❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 20 : ห้าม...เลิกนะ ขอร้องงง p.12 [14-03-20]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 20 : ห้าม...เลิกนะ ขอร้องงง p.12 [14-03-20]  (อ่าน 57669 ครั้ง)

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
คิดถึงคนเขียน
ดีใจมาต่อแล้วว

อยากเผือกคู่ฟั่น(เฟือน?)สิงห์ด้วยค่ะ
 :hao7:

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เขาไปทำอะไรหัวคุณชายยยยยย บทนี้แบบ'ก็เพราะรักเธอทั้งหัวใจ อะไรก็ยอมเธอ'จริงๆค่ะ ขอเกลียดจังหวะสามช่าของเพื่อนผองของเขามากกกกก555555 เจอเพื่อนแบบนี้นะจะหยิกให้เนื้อเขียวเลยจริงๆ

ออฟไลน์ marshall

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณชายดูแลดีดี้ ตามเฝ้าน้องตลอดแบบนี้ สักวันจะกลายเป็นสายย่อด้วยหรือป่าว
ปล. อยากแหวกกอไผ่ดูคู่ฟั่นสิงห์จริงๆ

ออฟไลน์ armize

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอช้าทำไมล่ะเขา รีบไปอาบน้ำสิ  ได้นอนกับคุณชายเชียวนะ  :impress2:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
คุณชายมีความหวงเขามากกกก อิเขาก็ซื้อซื่อเนาะ ฮ่าๆๆ นี่ไม่รู้ทำไมฉากที่อิเขาบอกหายใจไม่ออกตอยอยู่บนรถนี่แอบคิดว่าน่าจะโดนคุณชายลักหลับซะแล้วละ

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ขนาดนี้แล้วเขายังคงไม่รู้  :hao7:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
คำเตือน ตอนนี้มีโมเม้นต์พ่อลูกผูกพัน รักกันอยู่ขอบฟ้าเขาเขียว


ระเบียบที่ 13 : ห้ามอะไรก็ห้ามได้...เเต่จะห้ามความชอบไม่ได้หรอก



“ไปไหนมา”



“ไปแดกเหล้ามาแน่ๆ ค่ะ”



“มือถือมีทำไมไม่รู้จักโทรบอก”



“อีโง่”



“เห็นกูเป็นหัวหลักหัวตอรึไง”



“อีเนรคุณ”



“ยังอีก”



“เออยังไม่คิดอีก มันใช่มั้ยคะเฮียทิว”



“มึงอะยังไม่หยุดอีก แจ็ค เดี๋ยวกูถีบเปรี้ยงซักทีดีมั้ย!”



ทันทีที่ไอ้เขาเดินย่างเท้าเข้าบ้านมา ประโยคคำถามก็ดังมาไม่หยุดจากบุคคลที่นั่งเปลือยท่อนบนอยู่ที่โซฟา และก็ไม่ทันได้อ้าปากตอบก็มีบุคคลที่สามสาระแนตอบแทนทุกอย่าง ก็คนนั้นน่ะ... อีแจ็คนั่งพื้นด้านล่างมือสองข้างกอดขาพ่อกูเหมือนทาสในเรือนเบี้ย



“ใจร้าย จะทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆ ได้ลงหรอคะเฮียทิว” มันออเซาะพร้อมกับพูดเสียงเล็กเสียงน้อย ใช้หนังหน้าสากๆ ออดอ้อนพ่อผม ส่วนลูกภูเขาก็ยืนนิ่งกอดกระเป๋ากีตาร์เป็นบ้าหอบฟางอยู่ตรงนี้



“มึงตัวใหญ่กว่าลูกกูอีกแจ็ค” เฮียปรายตามองอีแจ็คเล็กน้อยก่อนจะพาดแขนสองข้างไว้กับโซฟา อย่ามองลูกแบบนั้น กลัวแล้ว และผมมันคนแมนๆ ทำผิดแล้วต้องยืดอก ไอ้เขาหันไปสบตาเฮียทิวช้าๆ แล้วก็...



“เฮียติววววววววววว”



ใช่...กูแหกปากก่อนเลย แถมด้วยถลาไปเกาะขาพ่ออีกข้าง โดยมีสายตาค้อนจากอีแจ็คมาเป็นส่วนประกอบฉากนี้



“ไม่ต้องมาแอ๊บแบ๊ว ตอบคำถามกูมาซะดีๆ”



“ฮืออ อย่าทำน้องงง” พ่อดันหัวผมออกอย่างแรงจนผมเอนหัวเหมือนตุ๊กตาล้มลุก แต่ไอ้เขาไม่ยอมแพ้ เด้งหัวกลับมาซบไปใหม่



“ทำไมมึงมาเอาป่านนี้ รู้มั้ยว่ากูต้องไปเปิดร้านสายเพราะรอด่ามึงเนี่ย”



“ก็คือ...เขาหลับ...เพลินไปหน่อย” อ้อมแอ้มตอบ ไม่อยากจะบอกว่านอนกับคุณชายสบายมากเว่อร์ คริ



“มีบ้านไม่ค่อยจะอยู่ติดบ้านซักวัน” เฮียทิวพูดเสียงแข็ง ประหนึ่งว่าผมเป็นลูกสาวที่พึ่งมีประจำเดือน



“อีเขามันไปแรดที่หมู่บ้านข้างๆ นี้ค่ะเฮีย”



ขวับ!



“มึงรู้ได้ไง”



“เมื่อวานกูเจอพี่เสก...แกเม้าธ์มึงใหญ่เลยจ้า ว่าภูเขา ลูกเฮียทิวติดใครไม่รู้ที่หมู่บ้านนั้น ไปขลุกอยู่ด้วยกันทุกเย็น ตอนเช้าก็มารับมาส่ง มึงมาเมื่อกี้เขาก็มาส่งด้วยใช่ป้ะล่ะ”



“มั่ว!”



“วันเสาร์เฮียทิวไม่ไปเปิดร้านหรอ วันเสาร์งี้คนเยอะนะ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะพ่อเริ่มมองด้วยสายตาแห่งความสงสัยแล้ว



“ทำไมจะไม่ไป ขาดทุนตั้งเท่าไหร่เพราะเปิดร้านช้าเนี่ย” เฮียทิวเคาะกะโหลกหนาๆ ของผมสองสามที แล้วก้มหน้ามาจ้องตาตรงๆ “ตกลงจะตอแหลได้ยังว่าไปไหนมา”



นี่บ้านกูหรือศาลไคฟงวะเนี่ย ท่านเปาเปิดศาลแล้ว



ว่าแต่



ตอแหลได้จริงๆ อ่อ



อ่า...มองแรงขนาดนี้



ไม่ได้สินะ



“ก็เมื่อวาน เขาไปซ้อมวงไง ไม่เชื่อถามไอ้หมูกับเฮียดุกได้เลย ซ้อมเสร็จก็ดึก เลยก๊งเหล้าต่อ พอเมาก็กลับไม่ไหว ดึกแล้วด้วยเลยนอนบ้านรุ่นพี่ที่เป็นนักร้องอะ เขาผิดอะไรรรร เขาอยากกินเหล้าบ้าง”



“มึงผิดที่ไม่โทรบอกกู” อุ้บส์ จริงๆ ด้วย เขาขอโทษที่เวลาอยู่กับคุณชายแล้วเขาไม่ได้คิดถึงพ่อเลย(แรด)



“เขาไม่ได้จับโทรศัพท์เลย พึ่งรู้เมื่อกี้ว่าแบตหมดง่า พ่อจ๋า”



“กูไม่ได้ชื่อจ๋า”



“ลูกน้อยอ้อนอยู่นะ” ผมซบหน้ากับตักพ่อ พูดอู้อี้แก้ตัว แต่ว่ามีหนึ่งคนที่เรียกร้องความสนใจเนื่องจากไม่มีบท



“มาอ้อนแม่ด้วยสิจ๊ะลูก”



“แม่ต๋า...เฮ้ย อีแจ็ค! เฮียทิว เขาไม่เอามันเป็นแม่ แม่เขาต้องไม่มีหนวดกับขนหน้าอก” ผมเด้งตัวออกมาแล้วฟ้องพ่อทันที



“อีเหี้ย กูแว็กซ์แล้ว” ว่าแล้วมันก็ก้มหน้ามองอกตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มแหะๆ “เออเหลือนิดหน่อยว่ะ แว็กซ์ยี่ห้อนี้แม่งไม่ดีเลย บ้าบอ”



“เครื่องประหารหัวสุนัขขขขขขข” จู่ๆ เฮียทิวก็โพล่งขึ้นพร้อมกับโยนหมอนทิ้งลงบนพื้นดังตุ้บ ผมกับอีแจ็คแทบสะดุ้งแต่เก็บอาการได้ทัน



“ประหารใครคะเฮีย” อีแจ็ครีบถามทันที มือมึงน่ะลูบหน้าท้องพ่อกูอยู่ได้! ผมเม้มปากแล้วสบตาพ่อที่กำลังกวาดสายตามองมาทางผมกับอีแจ็ค



“ประหารพวกมึงทั้งคู่!”



“อูเวววววววว อูเวววววววว” เอ่อ เสียงแม่งออกมาจากปากเองนะ มันเป็นจิตใต้สำนึกล้วนๆ



“กูปวดขมับโว้ย ลูกก็เป็นบ้า! คนข้างบ้านก็เป็นตุ๊ด!” พูดจบเฮียทิวก็ลุกขึ้น เป็นผลให้ผมกับแจ็คที่กำลังกอดขาเฮียทิวล้มกลิ้งกันไปคนละทาง



“ชีวิตและโดนทำร้ายยยยยยยยยยยยย”



“เฮียทิวบ้าบอออออออออออออ”

 





“เล่ามาดิ๊”



“เล่าไร”



“อย่ามาเฉไฉ กูรู้ กูเห็นว่าคุณชายไปด้วย”



“รู้ได้ไง”



“เห็นในเฟซบุ๊ค เพจสวรรค์รำไรอัพเดต”



“เพจที่มีคนกดไลค์เพราะจะแจกทุเรียนทอดอะนะ”



“เออเพจนั้นแหละ พี่ป้อนแอดมินอัพเดตว่าไปแดกเหล้า แล้วก็อัพรูปมึงกับคุณชายด้วย”



“หือออออออ” ผมตาโต ปกติไม่เล่นโซชงโซเชียลอะไรนี่อยู่แล้ว ขี้เกียจ แต่รู้เรื่องบ้างเพราะมีคนคาบข่าวมาอัพเดตตลอด



“ตามึงนี่น่าบีบ ตอบมา! ถ้าไม่ตอบกูจะเอาสไปร์ทมึงไปเผา...”



“...อย่าทำน้องไปร์ท” ไอ้เขากอดขวดน้องไปร์ททันที ไม่ได้นะ ใต้ฝามีรหัสจะเอาไปชิงโชค อีแจ็คเอาไม้ตียุงมาชี้หน้าผมก่อนที่จะเริ่มสอบสวนเสียงเข้ม



“มึงไปนอนกับคุณชายใช่มั้ย”



“อะ..อือ”



“นอนกับคุณชายเป็นยังไงบ้าง”



“ก็ฟินดี เฮ้ย”



“นี่มึงปล้ำคุณชายหรออีเขา! ทำไมเค้าต้องมาแปดเปื้อนเพราะคนควายๆ อย่างมึงด้วย คุณชายคะ แจ็คขอโทษที่ปกป้องคุณชายไม่ได้ ฮืออออออออ”



“แจ็คๆ มึงเรียนเอกมโนจริงๆ ใช่มั้ย”



“ฮือออออ”



“มึงจะไม่ฟังดีๆ ช้ะ กูไม่เล่าแล้วนะ”



“อึก หายละ พร้อมฟัง”



แหมะ อีแจ็คคคค เรื่องเผือกนี่ไม่เข้าใครออกใครจริงจริ๊งงงง ผมเหล่ตามองพร้อมกับคว่ำปากเป็นรูปตัวเอ็ม มันเป็นยังไงวะ เออช่างมัน



“เรื่องมันมีอยู่ว่า...” ผมลากเสียง พร้อมกับลากความทรงจำ 15 เมกะไบต์สู่สังเวียนเมื่อคืน

 





“พี่ ผมไม่มีชุดดดด” ผมพูดพร้อมกับแง้มประตูออกมาด้วย หลังจากวิ่งเข้าห้องน้ำเพราะคุณชายทำหน้าดุใส่ พอถอดเสื้อผ้าล่อนจ้อนแล้วก็พบว่า ตรูไม่มีอะไรนอกจากไข่ใบเล็กๆ



“ค่อยออกมาแต่งตัวด้านนอก”



เชี่ยยย เย็นวาบเลยอะ



“ดะ...ด้านนอกหรอพี่” พอเห็นผมตะกุกตะกักชะงักเป็นแผ่นซีดีสะดุด คุณชายที่นั่งหลับตาอยู่ตรงโต๊ะทำงานก็ลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาที่ประตูห้องน้ำอย่างรวดเร็ว



“เฮ้ยๆๆ พี่ ผมโป๊อยู่” ผมผงะ มือไม้สั่น รีบดันประตูปิดแต่ไม่ทันคุณชายที่จับลูกบิดเช่นเดียวกัน ลูกตาผมโผล่ตรงช่องประตูเพียงข้างเดียว เอ่อ...เอาเป็นว่าตอนนี้พวกเรากำลังเล่นดันประตูอยู่ ใครปล่อยก่อนแพ้ หนึ่ง สอง ซั่ม!



“ก็มัวแต่พูดมาก”



“ผมแค่ถามเอง”



“หรือที่ยื้อเวลานี่อยากให้ช่วยอาบหรอ” คุณชายถามหน้าตายพร้อมกับเอียงคอเล็กน้อย



ปัง!



พูดแค่นั้นไอ้เขามีแรงปิดประตูทันที ผมวิ่งเข้าไปใต้ฝักบัวพร้อมกับส่งเสียงให้คนโรคจิตด้านนอก



“ก็ออกไปแต่งตัวข้างนอกมันไม่ชินอะ!”

 





หลังจากอาบเสร็จ ผมก็ออกมายืนเก้ๆ กังๆ ที่หน้าตู้เสื้อผ้าด้วยสภาพเกือบล่อนจ้อนเพราะมีผ้าเช็ดตัวพันเอวผืนเดียวเอง หนาววว แล้วคุณชายที่มุดตัวหาเสื้อผ้าอยู่ก็โผล่มา



“อะ ตัวนี้คงพอดี”



ผมงึมงำขอบคุณแล้วรีบคว้ามาปิดหัวนมทันที และนั่นทำให้คนตรงหน้าส่งเสียงหัวเราะอย่างเอือมระอา



“อายอะไร...”



“อย่าพูดว่ามีเหมือนกันนะ”



“ไม่ได้จะพูดแบบนั้นซะหน่อย”



“แล้วพี่จะพูดว่าอะไร”



“เล็กเหมือนหน้าอกเด็กไม่เห็นต้องอายเลย”



“พี่!”



“ฮ่าๆ”



อารมณ์ดีไรนักหนาวะจะตีหนึ่งแล้วเนี่ย คุณชายส่ายหน้าขำๆ ที่เห็นผมทำหน้าบูดกอดชุดนอนไม่ปล่อย



“มอมแมมงอน”



ไม่ต้องมายีหัว!

 





ผมนั่งรอที่ปลายเตียง แหนะ รออะไร อย่าคิดลึก ตาเริ่มจะปิดแล้วแต่ต้องรอคุณชายก่อน จะมานอนก่อนเจ้าของบ้านได้ไงครับประเทศไทย ไม่ด้ายยย แล้วขากางเกงนี่ก็ยาวประหนึ่งหางว่าว



“พี่...” พอได้ยินเสียงเปิดประตู ผมก็เงยหน้าไปหาทันที ทำไมเหมือนหมารอเจ้าของก็ไม่ปาน



เห....เดี๋ยวนะ



ทำไมชุดนอนมันเหมือนกันงี้อะ



“พี่มีแต่ลายนี้หรอ” ชุดนอนที่เราใส่อยู่ตอนนี้เป็นชุดนอนลายสก๊อตแขนยาว ขายาว สีน้ำเงินเข้มเหมือนกันด้วย



“อืม” คุณชายตอบแค่นั้นแล้วก็เดินไปที่เก้าอี้โต๊ะทำงาน



“พี่ให้ผมนอนตรงไหน” ถึงปากจะว่าแบบนั้นแต่ตัวนี่เอนไปด้านหลังเต็มแก่แล้วครับ



“มอมแมม” เสียงทุ้มดังขึ้น ง่วงจะลืมตาไม่ขึ้นแล้ว



“หือ”



“มาเอาผ้าเช็ดตัวไปตาก”  ผมแค่พาดไว้กับเก้าอี้เอง



“ขอฝากไว้ตรงนั้นไม่ได้หรอพี่ตาณ ผมง่วงแล้วอ่า”



“ไม่ได้ ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้ก็จะไม่ทำตลอดไป”



คุณชายเจ้าระเบียบเข้าสิงตอนตีหนึ่ง ผมเงยหน้ามองคุณชายที่ไม่ท่าทีล้อเล่นก่อนจะจำใจลุกขึ้นมา “ก็ได้คร้าบ ตากตรงไหนอะ”



“ตรงนั้น...ดีมาก” คุณชายหัวเราะที่ผมเดินหรี่ตาไปที่แขวนผ้าเช็ดตัวมุมห้อง คนมันง่วงงงงงง



“นอนได้เด็กน้อย”



“เย้” เย้แต่เสียงเอื่อยเฉื่อยมาก ผมคลานเข่าขึ้นเตียง ไม่รอแล้ว จะนอนตรงนี้แหละ! คุณชายปิดไฟกลางห้องก่อนจะเปิดโคมไฟหัวเตียงให้มีแสงสว่างเล็กน้อย



“สุกรนอนดีๆ สิ นายจะไม่เหลือที่ให้เจ้าของเตียงรึไง”



ผมรู้สึกว่าขาทั้งสองข้างถูกยกไปไว้อีกฝั่ง คุณชายบ่นอะไรอีกสองสามคำแล้วก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ ผมได้กลิ่นหอมๆ จากอะไรซักอย่างลอยมา ตอนนั้นผมเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น ในหัวผมเห็นภาพเป็นอาหารอีสานในวันนี้ที่ผมไม่ได้กิน ทำได้แต่ดมเท่านั้น



“...หิว” เสียงน้ำย่อยลอยประกอบคำพูด



“หือ...”                                                                                                                                       



“ท้อง...ร้อง หอม”



ผมเดินตามกลิ่นหอมๆ ไป แล้วก็พบว่าอาหารมันอยู่ตรงหน้านี้เอง



“ละเมอรึไง โอ๊ย กัดทำไมเนี่ย”



หร่อย...



“อื้อ!”



ทำไมอาหารมันกัดผมคืน



มันเป็นปีศาจอาหารแน่ๆ เอาล่ะ ผมจะต่อสู้กับมัน



โดยใช้ท่าไม้ตายรัดอาหารไว้แน่นๆ



ฮึบ แกขยับไม่ได้แน่!

 





“ตาณ แม่ขอน้ำใบเตยเพิ่มหน่อยนะลูก... เอ้า ภูเขา ตื่นแล้วหรอจ๊ะ”



“แหะๆ สวัสดีครับคุณน้า ผมขอโทษที่รบกวนดึกๆ นะครับ”



“ไม่หรอกจ้ะ แต่ว่าเราสองคนน่ะ อย่าไปพากันไปเถลไถลอีกนะ บ้านเราอยู่ไกล เกิดอะไรขึ้นมันจะแย่เอา”



“ขอโทษครับ” ผมก้มหน้าสำนึกผิด แต่คุณน้าก็หัวเราะน้อยๆ ก่อนจะเดินมาลูบหัว



“ที่ดุเนี่ยเพราะน้าเป็นห่วง...ทั้งคู่เลย มาจ๊ะ ทานข้าวต้มกัน พี่เค้าทำน่ะ”



ผมยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมกับตอบรับเบาๆ แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ผมเหลือบมองคุณชายเล็กน้อย ทำไมพี่ตาณถึงไม่มีอาการง่วงงุนแถมยังลงมาทำอาหารเช้าอีก แงง รู้สึกผิดไปถึงขั้วหัวใจ



ว่าแต่พี่ต้องเป็นคนเหล็ก 2017 แน่ๆ เลย



นมแจ่มเป็นคนยกถาดอาหารมาเสิร์ฟ พอนมวางถ้วยข้าวต้มตรงหน้าผมแล้วนมก็ลูบหัวผมแรงๆ สองสามที ผมกำลังจะหันไปหานมเพราะอยากหาคนงอแงใส่ แต่คุณนมก็พูดขึ้นมาก่อน



“นี่นอนหรือออกรบหื้อเจ้าภูเขา ผมก็ยุ่ง ปากก็ดูบวมๆ”



“เอ๊ะ...ปากบวมหรอครับ”



หรือผมแพ้เหล้า ผมตาโต ยกมือลูบปากตัวเองอัตโนมัติ



แกร๊ง! คุณชายกระแอมเพราะตัวเองเกือบทำช้อนหลุดมือ



“พี่เมื่อคืน...”



“ทานข้าว”



คุณชายตัดบทก่อนที่ผมจะถาม ผมเลยต้องตักข้าวต้มขึ้นทานตามคุณน้าและคุณชาย ทานข้าวไม่ควรพูดมากผมรู้ แต่ว่าทำไมปากผมถึงบวม...อุ๊!...เหมือนมีคนมาจุดพลุบนหัว ข้าวต้ม...อร่อยมากเว่อร์ จนแทบจะอุทานว่า



รสมือพ่อออ

 





พอทานข้าวเสร็จผมก็อาสาล้างจานชามให้ แม้ว่าคุณน้าจะห้ามก็เถอะ แต่ผมอยากช่วยอะไรบ้าง บางทีก็ลืมไปว่าคุณชายจ้างผมมาทำงานที่บ้านหรือว่าให้ผมมาเป็นแขกกันแน่ คุณชายกับคุณน้าไปนั่งคุยกันตามประสาแม่ลูกที่โซฟา ทางด้านผมที่ล้างจานกร๊องแกร๊งก็ส่งจานชามให้กับนมแจ่มที่คอยรับไปเช็ดอยู่เงียบๆ



และเพราะมันเงียบเกินไปผมเลยชวนคุย



“นมครับ คุณชาย เอ๊ย พี่ตาณนี่เค้ามีชุดอื่นนอกจากเสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็คมั้ยครับ”



คุณนมเหลือบมองคุณชายก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ “คุณดาท่านสอนว่าถ้าออกจากห้องต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย ใส่ชุดนอนหรือชุดไม่สุภาพเด็ดขาด”



“ทำไมล่ะครับ”



“เวลาแขกเหรื่อมาเราจะได้พร้อมอยู่ตลอดเวลา”



คุณพระ แล้วบ๊อกเซอร์และเสื้อกล้ามที่ผมใส่อยู่บ้านดูอุบาทว์ไปเลย ถ้าแขกมาก็หาหมอนมาปิดเป็นพอ เรื่องนี้ต้องโทษเฮียทิวที่ทำเป็นตัวอย่าง ผมไม่ผิดนะครับ



“เราน่ะหัดเอาอย่างคุณตาณไว้บ้าง ยังหนุ่มยังแน่น สาวที่ไหนจะมาชอบคนสกปรกซกมก”



ไอ้เขาเหลือบมองตัวเองทันที ผมเป็นผู้นำทางด้านสไตล์สกปรกหรอครับเนี่ย นี่หรือ...คือสภาพของคนสกปรกในสายตานมแจ่ม อยากจะวาร์ปกลับไปดูตอนที่ยังรุงรังกว่านี้ ถึงว่าคุณชายทนไม่ได้จนต้องพาผมไปตัดขน เอ๊ย ตัดผม



“นี่ก็ดีมากแล้วนะครับนม แต่ถ้าจะให้ผมใส่เสื้อเชิ้ตคอจีนแบบคุณชายอะไม่ไหวหรอก ทิ่มคอตายเลย”



นมแจ่มหันไปมองทางห้องนั่งเล่นก่อนจะทำหน้าสงสัย แล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ “เอ...ปกติคุณตาณก็ไม่ใส่เสื้อคอจีนวันหยุดหรอก สงสัยอายมั้ง เมื่อเช้าคุณดาท่านทักว่ามีรอยแดงๆ ที่คอ คุณเค้าก็รีบขึ้นไปเปลี่ยนใหญ่เลย”

 



ผมนั่งคุยกับคุณน้าไม่นานก็สมควรแก่เวลาที่มารบกวนแล้ว อันที่จริงพึ่งควานหาโทรศัพท์ให้กระเป๋าเลยเห็นว่าแบตหมด ความกลัวเลยแล่นริ้วเข้ามาหวิวๆ เฮียทิวเวลาโกรธเนี่ยใช่เล่นนะครับ



“เอ่อพี่...เดี๋ยวผมต้องกลับบ้านก่อนนะครับ ลืมบอกที่บ้านว่าจะมาค้างข้างนอก ไม่รู้เฮียทิวจะรอด่าอยู่รึเปล่า”



“ไม่ต้อง เดี๋ยวไปส่ง” คุณชายตอบกลับมาทันควัน ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังนั่งจ้องทีวีไม่สนใจผมอยู่แท้ๆ



“ไม่เป็นไรครับพี่ นั่งวินไปแค่นี้เอง”



“อย่าขัดใจ”



“โอเคครับคุณชาย”



“...” เอ้าก็โอเคแล้ว ไหงมองกันตาขวางงั้นอะ



“ไม่มีคุณชายที่นี่” ได้ยินเสียงคุณน้าหัวเราะคิก ผมเลยเก็ตทันที



“โอเคครับพี่ตาณ”



“สองคนนี้น้า ว่าแต่เฮียทิวนี่พี่ชายภูเขาหรอลูก” คุณน้าถามขึ้น



“เปล่าครับ พ่อผมเอง”



“อ๋อจ้ะ ชื่อทิวหรอ...”



“ใช่ครับ ผมเรียกเฮียทิวตามเด็กแถวๆ บ้านจนติดเลย”



“เอ..ทิว...” คุณน้าทำท่าคิดและเป็นเวลาเดียวกันกับที่ผมเอ่ยลาพอดี



“คุณน้าครับ ผมไปก่อนนะครับ ขอโทษนะครับที่มารบกวนแล้วก็ขอบคุณมากๆ เลยครับที่เมตตาภูเขาตัวน้อยๆ อย่างผม”



“ขี้อ้อนนักนะเรา” คุณน้าหัวเราะพร้อมกับยื่นมือมาลูบท้ายทอยผมด้วย



“เค้าเรียกคะแนนสงสารมากกว่าครับ”



“เปล่านะ...”



“ฮะๆ อะพี่ตาณไปส่งน้องเขาหน่อยลูก เดี๋ยวพ่อจะเป็นห่วง” คุณน้าหัวเราะก่อนจะลุกขึ้นยืนมาส่งผม ก่อนจะเดินออกจากห้องนั่งเล่นคุณน้าก็พูดขึ้นมาเหมือนนึกได้ ท่านเลยเรียกคุณชายไว้



“ตาณ ส่งภูเขาแล้วก็รีบกลับนะ แม่ลืมบอกว่าบ่ายนี้เรนนี่จะแวะมาหาตาณน่ะ”



“ได้ครับแม่”



วินาทีนั้นผมหันไปสบตาคุณชายที่มองมาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไรแต่ในใจผมปั่นป่วนชอบกล

 





“ฮ้าว!”



“เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละ”



“เรื่องอะไรมึง”



“เอ้า ก็เล่าให้ฟังจบแล้วเนี่ย”



“เล่าเหี้ยไร กูให้มึงเล่ามึงก็นิ่งไปตั้งนานสองนาน กูแดกสไปร์ทรอมึงเล่าจนแทบหลับแล้วเนี่ย”



“อ้าว คือทั้งหมดเมื่อกี้กูไม่ได้เล่าหรอวะ” ไอ้เขาเกาหัวแกรกๆ สรุปแล้วผมคิดแค่ในใจหรอครับเนี่ย



“มึงเป็นบ้าอะไร เออไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า”



“มึงไม่ต้องมาทำเสียงสะบัด คิดว่าน่ารักตายล่ะ” ผมเหลือบมองอีแจ็คที่นอกจากเสียงสะบัดแล้ว มันยังสะบัดหน้าหนีอีก ตอนนี้เฮียทิวออกไปร้านเรียบร้อยแล้ว ทิ้งผมไว้กับเพื่อนสาวข้างบ้านที่จงรักภักดีต่อคำสั่งเฮียทิว เพราะก่อนออกจากบ้านเฮียสั่งให้มันเฝ้าผมไว้



ผมใช้นิ้วสะกิดติ่งหูมันสองสามที อีแจ็คเลยหลุดหัวเราะ



“มันก็ไม่มีไร เมื่อคืนมันดึกแล้วคุณชายเลยให้กูไปค้างด้วย นอนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรมโนมะนาวอย่างที่มึงคิดหรอก”



“เออเชื่อก็ได้ แต่เพราะเป็นมึงกูถึงยอมให้เข้าใกล้คุณชายนะ” กูขอมองบน มึงเป็นอะไรกับเค้าครับเพื่อนฝูง มันหยิบถั่วเข้าปากก่อนจะพูดต่อ “ถ้าเป็นพี่เรนนี่เรนเน่า กูกับแก๊งพิทักษ์หัวใจคุณชายจะไม่อยู่เฉยๆ แน่ๆ”



ผมชะงักเมื่อได้ยินชื่อบุคคลที่สี่ออกจากปากอีแจ็ค ซึ่งชื่อนั้นเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ผมปั่นป่วนหัวใจ



 “มึง...มึงรู้จักพี่เรนนี่ด้วยหรอวะ”



“โอ๊ยยยย ยิ่งกว่ารู้อีก”



“หมายความว่าวะที่จะพิทักษ์หัวใจอะไรนั่น”



“ไม่ให้พิทักษ์หัวใจคุณชายได้ไงวะ ก็ยัยเรนนี่อะไรเนี่ยเป็นแฟนคนแรกของคุณชาย จะว่ารักแรกก็ได้ คบกันตั้งแต่เรียนม.ปลายพึ่งเลิกกันเมื่อตอนปีสองนี่เอง ได้ข่าวว่าพี่แกทิ้งคุณชาย คุณชายนี่โคตรเศร้า แถมโทรมไปตั้งเยอะ”



“จริงหรอวะ”



ผมตอบออกไปคล้ายคนละเมอ แต่ในหัวมีแต่คำว่ารักแรกกับคำว่าเศร้า แต่ว่า...ไม่เห็นเกี่ยวกับผมเลยนี่ รักแรกมาหากันขนาดนั้น ถ้าไม่อยากรีเทิร์นจะไปมาหาสู่กันหรอ ไม่เห็นเกี่ยวกับผมเลย!



โอ๊ย ทำไมเจ็บกระดองใจ ต้องรีบหายจากอาการนี้อย่างเร่งด่วน



“เรื่องชาวบ้านนี่ รู้ลึกรู้จริงนะมึงอะ” ผมเสมองแก้วน้ำ ทำทีไม่สนใจเรื่องที่อีแจ็คเล่า



“เอ้าก็กูเต้า ทีวีพูน”



“ถุย!”



“อี๋ แจ็ครับไม่ได้ ว่าแต่ทำไมมึงดูจะอยากรู้เรื่องพี่เรนเน่าอะไรนี่จังวะ”



“เอ่อ...ก็ป้าวววววววว”



“เสียงสูงเชียะ”



“เปล่าจริงๆ อะ”



“อีเขา กูเป็นเพื่อนมึงมั้ย”



“เดี๋ยวๆ กูไม่มีตังค์ให้ยืมนะบอกก่อน”



“มึงเห็นกูใช้เงินฟุ่มเฟือยเหมือนมึงหรอ” เอ๊ะ นี่เราถูกด่ารึเปล่านะ... อีแจ็คบ่นพึมพำแล้วก็กลอกตา เบะปาก



“อ๊องๆ เอ๋อๆ จริงๆ มึงฟัง...กูถามมึงจริงๆ นะ” มันใช้มือที่ไร้ความนุ่มจับแก้มผมไว้ทั้งสองข้าง บังคับให้ผมสบตากันมัน แววตาจริงจังนั้นทำให้ผมนิ่งไป



“...มึงชอบคุณชายใช่มั้ย”



“เฮ้ย เฮ้ยยย กูอะนะ บ้าบอออออออออออ”



ผลัวะ!



“นั่นมันคำกู”



“อ๋อ...โทษๆ เฮ้ย แต่กูไม่..ไม่ คุณชาย คือ...”



“ใจเย็นๆ กูอนุญาตให้มึงไปตัดลิ้นก่อน”



“กูไม่ได้ชอบเว้ย” ผมพูดเสียงดังแล้วคว้าแก้วสไปร์ทมาดื่มอึกๆ เพื่อหลบสายตากรุ้มกริ่มของอีแจ็ค



“อาการออกขนาดนี้ปิดแจ็คกี้ไม่ได้หรอกค่ะอีเขา กิ้วๆๆๆ”



“อย่ามายุ่งกับหน้ากู!”



ถ้าผมยังยิ่งนั่งอยู่ตรงนั้น เพื่อนข้างบ้านมันจะต้องส่งเสียงล้อเลียนไม่หยุดแน่ ทางที่ดี...เดินหนีแม่มมม



“อีเขามึงอะชอบคุณชายโว้ยยยย”

 





แจ็คมันพูดได้ยังไงวะว่าผมชอบพี่ตาณ ผมเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว ผมนอนกอดหมอนฟังเพลงพี่โตที่เปิดเสียงดังๆ ให้กลบความคิดฟุ้งซ่านของตัวเอง ประโยคทิ้งท้ายของอีแจ็คลอยวนอยู่ในสมองน้อยๆ ของผม เท่านั้นยังไม่พอมองไปทางไหนก็มีแต่หน้าคุณชายเต็มไปหมด แถมบนหน้าผากคุณชายยังมีตัวอักษรสามตัวแปะอยู่บนนั้น



ช อ บ



นี่ผมชอบคุณชายจริงๆ หรอวะเนี่ย



ตลอดทั้งบ่าย ผมพยายามจะหาคำตอบให้กับตัวเอง แต่ก็ทำไม่ได้ในเมื่อนั่งนิ่งๆ ยังมีเสียงคุณชายลอยมาหลอกหลอนและแทรกแซงทุกความคิด ทำลายสมาธิของผมไปซะหมด และในขณะที่นอนเหม่อมองเพดานอยู่นั้นก็มีเสียงทุ้มต่ำของมนุษย์พ่อดังขึ้นด้านหลัง



“เป็นอะไร”



“เฮ้ย ผีหลอก!”



“น้อยๆ หน่อยกูพ่อมึงนะ”



“ก็มาไม่ได้ซุ่มให้เสียงอะเฮียทิว แล้วทำไมวันนี้กลับเร็วจังยังไม่สี่ทุ่มเลย” ผมลูบอกตัวเอง มาหลอนๆ แบบนี้ได้ไงกัน เฮียทิวไม่ตอบผม แต่กลับเดินเข้าไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็นแทน



“ทำไม มึงจะไปไหน” ทำไมต้องหรี่ตามองลูกแบบน้าน พ่องใจรั้ยส์



“ไม่ได้ไปไหน เขาก็ถามเฉยๆ ป้ะ”



“เออ” พ่อตอบพร้อมกับดื่มน้ำกับขวดดังอึกๆ “แล้วมึงเป็นอะไร มานอนกลิ้งกับพื้นเนี่ย อยากถูบ้าน?”



“ไม่ใช่ซะหน่อย” ผมเหลือบมองพ่อที่นั่งลงบนโซฟาเล็กน้อย ในหัวเหมือนมีคนมาดีดนิ้วดังเปาะ ผมดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมกับเรียกพ่อลั่นบ้าน



“พ่อ!”



“อะไร”



“เขามีเรื่องจะปรึกษาอะ” พ่อเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะช่วยผมได้ในขณะนี้ พ่อเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เพราะถ้าเป็นไอ้เขาเวอร์ชั่นไม่ปกติแบบนี้ จะไม่เรียกพ่อว่าเฮียทิวเด็ดขาด



“เดี๋ยวนะ นี่มึงไปทำใครท้องรึเปล่า” พ่อยืดหลังตรง ผมจึงได้แต่เบะปาก



“พ่อ เขาไม่ใช่พ่อนะ”



“เดี๋ยวมึงจะโดน”



“ล้อเล่นง่า รักนะ” ผมซบแก้มไปที่เข่าพ่อ พ่อผู้เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตของผม เฮียทิวคงสัมผัสได้ถึงความจริงจังเพราะสายตาที่มองผมนั้นแฝงด้วยความเป็นห่วง



“พ่อ...เคยชอบใครซักคนป้ะ”



“แค่กๆ”



“เฮ้ย สำลักเลยหรอพ่อ”



“แค่กๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยถามเรื่องอะไรแบบนี้ คิดไงมาถาม หรือว่าที่แจ็คพูดเป็นเรื่องจริง”



“คือ...คือว่า เขาอยากรู้อะ ว่าชอบมันเป็นยังไงหรอ เขาสับสนอะ...เขาไม่รู้เลยมาถามพ่อ ชอบมันคืออะไร มันเหมือนชอบพี่โตมั้ยอะพ่อ”



“สั้นๆ มึงอยากได้พี่โตเป็นผัวหรอ”



“พ่อ!”



“ร้องนี่อยากหรือไม่อยาก”



“อยากก็บ้าแล้ว! พี่โตเป็นเทพที่เขาเคารพบูชา คิดแบบนั้นฟ้าผ่าตายเลย”



 “หึหึ เขาเอ๊ยย มึงโตแล้วหรอ” พ่อยีหัวผมแรงๆ จนเจ็บไปหมด



“โตแล้วสิ”



“มึงโตแล้วนะเนี่ย ไม่งั้นคงไม่คุยเรื่องแบบนี้กับกู” พ่อยิ้มพลางตบหน้าผากผมสองสามที



“เขายังไม่เข้าใจเลย พ่ออธิบายให้ฟังหน่อย”



“ความรู้สึกมึงยังจะให้กูพูดหรอ ตัวมึงเองนะ” ก็เป็นเพราะตัวผมไง เลยอยากได้คำยืนยัน ว่าตกลงแล้วมันใช่รึเปล่า



“...”



“สำหรับกูนะชอบก็คือชอบ เอ้างงอีกลูกกู เอางี้ เวลามึงเล่นกีตาร์ มึงรู้สึกยังไง”



“ก็...รู้สึกสนุก มีความสุขตอนได้เล่น พอได้ยินเสียงกีตาร์ ใจจะทะลุเลยอะพ่อ”



“ชอบก็เป็นแบบนั้นแหละ”



ชอบก็เป็นแบบนั้นหรอ...



“ก็แบบที่ว่ามึงอยากคุย อยากอยู่ใกล้ ใจเต้นแรง อะไรเทือกๆ นั้น นี่กูต้องมาสอนลูกสาวหรอวะเนี่ย ลองคิดดูดีๆ ว่ามึงรู้สึกแบบนี้กับใครรึเปล่า”



อยากคุย อยากอยู่ใกล้ ใจ...เต้นแรงหรอ เต้นเหมือนเสียงแมลงที่ผมได้ยินบ่อยๆ เวลาอยู่ใกล้ๆ คุณชายใช่มั้ย ไอ้ความรู้สึกแบบที่ผมไม่เคยจะรู้สึกกับคนไหนเลยนั่นใช่มั้ย



“พ่อ แล้วถ้าใช่...ถ้ามันเป็นแบบนั้นแล้วเขาจะทำยังไง”



“ไม่เห็นยาก”



“...”



“ถ้าชอบใครก็ให้พูดตรงๆ”



“...”



“เชื่อพ่อ”



ถ้าชอบใครให้พูดตรงๆ หรอ




------------
เออ เชื่อเฮียทิวนะเขานะ
มาลุ้นกันว่าเจ้าเขามันจะป๊อดหรือไม่ป๊อด
คิดถึงทุกคนเสมอ ขอบคุณที่ยังรอเราถึงเเม้เราจะมาช้ามากก็ตาม
สุดท้าย ยังเหมือนเดิมคืออยากให้เรื่องนี้ทำให้ทุกคนยิ้มได้บ้าง
เราก็จะยิ้มเหมือนกังง
อย่าลืมติดเเท็กให้น้องเขากันนะคะ #คุณชาย2017
         

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ขอหวีดทีละประเด็นๆไป
ประเด็นแรกคือ หนอยยยยยยยยย นังเขาแกได้ละเมอจูบคอคุณชายใช่มั้ย
และสองคือคุณชายดูดปากนังเขาคืนใช่มั้ยยยยยยยยย
สาม ยัยเรนนี่เรนเน่า จะมาหาคุณชายด้วยเหตุผลอันใด

ประเด็นสุดท้ายก็คือ เขา.. แกหลงรักคุณชายแล้วแหละ เอาใจช่วยนะ
ตอนหน้าบอกรักคุณชายไปเล้ยยยย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
แม่คุณชายกะเฮียทิวรู้จักกันแน่ๆเลย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เขาเชื่อพ่อ เขาไปบอกพี่ตาณได้เลย พ่อทิวหนับหนุนซะขนาดนี้   :m3:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เขาเอ้ยยยยละเมอจนไม่รู้สินะว่าโดนคุณชายลักหลับไปถึงไหนก็ไหนละ แล้วเรนนี่นี่คือยังไงคะคุณชาย เคลียร์ด่วน!!!

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ดูดคอคุณชาย เจอคุณชายดูดปาก วินๆเนอะ  :hao7:
ไม่เชื่อเฮียทิวแล้วจะเชื่อใคร จริงไหม ทำตามที่เฮียบอกล่ะถูกแล้วว 555

ออฟไลน์ marshall

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ปากบวม ? มีรอยที่คอ ?
คุณชายกรุณาแถลงด่วนค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
โอ้ยยคู่พ่อลูกมุ้งมิ้ง วิ้งๆ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
 คือเฮียทิวมีซัมติงอะไรกับแม่พี่ตาณรึเปล่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ absolutepoison

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เขา ไม่ใช่ว่าตอนหน้าแกจะพูดกับคุณชายว่า "ตรงๆ" หรอก ใช่ไหม 55555

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เขาหนูไปกัดคอคุณชายเค้าก่อนนะลูก หนูเลยโดนคุณชายเอาคืนด้วยการกัดปาก ปากถึงได้บวมขนาดนี้  :impress2: กรี๊ดดดดดดดดดด อิจสุดๆเลยลูก

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Jintajam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กลัวจะมามุกแบบ เดินไปหาคุณชายแล้วพูด "ตรงๆ " อย่าเชียวนะ !

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
น้องเขาโดนจูบจนปากบวมแน่ๆ ฮาตอนคิดว่าตัวเองเล่าหมดแต่ที่จริงแค่กำลังคิด ตลกกก
เพื่อนก็รอจนปากหวอ เรนนี่เสี้ยนหนามว่ะ น้องเขาจะนิ่งๆ ไม่ได้นะคะ แม่คุณชายแม่นมก็เอ็นดูน้องเขาไปหมด คนมันน่ารัก
ชอบเขาคุยกับพ่อ หนิดหนมน่ารักมาก

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
เขาไปทำไรมาลูก ปากบวมเลย

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ขอคุณชาย1ที่...มาเสิร์ฟด่วนๆๆๆ 555

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
บอกไปเลย .. ยิ่งกว่าช้อนหล่น ..

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เอ้ย หนุกง่ะะะะะะ ชอบบบ มาต่อด่วน5555

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
ระเบียบที่ 14 : ห้ามยืนอยู่คนเดียว



                เช้าวันนี้—ผมคว้ากระเป๋ากีตาร์ขึ้นมาสะพายที่ไหล่ขวาพลางส่งสายตามุ่งมั่นไปที่ประตูรั้ว ยามเมื่อได้ยินเสียงนุ่มนวลของรถเต่าที่ผมนั่งมาตลอดหลายอาทิตย์ดังแว่วๆ อยู่หน้าบ้าน



                ผม...ภูเขา ลูกน้อยของเฮียทิว มีความพร้อมอย่างเต็มเปี่ยมกับภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่จะต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งขณะนี้ก็ถึงเวลาอันสมควรแล้ว (เช้าวันจันทร์ 6 โมง 50 นาที) ผมขอกล่าวอย่างเป็นทางการว่า...



                “ปฏิบัติการณ์ชอบใครให้พูดตรงๆ ได้เริ่มขึ้นแล้ว ณ บัด...เน้!”



                ผลัวะ!



                “โอ๊ย”     



                เจอปีศาจชอบโชว์หน้าอกขัดขวางการทำภารกิจหนึ่งอัตรา!



                “มึงจะเต๊ะท่าอีกนานมั้ย เปิดประตูค้างไว้เนี่ยลมมันเข้า”



                “เฮียทิวอ๊ะ! เขาเจ็บนะ”



                “ตอแหล”



                ผมลูบหัวป้อยๆ เกือบจะหน้าทิ่มลงไปกับพื้นแล้วถ้าคนที่ลงมือไม่เอื้อมมือมาคว้ากระเป๋ากีตาร์ไว้ซะก่อน ไม่งั้นนะ...พื้นบ้านยุบแน่ๆ ถุ้ย! หน้าทิ่มไม่ใช่เรื่องตลกนะเฟร้ย ผมหันไปมองเฮียทิวตาขวางแล้วก็พบว่าเฮียทิวยืนเกาพุงอย่างสบายใจ ตบหัวแล้วลูบหลังของจริง พ่อตู



                “ทำไม มองมามีปัญหาไร”



                “เปล๊า ใครจะมีปัญหากับเฮียทิวล่ะครับ แล้วนี่แปลกจัง ปกติตื่นสายโด่ง วันนี้มาส่งลูกเขาไปโรงเรียนหย๋อ”



                “ใครบีบลิ้นมึงไว้”



                “อะแฮ่ม”



                “กูแค่อยากมาเห็นหน้าลูกเข...ไอ้คนที่มึงชอบเนี่ย จะหล่อซักแค่ไหนเชียวทำให้ลูกกูเพ้อพกนอนมองเพดานอยู่ได้”



                “หล่อ?...เฮียทิว!”



                “กูพูดอะไรผิด คนที่มึงชอบไม่ได้เป็นผู้ชายหรอ” เฮียทิวเท้าเอวมอง ตอนนี้เราสองพ่อลูกคุยกันอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน ถัดออกไปตรงประตูรั้ว มีรถของคุณชายที่ติดเครื่องรอผมอยู่ตรงนั้น แต่เอ๊ะ..



                “นะ...นี่ เฮีย ...เฮีย...รู้”



                “กูไม่ได้โง่เหมือนมึง” ว่าแล้วก็จิ้มหัวลูกไปอีกที ที่มันโง่ก็เพราะพ่อรักส์มอไซค์มากกว่าลูกไง ซื้ออาหารบำรุงมอไซค์แต่ไม่ซื้ออาหารสมองให้ลูกบ้างเลย เดี๋ยวนะกลับมาปากสั่นเรื่องเดิม



                “คือว่า เฮียทิว..ผู้ชาย ชอบ ว่า เขา แล้ว...”



                “เอออออ ไม่ได้จะว่าอะไรหรอก”



                “ตะ...แต่...ว่า...ไม่...ว่า...เขา...หระ...หรอ”



                “ปากสั่นทำพระแสงอะไร กูจะบอกมึงไว้ตรงนี้ มึงจะชอบใคร จะรักใครก็เรื่องของมึง กูไม่ใช่คนขี้เสือกอยู่แล้ว”



                กึก!



                เพราะคำพูดเดียวของเฮียทิวทำให้ผมปลดล็อก ไอ้เขาชะงัก มองพ่อตัวเองนิ่ง



                “ฮือออออ น้ำตาจะไหล พ่อไม่ขี้เสือก เอ๊ย พ่อไม่ว่าเขา พ่อเข้าใจเขา ฮือ ฮือ”



                “ไม่ต้องร้องปลอมๆ ได้มะ”



                “เขาขอบคุณพ่อนะครับ”



                “เออ! ไม่ต้องมากอด!”



                “ก็เขาซึ้งนี่” ผมแนบเเก้มลงกับอกพ่อ ซึ่งพ่อก็พยายามดันหน้าผมออกอยู่ทุกวินาที



                “แต่จะว่าไปกูชักสงสารไอ้คนนั้นของมึงแล้วว่ะ”



                “งือ ทำไมอะพ่อ”



                “ก็มีเด็กเพี้ยนมาบอกชอบเนี่ย ตอนบอกก็ระวัง อย่าให้เค้ากัดลิ้นตัวเองตายนะ”



                “พ่ออออออออออออ นี่ลูกนะ”



                “เออ ไปได้ละไป”



                ผมไม่ทันยกมือไว้ เฮียทิวก็ใช้ฝ่าเท้าเขี่ยก้นผมให้เดินลงบันไดหน้าบ้านพร้อมกับโบกมือไล่ ผมน้ำตารื้น โลกนี้ไม่มีใครดีเท่าพ่อผมอีกแล้ว ไอ้เขาดราม่า ผมหันกลับไปมองพ่อก็เห็นตาลุงคนนั้นจ้องไปที่รถคุณชาย...เอ่อด้วยสภาพกางเกงตัวเดียว เฮียทิวเป็นห่วงลูกใช่มั้ย ไม่ต้องห่วงนะเขาจะทำให้เต็มที่ ถ้าผิดหวัง...เขารู้ว่าพ่อเป็นยังอยู่เป็นเพื่อนเขา เหมือนที่เราอยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิต



                เขารักพ่อนะ



                ผมบอกรักพ่อในใจ แต่เพราะความรู้สึกอันล้นทะลัก ผมจึงต้องวิ่งกลับไปหาพ่อพร้อมกับคว้าคอพ่อมาจูบแก้มหนึ่งที



                “พ่อเป็นกำลังใจให้เขาด้วยนะ จุ๊บ!”



                เฮียทิวเบิกตากว้าง ยืนตัวแข็ง คงจะดีใจที่ลูกแสดงความรักล่ะสิ



                “ไอ้เขา เดี๋ยวกูยันไปนู่น!”



                โธ่ พ่ออยากแสดงความรักกลับก็ไม่บอก หน้าแข้งกระตุกมาจูบตูดผมซะแรงเลยง่ะ เจ็บ,,,

 



                ผมขึ้นมาบนรถด้วยสีหน้าเบิกบานเพราะได้กำลังใจจากพ่อแบบสุดๆ พอนั่งปุ๊บก็ยกมือสวัสดีคุณชายทันที แต่คนที่รอในรถเกือบสิบนาทีไม่พูดอะไรทำให้ในรถเงียบกริบ และเพราะแบบนั้นผมจึงค่อยๆ หันไปมองต้นเหตุแห่งความเงียบอย่างช้าๆ



                ชะอุ้ย



                มีรังสีแห่งความหงุดหงิดแผ่ซ่านไปทั่วรถ หรือว่าผมเล่นกับพ่อนานเกินไป พี่ชายตาณเลยรอ ผมนั่งตัวเกร็ง กลอกตาไปทางขวาเพื่อมองคุณชาย นั่งเกร็งไม่นานคุณชายก็ออกรถ อันที่จริงแล้วก็เหมือนเดิมทุกวันที่คุณชายจะต้องมารับ แต่ความรู้สึกของผมวันนี้คือคุณชายขับรถไม่เหมือนเดิมเลย มันฉวัดเฉวียนเวียนเกล้าชอบกล



                “เอ่อ พี่...ครับ”



                “เล่นกับพ่อแบบนั้นตลอดเลยหรอ นายน่ะ” คุณชายถามขึ้นแต่สายตามองตรงไปที่ถนน และเป็นผมเองที่เอียงหน้ามองอย่างงงๆ



                “เล่นกับพ่อ? อ๋อที่เขาจูบเเก้มพ่อน่ะหรอ เขาแกล้งพ่อ..เอ๊ยไม่ใช่ ผมก็แกล้งพ่อแบบนั้นแหละ” ผมยิ้ม วันนี้เป็นวันดีๆ มองอะไรก็เป็นสีชมพูไปหมด เอ๊ะ เดี๋ยวนะ สีม่วงมาจากไหน สงสัยตาพร่า



                “จริงๆ นะพี่” ผมย้ำพลางยกมือมาขยี้ตา



                “อืม รู้แล้ว อย่าขยี้ตา” คุณชายพยักหน้ารับก่อนยื่นมือมาจับมือผมไว้ แล้วต่างคนก็ต่างชะงัก นอกจากจะชะงักแล้วใจผมก็เต้นแรงโดยที่ทราบสาเหตุ ก็เป็นเพราะมือคุณชายที่กำรอบมือผมนี่ไง



                คุณชายกระแอมก่อนจะปล่อยมือผม แล้วในรถก็กลับมาเงียบอีกครั้ง



                “โตเป็นกระบือแล้วอย่าไปกระโดดแกล้งพ่อแบบนั้นอีก เดี๋ยวพ่อนายล้มหัวฟาดทำยังไง” จู่ๆ พี่ตาณก็พูดขึ้น แต่ไม่รู้ทำไมสายตาพี่ตาณถึงเอาแต่มองปากผมนะ แต่ช่างเถอะ เฮียทิวครับ เขาชอบคนไม่ผิดจริงๆ อะ คุณชายเป็นห่วงพ่อด้วยนะ



                ใจกระดอนไปหมดแล้ววว



                ผมยกมือกุมอก รู้สึกถึงความชื้นที่มือทั้งสองข้าง หัวใจเต้นตึกตัก แบบว่าตื่นเต้นจนกลัวว่าคุณชายจะได้ยินเสียงหัวใจเข้า

     

                แต่ว่าเวลานี้แหละ!...เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะบอกความรู้สึกตัวเองในตอนที่ความชอบมันวิ่งพลุ่งพล่านอยู่ในหัวใจแบบนี้



                “พี่ตาณ...” ผมวางมือตัวเองลงบนมือคุณชายที่ตอนนี้กำลังจับเกียร์รถอยู่ คุณชายไม่มีท่าทีตกใจแต่กลับส่งเสียงในลำคอเป็นเชิงตอบรับ



                พี่ครับ...



                “...”



                “พี่ตาณ”



                “อืม...”



                “ผม....” ไอ้เขาช้อนสายตามองคุณชายด้วยความรู้สึกที่มี วินาทีนั้น...ผมพูดเสียงดังพร้อมกับหลับตาปี๋



                “ผม...ตรงๆ พี่ครับ!!!”



                พระเจ้าช่วยกล้วยทอด



                ผมพูดออกไปแล้ว!



                แต่ว่ามัน...



                กริบ



                เงียบกริบจนได้ยินแต่เสียงแอร์หึ่งๆ...



                มันเป็นภาพสโลว์โมชั่นที่มนุษย์ผีบ้าอย่างผมอยากจะเก็บความทรงจำดีๆ ในบรรยากาศบนรถเต่าสุดคลาสสิคนี้ เสี้ยววินาทีที่ค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น ผมเห็นพี่ตาณเบิกตากว้างก่อนที่ริมฝีปากสุขภาพดีจะเอ่ยอะไรบางอย่างออกมา…



                “ตรงอะไรล่ะ เลี้ยวข้างหน้าก็ขึ้นทางด่วนแล้ว”



                ไม่ว่าเปล่าคุณชายตาณสะบัดมือผมออกก่อนจะเลื่อนมือที่จับเกียร์ไปหมุนพวงมาลัยแทน ขอย้ำอีกครั้งว่ามันเป็นภาพสโลว์โมชั่น ผมเห็นรถเต่าสีสวยเลี้ยวขวาขึ้นทางด่วน ไอ้เขามองมือตัวเองที่โดนสะบัดทิ้งอย่างนิ่งอึ้ง ตาเบิกค้างประหนึ่งเจอเรื่องราวสุดช็อก...



                ผม...ภูเขา...และมือข้างนี้โดนทิ้งอย่างไร้เยื่อใย



                ทุกคนครับ



                ผม...อกหักบนทางด่วน



                รบกวนจส.100 ช่วยแจ้งประชาชนให้ด้วยนะครับ

 



                “เป็นอะไรเรา” ทันทีที่จอดรถที่หน้าคณะ คุณชายก็เห็นความผิดปกติของผมเข้า พี่แกขมวดคิ้วฉับ แต่น้ำเสียงกลับอ่อนโยนตรงกันข้ามกับสีหน้า



                ฮือ อย่ามาอ่อนโยนกับนุ้งได้มั้ย นุ้งอกหักอยู่



                “ไม่อยากไปเรียนหรอ”



                “...” กูเบะปากเลย อกหักยังหาว่าไม่อยากเรียนหนังสือ



                “เอาน่า โตแล้วอย่าร้อง”



                “ไม่ได้ร้อง!” เพราะคุณชายขำในลำคอ ผมถึงเงยหน้าเถียง แต่จ้องได้ไม่นานก็ต้องก้มหน้าลงใหม่ ก็...เวลายิ้มแล้วพี่เค้าหล่อจัง



                “ไม่ร้องก็ไม่ร้อง จอมงอแง” พี่ตาณยื่นมือมาลูบหัวแรงๆ ผมที่ทนไม่ไหวอีกแล้วจึงเอ่ยขอบคุณเบาๆ ก่อนจะรีบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมมายืนข้างรถฝั่งประตูคนขับเพื่อจะข้ามถนนพร้อมกับกีตาร์สุดที่รัก ผมเม้มปาก หันกลับมามองไปที่พี่ตาณนิ่งไม่ไปไหน คุณชายท่านก็ยังนั่งอยู่ในรถมองผมไม่ไปไหนเช่นกันเพิ่มเติมคือเปิดกระจกให้เห็นหน้ากันชัดๆ



                “พี่...”



                “หืม?...”



                “ผมตรงๆ พี่ ถ้าพี่ไม่ตรงๆ ผม ก็อย่ามาลูบหัวให้ใจผมบางเป็นหมูสไลด์ชาบูเลย”



               



                “พวกมึง กูอกหัก”



                แกร๊ง!



                กร๊อง!



                ท่ามกลางกลิ่นน้ำซุปในร้านชาบูข้างมอ เพื่อนรักที่นั่งฝั่งตรงข้ามผมทั้งสองคนปล่อยตะเกียบและช้อนในมือลงกับถ้วยกระเบื้องจนเกิดเสียงดัง และพวกมันเบิกตากว้างก่อนที่จะ...



                “เฮียดุก บอกมาซิ กูกำลังฝันอยู่ใช่มั้ย”



                “หมูน้องรัก เฮียคงจะตอบมึงว่า แน่นอน เราทั้งคู่อยู่ในความฝันที่พิสดารที่สุดในเมืองนี้”



                “เราจะติดอยู่ในความฝันนี้อีกนานมั้ยเฮีย กูกลัวว่าไอ้เขาจะโดนผีเข้าตลอดไป”



                “หมู กูกับมึงจะร่วมมือกันฝ่าฟันฝันร้ายนี้ไปให้ได้”



                “เฮียดุก...”



                “ไอ้หมู”



                “เฮียดุก”



                “ไอ้ห.......”



                ผลัวะ! ผลัวะ!



                “พวกมึงเป็นผักกาดอะไรเนี่ย!”



                ผมลุกขึ้นยืนตบหัวเพื่อนรักทั้งสองด้วยแรงไม่เบามากนักก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งเหมือนคนหมดแรง



                “กูอกหัก”



                “เชี่ยยยย เรื่องจริงหรอวะ”



                “ถึงว่าไอ้เขาขี้งก ชวนพวกเรามาแดกชาบู”



                “เออ อยากเมาสันในให้ตายไปเลย”



                เฮียดุกกับไอ้หมูสบตากัน ก่อนที่มันจะทำการสอบสวนผม “มึงอกหัก แสดงว่ามึงไปชอบใครเค้าล่ะสิ”



                “กูเจ็บ...” ว่าแล้วก็คีบหมูมาเคี้ยวอย่างรวดเร็ว แล้วก็...



                พรึ่บ!



                “ไอ้สัดเขา! มึงนั่งลง มึงจะยืนทำห่าไรคนมองเต็มร้านแล้ว”



                “...ยืนอยู่คนเดียวววว ช่างเปล่าช่างเปลี่ยวหัวใจ ฉันยืนอยู่คนเดียวได้ยินไหม ช่างเหงาหัวใจเหลือเกิน และฉันคงทนต่อไปอีกไม่ไหว คงต้องมีใครมาดูแลหัวใจ มันทนต่อไปอีกไม่ไหว อยากจะบอกกกก...ว่าฉันมีเพียงความรักอยู่เต็มหัวใจและอยากรู้ว่ามีใครจะมารับเอาว้ายยยยย”



                “นั่งล๊งงงงงงงงงงง”



                “เพื่อนกู เพลงพี่โตก็มาว่ะ”



                ผมร้องเพลงด้วยเสียงที่ไร้เรี่ยวแรง คนมองผมก็ไม่สน คนมันเศร้าอะ เฮียดุกที่ทนไม่ไหวรีบย้ายฝั่งมาฉุดผมนั่งลงทันที



                “แดกเข้าไปสันในเนี่ย”



                “ยืนอยู่คนเดียวววว...”



                “ยังไม่หยุดอีก มึงนั่งได้แล้วไอ้ห่า”



                “ไหนมึงเล่ามาซิ ว่ามึงไปทำยังไงให้อกหัก” ไอ้หมูเปิดประเด็นพร้อมกับใช้ตะเกียบชี้หน้าผม



                “กูชอบคนๆ นึง กูบอกชอบเค้า แต่เค้าไม่สนใจกู”



                “เชี่ยเขา!” ไอ้หมูสบตากับเฮียดุกอีกครั้งก่อนจะพูดเสียงเบา “คุณชายรู้ป้ะวะเนี่ย”



                “หลอกถามมันเลยไอ้หมู”



                พูดไรกันวะ เออช่างแม่ง...จะกินหมูให้ลืมเธอว์



                “มึงบอกชอบเค้ายังไง ไอ้ตัวชอบป๊อดอย่างมึงอะนะจะกล้า” ผมว่าผมเมาเนื้อแล้วจริงๆ สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย ความเจ็บมันลวกปาก



                “กูปรึกษาเฮียทิว เฮียทิวบอกว่าให้พูดตรงๆ”



                “แล้วมึงบอกชอบเค้าตรงๆ เลยหรอวะ”



                “เออดิ! สองต่อสองในรถด้วย!”



                “อู้หูวววว ไอ้เชี่ย เพื่อนกูโคตรแมน”



                “ในรถด้วย?”



                “ใช่!”



                “ไอ้เขา คุณชา..เอ๊ย คนที่มึงชอบเค้าฟังไม่ถนัดรึเปล่า”



                เอ๊ะ...



                “ไม่ถนัดยังไงวะ” ผมกระแอม ดึงสติตัวเองมาครู่หนึ่ง หรือว่าคุณชายจะหูไม่ดีจริงๆ



                “ก็ความหมายว่า เค้าอาจจะมีสมาธิอยู่กับการขับรถ ไม่ทันฟังมึงไง”



                “หรอ” เอนเอียงตามแล้วกู ผมคิดตาม ใช่สิ ตอนนั้นคุณชายจะต้องขึ้นทางด่วนนี่ ผมอาจจะไปกวน คุณชายเลยไม่ทันฟัง



                “แล้วตอนมึงบอกมึงได้เอาอะไรให้เค้ารึเปล่า”



                “ต้องมีด้วยหรอวะ”



                “เอ้า ไอ้เชี่ย เวลาไอ้หมูไปดูน้องบีบี๋เต้นโคฟเวอร์มันยังต้องเอาดอกไม้ไปให้เลย ถ้าไม่มีก็เอามินิฮาร์ทให้”



                “จริงด้วย กูไปตัวเปล่า กูไม่มีอะไรเลย แล้วๆๆ กูต้องให้มินิฮาร์ทได้ยังไงวะ ซื้อที่ไหนไอ้หมูบอกกูมาหน่อยยยย” ผมผลักเฮียดุกที่ย้ายมานั่งข้างๆ ออกก่อนจะสลับไปนั่งข้างไอ้หมูแทนพร้อมทั้งเขย่าแขนมัน เสียงน้ำเดือดดังคลอบรรยากาศตื่นเต้นของผม



                “ฮ่าๆๆ ไม่ต้องซื้อหรอกเว้ย” ไอ้หมูบอก มันเช็ดมือกับเสื้อตัวเองก่อนจะใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้มาไขว้กันตรงปลายนิ้ว



                “ไอ้เขามึงก็ทำตามดิวะ” เฮียดุกสั่ง ผมเลยทำตามงงๆ ตกลงมึงไม่บอกชื่อร้านที่ขายมินิฮาร์ทให้กูหรอวะ



                “เออ อย่างงั้นๆ เดี๋ยวๆ มึงจะมาจีบหงายอะไรตอนนี้ ไขว้กันเยอะๆ เอออออ อย่างงั้น เฮียดูเพื่อนมึงทำใช้ได้เปล่าวะ”



                “ให้กูทำอะไรเนี่ย”



                “ไอ้เขาควาย นี่แหละมินิฮาร์ท ไม่ต้องซื้อแต่แสดงความรักได้ดีที่สุด อันที่จริงแค่มึงชูนี่นะ เค้าก็เข้าใจแล้วเว้ย”



                “จะ...จริงหรอวะ” ผมมองมินิฮาร์ทที่ปลายนิ้วมือตัวเอง พลันก็เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์



                “เออดิ”



                “คราวนี้มึงลองอีกที ถ้าเค้ายังไม่หือไม่อือ เตรียมทิชชู่เช็ดน้ำตาได้เลย” ไอ้หมูชูนิ้วโป้งให้แล้วตบไหล่ผมเบาๆ



                “อีกทีเว้ยเพื่อน” ตามมาด้วยเฮียดุกอีกคน



                ผมเงยหน้าสบตาเพื่อนทั้งสองคนด้วยแววตาสุดซึ้ง ใจที่ฟีบลงไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนกลับมาพองโตอีกครั้ง



                “ขอบคุณนะเว้ยพวกมึง กูจะลองอีกครั้ง”



                ฮึบ!



                “ลองไรกันพวกมึงงงงง”



                จู่ๆ เสียงแหลมที่ดัดเรียบร้อยแล้วก็ดังแหวกอากาศมาจากด้านหลัง แก๊งสามหนุ่มสามมุมเลยหันไปมองพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย



                ...มนุษย์เพื่อนข้างบ้าน ปัจจุบันเรียนคณะอักษร ได้ปรากฏตัวขึ้นในชุดนักศึกษาหญิงรัดไข่ เอ๊ย รัดติ้ว



                “เออพวกมึงกินต่อเหอะ...”



                “หมูนี่แม่งโคตรนุ่มเลยว่ะ”



                “นี่พวกมึงเมินกูหรอ!”



                ตุบ! อีแจ็คที่มาคนเดียวกระแทกตูดนั่งข้างเฮียดุกทันที มันเหยียดปากเป็นเครื่องหมายเช็คถูกให้ผมเป็นการทักทาย กูเพื่อนมึงนะอีแจ็ค



                “คิดยังไงมาแดกชาบูตอนเที่ยงเนี่ย เสี้ยนมาจากไหนฮะ เลว” ไม่ต้องรอให้อ้าปากทักทายกลับอีแจ็คเปิดประเด็นทันที



                “พวกกูเลวที่แดกตอนเที่ยง?”



                “เลวที่ไม่ชวนกู! ถ้ากูไม่นั่งวินผ่านมาจะเห็นพวกมึงมั้ย โกรธมากบ้าบออออ”



                “อยากแดกก็สั่ง”



                อีแจ็คกวาดตามองรอบโต๊ะ ก่อนจะทำตาโต



                “เฮ้ย น้ำเดือดปุดๆ แล้วเนี่ยยยย เทรนดิ บ้าบอออออ” อีแจ็คส่งเสียงร้องอย่างตกใจก่อนจะชี้ๆ ไปที่หม้อชาบู พวกเราเลยมองหาเทรนที่ว่ากันเลิ่กลั่ก



                “อะไรของมึงวะเทรน กูจะรู้มั้ยย” 



                “Train ก็ลดไฟไงอีโง่”



                “นั่นมันรถไฟ! มุกมึงล้ำหน้าประเทศไทยแล้วโว้ย”



                “เอ้าอีสัด นึกว่าใช้ได้เหมือนกัน เออลดความร้อนลงหน่อย เดือดขนาดนี้ เดี๋ยวผักก็ยุ่ยเป็นเนื้อเฮียดุกแล้วจะยุ่ง” ผมที่อยู่

ใกล้ปุ่มสุดก็กดสองสามทีตามที่มันบัญชา



                “แจ็คกูยังไม่ตาย” เฮียดุกมองตาขวาง มือขวายังถือตะเกียบค้างไว้อยู่เลย



                “อ้าวหรอ”



                “ฮ่าๆๆๆ”



                เสียงเพื่อนผมหัวเราะกันลั่นร้าน เฮียดุกที่เคี้ยวผักต้มอยู่แทบจะคายทิ้ง ไอ้หมูก็หัวเราะจนตบหลังผมตุ้บตั้บ อีแจ็คยกมือเรียกพนักงานชายแต่เห็นว่าหล่อเลยแอ๊วเค้า กว่าจะได้สั่งก็หลายนาทีถัดจากนั้น



                ความวุ่นวายตรงหน้านี้ทำให้ผมหลุดหัวเราะเบาๆ



                …ขอบใจนะพวกมึง...



                “ยิ้มอ่อนไรมึงเนี่ยอีเขา เมื่อเช้าไม่ได้ขี้หรอ”



                เออ!!!!



 [ต่อหน้าถัดไปค่ะ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2018 08:27:11 โดย jaevin »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด