[สนพ.B2S] คนของความจำ [END]#แจ้งข่าวรูปเล่มหนังสือหน้า 6 (24/10/61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [สนพ.B2S] คนของความจำ [END]#แจ้งข่าวรูปเล่มหนังสือหน้า 6 (24/10/61)  (อ่าน 31632 ครั้ง)

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด


2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม


6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)


18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

บทนำ


ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของบรรดาแฟนคลับ

ที่ยืนแออัดกันหนาแน่นอยู่ ณ ที่แห่งนี้

 
ดวงตานับพันต่างจับจ้องไปที่คนคนเดียว

คนคนเดียวที่สะกดทุกสายตา สยบทุกการเคลื่อนไหว

และตราตรึงทุกห้องหัวใจ

 
ผมคงเป็นคนเดียว ที่ได้แต่ยืนมองเขา จากที่ที่ห่างไกลออกไป

ไม่อยากให้เขารับรู้ ว่ายังมีใครอีกคน ที่ได้แต่แอบมองเขาอยู่ที่ตรงนี้

 
เขา ที่ผมไม่อาจเอื้อมถึง

เขา ผู้เป็นที่รักของใครหลายๆ คน

เขา ผู้มีรอยยิ้ม ที่แสนอ่อนโยน

เขา ผู้มีผมสีน้ำตาลอ่อนที่แสนนุ่มนวล

เขา ที่เป็น " ผู้ชาย " ที่เปรียบเสมือน " เจ้าชาย "


ใช่แล้วล่ะ ผมเป็นแฟนคลับ ของเขาคนนั้น

แต่ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกชายรักชายหรอกนะ

มันคงเป็น...ความชื่นชม ผมคิดแบบนั้น

 
แต่...เขาคง จำผมไม่ได้แล้ว

แต่ว่า... ผม จะไม่มีวันลืมเขาได้แน่นอน

" คนของความทรงจำ "


***************************************************************************************


  PS. นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรท์เท่านั้น โปรดใช้จักรยานในการอ่าน หุหุ
 
  PS. เป็นแนวฟีลลิ่ง ที่ค่อนข้างซับซ้อน หนักไปทางดราม่า คอมเมดี้ ความรุนแรง NC 20+
 
  PS. กดถูกใจหรือคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์บ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2018 16:18:09 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ P_Methayot

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
รอตอนต่อไปนะครับ  :heaven

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
รอตอนต่อไปนะครับ  :heaven

ขอบคุณนะคะ แต่ขออภัยนิดนึง
ลงงานผิดพลาดค่ะ ขออนุญาติลงใหม่นะคะ

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          FC ที่ 1 รัก ที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ


          ถ้าคุณกำลังจินตนาการถึงเมะหรือเคะหนุ่มรูปงามอยู่ละก็ เลิกคิดซะเถอะ เพราะที่คุณกำลังคิดอยู่นั่นน่ะมันไม่ใช่ผม ณ ตอนนี้เลย ฮ่าๆๆ

          ผมชื่อมิน รู้แค่นั้นก่อนละกัน อายุ 19 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะมนุษศาสตร์ ภาควิชาดนตรี ของมหา'ลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง

          ฟังดูเหมือนจะเป็นหนุ่มหน้ามนสุดหล่อ เล่นดนตรีสุดเท่ห์อะไรแบบนั้นใช่ป่ะ แต่จริงๆ มันตรงกันข้ามเลยล่ะท่าน ใครเห็นผมก็ต่างคิดว่าผมเรียนช่างก่อสร้างอะไรทำนองนั้นมากกว่า บรรดารุ่นน้องสถาปัตย์ที่บังเอิญเจอผม ก็ถึงกับต้องยกมือไหว้ผมประหลกๆ พร้อมทำหน้าตาตื่นกลัวกันเป็นแถว แบบคือว่าข้าไม่ใช่รุ่นพี่คณะเอ็งนะเฟ้ย พูดละของขึ้น

          เฮ้อ แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นสิ่งที่ผมต้องการต่างหาก ผมไม่ชอบเป็นจุดเด่น ไม่ชอบให้ใครมาสนใจ อยู่เงียบๆ ทำตัวกลมกลืนกับธรรมชาติเข้าไว้ แต่เห็นผมสภาพแบบนี้เถอะ เครื่องดนตรีที่ผมถนัดที่สุดก็คือ เปียโน มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป ไม่ใช่แค่กิจกรรมฆ่าเวลา แต่มันคือส่วนหนึ่งในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ ช่วงเวลาว่างๆ ผมก็มักจะมาที่ห้องชมรมเสมอ แทบจะกินนอนอยู่กับมันเลยแหละ

          " เชี่ยมิน เมื่อวานอย่าบอกนะว่า มึงแอบไปเฝ้าไอ้รูปหล่อนั่นมาอีกแล้วน่ะ "

          มาแล้วไง ไอ้เกลียวเพื่อนเกรียนของผม มันเป็นคนเดียวที่รู้ว่าผมเป็น แฟนคลับ ลับๆ ของเขาคนนั้น แต่ดีที่มันไม่ใช่พวกปากสว่าง ไม่งั้นผมคงฆ่ามันหมกส้วมไปนานแล้ว ผมไม่พูดตอบโต้อะไร แกล้งทำหูทวนลมไปงั้น อยากตบกบาลมันสักทีจริงๆ ให้ดิ้นตาย

          และถึงจะเห็นมันแบบนั้นก็เถอะ แต่จริงๆ ดีกรีเป็นถึงมือไวโอลินระดับประเทศ ประกวดมาร้อยแปดเวที เรียกได้ว่าเวลามันอยู่บนเวทีกับข้างล่างนี่ ต่างกันหน้ามือเป็นหลังทีนเลยทีเดียว อยากจะจับมันมัดติดกับไวโอลินจริงๆ เพราะอยากเห็นมันสงบปากมั่งไงล่ะ เผลอเป็นกัด กัดสะบัดซะด้วย ไอ้เพื่อนเลว แต่มันหล่อนะครับ จริงๆ ไม่อยากจะพูดแบบนี้แต่มันเป็นพวกหล่อเสียของนั่นแหละ สาวๆ หลงมันจะตายตอนมันเล่นไวโอลิน แต่พอมันวางไวโอลินเท่านั้นแหละ ตัวใครตัวมันเถิด ปวดหัวกับมันฉิบหายเลยล่ะ

          " มึงนี่มัน แฟนคลับตัวจริงเสียงจริงเลยนี่หว่า หรือเพื่อนกรูจะเบี่ยงเบนจริงๆ วะ​ " นั่น ปากมันน่าเอาบาทาลูบพระพักต์ไหมล่ะ

          " กูแค่ชื่นชมเขา กูอยากเพอร์เฟคเหมือนเขา โอเคไหมครับคุณเกลียว " อย่างมึงรู้แค่นั้นก็พอ ขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืดกับมัน

          " แต่มึงจะไปเบียดเสียดกับคนอื่นทำไมวะ ทั้งๆ ที่ไอ้หล่อนั่นก็เรียนอยู่ที่นี่เหมือนกัน กูละงงกับมึง "

          " ก็กูเป็นแฟนคลับเขา กูก็อยากเจอเขาทุกที่นั่นแหละ " จริงๆ ที่ผมชอบไปตามสถานที่ต่างๆ ที่เขาไปปรากฎตัวต่อหน้าแฟนคลับ ก็เพราะมันปลอดภัยต่างหากละครับ มันยากต่อการเจอตัว และยากต่อการมองเห็น ผมไม่อยากให้เขารู้ตัวว่าผมแอบปลื้มเขาอยู่

          ที่มหา'ลัย ผมพยายามเลี่ยงทุกทางที่เป็นไปได้ว่าอาจจะจ๊ะเอ๋กับเขาเข้า เพราะกลัวความหล่อของผมจะไปเตะตาเขาซะนี่ ถุย ว่าไปนั่น ฮ่าๆ

          มันคงจะดูตลกมาก ที่ผู้ชายแบบผม จะไปกรี๊ดกร๊าดโบกป้ายไฟเย้วๆ เหมือนที่สาวๆ เขาทำกัน ผมชอบ ที่ได้แอบมองเขา อยู่ในมุมเล็กๆ ของผมมากกว่า ถ้าหากมันเป็นความรักแล้วละก็ มันก็คงเป็นรัก ที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ

          " รักที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน ถุยยยยย ขนลุกว่ะ " เชี่ยเกลียวนี่ แม่งมันมีพลังอ่านใจหรือไงวะ ตกใจหมด

          " มึงมั่วแล้ว รักห่าไรล่ะ แค่คิดก็ท้องไส้ปั่นป่วนละ "

          " มึงอย่ามาทำซึน เห็นมึงยืนวาดวิมานกูก็เดาความคิดมึงออกละ " กูควรฆ่ามึงจริงๆ สินะ

          " ว่าแต่พรุ่งนี้กูได้ข่าวมาว่า งานเปิดตัวสินค้าที่พารากอน ไอ้หน้าหล่อนั่นไปด้วยนี่หว่า มึงไม่เคยพลาดอยู่แล้วนี่ ใช่ป่ะใช่ป่ะ " แม่งเอ้ยเสือกรู้ดีอีก ว่าจะไปแบบเงียบๆ แล้วเชียว

          " แล้วไงวะ เสือกอีกแล้วนะมึงเนี่ย "

          " กูไปด้วยดิ นะนะ กูจะไปเหล่สาวๆ แฟนคลับ เผื่อมีแหล่มๆ บ้าง "

          " มีแต่ป้าๆ ทั้งนั้นแหละ สนไหมล่ะมึง "

          " มึงก็พูดไป แต่ว่าป้าๆ นั่นสายเปย์เปล่าวะ เปย์มากูเอานะมึง "

          " สึด อย่างมึงป้าเค้าก็เลือกนะเฟ้ย เปย์มึง ป้าเค้าคงไปเปย์คิงคองที่สวนสัตว์ดีกว่ามั้ง "

          " มึงก็ ชมกูเกินไปแล้ว " ผมดูมันยืนเกาหัวแกรกๆ บิดไปมาอย่างเขินอาย นี่กูไม่ได้ชมมึงนะ

          " กูไปละ คุยกับมึงเหมือนไอคิวกูโดนกัดกล่อน " ผมพูดและรีบเดินหนีมันเลยฮะ แม่งเดี๋ยวพรุ่งนี้มันตามมาจริงๆ  ผมคงร้องไม่ออก มันเหนียวยิ่งกว่าปลิงอเมซอนซะอีกไอ้นี่


พรุ่งนี้เจอกันนะครับ "พี่พริ้น" ของผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2018 16:20:37 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ P_Methayot

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
เชียร์ให้หนุ่มเปียโนได้กับหนุ่มไวโอลินจะผิดไหม 555
รอตอนต่อไปครับ ว่าแต่มินนี่พอเปลี่ยนลุคให้ดูดีๆ แล้วต้องหล่อแน่เลย ใช่ป่าวๆ
 :3123: :pig4:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          FC ที่ 2 คำขอโทษที่ไม่อาจส่งถึง


          วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่ง ที่ผมมาหลบมุมยืนรอคนที่ผมตั้งใจจะมาแอบมองเค้าเหมือนทุกที และก็เหมือนทุกๆ ครั้ง คลื่นสาธารณะชนหลั่งไหลเข้ามาในบริเวณงานไม่ขาดสาย ทุกคนต่างตั้งใจ ที่จะมาเฝ้าดูคนคนนั้น

          พี่พริ้น เป็นดารานายแบบหนุ่มชื่อดัง ที่มีผลงานในวงการมากมาย มีใบหน้าที่หล่อเหลาดุจภาพวาด เหมือนหลุดออกมาจากนิยายยังไงยังงั้น ตัวสูงตระหง่าน ดั่งเจ้าชายที่สง่างาม ออร่าความหล่อแผ่กระจายถึงแม้ว่าจะโดนรายล้อมอยู่ก็ตาม ใบหน้าของพี่พริ้นจะมีรอยยิ้มอยู่เสมอ เป็นรอยยิ้มที่แค่ได้เห็น ก็แทบจะละลาย ทั้งเฟลนลี่ และเป็นกันเองกับแฟนคลับอยู่เสมอ แค่ได้สบตา ทุกคนก็รู้สึกเหมือนวิญญาณแทบจะออกจากร่างเลยทีเดียว

          ไม่ใช่แค่นั้น พี่พริ้น ยังเป็นทายาทตระกูล สหวัฒนวรางกูร ซึ่งเป็นตระกูลที่เก่าแก่และมีอิทธิพล ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศเลยทีเดียว เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทุกคนก็ว่าได้ คนอะไรจะครบเครื่องปานนี้ หายากใช่ไหมล่ะ

          แต่ทั้งหมดที่พูดมานั้น ไม่ได้ทำให้ผมชื่นชมผู้ชายคนนี้หรอกนะ

          แต่เป็นเพราะ เพราะว่าผมน่ะ ชื่นชมพี่ ก่อนที่พี่ จะเป็นพี่ทุกวันนี้ซะอีก

          เพราะว่าพี่ ถึงทำให้ผมยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้านี้

          เพราะว่าพี่ ได้ต่อชีวิตที่ไร้ค่าของผม

          เพราะว่าพี่ คือผู้มีพระคุณของผม

          " เจอตัวแล้ววว " เสียงตะโกนจากคนที่ผมไม่อยากเห็นหน้ามากที่สุด กำลังวิ่งหน้าตาตื่นมาทางผม ซึ่งทำให้ใครหลายๆ คนในบริเวณนั้นหันมามอง ผมนี่อยากเอาหัวมุดพื้นกระเบื้องแถวนี้จริงๆ สิให้ตาย

          " ทำบ้าอะไรของมึงวะ แหกปากหาเตี่ยมึงหรือไง " ผมรีบตะครุบปากไอ้ตัวดี และรีบลากมันออกมาให้ไกลจากตรงนั้นโดยเร็วที่สุด

          " โด่วว แค่นี้ทำหงุดหงิดไปได้ สุดหล่อของมึงน่ะ ไม่สนใจอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง " เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจ ไอ้เกลียว มึงนะมึง กูรู้อยู่แล้ว ไม่ต้องมาตอกย้ำโว้ย

          " มาทำห่าอะไรวะ "

          " ก็กูว่างอ่ะ เลยแอบตามมึงมา " คำตอบที่ได้ยิน แทบจะทำให้ผมอยากบีบคอมันให้ตายห่าคามือเลยทีเดียว

          " เอ่อ ขอโทษนะคะ " สาวๆ กลุ่มหนึ่งเดินตรงมาหาผมกับไอ้ตัวยุ่ง ที่ตอนนี้ผมกำลังจะกินเลือดกินเนื้อมันอยู่ เอาอีกแล้วสินะ อย่าให้หนังหน้า เขี้ยว และลักยิ้มของมันหลอกเอาได้สิพวกเธอ
         
          " ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ " สาวน้อยถามไอ้เกลียวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

          " อ๋อ ได้สิคร้าบบ เกลียวจัดห้ายเลย " ว่าแล้วมันก็ดึงมือถือของสาวคนนั้นมา และถ่ายรูปกลุ่มของพวกเธอ พลางยื่นกล้องกลับคืนให้หล่อนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสุดขีด ผมถึงกับกุมขมับตัวเองอย่างเสียมิได้ ปวดหัวจริงโว้ย

          " เขาขอถ่ายรูปมึงเฟ้ย " ผมพูดพลางตบกบาลมันไปทีนึง มันถึงทำหน้าเหมือนตรัสรู้ขึ้นมาทันที

          " อ๋อ ถ่ายเลยครับ ถ่ายผมกับเพื่อนผมหล่อๆ นะครับ "  มันพูดพลางโอบไหล่ผมทันที ไอ้นี่ กูเพื่อนเล่นมึงเหรอห๊า

          " เอ่อ ขอแค่พี่คนเดียวได้ไหมคะ " เธอพูดจบ พร้อมกับมองผมด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่า มึงอย่าได้เสล่อมาอยู่ในรูปเชียวนะ เฮ้อ ผมน่ะ ชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว เลยยิ้มให้สาวๆ อย่างจริงใจ ว่าผมไม่เจือกหรอกครับ ใครจะอยากถ่ายคู่กับคนแบบผมละครับ สภาพวันนี้ก็ดูไม่จืดเลยสักนิด

          " งั้นขอโทษนะครับ ผมกับเพื่อนไม่ว่างแล้วครับ ขอตัวก่อน " ไอ้เกลียวว่าพลางจูงผมห่างออกมา ผมรู้สึกงงมาก ที่อยู่ดีๆ มันก็ทำท่าทางไม่พอใจขึ้นมา ทั้งๆ ที่มันเป็นพวกบ้าบอ และโกรธคนไม่เป็น

          " มึง เป็นอะไรวะ " ผมสงสัย เพราะมันไม่ยอมพูดอะไรเลยเป็นพัก

          " ทำไมมึงถึงยอมให้คนอื่นมาดูถูกมึงอยู่เรื่อยเลยวะ "

          " เค้าก็ไม่ได้ดูถูกกูซะหน่อย เค้าแค่ไม่สนใจกูมั้ง ไม่เห็นต้องคิดมากเลย กูก็ไม่อยากให้ใครสนใจกูอยู่แล้ว "

          "  มึงชอบทำตัวแปลกๆ มีอะไรปิดบังกูอีกหรือป่าว " คำถามของมันทำให้ผมตกใจ ผมไม่ชอบคำถามนี้เอาซะเลย

          " กูว่ามึงคิดมากเกินไปจริงๆ " ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

          " ไม่รู้สิ แต่กูหงุดหงิดว่ะ กูไม่ชอบให้ใครมาดูถูกเพื่อนกู " สิ่งที่มันพูด ทำให้ผมยิ้มน้อยๆ อย่างโล่งใจ มันก็แค่เรื่องนี้สินะ

          " อืม คราวหลังกูจะซัดให้หน้าหงายเลย เวลามีใครมาว่ากู โอเคไหม " ผมพูดพลางทำท่าแย๊บซ้ายขวากลางอากาศ ถึงไอ้เกลียวมันจะปัญญาอ่อน แต่จริงๆ มันรักเพื่อนมาก ผมรู้สึกผิดลึกๆ ข้างใน แต่ก็ทำได้แค่ปล่อยผ่านไป

          " ทำไมมึงไม่ทำตัวเองให้ดีๆ วะ กูมองมึงดีๆ แล้ว กูว่ามึงไม่ได้ขี้เหร่เลยนะ "

          " เอ่อ กูหิวแล้วว่ะ ไปหาอะไรกินกันเถอะ นะ " ผมรู้สึกว่าเราไม่ควรพูดเรื่องนี้ต่อ อีกสักวินาทีเดียว

          ผมรีบลากมันเข้าไปในร้านฟ๊าดฟู๊ดสิ้นคิดทันที พอได้กลิ่นอาหาร สมองไอ้เกลียวมันก็จะเออเร่อ ลืมทุกอย่างที่กำลังคิด แล้วกระโจนแดกทุกอย่างที่ขวางหน้าแบบลืมหายใจ ผมยิ้มให้กับสภาพอันน่าสมเพชของสุดหล่อที่บัดนี้ ทุกอนูบนใบหน้ามันมีแต่เศษไก่ พร้อมกับวาดรูปด้วยซอสในจานอย่างตั้งใจ ประหนึ่งมันคือลีโอนาโด ดาวินชี่ยังไงยังงั้น

         
" ขอโทษนะ " เสียงกระซิบที่แผ่วเบา เป็นคำสั้นๆ ที่ผมหวังว่าคนที่ฟัง จะไม่ได้ยินมัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2018 16:22:34 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          FC ที่ 3 ลางแห่งการหวนคืนสู่ฝันร้าย


          บรรยากาศในรั้วมหา'ลัยก็เป็นสิ่งที่ผมชอบเหมือนกันนะ ได้มองผู้คนหลากหลายมากมาย เดินผ่านไปผ่านมา มีตั้งแต่สาวหมวย สาวทรงโต สาวสั้นเสมอหู สาวเนิ๊ด สาวแว่น ไปจนถึงสาวสยอง หน้าเชิดๆ ปากแดงๆ รองพื้นผิดเบอร์ กับเสื้อนักศึกษาที่กระดุมไฟหน้า เหมือนอยากจะกระเด้งออกมาอยู่ทุกวินาที ปกติแล้วไม่ค่อยมีสาวๆ แลผมสักเท่าไหร่ แต่สาวสยองพวกนี้น่ะ กลับชอบส่งตาหวานเยิ้มมาให้ ทำเอาผมขนหัวลุกเลยทีเดียว

          อยากรู้สภาพผมในมหา'ลัยกันใช่ไหมล่ะ ผมมักแต่งตัวเรียบร้อยถูกระเบียบเสมอ ซะเมื่อไหร่ล่ะ ฮ่าๆ เสื้อนิสิตแขนยาว ที่ไม่เคยเอาชายเสื้อเข้า ไม่เคยรีดอีกต่างหาก ผิวที่คล้ำแดดจนไหม้เกรียมของผม ช่างเข้ากับเสื้อนิสิตสีขาวที่บัดนี้กลายเป็นสีครีมไปซะงั้น กางเกงยีนส์สีซีด ที่ขาดวิ่นซะจนคิดว่าขาที่สามอาจโผล่ออกมาดูโลกได้ ฮ่าๆๆ รองเท้านี่ไอเทมสำคัญ เพราะมันคืออีหนีบที่ผมรักมาก ได้มาจากหน้าร้านเกมส์หลังมอนั่นแหละ ฮ่าๆ แต่สิ่งที่ผมชอบมากๆ อีกก็คือทรงผมของผมนี่ล่ะ มันยาวและไม่เคยเป็นทรง เอาจริงๆ คือไม่ได้หวีนั่นแหละ ตบท้ายด้วยแว่นสายตาที่เลนส์หนาหนักจนดั้งแทบจะรับน้ำหนักไม่ไหว

          แค่นี้ก็พอจะนึกออกใช่ไหมล่ะ ว่าทำไมถึงไม่มีใครอยากยุ่งกับผมนัก ขนาดเด็กติสๆ อย่างสถาปัตย์ยังดูมีสง่าราศีเมื่อเทียบกับผมที่มันกาลกินีชัดๆ และผมมักจะมีปัญหากับพวกอาจารย์อยู่เสมอ แต่ความพยายามของพวกท่านก็ไม่เป็นผลซะหรอก ทุกคนคงเอือมกับผมจนเปลี่ยนเป็นการคิดว่าผมเป็นแค่อากาศธาตุในห้องเรียนไปซะเฉิบ นั่นคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วล่ะ

          " นั่งทำไรวะ หนีมานั่งเหล่สาวไม่ชวนเลยอ่ะ " ไอ้ตัวขัดความสุขกูมาละ มึงมานั่งข้างกูนี่ จากที่กูดูพอเป็นผู้เป็นคนบ้าง บัดนี้กูกลายเป็นหลุมดำไปเลย

          " เบื่อขี้หน้าว่ะ " ผมว่าพลางลุกขึ้นยืน เก็บกระเป๋าเตรียมเดินไปโรงอาหารคณะ เพราะนี่เป็นช่วงพักกลางวันครับ

          ไอ้เกลียว เป็นพวกแต่งตัวถูกระเบียบเป๊ะ แต่งตัวเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมละสงสัยจริงๆ ว่ามันผูกเนคไทมาเรียนได้ยังไงทั้งๆ ที่เชือกรองเท้ามันยังผูกข้างซ้ายกับข้างขวาติดกัน จนมันลงไปนอนกัดถนนอยู่บ่อยๆ เป็นเรื่องที่น่าพิศวงงงงวยแต่ผมก็ไม่อยากคิดให้ปวดหัวหรอก แค่มันไม่ใช้ผมผูกให้มันก็พอแล้ว

          " ไปกินข้าวคณะแพทย์กันนะมินจ๋า " ผมหยุดชะงัก หันไปมองไอ้ตัวสิ้นคิด ที่พยายามจะให้ผมเจอกับคนที่ผมไม่อยากจะเจอที่นั่นสุดๆ 

          " ไม่ไปโว้ย กินที่คณะเรานั่นแหละ "

          ใช่แล้วครับ พี่พริ้น เป็นนิสิตนักศึกษาแพทย์ปี 4 ซึ่งเป็นพี่ผมถึง 2 ปี เป็นเดือนคณะ เดือนมหา'ลัย เป็นหน้าตาของคณะและมหา'ลัยเลยก็ว่าได้ การได้เรียนมหา'ลัยเดียวกับพี่พริ้น เป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดแล้วครับสำหรับผม

          " โธ่ ถึงไปกินที่นั่นก็ใช่จะเจอพี่เค้าง่ายๆ ซะเมื่อไหร่ ทำเป็นป๊อดไปได้ กากจริงๆ เพื่อนกู "

          " เออ กูป๊อด จบไหม " ผมอยากจะหาอะไรเขวี้ยงใส่ไอ้คนที่มันยืนเบะปากมองบนอยู่ข้างๆ ผมนี่จริงๆ เสี้ยมนักนะมึงเนี่ย

          ผมนั่งลงในโรงอาหารคณะ ที่ตอนนี้ผู้คนมหาศาลกำลังเดินเลือกซื้ออาหาร และกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่อัดแน่นเต็มทุกโต๊ะ เสียงเอะอะเจี๊ยวจ๊าวดังอยู่รอบๆ ตัวผมไม่ขาดสาย ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เท่าไหร่ ผมชอบความสงบน่ะ

          " โห สุดยอดเลยว่ะ อย่างกับหลุดมาจากหนังแนวมาเฟียยังไงยังงั้นเลย โครตเท่ห์ "

          ผมกำลังก้มมองอ่านชีทเปียโนของผมอย่างตั้งใจ เลยขี้เกียจเงยหน้าขึ้นมองสิ่งที่ไอ้เกลียวกำลังแพล่มอยู่ข้างๆ มันเป็นพวกโอเวอร์แอคติ้งอยู่แล้ว มีแต่เรื่องไร้สาระอีกนั่นแหละ ที่ผมคิด

          " เป็นบอดี้การ์ดคุณหนูคนไหนเปล่าวะ หล่อสัดๆ สูทนั่นน่ะ น่าจะแพงน่าดู อื้อหือ กำลังมองมาว่ะ มองมาทางนี้จริงๆ นะเนี่ย "

          ผมหัวสั่นหัวคลอนไปกับแรงเขย่าของไอ้เกลียว จนน้ำในหูแทบจะออกมาเต้นระบำเลยทีเดียว

          " กูชักจะเหลืออดแล้วนะเฟ้ย ให้กูอยู่สงบๆ บ้างไม่ได้หรือไ... "

          ผมเงยหน้าขึ้น หมายมั่นว่าจะประเคนฝ่ามือเข้าบ้องหูของมันอย่างเต็มรัก แต่ก็ต้องหยุดชะงัก

          ไกลออกไป ภาพตรงหน้า ทำให้หัวใจของผมแทบหยุดเต้น เหมือนกับสิ่งต่างๆ รอบตัวกำลังหยุดชะงัก เสียงที่เคยเจี๊ยวจ๊าว บัดนี้ กลายเป็นเสียงหัวใจของผมเท่านั้น ที่มันดังเหมือนกับ มันย้ายมาเต้นอยู่ข้างๆ หูของผม ดวงตาของผมเบิกกว้าง ตัวของผมเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ทำให้ไอ้เกลียว คนที่อยู่ข้างๆ ผมเริ่มรับรู้ถึงความผิดปกตินั้น และดึงผม ออกวิ่งออกไปจากตรงนั้น ทิ้งไว้เพียงแค่เสียงที่เกรี้ยวกราด จากคนที่อยู่ในชุดสูทสีดำ ที่อยู่ห่างออกไป แค่ไม่กี่อึดใจ

          เสียงนั่นเป็นภาษาที่ทุกคนคงแปลกใจ และไม่เข้าใจ แต่สำหรับผมนั้น ภาษาที่คุ้นเคยนั่น

มันคือ ' การหวนคืนสู่ฝันร้ายของผม '
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2018 16:25:35 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          FC ที่ 4 ฝันที่อาจกลายเป็นจริง


          ในซอกตึกที่ห่างออกไป ผมกับไอ้เกลียวยืนหอบหายใจกันอย่างหมดแรง พวกเราวิ่งกันซะเต็มที่แบบหนีตายเลยทีเดียว

          " มิน ตกลงมึงจะบอกกูได้ยัง ว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ " ผมนิ่วหน้าอย่างอ่อนแรง หันหน้าเลี่ยงที่จะตอบคำถามนั้น

          ผมเงยหน้ามองขึ้นไปยังท้องฟ้า ครุ่นคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น คนคนนั้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมพยายามทำมันมา มันกำลังจะพังทลายลงอย่างนั้นเหรอ

          ความกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้งข้างในหัวใจของผม แล้วต่อจากนี้ไป ผมจะเป็นยังไงกันนะ

          " คือ..เอ่อ คือว่า.. " ผมอึกอักอยู่ในลำคอ ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไป

          " คือ ? " 

          " จ..เจ้าหนี้!! เจ้าหนี้โต๊ะบอลน่ะ แม่งเล่นงี้เลยเหรอวะ กูแค่เบี้ยวหนเดียวเองนะ เซงสัด " ผมถอนหายใจให้ดูเหมือนเหนื่อยหน่าย ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดให้ดูเนียนที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

          " เจ้าหนี้ ? " ไอ้เกลียวทวนคำตอบของผมอีกครั้งด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความครางแครงใจ

          " เจ้าหนี้พ่องมึงพูดภาษาเกาหลีเหรอ นี่มึงไปแทงบอลถึงกรุงโซลเลยหรือไงวะ เห็นกูแบบนี้ แต่กูก็ไม่โง่นะเฟ้ย "

          ผมก้มหน้างุดด้วยความรู้สึกผิด แต่เรื่องนี้น่ะ ไม่ใช่เรื่องที่มันควรรู้ ไม่มีใครทั้งนั้นที่ผมอยากให้รับรู้ ผมควรจะทำยังไงต่อไปดี

          " มึงชอบเห็นกูปัญญาอ่อนอยู่เรื่อย กูเพื่อนมึงนะ " 

          " กู... "

          " มึงไม่ต้องพูดอะไรแล้ว กูรู้แล้วล่ะ " ผมเงยหน้าขึ้นมองสีหน้าที่จริงจังของไอ้เกลียวด้วยความตกใจ นี่ผมพลาดอะไรไปนะ มันรู้เรื่องนั้นแล้วงั้นเหรอ ได้ยังไงกัน 

          " มึง... ไปแทงบอลแถวๆ สีลมมาใช่ป่ะ!! กูรู้นะ กูเคยได้ยินมา ว่าที่นั่นน่ะ เจ้าของเป็นคนเกาหลี " มันป้องปากกระซิบกระซาบที่หูของผม เสมือนกำลังบอกความลับที่สำคัญมากๆ ออกมา ใบหน้าที่เสมือนรู้ดีของมันทำเอาผมเผลอหัวเราะเสียงแห้งออกมาเลยทีเดียว 

          " เหอะๆ มึงนี่ยอดไปเลย เออ ตามที่มึงคิดนั้นแหละ " ผมลอบถอนหายใจออกมาอย่างเสียมิได้ โล่งเลยแฮะ เอาความกดดันเมื่อกี้กูคืนมาน๊า

          ไอ้เกลียวยิ้มอย่างภาคภูมิใจในความฉลาด (?) เป็นกรดของมัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีแล้วล่ะ ผมยิ้มอ่อนให้กับความอัจฉริยะของไอ้เพื่อนตัวแสบของผม ตามด้วยตบกบาลมันไปทีนึงด้วยความหมั่นไส้สุดๆ

          " งั้นป่ะ วันนี้เดี๋ยวกูเลี้ยงน้ำแข็งใสหลังมอมึงเอง กูอยากกิน " ผมหันเดินนำหน้ามันออกมาจากซอกตึกนั้น ยิ้มอย่างโล่งใจที่วันนี้ ยังคงเป็นเหมือนวันก่อนๆ ทุกๆ อย่างระหว่างผมกับมันยังคงเป็นเหมือนเดิม

          ' ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกนะ ' ผมหันหลังกลับไปมองตามเสียงกระซิบนั้น เป็นเสียงกระซิบที่ผมไม่สามารถจับใจความได้ เห็นแต่เพียงแค่รอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่แสนเศร้าจากเพื่อน ผู้ซึ่งไม่เคยหยุดมอบรอยยิ้มที่สดใสให้กับผม แต่รอยยิ้มของมันในวันนี้กลับเป็น รอยยิ้มที่ผมไม่อยากเห็นจากมันมากที่สุด

          ตกเย็น ผมนอนมองเพดานห้อง ด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ครุ่นคิดว่าจะหาข้อแก้ตัวอะไรกับเพื่อนผู้ใสซื่อของผมดี ที่ผมจะไม่ไปเรียนสักพักต่อจากนี้ เพราะว่าผม เกือบที่จะถูกจับตัวได้แล้ว มันเสี่ยงเกินไป ที่จะไปเรียน ที่จะไปอยู่แถวๆ ที่ที่เคยถูกเห็นตัวแบบนั้น 

          " พี่พริ้นครับ ผมจะทำยังไงดี ถึงจะได้อยู่คอยมองดูพี่ต่อไป " 

          ผมหันไปมองปฏิทินบนผนัง ที่ผมได้ขีดเขียนข้อความไว้มากมาย ข้อความเหล่านั้นล้วนเป็นกำหนดการออกงานของพี่พริ้น ที่ผมคอยติดตามอยู่เสมอ

          " พรุ่งนี้ ผมก็จะไปพบพี่ครับ ฝันดีนะครับ พี่พริ้น "


          รุ่งขึ้น ผมแต่งตัวด้วยชุดที่ดูโดดเด่นน้อยที่สุด ไม่ลืมแมสปิดหน้าสีดำที่ผมใส่อยู่เสมอ เมื่อต้องมาในที่ที่พี่พริ้นอาจมองเห็นผมได้ ต้องรอบครอบและปลอดภัยไว้ก่อน

          ไม่นานนัก ผมก็เข้ามาอยู่ในงานที่พี่พริ้นมาร่วมงานอีกครั้ง  ผมยังคงรักษาระยะห่างเอาไว้ อย่างที่เป็นมาเสมอ

          " วันนี้ก็ดูดี ยอดเยี่ยมอีกแล้วนะครับ " ผมพูดกับตัวเองเบาๆ เมื่อพี่พริ้นย่างกายเข้ามาในงานและยืนอยู่บนเวที ที่ประดับประดาไปด้วยของตกแต่งสีสันสดใส ผมได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปอย่างช้าๆ


          หลายชั่วโมงผ่านไป งานจบลงแล้ว แต่ว่าผม ก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมเรื่อยไป ซึมซับความรู้สึกที่ดีๆ ที่มีในวันนี้

          ' ฟุ่บ! '

          หมวกแก๊บใบหนึ่งถูกสวมลงบนหัวของผมอย่างรวดเร็ว ทำเอาผมสะดุ้งสุดตัว พร้อมกับหมุนตัวไปมองคนที่สวมหมวกใบนี้ลงบนหัวของผม

          แต่เมื่อหันมานั้น ผมก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ปากที่อ้ากว้างของผมแมลงวันคงบินเข้าไปตายได้ทั้งฝูง หัวใจของผมแทบจะหยุดเต้นไปซะดื้อๆ กับการปรากฎตัวของคนที่ผมไม่คาดคิดที่สุด และอยากจะวิ่งหนีที่สุดด้วยความเขินอาย

          " ฮ่ะๆ พี่ทำให้ตกใจขนาดนี้เลยเหรอ ขอโทษนะครับ " รอยยิ้มอันแสนอ่อนโยนนั้น ทำให้หัวใจของผมกลับมาเต้นอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่การเต้นระดับธรรมดา มันเต้นจนเหมือนจะหลุดกระเด็นออกมายังไงยังงั้น 

          " ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ พี่ขอเวลาคุยด้วยสักประเดี๋ยวหนึ่งได้ไหมเอ่ย " คนตรงหน้าพูด พลางส่งยิ้มละมุนมาให้

          ผมยังคงนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น ใครก้ได้ ช่วยบอกผมทีเถอะว่า ผมกำลังฝันไปใช่ไหม


แต่ถ้าหาก มันเป็นความฝันจริงๆ แล้วละก็ ผมก็ไม่อยากจะตื่นขึ้นมาอีกเลย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2018 16:28:15 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
เชียร์ให้หนุ่มเปียโนได้กับหนุ่มไวโอลินจะผิดไหม 555
รอตอนต่อไปครับ ว่าแต่มินนี่พอเปลี่ยนลุคให้ดูดีๆ แล้วต้องหล่อแน่เลย ใช่ป่าวๆ
 :3123: :pig4:

หนุ่มไวโอลินมันบ้าค่ะ 555+ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          FC ที่ 5 ช่วงเวลาที่ไม่อยากลืมเลือน


          ผมกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารที่ผมไม่เคยได้ย่างกายเข้ามาก่อนในชีวิต หยิกแก้มตัวเองซ้ำๆ ให้รู้ตัวว่ากำลังตื่นอยู่จริงๆ

          พี่พริ้น!! ตัวจริงเสียงจริงกำลังนั่งอยู่ตรงข้ามผม พร้อมส่งรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาให้อย่างไม่ขาดสาย

          พระเจ้า คนบ้าอะไรหล่อฉิบหาย ยิ่งได้มองดูใกล้ๆ แบบนี้ ผมนี่แทบจะละลายติดเบาะที่นั่งไปเลยทีเดียว

          " อ้าว อ้าวแก้มช้ำหมดแล้วนะ ฮ่าๆ " พี่พริ้นพูดและหัวเราะอย่างร่าเริง พร้อมเปิดเมนูสั่งอาหารด้วยท่าทางที่ดูสบายๆ

          ผมรีบนั่งตัวตรงพร้อมกับกลั้นหายใจด้วยความประหม่า ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว แต่ท่าทางของผมทุกอย่าง กลับเรียกเสียงหัวเราะอย่างเอ็นดูสำหรับพี่พริ้นซะงั้น

          พี่พริ้นถึงแม้จะนั่งลงแล้วก็ตาม แต่ด้วยความที่ตัวสูงใหญ่กลับทำให้ดูโดดเด่นเหมือนเคย น่าจะสูงราวๆ 180 กว่าๆ ได้ ส่วนผมน่ะเหรอ แค่ 170 นิดๆ เองละมั้ง ยิ่งคิดยิ่งท้อ แค่ไอ้เกลียวคนเดียวผมก็เมื่อยคอแล้ว เพราะมันก็จัดว่าสูงอยู่เหมือนกันแหละไอ้ห่านั่น

          " เราน่ะ เรียนอยู่ที่มอเดียวกับพี่ใช่ไหมล่ะ " ผมเงยหน้ามองพี่พริ้นด้วยความตกใจ พี่พริ้นรู้ได้ยังไงกันนะ

          " ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น ก็เราน่ะเด่นออกจะตาย ในมหา'ลัยไม่มีใครเหมือนเราสักคนนี่นา " พี่พริ้นพูดพร้อมส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยนอีกครั้ง สิ่งที่ผมทำอยู่ มันกลายเป็นจุดเด่นซะงั้นเหรอเนี่ย เด่นในแง่ลบสินะ เหอๆ

          " พี่แปลกใจมากเลยนะ ตอนแรกที่พี่เห็นเราในงานอีเว้นท์เมื่อก่อน ยืนอยู่ตั้งไกล ไม่เห็นเข้ามาสักที คิดว่าคงมาเดินเล่นที่งานละมั้ง แต่งานอื่นๆ ต่อๆ มา พี่ก็ยังเห็นเราทุกงานเลย ทีนี้เลยค่อนข้างมั่นใจเลยว่า เรามาหาพี่ใช่ไหมล่ะ "

          ผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ที่สิ่งที่ผมคิดและมั่นใจว่า พี่พริ้นจะไม่เห็น กลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย พี่พริ้นมองเห็นผมเสมอมาตั้งแต่แรกแล้ว

          " มันกลายเป็นกิจวัตรของพี่ไปแล้วล่ะ ที่จะต้องมองหาผู้ชายคนนึงที่แอบทำลับๆ ล่อๆ อยู่ตามมุมในงานที่พี่ไปน่ะ ฮ่าๆ พี่ดีใจมากนะ พี่แทบไม่มีแฟนคลับผู้ชายเลย พวกผู้หญิงมักทำให้พี่อึดอัดเสมอ แต่แบบนี้ค่อยคุยกันได้หน่อยเนอะ " พี่พริ้นพูดพร้อมส่งยิ้มละมุนมาให้ ผมรู้สึกทั้งอายและดีใจในเวลาเดียวกัน หมายความว่าต่อไปนี้ ผมจะพูดคุยกับพี่ได้ใช่ไหมครับ

          " ขอโทษนะครับ ที่ไม่ได้แสดงตัวออกมาเลย คือผม... "

          " ขอโทษทำไมล่ะ พี่เข้าใจ เข้าใจดีเลยล่ะ ไม่เป็นไร ยังไงก็ขอบคุณมากนะ ที่มาหาพี่ทุกงานเลย "

          ผมส่งยิ้มให้พี่พริ้น ช่วงเวลานี้มันช่างมีความหมายเหลือเกินสำหรับผม เป็นช่วงเวลาที่ผม ไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัสมัน


          พี่สบายดีใช่ไหมครับ

          พี่มีความสุขดีหรือเปล่า

          พี่..จำผมได้หรือเปล่า


          ผมเลือกที่จะไม่พูดมันออกไป เพราะผมนั้นกลัว กลัวคำตอบที่พี่จะตอบกลับมาเหลือเกิน ผมยังเป็นคนที่อ่อนแอ และน่าสมเพชอยู่เสมอ

          " เราน่ะ อยู่คณะไหนเหรอ "

          " มนุษยศาสตร์ครับ เอกดนตรี "

          " ว้าว เยี่ยมไปเลยนะ พี่น่ะชอบดนตรีมาก แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เล่นสักที " คำพูดของพี่พริ้น ทำให้ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัย พี่พริ้นน่ะเหรอเล่นดนตรีไม่เป็น

          " พี่คงยุ่งสุดๆ ไปเลยสินะครับ ถึงไม่มีเวลาเล่นดนตรีเลย "

          " เฮ้อ ใช่แล้วล่ะ มีแต่งานๆๆ เดินแบบๆ ถ่ายละคร พี่ล่ะอยากหายไปจริงๆ อยากจะพักบ้างเหมือนกันนะ "

          " ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยนะครับ " พี่พริ้นยิ้มให้กับคำพูดของผมด้วยแววตาที่อ่อนโยน

          " จริงสิ คุยกันมาตั้งนาน ฮ่าๆ พี่นี่แย่จริงๆ ลืมถามชื่อซะได้   ขอโทษนะ คุยเพลินไปหน่อย " พี่พริ้นจ้องมองในตาผมด้วยสีหน้าจริงจัง

          " ผมชื่อมินครับ " ผมกลั้นหายใจ หลังที่พูดชื่อจบ หัวใจของผมมันสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

          " มินเหรอ ชื่อน่ารักจังเลยนะ " ผมส่งยิ้มกลับไปยังพี่พริ้น นี่ผม กำลังหวังอะไรอยู่กันแน่นะ แค่นี้ผมก็มีความสุขเหลือเกินแล้ว อยากจะหยุดช่วงเวลานี้เอาไว้ให้นานแสนนาน


          เวลาหมุนวนผ่านไป ผมไม่รู้เลยว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว รู้แต่ว่าผมไม่อยากจะออกไปจากทีนี่เอาซะเลย ผมมีความสุขมาก มากซะจนคิดว่าผมอาจจะกำลังฝันกลางวันอยู่จริงๆ

          " ดึกป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย เดี๋ยวพี่ไปส่งนะมิน " พี่พริ้นพูดขึ้นมาหลังจากเวลาผ่านไปราวๆ 3 ชั่วโมงได้

          " เอ๊ะ ไม่ต้องหรอกครับ ผมกลับเองได้ครับ " ผมมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังร้าน เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วจริงๆ

          " ไม่เอาน่า พี่เป็นคนชวนมินมา ก็ต้องพาไปส่งสิ "

          " คือ ผมมีธุระที่อื่นต่อน่ะครับ ขอบคุณจริงๆ ครับที่อยากไปส่ง " ผมรีบปฏิเสธลิ้นระรัว ผมคงไม่อาจทำให้พี่ลำบากไปมากกว่านี้ได้หรอกครับ

          " แค่พี่เลี้ยงข้าวผมวันนี้ ผมก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงแล้วล่ะครับ ขอบคุณมากจริงๆ "

          " ถ้าอยากตอบแทนพี่จริงๆ ละก็ อย่าลืมมาให้กำลังใจพี่อีกนะ ทุกๆ อีเว้นท์เลย โอเคไหม " คำพูดของพี่พริ้น ทำเอาผมยิ้มกว้างอย่างสุขใจ

          " แน่นอนสิครับ ผมน่ะไม่เคยพลาดสักงาน " พี่พริ้นยิ้มร่า พร้อมเอื้อมมือมาขยี้หัวผมอย่างเอ็นดู แหม่เขินจริงๆ นะเนี่ย

          " เอ่อ พี่ครับ นี่หมวกของพี่ฮะ " ผมยื่นหมวกสีดำที่มีชื่อพี่พริ้นปักอยู่บนนั้นคืนกลับไปให้พี่พริ้น เพราะว่าหมวกนี้น่ะ เป็นของพี่พริ้นที่สวมให้กับผมตอนเจอกันที่งานเมื่อกลางวัน

          " เก็บไว้เถอะ พี่ให้ " ผมฉีกยิ้มกว้างอีกครั้งด้วยความดีใจ นี่มันโชคดีสุดๆ ไปเลยล่ะ

          " ขอบคุณครับ ผมจะเก็บรักษามันไว้อย่างดีเลยฮะ " ผมพูดพรางสวมมันไว้ที่หัวอีกครั้ง ทำเอาพี่พริ้นยิ้มออกมาอย่างร่าเริง


          พี่พริ้นเรียกบริกรมาเช็คบิลค่าอาหาร และพาผมเดินออกไปข้างหน้าร้าน ผมเงยหน้ามองพี่พริ้นด้านข้าง พี่ช่าง เป็นคนที่สมบูรณ์แบบเหลือเกิน

          " เอาล่ะ ไว้เจอกันอีกนะ กลับดีๆ ล่ะ " พี่พริ้นพูดกับผมและส่งยิ้มให้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป


ผมยังคงมองตามแผ่นหลังนั้นที่ไกลห่างออกไปจนสุดสายตา แผ่นหลังของคนที่ผม ชื่นชม สุดหัวใจ
​ ​
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2018 16:31:40 โดย Gloomy Sunday »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
เนื้อเรื่องเหมือนดูเรื่อยๆ แต่อ่านแล้วน่าติดตาม ชอบค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อืมมม......มีปม สินะ น่าสนใจ ตามมมมม  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ทำไมพี่พริ้น สำคัญต่อมินมาก
ไอ้ชื่นชม เป็นไอดอล ก็ส่วนหนึ่ง
เหมือนพี่พริ้นเคยช่วยมินเมื่อนานมาแล้ว

มินจงใจอำพรางตัวตน ให้ดูสกปรก ขี้เหล่ มอซอ
ผมรุงรัง ปิดหน้าตา แสดงว่าจริงๆ มินหน้าตาดีสินะ
แถมกลัวชายชุดดำ
เพราะไม่อยากถูกตามเจอสินะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          FC ที่ 6 รอยยิ้มแห่งความทรงจำ


          คงไม่ต้องบอกว่าหลังกลับมาจากร้านอาหารนั่นผมมีความสุขแค่ไหน ผมไม่ลืมที่จะล็อคห้อง วางกระเป๋า และเดินไปรอบๆ ห้อง ผิวปากอย่างอารมณ์ดี ทั้งๆ ที่บนหัวก็ยังคงสวมหมวกที่พี่พริ้นให้เอาไว้อยู่

          " ใส่นอนด้วยดีไหมน้า เอ๊ะ ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวหมวกเสียทรงหมด " ผมพูดกับตัวเอง พูดกับหมวก อย่างกับว่ากำลังคุยกับพี่พริ้นซะงั้น เป็นเอามากนะกูเนี่ย สุดท้ายแล้ว ผมก็นอนกอดหมวกใบนั้น แล้วฝันดีทั้งคืนเชียวล่ะ


          ผมตื่นขึ้นในตอนเช้า และยังไม่วายนั่งคุยกับหมวกอีกสักพัก ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน

          " อารมณ์ดีจังเลยนะ " ผมตกใจจนเผลอเขวี้ยงแปรงสีฟันเฉียดหูไอ้เกลียวไปสักครึ่งมิลได้ ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยทีเดียว

          " ทำอะไรของมึงเนี่ย กูหัวใจวายตายห่าไปใครจะรับผิดชอบฟะ " ผมแยกเขี้ยวยิงฟันตะโกนลั่น แทบจะแดกหัวมันเข้าไป ช่วงนี้มีแต่เรื่องที่ทำให้ผมตกใจเยอะเกินไปแล้ว

          " เหม็นฟามรักว่ะ แหวะๆ " ไอ้เกลียวทำท่าสำรอกเศษอาหารอยู่ที่โต๊ะมุมห้องของผม ผมละเบื่อพวกขี้อิจฉาจริงๆ

          " ความรักอะไรของมึง แล้วเลิกสักทีได้ไหม เข้ามาในห้องแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงเนี่ย " 

          " มึงลืมล็อคห้อง นี่มึงเพ้อขนาดไหนถึงลืมล็อคห้องวะ เป็นเอามากนะมึง " ผมชะงักทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ความกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง จนทำให้ทำผมมือสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้

          ผมรีบวิ่งไปรอบๆ ห้อง สำรวจสิ่งต่างๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ ผมรีบปรับสีหน้าและท่าทางให้สงบลง เพราะผมไม่อยากให้ไอ้เพื่อนตัวดีของผม ต้องเป็นกังวลไปด้วย

          " รีบแต่งตัวเร็ว จะสายแล้วนะเฟ้ย " ผมยังไม่ได้บอกมันสินะว่าผมจะไม่ไปเรียนสักพัก ผมไม่รู้ว่าจะอ้างเหตุผลแบบไหนกับมันดี 
                   
          " กูรู้สึกเหมือนจะไม่สบายว่ะ กูไม่ไปนะวันนี้ " ไอ้เกลียวมองผมอย่างชั่งใจชั่วครู่ ผมได้แต่หลบตา ไม่กล้ามองหน้ามันเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เป็นไงเป็นกันแหละ

          " งั้นนอนพักเถอะ เดี๋ยวกูอยู่เป็นเพื่อน " ฉิบหายละ คำตอบไม่เป็นดั่งที่คาด

          " ไม่เป็นไร มึงไปเรียนเถอะ จะได้จดโน๊ตเผื่อกูด้วย " ไอ้เกลียวมองผมด้วยความฉงน 

          " นี่มึงไม่สบายจนเพ้อสินะ ให้กูไปจดโน๊ต มึงบอกให้กูไปทำนม 500 cc ยังง่ายกว่ามั้ง " นั่นสินะ ผมลืมความอัจฉริยะของมันไปได้ยังไง เฮ้อ

          " แต่เอาเหอะ พักผ่อนซะ มีอะไรก็โทรหากูละกัน " ไอ้เกลียวพูดพลางลุกขึ้น ดีมากเพื่อนยาก ไปเลย ไปจากห้องกูเร็วๆ

          " อืม ขอบใจนะ " ผมพูด และดันตัวมันให้ออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

          หลังจากไอ้เกลียวออกจากห้องไป ผมก็รีบเก็บเสื้อผ้า เอาข้าวของที่จำเป็นยัดใส่กระเป๋าอย่างร้อนรน เพราะผมไม่รู้ว่าวินาทีไหน ที่จะมีคนบุกเข้ามาในห้อง ผมจะไม่มีทางให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเด็ดขาด ต้องรีบ รีบหนี ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

          ในเมื่อไม่มีที่ไป เพราะผมไม่มีเพื่อนนอกจากไอ้เกลียวไม่มีญาติแม้แต่คนเดียวที่นี่ ผมจึงมุ่งหน้าไปที่ห้องชมรม ถึงมันจะไม่ส่วนตัวก็เถอะ แต่นานๆ ทีถึงจะมีคนเข้ามาใช้บ้าง

          ห้องชมรม เป็นห้องที่เก็บเครื่องดนตรีของส่วนกลางเอาไว้ และค่อนข้างกว้างขวาง สาเหตุที่ไม่ค่อยมีคนเข้ามาใช้นัก เพราะว่านักศึกษาภาควิชาดนตรีทุกคน ที่ส่วนมากร้อยละ 99% เป็นพวกคุณหนู จึงมีเครื่องดนตรีส่วนตัวและห้องซ้อมส่วนตัวกันทั้งนั้น ห้องนี้จึงดูไร้ค่าสำหรับเอกนี้ไปโดยปริยาย ผมมักจะมาเล่นเปียโนที่นี่ ซึ่งเป็นเปียโนหลังใหญ่ แบบที่เขาใช้แข่งขันระดับประเทศกันนั่นแหละ และมันสงบเงียบ เหมาะแก่การใช้ความคิดสุดๆ

          ผมมักปล่อยความคิดไปพร้อมๆ กับการดีดเปียโน ปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึก เป็นตัวขับเคลื่อนท่วงทำนองให้บรรเลงต่อไป แค่เพียงหลับตาลง ปล่อยใจให้กับเสียงดนตรี ความเศร้า ความกังวล และความกลัว ก็จะจางหายไป

          ' แปะๆ '

          ผมสะดุ้งสุดตัว กับเสียงปรบมือของคนที่เข้ามาใหม่ ทำให้การบรรเลงของผมหยุดชะงักไป

          " ยอดเยี่ยม สุดยอดจริงๆ พี่ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าเราจะเล่นเปียโนเก่งขนาดนี้น่ะ ฮ่ะๆ " ผมลุกขึ้นยืน ทำหน้าตาเหวอแบบสุดๆ เพราะไม่คิดว่าพี่พริ้นจะมาหาผมถึงที่นี่ เป็นความแปลกใจระคนดีใจ บอกไม่ถูกว่าอารมณ์ไหนมากกว่ากัน

          " พ..พี่มาได้ไงครับเนี่ย " 

          " ตามเสียงเปียโนมา ฮ่าๆ "

          " แหม เอาความจริงสิครับ " ผมยิ้มให้กับความขี้เล่นของเทพบุตรตรงหน้า หนุ่มหล่อในชุดกาวน์นี่มันแหล่มจริงขอบอก

          " ฮ่าๆ โธ่มินไม่รับมุกพี่เลย เสียใจจังเลยน้า " พี่พริ้นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบเด็กน้อย ขอทีเถอะครับพี่ จะให้ผมแดดิ้นตายตรงนี้เพราะความน่ารักของพี่เลยใช่ไหมครับ

          " ก็ห้องนี้มันค่อนข้างเก็บเสียงนี่ครับ "

          " ฮ่ะๆ ก็ได้ก็ได้ พี่ก็ถามทางเขาไปเรื่อย เดินไปทั่วคณะจนมาเจอนี่ล่ะ " พี่พริ้นยิ้มพร้อมเกาหัวแบบเก้อเขิน นั่น โดนไปอีกหนึ่งดอกละมินเอ๋ย บาดใจเหลือเกิน

          พี่พริ้นเดินเข้ามา และมองไปรอบๆ ชมรมด้วยความสนใจ และเดินเข้ามามองดูเปียโนตัวที่ผมกำลังยืนอยู่ข้างๆ

          " เปียโนนี่ สวยจังเลยนะ " พี่พริ้นพูดพร้อมกับเดินไปรอบๆ เปียโนหลังใหญ่ ลูบไล้ไปตามคีย์เปียโนนั้นอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน

          ผมมองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่สั่นไหว และไม่อาจกลั้นน้ำตาที่อยู่ภายในหัวใจเอาไว้ได้

          " มิน ร้องไห้ทำไม " ผมสะดุ้งน้อยๆ ตามเสียงเรียกของพี่พริ้น ผมยกมือขึ้นแตะที่แก้ม ก็พบว่ามีหยาดน้ำตาอยู่บนนั้นจริงๆ

          ใช่แล้วล่ะ ภาพอดีตที่ทับซ้อนขึ้นมา ทำให้หัวใจของผมสั่นไหว ภาพของเด็กชายที่เดินไปรอบๆ เปียโนหลังโทรม ลูบไล้เปียโนที่ผุพังนั้นอย่างรักใคร่ด้วยรอยยิ้ม


เป็นรอยยิ้มที่ผมจะไม่มีวันลืมเลือน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2018 16:33:46 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
เริ่มอยากรู้ความหลังของมินแล้วสิ

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          FC ที่ 7 ชายหนุ่มที่มาพร้อมกับความรัก


          ภายในห้องชมรม พี่พริ้นรีบละออกจากเปียโนและเดินหน้าตาตื่นเข้ามาใกล้ผม พี่พริ้นคงตกใจที่เห็นผมน้ำตาไหลออกมาแบบนั้น

          " มิน เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายเหรอ บอกพี่สิ " พี่พริ้นเอาหลังมือมาแนบที่หน้าฝากของผมอย่างอ่อนโยน ทำเอาผมหน้าแดงเป็นลูกตำลึงเชียว

          " คือ ผมแค่เป็นหวัดนิดหน่อยครับ " 

          " รอพี่แปบนึงนะ " ผมจ้องมองพี่พริ้นที่เดินไปที่มุมห้อง และควักโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์และคุยกับคนปลายสายอย่างเคร่งเครียด แย่แล้วนี่ผมกำลังทำให้พี่พริ้นเดือดร้อนสินะ

          " คือ พี่พริ้นครับ ผมไม่เป็นอะไรครับ ผมโอเคแล้ว " ผมพูดบอกพี่พริ้นที่โทรศัพท์เสร็จแล้ว

          " ไม่ได้หรอก ปล่อยไว้จะยิ่งเป็นหนักนะ " พี่พริ้นพูดอย่างหนักแน่น ไม่ให้ผมปฏิเสธได้เลย

          " ดุจัง " ผมตัดพ้ออย่างเบาๆ แต่พี่พริ้นกลับหัวเราะ และเอามือมาขยี้หัวผมอีกแล้ว

          " อย่าดื้อสิ พี่จะเป็นหมอนะ จะปล่อยคนไข้ไว้ได้ยังไง แล้วเดี๋ยวมิน รอพี่แปบนึงนะ เดี๋ยวพี่มา​" พี่พริ้นยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ผมอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง​

          และหลังจากพี่พริ้นออกไปไม่นาน ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง แต่คนที่เข้ามานั้นกลับไม่ใช่ชายหนุ่มในชุดกาวน์ที่ดูอ่อนโยนใจดีแบบพี่พริ้น แต่กลับเป็นชายหนุ่มตัวสูง ที่น่าจะสูงพอๆ กับพี่พริ้น เสื้อช็อปสีกรมท่า และกางเกงยีนส์สีเข้ม ตัดกับผิวที่ขาวซีด ลำตัวหนาและมีกล้ามเนื้อมากกว่าพี่พริ้น ผมสีดำสนิท ดวงตาสีเข้มที่ดูเย็นชา คิ้วหนา รับกับจมูกที่เชิดขึ้น ทำให้ใบหน้าของชายคนนี้ดูเกรี้ยวกราดตลอดเวลา หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ ดูหล่อเลวสุดๆ สาวๆ ที่ชอบแนวนี้คงกรี๊ดสลบแน่ๆ ถ้าใส่ชุดสีดำแล้วนอนในโลงนี่มันเจ้าชายแวมไพร์ชัดๆ

          พี่พริ้นเดินตามชายหนุ่มคนนั้นเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เข้ามาจูงมือผมให้เดินเข้าไปหาบุคคลที่ผมได้เจอเป็นครั้งแรก 

          " นี่คือ ไอ เป็... " 

          " รุ่นน้อง " พี่พริ้นยังไม่ทันจะพูดจบ ผู้ชายคนนั้นก็พูดแทรกขึ้นมาทันที ทำเอาผมตกใจไม่น้อย

          " ฮ่ะๆ อย่าถือสาเลย เขาชอบเป็นแบบนี้แหละ " พี่พริ้นพูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มน้อยๆ มาให้ผม 

          " ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อมิน " ผมรู้สึกไปเองหรือเปล่านะ ว่าคิ้วข้างหนึ่งของผู้ชายคนนี้ กระตุกตอนที่ผมเอ่ยชื่อออกไป
         
          " อืม " เป็นคำตอบสั้นๆ ที่แม้แต่หน้าก็ไม่ยอมหันมามองผมสักนิด 

          " ชื่อแปลกจังเลยนะครับ แต่เท่ห์ดีฮะ " ผมไม่น่าพูดแบบนั้นออกไปเลยเชียว ไอ้คุณไอหันมามองผมเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อผมเข้าไปภายในคำเดียว

          " ฮ่าๆ ใครๆ ก็พูดแบบนั้น แต่จริงๆ เขานิสัยดีน้า เป็นพี่มินปีนึงล่ะ อยู่วิศวะ " 

          " ครับ ฝากตัวด้วยนะครับ " 

          " หึ " คำตอบที่ได้ ทำให้รู้แน่ชัดว่าเค้าไม่รับฝากแน่นอน

          " เอาล่ะ ไปกัน ที่พี่เรียกไอมาก็เพราะว่าพี่ไม่ได้เอารถมาน่ะ เดินมาเรื่อยๆ ไม่คิดว่าจะไกลเหมือนกันนะเนี่ย " พี่พริ้นพูดพรางออกเดินนำหน้าไปที่รถ ปล่อยให้ผมผจญกับรังสีอมหิตจากอีตาไอโดยลำพัง คนอะไร ชื่อไม่เข้ากับหน้าเลยสักนิด ไอ ไอที่แปลว่าความรักในภาษาญี่ปุ่นสินะ ชิ

          พวกเราสามคนเดินมุ่งหน้าไปยังรถที่ไอ้คุณไอขับมารับ ซึ่งตลอดทางมีแต่เสียงวี๊ดว๊ายกระตู้วู้ไม่ขาดสาย ใบหน้าเคลิ้มฝันของสาวๆ เป็นตัวชี้วัดความหล่อของพวกผมได้เป็นอย่างดี เอ่อ ความหล่อของสองคนนั่นครับ ส่วนผมก็เหมือนแกะดำในฝูงหมาป่ารูปหล่อ สายตาที่บ่งบอกถึงความสงสัยและสมเพชในตัวผม ทิ่มแทงไม่ขาดสายเช่นกัน ทุกคนคงสงสัยว่า ไอ้บ้านั่นมันไปเดินอยู่กับคนหล่อพวกนั้นได้ยังไง เฮ้อเอาเถอะ อยากคิดอะไรก็ช่าง ผมเชิดใส่เลยแม่งเลย กูคือผู้ชนะเฟ้ยที่เข้าใกล้พี่พริ้นได้ขนาดนี้ อิจฉาไหมล่ะ ฮ่าๆ

          รถ BMW คันงามจอดอยู่หน้าคณะของผม ไม่บอกก็รู้ว่ารถใคร มันออกแนวเฟี้ยวฟ้าว เท่ห์ระเบิดเหมือนเจ้าของมันนั่นแหละ เจ้าของรถเดินนำเข้าไปนั่งฝั่งคนขับอย่างรวดเร็ว พี่พริ้นนั่งข้างคนขับ ตามด้วยผมที่นั่งที่เบาะหลัง รถเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ รถหรูนี่มันนิ่มดีจริงๆ แฮะ

          " เราจะไปไหนกันเหรอครับ "

          " ก็ไปโรงพยาบาลของมหา'ลัยไง เดี๋ยวพี่จะตรวจมินเอง " 

          " แต่ผมไม่เป็นไรแล้วจริงๆ นะครับพี่ " 

          " อย่าให้พี่ต้องพูดซ้ำดีกว่าน้า " พี่พริ้นยิ้มทั้งๆ ที่เสียงเย็นยะเยือกซะงั้น

          Rrrr Rrrr

          ผมมองไปตามเสียงที่ดังขึ้น และก็พบว่ามันคือเสียงเรียกเข้าของพี่พริ้นนั่นเอง ผมมองดูพี่พริ้นที่หันมายิ้มให้ผม ก่อนที่จะกดรับสาย

          ' ฮัลโหล อะไรนะ บ้าจริง อยู่ตรงไหน โอเค จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ '

          ผมขมวดคิ้วจ้องมองพี่พริ้นที่คุยโทรศัพท์เสียงเครียด คงมีธุระด่วนสินะ

          " มิน พี่ขอโทษจริงๆ แต่พี่... "

          " พี่รีบไปทำธุระเถอะครับ ผมไม่เป็นไรครับ " ผมรีบพูดก่อนที่พี่พริ้นจะพูดจบ เพราะผมเข้าใจและไม่อยากให้พี่พริ้นลำบากไปมากกว่านี้

          " ไอ พาน้องไปที่โรง'บาลนะ ฝากด้วยละกัน " อีตาไอไม่พูดอะไร ได้แต่พยักหน้ารับเท่านั้น

          " มิน พี่ขอโทษอีกทีนะครับ แล้วพี่จะพาไปเลี้ยงข้าวไถ่โทษละกัน " 

          " ไม่เป็นไรครับพี่ ขอบคุณนะครับ " ผมส่งยิ้มให้พี่พริ้นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่พี่พริ้นจะลงจากรถและรีบร้อนขึ้นแท็กซี่คันหลังไป

          เมื่อไม่มีพี่พริ้น บรรยากาศในรถช่างดูเย็นยะเยือก และเงียบงัน ผมรู้สึกหวาดหวั่นแปลกๆ ทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงเลยทีเดียว ผมได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อ แล้วท่องนะโมตัสสะในใจ


ชีวิตผมจะเป็นยังไงต่อไปนะ จะรอดไปถึงโรง'บาลไหมล่ะเนี่ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2018 16:35:25 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ชีวิตมินนี่ซับซ้อน หลายเรื่องราวจริงๆ

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
ชีวิตมินนี่ซับซ้อน หลายเรื่องราวจริงๆ

อยากจะบอกว่าสุดๆค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          FC ที่ 8 คนที่เกลียดที่สุด


          ผมเหลือบไอ้คุณไอ ที่ยังคงขับรถด้วยท่าทางสบายๆ ภายในรถนั้นดูเงียบเกินไป จนทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ผมมองไปที่หน้ารถ จ้องมองแผงปุ่มกดที่มีเยอะแยะมากมาย และค่อยๆ เอื้อมมือไปข้างหน้าเพื่อจะเปิดวิทยุ

          ' หมับ! '

          แต่มือของผมที่กำลังเอื้อมไปนั้น อยู่ๆ ก็ถูกจับเอาไว้ทันทีจากคนข้างๆ ผมมองข้อมือของผมที่กำลังถูกบีบแน่นอย่างตื่นตกใจ ทำเอาผมหน้านิ่วด้วยความเจ็บปวด

          " ขอเตือนด้วยความหวังดีนะ อยู่ห่างๆ จากพริ้นซะ " นับเป็นประโยคแรกที่จัดว่ายาวทีเดียวที่ผู้ชายคนนี้พูดออกมา แต่ผมไม่ชอบมันเอาซะเลย

          " หมายความว่ายังไง "

          " ก็นะ พูดไปก็คงเท่านั้นแหละ หน้าแบบนั้นใครๆ ก็อยากจะเสี่ยงทั้งนั้น " ผมกำหมัดแน่น นี่ผมกำลังโดนดูถูกสินะ

          " คุณคงเข้าใจอะไรผิดแล้ว ผมเป็นแค่แฟนคลับของพี่พริ้น " ผมพูดและเริ่มทำสีหน้าไม่พอใจ

          " แน่เหรอ เห็นส่งยิ้มหวานจ๋อยซะขนาดนั้น หมอนั่นมันก็เป็นแบบนี้แหละ สงสัยช่วงนี้อยากลองของแปลก ตัดใจก่อนน้ำตาจะเช็ดหัวเข่าดีกว่านะน้อง​ " ไอ้คุณไอพูดด้วยใบหน้ายิ้มเยาะ

          " ไหนลองพูดใหม่อีกทีสิ ได้กินหมัดผมแน่ " ผมเหลืออดเต็มที เตรียมพร้อมจะกระโจนใส่ไอ้ปิศาจร้ายนี่ทุกเมื่อ แต่ก็เหมือนมันจะไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด และหักรถเลี้ยวเข้าข้างทางด้วยความเร็ว พลางหันมามองผมด้วยสายตาที่กวนบาทาสุดๆ 

          " เอาสิ ขอแรงๆ นะ พอดีตายด้านน่ะ " ผมพุ่งตัวเข้าไปกระชากเสื้อมันเต็มแรงด้วยความโมโห แต่กลับถูกมือหนาที่เหมือนดั่งครีมเหล็กล็อคแขนทั้งสองข้างเอาไว้แน่น จนต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ

          " อึก..ปล่อยนะ เจ็บนะโว้ย " ผมดิ้นรนขลุกขลักให้หลุดจากการจับกุมของคนตรงหน้า แต่ก็ไม่เป็นผล คนตรงหน้ายังคงล็อคผมเอาไว้ และจ้องมองไปทั่วทั้งใบหน้าและลำตัวของผม

          " ตัวเล็กแค่นี้ทำเป็นเก่ง ชอบเรียกร้องความสนใจสินะ " ผมรีบหันหน้าหลบจากการจ้องมองนั่น ผมไม่ชอบเอาซะเลย 

          " ไอ้บ้าเอ้ย " ผมตะโกนเสียงดัง แล้วงับที่มือของไอ้บ้านั่นเต็มแรง

          " โอ้ย ไอ้เด็กเปรตนี่ " มันลากผมมานั่งด้านหน้าข้างคนขับ เอื้อมแขนมารัดเข็มขัดให้จนแน่น แล้วออกรถอีกครั้งด้วยความเร็วเต็มสปีด 

          " ไอเลว "

          " ผมชื่อไอเฉยๆ ครับ กรุณาอย่าเติมเสริมแต่ง " เห็นตอนแรกเงียบๆ ก็คิดว่าจะเป็นพวกพูดน้อย ที่ไหนได้ทั้งปากหมาทั้งกวนทีน

          " จอดรถ!! ผมจะลง " ผมตะโกนแหกปากและปลดเข็มขัดออกจากตัว

          " ถ้าอยากลงก็โดดลงไปสิ " ไอเลวพูดพร้อมทำหน้าเฉยเมย โนสนโนแคร์ พร้อมปลดล็อคประตูให้

          ผมวางมือพร้อมจะเปิดประตู ขณะรถกำลังวิ่งด้วยความเร็ว แล้วไงล่ะ ผมน่ะไม่กลัวตายหรอก

          " เฮ้ย อยากตายหรือไง " ไอ้คุณไอเบรกรถจนหัวทิ่มหัวตำทันทีที่เห็นประตูรถถูกแง้มออกน้อยๆ โธ่ใครกันแน่ที่ไม่แน่จริง หึ

          " ตายก็ตายสิ ใครจะสนกันล่ะ " 

          " ลงไป " ผมไม่รอให้เจ้าของรถพูดซ้ำ เปิดประตูกว้างและลงจากรถอย่างรวดเร็ว ผมรีบเดินไปให้ห่างจากตัวรถ แล้วไม่ลืมที่จะหันกลับมา ชูนิ้วที่แสดงความรักใคร่สุดๆ ไปให้ คงไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมว่านิ้วไหน

          เป็นคนที่นิสัยแย่สุดๆ ผมไม่เคยเจอใครที่หยาบคายแบบนี้มาก่อน ทั้งๆ ที่หน้าตาดีแท้ๆ ไม่น่าเชื่อว่าพี่พริ้นจะเป็นเพื่อนกับคนแบบนี้ได้ ผมนึกถึงสิ่งที่ไอ้คุณไอพูดกับผม ผมนี่นะจะเสียใจถ้าไปยุ่งกับพี่พริ้น เหอะ ไร้สาระ พี่พริ้นทั้งใจดี อ่อนโยนขนาดนั้น ใครเชื่อก็บ้าแล้ว

          ผมเดินไปตามทางเรื่อยๆ อย่างอารมณ์เสีย มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมไม่แน่ใจ ตัวผมนั้นชอบพี่พริ้นแบบไหนกันแน่ ปกติแล้วผมก็มองสาวๆ สวยๆนะ ส่วนตัวผู้น่ะเหรอ แค่คิดก็พะอืดพะอม

          แต่สำหรับพี่พริ้น คงเรียกได้ว่าพิเศษกว่าใครละมั้ง ผมรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กเสมอ เมื่ออยู่กับพี่พริ้น เหมือนกับว่าผมสามารถอ่อนแอได้เต็มที่ ไม่ต้องพยายามเข้มแข็งให้ใครเห็น เป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ มันจะเป็นความรักแบบนั้นน่ะเหรอ ผมก็ไม่เคยคิดถึงมันมาก่อน

          ผมเดินไปตามถนน นึกถึงหน้าพี่พริ้นที่แสนใจดีก็เผลอยิ้มออกมา แต่ฉไหนเลยหน้าพี่พริ้นกลับกลายเป็นไอ้คุณไอแสนโฉดคนนั้นซะได้ ผมรีบยกมือขึ้นปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายในอากาศพัลวัน หวังให้ใบหน้าที่กำลังยิ้มเยาะอย่างชั่วร้ายของหมอนั่นหายไปจากสมองสักที

          " ทำบ้าอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ " ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร มารหัวขนตัวแรกที่ผมต้องเผชิญมาตลอดสองปีแน่นอน 

          " เปล่า เดินเล่น " 

          " เดินเล่นพ่อง ไหนบอกไม่สบาย เดี๋ยวนี้หัดแหลกับเพื่อนฝูงนะมึง " ไอ้เกลียวโผล่หัวออกมาจากรถคู่ใจพร้อมจิกกัดเพื่อนผู้แสนดีของมัน หึ

          " มึงมาก็ดี ไปส่งกูที่ชมรมหน่อย " ผมพูดพลางเปิดประตูรถสปอร์ตคันหรูของไอ้เพื่อนที่ไม่น่าจะขับรถเป็นแม้แต่จักรยาน

          " ส่งรถครับ " 

          " ส่งรถพ่อง ไปๆ อย่าลีลา " ผมตบกบาลมันไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้สุดขีด

          ผมขึ้นมานั่งบนรถ พร้อมถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ผมนึกถึงไอ้บ้านั่นอีกครั้ง พร้อมกับถีบรถไอ้เกลียวเต็มแรง แม่งแรงมันเยอะสุดๆ ผมต้องไปฟิตกล้ามมั่งแล้วมั้ง เผื่อเอาต่อกรกับคนแบบนั้น 

          " เพื่อนครับ กูไม่รู้ว่ามึงไปฟัดกับใครมา แต่อย่ามาลงกับรถกูครับ "

          " โอเค เดี๋ยวกูลงกับมึงแทนนะงั้น "

          " ข่นบ้า พูดอะไรก็ไม่รู้ ทะลึ่งงง " ไอ้เกลียวพูดดัดเสียงพลางกอดตัวเองด้วยความหวงแหน ผมเลยจัดให้มันไปอีกหนึ่งดอกด้วยความรัก ถุยยย แต่ก็พูดเถอะ เพราะมีมันผมถึงรู้สึกดีขึ้น อยู่กับมันแล้วสบายใจดี

          ผมเอนตัวพร้อมกับหลับตาหลง คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้อีกครั้ง รอยยิ้มของพี่พริ้นและรอยยิ้มเยาะของไอเลว


ถ้าพี่พริ้นเป็นคนที่ผมชื่นชมที่สุดแล้วละก็ ไอ้บ้าไอนั่น ก็คงเป็นคนที่ผมเกลียดที่สุดนั่นแหละ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2018 16:37:16 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
รู้สึกเหมือน ไอ มีดาเมจความเป็นพระเอกสูง  :impress2:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มันยังไงๆ......... :katai1: :katai1: :katai1:

ไอ เตือนว่าอย่ายุ่งกับพริ้น
พริ้น ไม่เหมือนที่เห็น  o22 o22 o22

ว่าแต่มิน ก็ไม่เหมือนที่เห็นเหมือนกัน  :a5: :a5: :a5:
รอตอนใหม่  :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          FC ที่ 9 เพื่อเพื่อนที่มีเพียงหนึ่งเดียว


          กว่าผมจะมาถึงห้องชมรมก็เกือบค่ำแล้ว พยาธิในกระเพาะกำลังร่ำร้องหาอาหารกันระงม วันนี้ช่างเป็นวันที่ยาวนานซะจริงๆ

          " มึงมาทำอะไรที่นี่วะ ทำไมไม่กลับห้อง จะมืดแล้วนะ " ซวยละสิ มาส่งแล้วก็ไปสิวะ มึงจะอยากรู้อยากเห็นไปทำไมเนี่ย

          " กูเบื่อๆ อ่ะ ไม่มีไรทำ เลยจะมาซ้อมเปียโน " ผมแหลสดพลางหลบสายตามัน

          " อืม เหมือนกัน งั้นเดี๋ยวกูซ้อมเป็นเพื่อน " ไอ้เกลียวว่าพลางเดินไปหยิบไวโอลินมาปรับสายลองเสียงไปมา เวรกรรมจริงๆ มึงมาขยันอะไรตอนเน้ครับคุณเพื่อน 

          " กูว่ากูไปกินข้าวก่อนดีกว่าว่ะ ยังไม่ได้กินไรเลยวันนี้ " ผมว่าผมหนีไปกินข้าว แล้วชิ่งเลยน่าจะดีกว่า ดึกๆ ค่อยกลับมานอน แผนนี้แจ๋ว

          " โอเค กูก็หิวเหมือนกัน ป่ะ เจ้เล้งหลังมอ " โอ้ย มึงนี่มัน กูนึกคำด่าไม่ออกเลยเฟ้ย ไปที่ชอบที่ชอบได้แล้วโว้ย


          ไม่นาน ผมก็ต้องจำใจมานั่งจกข้าวเหนียวส้มตำพร้อมกับไอ้เพื่อนเกลอจอมเกือกนี่ อยากจะเอาส้อมจิ้มตามันสักทีจริงๆ เชียว

          แต่ผมที่นั่งกินไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงวี๊ดว้ายแปลกๆ ดังขึ้นรอบตัว ผมที่สงสัยจึงหันไปสำรวจรอบๆ ร้าน และก็พบว่าสาวๆ ทุกโต๊ะกำลังมองมาทางผมด้วยใบหน้าเคลิ้มฝัน เหมือนตกอยู่ในภวังค์ของความหลงไหล 

          " อะแฮ่ม " ผมกระไอพร้อมดึงคอเสื้อขึ้นด้วยความมั่นใจ พร้อมเสยผมหนึ่งทีเป็นของแถม เฮ้อ ขนาดดำเกรียมแบบนี้ยังปิดบังความหล่อไม่หมดอีกเหรอเนี่ย ผมคิดและส่ายหน้าเบาๆ อย่างเบื่อหน่ายในความหล่อของตัวเอง 

          " นี่นายคนนั้นอ่ะ อย่าบังทีวีได้ไหม " สาวผมสั้นคนหนึ่งตะโกนมาจากกลางร้านสุดเสียง ทำเอาผมหดคอแทบไม่ทัน ฮือ นี่พวกตะเองไม่ได้มองเค้ากันหรอกเหรอ

          ผมหน้ามุ่ยทันทีด้วยความเศร้าใจ ขณะที่ไอ้เกลียว หัวเราะจนเส้นขนมจีนออกจมูก เออสิวะ คนเรามันก็ต้องมีพลาดกันบ้าง ขยี้จังนะมึง

          ผมหันไปมองจอทีวีตามสาวๆ ที่พากันจ้องตาไม่กระพริบด้วยความสงสัย ว่ามันจะมีอะไรน่ามองไปกว่าผมได้ยังไงกัน มันเป็นไปไม่ด๊าย

          ' พรวดดดด! '

          แต่เมื่อเห็นสิ่งที่ฉายอยู่บนจอนั้น ผมก็ถึงกับพ่นน้ำเป็นละอองสายรุ้งเลยทีเดียว ส่วนคนที่ซวยไม่ต้องบอกนะครับ ไอ้เกลียวไม่ต้องอาบน้ำแล้ววันนี้

          บนจอทีวีนั่น เป็นรายการเดินแบบของเสื้อผ้ายี่ห้อดังระดับโลก ซึ่งนายแบบทั้งหลาย ล้วนแต่หล่อล่ำน่าหม่ำกันทั้งนั้น แต่ที่ผมต้องอึ้งสุดๆ ไปเลยก็เพราะ ไอ้หน้าตายด้านที่ผมคุ้นสุดๆ กำลังเดินบนแคทวอร์คพร้อมสองมือล้วงกระเป๋า เดินๆหยุดๆ พร้อมโพสท่าจิกสายตาที่เหมือนกำลังโกรธแค้นปานจะแดกหัวผู้ชมอยู่นั้น มันคือไอ้คุณไอ ไอเลว ไอบ้านั่น แม่งมันเป็นนายแบบเหรอวะ ฮึ่ม หมั่นไส้โว้ย เพราะงี้สินะถึงเป็นเพื่อนกับพี่พริ้น ทั้งๆ ที่นิสัยไม่น่าไปด้วยกันได้เลย

          " หึ หล่อตายห่า " ผมพูด พร้อมเบะปากมองบนอย่างอดไม่ได้

          " มึงอิจฉาเขาก็บอก ไม่ต้องอาย " 

          " อิจฉาพ่อง กูหล่อกว่าเยอะ "

          " หยุดเถอะ กูเสียดายส้มตำ " ไอ้เกลียวพูดพร้อมทำหน้าแบบกูไม่อยากจะเชื่อว่ามึงจะกล้าพูด

          " ว่าแต่มึงรู้จักไอ้นายแบบในทีวีนั่นได้ยังไงวะ " ทำไมไม่รู้ แต่ผมสังเกตุว่าไอ้เกลียวมีสีหน้าแปลกๆ ไปเล็กน้อยเมื่อผมถามออกไปแบบนั้น

          " อ๋อ ใครบ้างจะไม่รู้จัก นั่นน่ะ นายแบบชื่อดังลูกครึ่งญี่ปุ่น รู้สึกจะชื่อ ฮิเดกิ ไอ ชื่อเสียงกระฉ่อนเรื่องอย่างว่า มึงก็ระวังตัวให้ดี มันเรียนที่นี่ด้วย อยู่ปี 3 มั้ง มันฟันไม่เลี้ยงทั้งผู้หญิงผู้ชาย เสือไบนั่นแหละ แต่ก็ไม่แปลกใจหรอก แม่งก็หล่อซะขนาดนั้น ใครเห็นก็ยอมตั้งแต่หน้าประตู "

          " เป็นมึงก็ยอมสินะ " ผมพูดแหย่มันเล่น

          " ถุยยย แทงมากูแทงสวนยับบอกก่อน กูไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างแน่ๆ หึ เพราะงั้นมึงอย่าไปยุ่งกับมัน เจอรีบเผ่นเลย แต่เอ๊ะ ไม่ต้องหรอก หน้าแบบมึงท่าทางจะปลอดภัย ก๊าก ฮ่าๆ " ผมตบกบาลมันเน้นๆ อย่างรักใคร่ หนอยไหนหมาตัวไหนบอกวะ ว่าไม่ชอบให้ใครมาดูถูกเพื่อนกู มึงนี่แหละตัวดีเลยสัด

          ผมว่าผมไปดีกว่า รู้สึกพะอืดพะอมเหลือเกินที่จะต้องเห็นไอ้บ้านั่น แม้กระทั่งบนทีวีก็ไม่อยากจะเห็น หวังว่าผมคงไม่ต้องเจอมันอีกแล้ว ครั้งเดียวก็เกินพอจริงๆ

          " เกลียว งั้นกูกลับละนะ มึงจ่ายด้วยละกัน " อิ่มแล้วจะอยู่ทำไม รีบชิ่งสิครับ อิ่มจังตังอยู่ครบ

          " เฮ้ยยย จะรีบไปไหนวะ ไปด้วยกัน เดี๋ยวกูไปส่ง " แขนมึงจะยาวไปไหน ผมว่าผมเดินไวแล้ว แม่งยังตามมาจับทันอีก

          " ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวกูจะไปธุระ " 

          " ธุระอะไรวะ แถวไหนเดี๋ยวกูพาไป " มันไม่พูดเปล่า ลากผมไปที่รถของมันด้วยความรวดเร็ว มึงนี่มันปลิงอเมซอนสมชื่อจริงๆ

          " อะไรของมึงวะ จะไปไหนก็ไปไป๊ " ผมเหลืออดเต็มทน เลยไล่มันแม่งตรงๆ ไปเลยนี่แหละ กูเหนื่อยกับมึงแล้ว พอกันที

          " มึงเก็บเสื้อผ้าไปไว้ที่ชมรมทำไมวะ " ผมเงยหน้ามองมันด้วยใบหน้าที่หนักอึ้ง เพราะแบบนี้สินะ มันถึงไม่ยอมปล่อยผมไปไหน

          " ไม่มีอะไรหรอก คือ ห้องกูตอนนี้น้ำรั่วน่ะ กูก็เลยไม่มีที่ไป " ผมหลบสายตามันด้วยความรู้สึกผิด เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะที่ผมไม่กล้าบอกความจริงกับมัน

          " งั้นไปนอนห้องกู ห้องชมรมนอนไม่ได้หรอก ทั้งหนาวทั้งยุง " มันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมไม่กล้ามองหน้ามันทีเดียว

          " กูอยู่ได้ ผ้าห่มก็พอมี ไม่เป็นไรหรอก " ผมยังยืนยันหัวชนฝาที่จะไปนอนที่ชมรม เพราะผมไม่อยากให้มันต้องมาเดือดร้อนเพราะผม

          " ก็ได้ งั้นรอกูแพพ " ผมงง ที่อยู่ดีๆ มันก็เชื่อฟังง่ายขึ้นมาซะงั้น

          " เดี๋ยวกูไปเก็บกระเป๋าก่อน เดี๋ยวไปนอนเป็นเพื่อน " เดี๋ยวๆๆๆ ครับพี่น้อง นี่กูฟังไม่ผิดใช่ไหมเนี่ย เฮ้อ ผมจะทำยังไงกับมันดีละเนี่ย

          " โอเค โอเคกูยอมแล้ว กูแพ้แล้ว ไปนอนหอมึงก็ได้ " ผมยกมือขึ้นบอกว่ากูยอมทุกอย่างแล้ว มึงอยากทำไรทำไปเลย ตามใจมึงเถอะ ยอมแพ้สิโรราบคาบกล้วย

          ผมขึ้นรถไปกับมันอย่างว่าง่าย จะว่าไปตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่มหา'ลัยนี่ ก็มีแต่มันเท่านั้นที่ไม่เคยห่างผมไปไหน บางทีผมก็สงสัยจริงๆ ว่ามึงแอบรักกูหรือเปล่าเนี่ย ฉิบหายแล้ว มึงจะล่อลวงกูไปข่มขืนที่หอมึงใช่ไหม อย่าแม้แต่จะคิดนะโว้ย

          " ไม่ต้องกลัว กูไม่ชอบของดำ " ไอ้นี่มึงอ่านใจกูอีกแล้วใช่ไหม กูเริ่มกลัวมึงจริงๆ แล้วนะเนี่ย ผมยิ้มออกมาอย่างมีความสุข อย่างน้อยวันนี้ก็มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นสินะ


' ขอบใจนะ ' ผมพูดออกมาเบาๆ เพื่อเพื่อน เพียงหนึ่งเดียวของผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2018 16:39:00 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ชอบไออ่ะ 555 ออกมานิดนึง แต่มีพลังทำลายล้างงงงง ชอบความหล่อแบ้ด :impress2:   :-[

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
ชอบไออ่ะ 555 ออกมานิดนึง แต่มีพลังทำลายล้างงงงง ชอบความหล่อแบ้ด :impress2:   :-[

ชอบถูกคนแล้วล่ะค่ะ อิอิ

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          FC ที่ 10 วันที่ต้องจดจำไปชั่วชีวิต


          ถึงผมจะสนิทกับไอ้เกลียวขนาดไหน แต่ผมก็เป็นพวกไม่ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวของใคร ครั้งนี้เลยเป็นครั้งแรก ที่ผมมาที่ห้องของมัน ตอนแรกผมคิดว่ามันอยู่หอธรรมดาครับ ถึงบ้านมันจะมีฐานะดี แต่มันก็ไม่เคยอวดรวยเลย ไม่เค๊ยไม่เคยเลยจริงๆ นอกจากไอ้รถสปอร์ตคันนั้น แต่นี่มันเกินกว่าจะพูดถึงจริงๆ ไอ้คอนโดสุดหรูนี่มันหรูหรายังกับเอาพระราชวังมายัดลงในห้องก็ไม่ปาน

          " ห้องมึงนี่ ใครถูวะเนี่ย กว้างเกินไปที่จะอยู่คนเดียวนะ "

          " งั้นมึงก็ย้ายมาเป็นรูมเมทกูสิ " 

          " ไม่เอาอ่ะ กูชอบนอนแก้ผ้า เดี๋ยวมึงข่มขืนกูทำไง " ผมก็พูดไปแบบนั้นแหละครับ จริงๆ ผมนอนเรียบร้อยน้า แต่ไอ้การไม่รับมุกของมันนี่ ทำเอาผมเสียวสันหลังวาบเลยทีเดียว

          แต่มันมีอะไรบางอย่างที่แปลก ผมเดินไปรอบๆ ห้องด้วยความสงสัย กลิ่นข้าวของเครื่องใช้เป็นกลิ่นที่เหมือนเป็นของใหม่ ข้าวของส่วนตัวในห้องก็แทบจะไม่มีนอกจากเฟอร์นิเจอร์หลุยอันหรูหราเต็มห้อง สิ่งต่างๆ ของที่นี่ มันทำให้ผมนึกถึงสถานที่แห่งหนึ่งในความทรงจำ เป็นสถานที่ที่ผมเกลียดที่จะเหยียบย่างเข้าไป

          " มึงนอนห้องใหญ่นั่นเลย เดี๋ยวกูไปนอนห้องเล็กเอง "

          " ได้ไงวะ นี่ห้องมึง มึงก็ต้องนอนห้องใหญ่ของมึงสิ " ผมละแปลกใจจริงๆ ไอ้นี่ท่าจะบ้า อยู่ดีๆ มายกห้องใหญ่ให้ผม 

          " จริงๆ กูนอนโซฟาก็ได้นะ ห้ามมาห้ามกูด้วย " ผมไม่รอให้มันห้ามหรอก รีบทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาในโถงนั่งเล่นทันที เป็นโซฟาที่โครตใหญ่ นี่แหละโอเคสำหรับผมแล้ว

          " แล้วแต่มึงเถอะ กูไปนอนละดีกว่า " ผมพยักหน้ารับทั้งๆ ที่หลับตาด้วยความเหนื่อยอ่อน วันนี้ช่างเป็นวันที่แสนยาวนานซะเหลือเกิน

          ' 잘 자요. ' (ฝันดีนะ) เสียงกระซิบอันแผ่วเบาที่เหมือนมาจากที่อันไกลแสนไกล แต่ก็ไม่ดังพอที่จะทำให้หลุดออกจากห้วงแห่งนิทรานี้ได้เพียงสักนิด


          สองสามวันถัดไป ผมก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ไปๆ มาๆ อยู่กับที่นี่และชมรม และไม่ได้ไปเรียนอีกเลย ผมตัดสินใจดรอบเทอมนี้เอาไว้ก่อน ซึ่งไอ้เพื่อนเกลอของผมพอรู้เรื่องก็โวยวายสุดๆ และพยายามจะดรอบตามผม แต่ผมคัดค้านหัวชนฝา ถึงขั้นขู่ตัดเพื่อนกับมันเลยทีเดียวมันถึงจะยอม แต่ก็งอแงฉิบหาย นี่มึงเป็นเพื่อนหรือเป็นลูกกูกันแน่ ตัวติดกันยิ่งกว่าลิงแม่ลูกอ่อน กูละปวดเฮดจริงๆ

          Rrrr Rrrr

          เสียงโทรศัพท์ที่เป็นของแรร์สำหรับผมดังขึ้น คงไม่มีใครหรอกนอกจากไอ้ห่าเกลียว เพราะผมมีแค่มันคนเดียวให้โทรหาและรับสาย ดีละ จะได้ฝากให้มันซื้อผัดไทเข้ามาให้กินหน่อย ตื่นแล้วหิวชะมัด

          " ฮัลโหล แวะซื้อผัดไทให้กูด้วย เอาพิเศษเลยนะ สองห่อไปเลยดีกว่า และแน่นอน มึงจ่าย "

          " ฮ่าๆ ตัวเล็กแต่กินเยอะจังเลยนะ เดี๋ยวก็อ้วนพุงป่องหรอก แบบนี้ป๋าแบบพี่ก็เลี้ยงไม่ไหวหรอกมั้งเนี่ย " เสียงปลายสายที่น่าจะเป็นเสียงบ่นปนสาปแช่ง กลับเป็นเสียงนุ่มๆ ที่ฟังดูละมุนๆ คุ้นๆ เหลือเกิน

          ผมตกใจจนเผลอปล่อยโทรศัพท์ตกลงพื้น ดีนะที่มันไม่แตกกระจาย แต่ไอ้ที่แตกน่ะคือหน้าโผมมม พี่พริ้น!! พี่พริ้นโทรเข้าเครื่องโผม นี่ผมยังไม่ตื่นใช่ไหม ว่าแล้วก็เตะเก้าอี้ข้างๆ ดูสักป้าบ ชัดเจน น้ำตาเล็ดแบบนี้กูตื่นแล้วแน่นอน

          " เอ่อ แฮะๆ พ..พี่พริ้นรู้เบอร์ผมได้ยังไงครับเนี่ย ตกใจหมดเลย "

          " ฮ่ะๆ พี่อยากรู้อะไร พี่ก็ต้องรู้ให้ได้แหละ หาไม่ยากหรอก " คำพูดพี่พริ้นทำเอาผมเผลอกัดโมเดลสุดที่รักของไอ้เกลียวจนบิ่นเลยทีเดียว

          " แหม พี่ก็พูดไป ฮ่าๆ แล้วมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ ถ้าผมช่วยได้ผมยินดีครับ " 

          " วันนั้นต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะที่พี่ไม่ได้พามินไปโรงพยาบาลเองน่ะ วันนี้พี่เลยจะขอไถ่โทษ ด้วยการพาไปเลี้ยงอาหารสุดพิเศษ มินต้องมาให้ได้น้า พี่คาดหวังสุดๆ ไปเลย " ผมยิ้มกว้างจนปากแทบฉีก วันนี้วันดีจริงๆ แค่ได้ฟังก็อิ่มไปจนถึงชาติหน้าได้เลยนะเนี่ย

          " ขอบคุณนะครับ แต่จริงๆ พี่ไม่ต้องลำบากก็ได้นะครับ "

          " ไม่รู้แหละ ถ้ามินปฏิเสธพี่ พี่จะไม่กินข้าว 3 วันเลยคอยดูสิ " เง้อ มาไม้นี้จะให้ผมทำยังไงละคร๊าบบ ผมน่ะอดได้ แต่พี่พริ้นห้ามอดเด็ดขาด งือ คนอะไรอ้อนน่ารักเชียว

          " 6 โมงเย็นวันนี้ที่ร้านเดิมนะ พี่มีเซอร์ไพรส์พิเศษให้มินด้วย " ผมใจเต้นตึกตักจนอกแทบระเบิด มันคืออะไรน้า ตื่นเต้นสุดๆ ไปเลยโว้ย

          " ครับพี่ แล้วเจอกันนะครับ "  ผมกดวางสายพร้อมกับกระโดดโลดเต้นไปมาทั่วห้อง เต้นระบำกับน้องหมีตัวใหญ่ที่มุมห้อง ถือสากกะเบือร้องเพลงผู้สาวขาเลาะ พร้อมไถลตัวไปตามพื้นห้องอย่างเมามันส์

          เกือบเย็นแล้วแต่ไอ้เกลียวก็ยังไม่มีวี่แววจะกลับมา โอเค ผมอาบน้ำเตรียมตัวตั้งแต่เที่ยงแล้ว ขัดสีฉวีวันจนตัวหอมฟุ้ง ใส่ชุดที่คิดว่าดูดีที่สุด ซึ่งจริงๆ ผมใส่ชุดไหนก็หล่อทุกชุดอยู่แล้วล่ะ หึหึ หมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจกเป็นชั่วโมง แปรงฟันบ้วนปาก 3 รอบได้ นี่มึงหวังอะไรจากพี่เค้าหรือไง ไอ้บ้า ฮ่าๆ ผมยืนด่าตัวเองอยู่หน้ากระจก สลับกับฮัมเพลงไปเรื่อยอย่างสุขขี

          ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมได้แต่แอบมองพี่อยู่เสมอ แต่ต่อไปนี้มันจะเปลี่ยนไปแล้ว ผมจะคาดหวังได้ไหมนะ ว่าตอนนี้ผมก็อยู่ในสายตาของพี่บ้างแล้ว จะในฐานะอะไรก็ได้ ขอแค่ให้ผม ได้อยู่ใกล้ๆ พี่ แบบนี้ตลอดไป


วันนี้จะต้องเป็นวันที่ผม จดจำไปชั่วชีวิตแน่นอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2018 16:40:37 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
พี่พริ้นนี่เข้าหาน้องมินแบบแปลกๆนะ พวกทีีมาดีดีนี่ไว้ใจไม่ค่อยได้

ละน้องมินเนี่ยไม่ใช่คนไทยใช่มะ

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
พี่พริ้นนี่เข้าหาน้องมินแบบแปลกๆนะ พวกทีีมาดีดีนี่ไว้ใจไม่ค่อยได้

ละน้องมินเนี่ยไม่ใช่คนไทยใช่มะ

เรื่องนี้ปมปริศนาค่อนข้างเยอะค่ะ อิอิ
รอดูต่อไปนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่า

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
พี่พริ้นต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างแอบแฝงแน่ๆถึงได้เข้าหามินแบบนี้ หึหึ

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          FC ที่ 11 สายฝนที่ตกอยู่ในหัวใจ


          ผมก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่า ผมยืนบิดไปมาหน้ากระจกนานเกินไปแล้ว ผมต้องรีบไปโบกแท็กซี่ก่อนที่รถจะติด กะเผื่อเวลาไว้นิดหน่อย เพราะผมไม่ชอบที่จะต้องให้อีกฝ่ายมานั่งรอ

          ไม่นานผมก็มาถึงหน้าห้างสรรพสินค้า และรีบเร่งไปยังร้านอาหารที่นัดกันไว้ ตลอดทุกฝีก้าว ผมหัวใจเต้นตึกตักตามจังหวะการเดิน โอย ทั้งๆ ที่ไม่ใช่รอบแรกที่มาทานอาหารกันสองคนแท้ๆ แต่กลับตื่นเต้นกว่าครั้งก่อนซะอีก เพราะว่าครั้งนี้ พี่ได้บอกกับผม ว่าพี่มีเซอร์ไพรส์อะไรบางอย่าง มันคืออะไรกันน้า แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร ผมก็จะต้องดีใจสุดๆ แน่นอน

          " เอ่อ กี่ที่คะ " พนักงานสาวสวย มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำหน้าเหมือนชั่งใจ ว่าจะเชิญเข้าร้านหรือเรียก รปภ. มาลากไปดี 

          " 2 ที่ครับ "

          " เชิญทางนี้เลยค่ะ " พนักงานสาวลังเลเล็กน้อย แต่ก็เชิญให้ผมเข้าไปในร้าน ผมเลือกโต๊ะเดิม มุมเดิมที่ผมกับพี่พริ้นเคยมานั่งครั้งก่อน ซึ่งมันเป็นมุมที่ดีที่สุดในร้าน มันสงบและดูเป็นส่วนตัว

          ผมก้มลงมองนาฬิกา ซึ่งตอนนี้เป็นเวลา 5 โมงเย็น 48 นาทีแล้ว ซึ่งใกล้เวลานัดมากเข้าไปทุกที
         
          เสียงกรุ๊งกริ๊งหน้าร้าน เป็นตัวบ่งบอกว่ามีแขกกำลังเดินเข้ามาในร้าน ทำให้ผมชะเง้อคอมองอย่างคาดหวัง และแล้วก็เป็นดั่งที่หวัง ชายหนุ่มสุดหล่อสวมหมวกใบสวยเดินเข้ามาในร้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ผมลุกขึ้นยืนต้อนรับบุคคลที่ผมกำลังตั้งตารอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นกัน

          แต่แล้วรอยยิ้มนั้น ก็พลันหายไป แขกคนที่ 3 ที่ผมไม่ได้คาดคิดว่าวันนี้จะได้พบเจอ เดินก้าวเข้ามายืนข้างๆ พี่พริ้น เธอมีใบหน้าที่สวยงาม แต่งตัวดูดี มีผิวขาวใส แต่งหน้าดูอ่อนหวาน รับกับใบหน้าที่สวยน่ารักของเธอ เธอส่งยิ้มที่อ่อนโยนให้กับผม ก้มหัวลงเล็กน้อยอย่างสุภาพนอบน้อม

          ราวกับเรี่ยวแรงทั้งหมดถูกกลืนหายไป ผมยืนอยู่ตรงนั้น ตัวชาราวกับโดนเข็มทิ่มแทงสักพันเล่ม รอยยิ้มที่ผมส่งไปให้ คงเป็นรอยยิ้มที่แสนเศร้าเหลือเกิน นับเป็นครั้งแรกที่ผมรู้ตัวว่าผมนั้น ชอบพี่พริ้นในรูปแบบไหน เพิ่งได้รับรู้ และจบลง ภายในเวลาเดียวกัน

          " ว้าวได้โต๊ะดีซะด้วย ทำดีมาก " พี่พริ้นพูดพร้อมยื่นมือมาขยี้หัวผมด้วยความเอ็นดูเช่นเคย

          " มานานหรือยัง นี่พี่คิดว่าพี่มาเร็วแล้วนะเนี่ย กลายเป็นว่ามินมารอแล้วซะงั้น " 

          " ผมก็เพิ่งมาถึงเหมือนกันครับ " ผมพยายามบังคับไม่ให้เสียงของผมสั่นไหว เหมือนหัวใจของผมตอนนี้

          " พี่จะแนะนำให้รู้จักนะ นี่ดาริน เป็นแฟนของพี่เอง มินเป็นคนแรกเลยนะที่พี่พารินมาเจอ พี่ไม่เคยเปิดเผยกับใครที่ไหนเลย " พี่พริ้นพูดพร้อมกับโอบไหล่สาวสวยอย่างรักใคร่ 

          " ครับ สวยมากเลยครับ "

          " ใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ คนนี้เนี่ยพี่ภูมิใจสุดๆ ไปเลย ยิ่งถ้ามินชอบพี่ก็ยิ่งดีใจ " พี่พริ้นพูดพร้อมกับหันไปส่งยิ้มละมุนให้แฟนสาว ซึ่งเจ้าหล่อนก็หยิกแขนพี่พริ้นไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย

          ทั้งคู่ช่างเหมาะสมกัน ราวกับเกิดมาเพื่อกันและกัน ผมมาทำอะไรที่นี่กันนะ ผมนั้นเหมือนเป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่ดูหม่นหมองลงไปเมื่ออยู่ใกล้ๆ แต่พอได้เห็นพี่พริ้นยิ้มอย่างมีความสุขขนาดนี้แล้ว ผมจะทำหน้าหม่นหมองได้อย่างไรกัน

          พี่ครับ...

          ผมได้ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับพี่แล้วนะครับ ตอนนี้ผมมีความสุขดีครับ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงผมอีกแล้วนะ

          ผมยิ้มให้กับความรักของคนที่ผมรักด้วยรอยยิ้มที่มาจากหัวใจ ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ พี่สมควรได้รับความสุขนั้นแทนผม


          เวลาผ่านไปนานแสนนาน เหมือนกับเวลาหยุดนิ่ง เนิ่นนานเหมือนชั่วนิรันดร์ เข็มวินาทีที่ก่อนหน้านี้เดินอย่างแข็งขัน บัดนี้กลับเดินหมุนวนไปอย่างช้าๆ พร้อมกับหัวใจที่อ่อนแอลง เหมือนมันไม่อยากจะเต้นอีกต่อไป

          " มินไม่สบายหรือเปล่า อาหารไม่อร่อยเหรอ " 

          " เปล่าครับ อร่อยมากเลยครับ " ผมฝืนยิ้มอย่างอ่อนโอนไปให้อย่างอ่อนแรง

          " คุณรินเรียนที่ไหนเหรอครับ " ผมถามคำถามที่ไม่อยากรู้ออกไปทำไมกันนะ

          " นิเทศศาสตร์ปี 3 จ๊ะ มหา'ลัยเดียวกันนี่แหละ " เธอส่งยิ้มหวานมาให้ พร้อมตักกับข้าวให้พี่พริ้น

          " มินมีแฟนหรือยังจ๊ะ น่ารักแบบนี้ต้องมีแล้วแน่ๆ เลย " เธอพูดต่อพร้อมกับเช็ดปากให้พี่พริ้นอย่างไม่จำเป็น

          " ไม่มีหรอกครับ สภาพแบบนี้คงยากฮะ " ผมส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้พลางเขี่ยข้าวในจานไปมา

          " มิน พูดอะไรแบบนั้น มินก็ดูดีในแบบของมินนั่นแหละ " พี่พริ้นพูดปลอบใจผม แว๊บนึงผมเหลือบตาไปมองที่แฟนสาวของพี่พริ้น ผมก็ทันได้เห็นแววตายิ้มเยาะอยู่เสี้ยววินาที ก่อนที่หล่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าเป็นยิ้มละมุนอีกครั้ง 

          " เดี๋ยวผมขอตัวกลับก่อนดีกว่าครับ ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เหมือนว่าจะเป็นหวัดอีกแล้วล่ะฮะ " ผมลุกขึ้น โค้งตัวเล็กน้อยพร้อมจะเดินจากไป 

          " เดี๋ยวสิมิน เดี๋ยวพี่ไปส่งมินเอง รอแปบนะ " พี่พริ้นดึงมือผมเอาไว้ ไม่ให้ผมเดินออกไป วางเงินสดแบงค์สีเทาหลายใบไว้บนโต๊ะ แล้วลุกออกมาจากที่นั่ง

          " ไม่เป็นไรครับพี่ พี่ต้องไปส่งพี่ดารินสิครับ " พี่พริ้นหันไปมองแฟนสาว ที่บัดนี้หน้างอไปเรียบร้อยแล้ว

          " ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับ " ผมโค้งตัวอีกครั้งและเดินจากออกมา แต่ก็ยังมีมือมาจับผมเอาไว้อีก

          " เดี๋ยวพี่ไปส่งรินแปบเดียว เดี๋ยวพี่มา มินรอพี่นะ " พี่พริ้นพูดกับผมด้วยสีหน้าจริงจัง ผมเงยหน้ามองพี่พริ้น ที่ตอนนี้ดวงตาสั่นไหวอย่างน่ากลัว

          " ครับ ผมจะรอครับ " ผมส่งยิ้มไปให้ เพื่อให้พี่พริ้นสบายใจ

          พี่พริ้นรีบร้อนเดินจากไปพร้อมแฟนสาว ผมซึ่งรับปากว่าจะรอ ก็เดินลงไปจากชั้นบน เพื่อลงไปรอข้างนอกห้าง ซึ่งตอนนี้ใกล้ปิดเต็มทีแล้ว


          ผมมานั่งรอพี่พริ้นที่ขั้นบันไดเตี้ยๆ หน้าห้าง เฝ้ามองรถที่แล่นผ่านไปมาด้วยความเหม่อลอย สีสันยามค่ำคืนของท้องถนนนั้นช่างสวยงามมากมายหลากสี แต่วันนี้มันกลับกลายเป็นสีเทาที่ดูหม่นหมอง บางที อาจจะเป็นเพราะหัวใจของผมก็ได้ ที่มันทำให้สีสันต่างๆ จางลง

          ' ซ่าาาา '

          สายฝนที่หนาวเย็น เริ่มตกลงมาทีละนิด พร้อมๆ กับไฟในห้างที่ดับลง เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมงแล้ว แต่ผมก็ยังคงนั่งรอต่อไป เวลาแค่นี้น่ะเทียบไม่ได้กับที่ผมรอพี่มา 8 ปีเต็ม เวลาแค่ 3 ชั่วโมงมันทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ

          ไม่รู้ว่าสายฝนอันไหนกันแน่ที่ตกหนักมากกว่ากัน ระหว่างสายฝนที่ร่างกายของผมสัมผัสมันอยู่นี้ หรือเป็นสายฝนที่ตกอยู่ในใจของผม

          ' แปะๆๆๆ ่

          เสียงของเม็ดฝนที่ตกกระทบกับร่มที่กางเหนือศีรษะของผม ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองผู้มาเยือนคนใหม่


ผู้มาเยือนที่เป็นคนสุดท้าย ที่ผมอยากจะเจอที่สุดในชีวิต
         
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2018 17:23:33 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
พี่พริ้นต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างแอบแฝงแน่ๆถึงได้เข้าหามินแบบนี้ หึหึ


นักอ่านบอร์ดนี้หลอกไม่ได้เลยแฮะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ  :z1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด