ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]  (อ่าน 613260 ครั้ง)

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #210 เมื่อ20-10-2017 20:57:20 »

ก็แค่พูดคุยกันมากขึ้น เริ่มสนิทกันมากขึ้น เปิดใจกันมากขึ้น
ไม่มีหยอด ไม่มีจี แต่ทำไมอ่านแล้วเขิน :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #211 เมื่อ20-10-2017 22:41:54 »

ให้ความรู้สึกเหมือนคู่รักพากันมาซื้อของเข้าบ้านเลย :pig4: :pig4: :pig4:ค่ะ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #212 เมื่อ20-10-2017 23:09:20 »

เดทใช่มะ เดทกันนินา ถึงจะไม่หวานแต่มันก็ละมุนๆ อยู่หน่อยๆนะ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #213 เมื่อ21-10-2017 06:42:02 »

 :L2:

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #214 เมื่อ21-10-2017 11:46:34 »

พี่วินเหมาะแก่การถูกน้องพิงค์ดูแลมากๆ

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #215 เมื่อ21-10-2017 17:09:13 »

สู้ๆนะวิน เด่วก็เจอคนดีๆแล้ว

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #216 เมื่อ21-10-2017 19:31:18 »

เด่วพี่หมอได้ดังอีกรอบแน่ คลิปละลายใจขนาดนี้ น้องสโมต้องแบ่งปันคนอื่นด้วยแน่นอน รอหน้าเพจเลย อิอิ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #217 เมื่อ21-10-2017 20:01:48 »

ก้าวหน้าไปเยอะเลย เดินช้อปของเข้าบ้าน คุยกันหนุงหนิง กินข้าวแล้วยังชวนกันไปไหนต่ออีก

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #218 เมื่อ21-10-2017 20:21:04 »

ให้ความรู้สึกเหมือนซื้อของเข้าเรือนหอเลยอ่ะ :hao7:

ออฟไลน์ hereg407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #219 เมื่อ21-10-2017 22:21:42 »

ง้อวววว..........เขาเหมาะกันค่ะคู๊ณณ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
« ตอบ #219 เมื่อ: 21-10-2017 22:21:42 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ FiZZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #220 เมื่อ22-10-2017 01:49:21 »

โอ้ยยยย มันนัวมันละมุนละไมมันน่ารักจนอยากจะจิกหมอนกรีดร้อง  :mew3:
ตอนปากหมาใส่กันก็ขำจนลั่นบ้าน รู้สึกพี่วินน่าเอ็นดูมากจริงๆนะ น่าเอ็นดูระดับอินฟินิตี้อ่ะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #221 เมื่อ22-10-2017 11:59:33 »

5555 สนิทกันดี คุ้นเคยกันไว
ปากร้ายแต่ใจดีต้องภูพิงค์
คนซื่อแต่ไม่บื้อนะต้องหมอวิน

เต้ก็ห่วงเวอร์มาก ไม่ปล่อยแล้วเมื่อไหร่จะทำเป็น บางทีก็คิดว่าเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ 55555

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #222 เมื่อ22-10-2017 20:03:34 »

รอนานแล้วนะ :katai5:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #223 เมื่อ24-10-2017 20:29:07 »

หูยยยยยย ยังกับช่วยกันซื้อของเข้าเรือนหอ

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #224 เมื่อ25-10-2017 19:39:27 »

รอเก้าที่สองอยู่นะค่ะ :catrun:

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #225 เมื่อ27-10-2017 13:55:35 »

 :L2:

ออฟไลน์ papapajimin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #226 เมื่อ28-10-2017 20:04:21 »

ไม่อยากกดดันนะ แต่เรื่องนี้สนุกมาก
เรามีรอที่ท่าน้ำทุกวันเลยจ๊ะ พี่จ๋าาาาาา

รอชั้นรอเทออยู่~ ฮือออออ อยากอ่านง่ะ

ออฟไลน์ namchok

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #227 เมื่อ28-10-2017 20:25:34 »

รีบๆมาต่อนะครับ จะลงแดงอยู่แล้ววววววววว :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #228 เมื่อ29-10-2017 08:13:45 »



Chapter 9 : ปะทะคารม


“ข้างหน้าเป็นโค้งซ้าย ชิดซ้ายไว้เลยพี่”

“จำถนนได้ทั้งเส้นเลยมั้ยเนี่ย”

“แหงสิพี่ ผมขึ้นลงมาไม่รู้กี่รอบแล้ว ทั้งขี่รถ ทั้งเดินขึ้น”

รถออดี้สปอร์ตวิ่งไปบนถนนซึ่งในยามนี้ไม่ค่อยมีใครผ่านมาใช้งานมากนัก มุ่งหน้าขึ้นสู่ยอดดอยสุเทพ รวินท์ขับไปช้าๆ ถึงเขาจะขับรถมานาน แต่เส้นทางไม่คุ้นแล้วก็ขึ้นเขาเสียด้วย เขายังไม่อยากพาเด็กหนุ่มไปเทกระจาด

“พี่ก็ขับรถเก่งนะเนี่ย”

“เอาจริงๆ มะ ผมเพิ่งเคยขับขึ้นดอยครั้งแรกนี่แหละ”

“อ้าว ฉิบหาย!”

“ไม่ต้องกลัวหรอกน่ะ รถผมมีประกัน”

“ตั้งใจขับไปเลยพี่ ผมงดกวนตีนชั่วคราว” ถึงจะพูดเช่นนั้น หากพอเอาเข้าจริงก็เงียบไปได้ไม่ถึงสามสิบวินาทีเลย พอภูพิงค์หันไปทางเจ้าของรถ เขาก็อดคันปากไม่ได้ “พี่ ถามจริงเหอะ ใครไปเข้าฝันให้เอารถสปอร์ตแบบนี้มาใช้ที่นี่วะ”

“ทำไมต้องรอให้ใครมาเข้าฝันด้วยวะ ผมขับคันนี้มาสองปีแล้ว ก็เอามาใช่ที่นี่ต่อไง แปลกตรงไหน”

“ก็แบบ รถพี่มันเหมาะกับใช้ในเมืองมากกว่าไง เวลาพี่จะขับไปขึ้นเขาลงห้วย หรือจะขนของเยอะๆ มันก็ไม่ค่อยเหมาะใช่ป่ะล่ะ”

“เออ ก็จริง” รวินท์ขมวดคิ้ว “ทำไมตอนเอารถมาใช้ที่บ้านไม่มีใครพูดอะไรเลยวะ”

กรรมแท้ ไอ้พี่วินแม่งไม่ได้รู้เรื่องอะไรเล้ย มีสมองไว้คั่นระหว่างหูอย่างแท้จริง... เด็กหนุ่มได้แต่นินทาอยู่ในใจ

“ไอ้เต้ก็ชอบบ่นว่ารถผมแคบฉิบหาย” ทันตแพทย์หนุ่มพึมพำ “แต่จะซื้อใหม่ก็ยังไม่มีตังค์”

“พูดจาไม่เข้ากับหน้าเลยว่ะพี่”

