ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-  (อ่าน 69701 ครั้ง)

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 32 [100%]<<

ตีสองเราทุกคนต่างเริ่มแยกย้าย...แต่กว่าจะมาถึงเวลานี้ได้ ผมแทบจะท่องตารางธาตุกล่อมตัวเองเลยอะ ฮ่าๆ ผมรู้ว่าพี่โซฮานกันพี่มะเดี่ยวเป็นเพื่อนสนิทกันและตัวติดกันแบบนี้มานานแล้ว ผมไม่ควรคิดมาก แต่เพราะสถานะที่เปลี่ยนไปหรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ ผมถึงได้มองแล้วตงิดๆ จี๊ดๆ ในความรู้สึก อ๋อ แล้วไม่ต้องห่วงว่าสามหึงแล้วสามจะยกเบียร์ซดอึ้กๆ

ผมแยกระหว่างอารมณ์กับเหตุผลออกจากกันได้ครับ...^^

อย่าลืมว่าผมไม่เคยเมามาก่อน ผมไม่รู้ว่าพอเมาแล้วจะเป็นยังไง พี่มะเดี่ยวอยู่ ไม่ได้หมายความว่าเราจะเอาตัวเองไปเป็นภาระให้พี่เขาได้ แค่เขาต้องซ้อมเต้นหนักแบบนี้ก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว อีกทั้งความรักที่หลับอยู่ในกระเป๋านักเรียน ผมรักมันเหมือนลูก นั่นคือผมต้องทำตัวเป็นป๊าที่ดี ไม่เมาเป็นหมาทิ้งมันให้เดือดร้อนคนอื่น

พ่อผมบอกไว้ตอนที่ผมขอให้พ่อซื้อความรักให้ การที่เราจะรับเลี้ยงชีวิตใครสักชีวิต เราต้องมีความรับผิดชอบต่อมันมากพอ จะมาเลี้ยงทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ได้เด็ดขาด ด้วยความที่บ้านเราเป็นฟาร์มสุนัขด้วย หลายคนซื้อไปเพราะตอนเด็กมันน่ารัก แล้วก็ทอดทิ้งมันเมื่อมันโตหมดความน่ารักไป พ่อไม่อยากให้ผมเป็นแบบนั้นและผมก็จะไม่เป็นแบบนั้น ที่ผ่านมา หลังจากได้ความรักมาครอบครอง ผมก็ดูแลมันอย่างดี ไม่ให้มันเป็นภาระคนอื่น เพราะนี่คือสัตว์เลี้ยงของผม...ผมต้องดูแลมันเอง ต้องรับผิดชอบมันทุกๆ อย่าง ทั้งความปลอดภัยทางกาย และความสงบสุขทางใจของมัน

ฮิ้วววววว สามดูหล่อขึ้นไหมอะ!

“ไม่ไปต่อจริงอ่อวะ” พี่โซฮานถามพี่มะเดี่ยวที่กำลังดื่มน้ำและเช็ดหน้าไปพร้อมกัน ผมเก็บของส่วนอื่นๆ อย่างเสื้อที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของพี่เขา คือพี่มะเดี่ยวเอาเสื้อมาเปลี่ยนด้วยน่ะ

“ไม่อะ”

“สามล่ะ ไปด้วยกันไหม” มาถามผมแบบนี้ผมต้องตอบว่าอะไร ผมไม่อยากเอาความรักไปทรมานแล้ว อีกอย่าง...เบียร์กับความง่วงมาปะทะกัน มันชวนนอนจริงๆ นะฮะ

“ไม่ไป สามกลับกับกูเนี่ย น้องมันง่วงแล้วอีกอย่าง...มึงจะเอาเด็กกับหมูเข้าผับเนี่ยนะ” อ่อ ไปผับบาร์กันนี่เอง ดีแล้ว...ผมไม่อยากไป ความรักควรกลับไปนอนบ้านอะ

“เซ็ง มึงละไอ้วิ่งไอ้พีช”

“ไปดิ ผมไป...สู้ตายอยู่แล้ว” ชู้สองนิ้วด้วยนะ แหม สู้ตายจริงๆ ด้วยแหละไอ้วิ่ง

ก็ตามนั้น ส่วนใหญ่ไหลไปกับพวกรุ่นพี่กันหมด ยกเว้นผมกับพี่มะเดี่ยวที่เลือกจะกลับห้อง เก็บของเสร็จพี่เขาก็สะพายกระเป๋า คว้ามือผมไปกุมแล้วเดินตามหลังกลุ่มเพื่อนๆ ไป เดี๋ยวพวกเขาจะส่งเราขึ้นรถ ส่วนเรื่องเงินค่ารถเราได้จากที่เปิดหมวก พี่มะเดี่ยวได้มาสามพันเหนาะๆ เห็นว่าคนในทีมได้เท่ากันหมดมั้ง ถือว่าได้ทั้งซ้อมเต้นทีม ได้เต้นกับเพื่อน แล้วก็ได้เงินด้วย ดูมันได้เงินง่ายนะ...แต่กว่าจะเต้นเก่งจนสามารถโชว์ได้ขนาดนี้ก็ต้องทุ่มเททั้งเวลา แรงกายและแรงใจไมใช่เล่นเลยอะ

พี่มะเดี่ยวโบกรถแท็กซี่ เวลานี้ไม่มีรถเมล์สายไหนสามารถกลับถึงห้องของเราได้แล้ว ผมเข้ามาก่อน นั่งติดหน้าต่างอีกฝั่ง พี่มะเดี่ยวลาเพื่อนๆ เสร็จถึงตามขึ้นมานั่งข้างกัน กระเป๋าใบโตที่ใส่ทั้งรองเท้า เสื้อและขวดน้ำดื่มถูกนำมาวางไว้ที่พื้น พี่เขาบอกจุดหมายปลายทางกับคนขับก่อนจะเอนหลังมองหน้าผม

“เบื่อปะ...”

“ไม่ครับ สนุกดี ว่าแต่พี่อะ...ไม่อยากไปต่อกับเขาเหรอครับ” คือถ้าผมกลับเองได้ ผมก็ไม่อยากให้พี่เขากลับด้วยหรอก ไม่อยากเป็นคนที่ทำให้พี่เขาห่างเพื่อนๆ หรือสังคมที่เขาอยู่อะ คนเราเป็นแฟนกันมันต้องเคารพในโลกส่วนตัวของอีกฝ่ายด้วย

“ไม่นะ มันก็เที่ยวผับ...ดื่มกิน เต๊าะผู้หญิง พี่ทำบ่อย เบื่อแล้ว” พี่แกดูสบายๆ กับเรื่องนี้มาก

“ไม่ได้เป็นเพราะผมใช่ไหม” ถามย้ำอีกครั้ง พี่มะเดี่ยวหันมาพร้อมกับรั้งคอผมให้นอนหนุนตัก

“ด้วย...พี่อยากกลับบ้านกับเรา ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่ทิ้งเพื่อนมาหรอกหน่า คิดมาก พี่เบื่ออะไรแบบนั้นจริงๆ อีกอย่าง...สามลืมปะว่าพี่มีงาน” ไม่ได้ลืมเว้ย แต่ก็ไม่รู้ไงว่างานพี่เขาเสร็จหรือยังไม่เสร็จ

“จะรู้เหรอ ทำงานอะไรบ้างผมไปรู้ด้วยที่ไหน”

“งั้นพี่จะบอกแล้วกัน ตอนนี้พี่ต้องวาดสี่ปกและภาพประกอบอีกยี่สิบภาพ ส่งภายในเดือนนี้” เอิ่ม...งานเยอะไปปะครับ

“แล้วพี่มาเถลไถลแบบนี้ได้ไงอะ ไม่รีบล่ะครับ” มองหน้าพี่เขาด้วยความสงสัย ความรักนอนอยู่บนอก และหลับสบายกว่าเดิมมาก แหงสิ แอร์ฉ่ำขนาดนี้นี่

“ก็ต้องทำท่าทีมให้เข้าที่ก่อนถึงจะปล่อยให้พวกมันซ้อมกันเอง อีกอย่าง...พี่เพิ่งส่งงานไปสามงาน จะขอพักหน่อยไม่ได้เลยเหรอครับ” พี่มะเดี่ยวโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ผมส่ายหน้าเบาๆ

“ได้สิครับ ผมแค่กลัวว่าจะทำให้พี่ไม่ได้ไปสนุกกับเพื่อนๆ”

“พี่สนุกกับพวกมันมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก”

“โอเค...” ทำมือประกอบให้พร้อม พี่เขายีหัวผมเบาๆ

ผมหลับตาลงเมื่อสบายใจแล้วว่าตัวเองไม่ทำให้พี่มะเดี่ยวทอดทิ้งเพื่อน ก็อาจมีส่วนแต่พี่เขาไม่เดือดร้อนผมก็เบาใจ นี่เกือบตีสามแล้ว ปกติผมอาจจะยังไม่ง่วงเท่าไหร่ ทว่าไอ้เบียร์บ้านั่นเล่นผมปรือตาต่อไม่ไหว พี่เขาก็ดันลูบแก้มผมเล่นอีก อืมดี...เพลินดี

มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่พี่มะเดี่ยวกำลังจะอุ้มผมลงจากรถ มีสติรับรู้ แต่ง่วงมากก็เลยให้พี่เขาพามาที่ห้อง เอิ่ม...ไม่ใช่ห้องตัวเองมั้ง กลิ่นไม่คุ้นเท่าไหร่ ผมพลิกตัวนิดหน่อย เหมือนจะทับความรัก มันดิ้นเบาๆ เพื่อกระเสือกกระสนออกจากตัวของผม ออกได้ก็นอนแม่งตรงหน้าผมเนี่ย หายใจทีก็รดพุงมันที อย่างน้อยๆ นี่ก็เป็นความคุ้นชินที่ทำให้ผมสามารถหลับต่อได้อย่างง่ายดาย

ขอโทษนะพี่...ถ้าผมจะนอนกินที่พี่ไปหน่อย เวลานี้ไม่ขอตื่นแล้วล่ะ นอนต่อมันทั้งแบบนี้เลย ถือว่าช่วงเย็นผมอาบน้ำแล้ว เพราะงั้นผมไม่สกปรกนา ผมสะอาดพอๆ กับความรัก แถมกลิ่นตัวยังหอมกรุ่นด้วยเหงื่อและฝุ่น

แสงไฟจากด้านนอกสว่างวาบขึ้นมา ผมหลับตาปี๋ไปหน่อยเพราะแสบนิดๆ แต่ก็ยังไม่ยอมลืมตามองออยู่ดี แสงเข้ามาแบบนี้ได้แสดงว่าพี่เขาไม่ได้ปิดประตู เสียงกุกกักดังขึ้นเบาๆ คนด้านนอกน่าจะทำธุระส่วนตัวอยู่ ผมก็นอนฟังมันไปเรื่อยๆ ทั้งเข้ามาเปิดตู้ ปิดตู้และเสียงน้ำแว่วๆ...

“สาม...สามตื่นได้แล้ว” อารายอ่า…ผมเพิ่งนอนเอง แก้มสัมผัสเข้ากับความเย็นที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นมือ หรี่ตามองนิดหน่อยก็เห็นหน้าพี่มะเดี่ยวอยู่ใกล้มาก ตกใจไปสิครับ ผมสะดุ้งลืมตาโพลงแถมกระถดตัวถอยหลังไปหน่อย

“เอ่อ...กี่โมงแล้วครับ” ถามเบาๆ ก่อนจะหาววอด

“เจ็ดโมง แต่พี่บอยโทรมาแหนะ...” พี่มะเดี่ยวยกมือถือที่มีเบอร์น้าบอยเด่นหรา

“อ่า...ขอบคุณครับพี่” ผมรีบเอามากดรับสาย

“ครับน้า...ตื่นแล้วๆ เดี๋ยวผมไป ครับๆ” ฮื่อ...วันหยุดของเดอะสามก็ยังมีงานรอเราอยู่สินะ

“ไปช่วยงานที่ร้านใช่ไหม” พยักหน้า ผมค่อยๆ ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ

“ไม่ไปทำไม่ได้ แม่จะหักค่าขนม” นึกแล้วเศร้าใจ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยทำไมต้องหักค่าขนมผมล่า...

