ตอนที่ ๕๖
“มาหาใครเหรอครับ” ยามวัยกลางคนที่นั่งอยู่ในป้อมยาม ถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ผมมาหาพี่ต้นครับ” น้ำหยดตอบ พลางยิ้มกว้าง
“ต้น” ยามกลางคนขมวดคิ้ว “ต้นไหนครับ”
“พี่ต้น พันธ์พฤกษ์ น่ะครับ” คราวนี้น้ำหยดสงสัยบ้าง ... หรือจะมีหลายต้นกันนะบ้านนี้
“คุณต้นน่ะเหรอครับ” คราวนี้สีหน้าของยามกลางคนเปลี่ยนเป็นประหลาดใจ “ขอโทษนะครับ คุณเป็นเพื่อนคุณต้นเหรอครับ”
“ผมเป็นรุ่นน้อง เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับพี่ต้นน่ะครับ”
“สักครู่นะครับ” พูดจบยามกลางคนก็หันไปยกหูโทรศัพท์ พูดสายอย่างแผ่วเบาอยู่สักครู่ใหญ่ ก็หันกลับมา “เชิญคุณที่เรือนหลังนั้นนะครับ” พูดแล้วก็กดปุ่มเปิดประตูเล็กอีกด้านหนึ่ง พลางชี้ไปทางบ้านหลังที่อยู่ติดกับบึงน้ำ
“ขอบคุณครับ” น้ำหยดยิ้มจนตาหยี เดินเข้าไปในประตู แล้วเดินตรงไปยังเรือนหลังนั้น
ผกามองดูเด็หนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาชุดรับแขก ด้านตรงข้ามกับเธอด้วยความแปลกใจ ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต คิ้วเรียวยาว ริมฝีปากบาง แต่ดูอิ่มเอิบ ผิวพรรณสีน้ำตาลเกือบจะเป็นสีน้ำผึ้ง กิริยามารยาทเรียบร้อย ดูเพียงแค่การไหว้ทักทายผู้ใหญ่ เธอก็รู้ว่าทันทีว่า เด็กหนุ่มคนนี้ได้รับการอบรมมารยาทมาอย่างดีทีเดียว
“หนูเป็นเพื่อนตาต้นเหรอจ๊ะ” ผกาถามด้วยเสียงอ่อนโยน แต่แววตายังเต็มไปด้วยความสงสัย
“ครับ ผมเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยน่ะครับ” น้ำหยดตอบด้วยรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากและดวงตา
“รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย” ผกาทวนคำ “แล้วหนูชื่ออะไรจ๊ะ”
“น้ำหยดครับ เรียกผมน้ำเฉยๆก็ได้”
“น้ำ” ผกาทวนชื่อพลางใช้ความคิดด้วยความรวดเร็ว แล้วเธอก็นึกออกว่าเธอเคยพบชื่อนี้ที่ไหน “ เราเองน่ะเหรอที่ชื่อน้ำ” ผกาพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่แข็งกระด้าง
“ครับ” น้ำหยดรับคำด้วยสีหน้างุนงง ในท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างกระทันหันของผกา
“น้ำค่ะ” เสียงขัดจังหวะจากสาวใช้ที่นำแก้วน้ำมาวางลงตรงหน้าน้ำหยด แล้ววางแก้วน้ำอีกใบลงตรงหน้าผกา สาวใช้มองหน้านายผู้หญิงของเธอด้วยความประหลาดใจ ในสายตาที่โกรธเกรี้ยวของผกา
“เข้าไปข้างในก่อน มีอะไรแล้วจะเรียก” ผกาหันไปบอกสาวใช้
“ค่ะ” สาวใช้รับคำ แล้วเดินออกจากห้องรับแขกไป
ผกาหันกลับมาที่น้ำหยด มองดูใบหน้าใสซื่อที่เปี่ยมไปด้วยความสงสัยแน่วนิ่ง พยายามข่มอารมณ์โกรธเกรี้ยวในใจให้เย็นลง อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวออกมา แต่เมื่อคิดไปถึงข้อความในสมุดบันทึกของบุตรชาย ถึงความสัมพันธ์ของบุตรชายเธอ กับ ‘น้ำ’ เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย เธอก็ต้องเกิดความขุ่นมัวขึ้นมาอีกจนได้
“เราจะมาทำไมตอนนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่เห็นเราเคยสนใจจะมาเยี่ยมเลยไม่ใช่เหรอไง นี่คิดยังไงขึ้นมาล่ะ” ผกาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบที่สุด แต่ก็ยังไม่สามารถเก็บความโกรธที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้นได้
“เกิดเรื่องอะไรครับ ผม ... ผมไม่เข้าใจว่าคุณน้าพูดเรื่องอะไร”
“ไม่เข้าใจ เราน่ะนะไม่เข้าใจ ที่ตาต้นเป็นแบบนี้ก็เพราะเรา แล้วยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอว่าไม่เข้าใจ”
“เพราะผม” น้ำหยดยิ่งประหลาดใจมากกว่าเดิม “พี่เค้าเป็นอะไรครับ”
“ใช่ เพราะเธอนั่นแหละ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วเธอยังถามอีกเหรอว่าตาต้นเป็นอะไรไป หรือเธอจะปฏิเสธว่านายต้นทำแบบนั้นเพราะผิดหวังในตัวเธอ ... ชลมารถ” ผกาเค้นเสียงเรียกชื่อของเด็กหนุ่ม ที่เธอเข้าใจว่าเป็นคนเดียวกัน กับเด็กหนุ่มในสมุดบันทึกของลูกชายเธอ ออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ชลมารถ” น้ำหยดขมวดคิ้วแนบแน่น “ใครกันครับ ชลมารถ”
“ทำไมกัน ชื่อตัวเองยังจำไม่ได้เหรอไง”
“ชื่อผม” น้ำหยดเบิกตากว้าง “ผมชื่อธาราครับ ไม่ใช่ชลมารถ คุณน้าเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าครับ”
“ธารา” ผกาทวนชื่อด้วยความงุนงง “อะไรกัน เธอไม่ใช่ชลมารถเหรอ ชลมารถรุ่นน้องของตาต้นที่อยู่คณะเดียวกันแต่คนละเอกน่ะ”
น้ำหยดได้ยินแล้วก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“อ๋อ พี่อิทธิ์เพื่อนพี่ต้นเคยพูดให้ผมฟัง เคยมีคนชื่อน้ำเหมือนผมอยู่คณะเดียวกันแต่คนละเอก” น้ำหยดพูดแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ “พี่เค้ายังบอกว่าเลยว่า ถ้าผมเป็นน้ำหยด คนนั้นคงเป็นน้ำเชี่ยว คุณน้าคิดว่าผมเป็นคนนั้นน่ะเอง” พูดจบก็ยิ้มจนตาหยี
“อะไรนะ นี่เราไม่ใช่น้ำคนนั้นหรอกเหรอ” ผกาพูดด้วยเสียงแผ่วเบา ยังคงงุนงงไม่หาย “แล้วเรา ... เอ้อ ... หนูน่ะ รู้จักกับตาต้นเค้าได้ยังไงล่ะ” น้ำเสียงของผกาอ่อนโยนลง แต่ยังคงเปี่ยมไปด้วยความสงสัย
“ผมเพิ่งรู้จักกับพี่เค้าเมื่อตอนต้นเทอมน่ะครับ พี่เค้ามาหาผมที่ห้องหลายครั้ง จนเรา...” น้ำหยดรู้สึกว่าร้อนในใบหน้า คิดว่าใบหน้าของตนเคงเปลี่ยนเป็นสีแดงเสียแล้ว “เราสนิทกันน่ะครับ ตอนนี้มหาวิทยาลัยสอบเสร็จ ปิดเทอมแล้ว พี่ต้นบอกว่าให้ผมแวะมาหาวันนี้ก่อนกลับเข้าบ้านน่ะครับ”
“เป็นไปได้ยังไง ตาต้นน่ะเหรอไปหาหนู”
“ครับ พี่ต้นไปหาผมบ่อยๆ เมื่อวันศุกร์ก็เพิ่งเจอกันครับ” น้ำหยดมองดูท่าทางที่แสดงความตกใจของผกาด้วยความฉงน
“เป็นไปได้ยังไง” ผกาขมวดคิ้ว ก้มหน้าลงสีหน้าครุ่นคิด
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบ ผกาตกอยู่ในห้วงความคิด ในขณะที่น้ำหยดเองก้ไม่กล้าพูดอะไรเมื่อเห็นท่าทางของผกา
“คุณผกาคะ คุณผกา” เสียงดังขึ้นทำลายความเงียบ พร้อมกับคนที่แต่งตัวคล้ายนางพยาบาล เดินเข้ามาในห้องรับแขกด้วยความรีบเร่ง ใบหน้าแตกตื่น
“มีอะไรคะ” ผกาหันหน้าไปหาผู้เรียก
“คุณต้นค่ะ คุณต้น” เสียงบอกอย่างตื่นเต้น “รีบเข้าไปดูเถอะค่ะ”
แล้วทั้งสองคนก็พากันกึ่งเดินกึ่งวิ่งหายไปทางด้านในของบ้าน ทิ้งให้น้ำหยดนั่งงุนงงอยู่ภายในห้องรับแขกเพียงคนเดียว