บทที่สิบแปด
------รอบตัวของก้าน------
มาร์ครีบมาหาเจ้าหมาก้านทันทีที่ได้รับข้อความจากมัน....
เจ้าหมาของกรุณ หรือพี่ก้านของกวิน นั่งรอคนที่มันไว้ใจที่สุดในตอนนี้ รองจากที่ยามเทิดศักดิ์ ใบหน้าซื่อบื้อที่มักไม่ค่อยแสดงอารมณ์ใดใด บัดนี้ดูหมองหม่นลงไปเสียยิ่งกว่าเดิม ไอ้ก้านกระตุกยิ้มมุมปากน้อยๆ เมื่อมาร์คเปิดประตูเข้ามา ในร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่งที่อยู่ไกลออกไปจากห้องเช่าของพี่ยาม ไกลจากที่พักของนาย และเป็นร้านที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านมากมายนัก
“ก้าน......มึงดูแย่ๆนะ เกิดอะไรขึ้น”
“........”
“ไม่ต้องมองหาหรอก ก็มึงบอกไม่ให้กูบอกไอ้วิน กูก็ไม่ได้บอกมัน รีบมาหามึงเนี่ย”
“ขอบคุณมาร์คมากนะ”
“เฮ้ยไม่ต้องไหว้กู”
กาแฟรสชาติจืดชืดถูกยกมาเสิร์ฟ มาร์คยกแก้วขึ้นดูดไปทีหนึ่งก็ถึงกับเบ้หน้าในความห่วยแตกของอเมริกาโน่ไม่ใส่น้ำตาล ที่ไม่ต่างอะไรจากน้ำล้างแก้ว ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ไม่ค่อยมีลูกค้ามากนัก แล้วไอ้ก้านก็ไม่ใช่คอกาแฟ เดาเอาจากแก้วชานมตรงหน้าของมัน ที่ละลายจนสีซีดจางและไม่ยังพร่องไปไหน มันคงแค่อยากหาที่เงียบๆเพื่อคุย
“มาร์คขอเวลาเราหน่อยได้ไหม”
“กูให้มึงได้ทั้งวันแหละก้าน แต่มึงแน่ใจนะว่าจะคุยที่นี่”
“เราก็ไม่รู้”
“งั้นมากับกูเหอะ ไปหาที่เงียบๆคุย”
“อื่อ”
...................................
.........................
..............
....
.
รถยนต์ของมาร์คแล่นมาจอดยังสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง แต่พวกเขาไม่ได้ลงมาจากรถ ไอ้ก้านทำท่าทางอึกอัก เหมือนใจหนึ่งยากจะพูด แต่อีกใจก็ไม่กล้า
“มึงไว้ใจกูได้.....เหมือนที่ไว้ใจไอ้วินนะก้าน”
“เรากลัวว่า.....จะทำให้มาร์คเดือดร้อน”
“อึดอัดมั้ยวะ......”
“????”
“กูอยากรู้ว่าเป็นมึงเนี่ย....อึดอัดไหม”
“อื่อ......ที่สุดเลย”
“งั้นก็ปล่อยมันออกมาดิวะ”
"เรา....ไม่อยากแหกปากตะโกนอ่ะ"
"อ่ะ....ไอ้สัส ยังมีหน้ามาพูดตลกอีก มันใช่เวลาไหม"
“มาร์ค....”
“เฮ้อ....กูรอได้ก้าน พร้อมจะเล่าเมื่อไหร่ก็บอก....”
“เราถูกนายไล่ออกมาแล้ว ตอนนี้เราไม่ได้อยู่กับนายแล้ว.....นายรู้เรื่องเรากับคุณวิน นายจะทำอะไรคุณวินมั้ยมาร์ค เราเป็นห่วง อยากเจอหน้า อยากกอด แต่เราไม่กล้าเลย”
“มึงห่วงตัวมึงก่อน ไอ้วินมันไม่เป็นไร มันจะไม่เป็นไร กูดูแลมันเอง”
“นายโกรธมากเลย โกรธมากกว่าทุกครั้ง เราออกมาแต่ตัว ไม่มีอะไรติดตัวเลย โชคดีที่พี่เทิดให้อยู่ด้วย แต่ถ้านายรู้ เรากลัวพี่เทิดจะเดือดร้อน”
“ใครวะพี่เทิดเนี่ย”
“พี่เทิดเป็นยามที่คอนโดนาย”
“ไว้ใจได้เหรอวะ”
“อื่อ.....เราไว้ใจ”
มาร์คไม่รู้ว่าจะพูดออกไปดีหรือไม่ เรื่องที่เขารู้ทั้งหมด ว่าไอ้ก้านนั้นเจออะไรมาบ้าง ไอ้ก้านไม่ใช่เด็กหนุ่มเปราะบาง แต่มันก็เป็นคนซื่อๆ ที่ไม่เคยคิดร้ายกับใคร ยิ่งกับคนที่ดีด้วยแล้ว คนอย่างไอ้ก้านก็จะยิ่งเป็นห่วงมากกว่าตัวเองด้วยซ้ำไป เขาไม่แปลกใจที่มันอดทนใช้ชีวิตร่วมกับไอ้คนป่วยจิตแบบนั้นมาได้ตั้งหลายปี ด้วยเหตุผลเดียวก็คือบุญคุณ
“มึงอยากไปจาก.....ที่นี่ไหม”
“เราจะไปไหนได้ เราอยากให้มาร์คช่วยเรา พี่เทิดบอกว่าเราต้องทำบัตรประชาชนใหม่ บัตรเอทีเอ็มด้วย เรามีเงินเก็บที่เป็นชื่อเราอยู่ แต่ทุกอย่างอยู่ที่นายหมดเลย ตอนนี้เราตันไปหมดเลยมาร์ค”
“กูจะช่วยมึง”
“อย่าเพิ่งบอกคุณวินนะ”
“กูสัญญาว่ากูจะไม่บอกมัน ตอนนี้มึงก็พักกับพี่คนนั้นไปก่อน ถ้ามึงบอกว่าเขาไว้ใจได้.....แต่กูก็ไม่อยากให้มึงอยู่กับเค้านานๆ เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมามันจะซวยกันทั้งคู่ แล้วพี่เค้าคง....ช่วยอะไรมึงมากไม่ได้ ถูกมั้ย”
“อื่อ.....พี่เค้ามีปัญหาทางบ้านหนักพอตัว เรากลัวนายจะแกล้งพี่เค้า กลัวนายจะทำให้พี่เค้าตกงาน”
“ไว้ใจได้จริงมั้ยวะเนี่ย ไปอยู่กับเค้าเนี่ย กูก็ห่วงเรื่องนี้นะ ไปพักกับกูก่อนมั้ยล่ะ”
“เราไม่มีอะไรจะเสียแล้วมาร์ค ไม่มีอะไรเหลือแล้ว เสื้อนี่ก็ของพี่เค้า ยืมเงินเค้ามาด้วย”
“งั้นมึงมานอนห้องกู”
“เราไม่อยากให้คุณวินรู้ไง”
“อ่า....จริงสินะ งั้นกูขอดูหน้าพี่มันหน่อยได้มั้ย ไอ้พี่เทือกพี่เทพอะไรของมึงเนี่ย”
“โทรศัพท์เราก็อยู่ที่นาย แล้วพี่เทิดเค้าคงไม่เล่นพวกโซเชี่ยลหรอก”
“งั้นกูเริ่มจากซื้อโทรศัพท์ให้มึงก่อนเลย.....แล้วเดี๋ยวเรื่องบัตรอะไรทั้งหลายแหล่ของมึงนี่ เดี๋ยวกูให้คนรู้จักกูช่วยพามึงไปทำ รับรองว่าจะเป็นความลับสุดยอดเลย”
“ขอบคุณมาร์คมากนะ เราไม่รู้จะตอบแทนยังไงเลย”
“มาให้กูกอดทีดิ.....เฮ้อ.....ไอ้ก้านเอ้ย เป็นมึงนี่ลำบากจังวะ”
มาร์คดึงตัวเจ้าสุนัขมากอดเอาไว้ ไอ้ก้านไม่ขัดขืน มันเอนตัวลงซบแผ่นอกหนาล่ำของเพื่อน แล้วค่อยๆหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้าเต็มที
ไอ้ลูกหมาเอ้ย นึกว่าจะร้องไห้ ก็ไม่เสือกร้อง เข้มแข็งอะไรอย่างนี้วะ
มาร์คกำลังคิดเรื่องราวหลายสิ่งอย่างในหัว อย่างน้อยไอ้ก้านก็ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับกวิน เรื่องที่มันถูกไล่ออกมา แล้วตัวเขาเองก็ตั้งใจที่จะไม่บอกกวินเช่นกัน
นั่นเป็นสิ่งเดียวที่เขาจะช่วยเพื่อนทั้งสองคนไม่ให้ถลำลึกมากไปกว่านี้ กรุณนั้นน่ากลัว แม้ว่าจะสูญเสียพ่อซึ่งเป็นเสาหลัก และแม่ต้องมาแต่งงานกับลูกน้องเก่าของพ่อตัวเอง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคนอย่างกรุณจะสิ้นไร้อำนาจบารมี กวินเองก็ไม่ใช่กระจอก ทั้งฐานะทางบ้าน ฐานะทางสังคม แล้วยังมีน้องชายของพ่อซึ่งมีศักดิ์เป็นอา คอยเป็นแบคที่ดีให้อีกทางหนึ่ง จะห่วงก็แต่ไอ้หมาตัวนี้ ไอ้หมาก้านที่ไม่มีใคร....กวินน่ะหรือ ต่อให้กวินสามารถช่วยไอ้ก้านให้พ้นจากกรุณได้ แต่อีกสักเดี๋ยวเจ้าตัวก็คงได้เป็นฝ่ายสร้างแผลให้ไอ้ก้านอยู่ดี
ที่เขาคิดในตอนนี้คือพาไอ้ก้านให้หนีออกไปให้ไกลจากคนพวกนี้มากที่สุด
คนอย่างมัน.....คนอย่างไอ้ก้าน ไม่สมควรจะมายืนอยู่ท่ามกลางสงครามระหว่างคนชั่วช้าโรคจิต กับคนที่ร้ายกาจเอาแต่ใจ อย่างกรุณและกวิน
“อ้าว.....หลับไปแล้วเหรอวะ”
......................
...............
.......
....
.
“พรุ่งนี้เจอกัน มีอะไรก็บอกกูนะ โทรหากูได้ตลอดเวลาเลย เงินไม่พอใช้ก็บอกกู ไม่ต้องไปรบกวนพี่เขา กูก็ว่ากูรวยในระดับนึงอ่ะนะ”
“เราขอบคุณนะมาร์ค”
“กูบอกว่าไม่ต้องไหว้ไง....ห่านี่ กูก็เพื่อนมึงไงก้านเอ้ย”
มาร์คขับรถมาส่งไอ้ก้านที่อพาร์ทเม้นท์ราคาถูกในชุมชนแออัด ที่ซึ่งมันอาศัยอยู่กับเทิดศักดิ์เป็นการชั่วคราว สายตาของมาร์คมองไปรอบๆสถานที่พลางนึกเป็นห่วงสวัสดิภาพของเพื่อน ที่ที่ไอ้ก้านอยู่นั้นไม่ไกลจากคอนโดของกรุณเท่าไรนัก แต่หากเปรียบเทียบสภาพแวดล้อมกันแล้วให้ความรู้สึกเหมือนคนละโลก ละแวกนี้มีผู้คนหลากหลายระดับ ตั้งแต่ปานกลางตอนปลาย ไปจนถึงระดับล่าง นักศึกษาที่ต้องอยู่อย่างประหยัด พ่อค้าแม่ขาย คนทำงานหาเช้ากินค่ำ พนักงานบริษัทเล็กๆที่เงินเดือนไม่สูงนัก นักเลงเจ้าถิ่น ขี้ยา ไปจนถึงผู้หญิงกลางคืน....หรืออาจรวมถึงผู้ชายกลางคืน ก็ไม่รู้สินะ
ไอ้ก้านไม่ใช่หญิงสาวบอบบาง หรือเด็กหนุ่มอ้อนแอ่นลูกคุณหนู ที่ดูดึงดูดความสนใจ มันดูกลมกลืนกับคนแถวนั้น ราวกับอยู่ด้วยกันมานาน แต่ก็นั่นแหละ นิสัยจริงๆที่ค่อนข้างใสซื่อของมัน จะเป็นภัยแก่ตัวมันเอง เขาคงไม่ปล่อยให้มันอยู่ที่นี่นานนัก มาร์คตั้งใจจะให้มันไปอยู่ระยอง บ้านเกิดเขา หรือไม่ก็พาขึ้นเหนือ เขามาพวกพี่ป้าน้าอาอยู่ที่นั่น ให้มันทำงานในไร่ แล้วเดี๋ยวพอมีเงินเก็บ ค่อยเรียนต่อในมหาวิทยาลัยประจำจังหวัด
ห่าเอ้ย.....มาร์คสบถกับตัวเอง หลังจากที่ไอ้ก้านเดินหายเข้าไปในตึกโทรมๆได้สักพักแล้ว เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพ่อที่กำลังวางอนาคตให้ลูกชาย ยังไงยังงั้น
“ขอโทษนะเว้ยไอ้วิน มึงเองก็ต้องการเวลาเพื่อคิดทบทวนอีกหลายเรื่องเลยวะ แบบนี้ดีกับมึงแล้วก็ไอ้ก้านที่สุดแล้ว”
.
...
.......
...........
.....................
..............................
ไอ้ก้านไม่ได้สนใจผู้ชายสวมแจ็คเก็ตหนังท่าทางแปลกๆสองคนที่เดินสวนกันตรงตีนบันไดเลยแม้แต่น้อย สมองของมันเบลอเนื่องจากกำลังคิดวนไปวนมาถึงปัญหาร้อยแปด มันล้วงเอากุญแจสำรองขึ้นมาไข ก็จะรู้ว่าห้องนั้นไม่ได้ถูกล็อค
โจร......???
คนซื่อบื้ออย่างไอ้ก้านไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ในหัวเลยสักนิด มันคิดเพียงแค่ว่าเทิดศักดิ์คงกลับมานอนพัก เนื่องจากพักหลังมานี่เทิดศักดิ์ไม่ได้ทำงานเป็นกะ เป็นเวลาตายตัวเหมือนอย่างเคย แต่สลับเวรยามกับคนนั้นคนนี้ยุ่งเหยิงไปหมด ไหนจะงานกลางคืนนั่นอีกเล่า
คงเหนื่อยน่าดูเลยสินะ
บนเตียงนอนมีหนังสือวางอยู่หนึ่งเล่ม ไอ้ก้านสะดุดตากับรูปผู้ชายเปลือยที่สวมเพียงกางเกงชั้นในตัวจิ๋วสีขาว ตรงส่วนที่ล่อแหลมนั้นถูกทับด้วยตัวหนังสือตัวโตๆอย่างไร้รสนิยม
หนังสือเกย์ ? พี่เทิดมีหนังสือพวกนี้ด้วยหรือ?
มันยืนจ้องอยู่นอน มือของมันสั่นเทาขณะเอื้อมลงไปหยิบนิตยสารเกย์เล่มนั้นขึ้นมาดู แล้วมันก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าผู้ชายผิวเข้มกล้ามโตบนปกนั้นคือพี่เทิด และตกใจมากกว่านั้น เมื่อเปิดดูข้างในแล้วพบว่าในเล่มนั้นเต็มไปด้วยรูปโป๊เปลือยจนเห็นของสงวนของเทิดศักดิ์
พี่เทิดถ่ายแบบโป๊ และดูจากแววตาแล้ว น่าจะไม่ได้เต็มใจจะถ่าย หลายรูปที่พี่เทิดแกยิ้มให้กล้อง แต่เป็นยิ้มฝืดฝืน ต่างจากที่แกชอบยิ้มให้ไอ้ก้านบ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีรูปสำเร็จความใคร่ รูปเปลือยอีกเซ็ทของนายแบบอีกคนหนึ่ง และวีซีดีในซองพลาสติกใสแนบอยู่กลางเล่ม
ใครสักคนล็อคตัวมันจากด้านหลัง คนเฉื่อยชาอย่างไอ้ก้าน ยิ่งตกใจก็ยิ่งนิ่ง มันยืนตัวแข็งทื่อ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงร้องออกมา ใครคนนั้นปิดตาของมันไว้ มีเพียงลมหายใจอุ่นๆที่กำลังรดใบหูของมัน
มันเปล่งเสียงออกมาอย่างลำบาก
“พี่...ครับ....อย่า....ทำร้าย......อย่าทำร้ายผมเลยครับ.....ผมกลัวแล้วครับ.....พี่อยากได้อะไร ก็เอาไปเลยครับ”
“หึหึหึหึหึ.....ไม่เจอกันกี่วันเอง น้องก้านลืมพี่ฟ้าแล้วเหรอครับ”
“น.....นายครับ”
“ว่าแล้วเชียว ว่าต้องมาอยู่กับไอ้ยามกระจอกนี่ คนอย่างก้าน จะรู้จักคนสักกี่คนกัน”
ร่างของมันถูกเหวี่ยงลงบนเตียงแข็งๆ ไอ้ก้านหันกลับไปมองนายของมัน กรุณในยามนี้ดูผอมลงไปนิดหน่อย ดวงตาโรคจิตนั้นดำคล้ำ แต่ถึงจะดูอ่อนแรงลงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความน่ากลัวของคนๆนี้ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย
“นายจะทำอะไรพี่เทิด อย่านะครับ ผมขอร้อง พี่เขาไม่เกี่ยว เขาแค่เวทนาผมเลยให้ผมมาอยู่ด้วยชั่วคราวเท่านั้น ผมไม่ได้พูด ไม่ได้เล่าอะไรให้พี่เค้าฟังเลยครับนาย”
“ปกป้องกันจังนะ ไอ้ผัวยามของมึงน่ะ.....แต่ดูเหมือนพี่ยามคนดี จะมีอาชีพเสริมนะ”
“........”
“มองหน้ากู!!!!! อย่าหลบตา !!!!!”
“นายครับ ปล่อยก้านไปเถอะครับ....”
“กูก็ปล่อยมึงออกมาแล้วไงก้าน มึงเองก็ดู.....ดูจะไปรอดดีนี่ ถึงได้ไม่ยอมกราบตีนกู ขอร้องให้กูอภัยให้มึง ทำสิก้าน กูอภัยให้มึงได้เสมอ ในฐานะหมาที่ซื่อสัตย์กับกูมาตลอด มึงทำผิด กูก็จะลงโทษ มันก็แค่นั้น กฎของนายกับสัตว์เลี้ยงไงก้าน ไม่อย่างนั้นมึงคงไม่เชื่องแบบนี้หรอก”
“ไม่ครับนาย ก้านไม่......ไม่ขอโทษนายหรอกครับ”
แววตาของไอ้ก้านแข็งกร้าวเสียจนหัวใจของกรุณกระตูกไปวูบหนึ่ง
“ก้านไม่ได้ทำอะไรผิด ก้านแค่รักคุณกวิน แค่อยากมีชีวิต ถ้านายเกลียดก้าน อยากฆ่ากันก็เอาเลย ให้สมกับเงินหมื่นนึงที่ครอบครัวนายซื้อก้านมา เอาเลยครับ”
เพี้ยะ
แก้มของไอ้ก้านชาวาบ เมื่อถูกผู้เป็นนายตบ มันนึกแปลกใจไม่น้อย เพราะเวลาที่กรุณโกรธ กรุณจะตบหรือตีมันแรงกว่านี้หลายเท่านัก
ไอ้ก้านเงยหน้าขึ้นมองนายของมัน แววตาของกรุณนั้นสั่นไหว อย่างที่มันไม่ได้เห็นมานานนักหนาแล้ว
ตั้งแต่วันที่คุณท่านจากนายไป
“กูเคยบอกแล้วไง ห้ามตาย ต่อให้อยากตาย มึงก็ไม่มีสิทธิ์นั้น ไม่อย่างนั้นกูจะถือว่ามึงผิดต่อกู ต่อพ่อของกู”
แววตาสั่นไหวนั้นเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราด นายโถมร่างเข้าใส่มัน ซุกไซ้ร่างกายของมันอย่างหื่นกระหาย
“นาย....ปล่อยครับ”
“อย่าเล่นตัว ว่าง่ายๆหน่อยก้าน แล้วชีวิตไอ้ยามนั่นจะปลอดภัย กูไม่คิดว่าจะเป็นมึงหรอกนะ ที่จะเปิดประตูเข้ามาในห้องนี้ ที่กูตั้งใจเอาไว้คือจะซ้อมไอ้ยามชั้นต่ำนั่นให้กระอักเลือด เผื่อมันจะพอตอบกูได้ ว่ามึงหายหัวไปไหน ไม่คิดว่าจะได้เจอมึงด้วยซ้ำ”
“เลว.....ไอ้เหี้ย....มึงมันเลวที่สุด กูเกลียดมึง....เกลียด”
“โมโหอีกสิก้าน กูชอบ.....กูจะเอามึงบนเตียงของผัวใหม่มึงนี่แหละ อย่าบอกนะว่ามึงไม่ได้เอากับมัน ขนาดกวิน มึงยังนอนกับมันทั้งที่กวินเป็นแฟนของกูได้เลยนี่นะ หรือมึงอยากให้กูเรียกลูกน้องกูมาร่วมสวิงกับมึง....แบบนั้น.....จะดีไหมนะ ไหนๆตัวมึงมันก็สกปรก”
“ผมไม่ได้นอนกับคุณกวิน เราไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น ปล่อยผมครับนาย”
“แล้วถึงขั้นไหน กอด....จูบ.....ใช้มือ....หรือปากให้กันล่ะ แก้ผ้านัวกันขนาดนั้น ในรีสอร์ทของพ่อกู”
ท้องของไอ้ก้านถูกชกจนจุก ใบหน้าถูกตบซ้ำๆจนมุมปากของมันมีเลือดซิบ ผู้เป็นนายฉีกกระชากเสื้อผ้าของมันออก ก่อนจะร่วมรักกับมันอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนเหมือนที่เคย
“ซี๊ด......ก้าน.....เนื้อตัวมึงนี่แน่นดีชิบหาย ดีกว่าไอ้ตัวที่กูซื้อมานอนด้วยเมื่อคืน แม่ง...เทียบกันไม่ได้เลย”
หลังของมันถูกชก แก้มก้นถูกบีบเคล้น ช่องทางถูกกระแทกกระทั้นอย่างบ้าคลั่งจนเลือดออก
...............
........
.....
.
.....
........
..............
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง
ร่างของไอ้ก้านนั้นนอนคว่ำอยู่บนเตียงอย่างหมดสภาพ เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยช้ำจากการทุบตี บีบขย้ำ รอยฟันจากการขบกัด ไอ้ก้านได้แต่นอนนิ่งให้คนใจร้ายทำร้ายมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อดทนไว้ อีกเดี๋ยวก็จะได้หนีไปแล้ว ไม่ต้องมีคนเดือดร้อนเพราะมันอีก หากไม่ติดว่าจะทำให้คุณกวินเสียใจ ทำให้ดวงวิญญาณของนายท่านที่เมตตาซื้อมันมาชุบเลี้ยงดูแลให้ข้าวให้น้ำจนมาโตมาได้ถึงทุกวันนี้ต้องผิดหวัง มันคง......
ถ้ามันตาย แค่ตายไปซะ ก็จะไม่ทรมานอีกต่อไป
ถึงที่สุดแล้วหรือยังวะก้าน ความอดทนของมึง มันมาถึงที่สุดแล้วหรือยัง
คนอย่างนาย ถ้ามันตาย....คงรู้สึกแค่เสียหน้าเท่านั้น เพราะฉะนั้น มันจะอยู่....จะอยู่ต่อไป....แม้จะเหนื่อยเหลือเกิน
ความคิดของมันสับสนตีรวน
คงต้องเสียสติเข้าสักวัน เป็นแบบนั้น...คงดีไม่น้อย
“ถ้าอยากให้กูอภัยให้มึง แค่กราบกู ขอร้องกู มึงจะได้กลับไปอยู่สบายๆเหมือนเดิมก้าน ไม่ต้องทำงานหนัก หน้าที่ของมึงมีแค่เรียน ดูแลกู สนองอารมณ์ให้กูบางครั้ง.....เหมือนที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นที่มึงยังไม่คิดแข็งข้อ มึงก็อยู่ได้นี่....จริงไหม”
“........”
“อย่าเงียบใส่กูนะก้าน”
“นายกลับไปเถอะครับ ผมเหนื่อย....เหนื่อยมากจริงๆ”
“อย่าบีบกูนะก้าน กูไม่อยากทำร้าย....คนที่มึงรัก”
“นายหาคนที่ดีกว่าผมได้ไม่ยากเลย ปล่อยหมาตัวนี้ไปเถอะนาย ถ้านายไม่ฆ่ามัน นายอย่าทรมานมันอีกเลย”
“เปล่าประโยชน์ที่จะคร่ำครวญ....ไอ้หมาน่าสมเพช”
ไม่มี....ไม่มีใครแทนที่มึงได้ก้าน.....ไม่มี
หากไอ้ก้านได้หันมามองในตอนนี้ มันคงได้เห็นน้ำตาของผู้ชายที่ชื่อกรุณ
“แต่งตัวซะ อยากให้ไอ้ยามนั่นกลับมาเห็นสภาพของมึงแบบนี้เหรอวะ”
“........”
“กูไปแล้วนะ.....ไว้เจอกัน....มึงก็รู้จักกูดีนี่ คนอย่างกูไม่หยุดง่ายๆหรอกก้าน ไอ้กวินมันจะต้องได้รับบทเรียนไม่ต่างกัน มึงจำไว้”
หูของมันได้ยินเสียงฝีเท้าของนายเดินจากไป พร้อมกับเสียงประตูห้องที่ถูกเปิดและปิดลง
ห้องพักโทรมๆในเวลานี้....มันช่างเงียบเหลือเกิน เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง
เป็นห่วงคุณเขานะ แต่มาร์ครับปากแล้วว่าจะดูแลให้ คนอย่างไอ้ก้าน สุดท้ายก็ปกป้องนางฟ้าเอาไว้ไม่ได้อีกตามเคย
ไอ้ก้านค่อยๆหลับตาลง มันเหนื่อย เหนื่อยจนคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว ร่างกายของมันในตอนนี้ต้องการพักผ่อนอย่างมากที่สุด
To be con
กลับมาแล้วจ้ะ หัวตันมากมาย อายุที่เยอะขึ้นกับการเปลี่ยนงานใหม่ ไอเดียที่เคยโลดแล่นก็หายไป
ตอนนี้เหมือนเรื่องไม่เดินเลยเนาะ น้องก้านจะสู้ก็สู้ไม่สุดสักที หลายคนคงคิดแบบนี้ แต่อยากให้เข้าใจตัวละครที่ถูกกดขี่ซ้ำๆมาตลอดชีวิต ตั้งแต่เด็กยันโต และชีวิตของนุ้งก้านไม่เคยมีใครนอกจากนาย อยู่ๆมีกวินมาดีด้วย มีมาร์ค มีพี่เทิด มันก็จะเตลิดๆไปบ้าง ถึงขั้นฮึดสู้เฮือกใหญ่ๆ แต่ครั้นจะให้สู้เต็มสตรีมหรือแก้แค้นนายแบบมธุสร เรื่องล่า คนอย่างน้องก้านมันจะทำได้จริงๆน่ะเหรอ
อีนายก็นะ.....
เอาเป็นว่าคนอย่างน้องก้าน หากจะให้รอด ต้องเริ่มสื่อสาร กล้าที่จะขอความช่วยเหลือ ดูจะเป็นไปได้สุด
ตอนหน้าเรามาลุ้นกัน ว่าน้องจะหนีสำเร็จไหม คือตอนหน้าคิดว่าน้องควรไปได้แล้ว แต่จะรอดได้นานไหม คนแต่งก็.....ยังโนไอเดีย แหะๆ
จะรีบมาต่อนะคะ เป็น กลจ.ให้ด้วย