“ฮ่าๆ งั้นสามไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่เขาเอื้อมมือมาจัดหัวที่ยุ่งเหยิงของผมเบาๆ

“ครับ งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ” พี่มะเดี่ยวพยักหน้า

ผมลุกขึ้น คว้าความรักและกระเป๋าตัวเองออกมาจากห้องของพี่มะเดี่ยว จากนั้นก็รีบอาบน้ำให้ตัวเองและความรักด้วยความไว ที่น้าโทรมาตามเพราะว่าผมไปร้านสายแล้วน่ะสิครับ ปกติร้านบีพีคอฟฟี่จะเปิดเช้ามากเพื่อให้นักศึกษาที่มีงานแต่เช้าตรู่มานั่งจิบกาแฟ

พี่มะเดี่ยวทำอะไรเสร็จก่อน เขายืนรออยู่หน้าห้องได้สักพักแล้ว เราเดินลงไปข้างล่างพร้อมกับคุยไปด้วยว่าเช้านี้จะกินอะไรดี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่โต้เถียงกันยาวนาน ผมอยากกินข้าวเหนียวหมูปิ้งเรพาะมันกินง่ายแล้วก็สะดวก แต่พี่มะเดี่ยวไม่โอเค เถียงไปพักใหญ่มันก็จบที่ข้าวผัดไก่...เอาเถอะเพื่อความสบายใจของพี่เขาละนะ

ระหว่างผมกับพี่มะเดี่ยว คบกันแล้วก็ไม่ได้หวือหวาอะไร เขาไม่อ่อยหนักเหมือนตอนแรกและไม่ได้กวนตีนหนักแบบนั้น ออกจะเทคแคร์ผมเสียมากกว่า แล้วผมเองก็พยายามจะเทคแคร์เขากลับ เขาน่ะน่าเป็นห่วงและน่าจะมีคนดูแลมากกว่าผม คนทำงานนี่ครับ มันต้องหนักหนาสาหัสกว่าพวกนักศึกษาอย่างผมอยู่แล้ว

แต่ว่า...เวลาอยู่กับเขามันสบายใจจังเลยครับ

ผมไม่เคยสร้างตัวตนอีกตัวตนเวลาที่คบใคร ก็เป็นตัวของตัวเองมาตลอดนั่นแหละ พี่เขาไม่ได้พิเศษกว่าใครๆ ที่ผ่านมา ภายนอกหรือแม้แต่เวลาดูแลกันและกันมันก็คล้ายๆ ที่ผมเคยคบนั่นแหละ แต่ในด้านความรู้สึกอะ...พี่มะเดี่ยวเป็นคนที่ผมอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด ลึกๆ มันมีความสุขอย่างแปลกประหลาด อาจเพราะเขามักมีมุกมาหยอดหรือว่ารอยยิ้มที่น่ารักและทะเล้นอยู่ในที

ก็พยายามหาเหตุผลว่าทำไมพี่เขาถึงทำให้ผมรู้สึกแตกต่างจากคนอื่นที่เคยคบมา แต่ผมยังหาไม่เจอ ความรู้สึกในตอนนี้เลยเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยากมาก แต่ถ้าเปรียบ...มันก็คงเหมือนเราได้อยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัว

หรือไม่...นี่มันก็แค่ความรู้สึกของคนที่หลงกันนั่นแหละครับ

“มากันทั้งคู่เลย…” น้าบอยอยู่รออยู่หน้าโต๊ะข้างๆ เคาน์เตอร์ ซึ่งมุมนี้เป็นมุมที่พนักงานชอบนั่งพัก มันไม่ค่อยมีคนเข้ามาตรงนี้เท่าไหร่

“พี่เอาความรักไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า” น้าภูมเข้ามาเอาความรักจากมือของผมไป

ผมและพี่มะเดี่ยวนั่งลงที่โต๊ะ น้าบอยไม่ได้บอก แต่สายตาค่อนข้างกดดันให้ผมทำแบบนั้น พี่มะเดี่ยวเองก็น่าจะได้รับความกดดันจากน้าผมเหมือนกัน เขาสนิทกันนี่ ต้องรู้ทันซึ่งกันและกันไม่ใช่น้อยแหละ

“เคลียร์กันโอเคแล้วว่างั้น ถึงมาพร้อมกันแบบนี้” อย่าดุสิคร้าบ สามรู้สึกไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไรเลย

“ครับ เคลียร์กันแล้ว...มันแค่เรื่องเข้าใจผิดน่ะน้า” นี่กำลังทำข้อสอบระดับโลกอยู่หรือไงวะกู ทำไมมันตื่นเต้นขนาดนี้

“ผิดใจกันเพราะโซฮาน แล้วไอ้โซมันพูดหรือยังว่าทำไปทำไม”

“พี่เขามาขอโทษผมแล้ว เขาแค่แกล้งผมเฉยๆ...” ว่าแล้วหันไปมองพี่มะเดี่ยว เจ้านั้นก็นั่งนิ่งเหมือนกูเลย ไม่ใช่ข้อสอบแล้วล่ะ...นี่มันสอบสวนคดีฆาตกรรมยกครัวชัดๆ

“จริงเหรอ” น้าบอยหันไปทางพี่มะเดี่ยว

“จริงครับ ผมไปคุยกับมันมาแล้ว...”

“ถ้าแค่นั้นก็ดีไป แล้วสรุปยังไง...เรื่องความสัมพันธ์” มาถึงก็โดนดอกสำคัญเลยวะ

“ก็คบกันแล้วครับ” อยากกรี๊ดแตกเหมือนสาวน้อยในดงดอกไม้ ไม่คิดไม่ฝันมาว่าต้องมาประกาศให้คนในครอบครัวรู้ว่ากำลังคบกับใคร ผมไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน คบกันก็คบเงียบๆ มาตลอดเลย คงเพราะพี่มะเดี่ยวกับน้าเองก็สนิทกันละมั้งครับ ไม่บอกมันก็ดูไม่เกียรติผู้ใหญ่งี้ปะ

หลังจากพี่มะเดี่ยวบอกไปแบบนั้น ร่างทั้งร่างของผมก็เหมือนโดนสตั้นไป มันเป็นความกดดันอะครับ ไม่รู้ว่าน้าจะว่ายังไงกับเรื่องนี้ คงไม่แอนตี้หรอกเพราะน้าก็เป็น แล้วถึงผมไม่เคยประกาศคนที่บ้านว่าเคยคบใครๆ แต่ไม่ใช่คนในครอบครัวจะไม่รู้กันเสียหน่อย

“สามไปทำงานเถอะ น้าขอคุยกับเดี่ยวมันหน่อย” อ่าว ผมกังวลตั้งนาน สุดท้ายน้าไล่ผมเฉย ผมหันไปมองพี่มะเดี่ยว..จะซีดก็ไม่ซีด แต่เหงื่อตกหน่อยๆ นะพี่ แอร์เพิ่มไหม จะได้หายร้อน ฮ่าๆ

ภาวนาให้พี่แกรอดก็แล้วกันเนอะ...

ผมไปทำงานของตัวเอง น้าภูมเป็นคนคุมเคาน์เตอร์อยู่คนเดียวเพราะน้าบอยยังคุยกับพี่มะเดี่ยวไม่เสร็จ สามล่ะอยากจะเฉี่ยวไปใกล้ๆ จัง..แอบฟังน่ะ ก็อยากรู้เป็นธรรมดาปะล่ะ ว่าเขาคุยอะไรกัน ยังไงมันก็ต้องเป็นเรื่องของผมแน่นอนอยู่แล้ว ผมจะอยากรู้เรื่องตัวเองนี่ไม่เรียกว่าเสือกเนอะ...

แต่ให้ตาย ไม่มีจังหวะเข้าไปใกล้เลยแหะ จะเสนอหน้าโง่ๆ ของตัวเองไปฟังโต้งๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องอะ ลูกค้าไม่มีแท้ๆ ไม่น่าไล่ผมเลย…ผมอยากรู้นะเว้ยเนี่ย เดินเข้าไปนั่งหน้าเคาน์เตอร์เพราะลูกค้าไม่ค่อยมี ความรักมันนอนหายใจแฮ่กๆ มองผมตาแป๋ว...

“เขาคุยอะไรกันอะน้าภูม” เล่นหัวความรัก แต่ปากก็หาทางถาม

“เดาสิ” น้าภูมเท้าเครื่องมองผมยิ้มๆ

“โหย ให้สามเดายังไงอะ มันต้องเป็นเรื่องของสามแน่ๆ สามจะคลานเข้าไปสืบ น้าภูมอย่าเอ็ดไปนะ...” เสร็จก็ทำหน้าเหมือนตัวเองเป็นทหารที่กำลังจะเข้าไปเป็นสไปย์ในค่ายข้าศึก

“ฮ่าๆ ไอเอ๋อ...ร้านโล่งขนาดนี้ น้าไม่บอกเขาก็เห็นเหอะ” ผมก็รู้เหอะ พูดเล่นไปงั้นแหละ ใครจะไปทำ หน้าไม่ด้านพอหรอกบอกตามตรง

“น้าก็...” เบะปากร้องไห้ เรียกร้องความสนใจอาจเป็นทางที่ดี ที่นี้พอเขาหันมาสนใจเราก็บอกเราอยากรู้มากว่าพวกเขาคุยอะไรกันจนเกิดเป็นความเครียด ปวดหัวหนักเพราะเอาแต่ครุ่นคิดไม่หายเสียที และ...แล้วผมก็ช่างน่าเศร้าเพราะผมปวดหัวจนทนไม่ได้ต้องร้องไห้ออกมา...คิดว่าเขาจะเชื่อปะ?

“คิดไงไปคบกับเขา” อ่าว น้าภูมดับดราม่าผมเฉยเลย แต่ในเมื่อถาม ผมก็จะหาคำตอบให้...อืม...ทำไมผมถึงคบกับเขาล่ะ

“เขาก็น่ารักดีนะน้า อาจไม่สุขุมเพราะเป็นคนล้นๆ...บ้าๆ บวมๆ แต่ก็ไม่เลวร้ายนี่ครับ...” ลึกลงไปหน่อยคืออ่อยผมจนผมเผลอชอบอะนะ แล้วนั่นน้าบอยยิ้มอะไร

….100%….

ผิดหวังหันไหมหว่าที่น้องสามเก็บอารมณ์เก่ง ฮ่าๆ ยังหรอก...ยังไม่ถึงเวลาสามเหวี่ยงนะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2017 21:02:09 โดย GukakST »

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากเห็นน้องสามเหวี่ยงนังโซค่ะ อย่าไปหงอนะลูก ถ้ามีอีกต้องจัดการรร :katai4:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
อยากเห็นสามเหวี่ยงจังเลย

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
น้องสามสู้ๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 33 [100%]<<

“แล้วถ้าโซฮานมันไม่ได้ล้อสามเล่นล่ะ แต่กลายเป็นเดี่ยวที่โกหก” เอาละ คำถามระดับโลกมาละฮะ นี่ผมต้องเครียดประหนึ่งทำข้อสอบเลยไหมอะ

“ก็คงเจ็บอะ แล้วก็คงเลิกไปเลย...ไม่ยากครับ” ใช่ พูดไม่ยาก แต่เรื่องทำ...เดี๋ยวว่ากันอีกที ช่วงที่พี่โซฮานมาบอกผมแบบนั้นแล้วผมพยายามตัดใจ มันก็ไม่แย่นะ มีแต่ความรักที่แย่ลง ผมอาจรู้สึกเฟล รู้สึกซึมและเศร้าอยู่ลึกๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าตัดใจไม่ได้นะ

“ง่ายขนาดนั้นเลย”

“ไม่ง่ายหรอกน้า แต่ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของมนุษย์หรอก”

“แต่ที่ผ่านมานี่ซึมไปเลยนะ” โหยน้า ปล่อยให้ผมหล่อเสียหน่อยก็ไม่ได้

“เป็นธรรมดาของคนตัดใจไหหมล่ะ...น้าก็”

“ฮ่าๆ ล้อเล่น...มะเดี่ยวมันก็เป็นคนดี แต่เอาเข้าจริงๆ มันเป็นคนไม่ค่อยมีเวลาให้คนอื่นมากนัก ถ้าเราโอเค น้าก็ไม่มีอะไรจะเตือนแล้วล่ะ” น้าภูมลูบหัวผมหนึ่งทีพลางยิ้มบางๆ

“ผมเข้าใจครับน้า” ผมยิ้มตอบ และจริงๆ...ผมเข้าใจดีกับคำว่าไม่มีเวลาให้

อันที่จริง...เราทั้งคู่ต่างก็เลิกรากับคนเก่าด้วยเหตุผลนี้แหละ

ทุกคนมีโลกส่วนตัวที่ให้คนอื่นเข้าไปไม่ได้อยู่ มันเป็นโลกที่เราครอบครองแต่เพียงลำพัง การที่คนสองคนจะคบกันมันก็ต้องเคารพในส่วนนั้น แล้วแต่ละฝ่ายก็ต้องปรับตัวเองเพื่ออีกฝ่ายด้วย ไม่ใช่ว่าพออีกคนรับได้ก็หลงระเริงอยู่กับความรับได้นั้นจนเอาตัวเองอยู่กับตัวมากเกินไป โดยลืมไปว่าอีกฝ่ายก็ต้องการเวลาจากเรา เรื่องนี้ผมเข้าใจดี แต่ความเข้าใจกับการทำได้มันคนละเรื่องกัน...

