ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]  (อ่าน 612310 ครั้ง)

ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอบนี้หายไปนาน

รอกันต่อไป

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :call: :call: :call:

นานแล้วนะไม่ได้เจอเธอสักที ...

ออฟไลน์ TonyPat

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จุ๊บๆๆ

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
หมอวินกะน้องพิงค์หายไปนานเลยค้าาา รีบมานะจ๊ะมีคนคิดถึง

ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มองๆๆมายัง

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ยังรอพี่หมออยู่นะเจ้า~

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4

Chapter 46 : เกียร์ทองคล้องใจ


ตอนบ่ายๆ ของวันที่ 30 ธันวาคม ในที่สุดภายในคลินิกที่เปิดรวมมิตรเพลงพรปีใหม่ทุกเวอร์ชันจากซีดีแผ่นเดียววนมาทั้งวันแล้วก็สงบลงจนได้

“อ้าว ปิดเพลงแล้วเหรอ” สิงหาใส่หมวกปีใหม่เดินออกมาจากห้องตรวจคนไข้ หลังจากคนไข้คนสุดท้ายเพิ่งออกไป

“โห พี่ เปิดมาทั้งวันแล้ว ผมขอเหอะ”

“ไม่ให้เว้ย เดี๋ยวจะเอาไปเปิดฟังในห้องต่อ”

“เว้ย~ ผมไม่ได้จะเอาซีดี” รวินท์อยากจะกรีดนิ้วกลางใส่ ทว่ายังเกรงใจคนไข้ที่ยังเดินออกไปจากร้านไม่หมด

จู่ๆ ประตูทางเข้าคลินิกก็เปิดออกผาง ก่อนอดีตคนไข้สาวๆ อีกหลายคนจะก้าวเข้ามาพร้อมถุงใส่ของขวัญ “หมอวิน สวัสดีปีใหม่ค่า พรุ่งนี้หมอจะไปเคาทน์ดาวน์ที่ไหนค้า”

รวินท์ยิ้มแห้ง พลางหันไปมองดูนาฬิกา เขานัดกับภูพิงค์ไว้หลังเลิกงาน จะโอ้เอ้ก็ไม่ได้ซะด้วย “สวัสดีปีใหม่ทุกคนนะครับ พอดีผมมีนัด ขอตัวก่อน” ว่าแล้วก็วิ่งปรู๊ดออกไป ระหว่างทางก็แวะผลักสิงหาเข้าไปรับหน้าแทน “แต่พี่สิงหาว่างคร้าบ ผมไปก่อนนะครับ”

“เฮ้ย! ไอ้หมอวิน!”

เสียงโวยวายดังไล่หลังมาแว่วๆ หากรวินท์ไม่ใส่ใจ เขารีบขับรถออดี้สปอร์ตของตนออกไปจากที่จอดรถอย่างรวดเร็ว ทั้งยังอยู่ในเสื้อกาวน์ แถมหน้าตายังไม่ได้ล้างนี่ล่ะ

เมื่อขับไปถึงบ้านเช่าของเด็กหนุ่มก็เห็นว่ามีรถมาจอดเพิ่มอีกคัน ดูเหมือนบิดามารดาของแซนดี้จะมาร่วมฉลองด้วย เขายังไม่ทันจะดับเครื่องรถ บิดามารดาของเด็กหนุ่มก็รีบออกมาต้อนรับ พาเขาเข้าไปนั่งโต๊ะข้างในทันที

ทันตแพทย์หนุ่มนั่งลงพลางกวาดสายตามองไปภายในห้อง สภาพของห้าหนุ่มประจำบ้านในตอนนี้ดูไม่ได้สักเท่าไหร่ นอนอืดเรียงรายเหมือนตายมาแล้วหลายวัน ร้องโอดครวญหาอีโนมายาใจ เขากอดกระเป๋าเป้ที่หิ้วลงมาจากรถด้วยไว้แน่น “คือ...ผมอยากจะขออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เพิ่งเสร็จงานน่ะครับ”

“ได้ๆ แต่หมอวินกินขนมนี่ก่อนค่อยไปนะ” มารดาของแซนดี้พูดพลางกดไหล่ทันตแพทย์หนุ่มให้นั่งลง ในขณะที่บิดาดึงเก้าอี้ออกให้

ได้ยังไงวะเนี่ย! รวินท์ก้มลงมองดูถาดใส่ขนมที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ จำใจต้องนั่งลงพลางยิ้มเหยๆ “ขนมเยอะขนาดนี้ ขนมาลำบากแย่เลยนะครับ”

“ไม่หรอก แม่สั่งให้ร้านเอามาส่งลูก กินขนมก่อน เดี๋ยวเย็นๆ ค่อยกินโต๊ะจีนกัน”

“โห... โต๊ะจีนเลยเหรอ” เขาหันไปสบสายตากับภูพิงค์ ซึ่งอีกฝ่ายพยักเพยิดหน้าบอกให้กินๆ ไปก่อน

พอบิดามารดาของแซนดี้เผลอ เด็กหนุ่มก็ลุกขึ้นพรวด คว้ามือรวินท์วิ่งขึ้นชั้นบน “พ่อแม่ เดี๋ยวมานะครับ พี่วินทำฟันคนไข้มา เสื้อกาวน์ยังคาอยู่เลยเนี่ย ต้องอาบน้ำก่อน”

“เอ้า! เพิ่งกินไปนิดเดียวเอง รีบๆ มานะลู้กกก~” เสียงมารดาดังแว่วไล่หลัง

สองหนุ่มนั่งลงหอบแฮกๆ บนเตียง มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะ

ภูพิงค์ยกมือขึ้นกุมท้อง “โอย ปวดท้องฉิบหาย พี่เชื่อมั้ย ผมกินมาตั้งแต่เช้า จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้หยุดเลยเนี่ย มีรถมาส่งอาหารสามรอบแล้ว อีโนก็ไม่มี แถมมีลางว่าต้องกินยันเช้าวันพรุ่งนี้แหงๆ” เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปแตะแก้มคนที่นั่งอยู่ข้างกัน “ตอนแรกผมกะว่าจะไปดักรอพี่ที่หน้าบ้านแล้วพาไปที่อื่นก่อน แต่คิดว่าเพิ่งเลิกงานคงจะหิว”

“อย่าเลย ที่จริงลุกไม่ไหวก็บอกเถอะว่ะ”

“เพื่อความเนียนเว้ยพี่ เดี๋ยวจะได้อ้างว่าจะออกไปซื้ออีโนได้ไง”

“เออๆ เชื่อก็ได้” รวินท์อมยิ้ม “งั้นผมไปอาบน้ำแป๊บ” เขาหยิบเสื้อผ้าในกระเป๋าเป้ที่ติดมือมาด้วย ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไป สักพักก็เดินออกมา

“เดี๋ยวพี่กินอะไรสักหน่อยก่อนค่อยหาเรื่องแวบไปข้างนอกกัน ดึกๆ ค่อยกลับมากินต่อ”

“จะไปไหนล่ะ”

“ไปเดินเล่นอ่างแก้วกันป่ะ อยู่ใกล้ๆ แค่นี้ แต่ผมยังไม่เคยพาพี่ไปเลย เดี๋ยวขี่มอไซค์ไปกัน”

“เอาดิ คุณพาไปก็แล้วกัน”

สองหนุ่มกลับลงไปนั่งกินขนมที่ชั้นล่างอยู่สักพัก ยังไม่ทันได้ขยับตัวบิดามารดาของแซนดี้ก็ตั้งโต๊ะจีนต่อ

“โอย แม่ จะฆ่าพวกผมเรอะ ผมว่าเราพักกันบ้างเหอะ” แซนดี้ครวญคราง

“ก็แม่เลือกไม่ถูกว่าพวกเราชอบกินอะไรกัน แม่เลยสั่งมาให้เลือกไง”

“นี่ไม่เรียกให้เลือกแล้วแม่!”

“เอาน่ะ เหลือก็แช่แข็งไว้กินได้อีกนี่นา” บิดาปลอบ

“เดี๋ยวผมกับพี่หมอไปซื้ออีโนมาให้ดีกว่า” ภูพิงค์พูดขึ้น แล้วคว้ามือรวินท์วิ่งออกจากบ้านไปโดยไม่รอให้คนอื่นๆ คัดค้านหรือขัดขาได้

“ไอ้พิงค์! ไอ้เพื่อนจัญไร เอาตัวรอดนะมึ้ง~” ซัน ดิว ขิงและแซนดี้ตะโกนไล่หลัง แต่ก็ไม่มีแรงจะลุกไปไล่ตามหรอก

เด็กหนุ่มขี่บิ๊กไบค์พารวินท์ออกจากบ้านเช่าไปพลางหัวเราะกันไปด้วย เย็นวันนี้เมืองเชียงใหม่คึกคัก แม้ท้องฟ้าจะยังไม่ทันมืดสนิท แต่ในเมืองก็เปิดไฟสว่างไสว ตามท้องถนนมีผู้คนเดินพลุกพล่าน อากาศก็กำลังเย็นสบาย

ภูพิงค์เลี้ยวมอเตอร์ไซค์เข้าไปในรั้วมหาวิทยาลัย ตรงไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว เมื่อไปถึง ช่วงแรกก็ขี่มอเตอร์ไซค์เลียบน้ำไปก่อน สักพักก็จอดแล้วชวนคนที่มาด้วยกันลงไปเดินเล่น

“โน่นไงดอยสุเทพฯ เสียดายมาไม่ทันพระอาทิตย์ตกดิน แต่วิวก็สวยดีใช่มั้ยล่ะ”

“อือ ได้เรียนที่วิวสวยๆ แบบนี้สุดยอดไปเลยนะ สมัยผมเรียนน่ะ ที่กรุงเทพฯ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ตึก”

พวกเขาเดินคู่เคียงกันไปช้าๆ พอเมื่อยก็นั่งลงบนม้านั่งริมอ่างเก็บน้ำ

“ตรงนี้ค่อยสงบหน่อย แต่ข้างนอกคนเยอะเหมือนกันนะ”

“งี้แหละ ช่วงวันหยุด คนมาเที่ยวเยอะ”

“อือ โชคดีชะมัดที่โรงแรมมีห้องว่าง”

“อาจจะเป็นห้องที่ไม่มีใครกล้าพักรึเปล่าวะพี่”

“พูดแบบนี้อีกแล้ว!” รวินท์หันขวับ เขาผลักศีรษะเด็กหนุ่มออกห่าง “ปากเสียว่ะ! ถ้าตกดึกมีใครมาเยี่ยม ผมจะบอกให้หลอกคุณก่อน”

ภูพิงค์หัวเราะ “ผมล้อเล่นน่ะ ทีมานั่งมืดๆ แบบนี้กับผมทำไมไม่กลัววะ”

“ก็มีคนเดินผ่านไปมานี่หว่า”

“อาจจะไม่ใช่คนทั้งหมดก็ได้นา”

“พูดงี้อยากโดนถีบลงน้ำใช่มั้ยวะ”

เด็กหนุ่มส่ายหน้ารัว “กลัวแล้วคร้าบ! มาๆ ดูน้ำกันดีกว่านะพี่นะ” เขาหันมองไปยังผืนน้ำ นิ่งอยู่เช่นนั้นชั่วครู่ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบท้ายทอย แล้วเปลี่ยนมาเกาคางตัวเอง ทำท่าทางล่อกแล่กจนคนที่นั่งข้างกันหันมามอง

“เป็นอะไร ยุงกัดรึไง”

“เปล่า ผมแค่กำลังคิดว่า ถ้าพี่ถีบผมลงไปในอ่างนี่ ผมคงจะเจอเกียร์คณะตั้งแต่รุ่นแรกแน่ๆ”

“เขาเอามาทิ้งไว้ในอ่างแก้วนี่กันเหรอ ทำไมล่ะ”

“อือ ก็... พี่คงเคยได้ยินมาก่อน ปกติเวลาวิดวะมีแฟนก็จะให้เกียร์แฟนใช่มั้ยล่ะ แต่สำหรับที่นี่น่ะ พอเลิกกันก็จะเอาเกียร์มาโยนไว้ในน้ำนี่น่ะสิ”

“เลิกกันแล้วทำไมไม่คืนวะ ของสำคัญไม่ใช่เหรอ”

“ไม่รู้ว่ะ”

จากนั้นก็ไม่มีคำพูดใดๆ จากทั้งสองหนุ่มไปอีกชั่วครู่

สายลมพัดมาแผ่วๆ ขณะที่รวินท์ทอดสายตามองผืนน้ำที่ไหวตัวเป็นระลอกน้อยๆ พอมานึกไป ภูพิงค์เป็นเด็กวิศวะ ก็ต้องมีเกียร์เหมือนกันสินะ ทันตแพทย์หนุ่มคิดไปพร้อมกับชำเลืองมองคนที่นั่งอยู่ข้างกัน อยากจะถามถึงแต่ก็ไม่กล้า จนกระทั่งสายตาของพวกเขาสบกันเข้าพอดี

“มีอะไรจะถามก็ถามดิวะ”

“ไม่อะ แค่สงสัย แต่ไม่ได้อยากรู้”

“จริงอ่อ” เด็กหนุ่มขยับเข้าไปใช้หัวไหล่กระแซะ “ถามหน่อยน่า”

“ไม่ถามเว้ย”

“ไม่อยากรู้อ่อ ว่าเกียร์ผมยังอยู่รึเปล่า”

รวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ยอมตอบ เขาก็อยากรู้แหละ หากถ้าได้คำตอบมาว่าให้คนอื่นไป หรือหายไปแล้ว เขาคงเซ็งน่าดู

“ให้แม่ไปตั้งแต่ตอนปีหนึ่งแล้ว”

“อือ” ผิดหวังนิดหน่อย แต่ก็ยังดีที่ให้แม่ล่ะวะ

ภูพิงค์หันไปจ้องมองทันตแพทย์หนุ่ม จ้องแบบให้เห็นชัดๆ ว่าเขากำลังจ้องอยู่

“จ้องหาไรวะ”

“เปล่า” เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนยืดแขนบิดขี้เกียจ ก่อนจะเดินวนไปยืนด้านหลังคนที่นั่งอยู่ เขาหันมองไปรอบๆ ดูว่าปลอดคนแล้วจึงหยิบเกียร์สีทองที่คล้องเชือกไว้ขึ้นมาสวมให้อีกฝ่าย

รวินท์สะดุ้ง พลางก้มลงมอง หัวใจเต้นระส่ำ “โห ตกใจหมด นึกว่าจะฆ่ารัดคอผมซะแล้ว”

“จะบ้าเรอะพี่! เชือกเส้นแค่นี้จะตายป่ะวะ”

“ไหนว่าให้แม่ไปแล้วไง”

“ก็ให้ไปแล้ว แต่ไปขอคืน”

เวลานี้ทันตแพทย์หนุ่มเก๊กไม่อยู่แล้ว เขายิ้มกว้าง พร้อมกับจับเกียร์ขึ้นมาดู “จู่ๆ ไปขอแม่คืน แม่ไม่สงสัยเหรอวะ”

“ไม่เห็นถามอะไรนี่” ภูพิงค์ย่อตัวลง แล้วโน้มใบหน้าเข้าไปกระซิบใกล้ๆ ใบหู “เก็บไว้ดีๆ นะ จะได้เหมือนมีผมอยู่ข้างๆ ตลอด”

“อือ”

“ปลื้มใช่มะ”

รวินท์คว้าคอเสื้อเด็กหนุ่มเข้าหาตัว จากนั้นจึงแต้มจูบเรียวปากที่ชอบพูดจากวนประสาทไปเบาๆ “เออ ปลื้ม ขอบใจนะ”

“ใส่ไว้นะ ใครๆ จะได้รู้ว่าพี่วินมีเจ้าของแล้ว”

“ทำไมวันนี้พูดจาน่ารักจังวะ”

“ก็สิ้นปีแล้ว ทิ้งทวนหน่อย”

ทันตแพทย์หนุ่มหัวเราะ ถ้าเป็นตัวเขาในอดีต เขาคงดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดฟัดแล้ว แต่เพราะภูพิงค์ไม่เหมือนใคร เขาจึงทำได้แค่เอื้อมมือไปไล้แก้มอีกฝ่าย

ภูพิงค์จับมือนั้นมากุมไว้ “กลับกันยัง ไปกินต่อกันดีกว่า”

อาห์ โคตรโรแมนติกเลยจริงๆ

“เออ กลับก็ได้” รวินท์ลุกขึ้น แล้วเดินตามคนที่จูงมือนำออกไปยังมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้ จากนั้นก็พากันกลับไปที่บ้านเช่า



ภายในห้องนั่งเล่นในบ้านเช่าเปิดเพลงดังครึกครื้น ดิวกับขิงกำลังร้องคาราโอเกะเพลงหนุ่มนาข้าวสาวนาเกลือเพื่อเอนเตอร์เทนบิดามารดาของแซนดี้ผู้เป็นสปอนเซอร์อาหารและเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์อย่างดีแบบไม่อั้น เมื่อได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์ และสองหนุ่มเดินเข้าบ้านกันมาก็หยุดร้องเพลงกันทันควัน

“ไปซื้อยาถึงไหนวะ ข้ามไปฝั่งพม่ามาเหรอ”

“ไหนล่ะอีโน”

ภูพิงค์สะดุ้ง “เฮ้ย ลืม!”

“ไอ้สัส! มึงออกไปตั้งนาน แต่ลืมซื้อยาเนี่ยนะ หายหัวไปทำไรกับพี่หมอมาวะ!” แซนดี้ขึ้นเสียงสูงปรี๊ด หันไปพาลใส่รวินท์ด้วย “มันพาพี่หมอไปไหนมาเนี่ย! พี่หมอก็ไม่เตือนมันเลยนะ!”

“โทษทีๆ เดี๋ยวผมออกไปซื้อให้ใหม่นะ”

“ไม่ต้องเลย” ซัน ดิวและขิงเดินไปล้อมด้านหลังสองหนุ่มไว้ “เดี๋ยวพี่หมอก็หายไปกับมันเป็นชั่วโมงอีก แบบนี้ต้องลงโทษทั้งคู่อะ นั่งๆ”

“เดี๋ยว~” รวินท์ไม่มีโอกาสได้แก้ตัวอะไรอีก เพราะสี่หนุ่มจัดวิสกี้ออนเดอะร็อคมาจ่อปาก

“คนละแก้วก่อนเลย สามแก้วถึงจะสาสม”

“มาดวลกันเลยดีกว่า” ทันตแพทย์หนุ่มรับแก้วมาแล้วยกขึ้นท้า “เอาหูฉลามกับหมูหันมาแกล้มด้วย จัดมาๆ”

สี่ชั่วโมงให้หลัง ภายในห้องนั่งเล่นก็มีแต่ขี้เมา บิดามารดาของแซนดี้ยอมแพ้ หนีไปนอนกันแล้ว เหลือหกหนุ่มที่ยังยกแก้วชนกันเป็นระยะ แล้วตั้งวงเล่นไพ่จับหมู จนกระทั่งปลายฟ้าเริ่มมีแสงรำไร

“พี่วินพอเหอะ” ภูพิงค์หยิบแก้วในมือทันตแพทย์หนุ่มออก พลางหันไปมองเพื่อนรักที่ล้มตัวลงนอนบนพื้น “หกโมงกว่าแล้ว ผมว่าเราขึ้นไปนอนกันสักหน่อยดีกว่าว่ะ”

“อือ มึนชะมัด ดีที่กินอะไรเข้าไปก่อน ไม่งั้นผมเมาตาย”

ภูพิงค์ลุกยืนโซเซ ก่อนจะช่วยพยุงรวินท์ให้ลุกตาม “ไหวมั้ย”

“ไม่ไหว” ทันตแพทย์หนุ่มถลาเข้าไปกอดคนอ่อนวัยกว่าไว้ทันที

“อย่ามารยาน่ะ” เด็กหนุ่มกอดอีกฝ่ายไว้แล้วยิ้มมุมปาก

“รู้ดีฉิบหาย”

“ถ้าจะให้พี่ขี่หลังตอนนี้ผมก็กลัวว่าเราจะหน้าทิ่มไปด้วยกัน ค่อยๆ เดินละกันนะ”

“โอเค”

สองหนุ่มประคองกันไปช้าๆ ก้าวขึ้นบันไดกันไปอย่างทุลักทุเล แต่ถึงจะเมาแค่ไหน ทันตแพทย์หนุ่มก็ต้องแปรงฟันก่อนนอน  ภูพิงค์จึงถูกบังคับให้ไปแปรงฟันด้วยกัน ก่อนจะมาทรุดตัวลงนอนเคียงกันบนที่นอน

“เมาแทบตายแล้วยังต้องคลานไปแปรงฟันอีกเนี่ย ครั้งแรกในชีวิตเลยแม่ง”

รวินท์หัวเราะ พลางหันไปหาเด็กหนุ่ม “พิงค์ กอดหน่อยดิ”

ภูพิงค์พลิกตัวหันหน้าเข้าหา จากนั้นจึงใช้ปลายนิ้วไล้แก้มที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ “เมาแล้วอ้อนจังว่ะ”

ทันตแพทย์หนุ่มยื่นใบหน้าเข้าไปหาคนอ่อนวัยกว่า ใกล้จนริมฝีปากของพวกเขาเกือบสัมผัสกัน “อือ ไม่อ้อนแฟนแล้วจะไปอ้อนหมาที่ไหน”

เด็กหนุ่มลดตาลงมองกลีบปากสีแดงตรงหน้า พร้อมกับหยิกแก้มอีกฝ่ายเบาๆ “เดี๋ยวจะจูบให้ร้อง...” ยังพูดไม่ทันจบประโยคก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ

รวินท์ผละออก หันไปควานหาโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายทันที ปล่อยให้คนอ่อนวัยกว่าค้างเติ่งอยู่แบบนั้น “เกิดอะไรขึ้นกับมึงวะ คนอย่างมึงถึงโทรมาแต่ไก่โห่ได้”

“ก็เพิ่งตักบาตรมาไง กรวดน้ำให้มึงกับเด็กมึงด้วย แต่ทำไมเสียงมึงอ้อแอ้แบบนี้ เมาเหรอวะ” คนที่ปลายสายถาม

“เมาห่าไร ระดับกูแล้ว”

“เออ ระดับมึงเนี่ยแหละ เมาแต่เช้าเลย แล้วนี่ไปเมาอยู่ไหนวะ แดกเหล้ามื้อไหนเนี่ย”

“อยู่บ้านพิงค์ แดกเหล้ากันตั้งแต่เมื่อคืน แล้วมึงอะ แพลนนอนโรงบาลข้ามปีไปถึงไหนละ”

“สัส อีกไม่นานก็ออกได้แล้วโว้ย เมาแล้วก็อย่าเผลอตัวปล้ำเด็กมึงล่ะ”

รวินท์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ระดับกูนี่จงใจเลยแหละ”

ภูพิงค์จ้องอีกฝ่ายเขม็ง ฟังดูก็พอจะรู้ว่าพี่เต้เป็นคนโทรมา แต่จะหน้าบานอะไรขนาดนั้นวะ

“คืนนี้ไปเคาทน์ดาวน์ที่ไหนวะ”

“แถวๆ นี้แหละ มึงล่ะ”

“กูจะไปไหนได้วะ คงเคาทน์ดาวน์กับพ่อแม่แล้วก็ไอ้เตยอยู่ที่โรงบาลนี่แหละ”

“เออ ดี แปลกดี เป็นประสบการณ์ใหม่เว้ย” รวินท์ชะงัก เมื่อคนที่นอนอยู่ข้างกันดึงโทรศัพท์มือถือออกไปจากมือ แล้วโน้มใบหน้าเข้ามาบดจูบริมฝีปากแบบไม่ให้ได้ทันตั้งตัว

“เมื่อวานหมอมาเช็กครั้งสุดท้ายของปี...” เตชิตพูดไปเรื่อยๆ ทว่าสักพักก็รู้สึกว่าคนที่ปลายสายเงียบไป “ไอ้วิน? ไอ้วินเว้ย?”

ภูพิงค์ละเรียวปากออกมาจากกลีบปากที่เห่อบวม นัยน์ตาของคนใต้ร่างที่มองมายังเขาปรือปรอย เด็กหนุ่มยิ้มมุมปาก ใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำลายบนริมฝีปากนั้นพร้อมกับยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาคุยเสียเอง “พี่วินเมาหลับไปแล้วว่ะพี่เต้”

คนที่ปลายสายอยากจะแหมไปให้ถึงอีกกาแลคซี่ กลอกตามองบนจนลูกตาจะตลบกลับไปท้ายทอยแล้ว “แค่คุยโทรศัพท์ก็ต้องหวงเหรอวะ”

“เออสิวะ หวงมากด้วย ก็พี่วินเป็นของผมนี่”

“แค่คุยกับเพื่อนก็ไม่ได้รึไง”

“ก็พี่เสือกโทรมาได้จังหวะพอดี” ด้วยความเมา เด็กหนุ่มจึงพูดไปตรงๆ ทำตาขวางใส่ทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า

เตชิตหัวเราะเสียงขึ้นจมูก “ขอบใจที่บอกเว้ย ถ้างั้นผมเดี๋ยวจะโทรอีกรัวๆ โทรแม่งยันปีใหม่เลย”

“พี่วินหลับไปแล้วเว้ย ไม่ต้องโทรมาแล้ว ไว้คุยกันใหม่ปีหน้าเลยละกัน หวัดดีปีใหม่เว้ยพี่”

“ไอ้!” เตชิตยังไม่ทันจะด่า เด็กหนุ่มก็กดวางสายไปเรียบร้อย

หากเมื่อเขาหันไปทางเจ้าของโทรศัพท์ อีกฝ่ายก็ดันหลับไปแล้วจริงๆ “ไอ้พี่วิน!” เขาเอื้อมมือไปบีบจมูกทันตแพทย์หนุ่ม “ชอบทำให้หึงนัก” จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปแนบจูบริมฝีปากที่เผยอออกเล็กน้อยเพื่อหายใจอีกครั้ง เขาสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดอย่างเอาแต่ใจ สองแขนโอบกอดอีกฝ่ายขึ้นมาแนบกาย

“ถ้าทำให้หึงบ่อยนัก หมดความอดทนเมื่อไหร่ผมจะปล้ำแม่งเลย ไม่รอแล้วนะเว้ย” ภูพิงค์พ่นลมหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะเอนตัวลงนอนโดยที่ยังกอดทันตแพทย์หนุ่มไว้ ดวงตาคมกริบจับจ้องใบหน้าอีกฝ่ายยามหลับใหล ใช้ปลายนิ้วไล้ตามลำคอ ลงไปยังเกียร์สีทองที่คล้องอยู่กับเชือกสีดำบนลำคอขาว

ไม่นานทั้งสองคนก็พากันไปเข้าเฝ้าพระอินทร์



ในตอนเที่ยงกว่าๆ ของวันสิ้นปี สองหนุ่มตื่นขึ้นเพราะเสียงเคาะประตูเรียก

เจ้าของห้องผงกศีรษะขึ้น “มึงจะเคาะทำไมวะไอ้ซัน เข้ามาดิ๊”

เสียงที่ตอบกลับมาไม่ใช่ของซัน แต่เป็นของมารดาของแซนดี้ “พิงค์เอ๊ย หมอวิน ตื่นเถอะลูก ลงมากินกลางวันกัน”

ภูพิงค์สะลึมสะลือลุกขึ้นจากเตียงไปเปิดประตูห้องออก “กินอีกแล้วเหรอครับแม่ แล้วทำไมไม่ให้ไอ้พวกนั้นมาเรียกผมล่ะเนี่ย”

“มันยังไม่ตื่นกันเลยลูก นี่เห็นว่าตอนบ่ายแก่ๆ หน่อยจะมีเพื่อนสโมฯ อะไรเนี่ยมาร่วมฉลองปีใหม่กันด้วยน่ะ”

“ฮะ! ไอ้พวกสโมฯ จะมาเหรอ งั้นเดี๋ยวผมจะรีบลงไปครับ” เด็กหนุ่มเบิกตาโพลง หายง่วงทันควัน เขารีบวิ่งกลับไปปลุกคนที่ล้มตัวลงนอนเอาศีรษะไถหมอนต่อ “พี่วิน ตื่นโว้ย!”

“โอยปวดหัวชะมัด เสียงดังอะไรแต่เช้า”

“เช้าอะไรพี่ นี่มันเลยเที่ยงแล้วเว้ย รีบล้างหน้าแปรงฟันกันก่อน เดี๋ยวไอ้พวกสโมฯ จะมา”

“ฮะ!” รวินท์ลุกขึ้นพรวด

สองหนุ่มรีบรุดลงไปชั้นล่าง ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า แค่ล้างหน้าแปรงฟัน กินมื้อเที่ยงกันแล้วก็รีบขับรถชิ่งหนีกันออกไปจากบ้านเช่าก่อนที่แก๊งสโมฯ จะมา เพราะภูพิงค์กลัวว่าถ้าเจอหน้ากันไอ้พวกนั้นจะหาเรื่องใช้งานพี่วินของเขาอีก แค่เรื่องเสื้อนี่ก็ลิสต์ยาวเป็นขี้ปลาทองแล้ว

รวินท์ขับรถออกไปได้สักพักก็เคลื่อนรถเข้าไปจอดเทียบทางเท้า ก่อนจะเอี้ยวตัวไปเบาะหลังเพื่อรื้อหา vocher โรงแรม

“ทำไรวะพี่ ขับไหวมั้ย”

“ไหวๆ แต่ต้องหาที่อยู่โรงแรมก่อนว่ะ”

“นี่พี่จองโรงแรมทั้งที่ไม่รู้ว่ามันอยู่ไหนเนี่ยนะ” ภูพิงค์ยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองรัวๆ มีลางว่าจะได้นอนห้องพิเศษแถมแขกพิเศษด้วยแหงๆ

“พนักงานบอกว่ามีระเบียงใหญ่ อยู่บนเขาไม่สูงมาก ระเบียงติดภูเขามองเห็นวิวภูเขาด้วย อืม... เจอละ” คนพูดอ่านที่อยู่ออกเสียงเบาๆ แล้วกดที่อยู่ใส่ลงไปในเนวิเกชันซิสเต็ม

“อืม... ถ้าจากห้องมองเห็นภูเขา ก็น่าจะอยู่คนละฝั่งกับเมืองป่ะวะพี่ ถ้างั้นก็มองไม่เห็นพลุปีใหม่น่ะสิ”

ทันตแพทย์หนุ่มหันขวับ “เออ! ฉิบหาย!”

เด็กหนุ่มหัวเราะร่วน “มิน่าล่ะไม่มีคนจองอะ พี่วินแม่ง!”

รวินท์หยิบโบรชัวร์กับ vocher ส่งให้คนที่นั่งอยู่ข้างกัน “เอาน่ะ ไม่เห็นพลุ แต่วิวก็สวยดีนะ มีอาหารมาส่งถึงห้องด้วย คือจริงๆ ห้องใน vocher มันเต็ม แต่เขาว่ามีห้องพิเศษ ให้เพิ่มเงินนิดหน่อย ผมเลยเอา”

“เออ จะว่าไป ผมว่าก็ดีเหมือนกันเนอะ ไม่ต้องไปแออัดนั่งรอในร้านอาหาร” ภูพิงค์เปิดดูภาพในแผ่นพับชั่วครู่ แล้วก็วางลงที่เดิมของมัน “วันวาเลนไทน์ ให้ผมเป็นคนจัดการเรื่องร้านอาหารกับที่พักบ้างนะ”

“เออๆ เอาที่วิวสวยๆ โรแมนติกสุดๆ ให้สมกับเป็นคืนเสียตัวนะเว้ย”

“สะ...เสียตัว” เด็กหนุ่มหน้าร้อนวาบ “ไอ้พี่วิน! ทะลึ่งว่ะ!”

“เอ๊า ก็เห็นคนเขาเรียกกันแบบนั้น ผมก็เรียกตามเขาซื่อๆ”

“ซื่อฉิบหายเลยพี่อะ” ภูพิงค์เบือนหน้าหลบ เพราะคิดว่าตอนนี้ใบหน้าของเขาต้องเปลี่ยนเป็นสีแดงแปร๊ดแล้วแน่ๆ เอาเข้าจริงๆ ลึกลงไปในใจเขาก็อยากแหละ ไอ้พี่วินก็น่าฟัดน้อยซะที่ไหน ติดตรงที่ยังไม่กล้าคิดถึงเรื่องอย่างว่าสักเท่าไหร่ ทฤษฎียังไม่แม่น จะถามอีแซนดี้ก็... มันคงหัวเราะเยาะเช้าเย็น จะกูเกิลดูก็ไม่กล้า ชีวิตแม่ง!

“คิดอะไรอยู่ ทำหน้าเขียวๆ แดงๆ คิดอะไรทะลึ่งแหงๆ”

“เปล่าเว้ยพี่!” เด็กหนุ่มถอนหายใจเบาๆ หงุดหงิดกับความไก่อ่อนของตัวเองแบบสุดๆ เพราะงั้นเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า “เออ แล้ววันหยุดสองวันนี่ไปเที่ยวไหนกันดี แต่คงไปไกลไม่ได้นะพี่ ผมเปิดเทอมวันที่สาม”

“ช่วงนี้อากาศดี คนมาเที่ยวเยอะ ผมไม่ค่อยอยากไปไหน” รวินท์ยิ้มมุมปาก “อยากอยู่กับคุณสองคนมากกว่า”

“โห ไม่ต้องหยอดผมแล้วพี่ แค่นี้ก็ผมก็ถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว อือ... ถ้างั้นวันปีใหม่ไปไหว้พระขอพรกันก่อน แล้วจะไปไหนต่อค่อยว่ากัน”

“แล้วแต่น้องพิงค์เลยครับ ผมได้หมด ให้จบที่ค้างคืนด้วยกันก็พอ”

“ขนลุกว่ะพี่วิน ผมรู้สึกเหมือนจะโดนหลอกไปฟันยังไงก็ไม่รู้”

“เว้ย ไอ้เด็กเวร ระดับคุณอะ ต้องใช้ปังตอรุ่นไหนถึงจะฟันขาดวะ” คนที่ขับรถอยู่หันไปต่อว่า ขับต่อไปอีกสักพักก็เลี้ยวรถเข้าไปยังถนนของโรงแรม ไม่นานก็ไปจอดอยู่ในที่จอดรถของโรงแรมเรียบร้อย

สองหนุ่มสะพายเป้คนละใบ ลงจากรถแล้วยืนมองโรงแรมกัน

โรงแรมขนาดใหญ่โตตั้งอยู่บนเขาไม่สูงนัก ละแวกนั้นมีแต่ป่า จากที่จอดรถมองออกไปเห็นตัวเมืองเชียงใหม่ได้ ภายในเขตโรงแรมประดับดอกไม้ต้นไม้ไว้สวยงาม

“โห ก็เป็นโรงแรมใหญ่เหมือนกันเนอะพี่ ผมนึกว่าต้องนอนกับจิ้งหรีดซะแล้ว”

“รูปก็เหมือนใน vocher นะ สวยดี อากาศสบายๆ มีหมอกด้วย”

สองหนุ่มเดินเข้าไปเช็กอินพร้อมกัน หากเนื่องจากวันนี้แขกเยอะ พนักงานจึงวิ่งกันวุ่น พนักงานที่เคาทน์เตอร์ขอโทษแล้วขอโทษอีกที่ทำให้ต้องรอเด็กยกกระเป๋านานสักหน่อย

“พวกผมมีแค่เป้คนละใบ ไม่ต้องยกให้หรอกครับ” รวินท์บอกกับพนักงาน

“แต่ห้องหายากสักหน่อยนะคะ เพราะเป็นห้องส่วนตัวมากๆ อยู่ทางด้านหลัง”

“เอาแผนผังโรงแรมมาก็ได้ครับ เดี๋ยวพวกผมหากันเอง ผมขี้เกียจรอน่ะ”

พนักงานสาวยิ้มเจื่อนๆ พลางยกมือไหว้ “ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ ห้องของคุณรวินท์อยู่โซนนี้ค่ะ มีทั้งหมดสามห้อง ของคุณรวินท์ห้องฝั่งซ้ายนะคะ จะมองเห็นภูเขา แล้วเห็นพระอาทิตย์ตกดินด้วยค่ะ อาหารเย็นจะนำไปเสิร์ฟที่ห้องตอนหกโมงนะคะ หรือถ้าจะให้เสิร์ฟเวลาอื่นก็โทรมาสั่งได้ค่ะ” เธอจัดการหาแผนผังภายในโรงแรมให้ และบรรยายทางเดินให้เสร็จสรรพ

“โอเคครับ” ทันตแพทย์หนุ่มรับคีย์การ์ดมาแบบงงๆ จากนั้นก็คลำทางกันไป

“ทำไมห้องมันหลบอยู่ขนาดนี้วะ มีผีแน่ๆ เลยว่ะพี่”

“ปากเรอะนั่น! โรงแรมใหญ่ขนาดนี้ไม่น่ามีผีป่ะวะ”

“ผีเกี่ยวไรกับขนาดโรงแรมวะพี่”

สองหนุ่มเดินบ่นกันไป หลงทางกันบ้าง แต่ในที่สุดก็พบห้องของพวกเขา

“แม่ง เจอสักที” รวินท์แตะคีย์การ์ด เปิดประตูก้าวเข้าไปได้ไม่กี่ก้าวก็หยุดชะงัก “เฮ้ย...”

ห้องพักของพวกเขาอยู่ที่ตึกด้านหลังสุด ซึ่งเป็นตึกชั้นเดียวแยกออกมาจากตึกใหญ่ มีขนาดกว้างขวางสมกับเป็นห้องพิเศษ มีเตียงใหญ่ตรงกลาง ด้านซ้ายของเตียงเป็นชุดโซฟาและโต๊ะอาหาร มีบานประตูกระจกออกสู่ระเบียง ฝั่งขวามุมหนึ่งเป็นห้องอาบน้ำที่ผนังด้านนอกสามด้านเป็นกระจกใส ตรงข้ามกันมีอ่างจากุซซีขนาดใหญ่ชิดผนังกระจกของห้อง เพื่อให้มองทิวทิศน์ด้านนอกขณะแช่น้ำในอ่างได้ด้วย

สองหนุ่มเดินสำรวจห้องกันแบบงงๆ

“พี่วิน... ทำไมอ่างอาบน้ำมันไม่อยู่ในห้องน้ำวะ”

ทันตแพทย์หนุ่มกะพริบตาปริบๆ “อยู่ที่ไหนก็เหมือนกันเปล่าวะ ห้องน้ำใสซะขนาดนั้น” เขาเดินไปที่โต๊ะซึ่งมีตะกร้าผลไม้และเครื่องดื่มจัดไว้ให้อย่างสวยงาม ก่อนจะหยิบการ์ดที่เหน็บไว้กับหูตะกร้าขึ้นมาดู “ยินดีต้อนรับคุณรวินท์สู่ห้องฮันนีมูนสวีต...”

ภูพิงค์ยืนมองเตียงซึ่งมีผ้าเช็ดตัวมัดเป็นรูปหงส์สองตัวหันหน้าเข้าหากันและมีช่องว่างตรงกลางเป็นรูปหัวใจวางอยู่ข้างบน มีกลีบดอกไม้โปรยไว้ให้พร้อม เขาหันขวับไปหาอีกฝ่าย “พี่วินแม่งคิดไม่ซื่อกับผมแน่ๆ จะผิดผีกับผมเหรอวะ”

“ผมไม่นึกว่าห้องพิเศษที่เขาว่ามันจะเป็นห้องแบบนี้โว้ย”

“แล้ว... เราจะอาบน้ำกันยังไงดี”

“ก็แยกกันไปอาบสิวะ คุณจะลงอ่างหรือจะยืนอาบล่ะ”

เด็กหนุ่มเดินไปสำรวจห้องน้ำกับอ่างจากุซซีอีกรอบ ก่อนจะกลับเข้ามาหาอีกฝ่าย “อาบในอ่างแม่งต้องหวิวโคตรๆ แน่ๆ ในห้องน้ำยังมีกระจกล้อม งั้นผมอาบในอ่างก็แล้วกัน”

รวินท์หรี่ตามอง “อ่อ ชอบหวิวๆ สินะ รสนิยมแบบนี้นี่เอง”

“ไม่ใช่เว้ย! ใครจะให้แฟนตัวเองไปอาบตรงที่หวิวๆ ล่ะวะ”

“ผมยังไงก็ได้ อืม...แต่ตอนนี้ไปเราดูพระอาทิตย์ตกดินที่ระเบียงกันก่อนดีกว่า”


*TBC*


สวีตเนอะะะ แหมๆ คล้องเกียร์ทองจองตัวพี่~

แบบนี้แล้วคืนวันปีใหม่จะป่วนกันขนาดไหนน้อออ อิอิ รอต่อไปอีกตอนละกังงงง 555555

ขออำพัยที่เอามาลงช้านะคะ ฮัสกี้หนีเที่ยว  :-[

ตอนแรกนึกว่าจะลงได้ระหว่างเที่ยว แต่ขึ้นเขาทุกวัน เหนื่อยมาก แหะๆ

แต่ก็เอามาลงยาวๆ ให้ฟินๆ เลยน้าาาา ขอบคุณทุกคนที่รอและติดตามค่ะ ชุ้ฟๆ




ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
อูยย ห้องสวีตเลยน้าา จะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าบรรยากาศก็เป็นใจออก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ว้าวววววววววว  ...Husky โพสต์ปุ๊บ...รีบเข้ามาอ่านเลย


ตอนนี้  ฟินกับ ความหวาน ของ พี่วิน น้องพิงค์ จริงๆๆๆ :o8:
 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven


แก๊งค์ เพื่อนๆๆ สี่หนุ่ม ก้อส่งเสริมกันได้ดี  เมาจนเช้า  ดีที่ไม่ลากยาวยันปีใหม่

ตัดฉากไปที่ โรงแรม  จูงกันเข้าห้องฮันนีมูนสวีต.

 ในห้อง มี อ่าง jacuzzi แล้วตัดจบเนี่ย....แปลว่าอะไร 


ขัดใจๆๆๆ husky จังเลย :hao3:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ห้องฮันนี่มูนสวีตด้วย แอร๊ยยยยยย :haun4:

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ได้เกียร์แล้วโว๊ย

จากนี้ก็ฟันเฟืองต่ออ่ะเนาะ :hao7:

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ห้องและบรรยากาศเป็นใจขนาดนี้ ไม่ต้องรอถึงวาเลนไทน์หรอก จัดเลยพิงค์ พี่หมอเค้าเตรียมตัว เตรียมใจมานานแล้ว

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หมั่นไส้คู่นี้จริงๆ :hao3:

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
กว่าจะเสียตัว
ต้องรอวาเลนไทม์เลยหรอ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ห้องเป็นใจ จัดกันไปเลย  :hao6:

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
หวั่นๆว่าน้องพิงค์จะเสียตัว 555  :hao6:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ไหนๆก็ไก้ห้องนี้แล้วอาบไปด้วยกันเลยจ้าาา

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กรีดร้องงงงงน้องพิงค์จะเสียตัวให้พี่หมอรึปล่าวน๊า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

นุ้งพิงค์จะปรึกษาแซนดี้เรื่องบนเตียง

เอ...หรือนุ้งพิงค์เตรียมตัวเป็นรับเหรอ?

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อะจ๊ากกกกก......... :hao6:
ห้องพิเศษ....พิเศษจริงๆ   :katai2-1:
้เป็นห้องฮันนีมูนสวีต......  :impress2:
ก็...ฮันนีมูนกัน ให้สมกับชื่อห้องซะเลย คนอ่านรอนานละ   :z3:
ไหนๆ ก็เกียร์อยู้ที่วิน  ก็กินกันซะเลย   :z1: :pighaun: :haun4:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :serius2:  รอพิงค์รุกอยู่น้าาาาา

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เหนื่อยแทนพี่วิน อ้อยจนไม่รึ้จะอ้อยยังไง นู๋พิงค์ก็ไม่กล้าสักที
ได้ห้องฮันนีมูนขนาดนี้จัดไปหาให้เสียค่าห้องเปล่าๆนะ :z1:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
แหมมมมมมมม ห้องน้ำเป็นใจจริงๆ
ใครจะอ่อยก่อนเนี่ย

ออฟไลน์ Panamapaper

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :z3: เจิมก่อนอ่าน  :hao3:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ไหนๆ ก็ได้มาอยู่ห้องสวีทแล้วก็อย่าให้มันเสียบรรยากาศค่ะ จัดไปเลยค่ะ  :hao6:

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
จองตัวแล้ว  กินโต๊ะจีนแล้ว  ไปฮันนีมูนแล้ว   ต่อไปก็รอคืนเข้าหอสินะ   :m32: :m32: :m32:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
จองห้องได้สมกับเป็นพี่วินเลย ห้องฮันนี่มูนสวีท 55555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด