ตอนที่ 46
อ้อนแล้ว...อยากคบไปนานๆ
“ทำไมมึงมันพิเศษกว่าชาวบ้านชาวช่องเขาห๊ะ คนอื่นเขาไปหาที่พักกันหมด แต่ดูตัวเองดิอยู่กับกูได้เฉย”
ผมพูดขึ้นพลางหรี่ตามมองคนที่อยู่ตรงข้าม โดยตอนนี้เราทั้งคู่กำลังนั่งอยู่ที่ระเบียงห้องของผม ซึ่งวิวตอนกลางคืนของที่นี่ดีไม่น้อย จะมีแต่ยุงเท่านั้นที่เป็นตัวทำลายบรรยากาศ โชคดีที่ผมกับมันเตรียมพร้อมทายากันยุงกันมาเรียบร้อย
“อ่า...”
“วุ้ววว เทโค้กให้มั้ง”
ผมสั่งพลางหยิบขนมเลย์เข้าปากและชี้ไปที่ขวดโค้กที่ตั้งอยู่ข้างๆ ตัวไอ้อ้อนรัก ซึ่งไอ้เด็กหมีมันก็ยิ้มและทำตามคำสั่งผมแต่โดยดี ก่อนที่ตัวเองจะเอาน้ำอัดลมซ่าๆ นั่นเข้าปากก็ต้องร้อง ‘อ่าส์’ ออกมาอย่างสดชื่น
“เอิ้กกกก ~”
เอ้า เรอด้วยเลย
เมื่อปล่อยลมออกจากปากเสร็จผมก็จับขนมเลย์เข้าปากต่อโดยมีไอ้อ้อนรักกำลังนั่งกินแสน็คแจ็คอยู่ข้างๆ มันมองผมไปด้วยตัวเองเลยได้แต่ยักคิ้วไปให้สองจึกแล้วเอนตัวลูบพุงเมื่อเริ่มรู้สึกอิ่มขึ้นมา
“อิ่มจัง ~”
“พี่เสือกินเยอะ”
“ไม่เยอะ”
“อืม” คำพูดที่จำยอมของไอ้อ้อนรักทำให้ผมยิ้มกว้างและลูบพุงโชว์ไปด้วย อีกฝ่ายเลยหัวเราะออกมาเบาๆ “แม่พี่เสือน่ารัก”
“เออออ น่ารักเหมือนกู”
“พ่อพี่เสือโหด”
“ไม่โหดหรอก พ่อชอบตีหน้าขึม” ผมว่าก่อนจะหัวเราะออกมา ทำให้ไอ้อ้อนรักมันหัวเราะตาม “แล้วแม่มึงโหดหรือเปล่า”
“แม่ใจดี”
“พ่อล่ะ”
“พ่อก็ใจดี”
“อ่ออออ งั้นว่างๆ พาไปเจอได้มั้ย”
“ได้”
“อืม กูอยากรู้จักทุกคนในครอบครัวมึง” ผมพูดพลางยิ้มกว้างทำให้ไอ้อ้อนรักมันพยักหน้ารับ ก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดออกมาเสียงเบา
“ขอบคุณนะพี่เสือ”
“หืม”
“ขอบคุณที่เลือกผม”
“น่อวววว” ผมพูดแซวๆ ก่อนจะมองไอ้เด็กหมีที่ยกมือขึ้นมาเกาแก้มตัวเองเขินๆ ก่อนที่ผมจะหัวเราะออกมาเบาๆ “กูต่างหากที่ต้องขอบคุณมึง อุตส่าห์มาเลือกคนอย่างกูทั้งๆ ที่มึงโคตรหล่อ แถมยังมีแฟนมาตั้งหกคน”
“อืม”
“ถามจริง หกคนที่ผ่านมาไม่จริงจังกับใครจริงๆ ดิ” ผมถามพลางขมวดคิ้ว ทำให้ไอ้อ้อนรักมันส่ายหัว ก่อนจะตอบกลับมาโดยกลายเป็นผมที่เป็นฝ่ายเขินบ้าง
“จริงจังกับคนที่เจ็ด”
“...”
“จริงจังกับพี่เสือ”
“เออ กูก็จริงจังกับมึงเหมือนกัน”
“อยากคบไปนานๆ / อยากคบไปนานๆ”
ผมกับไอ้อ้อนรักพูดขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนที่เราทั้งคู่จะต้องหลบสายตากันซะอย่างนั้น ผมที่หันมามองวิวเพื่อลบล้างความประหม่าก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองคนที่ตอนนี้ก้มหน้ามองพื้นโดยใบหน้าขึ้นสีเรื่อเล็กน้อย ทำให้ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้
หน้าแดงอีกละ
“มีความสุขจังเล้ยยย”
อยู่ๆ ผมก็พูดขึ้นเสียงดังทำให้ไอ้คนข้างๆ มันสะดุ้งแล้วยอมเงยหน้าแดงๆ นั่นมามองผม ตัวเองเลยหัวเราะออกมา ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้คนที่นั่งข้างๆ และทำท่าจะเอนตัวลงนอนตักก็โดนไอ้เด็กหมีมันขยับหนีพลางยกมือดันหัวผมไว้
“ห้ามนอน”
“ทำไมห๊ะ”
“ห้ามกินแล้วนอน”
“ไม่เอา เสือจะนอนนน” ผมว่าพลางดื้อดึงที่จะล้มตัวนอนให้ได้ โดยมีไอ้อ้อนรักคอยดันหัวให้อยู่ก่อนที่เสียงเอฟเฟคที่ดังสนั่นขึ้นจะทำให้ผมน้ำตาแทบเล็ด
โป๊ก !
“เอ๊อะ !” ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อหัวของตัวเองที่พยายามยื้ออยู่กับไอ้อ้อนรักอยู่นานตอนนี้มันกระแทกลงพื้นเต็มแรง ก่อนที่ไอ้คนที่ยื้ออยู่กับผมมันจะทำหน้าตกใจแล้วรีบจับหัวผมให้ขึ้นตัก โดยที่ใบหน้าก็หันมองไปทางอื่นเพื่อหนีความผิด “ฮื้อออ ไอ้เด็กหมี !”
“โอ๋นะ...”
พูดว่าโอ๋แต่ไม่หันมามองหน้ากันซักนิด ฮ่วย !
“งื้อ เจ็บ”
“โอ๋นะ” ในที่สุดคนที่หันหน้าหนีไปก็หันกลับมามองทางผมแล้วยกมือขึ้นลูบหัวเบาๆ พลางส่งยิ้มมาให้ ผมเลยได้แต่ลูบหน้าอกตัวเองเพื่อลดอาการใจเต้นแรง โดยแสร้งทำท่ากระซิกสำออยทั้งๆ ที่หัวตอนนี้ก็เริ่มหายเจ็บบ้างแล้ว
“มึงทำร้ายร่างกายกู...”
“ขอโทษ”
“พรุ่งนี้พาไปเที่ยวเลย”
“พี่เสือต้องพาไป”
“เออ จริงด้วย” ผมพูดแค่นั้นก่อนจะขมวดคิ้วกับตัวเองเมื่อเป็นอย่างที่ไอ้อ้อนรักมันว่าจริงๆ เพราะลืมไปว่าผมเป็นเจ้าบ้านไม่ใช่มัน ก่อนที่ตัวเองจะมองใบหน้าที่ตอนนี้ก้มมองมาที่ผมพร้อมรอยยิ้มอยู่ ก่อนตัวเองจะหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วพูดขึ้นมาลอยๆ “ทำไมมึงถึงมาอยู่ตรงนี้ได้น้า ~”
“ตามพี่เสือมา”
“ไม่ใช่สิ แบบทำไมมึงถึงมาเป็นแฟนกู กูถึงมาเป็นแฟนมึงแบบนี้”
“อ่า...”
“กูไปหลงรักมึงตอนไหนเนี่ย”
“จีบ...”
“...”
“เพราะพี่เสือบอกให้จีบ”
“หืม...”
“ชอบเลยจีบ”
“อ๋ออออออ ~”
ผมขานรับยาวๆ ก่อนจะนอนอมยิ้มอยู่แบบนั้น ซึ่งก็ได้แต่นึกขำอยู่ในใจว่าตัวเองไปหลงคนแบบไอ้อ้อนรักได้ยังไง ทั้งๆ ที่มันก็ออกจะเด๋อซะขนาดนี้ ไหนจะเรื่องที่บอกว่าจีบแต่เป็นการจีบที่ไม่เหมือนใครนั่นอีก และก็ต้องสงสัยว่ามันเองก็มาชอบคนแบบผมได้ยังไง ทั้งๆ ที่มันก็สามารถหาแฟนได้ดีกว่าผม สามารถเจอคนที่ดีกว่าผม นี่รักแรกจริงๆ เหรอ เห็นแล้วชอบเลยจริงๆ เหรอ มันแค่นั้นจริงๆ ใช่มั้ย
มีแต่เรื่องแปลกๆ วุ้ย
“พี่เสือคิดอะไร”
“คิดว่ามึงชอบกูได้ยังไง”
“...” ไอ้อ้อนรักมันขมวดคิ้วก่อนดีดลงมาบนหน้าผากผมแรงๆ จนตัวเองร้องเสียงหลงแล้วยกมือกุมหน้าผาก
“อ้อนรัก มึงทำร้ายร่างกายกูอีกแล้วนะ !”
“พี่เสือถามไร้สาระ”
ละแม่งก็ว่าผมด้วย วุ้ย !
“เอ้า ก็มันอยากรู้ คำตอบของมึงมันไม่เคลียร์เว้ย มันสงสัยอ่ะ !”
“ก็แค่รัก ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสงสัยเลย” คำพูดยาวๆ ของไอ้อ้อนรักทำให้ผมต้องขมวดคิ้วตาม แม้จะแอบเขินบ้าง ก่อนที่คนตรงหน้าจะคลึงคิ้วผมเบาๆ โดยที่เจ้าตัวเองก็คลายปมบนหัวคิ้วตัวเองออกแล้ว “แค่รู้ว่ารักก็พอแล้ว”
“ก็แค่อยากรู้ว่าทำไมถึงรักนี่หว่า...” ผมพูดพลางลากนิ้ววนลอบหน้าอกตัวเองเพื่อลดอาการหัวใจเต้นแรง “คือกูแบบ...ไม่รู้ดิ เหมือนมันไม่มีอะไรดึงดูดเลย เป็นคนโคตรธรรมดา ไม่เคยมีใครมารักมาชอบ พอมีมึงเข้ามากูก็เหมือนจะชอบเอาแต่ใจอีก เลยคิดว่าแบบ ทำไมมึงถึงชอบกูนะ กูไม่ได้ดีซักหน่อย...”
“พี่เสือ”
“หือ...”
“พี่เสือเป็นยังไง”
“ก็...” ผมขมวดคิ้วมองคนที่ตั้งคำถาม ก่อนจะทำท่าคิดนิสัยของตัวเองแล้วพูดออกมา “กูเอาแต่ใจ...”
“ไม่”
“กูชอบพูดคำหยาบ ชอบด่า”
“ไม่”
“เอ่อ...กูกินเก่ง”
“...”
ไอ้อ้อนรักมันมองหน้าผมเมื่อตัวเองพยายามเค้นคำพูดออกมา ก่อนจะทำได้แค่อ้าปากพะงาบๆ เท่านั้น เมื่อตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปต่อ ก่อนที่ไอ้เด็กหมีมันจะจับร่างผมให้ลุกขึ้นนั่ง ซึ่งตอนแรกตัวเองที่ทำท่าว่าจะงอแงก็ต้องหุบปากเงียบเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ามันตีหน้าดุส่งมาให้โดยที่ร่างกายของผมก็หันหน้าเข้าหามัน
“พี่เสือน่ารัก”
“อะไรเล่า...”
“รู้แค่นี้ ที่เหลือไม่รู้ด้วยหรอก”
“เหรอออออ”
“อืม”
ผมกลั้นยิ้มไว้ ก่อนจะยกมือขึ้นมายีแก้มไอ้เด็กหมีที่ทำหน้าซื่อตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยวแล้วหัวเราะออกมา ก่อนที่อีกฝ่ายจะเอื้อมมือมาจับใบหน้าของผมบ้างพลางขยับใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วจุ๊บที่หน้าผากตามด้วยริมฝีปากของผมเบาๆ แล้วถอยออก
“รักมึงนะ”
“...”
“เอ้า อย่าช็อค !”
ผมว่าก่อนจะเอื้อมมือไปตีแก้มไอ้อ้อนรักเบาๆ เมื่อเห็นว่าไอ้เด็กหมีมันนิ่งค้างไปซะแบบนั้น ก่อนที่อีกฝ่ายจะกระพริบตาปริบๆ แล้วจ้องมองมาที่ผมโดยที่ปากก็เหมือนจะพยายามอ้าพูดแต่ก็ต้องหุบปากลงแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อยเท่านั้น
“พี่เสือพูด...”
“เออ กูพูด มึงอ่ะได้ฟังหรือเปล่า”
“หูอื้อ”
“เดี๋ยวเถอะ” ผมทำท่าชูมะเหงกไปให้มันหนึ่งทีพลางหรี่ตามองคนที่หัวเราะอยู่ ก่อนจะพูดขึ้นใหม่อีกครั้ง “กูรักมึงเด็กหมี”
“ใครเด็กหมี”
“มึงไง”
“ไม่หมี”
“หมี”
“ไม่”
“หมีดิวะ”
“ไม่หมี”
“ฮ้วย !” ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหวกับการเถียงของคนตรงหน้า และนั่นมันก็ทำให้ไอ้อ้อนรักมันหัวเราะออกมาเบาๆ จนต้องมองหน้ามันอย่างหาเรื่อง แต่สุดท้ายก็ยอมพูดจนได้ “รักมึงนะอ้อนรัก”
“...”
“ช็อคอีกละ”
“ไม่ได้ช็อค” เสียงพูดเบาๆ ที่แทบจะไม่ได้ยินนั่นทำให้ผมขมวดคิ้ว “ตื่นเต้น...”
น่าแกล้งจริงๆ
“รักมึงนะอ้อนรัก”
“...”
“รักมึงนะอ้อนรัก”
“...”
“รักมึงนะเด็กหมี”
“พะ...พี่เสือ...!”
“หน้าแดงแล้ววุ้ว !”
ผมว่าก่อนจะส่งสายตาล้อเลียนไปให้คนตรงหน้า ซึ่งอีกฝ่ายก็ได้แต่ยกมือขึ้นมาปิดบังใบหน้าตัวเองไว้แบบนั้น ก่อนที่ผมจะต้องร้องจ้ากออกมาเมื่ออีกฝ่ายกระโจนเข้ามาทับร่างของผมจนตัวเองต้องทิ้งตัวลงนอนกับพื้นเย็นเฉียบโดยมีไอ้เด็กหมีนอนกอดไว้โดยเอาหัวเกยขึ้นอยู่บนอกของผม
เข้าสู้โหมดขี้อ้อนแล้วไง
“รักพี่เสือ”
“เออ”
“รักพี่เสือมาก”
“อ่าหะ”
“รักพี่เสือมากๆ”
“อืมมมมม” ผมลากเสียงยาวๆ ก่อนจะลูบหัวไอ้เด็กหมีที่เกยขึ้นมาอยู่บนอกเบาๆ ซึ่งอีกฝ่ายก็ได้แต่นอนอยู่แบบนั้น และเราทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่ปล่อยให้ลมเย็นๆ ตอนกลางคืนพัดโดนร่างกายอยู่แบบนั้น และใครจะรู้ว่าหลังจากหวานกันเสร็จ ผม ‘เสือดุ’ คนนี้แค่ได้เอนตัวลงนอน แม้สถานที่และบรรยากาศจะไม่เป็นใจก็ตามแต่มันก็ทำให้ผมสามารถเข้าสู่ห้วงนิทราได้
จริงๆ นะ...
คร่อก ~
“ฮัดชิ้ว ~!”
“ไอ้เสือ น้ำลาย !”
ฟืดดดด ~
เสียงสูดน้ำมูกหลังจากที่ผมโดนคำด่าพร้อมท่าทางขยะแขยงจากพี่หมา ทำให้ตัวเองกับไอ้อ้อนรักที่ตอนนี้ถูจมูกจนแดงอยู่ข้างๆ ได้แต่มองคนในบ้านที่มองมาทางพวกเราเป็นตาเดียว
และถ้าถามว่าผมเป็นอะไร คงเป็นเพราะเมื่อคืนเราทั้งคู่นอนกันอยู่ที่ระเบียงจนตีสาม ซึ่งพอถามว่าไอ้อ้อนรักทำไมไม่ยอมปลุกผมมันก็บอกมันมันหลับเหมือนกัน
ให้ตายสิ
“มีอะไรกันเหรอทุกคนนน ~”
“ไม่มีห่าอะไรทั้งนั้น”
“ไม่จริง” ผมพูดกลับทันที โดยมองพี่หมาที่ตอนนี้กำลังชะงักการกินหลังจากที่เอาแขนเปื้อนน้ำลายจากการจามของผมมาเช็ดเสื้อผ้า ซึ่งสายตาของอีกฝ่ายก็แสดงออกว่ากำลังรังเกียจสุดๆ ผมก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วหันไปมองถามแม่ที่กำลังเตรียมของที่ออกไปซื้อมาจากตลาดตอนเช้าแทน “แม่มีอะไรหรือเปล่า ทำไมบ้านดูคึกคัก”
“ไม่มีอะไรจ้ะน้องเสือ”
“เอ้า”
“กลับขึ้นห้องไปไป๊ มาจามมั่วซั่วเดี๋ยวคนอื่นเขาติดหวัด”
“เหรอจ๊ะพี่หมา...ฮัดเช้ย !”
ว่าแล้วก็หันไปจามใส่แม่ง
“ไอ้ห่าเสือ !”
โป้ก !
“โอ๊ย !”
“มึงไปไกลๆ ตีนกูเลย !”
“แม่ พี่หมาทำร้ายร่างกายเสือ !”
“ก็น้องเสือไปแพร่เชื้อใส่เขา เป็นแม่ แม่ให้มะเหงกสองที” ผมที่หันไปฟ้องแม่ก็ต้องเบะปากทันทีโดยปล่อยให้ไอ้พี่หมามันเอาแขนมาถูไถกับหัวของผม ก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหาไอ้อ้อนรักที่ตอนนี้ยืนถูจมูกตัวเองดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ ก่อนจะเห็นว่าพ่อเดินลงมาจากชั้นสองพอดี ผมเลยรีบเบี่ยงตัวไปหาคนที่ตอนนี้เดินหาวลงมา “พ่อออออ ~”
“หยุด !”
กึก...
ผมที่หยุดชะงักทำให้ทั้งบ้านหันมามองทางพ่อเป็นตาเดียว เมื่อคนตรงหน้าชี้มาทางผมแล้วสั่งไว้เสียงดุ
“ได้ยินแว่วๆ ว่าจะแพร่เชื้ออะไร ไม่ต้องมาเข้าใกล้พ่อเลยนะ”
“น้องเสือจะแพร่เชื้อหวัดจ้ะพ่อ”
“ไปดีกว่า อย่ามาเข้าใกล้ป๊ะป๋านะ” ว่าแล้วก็เดินสะดีดสะดิ้งไปด้านนอกทันที ทิ้งให้ผมยืนเหวออยู่แบบนั้น
แม่งครอบครัวโคตรรักกูเลยเว้ย !
“อ้อนรัก”
ผมเรียกชื่อคนที่มองสถานการณ์อยู่เงียบๆ ซึ่งอีกฝ่ายก็หันมามองผมพลางทำหน้างง ตัวเองเลยเลยเข้าไปหามันแล้วมองอีกฝ่ายอ้อนๆ อีกคนมันเลยยกมือขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ อย่างรู้งาน ก่อนที่ตัวเองจะหันไปเบะปากให้พี่หมาที่มองมาด้วยท่าทางหมั่นไส้หนึ่งที เลยโดนท่าชูนิ้วกลางแซกหน้ามาเต็มๆ
ไอ้พี่แม่งโหดร้าย กระซิก...
“น้องเสือกับหนูอ้อนขึ้นไปนอนพักก่อนก็ได้ลูก เดี๋ยวตอนเย็นแม่จะเตรียมของกินเยอะๆ ไว้ฉลองวันครอบครัวเราอยู่ครบ”
“ของกินเยอะ ~”
“ใช่แล้ว ปีนี้มีเต้ยและอ้อนรักด้วย ต้องจัดใหญ่ๆ”
“ขอบคุณครับแม่”
“ขอบคุณครับ”
เสียงพี่เต้ยกับไอ้อ้อนรักที่เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวผมที่เพิ่มขึ้นต่างยิ้มไปให้แม่ทางเดียวกัน ตัวเองที่ตอนนี้ตื่นเต้นไปกับคำว่าของกินเยอะไปแล้วก็ได้แต่ทำตาลุกวาว จนไอ้อ้อนรักต้องดึงแก้มเพื่อเรียกสติ ก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อหันไปแล้วเห็นว่าไอ้พี่หมามันมายืนจ้องเขม็งผมกับไอ้อ้อนรักอยู่
“อะไรพี่หมา หาเรื่องอะไรเสืออีก”
“ไม่ได้หาเรื่อง”
“...”
“แต่อย่าคิดว่าเมื่อคืนกูไม่เห็นนะที่พวกมึงทำอะไรกัน”
“หะ...เห็นอะไร !” ผมเบิกตากว้างพลางทำหน้าตกใจ ทำให้ไอ้อ้อนรักมันสะกิดผมเบาๆ เมื่อผมเล่นใหญ่เกินไป ตัวเองเลยหันไปหัวเราะแฮ่ใส่มันแล้วหันมาถามพี่หมาอีกครั้ง “เห็นอะไรห๊ะ”
“มึงกับแฟนมึงทำอะไรกันที่นอกระเบียง”
ขวับ...
แล้วทั้งบ้านก็หันมามองทางผมและไอ้เด็กหมีเป็นตาเดียว ไม่เว้นแม้แต่พ่อที่เดินกลับเข้ามาพร้อมหนังสือพิมพ์ในมือ ส่วนไอ้เด็กข้างๆ ก็เผยไต๋ออกมาด้วยการยกมือเกาแก้มเขินๆ แล้วหันหนีไป
เข้...
“ทะ...ทำอะไร เสือไม่ได้ทำอะไร พี่หมาพูดอะไรเนี่ย บ๊าาา ~!”
“เสียงสูงเชียวนะมึง”
“วุ้ววว ไปดีกว่า เด็กหมีขึ้นห้องกัน” ผมพูดก่อนจะรีบดึงร่างของคนข้างๆ ให้เดินขึ้นบันไดตามมา ซึ่งไอ้อ้อนรักมันก็ยืนเอ๋อนิ่งๆ อยู่ซักพัก แต่สุดท้ายก็ก้าวตามจนได้ ก่อนที่ไอ้พี่หมาจะพูดขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับควักโทรศัพท์ขึ้นมาโชว์ ‘หลักฐาน’ ท่ามกลางสายตาพ่อกับแม่ที่มองมาเต็มๆ
“กูมีรูป”
ละนั่นแหละ การเอาคืนของไอ้พี่หลังจากผมไม่จามใส่มันไปสองที
โหดร้ายที่สุด กระซิก...
รูปผมกับไอ้อ้อนรักที่กำลังนั่งจูบกันอยู่ที่ระเบียงโดยถูกกถ่ายจากบริเวณห้องข้างๆ และนั่นมันก็ทำให้พ่อกับแม่อึ้งๆ ไปบ้าง แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและพากันตั้งใจทำสิ่งที่ทำค้างไว้ต่อ แต่สีหน้าของอีกฝ่ายนี่สิที่ทำให้ผมรู้ว่าทั้งคู่รับรู้เต็มๆ
พ่อครับ แม่ครับ มันก็มีบ้างนิดๆ หน่อยๆ เอง ฮื้อ...
“ไอ้พี่หมาบ้า ไม่คุยด้วยแล้ว !”
“เออ กูก็ไม่อยากคุยกับมึงเว้ย !”
“เชอะ !” ผมแลบลิ้นใส่พี่ชายไปหนึ่งที ก่อนจะหันไปลากตัวไอ้อ้อนรักขึ้นห้องก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าไอ้เด็กหมีตอนนี้มันเดินก้าวพรวดๆ ไปหาพี่หมาที่กำลังเก็บโทรศัพท์ของตัวเอง ซึ่งอีกฝ่ายก็ชะงักเช่นกันพลางมองหน้าไอ้อ้อนรักอย่างหาเรื่อง
“อะไรมึง จะมาออกตัวปกป้องแฟนมึงหรือไง”
“เออ อ้อนรัก เอาโหดๆ ให้พี่หมาลบรูปนั่นเลย...”
“...” ส่ายหัว
“อ้าว”
“งั้นมีอะไร”
“พี่หมาครับ” เสียงของไอ้อ้อนรักที่ดังขึ้นพร้อมกับจ้องหน้าพี่ชายของผมด้วยความหนักแน่นและจริงจัง ก่อนที่มันจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาแล้วยกขึ้นปิดใบหน้าตัวเอง ทำให้ทั้งผมและคนในบ้านต่างมองทางมันอย่างลุ้นๆ กับท่าทางแบบนั้น “ขอรูป...”
“...”
“ได้มั้ย...”
พรืดดดด ~
แล้วเสียงหลุดหัวเราะจากคนที่กำลังรื้อของสดอยู่ก็ดังขึ้น พร้อมกับเดินลากพ่อที่ยืนนิ่งค้างไปออกไปข้างนอกทันที ขนาดพี่เต้ยที่ว่านั่งกินขนมอยู่เงียบๆ ยังแอบหันไปหัวเราะเบาๆ คงมีแต่ผมกับพี่หมาเท่านั้นที่ตอนนี้ยืนอ้าปากค้างไปเรียบร้อย
แล้วไอ้หน้าตาวิงวอนสุดชีวิตนี่มัน...
เดี๋ยวนะ
“ไอ้อ้อนรักกกกกกกกกกกก !!”
----
ขอบคุณค่ะ