ตอนที่ 3
กล้าหาญ
‘กล้า’
‘นี่มึงอีกแล้วเหรอ!’
‘ก็กูน่ะสิ จะเป็นใครไปได้ล่ะ’
‘นี่ซอยเข้าบ้านกูนะ’
‘เพราะกูรู้ไง กูถึงมารอเนี่ย’
‘มึง...มาตั้งแต่กี่โมง’
‘ก็หกโมงเย็นอ่ะ’
‘นี่สี่ทุ่มแล้วนะ’
‘ไปไหนมา ทำไมกลับดึก’
‘ไม่เกี่ยวกับมึง’
‘ทำไมหน้าเป็นแผล’
‘...’
‘เฮ้ย ถ้าจะมีเรื่องทำไมไม่เรียก’
‘กูจัดการได้!’
‘มึงจัดการไม่ได้ มึงเตี้ย’
‘เหี้ยท่าน!’
‘เอาเบอร์มา’
‘เอาไปทำไม’
‘เอาไว้โทรตาม ส่งข้อความหาสิวะ’
‘ไม่ให้โว้ย’
‘เอามา’
‘ไม่ให้’
‘กูจะตื๊อจนกว่ามึงจะให้เบอร์’
‘ชาติหน้าก็แล้วกัน’
‘กูรอถึงชาติหน้าได้’
‘เฮ้ย’
‘เร็ว ขอร้อง อย่าให้กูเป็นห่วง’
‘ไม่โว้ยยยยย’
“สวัสฯ น้ำอ่ะน้ำ”
“เออ กำลังยกไป”
“มีน้องคนหนึ่งกินมังสวิรัติ”
“แยกไว้ให้แล้ว”
“สวัสฯ ทำไมน้ำหมดไวจังวะ”
“ก็น้องมันแดกเยอะ มึงอย่ามาโทษกูดิ!”
บอกเลยว่าเป็นสวัสฯ แล้วเหนื่อยเหี้ยๆ ความสุขในตอนเช้าของผมถูกลบเลือนไปด้วยเสียงบ้าอำนาจของไอ้เชี่ยเอ้ ผมวุ่นจนปวดหัวเพราะเป็นฝ่ายดูแลปากท้องของคนในคณะตอนกิจกรรมรับน้องทั้งหมด เพื่อนผมที่แต่ก่อนไม่ค่อยเอาอ่าวกันเท่าไหร่ทว่าตอนนี้กลายเป็นคนที่มีสาระกันทุกคน ไม่มีใครว่างแม้แต่จะถามผมว่าเมื่อเช้ามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
มันก็ไม่มีอะไรมากหรอกเว้ย ไอ้นายท่านมันยังไม่ลืมว่าผมชอบกินไข่แดงแถมยังซื้อนมเปรี้ยวมาให้ผมอีกต่างหาก (เล่าด้วยสีหน้าหลั่นล้าสุดฤทธิ์)
ลองทายดูซิครับว่ากล่องนมเปรี้ยวนั้นตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน
ผมฝากไว้กับอมร ตุ๊ดที่มีพี่อั้ม พัชราภาเป็นไอดอล
ปล. ทุกคนจงจำไว้ว่าคนคูลๆ เขาไม่พกกระเป๋ากันหรอกครับ
“กล้าขา สุดหล่อของอมร” ไม่ทันขาดคำ มันก็เดินมาเรียกผมด้วยน้ำเสียงน่าขนลุก
“ไร” ผมมือไม่ว่างจนเผลอเอ่ยคำห้วนสั้น
“กูนั่งทับนมเปรี้ยวมึงจนบี้แบนไปแล้วทำไงดี”
“ว่าไงนะ” ผมร้องอย่างไม่สนใจว่าจะมีใครหน้าไหนสะดุ้งหรือเปล่า “ไอ้อมร! มันสำคัญกับกูนะเว้ยยยย”
“เหี้ยกล้า กูรู้อยู่หรอกน่า” มันจีบปากจีบคอ “แค่อยากเดินมาแกล้งมึงอ่ะ เห็นมึงวุ่นๆ แล้วมีเสน่ห์ดี”
“มึงไม่วุ่นหรือไง”
“พยาบาลอย่างกูจะได้ทำอะไรมากล่ะ”
“พยาบาลลลล มีน้องเป็นลม!” ไอ้เอ้ร้องตะโกนมาจากหลังแถว
“กรี๊ดดดดดดด” มันรีบพาร่างอ้วนๆ ของตัวเองวิ่งไปหาน้องทันที ผมได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ ตามหลังมันไป ฝากนมเปรี้ยวดวงใจของผมไว้กับไอ้อมรมันจะรอดถึงเย็นนี้มั้ยหนอ อยากจะรู้จริงๆ
คณะเศรษฐศาสตร์ของเราทำกิจกรรมตั้งแต่รุ่งสางจนตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองกว่าแล้ว ไอ้เชี่ยเอ้ได้ให้คำสัญญากับน้องๆ ตั้งแต่เช้าว่าจะปล่อยให้กลับไปพักผ่อนเร็วๆ เพื่อที่จะได้มีเวลาไปเที่ยวมหา’ลัยให้ทั่วด้วยตัวเองเพื่อการปรับตัว แต่ว่า...ทุกคนต้องให้ความร่วมมือกิจกรรมหลังจากนี้เป็นอย่างดี
กิจกรรมที่ว่าก็คือการคัดเลือกดาวเดือนคณะเศรษฐศาสตร์
“ตำแหน่งนี้น้องอิ๋มนอนมาเลยว่ะ” เซียนกระซิบกับตง สองคนนี้แม่งบ้าผู้หญิงฉิบหาย “น้องแม่งขายาวอย่างกับนางงาม”
“ขึ้นอยู่กับพวกไอ้เชี่ยเอ้ว่าจะส่งแบบไหนเข้า” ตงวิเคราะห์จริงจังยิ่งกว่าเลือกหุ้น “ปีที่แล้วส่งสายคิกขุไป แพ้นิเทศฯ ยับเพราะเขาทั้งสูง ยาว เข่าดี แถมยังร้องเพลงเพราะ”
“กูเชียร์น้องอิ๋ม” มันหันขวับมามองผม “มึงเชียร์ใครกล้า”
“ไม่รู้เลยว่ะ” ผมกวาดตามองน้องๆ ผู้หญิงปีหนึ่ง “ผู้ชายมึงว่าใครจะได้เป็นวะ”
“มึงสนใจทำไม เปลี่ยนสายมาชอบผู้ชายแบบไอ้หมูหันแล้วเหรอ” เพราะหมูหันชมนายท่านเมื่อวาน เซียนกับตงจึงล้อว่ามันเริ่มมีใจฝักใฝ่ในเพศเดียวกัน “ลืมไป...มึงมันชอบผู้ชายก่อนหน้าไอ้หมูหันอีก”
ถ้ากูแช่งให้มึงสองคนมาชอบผู้ชายบ้างจะเป็นไรมั้ยเนี่ย ชอบผู้ชายผิดตรงไหนวะ คนที่กูชอบแม่งก็ออกจะดีขนาดนั้น
แม้ว่าตอนนี้ผมกับคนที่ผมชอบนั้นจะยังไม่ดีกันก็เถอะ
“นี่มึงไม่รู้เหรอว่านายท่านเป็นเดือนนิเทศฯ” ขออวดสักหน่อย
สิ้นเสียงของผม...เพื่อนผมทั้งสามคนก็หันมามองผมกันหมด
“พวกกูจะไปรู้ได้ยังไง!” เซียนร้อง
“มันต้องคุยกันเมื่อเช้านี้แน่เลยว่ะ” ตงร้องตาม
“เล่าเว้ย เล่า” หมูหันเขย่าตัวผม
ผมเล่าให้พวกมันฟังทุกอย่างแม้กระทั่งเรื่องกล่องนมเปรี้ยว พวกมันทำหน้าดีใจมากโดยเฉพาะไอ้เซียน มันถึงกับตบเข่าฉาดเลยทีเดียว
“กูเดินเกมถูก แต่ใจร้อนเรื่องผลลัพธ์ไปนิด”
จนทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่ามันพูดเรื่องอะไรของมัน เชี่ยเซียนแม่งชอบคิดไปก่อนคนอื่น คนที่ตามมันทันเห็นจะมีแต่ไอ้ตง ผมตามมันทันบ้าง ส่วนไอ้หมูหัน...มันไม่เคยทันเหี้ยไรเลย
“อย่างน้อยกูก็รู้แล้วว่านายท่านส่องมึงอยู่เสมอ ไอ้เชี่ยกล้า”
“มันจะส่องยังไงของมันวะ” ผมสงสัยจริงๆ นะ
“มึงอย่าโง่ ไอจีลับใครๆ ก็สมัครได้”
“มึงพูดแบบนี้กูไปนั่งหาฟอลโลเวอร์ที่น่าสงสัยจริงๆ นะเนี่ย”
“มึงจะบ้าเหรอ คนฟอลมึงก็หลายหมื่น” เซียนทำหน้าเหมือนผมโง่ “เอาจริงๆ นะ กูว่ามึงทำไม่ต้องทำห่าอะไรเลยก็ได้ ดีไม่ดีนายท่านมันอาจจะคิดกับมึงเหมือนเดิม”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี...”
“...”
“แต่กูคงไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้อีกแล้วว่ะ สองปีที่ผ่านมามันนานมากเลยนะ”
“อื้อหือ ไอดอลเลย” หมูหันพยักหน้าขึงขัง พร้อมชูนิ้วโป้งให้ผม
“เยี่ยม เพราะพวกกูก็เหนื่อยจะฟังคำเพ้อของมึงแล้ว” ตงยิ้มแฉ่ง
“ยอมรับแล้วเหรอว่าตัวเองไม่แมนอ่ะ” เซียนแหย่
“คนจะแมน แมนที่ใจ ไม่ใช่ความรักเว้ย”
“ทำไมตอนนายท่านมาขอคบไม่คิดได้แบบนี้”
“ก็ตอนนั้นยังเด็กป่ะ” พูดแบบนี้อย่างกับเอาไฟมาจี้แผลสดที่กลางใจผมอ่ะ
“มึงคิดได้ก็ดีแล้ว” เซียนถอนหายใจ “กูกับเพื่อนเคยกังวลกลัวมึงใช้คำว่าแมนไม่ก็เป็นเกย์ไม่ได้มาค้ำคอจนจะเสียไอ้นายท่านไปอีกครั้ง”
“กูเสียมันไปไม่ได้อีกแล้วว่ะ”
“...”
“อย่างที่บอก...กูไม่อยากเสียเวลาอีก”
หลังจากที่คัดเลือกดาวเดือนกันเสร็จ (น้องอิ๋มกับไอ้พฤกษ์ เด็กปีหนึ่งหน้าตากวนตีนๆ เป็นผู้ได้ตำแหน่งไปครอง) พวกปีสองก็ประชุมกันนิดหน่อยแล้วก็แยกย้าย แทนที่ผมจะฟรี โบยบินไปที่ไหนก็ได้ แต่ผมกลับต้องตามหาตุ๊ดอมรสุดฤทธิ์
มันหายไปพร้อมกับกล่องดวงใจในนมเปรี้ยว เอ๊ย กล่องนมเปรี้ยวในดวงใจของผม!
มึงไปแรดที่ไหนเนี่ยอมร!
“มึงตามหานมเปรี้ยวที่หายไปจริงจังเกินไปป่ะเนี่ย” เซียนคนขับรถดูเหนื่อยกับผมมาก ตอนนี้ตงกับหมูหันสลายโต๋ไปพักผ่อนตามอัธยาศัยเรียบร้อย ส่วนไอ้เซียนมันต้องตามหากล่องนมเปรี้ยวเป็นเพื่อนผมเพราะความซวยล้วนๆ ไม่ใช่เรื่องอื่นเลย “เมื่อไหร่จะขับรถวะมึงอ่ะ ขับเป็นไม่ใช่เหรอ”
“เอาน่า” ผมพยายามปลอบ “เจออมรเมื่อไหร่มึงก็กลับได้เลย”
“ถามจริง เรื่องนี้เกี่ยวกับไอ้ท่านด้วยป่ะเนี่ย”
ผมชะงักกึก ”เออ”
“กูว่าแล้ว...เรื่องขับรถแม่งจำเป็นฉิบหายต่อมหา’ลัยที่ใหญ่เท่าโลก แต่มึงเสือกไม่ขับ” เซียนหันมามองผม “เล่ามาดิ๊ เอาแบบคร่าวๆ”
“ก่อนเรียนจบกูเคยขับรถไปรับมัน” ผมนึกถึงความหลัง “ตอนนั้นกูเพิ่งครบสิบแปด แถมยังเพิ่งได้ใบขับขี่”
“แล้วยังไงวะ”
“มันบอกไม่เท่”
“หมายถึงมึงเหรอที่ไม่เท่”
“ไม่ มันหมายถึงตัวเอง”
“...”
“มันอยากขับรถให้กูนั่งมากกว่าให้กูขับให้”
“โอ้โห” เซียนร้องอย่างตกตะลึง
“แถมยังให้กูสัญญาอีกว่าห้ามขับรถอีก ถ้าอยากไปไหนมันจะมารับ”
“ตอนนั้นมันมารับเลยป่ะ” เซียนสนใจเรื่องนี้มาก “บ้านมันรวยฉิบหายเลยนี่ คงได้สลับรถแบบคูลๆ มารับมึงอ่ะ”
“มันไม่เคยมารับเลย”
“ทำไมวะ”
“กูกับมันเลิกคุยกันก่อน”
“จบข่าว”
เรื่องนั้นมันเกิดก่อนหน้าที่นายท่านจะขอคบผมเป็นแฟนแค่อาทิตย์เดียว จะว่าไปผมก็ตลกตัวเองเหมือนกันนะที่ยึดถือคำสัญญาที่ว่าจนมาถึงวันนี้ ทั้งๆ ที่ผมไม่จำเป็นต้องทำก็ได้เพราะผมกับมันก็จบไปแล้ว แต่ผมก็ทำ...
แม้จะลำบากเพื่อนตัวเองเวลาอยากไปไหนมาไหนบ้างก็ตามทีเถอะ เพื่อนบ่นเราก็ทนเอา นี่คือสัจธรรมในการดำรงชีวิตของผมครับ
“นั่นไง กูเจอแล้ว” เซียนร้องเมื่อรถของมันเข้าสู่หน้าตึกคณะนิเทศฯ “อมรมันเดินแรดไปทั่วเลยโว้ยยยย”
ที่แท้แม่งก็มาเยี่ยมคณะที่มีงานดีรวมตัวกันอยู่มากที่สุดนี่เอง ทำไมไอ้อมรแม่งไม่ไปแรดที่วิศวะหรือพละอะไรอย่างงี้วะ
“โอ้โห แม่งกำลังต้อยเด็กมึงเลยเนี่ย”
“ไหน”
“โน่นไง”
“...”
“กูว่าเดี๋ยวอีกนิดอมรคงบีบไข่เชี่ยนายท่านชัวร์ ฮ่าๆๆ”
มือของผมไปไวกว่าความคิด ตอนแรกผมคิดว่าตัวเองควรนั่งทำใจอย่างสงบๆ ก่อนเดินลงไป แต่พอได้ยินแบบนั้นผมก็ไม่อยากสงบแล้วครับ
จุดอ่อนของนายท่านคือตุ๊ด
มันกลัวตุ๊ดมากผมพูดเลย
ตาของผมมองเห็นอมรมันกำลังพยายามขยับตัวเข้าไปหานายท่านชนิดที่ว่าอีกนิดคงสิงไปทั้งร่าง ทิมกับนุกไม่สามารถทำอะไรอมรได้เนื่องจากมันคือตุ๊ดร่างควายที่มีไรหนวดเขียวรำไร สองคนนั้นได้แต่มองปลงๆ ไปที่นายท่าน ผู้ที่ถูกตุ๊ดเสดสาดลวนลามและก็กำลังจะโดนตุ๊ดนิเทศลวนลามด้วย เรียกได้ว่าล้อมหน้าล้อมหลังกันเลยทีเดียว
แบบนี้เรียกว่าผนึกกำลังกันชัดๆ อยู่ดีๆ ก็เป็นพันธมิตรกันอย่างนั้นเหรอวะ
“อมร!” ผมร้องเรียกเพื่อนอย่างกับผัวเรียกเมีย คนที่อยู่แถวนั้นหันมากันหมด โดยเฉพาะคนที่กำลังโดนตุ๊ดรุม “กลับคณะ!”
“อุ๊ย ผัวไพร่มาตามแล้วค่ะนายท่าน” มันทำท่าจะแตะตัวนายท่านอย่างอาลัยอาวรณ์ นายท่านแม่งทำหน้ารังเกียจแบบออกนอกหน้าเลยครับ เพราะมันกลัวตุ๊ดมากจริงๆ
ผมรู้เพราะว่าผมเคยใช้เพื่อนตุ๊ดมากันไม่ให้มันมาตื๊อขอเบอร์ผมเมื่อสมัยโน้น ผลลัพธ์ก็คือตลอดทั้งวันที่ผมอยู่กับเพื่อนตุ๊ด ไอ้ท่านไม่กล้าเข้าใกล้ผมเลย...
สาเหตุเป็นเพราะมันเคยไปเล่นน้ำสงกรานต์ตอนอายุสิบสี่ จากนั้นก็โดนกลุ่มตุ๊ดและกระเทยลากเข้าไปกลางวง ตอนนั้นมันโดนบีบไข่โดนจับนั่นจับนี่จนเรียกได้ว่าแทบจะเอาชีวิตไม่รอด เหตุการณ์ตอนนั้นทำให้มันฝังใจมากชนิดที่ว่าพอเห็นตุ๊ดทีไรแล้วมันเสียวไข่ทุกที
สงสัยตอนนั้นคงเจ็บจริงไรจริงนั่นแหละ นายท่านเคยเล่าว่านึกว่าตัวเองจะเป็นหมันไปแล้ว...
“เอาไงดี คนนั้นก็เตี้ยๆ ล่ำๆ ส่วนคนนี้ก็ดูเด็กน่ากิ๊นน่ากิน”
มึงเลือกได้ด้วยเหรออมร!
นายท่านผลักอมรส่งมาให้ผม มันเอาตัวรอดจากรุ่นพี่ตุ๊ดนิเทศฯ ได้เพราะทิมกับนุกมาช่วยไว้ได้ทัน หน้ามันซีดเผือดไปหมดจนผมเกือบลืมไปแล้วว่ามันเคยเย็นชากับผมแค่ไหน
ตอนนี้มันกลายเป็นคนหล่อที่น่าขำฉิบหายไปแล้ว
“กล้ามันไม่ได้ล่ำสักหน่อย” คนดึงดูดตุ๊ดบ่นอุบกับเพื่อนเหมือนเด็กฟ้องผู้ใหญ่ อีกนิดแม่งคงโวยวายอาละวาดแล้วมั้งผมว่านะ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านายท่านมันบ่นเรื่องผมด้วย
“กล้า ทำไงดีมึง กูอยากได้น้องอ่ะ ใช่มั้ยคะอิเจ่เจ๊ อยากได้เนอะอยากได้” มันหันไปส่ายนมใส่ เจ่เจ๊ที่ว่านั่นก็คือตุ๊ดคณะนิเทศที่เป็นผู้ต้องหาในคดีรุมไอ้นายท่านเมื่อตะกี้นั่นแหละ
แล้วใครเป็นตำรวจเหรอ...ก็ผมนี่ไง
สายตาของนายท่านวิงวอนขอร้องมาที่ผม...เฮ้ย มันส่งสายตามาให้ผมแบบนั้นจริงดิ ขอขยี้ตาตอนนี้ได้ป่ะ
“อมร กลับคณะกับกูเร็ว เอ้มันเรียก” แม้จะตกใจแต่ผมก็พยายามช่วย
“เอ้เรียกเหรอ อิบ้ากล้า เราเพิ่งจะประชุมเสร็จกัน” ความบ้าผู้ชายกำลังแดกสมองของไอ้เหี้ยอมรจนหน้ามืดตามัวไปหมด
“มีน้องแดกแอมโมเนียเข้าไปในท้องว่ะ”
“หา!” ไม่ใช่แค่มันที่ช็อก คนอื่นๆ แถวนั้นก็ช็อกด้วย
“กรี๊ดดด อิเด็กบ้าที่ไหนทำแบบนั้น!”
“น้องมันคงอยากฆ่าตัวตายมั้ง สงสัยรับไม่ได้ มีพี่ฝ่ายพยาบาลปีสองบ้าผู้ชาย”
“จะบ้าเหรอกล้า กูขอเรื่องจริง”
“เรื่องจริงคือน้องมันแดกแอมโมเนียเข้าไปจริงๆ เว้ย”
“ตายแล้ว น้องรักของพี่” มันหันรีหันขวางเหมือนทำอะไรไม่ถูก ถามจริง...นี่มันเชื่อผมจริงๆ เหรอ ผมมองตามมันไปจนเห็นว่ามันเดินเข้าไปหานายท่านจนไม่แคร์เหี้ยอะไรทั้งนั้น
ไอ้สัดเอ๊ย...ลูกเขามีพ่อมีแม่นะ
“ไปก่อนนะจ๊ะ” มือของมันหมายจะจับแก้มของนายท่าน แต่โชคดีที่ผมยื่นมือไปกันไว้ได้ทัน ก่อนจะปัดมือมันทิ้งไปเบาๆ “ไรของมึงเนี่ยกล้า หวงเมียอย่างกูเหรอ”
“เมียห่าอะไรล่ะ กลับคณะ!” เสียงของผมดังขึ้นซะงั้น
“น่ากลัวอ่ะ”
“กูน่ากลัวกว่านี้ ตอนนี้แค่เบาๆ”
“จริงดิ”
“น้องแดกแอมโมเนียลงท้อง...”
“แต่ว่า...” อมรมองไปที่นายท่านอย่างเสียดาย ตอนนี้มันแทบจะหลบหลังเพื่อนของมันแล้วครับ จะว่าขำก็ขำ จะว่าน่าสงสารก็น่าสงสาร
“น้องแดกแอมโมเนีย...”
“น้องนายท่าน...”
“น้องแดก...”
“โอเค กูไปก็ได้” มันกระฟัดกระเฟียดในแบบที่มันคิดว่ามันสวยซะเต็มประดา ไม่ลืมที่จะยื่นมือไปใกล้ไอ้นายท่านอีกครั้ง ผมก็ไม่ลืมที่จะไปปัดออกอีกครั้งเหมือนกัน
ไม่ต้องมีฟงมีฟอร์มอะไรทั้งนั้น...หน้าไอ้ท่านซีดฉิบหายจนผมสงสาร ไม่สนใจแล้วว่าใครจะคิดอะไรยังไง
“โอ๊ย ไรเนี่ย” ตุ๊ดอมรทำท่าจะงับหัวผม
“ไปได้แล้ว” ผมต้องผลักร่างควายๆ ของมันให้เดินไปข้างหน้า
“ไปนะคะเจ่เจ๊...เดี๋ยวจะมาเดินเล่นคณะเจ่เจ๊ใหม่”
“ได้เลย”
“อยู่ดีๆ ผัวก็มาตามค่ะ งงมาก สงสัยสวยเว่อร์”
ไอ้บ้าเอ๊ย...ไม่รู้จะด่าแม่งยังไงจริงๆ กว่าจะพาตัวมันมาถึงรถของไอ้เซียนก็เล่นเอาผมเหงื่อตก
“มึงนี่สู้ฟัดเพื่อผัวมึงจริงๆ กูยอม” เซียนหัวเราะผมตอนที่ผมขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว
“หุบปากไปเลย” ผมหันไปหาเพื่อนตุ๊ด “อมร มึงเอานมเปรี้ยวกูมาเลย”
“อยู่นี่” มันส่งมาให้พร้อมๆ กับทำหน้ารำคาญผม “กูกำลังจะได้น้องนายท่านแล้วเชียว”
“ได้อะไรไม่ทราบ”
“ได้จับ”
“จับไร”
“ไข่ไง”
“มึงจะจับทำไมวะ!”
“แล้วมึงจะเสียงดังเพื่อออออ” เซียนบีบพวงมาลัยแน่นอย่างตกใจ “ไอ้เชี่ยนี่”
“นั่นดิ โวยวายทำไม หึงเหรอ” อมรเบะปาก สงสารพี่อั้มจริงๆ ที่เป็นไอดอลคนอย่างมึงอ่ะ
“ไม่ใช่มึงก็แล้วกัน” อดหน้าบึ้งไม่ได้จริงๆ ว่ะ
“นี่มึงเป็นไรเนี่ยเหี้ยกล้า”
“คนหึง 2018 2019 2020 2021 ไง” เซียนตอบแทนผม มึงจะพูดทุกปีเลยมั้ย...
“บ้า นั่นผัวนอกคณะไง ส่วนมึงคือผัวในคณะของกูนะ” อมรงคงมั่นหน้าต่อไป
“ไม่เกี่ยวกับมึงเลยโว้ย อมร!”
ให้ตายเถอะ...ผมคุมอารมณ์หงุดหงิดของผมไม่ได้จริงๆ
ห้องผม
อา...เหนื่อยสัดๆ เหนื่อยแบบไม่มีแรงจะไปเป็นสวัสฯ ได้อีกแล้ว ลาออกจากการเป็นสวัสฯ แป๊บได้มั้ยเนี่ย
ครืด ครืด กรุ๊ปชายโฉดโหดเยี่ยงหมาส่งเสียงเตือน ไม่ต้องตกใจกับชื่อกลุ่มกันครับ เดี๋ยวพวกแม่งเบื่อพวกแม่งก็เปลี่ยน เราทุกคนตั้งชื่อไลน์ให้เหมือนกับชื่อไอจีเพื่อกันคนอ่านสับสนครับ
บอกกันตรงๆ เลยนี่แหละ
Tepsianxx : กล้า พวกกูขาดขา RoV ว่ะ
Tongmongmiawkue : ถึงจะเล่นอ่อน แต่ก็ช่วยออนด่วน ด่ากูแบบนี้ใครจะไปเล่นให้พวกมึงวะ
Mr. Moohan : มันอ่านแต่มันไม่ตอบว่ะ
Tepsianxx : ใครอ่านไม่ตอบขอให้เป็นหมัน
Tongmongmiawkue : ตอบ
Mr.Moohan : ตอบ ไอ้พวก...แม่งเอ๊ย กูไม่รู้จะด่ายังไงแล้ว
Klahanboy : ตอบ กวนมากวนกลับเว้ย ไม่โกงงงงงงง
Tepsianxx : รำคาญมันว่ะ
Mr.Moohan : เทมัน เทมานนนนน Klahanboy : วันนี้กูเหนื่อย ง่วงนอนแล้วด้วย วันหลังนะ
Klahanboy : มึงเล่นเก่งสามคน ส่วนอีกสองคนในทีมไม่เก่งเกมก็น่าจะไปรอดป่ะวะ
Tepsianxx : มึงไม่เข้าใจคนที่แพ้ล้วนๆ สิบห้าตาติดกันแบบพวกกูหรอก Tongmongmiawkue : พวกกูใกล้จะไปทำบุญแล้วเนี่ย ผมยิ้มก่อนจะพิมพ์ตอบมันแล้ววางโทรศัพท์ทิ้งบนเตียง
Klahanboy : ขอให้พวกมึงโชคดี วันนี้ผมเบื่อเกินกว่าจะดวลเกมอะไรทั้งสิ้น คิดว่าหลังจากอาบน้ำปุ๊บก็จะนอนปั๊บอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น สายตาของผมมองไปเห็นกล่องนมเปรี้ยวที่เสียเวลาไปตามล่าถึงคณะนิเทศเพราะไอ้อมร
ไม่กล้าแม้แต่ที่จะแดก นี่เป็นนมเปรี้ยวกล่องแรกในรอบสองปีที่นายท่านซื้อให้เลยนะ ขอเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อเป็นสัญลักษณ์เอาไว้เตือนใจหน่อยเถอะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ผมคิดว่าน่าจะเป็นไอ้เชนที่เคาะประตู เพราะเพื่อนผมตอนนี้มันกำลังรวมตัวกันเพื่อเล่น RoV อยู่ที่ไหนสักแห่ง เท้าของผมก้าวไปที่หน้าประตูเพื่อทำการเปิด และเมื่อเปิดออก...สิ่งที่ผมเห็นก็คือเชนจริงๆ
“มีไรวะ” ผมถาม
“อ้าว อยู่คนเดียวเหรอ” มันมองผ่านหลังผมไป “เพื่อนๆ ไปไหน ปกติจะเฮฮากันตลอดนี่”
“มันหนีไปเล่น RoV อยู่ที่ไหนสักที่อ่ะ แล้วมึงมีอะไรหรือเปล่า”
“ขอน้ำร้อนต้มมาม่าหน่อยดิ กาที่ห้องกูเสียอ่ะ”
ผมเลิกคิ้วสูง “ข้างล่างตึกก็มีกาต้มน้ำร้อนป่ะวะ” มันทำหน้าคาดไม่ถึง ผมส่ายหน้าใส่มันเบาๆ ก่อนจะขยับตัวรับมันเข้ามาในห้อง “ไหนๆ ก็มาแล้ว มาจัดการเองเลย”
ไอ้เชนทำหน้าดีใจ ผมคิดอยู่ในหัวเล่นๆ ว่าคนหน้าตาดีหุ่นเฟิร์มอย่างมันก็หิวมาม่าตอนดึกๆ เป็นด้วยเหรอ หรือนี่จะเป็นเคล็ดลับความหล่อของมัน...แต่ก็ช่างเถอะ ผมสนิทกับเชนเพราะว่าผมกับมันเคาะประตูเพื่อให้การช่วยเหลือกันเล็กๆ น้อยๆ บ่อยๆ
มันเคยซ่อมท่อประปาให้ผมด้วยนะครับ อย่าหาว่าผมง่อยเลย บางอย่างที่คนมันไม่รู้มันก็ไม่รู้จริงๆ
“ยังมีคนทักมาถามกูเรื่องรูปนั้นอยู่เลย” เชนเล่าระหว่างที่รอน้ำในกาเดือด
“ไม่ถามก็แปลกอ่ะ มึงก็ลงไปได้เนอะ รูปมันชวนคิดจะตาย”
“...”
“มึงลบก็ได้นะ”
“บ้า ลบทำไมวะ” มันหัวเราะในลำคอก่อนจะมองสำรวจไปทั่วห้องผม “ห้องมึงแม่งเป็นระเบียบกว่าห้องกูประมาณแสนเท่า”
“เว่อร์ไป”
“จริงๆ นะ นี่กูนึกอยากจ้างให้มึงไปเป็นแม่บ้านทำความสะอาดห้องให้กูเลย”
“ค่าตัวกูแพงนะ” ผมพูดติดตลกก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ “ใช้คำว่าพ่อบ้านไม่ได้เหรอ”
“ก็ได้ๆ พ่อบ้านก็ได้” เชนยิ้ม “เท่าไหร่ล่ะ”
“โหยสาด จริงจังไปอีก กูทำให้ฟรีๆ ก็ได้ แค่เก็บห้องเอง” ผมกับมันช่วยเหลือกันตลอดอยู่แล้ว แค่นี้ทำไมผมจะทำให้มันไม่ได้ “แต่ช่วงนี้กูอาจจะยุ่งหน่อยนะ มึงก็รู้”
“ก็ยุ่งกันหมดอ่ะ”
กุกกักๆ เสียงประหลาดดังขึ้นที่หน้าห้อง
ผมมองหน้าเชน “ได้ยินเสียงป่ะ”
“ได้ยิน” มันหันไปมอง “พวกเพื่อนมึงหรือเปล่า”
“ถ้าเป็นเพื่อนกู...ป่านนี้พวกแม่งตะโกนเรียกให้ไปเปิดแล้ว”
คิ้วของผมขมวดเป็นปม ค่อนข้างเชื่อว่าเสียงนั้นอยู่ที่หน้าประตูห้องผม ปกตินี้แล้วตึกนี้มีความปลอดภัยสูงมากเพราะมียามเฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงตามระดับราคาค่าเช่า เพราะงั้นคงไม่ใช่ขโมยขโจรที่ไหนหรอกมั้ง
หรือเพื่อนมันแกล้งผมวะ
กุกกักๆ “เดี๋ยวกูไปดูให้” เชนออกไปดูให้อย่างรวดเร็ว ปฏิกิริยาตอบสนองของมันไวมากจนผมอึ้ง เมื่อมันไปเปิดดู...มันก็ต้องพบกับความว่างเปล่า “แปลกแฮะ เราสองคนก็ได้ยินเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“ช่างเหอะ” ผมพูด “น้ำร้อนเดือดแล้วมึง”
เชนกลับห้องมันในอีกห้านาทีหลังจากนั้น ก่อนกลับมันไม่ลืมที่จะย้ำเรื่องให้ผมไปช่วยมันทำความสะอาดห้องมันหน่อย ผมเลยขอมันไปห้าพัน แทนที่มันจะด่าผมว่าหน้าเลือด มันกลับบอกว่าเดี๋ยวจะจ่ายเงินสดให้
บ้า ไป แล้ว
ผมปิดประตูห้อง เตรียมจะนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ แต่แล้วเสียงประตูก็ดังขึ้นอีกระลอก คราวนี้ผมชักหมดความอดทน เตรียมด่ากราดให้ยับเพราะแม่งกวนประสาทคนที่กำลังจะจะหลับจะนอนฉิบหาย
ที่หน้าห้องไม่มีคนยืนอยู่ แต่เป็นนมเปรี้ยวรสผลไม้รวมอีกกล่องหนึ่ง
รู้เลยว่าใครให้...ทันทีที่รู้ผมก็ยิ้มออกมานิดๆ ความโกรธความหัวร้อนเริ่มมลายสลายไปหมด (ถ้าเซียนรู้แม่งคงแซวตายห่า) ผมรีบมองซ้ายมองขวาหาคนที่เอามาให้ผมทันที
แม่งซ่อนตัวได้ไวฉิบหาย คิดว่าตัวเองเป็นนินจาฮาโตริหรือไงวะ
“ชอบแดกรสส้ม แต่ก็ชอบซื้อรสผลไม้รวมมาให้เนอะ” ผมพูดกับคนที่จะอยู่ในเงาที่ไหนสักแห่ง ก่อนจะเอ่ย “ขอบใจนะ”
ผมเอานมเปรี้ยวกล่องนั้นมาวางคู่กันกับนมเปรี้ยวในตู้เย็น คำพูดในอดีตของใครบางคนก็ลอยเข้ามาในหัวผม
‘มึงสังเกตป่ะ เวลาที่เราสองคนอยู่ด้วยกันอ่ะ นมเปรี้ยวจะเป็นสองกล่องตลอดเลย’
‘...’
‘ต้องเป็นรสผลไม้รวมด้วยนะ’
‘ก็มีสองคนก็ต้องซื้อแดกกันสองคนดิวะ’
‘ถ้าอยู่คนเดียวก็ต้องซื้อแดกคนเดียวงี้ใช่ป่ะ’
‘ก็ใช่น่ะสิ’
‘มันจะทำให้นึกถึงใครอีกคนมั้ยวะ’
‘...’
‘ตอนนี้กูเห็นนมเปรี้ยวแล้วนึกถึงมึงตลอดมึงเลย’
‘ทำไม’
‘เพราะเห็นแล้วอยากแดก’
‘โอ้โห ไอ้เหี้ยนี่!’
‘เอะอะก็เตะๆๆ ขาก็สั้นแค่นี้ทำมาเป็นเก่ง โอ้ย!’
‘เห็นมั้ย กูทำมึงเจ็บได้ก็แล้วกัน’
‘แล้วเมื่อไหร่มึงจะให้เบอร์กู’
‘ชาติหน้า’
‘นี่ก็ชาติหน้าแล้ว’
‘จะบ้าเหรอ มึงตายแล้วหรือไง’
‘ตายแล้ว ตายตั้งแต่มึงเตะหน้าแข้งกูเมื่อตะกี้นี่แหละ’
‘บ้าบอจริงๆ’
‘ยอมตายเพื่อเธอเลยรู้ป่ะ’
‘เธอไหน แม่มึงเหรอ’
‘กล้า มึงนี่ก็...’
‘กูแมนมาก มึงอย่ามาพูดกับกูแบบนั้นอีกนะ’
‘จ้ะเธอ’
‘ไอ้...’
‘ฮ่าๆๆ’
ตอนไหนวะที่เหตุการณ์แบบนั้นจะกลับมาหาพวกเราอีกครั้ง หรือซื้อนมเปรี้ยวให้แม่งทีละสองกล่องดีเผื่อมันเป็นเคล็ด
โว้ยยยย...มันชอบรสส้ม ลืมไปแล้วเหรอ
เคล็ดเหี้ยอะไรนี่ยังไงก็ใช้กับเรื่องนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ว่าแต่ตัวต้นเหตุของเสียงเหี้ยๆ ที่หน้าห้องของผมพวกนั้นจะใช่ไอ้นายท่านหรือเปล่านะ
แล้วมันทำไปทำไมวะ...
[สัดนายท่านอันเดอร์สกอร์แอลเคเอช มึงอยู่ไหนเนี่ย]
“...”
[ยังช็อกเรื่องตุ๊ดเสดสาดไม่หายเหรอ ฮ่าๆๆ]
“ทิม”
[ว่า]
“ไอ้เหี้ยเชนแม่งเข้าไปในห้องกล้าเลยโว้ยยยยย”
[หา ว่าไงนะ]
"..."
[ไอ้พี่เชน ชนัทดอทเอนจิเนียร์สี่สิบสองนั่นอ่ะนะ]
"..."
[โอเค กูขอโทษ กูไม่ควรเล่นเวลานี้]
“พังหมดแล้วไอ้สัด แผนเผินที่กูวางไว้ไม่ต้องใช้แม่งแล้ว เทให้หมด!”
[ท่านมึงใจเย็นๆ]
“กูลืมไปเลยว่ากูเคยเจ็บเพราะมันมามากแค่ไหน”
[...]
“เพียงเพราะมันอยู่กับผู้ชาย”
[เชี่ยท่าน]
“น่าโมโหจริงๆ”
[แล้วได้ให้นมเปรี้ยวพี่เขาไปป่ะ]
“ก็...ให้”
[สัด]
“...”
[กูว่าที่มึงตั้งแง่มาทั้งหมด มันอ่อนลงตั้งแต่มึงเห็นหน้าเขาแล้วล่ะ]
“เฮ้อ”
[...]
“ตึกของกล้ามีห้องว่างว่ะ”
[นี่อย่าบอกนะว่า...]
“กูเพิ่งไปถามคนดูแลข้างล่าง เดี๋ยวมาช่วยกูย้ายเข้าหน่อยนะ กูทำสัญญาแล้ว”
[ไอ้เหี้ยนายท่านอันเดอร์สกอร์...ช่างแม่งก่อน นี่มึงจะไวไปไหนวะ!]
“ไม่รู้”
[...]
“ไอ้พี่เชนอะไรนั่นอยู่ห้องตรงข้ามกล้าไม่ใช่เหรอ”
[...]
“ไม่ชอบขี้หน้าแม่ง เห็นแล้วรู้สึกอยากฆ่า”TBC*รู้สึกจะมีทีมชนัทดอทเอนจิเนียร์สี่สิบสองเยอะเลยนะคะ
นายท่านอันเดอร์สกอร์แอลเคเอชต้องสู้หน่อยละ ถ้าแอลเคเอชจริงๆ อ่ะ
(จริงๆ คนเขียนก็เหนื่อยกับน้องทิม)
ปล. หวีดเรื่องนี้ได้ที่แฮชแท็ก #นายท่านอรุณกิตตินิวัฒน์ เลยนะคะ