>>ตอนที่ 46 [100%]<<
“แฮ่ก...” เราสบตากันผ่านความมืด ทั้งที่มึนเบลอไปหมดเพราะเมา...แต่ก็เห็นดวงตาหื่นกระหายของพี่เขาอย่างชัดเจน
ฝ่ามือหนาลูบไล้กรอบหน้าผมแผ่วเบา ตามด้วยริมฝีปากไล่จูบ ความนุ่มนิ่มและร้อนผ่าวของเขาปัดเป่าสติที่มีน้อยนิดให้ปลิวกระจายออกไปจากหัว ผมทำได้แค่นอนอยู่ใต้ร่าง รับสัมผัสวาบหวิวจากพี่มะเดี่ยว ไม่อาจต้านทานได้เพราะร่างกายเองก็มากไปด้วยความต้องการ
นิ้วโป้งหยุดที่ริมฝีปาก เกลี่ยไปมาเบาๆ ขณะที่เราสบตากันผ่านความมืดมิดของห้องนอน ความเย็นของแอร์ที่เพิ่งถูกเปิดโรยตัวลงมาช้าๆ เพื่อดับความร้อนของร่างกาย มันก็ดับได้แค่ด้านนอกนั่นแหละ ด้านในมันกลายเป็นไฟโหมกระพือไปแล้ว...
อะไรไม่รู้ทำให้ผมแลบลิ้นเลียนิ้วโป้งของพี่เขาเบาๆ แล้วมันก็หยอกเย้าผมก่อนที่ลิ้นของอีกคนจะแตะลงมา เรามอบจูบให้กันอีกครั้ง ความสากของมือไล้ลงไปด้านลำตัวเบาๆ แทบไม่รู้สึกถึงมันเลยจนกระทั่งจุดอ่อนไหวบนอกได้รับการกระตุ้น
“อื้อ...” มันเป็นไปเอง...ร่างกายมันขยับไปเอง ผมแอ่นอกเข้าหาสัมผัสนั้นพร้อมทั้งยังตอบสนองพี่เขาด้วยเรียวลิ้น
“พี่ขอนะ...” มันเป็นคำพูดเบาๆ ผมตีความไม่ค่อยได้ แต่ลึกๆ ผมรู้สึกว่า...ผมคงหนีวันนี้ไปไม่พ้น
พี่มะเดี่ยวละริมฝีปากออก เขาแนบมันกับแก้ม สันกรามและไล้ต่ำลงไปเรื่อยๆ ขนในกายผมลุกชันด้วยความหวิวที่โถมเข้ามา มันเสียววูบไปหมดแล้วก็เกร็งจนสั่น ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง...กลัวแต่ก็เต็มไปด้วยความอยากและต้องการ
“ฮะ...อื้อ....พี่มะเดี่ยว” จากสองมือตรึงอยู่ไหล่ ผมละแล้วจับที่หัวของพี่เขาแทน...ความสยิวจุดเล็กบนอกนั้นระรัวเกินไป ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้...ไม่เคยโดนทำให้รู้สึกมากแบบนี้
เสื้อยืดถูกจับถอดออกจากร่างกายพร้อมๆ กับกางเกงและชั้นใน มันอาย...แต่มันต้านทานอะไรไม่ได้ ผมทอดสายตาพล่าเบลอมองพี่มะเดี่ยวที่กำลังเปลือยกายไม่ต่างกัน หัวใจเต้นรุนแรง มันระรัวอยู่ในอก อึดอัดแต่ก็รู้สึกดี...
ร่างใหญ่ทาบทับลงมาที่ตัวของผมอีกครั้ง ผิวเรียบลื่นที่สัมผัสกันและกันเพิ่มความร้อนรุ่มได้อย่างมหาศาล พี่มะเดี่ยวป้อนจูบหวานๆ ให้พร้อมกับใช้มือตัวเองสำรวจร่างกายของผม มันไม่ใช่จูบที่ยาวนานนัก ครู่เดียวก็เลื่อนไปยังจุดอื่นๆ ในร่าง...
ผ้าปูกับศรีษะของพี่เขาเท่านั้นที่ผมพอจะยึดเอาไว้เป็นหลักให้ร่างกายตัวเองได้ ดวงตาพล่าพยายามจับจ้องการกระทำของพี่มะเดี่ยวทุกอย่าง ตั้งแต่เขาจูบซับที่แผ่นอก เล่นกับยอดอกเล็กทั้งสองก่อนจะลากลิ้นตัวเองลงไปจนเกือบถึงตรงนั้น ความหวิวชวนขนลุกขนชันทำให้ผมรีบหุบขาตัวเองเหมือนหนี แต่ไม่ได้ พี่เขากดต้นขาของผมเอาไว้แล้วหยอกล้อบริเวณรอบๆ...นั้น
“อื้อ...พี่” ไม่รู้แล้วว่าตอนนี้มีส่วนไหนในร่างกายไม่เกร็งอยู่บ้าง ผมปวดไปหมด…อยากถึงจุดหมาย ทว่าเมื่อเอื้อมมือไปจับของตัวเอง พี่มะเดี่ยวกลับปัดมือผมออก เขารวบมือทั้งสองของผมขึ้นตรึงเหนือหัว
“พี่แกล้งผม...” น้ำตาคลอหน่วง
“อืม พี่แกล้งเรา” แล้วลิ้นสีแดงสดนั้นก็ซอกซอนเข้ามาในปากของผมอีกครั้ง
“ฮะ...อื้มพี่...อื้มๆ” ถึงจะแกล้งแต่ก็เอ็นดู พี่มะเดี่ยวใช้มือตัวเองลูบไล้ไปตามความยาวก่อนจะกำมันและรูดรั้งเบาๆ
“ทำให้พี่บ้าง” เสียงกระซิบชิดริมฝีปากเหมือนมนต์สะกด ผมเอื้อมมือไปจับส่วนร้อนฉ่านั้นเอาไว้ในมือตัวเองแล้วก็ทำเหมือนที่เคยทำกับตัวเอง
ทว่ามือมันไม่ค่อยมีแรงเลย ยิ่งพี่มะเดี่ยวปรนเปรอสัมผัสแสนสยิวนั้นให้มากเท่าไหร่ ผมก็มีแต่จะแอ่นร่างเข้าหา...แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าสะโพกบางของผมนั้นตอบสนองพี่มะเดี่ยวได้น่าอายขนาดไหน ด้วยความเขินอาย...ผมใช้มือที่ยังว่างคล้องคอพี่มะเดี่ยวเอาไว้แล้วบดปากจูบไม่ยอมคลาย
ไม่อยากให้มอง...ไม่อยากให้เห็น ผมกลัวว่าตอนนี้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความต้องการของมันจะน่าเกลียด ผมกลัวพี่มะเดี่ยวไม่พอใจ กลัวพี่เขาไม่ประทับใจ และอะไรอีกหลายอย่าง...มันอาจมีความต้องการมากกว่าความกังวล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมก็กังวลอยู่ดี
ผมยิ่งกอดรัดร่างของพี่เขาแนบขึ้นไปอีกเมื่อผมรู้ว่าตัวเองกำลังจะไปถึงในอีกไม่ช้านี้ ทว่าริมฝีปากของผมกลับหยุดนิ่ง ตอบสนองพี่เขาต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ มันมีแต่จะถึง...จะไม่ไหวแล้วเต็มหัวไปหมด แล้วในที่สุดผมก็ปล่อยน้ำตัวเองใส่มือพี่เขา....
สมองอันว่างเปล่าแทบจะดับไปแล้วถ้าไม่ได้รู้สึกถึงนิ้วที่ลูบอยู่ช่องทางนั้น นี่เป็นอีกความกลัวของผม...แต่ผมไม่มีสิทธิ์ได้บอก พี่มะเดี่ยวสอดนิ้วเข้ามาในร่างของผมเสียก่อน
“อื้อ...มะไม่เอา”
“นะ...พี่ขอนะครับ” แล้วก็พูดไม่ออกอีก แววตาเว้าวอนกับความต้องการที่มันเอ่อล้นออกมาของเราทั้งคู่ ทำให้ผมจำยอม...
พี่มะเดี่ยวคลอเคลียริมฝีปากป้วนเปี้ยนอยู่ที่หน้าและตาของผมไม่ไปไหน เสียงหายใจถี่ๆ ของเขาปะปนกับของผมอย่างช่วยไม่ได้ ผมรู้สึกแปลกๆ...มันไม่ได้แย่แต่มันก็บรรยายไม่ถูก ได้แต่อดทน ปล่อยให้ทุกอย่างไหลไปเรื่อยๆ ตามทางที่ควรจะเป็น...
ผมใช้สมองให้น้อยที่สุด เพราะมันก็ใช้การไม่ค่อยได้มากนัก กลายเป็นร่างกายร้อนๆ และความรู้สึกล้วนๆ ที่ทำงานอย่างหนัก มันทั้งทรมานเหมือนจะจมลงไปในน้ำ...อึดอัด ทรมานแต่มันก็มีความสุข สัมผัสของวงแขนแข็งแรงโอบกอดรัดร่างของผมเอาไว้ไม่ยอมคลาย เหมือนจะทะนุถนอมผมเอาไว้ในขณะที่เขาเองก็กำลังชำแรกเข้ามาในร่างกายของผม
ปากคลอเคลียกันไม่ห่างเป็นเหมือนยาชั้นดีที่คลายทุกความกังวล มันค่อยๆ เจือจางลงแล้วก็ซึมซับแต่ความรู้สึกมีความสุขจากการได้กอดก่ายกันเอาไว้แบบนี้ เนื้อแนบเนื้อ...มอบความอุ่นร้อนให้กันและกัน ทำตัวเองให้เหมือนผ้าห่มหรือเครื่องทำความอุ่น...มันอาจจะร้อนไป เหงื่อกาฬถึงได้ซึมไหลตามมัดกล้ามเนื้อได้ขนาดนี้ แต่แปลก...มันเป็นความร้อนที่หอมหวานเหลือเกิน
อาจเป็นเหล้าก็ได้...ที่ทำให้เรามากันไกลขนาดนี้
ผมแทบไม่รู้สึกเลยว่าพี่มะเดี่ยวสอดเข้ามาในร่างผมเท่าไหร่...หรือทำยังไงกับส่วนนั้นของผมบ้าง สมาธิเพียงอย่างเดียวของผมตอนนี้ก็คือลิ้นของเราที่พัวพันกันไม่ยอมห่าง ตาสบตาแม้มันจะมืดแค่ไหนในห้อง....แล้วเรียวนิ้วของมือข้างหนึ่งที่กำลังสอดประสานกัน
ไม่มีคำหวาน...ไม่มีคำกล่อม มีแต่สัมผัส และความรู้สึกเท่านั้นที่อบอวลอยู่ในสมองและร่างกาย ผมรับรู้ได้ถึงความต้องการอันมากมายของตัวเองและพี่เขา รับรู้ถึงความอยากกระหายในร่างกายของกันและกันอย่างแจ่มชัด มันน่าอายเหลือเกิน...แต่ผมก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้ ผมต้องการพี่เขา
“ฮะ...อ๊า....” บางสิ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าและร้อนกว่าชำแรกเข้ามาในตัวของผมช้าๆ สร้างความเจ็บปวดและตึงเครียดให้กับผม...แต่พี่มะเดี่ยวก็ช่วยดึงสติให้กลับมาอยู่ที่ริมฝีปากของเขา
จูบที่ถูกป้อนให้ไม่ขาด ไม่ได้ทำให้ผมรับรู้ถึงตัวตนของเขาน้อยลงแต่อย่างใด กลับกัน...ผมสามารถรับรู้ถึงมันได้ดี เข้ามาถึงไหนและตัวเองเจ็บปวดแค่ไหน ทว่าพี่มะเดี่ยวประคับประครองผมผ่านจุดนั้นมาได้อย่างดีแม้ไม่ต้องพูดอะไรเลยก็ตาม
เรากอดกันและกัน...โอบวงแขนไปที่ตัวแล้วรัดมันเอาไว้เหมือนเชือกหนาๆ เส้นหนึ่ง มันเป็นเชือกที่ไม่ได้สร้างความร้าวราน แต่มันสร้างความอบอุ่นใจให้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดและรู้สึกดีอาบไหล พี่มะเดี่ยวผละริมฝีปากเพื่อเลียมันจนกระทั่งจุมพิตเข้าที่เปลือกตาบางทั้งสองข้างของผม รับรู้ได้ถึงความเอ็นดูและรักใคร่...รับรู้ได้ถึงความหวงแหนและต้องการไปพร้อมๆ กัน
มันเริ่มเคลื่อนไหว...เชื่องช้าเหมือนตอนที่มันเข้ามา เมื่อมันออกแล้วย้ำหนักในร่างกายอีกครั้ง ผมกลับรับรู้ได้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่ไม่ใช่แค่เจ็บปวด...มันเป็นความวาบหวิวเอ่อท้นร่างกายจนผมเองตอบสนองกลับไปอย่างไม่อาจทานได้
ไม่เร่งเร้าแต่หนักหน่วง พี่มะเดี่ยวสอดประสานเข้ามาหนักแน่นและมั่นคงเสมอ น้ำตาเหือดหาย กลายเป็นลมหายใจเข้าออกถี่รัว ริมฝีปากที่จากไปเมื่อครู่ย้อนกลับมาหาผมอีกครั้ง เราจูบกัน...ในขณะที่ร่างกายหลอมรวมเป็นของกันและกัน
“อ๊า...อื้ออ๊ะ...อ๊า...” เสียงครางผะแผ่วหลุดออกเพราะไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น ผมพยายามสบตากับพี่เขา มองดูใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนานั้น
“อื้ม...พี่รักเรานะครับ...รัก...อ่า...เรานะ” มันเริ่มรุนแรงขึ้น...เหมือนจังหวะเพลงที่กำลังเข้าท่อนฮุกไปทุกที...
“ครับ...ผมรักอึ้ก...พี่” แล้วผมก็ตอบกลับ พี่มะเดี่ยวดึงร่างของผมขึ้นนั่งทั้งที่เรายังคงขยับไหว
สองมือของสองเราสอดประสานไปตามเส้นผมของกันและกัน มันมั่วซั่วและเละเทะในความรู้สึกผม ทว่ามันกลับเพิ่มความต้องการที่มีมาก...เหมือนมันเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งว่าเรารู้สึกอย่างไร ผ่านการสัมผัส ผ่านการเสียดสีและโอบรัด
ในที่สุดผมก็ขึ้นมาอยู่บนตักของพี่เขา ร่างไหวขึ้นลงถี่ๆ ผมกอดคอหนาเอาไว้พลางซบหน้าลงที่ศรีษะอีกฝ่าย พี่มะเดี่ยวทั้งกัด...ทั้งจูบบริเวณคอของผมและบางครั้งเขาจะบดขยี้ยอดอกด้วยเรียวลิ้นที่เกร็งแข็ง
เขากำลังบีบบี้ขยี้อารมณ์และความต้องการในตัวผมให้แหลกสลาย ฝ่ามือสากกอบกุมความเป็นชายผมเอาไว้ในจังหวะที่มันระรัวขึ้น ผมหอบฮัก หายใจแทบไม่ทันเพราะทุกอย่างกระชั้นเหลือเกิน มันเป็นความอึดอัดที่รู้สึกดี...แล้วผมก็ต้องการให้มันรุนแรงขึ้น มากขึ้นไปอีก...เพื่อจะได้ไปถึงจุดที่ตัวเองแตกพล่าน
พี่มะเดี่ยวกอดร่างของผมแน่นขึ้น กล้ามเนื้อทุกส่วนที่เสียดสีกันนั้นเกร็งไปหมดผมรับรู้ได้...เหมือนกับที่ผมเองก็กำลังเป็นอยู่ บางอย่างที่รู้สึกดีภายในโดนกระตุ้นย้ำๆ ซ้ำๆ พร้อมกับภายนอก ผมไม่ไหวแล้ว...ผมรู้สึกอ่อนแรงที่จะทนทานมันอีกต่อไป
“ฮึ้ก...พี่...ผม...อ๊า...อ๊ะ...ไม่ไหว...แฮ่ก...ผมจะไป...อื้ม” พี่มะเดี่ยวรั้งหัวผมให้ก้มลง เขาเอาลิ้นตัวเองสอดเข้ามาทันทีพร้อมกับความรุนแรงที่ถาโถม
ผมปล่อยร่างกาย...ปล่อยทุกอย่างให้ไหลไปกับคลื่นของอารมณ์ ในที่สุดความร้อนรุ่มในกายก็แตกพล่านเหมือนกับมีอะไรระเบิดอยู่ในตัว มันเป็นจังหวะเดียวกับที่เรากอดกันแน่นมากๆ...ร่างกายเราสั่นระริกทั้งคู่ ลมหายใจอันหอบหนักค่อยๆ ผ่อนลง...ทีละน้อย...ทีละน้อย
ร่างผมถูกประครองให้นอนลงบนที่นอนนุ่ม พี่มะเดี่ยวไม่ได้จากไปไหน ยังคงกอดผมเอาไว้และคลอเคลียปากด้วยปาก รับรู้ถึงความเหนอะหนะ...มันเหนียวตัวไปหมดแล้วก็น่ารำคาญมาก ทว่าผมไม่อาจลุกไหว...ดวงตาหนักอึ้ง แต่ยังเห็นใบหน้าและแววตาของพี่มะเดี่ยวอย่างชัดเจน
“เป็นของพี่แล้วนะ” เสียงทุ้มเอ่ยบอก...
“พี่ก็เป็นของผม...” และผมก็ตอบกลับ
แอลกอฮอล์ในร่างอาจยังไม่หมดไป เพียงจูบหวานๆ กลับทำให้ความต้องการตื่นขึ้นได้อีกครั้ง ผมเพลีย พี่เขาก็เพลีย แต่เรากลับไม่ห้ามความอยากที่เริ่มเกาะกินสมองและความคิด พี่มะเดี่ยวลูบไล้ส่วนนั้นของผมอีกครั้ง จับมันบีบนวดไปพร้อมกับสะโพกที่สาวเข้าออกเบาๆ เพียงเท่านั้นสติของผมก็เตลิดเปิดเปิงไปอีกครั้งแล้ว
“ต่อนะ...”
“อื้อ” ความนุ่มนวลอ่อนหวานในคราแรกเจือจางไป ตอนนี้มันถูกแทนที่ด้วยความร้อนแรงที่แผดเผา
พี่มะเดี่ยวจับยึดสะโพกของผมเอาไว้ ดวงตาแพรวพราวนั้นจับจ้องมาที่ผม...ผมที่นอนดิ้นพล่าน จิกผ้าปูที่นอนด้วยอารมณ์ล้นทะลัก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันรู้สึกดีเหลือเกิน ความเสียวซ่านที่โถมใส่นั้นรุนแรงและเกรี้ยวกราด
เสียงเฉอะแฉะของน้ำ...และเสียงครวญครางของผมปะปนกันไปกับแอร์ที่เย็นฉ่ำ ทุกส่วนในร่างกายมีความสุข...ไม่เว้นแม้กระทั่งจิตใจของผมเอง ยิ่งได้มองดูใบหน้าของพี่มะเดี่ยว ยิ่งได้ยินเสียงพ่นลมหายใจกระหายหื่นนั้น ผมก็ยิ่งรู้สึกมีความสุข...รู้สึกได้รับความรักที่มากล้นจากเขา
มันก็คงเป็นแค่อารมณ์หนึ่ง...แต่ผมชอบอารมณ์เหล่านี้
ครั้งนี้ทั้งที่ถนอมแต่กลับเร่งเร้าเอาแต่ใจไปพร้อมกัน ผมแทบดิ้นพล่าน...แทบขาดอากาศหายใจตายเพราะความสุขที่ได้รับมา ผมชอบที่ไม่ว่าครั้งไหนที่ผมเอื้อมมือไปหาเขา ผมจะได้รับร่างกายกำยำเข้าอ้อมกอด พี่มะเดี่ยวกอด หอมและจูบปากผมย้ำๆ อยู่อย่างนั้นทุกครั้งที่ผมต้องการ
เสียวซ่านจนเหนื่อย...
ครางจนเสียงแหบ...
เกร็งทั้งร่างจนอ่อนแรง...
แต่เคยไหม...ที่เหนื่อยแค่ไหนก็หยุดมันไม่ได้เลย
“ฮึ้ก…พี่ครับ…อ๊ะ…อ๊า…” จำไม่ได้ว่าผมไปครั้งที่เท่าไหร่...แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ผมไม่อาจลืมตาไหว พี่มะเดี่ยวเร่งตัวเองอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ทิ้งตัวลงมากอดผมเอาไว้แนบแน่น...
“พี่รักเรา…”
“ครับ…ผมรักพี่” พยายามปรือมองเขา เราสบตากันพร้อมจูบนุ่มนวลเบาๆ
มือสากไล้แก้มผมเบาๆ จูบหน้าผากผมอีกทีแล้วถึงได้ย้ายร่างมานอนเคียงข้าง พี่มะเดี่ยวจับผมนอนหนุนแขนของเขาเอาไว้แล้วโอบกอด ผมกอดตอบ...เหนื่อยอ่อนจนคิดอะไรไม่ออก
“นอนซะ…พี่ไม่ทำแล้ว” ผมพยายามเงยหน้ามองเขา
“แหงสิ พี่ทำผมจนอ่วมแล้ว” ถึงเหนื่อยแต่ก็ยังไม่วายบ่นเขานิดหน่อยเบาๆ
“หึหึ...นี่แค่เบาะๆ เองนะน้องสาม”
“ผมไม่อยากคิดว่าถ้าไม่เบาะมันจะเป็นยังไง” ผมค่อยๆ หลับตาลง
“อยากลองไหมล่ะ...” พี่เขากลับกระซิบที่ใบหู ผมขนลุก..หดคอหนี
“ไม่เอาครับพี่...”
“ว้า เสียดายจัง ฝันดีนะครับ…” สัมผัสนุ่มแตะลงที่หน้าผากผมแผ่วเบา
“ฝันดีครับ” ผมฝืนเงยหน้าจูบปากเขาบ้าง รับรู้ถึงรอยยิ้ม แต่ไม่อาจมองมันได้ไหว เพราะตอนนี้ผม…ง่วงจังครับ
….100%….
จงบอกความรู้สึกของคุณ…?
เอร้อยยยยยเขินอะ!