โห่...ถ้าทำได้ป่านนี้คบกับคนเก่าไม่เลิกกันหรอกครับ จริงมะ แต่ก็อย่างว่า มันขึ้นอยู่กับเคมีของแต่ละคนด้วยว่าเข้ากันได้มากแค่ไหน เปลี่ยนได้แค่ไหน และพื้นฐานนิสัยที่เข้าอกเข้าใจคนอื่นด้วย ที่ผ่านมา ผมชอบคนอื่น...ช่วงแรกให้เวลาเขา สักพักก็ปล่อยทิ้งขว้าง เขาเองก็เหมือนกันแทบไม่เคยทะเลาะกับแฟนเก่า เพราะเราตัดสินใจเลิกกันไปเลยง่ายกว่า

ส่วนกับพี่มะเดี่ยวนั้น ผมยังไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง...จากความชอบมันจะกลายเป็นรักและผูกพันกันได้ไหม มันเป็นเรื่องของความรู้สึกและการปฏิบัติตัวต่อกันหลังจากที่เราคบกัน ผมไม่ใช่ผู้หยั่งรู้ เพราะงั้นอนาคตผมก็ไม่มีทางรู้มันได้อยู่ดี

ก็เอาเป็นว่า...ศึกษากันไปแล้วกัน

เราเพิ่งรู้จักกัน แล้วก็จีบกันคบกันในระยะที่ค่อนข้างสั้น ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของอีกฝ่ายนักสักเท่าไหร่ แล้วไม่อยกาจะบอกเลยว่าไอ้นิสัยคนเนี่ย แม่งโคตรต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจเลยอะ พ่อกับแม่ผมแต่งงานอยู่กินกันมาตั้งนานยังทะเลาะกันอยู่บ้าง มีความเห็นไม่ตรงกันอยู่บ้าง และก็ยังมีส่วนที่ไม่เข้าใจกันอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังอยู่ด้วยกัน...ผมไม่รู้หรอกว่าอะไรยังไง แค่คิดว่ามันเป็นความรักน่ะ

รักเลยทน...รักเลยมองข้ามบางสิ่งบางอย่าง น่าจะประมาณนั้นมั้ง ขึ้นอยู่กับมุมมองคนอีกปะ ส่วนผม...ไม่เข้าใจมันท่องแท้หรอก ไม่ต้องถามเลย

ผมอยู่คุยกับน้าภูมต่ออีกหน่อย น้าบอยเดินเข้ามาแล้วไล่ให้ผมไปทำงานเพราะลูกค้าเข้ามาพอดี โอเค ทำก็ทำครับ สามไม่ดื้อ...สามเป็นเด็กดี ฮ่าๆ วันเสาร์อาทิตย์แบบนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่ จากที่ต้องเดินไปรับออเดอร์นที่เข้ามาเมื่อกี้ผมก็ว่างเลย แต่ผมไม่ได้เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์หรอก เดินเข้าหาแฟนหมาดๆ ของตัวเองแทน เขากำลังนั่งวาดรูปอยู่ที่โต๊ะโดยมีกาแฟวางเอาไว้อยู่หนึ่งแก้ว

“ทำไมไม่กลับไปทำที่ห้องละครับ” ผมนั่งลงฝั่งตรงข้าม ผมว่าการทำงานที่ห้องสะดวกแล้วก็สบายกว่าการนั่งทำงานข้างนอกนะ หรือว่าผมคิดแบบนั้นคนเดียว

“ทำงานไปดูแฟนตัวเองไปไม่ได้เหรอ” ไม่ต้องมาส่งยิ้มกรุ่มกริ่มเลยเหอะ คบกันแล้วอ่อยมากนี่ผมตีความเป็นเรื่อง....เซ็นเซอร์แป๊บ ฮ่าๆ

“เอาดีๆ...”

“เอาดีแน่นอน” ตบปากคนตรงหน้าผมจะโดนสวนด้วยตีนเขาไหม

“พี่อ่า...” เบะปากใส่ทั้งที่หมั่นเขี้ยวอยากทำอะไรเขาสักอย่างกับการกวนตีนคนอื่นแบบนี้

“พูดจริงนะเนี่ย ไม่เชื่อเหรอ อีกอย่าง...ทำงานอยู่ห้องมากๆ มันก็น่าเบื่อนะ บรรยากาศมันไม่ดีเท่าข้างนอกหรอก” เชิญมองออกไปข้างนอกรับ แดดแรงขนาดนี้...บรรยากาศดีเหรอ?

“แล้วแต่”

“แล้วสามล่ะ มาอู้อะ ไม่กลัวคุณน้าตีหัวแตกเหรอครับ” พี่เขาวางไอแพดลงแล้วประสานมือเพื่อวางคางตัวเองลงไป

“คนไม่มีเหอะ ลูกจ้างคนอื่นเขาก็นั่งเล่นกันหมด” ไม่เชื่อหันไปดูได้เลย ผมไม่ได้โม้แล้วผมก็ไม่ได้อู้คนเดียว เจ้าของร้านอย่างน้าบอยกับน้าภูมยังนั่งคุยกันกระหนุงหนิงเลยอะ

“เออเนอะ”

“แล้วเมื่อกี้คุยอะไรกันเหรอครับ?” ขอเสือกหน่อยนะ เรื่องของผม ผมก็ต้องอยากรู้ไว้บ้างอะเนอะ

“ไม่ถามน้าล่ะ”

“ถามพี่แหละ น้า...บอกผมหน่อย” ลูกอ้อนของผมใช้ได้เสมอ พี่มะเดี่ยวยิ้มๆ

“ก็คุยเรื่องโซฮานแหละ แล้วก็เรา…นี่โดนข่มขู่เอาไว้ด้วยนะว่า ถ้าทำให้หลานเขาเสียใจพี่จะโดนดักตีหัว”

“เวอร์” พูดเบาๆ กับตัวเอง

“พูดจริง เราอะไม่รู้จักน้าเราดีพออะสิ..พี่บอยอะ พอเป็นเรื่องของคนใกลัตัวเขาจะไม่ยอมเด็ดขาดเลยนะ” มองไปที่น้าบอย ผมว่าน้าผมออกสาวนิดๆ ด้วยนะ ไม่น่าจะโหดอะไรหรอก

“พี่กลัวไปเอง ผมไม่เคยเห็นน้าผมโหดใส่ใครเลย”

“ไม่เคยเห็นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เป็นแบบนั้นนะ” เออ เข้าใจแล้ว

“คร้าบๆ แล้ว...วาดอะไรอยู่” ชะโงกหน้าไปมองหน่อยๆ แล้วก็ผงะ...

รูปโป๊!!!

“ฮ่าๆ...ดูปะละ” พี่ท่านเปิดภาพให้ดูแบบเต็มๆ ก็เป็นรูปผู้ชายสองคนกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะที่เรียกว่ารำกะบี่กะบองอะฮะ...

“เอ่อ...พอแล้ว” เอามือดันมันหลบ

“อะไร ทำอย่างกับไม่เคย” ส่งสายตาซ่อกแซ่กแบบนั้นหมายความว่ายังไงครับ เดอะสามคนนี้น่ะซิงนะจ้ะ

“ก็ไม่เคย…” พูดแล้วเบนสายตาไปทางอื่น

“หืม…ไม่เคยดูรูปโป๊อะไรแบบนี้เลยเหรอ” อ่าว ถามถึงดูรูปเหรอ ฮ่าๆ…ผมนึกว่าเรื่องแบบนั้น

“อ่อ เคย”

“แล้วเมื่อกี้ที่บอกไม่เคยนี่ยังไง” โดนจับผิดอีกแล้ว แต่ด้วยความแมนที่มีอยู่เต็มหัวใจ ผมยืดอกเชิดหน้าพร้อมสูดหายใจลึกๆ…แมนแต่ตื่นเต้นเชี่ยๆ

“ก็คิดว่าหมายถึง…เอ่อ…เรื่องแบบนั้น” ชี้ๆ ไปที่ภาพในไอแพด

“อ่อ จริงดิ...” อะไรวะ ก็จริงอะสิ ทำไมต้องทำหน้าตาตื่นด้วยอะ

“จริงครับ”

“ไม่น่าเชื่อ แล้วเวลาคบกับแฟนนี่ทำอะไรกันบ้าง...” อืม ทำอะไรเหรอ...แฟนกันก็ไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลงอะไรงี้ไง

“เที่ยวเล่นกัน ปกตินี่นา”

“อย่างว่านี่ไม่เคยเลยหรอ...มากสุดนี่อะไรล่ะ”

“กับเพศไหนอะ” ผมคบสองเพศ เพราะงั้นผมต้องถามเจาะจงนะ

“อืม...ทั้งสองเลย”

“ก็จับมือ กอด...จูบ” ไม่กล้ามองหน้าเขา ผมเบนสายตาไปมองความรักบนโต๊ะเคาน์เตอร์ ซึ่งมันก็มองมาทางนี้ด้วยเหมือนกัน อยากมาล่ะซี่...

“แค่นั้นเหรอ?” เอ้า ทำไมถามย้ำล่ะ คำพูดผมไม่น่าเชื่อเหรอไง

“ครับ คำพูดผมไม่หนักแน่นพอเหรอ?” อันนี้สงสัยจริงจังนะ

“เปล่า ไม่เคยเจอใครไม่เคยมาก่อนแบบเราน่ะ ก็เลยแปลกใจ...เดี๋ยวนี้เด็กเสียตัวกันตั้งแต่สิบขวบแล้วนะ”

“ผมก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนเด็กพวกนั้นปะละ” ก็บ้านมีคนอยู่ตลอดอะ ฮ่าๆ แล้วก็ผมไม่กล้าหรอก ไม่คิดว่าการคบใครสักคนมันต้องทำแบบนั้นอะ ความรู้สึกส่วนนั้นมันมีอยู่แล้วเวลาคบแฟน แต่ผมไม่ได้เอามาเป็นประเด็นสำคัญอะนะ

“ดีแล้ว...”

“แล้วพี่อะ ไม่ถามกับผู้หญิงหรอก…แต่กับผู้ชายนี่?” กับผู้หญิงผมว่าพี่มันเคย พี่มันเรียนจบแล้วนะ เรื่องแบบนี้คงเป็นเรื่องธรรมดาของวัยผู้ใหญ่

“หาคนลองด้วยอยู่อะ สนปะ” ส่ายหน้าให้ไว

“ไม่เอา”

“ฮ่าๆ ล้อเล่น แต่เคยหรือเปล่า...พี่ไม่บอกหรอก ให้สามไปคิดต่อเอาเอง”

“งั้นช่างมันเหอะ”

“อ่าว ไม่สนใจแล้วเหรอ”

“สน แต่ผมว่ามันไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร” แล้วเดอะสามผู้มีหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมาก็แจกยิ้มหวานละลายใจคนตรงข้ามไปหนึ่งดอก พี่มะเดี่ยวยิ้มตอบแล้วก็ยีหัวผมเบาๆ

“ไปรับลูกค้าไป”

“คร้าบ” ลูกค้าเข้ามาพอดี แล้วทำไมต้องเป็นสามที่ลุกมารับ คนอื่นเขาไม่ว่างกันเหรอครับ แหม่...

พี่มะเดี่ยวไม่กลับห้องเลย นั่งวาดรูปอยู่ตรงนั้นทั้งวันไม่ไปไหน น้าบอยเอาความรักไปวางไว้กับพี่มะเดี่ยว ปล่อยให้มันเล่นอยู่กับพี่เขา ส่วนผมก็เข้าไปนั่งด้วยทุกครั้งที่ลูกค้าไม่เข้า แล้วเราก็คุยในเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย ไม่ได้ลึกซึ้งขนาดนั้นหรอกนะ เรื่องความชอบผิวเผินอะ แล้วรูปเรตที่ผมเห็นน่ะก็คืองานของพี่เขา ซึ่งงานวาดพวกนี้เนี่ยมันขึ้นอยู่กับสำนักพิพ์ว่าจะให้วาดอะไร

พี่มะเดี่ยวบอกว่าช่วงนี้นิยายแนวชายรักชายกำลังตีตลาด ปกส่วนใหญ่ที่เขาวาดในช่วงนี้ไม่แฟนตาซีก็เป็นปกชายรักชาย พร้อมทั้งภาพประกอบที่อาจจะล่อแหลมบ้าง น่ารักบ้าง ปะปนกันไป ด้วยความที่บ้านเป็นสำนักพิมพ์นั่นแหละครับ งานพวกนี้เขาปฏิเสธไม่ได้ ซ้ำยังทำทั้งสำนักพิมพ์บนดินและใต้ดินด้วย ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เขาเล่าให้ฟังผมก็ฟัง

แต่ถ้าถามมาทางผมบ้าง ผมไม่มีอะไรเท่าไหร่ ที่บ้านทำฟาร์มสุนัขอันนี้พี่มะเดี่ยวรู้แล้ว รู้ตอนที่รู้ว่าผมเป็นหลานน้าบอยเนี่ยแหละครับ งานอดิเรกเรารู้กันแล้วเนอะ พี่เขาเต้นบีบอยเป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่มัธยมต้นแล้วล่ะ ส่วนผมเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ อ่านการ์ตูน ดูหนังอะไรแบบนี้มากกว่า เรียกว่าพี่เขามีจุดเด่นเรื่องเต้น แต่ผม...ไม่มี

ผมเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาที่มีความรักเป็นสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือเป็นคนเรียบร้อยมากครับ แต่อย่ามารู้เรื่องราวในหัวของผม แต่ถ้าให้หาเด่นจริงๆ ก็คงเป็นเกมโรฮานที่เล่นอยู่ ผมเทพมาก...เทพขนาดที่ว่าผมใช้ชื่อนี้มาทุกเซิร์ฟ หน้าเก่ารู้จักผมหมด เป็นตัวท๊อปๆ ของเซิร์ฟมาตลอดเลยล่ะ ทว่ามันเป็นเรื่องเด่นที่เอามาอวดใครไม่ค่อยได้อะเนาะ

“พี่ครับ...กลับกัน” วาดรูปอยู่แหม็บๆ ปิดร้านแป๊บเดียวพี่มะเดี่ยวก็นั่งหลับพร้อมกับความรักไปแล้ว นี่เพิ่งจะสามทุ่มเองเฮ้ย

“หิวอะ ไปหาไรกินกัน” หาอะไรกินกับพี่เขาเนี่ยไม่พ้นไม่มีหมูบนโต๊ะแน่เลย

“กินสเต๊กหมูได้ปะครับ...” ลองบอกอ้อนๆ ส่งสายตาหวานวิ้งที่สุดเท่าที่เคยใช้มาเพื่อให้พี่เขายอมใจอ่อน ทว่า...ความฝันก็คือความฝันอะครับ

“ไม่ครับ” เฮ้อ...ผมชอบพี่มันทุกอย่าง ไม่ชอบตรงเนี่ย!!!

….100%….

มันอาจไม่หวือหวานัก เราไม่เก่ง ไม่ถนัดแนวใสๆ เท่าไหร่ หวังว่าจะเป็นนิยายอ่านฆ่าเวลาได้บ้างสำหรับทุกคนนะคะ ^^

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
เรื่อยๆดีค่ะ
ยังข้องใจกับโซฮานอยู่ว่าจะไม่โดนไรเลยหรอ
รอว่าเมื่อไหร่จะโดนน

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เกลียดไอ้โซฮานมาก ก่อนหน้านั้นไมไม่จีบมะเดี่ยวละวะ ไมต้องรอให้คบกับคนอื่นก่อน ทุเรศอะ

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 34 [100%]<<

“เออ วันนี้พี่ไม่มีซ้อมเหรอ” ระหว่างเดินกลับห้อง ผมก็หันไปถาม สรุปมื้อเย็นผมเป็นสเต๊กปลากะพงขาวราดซอสเลม่อนครับ ไม่ใช่สเต๊กหมูอย่างที่อยากกิน

“บอกพวกมันแล้วว่าพี่ติดงาน พรุ่งนี้เย็นพี่ถึงไปซ้อม พรุ่งนี้สามไปด้วยกันนะ...ซ้อมที่ตลาดเปิดท้าย” พี่เขากอดคอผม หันหน้ามามองซึ่งก็ยิ้มตอบแล้วพยักหน้า

“ผมตามไปหลังปิดร้านนะพี่”

“ครับ”

“งั้น...พักผ่อนนะ” โบกมือบ๊ายบาย...อยู่ห้องตรงข้ามกันเองนะเนี่ย

“ไม่สนไปนอนเล่นที่ห้องพี่เหรอ” ส่ายหน้าเลย

“ไม่อะ” เดี๋ยวพี่ปล้ำผม! อยากตอบแบบนี้แต่กลัวพี่มันหาว่าผมทะลึ่งคิดแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ลามกที่สุด!

“เออ พี่ขอเบอร์กับไลน์ก่อน คบกันแล้วยังไม่มีเลยอะ” เออ อันนี้ผมก็ลืมไปเหมือนกันนะ

ผมแลกเบอร์ ไลน์และเฟซบุ๊กกับพี่มะเดี่ยวเรียบร้อยถึงย้ายกันเข้าห้อง จับขาหน้าความรักโบกมือบ๊ายบายด้วย จะว่าไป...พี่มะเดี่ยวแกดูเพลียๆ เนอะ เห็นมาตั้งแต่เดินออกมาจากร้านกาแฟแล้วล่ะฮะ การวาดรูปนี่มันกินแรงงานมากสินะ หรือว่าพี่มันไม่ได้นอนกัน

คิดเรื่องพี่มะเดี่ยวไปก็อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมใส่แค่กางเกงขาสั้น ไม่ใส่กุงเกงใน...อึดอัด แบบนี้สบายกว่า ส่วนความรักมันใส่แค่กางเกงในตัวเดียว มันไม่ได้อยากใส่หรอก แต่ผมใส่ให้เองล่ะ มันน่ารักดีอ่า...ตัวสีดำสลับสีเนื้อใส่กางเกงในสีแดงแปร๊ดเลยไปเดินมาบนโซฟา

“ฮ่าๆ ป๊านี่ตกหลุมรักแกเลยความรัก” แล้วก็จับมันมาฟัดจนมันร้องและดิ้นรน

เรื่องของพี่มะเดี่ยวหายไปจากหัวเมื่อผมเริ่มวิ่งไล่ความรักไปทั่วห้อง ต้อนลำบากเวลาที่มันหนีเข้าไปตามซอกหรือใต้เตียง ไม่ต้องห่วง...ระดับสามแล้ว มีไม้กวาดเอาไว้เขี่ยครับผม ดูมันวิ่งดุ้กเข้าตรงนั้นทีตรงนี้ทีแล้วก็สนุก ทุกครั้งที่จับได้มันจะโดนฟัดและกัดไปหลายงับ ผมไม่ได้ทำมันเจ็บน้า...อย่าคิดว่าผมทารุนสัตว์จนแจ้งตำรวจมาจับล่ะ สามไม่เอาคุกเน้อ~

เล่นกับความรักจนเหนื่อยก็นั่งปะจำที่โต๊ะคอมพ์ เปิดและเข้าเกมอย่างว่องไว มือถือถูกตั้งเอาไว้บนแท่นชาจ ผมชอบชาจแบบนี้เพราะมันสามารถเปิดอย่างอื่นเล่นไปด้วยได้ พอเข้ามาก็เจอพีชกับวิ่งกำลังออนอยู่พอดี ผมทักเพื่อนๆ และรวมตัวกันไประรานชาวบ้านชาวช่องเขา ระรานยังไงน่ะเหรอ...คือเขาก็เล่นกันดีๆ ตีมอนกันไปเนี่ยแหละครับ แต่พวกผมน่ะจะเข้าไปฆ่าเขา ทำให้พวกเขาเหล่านั้นเล่นเกมไม่ได้นั่นเอง...

อยากบอกว่ามันเป็นความมันเฉพาะตัวของเกมนี้เลยนะ เกมอื่นไม่ให้อารมณ์แบบนี้เพราะปกติการจะฆ่าตัวผู้เล่นคนอื่นได้นั้น ผู้เล่นต้องเปิดโหมดบลาๆ หรืออะไรก็ตามแต่ซึ่งเป็นกฎของเกมนั้นๆ ทว่าเกมนี้มันไม่มีโหมดที่ว่า มีแค่พื้นที่ที่ห้ามตีอย่างในเมือง พื้นที่เซฟโซน นอกนั้นมันสามารถฆ่ากันได้เสมอ

ประมาณเที่ยงคืน ช่วงเวลาแห่งความเมามันของเหล่าเกรียนอย่างเราๆ กำลังดำเนินไปด้วยความสนุกสนาน จู่ๆ ผมก็คิดถึงพี่มะเดี่ยวขึ้นมา...ป่านนี้แกจะนอนยังวะ มองไปที่มือถือ จิ้มไปยังหน้าไลน์ ซิงก์ไลนพี่เขาด้วยเบอร์โทรศัพท์ ตั้งใจจะลองส่งไปถามดูว่านอนหรือยัง ทว่ามือกลับไปโดน...

“เอ่อ...” วิดีโอคลอ

“ฮั่นแน่...กี่โมงกี่ยามแล้วทำไมไม่นอนครับ” เสียงทุ้มเข้มลอดมาตามสาย จะว่าไป...เสียงพูดกับเสียงที่ผ่านการโทรนี่มันคนละเสียงกันเลยเนอะ

“แฮ่ๆ พี่ก็ยังไม่นอน”

“พี่ทำงานนี่ครับ แล้วนั่นไม่ใส่เสื้อ ไม่หนาวเหรอ...สามอะเปิดแอร์ฉ่ำมาก ระวังไม่สบายนะ” พี่ก็ไม่ใส่ปะวะ แล้วนี่เขาก็ไม่ได้มัดผมด้วย แต่คาดผมแทน ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบเนอะ

“พี่ก็ไม่ใส่”

“พี่ไม่ได้เปิดแอร์แรงนี่ครับ แล้วนั่นทำอะไร...เล่นเกม?” พยักหน้าพร้อมยิ้มหวาน

“กำลังล่าเกรียนอยู่เลยพี่ เล่นกับผมไหมล่ะ…เอาเปล่าเดี๋ยวผมพาเล่น” พี่มะเดี่ยวส่ายหน้า

“ไม่อะ…พี่ทำงาน เราเล่นเถอะ”

“เอ่อ…ผมกวนหรือเปล่า”

“เปล่า เออ...โทรไลน์ไว้แบบนี้แหละ ไม่ต้องปิดหรอก”

“เอางั้น?”

“ใช่” พี่มะเดี่ยวละสายตาไปมองหน้าจอคอมพ์ใกล้ๆ เขาเอามือถือวางไว้บนฐานตั้งเหมือนผมแน่นอน

ไอ้วิ่งส่งข้อความมาเร่งผมยิกๆ หาว่าผมเผลอหลับทั้งที่ผมไม่ได้หลับเสียหน่อย ก็แค่คุยกับพี่มะเดี่ยวอยู่ เมื่อมันเร่งก็ต้องออกล่าไปกับพวกมัน เรามีตัววิ่งเร็วอยู่ วิ่งข้ามแผนที่ยังสบายมากๆ เวลาตีใครมันๆ ผมจะอินมาก ชนะแล้วยิ้กว้างเหมือนฆาตรกรอยู่คนเดียว ลืมไปเลยว่าตอนนี้คลออยู่กับพี่มะเดี่ยว เราอยู่ในโลกของเรา แค่มีอีกคนเห็นเราเท่านั้นเอง...

แปลกที่ผมไม่รู้สึกเก้อเขินอะไร...แบบนี้ก็ดีนะ

“เมื่อไหร่จะนอนละนั่น” คนอีกฝั่งส่งเสียงถาม

“พี่นอนตอนไหนละ” ไม่ได้หันไปมอง ตอนนี้กำลังร่วมตะลุมบอลกับชาวบ้านอยู่

“ไม่รู้ดิ”

“งั้นผมก็ไม่รู้...โอ้ยเชี่ย” ไอ้หลาบอีกแล้ว...คู่อริผมเอง ตัวโหดพอกัน ผิดที่ผมพลาดเอง ผมรีบพิมพ์ด้วยความไวแสงด่ากับอีกฝ่าย ตัวจริงเป็นคนน่ารักครับ แต่ในเกมผมเป็นคนน่าถีบ...ฮ่าๆ

“หยาบคายวะ” แหม พ่อคนสุภาพ...พ่อคนพูดเพราะ

“ครั้งแรกที่พูดกับผม...” เปรยเบาๆ แล้วหันไปสบตาเขาผ่านหน้าจอ

“เข้าใจผิดปะละ ไม่ตั้งใจ...”

“ครับ” โอเค เข้าใจผิด

“แค่เข้าใจผิดนะ...ผมถึงกับเป็นคนร่านเลยอะ” ปกติไม่กล้าพูดอะไรแบบนี้กับพี่เขาเท่าไหร่ อาจเพราะเราคุยกันผ่านมือถือ ต่อให้เห็นหน้า...ความเก้อมันก็มีน้อยกว่ายืนเคียงกัน

“จำแม่นจัง ฝังปะเนี่ย...พี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ แค่เจตนา” ครับ ผมรู้สึกดีมาก...ดีจนแทบลอยขึ้นฟ้าไปเลยล่ะครับ

“ไม่เป็นไรพี่ ดีนะ...ผมคงจำไม่มีวันลืมเลย” อันนี้ไม่ได้ประชดนะ เพราะผมคงไม่มีวันลืมเรื่องราวในวันนั้นแน่นอน

“ก็ดี ถือว่าสามจะไม่มีวันลืมพี่ พี่ก็ไม่มีวันลืมเรา…” อาจเพราะผมไม่ได้เปิดไฟทั้งห้อง พี่เขาก็ด้วย มีแค่แสงจากคอมพ์ส่องให้เราเห็นกัและกัน...มันโรแมนติกนะในความรู้สึกผม เรายิ้มให้กันผ่านหน้าจอก่อนจะหัวเราะเบาๆ ให้กับความทรงจำครั้งแรกของเราทั้งคู่

ผมเล่นเกมกับเพื่อนจนถึงตีสามก็หนีไปนอน พี่มะเดี่ยวยังไม่ยอมละมือจากงานของเขา ผมเลยไม่ยอมวางสาย พี่ก็ไล่ให้ผมนอนไปแหละ แต่ผมตีมึน บอกพี่นอนเมื่อไหร่ผมก็นอนตอนนั้นแหละ มือหนึ่งถือมือถือเดินเข้าห้องในความมืด อีกมือก็อุ้มความรักที่หลับสนิท มาถึงเตียงวางมือถือใต้โคมไฟก่อนเพื่อเอาความรักนอนดีๆ จากนั้นผมก็เอามือถือพิงกับโคมไฟที่ถูกเปิดให้เห็นหน้าตัวเอง

“ไปนอนเถอะ”

“นอนอยู่” ก็จริงตอนนี้ผมไม่ได้นั่งนะ

“กวนตีน เดี๋ยวโดน” มีชี้หน้าขู่ ผมหัวเราะเบาๆ

“ทำงานไปเถอะ ผมไม่กวนหรอก” เพราะผมจะนอนมองเงียบๆ รับรองไม่เป็นการกวนพี่เขาแน่นอน

“เราหลับแล้วต่างหากถึงจะถือว่าไม่กวน...” น่าน้อยใจจัง แฟนไล่ไปนอน

“งั้นผมจะกวนพี่จนกว่าพี่จะนอนเลยล่ะครับ” ยิ้มบางๆ

“สาม...”

“ไม่ต้องขู่เลย” ผมไม่สนหรอก

พี่มะเดี่ยวส่ายหน้าเบาๆ เขาหันไปทำงานของตัวเองต่อโดนไม่ได้พูดอะไรอีก ผมก็มองมันไปเพลินๆ นั่นแหละครับ ตาปรือลงเรื่อยๆ ตามความง่วงงุน พยายามจะฝืนถ่างเอาไว้เพื่อรักษาคำพูดที่ว่าพี่เขานอนเมื่อไหร่ผมถึงจะนอนเมื่อนั้น อันที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจจะล่วงล้ำเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของเขาหรอกนะ  ที่ผมก่อกวนอยู่นี่เป็นเพราะอยากแกล้งเขาล้วนๆ ไม่มีหมูผสมเลยล่ะ

“สามหลับยัง” เสียงอีกฝ่ายถามมาแว่วๆ

“อืม ยังครับ” แล้วผมก็ตอบทั้งที่ตาเปิดไปได้แค่นิดเดียว

“งั้นเหรอ งั้นพี่ถามไรหน่อยดิ”

“อืม” จะเปิดตาเพื่อมองหน้าอีกฝ่าย ทว่าผมไม่มีสติสตางค์พอจะทำแบบนั้น ง่วงจริงง่วงจัง นี่กี่โมงแล้ววะเนี่ย...

“ที่สามว่าสามไม่เคยกับใครนั่นน่ะ สามพูดจริงปะ” พยักหน้าหงึกๆ

“จริงครับ” ขานตอบเหมือนไม่รู้ตัวแต่รู้ตัวดีทุกอย่าง แค่ผมสู้ความง่วงไม่ไหว มันใส่ของท๊อปเกิ้นนนน

“เหรอ”

“อืม” ขานละขยับตัวนิดหน่อย ดึงผ้าห่มให้คลุมถึงคอ ผมค่อนข้างหนาวน่ะนะ

“วางสายไหม ตาปิดแล้วนะ” ปิดบ้าไร ยังเห็นรางๆ ว่าพี่มองมาที่ผมอยู่เลย

“ไม่เอา”

“โอเค ไม่เอาก็ไม่เอา พรุ่งนี้ตื่นไม่ไหวพี่ไม่รับผิดชอบนะ” ไม่รับผิดชอบก็ต้องรับผิดชอบอยู่ดี เพราะผมจะไม่ยอมเป็นคนผิดคนเดียว

“ก็พี่ไม่นอน” ผมไม่จริงจังกับการนอนของเขาขนาดนั้นหรอก...เหรอ ฝืนอยู่นี่ไม่จริงจังสินะ ก็บอกว่าแกล้งเขาอยู่น่ะครับ เพียงแค่แกล้งเองก็ทรมานเอง

“สามดื้อเหมือนกันนะ ระวังโดนพี่แกล้งสั่งสอนนะรู้เปล่า” ส่ายหัวเบาๆ

“ไม่แกล้ง” คือห้ามแกล้งแต่พูดรวบรัด ปากหนักเพราะง่วงเกิ้น

“แล้วถ้าพี่แกล้งล่ะ”

“งอน” ใช่ ผมจะงอน แล้วพี่ต้องมาง้อผมด้วย ไม่งั้นผมก็จะไม่หายงอน

“คิดว่าพี่กลัวเหรอ...” ไม่อะ ผมส่ายหน้าเบาๆ

“สาม...”

อืม

“พี่อยากเปิดซิงสามจัง”

ไม่เอา

“ถ้าพี่ชนะโบตี้ได้ พี่ขอนะ...”

ผมขอคิดดูก่อนนะ....

“หึ…ไอ้หมูเอ้ย”

….100%….

พี่มะเดี่ยวเราเป็นคนชอบตามความฝัน ยิ่งความฝันที่เห็นสามนอนใต้ร่างนี่ยิ่งอยากตาม เพราะงั้น…สามต้องทำให้พี่เขาสมหวังนะ ฮ่า~!

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :hao3:

พี่มะเดี่ยวมีความฝันที่หื่นด้วย

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ Akanasan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ยอมพี่มะเดี่ยวเดี๋ยวนี้นะเดอะสาม!!!


 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อื้อหือออออออออออออ  การแข่งขันนี้ช่างน่าสนุกเสียจริง

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 35 [100%]<<

“คร่อกๆ....” อืม...อะไรแต่เช้าเนี่ย

RrrrrRrrr!

เอาเข้าไป ทั้งความรัก ทั้งโทรศัพท์ ใครมันโทรมาอะไรเอาตอนนี้ คนจะหลับจะนอนเนี่ยรู้กันบ้างหรือเปล่า โอ้ยยยย ผมง่วง ผมอยากนอน ความรักแม่งกระชากผ้าห่มผมออกไปจากตัว ไม่พอยังมานั่งทับอกกันอีก หกโมงห้าสิบ..ให้ตายเถอะซาร่า นี่มันไม่ยอดเลย ผมคว้ามือถือขึ้นมากดรับสายหลังเห็นเวลาบนฝาผนัง

(ตื่นยัง) เสียงคุ้น ใครวะ…อ่อ น้าบอย

“ครับ….กำลังจะตื่น” เพราะน้าโทรมาปลุกผมเนี่ยแหละ ผมเลยต้องตั้งตาตื่น

(ดีมาก น้าฝากซื้อของหน่อยนะ เดี๋ยวส่งรายการให้ในไลน์)

“ครับ” ว่าจบน้าบอยก็วางสายไป

“ป๊าขอนอนต่อนะ...” ตั้งท่าจะหลับตานอนต่อ แต่ความรักยอมซะที่ไหน มันเอาจมูกตัวมาดันแก้มซ้ำๆ ย้ำอยู่หลายทีจนผมรำคาญ อยากจะปัดมันทิ้งเหมือนปัดแมลง ติดที่ว่ามันไม่ใช่แมลง ปัดแบบนั้นมันก็ไม่ไปไหนอยู่ดี อาจทำมันเจ็บด้วย ทางเดียวของผมก็คือลืมตามองหน้ามัน รู้ไหม...ในขณะที่ความรักหลับสบายใจเฉิบ เดอะสามได้นอนตอนเกือบจะเช้าแล้ว

เออ แล้วเมื่อคืนผมหลับไปตอนไหนวะ จำได้รางๆ ว่าพี่มันพูดอะไรสักอย่าง ผมได้ยินแว่วๆ รู้สึกจะคุยโต้ตอบด้วย แต่เอ...พี่แกคุยอะไรกับผมวะ ผมจำไม่ค่อยได้เลยแฮะ เดี๋ยวไปถามพี่เขาเอาแล้วกัน ตอนนี้ต้องลุกไปอาบน้ำอาบท่าก่อน

อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย ใส่เสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนกับกางเกงยีนส์สั้นเข่า ได้เวลาให้อาหารความรักและก็อาหารผมเองด้วย แต่ว่า...ผมไปปลุกพี่มะเดี่ยวมากินด้วยกันดีกว่าไหม หรือควรปล่อยให้พี่เขานอนต่อไปดีอะ

ก๊อกๆ

กำลังลังเลอยู่ว่าจะเอายังไง เสียงเคาะห้องก็ดังขึ้น ผมเดาไม่ผิดคงมีคนเดียวนั่นคือพี่มะเดี่ยว ผมรีบลุกไปเปิดประตู ปล่อยให้ความรักมันกินอาหารของมันอย่างเอร็ดอร่อยแทน เมื่อเปิดประตูปุ้บ ผมก็เจอคนที่คาดทันที พี่มะเดี่ยวตาโหลมา เขายีหัวที่มีผมยาวอยู่แค่ตรงโซนกลางหัวเข้ามานั่งบนโซฟา

“พี่ได้นอนปะเนี่ย...” ผมเดินตามไปนั่งใกล้ พี่มะเดี่ยวหันมามอง

“ไม่อะ เดี๋ยวนอนกลางวันเอา แล้วนี่ตื่นนานยัง พี่คิดว่าป่านนี้สามยังไม่ตื่นเสียอีก”

“เพิ่งตื่นสักพักเองพี่ น้าโทรมาปลุกอะ ให้ผมซื้อของเข้าไปให้เขาหน่อย เออ เมื่อคืนอะ พี่ถามอะไรผมบ้างนะ...ผมจำไม่ได้อะ ไอ้ตอนที่โบตี้ๆ โบตี้ไรสักอย่าง” ถือโอกาสถามเลยแล้วกัน จ้องหน้าด้วยเนี่ยแหละ พอดีเป็นคนอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเอง

“อ่าวสามจำไม่ได้เหรอ” ส่ายหัวไวๆ

“ไม่อะ”

“งั้นที่พี่บอกไปแล้วเราไม่ตอบนี่คือ...หลับ” ผมลองนึก...ผมจำได้ว่าผมตอบนะ พี่เขาถามมาตอบหมดอะ

“ผมตอบพี่นะ ผมจำได้ว่าผมตอบทุกคำอะ...แต่จำไม่ได้แล้วว่าโบตี้ๆ เนี่ยมันอะไร” พี่มะเดี่ยวส่ายหัวเบาๆ

“ตอบในฝันคนเดียวอะดิ พี่ถามเราก็เอาแต่เงียบ”

“จริงดิ”

“เออดิ”

“แฮ่ๆ...ผมขอโทษ ว่าแต่พี่ถามใหม่สิ เดี๋ยวผมตอบ” พี่เขาส่ายหน้าเบาๆ หันไปเล่นกับความรัก

“ไม่ล่ะ ไม่มีอะไรสำคัญหรอก เรารีบกินแล้วไปทำงานได้แล้ว พี่บอยฝากซื้อของด้วยหนิ เดี๋ยวสายนะ” ก็จริงของพี่แกละ

“พี่กินกับผมไหม มีข้าวผัดไก่อยู่ในตู้ เดี๋ยวผมเวฟให้” ที่จริงไม่ได้อยากซื้อมาหรอก แต่ตอนนั้นไม่มีข้าวผัดหมูเลยก็เลยซื้อเอาไว้

“เอาสิ” ได้รับการตอบรับ ผมก็เดินไปเอาข้าวกล่องเข้าเวฟให้พี่มะเดี่ยว รูปร่างใหญ่โตขนาดนั้นไม่น่าอิ่มอะ ก็เลยเอาเกี๊ยวกุ้งมาเวฟด้วย เผื่อจะอยู่ท้องขึ้นมาบ้าง ระหว่างรออาหารสุก ผมก็เปิดตู้เย็นเพื่อเอานมมาเทใส่แก้ว ไม่ได้ให้ตัวเองนะ ผมกินก่อนนอน ตื่นนอนผมไม่ค่อยกิน แค่คิดว่ามันน่าจะทำให้พี่เขาอิ่มมากขึ้นอะ

ผมทยอยเอาอาหารมาวางไว้บนโต๊ะเล็กหน้าโซฟา ความรักมันกินเสร็จก่อนใครพวกเพราะมันเริ่มกินก่อนคนอื่นเขาเลย แต่ดีอย่างนะ ความรักไม่เคยมาระรานอาหารของผมหรืออาหารอื่นที่ไม่ใช่ของมันเลยสักครั้งเดียว เมื่อจัดวางครบแล้วก็นั่นกินกัน พี่มะเดี่ยวเงียบๆ ไปหน่อย อดนอนมันจะเป็นแบบนี้ครับ อึมครึม ไม่สดใสร่าเริงเท่าไหร่ แต่ก็ยังนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ นั่นแหละ ไม่ถึงกับต่างคนต่างกินอะไร

“พี่ไม่ต้องไปส่งผมก็ได้นะ นอนพักเถอะ” เราออกนอกห้อง พี่ขาทำท่าจะไปส่งผมแต่หน้าโทรมมากอะ

“ไม่เอา เดี๋วหาว่าไม่มีเวลาดูแลแฟน” ใครเขาจะไปพูดแบบนั้นกัน

“จะดูแลแฟนได้พี่ต้องดูแลตัวเองให้พร้อมก่อนนะ อีกอย่างตอนเย็นพี่มีซ้อม เดี๋ยวซ้อมเต้นไม่ไหวนะพี่”

“สามเป็นห่วง?” ไม่ต้องมายิ้มเลยเหอะ ดูสภาพดิ น่าห่วงปะละ

“อืม ผมเป็นห่วง พักผ่อนเถอะครับ”

“ก็ได้...แต่พี่ลงไปส่งนะ”

“ครับ” พูดง่ายๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย

พี่มะเดี่ยวอุ้มความรักแทน ยังคว้ามือไปจับจูงอีก รู้สึกว่าตั้งแต่ตกลงคบ ไปไหนมาไหนพี่มันจับมือผมไว้ตลอดเลย แล้วผมก็รู้สึกดีที่พี่เขาทำแบบนี้ เพราะไม่งั้นผมว่าเราก็ดูจะเหมือนก่อนที่คบกัน ไม่ได้มีอะไรพิเศษขึ้นเท่าไหร่นัก คงแพราะต่างก็เป็นผู้ชายละมั้งครับ...ไม่รู้สิ คู่อื่นที่เป็นเพศเดียวกันก็มีนะไอ้คู่หวานๆ หมั่นเซอร์ไพรส์กันอะ

แต่ผมไม่ซีนะ ผมไม่ใช่คนโรแมนติก แล้วก็ไม่โอเคถ้าแฟนของผมจะเป็นพวกโรแมนติกเวอร์อะ มันน่าอายแล้วก็...แปลกๆ ผู้ชายก็ไม่อยากถูกปฏิบัติตัวเหมือนผู้หญิงหรอกถูกไหม ให้เป็นแบบนี้...เป็นธรรมชาติอย่างที่เราต่างก็เคยเป็นนี่แหละดีสุดแล้วในความรู้สึกผม

พี่มะเดี่ยวส่งผมที่จักรยานสีเขียวแม่บ้าน รอจนผมกับความรักปั่นกันออกไปเขาถึงได้เดินกลับขึ้นไปที่ชั้นบน ผมแวะที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ ซื้อขอตามรายการที่น้าบอยสั่ง ค่อนข้างเยอะเลยพะรุงพะรังพอสมควร แฮนด์ทั้งสองข้างเต็มไปด้วยของ ความรักยึดตะกร้าหน้ารถเอาไว้แล้ว ใส่ของได้น้อยลงเพราะมันกินพื้นที่ไปแล้วเก้าสิบเปอร์เซ็น อยากจะรีบปั่นให้ถึงร้านไวๆ ไม่ไหว…อะไรจะลำบากขนาดนี้

พอมาถึงร้านได้ผมนี่โล่งใจเลยครับ เอาของให้น้าบอยพร้อมใบเสร็จ น้าบอยเอาเงินส่วนที่ผมออกมาให้ ผมเก็บใส่กระเป๋าแล้วก็เริ่มทำงานที่ร้าน วันอาทิตย์เงียบกว่าวันเสร์มากโข ก็เลยนั่งเล่นอยู่กับความรักเสียส่วนใหญ่ ผมไม่ได้ส่งข้อความหรือโทรไปกวนพี่มะเดี่ยว ปล่อยให้เขาได้นอนพักผ่อนไปแบบนั้นแหละดีแล้วครับ ไม่งั้นเย็นนี้จะซ้อมเต้นไม่ไหว

ทำงานไปเล่นเกมไป...โอ้โห เพลินมากอยากจะบอก ลูกจ้างร้านไหนจะสบายเท่าลูกจ้างร้านนี้ แต่ว่าวันธรรมดาคงไม่สบายเท่านี้ ผมเห็นคนเข้าร้านอยู่ตลอด พนักงานนี่พากันเดินขวักไขว่เชียวแหละ อย่างว่ามันเป็นร้านใหญ่นี่ครับ ทั้งนักศึกษาและอาจารย์ต่างก็พามาสั่งกาแฟร้านนี้กันทั้งนั้น บางทีก็พากันมานั่งทำรายงาน อย่างวันนี้ก็มีคนมาติวที่ร้านหลายโต๊ะ

เออ...จะว่าไปผมก็ใกล้สอบแล้วนี่นะ เผลอแป๊บเดียวก็จะหมดเทอมเสียแล้ว ดีนะที่ผมรู้สึกว่าผมเก็บเกี่ยวบทเรียนได้เต็มที่ ไม่รู้สึกว่าตัวเองพลาดอะไร และก็ยังเข้าใจบทเรียนเป็นส่วนมาก ผมไม่ใช่คนเรียนเก่ง...แต่เป้าหมายที่ผมตั้งใจจะทำมันผลักดันให้ผมตั้งใจเรียนมากขนาดนี้ ก่อนจะเป็นครูที่ดี ก็ต้องเริ่มจากการเป็นนักเรียนที่ดีก่อนถูกไหมล่ะครับ

ตอนบ่ายสามพี่มะเดี่ยวส่งข้อความมาหาว่าออกจากห้องแล้ว เดี๋ยวจะไปซ้อมเต้นที่ตลาดเปิดท้าย ผมก็คุยกับพี่เขานิดหน่อย อย่างได้นอนไหม กินอะไรหรือยัง ผมเลิกร้านประมาณสองทุ่มเดี๋ยวจะตามไป ยังดีที่พี่เขานอนแล้ว แต่ข้าวไม่ได้กิน กำลังจะไปหากินที่นู้น ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเวลานี้ตรงลานซ้อมเต้นจะร่มหรือยัง เพราะว่าตรงนั้นน่ะมันไม่มีหลังคาหรืออะไรยื่นออกมาบดบังแสงแดด กลางแจ้งโคตรๆ เต้นตอนกลางวันไม่ได้แน่นอนเพราะแดดคงเล่นนักเต้นเป็นลมไปเป็นแถบๆ

พี่มะเดี่ยวอยู่แชตคุยกับผมได้ไม่นาน ข้อความสุดท้ายของพี่เขาคือพี่ถึงที่ฟลอเต้นแล้ว เป็นอันว่ารู้กันอะครับ นอกจากจะต้องซ้อม ก่อนหน้านั้นยังต้องวอร์มอัพก่อนด้วย ไม่งั้นกล้ามเนื้ออาจได้รับบาดเจ็บจากการเต้นอย่างหนักหน่วงได้ ผมก็ส่งกลับไปแค่สู้ๆ แค่นั้น เขาไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งคุยแชตเล่นกับผมเนอะ

เขาซ้อมเต้นเพื่องานแข่งอันสำคัญ ผมก็ทำงานหงกๆ ไปเพื่อเงินค่าขนมที่แสนสำคัญไม่แพ้กัน แหม...ลองแม่ลดค่าขนมผมดิ ผมไม่มีทางใช้เงินเปลืองได้อย่างตอนนี้ที่ทำอยู่หรอก จริงๆ ผมมีเงินสำหรับค่าอาหารมื้อละร้อยเลยนะ แต่บางทีกินมาม่าเพราะความขี้เกียจของตัวเองล้วนๆ แล้วถ้าแม่ผมลดค่าขนม ผมคงได้กินมาม่าเป็นมื้อหลักแน่นอน ไม่ได้ปากเดียวท้องเดียวนะอย่าลืม ผมยังมีความรักอีกหนึ่งตัวที่ต้องการผลไม้เป็นอย่างมาก มื้อหนึ่งของมันบางทีแพงกว่าผมกินอีกอะ

แล้วผลไม้เมืองไทย ไม่เข้าใจมันจะแพงอะไรนักหนา มาจากสวนแม่งก็ไม่เท่าไหร่ พอเอามาขายปุ้บแพงปั้บ แล้วผมก็ไม่มีเวลาไปเดินตลาดสดเพื่อซื้อของราคาถูกด้วย พึ่งแต่ซูเปรอ์มาร์เก็ตที่ราคาสูง จากมีกินมื้อละร้อยก็เหลือมื้อไม่กี่บาท เพราะความรักเอาไปแดกหมดแล้วครับ แล้วดูหน้ามัน...ดูพุงมัน มึงกินแต่ผลไม้ทำไมมึงอ้วนอย่างนี้วะฮะ!

ความรักทำให้ผมรู้สึกว่า...คนที่ลดความอ้วนแม่งไม่จำเป็นต้องกินแต่ผักและผลไม้ก็ได้ เพราะความรักของผมมันไม่เคยกินเนื้อสัตว์ ไข่ ของมัน มันก็ยังอ้วนเป็นหมูอยู่เลยดูดิ ฮ่าๆ...ก็มันเป็นหมูใช่ไหมล่ะ

ทุ่มกว่าผมเริ่มเก็บร้าน เก็บของแล้วก็ขอตัวกลับก่อน ไม่ได้ค่าจ้างนะ...ผมทำนี่ผมทำฟรี ไม่ได้เงินสักบาท พ่อแม่ให้เยอะแล้วก็เลยไม่เดือดร้อนถ้าทำงานแล้วไม่ได้เงิน แต่แหม...ผมก็เสียดายวันหยุดของผมปะล่ะ ผมไม่สามารถนอนตื่นสายอย่างที่หมายมาดเอาไว้ มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่สุดในชีวิคเลย...ดราม่าแป๊บ

เค...หายละ

“เฮ้ยๆ...ดูดิ้ใครมา” แค่เดินเข้ามาที่ฟลอ เสียงเย้วๆ ก็ดังลั่นไปหมด ตัวต้นเสียงก็พี่เรย์เลย...จะตะโกนทำไมพี่ กลัวพี่มะเดี่ยวไม่รู้เหรอว่าผมมาน่ะ แหม...เขาบอกกันแล้วเหอะว่าจะมาหา

“สวัสดีครับ...” ผมยกมือไหว้รุ่นพี่ทุกคนรอบฟลอ เป็นแฟนคนเก่งในฟลอไม่ได้หมายความว่าจะไม่เคารพใครก็ได้ครับ ยังไงพวกนี้ก็รุ่นพี่ผมทั้งนั้น

“ไหว้พระเถอะ” พี่เรย์ยืนตรงเก๊กหล่อ...ไม่เข้ากับหน้าตากวน...เลยอะครับ

“ครับ” อยากบอกว่าผมไหว้พวกพี่อะ ไม่ใช่ไหว้พระที่ไหน แล้วอายุแค่นี้ไม่เหมาะจะใช้รูประโยคคนั้นเลยนะนั่น

พี่มะเดี่ยวเดินเข้ามาจูงผมไปนั่งที่เดิมข้างพี่แม็กสุดหล่อตัวใหญ่กว่าควาย ไอ้พีชกับไอ้วิ่งก็มาซ้อมเต้นเหมือนกัน นี่ถ้าผมไม่ติดทำงานที่ร้านน้าก็คงมาซ้อมกับพวกมันแล้วล่ะมั้ง แต่เพราะเห็นว่าผมอยู่กับพี่มะเดี่ยว เพื่อนทั้งสองก็เลยไม่เข้ามาหา

“กินไรมายังหืม” มือลูบหัวความรักแต่ตาจ้องมองผม

“ยังเลยพี่ รอพี่ซ้อมเสร็จค่อยไปหาไรกิน”

“ไม่หิว?”

“ไม่อะ”

“ถึงว่า ทำไมหุ่นเหมือนหมา” อ่าว...ไหงวกมาเสียดแทงผมงี้ล่ะพี่

“อ่า...” อยากด่าอะ แต่ไม่กล้า ก็เลยแค่ยิ้มบางๆ แล้วก็เพิกเฉยต่อคำพูดนั้นไป

“นั่งเฝ้าของไปนะ ฮ่าๆ” พี่ครับ...หุ่นกูเหมือนหมาพี่ แต่กูไม่ได้เป็นหมานะเว้ยเฮ้ย! เคือง...เดี๋ยวพ่อกินหมูโชว์เลยหนิ

เขาเดินจากไปด้วยรอยยิ้ม มีแต่ผมที่หน้าเบ้เพราะหมั่นไส้ในความทะเล้นของเขา เมื่อเช้ายังหน้ามึนเพราะอดหลับอดนอนอยู่เลย ตอนนี้พลังเต็มแล้วงั้นสิ ถึงได้ส่งสายตาอย่างนั้นมาได้เนี่ย

แม้จะทำงานทั้งคืน ได้นอนกลางวันไปไม่กี่ชั่วโมง ทว่าความบ้าพลังของพี่เขาไม่ได้หายไปไหนเลย เมื่อร่างสูงย่ำเท้าเข้าฟลอ เขาก็สามารถเรียกเสียงเฮลั่นจากผู้คนรอบด้านได้ด้วยความเก่งกาจของเขา ในความโฟลของสไตล์การเต้น ทั้งลื่นไหล เท่บวกกวนตีนอยู่ในตัวเอง

ถึงผมจะไม่ได้ลงไปเต้นกับเขา...แต่ผมมีความสุขที่ได้นั่งมองพี่เขาอยู่ตรงนี้ ฟังเสียงดังๆ และดูท่าทางการเคลื่อนไหวร่างกายอันร้ายกาจ หยอกล้อกันบ้าง เล่นทะลึ่งตึงตังตามภาษาเด็กผู้ชายกันบ้าง สนุกดี...มีความสุขดีนั่นแหละ

ผมโอเคกับทุกอย่างที่พี่เขาเป็น ติดอย่างเดียว...พี่โซฮานนี่ถึงเนื้อถึงตัวพี่มะเดี่ยวมากขึ้นปะนะ เมื่อวานยังโอบไหล่..แต่วันนี้โอบเอว คิดแง่ดี พี่เขาก็แค่เตี้ยเลยโอบไหล่พี่มะเดี่ยวไม่ค่อยไหว แต่ถ้าคิดแง่ร้าย...พี่แม่งต้องเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อแน่ๆ

ไม่ได้จับผิดน้า ก็มองพี่มะเดี่ยวและคนรอบด้านปกตินั่นแหละ แค่สายตามันไปโฟกัสพี่โซฮานเอง เวลาเขาคุยกับพี่มมะเดี่ยวอะ รอยยิ้มนี่น่ารักเป็นบ้าเลย ทำไมไม่ทำแบบนั้นให้คนอื่นบ้างล่ะ? อย่างผมนี่เจอแต่ตาดุๆ ทั้งที่ผมไม่ได้ทำอะไรให้เขา

“มึงรู้ปะว่าพี่โซฮานเขาเกลียดอะไรป๊า” ผมกระซิบกระซาบกับความรัก ซึ่งมันก็เงยหน้ามองผม...

“คร่อก...คร่อกๆ”

“อ้อๆ อย่างงี้นี่เอง ป๊าเข้าใจแล้วล่ะ...” เข้าใจก็บ้าแล้วล่ะ แกล้งมันเฉยๆ...ผมไม่อยากให้ความรักน้อยใจที่ป๊าไม่เข้าใจมัน

“คร่อกๆ”

“จ้าๆ ป๊าเข้าใจ”

….100%….

มะวานเผลอหลับแหละ แฮ่ๆ งานเยอะมากรุยเนอะสิ้นเดือนเนี่ย ยังไงจะพยายามมาทุกวันน้า ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :เฮ้อ: โซฮาน คือจะแย่ง ว่างั้น สารภาพไปแล้วนี้


 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไม่ได้คิดในแง่ร้ายลูก คิดในแง่ความเป็นจริง รอน้องสามจัดการนังโซ :katai1:

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
กลุ้มถึงขนาดไปนั่งคุยกะความรักเลยนะเนี่ย ฮ่าๆ

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
น้องสามให้พี่เดี่ยว  :z6: โซฮานสักทีก็ดีนะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
โซฮานนางก็น่าจะหาแฟนได้นะ

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 36 [100%]<<

การซ้อมเต้นเข้มข้นขึ้นเมื่อใกล้เวลาแยกย้าย ตอนนี้ที่กลางฟลอไม่มีพื้นที่ว่างให้เด็กหัดซ้อมกันแล้ว พีชกับวิ่งมานั่งเล่นอยู่กับผม ถือเป็นการพักเหนื่อยก่อนจะแยกย้ายกันไป เพราะตรงนั้นถูกสละให้ทีมดิสทีนิย์สเต็ปได้ฝึกท่าทีม

เห็นพี่มะเดี่ยวเป็นคนขี้แกล้ง ชอบเล่นซน แต่พอเอาเข้าจริงๆ พี่แกดุมากครับ เสียงของเขาที่ขึ้นเสียงหน่อยๆ ไม่ถึงกับตะโกนยังดังกดดันคนได้ นับประสาอะไรกับเมื่อแกได้ตะโกนออกมา ใครทำพลาด ใครทำได้ไม่ดีหรือใครเอาแต่เล่น ไม่ตั้งใจ พี่แกจะตะคอกใส่ไม่ไว้หน้าแม้นั่นจะคือเพื่อนเขาก็ตาม

นี่เป็นอีกมุมที่ผมเพิ่งเคยเห็น ปกติผมจะเห็นพี่เขาเล่นๆ แล้วมีแต่เพื่อนเขาเท่านั้นที่มักมาตาม มาดุว่าพี่เขาไม่สนใจการซ้อมเต้น แท้ที่จริงแล้วพี่เขานี่แหละคือที่สุดของคนในทีม ไม่มีใครกล้าหือกล้าอือกับพี่มะเดี่ยวเลยแม้แต่พี่เรย์ที่เป็นคนกวนๆ

“ไอ้เรย์ กูบอกแล้วไง เวลาเตะโทมัสอะให้มึงแตะแรงๆ มึงจะยั้งแรงไว้ทำเชี่ยไรวะ...ฮะ!” นึกสภาพตัวเองเป็นคนโดนดุ กูว่า..กูร้องไห้แน่เลย

“กูก็เตะแล้วไง มึงจะเอาไรวะ ไอ้เหี้ย ซ้อมกันมาตั้งกี่โมง แรงกูจะน้อยลงบ้างไม่ได้เลยไง” พี่เรย์ก็โต้ เมื่อกี้ว่าไม่มีคนหือ...แต่เพราะเหนื่อย อารมณ์ก็เลยขึ้นง่าย

“ไม่ได้ มึงเอาใหม่เลย...ตั้งท่าใหม่ให้หมด!” ไม่ใช่แค่พี่เรย์ที่ซวย แต่คำว่าตั้งท่าทีมใหม่ให้หมดหมายถึงทุกคนซวยไปตามพี่เรย์ด้วย

“กูคบคนผิดปะวะ” ก้มลงไปกระซิบกระซาบกับเพื่อน

“ฮ่าๆ…หงอเลยมึง เก่งไม่ใช่เหรอเรื่องตีมึน กูบอกเลยว่าพี่กูเก่งเรื่องกดดันคน” เรื่องนั้นกูไม่เถียง กูโดนมาเยอะกูเลยรู้ดีประมาณหนึ่งเลยล่ะเพื่อนยาก

“จะไม่ต่อยกันใช่ปะวะ” ผมถามอีก เพราะพี่แกดุมากไง ก็เลยกลัวมีปัญหาเหมือนกัน

“ไม่หรอก ทุกทีที่มีการแข่งก็แบบนี้ ทุกคนรู้ อยู่กันมาตั้งแต่สมัยไหนแล้วมึง” กูจะไปรู้ไหมละว่าเขาอยู่กันมาตั้งแต่สมัยไหน กูไม่ได้อยู่กับเขามาตั้งแต่ต้นนะเว้ยเฮ้ย

ฟลอยังคงดังไปด้วยเสียงเพลงและเสียงดุว่าของพี่มะเดี่ยวไปจนถึงห้าทุ่มกว่า ตลาดปิดหมดตั้งแต่สี่ทุ่ม พร้อมกับที่เด็กๆ หลายคนกลับห้องของตัวเอง ไม่เว้นแม้กระทั่งเพื่อนๆ ของผมทั้งสองคน เข้าใจฮะ มันดึกแล้วและพรุ่งนี้พวกผมมีเรียนเช้า แต่ผมก็ยังนั่งรอพี่เขาจนกว่าพี่เขาจะเสร็จแล้วกลับกันนั่นแหละ

ช่วงท้ายๆ ทีมแน่นมาก ทุกคนเต็มที่กับมันเพื่อจะได้พักอย่างสบายอกสบายใจเสียที การเต้นพลาดเลยแทบไม่มีให้พี่มะเดี่ยวต้องดุหรือสั่งเต้นใหม่อีกเลย พอจบทุกคนก็ตบบ่ากันและกันเพื่อให้กำลังใจและเป็นการบอกว่าวันนี้ทำได้ดีมาก ตอนนี้ไม่เหลือเด็กๆ แล้วครับ เหลือแค่คนในทีมกับผมและความรัก

“รอนนานปะ...” ไม่นานเลยพี่เอ้ย นั่งแม่งตั้งแต่สองทุ่มจนเนี่ยห้าทุ่มกว่าแล้ว

“ไม่อะ” แค่หิว...เออ อันนี้พูดจริง ข้าวมื้อสุดท้ายของวันนี้คือมื้อเที่ยงที่กินกับน้า

“โทษที...พี่รีบซ้อมเอาให้แน่นๆ น่ะ เดี๋ยวพี่จะไม่ว่างระยะหนึ่งเลย”

“เรื่องงานเหรอครับ” พี่เขาพยักหน้า

“เพิ่งได้งานเพิ่มมา” เท่าที่มีก็อดนอนทำแล้ว ยังรับงานมาเพิ่มอีก

“อ่า...ครับ ไปหาอะไรกินกัน” แต่ผมไม่มีสิทธิ์ไปว่าเรื่องงานพี่เขา จำให้ขึ้นสมอง...งานคือเงิน และเงินคือปัจจัยสำคัญที่สุดของชีวิต

“เออ พี่ลืมเลยว่าเรารอกินข้าว โกรธปะเนี่ย...โกรธก็บอกนะ เดี๋ยวให้ลงโทษ” ทั้งที่เหนื่อยจนเหงื่อท่วมกาย พี่เขาก็ยังส่งสายตาซุกซวนมาให้อยู่ดี

“ลงโทษยังไงอะ”

“ก็เดี๋ยวให้หอมแก้มทีหนึ่ง” ฮ่าๆ...อยากบอกว่ามันไม่ทำให้ผมหายหิวนะเอาจริงๆ

“เปลี่ยนเป็นกินพี่ดีกว่าไหมอะ มันดูจะอิ่มกว่า” คิดดู...เอาพี่มะเดี่ยวยัดเข้าเตาอบขนาดยักษ์! เดี๋ยวๆ...ทำไมมันดูโหดร้ายล่ะ

“เอาดิ ไปกินกันที่ห้อง...”

“โอเค...” ยกมือทำท่าประกอบ หน้าตาใสซื่อโคตรๆ เพราะพี่เขาจะให้ผมกิน...เดี๋ยว...ขอเดี๋ยวหลายๆ รอบเลย

“พี่เป็นคนดิ ผมกินพี่ได้ที่ไหน บ้า” หรือว่าผมเข้าใจอะไรผิด ผม...หรือพี่เขา

“ฮ่าๆ กินได้ แก้ผ้าก็กินได้แล้ว” น่านนนน งานติดเรตก็มา

“ผมว่าเราเข้าใจอะไรกันผิดแล้วล่ะพี่ กินข้าวเหอะ เนอะ” เอาตัวรอดไอ้สาม กูว่ามึงกับพี่เขา..ยังไงมึงก็โดนแดก

“อะไรอ่า...นึกว่าจะติดกับพี่แล้วซะอีก อดเลย” มาองมาอดอะไร เอ้อ...ชวนเด็กทำแบบนี้ไม่ดีไม่งามนะ เดอะสามคนนี้อายุเพิ่งผ่านผู้เยาว์มาแค่ตึ๋งเดียวเท่านั้น

พี่โซฮานเดินเข้ามาหา เขาเก็บข้าวของเสร็จกันหมดแล้ว นี่ก็มาเพื่อชวนไปกินข้าวด้วยกันก่อนจะแยกย้ายกันไปห้องใครห้องมัน ตลอดเวลาที่เขาพูดกับพี่มะเดี่ยวตรงหน้าผม เขาไม่มองหน้าผมเลยล่ะครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน…ผมไม่อยากคิดเองเออเองเสียด้วยสิ ไม่อยากมองหน้า ก็ไม่ต้องมองหน้า ผมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วถ้าจะมีใครสักคนไม่ชอบผมน่ะนะ แต่ที่ผมแว้บคิดขึ้นก็คือ...ถ้าพี่โซฮานไม่ชอบผมจริงๆ ผมกับพี่มะเดี่ยวจะมีปัญหาอะไรตามมาไหม เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เพื่อนเราไม่ถูกกับแฟนเรา นั่นหมายถึงการทะเลาะของคู่รักเลยน่ะ อันนี้ผมอ่านในพันทิปมา ฮ่าๆ

ทั้งกลุ่มเจ็ดคนพากันไปกินร้านข้าวต้มโต้รุ่ง ไม่ต้องห่วงความรักครับ ผมไม่ทำให้มันอด กระเป๋าโดเรมอนของผมมีอาหารเหลือเฝือสำหรับการพามันออกมาข้างนอก ตอนนี้ห่วงแค่มันจะง่วงเกินไปเท่านั้น พี่มะเดี่ยวแย่งความรักไปอุ้ม แต่ไม่ได้โยนกระเป๋าตัวเองมาให้ผมอย่างเคย ผมก็เลย...แย่งมาสะพายให้

“ผมถือให้”

“ไม่หนักอ๋อ” ส่ายหน้า...ไม่หนักบ้านพี่ดิ โคตรหนัก

“ไม่ครับ” แต่อยากช่วย ก็เลยบอกไปแบบนั้น

พี่มะเดี่ยวอุ้มความรักด้วยมือเดียว มืออีกข้างจูงผมอยู่ เขาไม่ค่อยได้คุยกับผมเท่าไหร่เพราะต้องคุยเรื่องทีมกับทุกคนที่เดินร่วมกันอยู่ อีกข้างของพี่มะเดี่ยวเป็นพี่โซฮานเดินตามติด ชนิดที่ไหล่ชนกันเลยครับ

ก็...หึงแหละ

แต่เข้าใจว่าเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน ทำตัวแบบนี้กันมานานแล้ว ถึงพี่มะเดี่ยวจะมีแฟน แต่ไม่ได้หมายความว่าความเป็นเพื่อนของพวกเขาจะต้องเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็น ต่อให้ลึกๆ ผมอยากให้เปลี่ยนสักหน่อยก็เถอะนะ...ช่างมันเหอะ ผมคงคิดมากไปเองนั่นแหละ

“เฮ้ยๆ...สั่งหมูมาเยอะๆ” พี่เรย์ยกมือขึ้นสั่งพี่แนที่ถือเมนู ผมอยากจะกดไลก์ให้พี่เขาหนึ่งทีด้วยความชื่นฉ่ำหัวใจ เดอะสามอยากแล่กหมูคร้าบบบบ

“สั่งมาก็ไว้ด้านมึงนู้นเลย”

“เฮ้ยไรวะ มียงมีแยกวางได้ไง โต๊ะเดียวกัน แดกด้วยกัน มันต้องวางด้วยกันสิวะ...ถูกปะ” เพราะพี่โซฮานแย้งขึ้น พี่มาร์ช หนึ่งในทีมก็แย้งบ้าง

“แต่ไอ้เดี่ยวมันไม่กินหมู”

“กูรู้เหอะ พูดอย่างกับพวกกูไม่รู้ แล้วไง...มันไม่เคยเดือดร้อนนะ วันนี้มึงมาเดือดร้อนแทนมันทำไมวะ” หันซ้าย...หันขวา แล้วก็มองหน้ากับพี่มะเดี่ยวงงๆ ปกติกินข้าวกันต้องโต้กันขนาดนี้ไหมวะ

“สั่งเร็วๆ เหอะ หิวแล้วเนี่ย” พี่มะเดี่ยวแกตัดบท พี่โซฮานหันมามองผมกับพี่มะเดี่ยว แต่มองผมแบบไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นะ

บรรยากาศมาคุเริ่มจะซาลงเมื่อทุกคนแย่งกันสั่งอาหาร ยกเว้นผมกับพี่มะเดี่ยว คือ...เราเอาแต่นั่งคุยกันจนไม่ได้สนใจสั่งอาหารน่ะครับ ผมได้ยินอยู่แหละว่าเขาสั่งอะไรกันบ้าง อย่างน้อยก็มีเมนูหมูเยอะเชียว...งานนี้ลาภปากเดอะสามแล้ว

“น้ำลายหกแล้ว” ผัดผักคะน้าหมูกรอบคือจานแรก...กลิ่นแม่งแบบ โอ้ย ไส้จะขาดแล้วเว้ย

“ก็ผมหิวนี่ ผมรอพี่ตั้งแต่หัวค่ำเลยน้า”

“หิวหรือเพราะมันเป็นหมู” ฮุ่ยยยย อย่ามารู้ทันเค้า แบบนี้ไม่ดีไม่เอา

“แฮ่...หิวสิหิว” ไม่ทันได้เช็ดน้ำลายที่มุมปาก เมนูต่อไปก็เริ่มมาเสิร์ฟ โอ้ยๆ...คอหมูย่างก็มา ต้มกระดูกหมูก็น่ากิน...

ความรักเอ้ย...เพื่อนมึงเต็มโต๊ะเลยเนี่ย!

“เชี่ย...แยกโต๊ะดีกว่าไหม” ไม่เอาสิพี่มะเดี่ยว ไม่แยกโต๊ะสิ นี่แหละ…นี่คือสวรรค์ชั้นเจ็ดของสาม

“เห็นไหม กูบอกแล้วให้เอาที่มีหมูไปไว้ฝั่งมึงให้หมดเลย” อ่าวพี่โซฮาน แบบนี้กูก็อดแดกดิพี่

ว่าแต่พี่โซฮานนี่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนพี่มะเดี่ยวจริงๆ ด้วยนะ ผมยังไม่เห็นพี่มะเดี่ยวแกว่าอะไรเลย แกยังเอาแต่เล่นกับความรักแล้วก็แหย่ผมอยู่เนี่ย ไอ้คนข้างตัวรู้ดีที่สุดว่าเมนูเหล่านั้นเรียกน้ำลายผมมากแค่ไหน แล้วที่ว่าจะย้ายโต๊ะที่ต้องแกล้งผมอย่างแน่นอน ข้ารู้...ข้าเห็น ข้าเข้าใจดี

“ไม่ต้องหรอกโซ น้องมันจะกิน ไว้นี่แหละ”

 “แต่เมื่อกี้...”

“กูแหย่น้องมันเล่น มึงนี่จริงจังเนอะ” แหม่ ว่าพี่โซฮานไม่ดูตัวเองเลย แต่ก่อนใครกันนะที่กลัวผมกินหมูตัวเองเป็นตุเป็นตะ

“น้องสามก็ชอบกินหมูเหรอ ดีๆ...กินยั่วไอ้เดี่ยวมัน ไอ้คนไม่รู้จักรสชาติแห่งความอร่อยของเนื้อหมู” ฮ่า ถูก...พี่เรย์พูดถูกใจผมมากๆ

“ผมเห็นด้วยโคตรๆ เลยครับผม” แล้วผมก็แท็กมือกับพี่เรย์ไปหนึ่งที พี่มะเดี่ยวได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ

ทุกคนดูมีความสุข ยกเว้นพี่โซฮานที่ไม่ค่อยแฮปปี้เพราะแกเข้าข้างพี่มะเดี่ยวเต็มร้อยมากๆ แต่ก็ไม่มีใครสนแก เมื่อข้าวถูกนำมาเสิร์ฟ เหล่าบีบอยผู้กระหายหิวทั้งหลายแหล่ก็จ้วงกินกันอย่างไม่สนเพื่อนพ้องอีกต่อไป ประมาณท้องกูสำคัญกว่า ไม่เว้นแม้แต่ผมที่หิวมาตั้งแต่เย็น โถ...ใครจะรู้ว่าเลิกเต้นกันเกือบเที่ยงคืนแบบนี้ล่ะครับ ถ้ารู้ ระหว่างทางผมคงหาอะไรมายัดใส่ท้องก่อนแล้วล่ะ

ระหว่างที่ทุกคนกระซวกกันอย่างเอร็ดอร่อย ก็มีพี่โซฮานนี่แหละที่ไม่ห่วงกินของตัวเอง เพราะพี่เขาเอาแต่ตักกับข้าวให้พี่มะเดี่ยวที่กินไป ป้อนความรักไป เอาผักในจานกับข้าวที่ไม่เผ็ดเนี่ยแหละป้อน ผมทำเป็นไม่เห็นทั้งที่ตัวเองมีตาตั้งสองข้างเหอะ...อืม เพื่อนกัน

เพื่อนกันมันดีปะครับ?

เห็นสามไม่สู้คน หงิมๆ...ไม่หือไม่อือ ไม่ได้หมายความว่าสามโอเคกับสิ่งที่พี่แกทำนะ ผมคบกับใคร ผมก็ไม่ชอบหรอกที่คนอื่นมายุ่งกับแฟนของผม ลับหลังไม่ว่า...ต่อหน้ากูไม่ยอมนะครับ! นี่เห็นเป็นเพื่อนเลยไม่คิดมากนะ...ตอนนี้ห้ามความคิดไม่ได้ล่ะ

ผมตักผัดคะน้าหมูกรอบมาใส่ที่จาน เขี่ยหมูออกเอาให้เหลือแต่ผักคะน้าแล้วก็เอาน้ำมันราดๆ ให้ชุ่ม ทุกคนไม่ได้สนใจการกระทำนี้...แต่เมื่อผมตักจัดคำให้พอดีขึ้นจ่อปากพี่มะเดี่ยว สายตาหลายคู่ก็หันมามองด้วยความสนใจ โดยเฉพาะพี่โซฮาน

“สาม ไอ้เดี่ยวมันไม่กินหมู” อะไรๆ พี่มะเดี่ยวยังไม่พูดสักคำเลยเหอะ

“ไม่มีหมูนะฮะ...มีแต่ผัก” ว่าแล้วก็ยิ้ม พี่มะเดี่ยวมองในช้อนผมดีๆ แกยิ้มบางก่อนจะอ้าปากกินคำที่ผมป้อน

“อูย...สงสารคนโสดบ้าง” ผมก็สงสารนะ แต่ผมหมั่นไส้คนตรงข้ามนิดหน่อย ฮ่าๆ

อย่าว่าผม...ผมเป็นคนใสๆ

“คิดไงมาป้อนเนี่ย” พี่เขาถามขณะที่ตักข้าวเข้าปากตัวเอง

“แค่คิดว่ามันอร่อยดี พี่ไม่กินมันเลยอะ ที่จริง…พี่ควรคิดกลับกันแบบนี้นะว่า หมูอะ ในเมื่อมันต้องตายแล้ว…เราก็ควรทำให้มันตายอย่างมีค่า เมินมันแบบนี้ มันก็ตายเปล่าดิ” ตรรกะบ้าไรเนี่ย ผมก็พูดไปงั้นแหละ...คือถ้าคนเราไม่กินมันก่อน มันก็ไม่ต้องมาตายเป็นอาการเราหรอกถูกไหมล่ะ แต่แบบ...ผมก็หาเรื่องพูดไปเรื่อยนั่นแหละ

“เหรอ...ไม่มีคนกินมัน มันก็ไม่ต้องตายหรอก แต่คิดแบบสามมันก็ไม่แย่หรอก ก็ทำให้เห็นค่าของสิ่งที่ได้มานะ” พี่มะเดี่ยวยกความรักขึ้นมาจ่อหน้าผม

“อะ...กราบมันซะ กินเพื่อนมันอะ ขอโทษมันเลย” เอ้า...นี่ไม่ใช่เพื่อนมันนะเว้ยพี่ มันคนละสายพันธุ์กันเหอะเนี่ย

“ครับ...กราบ” แต่กูก็กราบ เออ เอาเข้าไปชีวิต

ผมกับพี่มะเดี่ยวหัวเราะกับสิ่งที่เราเล่นกันไปเมื่อครู่ แล้วเมื่อป้อนคำแรก ผมก็เอากับข้าวอย่างอื่นเขี่ยหมูออกป้อนพี่มันอีก เขาก็กินนะ เห็นว่าไม่มีหมูก็กินได้ พอดีจำได้ว่าตอนนั้นที่กินข้าวกับพี่เขา แล้วผมสั่งกะเพราหมูสับไข่ดาวมา พี่เขาเขี่ยหมูมาให้ผมแต่ยังสามารถกินพวกผักแล้วก็ไข่ที่รวมมากับกะเพราได้ เลยเชื่อว่าพี่มะเดี่ยวต้องกินอย่างอื่นได้ด้วย

หลังจากอาหารมื้อใหญ่ที่วุ่นวายตอนจ่ายตังผ่านพ้นไป พี่โซฮานก็แยกย้ายไปคนแรกไม่พูดไม่จา พี่มะเดี่ยวก็ไม่ได้อะไรกับพี่เขานัก เราร่ำรากันนิดหน่อยกับพวกพี่ๆ ในทีมที่เหลือ มีนัดแนะการซ้อมวันต่อๆ ไปอีก ซึ่งพี่มะเดี่ยวก็บอกแหละว่าหลังจากนี้เขาจะงานยุ่งมาก ฝากให้พี่เรย์กับพี่แนคอยดูการซ้อมให้ดีๆ รับปากกันเสร็จสรรพก็ได้เวลาปั่นจักรยานกลับห้อง ผ่านความมืด...ผ่านถนนที่แทบร้างรารถยนต์ สายลมอ่อนๆ และอากาศเย็นๆ กับสองข้างทางที่มีแค่แสงไฟริบรี่...ถ้าผมกลับคนเดียว มันคงวังเวงมาก แต่เมื่อกลับกับพี่เขา...มันดูโรแมนติกขึ้นมายังไงบอกไม่ถูก...

....100%....

น้องสามเราเป็นคนใสๆ จริง...ไม่เชื่อเหรอ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ สาว801

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องสามทำดีมากลูกกกก :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด