29
อ้อนแล้ว...หึงเสือ
“พี่เสือ”
“...”
“พี่เสือดุ !”
“ว่าไงน้องแพลง”
“เพลงพี่ เมาป้ะเนี่ย !” เสียงโวยวายของเสียงเพลงทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเจ้าตัวกำลังโบกมือตรงหน้าผมพลางขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นต่อ “พวกเพื่อนๆ พี่ฝากมาบอกว่าให้ไปตรงนู้น เพราะตรงนี้มันใกลเวที แล้วพี่เสือก็นั่งคนเดียวด้วยไอ้อ้อนรักมันเป็นห่วง แต่ปลีกตัวจากรุ่นพี่มันมาไม่ได้เลยฝากผมให้มาพาพี่ไปอีกที ง่ายๆ ตอนนี้พี่เสือควรจะไปกับผม”
“พูดอะไรวะ งง”
“ตั้งสติหน่อยพี่เสือ กินไปเยอะใช่มั้ย !”
“บ้าหรือไง พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลย” ผมตอบไปตามความจริงพลางขมวดคิ้ว ก่อนจะยอมลุกขึ้นแต่โดยดีเพราะกลัวว่าเสียงเพลงมันจะสติแตกแล้วงับหัวผมเข้าจริงๆ เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าผมยอมทำตามอย่างว่าง่ายแล้วเจ้าตัวก็เข้ามาควงแขนผมแล้วพาเดินไปที่กลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่ตอนนี้กำลังเฮฮากันได้ที่ และดูเหมือนคนที่ให้เสียงเพลงไปพาผมมาที่นี่กำลังน่าเป็นห่วง เมื่อตอนนี้หน้าตามันไม่สู้ดีนัก ท่ามกลางเสียงของพวกรุ่นพี่ที่กำลังพูดรุมแกล้งมันอยู่ และเมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าผมเดินมาถึงเจ้าตัวก็ยิ้มออกมาและเดินเข้ามาหาผมทันทีโดยปล่อยให้คนที่นั่งแซวกันสนุกปากเหวอไปตามๆ กัน
สม...
“พี่เสือ”
“โดนรุมแกล้งหรือไง”
“เปล่า”
“...”
“ไม่ได้สนใจ”
“อ้าววววววว ~” แล้วทั้งกลุ่มก็ร้องออกมาพร้อมๆ กันเมื่อเห็นว่าคนที่ตัวเองแกล้งกันอยู่ตั้งนานตอนนี้ทำหน้านิ่งๆ ราวกับไม่เห็นพวกนั้นอยู่ตรงหน้า ทำให้ผมอดขำไม่ได้ ก่อนที่ไอ้อ้อนรักมันจะพูดขึ้นมาเสียงเบาพร้อมกับยื่นแก้วน้ำส้มที่มันอุตส่าห์ดั้นด้นไปหามาให้
“คิดถึง”
“ห่างกันไม่ถึงสิบนาที ขี้โม้นะมึงนี่”
“ไม่”
“โม้”
“ไม่”
“มะ...”
“อะแฮ่ม !” เสียงฝาเท้าติดคอที่ดังขึ้นขัดจังหวะทำให้ทั้งผมและไอ้อ้อนรักต้องหันไปมองทางต้นเสียงก็พบว่าเป็นไอ้ซันเจ้าของงานที่เดินเข้ามาหาพร้อมกับกีตาร์หนึ่งตัว และพูดขึ้นมาพลางมองหน้าพวกผมสองคนสลับกัน “เลิกจีบกันแล้วขึ้นไปเรียกลูกค้าให้กูก่อน”
“ให้ไปเต้นโคโยตี้ ?”
“ไม่ใช่มึงไอ้เสือ”
“อ้าวเหรอ”
“ไม่ให้ขึ้น” และเสียงที่แสดงความขุ่นเคืองออกมาเล็กน้อยนั่นทำให้ผมต้องหันหน้าไปมองทางคนข้างๆ ก็เห็นว่ามันกำลังขมวดคิ้วอยู่ ผมเลยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วรับแก้วน้ำส้มมาพลางดันร่างไอ้เด็กหมีไปหาคนที่มาตามมันไปทำอะไรบางอย่างและก็อดถามขึ้นมาไม่ได้
“ไอ้ซันมันให้มึงทำอะไรวะ”
“ร้องเพลง”
“หา...”
เดี๋ยว อะไรนะ ร้องเพลง...
“ร้องเพลง”
“จริงดิ !” แล้วผมก็อดทำตาโตมองไอ้อ้อนรักไม่ได้ แต่อีกฝ่ายกับส่งเพียงใบหน้านิ่งๆ แล้วเอียงคอเล็กน้อยกลับมาเท่านั้น
“พี่เสือ...”
“ปะ...เปล่า กูไม่ได้เป็นอะไร”
แค่ตกใจว่าไอ้เด็กหมีจะร้องเพลง
เหยดดดดดด !
“รีบขึ้นเวทีได้แล้วไอ้อ้อน เสร็จแล้วมึงอยากกลับบ้านไปนอนหรืออยากไปกกไอ้เสือก็ตามใจ” ไอ้ซันที่ยืนมองผมกับไอ้อ้อนรักคุยกันก็พูดขัดขึ้นมาอีกครั้ง พลางขมวดคิ้ว
“ได้”
“ดีมาก”
“จะรีบร้อง”
“อย่าให้กูผิดหวัง”
ไอ้ซันมันพูดอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าไอ้เด็กหมีมันยอมทำตามอย่างว่าง่าย และผมก็แอบเห็นมันถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วย ไม่รู้ว่าโล่งใจที่สามารถจบบทสนทนากับไอ้อ้อนรักได้ง่ายๆ แบบนี้หรือเปล่า ก่อนที่คนข้างๆ ผมมันจะเลิกสนใจพี่รหัสตัวเองแล้วหันมามองผมด้วยแววตาลุกวาว
เดี๋ยวๆ ไอ้เด็กหมี มึงคิดอะไร
“พี่เสือ”
“ว่า”
“ให้กกมั้ย”
กกพ่องงงง !
“ไม่โว้ย ไปหาไอ้ซันเลย !”
“อื้อ...” แล้วก็ขานกลับด้วยเสียงหงอยๆ ระดับสิบ จนผมแทบจะทรุดตัวลงนั่งกุมขมับหัวตัวเองก่อนจะผลักไหล่มันไปแรงๆ หนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้
“ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนี้เลยไอ้เด็กหมี”
“แบบ...”
“ไปได้แล้ว อยากกลับห้องล่ะเนี่ย ง่วง”
“ได้” ไอ้อ้อนรักมันขานรับอย่างว่าง่าย ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ พลางยิ้มออกมา ก่อนที่มันจะเดินตามไอ้ซันออกไปแต่โดยดี ผมที่ได้แต่ยืนมองก็ได้แต่ยกมือขึ้นจับหัวตัวเองแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะเลือกเดินไปนั่งโต๊ะที่พวกง่าวกับเพื่อนไอ้อ้อนรักที่จับจองกันไว้ พอพวกมันเห็นผมก็พากันแซวยกใหญ่ ส่วนผมก็ได้แต่ทำหน้าไม่สนใจและยักคิ้วให้พวกมันไปสองจึก
เบื่อพวกโสดแล้วพาล
แม้จริงๆ กูจะเพิ่งสละโสดก็เถอะ ฮ่าาาา
เออดี พูดเองแล้วก็เขินเอง
เสียงก่อกแก่กที่ดังมาจากบนเวทีทำให้ทุกสายตาอย่างหันไปมองทางนั้นอย่างพร้อมเพียง ก็เห็นว่าร่างสูงหน้าตาดีอย่างไอ้อ้อนรัก ตอนนี้กำลังตั้งไมค์และนั่งลงบนเก้าอี้ที่ถูกจัดเตรียมไว้บนนั้น มันมองมาข้างหน้าได้แป๊บเดียวก็กลับไปสนใจกับภารกิจบนเวทีของตัวเองต่อ แต่นั่นก็เรียกเสียงกรี๊ดจากคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี
“ไลฟ์ๆ”
“น้องอ้อนรักขึ้นเวที กูจะขอบันทึกไว้เป็นความทรงจำที่ดีที่สุด กรี๊ดดด ~”
“ไลฟ์สดเร็วมึง !”
เสียงจากรอบข้างทำให้ผมที่นั่งอยู่เริ่มอยากจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาบันทึกภาพมันไว้บ้างแต่ก็เกิดความลังเลเพราะในที่นี้คงมีไม่น้อยที่กำลังสนใจไอ้อ้อนรักอยู่ และเฟสบุ๊คก็คงเต็มไปด้วยเหตุการณ์วันนี้แน่ๆ
แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้จริงๆ
“น้องป่านน้องเพลง ไอ้อ้อนรักมันร้องเพลงได้จริงดิ”
“อ้าว พี่เสือทำไมถามงี้”
“ก็เห็นขนาดมันพูดยังยากเลยนี่หว่า แต่นี่ร้องเพลงเลยนะ” ผมพูดขึ้นโดยใช้ความคิดข้างในของตัวเอง ก่อนที่สายป่านและเสียงเพลงจะพากันมองหน้ากัน แล้วหัวเราะออกมาดังลั่น ทำให้ผมอดขมวดคิ้วตามไม่ได้
อะไรวะ
“พี่เสือก็รอดูดิ อย่าดูถูกไอ้อ้อนรักเชียว”
“ไม่ได้ดูถูก แค่สงสัย”
ผมแก้ต่างให้ตัวเองท่ามกลางรอยยิ้มของทั้งสองคน ก่อนจะต้องหันกลับไปมองทางไอ้อ้อนรักที่ตอนนี้นั่งนิ่งไปเรียบร้อย มันนิ่งมาก นิ่งจนเกินไป ทำเอาคนที่คอยไลฟ์สด รอดูมันถึงกับเงียบตาม จนกระทั่งไอ้เจ้าของร้านมันตะโกนขึ้นไป
“เฮ้ย ไอ้อ้อนรัก พูดอะไรออกมาหน่อยดิวะ !”
เสียงของไอ้ซันทำให้ไอ้เด็กหมีมันหันไปใบหน้านิ่งๆ ไปมอง ส่วนผมก็ได้แต่มองตามมันอย่างเป็นห่วงอยู่ห่างๆ ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปสวยจะค่อยๆ พูดใส่ไมค์ออกมา
“เสือดุ”
เป็นคำๆ เดียวที่แม่งจับใจความอะไรไม่ได้เลย
เดี๊ยววววว !
“เอาเลย มึงร้องเลย มึงร้องเล้ย !” เสียงที่แสดงความไม่พอใจของไอ้ซันทำเอาทั้งโต๊ะผมและโต๊ะมันขำก๊ากกันออกมา คงเป็นเพราะคงจะคิดว่าไอ้เด็กหมีคงจะพูดอวยพรวันเกิดหรือไม่ก็อะไรที่ดีกว่านี้ แต่กลับเป็น ‘เสือดุ’ เนี่ยนะ
เออ ชื่อกูเอง ถึงจะขำไอ้ซัน แต่ก็อดเขินไม่ได้
วุ้ !
“เหม็น” อยู่ๆ สายป่านก็พูดขึ้นมาพลางเบะปาก พลางใช้มือพัดตรงหน้าตัวเองราวกับพยายามไล่กลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้ทั้งโต๊ะต่างพากันมองมันงงๆ ซึ่งผมเองที่พยายามดมแล้วดมอีกก็ไม่เห็นจะได้กลิ่นอะไรซักนิด จนกระทั่งไอ้ตามใจมันถามขึ้น
“เหม็นอะไรเหรอครับน้องป่าน”
“เหม็นความรัก โอ้โห อิจฉาไปอี๊กกกก ~!”
สายป่านพูดพลางทุบโต๊ะดังป๊าบ ทำเอาผมที่เหมือนจะเป็นสาเหตุต้องสะดุ้งโหยง ก่อนจะแสร้งหลบหน้าหลบตาคนที่มองมา
ไม่รู้ไม่ชี้เว้ย...
“จะร้อง...”
“...”
“ละนะ”
เสียงของไอ้อ้อนรักที่ดังขึ้นทำให้ทั้งร้านเงียบกริบ ตั้งหน้าตั้งตารอฟังอีกฝ่าย แม้กระทั่งเสียงที่กรี๊ดๆ กันอยู่ตอนแรกยังต้องยอมเงียบลง จนผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ และคิดว่าไม่นานร้านนี้คงเต็มไปด้วยสาวๆ แน่ๆ
“อย่าละลายนะพี่เสือ” สายป่านใช้ศอกแซะข้างเอวผมเบาๆ อย่างขำๆ ก่อนที่ตัวเองจะหันไปเถียงก็ต้องยอมหุบปากลงเมื่อเสียงกีต้าร์ที่ถูกดีดเบาๆ จากคนบนเวทีทำให้ผมละสายตาจากคนข้างๆ ไปมองที่มันทันที
เอาอีกแล้ว โดนไอ้เด็กหมีดึงดูดสายตาไว้อีกแล้ว
เสียงกีต้าร์ที่ออกมาเป็นจังหวะที่ไม่คุ้นเคย ทำเอาทั้งร้านเงียบกริบ จะมีเพียงเสียงของรถที่แล่นอยู่ด้านนอกเท่านั้นที่ดังเข้ามา จนกระทั่งอีกฝ่ายเริ่ม ‘ร้องเพลง’ ออกมา
“เธอได้ยินเสียงนั้นหรือไม่ ดังมาจากที่ใดได้ยินหรือเปล่า ฟังออกไหมว่าเสียงอะไรจากที่ไหนใกล้ไกล เสียงดังหรือเบา...”
เหยดดดด เพราะ
“อึ้งเลยดิ ~” สายป่านหันมากระซิบใส่ผมเบาๆ
“อืม”
อึ้งไม่เท่าไหร่ แต่หัวใจนี่เต้นแรงไปแล้วเรียบร้อย เมื่อโดนคนที่ร้องเพลงอยู่บนเวทีมองมา
“คงเป็นเสียงข้างในหัวใจที่สั่นไหวทุกคราว เธอได้ยินเหมือนกันหรือไม่ มันคือเสียงเต้นของหัวใจ ทุกๆ ครั้งที่เรานั้นใกล้ เสียงหัวใจของฉันมันบอกว่า ดีใจ ทุกครั้งที่เจอกัน ดีใจ เมื่อเรานั้นใกล้กันเชื่อไหม ทุกครั้งที่ได้เจอ มันเป็นความสุขของหัวใจ เมื่อเราได้พบกันเสมอ ใจมันเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ...”
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ใบหน้าของตัวเองเป็นยังไง หลายๆ คนที่อยู่ด้านในกำลังนั่งยิ้มกับเพลงรักที่มีจังหวะสนุกโดยคนที่สื่อมันออกมาก็ทำได้ดีไม่น้อย บ้างก็ตบมือ โยกตัวตามจังหวะกีต้าร์ คงมีแต่ผมนี่ล่ะ ที่กำลังนั่งนิ่งตั้งใจฟังเพลงที่มันร้องราวกับพยายามค้นหาความหมาย
เพลงนี้ผมไม่เคยฟัง แต่ทำไม่รู้สึกว่ามันเพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยิน
“เธอได้ยินเสียงนั้นหรือไม่ หากได้ยินเมื่อไร ช่วยบอกฉันที หลับตาฟังแล้วคงเข้าใจ ความรู้สึกข้างในหัวใจที่มี มันคือเสียงข้างใน หัวใจที่สั่นไหวทุกที เธอได้ยินเหมือนกันหรือไม่ มันคือเสียงเต้นของหัวใจ ทุกๆ ครั้งที่เรานั้นใกล้ เสียงหัวใจของฉันมันบอกว่า ดีใจ ทุกครั้งที่เจอกัน ดีใจ เมื่อเรานั้นใกล้กัน เชื่อไหม ทุกครั้งที่ได้เจอ มันเป็นความสุขของหัวใจ เมื่อเราได้พบกันเสมอ ใจมันเต้นแรงทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้เธอ”
โอ๊ย อยากห่อไอ้เด็กหมีกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย มึงอย่ามาทำให้กูหวั่นไหวแบบนี้นะเว้ย ถึงจะร้องเพลงของใครก็ไม่รู้ก็เถอะ
ถึงจะไม่โดนบอกว่าเพลงนี้มันให้ผม แต่แอบเขินไปแล้วนี่ผิดมั้ยวะ
ตะคริวแดกนิ้วอีกแล้ว ฮื้ออออ !
“หน้าแดงแล้วไอ้เสือ”
“พวกมึง กูจะตายแล้ว ฮื้อ...”
“เป็นห่าอะไรวะ” ไอ้ตามใจมันขมวดคิ้วก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ “อ่อ เขินผัว”
“ผัวพ่อง ตบปากแตก ฮื่อ !” ผมชี้หน้าด่าไอ้ตามใจท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนอื่นๆ ก่อนที่คนบนเวทีมันจะร้องท่อนสุดท้ายออกมา
“เสียงหัวใจของฉันมันบอกว่า ดีใจ ทุกครั้งที่เจอกัน ดีใจ เมื่อเรานั้นใกล้กัน เชื่อไหม ทุกครั้งที่ได้เจอ มันเป็นความสุขของหัวใจ เมื่อเราได้พบกันเสมอ ใจมันเต้นแรงทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้เธอ”
“...”
“ใจมันเต้นแรงทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้...”
แล้วแม่งก็จบอยู่แค่นั้น เสียงของกีต้าร์เงียบลงทันที พร้อมกับร่างหมีของไอ้อ้อนรักที่ลุกขึ้น เก็บไมค์ เดินลงมาจากเวทีโดยไม่ยอมพูดอะไร และดูเหมือนการร้องเพลงของมันเพียงแค่นั้นจะทำให้สาวๆ หลายๆ คนวิ่งไปรอรับมันอยู่ข้างเวทีไม่น้อย
“กูอิจฉา”
“ไอ้เสือ ตั้งสติ”
“ทำไมกูไม่เพอเฟคแบบนั้นบ้างวะ นอกจากที่มันพูดไม่รู้เรื่อง อย่างอื่นมันดีหมดเลยนะเว้ย” ผมเริ่มงอแงเมื่อเห็นว่าไอ้อ้อนรักมันโดนสาวๆ รุมขอถ่ายรูป ก่อนจะได้ยินเสียงแซวที่ดังขึ้นจากโต๊ะของไอ้ซันจนผมต้องชะเง้อมองว่าเกิดอะไรขึ้น
“ฮิ้ววววว ~”
“ร้ายว่ะอ้อนรัก”
“ชาตินี้กูไม่ขออะไรมาก ขอสาวสวยแบบน้องมะนาวซักคนก็พอ...”
เดี๋ยวนะ...
“พี่เสือ ลุกเร็ว !” อยู่ๆ สายป่านกับเสียงเพลงก็ทุบโต๊ะดังป๊าบเพื่อเรียกสติผม ก่อนที่ทั้งสองคนจะเข้ามาหิ้วปีกผมให้ลุกขึ้น
“ดะ...เดี๋ยวน้องเพลง น้องป่าน...”
“เดี๋ยวอะไรล่ะพี่เสือ จะโดนคาบไปแดกละนั่น” เสียงเพลงพูดพลางพยักเพยิดไปทางกลุ่มคนที่ตอนนี้แหวกออกจนเห็นเป็นภาพของไอ้อ้อนรักกับมะนาวสาวสวยคนเดิมกำลังยืนยิ้มให้กัน แถมในมือของไอ้เด็กหมีก็มีดอกกุหลาบด้วย
“ห๊ะ อะไรแดก แดกอะไร...”
“โอ้โห พี่เสือ !”
“ปล่อยมันเถอะ มันโง่” ไอ้หลงที่ขมวดคิ้วนั่งมองพวกเราพูดขึ้นพลางยกมือกุมขมับ
อะไรของพวกมันวะ ไอ้อ้อนรักมันมีคนชอบก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง
“โคตรกากเลย” ไอ้ตามใจ
“กากจริงๆ ไร้ความรู้สึกเกินไปแล้ว” สายป่าน
“อืม” ไอ้จั๊ม
“เฮ้ออออ” แล้วแม่งก็ถอนหายใจกันออกมาทั้งโต๊ะ
อะไรของพวกมันวะ
“อ่า...กูไปหาไอ้อ้อนรักนะ...” ผมพูดเมื่อดูเหมือนว่าไม่นานจะต้องโดนไอ้พวกนี้รังแกแน่ๆ เลยได้แต่รีบลุกขึ้นเพื่อเดินไปหาคนที่ตอนนี้ยังคงยืนอยู่ที่เดิม และยังไม่ทันที่จะถึงที่หมายก็ต้องชะงักเมื่อมีใครซักคนมาขวางทางไว้ พอผมหลบซ้ายมันก็ขยับตาม และพอหลบขวาแม่งก็ขยับตามอีก...
เดี๋ยวนะ นี่มันกวนประสาทกันชัดๆ !
“เฮ้ย...!”
“เฮ้ยไรมึง”
“หะ...”
“หึ...”
“เหี้ย...ใครวะ...!” ผมที่ตอนแรกกำลังจะอ้าปากด่าเพราะเจอคำทักทายที่คิดว่าเป็นคนรู้จัก แต่พอเงยหน้าขึ้นมามองก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อตอนนี้คนที่หน้าคุ้นแต่จำชื่อไม่ได้ตรงหน้ากำลังมองผมด้วยรอยยิ้มที่ไม่ค่อยดีนัก
ใครวะ กูคิดแป๊บ
...
“เจอกันมาสามรอบแม่งก็จำกูไม่ได้ซักรอบ”
“ห๊ะ”
“เออ ช่างแม่ง ไปดื่มกันป่ะ” ไอ้คนตรงหน้ามันยกนิ้วขึ้นมาจิ้มหัวผมสองจึก ก่อนจะจับแขนพลางทำท่าจะลากไปอีกทาง แต่ตัวเองรีบยื้อไว้ก่อนจะถามมันงงๆ
“อะไรของมึงเนี่ย ไม่ไป ไม่รู้จัก” ผมรีบสะบัดแขนตัวเองออกก่อนจะมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง ซึ่งทำให้มันหัวเราะออกมา ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้แล้วพูดขึ้นจนทำให้ผมต้องร้องอ๋อ
“กูไง เพื่อนไอ้อ้อนรักที่เจอกันที่ห้างวันก่อน ชื่อธัน”
“อ๋อ...”
เออ จำได้นิดนึงก็ได้วะ...
“ไปกับกูได้ยัง”
“เดี๋ยว ไปไหน ทำไมกูต้องไปกับมึงด้วย”
“อยากรู้จัก”
“ทำไม”
“จะจีบ”
“ห๊ะ” คำพูดของคนตรงหน้าทำเอาผมรีบถอยห่างจากมันหนึ่งก้าว ก่อนจะมองอีกฝ่ายแบบไม่เข้าใจนัก
“ก็ไอ้อ้อนรักไปรีเทิร์นกับแฟนเก่าแล้วไม่ใช่หรือไง แสดงว่ามึงก็ยังว่างอยู่”
“...”
“จีบได้มั้ยล่ะ”
“ไม่...”
“ไม่ได้”
ดูเหมือนคำที่ผมกำลังจะพูดขึ้นก็ถูกใครบางคนแย่งชิงไปซะก่อน พร้อมกับมือของเจ้าของเสียงจะคว้ามือผมไปจับไว้ พอหันไปมองก็อดดีใจขึ้นไม่ได้เมื่อเจ้าของคำพูดและมืออุ่นๆ นี่เป็นของไอ้อ้อนรักที่ตอนนี้ได้เดินมาอยู่ข้างๆ ผมแล้ว ส่วนคนแรกที่ตั้งใจจะช่วยผมอย่างไอ้ตามใจก็ต้องชะงักแล้วโบกมือให้
“มีคนมาช่วยแล้วงั้นกูไปละ”
แล้วแม่งก็เดินออกไปเลย เหลือแค่ผมกับไอ้อ้อนรักเท่านั้นที่ยืนเผชิญหน้ากับคนตรงหน้า
“อย่ามายุ่งกับพี่เสือ”
“ทำไมกูจะยุ่งไม่ได้ มึงคิดจะจับปลาสองมือหรือไงวะ”
“ไม่...”
“ปล่อยมาให้กูซักคนดิ เอาผู้ชายมาก็ได้ มึงเอาผู้หญิงไปไง แบ่งๆ กันเหมือนเมื่อก่อน” เสียงยียวนของคนตรงหน้าทำให้ผมอดเป็นห่วงคนข้างๆ ไม่ได้ แต่เมื่อหันไปมองก็เห็นว่าไอ้อ้อนรักมันไม่ได้แสดงสีหน้าว่าโกรธเคืองอะไรออกมา ได้แต่จับมือผมไว้แบบนั้น จนตัวเองต้องหันไปมองคนที่เข้ามาหาเรื่อง
“ไอ้ธัน”
“อะไร ถ้าให้ผู้หญิงกูไม่เอานะ บอกเลย”
“กูจะพูดใหม่”
“...”
“อย่ามายุ่งกับแฟนกู”
“หืม...”
“พี่เสือแฟนกู”
“...”
“พี่เสือแฟนกู”
“ดะ...เดี๋ยวอ้อน...”
“พี่เสือแฟนกู”
“...”
“พี่เสือ...”
“เออๆ ยอม” อยู่ๆ ไอ้คนตรงหน้ามันก็ยกมือขึ้นเพื่อห้ามให้ไอ้อ้อนรักเลิกพูดประโยคเดิม และถึงมันไม่ห้ามก็จะเป็นผมเนี่ยล่ะที่ห้ามเอง แม่งไม่รู้จะพูดอะไรนักหนา เพราะดูเหมือนตอนนี้ตรงเราจะเป็นที่เรียกความสนใจจากคนรอบข้างพอสมควร และก็เชื่อได้ว่าคำพูดของไอ้อ้อนรักคงไม่ได้ดังเข้าหูแค่คนๆ เดียวแน่
แม่ง เบื่อความหน้าบางของตัวเอง
ไอ้เด็กหมี !
“ไป” ไอ้อ้อนรักที่ตอนนี้หน้าบึ้งอย่างออกนอกหน้าอยู่ๆ ก็ออกเดินและลากผมที่จับมือไปด้วยให้เดินตาม แต่ก้าวได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดลงเมื่อคนที่เคยก่อกวนตอนนี้ไม่เลิกรา และดูเหมือนไอ้อ้อนรักมันเริ่มจะฉุนเต็มที่จนคนตรงหน้าต้องยกมือห้ามไว้
“ไม่ได้จะยุ่งกับพี่เสือมึงแล้ว”
“ถอย”
“เดี๋ยวดิ แค่อยากจะถาม”
“ถอย”
“ใจเย็นดิวะ เฮ้ย พี่น่ะ ห้ามแฟนหน่อย” อยู่ๆ ไอ้คนตรงหน้ามันก็หันมาขอความช่วยเหลือจากผม ที่สำคัญพออยู่ต่อหน้าไอ้อ้อนรักแม่งเรียกผมพี่เฉย
เมื่อกี๊ยังใช้มึงกูปาวๆ โด่
“ซัดหน้ามันเลย”
“ได้”
“เฮ้ย เดี๋ยวดิสัด !!” ไอ้คนชื่อธันมันถอยหลังทันทีเมื่อไอ้อ้อนรักมันทำท่าจะเดินเข้าไปหาแต่ติดที่มือที่จับผมอยู่ตอนนี้ผมจับไว้แน่น และผมก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
สมน้ำหน้า
“ถอย”
“เออๆ แค่จะถามอะไรพี่เสือนิดเดียว...”
“ไม่ให้คุย”
“ไอ้เชี่ยอ้อน อย่างี่เง่าดิ ขอประโยคเดียว”
“ไม่”
“ไอ้...”
“อย่ายุ่งกับพี่เสือ”
“เออ ไม่ยุ่ง...”
“อย่ายุ่งกับแฟนกู”
“ห่า...”
“อย่ายุ่ง”
“เออ ไอ้ห่า !” ดูเหมือนคราวนี้คนตรงหน้ามันจะยอมจำนนแต่โดยดีเมื่อโดนคำพูดรัวๆ ของไอ้อ้อนรัก ผมที่ฟังอยู่ก็ทั้งขำและทั้งเขินกับความขี้หึงของคนข้างๆ ก่อนจะรีบพูดขึ้นเพื่อหยุดศึกระหว่างสองคนที่เถียงกันอยู่
“พอเลยพวกมึง เลิกทะเลาะกัน ไหนมีอะไรจะถาม...”
“พี่เสือ”
“หืม...”
“ห้ามคุยกับมัน” ไอ้อ้อนรักมันหันมามองทางผมทำให้ตัวเองต้องอ้าปากพะงาบๆ ยอมรับว่าแอบอยากรู้ไปแล้วว่าเพื่อนไอ้อ้อนรักมันจะถามอะไร
เดี๋ยวดิ !
“แต่...”
“ห้ามคุย”
“กูถามประโยคเดียว...”
“นั่นดิ อ้อนรัก มันถามแค่...”
“ห้าม”
“แต่...”
“พี่เสือ”
“ประโยคเดียว”
“ประโยค...”
“พี่เสือ”
“...”
“พี่เสือ”
“ห่าเอ๊ย...”
“พี่...”
“เออ ยอมแล้ว ยอมแล้วก็ได้โว้ย !”
ว้ากกกกกกกกกกกกกก !
----------------------------------
จังหวะจะรัก - วี วิโอเลต วอเทียร์
ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