ตอนที่ 24
กล้าหาญ
Naaytan_Lkh
Story Ig : คลิปทิมกับนุกแอบหลับบนรถตู้
ยอดวิวหลังจากอัพได้ยี่สิบนาที : 5672 views
คอมเมนต์ผ่านทาง Direct message :
Klahanboy : อยากเห็นหน้ามึงบ้าง
Naaytan_Lkh : (ส่งรูปเท้าแบบถ่ายสดๆ)
Klahanboy : ...
Naaytan_Lkh : 555555
Naaytan_Lkh : (ส่งรูปเซลฟี่แบบถ่ายสดๆ)
Naaytan_Lkh : ...
Naaytan_Lkh : ทำไมหายอ่ะ
Naaytan_Lkh : งอนเหรอ
Naaytan_Lkh : แกล้งเล่นโว้ยยยย
Naaytan_Lkh : กล้า
Klahanboy : ถ่ายมาให้ดูอีกสิบรูป เดี๋ยวหาย
Naaytan_Lkh : โธ่ ช่วงนี้คือช่วงที่แฮปปี้ที่สุดของกล้าหาญบอยอย่างผม!
นอกจากผมจะปรับตัวเรื่องคบกับนายท่านได้แล้ว (เราสวีตกันต่อหน้าคนเยอะๆ ไม่ได้ แต่ถ้าเราอยู่กันสองต่อสอง เราก็จะ...สวีตกันนั่นแหละครับ แต่ก็อย่าเพิ่งคิดลึกนะ!) ผมยังสนุกกับการล้อไอ้เทพเซียนเรื่องที่มันจีบไอ้น้องทิมอีกด้วย
หลังจากวันที่ไอ้เซียนมันลากผมบุกไปหาน้องทิมที่คณะนิเทศฯ แล้ว มันกับน้องก็ไม่มีอะไรคืบหน้าอีกเลย นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ไอ้เซียนก็ไม่เห็นว่าจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
มันเอาเวลาทั้งหมดของมันหมดไปกับการคิด...คิดว่าควรจะทำยังไง ส่วนเวลาของผม ไอ้ตง และก็ไอ้หมูหัน...มันหมดไปกับการล้อไอ้เซียนครับไม่ต้องสงสัยเลย
แต่ล้อไปล้อมาชักจะไม่สนุก เพราะไอ้เซียนมันยอมรับแล้วว่ามันชอบน้อง ความสนุกของเราเปลี่ยนเป็นความรู้สึกลุ้น...ความแฮปปี้ของผมเริ่มลดน้อยลงเมื่อเห็นสีหน้าหนักใจของไอ้เซียน
ตอนนี้ผมกับเพื่อนอีกสองคนเริ่มหวั่นใจแล้วว่าเซียนมันจะแห้ว นอกจากมันจะไม่ทำอะไรแล้ว ผมกับคนอื่นๆ ยังแอบรู้มาอีกด้วยว่าไอ้หมอไตเติ้ลมันตื๊อทิมหนักมากซะจนนายท่านกับนุกปวดหัวไปตามๆ กัน
พวกมันกันหมาให้ไอ้เซียนจนไม่รู้จะกันยังไงแล้ว
ผมไม่เข้าใจว่าเซียนมันรออะไรอยู่...
"ตอนแรกกูก็มั่นหน้าดีอยู่หรอก แต่พอคิดไปคิดมา..." มันนอนคว่ำบนโซฟาในห้องผมพร้อมเอาหน้าฟุบไปกับหมอนอิง "ฐานะกูต่างจากทิมมากเลย"
หมูหันกับตงหันมามองผมอย่างขอความเห็น
"กูก็จนนะ...แต่นายท่านมันก็ยังคบกับกูได้"
"สัดกล้า" ไอ้เซียนใช้เท้าของมันเขี่ยผมที่นั่งพื้นอยู่ใกล้ๆ โซฟา "มึงไม่ได้จน มึงรวย...ถ้าเทียบกับนายท่านมึงก็คงจนกว่า แต่เชื่อเถอะว่ามึงรวยกว่าคนทั่วไป"
"ไอ้ห่าเซียนเอ๊ย นี่มันฟังดูไม่เป็นมึงเลย" ผมอดด่าไม่ได้ "มึงคือเทพเซียนเอ็กซ์เอ็กซ์ ผู้นำกลุ่มชายโฉดนะเว้ย ( 'กล้าหัวจวยด้วย' ผมหันไปมองไอ้หมูหันที่ร้องแทรก) มึงให้คำแนะนำกูกับนายท่านมาตั้งมากตั้งมาย แต่ทำไมพอมาเป็นเรื่องตัวเองมึงถึงได้ไม่เอาอ่าวแบบนี้วะ"
มันเปลี่ยนท่าลุกขึ้นมานั่ง...ใบหน้าของมันโทรมไปหมด ท่าทางจะคิดหนักเรื่องนี้มาหลายวันแล้ว
"กูกลัวอกหัก"
ผมกับเพื่อนคนอื่นๆ ถึงกับทำตาโตเมื่อได้ยินอย่างนั้น
"กับคนนี้กูไม่อยากอกหักเลย"
มันต้องไว้ใจพวกผมแค่ไหนกันนะถึงได้แสดงความอ่อนแอแบบนี้ออกมาให้เห็นได้ ปกติไอ้เซียนมันเป็นมนุษย์ที่เข้มแข็งจะตาย...
"ไม่คิดว่ามึงจะชอบน้องมากขนาดนี้" ผมเอ่ยเบาๆ
"มึงไม่รู้หรอก" มันจิ้มขมับผม "มึงไม่รู้อะไรเลย"
"กูจะรู้มั้ยถ้ามึงไม่บอก"
"ก็กูไม่อยากบอกไง"
"กล้า" หมูหันเอ่ยแทรกเบาๆ "มีคนเคาะประตู"
"นายท่านหรือเปล่าวะ" ตงเอ่ยถาม มันคงเป็นแขกคนเดียวที่เราทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตา
"ไม่น่าจะใช่นะ วันนี้มันไปออกงาน..." ผมเหลือบมองไปทางไอ้เซียน "พร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ"
มันยักไหล่ ยังคงจมจ่อมอยู่กับอาการไม่มั่นใจในตัวเองของมันต่อไป (คนมีความรักมักจะผีเข้าผีออกหรือเปล่า ผมชักจะไม่แน่ใจ) ผมลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะไปเปิดรับแขกที่มาเคาะประตู
คนที่อยู่หลังประตูก็คือไอ้เชน...
คำว่านายท่านลอยไปลอยมาอยู่ในสายตาของผมทันที ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วมันไม่มี!
"ไง" มันยิ้มเขินพร้อมเกาศีรษะ "มีเรื่องจะคุยด้วย"
ผมได้ยินเสียงฝีเท้าดัง ก่อนที่ผมจะรู้ตัวผมก็โดนเพื่อนของผมจับตัวผมยัดกลับเข้าไปในห้อง ผู้นำก็คือไอ้เซียน ตามมาด้วยไอ้ตงและก็ไอ้หมูหัน ไม่มีขาดไม่มีเกิน...
"ใจเย็นๆ กูรู้เรื่องมันกับไอ้นายท่านน่า"
สิ้นเสียงของเชน ผมกับเพื่อนก็พากันยืนตัวแข็ง
มันหันมาหาผม พร้อมกับสายตาวิงวอนร้องขอ "กูมีเรื่องจะพูดกับมึงจริงๆ ถ้าไม่อย่างนั้นกูคงรู้สึกผิดไปจนตายแน่"
อะไรวะ...ผมชักจะอยากรู้แล้ว
แน่นอนว่าเพื่อนผมมันไม่ยอมง่ายๆ อยากรู้จริงๆ ว่านายท่านจ้างพวกมันกี่ตังค์กัน ทำไมถึงได้หวงผมแบบโอเวอร์โอวังขนาดนี้
"สัญญามาก่อนว่ามึงจะไม่เข้าใกล้ไอ้กล้าเกินสองเมตร" หมูหันเปิดฉาก
"ได้"
"ห้ามมองเพื่อนกูนานเกินห้าวิ" ไอ้เซียนเป็นคนพูด
"หา...เอางั้นเหรอ" เชนเริ่มขบขัน "โอเค"
"ห้าม...ห้าม..." ตงทำท่านึก "ห้ามแตะต้องตัวเพื่อนกู"
"ได้อยู่แล้ว" เชนเลิกคิ้ว "นี่พวกมึงหวงเพื่อนหรือนายท่านมันจ้าง"
บรรยากาศผ่อนคลายลงแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ
"เอาความจริงมั้ย" หมูหันทำท่ากระซิบแต่ได้ยินกันทั้งบาง "พวกกูกลัวว่ากล้าหาญเวอร์ชั่นดราม่าคิงจะกลับมา...บอกเลยว่าโคตรเหนื่อยที่จะแก้ปัญหาหรือนั่งรับฟังมัน"
อ้าว...ไอ้เพื่อนเชี่ยนี่
"อะไรที่มันสามารถป้องกันดราม่าระหว่างมันกับนายท่านได้ พวกกูพร้อมที่จะทำ" ตงเสริม
"เพราะพวกแม่งดราม่ากันทีไรลำบากกันไปหมด" เซียนตบท้าย
กูจะบ้าตาย...มันก็ไม่ได้หนักหนาขนาดนั้นหรือเปล่าวะ โอ้ยยยยยยย
โชคดีที่เชนไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องหนักหนาอะไร เด็กวิศวฯ เพียงหนึ่งเดียวในนี้ส่งเสียงขำเล็กน้อยก่อนที่จะมองหน้าผมอีกครั้ง
"กูขอเข้าไปในห้องมึงได้ป่ะ"
"ได้" ผมรับคำ "เข้ามาเลย"
ไอ้เชนเดินนำเข้าไปก่อนพวกเราทุกคน ลับหลังมันเพื่อนผมเอาแต่สะกิดผมกันใหญ่
"อย่าหว่านเสน่ห์"
"อย่าใช้สายตา"
"อย่ามารยา"
โว้ยยยยยยยยยย นี่กูเพื่อนพวกมึงไง...คนที่แมนที่สุดในโลกอ่ะ กูจะใช้สิ่งเหล่านั้นไปเพื่ออะไร!
เชนนั่งแทนที่ผมบนพื้นหน้าโซฟา ขณะที่พวกเราคนอื่นๆ นั่งจ้องมองมันอยู่บนเก้าอี้นวมตัวอื่น
ผมถูกไอ้เซียนไล่ให้ไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับเชนซึ่งห่างจากมันมากที่สุด ทุกคนรอคอยว่าเชนต้องการที่จะพูดอะไรกับผมกันแน่
"กูควรไลฟ์สดให้นายท่านมันดูด้วยดีมั้ย" หมูหันกระซิบกับตงอย่างไม่แน่ใจ
"เข้าท่า" ไอ้ตงก็เห็นด้วยไปกับมัน
"อย่า ไอ้สัด" ผมท้วง "เดี๋ยวมันก็ไม่ได้ทำงานทำการกันพอดี"
พวกมึงกลัวกูกับนายท่านจะดราม่ากันหรือพวกมึงจะสร้างดราม่าให้กูกับนายท่านกันแน่...ให้ตายสิวะ
"เชน...มึงมีอะไรจะพูดกับกูเหรอ"
ทุกคนกลั้นหายใจราวกับต้องการรอคอย...ผมเองก็เช่นกัน
"อย่าโกรธกูนะ" มันค่อยๆ พูด ทำสีหน้าสลดอย่างคนรู้สึกผิด "กูยังอยากเป็นเพื่อนกับมึงอยู่"
"พูดออกมาได้แล้ว" หมูหันเคาะโต๊ะหน้าโซฟาเสียงดัง
"ขอโทษทีนะกล้า"
"..."
"ที่ผ่านมากูไม่ได้ชอบมึงเลย" เสียงแอร์ดังกระหึ่มเพราะคนที่อยู่ในห้องของผมไม่กล้าแม้แต่ที่จะหายใจ...ผมหันซ้ายหันขวาอย่างงงๆ ไม่รู้ว่าตัวเองควรรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ดี
คนที่มีปฏิกิริยาตอบรับหนักที่สุดก็เห็นจะเป็นเพื่อนผมนี่แหละ
"อะไรนะ"
"แล้วมึงทำเป็นจีบไอ้กล้าทำไม"
"โกหกเหรอไอ้สัด"
มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่เชนมันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับกู...พวกมึงใจเย็นๆ สิวะ
"คือ...มึงจำพวกเพื่อนๆ ของกูที่อยู่ในทีมซีเคียวริตี้เหมือนกันได้ใช่ป่ะ" ดูเหมือนเชนจะพยายามพูดให้ผมเข้าใจเพียงคนเดียว เพราะมันไม่แคร์อาการหัวร้อนนิดๆ ของเพื่อนผมเลย "พวกมันบ้ามาก...ชอบท้าให้ทำอะไรแปลกๆ กูเล่นเกมแพ้พวกมันมา กูก็โดนเลยท้าให้ลองจีบมึงดู"
ผมกระพริบตาปริบๆ ส่วนคนอื่นๆ นั้นทำสีหน้าขุ่นเคืองใส่เชน
"กูขอโทษ...กูแม่งรู้สึกเหี้ยทุกครั้งที่ต้องโกหก"
"..."
"กล้า...มึงพูดอะไรหน่อยสิ"
"คือ..."
"แล้วกูจะรู้ได้ไงว่าครั้งนี้มึงพูดจริงๆ" แปลกแต่จริงที่หมูหันมันทำเสียงเย็นชาใส่ไอ้เชน ไอ้สองคนนี้มันถูกชะตากันมากที่สุดแล้ว "มึงอาจจะโกหกเพราะโดนท้ามาอีกรอบก็ได้"
"หมูหัน...ครั้งนี้กูพูดจริงๆ" มันทำสีหน้าจริงใจ "เชื่อกูสิ ถ้ากูชอบไอ้กล้าจริงๆ กูคงตื๊อมันหนักมากกว่านี้แล้ว นี่กูปล่อยให้มันกับนายท่านได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขโดยที่กูไม่เข้าไปยุ่งมานานมากแล้วนะ"
ก็จริงของมันแฮะ...หลังๆ นี่ไอ้เชนแทบจะไม่มีบทบาทอะไรในชีวิตของผมเลย
"เชื่อกูนะกล้า" มันหันมามองผมอีกครั้ง "กูมาเพื่อที่จะบอกว่าขอโทษ และกูก็ขอให้มึงกับนายท่านรักกันดีตลอดไป"
"..."
"มึงไม่โกรธกูนะ"
ผมไม่โกรธหรอก แต่ผมงงมากกว่า งงว่าตัวเองควรจะรู้สึกยังไง...แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ผมรู้สึกดีนะที่ผมไม่ต้องเสียเพื่อนห้องตรงข้ามคนนี้ไป ไม่ต้องยุ่งยากรวบรวมความกล้าไปบอกมันอีกด้วยว่าผมมีแฟนแล้ว มันไม่เจ็บ...ผมก็ไม่เจ็บ มิตรภาพของเรายังอยู่ดีครบทุกส่วน
นี่มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่ใช่เหรอ
"ไม่โกรธหรอก ไอ้บ้า ใครจะโกรธ" คำพูดของผมทำเอามันยิ้มออกมาในทันที
"กูขอไรอย่าง" ไอ้เซียนยกมือขึ้นมา
"ว่าไง"
"เรื่องนี้มึงต้องไปพูดกับนายท่านด้วย" ผมถลึงตามองไอ้เซียนคนพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ "เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจของมึง"
"ได้ มันอยู่ไหนล่ะ" เชนรับคำไวมาก
"มันออกงานอยู่น่ะ" ผมตอบ
"งั้นกูกลับห้องก่อนนะ" เด็กวิศวฯ ลุกขึ้นยืน คนอื่นๆ ก็พลอยลุกตามมันกันไปหมด มีเพียงแต่ผมที่ยังนั่งอยู่ มองไอ้เชนด้วยรอยยิ้มที่ผมมีให้มันเสมอมา "ไว้เจอกัน"
"อืม"
เชนจากไป ทิ้งให้ผมกับเพื่อนต้องกลับมาถกประเด็นเรื่องนี้กันอีกครั้ง
"แม่ง..." หมูหันสบถ "ทำไมกูรู้สึกเคือง"
"เอาน่า" ตงตบบ่าเพื่อน "อย่างน้อยไอ้กล้ามันก็ไม่ได้กลายเป็นกล้าหาญดราม่าคิงไปอีกหนึ่งวัน"
ท้ายที่สุดเพื่อนมันก็แว้งมากัดผมอีกจนได้...
หลังจากที่เล่นเกมกันจนนิ้วปวดและตาแฉะ (แน่นอนว่าผมไม่ได้เล่นด้วย) ไอ้ตงก็ชวนพวกเราออกมากินก๋วยเตี๋ยวกันที่แถวหลังมอซึ่งอยู่ไม่ห่างจากตึกของผมเท่าไหร่ ตอนนี้เป็นเวลาหัวค่ำซึ่งเต็มไปด้วยนักศึกษาที่ออกมาหาอาหารเย็นทาน ผมกับเพื่อนก็เป็นหนึ่งในนั้น
วันเสาร์แบบนี้มักจะเป็นวันดีสำหรับการจัดงานอีเวนต์ครับ ช่วงนี้นายท่านมันกำลังดัง แม่ของมันจึงได้จัดการให้มันมีงานออกสื่อเพื่อที่จะทำการเรียกกระแสให้ค่ายละครเอสเอ็นซึ่งกำลังจะมีละครออกมา มันไม่อยากไปเท่าไหร่แต่จำเป็นต้องไป อีกอย่างมันก็อยากจะไปดูนายกองด้วยว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
คนที่ซวยอยู่เสมอก็คือทิมกับนุกครับ สองคนนี้ต้องตามนายท่านไปด้วยไม่ว่ามันจะไป ณ ที่แห่งใด
เป็นโชคของมันที่มันได้เพื่อนดี คอยสนับสนุนมันทุกเรื่องอยู่ตลอดเวลา
"กูเริ่มไม่โอเคแล้ว" ไอ้เซียนบ่นระหว่างที่พวกเรากำลังเดิน "แบบนี้มันไม่ใช่กู"
ผมแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่มันไม่ใช่เรื่องของผม
"ชอบก็ต้องจีบสิวะ จะกลัวอะไรนักหนา"
ผมกับคนอื่นๆ มองหน้ากันแล้วพร้อมใจกันเงียบ ปล่อยให้ไอ้ผู้นำกลุ่มมันบ่นของมันไปเรื่อยๆ ต่อไป
"อ้าว ไอ้เซียน วันนี้จะไปกินก๋วยเตี๋ยวเหมือนกันเหรอ"
ครืน ครืน...
เสียงฟ้าร้องที่ผมมโนขึ้นเองดังขึ้น คนที่ไม่ควรทักไอ้เซียนที่สุดในขณะนี้กลับเดินมาหามันพร้อมๆ กับส่งเสียงทักอย่างหน้าตาเฉยโดยไม่รู้ว่าไอ้เซียนมันกำลังคิดอะไรอยู่
เจ้าของไอจีหมออันเดอร์สกอร์ไตเติ้ล
ผมรีบมองหาบังเกอร์ทันทีเผื่อไอ้เซียนมันยั้งมือยั้งตีนของตัวเองเอาไว้ไม่ได้
"ร้านมีตั้งหลายร้าน รู้ได้ไงว่ากูกำลังจะไปกินก๋วยเตี๋ยว"
"กูเดาเอาน่า" หมอกับเพื่อนหมอของมันดูไม่ค่อยมีพิษภัยอะไรเมื่อเทียบกับไอ้เซียน "ไว้เจอกัน"
มีเพียงแต่ผมคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ไอ้เซียนเท่านั้นที่ได้ยินไอ้เซียนมันพูดว่า "ใครอยากเจอมึง"
"เด็กน้อยจริงๆ" ผมอดที่จะพูดออกไปไม่ได้
"เหี้ยไรไอ้กล้า"
"เปล๊า"
หมอไตเติ้ลเดินห่างจากเราไม่เท่าไหร่ ตอนที่มันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พวกเราจึงเห็นเต็มๆ ว่าใครเป็นคนโทรมา ที่จริงไอ้หมอมันประกาศให้เพื่อนมันรู้ด้วยน่ะแหละ
"น้องโทรมาว่ะ" เสียงมันดูยินดี...เพราะคนที่โทรมาคือไอ้น้องทิม คนที่ไอ้เซียนชอบแต่ยังไม่กล้าที่จะจีบตอนนี้
ห่าน...ไอ้เหี้ยเซียนเหมือนมีไฟลุกไปทั้งตัวจนผมรู้สึกได้ว่าอากาศรอบๆ ตัวเราแม่งร้อนพิกลยังไงก็ไม่รู้
"ครับทิม"
ไอ้เซียนเริ่มกำหมัดแน่น
"ทำไมอ่ะ พี่ไปรับไม่ได้เหรอ"
เพื่อนผมเริ่มจิ๊ปากไม่พอใจ
"ไม่เป็นไร สำหรับทิมพี่ว่างตลอดนั่นแหละ"
ผมต้องสะกิดไอ้เซียนเพื่อที่จะให้มันเย็นลง
"อ๋อ รถตู้จะมาส่งถึงมออยู่แล้วงั้นเหรอ ว้า เซ็งจัง"
"ไอ้โง่" เซียนกัดฟัน
"โอเค งั้นคืนนี้เดี๋ยวพี่โทรหานะ"
สิ้นประโยคนั้นของไอ้ไตเติ้ล เพื่อนผมก็เดินชนไหล่มันไปข้างหน้าจนผมกับเพื่อนคนอื่นๆ ต้องรีบจ้ำอ้าวตามมันไปให้ทัน
ตอนถึงร้านก๋วยเตี๋ยว อย่าว่าแต่ก๋วยเตี๋ยวเลยครับ น้ำเปล่าไอ้เซียนมันก็ไม่นึกจะยกขึ้นดื่ม ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวมันเหมือนจะสั่นไปหมด ผมพอจะเดาออกว่ามันรู้สึกอะไรอยู่
"รอช้าไม่ได้แล้วนะ" ผมลองพูดดู "ทิมมันเป็นเด็กนิสัยดีและก็เฟรนด์ลี่ มันไม่ใช่เด็กที่จะปฏิเสธไมตรีจากคนนั้นคนนี้ง่ายๆ"
"รักษาเรตติ้งอ่ะดิ" เซียนท้วง "ทำแบบนั้นมันดีที่ไหน"
"น้องมันโสด น้องมันจะทำอะไรก็ได้" ไอ้ตงเอ่ย ซึ่งนั่นทำให้ไอ้เซียนต้องตวัดสายตาหันมามองมัน "หรือกูพูดไม่จริง"
"ก่อนที่น้องจะไม่โสด มึงควรทำอะไรสักอย่างนะ" หมูหันพูดบ้าง "นอกจากกูจะกลัวว่าไอ้กล้ามันจะกลายเป็นกล้าหาญดราม่าคิงแล้ว กูยังต้องกลัวว่าอาจจะต้องมารองรับอารมณ์มึงอีก"
"กูไม่ได้..." เซียนทำท่าเหมือนอยากพูดอะไรยาวๆ แต่ก็หยุดชะงัก "พวกมึงเข้าใจกูหน่อยไม่ได้เหรอ"
ผมกับเพื่อนพร้อมกันส่ายหน้า
"สมัยไอ้ท่านจีบไอ้กล้าแรกๆ ไอ้กล้าก็เครียดเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ"
"เรื่องอะไรวะ"
"ชั้นวรรณะที่ต่างกันเกินไป"
"ฟวย" ผมพูดอย่างใส่อารมณ์ "มึงจะเอาอะไรกับเด็กมอปลายอย่างกูในตอนนั้น กูไม่ได้คิดอะไรหรอก กูเองก็ชอบมันเหมือนกัน เพียงแต่ไปเจอแม่มันซะก่อน ก็เลย..." ท้ายประโยคของผมแผ่วลง แล้วผมก็ไม่สามารถผมประโยคต่อไปได้อีก "ถามจริง...มึงชอบน้องเขาป่ะล่ะ"
"อืม" มันยอมรับ
"มึงชอบที่น้องมันถูกไอ้หมอไตเติ้ลตามตื๊อตามจีบป่ะ"
"ไม่ใช่แค่ไม่ชอบ"
"..."
