ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]  (อ่าน 613998 ครั้ง)

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
ตลกความคีพลุคใส ๆ ของพี่วิน ทั้ง ๆ ที่รู้สึกว่ามีความต้องการสูงไม่แพ้พิงค์เลย  :laugh:  เปิดอกคุยกันเรื่องนี้อีกทีคงไม่ได้เห็นทะเล เห็นเดือน เห็นตะวัน  :-[   รอพิงค์สร้างความมั่นใจให้พี่หมออยู่นะคะ


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
อนาถแท้น้องพิงค์ แกล้งหลับหนีเฉย  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ tomnub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
หมอวินก็ ครบกันวันเดียวก็จะ จึกกะดึยกันแล้วหรอ ใจเย็นๆก่อน

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ตลกพี่วินพยายามหาทางให้ตัวเองไม่เชี่ยว  :hao7:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ค่อยๆ ปรับกันไปนะครับทั้งคู่ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ถึงมีอุปสรรคก็ขอให้จับมือกันผ่านไปนะครับ

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
ใครรุก!!

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ลุคพิงค์นี่ไม่น่าไก่อ่อนขนาดนี้55555 เก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้พี่วิน พี่วินรุกเองเลยอย่ารอพิงค์ไม่งั้นอาจมีแกล้งหลับบ่อยๆ คร่อกกกกก :laugh:

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เอ็นดูน้องพิงค์น้องยังใสๆในเรื่องความรัก

ออฟไลน์ kiszy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คนแต่งยังตัดสินใจเรื่องตำแหน่งไม่ได้ใช่ไหม พี่วินถึงไม่โดนกินสักทีเนี่ยะ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น้องพิงค์ลูก ทำไมใสขนาดเน้

ออฟไลน์ Killian

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
    • Killian
อ้านรวดเดียวจนทันตอนล่าสุด ชอบมาก ขอบอกว่ายิ้มกริ่มตลอดเรื่องเลย รักคนเขียนที่สุดดดดดด

ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอ5วันแล้ว :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4
Chapter 41 : ดูปลา ดูทะเล


หลังจากกลับไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่บ้านและนำของฝากจากบ้านของภูพิงค์ไปให้ที่บ้านแล้ว สองหนุ่มก็เดินทางกันต่อไปยังเมืองพัทยา ระหว่างทางที่ขับรถไปรวินท์ไม่ได้พูดอะไรมากนัก เขาเปิดเพลงคลอไว้แผ่วๆ ส่วนคนที่นั่งข้างกันก็หันมองออกไปทางหน้าต่าง

“จะเที่ยงแล้วอะพี่วิน หิวยัง”

“อือ นิดหน่อย กินไรดี”

“พี่วินน่าจะเคยมาแถวนี้บ่อย พี่เลือกเลย” เด็กหนุ่มหันไปทางคนขับ ก่อนจะเอื้อมมือไปวางลงบนตักชายหนุ่ม “เมื่อยยังอะ จะให้ผมขับแทนก็บอกนะ”

“ให้คุณขับแล้วจะไปออกเขมรมั้ยอะ”

“โห เนวิเกชั่นก็มี ผมไม่ได้โง่ขนาดนั้นป่ะ”

รวินท์หันไปยิ้มให้เจ้าของมือบนตักตน “ไม่เป็นไร ขับให้แฟนแค่นี้ผมขับได้”

“พี่วินแม่งปากหวานฉิบหาย”

“เอ๊า ไม่ดีเรอะ”

“ไม่ดี”

“ทำไมวะ”

“มันทำให้ผมอยากชิม”

ทันตแพทย์หนุ่มหันขวับไปทางคนอ่อนวัยกว่าอีกรอบ ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง คือถ้าคนพูดพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ ก็คงจะเท่อยู่หรอกนะ แต่พิงค์นี่ หน้าแดงทั้งหน้ายาวไปจนถึงหู อย่างกับเอามะเขือเทศมาตั้งไว้แทนศีรษะอย่างไรอย่างนั้น

“หัวเราะทำไมวะพี่!”

“โทษๆ” รวินท์วางมือซ้อนลงไปบนหลังมือของเด็กหนุ่มพลางบีบเบาๆ “เอาไว้ถึงแล้วจะให้ชิม”

ภูพิงค์มองท่าทางสงบนิ่งของอีกฝ่ายอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย เขาน่ะ นั่งคิดตั้งนานว่าจะหยอดพี่วินอย่างไรดี อยากจะทำให้อีกฝ่ายเขินม้วนต้วนบ้าง

ไม่เป็นไร เดี๋ยวคิดมุกใหม่

รวินท์ขับรถต่อไปอีกสักพักก็เลี้ยวเข้าไปจอดหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง “กินก๋วยเตี๋ยวกันเนอะ เจ้านี้อร่อย”

“โอเค”

สองหนุ่มก้าวลงจากรถและเดินเคียงคู่กันเข้าไปในร้าน พอนั่งลงสั่งก๋วยเตี๋ยวแล้วเด็กหนุ่มก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีสายตาของคนหลายๆ คนพุ่งตรงมาที่โต๊ะ แต่มันจะเป็นไปได้เหรอวะ นี่เขาอยู่ไกลจากเชียงใหม่ตั้งหลายร้อยกิโลเมตรเชียวนะเว้ย

ภูพิงค์หันมองไปรอบๆ ช้าๆ “เฮ้ย!” เขาสะดุ้งโหยง เมื่อสายตาไปประสานกับคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเขารู้จักคุ้นเคยหน้าตาดี นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ กันเลย “พวกพี่มาทำห่าอะไรถึงที่นี่วะ!”

“แล้วมึงล่ะมาทำห่า... เอ๊ย... สวัสดีครับพี่หมอ” สมาชิกสโมสรนักศึกษาปีสี่สี่หน่อพร้อมใจกันยกมือไหว้ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็ต้องมีต่าย ตากล้องประจำสโมฯ อยู่ด้วย

“หวัดดีครับ” รวินท์ยิ้มเจื่อนๆ ไม่ใช่อะไร เขากลัวท่าทีของภูพิงค์มากกว่า ต่อหน้าบิดามารดาของเด็กหนุ่มเขาก็โดนปฏิเสธมาแล้ว ถ้าโดนต่อหน้ารุ่นพี่อีก เขาคงเซ็งฉิบหาย

ทั้งสองโต๊ะทักทายกันเสร็จก็นิ่งอึ้ง เด๊ดแอร์เข้าปกคลุมทันควัน ต่างฝ่ายต่างพยายามไม่สบสายตากันอีก

ทันตแพทย์หนุ่มแก้กลุ้มด้วยการหันหน้าหนีไปอีกทางซะ ส่วนภูพิงค์ก็ก้มหน้าหลบสายตาจากโต๊ะข้างๆ

สักพักพนักงานในร้านก็นำก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟให้ สองหนุ่มจึงกินกันไปแบบเกร็งๆ

ไม่รู้รสชาติเลยแม่ง... รวินท์บ่นอยู่ในใจ

คนอ่อนวัยกว่าชำเลืองมองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน เขาไม่อยากให้พี่วินทำสีหน้าลำบากใจแบบนี้เลย เอาจริงๆ ไอ้พวกพี่ๆ ก็รู้งานดี ไม่มีใครเปิดปากแซวอะไรเสียด้วย พอเขาชำเลืองมองไปอีกที พวกพี่ๆ ก็หันไปสนใจกับก๋วยเตี๋ยวตรงหน้ากันแล้ว

“พี่วิน ชอบกินลูกชิ้นมั้ย” ภูพิงค์ตักลูกชิ้นในชามส่งให้

“เดี๋ยวก็ไม่อิ่มหรอก”

“ไม่อิ่มก็สั่งใหม่ได้”

“ผมสั่งเกาเหลามากินแต่ลูกชิ้นก็ได้นะ” รวินท์ชำเลืองมองโต๊ะข้างกันอย่างหวาดๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครใส่ใจ เขาจึงถอนหายใจเบาๆ แล้วตักลูกชิ้นใส่ปาก “ขอบใจ”

สองหนุ่มนั่งกินกันต่อไปเงียบๆ จนหมดชาม เมื่อวางตะเกียบลง ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มแล้วก็อ้ำอึ้งเล็กน้อย

“สั่งอะไรอีกมั้ย”

“เอ่อ แล้วแต่พี่...”

คราวนี้โต๊ะข้างๆ คงอดใจไว้ไม่ไหว พร้อมใจกันหันมาพรึ่บพรั่บ ถ้าเอาหูมาแนบปากสองหนุ่มได้ พวกเขาคงทำกันแล้ว

“เว้ย~ มองอะไรกันนักวะพี่” ภูพิงค์หันไปโวย

“ก็... ก็มองว่าสั่งอะไร อร่อยเหมือนกันมั้ยไง เผื่อจะได้สั่งตาม”

“ผมกับพี่วินสั่งเส้นเล็กต้มยำอะ” เด็กหนุ่มหันกลับไปถามคนที่นั่งตรงข้ามกัน “ของพี่อร่อยป่ะ”

“อือ ก็อร่อยดี”

“อร่อย แค่นี้แหละ เลิกมองได้ยัง” ภูพิงค์หันไปบอกโต๊ะรุ่นพี่อีกรอบ

“มองแค่นี้ก็หวงว่ะ” เสียงบ่นกระปอดกระแปดดังแว่วมาจากกลุ่มรุ่นพี่

“หวงดิ พี่วินไม่ใช่ของสาธารณะนะเว้ย” เด็กหนุ่มตอบกลับไปเสียงเข้ม

รวินท์เงยหน้าขึ้น ดวงตาเบิกกว้าง น้ำเสียงหาเรื่องแบบนั้น เขากลัวว่าพิงค์จะยกชามก๋วยเตี๋ยวเขวี้ยงไปอีกโต๊ะ “ใจเย็นเว้ยพิงค์”

แต่ดูโต๊ะรุ่นพี่จะไม่ยอมถอยกันไปง่ายๆ “ไม่ใช่ของสาธารณะแล้วของใครวะ”

“ของผม!” ภูพิงค์ตอบอย่างชัดเจนก่อนจะลุกขึ้นพรวด พร้อมกับคว้าแขนของทันตแพทย์หนุ่มให้ลุกขึ้นตามมาด้วย “ตอบให้แล้ว เลี้ยงผมกับพี่วินด้วยนะเว้ย”

พวกรุ่นพี่พร้อมใจกันยกนิ้วโป้งให้ “โอ้โหเว้ย! โอเค! พวกกูเลี้ยงเอง!”

“ขอบคุณเว้ยพี่” เด็กหนุ่มผงกศีรษะให้ พลางกึ่งลากกึ่งจูงรวินท์ออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวไป ระหว่างทางที่เดินไปที่รถก็บ่นพึมพำ “รู้งี้แม่งน่าจะสั่งเยอะๆ”

หากพอเดินไปใกล้จะถึงรถจึงสังเกตว่าคนที่เขาจูงมาด้วยนั้นเดินก้มหน้า แถมยังใช้มืออีกข้างบังใบหน้าไว้ด้วย

“พี่วินเป็นอะไร”

“เปล่า”

ภูพิงค์ก้าวเข้าไปขวางหน้าอีกฝ่าย จากนั้นจึงดึงมือที่ปิดบังใบหน้าออก “พี่เป็นอะไร ปิดหน้าทำ...ไม” หัวใจของเด็กหนุ่มไหววูบ เพราะใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงของอีกฝ่าย เขาไม่เคยเห็นพี่วินเป็นแบบนี้มาก่อน หรือว่าที่เขาพูดเมื่อกี้ มันทำให้อีกฝ่าย...

“พี่วิน... เขินเหรอ”

“เปล่าเว้ย” รวินท์ตอบอย่างหงุดหงิดตัวเอง เพราะพอได้ยินเด็กหนุ่มพูดจริงจังแบบนั้นต่อหน้าทุกคน เขาก็ดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ แถมยังเสือกเขินเป็นเด็กประถมริรักไปได้อีกโว้ย ยิ่งคิดใบหน้าก็ยิ่งร้อน เขาอยากจะมุดดินหนีฉิบหาย

เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง เขาเข้าไปสวมกอดทันตแพทย์หนุ่มไว้ทันที

“จะทำอะไรวะ กลางที่จอดรถนะเว้ย!”

“เอ้าๆ ถ้าไม่ให้ผมกอดไว้ เดี๋ยวคนอื่นเห็นหน้าแดงแป๊ดของพี่หมดนะ”

ไอ้เด็กเวร! รวินท์ต่อว่าอยู่ในใจ เขาพยายามสงบจิตสงบใจ ก่อนจะผลักคนอ่อนวัยกว่าออกเบาๆ “พอๆ หน้าไม่แดงแล้ว”

ถึงจะพูดเช่นนั้น หากใบหน้าของรวินท์ก็ยังเป็นสีระเรื่ออยู่นิดหน่อย แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้แกล้งอะไรต่อ เขาจูงมืออีกฝ่ายเดินไปจนถึงรถ ขอรีโมตมากดเปิดล็อกออกแล้วจึงเปิดประตูให้ “พี่นั่งบ้าง ผมขับต่อเอง”

ทันตแพทย์หนุ่มยอมเข้าไปนั่งแต่โดยดี ดีกว่าให้เขายืนหัวโด่ให้ใครต่อใครเห็นล่ะวะ แล้วพอเด็กหนุ่มโน้มใบหน้าเข้ามาหา เขาก็สะดุ้งโหยง “จะทำอะไรอีกวะ!”

“แค่จะรัดเข็มขัดให้เว้ย กลัวอะไรผมวะ”

“ผมไม่ได้กลัวเว้ย”

“ทำหน้าตาตื่น ผมชี้ตั้งทั้งหัวนี่ไม่เรียกกลัวเหรอ”

“ผมตกใจเฉยๆ ก็จู่ๆ คุณก็ยื่นหน้าเข้ามาอะ”

“อ้อ... ขวัญเอ๊ยขวัญมานะ” คนอ่อนวัยกว่ายิ้มมุมปาก พอรัดเข็มขัดให้อีกฝ่ายเสร็จก็เดินวนไปนั่งตรงที่นั่งคนขับ เขาปรับเบาะกับกระจกเล็กน้อย กดเปิดเนวิเกชันซิสเต็มแล้วจึงค่อยๆ เคลื่อนรถออกไป

ภูพิงค์ยิ้มไปพลางฮัมเพลงไปด้วย เป็นผลให้คนที่นั่งอยู่ข้างกันหมั่นไส้

“อารมณ์ดีอะไรนัก”

“ก็ได้เห็นพี่วินเขินไง”

“ผมไม่ได้เขิน”

เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปกุมหลังมือบนตักอีกฝ่าย “เขินก็บอกว่าเขินดิ ผมดีใจนะที่พี่เขิน”

รวินท์ชำเลืองมองไปทางคนที่ขับรถอยู่ เขาเหวี่ยงมือคนอ่อนวัยกว่ากลับคืนไป “ขับรถไปไป๊”

ภูพิงค์หัวเราะไป อมยิ้มไปด้วยอย่างอารมณ์ดี ตอนแรกน่ะ เขานึกว่าจะถูกพี่วินโกรธเอาเสียอีกที่พูดแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น เขากลัวจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัด แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้ามลิบลับเลย พี่วินตอนเขินนี่แม่งโคตรน่ารัก เขาอยากจะจับจูบฟัดรัวๆ ให้หายมันเขี้ยว

เด็กหนุ่มขับรถไปอีกไม่นานก็ถึงจุดหมายตามที่เนวิเกชันซิสเต็มบอก เขาเคลื่อนรถผ่านรูปปั้นโลมาเข้าไปจอดในที่จอดรถ หากยังไม่ดับเครื่อง “ผมจะลงไปซื้อตั๋วก่อน พี่วินรอในรถละกัน”

“ไม่ล่ะ ก็ลงไปด้วยกันดิ จะเดินไปเดินมาทำไม”

“มันร้อน พี่นั่งรอแอร์เย็นๆ ดีกว่า” คนอ่อนวัยกว่าเอื้อมมือไปตบหน้าขาอีกฝ่ายเบาๆ “เดี๋ยวผมมานะ”

ทันตแพทย์หนุ่มอ้ำอึ้ง โดนภูพิงค์เอาใจกันแบบนี้ มันให้ความรู้สึกของการเป็นแฟนกันมากจริงๆ ทำให้เขานึกย้อนกลับไปดูตนเอง เมื่อก่อนเคยทำตัวเป็นสุภาพบุรุษแบบนี้กับคนที่ไปเดตด้วยขนาดนี้หรือเปล่าวะเนี่ย

แต่ที่จริง ภูพิงค์ก็เอาอกเอาใจ ตามใจเขามาตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่เจอกันแล้วนี่นะ มันคงเป็นนิสัยที่ชอบดูแลเทคแคร์คนอื่นของเด็กหนุ่มนั่นล่ะ

รวินท์ชะเง้อมองหาเด็กหนุ่มเป็นระยะๆ ไม่นานอีกฝ่ายก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับมาที่รถ

ภูพิงค์เปิดประตูรถออก “อีกครึ่งชั่วโมงถึงจะมีโชว์ พี่จะนั่งอยู่ในรถก่อน หรือเราจะลงไปเดินเล่นกันดี แต่มันร้อนมากเลยนะพี่”

พอเห็นเด็กหนุ่มเหงื่อผุดขึ้นมาตามกรอบหน้าเต็มไปหมด รวินท์ก็หันไปหยิบกระดาษทิชชูมาซับเหงื่อให้ “ลงไปเดินก็ได้”

“โอเค เดี๋ยวผมดับเครื่องก่อน”

สองหนุ่มเดินเคียงคู่กันเข้าไปในโลมาพาร์คช้าๆ จากนั้นก็ไปนั่งอยู่ที่ตรงที่นั่งรอดูการแสดงของโลมากัน ซึ่งในบริเวณนั้นยังไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่

“เดี๋ยวผมไปซื้อน้ำมาให้ พี่วินนั่งรอก่อนนะ”

“ไม่ต้องก็ได้”

“อากาศร้อนไม่หิวน้ำเหรอ รอแป๊บนึงน่ะ”

คนอ่อนวัยกว่าวิ่งออกไปแล้ว ปล่อยให้ทันตแพทย์หนุ่มนั่งอยู่เพียงลำพัง

ขณะที่นั่งรอไปเพลินๆ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น รวินท์จึงรีบหยิบขึ้นมารับสาย เพราะเครื่องนี้เบอร์ใหม่ คนที่รู้มีเพียงคนในครอบครัวเขา ดังนั้นจึงอาจจะเป็นเรื่องสำคัญ

“ครับพี่วาด”

“วิน เต้โทรมาหาพี่น่ะ”

เพียงแค่ได้ยินชื่อ ใบหน้าของทันตแพทย์หนุ่มก็ถอดสีทันที “แล้ว... แล้วไงครับ”

“เขาถามว่าวินยังอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ รึเปล่า จะอยู่ถึงเมื่อไหร่ เขาติดต่อวินโดยตรงไม่ได้ แล้วก็ฝากบอกว่าเป็นห่วง พี่เลยบอกไปว่ามือถือของวินหาย ตอนนี้วินไม่อยู่ ไปเที่ยวทะเล จะกลับลำพูนอาทิตย์หน้า ยังไงเดี๋ยวจะให้วินโทรกลับไปอีกทีน่ะจ้ะ” หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ “นี่วินไม่ได้ติดต่อไปบอกอะไรเต้เลยเหรอ อย่าปล่อยให้เพื่อนเป็นห่วงสิ”

“อ่า ผมลืมไปเลย ไม่ได้บอกมันไว้ว่าจะกลับเมื่อไหร่น่ะครับ แล้ว...พี่วาดให้เบอร์ใหม่ผมไปรึเปล่า”

“เออ เปล่าจ้ะ พี่ทำคลินิกอยู่ก็เลยลืม รีบคุยไปหน่อย”

“ไม่เป็นไรครับ พี่วาดยังไม่ต้องบอกเบอร์ใหม่นี้กับใครนะครับ เพราะผมอาจจะใช้แค่ชั่วคราว ส่วนเรื่องไอ้เต้เดี๋ยวผมจัดการเองนะ ขอบคุณที่โทรมาบอกครับ” เมื่อกดวางสายไป รวินท์ก็ยังคงถือโทรศัพท์ค้างไว้ในมือ เขาทำหน้านิ่ง คิ้วขมวดมุ่นอย่างครุ่นคิด
อันที่จริงก็ยังไม่ได้คิดไว้เลยว่าเขาควรจะพูดอะไรบ้างเมื่อถึงเวลาที่จะต้องเผชิญหน้ากับไอ้เต้

แม่งเอ๊ย...รู้สึกดีได้ไม่ทันไรเลย จะให้กูมีความสุขโดยไม่ต้องนึกถึงมึงสักพักไม่ได้เลยเหรอวะ!

เมื่อภูพิงค์เดินกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำสองใบในมือ เขาเห็นอีกฝ่ายทำหน้าแปลกๆ จึงหยุดยืนมอง “พี่วิน” หากเจ้าของชื่อเรียกยังคงนั่งนิ่งทำหน้าขรึม เขารู้ได้ทันทีว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ จึงรีบเดินเข้าไปหา แล้วโน้มใบหน้าเข้าไปเรียกข้างๆ หู “พี่วิน พี่วินโว้ย!”

รวินท์หันขวับ “เย้ย เรียกดีๆ ก็ได้มั้ยวะ”

“ใครโทรมา” เด็กหนุ่มส่งแก้วน้ำให้พลางนั่งลงข้างกัน

“พี่วาด”

“ทำหน้าเหมือนโดนผีหลอกแบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องดีแหง”

ทันตแพทย์หนุ่มไม่พูดอะไร เขายกแก้วน้ำขึ้นดื่ม จากนั้นจึงยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลา “โชว์กี่โมงนะ”

“อีกสิบนาที” ภูพิงค์ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาคิดว่าจะเก็บไว้ถามทีหลัง เพราะอยากให้อีกฝ่ายสนุกกับการแสดงมากกว่า และที่จริงก็เดาไม่ได้ยากอะไรนัก ตอนนี้เรื่องเดียวที่จะทำให้พี่วินกลุ้มใจได้ ก็คงไม่พ้นเรื่องไอ้พี่เต้นั่นล่ะ

เด็กหนุ่มกลอกตาไปมา ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปหาอีกฝ่าย “พี่ว่า... โลมาที่นี่จะเคยกุดหัวปลามาทำจิ๋มกระป๋องเล่นมะ”

รวินท์แทบจะสำลักน้ำที่กำลังดื่มอยู่ “โห ไม่มีไรจะถามแล้วเนอะ”

“นึกถึงโลมาทีไร ก็นึกถึงคลิปที่พี่ให้ดูทุกทีเลยว่ะ นี่ถ้าผมไม่เอนจอยกับโลมานะ ต้องโทษพี่เลยแม่ง ทำให้ความอินโนเซนต์สมัยเด็กของผมแปดเปื้อน”

“โทษทีเว้ย ใครจะไปนึกว่าคุณจะจำแม่นโคตร โดยเฉพาะไอ้เรื่องจิ๋มกระป๋องนั่น”

“ก็ผมความจำดีอะ ช่วยไม่ได้” เด็กหนุ่มยิ้มกริ่ม “แต่พี่ทำผมแปดเปื้อนแล้วต้องรับผิดชอบด้วยนะ”

รวินท์กระตุกยิ้มมุมปาก “จะให้รับผิดชอบยังไงล่ะ” พลางขยับเข้าไปกระซิบชิดใบหูเด็กหนุ่ม “ทำให้เปื้อนมากกว่าเดิมอีกดีมั้ย”

ภูพิงค์ชะงัก เห็นแววแพ้อยู่รำไร ทำไมตอนนั้นไอ้พี่วินเขินเขาได้วะ แล้วทำไมตอนนี้เขาดูท่าจะแพ้หลุดลุ่ยแบบนี้โว้ย

หากก็ทำใจดีสู้เสือไป “เปื้อนยังไงอะ”

“อยากลองจริงเหรอ”

คนที่ทั้งอ่อนวัยและประสบการณ์กว่าเหงื่อตก

ไอ้พี่วิน... ทำไมต้องทำเสียงแหบเซ็กซี่แบบนี้ใส่เขาด้วยวะ

แต่เขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอกเว้ย

“อยากดิ อยากให้พี่วินทำเปื้อน...” ภูพิงค์สะดุ้งโหยง “ไอ้พี่วิน!” ก็เพราะเจ้าของชื่อเรียกนั้นดูดน้ำในแก้วขึ้นมาพ่นใส่เขาน่ะสิ!

รวินท์หัวเราะร่วน ดูท่าจะสะใจเอามากๆ “เอ๊า ก็เมื่อกี้เพิ่งพูดว่าอยากเปื้อนเองนี่หว่า”

“ฝากไว้ก่อนเลย”

“ไม่รับเว้ย”

ทว่าเมื่อเห็นทันตแพทย์หนุ่มกลับมาอารมณ์ดีอีกครั้งได้ ถึงครั้งนี้เขาจะแพ้ลุ่ย ก็ถือว่าโอเคแหละวะ

ภูพิงค์ดึงชายเสื้ออีกฝ่ายมาเช็ดตรงที่เปียกน้ำ “ทำผมเลอะเทอะหมด”

“คุณนี่มันกวนจริงๆ ว่ะ”

“กับพี่วินโดยเฉพาะเลยแหละ”

“โห รู้สึกพิเศษเว่อร์”

ขณะที่แซะกันไป ผู้คนก็ทยอยกันเข้ามานั่งรอดูการแสดงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สองหนุ่มไม่อาจเล่นกันเสียงดังแบบเมื่อครู่ได้ และเมื่อมีคนเข้ามามากขึ้น สายตาที่พุ่งตรงมายังพวกเขาก็เพิ่มมากขึ้นไปด้วยเช่นกัน สองหนุ่มจึงสงบปากสงบคำลงไปบ้าง

ในที่สุดเสียงเพลงก็เริ่มขึ้นแล้ว โลมาหลายตัวและครูฝึกออกมาโชว์การแสดงที่เตรียมไว้กันอย่างเต็มที่ ทั้งสองคนจึงหันไปดูการแสดงกัน

หากรวินท์ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองดูว่าเด็กหนุ่มสนุกกับการแสดงหรือไม่เป็นระยะๆ พอเห็นว่าคนอ่อนวัยกว่าดูโชว์ไปยิ้มไป เขาก็ยิ้มออกมาได้บ้าง

ภูพิงค์เองก็คอยชำเลืองมองอีกฝ่าย พอเห็นท่าทางของพี่วินแล้ว เขาก็รับรู้ได้ล่ะ ว่าพี่วินตั้งใจจะพาเขามาที่นี่อย่างที่พูดไว้จริงๆ ทั้งที่ตอนที่พวกเขาคุยกันเรื่องทะเลกับโลมาน่ะ มันก็สักพักละนะ แต่คนที่ไม่ได้ใส่ใจอะไรอย่างพี่วินกลับจำมันได้

ปลื้มเลยแฮะ... พี่วินแม่งน่ารักอีกละ

เด็กหนุ่มรอจนการแสดงจบลง เขาจึงค่อยๆ เคลื่อนมือไปจับมือรวินท์ไว้ จากนั้นก็ลุกขึ้นพร้อมคนอื่นๆ แล้วจูงมืออีกฝ่ายเดินออกไปจากบริเวณเก้าอี้นั่ง

“ไม่อายเขาบ้างรึไงวะ”

พอเดินคู่กันได้ ภูพิงค์ก็เปลี่ยนจากจับมือไปโอบเอวไว้แทน “แบบนี้ก็ได้ พี่จะได้ไม่อาย”

“ผมไม่ได้อายเว้ย” ปากพูดไปแบบนั้น แต่แก้มซับสีเลือด เขายังไม่ชินกับการที่ถูกภูพิงค์ปฏิบัติตัวแบบ แฟน ในที่สาธารณะนี่หว่า เพราะตามปกติแล้วมันควรจะเป็นหน้าที่ของเขามากกว่าด้วย

“ไม่อายก็อย่าหน้าแดงดิ”

“แดดมันร้อน”

“อ่ออออ...”

รวินท์เบือนหน้าหนี “เดี๋ยวไปไหนต่อดีอะ”

“แวะซื้ออะไรไว้กินมื้อเย็นแล้วไปคอนโดฯ พี่กัน จะได้ไม่ร้อน ไม่ต้องออกมาหาของกินอีกรอบให้เหนื่อยด้วย”

“อือ ก็ดี”

หลังจากแวะร้านอาหาร ซื้อมื้อเย็นแพ็กใส่กล่องแล้ว ภูพิงค์จึงขับรถไปที่คอนโดมิเนียมของทันตแพทย์หนุ่มตามที่อีกฝ่ายบอกทาง ไม่นานก็ถึงคอนโดมิเนียมริมหาด ซึ่งละแวกนั้นมีตึกคอนโดมิเนียมตั้งเรียงรายหลายตึก

ห้องพักในคอนโดมิเนียมเป็นแบบสตูดิโอ เปิดประตูห้องเข้าไปก็เจอส่วนที่ทำเป็นครัวเล็กๆ กับโต๊ะกินข้าวก่อน ถัดไปเป็นเคาทน์เตอร์บาร์ มีเก้าอี้เรียงกันห้าตัว ส่วนที่อยู่ด้านในสุดเป็นเตียงนอนกับโซฟาตัวยาว และมีประตูกระจกเลื่อนไว้สำหรับออกไปบนระเบียง เมื่อมองผ่านประตูกระจกออกไปจะเห็นท้องทะเลสีครามกว้างใหญ่

“โห...”

“หยุด!”

“ยังไม่ได้พูดอะไรเลย”

“ผมรู้ว่าคุณจะพูดอะไร”

ภูพิงค์ยิ้มมุมปาก พลางยื่นหน้าเข้าไปถาม “พูดอะไร”

“จะบอกว่าดูดีกว่าห้องผมที่ลำพูนใช่มะ”

“โห พี่... ห้องไหนๆ ก็ดีกว่าห้องพี่ที่ลำพูนทั้งนั้นแหละ”

รวินท์ยกขาถีบไปเบาๆ “อย่างน้อยห้องผมที่ลำพูนก็ใหญ่กว่า มีห้องเป็นสัดส่วนหลายห้องป่ะวะ”

“ครับๆ ถ้าคิดแบบนั้นแล้วสบายใจ ผมก็ไม่อยากขัด”

“คุณนี่มัน...”

“น่ารักใช่มะ”

ทันตแพทย์หนุ่มเบ้ปากใส่ เขาเดินไปหยิบรีโมตมากดเปิดแอร์ทิ้งไว้ จากนั้นก็เดินไปเปิดประตูกระจกเพื่อเดินออกไปยังระเบียง

ภูพิงค์เอาถุงในมือไปวางบนโต๊ะกินข้าว ก่อนจะเดินตามหลังอีกฝ่ายไป


(มีต่อค่ะ)



ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


ที่บนระเบียงมีเตียงพับชายหาดสองตัว รวินท์เอนหลังนอนเล่นบนตัวหนึ่งแล้ว เขากวักมือเรียกเด็กหนุ่ม “มาดิ ปัดฝุ่นให้แล้ว”

คนอ่อนวัยกว่านั่งลงบนเตียงพับข้างกัน “ไม่ร้อนแล้วเหรอ”

“ในห้องเพิ่งเปิดแอร์ ยังไงก็ยังร้อนอยู่ดี”

เด็กหนุ่มเอนหลังพิงพนักบ้าง พลางหันไปทางทันตแพทย์หนุ่ม “พี่วิน ขอบคุณที่พาผมมาทะเลนะ”

“เดี๋ยวแดดร่มแล้วจะพาไปเล่นน้ำ เอามะ ชายหาดหน้าคอนโดฯ นี่เล่นน้ำได้ แต่ห้ามฉุดผมลงน้ำนะเว้ย น้ำทะเลนี่ แสบตาตายห่า”

“เล่นดิพี่ มาทะเลทั้งที แต่แย่จังว่ะ ไม่ได้เตรียมกางเกงว่ายน้ำมาด้วยเลยเนี่ย”

“ขาสั้นก็ได้ป่ะวะ หรือคุณต้องใส่แบบข้างหน้าเป็นลายตาข่าย ข้างหลังเป็นทีแบ็กล่ะ”

“พี่วินแม่งกามว่ะ อยากเห็นขาอ่อนผมอะดิ ”

“อือ อยากเห็น ถ้าผมหัวใจวายก็พาส่งโรงบาลด้วย”

“เป็นลุงไปแล้วเหรอวะพี่” ภูพิงค์หัวเราะร่วน เขาหันไปมองทะเลสักพัก จึงค่อยหันมาถามต่อ “พี่วิน เมื่อบ่ายพี่วาดโทรมาเรื่องอะไร”

รวินท์หันขวับมาประสานสายตากับเด็กหนุ่ม “.....”

“ผมมีสิทธิ์ที่จะรู้นะ เพราะผมเป็นแฟนพี่”

ทันตแพทย์หนุ่มถอนหายใจ “ไอ้เต้มันโทรมาหาพี่วาด ถามว่าผมอยู่ที่บ้านรึเปล่า จะอยู่ถึงเมื่อไหร่ แล้วก็บอกว่าเป็นห่วงผม”

“แล้ว... พี่วาดว่าไง”

“ก็บอกว่าผมไม่อยู่บ้าน จะกลับลำพูนอาทิตย์หน้า แต่ไม่ได้ให้เบอร์ใหม่ไป”

“อืม” คนอ่อนวัยกว่าพยักหน้าหงึกหงัก หากสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

รวินท์เอื้อมมือไปจับท่อนแขนเด็กหนุ่ม “ยังไม่ต้องคิดเรื่องของมันให้ปวดหัวหรอก... ดูโลมาสนุกป่ะวะ”

“หนุกดิ มากับพี่วินอะ ไปดูแหย่หอยหลอดผมยังว่าหนุกเลย”

“ขนาดนั้นเลย” ทันตแพทย์หนุ่มอมยิ้ม “งั้นเอาไว้คราวหน้าจะพาไปแหย่นะ”

“นั่นไม่ใช่ประเด็นป่ะวะพี่” ภูพิงค์ส่ายหน้าไปมา “ที่จริง...ผมโคตรดีใจ ที่พี่จำเรื่องที่เราเคยคุยกันได้”

“จำได้ดิ เรื่องของคุณ ผมจำได้หมดแหละ”

“จริงอะ”

รวินท์กระดิกนิ้วเรียกให้เด็กหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าไปหา ขณะเดียวกันก็ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบ “เรื่องที่คุณยังซิง ผมก็จำได้นะ”

“เย้ย ไอ้พี่วิน!” ใบหน้าของคนอ่อนวัยกว่าซับสีเลือดทันควัน “บางเรื่องลืมๆ ไปบ้างก็ได้โว้ย”

พอเห็นท่าทางของเด็กหนุ่ม รวินท์ก็หลุดหัวเราะเสียงดัง เขาเอื้อมมือไปหยิกแก้มเด็กหนุ่มเบาๆ “น่ารักฉิบหาย”

ภูพิงค์คว้ามือนั้นไว้ พร้อมกับดึงอีกฝ่ายเข้ามาแนบจูบ เขาค่อยๆ บดเบียดริมฝีปากเข้าหาอย่างอ่อนโยน ใช้ปลายลิ้นไล้วนไปในโพรงปากอุ่น เกี่ยวกระหวัดอีกลิ้นหนึ่งช้าๆ ก่อนจะถอนเรียวปากออก “แต่ผมว่าพี่น่ารักกว่า ยิ่งตอนเขินหน้าแดงวันนี้นะ อื้อหือ...”
สองหนุ่มประสานสายตากันนิ่ง ถ้าหากเห็นประกายไฟได้ ก็คงจะเห็นว่ามันกำลังลั่นเปรี๊ยะๆ ไม่มีใครยอมแพ้ใครง่ายๆ

แต่โชคดีที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นระฆังคั่นระหว่างยกเสียก่อน

คนอ่อนวัยกว่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู “เดี๋ยวผมมาเถียงกับพี่ต่อ” เขาคาดโทษกับอีกฝ่าย ก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับเข้าไปในห้อง พร้อมกับกดรับสาย “ว่าไงวะ”

“แดกก๋วยเตี๋ยวที่พัทยาอร่อยป่ะวะ”

ภูพิงค์เบิกตาโพลง “สัส! พวกมึงรู้จากหน๊าย!”

เสียงหัวเราะจากปลายสายดังลั่น “พี่ต่ายโพสต์รูปในเฟซเว้ย”

“โพสต์รูปกูกับพี่วินเรอะ!”

“เปล่า โพสต์รูปโต๊ะเขา แต่มีมึงกับพี่หมอติดมาด้วย”

“สัส! พี่ต่ายแม่งจงใจแน่ๆ แม่ง แบบนี้เปิดเทอมไปกูกับพี่วินต้องรับงานใหญ่อีกหลายงานแหง”

“มึงยังมีเวลาเตรียมใจกับพี่วินอีกนานแหละ แต่เอาเรื่องนี้ก่อน ไอ้ดิวมันส่งรูปไปให้มึงละ ดูดิ๊ ใคร คุ้นมะ”

เด็กหนุ่มลดโทรศัพท์ในมือลงมากดดูรูป ในภาพนั้นเป็นภาพของเตชิตกับผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนคุยกัน สีหน้าท่าทางเคร่งเครียด เขายกโทรศัพท์ขึ้นคุยต่อทันที “ผู้หญิงคนนี้ชื่อคุณออย กูเคยเจออยู่กับพี่วินเว้ย”

“คุยกันหน้าเครียดมากเลยมึง ดูเหมือนจะทะเลาะกันเลยว่ะ ไม่ใช่แฟนพี่หมอเต้ใช่เปล่าวะ”

“ไม่ใช่เว้ย แต่คนอย่างพี่เต้ ทะเลาะกับใครๆ ที่วนเวียนอยู่รอบๆ ตัวพี่วินนี่กูก็ไม่แปลกใจเลย” ภูพิงค์ส่ายหน้าไปมา “ว่าแต่มึงเจอเขาสองคนที่ไหนวะ”

“โรงแรมว่ะ พวกกูมารับจ๊อบที่นี่พอดี แล้วพี่หมอเป็นไงบ้างวะ ดีขึ้นมั้ยอะ”

“ดีขึ้นสิวะ กูเฝ้าแทบจะยีบสี่ชั่วโมงแล้ว ทั้งตอนกินตอนนอน”

“น้อยๆ หน่อยสัส พอๆ พวกกูไม่ถามละ แค่นี้แหละ”

ภูพิงค์กดวางสายไป เขาหันมองออกไปทางบานประตูที่ยังคงปิดสนิท ก่อนจะถอยไปนั่งลงบนเตียงอย่างครุ่นคิด

ไอ้พี่เต้มีแผนอะไรอีกหรือเปล่าวะ ไปเจอกับคุณออยที่โรงแรมทำไม แม่ง... เป็นเพื่อนสนิทพี่วินนะ เป็นคนที่พี่วินไว้ใจแท้ๆ คนที่บอกว่ารักกัน จะคิดทำร้ายกันได้เรื่อยๆ เลยเหรอวะ แค่วางยากับเกือบจะขืนใจนี่แม่งก็แรงมากแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เขาอยากจะไปกระทืบไอ้พี่เต้แม่งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

ใจเขาอยากจะกลับเชียงใหม่แล้ว ใจร้อนอยากเจอหน้าไอ้พี่เต้ แต่บางทีไปถึงที่นั่นช้าสักหน่อยอาจจะดีกว่า ให้จิตใจพี่วินแข็งแรงขึ้นอีกสักนิด ถึงต่อหน้าจะทำเหมือนไม่คิดอะไรมากแล้ว ทว่านี่ก็เป็นนิสัยหนึ่งของพี่วิน บางครั้งบางเรื่องก็เก็บความรู้สึกโคตรเก่ง

“คิดอะไรอยู่วะ ทำหน้าเหมือนขี้ไม่ออก”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นพรวด “โห ทักซะ”

“ใครโทรมา”

“พวกไอ้ซันน่ะพี่”

“แล้วทำไมต้องทำหน้าเครียดด้วยวะ” รวินท์เดินเข้ามานั่งลงข้างคนที่นั่งอยู่ก่อน “มีไรเหรอ”

“อ่อ คุยกันเรื่องคะแนนสอบนิดหน่อยอะ” ภูพิงค์โกหกไป เพราะเขาคิดว่ารวินท์ยังไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ตอนนี้ เดี๋ยวจะคิดมากไปเสียเปล่าๆ ยังไม่รู้แน่ชัดสักหน่อยว่าไอ้พี่เต้ไปพบคุณออยทำไม

“ออกแล้วเหรอ เร็วจัง”

“เปล่าพี่ พวกมันแค่บอกว่าเจออาจารย์ แล้วอาจารย์ทำหน้าเครียดใส่ บอกเท่าที่ตรวจไปคะแนนไม่ค่อยดีกัน” ภูพิงค์เอื้อมมือไปตบๆ ลงบนตักอีกฝ่าย “แต่ไม่ต้องห่วงนะ ผมว่าผมทำได้อ่ะ”

“ทำหน้าเครียดขนาดนี้ ไม่ห่วงได้ไงวะ” ทันตแพทย์หนุ่มเอานิ้วจิ้มหน้าผากคนอ่อนวัยกว่าเบาๆ

“แหม เขาเรียกอาฟเตอร์ช็อกหลังสอบเว้ยพี่ ไม่เคยเป็นเหรอวะ หรือนานจนลืมอะ”

“อือ...” รวินท์เท้าแขนลงบนเตียงพร้อมกับเอนตัวไปทางด้านหลังเล็กน้อย “จำได้แต่ตอนที่โดนอาจารย์ว่าต่อหน้าคนไข้ เวลาทำฟันไม่ดีพอ”

“โดนว่าต่อหน้าคนไข้เลยเรอะ โหดว่ะ”

“โหดฉิบหาย อายด้วย เสียงอาจารย์ดังไปทั้งห้อง มีกี่คนได้ยินหมดอะ” ทันตแพทย์หนุ่มเล่าไปหัวเราะไป “แต่ผมว่าก็ดีเหมือนกันนะ ทุกวันนี้เวลาทำฟันให้คนไข้ ผมก็จะนึกถึงเสียงจารย์ แล้วก็คอยระวังตรงจุดที่เคยโดนว่าบ่อยๆ”

“ทำไมพี่วินถึงเลือกเรียนหมอฟันอะ”

“ผมเลือกหมอฟันทุกอันดับเลยนะ แบบ... มันคงอยู่ในสายเลือดมั้ง ก็บ้านผมเป็นหมอฟันกันหมดเลยนี่หว่า”

ภูพิงค์เลิกคิ้วขึ้น “ฮะ!? ทั้งบ้านเลยเหรอ”

“เออดิ ทั้งพ่อแม่พี่วิวพี่วาด ตอนนี้ทำรพ. กับคลินิกของที่บ้านด้วยกัน”

“เย้ย~ บ้านพี่วินแม่งน่ากลัวโคตร” ไม่ใช่น่ากลัวเพราะความเก่งนะ แต่เพราะเป็นทันตแพทย์ทั้งบ้านนี่แหละ! โชคดีที่เขารอดมาได้!

รวินท์ดีดหน้าผากเด็กหนุ่มไปอีกที “ทำท่าเหมือนไปเจอผีมา ก็ไปค้างบ้านผมมาแล้ว ไม่ได้โดนจับเลาะฟันหมดปากสักหน่อยนี่”

“ผมนี่โคตรโชคดี กลัวหมอฟันแต่ได้แฟนเป็นหมอฟัน แถมทั้งบ้านเป็นหมอฟันอีก! ยิ่งกว่าแจ็กพ็อตแตก!” คนอ่อนวัยกว่าส่ายหน้าไปมา แล้วเอนหลังนอนลงไปบนเตียง

ทันตแพทย์หนุ่มชำเลืองมองไปทางคนข้างกัน พลางคิดลังเลอยู่ในใจ เขาจะหันไปคร่อมเลยดีไหม หรือควรจะทำเฉยๆ รอให้ภูพิงค์เป็นฝ่ายเริ่มก่อน

คนเป็นแฟนกัน ก็อยากสวีต อยากกอดจูบใกล้ชิดกันหรือเปล่าวะ ถ้าเขาเป็นคนเริ่มก็ไม่น่าจะมีปัญหาไหม แต่เขาก็ไม่อยากโดนว่าเชี่ยวอีกนะ อีกอย่างถ้าโดนปฏิเสธ เขาคงเสียเซลฟ์ฉิบหาย

หากเมื่อคิดไปคิดมา ประกอบกับนิสัยของเด็กหนุ่ม เขาก็คงต้องทำใจ

รวินท์เอนหลังลงนอนข้างกันแบบเซ็งๆ เขาเองก็เป็นผู้ชาย ไม่รู้จะทำยังไงให้ภูพิงค์รู้สึกอยากเข้าใกล้อยากนัวเนีย จะอ่อยเหมือนที่เคยทำมาตลอดก็ไม่รู้จะได้ผลกับอีกฝ่ายบ้างหรือเปล่า น่าอนาถชะมัด


เรื่องนี้มันน่ากลุ้มใจยิ่งกว่าเรื่องของไอ้เต้เสียอีก!


*TBC*


สวีตเบาๆ พอให้เหม็นฟามร้ากกนะคะ เดี๋ยวตอนหน้าจะเหม็นกว่านี้อีกนิดหน่อย เกียมหาอะไรมาอุดจมูกกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พี่วินจะน้ำแห้งไปก่อนมั้ย โปรดติดตามค่ะ 5555555

มีหมอเต้โผล่มานิดๆ พอให้หายคิดถึงด้วยนะคะ แต่ไม่ต้องห่วงน้า หมอเต้ไม่มาทำอะไรฟามรักคู่นี้แน่ๆ ค่ะ 5555555

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2

ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :L2: :L2: มาต่อไว้ๆๆน่ะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
โอ้ยยย โลกกลมเนอะหนีจากเชียงใหม่ มาพัทยา
ยังมาป๊ะกับทีมสโมได้เนอะ555

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สงสารหมอวินท์ได้แฟนใสซื่อแต่น่ารักนะคะสู้ๆค่ะหมอวินท์ :z2:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
งุ้ยยยย หยอดกันไปมา คนอ่านเขินตามแล้ววค่าาาา :-[

แต่ๆๆๆๆๆๆๆ
 :z3:

มันจะเขินจะฟินไม่สุดก็ตรงมีเรื่องอิหมอเต้นี่แหล่ะ นางยังจะวางแผนอะไรอีก คนรักกันเค้าไม่ทำกับแบบนี้เน้อ แบบนี้แค่คำว่าเพื่อนก็ไม่ควรจะได้ด้วยซ้ำ เกลียดนางงงง :katai1: :katai1:

ขอโวยวายยยยค่ะ กลัวเค้าไม่ได้กัน 555+  :laugh:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไรท์ บอกตอนหน้าจะเหม็นความรักกว่านี้   ชอบบบบบบบบบบบบ   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

โลกกลมจริงๆคนเชียงใหม่สองกลุ่มมาเจอกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวโดยมิได้นัดหมาย

หมอวิน คิดมากเรื่องแสดงความรักกับพิงค์
รู้สึกอย่างไร ก็ทำไปอย่างนั้น เชียร์ๆนะ   :o8:  :-[  :impress2:
พิงค์ วิน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :call:  ภาวนาให้พี่หมอใจกล้าหน้าด้านกว่านี้​ น้องพิงค์ไม่ยอมรุก​ พี่หมอรุกก่อนเลย5555

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
มาจนถึงตอนนี้ ใครจะกดใครก็ยังน่าสงสัยอยู่ พี่วินอดทนรอพิงค์รุกไม่ไหวได้กดพิงค์ก่อนแน่ แต่เราอยู่ทีมพิงค์วิน เพราะงั้นพี่หมออดทนไว้นะ

ออฟไลน์ ก้มหน้าก้มตา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ใช่ๆๆหมอวิน
เรื่องน่ากล้มใจคือเรื่องน้องภูพิงนี้แหละอันดับต้นๆเลย

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เอาน่าพี่วินใจเย็นๆนะเด็กมันใสๆ5555

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เอาน่าพี่วินใจเย็นๆนะเด็กมันใสๆ5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด