ตอนที่ 45
คิดถึงเสือ
“กูจะกลับละนะ”
“เฮ้ย เดี๋ยวดิ กลับยังไง รอกลับพร้อมกัน” เสียงของไอ้กันต์ที่พูดขึ้นพร้อมกับโยนผ้าขี้ริ้วมาใส่ผม ทำให้ตัวเองรู้ว่ามันจังไรไม่น้อยหลังจากที่ได้นอนห้องเดียวกัน แม่งชอบตดอัดผ้าห่มทุกคืน เอาซะกูไม่ได้นอน
ไอ้หอกหัก เสียความรู้สึกสัดๆ ที่เคยพูดเพราะกับมันมา
“บ้านกูอยู่แถวนี้ ว่าจะแวะไปหาแม่”
“อ่อๆ ให้เราไปส่งป้ะ”
“ขอร้องอย่าแทนตัวเองว่าเรา กูเอียน” ผมหรี่ตามองมันทำให้อีกฝ่ายหัวเราะก้ากออกมา ก่อนจะยอมพยักหน้าหงึกหงักจำยอม
“เออๆ ให้กูไปส่งเปล่า”
“มึงจะไปยังไง มารถทัวร์ ไม่มีรถส่วนตัว อย่าทำตัวเป็นพระเอกหรือจะซิ่งรถทัวร์ไปส่งกู”
“ได้เสมอเมื่อเสือต้องการ”
“บาย”
ผมหรี่ตามองมันครั้งสุดท้ายก่อนจะโบกมือลาไอ้พวกที่ตอนนี้นั่งแดกถั่วต้มกันอยู่ในห้องพัก ถึงว่าแม่งตดทีกูแทบเป็นลม ส่วนไอ้พวกที่ตอนแรกทำหน้าอาลัยอาวรผมตอนนี้แม่งเปลี่ยนเป็นโบกมือไล่เรียบร้อย โคตรไม่มีความจริงใจ
เชอะ เสือจะไม่ทน !
ผมแบกกระเป๋าเป้เดินออกจากห้องพักราคาถูกด้วยความเซ็ง ซึ่งรอบนี้เป็นการมาค่ายที่แม่งไม่มีอะไรเลย พวกมันแค่ให้ผมาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ละลึกให้ และสาเหตุจริงๆ คือหนีมาเที่ยวกันเฉยๆ เมื่อปฏิบัติภารกิจเสร็จผมเลยขอชิ่งกลับบ้านทันที
ว่าแต่คิดถึงเด็กหมีจัง ~
ผมที่ตอนนื้ออกมายืนรอรถสองแถวก็ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูโซเชียลพลางๆ และใครจะคิดว่าการทำแบบนี้จะทำให้ผมพลาดรถไปถึงสองคัน เลยต้องยอมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าไปแล้วตั้งหน้าตั้งตากับการรอรถแทน จากที่แดดไม่ค่อยมีตอนนี้กลับสว่างจ้าเผาหนังหัวผมจนแทบไหม้ ในใจก็ได้แต่ภาวนาให้รถคันที่สามผ่านมาซักที
จากนี่ไปถึงบ้านก็ไม่ไกลนัก ทำต้องมาอับโชคเรื่องรอรถด้วยวะ !
เออ ผิดเองล่ะ ที่เล่นโทรศัพท์ ฮื้อ !
ผมเอามือป้องบังแดดโดยที่สายตาก็โหยหารถสองแถวสุดๆ ก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อมีใครบางคนมาจิ้มที่เอวผมแรงๆ
จี๊ดเลย...
ที่สะดุ้งไม่ได้จั๊กจี้แต่อย่างใด แต่นิ้วแม่งฝังลึกเข้าไปเกือบถึงซี่โครงกู
ไอ้ห่า !
“ทำไมยังยืนตากแดดอยู่ตรงนี้วะ หรืออยากผิวแทน”
“แทนพ่อง” ผมหันไปทำหน้าบึ้งใส่ไอ้คนที่ทำร้ายร่างกายผม เมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูที่จำได้ดี ซึ่งก็คือไอ้กันต์คนจังไรคนเดิมนี่เอง ซึ่งผมเห็นว่ามันกำลังถือถุงน้ำแข็งอยู่ คาดว่าคงแวะออกมาซื้อไปตั้งวงกันต่อ “กูรอรถ มึงกลับเข้าไปได้แล้วไป เดี๋ยวน้ำแข็งละลายหมด”
“เออ งั้นกูไปละ”
“...”
เออ แล้วแม่งก็โบกมือลาแล้วไปจริงๆ
อยู่เป็นเพื่อนกูก่อนก็ได้โว้ย !
ผมมองหลังลิบๆ ที่เดินจากไปแล้วก็ขมวดคิ้วอยากจะกระทืบเท้าด้วยความขัดใจ แต่ก็กลัวว่าใครจะผ่านมาเห็นแล้วจะโทรแจ้งโรงพยาบาลซะก่อน ก่อนที่ตัวเองจะหันมาตั้งหน้าตั้งตารอรถก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อรถสองแถวที่ผมยืนรอมาเกือบสองชั่วโมงตอนนี้ได้ผ่านหน้าไปอีกคัน...
“ฮะ...เฮ้ย...!”
แล้วแม่งก็ซิ่งไปไม่รอกูที่วิ่งตามแถดๆ เลย
ย้ากกกกกกกก เสือจะไม่ทนแล้ว !!
“แห่ก...”
ผมที่ตอนนี้ยืนหอบแห่กอยู่หน้าบ้านหลังจากที่สามารถต่อรถสองแถวมาได้จนสุดทางและกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยในเวลาบ่ายสองกว่าๆ เนื้อตัวจากที่เคยขาวจัดตอนนี้ก็ขึ้นสีแดงเพราะแดด แต่ก็อารมณ์ดีขึ้นมาเมื่อคิดได้ว่าจะเข้าไปเซอร์ไพรซ์พ่อแม่ที่ไม่ได้เจอมาเกือบปี ก่อนที่ผมจะต้องแปลกใจเมื่อตอนนี้มีเสียงดังครื้นเครงมาจากในบ้านอย่างผิดปกติ ไหนจะรถยนต์ที่เหมือนจะคุ้นตาสองคันจอดอยู่ด้านหน้าด้วย
เดี๋ยวนะ ถึงจะแปลกใจไปหน่อยก็เถอะ...
ไอ้คันแรกน่ะ ของไอ้ตามใจแน่ๆ
แต่คันที่สองนี่มัน...
ผมที่เริ่มตั้งสติได้ก็แบกกระเป๋าเป้ขึ้นบ่าแล้วก้าวดุ่มๆ เข้าไปในรั้วบ้านที่ไม่ได้ล็อกไว้ทันที ก่อนที่เสียงเรียกชื่อใครบางคนจะทำให้ผมสะดุดกึก
“อ้อนรักนี่กินง่ายดีนะ เลี้ยงง่ายเชียว แม่ชอบ”
“...”
“เพื่อนๆ น้องเสือก็น่ารักจังเลยน้า”
“คร้าบบบบ ~”
และไอ้เสียงที่ตอบรับคำแม่ของผมนั่นก็ทำให้ตัวเองขนลุกซู่ขึ้นมา
แม่งมาครบเลยไม่ใช่เหรอวะนั่น...
ผมสลัดความข้องใจของตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน และอย่างแรกที่ผมเห็นคือไอ้อ้อนรักกำลังโดนแม่คลำนู้นคลำนี่ และมันก็หันมาสบตาเข้ากับผมพอดี อีกฝ่ายยิ้มดีใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง จนกลายเป็นผมเองที่ตอนนี้อ้าปากเหวอไป
“พี่เสือ”
“ดะ...เดี๋ยวนะ...”
หนึ่ง...สอง...สาม...สี่...ห้า...หก...เจ็ด...
เอ่อ...แปด
เดี๊ยวววว !
“น้องเสือมาแล้ว ทุกคนมาร้องเฮดีใจกันเร็วววว ~”
“มะ...แม่”
“แม่ต้องเพิ่มข้าวสารในหม้ออีกแล้ว ฮื้อ...” ผมมองหญิงสายวัยกลางคนที่ไม่ได้ทำตัวแก่ตามวัยทำท่าปาดน้ำตาแล้วเอนซบอกไอ้อ้อนรัก ก่อนจะเห็นว่าตอนนี้แก๊งเดอะง่าวทั้งสามรวมถึงแก๊งเพื่อนไอ้อ้อนรักกำลังนั่งจิ้มขนมไทยหลากสีเข้าปากแล้วหันมายิ้มกว้างให้ผม จนตัวเองต้องขมวดคิ้ว และมันก็ต้องทำให้ผมคิดหนักไปกว่านั้นเมื่อเห็นว่าพี่หมากับพี่เต้ยที่เป็นจำนวนคนที่เจ็ดกับแปดและควรจะกลับไปตั้งแต่วันหยุดยาวหมด ตอนนี้กลับกำลังยืนถกเถียงกันอยู่ในบ้าน
“มึงจะเอาไอ้เหมียวกับไอ้แมวไปไหน”
“อาบน้ำ”
“ไอ้ห่าเต้ย มึงเพิ่งอาบให้มันไปเมื่อวาน !”
“จะอาบอีก” เสียงพี่เต้ยพูดพลางอุ้มแมวสองตัว ซึ่งตัวหนึ่งคือไอ้เหมียวแมวสีขาวล้วนที่บ้านผมเลี้ยงไว้กับไอ้แมวของไอ้อ้อนรักตัวส้มอยู่ในอ้อมแขนแล้วเดินมาหาแม่ที่ยืนอยู่ “แม่ เต้ยอาบน้ำแมวเหมียวนะ”
“จ้า ตามสบายเลย”
“ครับ” พี่เต้ยขานรับเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินกลับไป “ไอ้หมามาช่วยกู”
“ไม่เอา มันข่วน เมื่อวานแผลเต็มหลังกู”
“ไม่ได้ มึงต้องช่วย”
“มึงอยากอาบก็อาบเองดิวะ”
“เร็ว”
“เออ ห่า อาบเสร็จแล้วเอาต่อนะ”
“ได้ แต่ห้ามทำแรง”
“เค กูจะจัดแรงๆ”
ผมที่ตอนนี้อ้าปากเหวอกับบทสนทนาของสองพี่ที่เดินหายไปทางห้องน้ำ ก่อนจะหันมามองแม่ทำท่าปาดน้ำตาอีกครั้ง
“แม่ชินแล้วแหละลูก กระซิก...”
เดี๋ยวนะ...
นี่มันเกิดอะไรกับบ้านกูวะเนี่ย !!
ผมมองไปรอบๆ โดยปากยังคงอ้าค้างไว้ เมื่อไอ้อ้อนรักมันเห็นท่าทางแปลกๆ ของผมก็เอียงคอแสดงทีไม่เข้าใจ และเมื่อแม่ผละร่างออกไปมันก็เดินเข้ามาหาแล้ววางมือแปะลงบนหัวผมทันที
“คิดถึง”
“เดี๋ยวนะ...”
“พี่เสือมาแล้ว”
“เดี๋ยวๆ อ้อนรัก” ผมพยายามตั้งสติ แล้วเงยหน้ามองมัน โดยตอนนี้แม่เดินไปทิ้งตัวนั่งกินขนมกับไอ้พวกแก๊งเดอะง่าวแล้ว และทุกอย่างมันก็ดูปกติไปหมด ทั้งๆ ที่ควรจะมีอะไรมากกว่านี้ที่ลูกชายกลับมาบ้าน
“ขอโทษนะน้องเสือ แม่ตื่นเต้นไปหมดตั้งแต่ที่เพื่อนลูกมาเมื่อวานแล้ว วันนี้เลยไม่ได้ซ้อมแอคติ้งไว้น่ะ...”
เดี๋ยวนะแม่...
ยังงี้ก็ได้เรอะ !
ผมที่ทำหน้าไม่ถูกได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ก่อนที่ไอ้คนตรงหน้ามันจะเอื้อมมือมาคว้ากระเป๋าเดินทางใบโตไปจากมือของผม แล้วเอื้อมมือมาจับมือผมไว้พลางพาเดินขึ้นบันไดมาบนห้อง ผมเองก็ได้แต่ยอมเดินตามมันมาเพราะไม่รู้จะทำยังไง และดูเหมือนว่าไอ้อ้อนรักมันจะพาผมเดินมาที่ห้องนอนของตัวเองอย่างถูกต้อง ซึ่งห้องถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ไอ้อ้อนรักมันก็เอากระเป๋าไปวางแล้วเดินเข้ามาแล้วสวมกอดผมไว้หลวมๆ
“พี่เสือคิดถึง”
“เดี๋ยวๆ ไอ้อ้อนรัก...”
“คิดถึง”
“ห่างกันแค่ไม่กี่วันเองไม่ถึงอาทิตย์ด้วย ว่าแต่มึงมาที่นี่ได้ไงห๊ะ”
“โทรหาพี่หมา”
แล้วผมก็ต้องร้องอ๋อขึ้นมาในใจ
โอเค ฉลาดมากไอ้เด็กหมี !
“มึงมาทำไม” ผมถามขึ้นพลางดันร่างอีกคนออกแล้วขมวดคิ้วมองหน้ามันเพื่อหาคำตอบ ก่อนที่ไอ้อ้อนรักมันจะพูดออกมา
“อยากเจอ”
“แค่นี้ ?”
“อืม”
“เฮ้อออออออออออ !”
ผมถอนหายใจยาวๆ ออกมาจนไอ้อ้อนรักมันขมวดคิ้วตามแล้วเอียงคอมมองงงๆ ก่อนที่ตัวเองจะจิ้มหัวมันจึกๆ ไปสองที ไอ้อ้อนรักมันก็ยกมือขึ้นมากุมหน้าผากไว้ ผมเลยเดินมาทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงโดยมีไอ้เด็กหมีตามมายืนอยู่ใกล้ๆ
“พี่เสือ...”
“อะไร”
“โกรธเหรอ”
“เปล่า” ผมพูดพลางหรี่ตามองอีกฝ่าย “แต่มึงทำอะไรไม่ปรึกษากู”
“พี่เสือห้ามติดต่อ”
โอเค อันนี้ผิดเองก็ได้
“แล้วแห่กันมาทำไมตั้งเยอะแยะ” ผมถามคำถามที่สงสัยที่สุดออกไป เพราะถ้าไอ้อ้อนรักมาคนเดียวก็ไม่แปลกเท่าไหร่ แต่นี่ยกมาทั้งแก๊ง
แม่ง อุส่าห์จะหนีมาอยู่อย่าสงบๆ มีไอ้ตัวป่วนทั้งหลายตามมาอีกละ
“เที่ยว”
“ฮึ่มมมม” ผมขมวดคิ้วมองไอ้อ้อนรัก ซึ่งตอนแรกอีกฝ่ายก็มองกลับมา ก่อนจะหันหน้าหนีไป แล้วพูดต่อ
“พี่หมากับพี่เต้ยขอติดรถมาด้วย”
“อ๋อ”
ว่าละ ทำไมยอมบอกกันง่ายๆ
หน็อย ไอ้พี่หมานี่ !
“พี่เสือไม่โกรธนะ”
“โกรธเว้ย !”
“โอ๋”
“ไม่ต้องมาโอ๋เลย !” ผมดันร่างไอ้อ้อนรักไว้เมื่อเห็นว่ามันทำท่าจะเข้ามาสวมกอด จนอีกฝ่ายชะงัก ก่อนจะจับมือผมออกแล้วทิ้งตัวทับลงมันจนตัวเองแทบกระอัก “แอ่ก...!”
“คิดถึงพี่เสือ”
แล้วแม่งก็กอดผมไว้ทั้งๆ ที่ยังทับอยู่แบบนั้น
งื้อออ !
“อ้อนรัก หนักกกกก !”
“ไม่หนัก”
“หนักเว้ย ลุกออกจากตัวกูไปเดี๋ยวนี้เลยนะ !”
“ได้”
และดูเหมือนคำตอบที่ออกมาอย่างง่ายดายนั่นจะทำให้ผมถอนหายใจโล่งอก ก่อนจะต้องร้องด้วยความตกใจอีกครั้ง เมื่อตอนนี้ไอ้เด็กหมีมันพลิกตัวเองลงนอนหงายโดยโอบกอดร่างผมจนขยับขึ้นไปทับมันอยู่ด้านบนแทน ผมเลยได้แต่มองหน้าอีกฝ่ายอย่างหาเรื่อง
“อะไรห๊ะ”
“ไม่หนักแล้ว”
“ปล่อยกูเดี๋ยวนี้เลย” ผมขมวดคิ้วก่อนจะพยายามแงะแขนแกร่งของอีกฝ่ายออก แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลนัก เมื่อไอ้อ้อนรักมันเห็นว่าผมเริ่มทำหน้าบึ้งก็ล็อกเอวผมไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกมือก็ยกขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ แล้วขยับมาดึงแก้มแรงๆ
“อ๊อยยยยย !”
“ฮึ...”
ผมเบะปากใส่ไอ้เด็กหมีทันที เมื่อมันดึงแก้มผมเสร็จแล้วปล่อยออก แถมยังหัวเราะออกมาด้วย ก่อนที่ตัวเองจะรีบดันตัวลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยอมคลายกอดออกแล้ว ไอ้อ้อนรักมันจึงลุกตามแล้วมองมาที่ผมยิ้มๆ
“ยิ้มอะไรห๊ะ”
ถึงจะหล่อแต่ก็ไม่ให้อภัยหรอก
“ดีใจ”
“...”
“ที่ได้อยู่กับพี่เสือ”
“เหรอออ กูไม่เห็นดีใจเลย” ผมว่าก่อนจะจับเส้นผมตัวเองแก้ความประหม่า ก่อนจะต้องชะงักเมื่อเห็นสีหน้าสลดของอีกฝ่าย แล้วยอมบ่นออกมาเบาๆ “เออ ดีใจก็ได้วะ...”
แต่ไม่รู้ว่าเบาขนาดไหนถึงทำให้อีกฝ่ายถึงกลับปรับสีหน้าสลดแล้วยิ้มกว้างออกมา
แพ้อีกแล้ว...
“พี่เสืออยากกินอะไรหรือเปล่า”
“อยาก หิวมาก”
“ป้ะ”
ไอ้อ้อนรักมันพูดเพียงแค่นั้น ก่อนที่มันจะพาผมลงไปด้านล่างอีกครั้ง
ให้ตายสิ ไม่รู้ว่าตอนนี้ใครเป็นเจ้าของบ้านแล้ว !
ดูเหมือนเย็นวันนี้จะมีคนร่วมโต๊ะมากกว่าปกติ ซึ่งแม่ก็ยังคงร่าเริงเหมือนเดิม คงมีแต่พ่อที่ยังทำท่าสะบัดบ็อบใส่ผมไม่เลิก จนสุดท้ายตัวเองต้องไปอ้อนจนอีกฝ่ายดีด้วย และใช้เวลาในการกินข้าวเย็นไม่นาน พวกไอ้แก๊งเดอะง่าวและเพื่อนไอ้อ้อนรักก็ขอตัวแยกย้ายกลับไปที่ห้องพักที่มันตะเวนหากันตั้งแต่เมื่อวาน เพราะที่บ้านผมไม่สามารถรองรับได้หมด และผมก็เพิ่งรู้ว่าพี่หมาเพิ่งเดินทางมาจากกรุงเทพฯ พร้อมกับไอ้อ้อนรักหลังจากที่กลับไปแล้วรอบหนึ่ง
‘ช่วงนี้กูกับไอ้เต้ยอยู่ในช่วงวิกฤตไม่มีจะแดก เลยกลับมาขอข้าวแม่กินซักพักแล้วเดี๋ยวจะกลับกรุงทพฯ’
‘อ๋อ...’
คำพูดของพี่หมาทำให้ผมขานรับได้เพียงเท่านั้นจริงๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อกับไอ้พี่ชายคนนี้ดี ซึ่งพี่เต้ยก็ทำหน้าซื่อๆ ไม่รู้ไม่ชี้ จนผมคิดว่าไอ้คู่สองผัวเมียคู่นี้นี่มันยังไงๆ
พี่หมาเป็นแฟนกับพี่เต้ย คบกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ทั้งคู่เปิดเผยกับพ่อแม่ตั้งแต่คบกัน จนตอนนี้เรียนจบแล้วทั้งสองคนก็ยังคบกันอยู่
ทั้งๆ ที่ผมมองว่าไม่มีอะไรเข้ากันซักนิด
พี่เต้ยเป็นคนใจเย็น พี่หมาเป็นคนใจร้อน
พี่เต้ยเป็นคนคิดก่อนพูด ส่วนพี่หมาเป็นพูดก่อนคิด ง่ายๆ คือปากหมา
พี่เต้ยนิสัยดี พี่หมานิสัยไม่ดี ถ้าวัดจากที่ผมรู้จัก
และทั้งคู่ไม่เคยชอบผู้ชายแต่กลับมาชอบกัน
อ่า...อะไรของเขาวะ
“ไอ้เสือ มึงมีปัญหาอะไรกับกูหรือเปล่า เห็นมองหน้ากูนานละ” ในที่สุดดูเหมือนพี่หมาจะทนไม่ไหวเมื่ออยู่ๆ ผมก็มาเคาะห้องเขาแล้วยืนมองหน้าอยู่แบบนั้น
“มี”
“อะไร ถ้าไม่มีสาระกูโบกนะ”
ละแม่งชอบใช้ความรุนแรงด้วย ไอ้พี่ห่า
“พี่หมากับพี่เต้ยคบกันได้ไง”
“อะไรของมึงวะ” พี่หมาทำหน้างงๆ เมื่อเจอผมถามคำถามไป แต่เมื่อเห็นผมจ้องหน้าไม่ยอมถอยไปไหนจึงยอมตอบออกมา “ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็มีมันอยู่ข้างๆ แล้ว”
“ทำไมถึงคบ”
“เอ้า ไอ้ห่านี่ ไม่รักกันแล้วจะคบหรือไง”
“พี่หมารักพี่เต้ยเหรอ”
“เออ”
“แล้วพี่เต้ยรักพี่หมาหรือเปล่า”
“รักมาก”
“มันมั่ว” แล้วคนที่นั่งเล่นไอ้เหมียวกับไอ้แมวอยู่ในห้องก็พูดขึ้น ทำให้ผมชะเง้อไปมองก็เห็นว่าพี่เต้ยกำลังนั่งยิ้มอยู่ ทำให้พี่หมาหันไปคาดโทษทันที
“ไอ้เสือไปเดี๋ยวมึงโดน”
“ไม่กลัว”
“เออ !” เสียงไม่พอใจของพี่หมาทำให้พี่เต้ยขำออกมา ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินหนีออกไปนอกระเบียงโดยปล่อยให้ไอ้สัตว์สี่ขาทั้งสองเดินป้วนเปี้ยนอยู่ในห้อง ตามด้วยพี่ชายของผมที่หันมามองหน้าผมอีกครั้งโดยใบหน้าก็ไม่เป็นมิตรเหมือนเดิม “กลับห้องมึงไปได้ละ คำถามมึงแดกเวลาชีวิตกูมาก”
“เอ้า ก็อยากรู้”
“ทำไม มึงไม่ได้รักไอ้อ้อนรักหรือไง”
“รัก”
“งั้นก็กลับไปไป๊” ไอ้พี่หมามันยกมือผลักหัวผมแล้วจับร่างกายให้หันไปทางห้องนอนตัวเอง ก่อนจะปิดประตูหายตัวเข้าไปในห้องนอนทันที แผนเสือกบวกอยากรู้อยากเห็นเรื่องของเขาเลยต้องจบลงเท่านี้ จริงๆ ก็ไม่อยากจะทำเท่าไหร่ แต่เพิ่งเคยเห็นพี่หมาพูดจาแบบโจ่งแจ้งด้านล่างแบบไม่อายใครเลยอยากรู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไงเวลามีแฟนเป็นผู้ชาย
เอ่อ...งั้นก็คงเป็นเรื่องปกติล่ะ...
ผมยิ้มออกมาก่อนจะเดินไปทางห้องนอนตัวเอง ในใจก็มีความสุขขึ้นมา เมื่อความรักของผมไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนหรือรู้สึกแย่ อย่างน้อยครอบครัวก็รับได้และไม่รู้สึกแบบนั้น
เอาล่ะ งั้นพร้อมละ...
ผมเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องนอน ก่อนจะเห็นว่าไอ้อ้อนรักมันกำลังปัดที่นอนอยู่ เมื่ออีกฝ่ายหันมาเห็นผมเจ้าตัวก็ยิ้มออกมา
“เด็กหมีจ๋า...”
“หืม...”
“คิดถึงจังเลยยยย ~”
-------------------------------
สาเหตุที่มาลงช้าๆ เพราะคิดชื่อตอนไม่ออก ฮ่าา หากตั้งซ้ำท้วงกันได้ค่ะ
นับถอยหลังเนอะ อีกสองตอนจบแล้ว แล้วก็ตอนยาวคงเป็นตอนหน้าอีกตอนเดียว เพราะบทส่งท้ายเราก็สั้นๆ เหมือนเดิม ส่วนตอนพิเศษ เดี๋ยวค่อยว่ากันเนอะ ^^
ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