ตอนที่ 32
เป็นแฟนเสือ และมีเสือเป็นแฟน
“โอ๊ยยยยยย !”
“ไงล่ะ งานงอกละสิมึง”
“เออดิ !”
ผมที่นั่งกุมขมับตัวเองอยู่โดยรอบข้างมีเพื่อนๆ ทั้งหลายกำลังนั่งตบไหล่เพื่อให้กำลังใจ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นซักนิด ก่อนที่ตัวเองจะควักลูกอมฮาร์ทบีทจากกระเป๋ากางเกงออกมาแกะใส่ปากเพื่อให้อารมณ์ดีขึ้น แต่ดูเหมือนความเครียดของผมจะไม่ลดน้อยแม้แต่นิดเดียว
เอ้าฮึบ หายใจเข้า...หายใจออก...
เฮ้อออออออ !
“มาๆ มาโอ๋” ไอ้ตามใจที่นั่งมองผมอยู่หัวเราะออกมาอย่างสะใจ จนตัวเองต้องหันไปมองมันเคืองๆ โดยตอนนี้พวกเราทั้งสามหน่อมาอาศัยชายคาอยู่ที่ห้องของไอ้หลง โดยมีผมเป็นเจ้าของเรื่องประจำวันนี้
และถ้าถามว่าเรื่องอะไร
ไม่อยากจะพูดเลย กระซิก...
“เอาหน่า มึงก็คิดมาก คบกันมันก็ต้องมีกันบ้าง”
“...”
“หรือจะให้ไอ้เด็กหมีของมึงไปทำกับคนอื่น ?”
“ไม่เว้ย เรื่องอะไรล่ะ !”
“เออ งั้นก็เลิกคิดมากแล้วปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติก็พอ ถ้าไม่ไหวถึงขั้นนั้นก็ลองลูบๆ คลำๆ กันไปก่อน ถ้ามันโอเคเดี๋ยวพวกมึงก็สานต่อเองล่ะ” ไอ้ตามใจมันตบไหล่ผมดังปุๆ หลายคนคงจะพอเดากันได้แล้วว่าผมเครียดเรื่องอะไร
เซ็กส์
งื้ออออ !
“กูกำลังเป็นคนหื่นกามใช่มั้ย ทำไมกูต้องคิดเรื่องนี้ไม่หยุดด้วยวะ ฮื้ออ !”
ผมทึ้งหัวตัวเองอย่างคิดหนัก เพราะช่วงนี้เป็นผมที่เริ่มคิดเรื่องนี้ขึ้งมา ไม่ว่าไอ้อ้อนรักมาจะ จับ กอด จูบหรืออะไรก็ตาม ผมก็ชอบวกกลับมาคิดเข้าเรื่องนี้อยู่เรื่อย จนตัวเองตอนนี้แทบไม่มีอะไรมาอยู่ในสมองนอกจากเรื่องลามกแล้ว
ไม่เอาแบบนี้แล้วววว !
“คิดไว้ก็ดีแล้ว จะได้เตรียมตัวและเตรียมใจไง”
“ไม่เอา ไม่เตรียม กูไม่เตรียมอะไรทั้งนั้น”
“เอ้า”
“ทำไมวะ คบกันแค่นอนจับมือ จูบปาก กอดกัน แค่นั้นไม่ได้เหรอวะ ไม่เห็นต้อง...”
“...”
“ต้อง...”
“ต้องงงง ~” ไอ้สองหน่อประสานเสียง
“โอ๊ยยยยย !”
ไม่เอา ไม่พูดแล้ว !
ผมทำหน้ามุ่ยเมื่อตอนนี้ไม่สามารถเอาชนะตัวเองภายในใจได้ ท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกของไอ้พวกที่นั่งฟังผมปรับทุกข์ วันนี้เป็นวันที่ไอ้อ้อนรักมันไปซ้อมบาส ส่วนผมที่ตอนแรกตั้งใจจะไปถ่ายรูปก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เลยลากไอ้พวกสองหน่อที่เหลือมาที่ห้องของไอ้หลง ส่วนไอ้จั๊มวันนี้มันขอกลับบ้านเนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์
เออ พูดถึงก็กลับบ้านบ้างดีมั้ย
“หรือช่วงหยุดยาวนี้กูจะหนีกลับไปอยู่บ้านดี” ผมพูดขึ้นพลางขมวดคิ้วหันไปมองไอ้หลงกับไอ้ตามใจอย่างใช้ความคิด ซึ่งมันก็ดีไม่น้อยถ้าเป็นแบบนั้น
“แล้วแต่”
“แต่กูต้องคิดถึงไอ้อ้อนรักแน่เลยว่ะ”
“แหวะ เหม็น” ไอ้หลง
“เหม็นความรัก ~”
“เหม็นขี้หน้ามึงนี่ล่ะ ถุ้ย !” แล้วไอ้คนที่ทำหน้าหมั่นไส้ผมออกนอกหน้าก็ยกเท้าขึ้นมาเตรียมยันผมเต็มที่จนตัวเองต้องขยับถอยหนี
พวกแม่งชอบรักแกเสือดุ กระซิก...
“กูกลับละนะ พรุ่งนี้กลับอุดรเหมือนกัน คิดถึงแม่” ไอ้ตามใจมันพูดพลางลุกขึ้นคว้ากระเป๋าตัวเอง ผมเลยได้แต่โบกมือให้ ไม่นานไอ้คนหล่อมันก็เดินออกจากห้องไปจนเหลือแค่ผมกับไอ้หลงสองคนเท่านั้น ได้ทีผมเลยพูดขึ้นมา
“นอนด้วย”
“มะ...ไม่ !” แล้วแม่งก็ทำหน้าตกใจแล้วตอบขึ้นทันที
อะไรของมันวะ
“กูจะนอน”
“ไอ้เสือมึงกลับไปหาไอ้อ้อนรักเลย !”
“อะไรของมึงวะ ไล่เพื่อนไล่ฝูง ปกติกูก็มานอนด้วยประจำ”
“แต่วันนี้ไม่ได้โว้ย !”
“ทำไม”
“ก็...” ไอ้หลงมันพูดพลางชะงักไป ก่อนจะขมวดคิ้วมองผมอย่างเอาเรื่อง แต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา “ไม่บอก กลับไปไป๊”
“หรือมึงจะเอาแฟนเข้ามากกในห้อง”
“บ้า...!”
“เออ เดี๋ยวนี้เห็นอื่นดีกว่าเพื่อน แม่งเสียใจว่ะ กระซิก...”
“ไอ้ห่าเสือ มึงอย่ามาปัญญาอ่อน”
“ไอ้กี่กาหลงไอ้คนลืมเพื่อน กูเสียใจ...”
ว่าแล้วก็แกล้งบีบน้ำตาแม่ง
“นอกจากเบื่อหน้าเป็นตูดของมึงแล้วยังเบื่อหน้าสำออยของมึงด้วย”
“เพื่อนหลง...”
“เออๆ แม่งก็ได้วะ !” ในที่สุดไอ้หลงมันก็ยอมจนได้จนผมเผลอร้อง ‘เย้’ ออกมาก่อนจะทำหน้าร่าเริ่งจนไอ้คนตรงหน้าต้องโบกกระโหลกไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้
แม่งหนีไม่พ้นการโดนทำร้ายอยู่ดี
“เดี๋ยวกูโทรบอกไอ้ซันแป๊บ”
“หื๊อ”
“มันจะมานอนกับกูวันนี้ แต่มึงอยู่ด้วยแล้ว...”
“เดี๋ยวๆ ไอ้หลง มึงกับไอ้ซัน...”
“ทำไม พูดดีๆ นะมึง ไม่งั้นเดี๋ยวกูไล่ออกจากห้อง”
“เออ งั้นไม่พูดละ” ผมเบะปากให้มันไปหนึ่งที ซึ่งไอ้หลงมันก็ทำท่าชูกำปั้นจะเขกเข้าที่หัวผมจนตัวเองต้องถอยหลังหนี ก่อนจะดูคนตรงหน้าที่กดโทรศัพท์แล้วเอาขึ้นแนบหู และไม่นานดูเหมือนว่าปลายสายจะรับแล้ว
“ไม่ต้องมาแล้วนะ วันนี้ไอ้เสือมันมาขอนอนกับกู...เออ ไว้วันหลัง อย่างี่เง่า วันหลังก็มี...เออสัด แค่นี้ล่ะ !”
น้ำเสียงและใบหน้าของไอ้หลงที่แสดงออกว่ากำลังอารมณ์เสียทำให้ผมที่นั่งมองต้องลุ้นตามอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่มันจะกดวางโทรศัพท์แล้วหันมามองหน้าผมที่ทำท่าเตรียมเสือกอยู่ แต่ก็ไม่ต้องพูดอะไรมากเมื่ออีกฝ่ายมันยอมบอกมาแต่โดยดี
“ไอ้เหี้ยซันมันแค่จะมาคุยกับกูเรื่องออกค่ายชมรมแค่นั้น”
“แค่นั้น แต่ค้างคืน ?”
“...”
“เออๆ ไม่สงสัยแล้วก็ได้” ผมว่าก่อนจะแกล้งหันหน้าหนีมันแล้วมองไปรอบๆ ห้องแทน ซึ่งห้องไอ้หลงมันไม่รกเท่าห้องผม ออกจะเรียบร้อยเป็นระเบียบ จนผมอยากจะได้ตัวมันไปคอยเก็บกวาดห้องให้เลยทีเดียว
ผมหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเช็คโซเชียลเมื่อตอนนี้เจ้าของห้องมันแยกไปล้างห้องน้ำแล้ว ด้วยความที่เป็นคนดีจัดเลยขอเลือกที่จะนั่งเล่นโทรศัพท์เงียบๆ ดีกว่า ก่อนจะต้องแปลกใจเมื่อเห็นโพสของใครบางคนบนหน้าวอล์ของคนที่ผมกำลังเข้าไปส่อง
Manika M’n ► อ้อน แล้วรัก
ฝันดีนะค้าบน้องหมี
16 ชั่วโมงที่แล้ว
ผมมองโพสล่าสุดนั่นกดจะกดเข้าไปที่โปรไฟล์เล็กๆ ของคนโพสก็เห็นใบหน้าสวยที่คุ้นเคยตามที่ผมคิดไว้ไม่ผิด ก่อนจะกลับเข้ามาที่โพสเดิมแล้วกดดูคอมเม้นท์
อ้อน แล้วรัก อืม
ผมมองสิ่งที่อยู่ภายในโทรศัพท์แล้วก็นิ่งไปซักพัก เมื่อมีความรู้สึกหนึ่งตีขึ้นมา ก่อนจะหันไปทางไอ้หลงที่เดินออมากจากห้องน้ำพร้อมกับไม้ขัดส้วมผมเลยเรียกชื่อมันเสียงเบา มือก็จิ้มปุ่มกดไลค์โพสนั้นไปอย่างเผลอตัว
“นี่กี่กาหลง...”
“ว่า”
“มึงว่าคนน่ารัก ยิ้มเก่ง เป็นมิตรกับทุกคน มองโลกในแง่ดี ชอบกินยิ่งเห็นร้านสายไหมแล้ววิ่งเข้าใส่ ที่สำคัญชอบป้วนเปี้ยนแถวๆ ไอ้อ้อนรักและเรียกมันว่าหมีนี่คือใครวะ...”
“เดี๋ยวนะไอ้เสือ” ไอ้หลงมันหันมามองทางผมอย่างงุนงง ก่อนจะพูดต่อ “ถ้าตัดคำว่าน่ารักกับเป็นมิตรกับทุกคนออกมันก็คือมึงชัดๆ เลยไม่ใช่หรือไง”
“...”
“อย่าลืมเพิ่มเติมคำว่าปัญญาอ่อนเข้าไปด้วย”
ไอ้หลงมันพูดทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนจะเดินกลับเข้าห้องน้ำไป ซึ่งผมเองตอนนี้ก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่าโกรธหรือขุ่นเคืองมันออกมาอย่างที่เคยเป็น เพราะตอนนี้มันดันมีความคิดหนึ่งเข้ามาในหัวผม และมันก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีซักนิด
ผมเสือดุ
กำลังไปคล้ายกับใครบางคนของไอ้อ้อนรักหรือเปล่า...
“ไอ้หลง ส่งตัวไอ้เสือมา”
“มันหลับไปแล้ว ส่งบ้าส่งบออะไรวะ”
“หลับห่าอะไรนี่เพิ่งทุ่มครึ่ง !”
“ก็ทุ่มครึ่งไง มันหลับไปแล้วเว้ย !”
“พี่เสือ”
เสียงของคนสามคนที่กำลังยืนถกเถียงกันทำให้ผมที่ตอนแรกหลับอยู่ต้องค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น และดูเหมือนคนที่ผมหนีมาตอนนี้มันจะมาอยู่ที่หน้าห้องไอ้หลงแล้ว
“กูอุส่าห์พาไอ้อ้อนรักมารับแฟน มึงจะมาขวางทางทำไมเนี่ย”
“รับห่าอะไรตอนนี้ มันหลับอยู่พวกมึงพูดไม่รู้เรื่องหรือไง”
“งั้นมึงไปห้องกู ให้ไอ้อ้อนรักกับไอ้เสืออยู่นี่”
“เดี๋ยวไอ้ซัน มึงอย่ามาปัญญาอ่อนแถวนี้ดิ”
“ปัญญาอ่อนอะไร มึงนั่นแหละ ผิดนัดกู”
“มันเรื่องจำเป็น วันอื่นก็มี ทำไมต้องวันนี้วะ”
“ก็กูอยากวันนี้”
“อยากอะไร”
“อยาก...”
แล้วทั้งสองเสียงที่เถียงกันอยู่แม่งก็เงียบไป...
เอ้าสัด อยากอะไรไม่พูด กูอุส่าห์รอเสือกอยู่เงียบๆ
โห่ เสือเซ็ง !
ผมที่แอบฟังอยู่ใต้ผ้าห่มพยายามไม่ขยับเพื่อที่จะให้พวกมันไม่สงสัยว่าผมตื่นแล้ว และดูเหมือนว่าไอ้หลงมันจะรับมือกับคนสองคนได้ยากพอสมควร ไอ้อ้อนรักน่ะไม่ค่อยมีปากเสียงเท่าไหร่ มีแต่ไอ้ซันนี่ล่ะที่กำลังงอแงใส่ไอ้หลงอยู่
...
เดี๋ยวนะ...
ทำไมมันเงียบๆ วะ
ผมที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มอยากจะออกไปมองให้รู้แล้วรู้รอดเมื่ออยู่ๆ ภายในห้องแม่งก็เงียบกริบราวกับไม่มีใครอยู่จนผมอดแปลกใจไม่ได้ แต่ก็กลัวว่าโผล่ออกไปแล้วมันจะยังอยู่กันครบเลยเลือกที่จะนอนเงียบๆ ดูลาดราวไปก่อน
อ้าวเฮ้ย หายจริงดิ๊ !
...!
ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออยู่ๆ ก็รู้สึกถึงฝ่ามือหนักๆ ที่วางลงบนหัวตัวเองก่อนจะแกล้งทำตัวเงียบๆ เหมือนเดิมโดยมีเสียงเบาๆ ที่พูดขึ้นอยู่ใกล้ๆ เท่านั้น
“พี่เสือดุ...”
อะ...ไอ้อ้อนรัก...
ไอ้หลงแม่งไปไหนวะ !
“หะ...ห๊ะ...”
เดี๋ยวนะ
แล้วกูไปขานกลับทำม๊ายยยยย !
หลังจากที่เผยไต๋ตัวเองออกมาจนหมด ผมก็พลิกตัวเป็นนอนหงายแล้วเลือกจะโผล่จากผ้าห่มมาแค่ช่วงตาเท่านั้นโดยมีไอ้อ้อนรักนั่งอยู่ข้างๆ ไม่ห่าง ผมมองใบหน้าหล่อๆ ของมันที่มองกลับมาเช่นกัน ก่อนที่อีกฝ่ายจะยิ้มออกมา
“ตื่นแล้ว”
เบื่อคนหน้าตาดี แกล้งหลับแม่ง !
ผมหลับตาลงอีกครั้งโดยไม่ตอบโต้อะไรไอ้อ้อนรัก ซึ่งดูแล้วอีกฝ่ายก็ไม่กล้าขัดผมเหมือนกันได้แต่นั่งอยู่แบบนั้นและมันก็นิ่งเกินไปจนสุดท้ายผมก็ต้องหรี่ตาขึ้นอีกครั้งก็เห็นว่าไอ้เด็กหมีมันยังนั่งจ้องหน้าผมอยู่โดยไม่มีปากเสียง
เฮ้อ...แล้วเสือดุก็แพ้อีกเหมือนเคย
“ไอ้หลงไปไหน”
“ออกไปคุยกับพี่ซัน”
“แล้วมึงมาทำไมที่นี่”
“พี่เสือไม่รับ” ไอ้อ้อนรักมันพูดพลางมองไปที่โทรศัพท์ของผมที่วางอยู่หัวนอนพลางทำหน้าสลด ผมเลยได้แต่ชะเง้อหน้ามองดูเพราะไม่สามารถเอื้อมมือที่ติดแหง่กในผ้าห่มออกไปได้ ก็เห็นว่าไอ้อ้อนรักมามันโทรมาเกือบสิบสาย
รู้สึกผิดเลย
“โทษทีกูหลับ...”
ผมที่พูดเสียงเบาก็ต้องชะงักเมื่ออยู่ๆ มือใหญ่ๆ ของไอ้อ้อนรักมันก็ยกขึ้นมาอังหน้าผากผมเบาๆ แล้วพูดออกมา
“ไม่ได้ป่วย”
“เออ กูแค่ง่วง”
“...”
แล้วมันก็เงียบไป ได้แต่จ้องหน้าผมเท่านั้น ก่อนที่ไอ้อ้อนรักมันทิ้งตัวลงนอนดื้อๆ พลางกอดผมที่ตอนนี้ร่างกายติดอยู่ในผ้าห่มไว้
“ดะ...เดี๋ยว อ้อนรัก !”
“นอนด้วย”
“นอนอะไร เดี๋ยวไอ้หลง...”
“พี่หลงไปกับพี่ซัน”
“เดี๋ยวมันก็กลับ...”
“ไม่”
“...”
“ไม่กลับหรอก”
เดี๊ยวววววว !
ผมที่ตอนนี้หน้าตาตื่นเรียบร้อย แถมยังกลายเป็นดักแด้ผ้าห่มตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ถึงได้ขยับไปไหนไม่ได้ซักนิด และคิดได้อยู่เพียงอย่างเดียว
ไอ้ห่าหลงมึงทิ้งกูจริงดิ !
“ละ...แล้วมึงมาที่นี่ทำไมห๊ะ กลับไปได้แล้วไป วันนี้กูจะนอนที่นี่ เดี๋ยวกูอยู่รอไอ้หลงเอง”
“พี่เสือ”
“อ้อนรัก กลับไป”
“พี่เสือ คุยก่อน”
“ไม่ฟัง ไม่อยากคุย นอนละเว้ย !”
ผมส่ายหัวไปมา ใจอยากจะยกมือขึ้นมาปิดหูให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าไม่ติดว่ามันติดแง่กอยู่ในผ้าห่มที่ห่อตัวผมอยู่ แถมยังมีไอ้อ้อนรักที่คอยกอดซ้ำอีกทีด้วย
“ไม่โกรธนะ”
เสียงของไอ้อ้อนรักมันดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่ใบหน้าของผมจะต้องอยู่นิ่งเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นๆ ที่แตะลงบนหน้าผาก พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่าไอ้เด็กหมีมันกำลังถอยหน้าออกไป ส่วนอาการของผมตอนนี้ นอกจากหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ ยังรู้สึกร้อนๆ ที่ใบหน้าด้วย
ใครก็ได้เอาไอ้เด็กหมีไปที กระซิก...
“งื้อออออ !”
“พี่เสือเป็นอะไร”
“...”
ผมไม่ได้ตอบได้แต่มองหน้าไอ้อ้อนรักกลับไปเท่านั้น ถ้าให้เดามันคงจะรู้ว่าผมกำลังเฟลเรื่องอะไรอยู่ และถ้าถามว่ามันรู้ได้ยังไง คงเป็นเพราะมือที่ดันเผลอไปกดไลค์โพสเจ้าปัญหานั่นเข้าล่ะ และผมเองก็แอบหวังลึกๆ ว่ามันจะรู้ว่าผมเป็นอะไรเพราะอะไรอย่างเช่นตอนนี้
ถือว่าการกดไลค์เรียกความสนใจจะได้ผลดีใช้ได้เลยทีเดียว
“บอกหน่อยนะ” เสียงของไอ้อ้อนรักมันดังขึ้นอีกครั้ง และคราวนี้มันก็กดจมูกลงมาบนแก้มผมแรงๆ ซึ่งผมก็ได้แต่พยามดิ้น และเมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าผมไร้การต่อสู้ก็รุกเอาๆ
แล้วแม่งก็กลับมาจุ๊บตรงหน้าผากต่อ
เฮ้ยยยย จะมากไปแล้วเว้ยยย !
“ไอ้เด็กหมี อย่าาาาา !” ผมพยายามส่ายหัวหนีแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เมื่อไอ้คนที่เป็นอิสระตอนนี้มันไล่หอมแก้มผมซ้ายที ขวาที จุ๊บหน้าผากบ้าง
ฮึ๋ยย !
“บอกก่อน”
“เออ บอกแล้วเว้ย !”
ในที่สุดผมก็ยอมพูดออกมา เมื่อดูเหมือนจะแพ้ทางไอ้เด็กหมีเต็มๆ ทำให้ไอ้อ้อนรักมันยอมถอยใบหน้าออกไป แต่ก็ไม่ยอมช่วยให้ผมหลุดออกจากกองผ้าห่มนี่แม้แต่น้อย
“ช่วยเค้าก่อนสิ...” ผมดิ้นไปพลางมองอีกฝ่ายอ้อนๆ แต่ก็เจอมันส่งยิ้มและส่ายหัวกลับมาเท่านั้น
ชิส์ จำไว้เลย !
ในที่สุดผมก็ยอมแพ้และยอมอยู่แบบนั้น โชคดีที่แอร์ห้องไอ้หลงมันเย็นอยู่แล้วเลยทำให้ผมไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่เมื่ออยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา แต่อยากจะบอกว่าความอึดอัดนี่มาเต็ม
“พี่เสือ...”
“มะนาวนิสัยยังไง” อยู่ๆ ผมก็พูดขึ้นมา ทำให้ไอ้อ้อนรักที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่างต้องชะงักและเอียงหัวเล็กน้อยเพื่อบ่งบอกว่ามันไม่เข้าใจคำถามของผมแม้แต่น้อย
“นาว ?”
“เออ”
“ไม่รู้”
“อ้อนรัก อย่ากวน”
“ไม่รู้” ไอ้อ้อนรักมันพูดอีกครั้งเพื่อยืนยันคำพูดของตัวเอง ทำให้ผมต้องขมวดคิ้วมองมันอย่างเอาเรื่อง
“จะไม่รู้ได้ไง ก็เคยคบกันมา”
“สามวัน”
“ห๊ะ”
“คบกันสามวัน”
ไอ้อ้อนรักมันพูดและนั่นทำให้ผมต้องอ้าปากเหวอ
เดี๋ยวดิ !
“มะ...ไม่จริง...”
“จริง คบกับนาวแค่สามวัน” ไอ้อ้อนรักมันพูดพลางลูบหัวผมไปด้วย ก่อนที่ตัวเองจะต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาของมันเข้า “พี่เสือเป็นอะไร”
“มึง...”
“...”
“ไม่ได้คบกูเพราะนิสัยคล้ายแฟนเก่ามึงใช่มั้ย” ในที่สุดผมก็ถามคำถามที่ค้างคาใจออกไป และพอหันไปมองหน้าของไอ้อ้อนรักก็เห็นว่ามันกำลังขมวดคิ้วอยู่
“ไม่”
“จริงนะ”
“อืม” ไอ้อ้อนรักมันตอบเพียงแค่นั้น และไม่รู้ว่าเพราะอะไรมันถึงได้ทำให้ผมต้องถอนหายใจโล่งอกมาขนาดนี้ ถ้ามันโกหกผมก็คงจะโดนหลอกอย่างสนิทใจ ทำไงได้ก็ผมเชื่อคนง่ายซะด้วย
โดยเฉพาะคนตรงหน้าที่ผมยอมเชื่อมันง่ายๆ ทุกเรื่องล่ะนะ
“งั้นช่างมะ...เฮ้ย !”
ผมร้องออกมาอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ คนที่นั่งอยู่มันก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าผมไว้ จนตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่แสงด้านนอก ซึ่งตัวเองก็ได้แต่ดิ้นอยู่แบบนั้นแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล จนกระทั่งคนที่ทำมันจะพูดออกมา ทำให้ผมที่เตรียมจะอ้าปากด่าต้องชะงักไว้ และมีเพียงคำพูดยาวเยียดของคนที่อยู่ด้านนอกเท่านั้นที่กำลังเข้าหูผมอยู่ตอนนี้
“พี่เสือ ตอนผมชอบพี่ ผมยังไม่รู้เลยว่าพี่นิสัยยังไง ไม่มีทางที่พี่จะไปคล้ายคนอื่นหรอก”
“...”
“และตอนนี้รู้แล้ว...”
“...”
“ก็ชอบมากกว่าเดิมแล้วด้วย” เสียงของไอ้อ้อนรักมันดังเพียงแค่นั้น ก่อนที่สายตาของผมจะกลับสู่แสงสว่างอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายดึงผ้าห่มที่ปิดหน้าของผมออก แล้วพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มหล่อๆ ของมัน “ชอบพี่เสือนะ”
งื้ออ ปิดหน้ากูไว้เหมือนเดิมได้มั้ย
ไม่ไหวแล้ววว !
อ้อน แล้วรัก ได้อยู่กับ Manika M’n และคนอื่นๆ อีก 53 คน
เป็นแฟนเสือ และมีเสือเป็นแฟน
6 นาทีที่แล้ว