“ผมเป็นทันตแพทย์ไส้แห้งนะเว้ยคุณ”

“มีด้วยเหรอวะ หมอฟันไส้แห้ง... งั้นไม่ขอตังค์ที่บ้านล่ะ”

“ผมทำงานแล้วนะ จะให้ไปแบมือขอที่บ้านซื้อนู่นซื้อนี่ได้ไงวะ”

“โห... ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากพี่วินเลยว่ะ ไม่เข้ากับหน้ายิ่งกว่าเดิมอีก”

“หมายความว่าไงวะ คุณอยากเดินลงเขามากใช่มะเนี่ย”

“โอ๊ะๆ จะถึงแล้วคร้าบพี่” ภูพิงค์รีบเปลี่ยนเรื่องเอาตัวรอดทันที

ไม่นานทั้งสองหนุ่มก็ขึ้นไปถึงจุดชมวิวของดอยสุเทพฯ จนได้ เมื่อจอดรถแล้วเด็กหนุ่มก็เดินนำพาไปยังศาลา จากจุดนั้นมองเห็นเมืองเชียงใหม่เบื้องล่างซึ่งเปิดไฟไว้สว่างไสว

“นี่จุดชมวิว สวยมั้ยล่า”

“อือ สวยดี” รวินท์เท้าแขนลงบนรั้วกั้น อากาศตอนกลางคืนแบบนี้กำลังเย็นสบาย ทิวทัศน์ก็สวยงาม เขาทอดสายตามองไกลออกไป
 
“ตอนเช้าคนก็ฮิตขึ้นมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นกันนะ แต่ผมไม่เคยมารอดูหรอก เคยเห็นตอนรับน้องขึ้นดอยนั่นแหละ สามรอบละ”

“น้องๆ วิดวะ ถึกฉิบหาย วิ่งไหวได้ยังไงวะเนี่ย”

“นั่นสิ เมื่อก่อนผมก็สงสัย เลยเลือกเข้าที่นี่ จะได้รู้ซึ้ง ตอนนี้เลยโคตรซึ้งเลย”

รวินท์หัวเราะ “ปีหน้าขึ้นอีกมั้ย”

“ไม่พลาดอยู่แล้ว พี่รอดูได้เลย”

“เออ ไอ้น้องตึ๋งที่พาผมมาดูขึ้นดอยก็บอกว่าจะเข้าวิดวะที่นี่ งั้นปีหน้าผมจะมาดูคุณกับไอ้น้องตึ๋งมันนะ”

ภูพิงค์ยิ้มมุมปาก “แล้วผมจะสอนให้พี่ปลอมตัวเป็นเด็กวิดวะให้เนียนกว่าเดิมนะ จะได้มารอดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันด้วย” คนอ่อนวัยกว่าหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดเปิดรูปให้ดู “วันที่แบกเสลี่ยง พระอาทิตย์ขึ้นเป็นแบ็คกราวด์สวยมากเลย นี่ผมเซฟรูปมาจากตากล้องสโมฯ”

“ผมไม่ได้ตั้งใจจะปลอมตัวเว้ย ก็รุ่นพี่คุณชวนไปดูกิจกรรม ไอ้น้องตึ๋งมันก็ระริกระรี้ ผมเลยเออออไป” รวินท์เถียงพลางชำเลืองมองดูรูปในโทรศัพท์มือถืออีกฝ่าย “เออ สวยก็สวย”

“โห ไม่จริงใจเลยอะ ที่พูดเนี่ยเห็นรูปรึยังหรอก”

“เห็นแล้วดิ ถึงได้บอกว่าสวยไง”

“พี่วินแม่งโคตรกวนตีน”

“กวนตรงไหนวะ!” ทันตแพทย์หนุ่มคิ้วกระตุก จากนั้นจึงก้มหน้าลงไปดูรูปใกล้ๆ “สวยยยจังเลยครับน้องพิงค์” แล้วเงยหน้าขึ้นถาม “จริงใจพอยัง”

ภูพิงค์ยักไหล่ “ก็พอทน”

“ใครกันแน่ที่กวนตีนวะเนี่ย!”

เด็กหนุ่มหัวเราะ “เอ๊า ผมกวนตีนตรงไหน เวลาพี่จะชมอะไรก็ควรต้องแสดงความสนใจสักหน่อยป่ะวะ มันถึงจะดูจริงใจ ไม่ต้องเก๊กให้มากนักหรอก ที่พูดนี่หวังดีหรอกนะเนี่ย”

“ผมไม่ได้เก๊กเว้ย อยู่กันสองคนจะเก๊กไปทำไมวะ”

“นั่นดิ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าพี่จะเก๊กไปทำไมอะ”

“บอกว่าไม่ได้เก๊กโว้ย!” รวินท์ยกมือขึ้นคลึงขมับ ทำไมไอ้เด็กเวรนี่มันกวนประสาทเขาเก่งจังวะ ชาติที่แล้วเขาเคยไปเผาโรงงานผลิตไม้พายของญาติแม่งเหรอ!

ภูพิงค์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ กวนประสาทใครก็ไม่มันส์เท่าพี่วินเลยจริงๆ “เออ พี่ได้เห็นเปล่า วันนั้นมีเรื่องซึ้งๆ ด้วยนะ” ขณะที่เปิดรูปผ่านๆ ไป เด็กหนุ่มก็ไปหยุดอยู่ที่รูปน้องปีหนึ่งบนรถเข็น ตอนแรกตั้งใจจะพูดถึงรุ่นน้องในตอนนั้น หากคนที่เข็นรถเข็นอยู่นั้น พอมาดูอีกทีแล้ว แม้จะใส่หมวกและมีผ้าปิดปากปิดไปครึ่งหน้าแต่ก็ดูคุ้นๆ ชอบกล

ภูพิงค์ขมวดคิ้ว พลางนึกย้อนกลับไป... จะว่าไป วันนั้นไอ้พี่วินก็มีผ้าปิดปากนี่หว่า

“เฮ้ยพี่...” เด็กหนุ่มมองรูปสลับกับคนที่ยืนอยู่ข้างกัน


หรือว่า?


เขากดขยายภาพให้เห็นคนที่เข็นรถเข็นชัดๆ “เฮ้ย!”

คนในภาพรีบหันหน้าหนี “....”

“พี่วินนี่หว่า!”

“ทำไมตาดีจังวะ!”

“รูปนี้คนพูดถึงกันเยอะมากเลยนะ แต่ใครๆ ก็บอกว่าเป็นรุ่นพี่วิดวะที่จบไปแล้ว โห ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเป็นพี่ไปได้เลยแฮะ มีแรงวิ่งกับเขาด้วย เข็นรถเข็นอีกต่างหาก”

“บอกตรงๆ ว่าวันนั้นตกกระไดพลอยโจนมาก หอบแฮ่กๆ เป็นหมาหอบแดด เหนื่อยแทบตาย ไอ้ตอนแรกน่ะ ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปยุ่งหรอก แต่พวกรุ่นพี่คุณรุมขอร้องอะดิ แล้วก็สงสารน้องบนรถเข็นด้วย น้องเขาอยากวิ่งกับเพื่อน แต่กลัวว่าถ้าเพื่อนต้องมาคอยเข็นรถตัวเองจะไม่ได้กอดคอกันวิ่งขึ้นดอยไง”

“แต่ถ้าเป็นพี่วิน ก็น่าจะมีคนรู้จักนะ อย่างน้อยก็ไอ้น้องโจ้ที่นั่งรถเข็นนี่ ทำไมไม่มีใครพูดถึงเลยวะ”

“ผมขอให้เขาบอกทุกคนว่าเป็นรุ่นพี่วิดวะเองแหละ มันเป็นการวิ่งของคณะคุณนี่ คุณรู้แล้วก็เงียบๆ ไว้ละกัน”

ภูพิงค์ยิ้มกว้าง “อาจารย์เลือกให้มาสัมภาษณ์ถูกคนจริงๆ ด้วย ถึงพี่จะไม่ได้เป็นรุ่นพี่วิดวะ แต่พี่ก็ได้อยู่ร่วมในช่วงเวลาสำคัญของคณะเรา” เขาส่ายหน้าไปมา “โธ่ ตอนแรกผมก็คิดว่าคำตอบของพี่ตอแหลล้วนๆ”

“แล้วตอนนี้คิดว่าไง”

“คิดว่าตอแหลครึ่งเดียว”

“พูดไรดูหน้าตาผมด้วย หน้าตาดีแบบนี้ตอแหลไม่เป็นหรอก”

เด็กหนุ่มหัวเราะเสียงดัง “ปีหน้าปลอมเป็นปีหนึ่งดิพี่ จะได้มาวิ่งด้วยกันอีกไง”

“ไม่เอาแล้วเว้ย เหนื่อยตายห่าพอดี แค่โค้งเดียววันนั้นก็ปางตาย” ทันตแพทย์หนุ่มชี้ไปที่ใบหน้าของตน “อีกอย่าง ช่วยดูหน้าผมด้วย ใครจะเชื่อว่าอยู่ปีหนึ่งวะ”

“เหยยย.. ผมว่าพี่ดูเด็กออกนะ บอกว่ายังเรียนอยู่ก็เชื่อ” เด็กหนุ่มพูดไปตามที่คิด “หน้าเด็ก สมองก็...”

“หยุด! ที่ผมดูเด็ก เพราะเอาหน้าผมไปเทียบกับหน้าคุณอะดิ”

“โห ถ้าคิดแบบนี้แล้วสบายใจก็เอาเถอะพี่ ผมยอมให้ก็ได้”

“กวนตีน!”

“วุ้ย หมออะไร หยาบคาย”

รวินท์อ้าปากพะงาบๆ อยากจะเถียงแต่นึกคำไม่ออก เถียงไม่ทันแล้วโว้ย “ไอ้... ไอ้...”

“โอ๋ๆ ใจเย็นพี่ เดี๋ยวความดันขึ้น” คนอ่อนวัยกว่าเอื้อมมือมาโอบไหล่แล้วเขย่า “คุยกับผมมันส์ดีใช่มะ”

“มันส์พ่องส์” ทันตแพทย์หนุ่มพึมพำ พร้อมกับผลักเด็กหนุ่มออก

“แน่ะ มีงอนด้วยแฮะ” ภูพิงค์หัวเราะร่วน เขาหันมองออกไปยังแสงไฟเบื้องล่าง พลางเท้าแขนลงบนราวกั้น “ที่จริง มันไม่ใช่ว่าจู่ๆ จะวิ่งขึ้นดอยเป็นสิบกิโลฯ กันได้ พวกเราต้องฝึกวิ่งกันทุกวัน ตอนผมอยู่ปีหนึ่ง คิดว่ามันร้อนมาก เหนื่อยมาก เหงื่อออกจนเสื้อผ้าเปียกชุ่ม วิ่งจนคลานกลับหอแทบทุกวัน แต่ก็สนุกฉิบหาย เพื่อนผม พี่ผม ทุกคนก็เหนื่อย แต่เราก็พยายามไปด้วยกัน” เขาหันไปยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้างกัน “ครั้งล่าสุดที่วิ่งแบกเสลี่ยง เหงื่อออกกางเกงในเปียก กว่าจะลงดอย ราแทบขึ้นไข่”

รวินท์หันไปมองเสี้ยวหน้าของเด็กหนุ่ม เวลาที่ไม่กวนประสาทกัน พูดจาดีๆ แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย “คุณเป็นพี่ว้ากกับเขารึเปล่า”

“ดูหน้าแบบนี้เดาไม่ออกเหรอวะพี่ นี่ผมตั้งใจไว้หนวดไว้ผมยาวเพื่อว้ากเลยนะ”

“นึกภาพตอนว้ากไม่ค่อยออกเลยแฮะ นึกออกแต่ตอนกวนประสาทเนี่ย”

“โห เห็นแบบนี้ ตอนว้ากผมโหดนะเว้ย ทำรุ่นน้องผู้ชายหลั่งน้ำตามาแล้ว”

“ไปทำไรเขาล่ะ”

“ไม่ได้ทำ น้องมันง่วง หาวปากกว้างตอนผมกำลังว้ากเลยแม่ง”

ทันตแพทย์หนุ่มหัวเราะบ้าง “ผมอยากเห็นรูปตอนคุณว้าก มีบ้างมั้ย”

“เดี๋ยวไว้หาให้ดู ในเครื่องผมมีเก็บไว้รึเปล่าก็ไม่รู้” ภูพิงค์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาไถรูปไปเร็วๆ ไถไปยังไม่ทันถึงตอนประชุมเชียร์ก็หยุดเสียก่อน “พี่เห็นรูปผมตอนแบกเสลี่ยงขึ้นโค้งสปิริตยัง นี่ผมไปติดสินบนตากล้องสโมฯ ไว้ยี่สิบบาท ขอแบบหล่อๆ เท่ๆ สักสิบรูป”

“โอ้โห โคตรคุ้ม” ทันตแพทย์หนุ่มโน้มใบหน้าเข้าไปดูภาพบนจอโทรศัพท์ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาจ้อง เม้มปากและขมวดคิ้ว

“ทำไมต้องทำท่าจับผิดขนาดนี้ด้วยวะพี่ แค้นอะไรผมมาตั้งแต่ชาติปางไหน”

“ผมไม่ได้จับผิดเว้ย แค่คิดว่าตากล้องถ่ายดีจริงๆ”

“นี่ชมใช่ป่ะ”

“ชมตากล้องน่ะใช่”

เอาจริงๆ แวบแรกภูพิงค์อาจจะดูเถื่อนๆ และซกมกอยู่บ้าง แต่นั่นอาจจะเป็นเพราะหนวดกับทรงผมก็ได้ เส้นผมที่เขาลองสัมผัสดูนุ่มนิ่มแล้วก็เรียบลื่น ไม่ได้รู้สึกเหมือนจับไม้กวาด เด็กหนุ่มกับเขาความสูงไม่ต่างกันมาก ถ้าแค่ดูจากในรูปนี่... ก็เรียกว่าดูดีล่ะนะ เด่นกว่าทุกคนในรูปเลย

“จ้องอะไรนักวะพี่”

“ทำไมเอวกางเกงคุณมันอยู่สูงกว่าคนอื่นจังวะ ปกติดึงขึ้นมาถึงใต้ราวนมเหรอ”

“จะบ้าเรอะ ผมขายาวเว้ย ไหนว่าไม่ได้จับผิดไง ไอ้พวกนี้แม่งขาสั้นเองต่างหาก!” คนอ่อนวัยกว่าชี้ไปที่เพื่อนๆ ซึ่งหามเสลี่ยงอยู่ด้วยกัน “ขาผมนี่เรียกว่าขานายแบบนะเว้ย เวลาไปซื้อกางเกงไม่ต้องหาร้านตัดขาเลย”

“เออ ดีเนอะ”

ภูพิงค์ยิ้มกรุ้มกริ่ม พลางก้มลงมองขาอีกฝ่าย “ของพี่อะ ตัดเยอะป่ะวะ”

“ไม่รู้เหมือนกัน ได้มาก็ยาวเท่าขาพอดี”

“พูดเหมือนไม่ได้ซื้อเอง”

“ก็ไม่ได้ซื้อเองอะดิ นี่แม่กับพี่ๆ ซื้อให้”

เด็กหนุ่มขยับออกไปตั้งหลัก ตอนแรกกะว่าจะแซวเรื่องขา ซึ่งที่จริงก็ยังไม่เคยวัดกันว่าขาใครยาวกว่า แต่พอเจอคำตอบเข้าไปเลยไปต่อไม่ถูก “เคยซื้อเสื้อผ้าเองบ้างป่ะเนี่ย”

“เคยสิวะ” รวินท์ตอบกลับไปทันควัน ดีนะเนี่ย ที่เขาเคยไปซื้อเสื้อผ้าใส่อยู่บ้านที่บิ๊กซีในจังหวัดมาก่อน ไม่อย่างนั้นไอ้เด็กนี่คงมีเรื่องถากถางเขาสนุกปากอีกแหงๆ “เอารูปมาดูต่อเหอะ”

“เออ จริงสิ พี่จะดูรูปพี่ที่สโมฯ เลือกไว้นี่หว่า ผมมีในคอมฯ เดี๋ยวพรุ่งนี้เอามาให้ดูนะ สัมฯ กับรูปของพี่ คงจะเอาลงเพจภายในอาทิตย์หน้านี่แหละ”

ทันตแพทย์หนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก สายตาจับจ้องอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ มือก็กดเปลี่ยนรูปไปเรื่อยๆ

“รูปพี่เยอะมาก แม่งพร้อมใจกันถ่ายมา ผมว่ารูปพี่คนเดียวเท่ากับรูปพวกเราทั้งคณะเลยมั้ง”

“อย่าเว่อร์ๆ”

“ไม่ได้เว่อร์เว้ยพี่ เยอะจริงๆ มีทุกอิริยาบถ ทุกซอกทุกมุมเลยแหละ”

รวินท์เงยหน้าขึ้นแล้วขมวดคิ้ว “เวรกรรม อย่างนี้ผมไม่โดนเหม็นหน้าแย่เหรอวะ แบบนี้ผมไม่กล้าเข้าไปใกล้คณะคุณแน่ๆ”

“แต่สมัยเรียนพี่ก็เป็นคนดังไม่ใช่เหรอ ถ้าจะเหม็นก็เหม็นไปทั่วแล้ว ยังไม่ชินอีกเหรอวะ”

“ผมไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้นป่ะวะ แค่โดนมหาลัยเรียกใช้งานบ่อยก็เลยมีคนรู้จักบ้าง” ตอบไปแล้วก็ก้มลงดูรูปในโทรศัพท์มือถือต่อ

ภูพิงค์ชำเลืองมองอีกฝ่าย “แต่ เออ...น่าสนใจว่ะ เอาไว้ผมไปหาดูคลิปพี่บ้างดีกว่า”

“อือๆ เข้าเพจคณะไปดูนะ ดูเยอะๆ โดยเฉพาะคลิปสอนแปรงฟันอะ คลิปสอนใช้ไหมขัดฟันด้วย”

“ไม่เอาดิ อยากเห็นตอนถือธงที่เขาลือกัน”

“ใครลือวะ คุณไปได้ยินมาจากไหนเนี่ย”

“พวกผู้หญิงในคณะอะดิ”

“อย่าดูเลยว่ะ วันนั้นแต่งหน้าหนามาก ผมดูรูปตัวเองตอนนั้นยังแทบจำหน้าตัวเองไม่ได้”

“โห ยิ่งน่าดูเข้าไปใหญ่” ภูพิงค์หัวเราะลั่น “จะพรินต์ออกมาติดหน้าคลินิกพี่ด้วยเลย”

“คู่กับป้ายฟันคุดของคุณใช่มะ”

“ถ้าได้จริงจะถือเป็นเกียรติอย่างสูงเลยครับพี่ แล้ว... ทำไมตอนนั้นไม่ได้เป็นลีดอะ หน้าตาอย่างพี่ไม่น่ารอดมาได้”

“ขี้เกียจ แต่ไอ้เต้เป็นนะ เป็นลีดมหาลัยด้วย”

เด็กหนุ่มเท้าแขนลงบนรั้วกั้นพลางหันหน้าไปทางคนที่ยืนอยู่ข้างกัน “แล้วทำไงถึงจับพลัดจับผลูไปถือธงได้วะพี่”

“หนีไม่ทันอะดิ โดนกล่อมกรอกหูเหมือนที่คุณกล่อมผมนี่แหละ”

“อ้อ...” คนอ่อนวัยกว่าพยักหน้าอย่างเข้าใจสุดๆ เพราะตัวเขาก็แพ้การกล่อมของไอ้พี่ๆ สโมฯ มาอีกทีเหมือนกัน

สองหนุ่มคุยกันเรื่องไร้สาระได้เป็นวรรคเป็นเวร นานสองนานอีกต่างหาก ยืนกันไปจนเกือบถึงเที่ยงคืน พอเมื่อยแล้วทันตแพทย์หนุ่มจึงชวนไปนั่งเอนหลังคุยกันในรถต่อ โดยเปิดหน้าต่างไว้รับลม

รวินท์หยิบขวดน้ำจากในถุงที่ซื้อมาจากบิ๊กซีส่งให้เด็กหนุ่ม “พูดมากจนคอแห้งเลยว่ะ”

คนอ่อนวัยกว่ารับขวดน้ำมายกดื่ม “ที่จริงลงจากดอยไปก็กลับไปตลาดโต้รุ่งต่อได้อีกรอบเลยนะเนี่ย”

“ถ้าพรุ่งนี้ไม่ต้องทำงานก็ว่าจะชวนไปกินต่ออยู่”

“พี่นี่ก็สายแดกเหมือนกันนะ หุ่นไม่ให้แต่ใจรัก”

“มีอะไรอร่อยๆ ให้กินผมก็ต้องกินๆ ตุนไว้ก่อน” ทันตแพทย์หนุ่มเอนหลังพิงเบาะ “เมื่อก่อนก็ไม่ได้สายแดกขนาดนี้หรอก เพราะแถวมหาลัยเป็นย่านของกิน เลือกกินได้ตามใจชอบทุกวัน แต่พอมาใช้ทุน ของกินไม่ได้มีเยอะเหมือนก่อน แถมเลือกไม่ค่อยจะได้อีก บางทีอยากกินก๋วยเตี๋ยว แถวนั้นก็มีอยู่ร้านเดียว ไปถึงแม่งก็ปิดอีก ปิดแบบ...ไม่ต้องมีสาเหตุด้วยนะเว้ยคุณ คือวันนี้ขี้เกียจขาย เปิดแค่สองชั่วโมงแล้วปิดอะไรแบบนี้เลย”

“เพราะคนกินน้อยด้วยแหละพี่ เปิดทั้งวันอาจจะนั่งตบยุงจนเบื่อ”

“เออ เมืองก็เงียบๆ นะ ทั้งที่โรงบาลคนแน่นตลอด ผมก็ไม่รู้ว่าปกติคนที่นี่เขาไปเดินเล่นที่ไหนกัน”

“ส่วนใหญ่ก็คงเข้ามาเดินในเชียงใหม่อะพี่ มันไม่ไกลนี่ อีกอย่างเพราะลำพูนเป็นเมืองทางผ่านมาเชียงใหม่ด้วย คนเลยจะแห่กันเข้ามาเดินเล่นในเชียงใหม่มากกว่า เมืองเลยเงียบไง แล้วนี่พี่ไปเที่ยวไหนมาบ้างแล้วล่ะ”

รวินท์ส่ายหน้าแล้วยิ้มเจื่อนๆ “ปกติผมก็อยู่แค่โรงบาลกับบิ๊กซีเท่านั้นแหละ ตั้งแต่มานี่ก็ทำงานทุกวัน ส่วนเสาร์อาทิตย์ถ้าไม่ได้ทำคลินิกก็นอนขี้เกียจ”

“โห ทางเหนือนี่ที่เที่ยวเยอะออกนะ ผมมาอยู่ปีแรกก็เที่ยวจนพรุน”

“งั้นลำพูนมีอะไรให้เที่ยวบ้าง”

ภูพิงค์ยกแขนขึ้นเท้ากับพนักพิงของคนที่นั่งอยู่ข้างกัน พร้อมกับโน้มตัวเข้าไปหา “อืม... แถวๆ ในเมืองก็วัดพระธาตุหริภุญชัยไง แล้วก็อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี”

“เออๆ ที่หลังนี่เคยไป”

“เพราะมีตลาดโต้รุ่งใช่มะ สายแดกของแท้” เด็กหนุ่มอมยิ้ม “เห็นมะ ก็เคยไปไหนมาเหมือนกันนี่ ทีหลังใครถามจะได้บอกได้ ที่ใกล้ๆ กันมีวัดด้วยนะ แต่ผมยังไม่เคยเข้าไปหรอก”

“เอาไว้มาอีกสิ จะได้ไปด้วยกัน”

“ได้อยู่แล้ว อยู่ใกล้ๆ กันแค่นี้เอง ผมชอบถนนเส้นเชียงใหม่ลำพูน ตอนช่วงใกล้ๆ สงกรานต์ชอบไปขี่รถดูดอกเอื้อง”

“ดอกเอื้องเหรอ ชื่อคุ้นๆ แฮะ หน้าตาเป็นยังไงอะ” ทันตแพทย์หนุ่มถามอย่างสนใจ บางทีก็สงสัยว่าไอ้เด็กนี่มันมาเรียนหรือมาทำอะไร ทำไมรู้เยอะจังวะ

“ชื่อเต็มๆ ว่าเอื้องผึ้ง ดอกมันเป็นพวงสีเหลืองๆ คือถนนเส้นเชียงใหม่ลำพูนมันจะมีต้นยางปลูกเป็นแนวสองข้างทาง พอเข้าลำพูนไปจะเป็นต้นขี้เหล็กป่า เขาจะเอาต้นเอื้องผึ้งไปแปะไว้บนต้นไม้ใหญ่พวกนี้ เวลามันออกดอกพร้อมๆ กัน สวยมาก โรแมนติกโคตรๆ”

“ผมไม่ทันสังเกตแฮะ คงเพราะขับตอนกลางคืนทุกที”

“ช่วงนี้ยังไม่ออกดอกหรอกพี่ ปีนึงออกดอกครั้งเดียวตอนสงกรานต์นั่นล่ะ แล้วพี่ก็อาจจะขับคนละเส้นกับผมก็ได้นะ”

“อ่อ...” รวินท์พยักหน้าหงึกหงัก “ต้องรอดูปีหน้าสินะเนี่ย”

“ก็อีกไม่นานหรอก ถ้าผมมีชีวิตรอดไปถึงตอนนั้นจะพาขี่มอไซค์ไปดู”

“แค่ฟันคุดไม่ตายหรอกนะคุณ”

“ไม่ใช่เว้ยพี่ เดือนหน้านี่มิดเทอม ถัดไปอีกเดือนกว่าก็ไฟนอล ก่อนดอกเอื้องจะบานก็น่าจะมิดเทอมของเทอมสองอีก โอย แค่คิดก็จะตาย”

“เพราะงั้นถึงต้องรีบผ่าฟันคุดรู้ป่ะ จะได้มีสมาธิอ่านหนังสือ”

“ทำไมคนเราต้องมีไอ้ฟันซี่นี้ด้วยวะพี่ ในเมื่อขึ้นมาแล้วก็ต้องผ่าเอาออก”

“สำหรับคนอื่นผมก็ไม่รู้ว่ะ แต่กรณีของคุณมันคงเป็นกรรมของคนที่ชอบกวนประสาทคนอื่นไง”

ภูพิงค์คิ้วกระตุก อันนี้เถียงไม่ออก ยอมให้ไอ้พี่วินชนะไปก็ได้

“รีบไปผ่าซะให้โล่งๆ อย่าเก็บไว้นาน” รวินท์ยิ้มกริ่ม “รู้มั้ย มีฟันคุดในปากมันมีผลเสียเยอะนะคุณ อย่างฟันคุดของคุณนี่ มันไม่ยอมขึ้นตรงๆ แถมยังไปกดฟันซี่อื่นอีก พอแปรงฟันไม่สะอาด มันจะพากันหมักหมมแล้วผุได้ แต่คุณยังโชคดีนะ บางคนรากไปกดทับเส้นประสาท ผ่ายากไปอีก บางคนฟันซี่ใหญ่มากแต่ไม่ยอมขึ้น ก็ต้องผ่าเปิดเหงือก แบ่งฟันเป็นชิ้นๆ แล้วค่อยๆ งัดออกมา คงไม่ต้องบอกนะว่าเลือดออกเยอะกว่าที่คุณเห็นเมื่อเช้าขนาดไหน”

แค่ได้ฟังภูพิงค์ก็ขนหัวลุกไปถึงขนตูดแล้ว “พี่จะเล่าให้มันได้พระแสงอะไรวะ!”

“เอ้า ก็แลกเปลี่ยนความรู้กันไง เห็นคุณเล่ามาเยอะแล้วอ่ะ”

“เรื่องแบบนี้ไม่อยากรู้เว้ย”

ท่าทางของเด็กหนุ่มไม่ได้เข้ากับความโหดบนใบหน้าเอาเสียเลย ทันตแพทย์หนุ่มหัวเราะ เขาเอื้อมมือไปตบลงบนต้นขาอีกฝ่ายเบาๆ “จะตีหนึ่งละ คงต้องกลับล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำงานไม่ไหว”

“ขับกลับตามถนนเส้นที่ขึ้นมานะเว้ยพี่ อย่าใช้ทางลัด ผมไม่รีบ”

“รู้แล้วน่า คุณได้ผ่าฟันคุดแน่ๆ ไม่ต้องกลัว”

“ตั้งใจขับรถไปเลย ผมไม่ต่อปากต่อคำกับพี่หรอก”


(มีต่อค่า)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2017 02:45:08 โดย huskyhund »

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
«ตอบ #229 เมื่อ29-10-2017 08:14:05 »



รวินท์ส่ายหน้าไปมา รอยยิ้มไม่จางหายไปจากใบหน้าหล่อเหลาของเขาเลย เขาเคลื่อนรถไปช้าๆ ไม่นานก็ลงไปถึงตีนเขาได้
หากเมื่อขับเข้าไปจอดในที่จอดรถของคลินิก รอยยิ้มของทันตแพทย์หนุ่มกลับเจื่อนลง แค่เห็นที่จอดรถโล่งว่าง มีรถของเขาแค่คันเดียวกับมอเตอร์ไซค์ของภูพิงค์ก็ใจหาย เพราะเมื่อเด็กหนุ่มกลับไป เขาก็จะต้องอยู่ตามลำพังคนเดียว คงไม่พ้นนึกถึงเรื่องอกหักเดิมๆ คร่ำครวญไปเรื่อย จะนอนหลับลงหรือเปล่าก็ไม่รู้

ภูพิงค์ก้าวลงจากรถไปก่อน เขาเดินดุ่มๆ ไปยังมอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไว้ จากนั้นจึงหันไปทางชายหนุ่มเจ้าของรถที่ยืนพิงประตูมองมาทางตน “ผมกลับละนะ”

“อืม ขี่รถดีๆ”

เด็กหนุ่มก้าวขึ้นไปนั่ง เขาชำเลืองมองรวินท์แล้วลังเลอยู่ชั่วครู่ ยังไม่ทันสตาร์ตรถก็หันกลับไปทางที่อีกฝ่ายยืนอยู่อีกครั้ง ชายหนุ่มมองตามเขาตาละห้อยเลยทีเดียว รู้ตัวบ้างไหมเนี่ยว่าทำหน้าห่อเหี่ยวใส่เขาขนาดไหน จะทิ้งไปทั้งแบบนี้ก็รู้สึกผิดฉิบหาย

กูหนอกู~

คนอ่อนวัยกว่าถอนหายใจหนักๆ “ยังเฮิร์ตจัด ไม่อยากอยู่คนเดียวก็บอกดิวะพี่ ปากอมอะไรอยู่”

รวินท์เลิกคิ้วขึ้น ทำหน้าเหรอหราด้วยความตกใจ ทำไมไอ้เด็กนี่มัน... รู้ดีฉิบหาย!

“จริงๆ ผมก็อยากชวนพี่ไปนอนเล่นที่บ้านเช่า แต่ห้องผม มีผมกับเพื่อนอ่ะ เกรงใจมัน” ภูพิงค์เตะขาตั้งมอเตอร์ไซค์ลง ก่อนจะก้าวลงมาแล้วเดินตรงเข้าไปประจันหน้ากับทันตแพทย์หนุ่ม “ผมนอนเป็นเพื่อนพี่อีกคืนก็ได้ แต่ไม่นอนพื้นนะ”

นัยน์ตาเรียวประสานสายตากับคนตรงหน้านิ่ง เขาอ้ำอึ้ง “เอ่อ...”

“เอ้า ให้เวลาสามวิฯ ถ้าไม่ชวนจะกลับละนะ หนึ่ง สอง สา...” เด็กหนุ่มทำเป็นหันหลังจะเดินกลับไปที่มอเตอร์ไซค์ แต่แล้วรวินท์ก็คว้าแขนเขาไว้ตามคาด เขากระตุกยิ้มมุมปาก อยากจะหัวเราะก็สงสาร “ว่าไงล่ะ”

“อยู่เป็นเพื่อนผมหน่อยนะ”

ภูพิงค์หันขวับกลับไปหาอีกฝ่าย “ได้อยู่แล้ว” เขายกมือขึ้นตบไหล่ทันตแพทย์หนุ่มป้าบใหญ่ เป็นผลให้อีกฝ่ายเซแท่ดๆ ไปนิดหน่อย “เราขึ้นดอยด้วยกันมาแล้วก็เท่ากับว่าเป็นพี่น้องกันใช่มะ เป็นพี่น้องกันแล้วก็ไม่ทิ้งกันหรอกน่ะ”

“ตบเบาๆ ก็ได้เว้ย แขนผมต้องใช้ทำมาหากิน” คนพูดเสตาหลบไปอีกทาง “แต่ผมมีเตียงเดียวอย่างที่คุณเห็นน่ะแหละ  นอนด้วยกันได้มั้ยอะ”

“เออ ได้ ขอแค่ไม่นอนพื้นก็พอ แต่ดึกๆ อย่าเผลอปล้ำผมก็แล้วกัน” เด็กหนุ่มเดินนำไปที่ประตูทางเข้าคลินิก “มาเปิดไวๆ”

“มีตรงไหนน่าปล้ำบ้างวะ” รวินท์พึมพำ พลางสาวเท้าไปเปิดล็อกประตูคลินิกออก

สองหนุ่มเดินตามกันเข้าไปภายใน แล้วจึงตรงขึ้นไปยังห้องพักที่ชั้นบน

รวินท์เปิดประตูเข้าไปในห้อง เอื้อมมือไปควานหาสวิตช์ไฟแล้วก็หยิบรีโมตเครื่องปรับอากาศมากดเปิด “จะอาบน้ำมั้ยเนี่ย”

“อาบก็ดี พี่มีกางเกงให้ผมยืมใส่นอนสักตัวป่ะ”

ชายหนุ่มเดินไปเปิดตู้ เขาทิ้งเสื้อผ้าไว้ที่คลินิกหลายชุด ก่อนจะหยิบเสื้อยืดสีขาวล้วนกับกางเกงลายแมวยิ้มที่เคยซื้อจากบิ๊กซีออกมาส่งให้

“ขอบ...คุณ” ภูพิงค์รับมาอย่างงงๆ เพราะคิดว่าท่าทางอย่างพี่วิน น่าจะใส่ชุดนอนสุดหรูไฮเอนด์แบบเข้าเซตกันอะไรแบบนี้

หลังจากอาบน้ำกันเสร็จ สองหนุ่มก็มานั่งลงบนเตียงข้างกัน คนหนึ่งใส่เสื้อยืดกับกางเกงลายแมว อีกคนใส่เสื้อกล้ามสีแดงกับกางเกงสีเขียวลายมะเขือเทศสีแดง

“คริสต์มาสยังมาไม่ถึงเลยพี่”

“ก็บิ๊กซีมีแต่แบบนี้นี่หว่า”

“หรือว่าที่บอกว่าซื้อเอง...” เด็กหนุ่มชี้ไปที่เสื้อผ้าซึ่งเขาสวมอยู่กับอีกฝ่าย

“เออ ผมซื้อเอง ในหอพักแพทย์ก็เห็นเขาใส่กันแบบนี้ทั้งนั้น”

ภูพิงค์หลุดขำเสียงดัง เขาเอนหลังลงนอนชักดิ้นชักงอ “หมอหอพักนี้แม่งบันเทิงฉิบหาย”

“ทำไมวะ” รวินท์ก้มลงมองเสื้อผ้าที่ตนเองใส่ “ที่บิ๊กซีลำพูนมันไม่ค่อยมีเสื้อผ้าให้เลือกหรอก ผมก็ซื้อเท่าที่มีขายอะ”

“ก็ไม่แปลกหรอก แต่ปกติพี่แต่งตัวโคตรเนี้ยบ ผมเลยนึกไม่ถึงไง”

“เนี้ยบยังไงวะ”

“แปลว่าไอ้ที่ใส่ทำงานนี่ ก็ไม่ได้ซื้อเองใช่มะ”

“หยุดหัวเราะได้แล้วโว้ย” ทันตแพทย์หนุ่มคว้าหมอนมาฟาดคนที่นอนอยู่ “กินยาก่อนนอนแล้วใช่ป่ะเนี่ย”

“กินแล้วตอนพี่อาบน้ำอ่ะ”

“งั้นปิดไฟนอนนะ” เจ้าของห้องลุกไปปิดไฟ แล้วจึงเดินกลับมาเอนตัวลงนอน

ทั้งสองคนนอนนิ่งอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ดวงตาเรียวยังคงเปิดกว้าง เขาผ่อนลมหายใจออกเบาๆ ก่อนจะหันไปหาคนที่นอนข้างกันช้าๆ “พิงค์...”

เจ้าของชื่อเรียกลืมตาขึ้น “หือ”

“ขอบใจนะ”

“อือ เล็กน้อยน่ะพี่”

รวินท์หลุบตาลงต่ำ “...โชคดีที่เจอคุณ ไม่อย่างนั้น สองวันที่ผ่านมานี่ ผมคงแย่”

“ถ้าไม่เจอพี่ผมก็คงแย่เหมือนกัน ต้องฟังสโมฯ กับอาจารย์ด่าไปจนเรียนจบแหงๆ” ภูพิงค์ยกมือขึ้นลูบศีรษะทันตแพทย์หนุ่ม “วันนี้พี่ต้องได้ตู้เย็นกับแอร์ถูกใจแน่ๆ นอนเอาแรงเหอะครับ เดี๋ยวทำคลินิกไม่ไหวจะไส้แห้งหนักกว่าเดิม”

รวินท์อมยิ้ม เขาหลับตาลง พยายามข่มตาให้หลับอย่างที่อีกฝ่ายบอกอย่างว่าง่าย

ดวงตาคมกริบยังคงจับจ้องใบหน้าหล่อเหลา ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะกลายมาเป็นเพื่อนกันได้แบบงงๆ แต่พวกเขาก็เคยขึ้นดอยมาด้วยกันแล้วนี่นะ ก็ถือว่าเป็นทั้งเพื่อนและพี่น้องกันนั่นล่ะ

...พี่วินแม่ง... เขาก็ไม่อยากจะชมนักหรอกนะ แต่ยิ่งมองใกล้ๆ แบบนี้ก็ยิ่งโคตรหน้าตาดี ผิวจะละเอียดไปไหน ขนตางี้ยาวเป็นแผงเชียว

หมั่นไส้โว้ย!

ภูพิงค์ปิดตาลง ก่อนที่ตัวเขาจะอดใจไม่ไหว ถีบเจ้าของเตียงกลิ้งตกเตียงไปก่อนด้วยความหมั่นไส้


เมื่อเช้าวันใหม่มาถึง พวกเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ออกไปกินโจ๊กที่ประตูวิศวะเหมือนเมื่อวาน จากนั้นเด็กหนุ่มก็กลับบ้านเช่าไปก่อน ส่วนทันตแพทย์หนุ่มกลับไปทำงานของตน

“แล้วบ่ายเจอกัน”

“ครับพี่”

รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์เคลื่อนเข้าไปจอดในที่จอดของบ้านเช่า จากนั้นภูพิงค์ก็เดินฮัมเพลงเปิดประตูเข้าไปข้างในบ้านอย่างอารมณ์ดี หากพอก้าวเข้าไปในบ้านก้าวแรกก็ต้องหยุดชะงัก เพราะไอ้เพื่อนเวรอีกสี่คนยืนเข้าแถวถือสาก กระทะ ตะหลิว และฝาหม้อรอเขาอยู่ด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม

“มึงไปไหนมา! ไอ้พิงค์! เมื่อคืนทำไมไม่กลับบ้านกลับช่อง!”

“เดินฮัมเพลง อารมณ์ดีเชียวนะมึง!” แซนดี้ใช้สากกระเบือในมือชี้ “กูว่ากูแรดแล้วยังแพ้มึงเลยเนี่ย!”

“แหม ไปวิ่งแก้บนในวัด ไปวิ่งไล่จับไก่แถววัดแล้วลากไปแดกในคลองอะดิ!”

“ฟลาวเวอร์มากๆ ใจง่ายฉิบหาย ไปค้างกับผู้ชายไม่เลือกหน้า!”

“นี่พวกมึงเป็นเมียกูเรอะ!” ภูพิงค์ถอยหลังกลับออกไปตั้งหลัก “ไอ้พวกเหี้ย ด่าซะชุดใหญ่ กูสำนึกไม่ทันเลยแม่ง แล้วทำไมต้องออกมารอต้อนรับกูขนาดนี้ พวกมึงไปกินอะไรผิดสำแดงมารึไงวะ!”

ซันหยิบไอแพดขึ้นมากดเปิดรูปที่แท็กกันรัวๆ ในเฟซบุ๊ก แล้วหันไปให้อีกฝ่ายดู “ไหนว่าไม่รู้จัก ไม่รู้จักเล้ยยย~ ไอ้ตอแหล!”

“เฮ้ย!” ภูพิงค์ถลาเข้าไปคว้าไอแพดในมือเพื่อนมาดูใกล้ๆ ภาพบนจอนั้นคือภาพของเขากับรวินท์ ตอนไปซื้อของในโฮมโปรเมื่อวาน

“บอกสิว่าเจอกันโดยบังเอิญ เลยต้องควงกันไปแดกข้าวน่ะ” ซันดึงไอแพดกลับมาเปิดรูปใหม่ คราวนี้เป็นรูปของสองหนุ่มในตลาดโต้รุ่ง “เขาส่งกันว่อนเห็นกันทั้งมหาลัยแล้ว!”

“เย้ย! จะมีรูปบนดอยด้วยมั้ยวะเนี้ยะ!”

“อ๋อ ที่หายไปนี่ไปขึ้นดอยด้วยกันด้วย ร้ายนะมึงอะ! ตอนไปหาเขาที่ร้านหมอฟันนี่ปวดฟันจริงหรือตอแหลวะ!” แซนดี้กระแนะกระแหนด้วยเสียงสูงจนต้องต่อบันไดเสียงขึ้นไปอีกเจ็ดชั้น

“ไอ้พวกเวร! พี่วินเขาเป็นผู้ชายนะโว้ย! เอามาพูดงี้พี่เขาเสียหาย!” ภูพิงค์หันขวับไปทางซัน แล้วถามเสียงเข้ม “กูได้สัมฯ พี่วินมาแล้ว จะเอาไม่เอา!”

คนถูกถามเปลี่ยนกระแสเสียงและสีหน้าทันควัน เขารีบเปลี่ยนข้างไปยืนข้างเพื่อนรัก “เฮ้ย! ไอ้พิงค์มันทำเพื่อคณะเว้ย แยกย้ายๆ” ความวุ่นวายในบ้านเช่าจึงสงบลงได้

แล้วพวกเขาก็ทยอยกันเดินกลับเข้าไปนั่งลงในห้องนั่งเล่นด้วยกันเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นซะอย่างนั้น

“สรุปว่ามึงไปได้สัมฯ มาได้ไง ไม่ได้เอาตัวเข้าแลกใช่ป่ะวะ”

“ไอ้ห่า เสนอให้ฟรีแถมข้าวสารสามถังเขายังไม่เอากูเลย” ภูพิงค์ยกขาถีบคนถามแถมไปอีกสองสามที “พอดีพี่เขามีปัญหานิดหน่อย กูช่วยเขา เขาเลยให้สัมฯ แค่นั้นแหละ”

“มึงไปช่วยอะไรพี่เขาวะ”

เด็กหนุ่มอ้ำอึ้ง คิดอย่างหนักว่าจะตอบอย่างไรไม่ให้พี่วินดูงี่เง่าจนเกินไป “ช่วยเขาเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าว่ะ พอดีพี่เขาจะซื้อของหลายอย่าง แต่เลือกไม่ถูก”

“แล้วนี่มึงไปค้างกับเขามาอีกเหรอ” ขิงถาม

“เออ พี่เขาอยู่คนเดียว คลินิกตอนกลางคืนมันก็น่ากลัว กูเลยอยู่เป็นเพื่อน ก็เพื่อนกันอะมึง ที่สำคัญห้องมีแอร์ด้วย”

“อ่อ... มึงนี่ก็โชคดีฉิบหายเลยเนอะ คนอยากเข้าใกล้พี่เขาเป็นร้อย มึงนี่เดินมึนอยู่ดีๆ แท้ๆ”

“เออ กูไปเอาผ้าใส่เครื่องซักก่อน พวกมึงทำการบ้านอจ.เอกยังวะ”

“ยังน่ะสิโว้ย รอมึงอยู่เนี่ย”

ภูพิงค์รีบวิ่งปรู๊ดออกไป “รอแป๊บเว้ยยย~”


*TBC*


กลัวทุกคนจะลืมน้องพิงค์กับพี่วิน ลงยาวๆ เลยเนอะะะะ  :hao3:

สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาโศกเศร้าของชาวไทยทุกคน จริงๆ ฮัสกี้ตั้งใจว่าจะลงตอนนี้เมื่อขึ้นเดือนใหม่ แต่มาคิดอีกที ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรอยยิ้มให้คนอ่านสักนิดดีกว่า /กอดดดดทุกคนเลยนะคะ

ตอนนี้สองหนุ่มก็สนิทกันมากขึ้นอีกนิดนึงแล้วเนอะ เดี๋ยวตอนหน้าน้องพิงค์จะพาพี่วินไปชอปปิ้งต่อนะคะ จะตีกันตายคาเซ็นทรัลหรือไม่ โปรดติดตามมมม~

ขอบคุณคนอ่านทุกคนค่ะ  :mew1:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2017 06:16:02 โดย huskyhund »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ภูสอยเดือน [Chapter 8 : ก้าวแรก][201017]
« ตอบ #229 เมื่อ: 29-10-2017 08:14:05 »





ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 9 : ปะทะคารม][291017]
«ตอบ #230 เมื่อ29-10-2017 08:32:05 »

ในที่สุดก็มา

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 9 : ปะทะคารม][291017]
«ตอบ #231 เมื่อ29-10-2017 08:47:45 »

พี่วินน่ารัก น้องโคตรกวน

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 9 : ปะทะคารม][291017]
«ตอบ #232 เมื่อ29-10-2017 08:51:58 »

 o13


 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ ป้าแก่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 9 : ปะทะคารม][291017]
«ตอบ #233 เมื่อ29-10-2017 09:53:06 »

พี่วินน่ารักจัง


 o18 o18 o18

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 9 : ปะทะคารม][291017]
«ตอบ #234 เมื่อ29-10-2017 09:59:19 »

ตอนเพื่อนๆมายืนรอพร้อมอาวุธในมือนี่นึกว่าบรรดาเมียๆมายืนรอรับสามีกลับบ้านเลยอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 9 : ปะทะคารม][291017]
«ตอบ #235 เมื่อ29-10-2017 10:07:02 »

  :pig4:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 9 : ปะทะคารม][291017]
«ตอบ #236 เมื่อ29-10-2017 10:16:21 »

สองคนนี้แค่กวนตีนกันไปมา ยังไม่จีบกัน ไม่มีคำหวานๆ แต่ก็ทำเอาเขินได้ เคมีเค้าเข้ากั๊นเข้ากัน
พี่วินคิดอะไร น้องพิงค์รู้ทันไปซะหมด โอยยยยย ไม่อยากจะคิดถึงตอนเค้าคบกัน คงจะหวานมดขึ้น :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ idoloveyou555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 9 : ปะทะคารม][291017]
«ตอบ #237 เมื่อ29-10-2017 10:35:11 »

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 9 : ปะทะคารม][291017]
«ตอบ #238 เมื่อ29-10-2017 10:58:50 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 9 : ปะทะคารม][291017]
«ตอบ #239 เมื่อ29-10-2017 11:17:17 »

น่ารักมาก อ่านแล้วยิ้มกว้างเลย ขำด้วย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด