➳➴❤Found Love...อุบัติเหตุ(พบ)รัก❤➵➶ [Mpreg] *ตอนที่ 24* END--; P.8 // 2-6-2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ➳➴❤Found Love...อุบัติเหตุ(พบ)รัก❤➵➶ [Mpreg] *ตอนที่ 24* END--; P.8 // 2-6-2019  (อ่าน 67096 ครั้ง)

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
บทที่ 13
By moggy
-----------------------

ตั้งแต่ตื่นเมื่อช่วงบ่าย ผมก็ยังไม่ได้นอนเลยครับ ว่าจะรอพี่ภู รู้สึกใจคอไม่ดี รู้สึกวูบวาบแปลกๆ แล้วนี่ก็ปาไปตีหนึ่งแล้วด้วย พี่ภูก็ยังไม่กลับ เลยยิ่งทำให้ผมเป็นห่วงเข้าไปอีก ช่วงหัวค่ำผมขึ้นไปข้างบนก่อน ไม่อย่างนั้นคุณแม่ทั้ง 2 ต้องนั่งรอเป็นเพื่อนผมแน่ๆ แล้วจึงลงมานั่งรอข้างล่างอีกทีตอนสี่ทุ่ม

“เฮ้ออ...ทำไมยังไม่กลับนะ” ผมได้แต่เดินไปมาในที่มืด เสียงรถทำให้ผมรู้สึกใจชื้นขึ้น อย่างน้อยพี่ภูก็ไม่ได้เป็นอะไร และตอนนี้ก็กลับถึงบ้านแล้ว ร่างสูงเดินเข้ามาโดยที่ไม่ทันสังเกตผมที่นั่งรออยู่ ผมจึงเดินเข้าไปกอดพี่ภูเอาไว้

“โอ๊ะ...ข้าว” เสียงแปลกใจกับเสียงเจ็บปวด

“พี่ภู” ผมเรียกและกอดอยู่อย่างนั้น

“ทำไมยังไม่นอนครับ เด็กดื้อ พี่บอกให้นอนก่อนไม่ใช่หรอ” พี่ภูก็กอดผมอยู่อย่างนั้น เรากอดกันให้รู้ว่าเรายังมีกันและกัน อยู่ตรงนี้ด้วยกัน

“ข้าวนอนไม่หลับ เป็นห่วงด้วย เลยรอ”

“หึหึ เด็กดื้อ ทำไมน่ารักอย่างนี้ครับ” พี่ภูก้มลงมาจูบ เป็นจูบที่อ่อนโยนก่อนจะผละออก

“หิวไหม กินอะไรมาหรือยัง” คนตัวเล็กถามขึ้น

“ยังเลย แต่อยากกินคนนี้ได้ไหมครับ”

“พี่ภูบ้า เดี๋ยวข้าวผัดข้าวให้ พี่ภูขึ้นไปอาบน้ำก่อนเถอะ แล้วลงมากินด้วย”

“รับทราบครับ” ก่อนขึ้นไป ยังมิวายหอมแก้มอีกฟอด จากนั้นผมจึงเดินเข้าครัวไปเตรียมข้าวให้พี่ภู




“อร่อยไหม”

“ข้าวทำอะไร ก็อร่อยหมดแหละ”

“ปากหวาน” ว่าแล้วคนตัวเล็กก็เดินไปเอาน้ำมาให้

“พี่ภูงานเยอะหรอ วันนี้”

“ครับ”

“ถ้าอย่างนั้น ก็กินเยอะๆ นะครับ”

“พอแล้วครับ ข้าว พี่ไม่ไหวแล้ว ง่วงแล้วด้วย”

“ถ้าอย่างนั้นพี่ภูขึ้นไปนอนก่อน เดี๋ยวข้าวเก็บล้างแล้วจะตามขึ้นไปนะ”

“พี่ทำเอง”

“ไม่ต้องๆ ข้าวทำเอง พี่ภูขึ้นไปแปรงฟัน นอนได้เลย” ผมดันหลังร่างใหญ่ให้เดินขึ้นไป แล้วแยกมาทำความสะอาดก่อน




ผมเปิดประตูห้องเข้าไป ก็โดนอุ้มไปที่เตียงทันที

“พี่ภู” ผมขึ้นเสียงสูงทันที เพราะความตกใจ

“อะไรครับ เด็กดื้อ” พี่ภูวางผมลงบนเตียง แล้วจูบผม เป็นจูบที่เรียกร้องมากขึ้น มือพี่ภูเริ่มสัมผัสไปตามผิวใต้เสื้อของผม

“อื้อ พี่ภู พอแล้วครับ”

“อีกนิดนะครับ” พี่ภูเริ่มจูบไปตามซอกคอ อืม...อีกนิดของพี่ภูไม่มีหรอกครับ มีแต่จะเอาเปรียบผมตลอด และตอนนี้เสื้อผ้าก็หลุดหายไปทั้ง 2 คนแล้ว

“อื้อ พี่ภู” ภูธิปลงลิ้นกับหน้าอกของลูกข้าว

“หน้าอกใหญ่ขึ้นหรือเปล่าเนี่ยเรา”

“บะ...บ้า พี่ภู...อ่า” ภูธิปยังไม่ละไปไหน ยังคงเล่นอยู่ตรงหน้าอกของคนตัวเล็ก มือก็สัมผัสส่วนล่างเพื่อเปิดทาง

“พี่ภู ขะ...ข้าว เข้ามาเถอะ พี่ภู” เมื่อเห็นว่าลูกข้าวพร้อม ภูธิปจึงจ่อแก่นกายที่ทางเข้าสีสวย พร้อมกับจูบเรียกร้องเพื่อผ่อนความเจ็บให้ร่างเล็ก

“อ๊ะ...อ๊ะ อ่า” ส่วนเนื้ออ่อนค่อยๆ เข้าจนสุด ร่างใหญ่จึงค่อยๆ ขยับ


ความเสียววาบเข้ามาแทนที่ ภูธิปทำทุกอย่างอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่งรีบ และค่อนข้างระวัง

“อะ...”

“ข้าว อืม อื้ม”

“มะ..ไม่ไหวแล้ว พี่ภู”

“พร้อมกันนะครับ คนดี” ภูธิปขยับเร็วขึ้น แต่ไม่ได้รุนแรง สักพักตัวลูกข้าวก็กระตุก น้ำรักเปื้อนที่หน้าท้อง ร่างใหญ่ขยับอีกไม่กี่ทีก็ถึงฝั่ง น้ำสีขาวขุ่นถูกฉีดเข้ากับร่องโพรงของลูกข้าว

“พี่ภู เอาออกสิ” เมื่อทุกอย่างจบลง แต่แก่นกายภูธิปยังไม่ได้ถอนออก

“อืม ข้างในมันอุ่นจัง ข้าว”

“ไม่ต้องเลย เอาออกครับ” พี่ภูเริ่มจูบไปตามลาดไหล่ผม ส่วนนั้นก็เริ่มขยายขึ้นอีกรอบ

“พี่ภู”

“อีกรอบนะครับ ที่รัก” แล้วพี่ภูก็เริ่มบรรเลงอีกรอบทันที โดยที่ร่างเล็กยังไม่ทันได้อนุญาตเลย เอาแต่ใจจริงๆ


คนตัวเล็กหลับไปเรียบร้อย ภูธิปจัดการเช็ดตัวให้ลูกข้าว จะได้หลับสบายขึ้น ส่วนเขาก็เพลียเกินจะทำอะไรแล้วล่ะครับ ก็หลับตามคนตัวเล็กไป




ผมตื่นขึ้นในรุ่งเช้า แต่ก็สายกว่าปกติมาก พี่ภูยังหลับอยู่ แต่มือก็ยังพาดอยู่ตรงช่วงเอวผม เป็นอย่างนี้ทุกเช้าครับ สงสัยวันนี้ป้าสายจะทำอาหาร เพราะผมคงลงไปไม่ทัน ผมค่อยๆ ลุกขึ้นใส่เสื้อคลุม แต่เอ๊ะ...แขนพี่ภู ไปทำอะไรมานะ ผมเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผล แล้วมานั่งทำแผลใหม่ให้พี่ภู ค่อยๆ แกะพลาสเตอร์ปิดแผลอันเก่าออก แผลสด เป็นรอยคล้ายๆ ที่ผมเคยเห็นตอนที่เจอพี่ภูครั้งแรก แต่ครั้งนี้เป็นแผลหนักกว่าครั้งที่แล้ว ทำความสะอาดแผล ใส่ยา ก็ปิดพลาสเตอร์แผ่นใหม่ให้

“ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น แล้วดึงแขนผมให้ล้มลงไปจูบ

“…” พอจูบเสร็จ ผมก็นิ่ง ดูสิจะอธิบายว่าอะไร

“แขนโดนรถไถมาครับ ซ่อมเครื่องแล้วแขนไปขูดโดนน็อต” วันนี้ภูธิปมีซ่อมเครื่องรถไถจริงๆ แต่ไม่ได้บอกหมด

“ระวังหน่อยครับ ดูสิแผลใหญ่เชียว เดี๋ยวหลังอาหารกินยาด้วยนะครับ ข้าวกลัวว่ามันจะอักเสบ”

“ครับผม” ภูธิปรอดตัวที่ลูกข้าวไม่ได้ถามอะไรมาก และรับคำเพื่อความสบายใจของว่าที่คุณแม่

“ถ้าอย่างนั้น พี่ภูอาบน้ำก่อนข้าวก็ได้ เดี๋ยวไปทำงานสาย”

“อาบพร้อมกันก็ได้” แล้วภูธิปก็อุ้มเจ้าตัวเข้าห้องน้ำไป สักพักใหญ่กว่าจะออกมากัน



“คนเอาแต่ใจ”

“ครับ พี่เอาแต่ใจ หึหึ” ภูธิปตอบกลับอย่างอารมณ์ดี

“คนบ้า”

“ครับ พี่บ้า หึหึ”

พอเดินลงมา ก็เห็นคุณแม่กับแม่พิมพ์นั่งทานข้าวกันอยู่

“ข้าว ไม่สบายหรือเปล่าลูก วันนี้ตื่นสายนะ” แม่พิมพ์ถามขึ้น

“เปล่าครับ ข้าวแค่เพลียๆ”

“หรอ แล้วเป็นอะไรหรือเปล่าลูก” คุณแม่ถามขึ้นอีกคน

“ไม่เป็นอะไรครับ”

“ถ้าอย่างนั้นมากินข้าวกัน แหววเตรียมอีก 2 ที่นะ” คุณแม่เอ่ยขึ้น ก่อนจะหันไปสั่งแหวว

“ตาภูอารมณ์ดีเชียวลูก ไปทำอะไรมา”

“ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ แค่ได้กำลังใจจากว่าที่เจ้าสาว”

“พี่ภู” เสียงเล็กสูงขึ้นทันที พร้อมตาโตๆ เหมือนจะดุ แต่สำหรับภูธิปแล้ว มันไม่ดุเลยสักนิด

“กินข้าวกันดีกว่าลูก” แม่พิมพ์ทักขึ้น

“อีก 2 อาทิตย์จะวันงานแล้ว ตื่นเต้นไหมลูก” คุณแม่ถามขึ้น

“ก็...ครับ” ผมเห็นนะ พี่ภูยิ้มๆ

“เดี๋ยววันนี้ช่างตัดชุดจะมาวัดไซส์นะลูก”

“ครับ” ผมก็ไม่รู้ชุดอะไร ยังไง ส่วนใหญ่คุณแม่กับแม่พิมพ์จะเป็นคนจัดการ

“ตาภูด้วยนะลูก”

“ครับ วันนี้ว่าจะพักอยู่บ้านครับ”

“ดีเลยลูก จะได้เลือกของชำร่วยด้วย ไหนจะดอกไม้อีก เยอะแยะไปหมด”

“ผมแล้วแต่น้องเลยครับ” ภูธิปตอบกลับ

“แหม...ยังไม่ทันแต่ง ก็ดูกลัวน้องซะแล้วเรา” คุณแม่เอ่ยแซว ผมเขินนะ แต่ดูเหมือนพี่ภูจะแกล้ง ดูสิมีนั่งขำผมอ่ะ



ตกช่วงสาย พี่ภูไปนั่งคุยกับ 2  แม่ ผมแยกตัวออกมาเพราะยังตงิดๆ ไม่หาย คืออยากมากไง อยากมากๆ ผมเลยเดินไปที่สนามหลังบ้าน ก็ไอดอกสีม่วงๆ นั่นแหละครับ ที่ผมมีปัญหาด้วย คืออยากกินครับ ผมแปลกประหลาดอะไรหรือเปล่าอ่า ผมเอื้อมไปเด็ดออกมา 1 ดอก แล้วเอาเข้าปากทันที อืม...ก็อร่อยนิ ผมก็เลยเด็ดกินต่อ

“ทำอะไรข้าว” เสียงดุดังขึ้นด้านหลัง

“พี่ภู” ภูธิปเห็น ไม่ใช่ไม่เห็น อยู่ๆ เจ้าตัวก็กินไอดอกม่วงๆ เข้าไป ก็เลยนึกห่วง

“ห้ามกิน สกปรก” เสียงพี่ภูเริ่มเข้มขึ้น

“…” ทำไงได้ล่ะ ก็อยากกินนิ พอพี่ภูเริ่มดุ อยู่ๆ น้ำตาก็ไหล ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องเลย ผมอ่อนแอขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ยังแปลกใจตัวเองอยู่ พี่ภูก็ดึงเข้าไปกอดเสียก่อน

“ร้องไห้ทำไมครับ”

“พี่ภูดุ”

“ไม่ดุแล้วครับ พี่แค่เป็นห่วง มันสกปรก กินได้แต่ต้องเอาไปล้างก่อน โอเคไหมครับ”

“ครับ” พอพี่ภูอธิบาย ผมก็หยุดร้องไห้

“แม่พิมพ์ให้มาตาม ช่างตัดชุดมาแล้ว”

“ครับ” ผมเดินตามแรงจูงคนข้างหน้า



กว่าจะวัดไซส์ชุดแต่งงาน เลือกของชำร่วย เลือกดอกไม้ ก็ปาไปเย็นมากแล้ว และในส่วนอื่นคุณแม่ทั้ง 2 คนเป็นคนจัดการครับ ส่วนผมเดินเข้าครัวครับ อืม...วันนี้กินอะไรดี....ไก่คั่วเกลือ ฟักทองผัดไข่ ต้มยำปลาทู

ไก่คั่วเกลือกับฟักทองผัดไข่ ปกติจะต้องใส่กระเทียมด้วย แต่ช่วงนี้ผมจะไม่ใส่เลย เพราะพี่ภูบอกเลี่ยงได้ ก็เลี่ยง เดี๋ยวคลื่นไส้แล้วจะกินได้น้อย ทุกคนกินได้เหมือนผม

“ข้าว เดี๋ยววันนี้ไปสวดมนต์กับแม่นะ” คุณแม่เอ่ยชวนไปสวดมนต์ที่ห้องพระ

“ครับ” หลังจากกินข้าวกันเสร็จ ทุกคนก็แยกกันไปอาบน้ำชำระกายให้สะอาดเพื่อมาเตรียมตัวสวดมนต์กัน วันนี้มีพี่ภูร่วมด้วย ไม่ใช่แค่ทั้ง 2 แม่ที่แปลกใจ ผมก็แปลกใจเช่นกัน



ที่ห้องพระ คุณแม่เตรียมดอกบัวให้กับทุกคน ผมสวดขอให้ทั้งบ้านร่มเย็นเป็นสุข แคล้วคลาดปราศจากจากอันตรายทั้งปวง และขอให้ลูกที่กำลังจะเกิดมาได้เกิดมาอย่างปลอดภัยและครบ 32 เราสวดกันประมาณ 1 ชั่วโมงได้ก็กราบพระ แล้วเตรียมตัวเข้านอน




วันนี้ผมมีนัดกับหมอครับ พี่ภูบอกจะกลับมารับช่วงสายๆ ที่จริงผมไปเองก็ได้นะ แต่พี่ภูสั่งไว้ ก็ต้องตามนั้นแหละครับ ไม่อยากขัดคนขี้กังวล

พอมาถึงโรงพยาบาล ก็ได้เข้าพบน้าหมอเลย เพราะว่านัดไว้อยู่แล้ว แต่ก่อนที่จะเข้าห้อง ก็มีพี่พยาบาลพาไปเจาะเลือด ตรวจฉี่ และตรวจเบื้องต้นก่อน หลังจากนั้นจึงเข้าไปหาน้าหมอวิ

“สวัสดีครับ น้าหมอ” พี่ภูพาเดินเข้ามาในห้อง ในนั้นมีพยาบาลอยู่ 2 คนซึ่งคนนึงเป็นคนพาไปตรวจเบื้องต้นมา เห็นน้าหมอบอกไว้ใจได้

“สวัสดีครับ น้าหมอ” ผมไหว้น้าหมอ ก่อนนั่งลงที่เก้าอี้

“สวัสดีจ้ะ ตาภู หนูข้าว” ง่ะ...เรียกผมว่าหนูอีกคนแล้ว - -*

“ไหน น้าขอตรวจดูหน่อยจ้ะ”

“อืม ปกติและแข็งแรงดี ช่วงนี้แพ้อะไรไหม”

“ตอนนี้ไม่แพ้ครับ แต่อยากกินดอกอัญชันมาก อย่างนี้ผมผิดปกติหรือเปล่าครับน้าหมอ” 

“ฮิฮิ ไม่หรอกจ้ะ ช่วง 10-12 สัปดาห์ จะอยากกินอะไรแปลกๆ เป็นเรื่องธรรมดาของคนท้องจ้ะ แต่ต้องดูด้วยนะ ว่าสะอาดหรือเปล่า ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้ากินเข้าไป”

“ครับ น้าหมอ”

“น้าหมอครับ ถ้าซาวน์ตอนนี้จะเห็นตัวเด็กหรือยังครับ” พี่ภูที่นั่งเงียบมานานเอ่ยถามขึ้น

“เห็นแล้ว ดูไหม”

“ครับ ดูครับน้าหมอ” พี่ภูดูตื่นเต้นมาก

“เอ้า...อย่างนั้นขึ้นไปที่เตียงนะ” น้าหมอหันไปหยิบเจล แล้วเอาเครื่องซาวน์กลิ้งไปมาที่ท้องผม

“ท้องไม่ค่อยใหญ่ ช่วงนี้ก็เริ่มทาครีมนะ ท้องจะได้ไม่แตกลายมาก”

“ครับ” ผมรับคำ

“นี่ไง เห็นไหม” ผมและพี่ภูดูที่หน้าจอตามที่น้าหมอชี้ เห็นเป็นรูปร่างของเด็ก น้ำตาผมไหลเลยครับ พี่ภูก็ดูนิ่งๆ ไปเหมือนกัน

“เด็กมีพัฒนาการดี แข็งแรงดีจ้ะ”

พอซาวน์เสร็จ น้าหมอยื่นแผ่นฟิล์มใบหนึ่งให้พี่ภู ดูเจ้าตัวจะชอบ จ้องอยู่นั่นและ น้าหมอสั่งยาและวิตามินให้ที่นี่เลย โดยให้พี่พยาบาลเดินไปจัดการมาให้

“นัดอีกที เดือนหน้านะจ๊ะ”

“ครับน้าหมอ” ผมเอ่ยตอบ

หลังจากนั้นก็ลาน้าหมอกลับบ้าน แผ่นฟิล์มถูกพี่ภูเก็บใส่กระเป๋าสตางค์เรียบร้อย หึหึ ไม่ค่อยจะเห่อเลยจริงๆ

----------------------------
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//


ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
น่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ใกล้วันแต่งแล้ว ตื่นเต้น ๆ  :m4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
มีทักทายลูกด้วยนะพ่อ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
คูมพ่อวหื่นจังเลยค่าาาาาา

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
น่ารักจังเลย คุณแม่อยากกินอะไรแปลกๆ คุณพ่อเห็นลูกแล้วต่อไปน่าจะหวงลูกมาก

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พี่ภูขยันทำการบ้านทุกวันเลย555

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
หวังว่าจะหวานอย่างนี้เลื่อย ๆ ไม่มาม่าซะก่อนนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ใกล้วันแต่งแล้ววววว

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
บทที่ 14
By moggy
-----------------------

บ้านสไตล์โมเดิร์นที่สร้างด้วยไม้สัก และตีกระจกรอบตัวบ้าน ตั้งอยู่บนเนินเขา ตอนนี้ได้กลายเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของนายหัวแห่งไร่ราชัน ดอกมะลิที่ปลูกไว้รอบตัวบ้านส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ตามบริเวณทางเดิน ประตู หน้าต่าง บันได ซุ้มของกิน จะถูกประดับด้วยดอกรักที่ร้อยเรียงกันอย่างสวยงามโดยมีดอกกุหลาบสีโอรสแซม เป็นงานเล็กๆ ที่จัดภายในครอบครัว เชิญแค่ญาติและคนสนิทเท่านั้น รวมๆ แล้วประมาณ 20 คนได้ และตอนเย็นไร่ราชันก็จะมีงานเลี้ยงให้กับลูกจ้าง ภูธิปในชุดสูทสีครีมเป็นแบบลำลอง แต่งตัวเรียบร้อยแล้วลงมาต้อนรับ พูดคุยกับแขกในงาน พวกผู้ใหญ่ภูธิปแค่เข้าไปทัก แล้วขอตัวออกมาให้คุณแม่ต้อนรับต่อ

“ไง” เสียงชาครดังขึ้น

“อืม” ภูธิปทักกลับสั้นๆ

“สวัสดีครับ คุณภู” คนตัวเล็กข้างตัวชาครเอ่ยขึ้น

“สวัสดีครับ คุณรชา” ภูธิปทักกลับ

“นนท์กับนันท์ล่ะ” ภูธิปเอ่ยถามถึงเจ้าแฝด

“อยู่กับป้าละออ ซน ก็เลยไม่พามา”

“อือ”




เมื่อถึงเวลาฤกษ์ ลูกข้าวก็เดินลงมาจากข้างบนบ้าน ในชุดสีขาวคล้ายๆ กี่เพ้ายาวประมาณเข่า ชายพริ้วคล้ายสไบ และใส่กางเกงขายาวสีขาวทับอยู่ด้านใน หน้าถูกแต่งอ่อนๆ ผมก็ใช้กิ๊ฟหนีบเข้าที่ด้านข้าง ภูธิปมองค้างนิ่งๆ เมื่อลูกข้าวเดินลงมาใกล้จะถึงบันไดขั้นสุดท้าย ภูธิปจึงเดินเข้าไปรับทันที แล้วพาไปนั่งสำหรับพิธีสงฆ์

“วันนี้สวยมาก” ภูธิปกระซิบที่ข้างหูลูกข้าวให้ได้ยินกัน 2 คนขณะนั่งฟังพระสวด

“บ้า พี่ภู สวยอะไร ข้าวเป็นผู้ชายนะ” ลูกข้าวโต้ตอบ แต่แก้มก็แดงเป็นลูกตำลึง


แอบบอกนิดนึงตอนตักบาตร พี่ภูให้ผมจับทัพพีด้านบนแหละ อิอิ  เมื่อพิธีสงฆ์เสร็จ ก็ถึงพิธีสู่ขอ และพิธีสวมแหวน ภูธิปสวมแหวนให้ลูกข้าวตามเวลาฤกษ์ยามที่จับมา ลูกข้าวก้มลงกราบที่ตัก ภูธิปรับไหว้ จากนั้นลูกข้าวได้สวมแหวนให้ภูธิปคืน แหวนคู่ทำด้วยทองคำขาว จะต่างกันแค่ของพี่ภูเป็นแบบเรียบ ส่วนของผมประดับเพชรฝังอยู่ที่แหวนด้วย อืม...เรียงเยอะอยู่นะ แต่ไม่รู้ว่ากี่กะรัต เดี๋ยวค่อยถามพี่ภู ส่วนแหวนของพี่ภูเห็นบอกว่าไม่ฝังเพชรแหละดีแล้ว เดี๋ยวตอนทำงานแล้วเพชรกระเด็นหลุดหายไป เสียดายแย่ เป็นเหตุผลที่น่าขำจริงๆ


จากนั้นก็ถึงพิธีผูกข้อมือ ผมนั่งอยู่ฝั่งซ้ายของพี่ภู มีหมอนทรงฟักทองสีเงินรองข้อมือไว้ ผู้ใหญ่เริ่มทยอยผูก เริ่มตั้งแต่คุณแม่ แม่พิมพ์ และผู้ใหญ่ท่านอื่นก็ทยอยกันมาผูก  ลูกข้าวไม่มีเพื่อนมา เพราะไม่ค่อยสนิทกับใครอยู่แล้ว ส่วนพี่ภูก็มีคุณชาครพร้อมกับผู้ชายร่างเล็กคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ คุณตำรวจที่ชื่ออาชว์ คุณปาณัท คุณเวทิต เพื่อนพี่ภูครับ แล้วก็แขกผู้ใหญ่ที่สนิทกับคุณแม่ อ่อ...น้าหมอวิก็มาครับ ทุกคนที่มาไม่มีใครรังเกียจผมเลย ทุกคนใจดีมาก แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วครับ จากนั้นก็จดทะเบียนสมรส คุณแม่ให้ทนายของตระกูลจัดการให้เรื่องนายอำเภอจากประเทศนิวซีแลนด์ เพราะพี่ภูจบจากที่นั่นมา คุณแม่ก็เลยเลือกให้จดที่นี่ และผมเปลี่ยนมาใช้นามสกุลพี่ภูครับ


สิปาง แก้ววรา เปลี่ยนเป็น สิปาง วัลลิพานนท์




พอถึงพิธีส่งตัว มีแค่คุณแม่กับแม่พิมพ์ที่เข้ามา

“คำว่า ‘แต่งงาน’ ไม่ใช่เป็นจุดสำเร็จของความรักระหว่างคนสองคน แต่คำว่า ‘แต่งงาน’ เป็นจุดเริ่มต้นของคำที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมคือคำว่า ‘ครอบครัว’ หากวันไหนที่ไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกัน หรือโกรธกัน ให้นึกถึงวันนี้ไว้นะลูก ในวันข้างหน้าคือบททดสอบความรักของลูกทั้งสอง ต้องจับมือกันฝ่าฟันและผ่านพ้นไปให้ได้…อุปสรรคที่เข้ามาจะเติมให้ความผูกพันธ์แข็งแกร่งขึ้น มีความสุขมากๆ นะลูก” คุณแม่เอ่ยอวยพรก่อนเป็นคนแรก พวกเราก้มลงกราบเท้าเพื่อขอบคุณ

“ข้าว ลูก” แม่พิมพ์เอ่ยเรียกพร้อมกอดเจ้าตัวเล็กเอาไว้แนบอก น้ำตาไหลเป็นสายธารด้วยความปิติยินดีที่ลูกจะมีคนคุ้มครองดูแลแทนตัวเอง ส่วนลูกข้าวก็ร้องไห้ตามด้วยความซาบซึ้ง แม่พิมพ์ผละตัวลูกข้าวออก แล้วจับมือภูธิปกับลูกข้าวทับกัน

“พี่ภู แม่ฝากน้องด้วยนะคะ ข้าวเชื่อฟังพี่ภู อย่าดื้อกับพี่เขานะลูก หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก”

“ถึงฤกษ์ส่งตัวแล้ว แม่ทั้งสองต้องออกไปแล้ว คืนนี้ห้ามออกจากห้องนะลูก มีความสุขมากๆ” คุณแม่เอ่ยขึ้นและเดินออกจากห้องไป แม่พิมพ์ก็เดินตามออกไปด้วย




หลังจากอยู่กันสองคน ลูกข้าวก็เริ่มทำตัวไม่ถูก อยู่ๆ มันก็เขินขึ้นมา

“เอ่อ...พะ...พี่ภูอาบน้ำก่อนเลยครับ”

“ข้าวอาบก่อนเลย พี่เหนื่อยขอพักแปป” โดยที่ลูกข้าวไม่ทันได้สังเกตสีหน้าคนพูดเลยว่าเจ้าเล่ห์แค่ไหน

“อย่างนั้นก็ได้ครับ” ลูกข้าวเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว กว่าจะล้างเครื่องสำอางค์ ถอดชุดอีก ก็ใช้เวลาหลายนาที ร่างเล็กเดินเข้าไปใต้ชาวเวอร์อาบน้ำ น้ำจากฝักบัวตกกระทบผิวเนียน ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อย สบู่เหลวที่มือสวยไล้ไปตามลำตัวไปมาต้องชะงักลงเมื่อมีมือใหญ่ทาบทับมือเล็กเอาไว้ ลูกข้าวหันกลับไปหาร่างใหญ่ทันที

“พี่ภู เข้ามาตอนไหนเนี่ย”

“เมื่อกี้นี้เอง พี่อาบด้วยนะ” พูดแค่นั้นภูธิปก็ก้มลงจูบปากบางทันที

“อื้อ...” คนตัวเล็กทุบอกแกร่งเบาๆ เพื่อให้ร่างใหญ่รู้ว่าเขาหายใจไม่ออกแล้ว ภูธิปจึงผละออก ถึงจะเสียดายความหวานนั่นก็เถอะ ทั้งคู่เริ่มละเลงสบู่เหลวให้กัน กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็นานทีเดียว จากนั้นภูธิปก็อุ้มร่างเล็กออกมาทันที เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา แต่งตัวเรียบร้อยเพื่อเตรียมเข้านอน ภูธิปจุ๊บหน้าผากว่าที่คุณแม่ แล้วก็เลื่อนตัวลงไปจุ๊บท้องของลูกข้าวที่เริ่มใหญ่ขึ้นนิดหน่อย

“ฝันดีครับ คนดีของพี่”

“ฝันดีครับ ลูก”

“ฝันดีครับ พี่ภู”

ทั้งคู่นอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน



เช้ารุ่งขึ้น ผมลงครัวเหมือนเดิม เมนูวันนี้ข้าวต้มทะเลครับ เหมือนเดิมให้ป้าสายเจียวกระเทียวให้ทีหลัง ส่วนแหววผมวานให้ไปเก็บดอกอัญชันให้ เดี๋ยวพี่ภูดุอีก ว่าไม่ยอมล้างให้สะอาดก่อนกิน ช่วงนี้ผมจะกินดอกอัญชันทุกเช้าเลย มันรู้สึกอยากกินแค่ช่วงนั้นครับ

ถึงเวลาตั้งโต๊ะ ทุกคนก็ทยอยกันลงมา ตอนแรกที่คุณแม่ลงมาทำอาหารช่วงเช้า ผมก็เกรงใจครับ แต่คุณแม่บอกไม่ได้ทำทุกวัน ส่วนใหญ่ป้าสายจะทำ และตอนนี้ผมก็มาช่วยตรงนี้แล้ว ช่วงนี้คุณแม่ก็เลยไม่ได้เข้าครัว แต่ก็ยังเป็นห่วงกลัวจะลื่น เลยให้แหววดูแลผม

“ฟอด...” วันนี้พี่ภูลงมาเร็วแหะ ลงมาก็เดินเข้ามากอดแล้วหอมตามเคย ก่อนไปนั่งกินข้าว



สักพักคุณแม่ทั้งสองก็เดินลงมา

“หอมเชียว ลูก” แม่พิมพ์ทักขึ้น ผมแค่ยิ้มรับ

“พรุ่งนี้ แม่จะกลับกรุงเทพฯ แล้วนะข้าว” แม่พิมพ์พูดขึ้นระหว่างทานข้าว

“แม่” ลูกข้าวเรียกขึ้น เพราะไม่อยากให้กลับเลย แต่ทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง ตัวเขาก็เข้าใจ

“ทำไมรีบกลับล่ะคะ คุณพิมพ์” คุณแม่ทักขึ้น

“ต้องกลับไปจัดการงานต่อค่ะ ยังไงต้องฝากลูกข้าวด้วยนะคะ คุณพี่”

“ฝากอะไรกันคะ ตอนนี้ลูกข้าวก็เป็นลูกพี่อีกคนแล้ว พี่เต็มใจดูแลค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ คุณพี่”



ภูธิปกำลังจะไปทำงาน โดยมีลูกข้าวเดินออกมาส่งที่หน้าบ้านเหมือนเคย ภูธิปสวมสร้อยคอที่มีจี้รูปดอกมะลิให้กับลูกข้าว ที่จริงจะให้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็นะ ไม่มีโอกาสสักเท่าไร ก็ให้ไว้ตอนนี้นั่นแหละ ภูธิปขับรถออกไปแล้ว วันนี้ลูกข้าวใช้เวลาอยู่กับดอกเตอร์พิมพ์พิกาทั้งวัน



รุ่งเช้าของอีกวันแม่พิมพ์เตรียมของเรียบร้อย ภูธิปอาสาไปส่งเอง ลูกข้าวก็นั่งมาส่งด้วย

“พี่ภูแม่ฝากน้องด้วยนะคะ” ดอกเตอร์พิมพ์พิกาฝากลูกชายที่รักไว้กับภูธิป

“ผมจะดูแลอย่างดีครับ” ภูธิปตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้ม

“ข้าวเชื่อฟังพี่เขานะลูก อย่าดื้อนะ” แม่พิมพ์พูดพร้อมกับกอดตัวลูกชายเอาไว้

“ครับแม่ ถึงแล้วโทรหาข้าวด้วยนะ”

“ครับลูก” หลังจากนั้นแม่พิมพ์ก็เดินเข้าเกตไป



ระหว่างที่ขับรถกลับชาครก็โทรเข้ามา ภูธิปรับสาย

“อืม”

‘เข้ามาหากูที่บ้านหน่อย มีอะไรจะให้ดู’

“โอเค” จากนั้นทั้งคู่ก็วางสายไป



“ข้าว เดี๋ยวพี่แวะบ้านไอ้ชาก่อนนะ”

“ได้ครับ”



กว่าจะถึงบ้านชาคร ก็เกือบชั่วโมงเลยทีเดียว

“สวัสดีค่ะ คุณภู…สวัสดีค่ะ คุณ...” ป้าละออเดินเข้ามาทัก

“ลูกข้าวครับ เรียกข้าวก็พอครับ”

“ค่ะ คุณข้าว…คุณภูเชิญที่ห้องทำงานคุณชาเลยค่ะ คุณชาเธอบอกเอาไว้แล้ว” ภูธิปพยักหน้ารับ

“ข้าว รอพี่ข้างล่างนะ เดี๋ยวพี่ไปทำธุระก่อน”

“ครับ”

“เชิญทางนี้เลยค่ะ คุณข้าว เดี๋ยวป้าไปเอาน้ำมาให้นะคะ”

“ขอบคุณครับ” ลูกข้าวตอบรับ ป้าละออก็เดินออกไป



“อ้าว สวัสดีครับคุณข้าว” รชาที่เดินลงมาจากชั้นบน

“สวัสดีครับ คุณรชา” ลูกข้าวทักกลับพร้อมรอยยิ้ม

“มาหาคุณชาหรอครับ”

“พี่ภูมาหาครับ ไม่ใช่ผม” ลูกข้าวยิ้มให้ก่อนตอบกลับไป

“แล้วนี่คุณรชาจะไปไหนหรอครับ”

“เรียกรักก็ได้ครับ ไม่ได้ไปไหนครับ เพิ่งกล่อมเจ้าแฝดเสร็จ นอนกลางวันน่ะครับ วัยกำลังซนเชียว”

“เอ่อ...จะเสียมารยาทไหม ถ้าจะถามคุณรักกับคุณชา เอ่อ...” ยังถามไม่จบ รักก็เดาออก

“เปล่าครับ ไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมถูกจ้างมาครับ เป็นพี่เลี้ยงของเจ้าแฝดลูกคุณชาครับ”

“อ่อ...อย่างนี้นี่เอง” ลูกข้าวก็สงสัยตั้งนาน   


ทั้งสองคุยกันในเรื่องทั่วไป ดูท่าทางจะสนิทกันเร็วเพราะทั้งคู่มีความชอบคล้ายๆ กัน เวลาใครพูดเรื่องะไรขึ้นมา อีกคนก็จะตามอย่างหาความสิ้นสุดของเนื้อหาที่คุยไม่ได้เลย จนกระทั่งภูธิปเดินลงมา

“พี่ภูเสร็จแล้วหรอครับ” ลูกข้าวที่เห็นภูธิปก่อน

“อืม”

“สวัสดีครับ คุณภู” รชาเอ่ยทักทาย

“สวัสดีครับ”

“ถ้าอย่างนั้น ผมกลับก่อนนะครับคุณรัก ว่างๆ ไปเที่ยวไร่ราชันนะครับ” ลูกข้าวเอ่ยลาก่อนจะเดินออกมาพร้อมภูธิป



ระหว่างทางกลับบ้าน

“พี่ภู คุณรักเขาน่ารักมากเลย พี่ภูว่าไหม”

“ไม่รู้สิ แต่ข้าวน่ารักที่สุดสำหรับพี่ครับ” เรื่องนี้ไม่น่าจะถามคนหน้าเข้มเลย

“ข้าวว่าคุณรักเขาน่ารักนะ และก็ย่อมต้องมีใครสนใจแน่ๆ แต่...” ลูกข้าวเงียบไปสักพัก จึงต่อบทสนทนาต่อ

“แต่ข้าวถามคุณรัก เรื่องคุณชา คุณรักบอกไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่สายตาของคุณชาไม่ใช่อ่ะพี่ภู ข้าวเห็นในงานแต่งงานของเรา”

“มันเรื่องของเขา เด็กดื้อ” ภูธิปพูด แล้วเอามือข้างหนึ่งมาโคลงหัวลูกข้าวเล่น

“อื้อ...พี่ภูอ่ะ” ปากจู๋ แก้มป่องใส่อีก ภูธิปถึงกับส่ายหน้า



ปัง...
เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด แน่ล่ะต้องยิงใส่รถภูธิปอยู่แล้ว เพราะภูธิปเห็นทางกระจกหลังว่าพวกมันขี่รถตามมาอยู่ ตอนแรกก็นึกว่าแค่สะกดรอย แต่นี่...

 “ฉิบ” ภูธิปสบถ

“ข้าวก้มตัวลงต่ำไว้”

“ใครอ่ะ พี่ภู” ลูกข้าวตื่นกลัว ถามด้วยความสงสัย แต่ก็ทำตามภูธิปบอก

“เดี๋ยวพี่ค่อยเล่าให้ฟังนะ” ภูธิปบอก พร้อมหยิบปืนจากเกะหน้าคนนั่ง

ภูธิปเร่งเครื่องรถยนต์ เพื่อทิ้งระยะห่าง อีกอย่างที่กลัวคือมันจะยิงยางรถ ตัวเขาไม่เท่าไหร่ แต่มีลูกข้าวมาด้วย ไหนจะลูกเขาอีก ทำให้ภูธิปต้องคิดเยอะกว่าเดิม ผ่านโค้งข้างหน้าไปก็จะถึงไร่ราชันแล้ว ภูธิปจึงรีบเหยียบคันเร่งขึ้นไปอีก


ปัง...

“แม่งเอ้ย” ภูธิปสบถพร้อมหันไปยิงสวน

“...” ลูกข้าวไม่ได้พูดอะไร แค่แตะแขนเบาๆ ของอีกฝ่ายไว้ แต่นั่นก็ทำให้ภูธิปเย็นลงได้



รถเลี้ยวเข้าไร่ราชันแล้ว ภูธิปโล่งใจขึ้น

“ฝากจัดการด้วย” ภูธิปสั่งกับลูกน้องที่ทางเข้าไร่

“ครับ นายหัว”



พอถึงหน้าบ้าน ภูธิปรีบเดินอ้อมมาฝั่งคนนั่ง

“ข้าว” ภูธิปเอ่ยกับคนที่นั่งนิ่ง

“พี่ภู” ลูกข้าวหันมายิ้มให้ แต่ในใจยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ซึ่งภูธิปมองออกอยู่แล้ว

“มา พี่อุ้มดีกว่า” ภูธิปช้อนตัวลูกข้าวขึ้น โดยที่เจ้าตัวไม่ขัดอะไร

ภูธิปพาลูกข้าวขึ้นมาพักข้างบนห้อง แล้ววางเจ้าตัวที่เตียง วันนี้คุณหญิงจันทร์ไม่อยู่ เพราะไปโรงแรมในเมือง

“ตกใจใช่ไหม”

“…” ลูกข้าวที่นั่งอยู่บนตักร่างใหญ่ พยักหน้าน้อยๆ

“…” โดยที่ไม่ได้พูดอะไรกัน ภูธิปกอดเจ้าตัวไว้แนบอก สักพักใหญ่ลูกข้าวก็ดีขึ้น แล้วเกิดความสงสัยขึ้นมาแทนที่

“มันเรื่องอะไรกันอ่ะ พี่ภู พวกนั้นตามมาทำไม”

“…” ภูธิปถอนหายใจ แล้วเล่าความจริงให้ลูกข้าวรู้ เรื่องอุบัติเหตุของพ่อลูกข้าวและเรื่องคนร้าย เขาไม่อยากปิดบังอีกแล้ว

“…” ลูกข้าวนั่งฟังเงียบๆ น้ำตาไหลเป็นสาย แต่ไม่มีเสียงสะอื้นใดๆ ภูธิปแค่กอดเจ้าตัวเอาไว้

“เจ็บไหม พี่ภู” ลูกข้าวไล้มือไปที่แขนของร่างใหญ่ตรงที่โดนยิง ซึ่งตอนนี้ใกล้จะหายแล้ว ลูกข้าวไม่รู้เลยว่าจะทำให้ทุกคนเดือดร้อนขนาดนี้

“ไม่ครับ แต่ถ้าข้าวเป็นอะไร พี่จะเจ็บมากกว่า คราวนี้มีอะไรเราจะคุยกัน ไม่ปิดบังกันแล้วดีไหมครับ” ภูธิปจับมือลูกข้าวข้างที่ไล้แขนเขาเอาไว้

“ดีครับ มีอะไรพี่ภูต้องบอกให้ข้าวรู้นะ ข้าวเป็นห่วง” คนตัวเล็กยู่ปากเล็กน้อย ภูธิปมันเขี้ยว จึงก้มลงจุ๊บทีนึง ก่อนจะจูบลงที่ปากบาง

“อื้อ...พี่ภูอ่ะ น้าหมอบอกช่วงนี้ห้ามนะ เดี๋ยวกระเทือนลูก” ลูกข้าวรู้สึกถึงอะไรๆ ที่ดันก้นตัวเองอยู่

“พี่ทำเบาๆ ไม่กระเทือนแน่นอน”

แล้วภูธิปก็จัดการอย่างที่ปากว่า ลูกข้าวจะขัดอะไรได้ ก็ตามใจพี่ภูมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อีกอย่างมันก็เป็นหน้าที่ด้วย หน้าที่ของภรรยา >///<

----------------------------
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คู่รชา จะมีแยกเรื่องมาให้อ่านไหมเนี่ย น่าสน ๆ คู่นี้  :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
หวังว่าจะไม่มีอะไรร้ายแรงนะครับ เป็นห่วงทุกคนเลย

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
นองข้าน่าสงสารและน่าอิจฉาไปในเวลาเดียวกัน
ขอให้จัดการฝั่งนั้นได้ในเร็ววัน

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
แหมมม เพิ่งหน้าสิ่วหน้าขวานอย่าเพิ่งสิพี่ภู

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ยังตามจองล้างจองผลาญไม่เลิก :angry2:

คู่พี่ชากับรักน่าอ่าน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
บทที่ 15
By moggy
-----------------------

ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันที่จะสร้างขึ้น เขียนแผนงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการ ใช้งบเยอะพอสมควร แต่พี่ภูบอกไม่ได้สร้างใหญ่โตอะไร แค่จะทำให้ชาวบ้านมีความรู้ มีรายได้เพิ่มเท่านั้น นอกจากนั้นพี่ภูยังติดต่อทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนไว้อีกด้วย  แค่ติดต่อเบื้องต้น เหมือนเกริ่นๆ เอาไว้ก่อนเพื่อกระจายสินค้าในภายภาคหน้า

ผมก็ยังนั่งทำบัญชีตามเดิม ช่วงนี้เริ่มปวดหลัง ทำให้นั่งได้ไม่นาน ส่วนเรื่องคนร้าย พี่ภูแจ้งตำรวจไปแล้ว จนถึงตอนนี้ผ่านไป 2 อาทิตย์แล้วก็เงียบหายไปเลย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นยังไงยังงั้น แต่พี่ภูไม่ได้นิ่งนอนใจ ป้องกันทางไหนได้ ก็ป้องกันไว้ก่อน อย่างเช่นคนที่อยู่รอบๆ บ้านที่มากขึ้น ผมก็แล้วแต่พี่ภู เอาที่พี่ภูสบายใจ ผมก็ไม่อยากขัดอะไร

ผมเดินออกมาที่สวนหลังบ้าน เพื่อสูดอากาศ เพราะนั่งในบ้านนานๆ ก็รู้สึกอบๆ อึดอัด ผมชอบสวนหลังบ้านนะ เพราะคุณแม่ปรับให้ดูร่มรื่นขึ้นเยอะเลย ผมเดินเข้าไปนั่งที่ศาลา ลมพัดเอื่อยๆ แดดรำไรๆ ในช่วงเย็นกำลังดี นั่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ จนเริ่มจะเย็น ผมเตรียมลุกไปเข้าครัว แต่หน้ามืดซะก่อน เลยต้องนั่งลงที่เดิม แต่ที่ตกใจคือกระสุนที่เจาะเข้ากับกำแพงด้านหลังผมทันทีที่ผมนั่ง มันเป็นปืนเก็บเสียง คนของพี่ภูยืนอยู่แถวนี้ 2 คนโดยหันหน้าไปทางข้างหน้า ถ้าไม่ได้ยินเสียงปืนก็ไม่แปลก ผมรีบรวบรวมสติก้มตัวลงให้ต่ำ แล้วตะโกนเรียกใครสักคนแถวนั้นมาช่วย

“พี่ภู” ผมกำลังจะตะโกน แต่พี่ภูวิ่งเข้ามาหาเสียก่อน

“เป็นยังไงบ้าง” พี่ภูถามด้วยเสียงเหนื่อยหอบ

“ข้าวไม่เป็นไร กำลังจะตะโกนเรียกคนมาช่วย พอดีพี่ภูเข้ามาก่อน”

“ป่ะ เข้าบ้านกัน” แต่ก่อนเข้าบ้านพี่ภูสั่งคนไปจับคนร้ายมาให้ได้ ถ้าขัดขืนก็เก็บซะ เอ่อ...นี่พี่ภูกลับไปเป็นโจรป่าอีกแล้วหรอไง ใช้วิธีป่าเถื่อนอีกแล้ว แต่เรื่องพวกนี้พี่ภูขอไว้ก่อนแล้ว ว่าห้ามผมเข้าไปยุ่ง ผมก็รับปาก ก็เลยไม่ได้พูดอะไรออกไป


“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เมื่อเข้ามาในบ้าน พี่ภูก็ถามขึ้นอีกครั้งทันที แล้วสำรวจร่างเล็กไปด้วย

“ไม่ครับ ข้าวหน้ามืดนิดหน่อย เพราะลุกเร็วไป แล้วพี่ภูรู้ได้ยังไงว่าข้าวอยู่ในอันตราย” ผมหรี่ตาเล็กน้อยเพื่อจับผิด

“โอเคๆ ยอมแล้วครับ” พี่ภูหยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมา เปิดแอพหนึ่งซึ่งทำให้เห็นภาพในจอ

“พี่ภู ไปติดกล้องตอนไหนเนี่ย ทำไมข้าวไม่เห็นรู้เรื่อง”

“นานแล้วครับ พี่เป็นห่วง เห็นไหมพี่มาทันด้วย” หมั่นไส้คนตัวสูงซะจริง เลยหยิกแก้มไปที

“โอ๊ย...ข้าวครับ พี่เจ็บนะ”

“ไหน หันมาดูสิ” พี่ภูหันแก้มมาให้ดู มีรอยแดงนิดหน่อย ผมเลยจุ๊บไปที เพื่อขอบคุณพี่ภูด้วยที่มาช่วยทัน แต่ไม่บอกหรอก จากนั้นผมก็ลุกไปที่ครัวทันที วันนี้ผมคงให้ป้าสายแกทำอาหารเย็นเลย ผมคงทำไม่ไหวแล้ว

“หึหึ” ภูธิปนั่งหัวเราะอยู่คนเดียวหลังจากลูกข้าวลุกไปแล้ว ‘แล้วอย่างนี้จะไม่ให้รักได้ยังไง น่ารักซะขนาดนี้’ จากนั้นภูธิปก็รีบโทรหาชาครทันที


‘ว่าไง’

“เรื่องที่ให้ไออาชว์สืบ ถึงไหนแล้ว”

‘เห็นว่าเกือบแล้วนะ รอพยานอีกคน’

“เมื่อไหร่ วันนี้เมียกูโดนลอบยิง”

‘เฮ้ย...เออๆ เดี๋ยวกูโทรไปเร่งให้ จะเอาตำรวจไปคุ้มกันหรือเปล่า’

“ไม่ต้อง คุ้มกันแม่ยายกูก็พอ เดี๋ยวทางนี้กูจัดการเอง”

‘เออ ยังไงเดี๋ยวกูโทรหาอีกที’

“เออ”



หลังจากวางสายไป ลูกข้าวก็เดินเข้ามาพร้อมน้ำสีเหลืองๆ

“อ่ะ ลองกินดู” ลูกข้าวยื่นแก้วน้ำสีสวยให้

“อืม...อร่อย แต่หวานไปนิด” ภูธิปมองก่อนจะลองดื่ม แต่หวานไปนิด เขาไม่ชอบเลย

“เก๊กฮวยครับ เดี๋ยวคราวหลังจะลดหวานให้ ป้าพิณแกเอาดอกเก๊กฮวยแห้งมาให้ ข้าวเลยลองต้มดู”

“อืม” ภูธิปแค่จิบๆ

“แล้วยังตกใจอยู่ไหม”

“ไม่แล้วครับ แต่แปลกใจพี่ภูมากกว่าที่มาเร็วเกินคาด แต่ตอนนี้ข้าวรู้แล้ว”

“ข้าวต้องระวังตัวด้วย ถึงจะอยู่ที่บ้านก็เถอะ คราวนี้ไม่ต้องไปหลังบ้านแล้วนะ จะเอาอะไรให้แหววทำให้”

“ได้ครับ” ลูกข้าวยิ้มให้ ไม่อยากขัดอะไร

“แล้วแม่ล่ะ”

“คุณแม่ไปที่โรงแรมครับ” ภูธิปพยักหน้ารับ ก่อนเดินขึ้นห้องไป ส่วนลูกข้าวมานั่งทำบัญชีต่อ จะสิ้นเดือนแล้วด้วย ไหนจะบัญชีของไร่ ไหนจะบัญชีของโรงแรม เฮ้อ... แต่ไม่เป็นไรครับ เพราะตอนนี้ผมทำบัญชีจนคล่องแล้ว ก็เลยทำได้ไวขึ้น คุณแม่จะได้ไม่เหนื่อยด้วย พี่ภูก็จะได้พักเยอะขึ้น



ตอนนี้ผมมาตรวจครรภ์สัปดาห์ที่ 16 ครับ พี่ภูขี้เห่อที่สุด มาตรวจด้วยกันทุกเดือน ตื่นเต้นทุกเดือน ผมกำลังนอนให้น้าหมอซาวด์ท้องอยู่ครับ

“เป็นยังไงบ้างครับ น้าหมอ” พี่ภูเอ่ยถาม แต่ตาจ้องที่หน้าจอตลอด

“พัฒนาการดี แต่เด็กหนีบขาเอาไว้ยังไม่เห็นเพศลูกนะ ค่อยมาดูกันเดือนหน้านะจ๊ะ”

“ครับ น้าหมอ” ผมตอบ พี่ภูแค่พยักหน้ารับ

“แล้วช่วงนี้ข้าวเป็นยังไงบ้าง รู้สึกอึดอัดหรืออะไรบ้างหรือเปล่า”

“ไม่มีนะครับ แค่อยากกินดอกอัญชันเท่านั้น”

“อ่า เท่านั้นก็ไม่เป็นไรจ้ะ แต่อย่าลืมทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และวิตามินที่น้าให้ไปนะ”

“ครับ น้าหมอ” ผมเอ่ยตอบ น้าหมอเขียนรายชื่อยาแล้วส่งให้พยาบาลไปจัดการเหมือนเคย

“เอ่อ ตาภูช่วงนี้ก็อย่ารุนแรงมากนะ” น้าหมอหันไปบอกพี่ภู แต่ผมนี่สิเขินเลย ได้แต่นั่งก้มหน้า

“ครับ ผมจะทำเบาๆ” งื้อ...คนบ้า ทำไมพี่ภูเป็นคนยังงี้ แล้วดูสิน้าหมอยิ้มแบบนั้นหมายความว่ายังงาย...



หลังจากนั้นพี่ภูก็พากลับไร่ อ่อ...พวกค้ามนุษย์โดนจับแล้วนะครับ แต่ยังเหลือคุณหมอที่ทำคลอดผม ตอนนี้ยังหาตัวไม่เจอ ทางเจ้าหน้าที่ก็ออกติดตามกันอยู่ ส่วนผม พี่ภูประกบไม่ห่าง ตอนนี้ก็พาผมไปออฟฟิศที่ไร่ด้วยอีกต่างหาก อาจด้วยตัวการใหญ่ยังไม่ถูกจับมั้งครับ พี่ภูเลยห่วงมากกกก

พอถึงไร่ พี่ภูก็ให้ผมเข้าไปอยู่ในออฟฟิศ ส่วนพี่ภูไปตรวจต้นปาล์ม ผมนั่งอยู่สักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ของผมเข้ามาเป็นเบอร์ไม่ที่ไม่รู้จัก ผมนั่งมองสักพักจึงตัดสินใจกดรับ

“สวัสดีครับ”

“หึหึ”

“ใครครับ”

“ฉันเอง หมอที่ทำคลอดแกไง”

“…” ผมสตั๊นไปแปปนึง

“มีอะไร”

“ตอนนี้แม่แกอยู่กับชั้น”

“อย่าทำอะไรแม่ผมนะ ต้องการอะไร” ผมตกใจมาก เพราะเมื่อวานยังคุยกับแม่พิมพ์อยู่เลย

“หึหึ ค่อยว่ากันง่ายหน่อย…เอาตัวแกมาแลกกับแม่แกเป็นไง”

“…” ผมจะทำยังไงดี

“ว่าไง”

“ดะ...ได้ ที่ไหน”

“ท่าเรือภูเก็ต คืนนี้สามทุ่ม คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าถ้าบอกใครแล้วแม่แกจะเป็นยังไง”

“ไม่บอกๆ แต่ผมขอเห็นแม่ก่อน” มันเปิดโหมดวิดีโอ ทำให้เห็นหน้าแม่ผมที่มีสีหน้าอิดโรย นอนสลบอยู่ ผมน้ำตาไหลพรากเลย ฮือ....แม่ แล้วจอก็ดับไป


ผมจะทำยังไงดี จะบอกพี่ภูดีไหมนะ ถ้าบอกแล้วแม่ผมล่ะ...พอดีกับพี่ภูเดินเข้ามา

“ข้าว ไปกินข้าวกัน ป้าสายเตรียมไว้แล้ว”

“ครับ”


พี่ภูพาผมกลับมาที่บ้าน และวันนี้คงไม่เข้าไร่แล้ว ทานข้าวเสร็จ ผมขอพี่ภูขึ้นมาพักข้างบน ผมเดินไปเดินมา คิดว่าจะเอายังไงดี อยู่ๆ ผมก็นึกอะไรออก

“พี่ภูล่ะครับ ป้าสาย” ผมเดินลงมาข้างล่าง แต่ไม่เห็นพี่ภู

“อยู่ที่ห้องทำงานค่ะ” ป้าสายยิ้มให้

“จะเอาไปให้พี่ภูใช่ไหมครับ” ผมมองกาแฟที่ป้าสายถืออยู่

“ค่ะ”

“เดี๋ยวผมเอาไปให้เองครับ” ผมยิ้มแล้วรับมาถือเอง


ผมเคาะประตู 2 ทีแล้วเปิดประตูเข้าไป พี่ภูไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา

“พี่ภู กาแฟครับ” พี่ภูเงยหน้าขึ้นตอนได้ยินเสียงผม

“ลงมาแล้วหรอ”

“ครับ” ผมวางแก้วกาแฟพร้อมกระดาษแผ่นหนึ่งลงบนโต๊ะ ยังไงพี่ภูก็เห็น พี่ภูยกขึ้นมาอ่าน แล้วขมวดคิ้ว ผมเขียนเล่าเรื่องที่แม่พิมพ์โดนจับไปครับ ผมไม่ได้พูดบอกใครนะ ผมแค่เขียนแล้วก็วางไว้เฉยๆ แล้วพี่ภูก็เห็นเอง พี่ภูอ่านจบเงยหน้าขึ้นมองผมแปปนึง ก็ต่อสายโทรศัพท์โทรออกหาใครสักคน

‘ครับนาย’

“อยู่ไหน”

‘กำลังไปท่าเรือครับ’

“อืม ฝากด้วย” แล้วภูธิปก็วางสายไป แล้วส่งข้อความหนึ่งหาใครอีกคน



“…” ผมยืนข้างโต๊ะเงียบๆ สักพักพี่ภูก็จับผมไปนั่งตัก แล้วกอดเอาไว้ จุ๊บเหม่งไปที

“ขอบคุณที่บอกพี่ครับ” ผมพยักหน้ารับเฉยๆ แล้วซบหน้าลงกับอกแกร่ง

“พี่เตรียมการไว้หมดแล้วครับ ไม่ต้องห่วงนะ แม่พิมพ์จะไม่เป็นไร” ผมสงสัยในคำพูด เอ๊ะ...หรือว่า...

“พี่ภู นี่อย่าบอกนะ...”

“ครับ พี่ได้ยินหมดแล้ว นึกว่าเราจะลุยเดี่ยวซะแล้ว” ยังมีหน้ามาแซวอีก ไอเราก็กังวลแทบตาย พี่ภูให้สายที่พี่ภูส่งไป ดูแลแม่พิมพ์ไว้ แล้วให้ตำรวจเข้าล้อมไว้แล้ว

“ข้าวก็ห่วงลูกนะ แต่ถ้าข้าวคนเดียวก็ไม่แน่” ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ ครับ

“ถึงคนเดียว พี่ก็ไม่ปล่อยไปหรอก กลัวหรือเปล่า” ผมต้องไปล่อพวกมันออกมา พี่ภูกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“พี่ภูก็อยู่ด้วยนี่ ผมไม่กลัวหรอก เรื่องจะได้จบๆ ซะที” ผมพูดคลายกังวลให้คนตัวใหญ่ อันนี้ผมเสนอตัวเองครับ ตอนแรกพี่ภูไม่เห็นด้วย แต่ผมขอ เรื่องจะได้จบๆ เสียที


“อืม ข้าวจะไม่เป็นอะไร พี่จะปกป้องเมียพี่เอง อ่อ ลูกเราด้วย” พี่ภูเลื่อนมือไปจับที่ท้องผมที่ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เรายิ้มให้กันก่อนจะไปเตรียมตัว



ท่าเรือภูเก็ต ผมขับรถมาเอง เพิ่งเปลี่ยนกับพี่ภูเมื่อทางเข้านี่แหละครับ ส่วนพี่ภูไปขับรถอีกคันตามมา ผมจอดรถแล้วลงเดิน รอบๆ เงียบสงัด มีแค่คนขับเรือประปรายเท่านั้นกำลังเก็บเรือ เก็บของกันอยู่ ผมยืนรอแถวนั้นอยู่สักพัก โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“ทำดีมาก ที่มาคนเดียว”

“จะให้ไปที่ไหนต่อ”

“เดินมาที่ข้างท่าเรือ”

“ข้างท่าเรือ ได้” แล้วมันก็วางไป พี่ภูได้ยินแน่นอนครับ ติดเครื่องดักฟังกับตัวผมอยู่ นี่ผมเป็นสายลับหรือเปล่าเนี่ย ผมเดินไปตามทาง ตรงนี้มืดไม่ค่อยมีคน ก่อนหยุดลงเพราะเสียงหนึ่ง

“สวัสดี เด็กน้อย” เสียงผู้ชายคราวพ่อดังขึ้น ผมเลยหันไปตามเสียง

“…” ผมไม่ได้พูดอะไร มองผู้ชายตรงหน้าอย่างพิจารณา ท่าทางที่เหมือนหมอ เนียบตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูสะอาด น่าจะรุ่นพ่อได้ คนนี้น่ะหรอ ที่ทำคลอดเขาออกมา ข้างหลังมีลูกน้อง 2 คน

“โตขึ้นเยอะเลยนี่”

“แม่ผมล่ะ”

“ใจเย็นๆ ลูกน้องฉันกำลังพามา” หมอพูดแค่นั้น ก็มองมาที่ท้องของผม

“หึหึ” เหมือนมันคิดอะไรอยู่ สักพักลูกน้องมันก็มากระซิบอะไรสักอย่าง ดูจากที่ขมวดคิ้ว น่าจะเรื่องแม่ผมแน่ แล้วหันมาหาผมด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“แม่เธออยู่บนเรือ ไปกับฉันสิ” ดูจากแววตาแล้ว ไม่น่าไว้ใจเลย ก่อนที่ผมจะตัดสินใจ เจ้าหน้าที่ก็เข้ามาเสียก่อน




นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ วางอาวุธลง...ตอนนี้มันวุ่นวายไปหมด เจ้าหน้าที่เข้ามาล้อมไว้ ผมเฟสตัวเองออกมา คิดว่าแม่ผมน่าจะปลอดภัยแล้ว แต่อยู่ๆ ก็เกิดเสียงปืนลั่นขึ้น ผมโดนกอดไว้ทั้งตัวแล้วล้มลงทับตัวใครสักคน เพ่งดูดีๆ ถึงได้รู้

“พี่ภู”

“ปลอดภัยแล้วนะ” ผมเอื้อมมือไปพยุงพี่ภูให้ลุกขึ้น แต่มือผมรู้สึกเปียกๆ ก่อนยกขึ้นมาดู

“เลือด…พี่ภู” ผมตกใจมาก เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วยิ่งเป็นพี่ภู ผมเริ่มใจเสีย หน้ามืดก่อนจะหมดสติไป

“ข้าว” ภูธิปรีบพาเจ้าตัวไปโรงพยาบาล ระหว่างนั้นอาชว์ก็เดินเข้ามาดู

“โดนยิงหรอวะ…อ้าว เมียมึง”

“เออ...ฝากทางนี้ด้วย เอ่อ...แม่ยายกูส่งโรงพยาบาลแล้วใช่ไหม”

“เออ เรียบร้อยแล้ว ไปเถอะ มึงก็อย่าห่วงเมียจนลืมทำแผลล่ะ”

“อืม”



“พี่ภู” คนตัวเล็กสะดุ้งตื่นขึ้นมา

“พี่อยู่นี่ครับ” ลูกข้าวโผเข้ากอดทันที

“แผล”

“พี่ไม่เป็นไรครับ ทำแผลแล้ว ไม่ต้องตกใจครับ คนดี” ภูธิปจุ๊บเหม่งไปที ลูกข้าวโล่งอก

“แม่ล่ะครับ”

“แม่พิมพ์ไม่เป็นไร แค่โดนยาสลบน่ะ กำลังพักผ่อนอยู่ห้องข้างๆ นี่เอง”

“พาข้าวไปหาแม่หน่อยนะ”

“พรุ่งนี้ค่อยไปดีกว่าครับ ให้แม่พิมพ์พักผ่อนด้วย ข้าวก็จะได้พักด้วย เจอแต่เรื่องหนักๆ มา”

“เอาอย่างนั้นก็ได้” ลูกข้าวตอบเสียงหงอย

“แล้วพี่ภูล่ะ”

“เดี๋ยวพี่อยู่กับข้าวนี่แหละ”

ทั้ง 2 ยิ้มให้กัน ก่อนจะนอนหลับสนิททั้งคู่ เพราะความเพลีย...

----------------------------
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//

**ไม่ได้หายไปไหนนะคะ เราลงนิยายไม่ได้ค่ะ เว็บค้างมาก โหลดนานมาก ครั้งนี้กว่าจะลงได้ก็เป็นชั่วโมงค่ะ จะพยายามลงจนจบนะคะ

**ตอนนี้ทยอยลงใน Dek-D ค่ะ ตามกันได้จ้า >> https://writer.dek-d.com/nv_moggy/writer/view.php?id=1777680
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2018 21:57:35 โดย moggy »

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ช่วงหลังๆรู้สึกว่า เรื่องเดินเร็วจนเกือบตามไม่ทันเลยค่ะ

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
จบเรื่องซะทีนะ เป็นหมอซะเปล่าไม่มีจรรยาบรรณเลย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
รอจ้ารอ...รอที่นี่ที่เดิม  :L1: :L1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ว่าจะจับได้ พี่ภูเกือบแย่   :กอด1: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
โล่งอกนึกว่าจะมีดราม่าซะอีก

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
บทที่ 16
By moggy
-----------------------

ผมตื่นขึ้นมาเพราะอาการเจ็บท้อง พี่ภูนอนฟุบอยู่ที่ข้างเตียง

“พะ...พี่ภู” เสียงกระท่อนกระแท่นเอ่ยอย่างยากลำบาก แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับภูธิปเพราะเป็นคนความรู้สึกไวอยู่แล้ว

“ข้าว เป็นอะไร” ภูธิปตื่นขึ้นมาก็เห็นลูกข้าวมีสีหน้าเจ็บปวด

“จะ...เจ็บท้อง” ลูกข้าวเหงื่อซึมออกตามไรผม ภูธิปรีบเรียกพยาบาลทันที

“ข้าว ข้าวฟังพี่ ค่อยๆ หายใจเข้าออกครับ” ภูธิปเห็นลูกข้าวหายใจแรง กลัวจะหายใจไม่ทัน จับมือแล้วพาคนตัวเล็กค่อยๆหายใจเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ



พยาบาลรีบเข้ามาเช็คความดัน วัดไข้ ตรวจนี่ นั่น แต่ภูธิปก็ยังจับมือลูกข้าวไว้ไม่ได้ปล่อย

“อีกเดี๋ยวคุณหมอก็มาค่ะ” พยาบาลแจ้งกับภูธิป


เสียงเปิดประตูมาพร้อมกับร่างของแพทย์หญิงวิชุดาเดินเข้ามา

“น้าหมอ ข้าวเจ็บท้องครับ”

“ใจเย็นๆ ตาภู เดี๋ยวน้าขอดูก่อน”

“…” ตรวจลูกข้าวเสร็จ ก็สั่งพยาบาลให้ยา สักพักลูกข้าวก็หลับไป

“มดลูกบีบตัวน่ะ ไม่เป็นไรมาก ช่วงนี้มดลูกกำลังขยายตัวเพราะตัวเด็กเริ่มใหญ่ขึ้น เดี๋ยวน้าให้ยาลดการบีบตัวของมดลูก แล้วให้น้องนอนพัก เดี๋ยวก็หาย”

“อันตรายไหมครับ”

“ก็มีทั้งอันตรายและไม่อันตราย แต่เมื่อกี้ที่น้าตรวจ ของน้องไม่อันตรายจ้ะ เป็นอาการปกติของคนท้องนะ”

“แล้วมีโอกาสจะเกิดขึ้นอีกไหมครับ”

“มีจ้ะ แต่ถ้าดูแลดีดี โอกาสที่จะเกิดอีกครั้งก็น้อย วิตามิน แคลเซียมที่น้าให้ไป ทานอย่าให้ขาดนะ เรื่องอาหารเหมือนกันทานให้ครบ 5 หมู่ด้วย”

“ครับ ขอบคุณครับ น้าหมอ”

“จ้ะ น้ากลับบ้านก่อนนะ มีอะไรก็โทรหาน้าได้”

“ครับ”




ภูธิปกลับมานั่งข้างคนตัวเล็กที่หลับไปสักพักได้ ยอมรับเลยว่าที่ผ่านมาก็ไม่ได้ดูแลลูกข้าวมากนัก งานในไร่ก็หนัก ไหนจะโรงแรมอีก พอกลับมาก็เห็นลูกข้าวตระเตรียมทั้งน้ำและอาหารรอเขาเรียบร้อยแล้ว เห็นลูกข้าวดูแลตัวเองได้ดี เขาก็ไม่ได้ห่วงอะไรนัก ไหนจะแหววกับป้าสายอีกที่ช่วยดูแล สุดสัปดาห์แม่ก็กลับมานอนที่บ้านก็ช่วยดูแลด้วยอีกแรง พอคิดไปคิดมา เขาละเลยขนาดนี้เลยหรอเนี่ย

“พี่จะดูแลข้าวให้ดีกว่านี้นะ พี่สัญญา” ภูธิปเอ่ยกับร่างบนเตียงก่อนก้มลงจูบที่หน้าผาก



หนึ่งอาทิตย์ที่อยู่โรงพยาบาล เป็นอะไรที่แย่มากสำหรับผม มันน่าเบื่อที่ต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม อาหารก็ไม่อร่อย พี่ภูนี่ประกบไม่ห่างเลย กลัวผมลื่นล้มบ้างล่ะ กลัวเดินไปชนข้าวของบ้างล่ะ แล้วทั้งอาทิตย์พี่ภูหยุดงานครับ ไม่น่าเชื่อเลยที่คนอย่างพี่ภูจะทิ้งงานมาอยู่กับผม แปลกใจมาก แต่ผมว่ามันเยอะไปครับที่ประกบผมทุกฝีก้าวอย่างนี้ เดี๋ยวต้องคุยกัน ส่วนแม่พิมพ์พัก 2 วันก็กลับไปพักที่บ้านพี่ภู และมาเยี่ยมผมทุกวันเลย เห็นว่าวันนี้ต้องกลับกรุงเทพฯ ไปจัดการงานต่อ ผมอยากให้แม่อยู่ต่อนะ เรื่องร้ายๆ เพิ่งจะผ่านไปไม่นาน ถึงพวกคนร้ายจะโดนจับหมดแล้วก็เถอะ แต่ผมก็ห่วงแม่อ่ะ แต่ถึงยังไงผมก็เคารพการตัดสินใจของแม่ครับ


ผมกลับมาอยู่ที่บ้านได้ 3 วันแล้วครับ ช่วงหัวค่ำพี่ภูก็พาผมขึ้นมาพัก แล้วตัวเองก็เดินไปเก็บข้าวของ เสร็จเรียบร้อยก็เดินกลับมาหาผม

“…” พอเดินถึงตัวผมก็กอดหมับ จับผมนั่งตักแล้วหอมแก้มอีก

“พี่ภู ข้าวว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”

“อะไรครับ” มือก็เลื้อยไปมาที่ผิวใต้เสื้อของลูกข้าว

“เดี๋ยว...พี่ภู” ผมพยายามหยุดมือพี่ภูเอาไว้ ไม่ได้ครับ ช่วงนี้ความรู้สึกผมไว แค่แตะนิดเดียว ผมก็เตลิดแล้ว

“อ๊ะ” มือใหญ่ไล้ไปที่หน้าอก ที่ตอนนี้ใหญ่เท่าเด็กสาววัยรุ่น มันเป็นจุดที่ผมไวต่อสัมผัสที่สุดและพี่ภูรู้ดีที่สุด ร้ายกาจมาก - -*

“อื้อ...พี่ภู” มือก็ไล้ ปากก็ไซร้ ฮือ...ทำไมพี่ภูเป็นคนแบบนี้

“พะ..พะ..พี่ภู ข้าวมีระ...เรื่องอยาก...คุยด้วย” เสียงเล็กพยายามเปล่งบอก

“ก็คุยสิครับ พี่ฟังอยู่”

“กะ..ก็หยุด...ก่อนสิครับ”

“หืมม” พี่ภูนะ พี่ภู เอาอย่างนี้ก็ได้เสร็จกิจธุระก่อนค่อยคุย ดูท่าจะหยุดยาก ก็อะไรต่อมิอะไรของพี่ภูดันก้นผมอยู่น่ะสิ


กว่ากิจธุระจะเสร็จ ลูกข้าวก็ไม่มีแรงจะคุยกับภูธิปแล้ว พรุ่งนี้ค่อยคุยแล้วกัน ร่างเปล่าเปลือยทั้งสองตะกองกอดกันแล้วหลับไป

ลูกข้าวตื่นขึ้นมาอีกทีก็เช้าอีกวัน ปวดเมื่อยไปหมด หมั่นไส้เลยทุบอกแกร่งไปที ยังนิ่งไม่รู้สำนึกอีก ย้อนกลับไปเมื่อคืนแล้วอ๊าย อาย เพราะผมก็ให้ความร่วมมือด้วยไง ผมพยายามเอามือที่พาดเอวผมออก แต่ก็ไร้ผล เฮ้อ...


สัมผัสแผ่วๆ ที่ไหล่ ทำให้ลูกข้าวต้องหันไปมอง

“ตื่นแล้วหรอ”

“…” ภูธิปแค่พยักหน้า แล้วจูบที่ปากบาง

“เมื่อคืนเซ็กซี่จัง” พี่ภูกระซิบที่ข้างหู

“หื้มมม” ผมหน้าเห่อร้อนทันที

“ไม่ต้องพูดเลย” ผมเอามือปิดปากพี่ภูเอาไว้

“เช้านี้ขออีกรอบนะครับ ลูกพี่มันตื่นแล้วน่ะ” หลังจากผมเอามือออก พี่ภูก็เอ่ยพร้อมสายตาเว้าวอนมาให้ งื้อ...

“ไม่รีบไปทำงานหรือไง หยุดไปตั้งอาทิตย์นึง”

“เดี๋ยวก่อนก็ได้ ตอนนี้อยากอยู่กับเมียมากกว่า” อ๊าย...พี่ภูพูดอารายยย ยังไม่ทันได้อนุญาตอะไร พี่ภูก็คลุกวงในผมซะแล้ว ผมก็ต้องเลยตามเลยสิครับ >///<



พี่ภูออกไปทำงานแล้ว กว่าจะไปได้เกือบเที่ยงนั่นแหละ เรื่องที่คุยก็ยังไม่ได้คุย เอาเหอะครับ เดี๋ยวค่อยหาเวลาอีกที ตอนนี้ผมอยากกินอะไรเปรี้ยวๆ

“แหวว มีอะไรเปรี้ยวๆ กินไหม” ผมเดินไปในครัว เห็นแหววกำลังล้างผักอยู่พอดี

“มีมะยมค่ะ คุณข้าว”

“จัดให้ข้าวสักจานนะ” แค่ได้ยินชื่อก็น้ำลายไหลแล้ว

“ค่ะ เดี๋ยวแหววเอาไปให้นะคะ”

“ขอบคุณครับ”




“สวัสดีค่ะ มาหาใครคะ” เสียงป้าสายจากหน้าบ้านแว่วๆ มา

“มาหาคุณข้าวครับ” หืม...ใครมาหาผมหว่า

“เชิญทางนี้ค่ะ”

“สวัสดีครับ คุณข้าว” คำทักทายพร้อมร่างหนึ่งเดินเข้ามา

“สวัสดีครับ คุณรัก มายังไงครับ” ดีใจจัง วันนี้มีเพื่อนคุย

“มากับคุณชาครับ พอดีไปในเมืองมา เลยแวะมาหา แต่คุณชาไปหาคุณภูในไร่แล้ว แล้วก็ทิ้งผมไว้นี่แหละครับ”

“ดีใจจังเลยครับ” ทั้งคู่ยิ้มให้กัน

“เอ่อ ผมซื้อมาฝากครับ”

“มะพร้าว กำลังอยากกินเลย”

“อันนี้ด้วยครับ”

“เอ๋...โลชั่น” คุณแม่ก็ซื้อให้ผมครับ เยอะมาก

“ครับ ป้องกันท้องแตกลาย”

“คุณรักรู้...”

“รู้ครับ คุณชาบอกน่ะ อีกอย่างผมก็สังเกตด้วย” รักยิ้มให้

“เอ่อ...แล้ว...” ผมกังวล

“ยินดีด้วยนะครับ” ทั้งคู่มองหน้าและยิ้มให้กันอย่างจริงใจ

“ขอบคุณนะครับ”

“เต็มใจมากๆ”


ทั้งคู่คุยประสาคนคุยกันถูกคอไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาที่พี่ภูจะกลับมาแล้ว

“อยู่กินข้าวด้วยกันนะครับ” ผมชวนคุณรัก

“เอ่อ...ต้องถามคุณชาก่อนครับ เพราะผมมากับเขาน่ะ”

“เชื่อสิครับ ว่าอยู่แน่” ผมชี้ไปทางเข้าบ้านที่มีผู้มาใหม่ 2 คนเดินคุยกันเข้ามา

“พี่ภู” ผมเรียก พี่ภูหันมามองแล้วเดินเข้ามาหอมแก้ม เอ่อ...ไม่ดูเลยว่ามีแขกอยู่ - -

“เฮ้ยๆ เกรงใจกันบ้าง” คุณชาครเอ่ยขึ้น

“อิจฉาไง” ดูๆ พี่ภูนี่นะ

“สวัสดีครับ คุณชา เดี๋ยวข้าวไปเอาน้ำมาให้” ชาครพยักหน้ารับแค่นั้น

“ไม่ต้อง ให้แหววเอามาให้”

“ครับ งั้นเดี๋ยวข้าวไปดูในครัวนะ”

“คุณชากินข้าวด้วยกันก่อนนะครับ”

“ยินดีครับ”

“คุณรักไปกับผมไหมครับ” ผมเอ่ยชวน

“ครับ” รชาตอบรับ แล้วเดินเลี่ยงออกมากับลูกข้าว



ในครัวทั้งป้าสายและแหววกำลังวุ่นกับการเตรียมของสำหรับทำขนมจีนน้ำยากะทิ เพราะเมื่อวันก่อนพี่ภูบ่นว่าอยากกิน ลูกข้าวเลยให้ป้าสายจัดเตรียมของให้

“คุณข้าว” แหววเห็นลูกข้าวเดินเข้ามา

“ยังไม่เสร็จหรอครับ” ลูกข้าวถาม

“ยังเลยค่ะ คุณข้าวรอก่อนนะคะ” ป้าสายแจงพร้อมกับเตรียมเครื่องแกงไปด้วย

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวข้าวช่วยเลยล่ะกัน วันนี้พี่ภูกลับเร็ว”

“คุณรักช่วยหั่นผักตรงนี้ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปต้มปลาก่อน”

“ได้ครับ”


“แหวว ฝากตำหน่อยนะ” หลังจากต้มปลาและเครื่องเทศเสร็จ ก็วานแหววให้ช่วยตำ เพราะส่วนผสมในนั้นมีกระเทียมด้วย

“ค่ะ” แหววที่กำลังง่วนอยู่กับการล้างผักรับคำ

“คุณข้าว เดี๋ยวผมช่วยตำให้ แหววจะได้ล้างผักให้เสร็จๆ ไป” รชารับอาสาแทน

“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ ถ้างั้นรบกวนหน่อยนะครับ” ลูกข้าวหันไปมองแหววที่ยังยุ่งอยู่จริงๆ เลยรบกวนคนตรงหน้า

“ยินดีครับ” รชาก็ไปนั่งตำส่วนผสมให้ ผมก็กลับไปเตรียมตั้งหม้อ ผัดพริกแกง


กว่าจะเสร็จก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี ผักสดที่จัดเรียงในจานใหญ่วางลงตรงกลางโต๊ะอาหาร มีถั่วฝักยาว ถั่วงอก ใบแมงลัก กะกล่ำปลี และผักดอง ส่วนเส้นขนมจีนถูกวางเรียงเป็นก้อนกลมๆ อยู่ในจานของแต่ละคน น้ำยากะทิก็จัดใส่ถ้วยเล็กตั้งอยู่ใกล้ๆ กับจานใส่ขนมจีนของแต่ละคนเช่นกัน

“โห ดูน่ากินจังเลยครับ” ชาครเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางสนใจ

“นั่งลงได้แล้ว จะยืนดูอีกนานไหม” ภูธิปแขวะเพื่อนทันที

“เออๆ” ชาครนั่งลงที่เก้าอี้ และเริ่มลงมือทาน

“ทานเยอะๆ นะครับ คุณชาคร คุณรัก” ลูกข้าวเอ่ยแค่นั้นก็หันไปหาภูธิปที่นั่งกินเงียบๆ ลูกข้าวตักถั่วงอกให้ภูธิปเพราะรู้ว่าเจ้าตัวชอบก่อนยิ้มให้ ภูธิปก็ยิ้มตอบ

“อร่อยด้วย” ชาครเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อตักเข้าปากคำแรก

“ขอบคุณครับ ที่จริงคุณรักก็ช่วยด้วย”

“คุณรักเก่งนะครับ” ลูกข้าวหันมาชมรชา

“ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย” รักได้แต่ถ่อมตัว ที่จริงเขาพอทำอาหารได้ แบบอาหารง่ายๆ แต่ก็ไม่ใช่อาหารที่ยิ่งใหญ่อลังการขนาดนี้ ขนมจีนน้ำยากะทินี้ เขาก็จำ แล้วเดี๋ยวคิดว่าอยากจะลองทำกินเองดูสักครั้ง

“ทำสิครับ ทำเยอะกว่าผมอีก” ลูกข้าวตอบตามจริง เพราะพอรชาตำส่วนผสมเสร็จ ก็มาช่วยลูกข้าวผัดเครื่องแกง ไปๆ มาๆ ลูกข้าวแค่ยืนบอกเท่านั้น ส่วนรชาเป็นคนทำ

“ครับๆ” รักไม่อยากต่อความยาวกับลูกข้าว จึงรับๆ ไป เพราะดูแล้วคงจะดื้อเงียบน่าดู

“ไอ้ภู ทำไมเงียบนักวะ” ชาครนั่งเงียบฟัง แล้วเพิ่งนึกถึงเพื่อนที่นั่งกินเงียบๆ

“ก็กินอยู่” ภูธิปเงยหน้าขึ้นตอบ แต่ก็ยังตักกินไปด้วย



พอทานข้าวกันเสร็จ นั่งพักกันแปปนึง ชาครก็ขอตัวกลับ

“กลับก่อนนะเว้ย”

“เออ ขับรถดีๆ”

“กลับก่อนนะครับ คุณข้าว”

“ครับ” ลูกข้าวยิ้มให้

“ไปก่อนนะครับ คุณข้าว” รชาเอ่ยลา

“ครับ ว่างๆ มาอีกนะครับ”

“สวัสดีครับคุณภู”

“สวัสดีครับ คุณรชา” ภูธิปตอบกลับ

แล้วรถของชาครก็แล่นออกไป ทิ้งเจ้าของบ้านยืนมองอยู่สักพัก ก็พากันเข้าบ้านเพื่อพักผ่อน


----------------------------
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//

**หายไปนานแลย ติดงาน+เวปค้างลงนิยายยากมากกก ขอบคุณที่รอกันนะคะ

**ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ด้วยค่ะ เป็นกำลังใจมากๆ  :mew1:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ลูกข้าวมาแล้ว ใกล้คลอดเต็มทีแล้วนะ เดินเหินระวังๆ พี่ภูถ้าจะ...ก็เบาๆนะ  :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด