*-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86  (อ่าน 706518 ครั้ง)

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ติดตามค่า

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มาเถอะ รออยู่ :call:

ออฟไลน์ พ.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนแรกจะไม่อ่าน แต่พอลองได้เจ้ามาอ่านเท่านั้นแหละ...ดีจัง!

รอตอนต่อไปนะคะ อย่าทรมานกันนะคะ  :mew2:

ออฟไลน์ boboaje

  • ไม่ชอบหวาน ชอบครบรส
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
ลุ้นๆ วิญญาณ​หญิงสาวต้องการอะไรกันแน่

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Internal Love

ตอนที่ 9

I know, but I was not ready to accept the fact.

 

 

 

 

 

            “มีนมจืดแช่อยู่ในตู้เย็น  เพิ่งซื้อมาสองขวด  หิวหรือเปล่า”

            เพลิงกัลป์ถามขึ้นลอยๆคล้ายพูดกับตู้เย็นที่เจ้าตัวยืนก้มๆเงยๆอยู่นานแล้ว  คนป่วยบนเตียงเหลือบมองแวบหนึ่งก็หันไปสนใจโทรศัพท์มือถือในมือต่อ

            “ข้าวเย็นแทบไม่ยุบ  หรือจะกินน้ำเต้าหู้มั้ยล่ะ  กูเห็นลุงเข็นมาขายหน้ารพ.แล้ว”  เขายังไม่ละความพยายาม  เพลิงกัลป์ปิดตู้เย็นแล้วมายืนสำรวจอาหารในถาดของคนเจ็บที่แทบไม่พร่องเลยแทน   “กินเหมือนแมวดมแบบนี้จะมีแรงได้ยังไง”

            “เลิกบ่นซักทีเถอะ  จะไปไหนก็ไป”   เมืองแมนพูดขึ้นเป็นประโยคแรกหลังจากที่อีกฝ่ายกลับเข้ามาในห้องหลังจากที่เขากินข้าวเสร็จ  แล้วก็เริ่มเปิดตู้เย็นพร้อมกับหยิบขนมนมเนยที่ซื้อติดมือมาใส่ตู้เย็นเป็นการใหญ่

            “บอกแล้วไงว่ากูจะไม่ไปไหนจนกว่ามึงจะยอมบอกว่ามึงป่วยเป็นอะไร”  ร่างสูงใหญ่คว้านมขวดมาเจาะหลอดดูดเสียเอง  เดินเข้ามายืนประชิดเตียง  “ถ้าไม่บอก  กูก็จะวนเวียนอยู่แบบนี้ล่ะ”

            “มึงไปถามอาจารย์คริสมาแล้วไม่ใช่หรือไง”  แมนตวัดเสียง

            “เออ  ถามมาแล้ว”

            “แล้วจะมาถามอะไรกูอีก”   เสียงคนพูดเริ่มห้วนขึ้นทุกที

            “อาจารย์คริสให้กูมาถามมึงเอง”  เพลิงกัลป์พูดเรียบๆ  สายตาจับที่อีกฝ่ายนิ่ง  “แล้วกู...ก็อยากได้ยินจากปากของมึงเอง”

            เกิดความเงียบขึ้นในห้อง

            “มึงจะมาสนใจทำไม”  เมืองแมนพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน  “ไม่ใช่เรื่องอะไรของมึงซักหน่อย”

            “จะด่าว่าเสือกใช่มั้ย”

            “ใช่”

            “จะด่าอะไรก็ได้  กูยอมหมด”  เพลิงกัลป์สบตาคนฟังที่เอาแต่เบือนหลบ  “ขอแค่พูดความจริงกันก็พอ”

            “กูขอยืนยันว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับมึงเลย  เลิกยุ่งเรื่องของกูได้แล้ว”  คนป่วยดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนถึงคอแล้วพลิกตัวนอนตะแคง  หันหลังให้เขา  “มึงจะรู้อะไรมาก็แล้วแต่  กูไม่สน  นี่มันเป็นเรื่องของกู  ชีวิตกูกูดูแลเองได้”

            เพลิงกัลป์ขยับจะค้านทว่าสุดท้ายเขาก็แค่ยักไหล่   มองแผ่นหลังของคนที่ไม่คิดจะหันหน้ามาคุยกันนั้นเงียบๆอย่างครุ่นคิด  สุดท้ายเขาก็วางนมอีกขวดที่ถือติดมือมาด้วยไว้บนโต๊ะข้างเตียงพร้อมกับหลอด

            “โอเค...ตกลงตามนั้น  เรื่องของมึง  มึงจัดการเอง  กูก็จะไปจัดการเรื่องของกูเหมือนกัน”

            คนพูดเดินออกจากห้องไปนานแล้ว  เสียงประตูปิดเมื่อเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนบอกเมืองแมนว่าอย่างนั้น  ชายหนุ่มพลิกตัวกลับมานอนหงาย  ยกหลังมือขึ้นป้ายหางตาอย่างโกรธๆ  ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องน้ำตาไหลด้วย

            ร้องไห้ด้วยความปลื้มปิติที่ได้อยู่คนเดียวเสียทีล่ะมั้ง...ช่วงนี้เขาอารมณ์แปรปรวนเสียจนแม้แต่ตัวเองยังตามไม่ทัน

            ท้องร้องโครกคราก  อาหารเย็นจืดชืดทำให้เขาฝืนกินไปได้หน่อยเดียวก็ต้องวางช้อน  แม่บ้านเข้ามาเก็บถาดอาหารไปแล้ว  ชายหนุ่มมองนมขวดที่วางอยู่ใกล้ๆนั้นอย่างแค้นเคือง

            เขาคว้ามาเจาะหลอดดูดทีเดียวหมดขวด  เมืองแมนเขวี้ยงขวดพลาสติกนั้นลงถังขยะปลายเตียงอย่างแม่นยำ  เอนตัวลงนอนอีกครั้ง

            มือลูบบนหน้าท้องที่ยังแบนราบอย่างใจลอย

            ...ลูก...

            คำสั้นๆที่เข้ามาปรากฏในพจนานุกรมของเขาเมื่อวานก่อนสร้างความกระวนกระวายแกมทุกข์ใจให้เขามากมายนัก  เมืองแมนเฝ้าถามตัวเองซ้ำไปมาว่าชาติที่แล้วเขาไปทำกรรมอะไรไว้หรือเปล่า  ชาตินี้ตัวเองถึงได้เกิดมาผิดเพศ ผิดผู้ผิดคนอย่างใครอื่นเขา

            จะบอกว่าตัวเองฝันไป  เมืองแมนก็หยิกแขนตัวเองจนเขียวปั้ดพิสูจน์ความเจ็บปวดมาแล้ว  ครั้นจะบอกว่าวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่อาจารย์คริสได้ทดสอบกับเขานั้นผิดเพี้ยน  เมืองแมนก็ไม่รู้จะหาจุดไหนมาโต้แย้งอาจารย์ได้  ความรู้ที่ร่ำเรียนมาหลายปีว่ามีเพียงมนุษย์เพศหญิงที่สามารถท้องได้นั้นเป็นอันต้องโยนตำราทิ้งหมด

            เขาคิดเรื่องเดิมกลับไปกลับมาแทบจะเป็นบ้า  หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเท่าที่จะหาได้  ก็มีเพียงแค่ข่าวผู้ชายท้องได้ที่แท้จริงแล้วนั้นเป็นหญิงสาวแปลงเพศเป็นชายแต่ยังไม่ได้ตัดมดลูกรังไข่ออกเท่านั้น

            หาได้มีใครเป็นผู้ชายแท้ทั้งแท่งอย่างเขาไม่...นอกเสียจากว่าเขาจะไม่ใช่..ผู้ชาย

            เมืองแมนใจหายวาบ  สอดมือเข้าไปในขอบกางเกง  คลำอวัยวะของตัวเองอีกครั้ง  เขามั่นใจว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่สมรรถภาพทางเพศยังดีเยี่ยม  ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะรู้ตัวว่าชอบเพื่อนสนิทที่เป็นเพศเดียวกัน ทว่าเมืองแมนก็รู้ว่าตัวเองไม่ใช่กระเทย  เขาไม่เคยอยากเป็นผู้หญิง

            มีใครเล่นตลกกับชีวิตของเขาอยู่หรือเปล่า...คงจะดีถ้ามีใครเปิดประตูห้องน้ำออกมาพร้อมกับกล้องแล้วร้องว่าเซอร์ไพรซ์  เมืองแมนคงแทบจะกระโดดกอดคนๆนั้น

            ถ้าสมมุตว่าเขายอมรับเรื่องตัวเองตั้งท้องขึ้นมา  แล้วไงต่อล่ะ...เมืองแมนคนนี้จะต้องอุ้มท้องเก้าเดือนจนกว่าจะคลอด  แบกท้องกลมๆอุ้ยอ้ายนี้ไปราวน์และอยู่เวรงั้นหรือ  ยังไม่นับว่าต้องมาคอยตอบคำถามของใครๆว่าทำไมผู้ชายอย่างเขาถึงท้องได้  ถึงตอนนั้นเขาจะกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่แปดของโลกหรือเปล่า  จะมีใครเอาเขาไปโชว์ตัวตามงานวัดมั้ย  เรียกเก็บตังค์ค่าดูตัวประหลาดทีละสิบยี่สิบบาท

เขามั่นใจว่าตัวเองไม่มีทางทนได้อย่างแน่นอน  แค่คิดถึงสายตาของใครต่อใครที่มองมาที่เขาอย่างอยากรู้อยากเห็นปนสมเพชนั่นแล้ว...

ชายหนุ่มกดใบหน้าลงกับหมอน

สุดท้ายก็ต้องมีคนถามว่า...ใครเป็นพ่อของเด็ก

“โว้ย!”  เขาทุบกำปั้นลงกับหมอนแรงๆ  ระบายความอัดอั้น  ...ทำไมต้องเป็นเขาด้วย  เขาไปทำบาปอะไรมานักหนาหรอถึงต้องมาตกที่นั่งลำบากขนาดนี้  หรือว่าเขาดื้อกับแม่มากเกินไป  กรรมเลยตามสนองให้ตัวเองต้องมาอุ้มท้อง....แม่  จริงด้วยสิ

ร่างผอมบางลุกขึ้นมานั่ง  เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรหามารดา  เกือบอาทิตย์แล้วที่เขาไม่ได้โทรคุยกับแม่

รอสายครู่เดียวอีกฝ่ายก็กดรับ  เสียงนุ่มๆเย็นๆของเธอดังมาตามสาย

“ว่าไงแมนลูก  ว่างแล้วเหรอ  งานยุ่งหรือเปล่า...ไม่ได้ขึ้นเวรใช่มั้ย”

คนฟังสะกดกลั้นอะไรบางอย่างที่พุ่งขึ้นมาในอก  ตอบกลับไปเสียงสั่น

“ว่างแล้วแม่..”

“นั่นเสียงเป็นอะไร  ไม่สบายหรอ”  แค่ได้ยินเสียงนิดเดียว  คนเป็นแม่ก็จับความผิดปกติได้ทันที

“เป็นหวัดนิดหน่อยครับ”  เมืองแมนโกหก  “แม่ล่ะเป็นยังไงบ้าง  ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแล้วนะ   ที่นี่เริ่มเย็นแล้ว”

“ที่บ้านก็เย็นๆหน่อย  แล้วไปเที่ยวกับเพื่อนเป็นยังไงบ้างลูก สนุกมั้ย  ไม่เห็นเล่าให้ฟัง”  แม่รู้ความเป็นไปของเขาเสมอ   ถึงจะเคยเล่าให้ฟังแค่ครั้งเดียวว่าแพลนจะไปเที่ยวกับเพื่อน  แม่ก็จะจำได้แม่นยำ

“สนุกดีครับ”  เมืองแมนพูดได้แค่นั้นแล้วก็เปลี่ยนเรื่อง  “ยัยเมย์เป็นไงบ้าง  กลับมาหรือยัง”

“เมย์ทะเลาะกับโจ้อีกแล้ว”  แม่ของเขาพูดถึงน้องสาวกับแฟนอย่างอ่อนใจ  “พักนี้ทะเลาะกันบ่อย  ไม่รู้เป็นอะไร  เมย์ก็ไม่ได้เล่าให้แม่ฟัง”

“น้องโตแล้วนี่ครับ”

“ใช่..แม่ก็ต้องปล่อยให้เขาแก้ปัญหาเอาเอง  ชีวิตใครชีวิตมันโตแล้ว  แม่ทำได้แค่แนะนำเท่านั้นแหละ”  เธอถอนหายใจเบาๆ  “แล้วแมนล่ะลูก  เมื่อไหร่จะพาใครมาแนะนำให้แม่รู้จักบ้าง  คนทางเหนือเขาว่าหน้าตาผิวพรรณดีไม่ใช่หรือ”

“ผม...”  เมืองแมนอึกอัก  เขารู้ว่าแม่คงจะพอระแคะระคายอยู่บ้างว่าเขาอาจจะไม่ได้ชอบผู้หญิง  แต่แม่ก็ถนอมน้ำใจเขามากพอจะไม่เข้ามาก้าวก่าย  “ยังไม่เจอเลยครับ”  เขาตัดบท

“เดี๋ยวก็เจอเอง  โบราณเขาว่าคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน  ดูอย่างแม่กับพ่อสิ  กว่าจะเจอกันตั้งหลายปี  ทำงานที่เดียวกันแท้ๆ”  แม่ของเขาหัวเราะเบาๆมาตามสาย  เสียงหัวเราะของเธอทำให้หัวใจของเมืองแมนสงบลง

“คุณแม่ปิ๊งกับคุณพ่อเลยหรือเปล่าครับ”

“วุ้ย!  ไม่หรอกจ้ะ  ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย   สุดท้ายมาแต่งกันได้ไงไม่รู้  เพื่อนที่ทำงานด้วยกันก็ยังงงมาจนถึงทุกวันนี้  เสียดายพ่อเราอายุสั้น  ไม่อย่างนั้นคงดีใจที่เห็นลูกชายเป็นหมอแล้ว”

“ตอนแม่ท้องผม...แม่รู้สึกยังไงครับ”  เมืองแมนถามอย่างระมัดระวัง

“ตอนแรกแม่ตกใจ  เพราะยังไม่อยากมี  ก็ว่าคุมอย่างดีแล้วนะก็ยังท้องได้อีก  ตอนนั้นคุณพ่อของลูกกำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งใหญ่ขึ้นแต่ว่าต้องออกต่างจังหวัด  พอรู้ว่าแม่ท้อง  พ่อก็เลยขอเจ้านายทำตำแหน่งเดิมไม่ย้ายเพราะเป็นห่วงแม่”    มารดาเล่า  ความสุขแต่หนหลังทำให้เธอสดชื่นขึ้น  “สามเดือนแรกพ่อหนูเกือบตาย  แพ้ท้องหนักมากไปทำงานแทบไม่ไหว”

“อะไรนะครับ  พ่อหรือแม่นะที่แพ้ท้อง”

แม่ของเขาหัวเราะคิก

“พ่อจ้ะ  พ่อของแมนแพ้ท้องแทนแม่  ทั้งอ้วกทั้งเวียนหัวกินอะไรไม่ได้  ส่วนแม่ดันไม่แพ้อะไรเลย  กินเอาๆ”

คนฟังคิดประหวัดไปถึงใครบางคนแวบหนึ่ง...คนที่พักหลังมานี้เอาแต่คลื่นไส้อาเจียน  เหล้ายาแตะไม่ได้  กินแต่ผลไม้เปรี้ยว...

“ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะครับ”

“อืม...แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ  แต่คนสมัยก่อนเขาบอกว่ารายที่แพ้ท้องแทนมักจะเกิดกับสามีที่รักเป็นห่วงภรรยามากๆ”

            เมืองแมนเบ้ปาก  พูดแกมเยาะโดยไม่รู้ตัว

            “น่าจะเฉพาะคู่ของพ่อกับแม่หรือเปล่าครับ”

            “ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นอย่างนั้นนะ  บางทีเรื่องพวกนี้ก็ไม่มีคำอธิบายหรอก  มันเป็นเรื่องทางจิตใจ”  คุณจุไรพูด  “แม่ว่าเกิดเพราะแม่ท้องลูกคนแรกมากกว่า  คุณพ่อเลยกังวลมาก  ตอนท้องหลังที่แม่มีเจ้าเมย์พ่อเราก็ไม่แพ้แล้วนะ  กลายเป็นแม่แพ้เองคนเดียว”

            “ตอนคลอดแม่เจ็บมั้ย”

            “เจ็บมาก”  เธอตอบเต็มปากเต็มคำ  “แต่พอเห็นหน้าแมนแล้วแม่ก็หายเจ็บหมดเลย”

            “จริงหรอครับ”

            “จริง  ทีแรกแม่ก็ไม่เชื่อหรอกนะ  คนอื่นที่เขาเคยคลอดลูกเขาบอกกันมา  แม่ก็ว่าอะไรมันจะขนาดนั้น   แต่พอถึงตอนนั้นจริงๆ  แม่ก็ว่าความเจ็บมันหายไปหมด  มีแต่ความชื่นใจอิ่มใจเข้ามาแทนที่  ตอนเล็กๆแมนตัวนิดเดียวเอง  นึกว่าจะต้องอยู่ตู้อบซะแล้ว  ตัวแดงแป๊ดเลยเหมือนลูกหนู”

            “ตอนท้องแม่ทรมานมั้ยครับ”

            “มันไม่ใช่ความทรมานหรอก  เหมือนเป็นการฝึกความอดทนมากกว่า   อดทนที่จะรอเพื่อจะได้เห็นหน้าลูกเก้าเดือน  อดทนทำอะไรต่างๆนานาที่เราไม่ชอบ”

            “แม่...”  แมนนึกคำพูดไม่ออก

            “มีอะไรหรือเปล่าเรา  ทำไมวันนี้ถามอะไรแปลกๆ  หรือว่ามีเรื่องอะไร”

            “แมนแค่..กำลังจะขึ้นวอร์ดสูติน่ะครับ  ก็เลยอยากถามเอาไว้เฉยๆเป็นข้อมูล  เอาไว้คุยกับว่าที่คุณแม่ทั้งหลาย”   เมืองแมนไขว้นิ้วเอาไว้ใต้ผ้าห่ม

            “แล้วไป  แม่ก็นึกว่าไปทำลูกสาวใครท้องหรือเปล่า”  มารดาของเขาตอบกลับมาแกมหัวเราะ

            เมืองแมนอึ้งไปครู่  ก่อนจะถามเสียงเบา

            “ถ้าสมมุตว่า...มันเกิดเป็นอย่างนั้นขึ้นมาล่ะครับ”

            “หมายความว่าไงลูก”   แม่เสียงแข็งขึ้นมาทันที

            “แมนหมายถึงสมมุตเฉยๆน่ะแม่  ไม่ใช่เรื่องจริงหรอก   ถามเผื่อเอาไว้เฉยๆ  สมมุตว่าเกิดวันไหนแมนดัน....พลาดขึ้นมา”

            “แม่ก็ได้เลี้ยงหลานน่ะสิ...ถามได้”  เธอตอบกลับมา  “จะให้แม่บอกว่าให้ลูกสะใภ้แม่ไปทำแท้งหรือไงล่ะ  ไม่เอาหรอกบาปกรรม   หลานคนเดียวแม่เลี้ยงได้  ถ้าแมนกับแฟนเลี้ยงไม่ไหวล่ะก็  แมนก็ทำงานมีเงินเดือนแล้วไม่เห็นจะต้องกลัวเรื่องนี้เลย  ที่สำคัญคือเราต้องรับผิดชอบผู้หญิงด้วย  ไม่ใช่สนใจแต่ลูก  ถ้ารักกันชอบกันจริงแม่ก็จะไปขอให้”   คุณจุไรพูดยาว  “เกริ่นแบบนี้นี่แม่ชักสงสัยแล้วสิ  ไม่มีอะไรแน่เหรอ  ไม่ใช่เจอกันอีกทีก็อุ้มลูกมาฝากแม่เลยนะ”

            “โธ่  ไม่หรอกครับ”  เมืองแมนหัวเราะ  ออกจะรู้สึกว่าเสียงหัวเราะของตนดูฝืดเฝื่อนชอบกล  “ถ้ามีอะไรผมจะบอกแม่ก่อนคนแรก”

            “ได้ยินแบบนี้ก็ค่อยสบายใจหน่อย  อุ้ย..เจ้าเมย์กลับมาแล้ว  เดี๋ยวแม่ไปเปิดประตูบ้านให้น้องก่อน  แล้วเดี๋ยวไว้คุยกันใหม่นะลูก”

            “ครับแม่”  แมนกดวางสาย

            บาปกรรม...งั้นหรือ 

            .............................................................................

            เมืองแมนได้ออกจากโรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้น   อาจารย์คริสกำชับเขานักหนาว่าห้ามทำอะไรที่โลดโผนเด็ดขาด  และถ้ามีเลือดออกอีกก็ให้รีบมาบอก  ห้ามเก็บเงียบคนเดียว  แถมยังให้ยาบำรุงมาอีกเป็นกระปุกๆ  พร้อมกับนัดให้มาตรวจซ้ำอีกหนึ่งเดือน 

            แพทกับเต้ยมาช่วยขนของกลับไปที่แฟลตให้โดยไม่เห็นแม้แต่เงาของรูมเมทของเขาเลย

            “เพลิงไปไหนหรอ”   เต้ยถามแพท   ไม่รู้ว่ามีใครบางคนกำลังเงี่ยหูรอฟังอยู่เหมือนกัน

            “สลบอยู่  เมื่อคืนอยู่เวรอีอาร์ดึกเซิ้งทั้งคืนไม่ได้นอน  พอมาตอนเช้าที่วอร์ดก็ยุ่งอีก   แถมมันยังไปราวน์แทนแมนด้วย”  แพทพูดเรียบๆ  “บ้าพลังไม่เลิก  ราวน์เสร็จลงมาอ้วกอยู่ข้างตึก   อาจารย์คมศักดิ์แกเลยไล่ไปนอน”

            “กรรม  แล้วนอนอยู่ไหนล่ะ  ที่แฟลตไม่มีใครอยู่นี่”  เต้ยถามต่อ  ช่วยเมืองแมนหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปไว้ในห้อง

            “ห้องพักศัลยกรรม  ไม่ต้องห่วงหรอกมีแฟนมันเฝ้าอยู่  ยายตุ๊กตาก็ว่างเหลือเกิน  ทำไมวอร์ดเด็กมันสบายจังวะ”  แพทยกมือขึ้นขยี้ผมแรงๆ  “แมนเธอจะพักก่อนก็ได้นะ  ที่วอร์ดไม่มีอะไรแล้วล่ะ  ไว้บ่ายๆค่อยขึ้นไปดู”

            “ขอบคุณมากนะ”

            เต้ยกับแพทกลับออกไป  เต้ยชวนเขาทานอาหารเย็นด้วยกันเย็นนี้แต่ว่าเมืองแมนแบ่งรับแบ่งสู้  ขอดูอาการของตัวเองก่อน

            ชายหนุ่มเปิดหนังสือสูตินรีเวชอ่านทวนบทที่เขาต้องการอีกรอบ   สายตากวาดไล่อ่านชื่อยาและขนาดของยาที่ใช้  ชายหนุ่มเปิดอินเทอร์เน็ตค้นหาวิธีอื่นที่ใช้ได้เหมือนกัน  เผื่อว่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ 

            นั่งอ่านจนปวดตา  ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนพักสายตา  ตื่นมาอีกทีก็ล่วงเข้าเวลาบ่ายคล้อย   เมืองแมนลุกขึ้นมาเปิดตู้เย็นหาของกินให้ตัวเอง  เขาออกจะประหลาดใจกับสภาพของที่แช่อยู่ในตู้เย็น...ไม่มีขวดเหล้านอกอย่างดีราคาแพงแช่อีกแล้ว  เบียร์กระป๋องเย็นเฉียบก็ไม่มีอีกต่อไป  ในตู้เย็นของเขากับรูมเมทมีแต่นมขวดแช่เอาไว้เรียงเป็นตับ  สตรอเบอร์รี่ที่ไม่รู้เพลิงกัลป์ไปหาซื้อมาจากไหนเยอะแยะวางเรียงเต็มชั้น  ข้างล่างเป็นกีวี่  แอปเปิ้ลเขียว  มะเขือเทศ และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจัดอีกสองสามอย่าง

            “เป็นเอามากแฮะ”  เมืองแมนอุทาน

            เขาก้มลงหาโยเกิร์ตของตัวเองที่แช่เอาไว้ก่อนหน้านี้  นึกสงสัยว่าถูกเพื่อนโยนทิ้งไปแล้วหรือเปล่า  สายตาก็บังเอิญเห็นมันซุกอยู่มุมสุดของซอกตู้พอดี

            เขาล้วงหยิบโยเกิร์ตออกมาเปิดตักกินเล่น  ตามด้วยสตรอเบอร์รี่สีแดงสดหวานอมเปรี้ยว  เขากินไปเกือบครึ่งจนต้องยั้งตัวเองให้หยุด   มองกล่องใส่สตรอเบอร์รี่ที่พร่องไปมากพลางยักไหล่...อยากมาแช่เอาไว้เองทำไมล่ะ

            ชายหนุ่มมาที่วอร์ดศัลยกรรมตอนบ่าย  พยาบาลทักทายกันเกรียวกราวต้อนรับการกลับมาของเขา  เมืองแมนอยู่เคลียร์งานที่วอร์ดจนเสร็จสิ้น

            จากนั้นเขาก็เดินเรื่อยๆมาจนถึงวอร์ดนรีเวช  เจอหวานกับโย่งกำลังนั่งคุยกันอยู่อย่างออกรส

            “อ้าว...ไอ้แมน  หายแล้วเหรอวะ  ตกลงไม่ขี้กี่วันริดสีดวงถึงได้ถามหาน่ะฮึ”  โย่งทักขึ้นเป็นคนแรก  “พวกกูก็ตกอกตกใจหมด  นึกว่าเป็นอะไร”

            “ดีขึ้นแล้ว”  เมืองแมนตอบสั้นๆ  ไม่รู้ว่าใครมาปล่อยข่าวยังไงกันแน่  ถึงได้กลายเป็นว่าเขาเป็นริดสีดวง  แต่ก็ดีเหมือนกัน   ปล่อยให้ทุกคนเข้าใจอย่างนั้นไปก่อน

            ...จนกว่าเขาจะจัดการอะไรๆให้เรียบร้อย

            “เป็นห่วงกันแทบแย่  เพลิงก็ไม่สบาย  อ้วกเอาๆนี่ถ้าอาจารย์คมศักดิ์ไม่ไล่ไปนอนก็คงไม่นอน  แต่นี่ก็ดื้ออีก   เห็นเดินเมื่อกี้แวบๆ”

            “กูว่าพวกมึงสองคนต้องไปทำบุญหน่อยว่ะ  จริงๆนะ”  โย่งออกความเห็น  “ช่วงนี้ป่วยกันบ่อยเหลือเกิน  สงสารพวกกูที่ต้องมาอยู่เวรแทนพวกมึงบ้าง”

            “บ่นอะไรโย่ง  เราไม่เห็นเธอจะอยู่เวรแทนแมนตอนไหน  มีแต่เพลิงคนเดียวที่อยู่แทน  กลายเป็นเวรติดกันสามวันสามคืนไม่ได้หลับได้นอนไม่เห็นมันบ่นสักคำ”

            “มันบ่นไม่ได้  อ้วกอยู่  ฮ่าๆ”  โย่งหัวเราะ

            “ยังมาหัวเราะเพื่อนอีก  เพลิงมีน้ำใจขนาดนี้  เราล่ะนับถือจริงๆ”  หวานบอก

            “นินทาอะไรกู  ได้ยินนะเว้ย”  เสียงห้าวๆดังขึ้นข้างหลังพร้อมกับแขนหนักๆที่พาดลงมาที่ไหล่ของเมืองแมนและโย่ง  คนที่เพิ่งพูดถึงเมื่อกี้โผล่เข้ามาร่วมวงด้วยราวกับเสก

            “มาพอดี  ตายยากจริง”  โย่งอุทาน  “กำลังนินทามึงนั่นแหละ  ทำตัวเป็นคนเหล็ก  ไงล่ะ  ฟื้นแล้วเหรอ”

            “กูนอนครบสามชั่วโมงแล้ว  ตาใสแจ๋วเลย เห็นมั้ย”  เพลิงกัลป์ตอบโย่ง  แต่กลับหันหน้ามาหาใครอีกคนที่พยายามดันแขนที่พาดบนไหล่ออก   ดวงตาคมคู่นั้นไม่ได้ใสแจ๋วอย่างที่เจ้าตัวโฆษณา ทว่ากลับแดงก่ำขึ้นเส้นเลือด  ใต้ตาดำคล้ำแบบคนนอนไม่พอ

            “เชื่อก็บ้าแล้ว  สภาพมึงเหมือนซอมบี้เลยไอ้เพลิง  คืนนี้มึงอยู่เวรอีกหรือเปล่าเนี่ย”

            “ไม่ล่ะ  แพทอยู่  ส่วนพรุ่งนี้กูอยู่”  เพลิงกัลป์พูดเรียบๆ

            เจ้าของเวรพรุ่งนี้ตัวจริงเหลือบตาขึ้นมองคนพูดแวบหนึ่ง

            “เวรถี่จังวะ  แบบนี้ก็อดไปเที่ยวกันน่ะสิ  นัดกับพวกภีมเอาไว้”  โย่งหมายถึงแก๊งค์เที่ยวที่ก่อนหน้านี้มีเพลิงกัลป์รวมอยู่ด้วยประจำ

            “ไว้ก่อนๆ  ช่วงนี้กูไม่ไหว”

            “มึงพักบ้างก็ดีเหมือนกัน  ขืนยังเที่ยวเหมือนเดิมมีหวังยายตุ๊กตามาฉีกอกเข้าสักวันแน่”

            “ไม่หรอก  ตุ๊กตาเข้าใจอยู่แล้ว”  เสียงที่พูดถึงชื่อผู้หญิงอีกคนทำให้เมืองแมนเม้มปาก  “แล้วนี่พวกมึงมาประชุมอะไรกัน  มานินทากูคนเดียวเลยหรือไง”

            “กูกับหวานราวน์สูติอยู่แล้ว  ส่วนไอ้แมนเพิ่งมา...มาทำไมนะมึง”

            “กูมาเอาของ  วันก่อนลืมไว้  เดี๋ยวเข้าไปดูก่อนนะ”  เมืองแมนตอบ  ดันตัวออกจากแขนของเพลิงกัลป์ได้สำเร็จ  เขาหมุนตัวเดินหายเข้าไปในวอร์ด

            “ลืมอะไรของมันวะ  ...เออ  ไอ้เพลิง  กูว่าจะส่งรูปที่ถ่ายตอนไปเที่ยวให้  กูกับหวานเลือกรูปไว้แล้ว  เดี๋ยวไปดูกันมั้ย  คอมฯอยู่ในห้องพัก...”  โย่งหันมาคุยกับเพลิงกัลป์ต่อ  จากนั้นพวกเขาก็ยกขบวนกันเข้าในห้องพักแพทย์ของหมอสูติเพื่อนั่งดูรูปตอนไปเที่ยวด้วยกัน





ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk





           เพลิงกัลป์กลับออกมาจากวอร์ดในอีกชั่วโมงถัดมาพร้อมกับแฟรชไดร์ฟบรรจุรูปในมือ   ชายหนุ่มเกือบจะเดินเลยออกไปแล้วถ้าเขาไม่บังเอิญได้ยินเสียงพี่พยาบาลในวอร์ดคุยกันเสียงดัง

            “หายไปไหนนะ  พี่ก็ว่าวางเอาไว้ตรงนี้เลยนะ  เพิ่งหักครึ่งเมื่อกี้นี่เอง   มีใครเอายาเตียงสิบไปหรือเปล่าคะ”  เธอถามหา   “มีใครหยิบผิดไปมั้ย  ปุ๊เธอเอามาดูซิ  หยิบไปถูกหรือเปล่า”

            “หนูไม่ได้หยิบอะไรตรงนั้นเลยนะพี่ปาน   ปัดหกหรือเปล่า  ลองดูที่พื้น”

            “ไม่มี  พี่จะทำยาหกได้ไง  นี่ถ้าหายล่ะเป็นเรื่องเลยนะ  ยา XYZ ด้วย  โอ๊ย..  ใครเอาไปหรือเปล่าเนี่ย”  เธอยกมือขึ้นกุมขมับ

            ชายหนุ่มเลยตัดสินใจชะโงกเข้าไปถาม

            “เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับพี่  มีอะไรให้ผมช่วยมั้ย”

            “หมอเพลิง  ไม่มีอะไรหรอกค่ะ  พอดีพี่เตรียมยาจะเอาไปเหน็บให้คนไข้แล้วยามันหายน่ะ”

            “ยาเหน็บ?”

            “ใช่ค่ะ  ยา XYZ ที่ไว้เหน็บขับเลือดนั่นแหละ” 

            “หายหรอครับ”  เพลิงกัลป์ทวนคำ  สังหรณ์ผุดขึ้นเร้นลึกทำให้เขาเอื้อมมือมาหยิบซองยาที่เหลืออยู่ไปดู  “หายเมื่อไหร่นะครับ”

            “เมื่อกี้เลย  พี่เพิ่งหยิบมาวางตรงนี้แล้วก็เดินไปหาชาร์ต  กลับมายาก็หายไปแล้ว”

            “เมื่อกี้มีใครเดินเข้ามาแถวนี้มั้ยล่ะครับ”

            “ถ้าเป็นพยาบาลก็มีแค่พี่กับน้องอีกสามคน  แต่ถามแล้วไม่มีใครเห็นเลยค่ะ  ไม่รู้มีญาติหรือใครแอบเข้ามาหรือเปล่า  เอ...สงสัยต้องลองถามหมอแมนเผื่อจะเห็นใคร”

            “หมอแมน?”

          “หมอแมนแกมาขอยานิดหน่อยน่ะค่ะ  เห็นว่าเพื่อนป่วยหรือไงนี่แหละ”

            “แล้วทำไมต้องมาขอวอร์ดสูติด้วยล่ะครับ”

            “ไม่รู้สิคะ  พี่ก็ไม่ทันถาม”

            “เดี๋ยวผมมานะครับ”  คุณหมอหนุ่มพูดจบก็เดินออกไปจากห้องเตรียมยา  ทิ้งให้คุณพยาบาลมองตามอย่างไม่เข้าใจ

            “อะไรของเค้านะ  เอ้า...ปุ๊  หน่อย  เตย  ไม่มีใครเห็นยาของพี่เลยหรอจ้ะ”

            เพลิงกัลป์เดินแกมวิ่งออกมาจากตึก  ในหัวครุ่นคิดถึงสถานที่ๆคนๆนั้นจะไป  ...ไม่ใช่ที่วอร์ดแน่  ต้องเป็นที่ๆมิดชิดกว่านั้น

            มือล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออก  ฝ่ายนั้นไม่รับ  เขาเลยกดโทรหาเต้ยแทน  ปรากฏว่าเต้ยกำลังยุ่งหัวหมุนอยู่บนวอร์ดอายุรกรรม 

            ขายาวก้าวเร็วๆสลับกับออกวิ่งบางช่วง  หัวใจเต้นเร็วแรงยิ่งกว่าเมื่อวันก่อนตอนที่รู้ความจริง...ความจริงบางอย่างที่จนถึงบัดนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองดีใจหรือว่ารู้สึกอย่างไรกันแน่

            เหงื่อแตกพลั่กเต็มหลัง  อาการวิงเวียนเริ่มกำเริบ  เป็นเพราะว่าทำงานหนักพักผ่อนน้อยด้วย  อาการของเขาก็เลยยิ่งแย่ลง  ...อาการแพ้ท้อง

            ยิ่งรู้ความจริงจากอาจารย์คริส  ถึงอาจารย์ไม่ได้พูดตรงๆ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ  นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกประหลาดในใจ  พลอยทำให้ท้องปวดมวนตลอดเวลา  คลื่นไส้เหมือนมีอะไรบิดตัวเป็นเกลียวแล้วดันออกมาจากปาก

            ใกล้จะถึงแฟลตแล้ว  เพลิงกัลป์เร่งฝีเท้าขึ้นอีก  ถ้าเมืองแมนคือคนที่แอบเอายาจากวอร์ดมาจริง  ป่านนี้เขาน่าจะเริ่ม ‘ใช้’ ยาตัวนั้นแล้ว

            ชายหนุ่มยืนหอบหน้าประตู  ล้วงกุญแจขึ้นมาไขเปิด  เปิดประตูผลัวะเข้าไปในห้อง  สายตาปะทะเข้ากับของเหลวสีแดงที่กระจายอยู่ที่พื้น

            หัวใจหล่นวูบราวกับหยุดเต้นไปชั่วขณะเมื่อมองไปเห็นร่างบอบบางกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงบานประตูห้องน้ำอยู่  ใบหน้าเล็กซีดเซียวไร้สีเลือดเงยหน้าขึ้นมองเขาคล้ายตกใจ

            “ทำอะไรน่ะแมน”  เพลิงกัลป์ตวาด

            ก้าวพรวดเดียวเข้าไปจนถึงตัวเมืองแมน  มือแข็งเหมือนคีมเหล็กคว้าข้อมือผอมๆบีบแน่น

            “กูถามว่ามึงทำอะไร!”

            “ปล่อย  เจ็บนะ”  เมืองแมนพูด  พยายามบิดมือออก

            “มึงทำอะไรอยู่  เป็นบ้าไปแล้วหรือ  ถึงมึงจะโกรธจะเกลียดกูแค่ไหน แต่ว่านั่น....ในท้องของมึง...”  เพลิงกัลป์โกรธจัดจนเลยขีดสูงสุดไปแล้ว   ยิ่งเห็นเสื้อตัวหลวมของอีกฝ่ายเปื้อนสีแดงๆที่น่าจะเป็นเลือดเต็มไปหมดด้วยแล้ว  เขารู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบ   “เป็นสิ่งมีชีวิต  ...เกิดขึ้นมาแล้ว”  เสียงของเขาพร่าสั่นอย่างควบคุมไม่ได้   “...เป็นเด็ก ...ลูก...”  คำสุดท้ายหลุดออกมาจากปากของชายหนุ่มพร้อมกับขอบตาที่ร้อนผ่าว

            “ปล่อย”  เมืองแมนกระซิบ  “คิดว่าพูดเรื่องอะไรอยู่”

            “เลิกทำเป็นไม่รู้เรื่องได้แล้วเมืองแมน   กูรู้ว่ามึงท้อง...ท้องลูกของกูกับมึง  ถึงมึงจะไม่อยากได้  ไม่ต้องการเขาแต่ว่าเขาก็เกิดมาแล้ว  จิตใจมึงทำด้วยอะไรถึงไม่รู้จักกลัวบาป”

            “คนอย่างมึงพูดเรื่องบาปบุญได้ด้วยหรอ”

            “ถึงกูจะไม่ใช่คนดีแต่กูก็พร้อมรับผิดชอบ  ถึงมึงไม่เลี้ยง กูก็จะเลี้ยงเอง”     

            “แล้วแปดเก้าเดือนต่อจากนี้ล่ะ  มึงลำบากกับกูด้วยหรือไง  มึงก็พูดได้สิ  ไม่ได้เป็นคนอุ้มท้องนี่  ลองมาเป็นกูมั้ยล่ะ  จะได้รู้ว่าข้างในนี่...”  เมืองแมนทุบที่หน้าอกตัวเองแรงๆ  “มันทรมานขนาดไหน  เป็นตัวอะไรก็ไม่รู้  เป็นผู้ชายท้องได้  มึงลองมาเป็นกูมั้ยล่ะ  อยากรู้ว่ามึงจะยังพูดแบบนี้อยู่มั้ย   กูนี่...คือคนที่ต้องแบกรับภาระที่กูไม่ต้องการไปอีกเก้าเดือน  กูนี่ไงที่ต้องตอบคำถามทุกคนว่าทำไมท้องกูถึงได้ป่องเอาๆ   ไหนจะงาน  ไหนจะครอบครัว  แม่กูอีก  จะให้กูแบกหน้าไปบอกท่านว่าอะไร  ลูกชายท่านท้องได้  ให้ท่านดีใจที่ได้หลานหรือไง”  น้ำตาร้อนๆทะลักออกมาจากเบ้าตาทั้งสองข้าง  เมืองแมนปล่อยโฮเสียงดัง

            “แมน..”  มือที่บีบแน่นคลายลงโดยไม่รู้ตัว  เพลิงกัลป์มองคนตรงหน้าร้องไห้อย่างทำอะไรไม่ถูก

            “ไม่ต้องมาเรียก...มึงไม่ต้องมายุ่งกับกู  ไปสนใจแฟนมึงนู่น”  เมืองแมนออกแรงผลักอีกฝ่ายให้ถอยออกไป           

            “จะให้กูปล่อยให้มึงทำแท้งขับเลือดของลูกกูออกมาหรือไง”

            “ทำแท้ง?”  เมืองแมนทวนคำ

            “มึงเอายาเหน็บที่วอร์ดมาใช่มั้ยแมน  ตอบกูมาตามตรง”

            ดวงตากลมโตเบือนหลบไปทันที

            เพลิงกัลป์เอื้อมมือไปจับคางแหลมบังคับให้หันมามองหน้ากันอีกครั้ง

            “ตอบมา”

            “ใช่  กูเอามาเอง”  เมืองแมนตอบห้วนจัด  มีแววยอกแสยงปรากฏขึ้นในดวงตาของคนฟัง  “แต่กูยังไม่ได้ใช้  พอใจหรือยัง”       

            “จริงเหรอ...แล้วคราบเลือดนี่”  เพลิงกัลป์กระซิบ  กวาดตามองรอยแดงตามอกเสื้อเลอะลงไปที่พื้นห้อง  เขาเพิ่งรู้สึกว่ามันไม่มีกลิ่นคาวอย่างเลือด

            “มะเขือเทศ  กูปั่นมะเขือเทศแล้วฝามันระเบิด  น้ำก็เลยหกเละ”  เมืองแมนตอบ   “กูก้มลงจะเช็ดแล้วหน้ามืดก็เลยนั่งพัก  ตอนที่มึงเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาตะคอกใส่กูนั่นแหละ” 

            เพลิงกัลป์อ้าปากค้าง  กลืนน้ำลายลงคอ  หัวใจที่เหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นบีบเอาเมื่อครู่ถูกสูบแก๊สเข้าไปใหม่จนพองฟู

            “แต่มึงก็เอายามาจากวอร์ดนั่น”

            “..........”   เมืองแมนไม่ตอบ   แต่ดันตัวลุกขึ้นยืน  ปัดมือแข็งแรงที่ยื่นเข้ามาทำท่าจะช่วยออก  “ถอยไป  กูจะเก็บของ”

            เพลิงกัลป์ไม่ถอย  ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจับต้นแขนของอีกฝ่ายเอาไว้

            “มึงต้องสัญญามาก่อนว่าจะไม่ใช้ยานั่น  ไม่สิ...สัญญามาว่าจะไม่ทำให้เด็กในท้องมึงเป็นอันตราย”

            “ทำไมกูต้องสัญญากับมึงด้วย”

            ดวงตาสองคู่สบกัน   คู่หนึ่งเต็มไปด้วยแววท้าทายปนกับความไม่แน่ใจ  ส่วนอีกคู่ปรากฏแววมุ่งมั่นและอะไรอีกอย่างหนึ่งที่แม้แต่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้ว่ามี

            “เพราะกูจะขอร้องมึง...เมืองแมน”  เพลิงกัลป์พูดเสียงห้าวลึก   “ได้โปรด...ช่วยเก็บเด็กคนนี้เอาไว้ที  ถ้าไม่เห็นแก่กูก็เห็นแก่มนุษยธรรมเถอะนะ   หรือว่ามึงจะฆ่าคนได้ลงคอ”

            เมืองแมนก้มหน้าลง  ซ่อนแววตาเอาไว้ใต้แพขนตายาว

            “เมืองแมนครับ”

            อีกฝ่ายเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่เมืองแมนไม่เคยได้ยินมาก่อน  เสียงห้าวทุ้มแฝงด้วยความอ่อนโยนและ...ออดอ้อนอยู่ในที

            ใบหน้าของมารดาผุดขึ้นในมโนภาพ   เมืองแมนเม้มปากแน่นแทบเป็นเส้นตรง  ...ถ้าแม่ของเขารู้เรื่องที่เขาท้องได้ คงเป็นเรื่องใหญ่  แต่ถ้าแม่รู้ว่าเขากำจัดเด็กคนนี้ด้วยตัวเอง  คงเป็นเรื่องใหญ่กว่า

            หรือต่อให้แม่ไม่รู้  โลกทั้งโลกไม่มีใครรู้   ก็ยังมีตัวเขาเองที่รู้  และมันก็คงจะเป็นตราบาปติดอยู่ในใจไปชั่วชีวิต

            ชายหนุ่มถอนหายใจยาว   คำตอบที่รู้อยู่แล้วตั้งแต่แรกดังขึ้นในใจทว่าเขากลับตอบออกไปแทบไม่ได้ยิน

            “อืม”

            ......................................................................................

           

            มาอัพต่อแล้วจร้า   มีใครรอเรื่องนี้อยู่บ้างจ้ะ  ชอบเรื่องนี้อย่าลืมเม้นท์บวกโหวตเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะคะ  เรื่องราวยังอีกยาว5555  เขียนอยู่คนเดียวแบบจ๋อยๆมันก็จะไม่จบน่ะ แหะๆ

            ใครเล่นทวิต #แฟนหมอแมน นะคะ

            เจอกันตอนหน้าจ้า

 

           

 

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
คิดถึงหมอแมน คิดถึงนักเขียนมาก ใส่อะไรลงไปตอนพิมพ์เนี้ย นี่ติดงอมแงมมาก รออยู่ทุกวัน พอเห็นอัพตอนใหม่มาแทบกร้ี๊ด

ออฟไลน์ noopoohza

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากจ้า อ่านตอนนี้แล้วหัวใจจะวายคิดว่าหมอแมนจะทำแท้งจริง หมอแมนอย่าทำเลยนะอย่างงัยก็ลูกตัวเองเค้ามีชีวิตแล้ว ชอบเพลิงที่ยอมรับเป็นลูกผู้ชายพอ อยากเห็นตอนเพลิงทำหน้าที่สามีดูแลหมอแมนจัง ชอบเรื่องนี้มากภาษาสวยอ่่านแล้วอินมาก ขอแค่ไรต์ไม่ทิ้งนิยายแต่งให้จบไม่ว่านานแค่ไหนก้อรอได้จ้า :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1087
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ตกใจหมดนึกว่าแท้งที่แท้น้ำมะเขือเทศโล่งอก

ออฟไลน์ adobe

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เรื่องนี้ 10 วันต่อหนึ่งตอน รอได้!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
รออ่านอยู่ มาบ่อยๆนะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ยินดีที่มาต่อค่ะ รออยู่ๆ มาหาทุกวันเลย

ออฟไลน์ ก้มหน้าก้มตา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ตามจร้า เที่ยงคืนก็อ่านนนนนนนนน

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
รอตอนต่อไปจ้า  :L2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :fcuk: ขอทีเถอะ เพื่อสมองจะโล่งขึ้นมาได้บ้าง คิดอะไรบ้า ๆ นะหลานแมน ลูกทั้งคนนะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
รอเขารักกัน ทางที่ดีเพลิงควรเคลียร์เรื่องนี้กับตุ๊กตา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
เฮ้อ  :เฮ้อ:

ปัญหานี้แก้ยาจัง

รอตอนต่อไปดีกว่า :oni1: :oni1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เอ้า.......  :katai1: อ้อหออออ อ่านตอนนี้เหมือนตัวเองจะเป็นไบโพล่าร์

คิดไว้ว่าแมนต้องไม่ทำแน่ๆ พออ่านเจอคราบเลือด(ยังไม่รู้ว่าคือซอส)

อารมณ์แบบผิดหวังกับแมนมากๆ เสียใจโคตรไม่คิดว่าแมนจะทำ

พอแมนบอกว่าเป็นซอสมะเขือเทศ เอ้าาา เลี้ยวกลับแทบไม่ทัน  :m23:

อยากบอกหมอแมนจัง เห็นใจอิคุณเพลิงมันบ้างก็ได้เน่อ พี่เขาอุตส่า

ควบวอร์ด เข้าเวรแทนไรงี้ แถมนางอยากรับผิดชอบลูกอีก

แต่ก็อยากให้เพลิงไปเคลียร์กับตุ๊กตาซะ อยากให้เลิกๆไปเลย

เพราะดูท่านางจะร้ายไม่ใช่ย่อย น่าจะร้ายเงียบด้วยไหม เห้อม  :z3:

คุณผีขาาา ตกลงจะเอายังไงหนอ ช่วยมาไขความกระจ่างหน่อยค่า

หัวใจและสมองอิฉันวุ่นวายละเกิน  :a6: :o7:


ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หมอเพลิงผู้รักเมียยิ่งชีพ หมอเพลิงควรไปเคลียร์กับยัยตุ๊กตา นะจ๊ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ยังคาราคาซังกับตุ๊กตาอยู่เลยอ่ะเพลิงเคลียร์ก่อนดีไหมหรือคิดจะเอาแต่ลูก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เป็นกำลังใจให้แมน ทางข้างหน้าคงยาก
ส่วนเพลิง เคลียร์กะตุ๊กตาได้แล้วน้าาา

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
จากนี้จะจัดการชีวิตยังไงหนอ

สงสารแมน

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ใจเต้นตุ่มต่ำตามติดหมอเพลิง
 :เฮ้อ:
อ่านไปนึกว่าจริง ที่แท้น้ำมะเขือเทศหก
ก็เข้าใจหมอแมนนะ ว่าถ้าท้องใหญ่มา
ปัญาหาที่ต้องคอยตอบ มีมากมายกว่า
ที่ต้องท้องโต เพลิงก็รีบเคลียกับตุ๊กตานะ
อย่าปล่อยให้อีกคนต้องกังวลมีผลต่อ
ลูกในท้องนะจ๊ะ

+1 รักคนเขียน
 :man1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
รออ่านเรื่องนี้ทุกวันเลย เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ
เพลิงช่วยดูแลแมนด้วยนะ คุณแม่กำลังเครียดเลย สู้ๆ

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ถึงใจนึงจะคิดว่าแมนไม่น่าทำก็เถอะแต่มันก็อดลุ้นไม่ได้อยู่ดี ส่วนหมอเพลิงรู้ซะขนาดนี้แล้วก็ชัดเจนสักทีเถอะค่ะ ไม่ใช่ปากบอกจะรับผิดชอบแต่ตัวเองก็ยังไปคบตุ๊กตาอยู่แถมยังเรียกแฟนแบบเต็มปากเต็มคำอีก ถ้าใครเป็นแบบหมอแมนจะไม่รู้สึกแปลกๆได้ยังไง

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
อยากให้เรื่องนี้อัพบ่อยๆ :ling1:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
รอด้วยคนจร้าาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด