ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]  (อ่าน 613979 ครั้ง)

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ซันจ๋าเตียงที่เสียสละนะเค้้าไม่สนค่ะเค้าชอบนอนเบียดๆกันค่ะ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
พิงค์งอนมากสุดก้ไก้แค่นี้แหละลูกเอ้ยยย
ใจอ่อนไปหมดเลย นี่ใจอยากให้งอนพี่หมออีกเยอะๆ
นี่มาสายเนียนชัดๆ ง้อย้องอีกเดี๋ยวนี้เลยพี่วิน
ทำน้องเสียใจ ปวดใจไปตั้งนาน ไม่รีบมาง้อด้วย
เยี่ยต้องง้อนานๆเลย ถ้าเราเป็นพิงค์คือยังไงก้ถอยแล้วอะ เจองั้น
พี่หใอต้องรุกจีบจริงๆแล้ว ไม่งั้นต่างคนต่างถอยแน่ๆอะ

ออฟไลน์ kingkongkaew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ่านมาจนถึงตอนนี้ ใจเชียร์ วินพิงค์ มาตั้งแต่แรก แต่บางตอนก็สงสัยว่าเดี๋ยวจะกลายเป็น พิงค์วิน หรือเปล่า รอลุ้นต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อ่าววว พี่หมออออออ ไหงถอยง่ายจังเหวยยยย

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พี่วินง้อต่ออีกหน่อย ไหนๆก็ไปนอนเบียดกันแล้ว
อย่าเพิ่งคิดไปเองกันนะ

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อ่อยเบอร์แรงมากพี่หมอวินนนนนนนนนน รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ววว

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :z3: :z3: :z3: ถถถถถถถ.....อุตส่าห์นอนเตียงเดียวกันแท้ๆ  :hao3:
ยังมีดราม่าต่อซะอีก  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
พิงค์ ก็แสลงใจ ไม่อยากฟังเรื่องหญิง
ี่วิน ก็คิดว่าพิงค์ไม่ชอบผู้ชาย คงไม่ชอบตัวเอง  :ling1: :ling1: :ling1:
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
พี่หมอ อย่าเพิ่งถอย  :hao5:

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
โอ้ยยย พี่วินตื่นหน่อยค่ะ น้องพิงค์คิดมากกว่าคำว่าเพื่อนนะคะ บอกไว้เลย :katai1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พี่หมอง้อน้องพิงค์เยอะๆหน่อยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ peach_p

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
แงงงพี่วินมีความตัดพ้ออ่ะ เป็นกำลังใจให้พี่วินนะคะ สู้! ส่วนน้องพิงค์ก็สู้ๆหายจากการไปผ่าฝันมาเนอะเห็นละสงสาร
แต่แบบมีความตัดพ้อในใจกันไปมา ถ้าได้ปลดล็อคคือเกียวฟินเลย5555555

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
รู้ใจตัวเองกันแล้ว เมื่อไหร่จะรู้ใจกันและกันซักที คิดเองเออเองกันอยู่นั่นแหล่ะ

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เล่นตัวมากระวังชวดนะพิงค์ พี่หมอยิ่งฮอตๆ อยู่ด้วย

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ทั้งๆที่ใจตรงกันแล้วแต่ไม่มีใครกล้าพูดออกมาเนี่ย มันน่าตี!!

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
พี่หมอจะจีบน้อง หรือจะยังไงก็รีบบอกน้องไปเลยครับ ไม่อยากให้น้องต้องเศร้า เสียใจ กับพี่หมออีก สงสารน้องมากๆ เลย

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พี่วินมาง้อแล้ว พิงค์ก็งอนเล่นตัวนิดหน่อยพอนะจะได้หวานๆต่อ o18

ออฟไลน์ Khaoggg

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :o8:น่าร๊ากกกกกกกกกกก
เอาใจช่วยพี่หมอน๊าาาาาาาา
อดทนหน่อยน้องพิงค์แค่แอ๊บโกรธเอ๊งงงง 555555

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
โอ๊ย!!! หงุดหงิดจริงๆ

สารภาพรักกันสักทีเถ๊อะ!!!!

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เข้ามาส่องทุกวัน แบบว่าคิดถึงพี่หมอวินกับพิงค์  :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4

Chapter 32 : เพื่อนรัก


ตอนเที่ยงวันภายในร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งไม่ไกลจากโรงพยาบาลลำพูนนัก ทันตแพทย์หนุ่มทั้งสามคนมากินมื้อเที่ยงด้วยกันเช่นเคย สิงหาก้มหน้าก้มตากิน ทว่าไอ้รุ่นน้องสองคนของเขาน่ะสิ นั่งเขี่ยเส้นกันอยู่นั่นล่ะ

สิงหาใช้ข้อศอกสะกิดคนที่นั่งข้างๆ พร้อมกับใช้ขาเขี่ยคนที่นั่งตรงข้ามกัน “เฮ้ย กินไวๆ เดี๋ยวเส้นอืดหมด”

“กินไม่ลงว่ะพี่” รวินท์พูดทั้งยังก้มหน้ามองเส้นก๋วยเตี๋ยวในชาม

“ยัดๆ ลงไปเถอะ ยังต้องใช้แรงทำฟันคนไข้นะเว้ย”

รวินท์ถอนหายใจ เขาพยายามเลี่ยงที่จะไม่สบสายตากับเตชิตซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกันมากนัก หลายสิ่งหลายอย่างทำให้ความรู้สึกอึดอัดระหว่างกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเขาไม่อาจกลับไปทำตัวปกติได้เหมือนก่อน นับจากวันที่ได้พบกับขวัญข้าว เขากับเตชิตก็แทบไม่ได้พูดคุยกันนอกเหนือเวลางานเลย ถึงแม้อีกฝ่ายจะพยายามเข้าหา เอาใจใส่เขาเหมือนเช่นเคยก็ตามที

“ผมไม่ต้องกลับบ้านทุกอาทิตย์แล้วล่ะ ต่อจากนี้ไปคงกลับเดือนละหนสองหน พ่อกับน้องดีขึ้นมากแล้ว”

“เออ ดี วันเสาร์อาทิตย์ไอ้วินมันจะได้พักบ้าง ดูดิ ทำงานจนพักผ่อนไม่พอ เอ๋อแดกเลยเนี่ย”

เจ้าของชื่อเรียกไม่ได้โต้เถียงอะไร เขานั่งละเลียดก๋วยเตี๋ยวในชามต่อไปเรื่อยๆ พลางนึกย้อนกลับไปเมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ เขาลุกออกจากเตียงมาโดยที่ไม่ได้ร่ำลาอะไรเด็กหนุ่ม เพราะเห็นว่ายังหลับอยู่ จนถึงวันนี้ซึ่งก็เป็นวันพฤหัสแล้ว หากพวกเขาก็ไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยอะไรกันอีก เขาส่งข้อความไปถามดูอาการอีกฝ่ายก็ไม่ตอบ ไม่อ่านข้อความของเขาเลยด้วยซ้ำ จะโทรศัพท์ไปถามก็ไม่กล้า เขาไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรหากอีกฝ่ายไม่รับสาย หรือแย่กว่านั้น... อาจจะตัดสายทิ้งไปเลยก็ได้

“เฮ้อ...”

“กลุ้มใจเรื่องอะไรนักวะ ไอ้วิน” เตชิตถามขึ้น

“เปล่า... เปล่าหรอก แค่รู้สึกเหนื่อยๆ” เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับเตชิตแค่แวบเดียวเท่านั้น จากนั้นก็ลุกขึ้น หยิบเงินวางลงบนโต๊ะ “ผมกลับโรงบาลก่อนนะพี่ ไอ้เต้ มึงนั่งเป็นเพื่อนพี่สิงหาก่อนละกัน” แล้วจึงสาวเท้าฉับๆ เดินออกไปตามลำพัง

สิงหามองตามรุ่นน้องไป ก่อนจะหันมาหาคนที่นั่งตรงข้ามกัน “ทะเลาะไรกันวะ”

“เปล่านะพี่”

“หลบตาแบบนี้ทะเลาะกันแหงๆ พวกมึงไปเคลียร์กันให้รู้เรื่องเลยนะ เห็นทำท่าแบบนี้กันมาสักพักละ ไม่อึดอัดกันบ้างเหรอวะ”

“พี่ว่า... ถ้าผมเคลียร์กับมัน มันจะฟังผมเหรอ”

“ไม่ลองก็ไม่รู้นะเว้ย แต่ที่แน่ๆ มึงไม่ควรปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ ยิ่งนานวันไปก็จะยิ่งปรับความเข้าใจกันได้ลำบาก”

เตชิตพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ “ผมจะลองดู”



ในตอนบ่ายของวันเดียวกัน เสียงดังอื้ออึงสะท้อนก้องใต้ตึกวิศวกรรมศาสตร์ เหล่านักศึกษากำลังสุมหัวติวหนังสือกันอย่างหนัก เนื่องจากการสอบไฟนอลที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้านี้แล้ว

ภูพิงค์แยกมานั่งตามลำพังเพราะต้องการใช้สมาธิมากขึ้น เขานั่งแก้โจทย์ไปพักใหญ่ ไอ้ซันเพื่อนรักก็คลานเข้ามานั่งด้วย จากนั้นก็คอยชะเง้อมองวิธีทำกับคำตอบเพื่อเอามาเทียบกันกับของตัวเอง

หลังจากทำแบบฝึกหัดหมดไปหลายชุด ซันก็ยืดแขนออกบิดขี้เกียจ แล้วก็โน้มใบหน้าเข้าไปหาคนที่ก้มหน้าก้มตาทำโจทย์เหมือนจะต้องทำแบบฝึกหัดให้หมดโลกในวันนี้ “ไอ้พิงค์ กูว่าจะบอกมึงตั้งกะเช้าละ หน้ามึงหายบวมไปเยอะแล้วอ่ะ”

“เออ กูรู้”

“วันนี้ตอนบ้วนปากยังมีน้ำไหลออกจมูกป่ะวะ”

“นิดหน่อย”

“เลือดล่ะ”

“ตอนแปรงฟันก็ยังมีบ้างนิดหน่อย”

“ก็ดีขึ้นมากแล้วสิเนอะ”

“เออ”

“แล้วพี่หมอรู้ยัง”

“ไม่รู้ ไม่ได้คุยกัน”

“กูเห็นพี่หมอส่งข้อความมาถามมึง มึงไม่ได้ตอบพี่เขาเหรอ”

ภูพิงค์ชะงักกึก “มึงแอบดูโทรศัพท์กูเหรอ”

“ไม่ได้แอบเว้ย เห็นผ่านๆ แต่พี่เขาอุตส่าห์เป็นห่วงมึงนะ มึงจะไม่บอกความคืบหน้าให้พี่หมอรู้บ้างเหรอวะ”

“เดี๋ยววันเสาร์มีนัดตัดไหม พี่เขาเห็นก็หายห่วงเองแหละ” ภูพิงค์รื้อหาโจทย์ใหม่ขึ้นมาทำต่อ

“สงสารพี่หมอว่ะ” ซันเปรย แต่ก็หยุดไว้แค่นั้น เขาก้มหน้าลงทำแบบฝึกหัดข้อใหม่บ้าง

เด็กหนุ่มชำเลืองมองเพื่อน... สงสารพี่วิน แล้วไม่สงสารกูบ้างเหรอวะ? ทุกวันนี้กูก็ยังไม่รู้จะทำยังไงกับความรู้สึกของกูเลยไอ้เหี้ย


“พิงค์ๆ พิงค์โว้ย”

เจ้าของชื่อเรียกเงยหน้าขึ้น “มีไรวะจิ๊บ”

หญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันถือแผ่นกระดาษที่เย็บติดกันไว้ห้าหกแผ่นตรงเข้ามาหา “แนวโจทย์จากพี่ป๋องเว้ย! อาจารย์คอนเฟิร์มว่าถ้าทำทั้งหมดนี่ได้ ทำข้อสอบได้แน่นอน มึงมาช่วยกูแก้ด่วน!”

จิ๊บแบ่งกระดาษให้เพื่อนหัวกะทิต้นฉบับของภาคอีกสี่คนไปช่วยกันแก้ปัญหา กระดาษแผ่นหนึ่งมีโจทย์สามข้อ แต่ยากบรรลัย ทว่าพวกเขาคือความหวังของภาคในตอนนี้ ทั้งหกคนจึงแบ่งกันไปนั่งเป็นคู่ๆ ช่วยกันเฉลยโจทย์



ฝ่ายรวินท์นั้น เมื่อถึงเวลาเลิกงานก็ตรงกลับไปยังห้องพักทันที เขาเลี่ยงที่จะกลับพร้อมเตชิตทั้งที่เลิกงานพร้อมกัน บางวันก็บอกให้อีกฝ่ายกลับไปก่อนเพราะจะอยู่ทำงานต่อ บางวันก็ชิงกลับก่อนเอง ทำแบบนี้มาเป็นสัปดาห์แล้ว

พอกลับมาถึงห้องได้ก็รู้สึกโล่งใจ เขาเดินตรงเข้าห้องอาบน้ำ ว่าจะอาบน้ำให้สบายใจสักหน่อย ทว่าเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเสียก่อน

เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นว่าเป็นเตชิตเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่ก็กดรับสาย “มีอะไร”

“มีเรื่องจะคุยด้วย ออกมาคุยกันหน่อยได้ป่ะวะ หรือจะให้กูไปหาที่ห้อง”

“คุยโทรศัพท์ไม่ได้รึไงวะ”

“กูอยู่กับคุณออย มีเรื่องสำคัญจะต้องคุยกับมึง”

รวินท์ชะงักเมื่อได้ยินชื่อของหญิงสาว เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่แปลกใจอะไรมากที่ไอ้เต้รู้เรื่องของเขากับเธอ “มึงอยู่ไหน”

“ห้องกู”

“เดี๋ยวกูไปหา”

ทันตแพทย์หนุ่มรีบรุดออกจากห้องไปทันที นอกจากกุญแจห้องแล้วก็ไม่ได้หยิบอะไรติดไปด้วย เมื่อไปถึงห้องของเตชิตก็หยุดเคาะประตู ก่อนจะเปิดเข้าไป

หากเมื่อมองไปภายในห้องกลับไม่เห็นมีใครอยู่ “ไอ้เต้” เขาก้าวเข้าไปช้าๆ จากนั้นบานประตูก็ปิดลงสนิท พร้อมกับเตชิตที่ก้าวเข้ามายืนพิงบานประตูขวางทางเข้าออกไว้

รวินท์หันขวับ “อะไรของมึงวะ แล้วไหนคุณออย”

“ติดใจรึไงวะ”

“เออ มึงอุตส่าห์หามาให้กูทั้งที”

เตชิตกระตุกยิ้ม “รู้ก็ดี กูจะได้ไม่ต้องพูดมาก”

“มึงเป็นคนเรียกพิงค์มาที่นี่ใช่มั้ย”

“ใช่ ก็วันเกิดเพื่อนรักทั้งทีนี่ กูหวังดีหรอกนะ”

รวินท์คว้าคอเสื้ออีกฝ่ายเข้าหาตัว “ไอ้เต้! มึง...”

“ทำไม กูทำให้มึงกับไอ้เด็กพิงค์ผิดใจกันเหรอ? คนรู้จักกันเฉยๆ ไม่น่าผิดใจกันเรื่องแบบนี้ได้นะ”

“สัส” รวินท์เถียงไม่ออก ได้แต่จ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยความขุ่นเคือง

เตชิตดึงมือที่ขยุ้มคอเสื้อของตนเองออก หากยังจับข้อมือนั้นค้างไว้ “ไปนั่งนั่นก่อน กูกับมึงมีเรื่องต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”

รวินท์ไม่อยากคุย แค่มองหน้าคนที่เขาเรียกว่าเพื่อนตรงหน้านี่ยังรู้สึกลำบากใจเลย แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เคลียร์กันสักทีก็คงดีเหมือนกัน เขาพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ กระชากมือตัวเองกลับคืนแล้วเดินไปนั่งลงบนโซฟา

“ได้ข่าวว่ามึงเคลียร์กับขวัญแล้ว”

“อือ”

“ได้เจอคุณโรจน์แล้วด้วย”

“กูมั่นใจว่ามึงไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้จากในเฟซแน่ๆ”

เตชิตเอนหลังพิงพนักโซฟาพลางหันไปทางคนที่นั่งอยู่ข้างกัน “ใช่ กูรู้จากขวัญ แต่ก็หลังจากที่เห็นมึงโพสต์เป็นพระเอกในเฟซน่ะนะ”

“มึงทำให้กูกับขวัญเลิกกัน”

เตชิตหัวเราะ “มึงเมาเหรอ? ถ้ามึงทำตัวดีๆ คิดว่าขวัญจะเลิกกับมึงเหรอวะ”

รวินท์กัดฟันกรอด เขาก็รู้แหละว่าเป็นความผิดของตัวเอง แต่ตอนนี้กำลังพาลโว้ย “ไอ้สัส มึงต้องการอะไรจากกูกันแน่วะ”

“มึงก็น่าจะรู้...” ครั้งนี้เตชิตไม่ยอมให้เพื่อนรักหนีและปฏิเสธได้ เขาคว้าข้อมือของเพื่อนสนิทไว้แล้วยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ “ว่ากูต้องการอะไร”

รวินท์นั่งนิ่ง เขาเองก็รู้อยู่แก่ใจ “....”

“กูรักมึง รักมาก่อนที่มึงจะรู้จักขวัญซะอีก” เตชิตจับมืออีกฝ่ายขึ้นมาจูบ “มึงจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอวะ”

“มึงอยากให้กูพูดว่าอะไร กูก็รักมึงแบบนี้รึไง” รวินท์กระตุกมือกลับคืน “ก็ได้ กูรักมึง ไอ้เต้ แต่กูรักมึงในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง มันไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น”


“อย่างน้อยมึงก็รับรู้ความรู้สึกของกูสักที”


นัยน์ตาของทั้งสองสบกันนิ่ง น้ำเสียงและแววตาของเตชิตแฝงไว้ด้วยความเจ็บปวด เป็นผลให้รวินท์รู้สึกเหมือนมีอะไรจุกอยู่ในลำคอ

“กูเฝ้ารอ อยู่เคียงข้างมึง ดูแลมึงมานาน... แต่มึงก็ไม่เคยสนใจ ไม่เคยหันมองมาที่กูเลย ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วที่มึงมองข้ามกูไปหาคนอื่น”

คำพูดของขวัญข้าวแว่วเข้ามาในความคิดทันที การแอบรักใครสักคน การรวบรวมความกล้าที่จะบอกรัก ขวัญข้าวใช้เวลาเป็นปีกว่าจะบอกรักเขา แล้วไอ้เต้... มันจะต้องอดทนอดกลั้นมากขนาดไหนกันนะ

โดยที่ตลอดเวลาเขาไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของมันเลย

“มึงก็เป็นเพื่อนที่กูรักมากที่สุดไง” น้ำเสียงของรวินท์แหบแห้ง เขารู้สึกเจ็บไปกับอีกฝ่ายด้วย

“แต่กูไม่ได้อยากเป็นเพื่อนมึง”

รวินท์ส่ายหน้าไปมาช้าๆ ดวงตาของเขาร้อนผ่าว “พอเหอะว่ะเต้ มันเป็นไปไม่ได้หรอก”

“ทำไม? เพราะมึงไม่ได้ชอบผู้ชายงั้นเรอะ ถ้างั้นไอ้เด็กพิงค์ล่ะ”

“มึงเลิกเอาพิงค์เข้ามาเกี่ยวได้มั้ยวะ”

เตชิตยิ้มบาง หากมันเป็นรอยยิ้มที่ดูเศร้าสร้อย “แตะไม่ได้... ชอบมันมากเหรอวะ”

“ไอ้เต้ มึงเป็นเพื่อนกู ไม่ว่าจะยังไงกูก็คิดกับมึงแบบอื่นไม่ได้หรอก พอเหอะว่ะ หยุดตรงนี้... ตรงที่มึงกับกูยังมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน”

“มันสายไปแล้วเว้ย” เตชิตดึงอีกฝ่ายเข้าหาตัว รวบกอดไว้แล้วแนบจูบลงไปบนริมฝีปาก

รวินท์เบิกตาโพลง สัมผัสของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วน มันต่างจากของสัมผัสของภูพิงค์มากมาย “สัสเอ๊ย!” เขาผลักตัวเองออกอย่างแรงพร้อมกับลุกขึ้นพรวด จากนั้นจึงง้างหมัดต่อยอีกฝ่ายไปสุดแรง “จูบเมื่อกี้กูจะถือว่าทำบุญ” เขายกมือขึ้นเช็ดริมฝีปาก แล้วพรวดพราดออกจากห้องไป

เตชิตเอนหลังพิงพนักโซฟา ฟังเสียงฝีเท้าห่างออกไปเรื่อยๆ พลางยกแขนขึ้นก่ายหน้าผากและปิดตาลง แล้วนิ่งค้างไว้เช่นนั้น จนกระทั่งได้ยินเสียงบานประตูแง้มออก

“ถ่ายไว้ได้รึเปล่า”

“ได้ค่ะ” หญิงสาวซึ่งยังอยู่ในชุดของพยาบาลเดินมานั่งลงบนเบาะข้างกัน “ออยว่าคุณทำแบบนี้ หมอวินจะยิ่งเกลียดคุณนะคะ”

ทันตแพทย์หนุ่มเม้มปากแน่นพร้อมขมวดคิ้วเป็นปม เขานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดเสียงเบา “ผมไม่สน”

“แต่เขาเป็นคนที่คุณรัก...”

เตชิตดึงโทรศัพท์มือถือจากในมือหญิงสาวมา เขากดดูคลิป ก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์มาเปิดออกแล้วส่งเงินให้ “เอ้า ค่าถ่ายคลิป แต่อย่าปากพล่อยไปล่ะ ไม่งั้นคลิปของคุณว่อนเน็ตแน่”

ออยเม้มปากแน่น “ออยกลับได้รึยัง” เธอพลาดไปจริงๆ ที่มารู้จักกับคนอย่างเขา ด้วยความที่อยากจะมีแฟนเป็นทันตแพทย์จึงยอมมีความสัมพันธ์ทางกายกับเขาง่ายๆ แล้วเป็นไงล่ะ เขาขู่เธอว่าถ่ายคลิปเอาไว้แบล็กเมล์ ทำให้ต้องยอมทำตามที่เขาสั่ง

“คุณจะไปไหนก็ไปเถอะ ถ้ามีอะไรอีก ผมจะโทรไปหาคุณเอง”

ออยทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ หากก็รู้ว่าไม่สามารถต่อรองอะไรกับคนคนนี้ได้ เธอไม่อาจเสี่ยงกับคลิปที่เขาว่าได้หรอก หญิงสาวจึงรีบรุดเดินออกจากห้องของเตชิตไปทันที



รวินท์วิ่งกลับลงไปยังห้องพักของตน ตรงเข้าห้องน้ำไปล้างหน้า เสร็จแล้วก็คว้าโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์และกุญแจรถวิ่งออกจากห้องไปโดยเร็ว เขาขับรถออกจากโรงพยาบาลไปทันที มุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยที่ภูพิงค์ศึกษาอยู่ เวลานี้เขานึกถึงเด็กหนุ่มที่เป็นที่พึ่งทางใจของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

มือของทันตแพทย์หนุ่มที่จับพวงมาลัยรถสั่นเล็กน้อย หัวใจเจ็บปวด เขาขับรถไปโดยที่ไม่ได้รู้ตัวว่าน้ำตาไหลเปื้อนแก้ม

เขาไม่ได้เสียใจที่ถูกจูบ แต่เสียใจที่สุดในชีวิต เมื่อเพื่อนรักเพียงคนเดียวของเขา เลือกที่จะจบความสัมพันธ์ดีๆ ที่มีมาเกือบสิบปีไปเสีย

มันคงเป็นความผิดของเขาด้วย ที่ละเลยความรู้สึกของอีกฝ่ายมาตลอด

“กูจะทำยังไงต่อไปดีวะ” ทันตแพทย์หนุ่มส่ายหน้าไปมา เขาเม้มปากแน่นเพื่ออดกลั้นไม่ให้หลุดสะอื้นไห้ ก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ

ขับรถต่อไปอีกไม่นานรถของรวินท์ก็เคลื่อนเข้าสู่เขตจังหวัดเชียงใหม่

หากเมื่อไปถึง ขับรถเข้าไปภายในรั้วมหาวิทยาลัยแล้วถึงนึกขึ้นได้ เขาจะไปตามหาภูพิงค์ได้ที่ไหนกันวะ? แล้วถ้าอีกฝ่ายกลับบ้านเช่าไปแล้วล่ะ

ทันตแพทย์หนุ่มขับรถไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ที่จอดใกล้ๆ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกไป

ภูพิงค์ไม่รับสาย... หัวใจเขาหดหู่หนักกว่าเดิมเสียอีก คราวนี้จึงลองโทรศัพท์ไปหาแซนดี้ดูบ้าง

“พี่หมอมีอะไรด่วนรึเปล่า ผมรู้แค่ว่าพวกมันไปนั่งอ่านหนังสือสอบกันอยู่ที่คณะอะ”

“โอเค ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมลองถามคนที่เดินผ่านไปผ่านมาดู ขอบใจนะ”

รวินท์รีบรุดลงจากรถ แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ทันที เขาไม่ทันได้สนใจสายตาทุกคู่ที่มองมาเลยแม้แต่น้อย ระหว่างทางก็ยังกดโทรศัพท์โทรหาอีกฝ่ายไปด้วย แต่จนแล้วจนรอด ภูพิงค์ก็ไม่ยอมรับสาย


“พี่วิน มาหาไอ้พิงค์เหรอคะ” เด็กสาวคนหนึ่งเอ่ยทัก

“เอ้อ ครับ เห็นเขามั้ย”

“มันอยู่ที่ใต้ตึกหลังสุดเลยค่ะ พี่วินเดินตรงไปเรื่อยๆ ทะลุตึกนั้นไปค่ะ”

“ขอบคุณครับ” รวินท์ยิ้มบาง พลางสาวเท้าออกไป

หากก่อนที่จะก้าวขาเข้าไปในตึกหลังสุดที่ว่า เขาเห็นว่าภูพิงค์นั่งอยู่กับเด็กสาวคนหนึ่ง ท่าทางสนิทกันมาก พวกเขาโอบไหล่กัน จ้องตาและยิ้มให้กัน แล้วเด็กหนุ่มก็ยกมือขึ้นขยี้เส้นผมของเธอ เสียงหัวเราะดังลั่น เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าอีกฝ่ายมีเพื่อนหญิงที่สนิทสนมกันขนาดนี้ด้วย

แต่เมื่อตอนงานขบวนกระทงใหญ่ เขาก็ได้เห็นกับตามาแล้วครั้งหนึ่งนี่นะ

วินาทีนั้น รวินท์รู้สึกราวกับตัวเขาจมดิ่งลงในทะเลน้ำแข็ง ร่างกายชาไปหมด ความเจ็บปวดในอกชัดเจนจนมันฉายชัดออกมาทางแววตา เขานิ่งอึ้ง ทำอะไรไม่ถูก


“มึงเป็นผู้ชาย ไอ้เด็กนั่นมันก็เป็นผู้ชายนะเว้ย มันไม่สนใจมึงหรอก! มึงไม่มีทางสมหวังได้!”


คำพูดของเตชิตแวบเข้ามาในความคิดที่กำลังสับสน เป็นผลให้ทันตแพทย์หนุ่มก้าวถอยหลังไปช้าๆ พร้อมกับถามตนเองไปด้วย


กูมาที่นี่ทำไมวะ


ทั้งที่พยายามส่งข้อความไปหาเด็กหนุ่มหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบเลย โทรศัพท์ไปหาอีกฝ่ายก็ไม่รับสาย เขาควรจะรู้ตัวได้แล้วว่านั่นเป็นเพราะอะไร

รวินท์หันหลังกลับ เดินก้มหน้างุดกลับไปยังรถของตนที่จอดไว้ ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว เขาก้มหน้าลงซบพวงมาลัยรถ รู้สึกว่าดวงตาร้อนผ่าว แล้วหยดน้ำตาก็ร่วงเผาะลงบนตัก

ก็เพราะเขานิสัยแย่แบบนี้ไง ไม่เคยใส่ใจ ไม่นึกถึงใจคนอื่น เวลานี้จึงไม่มีที่ไป และก็ไม่เหลือใครที่จริงใจกับเขาเลยสักคน

เสียงพูดคุยกันดังแว่ว ก่อนจะมีนักศึกษาเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ใกล้ๆ กัน ทันตแพทย์หนุ่มจึงเงยหน้าขึ้น ยกมือปาดน้ำตาแล้วขับรถออกไปก่อน เขาไม่ควรจะมานั่งเหม่ออยู่ในมหาวิทยาลัยเช่นนี้ แต่จะไปไหนก็ยังไม่มีจุดหมาย

รวินท์เคลื่อนรถออกไปช้าๆ ขับพ้นรั้วมหาวิทยาลัยออกไปได้ไม่นานก็เห็นป้ายบอกทางขึ้นไปยังดอยสุเทพฯ ที่ซึ่งเขาได้รู้จักกับภูพิงค์ครั้งแรก

ทันตแพทย์หนุ่มหมุนพวงมาลัยเคลื่อนรถตามเส้นทางนั้นไปทันที



ภายใต้ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ มีเสียงโวยวายคล้ายสติแตกสลับเสียงครวญครางดังแว่วมาเป็นระยะๆ

“อีจิ๊บ มึงมองตากู แล้วบอกมาตามตรงว่าข้อเมื่อกี้มึงใช้หัวคิด ไม่ใช่ส้นตีน”

“ไอ้ห่า ทำเยอะกูก็เบลอบ้างรึเปล่าวะ”

ภูพิงค์จับศีรษะเพื่อนสาวเขย่า “มา กูจะช่วยเรียบเรียงความคิดมึงให้”

“สัส! กูเป็นชะนีนะเว้ย!”

ภูพิงค์และจิ๊บนั่งทะเลาะกันอยู่ที่โต๊ะในมุมเงียบๆ ใต้ตึก พวกเขาทำโจทย์ข้อเดียวกัน แต่ทำไปคนละวิธี และแน่นอนว่าคำตอบที่ได้ก็ไปคนละทิศละทางด้วย จากที่เครียดกันหนักอยู่แล้ว คราวนี้เลยเริ่มคลุ้มคลั่ง

หากก่อนที่พวกเขาจะลุกขึ้นมาฆ่าแกงกันก็มีเพื่อนสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาทัก “เฮ้ย ไอ้พิงค์ เจอพี่วินมั้ยวะ”

เด็กหนุ่มหันหน้าขวับไปทำตาขวางใส่คนทัก “มึงละเมอเหรอวะ”

“เหี้ย ละเมอพ่องส์ กูถามดีๆ ก็เมื่อกี้กูเจอพี่วิน เห็นพี่เขาถามหามึงอยู่”

ภูพิงค์ขมวดคิ้ว “มึงเมาตัวเลขรึเปล่าวะ พี่วินจะมาทำอะไรที่นี่ตอนนี้”

“เอ้า แฟนมึงไม่ใช่เหรอ มึงไม่รู้แล้วหมาที่ไหนจะรู้”

“ไม่ใช่แฟนกูโว้ย มึงพูดงี้พี่เขาเสียหายนะเว้ย” เด็กหนุ่มตั้งท่าจะยกนิ้วกลางขึ้นอวด แต่ถูกขัดจังหวะไปเสียก่อน

“เฮ้ย ไอ้พิงค์” ซันเดินสับเท้าเข้ามาหา พร้อมกับโยนโทรศัพท์มือถือของเขาให้ “อีแซนดี้จะคุยด้วย”

เจ้าของชื่อเรียกรับโทรศัพท์มาคุยต่อ “มีไรวะ”

“โทรศัพท์มึงเป็นเหี้ยไร โทรหาหลายรอบไม่เสือกรับสาย มีโทรศัพท์ไว้ทับกระดาษเหรอวะ!”

“สัส กูปิดเสียงปิดสั่นไว้ กำลังอ่านหนังสือโว้ย”

“เออ พี่วินโทรมาถามหามึงเมื่อกี้ น้ำเสียงไม่ดีเลยว่ะ เหมือนมีเรื่อง มึงโทรหาพี่เขาด้วย แค่นี้แหละ” แซนดี้สั่งแล้วกดวางสายอย่างไว

เด็กหนุ่มทำหน้างง “อีจิ๊บ เดี๋ยวกูมา”

“เออ กูไปนั่งทำกับไอ้พวกนั้นดีกว่า เดี๋ยวตามมาละกัน”

“เออๆ” ภูพิงค์คืนโทรศัพท์ให้ซัน แล้วเดินหลบไปหาที่สงบๆ ที่ไม่ค่อยมีใครเดินผ่านไปผ่านมานัก พอหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดดูก็เห็นว่ามีสายเรียกเข้ามากมาย มีทั้งจากพี่วินและแซนดี้ด้วย หากยังไม่ทันได้กดโทรออกไปก็มีข้อความเข้ามาที่โทรศัพท์เขาเสียก่อน

เมื่อกดดูก็ถึงกับเบิกตาโพลง มันเป็นภาพของรวินท์ที่กำลังจูบกับเตชิต พร้อมข้อความสั้นๆ ว่า


‘ช่วยเลิกยุ่งกับคนของผมด้วย’


“ฮะ!?”

ภูพิงค์รู้ได้ทันทีว่าพี่วินมาหาเขาเพราะอะไร เขาไม่ได้โง่นะเว้ย ถึงจะได้ไม่สังเกตเห็นว่าพี่วินมีปัญหากับพี่เต้มาสักพักใหญ่แล้ว เด็กหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงอีกฝ่ายขึ้นมาทันที

ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ

เด็กหนุ่มเดินไปหาเพื่อนสาวที่โต๊ะอีกตัว “อีจิ๊บ กูมีธุระด่วน กลับก่อนนะ”

“อ้าว ไอ้พิงค์ มึงจะไปไหน” กลุ่มเพื่อนของเขาชะเง้อคอถาม หากเขาไม่ทันได้ตอบอะไรเพราะรีบวิ่งออกไปก่อนแล้ว

ระหว่างทางที่วิ่งไปยังที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ ภูพิงค์กดโทรศัพท์หาทันตแพทย์หนุ่มไปด้วย เสียงเรียกเข้าดังอยู่หลายครั้งแต่อีกฝ่ายไม่รับสาย เขาจึงเปลี่ยนไปโทรถามที่คลินิกแทน แต่รวินท์ก็ไม่ได้อยู่ที่นั่น

“ไอ้พี่วิน เป็นอะไรรึเปล่าวะ” ทันทีที่ไปถึงที่จอดรถ เด็กหนุ่มก็รีบขึ้นนั่งบนมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ของตน แล้วรีบรุดขับออกไป

“พี่วินไปไหนวะเนี่ย จะไปตามที่ไหนได้วะ” ภูพิงค์พ่นลมหายใจออกมาหนักๆ ในอกร้อนรนด้วยความเป็นห่วงทันตแพทย์หนุ่ม
หากไม่รู้ว่ามีอะไรมาดลใจ พอเห็นป้ายบอกทางขึ้นดอยสุเทพฯ เขาก็เลี้ยวรถวิ่งตามทางขึ้นดอยไปเสียอย่างนั้น

ภูพิงค์ขี่รถไปตามเส้นทางสูงชัน ท้องฟ้ามืดแบบนี้ไม่ค่อยมีรถผ่านไปมามากนัก เขาขี่รถสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เคยมายืนดูวิวเมืองเชียงใหม่ด้วยกัน

รถออดี้สปอร์ตของพี่วินจอดอยู่ที่นั่น!

เด็กหนุ่มรีบจอดมอเตอร์ไซค์แล้ววิ่งเข้าไปดู โทรศัพท์มือถือของอีกฝ่ายถูกวางทิ้งไว้บนเบาะ ส่วนเจ้าของไม่อยู่ในรถ เขาจึงรีบเดินออกไปหา ในใจมีแต่ความวิตกกังวล เขานึกต่อว่าตัวเองแรงๆ ที่มัวแต่เล่นตัวงี่เง่าและไม่รับโทรศัพท์ของอีกฝ่าย



รวินท์ยืนเท้าแขนกับรั้วกั้นนิ่งเป็นรูปปั้น สายตาทอดมองลงไปยังเมืองซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีเบื้องล่าง พลางนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีต เมื่อครั้งที่ได้พบกับเตชิตครั้งแรก มาถึงตอนนี้ก็เกือบสิบปีแล้ว ตลอดเวลาที่มีอีกฝ่ายอยู่ข้างกาย เขาไม่เคยรู้สึกเหงา เวลาเขาดีใจก็มีมันดีใจเป็นเพื่อน เวลาที่เขาโศกเศร้าก็มีมันช่วยปลอบใจ หลายคนอาจชอบมีเพื่อนเป็นกลุ่มใหญ่ แต่สำหรับเขา มีมันเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันดีเพียงคนเดียวก็พอ

ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวดในอกจนอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ เขาไม่อยากกลับไปลำพูน ไม่อยากพบหน้าเตชิต ไม่อยากพบหน้าใคร อยากจะล้มเลิกทุกสิ่งทุกอย่างแล้วกลับบ้าน ไม่สิ... เขาควรจะไปเรียนต่อต่างประเทศสักระยะ ไปให้ไกลจากปัญหาทั้งหมดนี่

ในเมื่ออะไรๆ ก็ไม่อาจกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว เขาจะดึงดันอยู่ที่นี่ต่อไปเพื่ออะไร


“ปีหน้าปลอมเป็นปีหนึ่งดิพี่ จะได้มาวิ่งด้วยกันอีกไง” คำพูดของภูพิงค์แว่วมาในความคิด ตอนนั้นเด็กหนุ่มพาเขาขึ้นมาดูวิวตอนกลางคืนที่นี่ มันเป็นช่วงเวลาที่สุขและเศร้าปะปนกัน แต่น่าเสียดาย เขาคงไม่มีโอกาสเช่นนั้นอีก


ทันตแพทย์หนุ่มซบใบหน้าลงบนแขนที่วางอยู่บนรั้วกั้น ปิดตาลงพร้อมกับถอนหายใจ



เมื่อคนอ่อนวัยกว่าที่เพิ่งมาถึงเห็นเข้า เขาก็ถลาเข้าไปโอบกอดอีกฝ่ายไว้จากทางด้านหลัง “พี่วิน! จะทำอะไรวะ!” พร้อมกับกระชากออกมาจากรั้วกั้นแล้วเหวี่ยงไปทางด้านหลัง ก่อนทั้งสองคนจะล้มลงไปด้วยกัน

“เฮ้ย!” รวินท์หงายหลังตึง ส่วนเด็กหนุ่มนั้นล้มลงมาทับตัวเขาอีกที


ตุ้บ!


คนถูกเหวี่ยงดิ้นพล่าน รีบผลักคนที่อยู่บนร่างออกไปด้วยความตกใจ “ทำอะไรวะ! ออกไป!”

ภูพิงค์จับข้อมือทั้งสองข้างของคนใต้ร่างกดลงกับพื้นข้างตัว “ไม่ออก พี่จะบ้ารึไงวะ ฆ่าตัวตายมันบาปนะเว้ย!”

ทันตแพทย์หนุ่มหยุดกึกเมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่ายชัดๆ เขากะพริบตาปริบๆ “พิงค์?”

“เออ! ผมเอง! ตามหาแทบตาย! โทรศัพท์ก็ไม่รับสาย! ทำให้ผมเป็นห่วงมากรู้มั้ยวะ!” เด็กหนุ่มตะคอกเสียงดัง หัวใจเต้นสั่นรัว ทั้งโกรธและเป็นห่วงคนตรงหน้าจนแทบบ้า “ทำไมทำบ้าๆ แบบนี้วะ!”

“ทำบ้านี่ ผมทำอะไรวะ”

“ก็ไอ้ที่จะโดดรั้วเมื่อกี้ไม่เรียกว่าบ้าเหรอวะ” เด็กหนุ่มตวาดใส่พลางหอบหนักๆ

“ผมไม่ได้จะโดดโว้ย แค่พิงรั้วเฉยๆ!”

“อ้าว...” ภูพิงค์หยุดประสานสายตากับคนใต้ร่าง รีบคลายข้อมืออีกฝ่ายออก จากนั้นจึงลุกขึ้นนั่งพร้อมกับฉุดให้ทันตแพทย์หนุ่มลุกขึ้นมานั่งข้างกัน “โทษที มันมืดอะ ผมเห็นไม่ชัด ก็เลยตื่นตูมไปหน่อย”

“ไม่หน่อยแล้วเว้ย เหวี่ยงผมซะกระเด็นเลย” รวินท์ยกข้อมือขึ้นดู ตรงข้อมือไม่ได้เจ็บอะไรมาก แต่ทำไมเขาเจ็บมือขวาแปลกๆ?

“เจ็บมากมั้ยพี่ ไหนเอามาดู” คนอ่อนวัยกว่าคว้าข้อมืออีกฝ่ายมาพิจารณาดู

“โอ๊ยๆ จับเบาๆ สิวะ”

“เจ็บตรงไหน”

“หลังมือ”

เด็กหนุ่มพลิกมือของทันตแพทย์หนุ่มดูเบาๆ เขาเปิดไฟฉายในโทรศัพท์มือถือส่อง แล้วจึงเห็นรอยช้ำสีแดงที่บนหลังมือ “พี่ไปทำอะไรมาเนี่ย”

รวินท์ขมวดคิ้ว คิดทบทวนอยู่สักพัก ก่อนจะนึกขึ้นได้ “ต่อยคน”

“เกิดมาเคยต่อยใครป่ะวะ ต่อยประสาอะไร มือตัวเองช้ำแบบนี้อะ”

ทันตแพทย์หนุ่มดึงมือกลับ แต่คนอ่อนวัยกว่าจับข้อมือไว้แน่น “จะจับไว้ทำไมวะ”

ภูพิงค์ถอนหายใจหนักๆ ขณะที่มองรอยช้ำนั้น ไม่ต้องถามอีกฝ่ายเขาก็พอจะเดาได้ว่าไปต่อยใครมา ก็คงไม่พ้นคนที่ส่งรูปมาให้เขานี่แหละ “มีปัญหาอะไรกับพี่เต้เหรอ”

รวินท์ชักสีหน้า “คุณรู้ได้ไง”

ทั้งสองประสานสายตากันชั่วครู่ เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจตอบไปตามตรง “พี่เต้ส่งรูปมาให้ผม”


*TBC*


สวัสดีวันอาทิตย์สีแดงค่ะ  :mew1:

ฮัสกี้พาหมอเต้มาเปิดตัวแบบฟินๆ ขอเสียงตบมือต้อนรับหมอเต้หน่อยค่าาา ฮิ้วววว~ /จูงหมอเต้วิ่งหลบรองเท้า

ต้องขอบคุณหมอเต้นะเนี่ย น้องพิงค์เลยโกรธพี่วินได้ไม่นานเลย 555555 หมอเต้เป็นกาวใจของคู่นี้นะคะ อิอิ

แต่คำว่าเพื่อนรักน่ะ ไม่ว่ายังไงก็คือเพื่อนรักอยู่วันยังค่ำแหละ อย่าเพิ่งร่ายมนตร์กฤษณะกาลีใส่หมอเต้กันนะคะ 55555555

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ ฮืออออ  :hao5:

ปล. ฮัสกี้กดเป็ดไม่ได้ง่ะ มีใครเป็นเหมือนกันมุ้ยคะ



ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ข้อดีในข้อเสียคือส่งลูกมาให้สองคนนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2018 20:58:55 โดย Billie »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
อิเต้ อิชั่ว!!!! :angry2:

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ไม่รู้สึกโกรธพีเต้นะ ถึงแม้จะเลือกวิธีที่งี่เง่าไปก็เถอะ ยังไงก็กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว พี่เต้ก็คงอยากลองทำทุกทางล่ะเนอะ  :sad11: :sad11:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
เต้ควรไปตายอ่ะเอาจริง นี่กล้าไล่แบบเหมือนหมูเหมือนหมาเลยอ่ะ ที่ทำนี่เรียกว่ารักหรอ ไปตายยย

เฮ้อออ หมอกับพิงค์ได้คุยกันแล้ว ปรับความเข้าใจกันดีๆล่ะ อยากให้หวานแล้วจ้าาา

ออฟไลน์ Altasia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
แบนเต้แล้ว

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
หมอเต้สร้างความลำบากใจให้เพื่อน นี่หรอความรักที่มีให้อ่ะ :mew5:

ออฟไลน์ NoteZapZa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4

ออฟไลน์ NoteZapZa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
โว๊ะ!! พี่หมอเต้ นี้ไม่รู้จะโกรธก่อนหรือของคุณก่อนดี ที่ทำให้ลูกชายเราตาสว่างสักที มาตามง้อพี่หมอวินท์!! สรุปนี้พี่อยากเป็นตัวร้ายหรือเป็นพระรองซีรี่เกาหลี่ไหนพูด คือส่งมาให้เค้าดูแบบนี้ แล้วเค้ามาหากันแบบคือจงใจถูกม๊ะ เราจะยกโทษให้ก็แล้วกันน่ะถือว่าทำความเความชอบให้ลูกชายเราเลิกงอล 5555 :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2018 13:23:48 โดย NoteZapZa »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด