บทที่สิบเก้า
อิสรภาพ
เทิดศักดิ์ตกใจกับสภาพห้องของเขาเมื่อเขากลับมาถึง แต่ต้องตกใจยิ่งกว่าเมื่อเจอร่างกึ่งเปลือยของไอ้ก้านนอนคว่ำหน้านิ่งอยู่บนเตียงนอน
“ก้าน…..เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรมึง นายมึงมาที่นี่เหรอ”
“พี่….ผม…..ขอโทษนะครับ”
หนังสืออุบาทว์วางหราอยู่ตรงหน้าเขา หนังสือเล่มนี้ที่ครั้งหนึ่งเขาเดือดร้อนถึงขั้นต้องถ่ายมัน เทิดศักดิ์ตั้งใจเก็บมันไว้เป็นเครื่องเตือนใจ แต่บัดนี้สิ่งที่เขาทำอยู่มันระยำยิ่งกว่า
“มึงแต่งตัวดีดีก่อนก้าน มึงไหวไหม”
“ไหวครับ”
ไอ้ก้านดึงกางเกงที่ถูกถลกลงจนถึงหัวเข่าขึ้นมาสวมปกปิดของสงวน เสื้อยืดของมันถูกฉีกจนขาดวิ่น มันจึงถอดออกเสีย อย่างไรเทิดศักดิ์กับมันก็เป็นผู้ชาย แล้วมันก็ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว หากเทิดศักดิ์จะรับรู้ว่ามันเจออะไรจากร่องรอยบนตัวของมันก็ช่างเถิด
“ก้าน…หนังสือเล่มนั้นน่ะ….คือ….กู”
“ช่างมันเถอะครับพี่ ไม่ต้องอธิบายหรอก มันเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่นี่ครับ”
“รังเกียจกูมั้ยวะก้าน”
“ไม่เลยครับ ผมไม่รังเกียจพี่หรอกครับ”
“มึงหนีไปพรุ่งนี้เลยได้มั้ย กูเป็นห่วงมึงนะ” ร่องรอยบนตัวไอ้ก้าน ประกอบกับภาพแรกที่เทิดศักดิ์ได้เห็นตอนเปิดประตูห้องเข้ามาเจอ เขาก็รู้ได้ไม่ยากว่าไอ้ก้านนั้นเจอกับอะไร ท่าทางชินชาที่เด็กหนุ่มรุ่นน้องแสดงออกมา บ่งบอกได้ว่าคงไม่ใช่ครั้งแรกที่ไอ้ก้านถูกกระทำแบบนี้
เทิดศักดิ์เป็นห่วงตัวเองก่อน หาใช่เพราะความขลาด แต่เป็นเพราะภาระอีกหลายชีวิตที่รออยู่ หากเขาต้องมาพัวพันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ กับคนอย่างกรุณ แล้วเกิดอะไรขึ้นมากับตัวเขาล่ะ
แต่สุดท้ายแล้ว ชายหนุ่มก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเขานั้นเป็นห่วงไอ้ก้าน ห่วงมาก ห่วงมาตลอด
ใบหน้าหงอยๆที่เขาเห็นมันทุกครั้งที่คอนโด นอกจากยิ้มฝืนๆตอนที่คุยกับเขาแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าไอ้ก้านนั้นเคยยิ้ม….แบบจริงๆบ้างไหม
“พี่ไปกับผมมั้ย เราหนีไปจากนี่ด้วยกันนะ”
“หึ…..ก้านเอ้ย มึงยังอุตส่าห์เป็นห่วงกูอีกนะ”
“เพราะผม…พี่เลยเดือดร้อนไปด้วยเลย เพราะผมแท้ๆ แม่งเอ้ย”
“ก้าน…มึงอย่าทำแบบนี้ อย่าโทษตัวเอง”
เสียงของไอ้ก้านสั่นเครือ มันทุบหัวตัวเองซ้ำๆ ปากก็เอาแต่บอกว่าเป็นความผิดของมัน เทิดศักดิ์จึงคว้าตัวของไอ้หมาก้านมากอดเอาไว้ อย่างน้อยก็ให้มันสงบสติอารมณ์ได้บ้าง
ไอ้ก้านเอ้ย…..ทำไมเขาถึงทำกับมึงแบบนี้….
ทำไมเด็กดีอย่างมึงต้องเจออะไรแบบนี้
“ก้าน….มึงโทษมันเถอะ นายของมึง โยนความผิดให้มันเถอะวะ อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลย”
“ฮืออออออออออ”
“ดีแล้ว…แบบนี้แหละ…..ร้องออกมา ร้องไห้ออกมาบ้าง อยากทุบอยากกัดพี่ก็ได้ ระบายมันออกมา”
“ผมควรจะอยู่ที่ดอย ควรจะโตแล้วก็ตายที่นั่น นายไม่ควรซื้อผมมาเลย…พี่…..เขาเห็นผมเป็นแค่สัตว์ แค่สัตว์ของเขาเท่านั้นเอง......”
“มึงไม่ใช่สัตว์ก้าน ไม่ใช่เลย พวกมันต่างหาก พวกคนรวยพวกนั้นต่างหากที่เป็นสัตว์”
ไอ้ก้านร้องไห้จนหลับไปแล้ว เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่โตเป็นผู้ใหญ่ที่เจ้าหมาร้องไห้ต่อหน้าใครอื่นได้อย่างเต็มเสียง
เทิดศักดิ์วางร่างอ่อนปวกเปียกของมันลงบนเตียง ก่อนที่เขาจะล้มตัวลงนอนข้างๆมัน ชายหนุ่มจ้องมองเพดานห้องอย่างเลื่อนลอย ในหัวคิดสารพัดสิ่ง ที่นาที่จวนเจียนจะถูกยึด สุขภาพของตายาย ภาระค่าใช้จ่ายของน้องอีกสามคน
ถ่ายแบบโป๊…
เล่นหนังเรทอาร์
เต้นเปลื้องผ้าในบาร์เกย์
ซอร์ฟเซ็กส์ภายนอกกับลูกค้า ถูกล้วง ถูกกอด ใช้มือและปากอย่างจำทน
ต้องทำอีกสักกี่ครั้งกัน จึงจะได้เงินมากพอ ช่างน่ารังเกียจตัวเองเสียจริง
ร่างกายของเขา….ความบริสุทธิ์ด้านหลัง…หากขาย….คงได้ค่าเปิดซิงมากพอ หากว่าคนๆนั้นไม่ได้โกหกล่ะก็นะ….แล้วหลังจากนั้น หากต้องขายอีก ทุกอย่างมันคงง่าย
เขาคงไม่มีอารมณ์พรรค์นั้นกับร่างกายของเพศผู้ หากเป็นฝ่ายกระทำคงไม่สำเร็จ แต่ถ้าเป็นฝ่ายถูกกระทำ….แค่นอนเฉยๆ….แค่
อดทน…แค่ทน…ไม่ให้อาเจียนออกมา…
แต่จูบกับไอ้หนุ่มนั่น….มันก็ไม่ได้เลวร้าย…
นี่เขาเสียสติไปแล้ว
นี่มันมากเกินไปแล้ว
“ไม่…..ไม่มีวัน กูไม่ยอมขาย…ไปมากกว่านี้แล้ว….ต่อให้เป็นมึง…กูก็ไม่ยอมเป็นเมียมึงหรอก อัปปรีย์ชิบหาย!!!!” เทิดศักดิ์เผลอตะโกนออกมา เสียงของเขานั้นดังจนไอ้ก้านสะดุ้งตื่น
“อื่ออออออ…พี่…..มีอะไรหรือเปล่าครับ….”
“มึงนอนเถอะ ไม่มีอะไรหรอก”
“ครับ”
......................................................................
“อ้าว….พี่เข้ม”
“………เฮ้ยยยย……มึง”
ไอ้ก้านมองหน้าของมาร์คและเทิดศักดิ์สลับกันด้วยความข้องใจ….
สองคนนี้ไปรู้จักกันตอนไหนนะ
พวกเขานัดกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพื่อวางแผนพาไอ้ก้านหลบหนี ทว่าเมื่อมาร์คและพี่เทิดเจอหน้ากัน ทั้งสองต่างก็มีปฏิกิริยาแปลกๆอย่างที่เห็น
เทิดศักดิ์เล่าเรื่องที่กรุณพาคนบุกรุกห้องเช่าให้มาร์คฟัง รวมถึงเรื่องที่ไอ้ก้านถูก ‘ทำร้าย’ โดยที่ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก แต่ทั้งเทิดศักดิ์และมาร์คต่างก็รู้ดี….ว่าไอ้ก้านต้องเจอกับอะไร
“มึงทำบัตรประชาชนใหม่แล้วใช่ไหม เดี๋ยวกูพามึงไปจัดการเรื่องบัญชีเงินฝากของมึงก่อน ทีแรกกูกะให้คนของกูมารับมึงไป แต่ไหนๆนายของมึงก็รู้แล้วว่ามึงอยู่ที่ไหน ก็จัดการให้จบวันนี้เลยดีที่สุด เราจะไปกันคืนนี้ พี่เข้มก็หนีไปด้วยกันเลย”
“กูไม่ได้ชื่อเข้ม แล้วมึง….เอ่อ…..น้องก็พาก้านมันไปคนเดียวเถอะ พี่คงไปด้วยไม่ได้หรอก”
“พี่จะเสี่ยงอยู่รอให้มันทำพี่เหรอวะ ก็แค่หนีไปตั้งหลักก่อน มันจะอะไรนักหนา”
“พี่ก็ต้องทำงานหาเงินส่งที่บ้านนะเว้ย ถ้ามัวแต่หนี แล้วครอบครัวพี่เขาอยู่กันยังไง พี่ไม่ได้มีเงินใช้มือเติบอย่างน้องนะ” เทิดศักดิ์พยายามบอกกับอีกฝ่ายอย่างใจเย็น ทว่ากลับถูกเด็กหนุ่มรุ่นน้องสวนกลับมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“แต่ถ้าพี่เป็นอะไรขึ้นมา ที่บ้านพี่ก็เดือดร้อนเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ตัวเองถูกหมายหัวแล้ว คิดว่าจะสามารถทำมาหากินได้อย่างสบายใจหรือไง”
ให้ตายเถอะ เขาไม่รู้จะเถียงเด็กห่านี่ยังไงเลย
“พี่ครับ….เงินเก็บผม…..พี่เอาไปก่อนก็ได้….ผมไม่อยากให้พี่เดือดร้อนเพราะผม ไปด้วยกันเถอะนะ เราไปหางานทำที่นั่นก็ได้ นะพี่นะ”
ไอ้ก้านเอ่ยเสียงหงอย ตาตี่ๆของมันดูเศร้าสร้อยเหลือเกิน มาร์คกระชากข้อมือยามหนุ่มให้ลุกขึ้น แม้เทิดศักดิ์จะสูงใหญ่ แต่ด้วยร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน ประกอบกับร่างกายของอีกฝ่ายที่ใหญ่โตกว่า เขาจึงเหมือนตุ๊กตาตัวใหญ่ที่เคลื่อนไหวไปตามเรี่ยวแรงของอีกฝ่าย
“อะไรของน้องวะ”
“จะคุยที่นี่ หรือจะไปคุยกันตรงโน้น”
“เออ…ไปก็ไป”
“ก้านไม่ต้องห่วง กูเคลียร์ให้….ทั้งคู่เลยนั่นแหละ”
ไอ้ก้านพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะจ้องมองไปยังโทรศัพท์ในมือ เฟสบุ๊คของกวิน มันลังเลที่จะกดเพิ่มเพื่อนเข้าไป มันยังไม่พร้อมจะติดต่อกับคุณเขา ได้แต่คิดถึง ป่านนี้คุณกวินจะเป็นอย่างไรบ้าง จะคิดถึงหมาหน้าโง่อย่างมันบ้างไหม ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ติดต่อไป แต่ความนิ่งเงียบของคุณเขาก็อดทำให้มันนึกน้อยใจไม่ได้
ไม่แม้แต่จะฝากมาร์คมาบอกอะไรมันสักคำเลยหรือ
หรือคุณเขาจะตีใจออกห่างจากมันเสียแล้ว
ถ้าเป็นอย่างหลัง คงจะดีเหมือนกัน นางฟ้าของไอ้ก้าน ให้คุณไปเจอคนที่ดีกว่าไอ้ก้านดีกว่า
........................................................................
เที่ยงคืนครึ่ง
รถตู้สีดำคันใหญ่แล่นออกจากหอพักของเทิดศักดิ์
มุ่งลงสู่ทางใต้
โดยมีรถเก๋งติดฟิล์มสีดำสองคัน ขับติดตามไปอย่างช้าๆ
.....................
.........
.....
.
.
.
.
มาร์คเหลือบมองไปยังเบาะหลัง ทั้งไอ้ก้านกับยามหนุ่ม ต่างก็หลับใหลไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย หัวของไอ้ก้านเอนซบไหล่ของพี่ยาม เป็นภาพที่น่าเอ็นดูจนมาร์คเผลอยิ้มออกมาเบาๆ
ปึ๊ง
ข้อความจากแอพไลน์เด้งแจ้งเตือนขึ้นมายังหน้าจอโทรศัพท์ มาร์คเหลือบตามอง รอยยิ้มของเขาหายไป ใบหน้าขี้เล่นเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วด้วยความเครียด
[ข้อความ]
Kavinn : LIAR.
Kavinn : (สติ๊กเกอร์หน้าโกรธ)
บ้าเอ้ยยยย…..ไอ้เสือซ่อนเล็บมันรู้แล้วหรือนี่
ระวังกรุณกับกวิน หากให้เลือกกลัวได้เพียงแค่คนเดียว ไอ้หน้าใสๆอย่างกวินนี่แหละ
ที่น่ากลัวที่สุด!!!!
to be con
น้องหนีแล้วนะ