เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ลาแล้วหนาบ้านเก่า ดินแดนที่เราเกิดมา
กุศลไม่พอ ขอไปตายเอาดาบหน้า ตายเสียอย่างนกกา ช่างมันเถิดหนาชาตินี้
อีกสามวันขันหมากเขามา กลัวน้ำตานองหน้า อยู่ไปเห็นท่าไม่ดี
ตัดใจอำลาแล้วแก้วตาแฟนพี่ วิวาห์เสียเถิดคนดี ลืมพี่เสียนะ หน้ามล
โลกหมุนให้เรา พบกันชั่วครู่ชั่วคราว แต่เราไม่มีกุศล เพราะว่าโฉมตรู ไม่ใช่เนื้อคู่คนจน
สวรรค์เบื้องบน ให้น้องเป็นของคนมี หิ้วกระเป๋าก้าวลงบันได เดินก้มหน้าร้องไห้ ไม่รู้จะไปไหนดี
ไม่มัวลังเลเดินขึ้นรถเมล์ทันที ตัดใจจากบ้านวันนี้ ไม่มีจุดหมายปลายทาง…
ไอ้สัส!!!
หันไปด่ารถอีแต๋นที่เพิ่งขับผ่านหน้าไปโดยเปิดเพลงดังมากมาจากในรถ กูจะไม่ด่าเลยถ้าเพลงที่มันเปิดไม่เข้ากับอารมณ์กูในตอนนี้
มือหนึ่งถือกระเป๋า มือหนึ่งกุมตูด…
ตัดสินใจเลือกที่จะถอยไปตั้งหลักก่อน ไหนๆผมก็ยังไม่มั่นใจความรู้สึกของตัวเองว่ามันคือความรักหรือเปล่า ถึงจะได้กันแล้วแต่มันก็แค่ครั้งเดียว ไม่สิ คืนเดียวแต่หลายครั้ง เอาเป็นว่ามันยังไม่บ่อยถึงขั้นจะลืมไม่ลงหรอก!
คิดว่านะ…
“ขอโทษนะฮะ แต่ถ้าผมไม่ไป เฮียก็จะต้องเจอกับเรื่องเจ็บปวดพรรค์นั้น มีหวังคราวนี้นกเขามึงไปสู่สุขคติไม่ยอมกลับชาติมาเกิดอีกเป็นครั้งที่สามแน่นอน”
พึมพำคนเดียว สายตาละห้อยมองไปยังหลังคาบ้านพลางนึกย้อนถึงวันเก่าๆที่เคยมีพวกไม้เลื้อยขึ้นไปเจริญเติบโตกันอยู่เต็มไปหมด สุดท้ายก็มีแต่กูที่เสี่ยงตายลงทุนปีนขึ้นหลังคาเพื่อไปถอนพวกมันออกจนหมด หลายๆสิ่งในบ้านหลังนี้ผมลงทุนลงแรงทำให้มันน่าอยู่ขึ้นด้วยตัวเอง พอต้องมาจากไปเองแบบนี้แล้วมัน…
ปวดใจแฮะ
เผาะ…
เผาะ…
เผาะ…
“บะ…บ้าน่า”
เอามือข้างที่กุมตูดขึ้นมาจับแก้ม สัมผัสได้ถึงความปียกชื้นที่ไหลออกมาจากดวงตา แต่ไม่ว่าผมจะมองไปทางส่วนไหนของบ้านหลังนี้ ผมก็จะเห็นแต่ภาพของตัวเองกับเฮียจ้าวในอิริยาบถต่างๆที่ทำร่วมกัน
“ห้ามร้องนะไอ้ไข่ ห้ามร้อง ฮึบบบ!”
ฟืด…!
กูจะฮึบไม่ให้ร้องเว้ย ไม่ได้จะสั่งน้ำมูก ไหลย้อยเป็นน้ำตกเลย…
ฟืดดดดด!
ไหนๆก็ไหลออกมาแล้ว ผมเลยถือโอกาสสั่งน้ำมูกทิ้งท้ายไว้ตรงสนามหญ้าเพื่อเป็นอนุสรณ์ว่าครั้งหนึ่ง…ไข่ม้วนสุดหล่อแห่งสามโลกเคยหลวมตัวมาเหยียบที่แห่งนี้
“ลาก่อนนะฮะ เฮียจ้าว…”
ช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน…ผมมีความสุขจนไม่สามารถบรรยายได้ ต่อให้ตาย…ก็จะไม่มีวันลืมสัมผัสเมื่อคืนนี้อย่างแน่นอน
สัมผัสที่อ่อนโยนและรุนแรงในคราวเดียวกัน
ผมจะจดจำมันไว้ตลอดไป
บนรถตู้
ซุบซิบๆๆๆ
บนรถตู้ที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยนึกได้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดของไอ้เล้งพอดีผมเลยตั้งใจว่าจะไปบ้านมันเกิดเสียงซุบซิบระยะเผาขนหน้าแข้ง ผมเหลือบมองรอบข้างที่พากันส่งสายตาฉงนมาให้ก่อนที่พี่คนขับจะตะโกนถาม
“น้อง! ทำไมไม่นั่งล่ะ”
ใช่…
สิ่งที่ทำให้ทุกคนทั้งรถพากันสงสัยก็เพราะผมที่นั่งตรงกลางและอยู่เบาะหลังสุดนั้นไม่ยอมนั่ง แต่ใช้วิธียืนและก้มตัวลงต่ำตามความสูงของรถโดยใช้เบาะนั่งของคนที่อยู่ข้างหน้าเป็นที่ยึดจับเอาไว้ไม่ให้ล้ม แม้จะรู้ดีว่าการมายืนโก้งโค้งในรถตู้ที่อัดแน่นไปด้วยผู้โดยสารนั้นมันน่าอายมากแค่ไหน หากแต่ความระบมตรงทางเข้ายังไม่สามัคคีกันเท่าที่ควรผมจึงจำเป็นต้องทำ!
“ผมเป็นริซซี่น่ะพี่ นั่งไม่ได้หรอก เดี๋ยวริซซี่แตก!”
“อะไรนะ เป็นอะไรนะน้อง”
“ริซซี่!”
“อยากกินเป็นซี่?!”
“โหยยย กูบอกว่ากูเป็นริดสีดวงที่ตูดโว้ยยยย นั่งไม่ได้ ถ้านั่งเดี๋ยวมันแตก ยังอยากให้นั่งอยู่ไหมล่ะ!!!”
ตะโกนเสียงดังลั่นอย่างหมดความอดทน แค่ต้องมายืนแบบนี้กูก็เมื่อยจะแย่แล้ว ยังจะมาเซ้าซี้ถามนู่นถามนี่อีก!
กูมันคนหล่อแต่โคตรมีกรรม…
ห้องของเล้ง
“เฮ้อ…”
ถอนหายใจออกมาเป็นครั้งที่ล้านแปด หลังจากที่ร้องห่มร้องไห้กับไอ้เล้งไปพักใหญ่ก็ขอตัวมายืนคิดอะไรคนเดียวตรงระเบียง หลักๆก็คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้นั่นแหละ พอหัวใจสงบลง สติมาปัญญาก็เกิด ผมชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าตัวเองตัดสินใจถูกหรือเปล่า
หัวใจมันบีบดรันกันจนเจ็บปวดเมื่อนึกถึงหน้าของเฮียจ้าว
มันจะรู้หรือยังว่าผมหนีออกมาแล้ว
อ่า…ให้ตายสิ แค่คิดว่ามันอาจจะช็อกและเสียใจที่ผมทิ้งมันมาโยไม่ยอมบอกเหตุผลก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ในหัวมีแต่เรื่องของไอ้ดำอยู่เต็มไปหมดเลยย!
“ไอ้ไข่…”
เสียงนุ่มทุ้มของคนที่รู้จักเป็นอย่างดีดังขึ้นจากด้านหลัง ผมหันไปมองไอ้ไม้พายที่ยืนมองอยู่ด้วยสายตาเป็นห่วง
“ไอ้เหี้ยพาย…”
หมับ!
โผเข้ากอดมันอีกคน แน่นอนว่ามันกอดผมกลับจนแน่น ความอบอุ่นและความเป็นห่วงที่ได้รับจากเพื่อนทำให้น้ำตาไหลออกมาอีกรอบ
ไม่ว่าจะพยายามกลั้นมันเอาไว้แค่ไหน ผมก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่ร้องไห้เป็นบ้าอยู่แบบนี้ก็เพราะคิดถึงเฮียจ้าว
“มึงเป็นอะไร ใครทำอะไรมึง บอกกูมาสิ”
“เปล่า ไม่มีใครทำอะไรกู”
ถ้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด พวกมันก็จะต้องรู้ว่าผมสูญเสียทุ่งลาเวนเดอร์ไปเรียบร้อยโรงเรียนดำดอทคอมแล้ว!
“อย่าโกหกนะไอ้ไข่ มึงกับกูเป็นเพื่อนกันมากี่ปี”
“มึงไม่ใช่เพื่อน มึงเป็นคุณพ่อ อย่ามาเนียนสิ”
“ขนาดดราม่ามึงก็ยังจะตลกอีกนะ”
ไอ้ไม้พายดันตัวผมออกห่าง สองมือจับบ่าผมเอาไว้แล้วจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตา สูงกว่ากูแค่สามเซ็นฯอย่ามาทำแมนหน่อยเลย
“มึงอยากรู้จริงๆเหรอ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกู”
เอ่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจัง ไอ้ไม่พายยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความดีใจที่ผมจะยอมเปิดปากเล่าอะไรบ้าง
“อยากรู้ พวกกูทุกคนอยากช่วยมึงนะไอ้ไข่”
“กูรู้ กูขอบใจพวกมึงมากจริงๆ”
“งั้นก็บอกมาว่าเกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรมึง”
เกิดความเงียบขึ้นหลายนาที ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ดึงมือไอ้ไม้พายที่จับบ่าผมอยู่ออก เอื้อมมือไปจับบ่ามันแทน
“คือว่า…”
“…”
“…”
“…”
“กูท้องผูกว่ะ ขี้ไม่ออกมาหลายวันแล้ว พอเมื่อเช้ามันทำท่าจะออก แต่ในช่วงไคล์แม็กซ์สุดท้ายแม่งเสือกหักกลางซะงั้น ไอ้ส่วนที่เหลือเลยยังคาอยู่ในตู…”
พลั่ก!!!
“เจี๊ยกกกกกก มึงถีบกูทำม๊ายยยยย!”
“ไม่ได้ถีบอย่างเดียว กูจะกระทืบมึงด้วยไอ้ไข่ ไอ้กวนตีน ไอ้…!”
หมับ!
“ใจเย็นเว้ยไอ้พาย ถ้ามึงกระทืบจนตูดมันสะเทือนเดี๋ยวตรงนั้นก็ระบมหมดหรอก รอให้มันหายดีก่อนสิเว้ย”
ไอ้เล้งที่ถลาเข้ามาห้ามไอ้ไม้พายเอาไว้พร้อมกับไอ้หมอนและไอ้หลามที่เข้ามาช่วยพยุงผมเอ่ย โชคดีที่ไม่ถึงขั้นล้มก้นจ้ำเบ้าไม่งั้นคงระบมนั่งไม่ได้ไปอีกหลายวัน
“เออว่ะ กูลืมไปว่ามันเพิ่งเสียตูดมา”
“ฮะ?!!!”
“จะเสียงดังทำไมเนี่ยไอ้ไข่ หูจะแตก”
ไอ้หมอนที่ยืนจับแขนผมอยู่บอกพร้อมใช้นิ้วก้อยแหย่รูหูด้วยความหงุดหงิด
“พะ…พวกมึงรู้เหรอวะว่ากู…”
“มึงร้องไห้มาซะขนาดนั้น แถมยังนั่งไม่ได้พอตอนกูถามว่าโดนมาใช่ไหมก็เสือกเงียบเป็นคำตอบแทน คงไม่มีใครคิดว่ามึงสะดุดล้มทับมะเขือยาวของใครเข้าพอดิบพอดีหรอกไอ้ฟาย!”
ไอ้เล้งอธิบาย คำอธิบายของมันทำเอาผมแทบล้มทั้งยืน
หมดกัน…
เชื่อแล้วจริงๆว่าความลับไม่มีในโลก
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพอีก 50% ที่เหลือจ้า ความดราม่ายังต้องร้องไห้ซะเองเมื่อเจอน้องไข่และผองเพื่อน ตอนหน้าคุณพีกับเฮียจ้าวจะมาปรากฏตัวแล้ววว พลังหึงหวงมันจะมากมายเบอร์ไหนกันน้อววว พะพายมีความเป็นคุณพ่อสูงมาก สั่งสอนลูกชายได้เจ็บถึงทรวงดีแท้ ส่วนคุณแม่เล้งก็ห่วงสมรรถภาพทางประตูหลังของลูกไข่จึงต้องรีบมาห้ามคุณพ่อ 5555+
ตอนหน้ามาหวานๆขมๆกับคู่รักสายฮาร์ดคอกันต่อนะคะ >___<
#เฮียจ้าวคนกินไข่ ติดแฮชแท็กนี้มาหวีดกันในทวิตเตอร์ได้เน้ออออ