”พวกกูอยู่ในนี้!!”
ผมกลัวว่าถ้าแง้มประตูออกไปดูว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้นตอนนี้แล้วจะโดนมีดของเจ๊หน้าห้องเสียบเบ้าตาแตกเลยไม่กล้าเปิดประตูออกไป ได้แต่เงี่ยหูฟังเพื่อนทั้งสองคนด้านนอก
เสียงแซะลูกบิดอย่างบ้าระห่ำสงบลงแล้ว เดาว่าเธอคงหันไปเผชิญหน้ากับพวกอัทแทน
“ชิบหายแล้วมั้ยล่ะ ไอ้แก๊ป!! มึงออกไปรับหน้าดิ๊ กูไม่ถนัดสู้กับผู้หญิง!!!!!!!!!!!!!”ยังไม่ทันไรก็ปอดแล้วครับ ไหนเมื่อกี้ใครพูดว่ามาช่วยแล้วนะ
“เรื่องดิ มึงอ่ะเคยโม้ว่าคาราเต้สายดำไม่ใช่เหรอ ไปเลยเพื่อน สู้เขา!!!”
“ตอนเรียนคาราเต้ครูเขาแค่ให้กูเตะแผ่นไม้ไม่เคยให้กูเตะกับมีดเว้ย!!!!”
หมดกัน
เอาตรงๆตั้งแต่ได้ยินเสียงพวกมันความกลัวของผมก็หายไปหมดแล้วอ่ะ ผมยังไม่เท่าไหร่แต่ครามนี่หลุดขำพรืด
“เพื่อนนิทานเป็นคนตลกเนอะ”
“ไม่รู้จักเวล่ำเวลา!!”ผมเอ่ยอย่างเหลืออด อย่างเปิดประตูไปเฉ่งเพื่อนที่ทำตัวเหมือนมาโชว์ตลกคาเฟ่มากกว่ามาช่วยผม หลังจากนั้นเพียงอึดใจเดียวก็ได้ยินเสียงพี่รปภ.กรูกันเข้ามา ทั้งสองฝ่ายคุมเชิงกันอยู่สักพักก่อนทุกอย่างจะเงียบลง ผมหันไปสบตากับครามเพื่อถามว่าควรเปิดประตูออกไปได้รึยัง
ก๊อกๆ
“เชี่ย เป็นไงบ้างมึง ออกมาได้แล้ว เรื่องจบแล้ว”อัทเดินมาเคาะประตูเรียกพวกเราทำให้ผมกับครามถอนหายใจด้วยความโล่งอก ผมปลดกลอนและปีนข้ามกองโต๊ะเก้าอี้ที่เข็นมาขวางไว้ออกไปโดยไม่ลืมหันมาช่วยฉุดคนตัวเล็กที่ดูทุลักทุเลด้วย
และเมื่อผมออกมาจากห้องผมก็สบเข้ากับนัยน์ตาวาวโรจน์ของผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวในห้อง
อาวุธมีดอยู่ในมือของแก๊ป ส่วนเจ้าหล่อนก็ถูกพี่รปภ.จับแขนไพล่หลังและล็อคกุญแจมือไว้ทว่าดวงตาของหล่อนกลับมองมายังผมไม่กระพริบนั่นทำให้ผมรู้สึกขนพองสยองเกล้าสุดๆ
“ที่เธอบอกว่าผลักลงมานั่นหมายความว่ายังไง เธอคือเอิญเหรอ!!?”ทว่าเด็กอักษรที่มีอาการหวาดกลัวก่อนหน้านี้กลับรวบรวมความกล้าและเข้าไปใกล้หล่อน จับบ่าของเธอเขย่าไปมาเหมือนกับว่าถ้าเขย่าแรงๆความจริงมันจะร่วงลงมาจากปากอย่างงั้นแหละ
“ฮึก...”
“หะ!?”ผมและคนอื่นๆในห้องหลุดอุทานเสียงหลงเมื่อยัยผีบ้าอยู่ดีๆก็บีบน้ำตาและร้องไห้
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย เด็กพวกนี้จับฉันมา ฮึก พยามจะข่มขืนฉัน ฉันแค่ป้องกันตัว ฮืออออ”
“โอ้โห...”ครามอุทานออกมาเท่านั้นก่อนจะถอยกรูดออกมา ผมกับเพื่อนๆมองเธอแบบอึ้งๆ
“อีบ้า!!! ตอแหลชัดๆใครจะไปเชื่อวะ พี่ พี่ก็เห็นใช่ป่ะตอนเข้ามา เพื่อนผมเกือบตาย!!”แก๊ปโมโห มันหันไปหาพี่ยามเขาจะได้เป็นพยานให้แต่พี่ยามกลับมีท่าทีลังเล เขามองน้ำตาของเจ้าหล่อนอย่างชั่งใจ
“เหมียว...เหรอ...”
แต่ก่อนที่จะมีใครพูดอะไรมากกว่านั้นก็มีใครคนนึงเดินแทรกเข้ามาในห้อง เขาเดินตรงไปยังร่างของหญิงสาวที่สะอึกสะอื้นกองอยู่กับพื้น นัยน์ตาสีขี้เถ้าของพี่กาจน์ไหววูบขณะทอดมองเธอ
“รู้จักด้วยเหรอ”เป็นครามที่ถามขึ้นนั่นทำให้พี่กาจน์หลุดออกจากภวังค์และเดินตรงปรี่มาหาผม
พี่เขาจับผมพลิกซ้ายพลิกขวาสำรวจร่างกายก่อนดึงเข้าไปกอดซะแน่นโดยไม่ตอบคำถามของครามเลย ผมรู้สึกเขินเพราะในห้องนี้มีคนอยู่เยอะแยะแต่ก็ยอมให้เขากอดและฟังเขาพูดคำว่าขอโทษซ้ำไปซ้ำมา
“นิทานไม่เป็นอะไรใช่มั้ย พี่ขอโทษที่มาช้านะ พี่ขอโทษที่ปล่อยนิทานไว้คนเดียว ทั้งๆที่เคยพูดว่าจะไม่ให้คลาดสายตาแล้วแท้ๆ แต่พี่กลับ... พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ..”
“พี่กาจน์ ผมไม่ได้เป็นอะไร ใจเย็น”ผมเรายืนสบตากันนิ่งงัน ในใจพี่กาจน์ตอนนี้คงมีหลากหลายความรู้สึกจนลำดับความคิดไม่ได้เลย
“พี่กาจน์คะ...ฮึก เหมียว ช่วยเหมียวด้วย พี่กาจน์”กระทั่งมีเสียงวิงวอนดังแทรกขึ้นมา ผู้หญิงที่ชื่อเหมี่ยวสะบัดตัวออกจากการล็อคของรปภ.และเอาตัวเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรา เธอเบียดเข้ามาด้วยแรงไม่น้อยผมจึงเซถอยหลังจนเกือบล้ม
การกระทำของเธอทำให้พวกเราอึ้งอีกครั้ง
ผมว่าตอนเธอถือมีดบุกเข้ามามันดูบ้ามากแต่ตอนที่เธอบีบน้ำตาทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำและพยามซุกหน้าลงกับอกของพี่กาจน์นั่นบ้ากว่าหลายเท่า
พี่กาจน์สืบเท้าไปข้างหลังเพื่อหลบเธอแต่เธอก็ก้าวเดินตาม คือกูจะซุกให้ได้ต่อให้มึงถอยไปถึงอำเภอแม่สายกูก็จะก้าวตามมึงไปทุกก้าว ทุกก้าว ทุกก้าว
“เชี่ยยย สยองสัส...”อัทรำพึงขณะมองภาพตรงหน้า
พี่รปภ.ที่เพิ่งดึงสติได้รีบเข้าไปคว้าตัวผู้บุกรุกสาวเอาไว้ คราวนี้พวกพี่เขาคงเชื่อสนิทใจแล้วว่าเจ้าหล่อนเป็นบ้าจริงๆ
“พี่กาจน์คะ พี่กาจน์ กาจน์เชื่อเหมียวมั้ย พี่กาจน์จะทิ้งเหมียวเหรอคะ พี่กาจน์คะ พี่กาจน์ พี่กาจน์”คนถูกเรียกเดินเลี่ยงมาหาผม เขากุมมือของผมเอาไว้ก่อนรั้งให้กระเถิบถอยออกมาห่างๆจากผู้หญิงคนนั้น
“รู้จักด้วยเหรอ...”ผมกระซิบถามอีกครั้ง
พี่กาจน์พยักหน้าแทนคำตอบ เขามีท่าทีลำบากใจแต่ก็ยอมเปิดปากพูดออกมาในที่สุด
“เป็นลูกของอดีตคนรับใช้ที่บ้านพี่เอง แต่พอแม่ของเธอเสียเธอก็ย้ายออกไปแล้ว ทำไมถึง?”ผมคิดว่าพี่เขามีท่าทีสับสนเลยปล่อยให้อีกฝ่ายกลั่นกรองความคิดของตัวเองเงียบๆก่อนหันไปสั่งให้พี่รปภ.โทรเรียกตำรวจส่วนตัวผมก็กดต่อสายโทรหาพี่เฟิร์น
ไม่นานนักพี่เฟิร์นกับพี่กิตต์ก็มาถึง ทั้งสองคนตกใจมากตอนเห็นหน้าของเหมียว
“ทำไมถึงเป็นเหมียวล่ะ”พี่กิตต์เอ่ยเช่นนั้น เขามีอาการสับสนหนักกว่าพี่กาจน์เสียอีก พวกเราตัดสินใจนั่งรอตำรวจที่ห้องนั่งเล่นโดยใช้กุญแจมือของรปภ.ล็อคเหมียวไว้กับราวบันได ปล่อยหน้าที่เฝ้าจับตามองเธอให้เป็นของรปภ.ส่วนผมก็มีหน้าที่นั่งอยู่ข้างๆพี่กาจน์
ตั้งแต่มาถึงพี่เขายังไม่ยอมปล่อยมือผมเลย นี่มันก็ผ่านมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วที่พวกเรานั่งหน้าเครียดกันอยู่ มือที่กุมกันไว้ชื้นเหงื่อไปหมด แน่นอนว่าผมไม่นึกรังเกียจพี่กาจน์เองก็เช่นกัน อัทเสนอให้แจนกับอรกลับบ้านไปก่อนแต่พวกเธอบอกว่ากลับไปก็เป็นห่วงจนไม่เป็นอันทำอะไร ขออยู่เป็นเพื่อนทุกคนที่นี่ดีกว่า
“พวกเราไม่เคยคุยกับเหมียวเลย ไม่สิ ตัวพี่นี่ไม่เคยพูดกับเหมียวสักคำด้วยซ้ำ ถึงเราจะรู้จักหน้าตาของเหมียวเพราะแม่ของเธอเป็นแม่นมของพวกเราก็เถอะ กาจน์เคยทำอะไรให้เหมียวประทับใจเหรอ ทำไมเหมียวถึงยึดติดกับกาจน์แค่คนเดียว”พี่กิตต์คุยกับแฝดพี่ของเขา
ที่พี่กิตต์พูดมาก็ถูก ทั้งสองคนมีหน้าตาเหมือนกัน ระดับการศึกษา ฐานะทางบ้านก็อยู่ในระดับเดียวกัน แต่การที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะคลั่งไคล้แต่พี่กาจน์เพียงคนเดียวมันน่าแปลก
ผมคิดว่าเพราะนิสัยเข้ากับคนอื่นง่ายของพี่กาจน์ทำให้พี่กาจน์สนิทกับลูกสาวของแม่นม
ทว่าพี่กาจน์กลับส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ
“ไม่นะ เหมียวไม่เคยมาที่เรือนใหญ่ พวกเราก็ไม่เคยคุยกันเลย แต่ว่า...”ผมกาจน์เว้นช่วงทำให้พวกเราที่นั่งฟังอยู่เผลอกลั้นใจตาม
“ฮ่ะๆๆ อยากรู้กันใหญ่เลยนะ”
“พี่กาจน์!!!!!!!!!!!!!!!!!”พวกเราทุกคน ย้ำว่าทุกคนรวมพี่กิตต์กับพี่เฟิร์นตะโกนเรียกชื่อของคนขี้เล่นไม่รู้จักกาลเทศะ
“ป้าเพียร เอ่อ แม่นมที่เป็นแม่ของเหมียวน่ะ แกเอ็นดูพี่มากกว่าไอ้กิตต์เพราะพี่น่ารักกว่า ฮ่ะๆ ป้าแกบอกว่าแกเอาเรื่องดีๆของพี่ไปเล่าให้ลูกสาวฟังเสมอ แกอยากสอนลูกให้โตมานิสัยดีแบบพี่ ลูกของแกเด็กกว่าพวกเราแค่ปีเดียวแต่พอแม่พี่ตายแกก็ต้องมาดูแลพวกเราสองแฝดแทบเต็มเวลาทำให้ไม่ค่อยได้เลี้ยงลูกตัวเอง...”
“...”
“แกคงคิดว่าไม่มีเวลาสอนลูก การหาแบบอย่างที่ดีให้ลูกเดินตามรอยเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนั้น”
“แปลว่าพอเหมียวได้ยินเรื่องของพี่จากคำบอกเล่าของแม่ทุกครั้งที่เจอหน้าแม่ทำให้เหมียวชอบพี่เหรอคะ”พี่เฟิร์นถาม
“ผมว่าไม่ชอบหรอก มันเกินคำว่าชอบจนเข้าขั้นเทิดทูนแล้ว”ครามแย้ง”ถ้าให้เดาคนชื่อเหมียวคงไม่มีพ่อล่ะสิ แม่จึงเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ พอแม่ที่รักถูกเด็กคนอื่นแย่งชิงไปเธอต้องโกรธมาก พอแม่นมคนนั้นเอาเรื่องของพี่กาจน์ไปพูดให้เธอฟังตลอดเธอคงรู้สึกสับสน”
ความเห็นของครามทำให้พวกเรามองหน้ากันอย่างกระอักกระอ่วน
“ทั้งแค้นทั้งรักจนบิดเบี้ยวสินะ”พี่กาจน์ถอนหายใจ”ป้าเพียรเสียตอนที่พี่จวนจะจบม.6พอดี เป็นไปได้มั้ยว่านี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้สติของเหมียวไม่สมประกอบ”
“งั้นก็หมายความว่า...”ผมละคำพูดต่อไปไว้เพราะในทีนี้มีคนนอกที่ไม่รู้เรื่องอย่างพวกอัท ไหนจะมีครามอยู่ด้วย
“คนที่ผลักพี่ฟ้าลงมาคือเหมียวจริงๆ”คำพูดของครามทำให้พี่เฟิร์นกับพี่กิตต์ตกใจ เมื่อผมกับพี่กาจน์พยักหน้าเสริมทั้งสองคนยิ่งตกใจและสับสนเข้าไปใหญ่
“เดี๋ยวสิ หมายความว่ายังไงคะเนี่ย ก็เอิญรับสารภาพหมดทุกอย่างแล้วนี่...”พี่เฟิร์นเอ่ยอย่างสบสน พี่กิตต์แตะไหล่เธอและเพยิดหน้าไปที่ประตู
พวกเราทุกคนมองตามและพบกับผู้มาใหม่กลุ่มหนึ่ง
คุณตำรวจเข้ามาควบคุมตัวของเหมียวทันทีที่มาถึง แต่กลุ่มคนที่มาไม่ได้มีแค่ตำรวจ ในนั้นยังมีพ่อ แม่ และน้องสาวของพี่กาจน์ด้วย
เด็กผู้หญิงที่อายุเท่าผมแถมยังมีดวงตาที่คล้ายกันยืนอ้ำอึ้งอยู่ตรงทางเข้า เธอมองมาที่พี่กาจน์พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นและไหลรินแบบเงียบๆ
“คนนี้ใช่มั้ยเอิญ”คนที่ผมเดาว่าเป็นแม่ของพี่กาจน์ชี้ไปยังเหมียวพลางเอ่ยถามลูกสาวของตนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เอิญทำเพียงแค่พยักหน้าซ้ำไปซ้ำมา
พี่กาจน์กับพี่กิตต์ลุกขึ้นยืนนั่นทำให้พวกที่เหลือต้องลุกตามและเดินไปหาผู้อาวุโสทั้งสองท่าน
สองพี่น้องฝาแฝดมีอาการกระอักกระอ่วนเมื่อได้พบหน้าน้องสาวคนเล็กอีกครั้ง
“เอิญ”เป็นพี่กาจน์ที่รวบรวมสติและเอ่ยถามน้องสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มันคือความอ่อนโยนที่เจือปนด้วยความสงสาร ผมบีบ
มือของพี่กาจน์เพื่อให้กำลังใจเขาจึงเปลี่ยนจากการจับมือเป็นประสานมือแทน
เด็กสาวก้มลงมองมือของพวกเราเล็กน้อยก่อนจะฝืนน้ำตายกยิ้มให้พี่ชายของเธอ
“คนที่ผลักพี่ฟ้าลงมาวันนั้น ไม่ใช่เอิญใช่มั้ย”
“ใช่”คนที่ตอบไม่ใช่เอิญแต่เป็นเหมียวที่กำลังจะถูกตำรวจพาตัวออกไป”ฉันเป็นคนกำจัดมันออกไปเอง ทุกคนที่ทำให้พี่กาจน์แปดเปื้อน พวกสกปรก ถึงจะเป็นน้องแต่ก็เป็นน้องนอกไส้ คนพวกนั้นต้องหายไปจากชีวิตพี่กาจน์ให้หมด!!!!!!”
ยังคำเสียงสาปแช่งของแม่มด ทั้งๆที่เมื่อครู่เธอยังร้องไห้คร่ำครวญราวกับตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำอยู่เลย
“ฮึก...”คนที่กลัวเสียงนั้นที่สุดคือเอิญ ตัวของเธอสั่นเทาแล้วก็ร้องไห้ไม่หยุดจนแม่ของเธอต้องดึงเธอเข้าไปกอด
“เอิญกลัว..ฮึก ผู้หญิงคนนั้นบอกให้เอิญไปที่มหาลัยของพี่กาจน์ ให้พาแฟนของพี่ไปที่ตึกนั้น เอิญทำตามเธอเพราะเอิญก็ไม่ชอบใจที่พี่มีแฟน ฮึก เอิญคิดว่าพวกเราจะข่มขู่ให้แฟนของพี่เลิกกับพี่ แต่เธอกลับผลักเขาลงไป เอิญตกใจมาก เอิญตกใจมากๆ ตอนที่พี่เงยหน้าขึ้นมามองเอิญ สายตาของพี่มันน่ากลัว ฮึก เอิญไม่อยากถูกพี่มองแบบนั้น พี่เกลียดเอิญแล้ว พี่กาจน์เกลียดเอิญ เอิญไม่มีหน้าไปเจอพี่กาจน์อีกแล้ว ฮึก ฮืออ...”
“ก็เลย...ยอมรับผิดจะได้อยู่ในสถานพินิจเนี่ยนะ...”พี่กาจน์ครวญครางเสียงแผ่ว สีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
พวกเราที่เหลือก็พากันอึ้ง
พวกอัทที่ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนก็คงพอปะติดปะต่ออะไรได้หลายๆอย่าง
คุณพ่อของพี่กาจน์ถึงกับถอนหายใจ ท่านเดินเข้ามาตบบ่าของลูกชายคนโตด้วยสีหน้ารู้สึกผิดไม่แพ้กัน“พ่อขอโทษ พ่อก็รีบร้อนให้ตำรวจปิดคดีโดยไม่ได้สืบให้ดีเพราะพ่อคิดแค่ว่ามันคือทางออกที่ดีสำหรับครอบครัวเรา ขอโทษคุณด้วย ผมทำให้ลูกสาวของคุณเสียเวลาฟรีไปตั้งหลายปี”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจ ตอนนั้นเอิญแกเพิ่ง15เลยคิดหนีแบบเด็กๆ ฉันผิดเองที่เลี้ยงลูกไม่ดี”
ต่างคนต่างขอโทษกันไปขอโทษกันมา มีแค่พี่กาจน์ที่ยังยืนติดสตันท์ทำอะไรไม่ถูก ผมเหลือบมองเสี้ยงหน้าด้านข้างของพี่กาจน์อย่างสงสาร”เอ่อคือว่า...สวัสดีครับเอิญ”ผมยื่นมือข้างที่ว่างไปหาเธอ น้องสาวของพี่กาจน์มองมือนั้นอย่างงุนงง หลายวินาทีกว่าเธอจะวางมือลงมาทับบนมือของผม
ผมจัดการพามือนั้นไปแตะมือข้างที่พี่กาจน์จับผมไว้ก่อนจะดึงมือของตัวเองออกมาแทน
ผมยิ้มให้ทั้งสองคน
“ดีกันแล้วนะ”
ผมรู้ว่าพวกเขาอยากกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมแค่ไหน แต่ตอนนี้อะไรๆมันปุบปับไปหมด ถ้าไม่มีคนช่วยเริ่มก็คงไม่ขยับไปไหนกันเสียที
“ฮึก ฮือ อึก อะ...พี่กาจน์ เอิญ ขอโทษ ฮึก...”คนเป็นน้องสาวสะอื้นฮั่กจนตัวโยน เธอหมดเรี่ยวแรงจนลงไปนั่งทรุดกับพื้นอย่างน่าเวทนา พูดแค่คำว่าขอโทษซ้ำไปซ้ำมาจนผมเห็นว่าพี่เฟิร์นกับพี่กิตต์เริ่มมีน้ำตาคลอ ส่วนของคุณลุงกับคุณป้านั้นน้ำตาไหลไปนานแล้ว
พี่กาจน์ไม่ได้ร้องไห้ พี่เขาแค่นั่งจับมือเอิญไว้เงียบๆ ทอดสายตามองน้องสาวโดยไม่พูดอะไรกระทั่งเอิญค่อยๆสงบสติอารมณ์ได้พี่เขาเลยพูดว่า
“พี่ขอโทษที่ทำให้เอิญเป็นแบบนี้ ขอโทษนะครับ ตั้งแต่วันนี้เราเริ่มกันใหม่นะ เริ่มเป็นพี่น้องกันใหม่..จากนี้และตลอดไปเนอะ”
คำว่าเป็นพี่น้องกันตลอดไปฟังดูโหดร้ายแต่นั่นคือความจริง เอิญมองนิ้วก้อยของพี่กาจน์ก่อนคลี่ยิ้มออกมา
“อื้ม เอิญดีใจที่ได้เป็นน้องของพี่”
และแล้วทุกสิ่งที่อย่างก็คลี่คลาย พวกอัทขอตัวกลับบ้านส่วนคุณลุงกับคุณป้าขอตัวพาเอิญไปสถานีตำรวจ หลังจากนี้คงต้องสู้คดีเพื่อเอาผิดเหมียวและล้างมลทินให้เอิญอีก ผมกับพี่กาจน์ตัดสินใจไปค้างคืนกันที่คอนโดของพี่กิตต์
หลังจากมาถึงคอนโดผมก็ถูกไล่ไปอาบน้ำในขณะที่พี่กาจน์กับพี่กิตต์นั่งคุยโทรศัพท์กับพ่อแม่ที่ยังไม่กลับจากสถานีตำรวจ อันที่จริงผมต้องไปให้ปากคำด้วยแต่ด้วยเส้นสายและความเอาแต่ใจของพี่กาจน์ทำให้เขารั้งตัวผมไว้สำเร็จ คนที่ไปให้ปากคำที่โรงพักจึงมีแค่ครามเท่านั้น
อา... พูดถึงคราม ไม่รู้ป่านนี้เจ้าตัวเป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่รู้ว่าคนร้ายที่ฆ่าพี่ชายคือใครก็ซึมเงียบตลอดเลย
คืนนี้พี่กาจน์ยังคงนอนห้องเดียวกับผมและตอนนี้เขาก็หลับไปแล้ว
ผมมองใบหน้าของคนที่เข้าสู่ห้วงนิทราด้วยรอยยิ้มสุขใจ ทั้งๆที่ไฟในห้องยังเปิดอยู่แต่คนนอนยากอย่างพี่กาจน์ก็ยังนอนหลับ นั่นแปลว่าเขาปล่อยวางอะไรหลายๆอย่างที่เก็บไว้ในใจมาตลอดได้แล้ว
ก่อนเข้านอนคืนนั้นผมกดเปิดเฟส ไถหน้าจอไปเรื่อยๆก่อนไปสะดุดกับภาพภาพหนึ่ง
ชื่อคนโพสต์คือพี่กาจน์ คนในรูปมีทั้งหมดสามคน คนซ้ายคือพี่กาจน์ที่แย้มยิ้มกว้าง คนกลางคือเอิญที่ยิ้มทั้งน้ำตา และคนขวาคือพี่กิตต์ที่อมยิ้มน้อยๆตามประสาคนยิ้มยาก
แคปชั่นเขียนไว้สั้นๆแต่มีความหมายว่า smile again
นั่นคือครั้งแรกในรอบ 4ปีที่พี่กาจน์โพสต์รูปตัวเอง และนั่นคือครั้งแรกในรอบ 4ปีที่สามพี่น้องได้กลับมาพบกันอีกครั้ง
ผมมีความสุขมากตอนที่พวกเขายอมถ่ายรูปหมู่ตามคำขอของผม และผมยิ่งดีใจกว่านั้นเมื่อพูดกาจน์บอกว่าจะโพสต์มันลงโซเชียล
ในที่สุดปมในใจของพี่กาจน์ก็คลี่คลายลงแล้ว
-------------------------
เหมียวจะมีซีนสั้นๆเป็นของตัวเองด้วย บางอย่างที่ยังไม่เคลียร์ในตอนนี้จะมีกล่าวถึงในพาร์ทนั้นนะคะ
ตอนนี้เราเลือกให้ลงเอยแบบนี้เพราะเราอยากให้พี่กาจน์มีความสุขค่ะ!!
บางทีถ้าเลือกจบที่เอิญเป็นคนทำจริงๆมันอาจจะสร้างซีนดราม่าเล่นใหญ่ได้มากกว่านี้ แต่โทนเรื่องที่เราคาดหวังไม่ใช่นิยายแนวขมคอ(?) ยี่สิบกว่าตอนที่ปูมาก็เพื่อตอนนี้ ตอนที่พี่กาจน์ยิ้มได้แบบ ยิ้ม~~ ยิ้มแบบในรูปถ่ายครอบครัวที่โพสต์ลงเฟสรูปนั้น
ปล.เจอกันใหม่มกราคมนะคะ สุขสันต์ปีใหม่ ขอให้ทุกคนมีความสุขค่ะ!