บทที่ 48 ไดอารี่ของสมปอง
[บันทึกพิเศษ : สยาม]
ชีวิตผมเคยรู้สึกว่าตัวเองใกล้ตายอยู่ 3 ครั้ง
ครั้งแรกคือขับรถเครื่องตกคลองที่ลำปาง
ครั้งที่สองคือตกบันไดที่ตึกคณะ
ครั้งที่สาม....คือตอนนี้นี่แหละ
ผมกลืนน้ำลายมองปืนในมือของพ่อสมปองอย่างหวั่นใจ เมื่อกี้ีมีการยิงไล่นกโชว์ด้วย สิ่งที่ผมได้ยินตามหลังมาจากที่เขายิงเสร็จก็คือเสียงของน้องที่แหกปากเรียกชื่อผมดังลั่น เจ้าตัวคงคิดว่าผมอาจจะโดนพ่อตัวเองยิงสินะ เอาจริงๆ ตอนนี้ผมก็ทำตัวใจดีสู้เสืออยู่ ใจก็คิดนะว่าถ้าโดนยิงตายที่นี่แล้วจะเป็นยังไงต่อ
ก็คงตาย
ปองคงเสียใจน่าดูเลยถ้าผมตาย ไหนจะครอบครัวผมอีก บรรดาเพื่อนๆ อีก ทุกคนต้องโซแซดกับการจากไปของสยามแน่นอนอะ ผมเพิ่งอายุ 20 เองนะ นี่ต้องมาจบชีวิตลงเพราะโดนพ่อแฟนยิงตายจริงๆ เหรอวะ
อา....คิดแล้วสงสารตัวเองจัง
"คุณลุง....มีอะไรจะคุยกับผมหรอครับ"
"ดูแลสมปองน่ะเหนื่อยไหม"
"มันก็.....เหนื่อยครับ" ผมยอมรับไปตามตรงก่อนจะยิ้มบางๆ "แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะทำไม่ได้"
"งั้นหรอ" พ่อปองยกยิ้มมองผม "แล้วถ้าข้าบอกเอ็งว่าข้าไม่ยกลูกชายให้ล่ะ"
"ยกให้เถอะครับ"
"ทำไมข้าต้องยกสมปองให้เอ็งด้วย"
"เพราะผมรักสมปองครับ" ผมเอ่ยบอกอย่างจริงจัง "ช่วงที่ผ่านมาผมมีเรื่องที่ต้องทำให้น้องเสียใจ แต่ว่าผมจะไม่ทำให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว"
"ถึงเอ็งจะพูดอย่างนั้น แต่ถ้าข้าไม่ยอมยกลูกข้าให้ เอ็งจะทำยังไงต่อ"
"ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณลุงใจอ่อนยอมยกปองให้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ผมก็จะอดทนรอครับ"
"แล้วถ้าข้าไม่มีวันใจอ่อนล่ะ"
"ผมคิดว่ามันต้องมีวันที่คุณลุงใจอ่อนแน่นอนครับ"
"มั่นใจจังเลยนะ อา....ยิ่งเห็นแล้วยิ่งรกหูรกตา" พ่อปองยกปีนขึ้นมาจ่อผม "ยิงทิ้งเลยดีไหม"
ผมมองปากกระบอกปืนที่อยู่ตรงหน้านิ่งๆ "......"
"คิดว่าข้ากล้ายิงเอ็งไหมไอ้หนุ่ม"
"คิดว่ากล้าครับ"
"คิดถูก"
ปังงงง
ผมเซทันทีที่เสียงนั้นสงบ รู้สึกได้ถึงหยาดเลือดที่ไหลออกมาจากต้นแขนซ้าย ผมยกมือขึ้นกดแผลตัวเอง ความรู้สึกชาๆ นี้มันคืออะไร การที่เลือดไหลแบบนี้มันหมายความชัดเจนว่ากระสุนถูกแขนผมแน่นอน ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงไม่รู้สึกเจ็บแบบที่ควรจะรู้สึก ผมไม่เคยโดนยิงหรอก แต่ที่เคยเห็นคือมันน่าจะต้องเจ็บบ้างไหมวะ อย่างน้อยมันก็ต้อง....
อึกก.ก.ก....เชี่ยยยย
มันเจ็บครับ
มันเจ็บมากโว้ยยยยยยยยยยย
"อื้ออ.อ.อ....." ผมกัดฟันเพื่อข่มความเจ็บที่โถมเข้ามาที่ต้นแขนซ้าย เซลล์ประสาทดีเลย์เหรอวะถึงได้เพิ่งเจ็บ โหยยยย โดนยิงนี่ต้องเจ็บขนาดนี้เลย
โหหหห
"สีหน้าดูเจ็บปวดดีนะ" คนตรงหน้าลดปืนลงก่อนจะหยิบสมุดสีขาวที่เหน็บอยู่ข้างตัวขึ้นมา "รู้ไหมว่านี่คืออะไร"
ผมส่ายหัวเบาๆ "ไม่รู้ครับ"
"มันเป็นข้อตกลงที่ข้าทำไว้กับสมปอง นั่นก็คือการให้เค้าได้เขียนไดอารี่เพื่อเล่าเรื่องราวช่วงเวลาที่เรียนวิศวะฯ ซึ่งเป็นคณะที่ตัวเองเลือกที่จะเรียน เหตุผลมันก็เยอะกว่านี้ล่ะนะ ค่อยลองไปถามสมปองเอาเองละกัน" พ่อปองบอกก่อนจะเปิดสมุดเล่มนั้นแบบผ่านๆ "เอ็งบอกว่าเอ็งไม่รู้ ก็แปลว่าไม่เคยเห็นมันเลยสินะ"
"ไม่เคยครับ ปองไม่เคยเล่าอะไรให้ผมฟัง"
"หึ....ก็ไม่แปลกหรอกนะ เล่นด่าเอ็งเต็มสมุดเลยหนิ สิ่งที่ข้าจะบอกเอ็งก็คือ....ทุกหน้าในสมุดเล่มนี้เป็นเรื่องของชีวิตสมปองที่มีเอ็งอยู่ด้วยเต็มไปหมด ตั้งแต่หน้าแรก จนถึงหน้าปัจจุบัน ทุกเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็นวันปฐมนิเทศฯ ที่เอ็งไปล้อชื่อสมปอง วันที่เอ็งหลอกหอมแก้มในโรงอาหาร วันที่ไปดูหนังด้วยกัน วันที่เป็นแฟนกัน วันที่ไปค่าย หรือจะเป็นช่วงเวลาที่ทะเลาะกัน"
"สมปอง....เขียนไว้ทั้งหมดเลยหรอครับ"
"ใช่ ราวกับว่าเอ็งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต"
....ส่วนหนึ่งในชีวิตงั้นเหรอ
ผมหลุดยิ้มออกมาทันทีที่พ่อปองพูดจบ ไม่น่าเชื่อเลยว่าสิ่งที่ได้ยินนี่มันจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่กำลังเผชิญอยู่ได้ ผมรู้สึกดีนะที่ได้รับรู้เรื่องสมุดไดอารี่เล่มนั้นน่ะ ไม่เคยรู้เลยครับว่าน้องเขียนมันมาตลอดตั้งแต่วันที่เราเจอกัน เขาต้องแอบผมเขียนแน่เลย ผมถึงไม่เคยเห็น ก็อาจจะใช่ ตอนนี้ถ้ามีบางสิ่งบางอย่างที่อยากจะทำคงจะเป็นการพุ่งไปกอดน้องแน่นๆ
อีกอย่างคง....ทำแผลที่แขน
เลือดมันอาบไปหมดแล้วครับ
พ่อปองเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะยกมือขึ้นแตะไหล่ผมเบาๆ "ที่ข้ายิงเอ็งนั่นเพราะข้าโกรธที่เอ็งทำให้ลูกข้าเสียใจ ทำให้เค้าร้องไห้ และถ้ามีเรื่องแบบนั้นอีก ครั้งหน้าข้าจะไม่ยิงเอ็งที่แขน"
"....ผมจะไม่ให้ปองเสียใจอีกแล้วครับคุณลุง"
"เอ็งจำคำพูดของเอ็งไว้ให้ดีก็แล้วกัน" เขายกยิ้มก่อนจะหันหลังให้ผม "ไปให้สมปองทำแผลให้ซะไป"
"แล้วเรื่องของผมกับปอง...."
"ถ้าเอ็งเลือดหมดตัวตายไปตอนนี้ เอ็งก็ไม่ได้ลูกข้าหรอกนะ....ข้าไม่ได้เป็นคนใจร้ายที่เห็นลูกมีความสุขแล้วจะคอยขัดขวาง แต่สำหรับบางอย่างมันต้องใช้เวลาที่จะยอมรับ ไปจัดการตัวเองซะ แล้วค่อยว่ากันอีกที...." พ่อปองเหลือบมามองผม "ข้าชอบแววตาและน้ำเสียงที่จริงจังของเอ็งนะ....มันทำให้ข้ารู้สึกได้ว่า ถ้าจะฝากเด็กซื่อบื้ออย่างสมปองไว้กับเอ็งล่ะก็ ข้าคงไม่ผิดหวัง"
ผมยกมือไหว้เขา "ขอบคุณนะครับ....ขอบคุณ"
"เออ ไปหาปองได้แล้ว"
"ครับ" ผมรับคำก่อนจะหันหลังเดินมาจากตรงนั้นทันที ซี๊ด.ด.ด.ด....ทั้งรู้สึกเจ็บทั้งรู้สึกดี แม่งเป็นอะไรที่ปะปนกันไปหมดเลยว่ะ
คำที่คุณลุงพูดนั่นทำให้ใจชื้นขึ้นเยอะเลยนะครับ ผมคิดว่าเขาน่าจะยอมรับในความรักของผมกับสมปองนะ แต่ก็ขอแค่เวลาเท่านั้นแหละ ผมเข้าใจเรื่องนี้ดี มันไม่ใช่ทุกบ้านที่จะรับได้กับเรื่องแบบนี้ เอาจริงๆ โดนยิงแค่ถากๆ นี่ก็เป็นบุญหัวผมมากแค่ไหน ถ้าเป็นลูกชายบ้านอื่นแล้วพ่อโหดๆ แบบสายโหดจริงๆ นี่ผมกลายเป็นปุ๋ยไปละ
แต้มบุญยังพอเหลืออยู่สินะสยามเอ๊ย
"พี่สยามมมม"
ผมมองตามเสียงก็เห็นสมปองที่ถูกพี่ณนนท์กับพี่พะนายรั้งเอวไว้อยู่ สายตาของน้องมองผมอย่างตกใจ คงเป็นเพราะว่าเห็นเลือดอาบแขนแบบนี้ล่ะมั้ง
"ปอง"
"พวกมึงปล่อยกูนะ กูจะไปหาพี่สยาม" น้องดิ้นจนหลุดก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาหาผม "เลือดดดด เลือดเต็มเลย เสียงปืนนั่น....พ่อยิงมึงหรอ"
ผมพยักหน้ารับเบาๆ "นิดหน่อยน่ะครับ"
"นิดหน่อยอะไรเล่า เลือดออกเยอะขนาดนี้ แล้วทำไมมึงถึงไม่วิ่งหนีไปห้ะ มึงยอมปล่อยให้ตัวเองโดนพ่อยิงทำไม" คนตรงหน้าโวยใส่พลางเบะปากจนสุด น้องหน้าเสียมากเลยครับ คงเป็นห่วงผมมากนั่นแหละถึงได้แสดงทีท่าแบบนี้ออกมา
น่ารักจัง
"ก็....." ผมรั้งสมปองเข้ามากอด
"อยากได้ลูกชายเค้าหนิ จะวิ่งหนีได้ยังไง""แต่เค้าจะยิง มึงก็ต้องหนีไหมล่ะ ถ้ามึงตายขึ้นมามึงก็ไม่ได้ลูกชายเค้าหรอก" น้องกอดผมแน่นพลางพึมพำเบาๆ
"ไม่ตายง่ายๆ หรอกน่ะ" ผมลูบหัวเจ้าตัวเบาๆ "ถ้ากูตายใครจะดูแลมึงล่ะ....จริงไหม"
"จริง มึงต้องอยู่ดูแลกูไปตลอดทั้งชีวิต....เข้าใจไหมพี่สยาม"
เข้าใจสิ....เข้าใจดีเลย
"ตลอดชีวิตครับปอง"
"สัญญาก่อน...."
"ครับ....สัญญา"
[จบบันทึกพิเศษ : สยาม]
ผมงอนพ่อมาก
งอนมากในมากด้วย
ผมนั่งทำหน้ายู่ยี่อยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง ตอนนี้พี่สยามมันหลับอยู่ครับ เนี่ยะ ผมบอกแล้วว่าให้นอนที่โรงพยาบาลสักวันก็ไม่เชื่อ ห้าวไง ไม่เป็นไรครับปอง พี่ขอนอนที่บ้าน เป็นไงล่ะมึง ไข้แดกเลยไง ไม่ได้ไข้แดกธรรมดานะ ไข้แดกหนักมาก ผมว่ามันน่าจะเพราะแผลที่โดนยิงนั่นแหละ กลัวมันจะอักเสบหนักแล้วลามไปเป็นโน่นเป็นนี่จนต้องตัดแขนทิ้งจริงๆ
ลองนึกภาพพี่สยามไม่มีแขนข้างนึงสิ
รู้สึกแปลกๆ เลยเนอะว่าไหม
ผมหันไปหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้คนที่หลับอยู่เบาๆ กินยาไปแล้วนะก่อนที่จะนอนน่ะ แต่ตัวยังร้อนอยู่เลย ผมได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้มันจะดีขึ้น เสียงปืนที่ได้ยิงสองนัดนั่นทำเอาผมใจหายมากเลย กลัวพี่สยามตายอะ นี่ดีแค่ไหนที่มันโดนยิงแค่ถากๆ แต่พ่อก็นะ....ผมไม่คิดว่าเขาจะยิงพี่สยามจริงๆ อะ
จะโหดไปไหนก็ไม่รู้
พ่อผมน่ะยิงปืนแม่นมากเลยนะ ผมรู้ว่าพ่อตั้งใจให้ยิงโดนแค่ถากๆ ส่วนเหตุผลนั้นก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่คิดได้ว่าคงมีแน่นอน ผมว่าการที่พ่อปล่อยให้พี่สยามมาหาผม ปล่อยให้ผมพามันไปโรงพยาบาล ปล่อยให้กลับมานอนที่บ้าน ปล่อยให้นอนในห้องผมด้วย มันก็พอทำให้คิดได้ว่าพ่ออาจจะยอมรับเรื่องของเราก็ได้นะ
หรือไม่ยอมรับวะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อกผมหันมองไปตามเสียงเคาะ "ไม่ได้ล็อกครับ" สิ้นเสียงที่ผมบอก ร่างสูงของคุณพ่อสุุดที่รักก็เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
หึ.....
"อาการไอ้หนุ่มเป็นไงบ้างล่ะ"
"ก็อย่างที่พ่อเห็น" ผมหันไปทำหน้ามุ่ยใส่ "ทำไมถึงยิงแฟนลูกแบบนี้ล่ะครับ"
"พ่อมีเหตุผลของพ่อ"
นั่นไง....เป็นแบบที่คิดไว้เป๊ะ
"ลูกไม่รู้หรอกนะครับว่าพ่อยิงพี่มันทำไม แต่ต้องขอบคุณพ่อเหมือนกันที่ไม่ยิงมันจนตาย แถมยังใจดีให้อยู่ที่นี่ต่ออีก" ผมเดินเอาผ้าขนหนูไปตาก
"ให้อยู่แค่ไม่กี่วันหรอกนะ"
ผมหันไปเบะปากใส่พ่อทันที "ทำไมล่ะครับพ่อ"
"อีกไม่กี่วันก็ต้องกลับไปเรียนแล้วไม่ใช่หรอ หรือจะเลิกเรียนแล้ว ก็ได้นะ กลับมาช่วยพ่อปลูกองุ่น"
"โนวๆ ๆ ๆ ๆ " ผมส่ายหน้ารัวๆ ก่อนจะเดินกลับมานั่งพี่สยามเหมือนเดิม "ยังอยากเป็นนักศึกษาอยู่ครับ ไว้พร้อมจะเป็นชาวไร่เมื่อไหร่ เดี๋ยวจะกลับมาเอง"
"กวนประสาทนักนะ" พ่อยื่นสมุดไดอารี่มาให้ผม "ถ้าไอ้หนุ่มมันฟื้นก็ยกข้าวขึ้นมาให้มันกินด้วยล่ะ พ่อไม่อยากให้ใครมาตายในไร่พ่อ"
"นี่ขนาดไม่อยากให้ใครตายนะ"
"ใช่สิ เพราะถ้าอยากให้มีคนตายจริงๆ ร่างที่นอนอยู่ตรงหน้าลูกต้องไร้ลมหายใจแล้วล่ะ"
อา....ความขนลุกนี้มันคืออะไรกัน
"อย่าพูดจาน่ากลัวแบบนั้นสิครับ" ผมเลื่อนมือไปจับมือพ่อไว้ "ว่าแต่เรื่องของลูกนี่...."
"พ่อไปทำงานต่อละ" ว่าแล้วพ่อก็เดินหนีออกไปจากห้องทันที
แบบนี้ก็ได้เหรอ
เฮ้อ...
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเลื่อนมือไปกุมมือพี่สยามไว้ จะฟื้นกี่โมงก็ไม่รู้เนี่ย แต่จะว่าไปมันก็หลับมาหลายชั่วโมงละนะ ผมนี่นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ข้างมัน มันก็ยังไม่ตื่นเลย นี่ก็จะ 5 โมงละ ผมควรปลุกพี่สยามก่อนไหมแล้วค่อยให้มันนอนต่อตอนกลางคืน
"อืม.มม.....ปอง"
คงไม่ต้องปลุกแล้วล่ะ
"พี่สยาม" ผมมองคนตรงหน้าที่เพิ่งลืมตาขึ้นมา สีหน้าซีดๆ ของเจ้าตัวเปื้อนยิ้มทันทีที่เห็นผม ไงล่ะ ดีใจล่ะซี้ที่ตื่นมาแล้วได้เจอสมปองคนคิ้วท์น่ะ
นี่เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะคนได้เป็นแฟนเท่านะครับ
คนอื่นนี่ไม่มีสิทธิ์อะบอกเลย
"สมปอง"
"ใช่ ไอแอมสมปอง" ผมเลื่อนมือขึ้นไปอังหน้าผากพี่มัน "ไข้มึงไม่ลดเลยนะพี่สยาม ดื้อยาหรอ"
มือเรียวคว้ามือผมไปจุ๊บเบาๆ "กูรักมึงนะ"
"เดี๋ยวๆ อะไรของมึงเนี่ยะ" อยู่ดีดีก็มาบอกรักเฉยเลย นี่ต้องเขินจนตัวบิดไหมเนี่ยะ
"กูพูดจริงๆ หนิ พ่อมึงเล่าให้กูฟังแล้วนะเรื่องไดอารี่ที่มึงเขียนน่ะ"
ผมมองมันตาโตทันที "จริงอะ แล้วพ่อกูบอกอะไรบ้าง"
"เค้าบอกว่ามึงเขียนด่ากูไว้เต็มเลย"
ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ชิบหายละ
"เอ่อ....ไม่จริ้งงงง พ่อกูอำมึงแล้ว" ผมเอื้อมมือจะไปคว้าสมุดไดอารี่แต่พี่สยามมันชิงหยิบไปก่อน เฮ้ยูวววว ทำแบบนี้ไม่ได้น่ะ
"อื้ออ.อ.อ...หืม.มม....ด่ากูจริงๆ ด้วย" เจ้าตัวเอ่ยก่อนจะเหลือบมองผม "ไว้กูหายก่อน มึงโดนลงโทษแน่เมีย"
"ไม่โว้ยยยย" ผมเบ้ปากใส่ก่อนจะคิดหาทางแย่งสมุดไดอารี่มา คือจะไปยื้อยุดฉุดกระฉากมาก็ไม่ได้ไง กลัวมันขาดเอา อีกอย่างคือเดี๋ยวแผลพี่สยามมันจะระบมหนักกว่าเดิม
อา....ผมคิดออกละว่าจะแย่งมายังไง
"....วันนี้ก็ด่ากูด้วย"
"พี่สยาม"
".....หืม" ทันทีที่พี่มันรับคำผมก็ก้มหน้าลงไปจูบปากมันเบาๆ คนโดนจูบมองผมตาโต มันคงจะตกใจล่ะมั้ง ผมอาศัยจังหวะนั้นดึงสมุดไดอารี่ออกมาจากมือพี่สยามแล้วผละออกมา
เสร็จปอง
"เป็นคนเจ็บก็อยู่ให้มันนิ่งๆ รู้ไหม" ผมเก็บสมุดไดอารี่ใส่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะล็อกไว้ "ไว้หายก่อนแล้วค่อยมาอ่าน"
"อยากอ่านตอนนี้อะ"
"ไม่ได้ อย่ามาดื้อ" ผมบอกก่อนจะเดินมาเอนตัวนอนลงข้างๆ มัน "ยังไง....มึงก็ต้องได้อ่านมันอยู่แล้วล่ะสมุดเล่มนั้น"
จะว่าไป....ไดอารี่ของผมเนี่ยะ มีแต่เรื่องของมันทั้งนั้นเลยนะ คือเวลาที่เขียนมันก็คนละวันไง ตอนที่เขียนก็ไม่ได้คิดหรอกว่าทุกเรื่องจะมีพี่สยามเข้ามาเกี่ยวข้องน่ะ ผมไม่เคยย้อนกลับไปอ่านสิ่งที่ตัวเองเคยเขียนเลยนะ ถ้าพ่อไม่บอกผมก็ไม่รู้เหมือนกัน คิดๆ แล้วก็ตลกดีนะ ตอนที่เจอหน้ามันครั้งแรกก็ไม่ได้ถูกชะตาเลยสักนิด แล้วสุดท้ายเป็นไง
ก็ได้กัน
บ้าบอชะมัด
"สมปอง" พี่สยามหันมองมาผม "ขอบคุณนะครับ....สำหรับทุกๆ อย่าง"
ผมหลุดยิ้มก่อนจะเลื่อนมือไปกุมแก้มเจ้าตัวไว้ "กูก็ต้องขอบคุณมึงเหมือนกันในหลายๆ อย่าง มึงต้องรีบๆ หายนะ กูมีหลายที่ในไร่ที่อยากจะพามึงไปดู อยากพามึงไปดูสมหยัมด้วย"
"สมหยัม"
"ลูกของกูกับมึงไง" ผมซุกหน้าลงกับไหล่พี่สยาม "กูเป็นคนตั้งให้เอง"
"ลูก....นี่มึงท้องตอนไหนเนี่ยะ"
"โถ่พี่สยามไอ้ติ๊งต๊อง ลูกนี่คือลูกม้าโว้ย กูตั้งชื่อให้มันเหมือนมีชื่อมึงกับกูผสมกันอยู่ กูเลยโมเมว่าเป็นลูกของเรา ทำไม มึงไม่อยากมีลูกกับกูล่ะสิ เอ้ออออ งั้นสมหยัมเป็นลูกกู มึงไม่ต้องมาเกี่ยว" ผมทำท่าจะทันหนีแต่พี่สยามมันดึงไว้ก่อน
"โอ๋นะครับเมีย ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย แค่ถามเฉยๆ ไหมเนี่ยะ " เจ้าตัวเอ่ยเสียงอ่อนก่อนจะยิ้มบางๆ ให้ผม "เดี๋ยวจะรีบหายนะครับ จะได้ไปดูลูกกัน"
"ดีมาก" ว่าแล้วผมก็ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มขาวเบาๆ เอาใจมันหน่อยครับมันจะได้รีบหาย
ผมว่าอีกสองสามวันมันน่าจะอาการดีขึ้น แล้วพอมันหายเนี่ยะ ผมก็จะพามันไปน้ำตกที่ท้ายไร่ พาไปหาสมหยัม พาไปขโมยผลไม้ในไร่ของพ่อกิน ไม่ดีกว่า เพราะถ้ามันทำแบบนั้นมันอาจจะโดนพ่อยิงอีกรอบก็ได้ ดีไม่ดี ผมก็อาจจะโดนพ่อยิงด้วย งั้นเอางี้ เรื่องผลไม้เดี๋ยวให้พะนายไปขโมยมาให้ แจ่มมมม แผนการนี้โคตรผ่าน
จะให้ขโมยมาสักสามกระบุง
"อย่าทำหน้าชั่วแบบนั้นสิปอง ใจคอไม่ดีเลย"
"มึงนี่มัน...."
น่าจับคอมาเขย่าๆ ๆ ๆ ๆ
หึ้ย.ย.ย....
TBC.
สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้วนะคะ ขอโทษด้วยที่เลทมาวันนึงมันเป็นเพราะว่าอาการป่วยเดิมๆ ที่ยังไม่หาย มันก็เลยรู้สึกแย่มาก ช่วงนี้เหนื่อยมากกว่าปกติด้วย สภาพร่างกายจะไม่โอเคเลย บี๋ก็ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ อากาศมันเปลี่ยนแปลงบ่อยเนอะ
อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วนะคะสำหรับนิยายเรื่องนี้ ยังมีคำพูดแะก็ประโยคหลายๆ อย่างที่ยังไม่ได้ใส่ลงไปนะ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไป ช่วงนี้มันเป็นช่วงเดือนสุดท้ายที่ชาลจะฝึกงานเสร็จ มันก็มีงานเยอะมากๆ และชาลต้องรีบทำ บางทีอาจจะไม่ว่างและก็ไม่สามารถที่จะแต่งนิยายลงตามตารางได้นะคะ แต่ว่าต่อให้ไม่ลงตามวัน แต่ชาลจะลงอาทิตย์ละ 1 บทแน่นอนนะ ก็อดใจรอกันหน่อยนะคะ
ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