"แต่กูเกลียดเลย"
"ก็แค่นี้...จะคิดมากอะไรนักหนาวะ"
"แล้วกูจะบอกอะไรไว้อย่าง" หมูหันกระแอม ทำตัวเหมือนเป็นกูรูผู้หยั่งรู้ทุกอย่าง "บ้านของค่ายจีวายตามใจลูกมากกว่าบ้านของค่ายเอสเอ็นเยอะ เพราะฉะนั้นมึงไม่ต้องห่วงเรื่องที่บ้าน มึงห่วงเรื่องการเอาชนะใจน้องดีกว่า"
ผมหน้าชาไปนิดนึงที่โดนพาดพิง แต่หมูหันมันก็พูดความจริง...ไม่มีสิ่งใดสามารถทักท้วงความจริงข้อนี้ได้
"แล้วค่ายพีวายเจล่ะ" ไอ้ตงถามต่อ เดี๋ยว...มึงถามทำไมเนี่ย
"ค่ายนี้น่ะเหรอ เน้นบันเทิงไว้ก่อน ดราม่าไม่สนอะไรทั้งนั้น ไอ้นุกมันก็เลยเป็นเด็กอารมณ์ดี มองโลกในแง่ดีไง"
แม่งโคตรเจาะลึกตรงประเด็น...อนาคตไอ้หมูหันควรจะไปเป็นผู้ประกาศข่าวบันเทิง
ระหว่างที่ผมกับไอ้ตงกำลังมองหมูหันอย่างทึ่งๆ ไอ้เซียนก็ได้ทำในสิ่งที่เราทุกคนไม่คาดฝัน นั่นก็คือมันกำลังต่อสายไปถึงน้องทิมอยู่ครับ
"สปีกเกอร์โฟนนนนนนนน" หมูหันเขย่าโต๊ะ
เซียนจิ๊ปากแต่ก็ยอมตามใจเพื่อน ไม่รู้กลัวชามก๋วยเตี๋ยวจะกระฉอกหรือกลัวอารมณ์หมูหันก็ไม่รู้
เสียงสัญญาณดังอยู่ประมาณสามครั้ง ในที่สุดทิมก็รับสาย
[ครับ]
ไอ้เซียนถลึงตามองไปรอบๆ โต๊ะ ท่าทางเหมือนเพิ่งนึกได้ว่ามันไม่มีธุระอะไรกับทิม แต่ก็อยากโทรไป
[ฮัลโหล]
ผมยิ้มขำ ไอ้ตงกับไอ้หมูหันทำท่าบอกใบ้ให้เซียนมันหาเรื่องพูด
"ฮัล...ฮัลโหล"
[พี่เซียน มีอะไรครับ]
เขาถามมึงก็ตอบสิวะ มองหน้ากูทำไมไอ้เพื่อนบ้า
"มึง...ทำอะไรอยู่"
[กำลังนั่งรถกลับครับ]
"..."
[พี่จะคุยกับท่านเปล่า]
เซียนเอามือตบหน้าผาก "กูโทรหามึง กูจะคุยกับมันทำไมล่ะ"
[อ้าวเหรอ]
"..."
[แล้วตกลงพี่มีอะไร]
"ดื่ม" ผมกับเพื่อนมองหน้าไอ้เซียนทันที แผนนี้มึงได้แต่ใดมา...ทำไมกูเพิ่งรู้เมื่อหนึ่งวินาทีที่แล้ว "ไปดื่มกัน"
[พี่ชวนผมเหรอ]
"กูชวนแมวน้ำมั้ง กูคุยกับใครอยู่ล่ะ"
เซียนมันไม่รู้ว่าผมแอบกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่...คนอย่างมันน่ะเป็นตัวของตัวเองมันดีที่สุดแล้ว ถึงแม้จะกวนตีนไปบ้างหรืออาจจะขี้แกล้งไปสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าเพื่อนผมนิสัยดี...
...บางทีมันอาจจะทำให้น้องทิมใจอ่อนในอนาคตอันใกล้
มึงต้องพยายามมากกว่านี้นะเว้ยเพื่อน!
[ท่าน...พี่เซียนชวนดื่ม]
คราวนี้เซียนมันถึงกับเอามือปิดหน้าเลยครับ ยากขิงๆ ไปเลยใช่มั้ยล่ะ...จีบลูกค่ายจีวาย
[มันถามว่าพี่กล้าจะไปด้วยหรือเปล่าครับ]
ผมส่ายหน้าพรืดอย่างรวดเร็ว วันนี้ผมต้องกลับไปเก็บห้อง เนื่องจากเพื่อนแม่งทำห้องผมเละมากเมื่อตอนกลางวัน
"มันจะไป"
"ฟายยยย" ผมด่ามันเสียงดังเพราะผมยังไม่ได้ตอบตกลงเลย
[พี่กล้าไปว่ะ...อืม ตกลงไอ้ท่านจะไปครับ]
"แล้วมึงล่ะ มึงน่ะ..."
[ท่านไปผมก็ต้องไป]
เซียนมันถึงกับต้องชูมือกันเลยทีเดียว "โอเค...งั้นเดี๋ยวเจอกัน"
[ดึกหน่อยนะครับ]
"ได้ ไม่มีปัญหา"
[ท่านมึงว่าไงนะ...] เสียงปลายสายมีเสียงอะไรบางอย่างแทรกขึ้นมา มันเป็นเสียงกุกๆ กักๆ จนกระทั่ง... [กล้า ทำไมมึงไม่ตอบไลน์วะ]
เสียงนายท่าน...ผมถึงกับขนลุกชูชันเพราะผมมัวแต่สนใจเรื่องของไอ้เซียน
"โอยยย แป๊บน้า" ผมส่งเสียงลงไปในโทรศัพท์
[งอน]
"งอนพ่อง" ผมร้องไปด้วย กุลีกุจอหาโทรศัพท์ของตัวเองไปด้วย "ลืมไว้บนห้องอ่ะ"
[...]
"ท่าน"
[กูงอนอยู่]
"แป๊บ เดี๋ยววิ่งกลับไปเอา"
[ฮ่าๆๆ จะบ้าเหรอ]
"..."
[เดี๋ยวบอกพี่คนขับให้รีบขับเลย]
"ไม่ต้องรีบขนาดนั้น"
[ไม่รีบไม่ได้ กูคิดถึงมึง]
"เมื่อคืนยังอยู่ด้วยกันอยู่เลย"
[เมื่อคืนก็ส่วนเมื่อคืน ตอนนี้ก็ส่วนตอนนี้ดิ]
รอยยิ้มของผมทำเอาเพื่อนคนอื่นๆ ของผมมองผมด้วยสายตาไร้อารมณ์ โดยเฉพาะไอ้เซียน...
"ท่าน นี่สายของเซียนนะ"
[เออว่ะ ลืม ขอโทษทีพี่]
"..."
[ก่อนไปร้านหยิบโทรศัพท์ไปด้วยนะ]
"ได้"
ผมได้ยินเสียงปลายสายดังกุกกักอีกครั้ง เซียนทำหน้าเหมือนรอคอยราวกับต้องการให้ไอ้ทิมมาพูดสายต่อ ทว่า...
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
ทิมแม่งวายสายไปแล้วจ้า
"โธ่เอ๊ย" ไอ้เซียนเก็บโทรศัพท์ด้วยสีหน้าผิดหวังนิดๆ "มึงได้กลิ่นความจีบยากของไอ้ทิมมั้ย"
"ชัดเลยล่ะ" ตงกระซิบ ผมกับหมูหันส่งสายตาเห็นด้วยกันใหญ่
ร้านคลับแอล
ผมกับเพื่อนมาถึงตอนสองทุ่มนิดๆ ครับ ส่วนลูกค่ายละครนั้นมาถึงประมาณสี่ทุ่มครึ่ง แต่แทนที่จะมากันสามคน ดันมากันแค่สองคน
คนที่ยังไม่มาก็คือไอ้ทิม...
แววตาของไอ้เซียนมีความผิดหวังเจือปนอยู่อย่างปิดเอาไว้ไม่มิด
"ทิมไปไหน" นี่คือคำทักทายแรกที่ผมมีให้แฟนตัวเอง
"กลับไปเปลี่ยนชุดน่ะ นุกทำโค้กหกใส่"
นุกยิ้มแห้งๆ ส่งให้ผม จากนั้นก็รีบกุลีกุจอหาเครื่องดื่มให้ตัวเอง ส่วนเครื่องดื่มของนายท่านไม่ต้องหาอะไรให้ยากครับ ยื่นแก้วน้ำเปล่ามาให้มันแค่แก้วเดียวก็จบ...
"เริ่มมานานแล้วนี่ มึนๆ หัวยัง" ท่านทิ้งตัวนั่งข้างๆ ผม ผมยังไม่ทันจะได้ตอบ เราทั้งคู่ก็มองเห็นว่าวันนี้เรามีโต๊ะของผู้หญิงจากหลากหลายคณะอยู่ทั่วทุกทิศ ทุกคนจับจ้องมาที่นายท่าน...ขอย้ำ จ้องแค่นายท่าน
แทนที่มันจะกล้าใกล้ชิดผมมากกว่านี้ มันกลับเลือกที่จะนั่งแบบรักษาระยะห่างแทน แต่ก็นั่งข้างๆ กัน
เอาไงก็เอา...
"ยังไม่ค่อยมึน" ผมตอบ หันไปมองไอ้เซียน "ไอ้นั่นมันน่าเป็นห่วงมากกว่า"
"ทำไมพี่เขาไม่ทำอะไรสักทีหลังจากวันที่ใช้งานเราสองคน"
"ไม่รู้ มันอาจจะไม่มั่นใจมั้ง"
"พี่เซียนมีดีจะตาย" นายท่านมองเพื่อนผม ก่อนจะยกน้ำเปล่าดื่มรวดเดียวจนหมด... "ดีกว่าไอ้พี่หมอไตเติ้ลตั้งเยอะ"
"เรื่องของเราสองคนทำมันเครียด" ผมพูดเบาๆ "มันอาจจะเห็นสิ่งที่กูเจอ ก็เลยกลัวว่าเรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นกับมัน"
นายท่านมองหน้าผม ก่อนที่จะขยับตัวของมันเข้ามาใกล้ผมหนักมากขึ้นไปอีก เข่าของเราสองคนแนบชิดติดกัน ความอบอุ่นของมันส่งผ่านเข่านั้นจนทำให้ผมรู้สึกอิ่มเอมปลอดภัย
"เราต้องกล้าตั้งแต่เลือกที่จะรักแล้ว"
ทำไมกูเขินล่ะเนี่ย...อาจเป็นเพราะสายตาที่มันส่งมาให้แบบเฉพาะเจาะจงมาที่ผมก็เป็นได้
"มึงเป็นฝ่ายจีบ...มึงก็พูดได้นี่ ในเมื่อมึงเพอร์เฟ็กต์ซะขนาดนี้" ผมอดส่งเสียงประท้วงไม่ได้
"ขนาดเพอร์เฟ็กต์ยังโดนเทมาตั้งสองปีเลย"
"ขุด...อีกแล้ว"
"หล่อก็โดนเท รวยก็โดนเท..."
"ยังไม่หยุด"
"ฮ่าๆๆ ล้อเล่นนะ" มือของมันไล้สัมผัสไปที่ต้นขาของผมอย่างรวดเร็วแล้วก็ปล่อย แต่นั่นมันทำให้ผมหยุดหายใจได้ "พี่เซียนไม่ผิดที่จะกลัวหรือไม่มั่นใจ แต่ถ้าช้าเกินไป มันก็อาจจะ..."
"ไม่ทัน" ผมต่อประโยคให้
"ตามนั้นครับผม"
"ท่าน" ไอ้เซียนที่เริ่มกึ่มๆ หันมาหาแฟนผม "ทำไมทิมยังไม่มา"
"เปลี่ยนชุดครับ เดี๋ยวมันมา"
"อืม โอเค"
นายท่านก็ยังคงเป็นนายท่านตามเดิมที่ว่านั่งดื่มแต่น้ำเปล่า มองดูผมกับคนรอบตัวเมามาย วันนี้นุกพูดเยอะหน่อย น้องมันเล่าให้ฟังว่าอีเวนต์ถูกจัดขึ้นในตอนบ่าย จากนั้นนายท่านก็โดนแม่ของมันเรียกไปคุยอยู่ตั้งนานสองนาน มันกับนุกรอที่จะกลับพร้อมกันกับนายท่านจนแทบจะเรียกได้ว่าหลับแล้วหลับอีก
ผมมองไปที่แฟนตัวเอง...เหมือนมันมีอะไรในใจอย่างเช่นทุกครั้งที่กลับมาจากการเจอแม่ ผมไม่อยากถามมันเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนนี้ เพราะผมยังมีอีกเรื่องหนึ่งให้ห่วงอยู่
"ตอนนี้นายกองเป็นไงบ้าง"
"ก็โดนเทศนา...กักบริเวณ...ตัดค่าขนมเหมือนเดิมนั่นแหละ"
"โห"
"แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกเครียดอะไร...เหมือนมันไม่ชอบออกไปปฏิสัมพันธ์กับคนภายนอกอยู่แล้ว"
เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกกังวลแทนนายท่าน
"เฮ้ย ชนแก้วหน่อยสิวะ" ไอ้เซียนร้องเสียงดังลั่น เราทุกคนจึงต้องยกแก้วของตัวเองขึ้นมาชนกับแก้วไอ้เซียน นายท่านก็ยกขึ้นมาชนด้วยถึงแม้ว่าแก้วมันจะเป็นแก้วน้ำเปล่าก็ตาม "โหท่าน...มึงไม่ดื่มเลย"
"ไม่ถนัดครับ" มันพูดยิ้มๆ
"เอาหน่อยน่า สักแก้ว"
"อย่าดีกว่าครับ"
"กล้ามึงบอกให้แฟนมึงลองหน่อยดิ๊"
มันหันมามองผม ผมส่ายหน้าพรืดไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ "มันไม่ดื่มก็คือไม่ดื่มสิวะ" ผมบอกเพื่อน
ไอ้เซียนทำหน้าเซ็งก่อนจะพูดกับนายท่านอีกรอบ "ตกลงทิมมันจะมามั้ย"
"เอ่อ..."
"ถ้ามันไม่มา...กูบุกห้องมันจริงๆ นะ"
"เพื่อน...ใจเย็น" หมูหันกระตุกแขนเซียน "มันจะกลายเป็นรุกหนักไป"
"ถ้าพี่กล้าบุก...ผมก็กล้าบอกพี่ว่าตึกมันอยู่ไหน" ท่านประกาศกร้าว
"จริงดิ" ไอ้เซียนเริ่มพูดเสียงอ้อแอ้ๆ แล้วครับ "งั้นบอกมาเลย กูจะไป"
"ผมไม่แน่ใจว่ามันจะตามมาสมทบมั้ย"
"มันไม่มาแล้วล่ะ ดึกขนาดนี้"
"..."
"เด็กเวร"
"..."
"ไหนบอกว่าจะมา"
นายท่านยิ้มแห้งๆ ส่งให้ผม ส่วนผมก็ได้แต่ทำสีหน้าปวดหัว
"มันไม่เคยคิดจะจีบใครแบบจริงจังน่ะ" ผมกล่าว "พอคิดจริงจังแม่งก็เริ่มไม่เป็น มันเลยออกมาเป็นแบบนี้"
"เข้าใจได้" นายท่านกระซิบ
[ มีต่อนะคะ ]