พิมพ์หน้านี้ - ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 20 : ห้าม...เลิกนะ ขอร้องงง p.12 [14-03-20]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => ข้อความที่เริ่มโดย: jaevin ที่ 01-09-2017 20:59:33

หัวข้อ: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 20 : ห้าม...เลิกนะ ขอร้องงง p.12 [14-03-20]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 01-09-2017 20:59:33
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0)

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com)  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************

คุณชายระเบียบจัดแห่งโลก 2017 (สาบานว่านั่นชื่อเรื่อง)
นิยายเรื่องนี้ไม่มีสาระใดๆ
นอกจากความรักของคนสองคนที่มีระเบียบไม่เท่ากัน

                 
ข้อตกลงเพื่อความเป็นระเบียบต่อทุกท่าน

                 1.ชื่อและสถานที่เป็นเพียงจินตนาการเท่านั้น หากมีส่วนคล้ายคลึงกับใครหรือสถานที่ใด ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
                 2.คำพูดคำจาในเรื่องนี้บางทีอาจจะระคายหูต้องขออภัย แต่ถ้าคนไหนไม่ระคายหู ก็....ดีแล้ว ทำไมนึกว่าจะมีอะไรหรอ ไม่มี้
                 3.เรื่องนี้เป็นนิยายสายไร้คำจำกัดความ...เบาสมอง...เพราะตัวเอกของเรื่องนั้นยิ่งกว่าเบา น้ำหนัก? สมองมันเนี่ยแหละ
                 4.ท่านสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องระเบียบๆ หรือจะติชมให้กำลังใจได้ที่ไทยบอยส์แห่งนี้หรือที่ติดแท็ก
                #คุณชาย2017
                 5.นิยายเรื่องนี้อยากให้ทุกท่านมีรอยยิ้ม จะแสยะ จะยิ้มอ่อน ยิ้มแข็ง ยิ้มอะไรก็ได้ แต่อย่านัดยิ้ม พอ!


ระเบียบไม่เท่ากัน แต่ความเพี้ยนมีพอๆ กันแน่นอนครับพี่น้อง



►ผลงานของเรา◄
ண คนกลาง ண (จบเเล้ว)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.0)
 #เรากับเขา (จบแล้ว) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61891.0)
 คุณชาย2017 (ยังไม่จบ)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61707.0)
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 บทนำ p.1 [1-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 01-09-2017 21:05:09
บทนำ



                มันจะมีซักกี่คนบนโลกนี้ที่คุณอยากจะตะโกนใส่หน้าว่า


                “มึงเป็นบ้าอะไรวะเนี่ยยยยยย”


จบ


                ถุ้ย!


                อย่างนี้อย่าเรียกบทนำเลย สโลแกนหน้าถังสังฆทานยังยาวกว่านี้อีก!!

 
                โทษทีๆ เอาใหม่ๆ


                คุณจะทำยังไงถ้ามีคนหน้าตาดี ท่าทางมีสกุลมายืนจ้องหน้าคนสถุลแห่งชาติอย่างคุณแบบนี้ ...แบบที่มองตาไม่กระพริบ...แบบที่โลกทั้งโลกเหมือนหยุดหมุน


                คุณจะทำยังไงไม่รู้ แต่ผมนั้น...


                มองไมวะ?...


                กูหล่อช้ะ?...


                หลีกไปซักทีสิวะ... กระเป๋ากีตาร์ก็หนัก แก้วน้ำน้องสไปร์ทก็เย็นจัด จานข้าวก็ร้อน ย้ำว่าข้าวร้อนอย่างเดียวส่วนกับนั้นเย็นชืดเหมือนอยู่ขั้วโลกใต้ อยากจะถามพี่ท่านว่าคุณมึงจะยืนขวางเป็นยักษ์ของดีวัดเจษทำไมวะ ห๊ะ...วัดเจษไม่มียักษ์ มีแต่ลอดช่อง  เออ โทษๆ หิวไง แดกได้หมด ไม้นี่ยิ่งอร่อย เพราะถึงผมจะเป็นปลวกผมก็เป็นปลวกหน้าตาดี ผ่าม!


                ...หรือแม่งไม่มีตังค์อยากกินข้าวที่กูถือวะ...


                ไม่น่าใช่...ท่าทางมันก็ดูรวยเอาเรื่อง เสื้อนักศึกษาเรียบกริบขนาดนี้ ดูผมซักเส้นก็ไม่หลุดออกมาให้น่ารำคาญ สงสัยในใจหน่อยๆ ว่าไม่รู้จักคำว่ากระเซิงเหรอครับ เนี่ยแบบผมเนี่ย รกๆ เลอะๆ ยิ่งเท่


                เอียงหน้าคิดแป๊บ...เอ...หรือว่ากูไปม่อสาวตัดหน้ามัน ก็ที่นี่โรงอาหารอักษร สาวสวยครองแชมป์ทุกปี ใครๆ ก็อยากมากินป่ะวะ ถึงแม้ว่าอาหารจะไม่น่าแดกก็เถอะแต่สาวสวยๆ เยอะผมพอให้อภัย คิดไปคิดมาบรรยากาศเริ่มชมพูอมม่วงจนน่าขนลุก ก็แหมจ้องกันไปจ้องกันมาแบบนี้ สาวๆ ที่เดินผ่านไปมาไม่ต้องกรี๊ดครับ นี่คนไม่ใช่อึหมา แฮร่! ขนาดผมยังงง นับประสาอะไรกับใจคน


                สถานการณ์มันชักจะยังไง ใจลอยลอยไปอยู่กับเธอ แหมะ...พี่เจก็มา! เข้าโหมดจริงจังแป๊บ...เมื่อสายตาของคนอื่นเริ่มมองมามากขึ้นตัวผมชักจะไม่โอเค นักศึกษาก็ทยอยลงมาหาอาหารกินกันเยอะขึ้น สาบานกูพูดถึงคน ผมเริ่มทำตัวไม่ถูก เพราะไอ้นี่มันยืนจ้องผมไม่พูดอะไร กูหิวข้าวนะ อย่าให้โมโห ไอ้เชี่ยนี่ มีอะไรก็พูดมา ให้เวลาสามวิ


                หนึ่ง สอง สาม 


                หมดความอดทนแล้วแม่ง!


                ขยับหัวรองเท้าคอนเวิร์สสีคาราเมลขุ่นๆ ไปทางซ้ายไอ้นี่ก็ขยับซ้าย จะไปทางขวาไอ้นี่ก็ขยับขวา เอ๊ะ...มึงมีปัญหากับกูไง๊ หน้าตาดีแล้วจะกวนตีนยังไงก็ได้หรอวะ ก่อนที่ผมจะเอ่ยปากถาม เสียงที่หลุดออกมาจากคนตรงหน้าทำเอาผมเงยหน้าไปมองคอแทบเคล็ด เสียงทุ้มมีเสน่ห์เฟ่อ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น  ประเด็นมันอยู่ที่...


                “สกปรก”


                อะ...อะไรนะ ชะงักหน้าเกือบทิ่ม แต่คนอย่างไอ้เขาต้องรีบสวนกลับไป


                “อะไรของมึงวะ มายืนจ้องหน้าคนอื่นแบบนี้แล้วก็มาพูดจาหมาๆ กูไปเยี่ยวรดล้อมึงหรอ”


                มันเชิดปากสีสวยขึ้น ไอ้เชี่ย กูต้องไม่ชมมัน ต้องไม่ชมมัน ไอ้หน้าหล่อกระตุกคิ้วขวาเล็กๆ ก่อนจะมองผมหัวจรดเท้า เฮ้ยๆๆ แบบนี้แม่งไม่ให้เกียรติกันเลยนี่หว่า พ่อผมสอนมา สายตามันหยุดอยู่ตรงรองเท้าผม นี่มึง...อิจฉาคาราเมลกูหรอ กว่าจะได้สีนี้กูอดทนไม่ซักมาสามปีแล้ว สีที่ได้แม่งต้องเหยียบโคลนกี่รอบ มึงอย่ามองน้องกู เดี๋ยวสึก


                “เฮ้ย หาเรื่องคนอื่นก็มองหน้าดิวะ” ผมเริ่มไม่พอใจ ย้ายจานข้าวมาอยู่อีกมือนึงสลับกับแก้วน้ำ


                “มองอยู่” มันตอบเสียงเรียบ


                มองตรงไหนวะ มึงก้มหน้ามองเท้ากูอยู่เนี่ย เดี๋ยวนะ ผมหน้าเหวอ “นี่มันเท้ากูไอ้เวร!!!” ผมร้องลั่นสะเทือนมาถึงมือข้างซ้ายที่ถือจานข้าว รีแอ็คชั่นกูแรงไปหน่อยหรือผีผลักก็ไม่แน่ใจ แต่ภาพตรงหน้าแม่งเฮชดีสัดๆ ภาพสโลว์โมชั่นที่ผมมองจานข้าวลอยสูงลิ่วไปข้างหน้า แก้วน้ำพลาสติกตกลงสู่เบื้องล่าง ผมอ้าปากค้าง เเละไอ้หน้าหล่อตรงหน้าค่อยๆ เบิกตากว้างทีละน้อย


                “เฮ้ย เย้ย เย้ย เย้ย จาน อาน อาน อาน ข้าว อ้าว อ้าว อ้าว”


                มันอาจจะเป็นภาพสโลว์โมชั่นในสายตาผมแต่สำหรับสายตาคนอื่นแล้ว ต้องบอกว่าสามวิแห่งหายนะที่แท้จริง


                โผละ!


                เข้ เอ้ เอ้ เอ้ เอ้ เอ้ เอ้ เอ้





================

เเวะมาเปิดเรื่องใหม่
เเฮ่ๆ ฝากน้องเขาคนบ้าด้วยนะคะ รักซำเหมอ
เรื่องนี้ไม่สาระจริงๆ เขียนสนองนี้ดชีวิตที่ไร้ความขำขัน
ตัวเอกเรื่องนี้มีต้นเเบบมาจากกล้วย เพื่อนคนกลาง
ใครงง อย่าลืมไปอ่านคนกลางล่ะ (ขายของเเป๊บ)
ขอบคุณทุกคนค่ะ
หัวข้อ: Re: ✿✿✿คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 บทนำ p.1 [1-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-09-2017 21:14:59
รอค่าาาาาา  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 บทนำ p.1 [1-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 03-09-2017 10:54:56
รออ่านจ้า
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 บทนำ p.1 [03-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 03-09-2017 22:34:16
ระเบียบที่ 1 : ห้ามมีรอยเปื้อน





                “เข้!!!!!!!”



                ผมแหกปากระบายความหงุดหงิดกลางลานดนตรี ในยามบ่ายที่ร้อนระอุแบบนี้...ไอ้หมูกับไอ้เฮียดุกที่ฟุบโต๊ะนอนหลับสะดุ้งตื่นจนหัวชนกันดังปั่กเพราะเสียงตะโกนของผม ผมยกแก้วน้องสไปร์ทที่ซื้อมาใหม่มาดูดพรวดๆ ดับอารมณ์ร้อนของตัวเอง


                “ไอ้เชี่ยเขา พ่อมึงเป็นญาติกับจระเข้รึไง! แล้วจะตะโกนหาญาติที่ปักกิ่งหรอ!”



                ตกลงมึงจะให้กูเป็นญาติคนหรือญาติเข้ ไอ้หมูยื่นมือผอมแกรนมาตบหัวผมด้วยแรงเบามดเต้นบัลเล่ต์ ใช่ครับไอ้หมูที่ชื่อหมู แต่ตัวมันไม่เหมือนหมู ร่างกายแห้งเหมือนกุ้ง แม่ตั้งชื่อแก้เคล็ดตอนเกิด ได้ยินรุ่นพี่ชื่อตอนรับน้องปีหนึ่งกูแทบจะหลีกทาง นึกว่าตัวแม่งอ้วน เตรียมจับพื้นไว้แน่นกลัวแผ่นดินสะเทือน บอกเลยว่ากูเล่นใหญ่ แต่...ไอ้สัดเดินผ่านกูลิ่ว งงแดกเลย ไอ้หมูเป็นเพื่อนสนิทของผมเพราะรหัสติดกัน คือถ้าไม่ติดกันกูจะไม่คุยกับมึงเลยครับผม



                “ด่าแล้วยังไม่รู้ตัวอีก!”



                เฮียดุกตะเบ็งเสียงด่าผมอีกคนก่อนจะลูบหัวล้านจุดที่โดนชนของตัวเองเบาๆ  นี่ก็อีกคน ชื่อเล่นจริงแม่งชื่อปลาดุก หน้าตาก็เข้ากันดีกับหนังหน้า อิเวง กูเองไม่ต้องด่าใคร เฮียดุกเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่าไอ้หมู แต่ซิ่วจากถาปัตย์เพราะค้นพบว่าตัวเองร้องเพลงเพราะเหมือนคิง คิงเดอะวอยซ์? คิงคองเนี่ยแหละ ผ่าม! เออ ล้อเล่น ร้องเพราะจริง เฮียดุกมีฉายาว่าเทพว๊อยซ์แห่งสาขาดนตรีแจ๊สครับคนนี้ แบบว่า ว้อยยย เมื่อไหร่จะหยุดร้อง กูรัมคัลลลลล



                “เป็นไรอีก ฟันหน้าขึ้นหรอ” เฮียดุกถามขึ้นเมื่อเห็นผมขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน



                “เออซี่นึง เฮ้ย! โกรธอะแม่ง ข้าวก็ไม่ได้แดก ไอ้เชี่ยนั่นเป็นไรมากป้ะ หาเรื่องกูก่อนแล้วบังคับให้กูซักเสื้อให้มัน มันบ้าป้ะวะ!!”



                “ไอ้สัดเขาควายพูดเบาๆ ครับ”



                “ไอ้เชี่ยเฮีย กูชื่อเขาเฉยๆ ไม่ต้องมีควาย เรียกจนคนลืมชื่อจริงกูแล้ว ควายๆ เนี่ย”



                “โทษๆ เออพูดถึงเรื่องนี้กูยังแปลกใจแม่งไม่เหมือนที่กูได้ยินมาเลยว่ะ มึงโดนแค่นั้นยังน้อยไปซักมาคืนเนี่ยนะ คนดีไปป้ะ มีที่ไหนไปทำตัวจังไรที่คณะเค้าแบบนั้นแถมทำข้าวเลอะยันรูจมูกเขาขนาดนั้น เป็นกูนะ...ไม่ไล่เตะมึงรอบมอก็บุญละ”



                โอ๊ย เจ็บกระดองใจ เพื่อนไม่เข้าข้าง มันเป็นอุบัติเหตุไงงง “มูหมู ดูสิ ไอ้เฮียมันเข้าข้างคนอื่นนอกจากน้องจากนุ่งอย่างเค้าเขา”



                แต่ไอ้หมูกลับทำจมูกบาน ปากคว่ำ มองบน “สมน้ำหน้า มึงไม่เคยได้ยินชื่อแม่งหรอวะ ถามจริง”



                “ใครวะชื่อแม่ง” ผมถามหน้าตาเหรอหรา



                ผลัวะ!



                “ไอ้ควาย...” ไอ้หมูพูดเสียงดังก่อนที่จะเงียบเสียงลง มันกระดิกนิ้วเรียกผมมาใกล้ๆ เฮียดุกก็ยื่นหน้ามาใกล้ๆ ด้วย คือเสือกนั่นเองบอกตรง “ไอ้บ้าที่มึงว่าอะ เขาคือเทพตีนหนักแห่งอักษรศาสตร์ปีสี่นะเว้ย มีแต่คนเรียกว่าคุณชาย”



                พรืด!



                ไอ้หมูมองผมตาขวางมันไม่ชอบให้ใครขัดมันเวลาพูด ก็กูขำอะ...คนอะไรชื่อชาย ยุคนี้แล้วยังตั้งชื่อเชยชิบหาย ผมยกมือไหว้เป็นเชิงขอโทษแล้วกลั้นหัวเราะจนหน้าตาบิดเบี้ยว ทำท่าอัญเชิญให้มันพูดต่อ



                “ที่สำคัญคุณชายเนี่ยมีคำเล่าอ้างว่าาาาาา...”



                “อื้อหือออออออออ” เฮียดุกร้องลั่น แล้วเอนหลังออกจากวงกระซิบอย่างรวดเร็ว



                “เฮียรู้ด้วยหรอ?” ไอ้หมูทำหน้าตาตื่นเต้นพูดเสียงสูง จนผมอดตื่นเต้นด้วยไม่ได้ ไอ้คนนั้นมันมีอะไรนักหนา



                “เปล่า ปากมึงเนี่ยแปรงครั้งสุดท้ายอาทิตย์ก่อนใช่มั้ย” แต้แว้ด! เซเลยกู เฮียดุกบีบรูจมูกจนเสียงพูดเหมือนควายออกลูก



                “เชี่ยเฮียกูตั้งใจฟังอยู่ เดี๋ยวไอ้หมูแม่งงอนหรอก” ผมรีบบอกก่อนเพื่อนตัวเล็กจะหน้าบึ้ง มันยิ้มร่าขยับหัวไหล่ให้สั่นดุ๊กดิ๊กเมื่อมีคนสนใจฟังอีกครั้ง



                “เสียงเล่าอ้างของพี่เค้าก็คือแม่งเป็นคนเจ้าระเบียบสุดๆ เว้ย จนคุณระเบียบรัดติ้วยังต้องมูนวอล์คถอยหลัง ใครที่มาหาเรื่องหรือทำให้ความมีระเบียบของพี่แกไม่มีระเบียบละก็....ตีนหนักจะได้ฟาดปากจนนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงบาลตลอดไป” มันทำหน้าขยาดแล้วพูดต่อ   



                “คือซัดไม่เลี้ยงจนเดี้ยงขยับไม่ได้?”



                “เปล่า นอนโรงบาลเอกชนไม่มีตังค์จ่าย เลยต้องใช้หนี้เขาอีกนาน”



                “ถุ้ย!”



                “ล้อเล่นเว้ย! เอาเป็นว่าคนที่คุณชายไม่ชอบที่สุดคือคนไร้ระเบียบเนี่ยแหละ”



                กูกลืนน้ำลายเลยไอ้เหี้ย ที่มันหาเรื่องกูเพราะความสกปรกกูไปขัดใจมันหรอวะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ผมเหลือบมองของบางอย่างในกระเป๋าย่ามของตัวเอง ของบางอย่างที่ว่า...ผมใส่ถุงพลาสติกไว้สี่ชั้นกันกลิ่นโชย กูจะตายห่ามั้ยวะ ขอโทรบอกพ่อขอกระเพาะปลาคืนสุดท้าย ไม่ค่อยชอบกินแต่ฮิตทำกันจัง ว่าแล้วก็ขนแขนแสตนอัพผมเลยถามไอ้หมูต่อ



                “แล้วถ้าไอ้คนที่ทำข้าวราดเเกงลอยไปโดนตัวมันล่ะ...”



                ไอ้หมูจ้องหน้าผมเขม็ง  “เท่าที่กูรู้มาไม่ค่อยมีใครกล้าแหยมกับพี่แกหรอกนะเว้ย แต่ในกรณีนี้ก็...”



                มันพูดเสียงเหี้ยมแต่ก่อนที่จะพูดผมรีบยกมือห้าม ไอ้เฮียดุกแคะขี้มูกไม่สนใจใครยังต้องสะดุ้ง “มึงอย่าพึ่งพูดๆๆๆ กูขอแค่สามคำ” ไอ้หมูพยักหน้าเอือมๆ แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม



                “ตาย หยั่ง เขียด!”



                “ไอ้ฟายหมู! ไม่ต้องมาบิ้วกู มึงก็รู้ตอนนี้กูยังหล่ออยู่เลย มันก็คงเป็นเรื่องเล่าแหละมั้งงง มึงอะเวอร์” ผมพูดเสียงดังเหมือนไม่กลัวแต่ในใจเริ่มหวั่นพลางนึกถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่พึ่งเจอกับไอ้คุณชายอะไรเนี่ยเมื่อสองชั่วโมงก่อน มันเป็นเรื่องราวของไอ้ภูเขาแห่งดุริยางค์และคุณชายเจ้าระเบียบแห่งอักษรศาสตร์



            สองชั่วโมงก่อนหน้านั้น



                “เข้!!!!!!!!!!!” ผมร้องลั่นหลังจากจานข้าวกระทบพื้นโรงอาหารดังเคร้ง ช้อนปลิวไปคนละทาง โลกพังที่แท้ทรู ทันทีที่จานหมุนคว้างจนนิ่งสนิทอยู่ที่พื้น น้ำอัดลมสีใสไหลเลอะเทอะแทบเท้า โรงอาหารอักษรที่มักจะครึกครื้นเพราะสาวเยอะก็เงียบลงถนัดตา เสียงที่ดังอยู่ตอนนี้ก็คือเสียงข้าวผสมน้ำแกงเผ็ดที่หยดลงพื้น



                แหมะ แหมะ



                “เหี้ยแล้ว...” ผมมองตามน้ำแกงที่หยดไล่ขึ้นไปยังที่มาของมัน เอื๊อก ไอ้มนุษย์หล่อตรงหน้าค่อยๆ ปาดน้ำแกงเหนียวๆ บางส่วนออกจากใบหน้า มัจจุ...ราชของแท้ ไอ้เขาที่ไม่เคยกลัวใครเริ่มหายใจติดขัด กำลังจะเอ่ยปากขอโทษแต่เสียงของคนมาใหม่ก็ตะโกนขึ้นซะก่อน



                “เฮ้ย!! ทำไรเพื่อนกูวะ!!!”



                พอผมหันไปมอง พึ่งเห็นว่าจุดรวมสายตาไม่ใช่ใครที่ไหน กูเองครับ...ผมหน้าซีด นับตีนที่กำลังเดินมาไกลๆ ไอ้เหี้ย หลายตีนเกิน ไอ้หล่อตรงหน้ากลั้นลมหายใจล้วงกระเป๋าหยิบผ้าเช็ดหน้าสีเข้มมาจากกระเป๋ากางเกงแสล็ค เลอะเทอะไปทั้งตัว แต่ส่วนบนนี่ดูไม่ได้สุดๆ มันกัดฟันทำหน้าแหยงโคตรจนผมเริ่มกลัว



                “กูไม่ได้ตั้งใจนะเว้ย...” ผมพูดได้แค่นี้เพราะเห็นคนที่วิ่งเข้ามาจากอีกฝั่งของโรงอาหาร คาดว่าคงเป็นเพื่อนมัน ตายศพไม่งามแน่ๆ หลายตีนแบบนี้



                “อ้าวจารย์ หวัดดีค้าบบบบ!!!!”



                ผมตะโกนลั่น หลับหูหลับตา กำมือคว้าลมวิ่งฝ่าคนมา ชนสาวอกตูมคนไหน ผมขอโทษด้วยครับ เสียงไล่ด่ายังคงตามมาด้านหลัง พ่อค้าแม่ค้าตาค้างกันเป็นแถว มีบางคนที่ชี้มือชี้ไม้ ตกใจไรครับ หลีกๆๆๆ ผมหนีคนมา ข้าวเขิ้วก็ไม่ได้แดกไอ้เชี่ยเอ๊ย เสือกถ่อมาส่องสาวคนเดียวอีกกู



                “หนี...พ้น..แฮ่กๆ...ยังวะ” วิ่งมาที่ลานจอดรถของคณะอักษรไกลจากโรงอาหารแล้ว ผมก็ปล่อยมือที่กำไว้แล้วก้มลงก่อนเท้ามือกับเข่าตัวเอง หอบแฮ่กๆ เหมือนหมาหิวน้ำ



                “หนีใครล่ะ?”



                “หนีไอ้พวกนั้นไง ที่แม่งไล่กูเนี่ยถามได้”



                ชะ...กูว่ากูวิ่งมาคนเดียวนะครับ เสียงคุ้นเหมือนได้ยินมาไม่นานนี้ เเละผมก็พิสูจน์ข้อสงสัยของตัวเอวด้วยการผมหันหลังไปมองช้าๆ



                ชัด!



                ชัดเลย!



                “เฮ้ยยยยย!!! มึงตามมาได้ไงเนี่ย” ผมสะดุ้งโหยงเตรียมหนีอีกครั้งแต่ไอ้หล่อเลอะเทอะนี่คว้าคอเสื้อผมไว้ทัน เอ่อ เเน่นด้วย มันหอบเล็กน้อย อย่าบอกนะว่าผมโชว์เด๋อคว้าข้อมือมันมา



                “อยู่เฉยๆ” ผู้ชายหน้าตาถมึงทึงคนนี้ปล่อยมือจากคอเสื้อผมแล้วสะบัดมือตัวเองสองสามทีคล้ายกับว่าไปจับของสกปรกมา หลังจากนั้นก็เลื่อนสายตาไปที่เสื้อเลอะๆ ของตัวเองแล้วพูดว่า



                “จะอ้วก”



                “ของดีๆ ทั้งนั้นมึงจะอ้วกทำไม”



                “หุบปาก อยู่นิ่งๆ กูจะต้องคิดบัญชีกับเด็กสกปรกอย่างมึงแน่นอน” พอผมกวนตีนไปแบบนั้นไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้ามันก็มีสีหน้าหงุดหงิดขึ้น...มากกว่าเดิม ไม่น่าเลย ไอ้ปากไม่รักดี! มันกัดฟันเหมือนพูดกับตัวเองแต่ผมก็ได้ยิน เกือบจะเถียงกลับไปแล้วถ้ามันไม่ใช้นิ้วชี้หน้าผมไว้แถมยังส่งสายตาข่มขู่คุกคามอีก กูสกปรกตรงไหนวะ ถามจริงงงงงงงง



                คนตรงหน้าใช้ปลายนิ้วคีบปกเสื้อของผมแล้วออกแรงลากให้เดินตามเข้าที่หยุดที่หลังรถคันหนึ่ง ผมไม่กล้าขัดขืนเพราะใจยังหวั่นๆ เพระความกลัว เป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่ผมมาหยุดพักเหนื่อยตรงลานจอดรถแบบนี้ ว่าแต่...เข้ รถโคตรสวย ยี่ห้อไรวะเนี่ยไม่รู้จัก มาถึงรถไอ้บ้านี่ก็รีบปล่อยมือทันที แล้วเช็ดนิ้วกับเช็ดกางเกงตัวเอง แหม มึงสะอาดตายแหละพ่อคุณเอ๊ย สภาพเหมือนตกโคลน แต่ช่างเถอะครับ ตอนนี้ไอ้เขาก็แทบจะลอยไปลูบรถอยู่แล้ว มันสั่นเพราะความตื่นเต้นที่มาไม่รู้จักเวล่ำเวลา



                “อยู่เฉยๆ ซักหนึ่งนาทีเป็นมั้ย ดิ้นเป็นรากดินโดนน้ำร้อนลวกอยู่ได้” มันพูดเสียงเเข็ง อะไรวะรากดิน ด่าอะไรกูเปล่าวะเนี่ย ผมทำหน้างงมองตามมันเปิดกระโปรงรถด้วยรีโมท พอเห็นไอ้คนที่เลอะเทอะก้มๆ เงยๆ  อยู่ตรงนั้น ผมเลยชะโงกหน้าไปดูบ้าง โอ้โห วางของทุกอย่างโคตรเป็นระเบียบ กระโปรงรถยังสะอาดกว่าห้องผมอีก กล่องเสื้อเชิ้ตไว้มุมหนึ่ง กล่องรองเท้า ทุกอย่างล้วนจัดวางอย่างดี เออคุณครับ สะอาดแบบนี้เปิดให้เช่านอนมั้ย



                ผมยืดตัวกลับมาเหมือนเดิม สองกุมเป้ามองมันสบถทุกคำที่ลงมือแกะกระดุมด้วยนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง เห็นท่าทางแบบนั้นเก้ๆ กังๆ แล้วผมอยากจะช่วย แต่มันคงจะง้างหมัดต่อยผมก่อนได้ช่วย ผมจึงค่อยๆ แหวกซิบกระเป๋ากีตาร์แล้วล้วงเอาผ้าเช็ดลูกรักออกมาเผื่อว่ามันจะเอาไว้เช็ดไม้เช็ดมือ ไอ้หล่อที่หน้าตาเริ่มไม่หล่อหันหลังถอดเสื้อนักศึกษาโชว์แผ่นหลังขาวๆ มันแกะผ้าขนหนูจากกล่องมาเช็ดปลายคางลวกๆ เอ้า มีแล้วก็ไม่บอกมันหันหน้ามามองผมด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก



                แล้วจู่ๆ ก็โยนเสื้อที่เต็มไปด้วยแกงมาใส่หน้าผม



                พรึ่บ!



                เหี้ย โยนไม่บอกถ้าโดนหน้ากูสิวขึ้นทำไง ผมกำลังจะอ้าปากแต่ไอ้บ้านั่นกลับทำให้ผมชะงัก เข้...หุ่นดีชิบหาย ทำไมมึงไม่มีไขมันส่วนเกิน ผิดปกตินะ ไปหาหมอไปมึงอะ คนเขามีกันทั่วประเทศ



                “นอกจากสกปรกแล้วยังจะโรคจิตอีกนะ” มันพูดลอดไรฟันปรายตามองผมซะเสียวสันหลังวาบ ผมอึกอักก่อนจะกระแอมกลบเกลื่อน ก็ถอดให้กูมองเองอะ



                “มึงโยนเสื้อมาทำไม” เปลี่ยนเรื่องแม่ง



                “รับผิดชอบซะ” กูไม่ได้ทำมึงท้องนะครับคุณ



                “แต่มึงหาเรื่องกูก่อนนะ จานข้าวนั่นกูไม่ได้ตั้งใจเว้ย มี...มีคนมาชน...ชน...ชนศอกกู ไม่เชื่อมึงไปขอดูกล้องเลย” ผมเถียง



                “ตัวเท่าหางมด ไม่ต้องมาเบ่ง” หาง?...มด?... นี่มึงมาจากดาวไหนครับ



                “มันเป็นอุบัติเหตุเว้ย!”



                “อย่าเถียง เด็กอะไรทำผิดแล้วไม่รู้จักขอโทษซักคำ”



                “ไม่เด็กแล้วโว้ยยยย” ยี่สิบแล้ว เรียนปีสามแล้วด้วย



                “เอาเสื้อไปซัก รีดให้เรียบร้อย แล้วเอามาคืน” ไอ้หน้าหล่อที่ตอนนี้ผมเรียบๆ ของมันมีคราบสีเหลืองๆ ติดอยู่ยื่นหน้ามาใกล้ผม ผมก็เอนหลังออกห่างทันที ไม่ได้กลัวครับ กลิ่นแกงมันแรงไม่ไหวเจรงๆ มันจ้องผมตาแทบถลน ก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัด



                “จำเอาไว้ ต้องซักให้สะอาด ห้ามมีรอยเปื้อน! ห้ามยับ! ซักมือเท่านั้น ถ้าไม่ดี...กูตามถึงบ้านแน่”



                พรึ่บ!



                ผมปาผ้าเช็ดกีตาร์ใส่หน้ามันแล้วดันออกอย่างแรง ก่อนจะออกวิ่ง โกยแนบครับ



                “มึงไม่รู้จักบ้านกูหรอกโว้ยยยยยยยยย!”



                “ไอ้เด็กมอมแมม!” เสียงทุ้มนั่นคำรามลั่น รีบหยิบผ้าออกด้วยความรังเกียจแล้วปาลงพื้น แต่ก็แค่นั้นแหละ ผมก็วิ่งออกมาแล้ว เป็นไงล่ะ เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับไอ้ภูเขาแห่งดุริยางค์ ผมหันไปยักคิ้วกวนตีนมันจึกสองจึกแต่ไอ้บ้านั่นกลับเลิกคิ้วแสยะยิ้มแบบเหนือๆ อะไรของมันวะ เออไม่เป็นไร จำไว้ ผมไม่เคยกลัวใคร ผมคนจริง!



                โครม!



                ผมคนจริง สะดุดทางต่างระดับ 2017 ครับ

               







                เอ่อ



                นั่นแหละครับเหตุการณ์ที่ผ่านมา



                “เป็นไงล่ะ เล่าอีกกี่รอบ กูก็ยังเป็นคนเมพ ไม่โดนอะไรเลย ตีนนงตีนหนักฉายาไร้สาระทั้งแพ”



                “เพ!!”



                “เออนั่นแหละ เป็นไงพวกมึงกูเท่ปะไม่มีรอยแผลจากตีนไอ้คุณชายซักแผล”



                “มั่นหน้ามั่นโหนก มั่นกะโหลกจริ๊งจริง เพราะมึงสกปรกเกินไปคุณชายเลยไม่กล้าต่อยรึเปล่า” ไอ้หมูมองผมเหยียดแล้วขยับออกห่าง



                “กูสกปรกตรงไหน ออกจะหล่อมาดแมนแสนน่าซั่มขนาดนี้”



                “มึงไม่สกปรกเลยเพื่อน รองเท้าสะอาดมากกกก สีก็สดสวยเหมือนซื้อใหม่ตลอดเวลา เสื้อนักศึกษาเหมือนใช้ตีนซักยับเป็นศิลปะชั้นเลิศ ส่วนกางเกงยีนส์ โอ้โฮเฮะ ไม่เคยได้ซักเลย ถอดมาพับแทบไม่ได้เพราะแข็งจนเกลือเกาะ” ไอ้หมูใช้ม้วนกระดาษบนโต๊ะแล้วชี้ใส่ผมเป็นลำดับตามคำพูดของมัน



                “ไอ้เชี่ยหมูนี่มึงพิงค์ใช่มั้ย”



                “อะไรวะ”



                “ชมกู”



                “ไอ้สัด นั่นมันชมพู”



                “หู้ยยย มุกแบบนี้ก็กล้าเล่น ไปไอ้หมูเราไปกันเถอะ กูจะไปวอร์มเสียงว้ากไอ้พวกปีสองที่ป่าดงพงไพร ปล่อยไอ้พวกหลงตัวเองไว้แถวนี้เถอะ” เฮียดุกทำหน้าหักงอแล้วก็คว้ากระเป๋าลุกขึ้นทันที



                “เห็นด้วยกับเฮียไม่อยากโดนตีนหลงไปด้วย คิดว่าดีก็ทำต่อไปนะเพื่อน”



                “อ้าวเฮี๊ยดุก ไอ้หมู ไปไหนวะ ทิ้งกูได้ไงงง”



                ต่อให้ร้องเท่าไหร่เธอก็คืนย้อนมาาาาาาา

 









                “อีเขา! มึงรู้ตัวมั้ยมึงทำอะไรลงไป บ้าบออออ”



                ผมกลับมาถึงบ้านด้วยแรงอันเหนื่อยอ่อน บ้านผมอยู่แถบชานเมืองไกลจากมหาลัยครับ และตอนนี้ผมกำลังนอนแผ่พุงอยู่กลางบ้าน  หลังจากที่ผ่านวันอันทรหดแบบสุดๆ



                “มึงลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ อีเขา”



                และตัวที่เสียงแว้ดๆ อยู่ตอนนี้คือ อีแจ็ค เพื่อนกระเทยข้างบ้าน เห็นกันตั้งแต่จู๋เท่ามด ไอ้เหี้ย ถามจริงกูเป็นไรกับมด! มันคือกระเทยที่ชอบพูดคำว่าบ้าบอพร้อมกับทำปากน่าตบ มันเรียนมหาลัยเดียวกับผมแหละครับ แต่เรียนคณะอักษร



                “บ่นอะไรอีก กูนั่งรถกลับบ้าน พุงทับกันตั้งนานมันหงุดหงิดนะ” ปัญหาของคนมีพุงน้อยๆ โปรดเข้าใจไอ้เขาด้วย



                “อย่ามางอแง กูไม่ใช่พ่อมึง” อีแจ็คแว้ดเสียงอีกครั้ง ผมแคะหูกวนตีนมัน



                “หรือมึงอยากเป็นแม่?”



                “อีเขา! แต่ถ้าได้ก็เอา พ่อมึงก็แซ่บอยู่นะ บ้าบออออ” รีบตอบเชียวนะมึง ช่วยบอกผมทีว่าคนรอบตัวผมปกติอะครับ



                “เอะอะๆ ก็อยากได้พ่อกู”



                “เออ มึงนี่ชวนกูเปลี่ยนเรื่อง อีเขามึงรู้มั้ยว่าคลิปมึงทำร้ายคุณชายสุดหล่อว่อนเน็ตแล้ว มึงเอาไปดูๆๆๆๆ” อีแจ็คเอามือถือมากระแทกหน้าผม ผมหยิบแล้วมองนิ่ง



                “ไงล่ะอึ้งไปเลย”



                “เปล่า กูเปิดไม่เป็น”



                “โอ๊ย กูล่ะเหนื่อยหัวนม เอ๊ย หัวใจ มีเพื่อนโง่เทคโนโลยีอย่างมึงเนี่ย วันๆ ก็เล่นแต่กีตาร์ ฟังแต่ซิลลี่ฟูส์ ดูดแต่สไปร์ท อะ ดูๆๆๆ”



                คลิปในจอโทรศัพท์ก็เคลื่อนไหวไปครับ เหตุการณ์เกิดขึ้นแค่ยี่สิบแปดวิหลังจากที่จานข้าวตกปลิวไปโดนตัวมัน ตอนที่น้ำแกงหยด จอสั่นๆ ด้วยครับพร้อมกับเสียงคนถ่ายอุทานอย่างตกใจ เฮ้ย ทำไมมุมข้างผมดูอ้วนวะ



                “ไม่เคยมีใครกล้าลองดีกับคุณชายมาก่อน” ผมดันหน้าอีแจ๊คที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางให้ออกห่างๆ วันนี้ทั้งวันมีแต่คนพูดถึงคุณชายๆๆๆ จนกูเอียนจะแย่



                “มึงอย่ามาเว่อร์ได้มั้ยวะ คุณชายอะไรนี่ก็เเค่ชื่อชาย หรือมันเป็นคุณชายจากสกุลไหนฮะ บ้านทรายทองไง๊ พี่พจละมังค้าบ งี้ป้ะ”



                “อีภูเขา!...ถึงพี่เขาจะไม่ใช่คุณชายจริงๆ แต่ทุกคนพร้อมใจกันเรียกว่าคุณชายกันทั้งนั้น เพราะนามสกุลรันจกุลผู้ดีเก่าสมัยก่อนไงอีโง่”

               

                “...” ผู้ดงผู้ดีอะไรไม่รู้จักหรอก



                “แถมคุณชายยังสุภาพบุรุษ พูดจาสุภาพ เท่ หล่อ เรียนเก่ง มีชาติตระกูล ผู้ดี๊ผู้ดีไม่เหมาะสมกับคุณชายก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไรเเล้ว กระเทยชะนีอยากได้เขาเป็นผัวทั้งนั้นแหละ ของแรร์ของคณะอักษรนะยะ”



                “ไม่แรร์ได้ไง ผู้ชายแท้มีกี่คนคณะมึงอะ” แล้วไอ้ที่มึงว่าอะต่างกับที่กูสัมผัสมาเองเลยโว้ย สุภาพบุรุษ อ่อนโยน แหวะ ป่าเถื่อนและหยาบคายอีกต่างหาก ไม่อยากจะขัดตอนมึงทำหน้าเคลิ้มเพ้อเหมือนได้ผัวแล้วงั้นอะ สงสารเทย



                “ไหนๆ มึงก็แสนรู้เป็นเห็บขนาดนี้แล้ว”



                “หมาก็พอค่ะ อีดรก”



                “ดรกไรวะ”



                “ไม่ต้องถามมาก กูคิดไม่ทัน อีสัดคนนะไม่ใช่เครื่องผลิตมุก ชงกูจัง " มันหยุดหายใจหนึ่งวิเเล้วพูดต่อ" ว่ามา...จะให้กูทำไร”



                “มึงช่วยหาที่อยู่ไอ้เชี่ย...เอ่อ คุณชายอะไรนี่ให้กูหน่อยได้มั้ย”



                “อีเข๊า!!!” มันร้องขึ้นเสียงสูงพร้อมกับทำมือทาบอกแบบตกใจสุดขีด



                “ร้องหาพ่อกูหรอ”



                “เอออยากได้ ไม่ใช่โว้ย! นี่มึงจะไปจับพี่เค้าหรอ ถึงคุณชายจะรวย ล่ำ ...ใหญ่ก็เถอะ แต่มึงอย่าไปทำอะไรพี่เค้าเลย กูขอออออออออออ”



                “ขอมาแดกเองสิมึงอะ โวยวายชิบหาย กูไม่ได้จะไปจับอะไรหรอก กูจะส่งเสื้อไป...ไปขอโทษไง” ตอแหลมากกูเอง มิสเตอร์ยูนิเวอร์แหลแห่งจักรวาล ผมมีแผนแล้วเรื่องอะไรจะต้องไปคืนให้มันที่คณะ เเล้วมันก็ไม่ได้บอกว่าต้องคืนที่ไหน หึ ผมบอกเลยว่าจะไม่ไปเหยียบแดนอักษรสววรค์สาวงามให้อับอายอีกเด็ดขาด วิธีนี้เด็ดสุดมันตามไม่ได้แน่นอน คนฉลาด ดร.ภูเขา สเปิร์ม เอ๊ย คอนเฟิร์ม



                “ปัญญาแค่ขี้ฝุ่นอย่างมึงเนี่ยนะจะไปขอโทษ” เบะปากแป๊บ ทำไมคนอย่างกูนี่ทำแบบนี้ไม่เป็นไง๊



                ผมถอนหายใจแล้วถามต่อ “เมื่อไหร่?”



                “ไม่นานหรอก สายกูเยอะ”



                “ไม่ เมื่อไหร่จะหยุดพูดอะ เสียงแหลม”



                “อีเขา! อยากให้กูช่วยก็บอกดีๆ”



                “ฮ้าว ง่วงดีกว่าเรา”



                “อีเขาคนจังไรรรรรร”



                อีแจ็คโวยวายเป็นกระเทยโดนผู้ชายลวนลามใส่ผมใหญ่ ผมก็เลยกลิ้งตัวไปอีกฝั่ง มันก็ยังตามมาแว้ด จนผมเผลอหลับไป ในฝันนั้นผมเห็นปีศาจหน้าหล่อมีเขากับเขี้ยวงอกออกมา เวลามันอ้าปากผมเห็นหน้าตัวเองอยู่ในนั้น ในความฝันทุกที่ที่มองมันเป็นสีแดงไปหมด ผมอยู่ในปากมันจริงๆ หรอเนี่ย แฟนตาซีสัดๆ ตะโกนเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครได้ยิน มีแต่เสียงดังก้องกลับมา ขณะที่มันจะเริ่มพูด เสียงสะท้อนก็ทำให้ผมกลัวจนตัวสั่นจนเหงื่อแตกพลั่กๆ ผมไม่อยากตายอยู่ในนี้!!



            “จำเอาไว้ มึงต้องซักให้สะอาด ห้ามมีรอยเปื้อน! ห้ามยับ! ซักมือเท่านั้น ถ้าไม่ดี กูตามถึงบ้านแน่!!”



                เฮือก!!!

               

                “ซักผ้า!!”

               

                ผมสะดุ้งตื่นพร้อมกับตะโกนลั่น ใจเต้นจนแทบระเบิด มองรอบๆ ตัวแล้วก็คิดได้ว่ากูไม่ได้อยู่ในปากใคร ภายในบ้านเริ่มมืดระลึกได้ว่าอีแจ็คออกจากบ้านไม่เปิดไฟให้กูเลยนะ ผมลุกขึ้นไปเปิดไฟเดินข้ามกระเป๋าย่ามที่กองไว้ตรงพื้น แล้วกลับมานั่งที่โซฟา พอนั่งก็หิวน้ำก็เออไปกินน้ำดีกว่า เดินข้ามกระเป๋าย่ามที่บรรจุเสื้อเน่าๆ นั่นเป็นครั้งที่สอง พอถือน้ำกลับมาก็เดินผ่านกระเป๋าย่ามเป็นครั้งที่สาม



                ย่าม ย่าม ย่าม ย่าม ย่าม ย่าม



                โอ๊ยยยยยยยยย ซักก็ซักดิวะ กลิ่นโชยเรียกกูอยู่ได้!



                เดี๋ยวจะซักไม่ให้รู้จักรอยเปื้อนเลยคอยดู หลอกหลอนชิบเป๋ง!!






tbc
======
จริงๆ ใจก็รู้สึกผิดเเหละเเต่ปากสุนัขไปหน่อยนะ
แกลืมอะไรไปเปล่าเขาา
 :กอด1: :L2:
ขอบคุณทุกคนมากค่ะ



หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 บทนำ p.1 [03-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 05-09-2017 12:47:22
คุณชายจะต้องไปโดนของอะไรในอนาคตคะ ถึงต้องมาเป็นพระเอกคู่กับคนบ้าแบบนี้ 5555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 บทนำ p.1 [03-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 05-09-2017 13:02:19
ติดตามค่ะ แค่เริ่มก็น่าสนุกแล้ว แอบฮาชื่อตัวละคร 55
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ตอนที่ 2 p.1 [08-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 08-09-2017 19:56:36
ระเบียบที่ 2 : ห้ามยับ



                เข้ เข้ด้วยช่วย เฮ้ย ช่วยด้วย ทำไม แฮ่กๆ มัน ซัก...แฮ่ก...ไม่ออกวะเนี่ยยยยย แช่ตั้งนานใส่นู่นนี่ตามที่ในเน็ตบอกแล้วทำไมมันยังเป็นสีเหลืองอยู่วะ ขัดมาเป็นชั่วโมงแล้วกล้ามกูขึ้นแล้วมั้งเนี่ย  โยกๆ ขัดๆ จนปวดแขนไปหมด


                “พอ! เลิก!” ไม่ทำแม่งละ ขว้างเสื้อลงในกะละมังแรงไปหน่อย น้ำกระเด็นเข้าตาอีก โอ๊ย ชีวิต นั่งนิ่งๆ มอง แต่ก็มาถึงขนาดนี้แล้วลองดูอีกที ผมบิดเสื้อ สะบัดชูขึ้นท้าแสงไฟอีกที ตรงไหนที่มันยังพอซักได้วะ


                “ทำไรน่ะเขา เห็นนั่งตั้งนานสองนาน” พ่อเลี้ยงเดี่ยววัยสี่สิบสามแต่หน้าตายังหล่อเหมือนตอนหนุ่มเดินเข้ามาถาม เกิดมายี่สิบกว่าปีก็มีลูกมีเมียซะแล้วพ่อผม ดีจริงๆ


                “เสื้อมันเปื้อนอะ เฮียทิว” พ่อผมเองครับ คุณทิวเขา แหมะ ชื่องี้เท๊เท่ ตอนเด็กๆ เพื่อนล้อหาว่ากูหัวแหลมเหมือนภูเขาเลยได้ชื่อภูเขา โกรธมากบอกตรง พ่อเป็นคนที่บ้ามอเตอร์ไซค์มากกกก ถึงขนาดเปิดร้านขายมอเตอร์ไซค์กับเพื่อนสนิท แถมชอบแต่งตัว เจาะหู ไถผม คือมีสไตล์สุดๆ  เด็กท้ายซอยสรรเสริญบูชาเรียกเฮียกันทุกคน ผมเลยติดปากมาด้วย พ่อผมเจ๋งสาดไปเลย ตอนวัยรุ่นนี่ทำทุกอย่างที่คนดีเขาไม่ทำกันอะครับ อู้หู เจ๋งโพดๆ


                “ว่าไง” พ่อเดินเข้ามายืนพิงประตูหลังบ้านมองผมที่นั่งกอดกะละมังซักผ้าก่อนจะชะโงกหน้ามาดูเสื้อที่อยู่มือผม “เหลืองขนาดนี้ซื้อใหม่เถอะ”


                “เขาจนง่ะเฮียทิววว” ทำหน้าอ้อนพ่อแป๊บ ลูกน้อยอ้อนพ่อต้องใจอ่อน พ่อก้มมองแล้วย่นจมูก “เนี่ย วันก่อนพึ่งประมูลอัลบั้มคอนเสิร์ตของพี่โตได้ เดือนนี้เขาต้องกินแกลบกับน้ำปลาแน่ๆ เลย กระซิก” ปกติพ่อจะให้เงินเดือนครับแล้วให้บริหารเองไอ้เขาก็บริหารซะดิบดี โอนค่าบั้มไปจนหมดสิ้น


                “นะ...เฮียทิว จ๊นจนนนอะ ”


                “ตอแหลเหมือนแม่มึงจริงๆ”


                “ชะอุ้ย น่า...ขอตังค์หน่อย เสื้อตัวนี้ตัวโปรดเลยเนี่ย”


                พ่อทำหน้าไม่เชื่อ เพราะเสื้อที่อยู่ในกะละมังไม่เหมือนเสื้อตัวโปรดของผม เสื้อไอ้คุณชายถึงจะเปื้อนแกงเผ็ดแต่ส่วนที่ไม่เปื้อนมันขาวจั๊วเลยนะครับ ถ้าเป็นเสื้อผมละก็ต้องเหลืองทั้งตัวต่างหาก กร๊าก


                “เออ ตังค์ห้าร้อยอยู่บนโต๊ะไปเอาเอง”


                ผมตะโกนด้วยความดีใจ หยิบเสื้อติดมือมาพร้อมกับวิ่งเข้าไปหาพ่อ “เย้ รักเฮียทิวที่สุด จุ๊บ”


                “ไอ้เขา!” พ่อลูบแก้มหน้าแดงนิดๆ แล้วก็ร้องด่าผมลั่นบ้าน


                “เขาออกไปซื้อเสื้อก่อนนะเดี๋ยวห้างปิด”


                “เรื่องของมึง” ไงล่ะพ่อผม


                ผมคว้าถุงพลาสติกยัดเสื้อคุณชายลงไป ส่วนมืออีกข้างก็คว้ากระเป๋าตังค์ตัวเองกับตังค์พ่อแล้ววิ่งออกมาจากบ้าน นี่ก็จะทุ่มนึงแล้วแต่ไม่เป็นไรครับ แถวบ้านมีห้างชื่อดังอยู่กว่าจะปิดก็นู่นแหละสามสี่ทุ่ม


                “พี่เสกๆ” ผมโบกมือเรียกวินหน้าปากซอย พี่วินคนนี้เป็นคนที่ผมขึ้นประจำ ขึ้นรถพี่เขาน่ะ อย่าคิดลึก พี่เสกเป็นคนดียิ้มง่าย ยิ้มทีเห็นแต่เหงือกฟันหน้าแม่งหายไปไหนไม่รู้ พี่เสกบอกทุกวันนี้ไปแจ้งหลายสน.แล้วยังหาฟันหน้าไม่เจอ พี่วินคนนี้เป็นคนบ้าคำถาม เวลาขึ้นรถฮอนด้าสกู้ปปี้ไอสีขาวของแก ต้องตอบคำถามให้ได้ก่อนถึงที่หมาย ถ้าตอบถูกฟรี ไม่ถูกก็จ่ายตังค์ ซึ่งก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว บอกเลยว่าตรงนี้หาเรื่องให้กูปวดหัว


                “ไปไหน?”


                “เซ็นโทร่ว” ผมว่าแล้วก็วาดขาซ้อนรถ พี่เสกยังไม่ออกรถหรอก ผมรู้เจ็บมาเยอะ บางทีรีบต้องมาตอบคำถามนี่อีก


                “คำถามวันนี้ถามว่า สีอะไรมีลูกชาย” พูดจบพี่เสกก็แว้นออกไปเซ็นทรัลศูนย์การค้าแห่งสยามประเทศ


                เสียงลมตีหูดับพรึ่บพรับ ตอบมั่วเลยละกัน “สีแดง”


                “ไม่ชั่ย ไม่ช่ายยย”


                “สีเหลือง”


               “ไม่มีอะไรจริงๆ นะ”


                “สีเขียว”


               “ไม่ชั่ย ไม่ช่ายยย”


                ตอบไปกี่ข้อพี่เสกก็หัวเราะหึหึฮ่าฮ่า อะไรวะ สีอะไรมีลูกชาย


                “สีกันจนได้ลูก” คำตอบสุดท้าย


                “เสื่อมจริงๆ เลยคำถามพี่เสกไม่ลามกนะ”


                “เฉลยเลยเหอะ” กูรำละ แตรง แตร่ง แตร่ง แตร้งงง


                เอี๊ยด!


               “อะ...ถึงแล้วเซ็นโทร่ว เฉลยมา”


                “สีที่มีลูกชายคือ....” ผมลงจากรถพี่เสกต้องมาลุ้นคำตอบจนเยี่ยวเหนียว “คือออออออออออออออออ”


                “ผมไปละพี่” หันหลังเลย เนียนไม่จ่ายตังค์


                “เดี๋ยวๆๆๆๆ สีนั้นคือสี...สีโอรส!”


                “นั่นมันโอโรช!”


                “ผ่าม!”


                ผ่ามแม่พี่อะ ผมเบะปาก ยัดตังค์เหรียญใส่มือพี่เสก กูบอกเลยว่ากริบ “พี่เสก มึงรีบไปได้แล้วไป” ผมโบกมือไล่ มุกไม่ฮากูเครียดหนักเลย วันๆ เห็นหน้านิ่งเข้าวินไม่ใช่ไร ไม่ได้เครียดเรื่องไม่มีเงิน เครียดเรื่องนึกมุกไม่ออก


                ผมเดินเข้ามาในห้างจำได้ว่ามีร้านขายชุดนักศึกษาอยู่นี่หว่า ชั้นสองมั้ง เดินขึ้นบันไดเลื่อนที่คนยืนอยู่ประปราย มองนู่นนี่ไปเรื่อย แต่แล้วผมก็เห็นไอ้คุณชายกำลังลงบันไดเลื่อนในขณะที่ผมกำลังจะขึ้นไป เชี่ย เชี่ย เชี่ย ผมยกถุงพลาสติกมาบังหน้าแต่ก็แอบมองไอ้คุณชายยืนหลังตรงหน้าตาไม่สบอารมณ์อยู่ตรงนั้น คือบอกเลยว่าเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดหาง มันมีออร่าอยู่กลางไปบันไดเลื่อนเลยครับ หมดคราบเลอะเทอะที่เจอวันนี้เลย ขายาวๆ เข้ากับกางเกงสแล็คสุดๆ แถมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนลายทางถี่ๆ ของมันยิ่งทำให้ดูมาดคุณชายไปอีก หุ่นจะดีอะไรเบอร์นี้วะ เพี้ยะ! ไม่ต้องตกใจ ตบแก้มตัวเองเรียกสติแล้วก็แอบดูใหม่


                “โห ระเบียบแม่งคงจัดจริง”  ทั้งบันไดเลื่อนเนี่ยคนก็ยืนซ้ายขวาสะเปะสะปะกดมือถือบ้างไรบ้าง แต่คุณชายคนนี้ยืนตรงชิดขวาอยู่คนเดียวเลยครับ มีสมาธิกับการลงบันไดเลื่อนมาก ทำให้คนข้างหลังต้องยืนชิดขวาไปด้วยคงจะเป็นเพื่อนมันนั่นแหละผมว่า จำตีนได้ ดูผ่านๆ อย่างกับหนังมาเฟียต้องมีคนคอยตาม


                “ชะอุ้ย...” แทบสะดุด ถึงชั้นสองแล้ว ผมชะโงกหน้ามองไอ้คุณชายที่เดินออกจากบันไดเลื่อนตรงไปที่ประตูทางออก ดีแล้ว ไม่ต้องเจอกัน กูจะซื้อเสื้อคืนให้มึงแล้วก็เลิกแล้วต่อกันนะ


                “พี่เอาเสื้อไซส์นี้ ผ้าแบบนี้ สีนี้นะพี่”


                ผมเดินมาถึงร้านด้วยความเซอร์ถุลพร้อมกับยื่นถุงพลาสติกใส่เสื้อเปียกมาให้เจ้าของร้าน มองไร ไม่เคยเห็นคนเท่หรอวะ


                “คุณน้องงงง ไซส์นี้ สีขาวแบบนี้อะพี่มีนะคะ แต่ผ้าแบบนี้ไม่มีค่ะ” พี่สาวเจ้าของร้านที่มีสายวัดตัวประดับลำคอเหมือนเป็นสร้อยพูดหลังจากรับเสื้อที่เปียกมาพิจารณา


                “ทำไมไม่มีผ้าแบบนี้ล่ะพี่”


                “โอ๊ยยย ผ้าแบบนี้แพงจะตายใครเขาเอามาตัดเสื้อนักศึกษา พี่ก็ขาดทุนพอดีสิคะคุณน้องง” ไอ้เชี่ยคุณชายมึงใส่เสื้อทอด้วยใยธรรมชาติในเทือกเขาอัลลาปาระกาก้าหรอวะ



                “ชิบหาย...”


                “ไม่หายหรอกค่ะ เรือพี่ตั้งตรงนู้น” พี่แกชี้ไปที่เรือสำเภาบนหิ้งบูชา ผมมองตามนิ้วมือแล้วก็ต้องกรอกตาลงแป๊บบบ


                “ชิบหายครับพี่ไม่ใช่ชิบเรือ พี่มีเนื้อผ้าที่ใกล้เคียงสุดๆ มั้ย” ผมต้องหาทางออกนี้ให้ได้!


                “ไม่มีค่ะ พี่มีแต่ผ้าหยาบๆ ทำไมคุณน้องไม่ลองไปที่แบรนด์ล่ะ นี่อะ...” พี่แกยื่นคอเสื้อที่มีชื่อแบรนด์ของเสื้อไอ้คุณชายให้ผมดู เข้ ทำไมกูโง่ ผมรีบคว้าเสื้อผงกหัวขอบคุณแล้ววิ่งออกไปหาร้านแบรนด์นี้ทันที

               







                “สองพันถ้วนค่ะ ตัวนี้ลดราคาอยู่พอดี”


                ผมตาเหลือกตอนที่ก้มหาเงินในกระเป๋า ลดโพ่งมึงงงงง มันใส่เสื้อนักศึกษาอะไรตัวสองพัน ตัวมึงเป็นทองไง๊ ทั้งตัวมีห้าร้อยเจ็ดสิบเดียวรวมตังค์พ่อแล้วด้วย


                “ลดแล้วลดอีกได้มั้ยครับพี่คนสวย”


                “ไม่ได้จริงๆ ค่ะ”


               “เส้นผมยังบังภูเขา แล้วความรักเราจะทำยังไงครับ”


                “ไม่มีเงินก็ไปเล่นตรงนู้นไปค่ะ”


                เพราะเหตุนี้ไอ้เขาจึงต้องโทรไปขอยืมตังค์เพื่อนหมูพันห้าให้โอนมาด่วนๆ โดนมันด่าอยู่ห้านาทีเต็มๆ กว่าเพื่อนจะโอนมาให้ จากนั้นรีบวิ่งไปกดแล้วก็กลับมาหาพี่สาวคนสวยทันที พี่สาวยื่นถุงกระดาษเเบรนด์ดังมาให้ผม ส่วนผมที่รับถุงมาแล้วก็ทำหน้าหงิกงอสาปแช่งไอ้คุณชายจนพี่พนักงานสะดุ้ง

 
               “ขอให้ขายดีๆ ครับพี่แพงๆ แบบนี้คนช๊อบชอบ”

 





วันต่อมา

                Jackies อยากมีผัว กำลังโทรหาคุณ เเหมะ ชื่อมันยาวจนจะเกินหน้าจอมือถือรุ่นเดอะของผมอยู่แล้ว


                ติ๊ด!


               (อีเขา ที่อยู่คุณชายได้มาแล้วมึงงงง)


                “อือ...”


                (ไม่อยากจะบอกบ้านพี่เขาอยู่ห่างจากหมู่บ้านเราไปสองหมู่บ้านเอง โอ๊ยย อะไรจะบังเอิญปานนี้ บ้าบออออ)


                “เออ รีบๆ ส่งมากูจะเอาเสื้อไปปาบ้านมัน”


                (หยุดความคิดจ.ร. จังไรของมึงเลยนะ ทำเสื้อเค้าเปื้อนก็ซักไปคืนตามที่เค้าบอก ชนแล้วหนีแบบมึงเค้าไม่กระทืบก็บุญเท่าไหร่แล้ว แล้วเนี่ยเมื่อไหร่มึงจะเปลี่ยนมือถือสองจีของมึงซักที นี่มันหมดยุคส่งเอสเอ็มเอสแล้วนะอีดรก)


                “อย่าพูดมาก เอามาเร็วๆ”


                (เออค่ะ เลี้ยงเตี๋ยวเป็ดกูด้วย)


                “จ้ะ ขอบใจมากแจ็คที่รั...”


                ติ๊ด!


                อิเวงงง


                เช้านี้ผมไม่มีเรียนและอีแจ็คก็มีเรียนทุกวัน ถึงไม่มีเรียน มันก็จะออกไปแรดกับเพื่อนสาวของมันเสมอๆ ข้อดีของการไม่ติดโซเชียลคือกูไม่ต้องรับรู้ข่าวสารอะไรทั้งนั้น ดีตรงไหนวะ ช่างแม่ง ผมหยิบกีตาร์ไฟฟ้ามาดีดรอข้อความจากอีแจ็ค นี่ลูกตัวที่สอง เส้นเอ็นนุ่มดีดเหมาะมือ บอกเลยว่ารุ่นนี้ซื้อเลียนแบบมือกีตาร์ของวงซิลลี่ฟูส์สุดที่รัก WASHBURN DIMEBACK  สีดำแบบด้าน หล่อจริงลูกพ่อ


                “เธอบอกว่าวันนี้เป็นวันนี้ไม่เคยจะเหงาฮู้ว เธอบอกว่าวันนี้เป็นวันของเราฮู้วว อาจ...เป็น...” เสียงร้องของพี่โต ซิลลี่ฟูส์ โคตรบาดใจผมเหลือเกิน ร้องไปเหมือนกลั้นลมหายใจไปด้วย โอ๊ย มีเสน่ห์


                แต่ว แด้ว แด้วววว เสียงไม่ถึงคีย์ เอาใหม่ “อาจ...เป็น...เพียงคำพูดลมๆ แล้งๆ เท่าน้านนนนนนนนนนที่เธอพูดออกมะ...ฮ้า”


              “ไหนว่าจะไม่หลอกกัน....ไหนว่าเธอจะมีช้าน...ไหนว่าเธอ...จิ...เป็น...เหมือน...”


              *ไหนว่าจะไม่หลอกกัน – Silly Fools


                อุแว้!


                ชะ...แทบดีดพลาดเสียงข้อความเข้ามันเร้าใจจริงๆ


                ผมมองดูที่อยู่แล้วก็เก็บกีตาร์ หึหึ ไอ้คุณชาย กูรีบเอาเสื้อไปคืนมึงเลยเนี่ย ผมซื้อกล่องไปรษณีย์มาเรียบร้อย นั่งพับด้วยความบรรจงกลัวกล่องยับแล้วไอ้คุณชายจะไม่เปิดดู เสื้อสองพันไม่หารใครผมก็เอามาซักอย่างเบามือไม่มีรอยเปื้อนตามที่มึงบอกเด๊ะ เรียบร้อยแล้วก็รีดผ้าแบบกริบ บอกเลยว่ากริบ ไงล่ะ มึงควรภูมิใจนะ เสื้อตัวแรกที่กูรีดคือเสื้อมึงเลย ปกติผมสะบัดๆ ใส่ เดี๋ยวเดินกลางแดดก็เรียบเองให้ความร้อนจัดการ


                แผนของผมคือ ผมจะเอาไปส่งที่บ้านมันด้วยตัวเอง เนียนเป็นไปรษณีย์ไทยส่งไกลทั่วจักรวาล ผมจึงพับเสื้อด้วยความประณีต ใจจริงอยากจะใส่ไม้แขวนให้ แต่เอาไปแขวนหน้าบ้านมันกลัวมีพิรุธ เลยพับอย่างดีใส่ถุงพลาสติก ติดสก๊อตเทปกันมันเคลื่อนตัวแล้วจะยับอยู่ในกล่อง ปิดกล่องเรียบร้อยก่อนจะเขียนที่อยู่มันลงบนหน้ากล่อง เอ๊ะ..ชื่อจริงชื่อไรวะ...ลืมถามอีแจ็ค


                “คุณชายละกัน ตามนั้น” ผมเขียนเรียบร้อยก็หยิบกระเป๋ากีตาร์ลูกรักแล้วออกจากบ้านจะได้นั่งรถไปเรียนต่อเลย มองกล่องในมือ อื้อหือ ผมนี่มันโคตรฉลาด ยิ้มอย่างภูมิใจแล้วก็เดินออกจากบ้านมา ไม่ต้องล็อคหรอก พ่อยังไม่ตื่น


                “วินมอไซมั้ยค้าบบบบ”


                “เฮ้ยๆ พี่ไปด้วย” เยดเข้ พี่เสกอีกแล้วหรอเนี่ย กูเบื่อหน้าแม่งแต่ก็ต้องขึ้น ขี้เกียจเดินไปโบกวินที่หน้าปากซอย พี่เสกออกรถแล้วก็ถามขึ้น ผมต้องประคองกล่องและแบกกีตาร์ไปด้วย ประสาทกูต้องดีขนาดไหนแล้วยังต้องมาแบ่งสติคุยกับพี่เสกอีก


                “อ้าว เขา ขึ้นมาๆ ไปเรียนหรอ”


                “พี่เสกไปหมู่บ้านรันจกุล”


                “หื้อ เขาจะไปทำอะไรหมู่บ้านคนมีกะตังค์”


                “เอาน่าพี่ไปเร็ว”


                “โอเค อะ มาวันนี้มีคำถามม้าอะไรไม่อยากนอนแล้ว”


                “พี่เสก หยุดถามซักวันได้มั้ยวะ” ถ้าถีบวินเสียค่าปรับกี่บาท บอกที


                “หยุดไม่ได้ขาดใจ”


                “ม้าลาย” ตัดบทแม่ง


                “ผิด”


                “ม้าน้ำ”


                “ไม่ใช่”


                “ม้าสีหมอก”


                “โน”


                “ม้าอะไรวะพี่”


                “มะง่วงอะ”


                “มะง่วงก็มะง่วงครับพี่”


                อยากจะยกตีนนวดขมับแต่ก็ทำไม่ได้ พี่เสกหัวเราะอารมณ์ดีตลอดทาง เออ จ่ายอยู่แล้วค่ารถอะ

               
                “เข้าไม่ได้นะครับ”



                “ทำไมอะพี่เพื่อนผมอยู่บ้านสุดซอยอะ”


                “เพื่อนน้องชื่ออะไรครับ”


                “คุณชาย รันจกุล” พี่ยามในตู้ยามหน้าซีด


                “จริงป้ะ เพื่อนคุณชายไม่เคยนั่งวินมาแบบนี้นะ” ชะ...เพื่อนมันหรูมันหมดเลยหรอวะ


                “พี่ พอดีรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูของผมเสียอยู่ตรงถนนใหญ่เลยต้องโบกวินเข้ามา มือถือก็แบตหมด นัดกับคุณชายไว้ เดี๋ยวท่านชายโมโหทำไง” ผมทำหน้าตาจริงจังจนพี่ยามลังเล


                “งั้น...น้องต้องวางบัตรประชาชนไว้”


                “ไรวะพี่ เออก็ได้ รีบๆ เปิดเลย”


                ผมวางบัตรประชาชนแล้วพยักหน้าบอกพี่เสกให้ขี่เข้าไป “ไปได้แล้วใช่มั้ย”


                “เชิญครับ”


                “ฟู่ววว”


                “เป็นไรพี่เสก”


                 “ก็เขาบอกให้พี่เงียบๆ พี่แทบไม่หายใจเลยอะ เกือบตดแล้วแต่กลั้นไว้”


                แล้ว...แล้วแต่มึงเถอะพี่เสกกก โอ๊ย ปวดหัวววว

               







                “หลังนี้แหละ”


                “เข้....อลังการงานสร้างบ้านทรงไทยโมเดิร์นแบบสมัยร.6 ร.7 เลยว่ะ โคตรสวย” ผมอ้าปากหวออยู่ข้างๆ รั้ว บ้านนี้เหมือนจะใหญ่ที่สุดแล้วเป็นหลังเดียวในซอยที่ยังคงสภาพแบบสมัยก่อนเอาไว้ สุดยอดเลย บริเวณบ้านก็ร่มรื่น โรงรถมีรถคุณชายจอดอยู่ จำได้รถมันหรู


                “เขาๆ ”


                “อะไรวะพี่”


                “จะทำอะไรอะ”


                “ผมจะเอาของมาให้เพื่อน เซอร์ไพร์สอะพี่ แต่ไม่อยากส่งไปรษณีย์เปลืองเงิน”


                “แต่นั่งรถมาส่งเอง?”


                “ใช่พี่ ความคิดดีป้ะพี่” พี่เสกชะโงกหน้ามาดูแต่ตัวก็ยังคร่อมเบาะอยู่


                “เปลืองตังค์พอกัน นี่มึงโง่หรือโง่”


                “ว่าไงนะพี่”


                “เอ่อ เปล่าๆ ...เออ ส่งไปรษณีย์แล้วทำไมไม่เขียนที่อยู่ตัวเองด้วยล่ะ ชื่อก็ไม่เขียน ปล่อยว่างๆ แบบนี้เดี๋ยวเพื่อนไม่เชื่อหรอกมาไปรษณีย์มาส่งจริงๆ”


                “หรอวะพี่”


                ผมขมวดคิ้วลังเล พี่เสกเสริมต่อให้ผมเอนเอียงไปทางพี่แกมากขึ้น “แล้วแสตมป์ก็ไม่ติด เจ้าของบ้านนึกว่าระเบิดทำไง เอ้าเอานี่ พี่เอามาด้วย”


                “เฮ้ยพี่โคตรเจ๋งอะ สะสมแสตมป์ด้วย”


                “แสตมป์เซเว่นเนี่ยแหละ ว่าจะแลกร่มลายไข่ย้อย”


                “ถุ้ย!”


                “ติดๆ ไปเหอะน่า อะปากกา เขานี่ไม่เตรียมพร้อมเล้ย” ส่ายหน้าเอือมกูอีก


                “ใจพี่ โชคดีแล้วผม พี่เสกแนะนำขนาดนี้ เพื่อนผมต้องตกใจสุดยอดแน่”


                ในใจผมเหมือนลืมอะไรตงิดๆ แต่ช่างแม่ง เขียนชื่อที่อยู่ผู้ส่งเสร็จ ติดแสตมป์เรียบร้อย ผมก็กดออดแล้ววางกล่องไปรษณีย์ไว้หน้าบ้าน แอบดูตรงรั้วไม่นานก็มี เอ่อ...นี่มันยุคไหนวะเนี่ย ดูเหมือนจะเป็นแม่บ้านหรือคนรับใช้ใส่เสื้อสีขาวกับผ้าซิ่นสีน้ำเงินเข้มวิ่งออกมาจากประตูข้างๆ แต่ก่อนที่เธอจะออกตัววิ่งนั้นก็มีเสียงเรียกดังมาแว่วๆ เช็ดเข้ ไอ้คุณชาย! มันทำท่าทางชี้บ้าใบ้อะไรซักอย่างแล้วคนรับใช้คนนั้นก็พยักหน้าเเล้วกลับเข้าไปในบ้านเหมือนเดิม ที่ไม่เหมือนเดิมคือไอ้คุณชายเดินออกมาเอง!


                ทำไมมึงไม่ไปรอสบายๆ ห๊ะ...เดินออกมาทำไม


                “พี่เสกๆๆ ไปๆ ออกรถมีคนมาเดินออกมาแล้ว”


                พี่เสกพยักหน้าอย่างแข็งขันแล้วก็สตาร์ทรถ


                “เฮ้ยพี่รถเป็นอะไร”


                “รถสตาร์ทไม่ติด”


                “ได้ไงอะพี่ เร็วรีบสตาร์ทเดี๋ยวคนออกมาเห็น” ผมมองพี่เสกที่พยายามกดปุ่มสตาร์ทรถตรงมือขวา ผมเงียบไปสองวิแล้วเอ่ยถาม “ทำไมไม่ใช้โตเกียว”


                “ทำไมต้องใช้โตเกียว” พี่เสกเงยหน้าขึ้นมาถาม


                “เพราะใช้แล้ว...เครื่องฟิต...สตาร์ทติดง่าย”


                “โทษนะ ไอ้น้องเขา...อันนั้นไดเกียว พูดซะพี่หิวเลย”


                เอ๊ะหรอวะ แต่... “พี่อย่ามาเปลี่ยนเรื่องรีบสตาร์ทเลย” เสียงแข็งเข้าสู้


                “เออ เป็นอะไรวะ เมื่อกี้ยังดี เฮ้ย!!...” จู่ๆ พี่เสกก็ร้องขึ้นมา


                “เป็นไรพี่!”


                “ลืมเอาขาตั้งขึ้น”


                แต้แว้ด!


                พี่เสกนี่มึงง่าวใช่ม้ายยย รถสกูปปี้ไอมันต้องเอาขาตั้งขึ้นก่อนถึงจะสตาร์ทได้ รถมึงจริงป้ะเนี่ยยยยย


                เฮ้ยๆๆๆๆ คุณชายเดินจะถึงประตูรั้วแล้ว


                “ไปๆๆ” ผมโดดขึ้นรถพี่เสกแล้วพี่แกก็ออกตัวแรงสมใจ หันไปมองก็เห็นไอ้คุณชายที่ยืนจ้องกล่องไปรษณีย์อยู่ลิบๆ


                หมดเวรหมดกรรมกับซักที ไอ้คุณชาย เอามาคืนถึงบ้านแบบนี้มึงก็ตามหาบ้านกูไม่ถูกหรอกเว้ย!


                เอาไปเชยชม นอนดมให้สมใจ เสื้อห้ามเปื้อน ห้ามยับมึงเนี่ยยยย





======

ถามว่าใครฉลาดสุดในเรื่องนี้
ขอบคุณค่ะ
 :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ตอนที่ 2 p.1 [08-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: naya-devil ที่ 08-09-2017 21:10:58
ชอบอ่ะ สนุกดีๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ตอนที่ 2 p.1 [08-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 08-09-2017 21:55:25
โอย ขำใจจะขาด ขำได้ทุก3วิ
ดีงามค่ะน้องเขา เขียนที่อยู่ให้เค้าพร้อม
คุณชายจะระเบียบได้มากแค่ไหน ถ้าเจอน้องเขาคนเซอร์
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ตอนที่ 2 p.1 [08-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 08-09-2017 22:16:52
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ตอนที่ 2 p.1 [08-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 08-09-2017 22:37:41
น้องเขา ไม่ใช่มึงเขียนที่อยู่ตัวเองในกล่องแล้วหรอคะ พี่ละเหนื่อยกับมึงจริงๆ 555555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ตอนที่ 2 p.1 [08-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: donut4top ที่ 08-09-2017 23:02:18
จ้างพี่วิน 20 หยุดเล่นมุกที ขำจนปวดท้องไปหมดแล้ว55555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ตอนที่ 2 p.1 [08-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 10-09-2017 21:36:38
ค่ะชาตินี้หาไม่เจอหรอกบ้านเขาอ่ะ ที่อยู่ชัดเจนเชียว อีบ้าา 5555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ตอนที่ 2 p.1 [08-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 10-09-2017 22:58:17
บันเทิงมาก สงสารคุณชายต้องมาเจอคนแบบนี้ 55555555555555555555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ตอนที่ 2 p.1 [08-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 11-09-2017 20:30:25
พี่วินกับเขาเข้ากันได้ดีจริงๆ 555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ตอนที่ 2 p.1 [08-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 11-09-2017 22:56:14
นายเอกเรื่องนี้ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่สินะคะ
ต๋วงได้ใจจริงๆค่ะหนูเขา
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ตอนที่ 2 p.1 [08-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-09-2017 23:50:07
 :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ตอนที่ 2 p.1 [08-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-09-2017 08:01:00
รอคุณชาย ค่าตัวแพง  :mew2:
โผล่มาแว้บเดียวจริงๆ พูดก็ไม่พูด  :ling1:

หมู ก็น่ารัก ชื่อผิดรูปร่าง
ขำที่ไหล่ไหวดุ๊กดิ๊ก ตอนที่ดีใจ มีคนอยากฟังเรื่องที่พูด

แจ็ค เพื่อนเขา (เขาคน ไม่ใช่เขาควาย เอ๊ย.....เขา ชื่อคน /เหนื่อยเลย)ตลกดี บ้าบออออ

มุกพี่เสก โลโซ เอ๊ย.....วินไซค์ ขำสุดๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 3 p.1 [13-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 13-09-2017 18:03:52
ระเบียบที่ 3 :  ห้ามขัดคำสั่ง



                ผมแบกกีตาร์ลูกรักมาถึงมหาลัย สาวมองตรึม หยั่งเท่เลอว่ะ ผมกวักมือโบกรถรางตรงหน้ามอแล้วนั่งเบียดกับสาวๆ นั่งก้นเกือบตกเบาะอยู่ครู่หนึ่งก็ถึงคณะดุริยางค์อันเป็นที่รัก



                ตึ่ง โป๊ะ ตึ่งตะลึงตึ่ง โป๊ะ โป๊ะ ตึ่ง แฉ่



                ลานดนตรีตอนสิบเอ็ดโมงครื้นเครงไปด้วยเสียงกลอง คณะเรามีดนตรีอยู่ในหัวใจครับ ทำอะไรก็ต้องมีจังหวะ อย่างตอนนี้พี่ปีสี่กลุ่มสวรรค์รำไรกำลังโชว์ตีกลองถังกับอุปกรณ์ประยุกต์ที่ตั้งเรี่ยราดอยู่ใต้ต้นโพธิ์ของลานดนตรี ไม่ได้กลัวอาจารย์กันเลยนะพี่มึงงง แล้วนั่นเพื่อนรักผม ไอ้หมูก็ไปกับเขาด้วย ลืมบอกไปครับ เพื่อนหมู มันนามสกุลดรัมแห่งสาขาดนตรีแจ็สครับผม ไอ้พวกที่ตั้งวงกันอยู่ตอนนี้ก็พวกดรัมทั้งนั้น



                 “ตัวเด็ดแห่งอีกีตาร์มาแล้วโว้ยยยยย! โป๊ะ โป๊ะ ตึ่ง” อีกีตาร์ไม่ใช่คำหยาบนะครับ เครื่องมือของผมคืออิเล็กทริคกีตาร์ครับผม รุ่นน้องปีหนึ่งที่ห้อยป้ายชื่ออันใหญ่เท่าฟิวเจอร์บอร์ดมองผมพร้อมกับขำไปด้วย  แหมะ ได้ยินเสียงกลองแล้วใจมันคึกคัก เท้าขยับไปด้วยอย่างลืมตัว ส่ายตูดด้วยเอ้า วันนี้อารมณ์ดี



                “สิบยี่สิบสามสิบสี่สิบ เอ้า สิบยี่สิบสามสิบสี่สิบ



                นั่นไงประโยคขึ้นต้นมาแล้ว



                “มึงไปไหนมา”



                “ทำไมมาช้า”



                “หรือว่าเล่นว่าว”



                “สิบยี่สิบสามสิบสี่สิบ เอ้า สิบยี่สิบสามสิบสี่สิบ”



                “ผมจะไปไหน จะไปกับใคร ผมจะทำไร ก็ไม่เสือกนะค้าบบบ”



                ตึ่ง แซะ



                “ไอ้สัดเขา!”



                “อะไรของพวกพี่มึงเนี่ย ว่างอ่อ...”



                “มึงไม่ต้องมาปากดี เมื่อเช้ามีพวกเด็กอักษรมาถามหามึง” ไอ้หมูวางไม้กลองแล้วเดินมาผลักหัวผม พูดถึงคณะอักษรแต่ก่อนอาจจะสั่นเพราะอยากได้ แต่ตอนนี้ไม่สั่นแล้ว พออย่าพูด...ผมพึ่งทำภารกิจไปเมื่อกี้ หมดเวรหมดกรรมกันซักที



                “ถามไมวะ”



                “ไม่รู้ตัววววว ดุริยางค์เราโดนเพ่งเล็งแล้วไอ้เหี้ย” พี่ป้อน สวรรค์รำไร ตัวสมุนมือซ้าย ร้องออกมาเสียงแหลม



                “ประธานสโมฯ เป็นเพื่อนรักคุณชาย ถ้าเค้าตัดงบคณะเราทำไง” ส่วนคนทีผมยาวเฟื้อยนี่พี่แจ้ สวรรค์รำไร ตัวสมุนมือขวา



                “สมองอะคิดบ้าง ไม่ใช่ทำให้พวกกูด่อนเรื้อน”



                “เดือดร้อน!”



                ตึ่ง โป๊ะ!





                “ขอบใจ” ส่วนคนที่ยกมือไหว้รอบวงเนี่ย...พี่ฟั่น ชายผู้มีผมยุ่งเป็นสังกะตังคือตัวบอสของสวรรค์รำไรครับ



                “มึงไปช่วยไอ้ปั๊มแกะคอร์ดกีตาร์เดี๋ยวนี้ มันจะโชว์การแสดงดาวเดือน” ทำไมมันจะเล่นเพลงฮีบรูหรอ ถึงต้องใช้กูช่วยแกะ ผมหันไปมองพี่สิงห์เมียบอสที่เดินมาเกี่ยวคอผม พี่สิงห์ไม่ได้หน้าหวานปานน้ำผึ้งอะไรหรอก พี่มันแค่ผมยาวกว่าไอ้พี่ฟั่นบอสใหญ่แถมยังชอบกัดกันเป็นประจำ พอพี่สิงห์ด่า พี่ฟั่นก็ยอมทุกที พวกรุ่นน้องเลยเรียกพี่สิงห์ว่าเป็นเมียบอสครับ พูดก็พูดเถอะไอ้เรื่องนี้ก็ใช้กูจัง แถมวงดนตรีของผมไม่ได้ขึ้นเวทีงานเฟรชชี่ครับเพราะสโมฯ ขอวงจากดุริยางค์ไปเล่นเปิดแค่สองวง ไอ้เราเป็นรุ่นน้องจะไปสู้รุ่นพี่ได้ไง ขึ้นก็ไม่ได้ขึ้นต้องมาเป็นเบ๊คอยรับใช้พวกพี่มึงอีกกกกก



                “ไรอะพี่ ผมมีเรียนโว้ย” ผมโวย หางตาเห็นไอ้หมูที่ไม่ได้ช่วยปกป้องผมเลย



                “ในฐานะที่มึงนำความซวยมาเยือนพวกกู และกูต้องปกป้องมึงไม่ให้โดนกระทืบในตอนเช้า มึงต้องไปช่วยไอ้ปั๊ม ไม่ต้องเสือกมารักเรียนตอนนี้ จารย์สาเข้าบ่ายไอ้สัด” พอพี่สิงห์ปล่อยแขนจากคอผม ไอ้พี่ฟั่นก็เดินปรี่เข้ามาทันที เกรงใจอำนาจเมีย ใหญ่เหลือเกินมึงอะะะะะ



                “ไรว้า ผมก็จะเช็ดน้องบีมรอเรียนอะ” ผมบ่น บีมนี่คือชื่อกีตาร์ผมเองครับ



                ผลัวะ!



                “เช็ดเหี้ยไร มึงเรียนทฤษฏี”



                “ไม่ต้องมาเบะปาก” พี่ฟั่นแหกปากด่า พี่ กูขอล่ะ ไปสระผมหน่อยไป



                “เอะอะก็ใช้กู”



                “บ่นไร!”



                ผมเดินกระทืบเท้าเข้ามาให้ห้องกิจกรรม กูงอนพวกมึงทุกตัว เปิดประตูเข้ามาก็เจอไอ้น้องปั๊มนั่งหน้าเหมือนควายงงกับกีตาร์สีเพลิง มีกลุ่มน้องผู้หญิงที่นั่งเสียบโทรศัพท์ตรงมุมห้อง กำลังคุยเล่นกันหันมาไหว้ผมลวกๆ แล้วก็หันไปคุยกันต่อ นี่กูพี่มึงนะ!



                “พี่ขาวววววว วันนี้แต่งตัวนะระจัง”



                “น่ารักอยู่แล้ว ขอบใจที่ชมทีหลังไม่ต้อง”



                “นะระ หน้าหรี่อะนะพี่”



                “ไอ้ปั๊ม!”



                “หลอกเล่น หน้ามุ่ยยังไม่น่ากลัวเล้ย”



                “กูไม่ช่วยมึงละ เป็นรุ่นน้องก็เคารพรุ่นพี่บ้าง”



                “โอ๋ๆๆๆ”



                “ไม่ต้องมาโอ๋”



                “โอ๋ ภัคจีรามีลูกกี่คนนะพี่”



                แต้แว้ด!



                หน้าแตกไปอีก



                ไอ้สัด “ไปละ” คว้ากระเป๋าแม่ง รัมคัล ไอ้ปั๊มหัวเราะกร๊ากก่อนจะคว้าแขนผมแล้วดึงให้นั่งลง



                “เนี่ยๆๆ ผมแกะได้ครึ่งเพลงละ เป็นเพลงเก่า คอร์ดหายากอะพี่” ไอ้ปั๊มทำหน้าจริงจังแล้วยื่นกระดาษที่เขียนคอร์ดให้ผม เปลี่ยนโหมดไวเหมือนเปลี่ยนกางเกงในเลยนะ ตอนเลือกเดินกูว่าหลับตาเลือกแน่ๆ ผมหยิบกระดาษที่มันส่งให้มามองๆ แล้วก็ตอบกลับไป



                “ก็เก่งนี่ คิดว่าดีก็ทำต่อไป”



                “เอ้า พี่จะมาช่วยผมไม่ใช่หรอ”

 

                “ไอ้ปั๊ม” ผมทำเสียงเข้ม “ถ้าเราทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง เราจะผ่านความยากลำบากได้เว้ย”




                “โหพี่ เกือบเชื่อละแต่พอเห็นหน้าคนพูด ไม่รู้จะเชื่อได้รึเปล่า”



                “กูพี่เมิงงงง” ผมลากเสียงยาว



                “โทษๆ พี่”



                ผมล้วงกระเป๋าเอากล่องแว่นตาในกระเป๋ากีตาร์แล้วเอามาสวม ผมหน้าก็ยาวจัง เห็นรุ่นพี่ไว้ผมยาวแล้วเท่แต่ที่จริงแล้วทำให้คันหน้าผากชิบเป๋ง เอาหนังยางที่ข้อมือมามัดแม่ง จากนั้นผมคว้าเอามือถือไอ้ปั๊มมาพร้อมกับยึดหูฟังมาใส่ฟังเพลงที่มันกำลังแกะ ไอ้ปั๊มก็นั่งนิ่งเฉยเลย ผมเลยเงยหน้ามองมันที่เบิกตาน้อยๆ ของมันให้โตขึ้น



                “พี่เขาใส่แว่นแล้วมัดผมแบบเนี้ย กระแทกใจอย่างแรวงเลยพี่”



                ชะ...ภูมิใจคนชม ใจมากน้อง นอกจากเอ็งแล้วก็ไม่มีใครชมพี่เลย



                “ไม่ต้องชมก็ได้รู้ตัวว่าหล่อ”



                Rrrrrr Rrrrrr



                เกิดมาหล่อนี่ไม่รู้จะเครียดยังไงดี เฮ้ออออ



                “พี่เขา พี่..”



                ภูมิใจในหนังหน้าตัวเอง



                “พี่...”



                “อะไรวะเชี่ยปั๊ม”



                “โทรศัพท์พี่อะ เรียกควายๆ ไม่หันซักที” มันพึมพำแต่กูรู้สึกว่ามันด่ากูแน่นอน



                ผมพยักหน้านิดๆ แล้วล้วงมือเข้าไปในย่าม ผมก็พบวัตถุประหลาดสั่นเหมือนผีเข้า หน้าจอโชว์ชื่อคนโทรเข้าว่าพี่แซน พี่แซนคนนี้เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนมัธยมผมครับ เป็นพี่รหัสที่สนิทกับผมมากถึงมากที่สุด ตอนนี้ไม่เรียนหนังสือเพราะชอบค้าขาย มันขายทุกอย่างยกเว้นขายตัว ล่าสุดเปิดร้านเหล้า นอกจากจะชอบค้าขายแล้วพี่แซนยังชอบหาอีเว้นท์ให้ผมหาเงินอีกด้วย ดีใจตัวสั่น โทรมาแบบนี้ต้องหาเงินให้ผมแน่นอน  และก็ไม่ผิดจากคิดไว้



                (น้องรักกกกกกก)



                “พี่รักกกกกกกกกกกกกกกกกก” ผมร้องเสียงดังกว่าพี่แซนสามเท่าจนไอ้ปั๊มที่เอาหูฟังไปแกะคอร์ดต่อปากกระตุกเพราะเสียงรบกวนก่อนที่มันจะย้ายข้าวของไปนั่งอีกมุมของห้อง



                “พี่รักมีอะไรครับ”



                (กูมีงานให้น้องรักช่วย)



                “ว้าวว้าวว้าว งานอะไรครับ”



                (งานอีเว้นท์วันเกิดคุณหญิงอะไรซักอย่างวันอาทิตย์นี้ ไม่ไกลจากบ้านมึงด้วย)           



                “จริงดิพี่” ไม่ค่อยแปลกใจครับพี่แซนชอบบอกผมไม่เกินสี่วันก่อนวันงาน ถ้ากูป่วยมึงจะหาคนแทนได้มั้ยพี่ เเละไม่ต้องเเจกเเจงรายละเอียดอะไรให้มากไอ้เขาไว้ใจพี่เเซนซำเหมอ



                (เออ พอดีลูกชายเค้าหานักดนตรีกีตาร์มาเล่นเพลงไทยเดิม กูเลยเอาคลิปมึงที่เคยเล่นลาวดวงเดือนไปให้ดูเมื่ออาทิตย์ก่อนแล้วเค้าก็สนใจมึง)



                พี่แซนรับจัดอีเว้นท์ด้วยครับ ไม่ได้โฆษณาใหญ่โตแต่คนที่รู้จักจะพูดกันปากต่อปาก ก่อนหน้านี้ก็จัดถี่เลย หลังๆ มาแกมีกิจการเยอะเลยเลือกรับครับ พี่แซนรู้จักเพื่อนๆ น้องๆ หลายสายงาน เลยชอบชวนผมไปทำงานด้วยบ่อยๆ เมื่อก่อนผมก็เทียวไปเทียวกับพี่แซนจนเฮียทิวบ่นว่าไม่อยู่บ้านเลย ส่วนไอ้สกิลกีตาร์คลาสสิคเนี่ยผมก็ฝึกเพราะลูกค้ารีเควสมา เพราะในทีมนอกจากพี่แซนแล้วก็ไม่มีใครเล่นกีตาร์คลาสสิคเป็น พี่แซนเลยมาเคี่ยวเข็ญผมฝึก เผื่อได้เรียกใช้เพราะพี่แกขี้เกียจ ผมก็เลยเล่นเป็นแต่ไม่กี่เพลงเท่านั้นแหละครับ



                “พี่...เท่าไหร่?”



                (คืนละ 500 ทำได้ทุกอย่าง ถุ้ย! กูไม่ได้ขายตัวไอ้น้องรักเวร)



                “พี่รัก! กูหมายถึงค่าจ้าง พี่ให้ผมเท่าไหร่” คุยกับพี่มึงแล้วกูชือกบาล ภาษาเขมรแปลว่าปวดหัวครับ



                (อ้าวไอ้เหี้ยมาถามกูงี้กูเสียวตูดดิวะ เออๆๆ รายนี้ให้เยอะเว้ย งานใหญ่บรรดาคุณหญิงคุณนายมากันเพียบ มึงเล่นสองช่วง ช่วงเปิดงานกับอวยพรวันเกิด เอาคลาสสิคเพลงละสองรอบ นอกนั้นมึงก็เตรียมดีดเพลงเก่าๆ ไว้ ไม่นานแต่กูแบ่งให้มึงพันแปด)



                เหยดดดดดดดดดดด มันเยอะสำหรับการเล่นแค่นั้นนะครับ



               “โคตรเยอะเลยพี่ ผมกำลังกินแกลบกับน้ำปลาอยู่เลยช่วงนี้” คิดถึงเงินที่พึ่งเสียไปแล้วมันเจ็บจี๊ดๆ



                (กูไม่เคยลองว่ะ อร่อยใช่ได้มั้ย)



                “เค็มไปหน่อยถ้าจะกินก็ลดน้ำปลานะ”



                (กูล้อเล่น! บอกแค่นี้ เตรียมซ้อมเพลงด้วย แล้วก็งานหรูนะมึง ต้องเนี้ยบหน่อย แล้วแต่งตัวใส่สูทนะไม่ใช่กะโหลกกะลา)



                “น้องรักหล่อเนี้ยบอยู่แล้วครับ”



                (เอาที่สบายใจ เออ...แล้วเตรียมบัตรประชาชนด้วย เค้าตรวจเข้มกลัวมีคนชั่วเข้างาน)



                “โหหหหห โคตรเข้มว่ะพี่ ได้ๆ ผมจะเตรียมพร้อมเลยบัตรประชาชนก็...อยู่ อยู่ไหนวะ”



                (ไอ้สัดเขาอย่าลืมนะมึง เจ้าของงานเค้าย้ำกูชิบหายเรื่องนี้)



                “ไม่ลืมพี่ไม่ลืม อยู่ในกระเป๋าไม่ก็อยู่บ้านเนี่ยแหละ”



                (เออ ให้ดีนะมึงอย่าให้พลาด อยากให้น้องมีเงินใช้)



                “ขอบคุณคร้าบ ซียูรูอะเกนนะพี่รัก”



                (โอเค ซียูแทงรูอะเกน น้องรัก เจอกันวันอาทิตย์ที่บ้านมึง)



                วู้วฮูวววววว ไอ้เขาจะมีเงินใช้แล้วโว้ยยยยย



                “เย้!!!!!!!!!!!” ลืมตัวเผลอตะโกนพร้อมกับลุกขึ้นกระโดดไปมา



                เอ่อ...



                “พี่เขา ที่ผมชมว่าน่ารักเมื่อกี้ผมพูดเล่นนะครับ”



                ไอ้สัดปั๊มมึงไม่ต้องพูดดังได้มั้ยยย

 







                “เลิกคลาสวันนี้ได้”



                “เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ”



                เสียงร้องลั่นเหมือนฟุตบอลไทยไปบอลโลก เพื่อนคนอื่นวิ่งออกไปเหมือนถือคบเพลิงโอลิมปิค เลิกห้าโมงครึ่งแค่เนี้ย ดีใจไรนักหนา ไอ้หมูเพื่อนรักเก็บของเสียงดังก่อนจะใช้ตีนเขี่ยเฮียดุกที่นอนตายอยู่ ตอนมึงนอนคาบจารย์สาแล้วยังโชว์พลังเสียงอีกนะ เสียงกรนเนี่ยดังไปถึงดาวอังคาร



                “รีบไปไหนไอ้หมู” ผมถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนตัวผอมแห้งรีบเก็บของ



                “วันนี้กูจะไปดูน้องบีบี๋เต้นโคฟเวอร์ที่สยาม”



                “จริงดิ!”



                “ตื่นเต้นทำเชี่ยไร รู้จักหรอ”



                “รู้ดิ เต้นโคฟเวอร์คือเต้นในร่มช้ะ มีโคฟเวอร์บัง”



                “โอ๊ยยย กูล่ะตื่นเต็มตาเลย” อยู่ดีๆ เฮียก็ร้องขึ้น



                “ทำไมอะเฮีย”



                “มึงหัดเปิดยูทูปดูอย่างอื่นบ้างนะ ไม่ใช่ฟังแต่อัลบั้มพี่โต” เฮียดุกว่า แล้วลุกบิดขี้เกียจ



                “งอน”



                “เรื่องมึง” ไอ้หมูครับ มันลุกขึ้นเดินนำออกไปพร้อมกับเฮียดุก คือเฮียลุกแล้วเดินตัวปลิวได้เลยครับ ไม่ได้เอาเหี้ยไรมาเรียนซักอย่าง สมองยังไม่เอามาเลยครับคิดดู



                “อะไรวะ ไม่มีใครเข้าข้างซักคน มาเรียนก็เหมือนมาคนเดียว แม่ง ไม่มีใครสนใจเลย” ผมบ่นกระทืบเท้าออกจากห้อง เดินตามก้นพวกมันออกมาจากตึกก็ยังบ่น ทึ้งหัวตัวแม่งหนังยางรัดเจ็บไปหมด  แล้วแว่นกูอยู่ไหนเนี่ย



                “ไอ้เขา”



                จู่ๆ ไอ้หมูก็เรียกผมเสียงเบา “อะไรไม่ต้องมาง้อ”



                “มึง...ดู...”



                “ดูเชี่ยไร หาแว่นไม่เจอเนี่ย โกรธละนะ” พาลทุกอย่าง ตอนเข้าเรียนยังอารมณ์ดีเพราะจะมีเงินแท้ๆ



                ผลัวะ!



                “ตบไมวะเฮีย” ผมหน้ามุ่ยพลางลูบหัวจุดที่โดนเฮียดุกตบป้อยๆ



                “แว่นอยู่บนดั้งมึงไงไอ้เขาควาย ขยับแว่นแล้วก็เงยหน้ามองซะ มีคนมาหามึง...”



                แว่นลูกพ่ออยู่บนหน้าก็ไม่บอก ไหนอะไรวะ ใครมา



                ชะ....



                “กรี๊ดดดดดดด”   



                “อ๊ายยยยยยยย ทำไมคุณชายมาดุริยางค์ได้”



                “โอ๊ยยยยยยคุณพระ อกอีแป้นจะขาดรอนๆ ขอเซลฟี่ได้มั้ยวะ”



                “กรี๊ดดดด เค้ามารอใครตั้งนานอะดิมมี่”



                “ไม่รู้ค่ะพี่แป้งเห็นยืนนิ่งอยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว กรี๊ดดดดดด เนื้อสั่นอยากด้ายยยย เห็นใกล้ๆ แล้วอยากโดน”



                เข้....พอรู้สถานการณ์กูก็เริ่มเล่นใหญ่เอาตัวรอดทันที



                “เฮ้ยๆๆๆ กรี๊ดไรกันวะ แผ่นดินไหว แม่งหลบเร็วๆๆๆ แป้งพวกมึงกรี๊ดกันทำไมหลบสิ ไอ้หมู เฮียดุกจับกูทำไมปล่อย แผ่นดินไหวต้องไปหลบ”



                ผมทำท่าจะวิ่งหนีแต่เพื่อนสองขยับมาล็อคแขนซ้ายกับขวาไว้แน่น ที่ผมต้องรีบหนีเพราะคนที่ยืนกอดอกหลังตรงอยู่ตรงหน้าคณะ คือคุณชายตัวเป็นๆ! ตอนเช้ามีคนมาถามหาตอนนี้เจ้าตัวมารอกระทืบกูเลยมั้งเนี่ย หรือว่ามันไม่พอใจกับเสื้อห้ามยับอะไรนั่น



                “ปล่อยกูดิวะ” ผมสะบัดตัวแต่ไอ้เพื่อนรักทั้งสองยิ่งกำต้นแขนผมแน่นแถมยังลากผมไปอยู่ตรงหน้ามัน



                “เชิญครับ จัดการตามสบาย ถ้ามันกวนตีนก็ใช้ตีนตบหน้า เอ๊ย ใช้อวัยวะเบื้องล่างทำอันตรายที่ใบหน้ามันได้เลยครับ”



                “เฮ้ยยย พวกมึงอะไรของมึงเนี่ยย เพื่อนกูไม่ใช่อ่อวะ” ผมโวยวาย นาทีนี้ไม่ได้กลัวไอ้คุณชายซักนิด เพื่อนกันเค้าไม่ทำงี้หรอกนะพวกมึงง



                “ตัวมอมแมม” กูไม่ใช่หมาไม่ต้องทำหน้าดุ แล้วทำไมกูถึงหยุดวะเนี่ย ผมชะงักมองหน้าคนที่พูดออกมาคำแรกนิ่ง เพื่อนผมถอยหลังไปสามก้าวพร้อมๆ กัน



                “โชคดีนะเพื่อน โทษฐานที่งอนพวกกูไม่มีเหตุผล หนีตีนมาให้ได้ละเพื่อนรัก” ไอ้หมูว่าแล้วก็เผ่นแนบไปกับเฮียดุก



                “พวกมึงงงงงงงงงงงงงงงงง!” พอเห็นว่าหัวเดียวกระเทียมลีบความกล้าเริ่มจางหาย แต่ไม่ได้เว้ย ไอ้เขาคนจริง ค่อยๆ หันหน้าไปเผชิญปัญหาด้วยความกล้าหาญ...



                “มะ...มีไร”



                “ทำอะไรไว้ล่ะ”



                ผมใช้หลังมือดันแว่น มันเบี้ยวครับนอนหลับทับแว่นเมื่ออาทิตย์ก่อน ยังไม่มีตังค์ไปซื้อใหม่ “กูไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย เสื้อก็ซักคืนแล้วไง ส่งถึงบ้านด้วย ไม่ต้องถามนะว่ารู้จักที่อยู่ได้ไง ไม่ตอบหรอก”



                เดี๋ยวนะ... แล้วผมจะพล่ามไปหมดเปลือกทำม้าย



                “เป็นเด็กพูดกับผู้ใหญ่ดีๆ” มันขมวดคิ้วฉับ มึงยังพูดคำหยาบเลย! ไม่...ไม่...ผมไม่ได้กลัวมัน ไม่ได้กลัวมันจริงๆ



                “บอกแล้วใช่มั้ยว่าถ้าทำไม่ดีจะตามถึงบ้าน” มันเปิดประตูหลังรถแล้วเอากล่องไปรษณีย์ผมออกมายื่นให้ผมดู โอ้โห แผนผมเวิร์คมากจริงๆ ตามถึงถิ่น



                “ก็ซักคืนแล้วไงจะเอาไรอีก หรือมันยับเกิน จะต้องเรียบขนาดไหน”



                “นั่นไม่ใช่ซัก นั่นมันคือการซื้อใหม่” ทำผิดซักข้อนึงมันไม่ได้เลยไง๊ ก็มันทำไม่ได้ เข้าใจมั้ยวะ ไปซักเองไป กวนตีนกูก่อนแท้ๆ แล้วยังมาหาเรื่องด่าอีก ผมไม่สนเสียงซุบซิบหรือใครที่มองอยู่เลยครับ อารมณ์มันมา ฮอลคูลก็เอาไม่อยู่ครับนาทีนี้



                “ไม่ทำตามคำสั่งแล้วยังจะโกหกมันน่าหงุดหงิดจริงๆ” มันส่ายหน้าเหมือนเอือมระอาซะเต็มประดา แบบที่ผมมองแล้วรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที



                โกรธแล้วนะ ที่ซื้อคืนให้เพราะลึกๆ แล้วมันรู้สึกผิดไง แต่เพราะเป็นไอ้เขา ผมเลยตะโกนใส่หน้ามันอย่างเหลืออด



               “ก็มันซักแล้วไม่ออกนี่ ซักจนกล้ามจะขึ้นแล้วก็ไม่สะอาด มันซักไม่ออกก็ไปซื้อใหม่ให้แล้วไงวะ แพงก็แพง แม่ง! ดูมือ ผงซักฟอกกัดเนี่ยเห็นมั้ย เตารีดก็โดนแขนเนี่ย มึงเป็นใครก็ไม่รู้กูก็บ้าทำตามอยู่ได้!”



                เมื่อผมโชว์แผลให้ดูประกอบคำพูด คุณชายชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะพูดเสียงห้วน “โตเป็นโคในทุ่งหญ้าแล้วจะร้องทำไม”



                โค...โคอะไรนะ...ผมยกมือเช็ดหางตา น้ำตามาจากไหน เข้ ไม่เท่เลยเมี้ยงเอ้ย



                “มะ...ไม่ได้ร้องโว้ย” คุณชายส่ายหัวแล้วเดินไปที่รถ นี่จะไปก็ไปหรอ เออบาย



                “ขึ้นรถ” คุณชายเปิดประตูแล้วสอดตัวเข้าไปนั่ง อะไรของมัน ผมก็หนีสิ ชื่อก็ไม่รู้จัก ไอ้ที่บอกว่าตามถึงบ้านก็ขู่แหงๆ เขาไม่โง่นะครับ เลิกแล้วต่อกันนะพี่ พอเห็นผมเตรียมตัวจะหันหลังกลับพี่แกก็เลื่อนกระจกลง พร้อมกับหยิบกล่องไปรษณีย์ขึ้นมาแล้วอ่านออกเสียง



                “ชื่อที่อยู่ผู้ส่ง นายภูเขา บรรจงภักดี เบอร์โทรศัพท์ 083-23568xx บ้านเลขที่ 82/4 ซอย 7 ถนน...”



                “เฮ้ยยยยยยยยย!!” มาทั้งทะเบียนราษฎร์ มันทำหน้านิ่งแต่สายตายียวนไปจนถึงบาทาบ่งบอกให้รู้ว่าถ้าไม่ขึ้น มันสามารถจองเวรผมถึงรู้ถึงประตูหน้าบ้าน ไอ้คุณชายโบกสะบัดกล่องไปรษณีย์นั่นไปมา ผมตาโตอึ้งด้วยอารามควายเข้าสิง



                โน้วว....กูว่าแล้วลืมอะไร ไอ้พี่เสกเล่นกูแล้ววววว ผมไม่ได้โง่อย่างเดียวนะครับ โง่ชิบหายบรมควายตมยังเรียกพี่เลย



                กูจะเขียนที่อยู่ทำม้ายยยยยยยยยยยยยยย



                แทบจะทึ้งหัว คุกเข่าลงไปกับพื้น



                ใจมันเจ็บช้ำ...



                “จะขึ้นไม่ขึ้น” คุณชายส่งเสียงกดดันอีกครั้งแล้วก็หรี่ตามองผม ขอโอดครวญในใจก็ไม่ได้ อยากมีซีนอารมณ์



                “ไม่ขึ้น” พอผมตอบเท่านั้นแหละ เชี่ย...ตาดุขึ้นยี่สิบแปดเปอร์เซ็นต์ ผมจึงรีบพูดต่อ “ไม่ขึ้นได้หรอจ๊ะ”



                “พูดมาก” เนี่ยแล้วก็ทำหน้าดุใส่ด้วย กลัวง่ะ ยอมรับ แต่พี่ครับ เราไม่ได้รู้จักข้าวจี่อะไรกันเลยนะครับ อะไรนะ...มักจี่ เคๆ



                “จะพาไปไหนล่ะ...ครับ”



                พอผมถามคำถามนั้น ทั่วบริเวณก็เงียบสนิท



                “พาไปจัดระเบียบ”



                “...!?!”



                ขนลุกวาบ กระเพาะปลาคืนสุดท้ายขอเปลี่ยนเป็น หูฉลามที่เยาวราชแล้วกันนะพ่อ คืนสุดท้ายขอแพงหน่อย



                พาไป...จะ...จัด ระเบียบ....

               

               เนี่ย...นะ....







=====

ดีนะยังรู้ตัวว่าโง่ชิบหายบรมควายตมยังเรียกพี่อะเขา555
ดีใจไอ้เขาทำให้ทุกคนยิ้มด้ายยย
ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ
 :L1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 3 p.1 [13-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-09-2017 19:50:58
อ่านไปขำไป  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พี่ปีสี่กลุ่มสวรรค์รำไร อะจ๊ากกกก
ฟังชื่อกลุ่มแล้ว  :z1: :pighaun: :heaven

เขา มัดจุกแล้วน่ารักสินะ จนปั๊ม นิ่งอึ้งตะลึงตะไล

เขา เด็กน้อย พออยู่กับคุณชายสองคนร้องไห้เลย /น่ารัก น่าเอ็นดู   :o11: :o11: :o11:
แถมฟ้อง ให้ดูแผลจากการซักเสื้อ
ที่โดนผงซักฟอกกัด จากการขยี้ผ้า โดนเตารีดนาบที่แขน /น่าฉงฉานซะจริงๆ  :hao5: :hao5: :hao5:

คุณชาย จะพาเขาไปจัดระเบียบและ
แต่ให้สงสัย ถ้าเป็นคนอื่น ที่เขาว่าๆกันหลายๆคน โดนยำตีนไปและ
แต่เขาไม่โดนไรเลย ทั้งที่ทำข้าวแกงราดตัวคุณชาย น่าฉงฉัยซะจริงๆ  :katai1: :katai1: :katai1:
อยากอ่านพาร์คุณชายแล้ว  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 3 p.1 [13-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 13-09-2017 19:52:05
คุณชายจะพาน้องเขาไปลอกคราบหรอ 55555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 3 p.1 [13-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 13-09-2017 20:56:37
โอ้ย555555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 3 p.1 [13-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 14-09-2017 00:10:49
น้องเขาลูกกกกกกก

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 3 p.1 [13-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-09-2017 01:32:16
ทำไมหมูกะเฮียดุกทิ้งเพื่อนแบบนี้ละ อิอิ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 3 p.1 [13-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 14-09-2017 02:33:05
ดีค่ะคุณชาย จัดการเลย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 4 [17-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 17-09-2017 20:42:28
ระเบียบที่ 4 : ห้ามคิดไปเอง


                ผมวางกระเป๋ากีตาร์ไว้เบาะหลังโดยมีสายตาคุณชายมองตาม เมื่อมองดีแล้วว่าไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งจะทำให้เบาะพี่แกเป็นรอยผมถึงได้เปิดประตูเข้ามานั่ง


                หลังตรงเลยกู


                “เบาะเป็นหนามหรอ” ชะ...คุณชายพูดระหว่างที่รถติดไฟแดงหน้ามอ  เออ! ก็รถมึงหรูนี่ ข้างในรถหรูหรามากครับ พอมันว่าแบบนั้นผมเลยค่อยๆ ผ่อนแรงที่เกร็งลง แปลกใจว่าทำไมคุณชายถึงไม่มีคนขับรถ


                “พี่จะพาไปไหน” เพราะยังห่วงสวัสดิภาพของตัวเองผมจึงพูดจาเพราะๆ ให้สมกับขึ้นรถคุณชาย เดี๋ยวพูดไม่ดีโดนเตะโด่งออกจากรถทำไง เริ่มจับทางได้ว่ามันไม่ชอบให้ผมปีนเกลียว ตอนเจอกันครั้งแรกมันไม่ได้ประทับใจนี่หว่า จะให้พูดเพราะมันก็คันหัวใจยิบๆ พอมามองแบบนี้แล้ว อยากจะอุทานว่าทำไมมึงหล่อขนาดนี้เนี่ยยยย เป็นบุญตูดไอ้เขาแล้ว คนขับรถหน้าตาดี๊ดี แต่ดูเหมือนคุณชายจะไม่สนใจอะไรนอกจากการขับรถครับ อาจเป็นเพราะบรรยากาศในรถมันวังเวงจึงทำให้ผมอยากจะแหย่คุณชายหน้าตายนี่ซะหน่อย ไม่กลัวตายเลยกู


                “...”


                “พี่ไม่มีคนขับรถหรอ”


                “...”


                “รถนี้มาจากประเทศอะไรอะ”


                “...”


                “เฮ้ยพี่ทำไมไม่ตอบผมอะ”


                “ขับรถห้ามคุย” คุณชายเอ็ดเสียงเรียบ คนสมาธิสั้นอย่างผมถึงกับสะดุ้ง ไม่เคยมีใครบอกให้ผมเงียบมาก่อนในชีวิต และเงียบตอนอยู่ในรถพร้อมกับแอร์หึ่งๆ เนี่ยนะ บ้าไปแล้ว


                ยุกยิก ยุกยิก เล่นเนื้อท้องแขนตัวเองก็แล้ว ไขว้นิ้วเล่นก็แล้ว โอ๊ยยยยยย อึดอัด


                “คุยไม่ได้ฟังเพลงได้มั้ย” ผมอ้อมแอ้มถามไม่คิดว่าจะได้คำตอบกลับมา แต่พี่ท่านปรายตามาสองวิแล้วก็เอื้อมมือที่ไปกดเปิดเพลงให้ คงเป็นแผ่นที่ค้างไว้อยู่แล้วได้ยินเสียงแผ่นซีดีหมุน ดีเลยจะได้ร้องเพลงฟัง เด็กสายดนตรีก็ต้องอยู่กับจังหวะกลองมันส์ๆ....บีทหนักๆ...


                แต่...


                เสียงดนตรีแบบนี้...


                ชะ...สุนทราภรณ์มาเลยทีเดียว


                “พี่ฟังเพลงแบบนี้ด้วยหรอ”


                “เปล่า คุณแม่ชอบ”


                “เฮ้ย พี่ขับรถห้ามคุย”


                คุณชายชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะมองผมปรามๆ ประมาณว่ากูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึง ไอ้ผมก็เลยเอามือตบปากตัวเองไปสองสามที นั่งนิ่งๆ แบบนี้เอากูไปฆ่าเถอะ อย่าให้ผมทรมานนนน ผมนั่งคิดนู่นนี่อย่างฟุ้งซ่านไม่ได้มองว่าคุณชายจะพาไปที่ไหน ทางยังไม่มองเลยครับ ถ้าปล่อยตรงนี้ก็จะนอนแถวนี้เลย


                เมื่อผมนั่งในรถแทบจะขาดใจตายไม่นาน รถคันหรูก็เคลื่อนตัวมาถึงที่หมาย นี่คือรถหรู ส่วนกูเนี่ยเหมือนอืออึ๊ที่ล้อขวาของรถคุณชาย


                “ลง” พี่แกสั้นๆ ก่อนจะก้าวขายาวๆ ออกไปยืนข้างรถ  ผมเปิดประตูลงไปตาม เหลือบมองซ้ายขวา แล้วก็ตื่นตูมทันที


                “พี่พาผมมาเลือกทรงผมก่อนตายหรอ เชี่ยยยยย ผมจะกลับบ้านนนน ทำไมพี่ผมซื้อเสื้อใหม่มันไม่ดีตรงไหน สองพันเลยนะเว้ย”


                จึก!


                มันเดินอ้อมมาพร้อมกับเอานิ้วชี้ยาวมาวางไว้ตรงกระหม่อมไอ้เขาแล้วพูดเสียงทุ้ม ทำท่าเหมือนจิ้มสิ่งโสโครกน่ะครับ และไม่รู้ทำไมผมถึงหยุดดิ้นเหมือนโดนปิดสวิตซ์ซะอย่างนั้น


                “กูไม่ชอบคนรุงรัง เห็นแล้วหงุดหงิดนัยน์ตา” เหลือบตามองผม อะไร หมายถึงผมของผมอะนะ ใครๆ ก็ว่าน่ารักนะโว้ย วันนี้ไอ้ปั๊มยังชมเลย


                “อะไรอะพี่ นี่มันเป็นสไตล์ แต่พี่อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง”


                “ตั้งแต่เจอหน้ากันแล้วมึงก็ทำตัวเป็นสุกรโง่ๆ ใส่กูเนี่ย มึงลืมอะไรไปรึเปล่า” คุณชายมันยังคงคอนเซ็ปต์เดิมแม้ผมจะโวยวายแค่ไหนพี่แกก็ยังนิ่งเป็นสุภาพบุรุษสุดเพี้ยนในสายตาผมเหมือนเดิม มันเป็นคนที่พูดคำหยาบได้มะลึกกึ๊กกึ๋ยมาก จะหยาบสุดก็ไม่หยาบเสือกมีคำสุภาพในประโยคคำหยาบอีก มึงเป็นบ้าไรครับบบบ แต่ ชะ...คิดๆ ไปคิดมาแล้วพี่แกก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างเลยนี่หว่า ดูออกจะเป็นคุณชายเพี้ยนๆ ซะมากกว่า


                “ลืม? ลืมอะไรอะพี่ ที่พี่สั่งผมก็ทำตามแล้วไง” ผมบ่นอุบอิบ มองคนตัวสูงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ คุณชายผ่อนลมหายใจช้าๆ ทำหน้าเหมือนปลงกับสิ่งมีชีวิตอย่างผมแล้ว


                “กูอยากได้คำขอโทษ เรื่องเสื้อเนี่ยก็แค่อยากดัดหลังไอ้เด็กมอมแมมอย่างมึงเท่านั้น ไม่คิดว่าทำไม่ได้จะกะล่อนโกหก คิดส่งของมากวนเท้าอีก” นั่นคือประโยคที่ยาวที่สุดจากคุณชายครับ


                เอ๊ะ...นั่น...สิ


                “ขอโทษ” ผมก้มหน้านึกได้ว่าตัวเองยังไม่เคยพูดคำนี้กับมันเลย จริงๆ จะพูดตั้งแต่ที่จานข้าวปลิวแล้วครับพี่แต่ไม่มีโอกาส นอกเหนือจากนั้นก็ความจังไรล้วนๆ ถ้าตัดเรื่องพี่แกหาเรื่องผมก่อน การที่ผมวิ่งหนีมาแบบนั้นก็ควรจะขอโทษจริงๆ นั่นแหละ


                “ไม่ได้ยิน”


                “ขอโทษครับ แม่งแต่พี่มาจ้องผมแล้วบอกว่าสกปรกพี่หมายความว่าไง”


                คุณชายใช้ผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงมาเช็ดนิ้วชี้ที่จิ้มหัวผมก่อนจะตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ก็สกปรกจริงๆ นี่”


                “เฮ้ยพี่!!!!!!!!!!!!”


                ผมร้องตามไอ้คนขายาวไปในร้านตัดผมสุดหรู ร้านนี้ตั้งอยู่ย่านการค้าครับ ไม่ได้อยู่ในห้างแต่แถวนี้มีร้านชื่อดังอยู่เต็มไปหมด อะไรของแม่งวะครับด่าผมว่าสกปรกอีกแล้ว ผมดันแว่นขึ้นสันจมูกอีกครั้งแล้วเดินบ่นตามไป พึ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมถอดแว่นออก ถึงว่าตาเหมือนเอียงไปข้างนึง ผมจึงถอดแว่นแล้วยัดเข้ากระเป๋ากางเกงแทน และไม่ต้องเดาว่ามันต้องเอียงกระเท่เร่ยิ่งกว่าเดิม


                “พี่ๆ ร้านนี้ไม่ใช่ร้านตัดผมแต่เป็นตลาดใช่มั้ย”


                ผมเรียกคุณชายไว้ก่อนที่พี่แกจะเอื้อมมือไปจับประตู คุณชายหันมามองแบบสงสัยแต่ถ้าจะให้มองแบบลึกๆ แล้วสีหน้านั่นมันบอกประมาณว่า ‘เห้ไรมึง?’


                “ร้านนี้ต้องเป็นตลาดแน่ๆ นี่ไงพี่มี ‘ผลัก’ ด้วย”


                ผมชี้ไปยังสติ๊กเกอร์ที่ติดหน้าร้าน คุณชายมองผมนิ่งๆ สายตาเย็นๆ พุ่งเข้ามาแทงเบ้าตาผมแล้วผลักประตูเข้าไปทันที ปิดใส่หน้ากูด้วยเนี่ย


                “ก็มีผัก...ไง” ผมเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะเดินตามคุณชายเข้าไปในร้าน


                จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ


                ขอบคุณซาวน์ประกอบ


                “คุณชายสวัสดีครับ”


                “สวัสดีครับ” โอ้โห ร้านโคตรเรียบหรูเลย ภายในร้านไม่มีลูกค้าคนอื่นเลยครับ มีพี่ผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของร้านยืนกุมมือที่เป้ารออยู่ คุณชายมันจะมาตัดผมหรอเนี่ย หรือว่ามาเล็มหนวด นี่เล็มไกลขนาดนี้เชียว ถ้าเป็นพ่อผมนะเอาปังตอที่บ้านเล็มก็เสร็จแล้ว หลอก!


                “วันนี้ตัดแบบไหนดีครับ” เจ้าของร้านถาม


                “ตัดให้ดูเป็นคนหน่อย”


                “เอ๊ะ อะไรนะครับคุณชาย”


                “ตัดผมคนนี้ให้หายรุงรังหน่อย” ผมค่อยเลื่อนเท้าหมายจะนั่งที่โซฟาแต่คุณชายคว้าคอเสื้อผมแล้วดันให้ไปข้างหน้า


                ชะ....ตัดผม? รุงรัง?

 





                เพราะความอึ้งหรือสติยังไม่กลับเข้าร่าง ผมถึงได้แหกปากกว้างเท่าจักรวาลพร้อมๆ กับปอยผมที่หลุดร่วงลงมา


                ฉับ!


                “ว๊ากกกกกกกกกกกกกก”


                “น้องเขาร้องลั่นเลยนะครับ เสียดายผมหรอ”


                พรึ่บ


                ผมเหลือบมองคนนั่งไขว้ห่างเปิดอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษด้วยสายตาเคียดแค้นก่อนจะตอบพี่ต่อเจ้าของร้านที่สบตาผมผ่านกระจก


                “เสียดายมากครับ” ผมกัดฟันตอบ ยัง....ยังไม่สนใจอีก ลากกู ขู่กูมายังไม่พอยังมาตัดผมที่กูรักอีก แล้วผมเป็นบ้าอะไรเนี่ย แค่เหลือบมองผมก็สะดุ้งแล้ว ผมอุตส่าห์ไว้ผมยาวเรียกความน่าเกรงขามจากรุ่นน้อง แม่ง ไม่อยากตัดเลยโว้ย ตัดแล้วหน้าตากูคงอ่อนด๋อยน่าดู มันก็ไม่ได้ยาวเฟื้อยหรอกครับแต่มันคงรุงรังในสายตาคนอื่น กระซิก


                “ตัดสั้นแบบนี้แล้วหน้ารับทรัพย์เลยนะน้องเขา” 


                “จริงหรอพี่ต่อ” เปลี่ยนเร็วเป็นกิ้งก่าเต้นดิสโก้เลยทีเดียว ทำไม? ช่วงนี้ไม่มีตังค์อะ อยากได้ทรัพย์เยอะๆ


                “จริงสิ ตอนเข้ามาพี่นึกว่าคุณชายเดินมากับคนเก็บขวดซะอีก” เดี๋ยวอีพี่ต่อ ผมต้องรู้สึกยังไงครับ อยู่กินกันมาซักพักรู้จักชื่อกันแค่เนี้ยชักจะลามปามใหญ่แล้ว


                “ว่าแต่น้องเขาเนี่ยเป็นอะไรกับคุณชายเนี่ย คุณชายไม่เคยให้ช่างตัดผมประจำอย่างพี่ตัดให้คนอื่นเลยนะ แถมมาตอนร้านปิดแล้วยังมานั่งรออีกด้วย” พี่ก้มมากระซิบหลังจากที่เล็มปลายผมด้านหน้าให้ผมและด่าผมว่าเป็นคนเก็บขวดแล้ว


                ผมเหลือกตาไปด้านบนเพื่อคิดแต่พี่ต่อดันสะดุ้งแรง  อะไรของพี่ครับ ผมหยุดคิดแล้วก็ได้คำตอบ “เป็นคนสกปรกสำหรับคุณชายครับ” กูต้องสกปรกโสโครกสุดๆ ในสายตามันแน่นอน ไม่งั้นไม่ลงทุนขนาดนี้


                “อ่า...ไม่รู้สิ” พี่ต่อหลบตาผมก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่นพร้อมกับพึมพำ “แต่พี่เขินยังไงไม่รู้ ไอ้คำว่าคนสกปรกสำหรับคุณชายเนี่ย”


                “เออพี่...จะเสร็จยัง ผมหิวข้าว”


                “ใกล้แล้วๆ เอ้า สเปรย์ฉีดผมขวดใหม่อยู่ไหนเนี่ย อ้ออยู่หลังร้านแน่เลย เดี๋ยวพี่ไปเอาก่อนนะ เด็กที่ร้านนี่ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ แป๊บนึงนะน้องเขา” 


                หลังจากพี่ต่อผละจากการตัดๆ เล็มๆ จู่ๆ คุณชายก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปนอกร้านทันที ท่าเดินรับกับขายาวๆ ยังเท่ได้อีก เฮ้ยแต่ไม่ใช่ประเด็น


                “พี่จะไปไหน! ค่าตัดผมเนี่ยผมไม่มีตังค์จ่ายนะเว้ยยย!”  เอาแล้วไง ไอ้คุณชายมันไม่พามากระทืบแต่พามาเสียเงินแล้วทิ้งผมไปเนี่ยนะ นี่คือการแก้แค้นแนวใหม่หรอครับ ผมดิ้นอยู่บนเก้าอี้ตัดผม ทำอะไรไม่ถูก รู้งี้ให้กระทืบหลังเซเว่นปิดก็ดี!


                “อ้าว คุณชายไปไหนแล้วล่ะ” พี่ต่อที่เดินกลับเข้ามาพร้อมสเปรย์ฉีดผมถามด้วยสีหน้าแปลกใจ


                “พี่ต่อ ทั้งหมดนี่เท่าไหร่อะ” ผมเอ่ยปากถามพี่ต่อไป หน้าซีดมือสั่นไปหมดล้าววว


                “ทั้งหมดสี่พันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าราคาปกตินะ”


                สี่...


                สี่พันเก้าร้อย...เก้าสิบ...เก้า


                คร่อก!


                “น้องเขาๆ เป็นอะไรครับน้องเขา เด็กๆ ออกมาช่วยหน่อยเร็ว ลูกค้าเป็นลมมมมมมมมมม ว้ายยย อุ้ยหลุด! ลูกค้าเป็นลมเฮ้ย ออกมาเร็วเฮ้ย!”


                นี่พี่...เป็นใช่มั้ยพี่


                พี่...เอ่อ...เจ้ต่อ อย่าเขย่าแรงครับ ผมแกล้งตายอยู่!

 







                “ถ้าจะไปไหนก็บอกด้วยสิพี่ ลุกขึ้นแบบนี้ผมก็ตกใจตายพอดี”


                “โตเป็นกระบือแล้วอยู่คนเดียวไม่ได้หรอ”


                “เอ่อ น้อง...เขาครับ พี่ว่า...เอ่อ...คุณชายครับ...”


                “ไม่เหมือนกัน พี่เป็นคนพาผมมาแล้วจะชิ่งไปง่ายๆ ได้ไง หรือว่าพี่จะเอาน้องบีมไปขาย แค้นผมมากใช่มั้ย” ผมโวยทันทีที่คุณชายยื่นเท้ากลับเข้ามาในร้านหลังจากหายไปเกือบยี่สิบนาที


                “อะไรน้องบีม”


                “กีตาร์ผมไง นอนเป็นศพอยู่เบาะหลังรถพี่อะ เฮ้ย นี่พี่คิดเอาเรื่องน้องบีมมาพูดให้ผมลืมเรื่องที่พี่หนีผมไปหรอ”


                “พูดเองทั้งนั้น หายใจให้อากาศไปเลี้ยงสมองบ้าง”


                “ฟู่ ฟู่” กูก็บ้าทำตาม ผมกระแทกหลังลงกับเก้าอี้ตัดผมอีกครั้ง “พี่ต่อครับรีบทำให้เสร็จเลยพี่ ค่าตัดผมขอผ่อนจ่ายได้มั้ยอะพี่”


                “จ่ายอะไรกันครับ”


                “ตอนนี้ผมไม่มีเงินหรอก มีคนหลอกผมมาแก้แค้นให้มาตัดผมร้านพี่แล้วให้จ่ายตังค์เอง”


                “ไม่ต้องจ่ายหรอกครับ คุณชายจัดการเรียบร้อยแล้ว”


                “อะ...อ้าว”


                เพล้ง!


                “อะ...อะไรอะ ก็พี่ไม่บอกแต่แรกวะ”


                ฟึบ


                คุณชายโยนห่อกระดาษอ้วนกลมมาให้ผม ส่วนตัวเองเดินกลับไปนั่งที่เดิมพร้อมกาแฟหนึ่งแก้วและหนังสือพิมพ์ภาษาปะกิด


                ผมขมวดคิ้วเพราะอารมณ์กลัวโดนทิ้งและกลัวเสียตังค์ยังตกค้าง ถ้าโยนหินแล้วมันตกใส่หัวทำไง อะ...นี่มันเบอร์เร่อ แฮ่ เบอร์บาร่า แฮ่ เบอร์เกอร์ ถูกแล้ว!


                “นี่พี่ไปซื้อมาให้ผมหรอ” ผมมองคนที่ซื้อให้ผ่านกระจกด้วยความแปลกใจ คุณชายไม่ได้สบตาผมเอาแต่มองกระดาษหนังสือพิมพ์แต่ก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ


                “กระเพาะที่สี่ของโคร้องดังขนาดนั้น ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือพิมพ์” ทั้งโค ทั้งกระบือ คราวหลังด่าผมเป็นสวนสัตว์ดุสิตเลยครับพี่ผมจะได้เลือกสัตว์เอง เอ...ว่าแต่


                “แหนะ” ผมร้องพร้อมกับลากเสียงยาว “พี่นี่ใจดีเหมือนกันน้า”


                “อย่าคิดไปเอง กูต้องทานข้าวเวลานี้”


                “อะไรว้า” ผมพึมพำแล้วก้มกัดเบอร์เกอร์อย่างเป็นสุข โห เนื้อด้วย ของโปรดเลย


                “เสร็จแล้วครับ” พี่ต่อพูดขึ้น ผมจึงละสายตามามองตัวเองในกระจก อึก เนื้อแทบติดคอ


                “แอ่ก...เฮ้ย ใครแกล้งผม!”


                “เป็นอะไรครับน้องเขา”


                “มีใครอยู่ในกระจกใช่มั้ย ไอ้บ้า นี่มึงซ่อนกล้องอ่อวะ ออกมา!” ผมลุกขึ้นยืนท่ามกลางความงงงวยของคุณชายและพี่ต่อ



                “น้องเขา นั่นน้องเขาเองนะ หล่อจนจำตัวเองไม่ได้เลยหรอ คุณชายมาดูสิครับ เป็นยังไงถูกใจมั้ย” พี่ต่อหันไปถามความเห็นของคุณชาย พี่ต้องถามผมสิ ไม่ใช่ไปถามคุณชาย พึ่งจะสังเกตว่าพี่ต่อจะหน้าแดงนิดๆ เวลาพูดกับคุณชาย เอ่อ เจ้ต่อครับผมรู้ความลับเจ้นะ..


                “เป็นคนก็ดีแล้ว” ท่านชายมองผมแวบเดียวเท่านั้นก่อนจะตอบนิ่งๆ แล้วก็ก้มลงมองหนังสือพิมพ์เหมือนเดิม


                “พี่...ต่อ...นี่มันผมจริงๆ หรอครับ”


                ไอ้คนที่อยู่ในกระจกตอนนี้มีหน้าตาเหมือนผมเปี๊ยบแถมยังปากเลอะเพราะซอสจากเบอร์เกอร์ด้วย พี่ต่อตัดผมที่ยาวและไม่เป็นทรงให้กลายเป็นอันเดอร์คัทแบบไม่เซ็ทผม ผมนี่ยาวข้างหน้าพี่ต่อก็ไดร์ให้มาปรกหน้าผากเล็กน้อย จริงๆ พี่ต่อจะเซ็ทผมให้ผมดูล่ะ แต่คุณชายบอกว่าไม่ต้อง ไม่เข้ากับหน้าสุกรแบบผม


                “นี่แหละครับ คนสกปรกของคุณชายไม่สกปรกแล้วแน่นอน” พี่ต่อพูดยิ้มๆ แล้วแกะผ้าคลุมผมออก


                “แค่กๆ” แต่หลังจากพี่ต่อพูดคุณชายถึงกับสำลักกาแฟหมดคราบคุณชายไปสองวิ


                “เออใช่ ผมไม่สกปรกแล้วพี่ไม่ต้องเรียกผมว่าสกปรกแล้วล่ะ” ผมเดินปรี่เข้าไปใกล้พร้อมกับสะบัดผมเหมือนนายแบบต่อหน้าคุณชาย หล่อป้ะ หล่อป้ะ คุณชายใช้นิ้วยาวๆ จิ้มหน้าผากผมให้ถอยห่างแต่ผมไม่ยอมใช้หน้าผากดันกลับไป เอาดิ สู้หรอๆๆๆ


                “หึ” ผมชะงักเมื่อเห็นมุมปากของคุณชายกระตุกยิ้ม หรือแม่งแกล้งทำให้ผมแพ้ เกลียดออร่าคนหน้าตาดี


                “อะแฮ่ม ทั้งคู่ครับ พี่ต่อยังอยู่นะครับ” พี่ต่อยืนกุมมืออยู่ข้างๆ ผมหันไปดูแต่คุณชายจัดเสื้อและลุกขึ้นด้วยท่าทางที่ดูดีมากๆ ไม่ได้ล่ะ ผมไม่อยากมองให้ใจเต้น สงสัยอิจฉามั้ง เล่นกับพี่ต่อดีกว่า


                “อ้าวพี่ก็ยังไม่ตายนี่ แหะๆ ล้อเล่นครับ” ไม่เห็นต้องมองแรงแบบนั้นเล้ยยยย


                “ขอบคุณมาก ผมต้องไปก่อนล่ะ”


                “ขอบคุณมากเช่นกันครับ แล้วเจอกันใหม่นะครับ”


                “อ้าวพี่ เอาอีกแล้วจะไปก็ไม่บอกหน่อยเลย พี่ต่อสวัสดีครับ”


                “ครับผม”

               






                เราอยู่บนรถอีกครั้งและมันก็เงียบอีกครั้ง เพราะมันไม่มีแม้แต่เพลงสุนทราภรณ์แต่กลับมีเสียงที่ร้องเพราะกว่าสุนทราภรณ์นั่นก็คือเสียงท้องร้องผมเอง ร้องเป็นเพลงร็อคเลยทีเดียว


                “อึก” พอรถขับผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางผมก็กลืนน้ำลายไปทีนึง ทน...ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยย ไม่เข้าใจคนมีพุงหรอวะ แค่มองรูปอาหารน้ำย่อยมันก็ร้องเรียกพ่อๆ แล้ว


                “พี่...” ผมตัดสินใจเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบที่โคตรจะไม่ชิน


                “....”


                โครกกกกก


                “กินข้าวก่อนกลับได้มั้ยนะๆๆๆ ผมเลี้ยงเอง ร้านข้างหน้าหมู่บ้านผมก็ได้ ร้านไหนก็ได้ พี่กินก่อนแล้วค่อยกลับบ้านไง” การเดินทางครั้งนี้คุณชายจะไปส่งผมครับ ในความจริงนั้นผมกราบขอร้องเพราะยังไงก็ทางเดียวกัน ปล่อยให้ผมกลับเองพร้อมกับเศษเหรียญในกระเป๋าเนี่ย ผมได้นั่งใต้สะพานลอยแน่ๆ คุณชายท่านก็ไม่ตอบอะไรครับ แต่เดินไปเปิดประตูผมเลยทึกทักเอาเอง อิอิ บุญตูดอีกแล้วววววว  ถึงแม้ว่าจะแอบคิดว่าผมกับคุณชายมาถึงจุดนี้ได้ยังไง ก่อนหน้านี้ผมยังกลัวมันกระทืบอยู่เลยตอนนี้ผมกลับคุยกับมันเหมือนรู้จักกันมาสามชาติซะงั้น แต่ไอ้เขาไม่คิดอะไรมากครับขอให้พยาธิในท้องในอิ่มหมีพีมันก่อน


                “นี่ไม่ใช่เวลาทานอาหาร” ผมเหลือบมองนาฬิกาข้างซ้ายของคุณชาย สองทุ่มก็เพราะมันเลยเวลานี่ไง ผมถึงหิวจะตายแล้วเนี่ย บ้านก็อยู่ไกลอีกต่างหาก


                “กินเลยเวลาหน่อยไม่ได้ไง๊”


                “มันผิดระบบของร่างกาย”


                “พี่กินเถอะ....ผมอยากเลี้ยงขอโทษและขอบคุณพี่ด้วย” คุณชายหรี่ตาไม่ไว้ใจ


                “ขอความจริง”


                “ผมหิวจะกินควาย เอ๊ย กระบือได้ทั้งตัวแล้วอ่า อยากงอแงงงงงงง” ผมแทบจะกระทืบเท้าเป็นเด็กๆ แต่ต้องหยิกตัวเองไว้ รถคุณชายพังแล้วล่ะก็ผมไม่มีปัญญาจ่ายหรอกนะเว้ย แค่ค่าตัดที่จู่ๆ คุณชายก็พาไปตัดแถมออกเงินให้อีก แค่นั้นผมก็รู้สึกไม่ดีแล้ว(หรา)


                “เอ๊ะ หรือว่าพี่กินข้างทางไม่ได้” ผมถามกับตัวเองไม่ได้คิดจะสบประมาทแต่อย่างใด


                และแน่นอนว่ารถสี่เหลี่ยมเล็กๆ แบบนั้น เค้าต้องได้ยินแหงๆ คุณชายปรายตามอง ไม่ตอบอะไรแต่ก็ตบไฟเลี้ยวก่อนจะดับเครื่องยนต์เยื้องๆ กับร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง และผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจและความ....หิว



                “พี่ลองชิมๆๆๆ ลูกชิ้นนนน โอ้มายก้อดยอดหางเข้” ผมชูถ้วยที่มีลูกชิ้นอ้วนกลมกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย คุณชายจอดรถให้ผมก็ว่าแปลกแล้วแต่คุณชายลงมานั่งกับผมด้วยครับ คุณชายนั่งเก้าอี้ตรงข้ามผมที่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง อยากจะกรีดร้องผมเห็นคนที่มากินก๋วยเตี๋ยวมองด้วยสายตาแปลกๆ ก็แน่ล่ะ คุณชายมาหย่อนก้นนั่งนะโว้ยย ดูเสื้อผ้าซะก่อน


                “กินเถอะพี่ ผมสั่งเผื่อแล้วนะ” พอเห็นว่าคุณชายมองมานิ่งไม่ยอมกินซักที ผมก็ดันก๋วยเตี๋ยวที่ผมสั่งไว้อีกชามไปใกล้ๆ อีก อันที่จริงคุณชายจะรอบนรถด้วยซ้ำแต่เพราะลูกตื๊อของผมคุณชายเลยต้องเดินตามลงมาด้วย


                “ทานไปเถอะ สุกรคงต้องการพลังงานเยอะ” คุณชายนั่งหลังตรงทั้งๆ ที่ไม่มีพนักพิงแถมยังวางมือไว้บนหน้าขาจนผมหน้าสั่นเล็กน้อยเพราะความแตกต่างนี้


                “ผมไม่ใช่สุกร...เอ๊ย หมูนะ!” ชักจะติดมาจากพี่มันแล้ว


                “เคี้ยวให้หมดก่อนพูด” คุณชายเตือนเสียงนิ่งๆ เผลอทำกิริยาสถุลอีกแล้วง่ะ เมื่อกี้ผมแทบจะยัดเข้าปากแต่เพราะคุณชายนั่งตรงข้ามแบบนี้ผมถึงค่อยๆ จับตะเกียบด้วยความระแวดระวัง


                “อื้อ...แต่พี่กินเถอะ” คุณชายส่ายหัวอีกครั้ง “เอาน่า ถ้าพี่ไม่พูดผมไม่พูด ร่างกายพี่ไม่รู้แน่ว่าพี่กินข้าวผิดเวลา” ผมหยิบช้อนใหม่ออกมาจากกล่องพร้อมกับใช้ทิชชู่เช็ดๆ แล้วตักลูกชิ้นในชามที่สองให้คุณชาย


                “ลูกชิ้นถ้าเข้าไปในท้องคุณชายอย่าไปบอกอาหารอื่นๆ ล่ะว่าคุณชายกินข้าวไม่ตรงเวลาเข้าใจมั้ย อะพี่...อ้ามมมมม”  ผมชี้เจ้าลูกชิ้นก่อนจะหันไปพูดกับคุณชาย


                คุณชายขมวดคิ้วท่าทางกล้าๆ กลัวๆ  และคุณชายก็คงจะทนลูกตื้อของผมไม่ไหวเพราะสายตาสับสนของพี่มันฉายออกมาหมดแล้วครับผมมมมม ลูกชิ้นมันยั่วยวนใช่ป้ะ คุณชายไม่ได้อ้าปากรับลูกชิ้นที่ผมยื่นไปป้อนแต่กลับคว้ามือผมแล้วเอาเข้าปากตัวเองแทน ผมยิ้มตาหยีมองคุณชายใช้ทิชชู่เช็ดมุมปากอย่างเรียบร้อย ผมยิ้มตาปิดเวลาเห็นคนกินสิ่งเราชอบกินมันมีฟามสุข


                “บอกแล้วอร่อยใช่ม้า?”


                คนที่กำลังเช็ดปากชะงักไปเล็กน้อย


                ชิบหายผมลืมไปได้ยังไง ที่นี่ไม่มีม้ามีแต่คุณชายกับชามก๋วยเตี๋ยว

 






                เราอยู่บนรถอีกครั้งและมันก็เงียบอีกครั้ง.... ไม่มีแม้แต่เพลงสุนทราภรณ์ ไม่มีแม้แต่เสียงท้องร้อง แต่ตอนนี้มีเสียงผมพูดคนเดียวแทน คุณชายไม่ให้คุยแต่ผมก็ยังจะพูด คนที่พูดคนเดียวไม่ถือว่าคุยหรอกครับ แหะๆ เป็นเพราะความสบายใจต่างจากตอนแรกหรือเพราะอะไรไม่รู้ทำให้ผมไม่กลัวคุณชายอีกต่อไป ตอนนี้ผมนอนพิงเบาะ ผึ่งพุง เพราะอิ่มมากแล้วก็เลยง่วงซะอย่างนั้น ตาจะปิดแล้ว...ครับ


                “ผมขอโทษจริงๆ นะพี่ เสื้อมัน...ซักไม่ออกเลยอ่า”


                “....”


                 “พี่...ค่าตัดผมมันแพงไปรึเปล่า”


                “....”


                “พี่จ่ายให้ฟรีๆ เลยหรอ มันแพงกว่าเสื้อสองพันอีกนะ”


                “....”


                “แต่ผมทำตัวไม่ดีเลยนะ....ไม่ขอโทษแล้วก็ยังทำตัวแย่ๆ อีก”         


                “...”


                “พี่เห็นผมรุงรัง คงจะหงุดหงิดมากสินะ”


                “....”


                “แต่พี่อย่าไปหงุดหงิดใส่ใครแล้วพาไปจัดระเบียบแบบผมอีกนา แจ้บๆ”


                “....”


                “เปลืองเงินแย่เลย ถ้ามีคนสกปรกซักร้อยคน พี่ก็...จน....สิ” ตาผมเริ่มหนักขึ้น ความเงียบในรถมันคือยาสลบชั้นดี ก่อนผมจะปิดเปลือกตาลงเสียงคุณชายก็ลอยเข้ามาเบาๆ


                “..ไม่ต้องห่วงหรอก ตัวมอมแมมแบบมึงเนี่ยก็เห็นมีตัวเดียวในโลก”


                ไหนว่าไม่คุยไง...ไม่ไหวแล้ว มันง่วง


                “อือ...ไม่ได้...นะพี่ ห้ามมีหลายคน...ผม...ไม่อยากให้พี่เสียตังค์...เยอะ”


                “หึ...”








____________________________________
-คูมชายใจดีไปป้ะะะะ-

ขอบคุณทุกคนค่ะ
#คุณชาย2017
เสกสัง : เขาๆ เขาต้องมาฝึกสกิลกับพี่นะ มุกผลักเผิกเนี่ยเค้าไม่เล่นกันเเล้ว บ้านนอกก
เขา : อะ ไหนดูคนไม่บ้านนอกดิ๊
เสกสัง : ทีอะไรไม่โต?
เขา : ทีอะไรหรอพี่เสก
เสกสัง : ทีเรว็กซ์
เออะ...ทีมันเล็กจริงเนอะ
พี่เสก #มึงเองอิเวง2017
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 4 [17-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-09-2017 21:38:29
คุณชาย เริ่มจัดระเบียบทรงผมสุกรแล้ว  o18
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 4 [17-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 17-09-2017 22:38:29
55555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 4 [17-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 18-09-2017 00:18:57
แหมมม น้องเขาไม่ต้องกลัว คุณชายเปย์ให้น้องเขาคนเดียวนั่นแหละ :o8:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 4 [17-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 18-09-2017 06:07:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 4 [17-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 18-09-2017 08:57:45
 o13
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 4 [17-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 18-09-2017 10:14:44
อ่านแล้วชอบอ่ะ
ฮามากเลย ฮาพี่เสกเนี่ยแหละ พี่เสกจำไม 555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 4 [17-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 18-09-2017 12:52:03
เป็นตัวมอมแมมที่คุณชายเปย์ให้  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 5 [21-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 21-09-2017 16:37:00
ระเบียบที่ 5 : ห้ามไม่ได้หรอกเจ้าสุกร


                “อีเขาาาาาาาาาาาา ตื่นเดี๋ยวนี้”


                “อือออออออ คนจะนอน เบาๆ ดิ๊”


                “ตื่นโว้ยยยย กูไม่ให้มึงนอนนนนนน” เสียงมหากัมปนาทดังตรงหูซ้ายของผม มันมาพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนขนาดยี่สิบสี่ริกเตอร์ ผมปรือตามองก็พบกับสิ่งมหัศจรรย์ที่คงจะมีต้นกำเนิดจากยุคหินในซอกเขาอันระมันตรัย สิ่งมหัศจรรย์นั้นมีริมฝีปากกว้างเกือบจะกินหัวผมทันทีที่มันอ้าปาก


                “โว้ยยยยย อีแจ็ค! มึงรักอะไรกูหนักหนา” ผมดีดตัวเองขึ้นมามองอีแจ็คนี่ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ผม ผมพบว่าตัวเองนอนกอดหมอนรูปปลาทูอยู่บนโซฟากลางบ้านส่วนอีแจ็คยืนอยู่ข้างหลังโซฟา ยื่นหน้าอันน่าสะพรึงกลัวมาใกล้ๆ ผม


                “กูเกลียดมึงมาก”


                “บ้านตัวเองไม่มีไง๊ ต้องมาเล่นบ้านกูเนี่ย ไม่มีแมลงวันให้กินนะ”


                “ไม่มีได้ไงกูกินไปแล้วสองตัว ถุ้ย! อีเขาโง่แล้วยังขี้ลืมอีก พ่อมึงโทรมาบอกกูว่าจะขี่มอไซค์ไปประจวบกับแกงค์ บอกให้กูลากมึงไปแดกข้าวด้วย บ้าบออออ”


                “อ๋ออออออออออ”


                “จำได้?”


                “อ๋อไปงั้น”


                 “นี่มึงเปลี่ยนเรื่องหรอ บอกกูมาเดี๋ยวนี้ มึงเอาเสื้อพรมน้ำมนต์ไปปาใส่บ้านคุณชายใช่มั้ย เค้าถึงมาส่งมึงเนี่ยยย”


                “อะไรของมึงวะ พึ่งตื่นมึนอยู่”


                “เอ๊ะ....เดี๋ยว” อีแจ็คยื่นมือมาจับๆ ปัดๆ ที่หัวผม “นี่มึงไปตัดผมหรอ อีเขา........มึงจะแย่งผู้ชายทั้งโลกหรอวะ อีเหี้ย”


                “นี่หรอ คุณชายพาไปตัดผมมา คงไม่เคยเห็นใครสกปรกเท่ากูมาก่อน โคตรลงทุนเลยอะมึง สงสัยความสกปรกมันขัดตาพี่แก เห็นเพี้ยนๆ แต่ก็ใจดีมากเลยว่ะ” ผมกลิ้งลูกตาไปมองปลายผมก่อนจะมองหน้าอีแจ็ค “เฮ้ย มึงเป็นอะไร อีแจ็ค ตาค้างเห็นผีหรอ กูกลัวนะ”


                “มึง...ตบกู...ที”


                เพี้ยะ!


                “อีเขา ตบหาพ่อมึงแรงขนาดนี้”


                “ก็มึงบอกให้ตบอะ...” ผมมองหน้ามันเหลอหลา กูผิดตรงไหน เขางง


                “มึงรู้มั้ยกูมายืนตบยุงรอมึงตั้งนาน ไม่คิดว่าคุณชายที่คนอยากคุยด้วยทั้งมหาลัยจะแบกปลาพะยูนอย่างมึงมาส่งที่บ้าน กูจะบ้าาาาาาาา  นี่เค้ายังพามึงไปตัดผมมาอีกหรอ ทำม๊ายยยยยยยยยย กูเรียนคณะเดียวกับคุณชายนะคะ อีดรกกกก ชายตาจนลูกตาจะไหลมารวมกันคุณชายยังไม่มองกูเลยยยย สต๊อป...แล้วคุณชายรู้จักบ้านมึงได้ยังไง”


                เอ่อ....รู้จักเพราะความโง่ของกูเอง แต่ต้องเปลี่ยนเรื่องเดี๋ยวเพื่อนรู้ว่าโง่


                “อีแจ็คมึงจะวี้ดว้ายทำไมเสียงแหลมเหมือนม้าน้ำเลย”


                “นี่...คุณชายชอบมึงรึเปล่า” จู่ๆ มันก็ดับสวิตซ์แล้วกระโดดมานั่งข้างผม แถมยังจ้องตาไม่กระพริบ


                “จะบ้าหรอ...”


                “ไหนมึงบอกไม่ชอบเค้าแล้วมึงไปอะไรยังไงเนี่ย กูงงไปหมดแล้วบ้าบอออออออ”


                “ตอนแรกก็ไม่ชอบอะแหละ แต่มึงกูเข้าใจมึงแล้วพี่เค้าแม่งใจดีอะ...ไม่เห็นเหมือนที่ไอ้หมูพูดเลย ดูดิพาไปตัดผมเพราะเห็นกูไม่เรียบร้อย แถมยังพากูไปกินข้าวด้วย กูเอาน้ำแกงไปราดเค้านะเว้ยยย ไอ้เขาประทับใจสุดๆ เลยว่ะ”


                “พาไป...อะไรนะ”


                “กินข้าวอะ ไม่ใช่ดิก๋วยเตี๋ยวร้านตรงที่ลงทางด่วนอะมึง โหพี่เค้ากินลูกชิ้นลูกเดียวเอง กินไม่หมดกูเลยช่วยกินถึงว่ากูหลับมาจนถึงบ้านเลย เนี่ย แน่นพุงไม่หาย ดูพุงกูดิใหญ่ เอ๊ะ ว่าแต่พี่เค้าแบกกูมาเลยหรอวะ” หลังไม่หักใช่มั้ยครับพี่


                “คุณชายกิน...ก๋วยเตี๋ยว...ข้างทางด้วย....” อีแจ็คพูด เหลือบมองตามันลอยไปไหนก็ไม่รู้


                “แจ็ค มึงเป็นไร แจ็ค!” ผมโบกมือไปด้านหน้ามัน


                “อีเขา กูจะเป็นลม....”


                “เฮ้ยยย มึงอย่า ฮืออออออออออ”


                “มึงร้องทำไม” อีแจ็คที่กำลังจะปรือตาเตรียมตัวเป็นลมก็สะดุ้งพุ่งพรวดมาด้วยความตกใจ


                “มึงอย่าเป็นลม กูหนาวอะตอนนี้”


                “อีเหี้ยเขา!!!”
 





                หลังจากที่อีแจ็คกลับไปด้วยอาการช็อค ผมก็เดินไปล็อคประตูบ้าน กลับเข้ามาอาบน้ำอาบท่าแล้วก็รู้สึกว่าผมขาดอะไรไป เดินมานั่งหน้าทีวีก็ยังคิดไม่ออก หรือว่าคิดถึงเฮียทิว ไม่นะ พ่อผมชอบออกไปกับแกงค์มอไซค์แบบนี้ประจำ ผมทำอะไรไม่ค่อยเป็นโดยเฉพาะกับข้าวพ่อเลยมักจะฝากให้ผมไปฝากท้องไว้กับลุงเจียมกับป้าแจงแทน แต่ก่อนพ่อแม่อีแจ็คเคยเปิดร้านอาหารน่ะครับ แต่โดนพายุเศรษฐกิจโจมตีก็เลยเลิกไป


                ถ้าไม่ใช่เรื่องพ่อแล้วผมลืมอะไรวะครับ ผมเดินวนไปวนมาจนสะดุดกับกระเป๋าย่าม ผมค้นๆ   กระเป๋าแล้วก็พบเศษซากอารยธรรมขยะตั้งแต่ยุคเมโสโปเตเมียและมือถือสองจีเครื่องเก่าที่แบตเหลือขีดเดียวเก๋ๆ เออ ช่างแม่ง มองไปรอบๆ บ้านก็เจอกับลูกชายเบอร์สองน้องบูมของผม เฮ้ยแล้ว...


                ถ้านั่นน้องบูม!


                แล้วน้องบีมอยู่ไหน!!!


                “น้องบีมมมมมมมมมมมมมม!!” ผมร้องลั่นใจจะขาดรอนๆ ลูกหาย ลูกรักหายไปไหน ลูกรักผมอยู่....


                “คุณชาย!”


                ผมคว้าโทรศัพท์รุ่นเดอะออกมาตั้งใจไว้ว่าจะโทรหาอีแจ็คให้มันช่วยหาเบอร์คุณชายแต่พอกดปลดล็อคแล้วก็พบว่ามีข้อความใหญ่ยังไม่ได้อ่าน  รูปจดหมายโชว์เด่นหราตรงหน้าจอขาวดำ


                “ถึงภูเขา บรรจงภักดี เชี่ยยย เชยๆ แบบนี้ต้องคุณชายแน่นอน ลืมเอากีตาร์ลงจากรถให้ ขอโทษที ส่งมากี่โมงวะ...สามทุ่มสามสิบหก” ตอนนี้กี่โมงแล้วหว่า ห้าทุ่ม หวังว่าคงยังไม่นอนนะครับพี่ พรุ่งนี้ผมต้องใช้เรียนด้วย แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ขาดไม่ได้ ผมขาดน้องบีมไม่ได้ แต่จิตสำนึกของคนดีของไอ้เขายังมีอยู่ ไม่กล้าโทรไปผมจึงจะส่งข้อความกลับไป


                “พี่ ผมต้องใช้น้องบีมเรียนพรุ่งนี้สิบโมง ผมไปเอาน้องบีมที่บ้านพี่ได้มั้ยครับ ขอโทษที่รบกวนครับพี่ ถ้าพี่ยังไม่นอนตอบผมด้วยนะครับ ถ้าพี่นอนแล้วก็นอนไปเถอะเพราะพี่จะอ่านข้อความผมไม่ได้ พี่...ผมคิดถึงน้องบีมจริงๆ นะพี่ จาล้องงงง ไม่ได้ๆๆ พิมพ์แบบนี้ไม่ได้ อะไรดีวะกู” ผมมองหน้าจอมือถือที่พิมพ์ค้างไว้แบบนั้น เอาไงดีวะเนี่ย พรุ่งนี้ค่อยใช้น้องบูมก่อนก็ได้วะแล้วค่อยโทรไปหาคุณชาย นิ้วชี้ข้างขวากำลังจะกดยกเลิกข้อความทั้งหมดแต่ความซวยของผมดันเผลอกดส่งซะงั้น


                คุณส่งข้อความแล้ว แล้วลูกศรก็พุ่งตรงไปที่รูปจดหมายด้านขวามือแบบลั้นลา


                ชิบหายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


                [พี่ ผมต้องใช้น้องบีมเรียนพรุ่งนี้สิบโมง ผมไปเอาน้องบีมที่บ้านพี่ได้มั้ยครับ ขอโทษที่รบกวนครับพี่ ถ้าพี่ยังไม่นอนตอบผมด้วยนะครับ ถ้าพี่นอนแล้วก็นอนไปเถอะเพราะพี่จะอ่านข้อความผมไม่ได้ พี่...ผมคิดถึงน้องบีมจริงๆ นะพี่ จาล้องงงง]


                ผมตาเหลือกด้วยความตกใจ เอสเอ็มเอสนี่ดันลบไม่ได้ด้วย ตีหัวตัวเองแม่ง ผมโยนโทรศัพท์ทิ้งไว้แล้วเอาหมอนมาอุดปากตัวเองก่อนจะกระโดดข้ามโซฟาไปหยิบน้องบูมมาระบายความอับอายพร้อมหยิบสายมาเสียบตู้แอมป์อย่างรวดเร็ว


https://www.youtube.com/embed/2Omj-JHAI7A


                ดีดแม่งเลยอารมณ์มา เคยเป็นมั้ยครับ ทำอะไรก็ได้ให้ลืมความจังไรของตัวเอง จัดมา!


                พี่สิงโตผมเถอะ เอ๊ย พี่โตได้โปรดสิงผมเถอะ! เงยหน้าแหงนคอรับพลังจากเทพพี่โต


                มะ ปรบมือกันได้ครับทุกคน! พ่อไม่อยู่กูเต็มที่ได้!


                “แกล้งทิ้งตัวลงนอนได้ไหม แกล้งจับมือฉัน...ไว้ เหมือนเคย
                แกล้งบอกว่าเธอรักมากมาย...อาย แม้ไม่ให้ความหมายกับฉันเลย”


                น้องบีมของพี่เขา เราจะไม่ได้เจอกันแล้ว.....ฮือออออ ผมดีดกีตาร์และทิ้งตัวลงนอนทับโทรศัพท์บนโซฟา


                “จดจำวันคืนที่รัก...ช่างสดใส โปรดลืมจงลืมเขาไปเสียก่อน...อ่อน
                อย่ารีบบอกลา อย่าจากฉันไปก่อน
                จะให้ฉันทำตัวเช่นไร หากว่าใจยังทำไม่หวายยยยยยยยยยย
                แม้...น้ำตาจะรินและไหล แผลหัวใจจะลึกสักเพียงเท่าใด
                และแม้ฉันไม่อาจหยุดเธอไว้ แต่ก่อนจะจากไป
                ช่วยแกล้งบอกรักช้าน...หน่อย”

                *แกล้ง – Silly Fools


                อุแว้! อุแว้!


                Rrrrrrr Rrrrrrr


                ความสั่นมันโจมตีหลังผมครับ ผมชะงักแล้ววางกีตาร์ไว้บนอกก่อนจะควานมือไปด้านหลังที่ตัวเองนอนอยู่


                เฮ้ย เบอร์คุณชายนี่หว่า! จำเบอร์ที่พึ่งส่งมาได้ ผมรีบกดอ่านข้อความทันที ในใจคิดไปแล้วว่าพี่แม่งต้องด่ากลับมาแน่นอน


                [ถึง ภูเขา บรรจงภักดี พรุ่งนี้เช้าจะเอาไปให้ที่บ้าน ไม่ต้องโวยวาย ทนคิดถึงไปก่อนแล้วกันพรุ่งนี้ก็เจอ]


                โธ่...พี่เข้าใจความรู้สึกผมขนาดนี้เลยหรอ น้องบีมอยู่กับคุณชายทำตัวดีๆ นะ คุณชายโคตรคนดีเลย ขอโทษที่เคยมองพี่ไม่ดีครับ ผมกอดกีตาร์แล้วนึกขอโทษคุณชายในใจอีกหลายสิบครั้ง เพลงพี่โตยังคงวนเวียนอยู่ในสมองแล้วผมก็เผลอหลับไป...เฮ้อ ไม่ได้อาบน้ำโทษทีนะร่างกาย






                เพราะไม่รู้ว่าคุณชายจะมากี่โมง ไอ้ภูเขาแห่งดุริยางค์เลยสะดุ้งตื่นเจ็ดโมงเช้า ด้วยสภาพสกปรกโสมมต้อนรับทรงผมใหม่ ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพราะเมื่อคืนนอนไปทั้งอย่างนั้น แปรงฟัน อาบน้ำ สระผมสะบัดพอให้หมาดๆ เพราะเดี๋ยวก็แห้งเอง เสร็จแล้วก็มานั่งแหมะที่โซฟาเหมือนเดิม คอก็ชะโงกดูตรงประตูรั้วว่าคุณชายจะมารึยัง คนดีอะไรเบอร์นี้ ให้ผมไปเอาเองก็ได้นะครับคุณชาย ทำเอาผมรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ นะครับพี่




                ปริ้น!


                ผมรีบวิ่งออกไปหน้าประตูรั้วแล้วก็เห็นรถเต่าคลาสสิคสีเขียวนวลมาจอดหน้าบ้าน หยิกตัวเองแป๊บ เจอรถเต่าแล้วต้องหยิกครับ ใครสอนไม่รู้แต่เห็นทีไรเนื้อเขียวทุกที


                “เฮ้ย รถพี่หรอ”


                ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ เห็นคุณชายนั่งอยู่ฝั่งคนขับ แต่งตัวแบบนี้กับรถคลาสสิคแบบนี้พาลให้นึกถึงคุณชายสมัยก่อนจริงๆ ซะอย่างงั้น นี่พี่แม่งอวดรวยกับผมหรอครับ เหลือบไปมองโรงรถตัวเอง ไอ้เชี่ย มีแต่มอเตอร์ไซค์ เห็นแล้วมันอิจฉา


                “น้องบีมมมมมมมมม” ผมร้องพร้อมกับวิ่งไปเกาะกระจกเมื่อเห็นน้องบีมนอนอยู่เบาะหลัง เห็นน้องนอนสบายใจแล้วผมก็หายคิดถึง


                “ร้องเป็นโทรโข่งอยู่ได้ ขึ้นรถสิ”


                “ขึ้นรถอะไรครับ” ผมยืนงงทำไมคุณชายมันไม่เอาน้องบีมมาให้ผมซักที อย่าว่างั้นงี้เลยครับ เปิดรถแบบนี้ไม่ค่อยถนัด


                “คราวหลังก็กินปลาบ้างนะ จะไปมหาลัยเหมือนกันรีบเก็บของ” คุณชายถอนหายใจแล้วออกคำสั่ง “ช้าจะเอาน้องบีมไปฌาปนกิจ” คุณชายเรียกกีตาร์ผมว่าน้องบีมอ่า...เคลิ้มเลย น้องผมมีคนเพี้ยนๆ อย่างคุณชายมาเอ็นดู


                “สิบ เก้า แปด”


                “เฮ้ยยย พี่แป๊บนึงงงงงงงงงงงง”


                ให้ไปด้วยก็พูดมาตรงๆ สิครับบบ ผมวิ่งไม่คิดชีวิตคว้าย่ามและล็อคประตูบ้านวิ่งมาที่รถเต่าสุดสวยทันที ถามว่าใครหลอกผมไปไหนผมไปหมด


                ถึงผมหน้าจะซื่อ แต่ผมบื้อและโง่ครับ







                “นี่รถพี่หรอ” ผมถามระหว่างคาดเข็มขัด อันที่จริงผมไม่ชอบคาดเข็มขัดเพราะมันอึดอัดลูกน้อย(พุง) แต่เพราะสายตาอาฆาตของคุณชายเจ้าระเบียบทำให้ผมต้องจำใจ


                “อืม”


                “รถของพี่จริงๆ อะนะ”


                “เออ”


                “แล้วคันเมื่อวานอะ”


                “ของคุณแม่”


                “แล้วทำไงถึงได้มาอะพี่”


                “เก็บเงิน ซื้อเอง”


                “รถสวยว่ะพี่ ผมอยากได้มั่งอะ แต่ขับรถไม่เป็น ขี่มอไซค์เป็นทุกรุ่นเลยพี่ ผมเจ๋งป้ะ”


                “...” ได้สายตาคมปราดมามองแทนคำตอบ มันจะรู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าพี่มันคุยกับผมมาตั้งแต่ออกรถแล้ว


                “อย่าบอกนะว่าพี่ขี่ไม่เป็นอะ” ผมพูดเสียงสูง


                “...”


                “พี่ขี่มอไซค์ไม่เป็นจริงๆ หรอ โคตรคุณชายเลย จะว่าไปรถคันนี้ก็เหมาะกับพี่กว่าคันเหมือนวานอีก เหมือนคุณชายย้อนยุคอะพี่”


                “นายภูเขาช่วยรูดซิบปากซักสามนาทีได้มั้ย” ชะอุ้ย


                “ก็พี่ขับรถเงียบๆ แบบนี้ได้ไงวะ” ผมไม่เข้าใจพลางขยี้หัวที่หมาดๆ ของตัวเอง คุณชายเหลือบมองผมก่อนจะส่งเสียงนิ่งๆ มา


                “แล้วผมเนี่ยตัดมาซะดิบดีทำไมไม่จัดทรงให้มันดีๆ หน่อย ไม่ทันไรก็กระเซิงเหมือนวานรไม่ได้หวีขนเหมือนเดิม” ผมมองหน้าคนขับรถด้วยความแปลกใจเมื่อคนที่พึ่งจะรู้จักกันไม่กี่วันหัดบ่นผมซะแล้ว หรือพี่แม่งเป็นกับทุกคนที่เลอะเทอะแบบผมวะเนี่ย


                “ก็รีบอะ” ผมเถียง


                “ถ้าตื่นเป็นเวลาจะทำอะไรก็ไม่ต้องรีบ คนเรามันต้องมีวินัย” ยกมือแคะหูได้มั้ยครับคุณชายเจ้าระเบียบจะเทศน์ผมแล้ว ผมเบนสายตาไปมองนอกรถตอนนี้เรากำลังอยู่ในซอยบ้าน ไม่ได้ผมต้องเปลี่ยนเรื่อง


                “เฮ้ยๆๆ พี่ดูไอ้นั่นดิแม่งเปรี้ยวอะ ตัดหน้ารถพี่แม่ง ไม่ได้ๆ ผมต้องด่า”


                ผมถือวิสาสะหมุนกระจกรถคุณชายลง ไม่ได้เว้ยเลือดพ่อมันแรง ทำไม่ถูกกฎแบบนี้มีด่าให้รู้สำนึกกันไปข้างนึง นั่นมันไอ้บอยเด็กท้ายซอยครับ


                “เฮ้ย ขับรถดีดิวะไอ้บอย ตัดหน้ารถคนอื่นเค้าแบบนี้ได้ไง ตัดแล้วไม่ต่องี้รถก็ขาดดิวะ”


                “กริ๊งๆ” มันไม่ตอบได้แต่ส่งเสียงกริ่งมาให้ผมรำคาญแทนก่อนจะเร่งตัวไปข้างหน้ารถเต่า สองเท้าของมันทะยานถีบไปข้างหน้าอย่าไม่ลดละ


                “พี่รถเต่ามันขับเร็วกว่านี้ไม่ได้หรอ เด็กแม่งปั่นแซงแล้วเนี่ย” ผมหันมาเร่งคนข้างๆ ที่ใจเย็นเหมือนแป้งเย็นตางูผมรู้คุณก็ใช้


                “จักรยานยี่ห้อไรวะกูจะเอาไปเผาทิ้ง” ผมตะโกนไล่หลัง ไอ้บอยยกตูดขึ้นมาจากเบาะแล้วส่ายตูดกวนตีนผมทันที


                “พี่! เร็วเลย ไอ้เด็กบ้านี่” มันต้องเจอซักที รถเต่าวิ่งเร็วนะครับ เร็วกว่าเต่าตัวจริงนิดนึง ไอ้บอยเดี๋ยวกูจะฟ้องพ่อว่ามึงแซงกู


                “เด็กอะไรทำไมมันพูดมากแบบนี้” คุณชายบอกอย่างหงุดหงิดแล้วเอามือซ้ายมาปิดปากผม “ปิดกระจกก่อนจะโดนปล่อยลงกลางทาง”


                คุณชายส่งสายตาคาดโทษมาให้ผม ไอ้บอยที่หันมามองหัวเราะผมใหญ่


                “พี่...” ผมเรียกคุณชายอู้อี้ จะบอกว่าไม่โวยวายแล้วแต่... “มือหอมอะ”


                เข้ คุณชายปล่อยมือแทบไม่ทัน แถมยังเอามือไปเช็ดขากางเกงด้วย มือคุณชายมีกลิ่นใบเตยจางๆ ครับ ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมแน่ๆ


                “แหะ” ผมหลุดหัวเราะก่อนจะหมุนกระจกขึ้นเหมือนเดิม สายตาคุณชายบอกเลยว่ากลัวผมแหงๆ ผมเลยส่ายหน้าคอแทบหลุด “เปล่าโรคจิตนะ มือหอมจริงๆ อะ”


                “ไอ้เด็กน่ากลัว”









                “ลงไปได้แล้ว”


                “เอ๊ะ...หือ...อือ...”


                “นี่...”


                ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงได้สะดุ้งเพราะแรงเขย่าที่ไหล่ อยู่ในรถแล้วทำไมหลับตลอด งงใจ


                “เฮ้ย!” ผมร้องดีดตัวขึ้นมาเหมือนผีเข้า “นี่ที่ไหน! นี่กี่โมง! นี่วันอะไร!”


                “หน้าคณะดุริยางค์ อีกสิบนาทีสิบโมง” ผมหันไปตามเสียงเรียบๆ นิ่งๆ ของคุณชายแล้วค่อยๆ เบิกตากว้าง


                “พี่! ทำไมไม่ปลุกผมอะ” ผมว่าพลางจับกระเป๋าย่าม คุณชายมองผมด้วยสายตาเย็นเฉียบจนผมหนาวไปทั้งตัว สติผมกลับเข้าร่างผมจึงยกมือไหว้สารถี อุอุ แอบพูดในใจเกิดมาไม่เคยมีใครขับรถให้นั่ง


                “ยังไงก็ขอบคุณพี่มากนะครับ พี่..” หรือเสียงผมไม่จริงใจ คุณชายเลยปรายตามองด้วยความรำคาญ


                “...”


                “ผมขอโทษจริงๆ นะเรื่องวันก่อนน่ะ แล้วก็ขอบคุณเรื่องผมกับกีตาร์ด้วยจริงๆ นะ พี่ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยเล่นเอาผมรู้สึกผิดกว่าเดิมอีก ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอกผมได้นะพี่..” ผมพูดไปด้วยแล้วก็ยกมือไหว้ไปด้วย ไอ้เขาไม่เคยกลัวใครแต่ไอ้เขาก็เป็นเด็กดีนะครับ เราคงไม่เจอกันอีกแล้วแต่ไอ้ภูเขาคนนี้ก็อยากแสดงความขอบพระคุณ พี่คุณชายเนี่ยโคตรคนดีเลย มาส่งคนที่ราดข้าวแกงใส่ตัวพี่แกถึงคณะ เอากีตาร์มาให้ถึงบ้าน พาไปตัดผมไม่คิดตังค์อีก ไอดอลเรื่องคนดีของผมเลย แต่เรื่องระเบียบจัดปล่อยให้พี่เป็นคนเดียวเถอะครับ


                คุณชายมองผมด้วยสายตาที่ต้องบอกว่าใช้ความคิดเหมือนจะพูดอะไรซักอย่าง แต่จนแล้วจนรอดคุณชายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ผมก้มหัวให้อีกครั้งแล้วลงจากรถแบกน้องบีมออกมาด้วยก่อนจะเดินอ้อมมาฝั่งคุณชายเพื่อเดิมข้ามถนนไปที่ตึก แต่แล้วคุณชายแห่งโลกใบนี้หมุนกระจกลงแล้วเรียกไว้ซะก่อน ผมกำลังมีความสุขเนื่องจากได้เจอคนดีๆ พี่แกจึงรีบหันมายิ้มประจบทันที


                “มีอะไรหรอครับพี่”


                “ใครบอกว่าพาไปตัดผมให้ฟรี”


                “เห...” รู้สึกหางคิ้วขวากระตุกถี่


                “สองพันค่าเสื้อก็หายกันแต่อีกสองพันเก้า มึงติดหนี้กูอยู่ เพราะฉะนั้นเรียกเมื่อไหร่ต้องมา”


                “เห...”


                “เข้าใจมั้ย สุกรลูกหนี้”


                เหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห


                “ดะ...เดี๋ยวดิพี่”


                บรืนนนนนนนนนนนนน!!!


                ที่กูชมมึงเมื่อกี้กูขอคืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


                ไอ้คุณชายผีบ้า มึงหลอกขายคอร์สเป็นหนี้ให้กูใช่มั้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


___________
-ที่บอกว่าให้ทนคิดถึงไปก่อน คือกีตาร์หรือคนอะคุณชายย-
คุณชายของโลกใบนี้ เเรกๆ มันจะเรื่อยๆ หน่อยเน้อ
ติชมได้เลยไม่ว่ากัน ♡
ขอบคุณทุกคนค่ะ
#คุณชาย2017
คิดถึงเทพพี่โตผู้เป็นตำนาน

หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 5 [21-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 21-09-2017 17:25:19
นี่คือวิธี จีบของคุนชายซึนป่ะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 5 [21-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-09-2017 18:02:33
อร๊ายยย อิจฉาอีเขามากๆ บอกเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 5 [21-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-09-2017 18:14:09
เอ๊.......คุณชาย คิดไรกับภูเขาป่ะเนี่ย
ที่บอกว่าให้ทนคิดถึงไปก่อน อะจ๊ากกกกก
แถมยังมารับพาไปคณะเรียนอีก

ถ้าไม่อยากมีเวรมีกรรมต่อ กับภูเขา
ก็น่าจะไม่ชายตาแลนะ.....คุณชาย
แต่นี่คุณชายทำให้แจ๊ค มึนไปหลายยยยย
เพราะไหนจะไม่โกรธที่ทำข้าวแกงหกราดตัว
พาไปตัดผม พาไปกินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง
ก็น่ามึนนะ มันไม่ใช่อ่ะ.....มันไม่ใช่คุณชายเลย อ่ะ
อยากอ่านพาร์ทคุณชายแล้วอ่ะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 5 [21-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 21-09-2017 20:35:20
คุณชายคนซึน2017 :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 5 [21-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 21-09-2017 22:45:12
คนเกรียน 2017 ไปดมมือเขาเฉย น่ากลัว
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 5 [21-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 21-09-2017 23:00:39
อยากรู้ความในใจของคุณชาย  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 5 [21-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 22-09-2017 01:13:10
คุณชายซึนอยู่ป่ะเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 5 [21-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 22-09-2017 03:39:27
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 5 [21-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 22-09-2017 07:01:44
ปกติเป็นคนอ่านหนังสือเร็วนะ
แต่เรื่องนี้ต้องค่อยๆ เพราะอ่านไปสำลักมุกไป 55
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 5 [21-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: KS.F ที่ 25-09-2017 11:18:46
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 5 [21-09-17]
เริ่มหัวข้อโดย: cocoagx ที่ 01-10-2017 10:48:57
โอ้ยน้องเขาาาา ทำบุญด้วยอะไรคะลูกกก พี่จะไปทำบ้าง หยั่กดั้ยบ้าง งิงิ
ในส่วนของคุณชายเคอะ พี่ทำบาปมาเยอะหรอม
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 6 [5-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 05-10-2017 17:00:28
ระเบียบที่ 6 : ห้ามความซวยยังไงไหว



                ตึกตึก ตึกตึก



                ผมเดินกระแทกเท้าเข้ามาในตัวอาคารหลังจากได้ยินประโยคสุดช็อกจากคุณชาย มือขวาจับสายกระเป๋ากีตาร์เเน่นแล้วเดินไปต่อคิวรอลิฟท์ ไม่ได้สังเกตว่าจะมีสายตานักศึกษานับสิบมองอยู่พร้อมกับเสียงกระซิบกระซาบที่ผมไม่ใส่ใจนัก เพราะไอ้เขากำลังสาปแช่งคุณชาย  รันจกุล ในดงผู้ดีอยู่ คุณชายที่ผมชื่นชมเมื่อกี้มันตายไปแล้วครับพี่น้อง



                “เฮ้ย นี่พี่เขาหรอเนี่ย ผมทรงใหม่แบบ...ดีอะ ดีเลยอะแม่มึงงง”



                “พี่เขาลงจากรถคุณชายด้วยว่ะ”



                ทั้งหมดนี้คนดีที่ผมชมมันภาพลวงตา ที่มาส่ง ทำตัวใจดีก็เพราะมันร้ายเงียบ มันกำลังก่อแผนการในใจมันสินะ ถ้าเปรียบเรื่องนี้เป็นนิยายละก็ชื่อนิยายจะต้องเป็น...คุณชายตัวร้ายกับนายควายน้อยในโคลนตมแน่นอน



                “พี่สาวฉันเรียนเอกเดียวกับคุณชายนะ วันนี้ไม่มีเรียนนี่”



                ...ฉายาเทพตีนหนักไม่จริงหรอก มันต้องหน้าหนักต่างหาก หึ กูจะหาเงินไปฟาดหน้าพี่มึงเข้าใจมะ...



                “จริงหรอ ได้ยินว่าถ้าไม่มีเรียนคุณชายจะไม่เจอในมอเลยนะ หรือว่า...กรี๊ดดดดดดดดด”



                ...จะได้ไม่ต้องมาเจอกันอีก สองพันเก้าแค่นี้จิ๊บๆ จำไว้ไอ้คุณชาย...



                ผมบ่นในใจขยับเท้าไปข้างหน้าเมื่อเริ่มเดินเข้าลิฟท์ เชี่ย พอเงยหน้าก็เห็นตัวเองที่ประตูลิฟท์ ยิ่งเห็นผมที่เป็นหลักฐานเรื่องตัดผมแบบนี้ยิ่งหงุดหงิด โกนหัวแม่งจะได้ไม่ต้องนึกถึงหน้าคุณชายอีก ไม่มีผมทรงนี้แล้วค่าตัดผมเจ๊ากัน โว้ย ผมขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด รุ่นน้องที่มักจะเห็นผมยิ้มแย้มไม่กล้าทักทายซักคน ดีพี่ไม่มีรมณ์



                ออกจากลิฟท์แล้วผมก็เดินลากเท้าเข้าห้องเรียน ห้องเรียนของผมปกติจะเป็นห้องโล่งๆ ครับจะมีพวกขาตั้งโน้ตเพลง ตู้แอมป์ เก้าอี้เล็กน้อยแล้วก็สายไฟครับ มีความระเกะระกะ มันเซอร์จริงจริ๊งงงพ่อคุณเอ๊ยยย



                แกร๊ก!



                แต่วันนี้ผมเปิดผ่างเข้าไปด้วยความรู้สึกคันปาก อยากจะเล่าให้เพื่อนฟังตั้งแต่รูขุมขนที่หนึ่งถึงรูขุมขนที่สามพันเจ็ดสิบแปดแต่...ทั้งห้องเงียบสนิท ไม่มีเสียงผู้คน แต่บนไวท์บอร์ดนั้น กลับมีตัวหนังสือเอียงๆ ตัวใหญ่ๆ แปะอยู่เต็มกระดาน แบบว่าเวลากวาดสายตาอ่านเหมือนมีเสียงดังออกมาด้วย



                อาจารย์ยกคลาสจ้ะ ไอ้เขาควายยยยยยย



            วันนี้มันวันซวยอะไรของกูวะเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

               







                ผมกระแทกส้นเท้าเข้าห้องกิจกรรมและแน่นอนเพื่อนรักผมก็นั่งสลอนอยู่ตรงนั้น พอผมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะพวกมันก็โหยหวนทันที



                “เหยดดดดดดดดดดดดดดดดดดด หล่อเว่อร์เพื่อนกู”



                “คิดยังไงไปตัดเนี่ยไอ้เหี้ยเขา เมื่อก่อนใครลากก็ไม่ไปบอกอยากเท่ๆ”



                “คิดว่าอากาศดีจังเลยตัดผมดีกว่า ถุ้ย! ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ทำไมพวกมึงไม่บอกกูเลยวะ” พอเห็นว่าผมไม่เล่นด้วยเฮียดุกและไอ้หมูเลยขยับตัวยืดหลังตรงเหมือนกำลังโดนสอบสวน



                “เค้าบอกในไลน์กันหมดแล้วไอ้ห่า” ไอ้หมูบอกหลังจากที่เงยหน้าจากมือถือมามองหน้าหล่อๆ ของผม



                “น้องสองจีมึงอะไม่เปิดอ่านไลน์ล่ะ” เฮียดุกแซะ ทำไมต้องว่ามือถือผม มันไม่ดีตรงไหนครับ



                “แล้วทำไมไม่โทรมาวะ”



                “เฮ้ยๆ เดี๋ยวๆ วันนี้ใครทำอะไรให้ไอ้เขาหงุดหงิดวะ”



                “เออได้ข่าวว่ามีราชรถมารับเมื่อวาน วันนี้คุณชายก็มาส่งยังจะอารมณ์บูดอีก ลือกันแซร่ดดดดดด” ร เรือนี่ชัดไม่ดูเวลาเลยนะไอ้เชี่ยหมู



                “มึงอย่าพูดถึงคุณชายไรนี่ได้ป้ะ แล้วกูยังไม่ได้คิดบัญชีแค้นที่พวกมึงหักหลังกูนะ”



                “ชะอุ้ยเมื่อวานผีตัวไหนไม่รู้เข้าสิงพวกกูอะ ไม่ได้ตั้งใจหักหลังเพื่อนเลย...แต่จริงๆ อย่างมึงหักเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไรหรอก”



                “ทำไมวะไอ้หมู” เฮียดุกยื่นหน้าไปถามด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น



                “สันหลังมันแม่งยาว!”



                “ผ่าม!” เสือกรับมุกกันอีก



                “ไอ้เหี้ยหมู ไอ้เฮี๊ยดุก พวกเพื่อนเวงงงงง”



                “ฮ่าๆๆ เออๆ โทษๆ แล้วเป็นไงๆๆๆ คุณชายพามึงไปกระทืบด้วยฟามรักหรอถึงมาส่งมึงได้”



                ผมหรี่ตามองมันสองคน จะเกรี้ยวกราดมากก็ไม่ได้ ต้องขอยืมตังค์พวกมันก่อนเพื่อเอาไปคืนคุณชาย แม้ว่าค่าเสื้อยังจะไม่ได้คืนไอ้หมู ผมคิดและไม่ทันได้ตอบอะไรไอ้เฮียดุกก็โพล่งขึ้น



                “ก็อีแจ็คบอกกูว่าเมื่อวานคุณชายมาส่งมึงที่บ้านแบบอเมซิ่งดิ้งด่องเลยนี่หว่า แล้วมึงปลื้มคุณชายชิบหายเลยนี่ เอาน่าๆๆ อย่าซีเรียสเพื่อน เค้าไม่มีกระทืบมึงก็ดีแล้ว นี่ๆ กูมีอะไรจะเล่าให้มึงฟัง”



                ชิบหายละ ไม่ต้องสงสัย สปายหมายเลขหนึ่งคืออีแจ็ค ตกลงมึงเป็นเพื่อนใคร มันเป็นเพื่อนผมนะครับแต่สนิทกับเฮียดุกกับไอ้หมูโคตรๆ อีแจ็คเพื่อนรักดันเอาเรื่องคุณชายมาฝอยต่อ ผมข่มความหงุดหงิดไว้ในกายตัวเองพร้อมกับปล่อยให้เฮียดุกเกี่ยวคอผมลงไปนั่งที่เก้าอี้ ฟังมันไปก่อนค่อยหาจังหวะเหมาะๆ เล่นละครเรียกคะแนนสงสาร



                “อะไรอีก”



                “มึงอยากฟังเรื่องไหนก่อน มีเรื่องดีกับเรื่องรว้ายๆ”



                “เฮียดุก...”



                “มึงเลือกได้แล้วหรอ”



                “เปล่า มึงไปถุยลิ้นทิ้งก่อนไป”



                “ไอ้สัด เออๆ เลือกมาจะฟังเรื่องไหนก่อนน้องเพื่อนรัก”



                “เรื่องดี” พอกูตอบเท่านั้นแหละดี๊ด๊าเหมือนเหี้ยเจอไก่



                “คืองี้เว้ย เมื่อคืนกูคุยกับอีแจ็คแล้วไอ้เฟมมันก็ทักมา” พี่เฟมแกเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมของคณะครับ  เฮียดุกหยุดแล้วกลืนน้ำลาย ลีลาจริงนะมึง “เออ มันทักมาแล้วมันก็บอกว่าวงที่ให้จะโชว์งานเฟรชชี่ไนท์แคนเซิลไปวงนึง เพราะฉะนั้นนนนนนนนนน...”



                “เพราะฉะนั้นไรวะ ลีลาอะเฮียดุก”



                “เพราะฉะนั้นไอ้เหี้ยเฟมเลยส่งวงมึงไปเล่นเปิดแทน ได้ข่าวว่าเดอะริชแมนทอยกับ25hoursมานะครับบบ”



                “เฮ้ยยยยยยยยย จริงหรอวะ ไอ้เชี่ยจริงดิ” ผมร้องด้วยความดีใจลืมเรื่องคุณชายที่สุมในอกไปจนหมด เด้งตัวไปกอดเฮียดุก ผมฟอร์มวงกับไอ้หมู ไอ้แต้งคีย์บอร์ด แล้วก็ไอ้ยิมร้องนำครับ ส่วนเฮียดุกไม่สันทัดเรื่องสไตล์เพลงของผม มันเลยเป็นผู้ช่วยแบกสายไฟแทน การได้เล่นในงานมหาลัยเป็นความฝันของผม อยากให้วัยรุ่นรักเพลงพี่โตครับ ยิ่งได้เล่นเปิดให้ศิลปินที่มาวันเฟรชชี่นี่แบบอยากจะกรีดร้อง



                “มึงใจเย็น อย่ารัดคอกู พร้อมฟังเรื่องร้ายยัง” เฮียดุกจับมือที่ผมที่รัดคอออก



                “เรื่องร้ายคือไรวะ”



                “เรื่องร้ายก็คือไอ้ยิมมันถอนตัว” ไอ้หมูหนึ่งในสมาชิกวงบอกผมสีหน้ามันเศร้ามาก ผมได้ยินเสียงเพลงธรณีกรรแสงลอยมาทันที



                “ทำไม...ทำไมมันไปเร็วแบบนี้ แล้วมันไปไม่บอกลาซักคำ ไม่ทันได้เตรียมใจ” ผมเบะปาก โธ่เพื่อนยิม



                “มันกินมันนอนไม่ได้ น้ำตาลยังขมปาก” ไอ้หมูพูดต่อ



                “ฮืออออออออออออออ ไอ้หมูเราจะทำยังไงกันดีล่ะเพื่อน”



                ผลัวะ!



                “เล่นใหญ่หาพ่อมึงหรอ” ไอ้หมูยื่นมือมาตบหัวผมพร้อมกับด่าไปด้วย แหม ได้ข่าวมึงก็เล่นกับกูด้วยนะไอ้หมู แล้วผอมๆ แบบนี้แรงเยอะชิบเป๋ง



                “ไอ้ยิมมันโดนรถเฉี่ยว ขาเดี้ยงยังนอนอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย” เฮียลากเราเข้าเรื่อง



                “ทำไงดีวะ ขาดคนร้องก็เหมือนปลาขาดน้ำ”



                “กูหาทางออกให้มึงแล้ว”



                “เฮียยยยยยยยยยยยยยย ทำไมมึงดีกับกูขนาดนี้ ไอ้หมูมึงดูไว้ เฮียหมูเป็นแค่คนแบกสายไฟของวงยังจัดการให้ขนาดนี้เลย”



                “เออๆ ฟังก่อนแต่ทางออกเนี่ยมึงเป็นคนเดียวที่จะทำได้” เฮียดุกดันหัวผมออกอีกครั้งแล้วชี้นิ้วใส่ผมประกอบคำพูด



                “เฮียดุก เฮียก็รู้กูรักวงยิ่งชีพ ให้ทำไรไอ้เขาทำได้หมดทุกอย่าง จะบุกน้ำลุยไฟ ไปขึ้นเขาเอเวอร์เรส ชิงเปรตที่พัทลุง ตกกุ้งที่บางปะกง สรงน้ำพระที่พระธาตุจอมทอง ล่องแพที่แก่งกระจาน สานตะกร้าที่กาฬสินธุ์ กินทุเรียนที่จันทบุรี แฮ่กๆ พวกมึงไม่เบรกหน่อยหรอวะ”



                “ไม่ เดี๋ยวเหนื่อยมึงก็หยุดเอง”



                “แฮ่มๆ เออนั่นแหละ จะให้ทำอะไรให้กับวง ไอ้เขาไม่มีบ่นแน่นอน เฮีย ไอ้หมู บอกมาเถอะ”



                “มึงสัญญาแล้วนะ” ไอ้หมูถามแล้วก็หันไปสบตาเฮียดุก เดี๋ยวพวกมึงมีไรกัน “มึงท่องคำสาบานสามจบดิ๊”



                ไอ้พวกนี้ ไร้สาระชิบหาย สาบงสาบานอะไรวะ



                “กูจะทำเพื่อวง! กูจะทำเพื่อวง! กูจะเพื่อวง!” ผมพูดทุบกำปั้นกับอกตัวเองเบาๆ



                “ดี! ก็นั่นแหละ พอกูบอกไอ้เฟมว่าวงมึงขาดนักร้องอยู่ มันก็เลยเสนอนักร้องมาคนนึงแต่กลัวเค้าไม่มาร้องให้ คือเค้ามาร้องให้วงมึงต้องดังเป็นพลุแตกระเบิดบึ้ม ไอ้เฟมมันยังบอกอีกว่าวงในอยากให้คนนี้มาร้องมากๆ ปีนี้คนจะได้มางานเยอะขึ้นแต่เพราะเป็นเพื่อนสนิทประธานสโมฯ เลยไม่มีใครกล้าไปคุย...”



                “อาฮะ แล้วไงต่อ...” ใจมันเต้นระรัว พอนึกถึงความสำเร็จของวงดนตรีของไอ้เขา



                “เนี่ยพอกูคุยกับไอ้เฟมเสร็จก็แบบ...เข้าทางเลยวุ้ย คนๆ นั้นเป็นคนที่มึงกำลังปลื้มอยู่ด้วย กูไม่คิดเลยว่าแม่งจะร้องเพลงได้ หน้าตาดูถนัดร้องโขนมากกว่า”



                เดี๋ยวนะ หางตากระตุกยิกๆ คืออะไร



                “แต่พออีแจ็คบอกกูว่ามึงปลื้มคุณชายแถมคุณชายยังมาส่งถึงบ้านอีก กูก็เลยตอบไอ้เฟมไปว่าไอ้เขารู้จัก เรื่องคุณชายไม่มีปัญหาเดี๋ยวไอ้เขาจัดการ รับรองได้ชัวร์ ไอ้เฟมดีใจใหญ่ มันเลยรีบส่งชื่อคุณชายแทนไอ้ยิมทันที”



                “...”



                วิญญาณผมเหมือนหลุดออกจากร่างไปแล้ว



                “สุดๆ ไปเลยว่ะ ได้คุณชายมาร้องนะมึงงงงง วงวารชีวิตของมึงต้องเป็นที่รู้จักทั่วมอแน่ๆ” เฮียตบบ่าผมปุๆ พลางยิ้มเหมือนภูมิใจที่ลูกชายบวชก่อนจะพูดต่อ “อึ้งๆ อึ้งเลยดิ หน้าสั่นๆ ขอบคุณกูซะไอ้เขา เฮียดุกทำเพื่อมึงโดยเฉพาะ”



                “ไงล่ะ เฮียดุกทำเพื่อวงพวกเราขนาดนี้ มึงต้องไปลากตัวคุณชายมาซ้อมกับวงเราให้ได้นะเว้ย งานเฟรชชี่ครั้งนี้อะต้องเป็นที่จดจำแน่นอน ทุกคนในมหาลัยจะต้องจำว่าวงวารชีวิตของเราว่าครั้งหนึ่งคุณชายเป็นนักร้องนำ แค่คิดก็สุดยอดไปเลยว่ะ”



                “พวกมึง...คือกู” ผมพยายามอ้าปากคัดค้านแต่ไอ้หมูก็พูดแทรกพร้อมกับทำท่าเพ้อฝัน



                “โธ่ นี่มึงดีใจจนพูดไม่ออกเลยล่ะสิเพื่อนเขา วงเราได้ขึ้นเวทีใหญ่ครั้งแรกทั้งที อยากซ้อมกลองไม่ไหวแล้วว่ะ”



                “คือว่ากูกับไอ้คุณชาย...คือ”



                “อ๊ะ...อ๊ะ...มึงจะมาอ้ำอึ้งไม่ได้ เพราะมึงสัญญาแล้ว มึงบอกว่าจะบุกน้ำลุยไฟ ไปกินขี้ที่บุรีไหนซักที่ไม่ใช่หรอ” ไอ้หมูส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงจุ๊ๆ



                “เดี๋ยวดิพวกมึง...” ผมตัดสินใจโพล่งขึ้นและในขณะเดียวกันไอ้หมูลุกขึ้นยืน



                 “ไอ้เขา วงเราฝากความหวังไว้ที่มึงนะ เออกูต้องไปละ บอสส่งข้อความมาเรียกแล้ว เร่งกูจังเลย กูต้องไปดูปีหนึ่งซ้อมกลองโชว์วันงานด้วย ปะเฮีย...”



                “ส่วนกูต้องไปส่องสาวปีหนึ่งวัยขบเผาะกับไอ้หมูน้องรัก”



                มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ มันเกิดขึ้นจริงๆ หรือฝันไป ผมนั่งนิ่ง สมองประมวลผลช้าๆ อ้าปากพะงาบและยกมือค้างประหนึ่งรั้งเพื่อนทั้งสองไว้ ได้โปรด...อย่าทิ้งกูไป...ฟังกูพูดซักคำนึงได้มั้ย...มันสองคนเดินกอดคอกันไปที่ประตูแล้วก็หันมาหาผมพร้อมกับเปิดอะไรบางอย่างในโทรศัพท์


            “มึงสัญญาแล้วนะ”



            “มึงท่องคำสาบานสามจบดิ๊”



            “กูจะทำเพื่อวง กูจะทำเพื่อวง กูจะเพื่อวง!”




                 เหี้ย...



                พวกมันยิ้มทำท่าสู้ๆ ให้กับผมก่อนจะทิ้งท้ายด้วยคำที่น่ารัก



                “รีบๆ ไปคุยกับคุณชายล่ะ พวกกูรู้มึงทำได้ไอ้เขา มอมอ”

               

                ปัง!



                “มอมอ” ผมทวนคำสุดท้ายอยู่ในหัว



                มอ



                มอ?



                ควาย



                ควาย?



                กู?



                ไอ้เขาควายยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 







                “อ้าวเขามาพอดีเลยเฮียทิว”



                “มาก็ดีเลย มึงมาดูข่าวนี้ไอ้เขา จำไว้ แจ็คด้วยเหมือนกัน ลูกผู้ชายอกสามศอกกล้าพูดก็ต้องกล้าทำเข้าใจมั้ย ไปโกหกหลอกลวงให้ความหวังคนอื่นเกิดมาแม่งเสียชาติเกิด”



                เอื๊อก...



                ในเวลาห้าโมงกว่าๆ ผมแบกน้องบีมกลับมาถึงบ้านด้วยความเอื่อยเฉื่อย ในสมองกำลังคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องที่เกิดขึ้นถึงกับสะดุ้งเมื่อคำพูดของเฮียทิวกระทบโสตประสาทเข้าอย่างจัง ฮืออออ ทำไมชีวิตผมถึงต้องเจออะไรแบบเน้ ติดหนี้ไอ้คุณชายนี่ยังไม่พอ นี่ผมจะต้องไปขอร้องให้มันมาเป็นนักร้องนำวงผมจริงๆ หรอวะเนี่ย ไอ้คนที่ฟังสุนทราภรณ์มันจะร้องได้ยังไงวะ แล้วทำไมกูถึงซวยอะไรขนาดนี้ ไอ้เฮียดุกมึงก็ทำอะไรไม่ปรึกษากูเล้ยยย



                “เขายืนหาเห็บอะไรตรงนั้น มากินข้าวเร็ว กูเอากับข้าวมาให้มึงกับเฮียทิว” กูทึ้งหัวตัวเองอยู่ อีแจ็ค!



                “ไม่หิว”



                “ทำไมทำเสียงเป็นผีดิบงั้นอะ เออ ไปตัดผมมาด้วยนี่หว่าลูกกู ทีเมื่อก่อนกูแทบจะกราบมึงให้ไปตัดก็ไม่ยอมตัด” เฮียทิวพูดขึ้น ผมเลยหันคอไปมองช้าๆ พร้อมกับยกมือไหว้พ่อตัวเองเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง เจอคำว่าลูกผู้ชายเมื่อกี้เข้าไป กูเหมือนตุ๊ดขึ้นมาทันที



                “เฮียทิวหวัดดี”



                “เอ้า...ไอ้นี่ กูเป็นพ่อนะไม่ใช่ยามหน้าหมู่บ้าน แจ็คไปลากตัวมันมานั่งกินข้าว”



                “ได้ค่ะเฮียทิว”



                “เขาไม่หิว ไม่กินอะไรทั้งนั้น”



                อีแจ็คไม่ฟังเสียงผมเพราะมันฟังแต่คำสั่งของเฮียทิวคนเดียวเท่านั้น มันวิ่งตึงตังมาลากแขนผมให้เดินไปทางห้องครัวก่อนจะกดตัวผมให้นั่งเก้าอี้ตรงข้ามมันโดยที่มีเฮียทิวนั่งอยู่หัวโต๊ะ เสียงข่าวจากทีวีเครื่องเล็กในห้องครัวยังดังมาเป็นระยะๆ



                และพอผมนั่งปุ๊บเฮียทิวก็เอ่ยปากถามผมทันที “เป็นอะไร”   



                “เขา...เครียด”



                “คุณพระ!” อีแจ็คร้องออกมาเสียงดังจนเฮียทิวตวัดสายตาไปมองด้วยความตกใจ มันยิ้มแห้งๆ แล้วยกมือไหว้ขอโทษ



                “หนูแค่ตกใจค่ะเฮียทิว ก็อีเขาเนี่ยๆ วันๆ มันเครียดอะไรกับเขาเป็นด้วย ไหนมึงเป็นไรเล่าดิ ไม่ได้กินสไปร์ทหรอวันนี้”



                “ก็จริงนะ...ว่าไงมึง ไม่ได้กินสไปร์ทหรือไม่ได้ฟังเพลงพี่โต” เฮียทิวพยักหน้าเห็นด้วย



                “ไม่มีอะไรทั้งนั้นอะ” ผมเลี่ยง เบนสายตามองอาหารบนโต๊ะอย่างผิดปกติ



                “เออไม่มีอะไรก็แดก คิดมากทำไม ชีวิตมีแค่นี้จะคิดอะไรมาก”



                ผมเงยหน้ามองเฮียทิวผู้เป็นไอดอลของเด็กทั้งซอย แววตาที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาหลายอย่างสะท้อนใบหน้าผม เหมือนได้รับพลังมาโดยไม่รู้ตัวยังไงอย่างนั้น งือออ...เฮียติวววง่า ลิ้นเปลี้ยแป๊บ แต่เดี๋ยวก่อน บรรยากาศพ่อลูกมันมีอะไรแปลกๆ



                อะไรงั้นหรอ?



                ก็มีอีแจ็คที่นั่งเท้าคางมองหน้าพ่อกูตาเยิ้มนี่ไง



                “อีแจ็ค!” หวงพ่อนะ



                “อะ...อะไรของมึงเนี่ยยยย บ้าบออออออออ”



                “จะมองพ่อกูอีกนานมั้ย”



                “ทำไม พ่อมึงเป็นวัตถุโบราณร้อยปีหรึอไงกูถึงมองไม่ได้”



                “พ่อกูไม่ใช่วัตถุโบราณ พ่อกูคือสิ่งมีค่าที่ทหารพม่าไม่ได้เผา”



                “อะแฮ่มๆ เถียงกันซะจนกูยกมือปิดผมหงอกไม่ทัน”



                “แฮ่ๆ ขอโทษค่ะเฮียทิว”



                “อีแจ็คมันเริ่มก่อนอะเฮียทิว”



                “เออๆ พวกมึงกินข้าวซะกูจะออกไปดูร้านหน่อย”



                “อ้าวร้านยังไม่เจ๊งหรอเฮีย”



                “เดี๋ยวกูเหนี่ยวด้วยหลังแหวน เมื่อกี้ยังซึมกะทือทื่อเป็นเสาคอนกรีต ตอนนี้กวนตีนกูได้แล้วคงไม่เป็นไรแล้วมั้ง”



                “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เฮียทิว ถ้ามันเป็นเดี๋ยวหนูดูให้เอง วัดหมู่บ้านเรามีโปรโมชั่นอยู่พอดีเลยค่ะ ศาลาเจ็ดจองก่อนตายก่อน”



                “อีแจ็ค!!!!”



                “ทำมะ มึงทำไรกู?”



                “โปรโมชั่นนี่ใช้ได้ถึงเมื่อไหร่วะ”



                “โอ๊ย อยู่กับพวกมึงแล้วปวดหัว”



                เฮียทิวร้องขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้น พอเสียงรถมอเตอร์ไซค์ของเฮียทิวแล่นออกจากบ้าน อีแจ็คก็รีบเดินมานั่งข้างผมทันที



                “ตกลงเป็นอะไร”



                “ก็มึง...” ผมกำลังจะอ้าปากด่ามันเรื่องที่มันไปเม้าธ์มอยกับเฮียดุก แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเรื่องทั้งหมดที่ผมต้องมาพัวพันกับคุณชายเนี่ย เป็นเพราะผมทำตัวเองทั้งนั้น



                “อะไร ก็มึงอะไร แหมๆๆๆ เมื่อเช้าเห็นนะ มีคลมาลับ(มีคนมารับ)อะ” มันหันนิ้วชี้ทั้งสองข้างมาจิ้มๆ กัน



                “แซวหาพ่อมึงหรอ”



                “อีเขา! ป่านนี้พ่อกูสะดุ้งพุงชนกำแพงแล้ว แหนะๆ ทำเป็นเกรี้ยวกราดกลบเกลื่อน มีคนหล่อมารับถึงบ้าน ตอนแรกกูก็อิจฉานะ แต่ไม่เป็นไรมึงอยู่ใกล้คุณชายไว้ เผื่อกูจะได้ตอดเล็กตอดน้อย ว้าย แค่คิดก็บ้าบอแล้วอะ”



                “อีแจ็ค มึงรักกูมั้ย” ผมรีบพูดขัดอีแจ็คที่เรียนอักษรศาสตร์ เอกคิดไปไกล โทใจจินตนาการ ก่อนที่มันจะมโนไปไกลถึงดาวอังคาร และดูเหมือนว่ามันจะเริ่มเอะใจแล้วเหมือนกัน



                “เดี๋ยวๆ กูว่าถามแบบนี้ไม่น่าจะดีกับตัวกู”



                “ถ้ามึงเป็นเพื่อนกูและรักกู มึงจะแซว จะด่าอะไรกูก็ได้ กูขออย่างเดียว” ผมจ้องหน้ามันจริงจังจนอีแจ็คกลืนน้ำลายอึกใหญ่  เรื่องที่ผมจะพูดกับมันคือเรื่องคอขาดบาดตาย



                “อะ...อะไร”



                ผมสูดลมหายใจก่อนจะตัดสินใจพูด



                “ขอยืมตังค์สามพันดิ”



                อีแจ็คหน้าเหวอแล้วก็ลุกพรวดขึ้นมาจนเก้าอี้ไม้ส่งเสียงครืดไปด้านหลัง เพื่อนผมปากคอสั่น มือขวามันล้วงหยิบมือถือออกมาแนบหูก่อนจะพูดเสียงดัง ทั้งๆ ที่ไม่มีสายโทรเข้า



                “ฮัลโหล แม่! เอาไรนะ น้ำตาลโตนดเพชรบุรี”



                “อีแจ็ค...” มันหันมาโบกไม้โบกมือเบะปากคล้ายกับว่าแม่โทรมาขัดจังหวะการพูดคุยของเรา



                “แป๊บนึง แม่อะมึง ไม่ไหวเลย โหลแม่...เพชรบุรีเลยหรอ เดี๋ยวไปซื้อให้ ไม่ต้องร้องๆ เพชรบุรีแค่นี้เองเดี๋ยวปั่นจักรยานไปซื้อให้”



                “แจ็ค” แหลไม่เนียนไปเรียนมาใหม่



                “เฮ้ยมึง... ไว้คุยกันใหม่ ต้องไปซื้อเพชรบุรี เอ๊ย ซื้อน้ำตาลด่วนว่ะมึง เดี๋ยวแกงแม่ไม่เข้มข้น เจอกันเว้ย”



                “อีแจ็ค!!!!”



                เพื่อนไม่เพื่อนมันก็ดูกันตรงนี้แหละเว้ย



                และจากตรงนี้กูว่ากูไม่มีเพื่อนนนนน



                สิ่งที่ผมทำ ผมต้องรับผิดชอบเองสินะ



                ระหว่างที่นั่งคิดอะไรเงียบนั้น...



                อุแว้ อุแว้



                เสียงข้อความเขาทำเอาผมแทบสะดุ้ง ผมมองหาต้นตอของเสียงแล้วก็พบว่ามันอยู่ในถุงย่ามใต้เก้าอี้ที่กำลังนั่งอยู่ ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรทั้งนั้น ผมกดเปิดอ่านข้อความ mms ที่เข้ามาแล้วด้วยความเชื่องช้าเป็นเต่าในยุคหินอินเดียนาโจนแต่แล้ว...ก็มีเหตุให้ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด



                [ถึง นายภูเขา  บรรจงภักดี

                มาบ้านกูภายในสิบห้านาที

                *แนบรูป]



                ส่งอะไรมาวะ...



                นั่นมัน...รูปไอ้เขาตอนกำลังเพลียแดดเมื่อตอนม.สามนี่!!



                บัตรประชาชนที่มีหน้าคนเหมือนพึ่งอพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายของผมไปอยู่ในกำมือมันได้ยังง๊ายยยยยยยยยยยยยย



                ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่คิดว่าจะมีตัวประกันอยู่ในมือมัน บัตรประชาชนที่ผมต้องใช้เข้างานอีเว้นท์วันอาทิตย์นี้ ไอ้เชี่ยเอ๊ย ลืมไปได้ยังไง ผมลืมกลับไปเอาเมื่อวันก่อนที่ป้อมยามหมู่บ้านของคุณชาย



                แต่เดี๋ยวก่อน คุณพระ! ยืมอีแจ็คมาแป๊บนึงเดี๋ยวคืน ไอ้คุณชายมันบอกเมื่อตอนเช้าว่าเรียกต้องมา แต่นี่คุณชายท่านเรียกผมไปหาที่บ้านเลยหรอครับ ในหัวผมนึกถึงฉากหนังอีโรติคขึ้นมาได้ฉากหนึ่งทันที



                หรือว่า....



                เขา....เอาน้ำแข็งมาถูหลังฉันสิ



                เฮ้ย เป็นไปไม่ได้ บ้าบอออออออออออออออออ



__________

-ค่าตัวคุณชายเเพงเว่อร์-
คุณชายคงทำกรรมหนักจริงๆ

วงดนตรีน้องเขาชื่อวงวารชีวิต
ส่วนพี่อยากจะวงวารชีวิตมึงจริงๆ เขาเอ๊ย

เพราะตัดให้มันเป็นตอนสั้นๆ คุณชายมันเลยจะเอื่อยหน่อยๆ อย่าพึ่งเบื่อกันนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมาเเสดงความคิดเห็นค่ะ
ใครที่หลงเข้ามาอ่านเรื่องนี้ก่อนสามารถย้อนกลับไปอ่านเรื่องคนกลางกันนะคะ (ขายของ55)
เเล้วพบกันตอนหน้าค่ะ
 :L1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 6 p.2 [5-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-10-2017 18:11:00
ตาหลกเขาอะ 55555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 6 p.2 [5-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-10-2017 19:44:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 6 p.2 [5-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 05-10-2017 21:32:35
ปีนี้ปีชงนังเขาหรอ 555555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 6 p.2 [5-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 05-10-2017 23:06:54
ปวดหัว55555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 6 p.2 [5-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 06-10-2017 01:24:01
เครียดกับเขา  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 6 p.2 [5-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 12-10-2017 00:51:09
วงวารเขาเนอะ 5555555
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 6 p.2 [5-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 14-10-2017 01:17:44
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 6 p.2 [5-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-10-2017 12:47:38
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชายระเบียบจัดเเห่งโลก2017 ระเบียบที่ 6 p.2 [5-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 14-10-2017 16:56:47
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 16-10-2017 13:08:20
ระเบียบที่ 7 : ห้ามสั่ง



                “อ้าวน้องเขาจะไปไหน?”



                เสียงคุ้นๆ ดังมาจากหน้าบ้าน พี่เสกที่หลอกกูเขียนชื่อที่อยู่เมื่อวานขี่สกู้ปปี้ไอรถมาจอดตรงประตูรั้วแล้วถามประโยคข้างต้น ในขณะที่ผมกำลังถอยรถเวสป้าสีเหลืองออกจากโรงจอดรถ อีพี่เสกก็มาเสนอหน้าให้ผมคิดถึงเหตุการณ์โง่ๆ ของตัวเองขึ้นมา ผมจะไปใช้หนี้ไงไอ้พี่เสก ให้กูไปถูน้ำแข็งอะไรรึเปล่ายังไม่แน่ใจ



                “เรื่องของผม”



                “โห ไอ้เราก็ถามดีๆ” พี่เสกทำหน้างอนพลางกอดคอรถตัวเองด้วยสีหน้าบ้องแบ๊วแบบไร้ฟันหน้า สยอง



                “มีไรพี่ พอดีมีธุระ” ผมก้มมองนาฬิกาคุยกับมึงก็เสียเวลาไปสองนาทีแล้ว ไม่ได้กลัวคุณชายเลยเอาจริงๆ



                “จริงๆ ก็ไม่มีอะไรหรอกอยากมาทัก แต่พอเห็นน้องเขาแล้วก็อยากให้ช่วยอะไรหน่อย”



                “ไรพี่ ผมรีบนะ”



                “แป๊บเดียวววนะๆ ถ้าช่วยพี่ ครั้งหน้าขึ้นฟรีไม่ถามคำถามด้วย”



                “แน่นะ...” ตัวเลือกที่น่าสนใจดี วินาทีนั้นผมลืมชื่อไอ้คุณชายไปชั่วขณะ



                “แน่ดิ” ว่าแล้วแกก็ฉีกยิ้มเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมเข็นรถออกมาตรงหน้าประตูรั้วข้างรถแกพอดี “พอดีพี่อยากเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กใหม่อะ เขาช่วยถ่ายให้หน่อยดิ ไปขอให้พวกวินช่วยถ่ายก็ถ่ายไม่เป็นเลยต้องมาขอให้วัยรุ่นช่วยถ่ายหน่อย”



                “แบบไหนอะพี่” ผมยื่นมือไปรับมือถือของพี่เสกที่แกยื่นให้โดยที่พี่เสกยังคร่อมรถไม่ลงมาซักที



                “เอาแบบแนวนอนนะ ฮิปเตอร์ๆ” แหมะ มีฮิปตงฮิปเตอร์ด้วย



                “โอเคๆ” โอ้โห มือถือรุ่นใหม่กว่าผมอีก ผมพลิกโทรศัพท์แล้วเดินถอยออกมาเพื่อถ่ายรูปแนวนอนให้พี่เสก



                “พี่จะถ่ายกับรถหรอ”



                “พี่จะถ่ายแนวนอน”



                “ก็นี่ไงผมก็ถ่ายแนวนอนอยู่นี่ไง” พี่เสกทำเสียงฮึดฮัดในลำคอก่อนจะขยับตัวนอนคว่ำ เหยียดขาไปด้านหลังบนเบาะสกู้ปปี้ไอของแก



                “เฮ้ยพี่ทำไรเดี๋ยวก็ตกหรอก”



                “ฮึบ เขาถ่ายเลย”



                “อะไรของพี่วะ” ผมบ่นแต่พอมองจอถึงกับร้องอ้อด้วยความบรรลุ ผู้ชายที่นอนคว่ำ ยืดแขนกำแฮนด์มอเตอร์ไซค์อยู่ตอนนี้คือคนที่เป็นผู้บุกเบิกการถ่ายรูปแนวนอนของแท้



                พ่อเจ้าประคุณรุณช่อง



                ไอ้พี่เสก แนวนอนบนเบาะรถเลยไอ้เหี้ย



                ถึงว่าไม่มีใครถ่ายให้



                อุแว้!



                ผมกดถ่ายรัวๆ ไปจู่ก็มีแรงสั่นมาจากกระเป๋ากางเกง ผมล้วงมือซ้ายเข้าไปกดอ่านข้อความแล้วก็ต้องสะดุ้ง



                [ถึง นายภูเขา  บรรจงภักดี

                ผ่านไปแล้วแปดนาที]




               เขรรรรรร้ ผมร้องลั่นอยู่ในใจก่อนจะรีบยัดมือถือคืนพี่เสก



                “ถ่ายไปนิดเดียวอยู่เลยน้องเขา พี่มีท่าแนวนอนหงายด้วยนะ”



                “พี่เสกมึงไปเล่นจั๊กกะแร้ตัวเองก่อนไป ผมรีบบบบ”



                “ก็ได้ เอ๊ะ รูปนี้ก็ดีนะเดี๋ยวไปแต่งรูปในแอพก่อนดีกว่า” พี่เสกดูรูปในมือถือด้วยความพอใจ ผมจึงวาดขาคร่อมรถแล้วสตาร์ทรถทันที



                “น้องเขา ขอบใจมา...เฮ้ยยังพูดไม่จบเลย”



                บรืนนนนน!



                ใครฟังมึงพูดจบก็บ้าแล้วพี่เสก



                เอ๊ะ กูเองนี่

 




                แท่ด แท่ด แท่ด



                ผมจอดรถหน้าบ้านคุณชาย เห็นตัวเองในกระจกรถต้องบอกเลยว่าทรงผมตั้งท้าลมแบบไม่ต้องเซ็ท นี่ผมรีบบิดมา 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยนะบอกตรง หมวกกันน็อคก็ไม่ได้ใส่ ขี่เข้ามาโดยไม่ต้องวางบัตร พี่ยามก็ให้ผ่านพร้อมกับหน้าตาตกใจ คนในหมู่บ้านผู้ดีออกมายืนมองกันตรึม ผมเท่? เปล่า ท่อรถเวสป้ามันดังคนเลยออกมาดู เออนั่นแหละ...พอลงมาจากรถก็มาด้อมๆ มองๆ แถวซี่ประตูรั้วไม้สีขาวที่มีไม้เลื้อยแซมมากับรั้ว



                นี่พี่มันเรียกผมมาทำอะไรครับ คิดแล้วก็ขนลุก



                จะเข้าไปดีมั้ยวะ หรือว่าหนีก่อนแล้วค่อยเอาเงินมาให้ทีหลัง



                หรือมึงจะทำตามพี่แกไปก่อนไม่งั้นจะเอาบัตรคืนได้ยังไง



                เออ ความคิดดี ค่อยหลอกให้มันตายใจก่อนแล้วก็ใช้ความจังไรหลอกให้คุณชายมาร้องเพลงอีกที           



                คุณชายอาจจะร้องไม่ดีก็ได้ พวกมันไม่เคยฟังเสียงนี่ ถ้าไม่เข้ากับวงยังไงพวกมันก็ต้องยอมรับ



                โห วันนี้มีความคิดมากกู สมัครนายกดีมั้ยวะ วันก่อนพึ่งไปเมกามา ไม่ดีกว่า กูไม่อยากเป่าทรัมป์? โดนัลด์ ทรัมป์?  เปล่าทรัมป์...เป็ต



                ผ่าม!



                ไอ้เขา มึงเป็นหัวหน้าวงที่ดีจริงๆ



                “จะทำตัวเป็นคนไร้สติ เด็ดใบไม้ไปเคี้ยวอีกนานมั้ย”



                คุณชายโผล่มาจากช่องว่างของรั้วจนผมสะดุ้งตกใจ



                “เฮ้ยพี่! ถ้าผมหัวใจวายทำไงวะ!” เผลอเช็ดมุมปากทั้งๆ ที่ยังไม่แดกอะไรเลย



                “มาช้าสี่นาที” คุณชายหน้านิ่งยกนาฬิกาข้อมือของตัวเองมาดู ชะอุ้ย ลืมไปได้ยังไง คุณชายเป็นคนระเบียบจัด



                “ก็...บ้านพี่ผมไม่เคยมานี่ ผมขี่วนไปวนมา วนมาวนไปก็ยังไม่เจ...”



                “โกหก ถ้าไม่เคยมาแล้วไปรษณีย์ที่ไหนจะมาส่งพัสดุแสตมป์เซเว่นแบบนี้”



                มันเก็บรายละเอียดวุ้ย “เอ่อ...อ๋อเคยมาแล้วนี่เราจำได้แล้ว ขี้ลืมจริงๆ เลยเรา ว้าแย่จัง” ทำท่าเอากำปั้นทุบหัวแบบแบ๊วๆ หวังว่าคุณชายจะให้อภัย



                “ตามมานี่” แล้วคุณชายก็หันหลังเดินทันที



                เฮ้ยเดี๋ยวๆๆ



                “พี่เปิดประตูให้ผมก่อนสิ”



                “ตาไม่มีหรอ ประตูเปิดอยู่แล้วดันมามองตรงรั้วอยู่ได้” คุณชายปรายตามองแล้วออกเดินต่อทันที



                เพล้ง!



                เออว่ะ เปิดอยู่จริงด้วย ผมเข็นรถเวสป้าเข้ามาในบริเวณบ้าน บ้านคุณชายไม่ได้มีพื้นที่กว้างเหมือนวังจุฑาเทพหรอกครับ ตรงหน้าบ้านมีสนามหญ้าขนาดเล็ก มองไปทางไหนก็เขียวชอุ่มเย็นตาไปหมด



                ทันทีที่ผมจอดรถตรงโรงรถคุณชายเสร็จ คุณชายที่เดินนำมาก่อนก็มายืนใกล้ๆ ผมจึงตัดสินใจพูดก่อนเลย



                “พี่ เรื่องหนี้...คือว่า”



                “มาทำงานใช้หนี้ทุกเย็น”



                แล้วบัตร...



                “เป็นระยะเวลาสองอาทิตย์”



                ไม่...



                “เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”



                ไม่เคยจะฟังอะไรกูเล้ยยยยยย



                ผมกำลังจะอ้าปากต่อรองกับพี่แกด้วยอาการมีน้ำโห แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงหวานๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง



                “ตาณ หายไปไหนมา แม่ทำบัวลอยเผือกเสร็จแล้วจะให้ลูกชิมซะหน่อย เอ๊ะแล้วนี่ลูกใครล่ะเนี่ย”



                โหหห โคตรสวยเลย



                นี่ผมอยู่บนสวรรค์ใช่มั้ยเนี่ย



                “ใช่จ้ะ นี่แหละสวรรค์บนดิน” นางฟ้าตอบพร้อมกับรอยยิ้ม



                ”เอ่อ ผมไม่ได้พูดในใจหรอครับ”



                “ในใจบ้าอะไรล่ะ” ได้ยินคุณชายบ่นผมเลยเงยหน้าขึ้นไปมอง งง เขางงจริงๆ



                “เอ่อ....สะ...สวัสดีครับ คุณเอ่อ คุณ”



                “สวัสดีจ้ะ เรียกคุณน้าก็ได้จ้ะ”



                คนที่อยู่ตรงหน้าผมคือคุณน้าที่ต้องบอกว่าสวยมากกกก สวยแบบไทย สวยจนบรรยายไม่ถูกเลยครับ ยิ่งใส่ผ้าซิ่นแบบผ้าโบราณ เกล้าผมแบบนี้ ไอ้เขาเหมือนหลงยุคเลย



                “น้ำลาย”



                คุณชายกระแอม หรี่ตามองผมอย่างน่ากลัว



                “ชะอุ้ย แฮ่ๆ ผมชื่อภูเขาครับเป็น...”



                “เป็นรุ่นน้องที่หางานพาร์ทไทม์ทำอยู่ครับคุณแม่”



                คุณแม่...พระเจ้าช่วยกล้วยไข่ คุณแม่หรอเนี่ย ผมตาโตมองไปทางคุณชายทีสลับกับคุณน้าที คุณน้าทีคุณชายที ไม่มีใครห้ามเลยต้องหยุดเอง เอ่อ...แล้วผมไปหางานพาร์ทไทม์ตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมตัวผมถึงไม่รู้           



                “..ภูเขาหรอ แม่คุ้นๆ หน้...”



                “ลูกเห็นเค้าอยู่บ้านใกล้เราเลยชวนมาทำงานแทนพี่แววที่ลากลับบ้านสองอาทิตย์น่ะครับ” คุณชายพูดต่อไม่สนหน้าตาเด๋อด๋าของผม



                “เอ๊ะ จะดีหรอคะลูก” คุณน้ายกมือทาบอกพร้อมกับเบิกตาโตขึ้นเล็กน้อย



                “บ้านเราก็จะมีงานเลี้ยงด้วย แววลากลับไปแบบนี้ไม่มีใครเป็นลูกมือนมด้วยครับ ลูกกลัวนมเหนื่อย อีกอย่างเด็กคนนี้ก็เต็มใจมากๆ ด้วย จริงมั้ย”



                คุณชายเอื้อมมือมาตบไหล่ผม แน่นอนว่ามือหนักเหมือนภูเขาสันกาคีรี 



                อั่ก!



                เจ็บ...



                “จริงมั้ย?” เน้นเสียงเข้มมาอีก



                “เต็มใจสุดๆ เลยครับ เอ่อ ว่าแต่ให้ผมเป็นลูกมือนมมันจะลามกไปมั้ยครับ”



                “....!!! หนูเขานี่ตลกจังเลยนะ ฮะๆๆๆ ปะๆ เข้าบ้านน้าทำบัวลอยไว้ไปชิมกันก่อน”



                ตลกอะไรกันอะครับ ลูกชายคุณน้าพูดจาลามกไม่ตลกเลยนะครับ ผมทำหน้าก่งก๊งแต่ก็ตอบรับกลับไปตามประสาเด็กดี



                เมื่อคุณน้าเดินเข้าไปด้านใน ผมเลยจับมือคุณชายที่จับไหล่ผมไว้พร้อมกับยิ้มเหี้ยม



                หมับ!



                คุณชายทำหน้าตลกๆ มองมือผมสลับกับหน้าผมไปด้วย หึ ไม่ปล่อยหรอก



                “พี่! หมายความว่าไง”



                “ก็ตามนั้น” มันออกแรงสะบัดมือออกจากอุ้งมือผมได้พอดี คุณชายจัดเสื้อเชิ้ตตัวเองแล้วขยับห่างจากผมไปสองก้าว โทษนะพี่มึง ถามหน่อย กูเป็นหนอนในกะหล่ำปลีหรอเห็นกลัวจัง



                “อย่าทำตัวมีปัญหาล่ะลูกหนี้” คุณชายปรายตามองก่อนจะเดินหลังตรงเข้าไปในตัวบ้าน



                ทำไม มีปัญหาไม่ได้ไง๊



                อะไรเอ่ย จะมีไม่ได้หรอ



                แม่งเอ๊ยยยย



                ไอ้เขายอมแค่วันนี้เท่านั้นแหละโว้ย



                ไม่มีอะไรมาต้านทานความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวของผมได้หรอก!



                ไม่มี!



                บอกเลยตรงนี้!

 




                “อื้อหือออ อร่อยมากๆ เลยครับคุณน้า”



                 “ยอรึเปล่าเนี่ย”



                ลูกยอหรอ? ผมไม่ชอบกิน



                “ไม่ใช่นะครับ อร่อยจริงๆ”



                “อีกถ้วยมั้ยจ๊ะ”



                “ได้หรอครับ”



                “ได้สิ...เดี๋ยวน้าตักให้”



                “คุณแม่ไม่ต้องลุกหรอกครับ เดี๋ยวลูกตักให้เอง”



                “ขอบใจจ๊ะตาณ เอ๊ะ น้องเขามองหาอะไรหรอลูก”



                “ตาณนี่คือใครหรอครับคุณน้า ที่โต๊ะอาหารมีกันอยู่แค่สามคนเอง”



                “ฮะๆๆๆ เขานี่ตลกอีกแล้วนะ ตาณเป็นรุ่นพี่ของตัวเองแท้ๆ ยังจะมาเล่นมุก”



                “ตาณ? รุ่นพี่? คุณชาย?” คุณน้าหันหน้าไปทางคุณชายที่กำลังตักบัวลอยด้วยความบรรจง หรือว่า...



                “คุณชายไม่ได้ชื่อคุณชายหรอครับ”



                คุณน้าหัวเราะตาหยอง เอ๊ย ตาหยี “ฉายาของลูกยังเป็นคุณชายอยู่อีกหรอเนี่ยตาณ”



                ชัดเลย!



                “ลูกก็ไม่รู้ว่าทำไมมันไม่หายไปซักที” คุณชายวางถ้วยบัวลอยตรงหน้าผมก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งตัวเอง บริการประทับใจ



                “พี่นี่ความรู้ใหม่เลยอะ”



                “จำเป็นต้องรู้?” คุณชายมันหน้านิ่งไปไหนครับ



                “จำเป็นไม่จำเป็นผมก็รู้แล้ว”



                “แล้วยังไง”



                “ก็มัน...”



                ระหว่างที่ไอ้คนตรงหน้าต่อปากต่อคำกับผมไม่หยุด คุณน้าที่นั่งมองเราสองคนก็พูดขึ้นมา



                “หือ? ตาณนี่สนิทกับเขาจังเลยน้า...”



                คุณชายกระแอม “เปล่าหรอกครับ”



                “ไม่สนิทได้ยังไง แม่ว่าลูกพูดกับเขามากกว่าพูดกับเจ้าติเพื่อนสนิทเราซะอีก” คุณชายมองหน้าแม่ตัวเองด้วยความแปลกใจแล้วหันมามองผมคาบช้อนตักบัวลอยไว้อยู่



                “โอ๋เอ๋ แต่ช้าแต่เค้าแห่ยายมา พี่เป็นคนไม่มีเพื่อนนี่เอง”



                “คนสติไม่สมประกอบแบบนี้ผมไม่สนิทด้วยหรอกครับ” หูยยย ถึงจะพูดแบบนั้นแต่สายตาพี่มึงอา...มาก อาฆาต? อ้า...น่าจัวจัง



                “เอ๊ะ แล้วนมแจ่มไปไหนล่ะเนี่ย” คุณน้าส่ายหน้ามองลูกชายตัวเองขำๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น



                ผมขมวดคิ้วตามคุณน้า เคยเป็นมั้ยครับ ปฏิกิริยาทำตามคนอื่นโดยไม่รู้ตัว นี่ทุกคนพูดจาลามกกันจริงๆ มานมจงนมแจ่มอะไร ผมเขินนะ



                “นมแจ่มจ๊ะ”



                “ขาคุณดา”



                “ออกมารู้จักรุ่นน้องตาณเร็ว เค้าจะมาเป็นลูกมือนมแทนแววน่ะ”



                ผมกำลังตั้งหน้าตั้งตารอนมแจ่มที่ว่า คุณน้ามองไปทางด้านข้าง ไอ้เขาก็มองไปกับคุณน้า ลุ้นมากนมจะแจ่มจริงมั้ย สาวสวยหมวยเอ๊กซ์มั้ย...เพี้ยะ! ตบหน้าตัวเองเรียกสติ ไม่ใช่ๆ มึงต้องโฟกัส



                “หึหึ”



                หัวเราะไรฟะ บ้าปะเนี่ยคุณชาย



                “มาแล้วค่ะ”



                เสียงเดินเร่งรีบดังออกมา พอคนๆ นั้นพ้นมุมมาที่โต๊ะอาหารแล้ว ไอ้เขาก็ลุกพรวดอย่างตกใจ! จนเก้าอี้จนเสียงครืด



                “น้องเขานี่นมแจ่ม นมแจ่มนี่น้องเขาจ้ะ”



                ...คุณป้า...



                “สวัสดีค่ะน้องเขา”



                “นมที่เลี้ยงตาณมาน่ะจ้ะ”



                “นมเลี้ยงคุณตาณเธอมาตั้งแต่เกิดเลยล่ะค่ะ” 



                ...ตั้งแต่เกิดด้วย...



                “อ้อ! สวัสดีครับนม! ผมชื่อภูเขานะครับ! อายุ 21 ปีครับ! ”



                ผมยื่นมือไปเช็ดแฮนด์ท่ามกลางความงงงวยของทุกคน เฮ้ย กูจะเช็คแฮนด์ทำไม ผมรีบเก็บมือแล้วยกมือไหว้ แล้วกูจะพูดเสียงดังทำพรื่อออออ



                พอไหว้เสร็จ คุณนมก็เหมือนก็รับไหว้พร้อมกับคลี่ยิ้ม แต่ผมเหมือนยังมีคำถาม



                “น้องเขา เป็นอะไรไปจ๊ะ” คุณน้าเอียงหน้าถามผม กำลังจะอ้าปากตอบว่าไม่ แต่เหลือบไปเห็นคุณชายที่ไม่มีบท ยิ้มมุมปากเล็กๆ ยิ้ม?!!! คุณชายยิ้มแอคแทคผมจนหน้าสั่น เป็นยิ้มที่ผมเผลอมองตาค้าง ชัดดาวน์สติตัวเองไปครู่หนึ่ง



                “ว่าไงพ่อหนุ่มอยากถามอะไรนมมั้ย”



                เอ่อ



                “นมแจ่ม...”



                “...”



                “แจ่มจริงมั้ยครับ”



                โป้ก!



                “โอ๊ยยยยย”

               





                ผมลูบหน้าผากป้อยๆ บนเก้าอี้ไม้ในห้องนั่งเล่นหลังจากโดนนมเขกหัว คุณน้าตกใจนิดหน่อยแต่ผมบอกว่าไม่เป็นไร ส่วนคุณชายนั้นแทบจะหัวเราะมากกว่าเดิม ที่ต้องบอกว่าแทบเพราะคุณชายได้แต่กลั้นหัวเราะไว้ สงสาร อยากจะหัวเราะก็เอาเล้ยตามสบาย



                “เกิดมาไม่เคยหัวเราะหรอพี่”             



                “เจ้าเด็กคนนี้นี่!” คุณนมเอ็ดที่ผมแซะคุณชาย เมื่อกี้ยังเรียกน้องเขา หึ ผู้หญิงนี่นะ แน่นอนว่าหลังเหตุการณ์เมื่อกี้นมแจ่มก็มองผมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป



                “หึหึ นมครับ เด็กคนนี้จะมาช่วยนมช่วงเย็นหลังเลิกเรียนแล้วก็อยากฝึกตัวเองที่บ้านเราครับ”



                “ฝึกอะไรพี่” ผมถาม ทุกคนในห้องนี้ดูจะมีเครื่องหมายคำถามติดที่หน้ากันหมด



                “ฝึกให้เป็นคนมีระเบียบไง”



                “อ๋ออออ อย่างนี้นี่เอง ตาณไปถูกอะใจอะไรเข้าล่ะ” คุณน้าหัวเราะ



                “คงเป็นความสกปรกมั้งครับคุณแม่”



                พูดอะไรกันวะ ผมไม่เข้าใจ แถมไม่มีช่องให้ผมพูดอะไรด้วย



                “ฝากนมดูแลด้วยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ ดื้อก็ทำโทษได้ ใช้ได้เต็มที่”



                “ฮึ นมแจ่มแก่ๆ คนนี้จะดูแลให้หนักเลยค่ะ”



                “เห็นเขาแล้วนึกถึงเจ้าปีใหม่ของนมเลยนะ” คุณน้าปิดปากหัวเราะพลางเหม่อมองไปที่กรอบรูปไม่ไกลนัก พลันบรรยากาศก็เศร้าขึ้นมาซะอย่างนั้น



                “ค่ะ กระโดกกระเดกแบบนี้เลย”



                “ถ้าเค้ายังอยู่คงจะมาเล่นกับเขาเนี่ยแหละ ปีใหม่ชอบเล่นกับเด็กร่าเริง” นมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของคุณน้า



                “หลานหรอครับนม” ผมถาม



                “สุนัขเนี่ยแหละ”



                ชะอุ้ย!

               

                ที่บอกว่าให้เริ่มงานวันแรก เอาเข้าจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกครับ เพราะคุณน้าให้คุณชายพาผมไปชมบ้าน แล้วก็ไปดูห้องครัวที่ผมจะต้องสิงสถิตอยู่ที่นั่น ห้องครัวที่นี่จะเป็นเรือนแยกมาอยู่ด้านนอกที่มีทุกอย่างครบครัน งานวันเกิดของคุณน้าท่านอยากจัดอะไรที่เป็นไทยๆ แล้วฝีมือของนมแจ่มก็หาใครเทียบไม่ได้อีกแล้ว แน่นอนว่าคุณน้าบอกผมไว้ หึ คุณชายน่ะหรอ พาชมบ้านก็พาชมอย่างเดียว ไม่พูดอะไรเลย ผมเหนื่อย



                เหนื่อยพูดอยู่คนเดียวนี่แหละ อยากกินน้องไปร์ท...



                พอเดินไปทางหลังบ้านก็จะมีลุงชัยเป็นคนขับรถกำลังเดินสำรวจเก้าอี้นับสิบที่จัดวางให้เข้ากับงานพร้อมกับผ้าตกแต่งที่เหมือนจะสมบูรณ์แล้ว จ้างออแกไนซ์ไหนเนี่ย ผ้าลายลูกไม้ตรงเวทีนี่ดูคุ้นๆ



                หลังจากเดินดูคร่าวๆ แล้วคุณชายก็พาผมมาที่ห้องครัวอีกครั้งหนึ่ง คุณนมแจ่มกำลังลองทำขนมไทยสูตรโบราณที่ไม่ได้ทำนานแล้ว ผมกับคุณชายมายืนดูอยู่ตรงหน้าประตู กลิ่นกะทิลอยมาแต่ไกล พอเห็นนมแจ่มตักน้ำตาลขึ้นมาผมที่เกาะขอบประตูอยู่เลยเงยหน้าขึ้นไปถามคุณชาย



                “คุณชาย”



                “...” พี่ปรายตามอง ผมเลยถือว่านั่นคือคำตอบรับ



                “พี่ชื่อตาลจริงๆ หรอ หวานเว่อร์อะ”



                “เคยชิมแล้วหรือไง”



                “เฮ้ย จะบ้าหรอ คนเราจะชิมชื่อได้ยังไง”



                “โง่” คุณชายมองเหยียด



                อะไรวะ



                “ชื่อตาณ ตาณ ณ เณร”



                “งื้ออออ น่ารักอะพี่ตาณ ณ เณร”



                “โง่จริงๆ ด้วย”



                อะไรของแม่ง น่าสงสัย



                แต่เอ๊ะ



                “เพื่อนพี่รู้มั้ยว่าพี่ชื่อตาณ ณ เณร”



                ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆ “รู้”



                “โธ่ อดรู้เป็นคนแรกเลย”



                “...”



                “ทำไมยังเรียกพี่ว่าคุณชายล่ะ”



                “กวนเท้ามั้ง” คุณชายยักไหล่



                สุภาพจริงๆ เลยครับพรี่ ผมทำปากขมุบขมิบบ่นอยู่คนเดียว



                “แล้วนายต่อไปนี้อย่าเรียกคุณชายอีก” แหน่ะ สรรพนามเปลี่ยน นายเนยอะไร ตอนอยู่นอกบ้านหลอกด่ากูจนพรุน คุณชายก้มมองผมเล็กน้อย ใบหน้าห่างกันแค่คืบ



                “แล้วจะให้ผมพี่ว่าเรียกอะไร”



                “เรียกเหมือนคนที่บ้านนี้ นายรู้ชื่อจริงแล้วนี่”



                “ผมไม่ล้อหรอกน่า เรียกแบบเดิมก็ได้” คุณชายมีแววตาแปลกๆ ขึ้นแวบนึง ดูเหมือนการที่ผมเล่นตัวจะทำให้คุณชายท่านอารมณ์แปรปรวน



                “เรียกซะ! ลดหนี้ให้สามร้อย เอาไม่เอา” ถือว่าการเล่นตัวของผมประสบผลสำเร็จ



                “ก็ด้ายยยยยยยยยไม่ได้เห็นแก่เงินนะขอบอก พี่ก็เหมือนกัน ต่อไปนี้พี่ก็ห้ามเรียกผมว่ามึงอีก” ผมกอดอกเชิดหน้า เหมือนนางพญาหนังจีน หึหึ



                ไงล่ะๆๆๆ คุณชายมองผมนิ่งๆ ก่อนจะพ่นเสียงหึๆ มาสองสามที

 




               .
               .
               .

                “เป็นเมียหรอมาสั่งอะ”





----------------------
คุณชายท่านหลุดพูดคำไม่สุภาพค่ะ5555
เมียเมออะร๊ายยยย
กวนมากวนกลับไม่โกง
ขอบคุณทุกคนค่ะ
ปล.เปลี่ยนหัวเรื่องใหม่เวลารีจะได้สั้นๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-10-2017 13:55:03
 :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 16-10-2017 15:15:44
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 16-10-2017 16:31:31
คุณชายไปถูกใจอะไรนังนี่คะ บ้าบอมาก  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-10-2017 16:33:03
ก๊ากกกกก เลย  :ling1: :ling1: :ling1:
 “เป็นเมียหรอมาสั่งอะ”
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 16-10-2017 18:12:32
หวายย โดนคุณชายเล่นแล้วว
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 16-10-2017 19:29:48
ในอนาคตเดี๋ยวน้องเขาก็ได้เป็นค่ะคุณชายตาณ :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-10-2017 20:31:58
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 16-10-2017 21:47:47
 :-[
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: atitayalnw ที่ 17-10-2017 00:42:46
พอเจอประโยค "เป็นเมียอ๋อ มาสั่งอ่ะ" เท่านั้นแหละค่ะ
เป็นค่าาา หนูจะเป็นเมียพี่ตาณ ฮือออ แม่จ๋า พี่เค้าดีมากจริงๆ
เป็นคุณชายที่ซึนได้น่ารักที่สุดในโลก สงสารพี่แกจริงๆเลยค่ะ
ไม่รู้ชาติก่อนไปทำไรไว้ต้องมาเจอคนอย่างเขา 555555 วงวารพี่ตาณ ถถถถ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 17-10-2017 00:47:26
คุณชายก้ออออออออ เป็นผัวน้องเหรอ มาสั่ง 5555555555555555555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 17-10-2017 03:16:02
 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 17-10-2017 19:00:16
สนุกมากหัวเราะจนน้ำตาไหล5555 ติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-10-2017 19:35:05
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 19-10-2017 23:11:33
คุณชายไปถูกใจอะไรเด็กเพี้ยนล่ะเนี่ย 5555555555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: cocoagx ที่ 20-10-2017 08:31:06
โอ้ยกรี้ดดดดด ทำไมคุณชายเค้าต้องมาตกบ่วงคลโง่วๆแบบนี้ด้วยคะะ ถ้าคุณชายตกบ่วงเพราะความสกปรกบอกเลยนี่ให้ได้เยอะกว่านังเขาอี๊กก
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: 0% ที่ 24-10-2017 13:47:22
อยากเป็นเมียจังเลยกี้ด นังเด็กเพี้ยนนี่มีอะไรให้น่าหลงกัน ไฟร้อนในตาสุด
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaikaaa ที่ 25-10-2017 22:05:08
คุณชาย เอ้ย พี่ตาณต้องรู้จักเขามาก่อนแน่ๆ แต่เราอ่ะไม่แน่ (ปล.อยากเล่นอะไรกากๆ บ้าง 55555 )
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 26-10-2017 12:41:52
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 7 p.2 [16-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: กฤตย ที่ 27-10-2017 03:37:25
 :m20: :m20: :m20: ฮาทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 30-10-2017 16:52:38
ระเบียบที่ 8 : ห้ามใจได้มั้ยเอาะ...



                ช่วงนี้รู้สึกว่าผมจะเป็นที่สนใจเสียเหลือเกิน จะว่าดีมันก็ดีไม่เต็มปาก จะว่าไม่ดีมันก็...



                “ไอ้เขา เฮ้ยๆๆ จะรีบไปไหน อยู่ก่อนดิเพื่อนนน วันสองวันนี้มึงทำตัวมีพิรุธนะ” เพื่อนหมูรักรีบคว้าแขนผมไว้ เมื่อเห็นผมแทบจะกระโดดออกจากที่นั่งเป็นคนแรกของห้อง



                “พิรุธ! พิรุธอะไร!!” ผมรีบหันมาตอบอย่างไม่มีพิรุธ



                “เล่นใหญ่แบบนี้ใช่เลย” ไอ้หมูลุกขึ้นจากเก้าอี้เลคเชอร์พร้อมกับเดินมาสำรวจตัวผม



                “เล่นใหญ่ไรปกติ๊”



                “ติ๊หน้ามึงดิ” มันโบกหัวผมไปทีนึง แรงควายไม่สมร่างผอมๆ ของมันเลย



                “มึงมีไร” ผมวางกระเป๋าไว้บนหัวเฮียดุกแล้วมองกระเป๋าไหลตกลงพื้น เฮียดุกมองตามอย่างไม่เข้าใจ กูก็งงว่ากูทำเพื่อ?!!



                “มึงทำตัวสงบเสงี่ยมแปลกๆ รุ่นพี่รุ่นน้องถามหามึงให้ควัก” ไอ้หมูพูดต่ออีก



                “เออ บอกว่าสามหนุ่มสามมุมทำไมเหลือแค่สองมุม” ผมก้มตัวลงเก็บกระเป๋าพร้อมๆ กับที่เฮียหมูเริ่มเข้าสู่วงสนทนา กูใช้ว่าคำว่าสนทนาเป็นด้วยว่ะ ดีใจเจิด



                “เออ พวกบอสก็บ่นใหญ่ ว่าไม่เห็นมึงมาช่วยไอ้ปั๊มซ้อมเพลงประกวดเลย ถ้าโชว์ไอ้ปั๊มไม่เป็นที่ตราตรึงมึงโดนขังเดี่ยวแน่”



                “อะไรว้า...ไอ้ปั๊มมันเทพกว่ากูอีก ปล่อยๆ มันซ้อมเองบ้างเหอะ”



                “เนี่ย...แล้วเมียบอสก็จิกกัดกูตลอดการซ้อมกลองแถมบ่นหาลูกรักอย่างมึงทุกวัน ถ้ามึงไม่โผล่หน้าไปห้องกิจกรรมบ้างนะ พวกกูพรุนแน่”



                “เออๆ ไว้กูจะกลับมาจัดการภาระหน้าที่กู ช่วงนี้กูยังยุ่งๆ” ผมเหลือบมองนาฬิกาหน้าห้องแล้วต้องรีบแล้วล่ะครับ จากมหาลัยกลับบ้านไม่ได้ใช้เวลาน้อยๆ เลย เดี๋ยวนมแจ่มกับคุณชายก็เขมือบผมอีกหรอก



                “เฮ้ย! เดี๋ยว” เฮียดุกรั้งแขนผมไว้อีกข้าง



                “ไรอีกวะเฮีย กูยุ่งจริงๆ นะสาสสส”



                “ยุ่งเหี้ยไรเรียนก็เรียนเหมือนกัน ทำตัวยุ่งกลบเกลื่อน ฉันรู้น่า ฉันรู้น่า ว่าเธอว์คิดอะไรอยู่” มาเป็นเพลงเชียวเฮียดุก “แหนะๆๆๆ เมื่อเช้ามีสายรายงานกูว่ามีรถเต่ามาส่งมึง มึงถึงมามหาลัยเช้าเหมือนมารอเปิดตึก...”



                จู่ๆ เฮียดุกก็ทำหน้าตามีเลศนัย และนั่นก็สร้างความตื่นตาอลังการใจให้ไอ้หมู



                “จริงดิเฮีย! เดี๋ยวนะ...รถเต่า? เฮ้ย! งั้นก็แสดงว่า...มึงไปขอคุณชายได้แล้วดิ” ไอ้หมูตาลุกวาว แขนทั้งสองข้างผมอยู่ในกำมือชายทั้งสองคน



                “ไอ้เหี้ย มึงอย่าพูดถึงดิวะ เดี๋ยวก็มาจริงหรอก” ผมโวยวาย เมื่อเช้ายังไม่ทันจะโบกวิน คุณชายท่านก็มาจอดรถรอที่หน้าบ้านตั้งแต่ฟ้าไม่สาง ผมว่าผมรีบขึ้นรถแล้วนะ สายไหนมารายงานอีกล่ะ



                “ตกลงยังไงไอ้สัด กูจองห้องซ้อมไว้ที่สตูฯ บอสแล้วอาทิตย์หน้าอะ ห้องใหญ่สุดสไตล์คนบิ๊กอย่างกู”



                “กระจู๋มึงหรอไอ้หมู”



                “เออบิ๊กเบิ้ม ถรุ้ย!!”



                “กวนตีนแบบนี้ได้ก็ไม่มีอะไรละ...” มันหันไปยักคิ้วกับเฮียดุก



                “อะไรวะ”



                “ก็คิดว่ามึงมีเรื่องไม่สบายตูด ไม่สบายใจ เห็นแบบนี้แล้ว...” ไอ้หมูเลื่อนมือมาตบไหล่ผมเบาๆ ส่งสายตาเป็นห่วงให้อย่างไม่ปิดบัง “...ไอ้เขาควายเพื่อนรัก หวังว่ามึงยังไม่ลืมเงินพันห้าของกูนะ”



                ไอ้สัด!



                เรื่องเงินไม่มีคำว่าเพื่อนจริงๆ ด้วยเว้ยเฮ้ย



                “เออน่าไม่ต้องห่วง ก็...นี่ไง ช่วงนี้กูทำงานพิเศษ วันอาทิตย์ก็ต้องทำงานกับพี่แซน หาเงินมาใช้หนี้มึงด้วยนี่แหละ กูไปได้ยัง”



                “ที่มึงหายไปเพราะหาเงินหรอ โธ่เขาน้องรัก กูกับไอ้หมู...กระซิก...พวกกูภูมิใจในตัวมึง”



                ไอ้หมูนั่งลงคว้าไม้กลองมันตีเรียกจังหวะทันที มึงไม่ต้องเล่นใหญ่เหมือนจู๋มึงก็ได้เพื่อนเหี้ยยย



                แต๊ก แต็ก ตึง ตะแล็ก แต๊ก ตึง



                “อะ พวกเรา! ขอจังหวะส่งไอ้เขาไปหาเงินหาทองหน่อย” เฮียตะโกนลั่นห้อง ไอ้พวกดนตรีแจ็สก็เอาใหญ่ โห่ฮากัน เคาะโต๊ะ เคาะเก้าอี้เป็นจังหวะ พวกผู้หญิงนี่มันส์เบอร์ใหญ่ ลุกขึ้นมาส่ายสะโพก อย่าให้กูดิ้น กูคีพลุคอยู่ เดี๋ยวไม่คูลฟีเวอร์



                “โชคดีเว้ยไอ้เขา ตึง ตึง แต๊ก ตึง ตึง มึงจงตั้งใจ”



                “ตึง แต๊ก ให้เป็นคนเก่งคนดี...อย่าเอา ความรู้ ตึง แต๊ก แต๊ก ตึง ไปคดโกงใคร...”



                “กรู้ววววววว”



                กรู้วก็มา

 



                ปัง!



                ผมลูบอก เกือบแล้ว ขาทั้งสองข้างของผมเกือบจะไปเต้นกับพวกมันแล้ว ผมเหลือบมองประตูห้องที่มีเสียงจังหวะดังลอดออกมาแล้วส่ายหัวเบาๆ



                เฮียทิวครับ ทำไมผมต้องมาคลุกคลีกับพวกไม่เต็มบาทพวกนี้ด้วย ผมกรอกลูกตาขึ้นไปบนฝ้าเพดานก่อนจะสูดลมหายใจ ก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง



                “พี่เขา จะรีบไปไหนอะพี่”



                ชะอุ้ย! ชะงักตีนแทบไม่ทัน



                มารผจญ กูต้องรีบเผ่น ผมรีบเดินลงบันไดทันที เจอเพื่อนเพี้ยนรั้งยังไม่พอ ผมจะสายเพราะปั๊มนี่อีกคน



                “เฮ้ยพี่ รอผมด้วยดิ” มันตะโกน ดีหน่อยที่ตอนนี้จะห้าโมง อาจงอาจารย์กลับบ้านกันหมดแล้ว เมื่อกี้ว่าอะไรนะ...ห้าโมง!!! ต้องรีบแล้วไอ้เห้



                เดินขาขวิดจากชั้นสามลงมาชั้นหนึ่ง แล้วเดินตรงผ่านลานหน้าคณะเพื่อจะไปที่จุดรอรถ แต่...



                “พี่หยุดก่อน! ช่วยฟังผมซ้อมหน่อย”  ไอ้ปั๊มวิ่งมาถึงตัวด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อวินาที น้องๆ ที่ซ้อมหลีดอยู่ใต้คณะหันมามองเล็กน้อย ผมเลยจำใจต้องหันไปมาตามประสาพี่ที่ดี เดี๋ยวน้องไม่นับถือ



                “เออก็ได้ อะงั้น...เริ่ม!” ผมพูด ไอ้ปั๊มยิ้มเผล่ก่อนจะยกนิ้วมาดีดตรงพุง ทั้งๆ ที่ไม่มีกีตาร์



                “แต้ว แด่ว แด้ว แด่ว”



                “ดี เพราะมาก ท่าดีดพุงสวยมาก”



                “เฮ้ย! พี่นี่ก็ตลก แล้วกูจะเล่นตามทำไมก็ไม่รู้ ไปฟังในห้องกิจฯ ดิพี่ เสียบแอมป์ไว้รอแล้ว” เมื่อกี้ทำเสียงเองด้วยนะมึงอะ



                “วันนี้กูไม่ว่างไอ้น้อง” ผมบอกคนที่ยืนขวาง ไอ้ปั๊มวันนี้ยังคงสไตล์เดิมคือหน้าตาเหมาะเป็นเดือนคณะ แต่ความกวนตีนนั้นควรได้โล่ประกาศเกลียดติคุณ



                “พี่อ่า...” มันทำหน้างอแงแต่แล้วก็ดีดตัวขึ้น “เออก็ได้ เหลือตั้งสามอาทิตย์”



                “ใช่ ดังนั้นมึงซ้อมเองไปก่อน แล้วอีกอย่างไอ้ปั๊ม กูไม่ได้เป็นคนตลกตลอด แต่น่ากอดตลอดเวลา”



                ไอ้ปั๊มเขยิบตัวมายืนข้างๆ พร้อมกับเลื่อนมือมาโอบไหล่ผม “ไอ้ปั๊ม มือมึงอะ ลามปามใหญ่ละๆ”



                “ก็พี่บอกน่ากอดตลอดเวลา ผมก็ลองดูว่าจริงมั้ย อืม น่ากอดดีนะพี่ ตัวนิ่มแบบนี้ทั้งตัวทั้งสมองไม่ค่อยมีอะไรอะดิ”



                ไอ้น้องเวร ผมกำลังจะเอี้ยวตัวไปตบกบาลมันแต่ก็มีเสียงนิ่งๆ ดังแทรกขึ้นมา



                “มอมแมม”



                ใครมาเรียกหาหมาแถวนี้วะ



                “สุกร” ผมหันไปหาต้นเสียงแล้วก็ต้องพับกบ เอ๊ย พบกับคุณชายที่เนี้ยบหัวจรดเท้ากำลังเดินตรงเข้ามาหาผม



                “อ้าวพี่!” แล้วไอ้ปั๊มนี่เป็นเชี่ยไรมาบีบไหล่กู “พี่มาได้ไงอะ ผมกำลังจะกลับพอดี”



                “มารับ”



                เสียงนิ่งๆ เอ่ยออกมาแต่ตามองที่หัวไหล่ผม เฮ้ย...ต้องรีบสลัดไอ้ปั๊ม สงสัยคุณชายคิดว่าผมจะเบี้ยวเพราะมัวแต่เล่นอยู่แน่นอน



                “เออ ไอ้ปั๊มกูไปละเว้ย”



                “ใครอะพี่เขา”



                “เออน่า กูไปละ ซ้อมกีตาร์ของมึงดีๆ ไว้เจอกัน”



                “โอเคก็ได้” ไอ้ปั๊มคลายมือที่จับไหล่ผมก่อนจะค้อมหัวให้คุณชายทีนึง แต่คุณชายกลับยืนนิ่ง น่ากลัวเกินไปล้าวววว



                “ไปกันพี่” ผมทักเมื่อคุณชายยังมองตามไอ้ปั๊มไป เพราะผมยืนรออยู่คุณชายเลยตวัดสายตาคมๆ มามองผมแทน ชะอุ้ย ผมเลิกเรียนช้าไม่ได้ทำไรผิดนะครับพี่



                “คราวหลังอย่าให้ใครจับตัวสุ่มสี่สุ่มห้า”



                “หือ?...ทำไมอะพี่”



                “...อย่างคนเมื่อกี้ มือมีแต่ฝุ่น ดูสิ เสื้อเปื้อนไปหมด”



                คุณชายก้าวเท้าเข้ามาใกล้ พร้อมกับยื่นมือมาปัดตรงที่ไอ้ปั๊มจับเมื่อกี้สองสามที นี่มึงปัดหรือสับหมูห๊ะพี่ แรงไปไหน เอ๊ะแต่...



                “เปื้อนจริงดิพี่ ไอ้ปั๊มไอ้น้องเวร สงสัยมันจับสายแอมป์แล้วไม่ล้างมือแน่เลย คราวหลังผมจะไม่ให้ใครมาแตะตัวง่ายๆ อีกแล้ว”



                “ดี” คุณชายมีสีหน้าดีขึ้นกว่าเมื่อกี้หน่อย ดีจัง ผมลอบยิ้มก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าแล้วพูดต่อ



                “แต่เซ็งเลยว่ะพี่ ผมว่าจะใส่สามวันด้วยอะตัวนี้”



                พอสิ้นคำผม คุณชายเหมือนคิ้วกระตุก



                “เอ้าพี่...ทำไมทำหน้างั้นอะ”



                “สกปรกเหมือนเดิม”



                พูดจบก็หันหลังเดินทันที



                “พี่! ผมล้อเล่นนนนน วันนี้วันศุกร์แล้วใครจะใส่อีกเล่า รังเกียจหรอวะพี่ ผมจะเดินชิดตัวพี่เลย นี่แน่ะๆๆๆ”



                “ตัวขมุกขมอมเอ๊ย ไปเดินไกลๆ เลย”

               



                “นมครับ”



                “นี่เจ้าภูเขาจะคุยมือก็ต้องทำงานด้วย อย่าหยุดกวนน้ำตาล”



                “ครับๆ” ผมมองน้ำตาลในหม้อแล้วเหลือบตามองผ่านซี่ไม้ก็เห็นคุณชายคอยคุมคนงานให้จัดวางของต่างๆ อยู่ด้านนอก งานเลี้ยงบ้านคุณชายมีวันอาทิตย์ วันเดียวกับที่ผมต้องไปทำงานพิเศษพอดี และปัญหาอยู่ที่ว่า...บัตรประชาชนผมอยู่ที่คุณชาย ไม่รู้ว่าอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของคุณชายจะยอมให้ผมลากิจซักหนึ่งวันพร้อมบัตรประชาชนรึเปล่า ตอนนี้ผมเลยต้องหาคนที่เข้าใจ



                “จะถามอะไรฮึเรา” นมแจ่มเดินมาดูความแรงของไฟก่อนจะกลับไปนวดแป้งต่อ



                “เอ่อ...คุณชายนี่อยู่กับคุณน้าแค่สองคนหรอครับ”



                “หืม?...ก็ใช่ คุณพ่อของคุณตาณน่ะเสียตั้งแต่คุณตาณยังเล็ก ก็มีแต่นมกับคุณน้านี่แหละที่ช่วยกันเลี้ยง”



                “เอ่อ นิสัยคุณชายเค้าเป็นยังไงหรอครับ”                         



                “แล้วเราคิดว่าคุณตาณเป็นคนยังไงล่ะ...”



                “อืม...” ผมลากเสียงคิดถึงวันแรกจนถึงวันนี้ที่ได้เจอกับคุณชาย มันเป็นอาทิตย์ที่ยาวนานสำหรับคนอย่างผมมาก คุณชายน่ะหรอ ผมว่า...ถ้าไม่นับความกวนเท้าด้วยใบหน้านิ่งๆ ของคุณชายแล้วละก็ สำหรับผมนะ... คุณชาย...



                “...ใจดีครับ แล้วก็ไม่เห็นเป็นเหมือนที่คนอื่นว่าเลย”



                “คุณตาณน่ะใจดีมากเลยล่ะ อาจจะเป็นเพราะถูกเลี้ยงมาแบบนั้นเลยทำให้คนอื่นรีบตัดสินกันไป” นมแจ่มหันมายิ้มตาหยีใส่ผม นมครับ ผมนิยมนมเด๋งดึ๋งมากกว่าครับ ได้โปรดอย่ามองผมแบบนั้น ผมต้องหลีบเลี่ยงสถานการณ์นี้อย่างเร่งด่วน



                “เอ่อ...นมครับ แล้วคุณชายชอบใส่น้ำหอมกลิ่นใบเตยหรอครับ”



                “ใบเตย?”



                “ใช่ครับ ผมได้กลิ่นมาจากมือพี่เค้าตลอดเลย” คุณนมทำท่าคิด หรือว่าผมมีจมูกผี ได้กลิ่นหลอนไปเอง ไม่นะ....ผมไม่อยากเป็นไอ้เขาหมูกผี



                “อ๋อออ...นั่นน่ะ ไม่ใช่น้ำหอมหรอก คุณดาท่านสุขภาพไม่ค่อยดี เวลาได้กลิ่นใบเตยแล้วจะสดชื่น ยิ่งเป็นน้ำใบเตยน่ะเธอชอบมาก คุณตาณจะตื่นเช้ามาต้มน้ำใบเตยให้คุณแม่เธอทานประจำ ตอนเย็นก็ต้มนะ กลิ่นนี้หอมไปทั่วบ้านเลยล่ะ กลิ่นคงจะติดไป”



                “ไม่น่าเชื่อ” คุณชายจะมีมุมอะไรแบบนี้ด้วย นึกถึงตัวเองที่อยู่กับพ่อสองคนแล้วช่างน่าอนาถใจ ทุกวันนี้ยังแข่งกันม้วนกางเกงในเป็นเลขแปดอยู่เลยครับ ไม่ใช่แปดธรรมดา เลขแปดไทยเลยนะครับ แหมะ...แต่เฮ้ย ไม่ใช่เวลาคิดถึงเรื่องนี้



                “นมครับ นมว่าถ้าผมมีเรื่องเดือดร้อนเนื้อใจคุณชายจะเข้าใจผมมั้ยครับ” ผมละมือจากการกวนน้ำตาล กะพริบตาปริบๆ ให้ดูน่าสงสาร



                “เดือดเนื้อร้อนใจ!”



                “นั่นแหละครับ”



                “มีเรื่องอะไรก็บอกคุณตาณเค้า เราบอกเองไม่ใช่หรอว่าพี่เค้าใจดี”



                “ครับ...ถ้าเป็นอย่างนั้นวันอาทิตย์ผมคงไม่ได้ช่วย เพราะผม...กระซิก” นมเดินมาลูบไหล่ผมเบาๆ นมครับมือนมเปื้อนรึเปล่า



                 “ถ้ามีอะไรก็บอกได้ วันอาทิตย์น่ะไม่เป็นไรหร....กลิ่นอะไรน่ะ”



                “หัวผมมั้งครับ ไม่ได้สระมาหลายวันแล้ว” แอบเห็นนมกรอกตาสามวิก่อนจะทำจมูกฟุดฟิดตามหากลิ่น



                “ไม่ใช่ นี่มันกลิ่นไหม้ ไม่ใช่กลิ่นสุนัขตายบนหัวเธอ”



                “ไหม้?” ผมก้มมองกระทะตรงหน้าแล้วก็เบิกตากว้าง “เฮ้ยยย! นมครับ น้ำตาลไหม้”



                “ว้ายยยยยยยยยยย”



                “น้านตาม เฮ้ย น้ำตาลๆๆ ชิบหายแล้วไอ้เขา โอ๊ย เคร้ง! นิ้วๆๆๆ” ผมตื่นตูมพาให้นมวิ่งวุ่นไปหมด ผมหยิบอะไรก็ใส่ไปเรื่อย หยิบแป้งมันมาโยนใส่กระทะจนฟุ้งไปทั่วห้องครัว หยิบน้ำมันมาเติม แถมยังเผลอยกกระทะด้วยมือเปล่าอีก เสียงตะหลิว ทัพทีตกดังเคร้งคร้าง ต้องบอกเลยว่าปังครับงานนี้ ปัง...ปินาศ



                “โอ๊ย เจ้าเด็กคนนี้หยุดวิ่งซักที ปิดแก๊สซิ!”



                เออว่ะ ปิดแก๊ส!



                “เร็วๆ เข้า!!”



                “ภูเขา! นมครับ! เกิดอะไรขึ้น!”

               





                คุณเคยเห็นควายชุบแป้งทอดมั้ยครับ



                ถ้าไม่เคยเห็นมาดูผมก็ไม่ต่างกัน



                ผมกับนมแจ่มออกมาจากวงล้อมของความวุ่นวายได้สำเร็จโดยการนำของคุณชายที่ตอนนี้ท่าทางจะอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ ฮือ ป๋มขอโต้ดดดดดดดดดดด คุณชายเรียกลุงชัยคนขับรถให้พานมเข้าไปล้างหน้าล้างตา วันนี้คุณน้าเธอไม่อยู่ครับมีนัดกับเพื่อนไปลองชุดที่จะใส่ในวันงาน ทั้งบ้านเลยมีคุณชาย นมแจ่ม แล้วก็ลุงชัยเท่านั้น



                “พี่...ผมขอ…”



                “รอตรงนี้”



                คุณชายพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไอ้เขาเลยตัวลีบเหมือนเป็นโรคอยู่หน้าห้องครัวเยื้องๆ กับตัวบ้าน รอคุณชายไม่นาน คุณชายก็เดินออกมาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาลและผ้าขนหนูผืนหนึ่ง พี่ท่านจูงมือผมไปนั่งที่ศาลาไม่ไกลจากห้องครัว



                บรรยากาศโดยรอบดีมากแต่ถ้าใครได้นั่งข้างคุณชายตอนนี้ละก็...เฮือก บรรยากาศยิ่งกว่าอยู่บนยอดเขาอารยันมันตรัย พี่โตครับมัน...หนาวเหน็บ หนาวเพียงไหนจะฝ่าไป



                “พี่...”



                คุณชายเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้ผมด้วยแรงที่ไม่เบาแถมยังบ่นทุกคำที่ลงมือเช็ด หน้าผมที่ตอนนี้เต็มไปด้วยแป้ง แถมผมเน่าๆ ก็ไม่ต้องพูดถึง ขาวยิ่งกว่าผมของนม (อิเวง)



                “ซุ่มซ่าม”



                “งือ เย็น” ย่นคอหนี



                “ไม่มีสติ”



                “ง่า แสบนิ้ว” เบะปากเลยกู



                “ดีแต่ทำให้คนอื่นเป็นห่วง”



                “ง่ะ”



                “สุกรโง่”



                “...? เมื่อกี้พี่ว่าอะไรน..โอ๊ยๆๆๆ” ทำตาดุขึ้นแล้วก็มากดแผลของผมซะแรง ว่าแต่แผลนี่มาจากไหนวะเนี่ย



                “ทำขนมอะไรถึงมีมีดบาดได้เนี่ย นิ้วก็โดนลวก”



                “ผมขอโทษ ฮือ กลัวเลือดดด” เบะแรงกว่าเดิม



                “...” คุณชายที่ก้มหน้าทำแผลที่หลังมือให้ผมอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมามองผมนิ่ง ส่วนผมนั้นจินตนาการขั้นล้ำลึกกว่าแผลมีดบาด ถ้าเนื้อเปิด เนี้อสีแดง เส้นเลือดกระฉูด น่ากลัวววจะร้อง



                “พี่ ผมจะเล่นกีตาร์ได้มั้ย”



                “แผลรอยเท่ามดเต้นบัลเล่ต์” คุณชายส่ายหน้า แล้วก็ติดพลาสเตอร์ให้ผม



                “ถ้ามือผมอ่อนแรงจับกีตาร์ไม่ได้อะ แล้วถ้ามันมีเลือดตกค้าง แล้ว...” เงยหน้าสบตาคุณชาย และ...เหมือนเวลาหยุดนิ่ง บรรยากาศรอบข้างเงียบจนได้ยินเสียงแมลงร้อง ดังตึกตัก ตึกตัก ใช่ เสียงแมลงร้องจริงๆ นะ



                คุณชายเอื้อมมือมาแตะบริเวณแก้มขวาของผมพร้อมกับเกลี่ยเบาๆ...



                หลังจากนั้นก็จะเริ่มไม่เบาแล้ว



                ...เพราะ...พี่มึงใช้สองนิ้วคีบเนื้อแก้มผมยืดออก นี่แค่สองนิ้วเองนะ แรงคุณชายท่านเยอะมาก



                “โอ๊ยยยยยย อะไรอะพี่” ผมปัดมือคุณชายออกแล้วมากุมแก้มตัวเอง เจ็บๆๆๆ



                “หยุดพูดมากได้แล้ว” เอ็ดผมทีนึงแล้วก็หันไปเก็บอุปกรณ์ทำแผล “หมั่นเขี้ยว”



                “พึมพำไรของพี่เนี่ย อ๊ะ พี่!...ดาว...ดาวใช่มั้ย สวยเนอะ” ตอนนี้คงจะสองทุ่มแล้วล่ะครับ  เวลาผ่านไปเร็วมาก และศาลาที่เรานั่งตรงนี้ก็มองเห็นดาวบนท้องฟ้าระยิบระยับเต็มไปหม....



                “ดาวที่ไหนนั่นไฟจากตึก”



                แต้แว้ด!



                หมดกันที่พร่ำเพ้อมา



                “บ้าบอ ไม่ใช่ไฟ ผมเข้าใจถูกแล้ว บ้านชานเมืองงี้จะมีตึกได้ไง” ผมเถียง แอบมองเสี้ยวหน้าคุณชายก็เห็นว่าสีหน้าดีขึ้นไม่ดุเหมือนเมื่อกี้แล้ว       



                เอาล่ะ เข้าทาง



                 “พี่ผมขอบัตรคืนได้มั้ยอะ อย่ามองงั้นสิ พี่...อย่าเข้าใจผิดนะ ผมจะทำงานให้ใช้หนี้พี่เหมือนเดิม แต่คือวันอาทิตย์ผมต้องไปทำงานอีกที่นึง ต้องใช้บัตรอะพี่ นะพลีสสส ขอรว้องงง”



                “...” คุณมาหรี่ตามองผมเงียบๆ ผมก็แอบลุ้น แต่คิดว่าคุณชายคงจะไม่ให้ผมไปแน่ๆ



                “เอาไปสิ อะ...” ว่าแล้วก็เปิดกระเป๋าสตางค์ยื่นบัตรมาให้ด้วย



                “เห?...พี่” ผมมองคุณชายตาโต แล้วก็รีบรับบัตรมา “ใจดีเฟ่ออออ” ผมยิ้มตาหยี อ้าวหันหน้าหนีไมอะ



                ผมกอดบัตรไว้แนบอก คิดถึงหน้าตาต่างด้าวแบบนี้มากเลย เชรดเข้ ไอ้เขาจะได้ไม่ต้องมากวนน้ำตาลแล้ว ขอไปดีดกีตาร์ซักวันเถ้ออออ คันไม้คันมือมาตั้งหลายวัน



                “ผมลาวันนึงนะพี่ อย่าเพิ่มหนี้ผมนะ นะพี่ตาณใจดี”



                คุณชายชะงักกึก “ว่าอะไรนะ...”และเพราะไฟสีเหลืองอ่อนจากศาลาทำให้ผมเห็นหูแดงๆ ของคุณชาย



                “ก็พี่ตาณไง พี่...” ผมชี้นิ้ว อ้าปากค้างหน่อยๆ “เขินหรอ กริ้วววววววววว ผมเรียกบ่อยๆ ยังได้เลย พี่ตาณ พี่ตาณ พี่ตาณ พี่ตาณ”



                คุณชายยิ้มเหี้ยมเคลื่อนตัวมาใกล้ๆ ผมก่อนจะ...ใช้นิ้วที่แข็งแรวงมากระทำชำเลาแก้มผมทั้งสองข้าง



                “โอ๊ยยยย อ่อยอ๋มมมมม”   



                ผมจะฟ้องมูลนิธิควายไทย ผมโดนมนุษย์ทำร้ายยยย





========
ใครเเอคเเทคใครกันเเน่เนี่ย...
#คุณชาย2017
คิดว่าจะอัพต้นเดือนเเต่ว่าสตาฟร่างคุณชายเเละเขาไว้นานเเล้ว
เหมือนอัพไปเมื่อวานเเต่ว่าผ่านมาเกือบครึ่งเดือน
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเช่นเคยค่ะ
โดยเฉพาะคอมเม้นท์ตอนล่าสุดอ่านไปขำไป
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 30-10-2017 18:08:19
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 30-10-2017 21:05:50
น่ารักกกกกกกกกกกกกกก
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-10-2017 22:37:51
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-10-2017 23:22:25
ว้ายๆๆๆๆ........
คุณชายแพ้ทางภูเขา  :ling1: :ling1: :ling1:

คุณชาย ภูเขา  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

หึงเขา ที่โดนปั๊มจับตัว ทำหน้าดุด้วย
แถมบอกเขา ห้ามให้ใครถูกตัว อะจ๊ากกกก
เพราะทำให้เขาสกปรก  o22 o22 o22
แอ่ะๆ......เขานั่นแหละสกปรกกว่าใครๆซะอีก

มีหมั่นเขี้ยว ดึงแก้มเขาจนยืด
มีบอกเขาว่า ชอบทำให้เป็นห่วง
พอเขาเรียกพี่ตาณ ก็หูแดง  โว้ะ......คุณชาย น่าร้ากกกกก
ตกลงคุณชายแอบชอบเขามานานแล้วใช่ไหม
ก่อนเขาทำแดงหกใส่อีกแน่เลย
อยากอ่านพาร์ทคุณชายแล้ว  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 31-10-2017 03:39:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: 0% ที่ 31-10-2017 16:31:34
นี่ก็มีเเก้มให้จับให้บีบนะเยอะกว่าเด็กเพี้ยนนี่ด้วย อยากโดนหมั่นเขี้ยวบ้าง ฮือน่ารักเป็นบ้าเลยคุณชายขาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 31-10-2017 21:27:27
แหมม คุณชายยย แก้มน้องมันนุ่มล่ะสิ บีบเอาๆอ่ะ :haun5:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 31-10-2017 21:37:25
ง่อวววว มีความโรแมนติกคีบแก้มเบาๆ มีความหวงน้องด้วย หาว่าคนอื่นสกปรกไปอีก
ติดน้องมากนะเอาจริงๆ พี่ตาณเนี่ย

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 01-11-2017 01:10:51
พระเอกแบบพี่ตาณคือเดอะเบสท์ เอื้อออออออออออออ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Velusia ที่ 01-11-2017 10:08:05
โอ้ย หุบยิ้มไม่ได้ นังเขาครับบบ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Choompoo reangkarn ที่ 01-11-2017 11:27:31
ภูเขาเนี่ยปลาไหลเชียว :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Jintajam ที่ 01-11-2017 19:00:18
 ง่า พี่ตาณเขินน่ารัก  :jul1: :pighaun:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 01-11-2017 20:58:20
ตัวมอมแมมมันน่ารักแบบนี้ไง คุณชายถึงชอบมาวอแว  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: nizadael ที่ 02-11-2017 17:19:58
พระเอกชื่อเดียวกับเราเลยอ่ะ 
สนุกดีค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งเน้อออ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: noozzz ที่ 02-11-2017 21:04:55
บ้าบออออ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 03-11-2017 00:26:18
คุณชายนะคุณชาย วันหลังดึงให้แรงกว่านี้เลยนะ 5555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 03-11-2017 23:08:04
ตามมาจากในทวิต อ่านแรกๆนึกว่าอิเขามันจะเป็นพระเอกซะอีกที่ไหนได้เด็กน้อยจริงๆ อ่านถึงตอนล่าสุดแล้วรู้สึกได้ว่าคุณชายตาณน่าจะถูกใจเขามาก่อนหน้านี้แล้วนะ ไม่งั้นไม่เอาตัวมาเกี่ยวพันกันแบบนี้หรอก ส่วนเขานี่ถึงจะบ้าบอแต่ก็เหมือนเด็กน้อยจริงๆนะ ไม่เคยจะเถียงอะไรใครทัน แต่เราไม่ชอบเพื่อนเขาที่ชื่อดุกกับหมูเลยนะ ดูเป็นเพื่อนแบบแปลกๆคือไม่ช่วยไม่พอยังโบ้ยงานกันเห็นๆอีก คือไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเป็นเพื่อนกันเลยอะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 8 ห้ามใจได้มั้ยเอาะ... p.3 [30-10-17]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 12-11-2017 19:24:46
มาต่อเถอะนะคะ พลีสสส อยากอ่านอิเขาจอมป่วงแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 13-11-2017 21:25:42
ระเบียบที่ 9: ห้ามคนงอนไม่ได้หรอก



                “เช้าวันอาทิตย์ที่แสนสดใส” เสียงทุ้มมีเสน่ห์ดังขึ้นจากประตูบ้าน ผมหันไปมองคนที่มาเยือนและตอบออกไปอย่างรวดเร็ว



                “งานที่รักรอเราอยู่”



                “มุแซนชิ”



                งั้นผมก็เป็น... “ควายจิโร่”



                “พวกเราสองคนคือแกงค์ร็อคเก็ตแห่งจักรวาล”



                “ไวท์ฮอล พรุ่งนี้ที่สดใสรออยู่”



                “ส่วนกูก็พ่อมึงไง!”



                ผลัวะ! ผลัวะ!



                “โอ๊ย เฮียทิวววว ทำลายชื่อเสียงของแกงค์ร็อคเก็ตหมดแล้ว” ผมหันไปมองหน้างอพลางลูบหัวป้อยๆ พี่แซนเห็นดังนั้นก็มาลูบหัวลูบหางของผมอีกคน เราสบตากันนิ่งโดยมีเฮียทิวใส่กางเกงตัวเดียวมองมาด้วยความรำคาญ



                “น้องรักกกกกกก พี่มาหาแล้วววว”



                “พี่รักกกกกก น้องรอแล้วววว”



                “กูล่ะเบื่อพวกมึงสองตัว เช้าที่ไหนตะวันแยงตูดขนาดนี้ แล้วทำไม มองหน้ากูทำไมไอ้แซน หรือมึงเป็นลูกกูอีกคน”



                เฮียทิวนิ่วหน้าเหมือนมีใครไปเหยียบนิ้วเท้า ก่อนจะหันหน้าไปหาเรื่องเฮียแซนที่กำลังกอดผมตัวกลม เอ่อ ไม่ได้หมายความว่าตัวผมกลมนะ และผมก็ไม่ได้อ้วนด้วย



                “อาจจะใช่ก็ได้ เฮียทิวไปไข่ไว้ที่ไหนรึเปล่า”



                “กูไม่ใช่ปลา”



                “ผมหมายถึงกบ!”



                “อ้าวหรอ เออๆ พวกมึงจะไปทำไรก็ไป”



                “โอเคคร้าบ เฮียทิวสุดหล่อ ผมจะพาน้องรักไปเมคมันนี่ แล้วจะกลับมาส่งอย่างปลอดภัย”



                “ทำไมมึงไปทำงานที่อ่างทองรึไง”



                “เปล่าครับหมู่บ้านข้างๆ นี่เอง”



                เฮียทิวส่ายหน้าก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวเดินขึ้นชั้นสองไปอาบน้ำ เห็นดังนั้นผมที่อยู่ในชุดเสื้อกล้ามย้วยเกินเบอร์กับบ๊อกเซอร์ลายไข่ขี้เกียจเลยดึงมือพี่แซนมาที่โซฟาซึ่งมีชุดสูทวางพาดอยู่



                “พี่แซนดูชุดผมดิ โอเคป้ะ”



                “เออๆ ไหนมาดูดีๆ ดิ๊” พี่แซนคนเพี้ยน(กล้าว่าคนอื่นนะมะรึง)เพ่งตาพินิจพิจารณาชุดของคุณภูเขาในวันนี้



                “โห ชุดน้องกูหรอเนี่ย” ปากสีแดงเข้มเพราะสูบบุหรี่จัดอ้ากว้างเหมือนถ้ำในหุบเขา ผมหูกระดิก เกาะแขนพี่แซนแน่น



                “หล่อใช่มั้ย”



                “ทุเรศลูกตามาก ชุดสูทมึงยาวไปไหนเนี่ย”



                “อะไรอะ...เดี๋ยวพับเอาก็ได้ ผมอะสูงมาตรฐานแล้วนะแต่ร้านเช่าแม่งมีแต่ไซส์ฝรั่ง”



                “ฝรั่งหน้ามึงดิ มึงไปเช่าสูทที่อเมริกาหรอ นี่ไทยแลนด์แดนออฟสมายมันก็ต้องมีแต่ไซส์ชายไทย มึงแหละเตี้ย ต้นถั่วงอกยังสูงกว่ามึงเลย”



                “ไม่เตี้ยโว้ยยยยยย” จากหูกระดิก ผมจะกลายเป็นหมาบ้าแล้ว ล้อเล่นกับความสูงแม่งไม่คูล กูสูงกว่าต้นถั่วงอกด้วย! ไอ้พี่แซนหัวเราะคิกคัก วันนี้พี่มันก็หล่อดีนะ ชมแค่นี้พอ โกรธ พอหายโกรธแล้วผมเปลี่ยนเรื่อง แน่นอนว่าผมเริ่มแต่งตัวกลางบ้านเลย เสื้อสูทยังไม่ต้อง ค่อยใส่ตอนงานเริ่มอีกหลายชั่วโมง



                “แล้วนี่คนอื่นไม่เข้ามารอในบ้านก่อนหรอ”



                “ไม่ๆ มันไปรอที่งานหมดแล้ว”



                “พี่รักมารับผมคนเดียวเลย ตื้นตันใจจังกระเบย ผมไปอยู่ที่งานก็ไม่รู้จักใคร” พี่แซนมีเพื่อนหลายสาขามาก สาขาทองหล่อ อโศก สุขุมวิท พอ! หมายถึงว่าพี่แซนมีเพื่อนเยอะบางทีคนที่มาช่วยงานผมก็ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน ยกเว้นพวกหัวหน้าฝ่าย นั่นจะอยู่นานหน่อย พี่แซนไม่ค่อยเปลี่ยนหัวหน้า ไม่ใช่อะไร มีกันอยู่แค่นั้น



                “หึหึ ไม่ต้องห่วง เพื่อนเยอะงานนี้อะ”



                “หือ ทำไมอะ” พอผมถาม คำตอบก็ลอยมาทันที



                “แท้แด้นนนนนนนน พวกกูมาแว้ววว”



                “เซอร์ไพร์สสสสส”



                “บ้าบอออออออออออออ”



                “เชี่ยหมู! เฮียดุก! อีแจ็ค! มาได้ไงเนี่ย”



                “กูไปซ่อนตัวตั้งนาน พี่แซนไม่เรียกซักทีเลยไปกินข้าวบ้านแจ็ค เป็ดพะโล้อร่อยโพด” ไอ้หมูตอบพร้อมกับลากแขนเฮียดุกที่ซดน้ำมะพร้าวขวดอึกๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่น



                “ส่วนกูเดินมาบ้านกูอยู่ข้างๆ นี้เอง”  อีแจ็คตอบพร้อมกับเดินนวยนาดมาที่โซฟาเป็นคนแรก ก่อนจะถึงโซฟามันก็แกล้งสะดุดขี้ฝุ่นล้มตัวมานั่งตักพี่แซนทันที



                “อุ๊ย สะดุดรัก”



                มึงเห็นมั้ยเพื่อน ตาดำกูมองรอบบ้านแล้วเนี่ย “พี่รัก ให้มันนั่งไปเถอะพี่ สงเคราะห์คนไม่มีผัว”



                “จ้า อีดอกกกกกก คนที่กำลังจะมีผัวมันหน้าตาเป็นยังไง หน้าตาโง่ๆ อ๊องๆ แบบมึงหรอ” อีแจ็คซบหน้ากับคอพี่แซนแต่หันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผม



                “กูไม่ได้จะมีผัว!”



                “ไม่มีได้ไง กูรู้กูเห็นทุกอย่าง”



                “นี่พวกมึงพูดเรื่องอะไรกัน มาๆ ไอ้หมู ไอ้ดุก มานั่ง” กำลังจะอ้าปากเถียงแต่พี่แซนก็ยกมือห้ามซะก่อน แล้วจู่ๆ พี่แกก็ลุกพรวดขึ้นทั้งๆ ที่อีแจ็คนั่งอยู่บนตักก็ร่วงลงมาทันที



                “ว้ายยยยยยยยย”



                ตุ้บ!



                 “อ้าวเฮ้ย! กูขอโทษ ลืมแจ็คไปเลยนะเนี่ย เห็นไอ้หมูกับไอ้ดุกไม่มีที่นั่งเลยจะลุกให้” พี่แซนทำหน้าเหรอหรา แต่มือนี่ปัดเสื้อปั่บๆ นี่มึงรังเกียจหรือกลัวเสื้อยับกันแน่ครับพี่



                “ฮือ!” อีแจ็คนี่เล่นใหญ่ไม่ลุกมาซักทีส่งเสียงร้องมาทีเดียว



                “ร้องแค่เนี้ย” เฮียดุกถามหลังจากที่นั่งลงถัดจากผมและไอ้หมูแล้ว



                “ไม่ต้องยุ่งกับกูเลยเฮียดุก”



                “เอ้างอนเก่ง”



                “งอนพี่แซน! ชิตังเมแล้ว”



                “อะไรวะชิตังเม” ไอ้หมูถามอีแจ็คต่อ



                “ชิตังเม...โป้ง!”



                “...” แดกจุดกันเลยทีเดียว



                “ฮ่าๆๆๆๆ” พี่แซนหัวเราะออกมาคนแรกพร้อมกับฉุดแขนแจ็คให้ลุกขึ้น แหน่ะ ฮาพี่เค้าแหละ ส่วนสามหนุ่มสามมุมแกงค์ผมก็ได้แต่มองหน้ากันเงียบๆ



                “กูจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้”



                “ดีเอสไอจับมึง กูไม่ส่งโอเลี้ยงนะบอกก่อน”



                “คิดนานมั้ยเนี่ยอีแจ็ค”



                “อะแฮ่ม” ผมกระแอมเพื่อหยุดเรื่องราวไร้สาระแล้วหันไปถามพี่แซนที่เหมือนจะงานเข้าเพราะกดมือถือยิกๆ “พี่รักจ้างเพื่อนผมหรอ”



                “ไม่ได้จ้าง วันนี้ดุกกับหมูมาช่วยงานฟรี”



                “ทำไมอะ”



                เฮียดุกเม้มปากแน่นก่อนจับมือผมกับหมูมาวางทับกัน “กูทนเห็นเพื่อนทำงานงกๆ คนเดียวไม่ได้ เพราะฉะนั้นกูกับไอ้หมูเลยไปขอร้องพี่แซน วันนี้พวกกูจะเป็นลูกมือมึงเอง”



                “กูต้องซึ้งมั้ย”



                “สุดๆ” ไอ้หมูตอบ คลึงนิ้วโป้งบนมือผมเบาๆ หน้าไอ้หมูยิ้มแบบน่ากลัวมาก กูว่าชักผิดประเด็นละ ผมสะบัดมือออกแล้วถามต่อ



                “แล้วอีแจ็คมันมีเจือกอะไรด้วย หือ?”



                “แจ็คแค่สัมภเวสีที่อยากมาส่องผู้ชายในบ้านมึงเฉยๆ” 



                “เอ๊ะ เสียงอีแจ็คเงียบจัง พี่แซน อีแจ็คล่ะไปไหน....” เงยหน้าขึ้นก็ต้องพบกับ...อีแจ็ค มันกำลังเลื้อยตัวไปมา เฮ้ย เอาตัวไปถูไถเฮียทิวของผมที่ใส่กางเกงเลตัวเดียว บนบ่าพาดผ้าขนหนูสีเหลืองอ่อนไว้ โธ่ พ่อผม ลงมาก็เจอผีสิงซะแล้ว



                “เฮียทิวขา วันนี้ไอ้เขาไม่อยู่บ้าน เดี๋ยวแจ็คกี้ปาปีเยเย่จะดูแลปาก....” แล้วมันก็มองปาก “จะดูแลท้อง....เฮียทิวเองค่ะ” แล้วมันก็มองข้างล่างพร้อมกับแลบลิ้นแผล่บๆ เฮียทิวทำท่าสยองเอามือดันหัวมันออกก่อนจะปรายตามองมันนิ่งๆ





                “จตุพร กูลุงมึงนะ...”

 







                ผม พี่แซน เฮียดุก และไอ้หมู ทิ้งอีแจ็คไว้เบื้องหลัง แล้วรถฮอนด้าแจ็สสีเขียวก็ออกเดินทางมายังสถานที่ทำงานในเวลาเกือบเที่ยง คิดแล้วก็ตื่นเต้นผมอยากดีดกีตาร์จนมือสั่น เบื่อหน้าคุณชายจะแย่ ขนาดเมื่อวานวันเสาร์คุณชายยังลากผมออกจากบ้านตั้งแต่เช้าให้ผมมาปีนเก้าอี้ติดไฟ ตัวเองตัวสูงอย่างกับเสาไฟฟ้าก็ไม่ติดเอง พูดแล้วขึ้น เอ๊ะ แล้วผมจะพูดถึงพี่มันทำไมครับ ไม่ๆๆ วันนี้ผมจะดีดกีตาร์ให้ลืมความเจ็บปวด



                “มีไอ้หมูมาก็ดีเหมือนกัน จะได้มาตีคาฮองให้ไอ้เขาสร้างบรรยากาศ” พี่แซนเอ่ยขึ้นมา ไอ้หมูเลยโชว์สเต็ปการตีกลองคาฮองด้วยการทำเสียง เชี่ย น้ำลายจะโดนหน้ากู



                “แล้วเฮียดุกทำไรอะพี่” ผมปาดน้ำลายแล้วยื่นหน้าไประหว่างเบาะ



                “พี่แซนบอกให้กูคุมซาวน์กับไมค์” เฮียดุกทำท่าจัดเสื้อสองสามที



                “อ้าว พี่บีไปไหน” พี่แซนมักจะบรีพงานผมในส่วนที่ผมต้องทำ ส่วนกำหนดการของงานแกก็จะบอกคร่าวๆ



                “ไม่ได้ไปไหนหรอก เหี้ยบีมันคุมโปรเจคเตอร์ จริงๆ มันวิ่งสองอย่าง ซาวน์กับโปรเจคนี่แหละ แต่มีไอ้ดุกมาก็โปรเจคเตอร์อย่างเดียวเลย”



                “โหหหห กูไม่เชื่อล่ะว่ามึงจะมาทำให้ฟรี”



                “เหี้ยเขา นี่เพื่อนนะครับ ชุดกูก็เตรียมเอง บอกเลยว่าเพื่อนมาดี ทำดี พูดดี”



                “สัดหมูตอแหล เอ๊ะ ที่จัดงานอยู่หมู่บ้านอะไรนะพี่” ผมหันไปมองวิวด้านนอก ทุกอย่างแม่งดูคุ้นๆ เพราะตลอดอาทิตย์นี้ผมไปมาบนเส้นทางเดอะสตาร์นี้ทุกวัน  ขับมาเรื่อยๆ มันก็ชักจะยังไง



                “รัน...ไรวะ เออ รันจกุลไรเนี่ย จะถึงแล้ว”



                เห...ไม่จริงน่า...



                “ว่าแต่มึงเหอะน้องรัก ดีดให้เนี้ยบนะสัด กูเสียสละลูกรักให้มึงใช้วันนึงเลย เจ้าของงานไม่พอใจมึงอดทิป”



                “รู้แล้วล่ะ....น่า”



                ทันทีที่รถเลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้าน ไอ้เขาก็อ้าปากหวอ พี่แซนยื่นบัตรอะไรซักอย่างให้ยาม สมองน้อยๆ ของผมก็หมุนเร็วจี๋ ยามหน้าตาคุ้นๆ สบตากับผมแวบนึงก่อนจะส่งยิ้มให้ และเมื่อรถจอดสนิทเทียบฟุตปาธ บ้านทรงไทยโมเดิร์นที่มีคนคึกคักก็ปรากฏในสายตาผม



                ผลัวะ!



                “เหม่อไรเนี่ย ไอ้เขาถึงแล้ว” เฮียดุกนั่นเองที่ทำฟาดมือลงบนกบาลของผม



                “เชี่ย!”



                “ลง! ถึงแล้วเตรียมบัตรด้วย”



                ไอ้เขาพูดไม่ออก รั้วสีขาวแบบนี้ ศาลาแบบนี้ ตัวบ้านแบบนี้



                ผมบรรลุในวินาทีนั้น บ้านคุณชาย  รันจกุลที่ผมมาใช้หนี้ด้วยการช่วยเตรียมงานวันเกิดคุณน้าวันอาทิตย์นั้นคืองานเดียวกับที่ผมต้องมาดีดกีตาร์หาเงินใช้หนี้ในวันนี้



                จะด่าตัวเองว่าโง่ก็สงสารพ่อ



                แงงงงงงงงงงงงงง



                มัวแต่ทึ้งหัวตัวเองอยู่ ไม่ได้ดูว่าคณะเดินทางเดินเข้าไปด้านในหมดแล้ว ผมยืนเด๋ออยู่ตรงทางเข้าบ้าน แล้วจากนั้นเสียงคนคุยกันก็ดังหึ่งๆ ผ่านหัวผมไป



                “ทีมงานคุณแซนนะครับ ขอตรวจบัตรด้วยครับ” พี่ชายที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนเอ่ยขึ้น ผมสะดุ้งเล็กน้อย กลับเข้ามาสู่โลกแห่งความจริงที่หลีกหนีไม่ได้



                “ครับ” ผมเม้มปากก้มหาบัตรที่ขอจากคุณชายเมื่อวันก่อน ถึงว่าให้บัตรกูง่ายจัง แล้วแม่ง อยู่ไหนวะ กูจะมุดกระเป๋าอยู่แล้วนะ



                “คนนี้ผมตรวจเอง”



                “เอ่อ ครับ”



                กึก กึก เสียงเดินมั่นคงขยับมาข้างหน้าสองสามก้าว ขณะเดียวกันผมก็หาบัตรเจอพอดี ผมยื่นบัตรให้แบบไม่มองหน้า ก่อนจะก้มตัวลงเก็บเศษกระดาษ(ขยะ)และพวกสลิปที่หล่นออกจากกระเป๋า



                “หน้าไม่เหมือนในบัตร ไม่ให้เข้า!”



                เอ๊ะ...อะไรวะ



                “ไม่เหมือนได้ไง ผมนี่แหละตัวจริง....” ผมเงยหน้าขึ้นตั้งใจจะโวยเต็มที่ แต่พอเห็นหน้าคนตรวจบัตรในชุดสุดเนี้ยบเท่านั้นแหละ



                “เฮ้ยพี่!...”



                “ไง โคน้อยในโคลนตม”



                “....ไม่ต้องมายิ้ม แกล้งผมหรอ ไม่บอกผมซักคำ ปล่อยให้ผมโง่เป็นควา...กระบืออยู่แบบนี้” ผมหน้าร้อน คิดว่าเป็นเพราะความอายที่มาจากความโง่ของตัวเอง



                “หึหึ”



                “บอกว่าอย่ายิ้มไงเล่า”



                “ทำไมล่ะ” คุณชายเอียงคอเล็กน้อย แน่นอนว่ามันกวนล้วนๆ ผมเม้มปากเดินกระแทกเท้าเข้าไปในงาน



                 มันหล่อไง เข้าใจมั้ย!

 







                พวกเราเตรียมงานตลอดทั้งบ่าย ดีหน่อยที่วันนี้อากาศไม่ร้อน พวกผมที่แต่งตัวมาเต็มก็เลยไม่หงุดหงิดเท่าไหร่ แถมนมแจ่มยังดูแลเรื่องอาหารของทีมงานแบบดีสุดๆ ไปเลย พี่แซนขอบคุณไม่หยุดปาก



                “สรุป...มึงกับคุณชายอยู่ในขั้นไหนกันแล้ว”



                “เฮี๊ยดุก พูดไรวะ...” ผมปิดปากเฮียดุกพลางมองซ้ายมองขวา



                “เอ้า ก็จริงอะ ข่าวลือแม่งจริงสัดๆ แถมมึงซ้อมกีตาร์ได้ไม่กี่รอบก็วิ่งแจ้นไปยกถาดอาหารมั่งล่ะ ไปจัดโต๊ะมั่งล่ะ”



                “ก็ ก็กูคนดีไง ช่วยได้ก็ต้องช่วย” เห็นผมโผล่มาพร้อมกับคุณชาย นมแจ่มก็ร้องเรียกหาแล้วครับ นมคงไม่คิดว่าไอ้เขาที่เล่นใหญ่ลางานหนึ่งวันจะกลับมาทำงานเหมือนเดิม ดีนะที่สถานที่จัดงานอยู่หลังบ้าน ไม่งั้นเพื่อนผมต้องมาเห็นไอ้เขาร้องโอดโอยเพราะโดนนนมแจ่มบิดหูอยู่แน่ๆ



                “คนดีไปอีกกก” ไอ้หมูลากเสียงยาว ผมเลยโฟกัสที่หน้ามันอีกครั้ง “แล้วเค้าจะมาเดินวนเวียนแถวเวทีบ่อยทำไมขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะมึงอยู่ตรงนี้”



                “เฮ้ยๆๆๆ ไม่ใช่เพราะกูไอ้เชี่ยหมู พี่แกก็ต้องมาคุมงานดิ เจ้าของงานนะเว้ยเเถมยังเนี้ยบเรียกพ่ออีก นี่พวกมึงโดนอีแจ็คล้างสมองรึไง”



                “แอ๊ะ แอ๊ะ” ไอ้หมูกุ้งแห้งหรี่ตามองผม “ให้มันจริงงงงง กิ๊กกั๊กดึ๊กดั๊กอะไรกัน เอ๊ะหรือว่ามึงกำลังปฏิบัติการลับพาคุณชายไปร้องเพลง” ไอ้หมูตบเข่าดังฉาด ชี้หน้ามึง พร้อมกับเบิกตากว้าง เชี่ยยยย กูลืมไปแล้วนะเนี่ยสาดดด



                “อะ...เออ! ใช่!” ผมพูดเสียงดังจนพี่แซนที่ยืนคุมเรื่องการตกแต่งทางนู้นหันมาทำตาขวางใส่



                “เนี่ยเพื่อวงเลยนะเนี่ย มึงก็รู้คุณชายเค้าไม่ใช่คนที่จะมาร้องเพลงให้เราง่ายๆ” ผมลดเสียงกระซิบข้างหูไอ้หมู แล้วจู่ๆ เฮียดุกก็อยากมีส่วนร่วมด้วยการยื่นนิ้วก้อยงอๆ มาสะกิดไหล่ ทันทีที่ผมหันไป คุณชายก็เดินตรงดิ่งเข้ามาแล้วเอ่ยปากทันที...



                “มอมแม..”



                “ครับพี่!” ถึงจะตอบไปทันควันแต่ผมก็ส่งสายตาดุๆ ไปให้คุณชาย คิดไม่ออกว่าทำไมถึงกล้านัก กูเนี่ยไม่กลัวตายไง๊ ก็ใครใช้ให้มาเรียกมอมมงมอมแมมแถวนี้ ไอ้พวกนี้ยิ่งหูไวตาไวเหมือนร็อตไวเซอร์ ห๊ะ ไวเลอร์



                “มีอะไรครับ” ผมดีดตัวออกห่างไอ้หมู ยืนตัวตรง หลังตรง มองคุณชายที่เอ่อ...รู้สึกว่าจะไม่สบอารมณ์กับอะไรบางอย่าง



                “นมเรียก” แถมเสียงยังแข็งด้วย



                “หือ...เมื่อกี้ผมพึ่งไปหา...”



                “นมเรียก” ย้ำอีกด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยน



                “มึงไปเหอะไอ้เขา เดี๋ยวจะไม่มีแค่นมที่เรียก” เฮียดุกบอกอีก ก่อนจะชวนไอ้หมูไปเทสต์ไมค์ ที่มึงเทสต์แล้วสองรอบ



                ผมเกาหางคิ้วงงๆ “เอ่อ เดี๋ยวผมตามไปครับ”



                “มาสิ เดี๋ยวพาไป นายไปห้องครัวไม่ถูกหรอก”



                ว่าแล้วคุณชายก็เดินนำผมไป คุณชายนี่เล่นละครเก่งเหมือนกันนะเนี่ย เหมือนกับว่าผมพึ่งมาบ้านนี้ครั้งแรก ผมลงจากเวทีที่ยกสูงจากพื้นไม่มาก เดินผ่านบรรดาโต๊ะเก้าอี้สีขาวที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้ แล้วก็ไฟประดับ ตอนมืดคงจะสวยมากแน่ๆ งานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดคุณน้าจะเริ่มประมาณห้าโมงเย็นครับ อาหารจะเริ่มเสิร์ฟตอนหกโมงเย็นและจะเป่าเค้กประมาณหนึ่งทุ่มจากนั้นก็พูดคุยกันตามอัธยาศัย



                   “พี่ ถึงห้องครัวแล้ว”



                ผมทักเมื่อคุณชายผ่านห้องครัวเเล้วเดินเข้าไปที่ประตูบ้าน นมแจ่มยังง่วนอยู่กับการตกแต่งขนมไทยให้สวย ให้น่ากินและมีระดับที่สุด งานนี้มีลูกมือจากร้านอาหารมาช่วยสองสามคน ดูเหมือนว่านมก็ยังทำเองทุกอย่างอยู่ดี



                แล้วคุณชายทำไมไม่หยุดเดินซักที



                “พี่!” ไม่ฟังอะไรกันเล้ย “พาผมเข้าบ้านทำไมเนี่ย ไหนบอกว่านมเรียกไง”



                “รอตรงนี้” พูดเสียงเรียบแล้วก็เดินเข้าไปในห้องซักรีด ไม่นานคุณชายก็ออกมาพร้อมกับกางเกงแสล็คและเสื้อเชิ้ตตัวใหม่



                “อะไรอะพี่ แล้วคุณแม่พี่ไปไหน” ผมชะเง้อดูในบ้านก็เงียบสนิท



                “คุณแม่ไปร้านทำผม นายเอาไปเปลี่ยนซะ” ยัดใส่มือผมแล้วก็ดันหลังให้ผมเข้าห้องน้ำ



                “ชุดพี่หรอ” ผมเห็นตรงอกเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนปักตัวอักษร T สีทอง 



                “ชุดเก่า” เก่าที่ไหนเนี่ย โคตรใหม่เลย



                “ให้ผมเปลี่ยนทำไมอะพี่ ชุดนี้ไม่ดีหรอ” ผมขืนตัวไว้ ยกเสื้อผ้าค้างไว้แบบนั้น



                คุณชายส่ายหน้า เป็นครั้งแรกที่ไม่มีคำร้ายๆ ออกมาจากปาก ผมมองอึ้งๆ แล้วจากนั้นก็มีมือใหญ่มาวางแปะบนหัว คุณชายสบตาผมแล้วพูดด้วยเสียงจริงจัง



                “เปลี่ยนเถอะ สงสารตอม่อ”



                “เออ! เตี้ยก็เตี้ย แล้วจะกดทำไมอะ มันก็เตี้ยกว่าเดิมดิ” ผมสะบัดตัวให้หลุดจากมือหนักๆ นั่นแล้วเดินเข้าห้องน้ำ แม่งงงงงงงง ตั้งแต่รู้จักกันมาพี่มึงว่าผมเป็นอะไรบ้างนะ วานร สุกร โค กระบือ รากดิน(รู้ทีหลังว่าคือไส้เดือน) เป็นตัวมอมแมม เป็นตัวสกปรก นี่จะให้กูเป็นตอม่ออีกหรอ #เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วแต่ไม่เคยเป็นไอ้เขาเลย



                พอผมออกจากห้องน้ำมาก็พบว่าชุดที่ใส่อยู่มันพอดีตัวโคตรๆ ถ้าคุณชายไม่บอกว่าชุดเก่าผมก็ไม่เชื่อนะเนี่ย แถมดีกว่าตัวเดิมเป็นไหนๆ ตัวเก่ามันยาวทำอะไรก็ไม่ถนัด ตอนซ้อมดีดกีตาร์ก็ต้องพับขึ้นแล้วขึ้นอีก วิ่งไปหยิบถาดขนมก็แทบสะดุด



                “ดีมั้ย?” คนที่รออยู่หน้าห้องน้ำถามขึ้น



                “...” ผมไม่ตอบถึงแม้ว่ามันจะดีมากๆ ก็เถอะ ไอ้เขาเคือง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน คนอื่นว่าเตี้ยยังไม่เท่ากับคุณชายว่า มันคันยิบๆ อยู่ในใจ คุณชายที่ดูเหมือนว่าวันนี้ยิ้มเยอะเหลือเกินยื่นมือข้างหน้าพร้อมกับหวีขนาดกลาง



                “ผมไม่หายโกรธหรอกนะ ถ้าจะมาง้อด้วยชุดกับหวีแค่เนี้ย” ผมจ้องหน้าคุณชาย เราสบตากันนิ่งแล้วท่านก็ทำในสิ่งที่น่าแปลกใจ นั่นคือคุณชายหวีผมที่กระเซอะกระเซิงให้ผมอย่างเบามือ ผมเม้มปากแน่นแต่เหมือนมุมปากจะพยายามแหกกฎการกลั้นยิ้ม ท่ามกลางบ้านที่เงียบสนิทนี้ผมก็ได้ยินเสียงแมลงดังตึกตักอยู่ในอก



                “ทำขนาดนี้แล้วหายโกรธยัง?”



                “....”



                “ว่าไง?”



                “...หายนิดนึงก็ได้!”



                “หึหึ ตัวมอมแมมขี้งอนเอ๊ย”







--------------
น้อมรับความผิดมาช้ามากๆ
หวังว่าอ่านเรื่องนี้เเล้วคลายเครียดได้บ้างนะคะ
หรือว่าเครียดกว่าเดิม55
ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ
ฝากเรื่องสั้น my sexy J (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63550.msg3732030#msg3732030) ตอนเดียวจบไว้ไปอ่านเล่นกันนะคะ เลิฟ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 13-11-2017 22:28:21
โถๆๆ ตัวมอมแมมงอนพี่ มีความเอาชุดมาง้อพร้อมหวีผม น่ารักออก อออกไปโดนแซวแน่
ขี้หวงนะคนพี่อ่ะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-11-2017 22:49:53
 :bye2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 13-11-2017 23:08:00
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 13-11-2017 23:19:54
คุณชายละมุนมากค่ะ ที่เข้ามาเรียกเขานี่คือหึงสินะคะ
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 13-11-2017 23:26:01
คุณชายยยยย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 13-11-2017 23:34:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: hoihak ที่ 13-11-2017 23:51:09
สีชมพูมากจ้าาาา ความเต๊าะน้องแบบซึนๆ คนน้องนี้รู้หรือปล่าวว่าพี่เขาวางกับดักหนูอยู่ 5555555 ตกลงไปทีหนีไม่ได้นะจ๊ะ คึๆ
โอ๊ยยยน่ารักกกกกกกกกกกกกกกกก แบบซึนๆมึนๆ อื้อฮือออออ <3
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: 0% ที่ 14-11-2017 02:10:09
ตัวมอมเเมมขี้งอนเอ๊ย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-11-2017 06:48:02
คุณชาย หึงเขาชัดๆ

ชุดสูทเขา คงรุ่มร่ามมาก
ทั้งพับแขน พับขา หลวมโพรกอีก
คุณชายคงไปหาแบบวัดตัวเขาเลยน่ะเนี่ย
เพราะพอดีตัวเป๊ะๆ
ในบ้านจะมีใครตัวสูงเป็นตอม่เท่าเขาอีกล่ะ

รอพาร์ทคุณชาย  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 14-11-2017 10:27:37
คุณชายคนขี้หึง2017ที่แท้จริง
จะมีใครโง่และเด๋อกว่านังเข้าอีก หนูจะมีผัวไม่รู้ตัวนะลูก
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: yewlyz ที่ 14-11-2017 12:05:58
คุณชายยเป็นผัวเหรอไปง้อเขาอ่ะ  -////- :hao3:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 14-11-2017 19:14:52
ถถถถ ยังมีการไปงอนคุณชายอีก นังเขาเอ้ยยยย o16
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 14-11-2017 20:38:22
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 14-11-2017 22:14:03
เป็นคนอื่นจะคิดไกลไปแล้ว แต่นี่คือเขา เขาไง  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 15-11-2017 01:00:00
น่าสงสัยคุณชาย ไปถูกใจอะไรในตัวเด็กบ๊องกันนะ55555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 15-11-2017 03:49:40
พี่ตาณก็จีบเบอร์​นี้แล้วนะเขา เขานี่มันเขาจริงๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 15-11-2017 04:10:34
หลงเข้ามาติดกับมอมแมมแล้วออกไม่ได้เลยย เอ็นดูภูเขาอ่ะ น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: TiwAmp_90 ที่ 15-11-2017 23:47:25
ไม่แปลกใจที่คุณชายจะชอบน้องเขา น้องดูตลกๆซื่อๆแต่น่าเอ็นดูน่ามันเขี้ยวจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 16-11-2017 00:48:45
คุณชายไม่เนียน ไม่เรียนมาใหม่นะ
ดูก็รู้ว่าเข้าหาน้องเขาเพราะอะไร หึหึ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Blackbutterfly ที่ 18-11-2017 16:49:43
 :impress2:รอคอยยยยยตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 01-12-2017 01:34:11
โอยยยยย เราชอบบบ เราอยากอ่านอีกกกก
น่าร้ากทั้งคู่เลย ชอบคนที่บ้านคุณชายด้วย น่ารักดี
อ่านไปด้วยหัวเราะไปด้วย จนที่บ้านจะหาว่าเป็นบ้าไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 01-12-2017 15:51:17
คุณชายไปชอบเขาได้งัยหว่า
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 04-12-2017 23:16:28
งุยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  น้องเขาาาา :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 05-12-2017 09:13:19
กรี๊ดดดดคุณชาย :mew2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 9 ห้ามคนงอนไม่ได้จริงๆ p.4 [13-11-17]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 14-12-2017 23:46:37
คิดถึงมอมแมมของคุณชายแล้ว :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 16-12-2017 22:00:19
ก่อนอ่าน ฮือฮือ น้องขอโทษที่มาช้า

ระเบียบที่ 10 : ห้ามใจไม่ให้โพตอง (พองโต)



                งานเริ่มแล้วครับ ผมประจำที่ของตัวเองอยู่ตรงกลางเวที แอบเห็นคุณชายยืนรับแขกอยู่ตรงโน้น คุณน้าก็มาแล้ว ใส่ชุดผ้าไทยสีฟ้าอ่อนสวยมาก ไอ้หมูกับเฮียดุกมองตาค้างเลยครับ ตอนนี้ทีมของผมสามหนุ่มสามมุมก็อยู่บนเวที เฮียดุกเปิดเพลงไทยอย่างลาวดวงเดือน นกขมิ้น แสนแสบ เวอร์ชั่นขิมไปเรื่อยๆ บรรดาแขกเหรื่อที่มาก็สมฐานะของแต่ละคนมากครับ นมแจ่มงี้ยิ้มหน้าบานเพราะทุกคนชมขนมไทยกันหมด



                “ว่าจะถามตั้งแต่เมื่อกี้ละ มึงไปเอาเสื้อผ้าใครมาใส่” เฮียดุกที่ผมเรียบแปล้ปิดหัวล้านได้พูดขึ้นเล่นเอาผมแทบสะดุ้ง



                “เอ่อ...”



                “พี่แซนหรอ”



                “เปล่าของ...คุณชายอะ”



                “กูว่าแล้ว” เฮียดุกตบหัวไอ้หมูดังป้าบ “เห็นมั้ยไอ้หมู ชุดนี้อะของคุณชาย มึงก็บอกของพี่แซนๆ อยู่ได้”



                “มึงตบหัวกูขนาดนี้เอาสมองกูไปต้มกินเลยมั้ย” ไอ้หมูโมโหที่โดนกระทำชำเลา มันพูดเสียงงอนๆ



                “เอามาดิๆๆๆๆ” แล้วพวกมันก็เถียงกัน ไม่นานก็หันมาหาผมที่ยืนเหมือนส่วนเกินของคู่ผัวตัวเมียอยู่ตรงนี้



                “เฮียรู้ได้ไงว่าของคุณชาย” ไอ้หมูเอ่ยขึ้น พลิกกลับมาประเด็นเดิม กูอยู่เงียบๆ นะบอกเลย



                “เอ้าไม่รู้ก็บ้าแล้วป้ะ?”



                ชิบหาย กูคิดว่าไม่มีใครรู้นะเนี่ย เฮียดุกและไอ้หมูส่งสายตามีคำถามมาให้ ผมเลยรีบตอบอย่างไม่ลนลาน



                “คุณชายท่านมีชุดเก่าอะ เค้าเห็นกูใส่ชุดยาวเลยสงเคราะห์มาให้”



                “เชี่ยเขา!”  ไอ้หมูเอ็ด ผมหน้าซีด หรือว่าผมจะไม่เนียน รางวัลออสการ์ครั้งนี้จะตกเป็นของลีโอนาโดงั้นหรอ “อะ...อะไรวะ”



                “มึงรู้จักคำว่าสงเคราะห์ด้วยหรอ”



                ผมเกาหัวแกรกๆ แอบถอนหายใจเบาๆ เพื่อนกูนี่โง่เหมือนกูจริงๆ ดีแล้วๆ ผมเปลี่ยนเรื่องทันที



                “รู้ดิ คำนี้อะนะ เฮียดุกสอนกูเอง ตอนปี 1 ที่เรียนภาษาไทยเพื่อการสื่อสารอะ กูได้ยินเฮียดุกใช้แล้วดูมีสมอง กูเลยไปเรียนรู้จากเฮียดุก” พอว่าแบบนั้นเฮียดุกที่หรี่ตาจับผิดผมตลอดเวลาเริ่มอมยิ้ม ยอเก่ง...



                ไอ้เขา มึงนี่ฉลาดล้ำโลกจริงๆ



                “คุยไรกันหนักหนา อยู่นิ่งๆ บ้างไอ้ห่า คุณตาณยืนมองตาเขียวแล้ว ยุกยิกๆ เหมือนมดกัดไข่” พี่แซนเดินมาข้างเวทีกระซิบบอกด้วยคำภาษาพ่อขุน พวกผมเลยหันไปขอโทษพร้อมกับตั้งสติทำงานต่อไป



                “พี่รัก อย่ามาไอ้ห่งไอ้ห่าแถวนี้ คุณชายท่านไม่ชอบ” ผมรีบเตือนก่อนที่พี่แซนจะเดินจากไป



                “เออ โทษทีเห็นพวกมึงแล้วอดไม่ได้ คุณหญิงคุณนายเต็มงานอย่ามาสถุลนะเว้ย” มึงไม่สถุลเลยพี่รัก



                “ไรวะ ออกจะมีสกุลขนาดนี้” เฮียดุกบ่นไล่หลัง ผมเลยรีบถามต่อ



                “สกุลอะไร”



                “ศกุลตลา”



                “เอ่อะ...”



                “เอ่โด๋ นะจ๊ะ เอ่โด๋”



                “เกลียดการเคลื่อนคอของมึงจริงๆ เลยเฮียดุก!!”



                ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะต้องดีดกีตาร์ ผมเลยได้นั่งว่างๆ มองสาวสวยในงานเลี้ยงของคุณน้า ตอนนี้หกโมงกว่าแล้ว เหล่าเด็กเสิร์ฟก็เดินเข้าออกเสิร์ฟอาหารกันมาพักใหญ่ๆ เอ๊ะ...แล้วคุณชายหายไปแล้วเนี่ย เมื่อกี้ยังอยู่แถวนี้นี่นา ผมเนียนมองหา ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ นะ นั่นไง...คนที่หล่อที่สุดในงาน...



                “คุณชายอยู่กับใครวะนั่น สวยชิบหาย” ไอ้หมูมือกลองส่งเสียงมาด้านหลัง ส่วนผมก็ได้แต่ขมวดคิ้ว ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยเห็นคุณชายอยู่กับผู้หญิงคนไหนเลย เฮ้ยๆ แล้วหน้าอกผมเป็นอะไร มันอึดอัดเหมือนมีอะไรมาข่วน



                “เฮ้ย นั่นพี่เรนนี่” จู่ๆ ไอ้หมูก็ร้องออกมาเบาๆ



                “จริงด้วยว่ะ แต่กูว่าเค้าอยู่ไกลขนาดนั้น ต้องเป็นเรนนั่นแล้วล่ะ”



                “เฮียเวง พี่เค้าชื่อเรนนี่ ปีสี่ หมอยามอเราอะ”



                “อ๋ออ เออมองจากตรงนี้แล้วช่างเหมาะสมกันยิ่งกว่ากิ่งหยกใบทอง”



                “กิ่งทองใบหยก!”



                ยิ่งเห็นคุณชายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับพี่เรนโน่น ไอ้เขายิ่งคันยิบๆ แมลงอะไรกัดผม! ทำไมผมรู้สึกไม่ดีแบบนี้ แล้วผมจะตายมั้ยครับพี่โต ถ้าผมตาย...ผมขอ...



                “ไอ้เขา มึงเป็นไร”



                ผมขอ... ผมโน้มกายไปด้านหน้า ไม่คิดว่าเล่นใหญ่แล้วมันจะ...



                ปั่ก! วี๊ด!



                หัวโขกไมค์ดังสนั่น ตามมาด้วยเสียงไมค์หอน เฮียดุกรีบไปเฟดเสียงไมค์ลงทันที คนทั้งงานหันมามองบนเวทีที่จุดเดียว หนึ่งในนั้นมีคุณชายตาณด้วย พี่ท่านทำท่าจะเดินเข้ามาแต่สาวสวยก็รั้งแขนไว้ ผมเลยหันไปด้านอื่น ไม่อยากมองให้แมลงกัด พี่แซนที่ยืนอยู่ไม่ไกลทำหน้ายักษ์พร้อมกับชี้ที่นาฬิกา



                “มึง กูไม่มีสมาธิ” ผมรีบหันหลังไปหาเพื่อน ทั้งๆ ที่หน้าของคุณชายลอยอยู่ในหัว เอสโอเอสขั้นเร่งด่วน นี่เป็นโค้ดลับของผมกับไอ้หมูเวลาอยู่บนเวที



                “สูดหายใจเข้าลึกๆ ตอบกูนะ” ไอ้หมูเดินมาข้างๆ พร้อมกับจับหน้าผมไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง เดี๋ยวนะเพื่อนหมู นี่มือหรือตีนเนี่ยหนักชิบหาย เอาล่ะ ไม่ได้ๆ ผมต้องมีสมาธิ



                “น้ำมาปลากินมด...น้ำลด!”



                “...ตอ...ตอผุด”



                “เอาใหม่มึงยังไม่มีสติและสมาธิ” ไอ้หมูส่ายหน้า พึมพำว่าใช้ไม่ได้ๆ แล้วมันก็เริ่มจู่โจมทันที



                “หัวล้านได้!...”



                “แชมพู!”



                “ปลาหมอตายเพราะ!”



                “ถูกจับ!”



                “คนดีชอบแก้ไข!”



                “คนจังไรหน้าเหมือนมึง!”



                “ฮรุก ไอ้สัส ด่ากูได้ขนาดนี้มีสมาธิแล้วล่ะ” มันเป่ากระหม่อมผมหนึ่งที แล้วพิธีกรของงานก็สแตนบายด์ที่โพเดียมข้างเวทีแล้วครับ เฮียดุกเฟดเสียงเพลงให้ดังคลอแล้วเพิ่มเสียงไมค์พิธีกร เป็นอันเริ่มงานได้



                “กราบสวัสดีแขกท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน กระผมนายชมร  กระถินงาม รับหน้าที่เป็นพิธีกรในวันนี้ครับ... วันนี้คุณหญิงคงจะได้ยินคำนี้มานักต่อนักแล้ว กระผมก็อยากจะเรียนอีกครั้งหนึ่งว่า สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดนะครับ...ครั้งแรกที่ผมคุณหญิงนั้น เอ่อ...ต้องบอกว่าผมเป็นรุ่นพี่ที่ซ้ำชั้นน่ะครับ... ผม...”



                พิธีกรที่น่าจะเป็นเพื่อนของคุณน้ากล่าวต้อนรับและทักทายทุกคนในงาน ไอ้เขาที่เรียกสติคืนมาได้ไม่ถึงห้านาที ก็ต้องมือเย็นเพราะทุกสายตาจับจ้องมาทางเวทีกันหมด คุณน้าตั้งใจฟัง แถมยังโบกมือให้ผมอยู่ที่โต๊ะกลางงาน ผมเลยยิ้มตอบ พอมองเลยไปอีกนิดผมก็พบว่าสายตาของคุณชายที่นั่งข้างๆ คุณน้ากำลังมองมาเช่นเดียวกัน แต่ไม่นานผู้หญิงที่ชื่อเรนนี่ก็สะกิดคุณชาย



                เรียกคุณชายทำไมนักหนา แล้วต้องกระซิบด้วยหรอ เป็นไรมากป้ะครับ



                เป็นไร?



                กูเนี่ยเปงไรรร โอ๊ย โมะโหะแล้ว ผมเบือนหน้าหนี สะกดจิตตัวเองให้ท่องคอร์ดอยู่ในใจ



                “...ทุกท่านที่มางานในวันนี้คงจะได้รอยยิ้มความอิ่มเอมใจกลับไปถ้วนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่กำลังรับประทานอาหารสุดแสนจะอร่อย ท่านจะได้รับฟังการแสดงที่บุตรชายของคุณหญิงเตรียมมาให้ อย่ารอช้าให้เสียเวลา เชิญรับฟังได้เลยครับ”



                ไฟบนเวทีหรี่ลงเหลือเพียงดวงที่ส่องมาทางผมทำให้ผมเด่นอยู่กลางเวที ผม...นายเขาควายรู้สึกตื่นเต้นเหมือนได้ขึ้นไปเล่นที่บิ๊กเม้าเท่น และยิ่งตื่นเต้นเมื่อประสานสายตาเข้ากับคุณชายที่ตั้งใจมองเสียเหลือเกิน แต่ก็นั่นแหละ ไม่รู้ทำไม ผมถึงลืมความหงุดหงิดเมื่อกี้ไปซะหมด กลายเป็นไอ้เขาที่...ใจมันสะต้านนนจนสั่น แถมมือก็ยังแข็งด้วย มือนะครับมือ



                อยากจิร้องงงง ไหนบอกว่าอยากเล่นกีตาร์ไงวะ



                “ไอ้เขา ดีดได้แล้ว” ไอ้หมูที่หลบสปอร์ตไลท์ส่งเสียงกระซิบมา หางตาผมเห็นพี่แซนถลึงตามองที่ปล่อยให้บรรยากาศเงียบมาเกือบสามนาที เหมือนว่าโลกใบนี้ผมเคลื่อนไหวอยู่เพียงคนเดียว ทุกคนดูลุ้นไปกับผม



                ไอ้เขาควายทำไมมึงเป็นแบบนี้ ไม่รู้ตัวว่าผมเบะปาก มองไปด้านหน้าอีกทีก็ไม่เห็นคุณชายแล้วใจมันแป้วแปลกๆ ไปไหนแล้วอะพี่... ผมเลิกมองหา ตัดสินใจก้มมองกีตาร์แล้วจับคอร์ดด้วยมือสั่นๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ มือขวาก็เริ่มเกากีตาร์ เสียงปรบมือดังมาแผ่วเบาตามมาด้วยความเงียบ



                ไอ้เขาต้องรอด! ผมพยายามปล่อยใจให้สบาย หลับตาลงแล้วทำตามที่ซ้อมมา เชี่ยเมื่อกี้ดีดพลาด ผมลนลาน



                และทันทีที่จบอินโทรแล้วจะขึ้นท่อนแรก... เสียงทุ้มคุ้นหูก็ดังมาจากด้านหลัง



                ”นวล....เจ้าพี่เอย

                คำน้อง เอ่ยล้ำ คร่ำครวญ

                ถ้อยคำ เหมือนจะชวน

                ใจพี่หวล ครวญคร่ำอาลัย

                น้ำตา อาบแก้ม

                เพียงแซม ด้วยเพชรไสว

                แวววับ จับหัวใจ

                เคล้าแสงไต้ งามจับตา”



                เสียงนุ่มเพราะจนผมแทบจะหยุดหายใจ ไอ้เขาเหมือนเจอเสียงที่ตามหามานาน ผมได้ยินเสียงแมลงดังตึกตักสะท้อนอยู่ในอก เหมือนทุกอย่างลอยฟุ้งอยู่ในความฝัน คุณชายที่เดินออกมาด้านหน้าดึงดูดสายตาทุกคนไปจนหมด ไม่มีใครสนใจผมที่ประหม่าอยู่ตรงนี้ ยิ่งยิ้มที่มุมปาก และแววตาสงบนิ่งที่สบกับผมนั้นเหมือนกำลังบอกผมว่าทำได้สิ ผมทำได้ และนั่นทำให้ผมที่เริ่มต้นแสดงด้วยความไม่มั่นใจทำได้ดีกว่าเดิม ทั้งๆ ที่ไม่เคยซ้อมด้วยกันมาก่อน แต่เสียงกีตาร์เเละจังหวะที่ผมดีดเข้ากับคำที่คุณชายเปล่งออกมา



                ผีเข้าผมแน่ๆ แค่คิดว่าไม่อยากทำลายเสียงเพราะๆ ของคุณชายด้วยเสียงกีตาร์ที่ไม่ได้เรื่อง ผมจึงเริ่มดีดอย่างมั่นใจ ผ่อนความกังวลลง เล่นไปก็เผลอแอบมองด้านข้างคุณชายแล้วยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว



                “นวลแสงเพชร เกล็ดแก้ว อันล้ำค่า

                ครา...เมื่อต้องแสงไฟ ส่องมา

                แวววาวชวนชื่นชม..

                น้ำตา แสงไต้

                ดื่มใจ พี่ร้าวระบม

                ไม่อยาก พรากขวัญ ภิรมย์

                จำใจข่ม ใจไปจากนวล

                นวล....เจ้าพี่เอย   นวล....เจ้าพี่เอย”



                แปะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ขอเสียงปรบมือดังให้กับคุณตาณอีกครั้งครับ”



                แปะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

               “เพราะมากเลยลูก!”



                “เยี่ยมมากๆ”



                เดี๋ยวนะทุกคน!



                เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกับผม การแสดงจบลง ไอ้เขาที่วิญญาณล่องลอยกลับเข้าร่างด้วยเสียงปรบมือดังกว่าตอนเริ่มหลายเท่า แผ่นหลังคุณชายตรงหน้าผมบอกให้รู้ว่าเมื่อกี้คือเรื่องจริง คนตรงหน้าก็คือคุณชายจริงๆ ไม่ใช่ตัวแสดงแทน คุณชายร้องเพลง? บนเวทีนี้? กับเสียงกีตาร์ของผม?



                “ตาณลูก”



                ไม่ทันได้คิดอะไร คุณน้าก็เดินตรงมาที่หน้าเวที  หางตาของคุณน้ามีน้ำตาซึม คุณชายรีบลงไปหาทันที พร้อมกับพิธีกรที่ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม แขกด้านล่างก็ประทับใจจนส่งเสียงเอ็นดูออกมา ส่วนไอ้ภูเขาที่เกือบทำการแสดงพังยังอึ้งไม่หาย ผมมองคุณชายอย่างไม่เชื่อสายตา



                “คุณหญิงมีอะไรจะพูดกับคุณตาณมั้ยครับ”



                “ไม่คิดมาก่อนเลยว่าตาณจะร้องเพลงที่แม่ชอบที่สุดในวันเกิดแม่ แม่ตื้นตันมากเลย ขอบคุณนะคะลูก”



                “สุขสันต์วันเกิดครับคุณแม่” คุณชายกราบไปที่อกของคุณน้า เสียงปรบมือเกรียวกราว



                “จ้ะลูก ไม่คิดว่าลูกจะมีเซอร์ไพรส์ ตาณไม่เคยร้องเพลงต่อหน้าคนเยอะนี้มานานแล้วล่ะค่ะ” คุณน้าหันไปตอบพิธีกร



                “อะไรที่ทำให้คุณตาณให้ของขวัญชิ้นนี้ครับ” พิธีกรส่งไมค์มาให้คุณชายอีกครั้ง พี่ท่านรับมาพร้อมกับเอียงตัวมาทางเวทีเล็กน้อย



                “แค่คิดว่ามีแต่เสียงกีตาร์คงจะเหงาไปนะครับ”

 

             

.

.

                “ทีมงานคุณแซน นมให้เด็กๆ ตั้งโต๊ะแล้วนะคะ ทานกันให้เต็มที่เลยไม่ต้องเกรงใจ”



                “ขอบคุณคร้าบบบ”



                พวกผมประสานเสียงหลังจากงานเลี้ยงเลิก ทีมงานพี่แซนดีใจกันใหญ่เพราะเจ้าภาพใจดีมากๆ หลังจากคุณชายร้องเพลง ก็มีการเปิดวิดีโออวยพรจากคนที่ไม่ได้ร่วมงาน แล้วผมก็ดีดกีตาร์เป็นเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ โดยมีไอ้หมูตีคาฮองสร้างสีสัน เมื่อคุณน้าเป่าเค้กแล้ว เหล่าคุณหญิงคุณนายก็เดินมาขอเพลงกันหลายคน บรรยากาศหลังจากนั้นเลยผ่อนคลายขึ้นมาก และผมดีดกีตาร์แบบมีความสุข

                ส่วนตอนนี้ไอ้เขาได้กินข้าวแล้วครับโผมมม

               “นมครับ ผมขอน้องไปร์ทด้วยได้มั้ยง่า” ตักข้าวผัดปูมาคำนึง แล้วรีบหันไปหานม เมื่อวานที่คุณชายลากมาทำงาน ผมแอบหยิบสไปร์ทติดกระเป๋ามาด้วย แอบกินจนคุณชายเอ็ด นมที่สอนงานผมอยู่เลยเอ็ดผมไปด้วย



                “เชี่ยเขา ไปสั่งนมแจ่มเค้าได้ไง ไม่ต้องครับ คุณนม” เขร้ ลืมตัวอีกแล้ว ผมรีบยกมือปิดปาก ก้มหน้าหลบสายตาจากทีมงาน โดยเฉพาะสายตาไอ้หมูและเฮียดุกเนี่ยน่ากลัวสุดแล้ว



                “นายภูเขาจะกินยังจะมาใช้คนแก่” นมเดินมาเอ็ดผมพร้อมกับบิดติ่งหูผมเบาๆ นมครับบบบ เจ็บติ่งง่ะ



                “ขอโทษครับนม”



                “อยากกินก็มาเอาเอง!”



                “ขอบคูมคร้าบบบบบ นมแจ่มใจดีที่ฝุดเบยยยยย เอ่อ...กินๆ ทุกคนกินๆ อร่อยว่ะ มึง สุดยอดเลย” กูรีบเปลี่ยนเรื่องเลย อะ ตักกับข้าวให้ด้วยเลยเพื่อน เฮียดุกปรายตามองหนึ่งที ที่มันไม่ค่อยพูดกูว่าหิวแน่ๆ



                “ไอ้เขา มึงเกือบทำงานล่มแล้วนะ ดีที่คุณตาณมีเซอไพร์สกระทันหัน ไม่งั้นมึงตายหยั่งเขียดแน่ มีอย่างที่ไหน หน้าเอ๋ออยู่กลางเวทีตั้งนานสองนาน ดีดพลาดด้วยไอ้ห่าน” พี่รักดุผมเสียงดัง พี่แซนกลายร่างเป็นเจ้านายดุผมใหญ่ แถมยังเอาช้อนชี้หน้าผมด้วย

                “ฮือฮือ น้องขอโทษ”                                                                   



                “มึงไม่มีสมาธิเลยวันนี้เป็นอะไร” พี่รักทำเสียงเข้ม ผมไม่กล้าหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนทั้งสอง เพราะตั้งแต่ทีคุณชายร้องเพลงบนเวทีกับผม พวกมันก็จับตาดูผมทุกวินาที ไม่ได้ๆ ต้องเอาความลิ้นเปลี้ยเข้าสู้



                “เป็นไรตอบ!”



                “เปงบ้า”



                “กูไม่ตลก”



                “ง่ะ”



                “ไม่ต้องง่ะเหงอะอะไรทั้งนั้น”



                “เอาน่าเหี้ยแซนอย่าไปดุมันมากเลย เงี่ยแล้วหนอย” พี่บีช่วยปกป้องผม



                “ภาษาไรวะไอ้บี”



                “หงอยแล้วเนี่ย”



                “ถุ้ย!”



                “สัด เต็มหน้ากูเลย ยังไงคุณหญิงท่านก็ชอบนะ แถมคุณตาณยังไม่ติอะไรด้วย ตอนร้องเเล้วหันมามองไอ้เขา กูนึกว่างานเวดดิ้ง เงียบกันทำไมวะ เออๆ จะว่าไปคุณเค้าก็เรียนมอเดียวกับพวกมึงนี่ เสียงเทพสัดๆ” เชี่บพี่บีหันไปถามไอ้หมู ถึงแม้มันจะเขมือบอาหารอยู่แต่มันก็สามารถแซะผมได้



                “ใช่พี่ เรียนมอเดียวกันแล้วเหมือนจะมีซัมติงกับตัวอะไรแถวนี้ด้วย ชุดสูทนี่ก็เอามาให้ ขนาดนมที่บ้านนี้ยังรู้จักชื่อมันเลย” พอไอ้หมูพูดจบปุ๊บพี่แซนก็หันขวับมาพอดี แถมยังใช้สายตากวาดมองไปทั่วตัวผม ไอ้เขาตาเหลือก รีบปิดนมตัวเองทันที



                “พี่รัก มองอะไร ลามก”



                “กูมองชุด!” ทำไมต้องกลอกตาใส่ ไม่เข้าใจ “แล้วมึงกับคุณชายนี่ยังไง กูชักจะตงิดๆ ละ”         



                ช้ะ...



                “เออ ทุกคน...ปวดชิ้งฉ่องว่ะ ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ไม่ไหวละ เดี๋ยวไหลออกปาก”



                “ไอ้เหี้ยเขา แดกข้าวอยู่!!!”



                ต้องชิ่งบอกเลย



                ตุ้งชิ่ง ตุ้งชิ่ง

               
[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.4 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 16-12-2017 22:01:14
[ต่ออีกนิดค่ะ]
.

.

                ผมเดินลัดเลาะจากหลังเวทีมาแอบอยู่ข้างห้องครัวนมแจ่ม เอาเข้าจริงๆ ไม่ได้ปวดมาก แต่ส่วนหนึ่งอยากมาตามหาคุณชาย ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว คุณน้าและเพื่อนอีกสองสามคนที่ยังไม่กลับเปลี่ยนสถานที่ เข้าไปนั่งคุยกันในบ้าน ด้านนอกเลยมีแต่คนที่ต้องเก็บโต๊ะ กับทีมงานพี่รัก คุณชายอยู่ไหนนะ...หรือว่าจะอยู่ที่ศาลาริมน้ำ ขณะตีกับตัวเองอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงคนคุยกันแว่วๆ ลอยมาตามลม หรือว่านั่นคุณชายในสายลมหนาว! ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ไอ้เขารีบเดินขาขวิดไปทันที



                “มาช้านะคุณติ”



                “ผมได้ยินคุณร้องเพลงนี่ถือว่าไม่ช้านะ”



                “หึ...”



                “คิดไงถึงไปร้อง จำได้ว่าคุณบอกว่าจะร้องในบ้าน ไม่ได้ร้องต่อหน้าคนเป็นสิบยี่สิบนี่”



                “ก็อย่างที่บอก มีแต่เสียงกีตาร์เดี๋ยวเหงา”



                “กีตาร์เหงา หรือคนดีดล่ะ ผมเห็น...”



                อั่ก!



                ไม่ทันอ้าปากร้องอย่างแท้จริง



                เพราะรีบเกินไป ความซวยจึงบังเกิด และความซวยนั้นคือผมสะดุดหินจนหน้าทิ่มลงไปกับสนามหญ้า ทำให้คนที่อยู่บนศาลาหันขวับมาในทันทีอย่างกับหนังตลก



                “เอ่อ...” ผมหยิบหญ้าออกจากปากแล้วลุกขึ้นอย่างสโลว์โมชั่น “คือว่า..ผม...สวัสดีครับพี่...ศาลาสวยนะครับเนี่ย  ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย แหะๆ”



                “หึ เค้ามาตามคุณหรอ” คนที่ยืนอยู่กับคุณชายนั้นอยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเหลือบมองผมสองวิแล้วหันไปถามคุณชาย พวกเค้าตัวสูงพอๆ กัน แถมยังใส่แว่นไร้กรอบ เอ...หน้าตาคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ผมเอียงหน้ามองในขณะเดียวกันผู้ชายคนนี้ก็เอียงหน้ามองผมเช่นเดียวกัน



                “มองผมแบบนี้ ผมขอคิดเงินนะครับ”



                พรึ่บ!



                จบประโยคนั้นโลกชองผมก็มืดทันใด ผมมองไม่เห็นอะไรเลย!



                “ไฟดับ! พี่ตาณ! พี่ ไฟดับ!” ผมโวยวาย จับหน้าตัวเองแล้วก็พบว่ามีใครบางคนปิดตาผมอยู่ หอมๆ ใบเตยแบบนี้  “เฮ้ย พี่ปิดตาผมทำไม ปล่อยโผมม” คุณชายไม่ตอบ แถมยังดูเหมือนรำคาญเสียงผมอีกด้วย มืออีกข้างถึงได้มาปิดปากผมอีก ผมดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวก จนแผ่นหลังไปชนกับหน้าอกของคุณชาย กลายเป็นว่าผมโดนล็อกตัวเหมือนผู้ก่อการร้าย



                “หึหึ”



                “พี่แกล้งไรผมครับ พี่แว่นช่วยผมด้วย” หัวเราะทำไมฟะ หรือแม่งดูโชว์เปลือยแล้วไม่แบ่งผม โกรธนะ



                “แหม คุณตาณนี่ ผมมองนิดหน่อยเอง”



                “...” คุณชายพูดเสียงเบาและผมไม่แน่ใจว่าคืออะไรเพราะไอ้พี่แว่นหัวเราะดังกว่าเดิม



                “อี้ อุยอะไออันนนน อ่อยอ๋มมมมม อ่อกก” ผมพยายามพูดแทรก แต่คนที่ล็อกตัวผมไว้ยังคงนิ่ง มีจริงๆ สินะ ของเด็ดๆ ที่รู้กันอยู่สองคน



                “ไม่คิดว่าคุณจะเป็นคนขี้หวงขนาดนี้ หึหึ เอาเถอะ ผมไปก่อนก็ได้ ได้เวลาไปส่งเรนนี่ที่คุณไม่สนใจแล้วล่ะ”



                ฮ้า ผมเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ คุณชายค่อยๆ มือทั้งสองข้างออกช้าๆ ผมหรี่ตามองข้างหน้าอย่างมึนๆ จะหันไปต่อว่าคุณชายก็ไม่กล้า เดี๋ยวผมก็โดนดุอีก เลยได้แต่มองเหตุการณ์ข้างหน้าอย่างไม่มีสติพร้อมกับพึมพำตามสไตล์เด็กปากมาก



                “หวังว่าผมจะได้เห็นคุณขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีในเร็วๆ นี้ แบบว่าแน่นอนเลยล่ะ” อีกคนว่าก่อนจะตบไหล่คุณชายปุๆ แล้วเดินไปในตัวบ้าน ไม่มองผมแม้แต่เสี้ยววิ คนนี้เป็นเพื่อนคุณชายหรอเนี่ย พวกมึงเลือกคบคนที่ความเพี้ยนหรือยังไง คนปกติอย่างผมไม่เห็นเข้าใจ



                “พี่...ปิดตา..” ละสายตาจากคนแปลกๆ แล้วหันกลับมามอง ชะอุ้ย คุณชายทำตาดุทำไมเนี่ย



                “มีอะไรบือ” คุณชายปรายตามองผมแวบนึงก่อนจะกอดอกแล้วทิ้งตัวลงที่ศาลา เฉยเมยเก่งงง ได้ข่าวว่าเกือบจะฆ่าผมแล้วนะ! แล้วอะไร จากกระบือ เป็นบือ ย่อมากมั้งงง



                “เรียกผมงี้อีกละ สรรหาคำเก่งจริงจริ๊งงง” ผมบ่นและเดินไปกระแทกตัวนั่งห่างๆ แหะ! ตัวผมสกปรกอะ กลิ้งมากับหญ้าเลยเมื่อกี้ พอดีเป็นคนรักธรรมชาติ



                “แล้วมีอะไร มาที่นี่เพื่อนรักนายไม่ว่าเอาหรอ”



                “พี่หมายถึงใครอะ” ผมมองอย่างไม่เข้าใจ ขณะเริ่มคันๆ ตามแขน



                “เพื่อนรักที่ลูบหัวลูบเขาลูบหางนายน่ะ ทำไมหรือว่ามีหลายคน”



                “หือ พี่โกรธไรผมป้ะเนี่ย แล้วทำไมผมได้ยินเสียงงอนๆ” พูดเองก็ตาเหลือกด้วยความงง งอนหรอ?คุณชายเนี่ยนะทำเสียงงอน แล้วผมมาหาคุณชายเรื่องอะไร ทำไมผมถึงอยากมากันนะ พอผมเกาหัวมองตาคุณชายด้วยความไม่เข้าใจ พี่ท่านเลยส่ายหน้ายิ้มๆ แถมยังผลักหัวผมหนึ่งที



                “มอมแมมเอ๊ย...”



                ผมนึกออกแล้ว! ผมยืดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนคุณชายชะงัก



                “พี่...ผมอยากจะบอกพี่ว่า พี่ร้องเพลงโคตรเพราะ เพราะโคตรๆ เนื้อเสียงพี่เจ๋งสุดๆ จริงอย่างที่เค้าว่ากัน ถ้าผมไม่ได้ยินกับหู ผมก็ไม่เชื่อ” ไอ้เขาโหมดดราม่า แถมยังคิดไปว่าการที่คุณชายขึ้นมาร้องเพลงคือการช่วยผม ตอนที่คุณชายอยู่ข้างๆ ผมอุ่นใจเป็นไหนๆ คนที่ปากร้ายแต่ใจดีทุกครั้ง และ...ไม่ว่าผมจะคิดไปเองหรืออะไรก็ตาม นายภูเขาทับใจมาก และผมไม่อยากเสียคุณชายไป อันที่จริงผมอยากจะล้มเลิก ตั้งใจจะสารภาพกับเพื่อนว่าผมทำไม่ได้ ผมชวนคุณชายมาร้องให้วงไม่ได้ แต่พอได้ยินเสียงคุณชายเท่านั้นแหละ! โอ้ฮะโอฮะโอ้ฮะโอ



                ไอ้เขาลุกขึ้นยอมทำสิ่งที่โลกต้องจารึก! ผมทิ้งตัวลงคุกเข่ากอดขาคุณชายไว้ พนมสองมือขึ้นกราบกรานเธอ...พร้อมครวญคราง



                “พี่ชายตาณคร้าบบบบบบบบบบบ พี่มาร้องเพลงให้วงผมเถอะ ให้ผมทำอะไรก็ยอมมมมม”



                “ทำอะไรน่ะ มอมแมม ปล่อย!” คุณชายพยายามจับมือ ดันหน้าผมออกจากขา ท่าทางหลุดมาดโคตรๆ แต่ไอ้เขาจะไม่ยอม ผมจะเกาะแบบนี้ถ้าพี่ไม่ตอบรับ



                “จะให้ผมมาทำงานต่ออีกก็ได้ ผมยอมมมมมมมมมมมมมมมมม ผมชอบเสียงพี่ พี่โคตรไอดอลเลย มาร้องให้ผมเถอะ”



                “จะปล่อยไม่ปล่อย” คุณชายพูดเสียงนิ่ง ผมเลยหยุดดิ้นคร่ำครวญ เงยหน้ามองคุณชายที่ก้มมาพอดี



                “พี่ตอบมาก่อนสิ ถ้าพี่ไม่ตอบ ผมจะเกาะเป็นปลิงแบบนี้ตลอดไป” แววตามุ่งมั่นที่คุณชายต้องหวั่นไหว



                “ทำแล้วได้อะไร” แหน่ะ เริ่มเอนเอียงแล้วใช่มั้ย



                “ถ้าพี่ช่วยผม พี่จะได้...ตัวมอมแมมมาป้วนเปี้ยนกวนติงในชีวิตพี่”



                “หึ...ข้อเสนอไม่ผ่าน” ไม่ผ่านแล้วทำไมยิ้มอ๊ะ!



                “ผมจะมาทำงานที่บ้านพี่ทุกๆ เย็นเลย”



                “นายต้องทำอยู่แล้วนี่ หนี้ยังไม่หมด”



                “อะไรอะพี่ ทำยังไงพี่ถึงจะยอมมม พี่บอกผมมาเถอะ จาล้องแล้วว” ผมแนบแก้มกับเข่าคุณชาย กอดขาคนพี่แน่นเหมือนกับว่าเป็นหมอนข้าง คุณชายเลิกดิ้นมาซักพัก พี่ท่านดีดหน้าผากผมเบาๆ แต่ขอโทษเจ้าประคุณรุณช่อง เจ็บสรึดด



                “...”



                “พี่บอกผมเถอะ ร้องให้วงผมเดือนหน้านี้ แล้วพี่จะได้สิทธิประโยชน์จากผมมากมาย”



                “ขายตรง?”



                “ล้อเล่น ว่าไงล่ะพี่”



                “ค่าตัวฉันแพงนะ”



                “แพงเท่าไหร่ ผมมันคนจน แต่ผมจะฝากตัวรับใช้นาย เป่าหูผู้ขวางทางเดินนาย”



                “เป่าหัว...”



                “นั่นแหละพี่ ฟังเพลงนี้เหมือนกันหรอ เพราะเนอะ เฮ้ยพี่ตกลงยังไง” คุณชายนี่หลอกผมหรอ แต่ดีนะที่ไอ้เขาฉลาดไม่หลงกล เกือบร้องเพลงออกไปแล้ว คุณชายทำท่าคิด มองไปที่สระน้ำซึ่งตอนนี้สะท้อนแสงไฟประดับเป็นดวงๆ



                “พูดคำสัญญาตามนี้สิ”



                “หมายควายว่าพี่จะร้องเพลงให้ผมใช่มั้ย” ผมเด้งตัวออกมานิดนึง รีบถามอย่างกระตือรือร้น คุณชายที่มองมานิ่งๆ ไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะชูสามนิ้วขึ้นมา



                “พูดตามสิ”



                “ถ้าพูดตามแล้วพี่จะ...”



                “หนึ่ง นายต้องให้ฉันไปรับไปส่งทุกวัน” ผมเอียงหัว พยายามคิด แต่คุณชายก็ยกเข่าที่ผมกอดไว้ขึ้นเป็นเชิงเร่ง



                “หนึ่ง ผมจะต้องให้พี่ชายตาณไปรับไปส่งทุกวัน”



                “สอง นายต้องรับโทรศัพท์ทุกสายของฉัน”



                “สะ...สอง ผมต้องรับโทรศัพท์ทุกสายของพี่”



                “ข้อนี้สำคัญ สาม ฉันต้องมาที่หนึ่งเสมอ”



                “สาม พี่ต้องมาที่หนึ่งเสมอ เอ่อพี่หมายความว่าไงอะ”



                “สี่ ฉันต้องมาที่หนึ่งเสมอ” คุณชายก้มหน้ามาใกล้อีก จนผมหดคอหนี กวนนี่หว่า



                ไม่ถามก็ได้



                “มีอีกมั้ยพี่ สามข้อนี่มันจิ๊บๆ แถมปรนนิบัติพัดวีตลอดการซ้อมเลยเอ้า!”



                “หึหึ ทำให้ได้ก่อนเถอะ ถ้าไม่ได้ข้อใดข้อหนึ่ง ฉันสามารถยกเลิกการร้องเพลงบ้าบออะไรนี่ได้ทุกเวลา”



                “โอ๊ะพี่ จริงๆ นะ พี่ช่วยผมแล้วนะ ผมจองพี่ ผมทำสัญญาพวกนี้ได้แน่ รับรองด้วยเกียรติของไอ้เขาเลย” ผมผละแขนที่กอดขาคุณชาย ชูมือแบบลูกเสือสามัญ ทั้งๆ ที่ในใจอยากจะกราบแทบเท้าคุณชาย ฝันของผมจะเป็นจริงแล้วใช่มั้ย ได้ขึ้นเวที เล่นเปิดให้ศิลปิน แถมยังได้คุณชาย เสียงเทพมาเป็นนักร้อง ดีใจที่สุดเลยครับทุกท่านนน



                “ดีใจอะไรขนาดนั้น”



                ผมรีบปิดแก้มตัวเองทันที ผมยิ้มจนปวดแก้มไปหมดแล้วสังคม ใจมันเหมือนลูกโป่งที่ถูกเป่าจนคับศาลาไปหมดแล้ว



                “ต้องดีใจสิ ถ้าเราได้อยู่บนเวทีเดียวกันนะมันต้องดีแน่ๆ เลยพี่”



                “ไปซ้อมให้ดีก่อนมั้ย แค่วันนี้ยังตื่นเวทีเป็นหมีกลัวไม้ไผ่” คุณชายใช้นิ้วชี้มาเคาะกระหม่อมผมสองสามที จนป่านนี้ผมยังนั่งกับพื้นเหมือนทาสในเรือนเบี้ย



                “พี่ว่าอะไรนะ”



                “ไปซ้อมให้ดีก่อนเถอะมอมแมม” คุณชายว่าแบบนั้น แล้วก็ขยี้หัวผมแรงๆ



                “ผมจะซ้อมให้ดี! เชื่อสิพี่ ถึงวันนี้ผมจะเล่นไม่ดี แต่ถ้ามีพี่อยู่กับผมนะ ผมต้องเล่นได้ดีแน่ๆ เลย” ผมยิ้มกว้าง โคตรดีใจเลย



                “...”



                “พี่ตาณ ผมบอกยังขอบคุณนะพี่ เฮ้ย! พี่เป็นอะไร? ทำไมมองผมแบบนั้น? พี่ไปสบายหรอ ไม่ได้นะ เดี๋ยวทาสเขาจะดูแลพี่เอง นมครับ! พี่ตาณไม่สบาย หน้าแดงไปหมดเลย คอก็แดง หูก็แดง นมคร้าบช่วยด้วยยยย!!”





_______

ตอนนี้ทาสคุณชายได้ปรากฏตัวขึ้นเเล้ว
ช่วยเด็กมันหน่อย ความฝันมัน
ภูเขาเด็กอ๊องๆ
เเละคูมชายคนขี้หวง2017 เเละคงจะเข้าสู่2018ด้วย 5555

ไม่มีคำแก้ตัวใดๆ นอกจากขอโต๊ดดด
ขอโทษทุกคนที่ยังรอคุณชายเเละมอมเเมม
หลังจากนี้จะพยายามอัพให้เร็วขึ้นนะคะ
ช่วงที่ผ่านมาชีวิตสาหัสมาก ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน เข้ามาคอมเม้นต์ เข้ามาเยี่ยมชม
เราไม่ใช่คนเขียนเก่งเเต่หวังว่าเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนยิ้มได้บ้างนะก๊ะ
เริฟฟฟฟฟฟ
ขอบคุณมากค่ะ  :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-12-2017 22:27:02
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Choompoo reangkarn ที่ 16-12-2017 22:56:41
ชอบน้องเขาสนุกมากๆๆค่ะติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 16-12-2017 23:09:48
ชอบ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 16-12-2017 23:58:33
เห็นคุณชายตอนใหม่นึกว่าตาฝาด ขอบคุณที่มาต่อค่ะ

แหมมมม คุณชายนี่ขี้หึงมากๆเลยสินะคะ เห็นเขาเล่นกัยเพื่อนก็หึงซะแล้วถึงกับต้องทำสัญญากันเลยทีเดียว น้องเขาก็มัวแต่ดีใจไม่ได้เอะใจอะไรเล้ยยยยย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 17-12-2017 00:15:05
คิดถึงน้องเขากับคุณชาย มารอที่ท่าน้ำทุกวันเลย
นังเขาเด็กเอ๋อๆ คุณชายสายซึนเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 17-12-2017 00:38:20
 :impress2: แหมคุณชาย เขินมอมแมมหรอจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 17-12-2017 01:24:50
แหมๆๆๆๆนังน้องเขา มาคงมาคันยิบๆ หึงที่คุณชายอยู่กับชะนีก็บอกมาเหอะ คุณชายก็ออกจะหึงชัดเจนขนาดนั้น :haun5:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 17-12-2017 12:08:49
มอมแมมคนขี้หึง หวายยย ไม่รู้ตัว ได้คุณชายมาช่วยด้วนความรักไปอีก
ข้อเสนอของคุณชายแบบ………… โคตรแฟน ถ้าเป็นคนอื่นอาจรู้ตัวแล้วว่าเขาชอบ แต่นี่ภูเขาไง 5555 น้องน่ารัก
คุณชายหน้าอ่า มีคสามแพ้ทางในตัวทาส น่ารักมากเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-12-2017 12:47:30
คุณชาย ขึ้นมาร้องเพลง
เพราะเห็นเขา ดีดกีตาร์ ทำท่าจะล่ม
แล้วได้ผล เพลงก็เพราะ เขาก็ได้ความมั่นใจคืนมา

ข้อต่อรองที่เขาทำแล้วคุณชายจะยอมไปเป็นนักร้อง
เหมือนมีแต่เขาได้ประโยชน์นะ
“หนึ่ง นายต้องให้ฉันไปรับไปส่งทุกวัน”
 “สอง นายต้องรับโทรศัพท์ทุกสายของฉัน
 “ข้อนี้สำคัญ สาม ฉันต้องมาที่หนึ่งเสมอ”
 “สี่ ฉันต้องมาที่หนึ่งเสมอ”
คุณชาย ขอเป็นที่หนึ่งของเขา ยอดมาก เขาให้ได้แน่นอน  :mew1:
คุณชาย ภูเขา   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 17-12-2017 12:53:08
 :o8:ย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 17-12-2017 13:12:01
คุณชายกลับมาแล้วววว
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 17-12-2017 17:46:04
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 17-12-2017 18:38:53
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 17-12-2017 22:07:18
 :mew1: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 18-12-2017 01:12:24
มอมแมมเอ้ยยย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Jintajam ที่ 18-12-2017 21:08:42
มาแล้วว นังเขาาาาาาา กรี๊ดดดด คช. เขิน ฟหกดอิ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 10 ห้ามใจไม่ให้โพตอง p.5 [16-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 21-12-2017 13:37:30
พี่เขาไม่ได้ไม่สบายลูก ภูเขาาาาาา
5555555555555
อ่านไปขำไปทั้งตอนเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 29-12-2017 20:18:40
ทุกคนคือกำลังใจของเราาเเละคุณตาไม่ฝาด HNY 2018 ค่ะ



ระเบียบที่ 11 : ห้ามไม่มีฉัน



                “พวกมึง คุณชายจะมาซ้อมกับวงเย็นนี้นะ”



                ผมบอกเหมือนเรื่องปกติทั่วไปก่อนจะวางกระเป๋ากีตาร์ลงบนโต๊ะที่ลานดนตรี กูทำตัวเป็นปกติเพื่อกลบเกลื่อนสายตาพวกมึงเลยนะครับเพื่อน พวกมันที่นั่งกดโทรศัพท์ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาทีละคน เป็นลำดับดังนี้...



                “เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย” ไอ้หมูร้องเรียกวิญญาณในชาติเก่าดังลั่น



                “เชรดดดดดดดดดดดดดดดด” ตามมาด้วยไอ้แต้งมือคีย์บอร์ดของวงผม



                “นี่ แม่งคือเรื่องจริงหรอวะ” และนี่สมาชิกใหม่...ไอ้บาสเล่นกีตาร์ ตัวเทพของคลาสกีตาร์แล็บตอนปีหนึ่ง



                “โอ้มายก้อดยอดผักบุ้งไฟแดงงงง” ตบท้ายด้วยเฮียดุก ฝ่ายแบกสายไฟ



                “ไอ้พวกนี้ มึงเบาๆ ดิวะ คนมองหมดแล้วไอ้ห่าน” ผมว่าก่อนจะเบียดตูดนั่งลงข้างๆ ไอ้แต้ง



                “ไอ้เขามึงไปพูดท่าไหน คุณชายถึงยอมวะ” ไอ้แต้งหันมาถามผม ดูเหมือนว่าทุกคนจะอยากรู้



                “กูทำท่านี้” ว่าแล้วก็ทำท่าเหมือนมาดอนน่า ปิดกระโปรงทั้งๆ ที่กูใส่เดฟ



                “ถรุ้ย แต่ยังไงแหล่วแต้”



                “แล้วแต่!”



                “เออไอ้สัดนั่นแหละ พวกเราควรจะไปฉลองนักร้องคนใหม่เลยดีมั้ยวะ คืนนี้เป็นไง” เฮียดุกพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เลียนแบบท่าไหล่สั่นของไอ้หมูจนน่าเตะ



                “หึหึ ร้านประจำเลยมะ รับน้องหน่อยเว้ยพวกเรา” ไอ้หมูหรี่มองมาทางไอ้บาสและ...ผม เดี๋ยวกูต้องรับน้องอีกหรอ หรือกูหน้าเด็ก โทษที และระหว่างนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง พวกผมทั้งหมดหันไปมองช้าๆ



                “พวกมึงจะไปไหนกันหรอ” คนมาใหม่ยื่นหน้ามากลางวง พวกผมแทบจะแตกฮือทันทีแต่ติดที่ว่ามือของใครบางคนยึดคอผมแน่น พอหันไปแทบผงะ นี่คนหรือผีครับสังคมมม



                “ปล่อยนะเว้ย ไปไหนก็เรื่องของพวกผม พวกพี่มึงเปงใคร อย่ามาเจ๋อ” เป็นผมเองที่พูดขึ้น เมื่อผมยาวพันเป็นสายไหมของตัวบอสพาดผ่านหน้าผมไป



                “กูเป็นใคร? แนะนำตัวให้น้องมันหน่อยดิ๊พรรคพวก...กู..ฟั่น สววรรค์รำไรตัวบอส ชอบตอดตูด” พูดเองเออเองไปอิ๊กกก



                “กู...แจ้ มือขวาแห่งสวรรค์รำไร น่ารักไสยไสยยังไงล่ะไอ้สัด”



                “ไอ้เหี้ยยาวไปอีก กูต้องยาวกว่าสินะ ส่วนกู...ป้อน สมุนมือซ้าย ร่ายยาวก็ไม่หมด เพราะชอบตดในที่มืด หืดขึ้นคอละมึงเอ๊ยยยย”



                “ไอ้สัดเหนื่อยมั้ย ตามึงละไอ้สิงห์เมียบอส อย่ายอมเพื่อนมึงล่ะ”



                “กูชื่อ...สิงห์”



                “ผ่าม!”



                “สั้นเป็นจู๋ไอ้เหี้ยฟั่นเลย”



                “ผลัวะ! ไอ้ป้อนกูเพื่อนมึง!”



                “แฮ่ๆ โทษทีครับเพื่อนนนนน”



                “พี่ พวกมึงเป็นอะไร มาเปิดตัวไรแถวนี้ รุ่นน้องไม่เคารพหมดแล้วเนี่ย” ผมถามขึ้นหลังจากที่รุ่นพี่ที่ไม่น่าเคารพพยายามเบียดสะโพกมานั่งที่ม้าหินอ่อนด้วยซึ่งแต่ละคนตัวใหญ่เหมือนน้องชายแฮกริด



                “ก็เพราะพวกมึงไม่เคารพพวกกู กูเลยมาเปิดตัว แต่! อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง พวกมึงจะไปแดกเหล้าโดยไม่ชวนสวรรค์รำไรไม่ได้ แล้วอีกอย่างพวกกูเสี้ยนไม่ได้ไปนาน” พี่ฟั่นพูดแล้วปรายตามามองพวกผม สายตาเลเซอร์ได้อีก



                “โห่ พี่ ไอ้หมูบอกว่าเห็นพี่เช็คอินที่ร้านนั้นประจำ เข้าบ่อยกว่าเซเว่นอีกพวกพี่อะ” 



                “ไอ้เขา มึงจะกันซีนกูหรอ ห้องซ้อมมึงวันนี้กูขีดฆ่านะ”



                “เฮ้ยๆๆๆ เชี่ยเขา ได้ครับพี่ครับ อยากไปก็ไปครับพี่” ไอ้หมูรีบฉอเลาะทันที “ไอ้เขา ห้องซ้อมได้ลดครึ่งราคาเลยนะเว้ย ไปเลยครับพี่ อยากไปก็ไป”



                “เออก็แค่เนี้ย เลี้ยงพวกกูด้วย ไปจ้ะที่รัก วันนี้เรียนเมเจอร์เหนื๊อยเหนื่อยยังต้องมาเบื่อหน้าพวกมันอีก” พี่ฟั่นลุกออกไปคนแรก แต่ไม่ไปมือเปล่า พี่แกเกี่ยวคอพี่สิงห์ พี่ชายสุดที่รักของผมไปด้วย



                “กูก็เบื่อ”



                “เนอะๆ เบื่อมันใช่มั้ยจ๊ะ”



                “เบื่อมึงนี่แหละไอ้เหี้ย ชาติที่แล้วเกิดเป็นปลาหมึกไงวะ ลูบเอาลูบเอา”



                “ก็ลูบไปด้วย‘เอา’ไปด้วยไงจ๊ะ”



                ผลัวะ! ฝ่ามืออรหันต์ลงกลางกบาล พี่สิงห์สะบัดหน้าเดินจ้ำอ้าวไปด้วยความรำคาญ หรือว่าเขินวะ ผมมองตามอย่างสงสัย ก่อนที่พี่ฟั่นจะร้องตะโกนออกมา



                “ไอ้ป้อน ไอ้แจ้ไปกักตัวเมียกูไว้! ทำซาดิสต์งี้ต้องเอาคืนนนนน ไปนะพวกมึง ดึกๆ แจกัน” พวกพี่ๆ โบกมือลา มาเร็วไปเร็วเหมือนดั่งพายุ



                “สงสารพี่สิงห์ว่ะ” ไอ้หมูเปิดประเด็น มันหยิบทาโร่มาเคี้ยว



                “สงสารเหี้ยไร เมื่อกี้มึงหัวเราะคนแรก” เฮียดุกเบิ๊ดกะโหลกจนทาโร่พุ่ง “ว่าแต่ พวกมันแม่งไม่เหนื่อยหรอวะ วันนี้มีเรียนเมเจอร์กูคงจะตายห่าหน้าห้องแล้ว”



                “งั้นแสดงว่าคืนนี้เฮียไม่ไป?” ไอ้บาสถาม นั่งเงียบเป็นเป่าสากเชียวมึง



                “ไม่ไปกับผีอะดิ ไอ้บาสไม่ต้องมายิ้ม กูต้องรับน้องใหม่อย่างมึงกับคุณชายของไอ้เขาด้วย”



                “คุณชายไม่ไปที่แบบนั้นหรอกเว้ย มึงอย่าหวังเลย แต่ เฮ้ยๆๆ คุณชายไม่ใช่ของกู”



                “เอ้า งั้นคุณชายของกูละกัน ไอดอลเลยกูชอบ” ไอ้แต้งยกมือขอ



                “ไม่ได้โว้ย!” ผมตบโต๊ะดังปึง  ไอ้สัด เจ็บมือด้วย



                “หวงไรเนี่ย ไหนบอกไม่ใช่ของมึง” ไอ้หมูยิ้มกรุ้มกริ่ม



                “หุบตูดไปเลยไอ้หมู”



                “ไอ้นี่ งอนกูอีก เออๆๆ ไม่ใช่ของไอ้แต้งก็ได้”



                “พวกมึงนี่ยังไงวะ” ไอ้แต้งถามขึ้นมาอีก



                “ไม่ยังไงเว้ย ไปเรียนได้แล้ว” พอผมว่าแบบนั้น ไอ้บาสตัวท็อปก็เห็นดีเห็นงามด้วย ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้วครับ



                “เออตอนเลิกเรียนเสร็จ กูไปหาคุณชายก่อนนะ เจอกันที่ห้องซ้อมเลย” ผมพูดแล้วรีบชิ่งขึ้นตึก แต่ก็ได้ยินเสียงไล่หลังมาตามลม



                “เชี่ยนี่ ไหนบอกไม่ใช่ไง คุณชายของมึงชัดๆ ไอ้เขาควายยยย”

 





                เวลาผ่านไปผมพาร่างอันสะบักสะบอมจากการเรียนเครื่องเอกวันนี้ ปีสามนี่ยิ่งเพิ่มระดับความยากเข้าไปอีก เทอมๆ นึงสามสี่เพลง มือผมระบมไปหมดล้าววววว ผมมองนาฬิกาแล้วพบว่าใกล้ได้เวลาไปรับคุณชายแล้วครับ ออกเดินทาง แบบคูลๆ นั่นคือรถรางของมอนั่นเอง



                โคตรเท่



                คุณชายท่านบอกผมตอนเช้าว่าไปห้องซ้อมไม่เป็น ลำบากไอ้เขาต้องไปหาอีก เฮ้อ ขี้เกียจนิดๆ ผมต้องลงป้ายที่โรงอาหารแล้วเดินลัดเลาะไปยังจุดนัดพบ



                เฮ้ย นั่นแซนวิชลุงปลาเจ้าเด็ดนี่หว่า แวะซื้อไปฝากคุณชายดีมั้ยวะ  เผื่อหิว



                คุณชายให้ผมไปรับที่ใต้ตึกอักษรครับ เห็นบอกว่ามีคุยงานกลุ่มที่นั่น ไอ้เขาที่ไม่ได้ย่างกรายเข้าสู่ตึกอักษรมานาน ก็จะเกร็งหน่อยๆ อู้ววว สาวสวยโคตรเยอะ ดุริยางค์แม่งมีแต่ชายถึก ผมอยากเห็นดอกไม้ ผมแบกน้องบีมเข้ามา ชิบหาย คนมองไมวะ หรือว่าผมลืมรูดซิป พอสายตาคนมองเริ่มเยอะ ผมเริ่มไม่มีความมั่นใจ นั่นไง...ผมต้องรีบไปหาที่กำบัง



                “พี่ชายตาณณณณณ”



                เชี่ย ลืมตัว แหกปากเหมือนทั้งโลกนี้มีกูคนเดียว



                คนหันมามองยิ่งกว่าเดิม ผมรีบวิ่งไปหาคุณชายที่นั่งคุยกับเพื่อนสองสามคนอยู่ กระเป๋ากีตาร์กระแทกหลังอั่กๆ แหะ วิ่งแรงไปหน่อย ทุกคนอยู่ใต้ตึกเลยเงยหน้ามามองผมกันหมด ผมเด๋ออยู่ไม่นานก็มีผู้ชายหน้าตาตี๋ๆ ผมยาวรากไทรเอ่ยทัก



                “คุณชายนี่เด็กที่เอาข้าวแกงราดมึงไม่ใช่หรอวะ” พี่แกลุกขึ้นเดินมายืนข้างๆ ผมที่ยืนอยู่หัวโต๊ะ



                “เออ ไอ้เชี่ย หน้าตาแสบใช้ได้ หนีตีนพวกกูไปแล้วกลายมาเป็นทาสคุณชายหรอเนี่ย” พี่อีกคนพูดอีกพร้อมกับท้าวคางมอผมไปด้วย



                เอ่อ...



                “ผมไปรอด้านนอกนะพี่” คุณชายเหลือบมองมาไม่ได้ตอบอะไร ทึกทักว่าอนุญาตแล้วนะ ผมหาทางชิ่งก่อน เดี๋ยวโดนตีนไม่คุ้มครับ แต่ไม่ทันจะหันหลัง พี่ทรงผมรากไทรแม่งเกี่ยวคอผมไว้อีก กูไม่ใช่เพื่อนเล่นเมิงงงงงง



                “เฮ้ยๆ มานี่ก่อนนนน”



                “จะรีบไปไหนน้อง คราวก่อนให้พวกพี่วิ่งตามจนเหนื่อยเลยนะ”



                ผมหันกลับมาแล้วพบว่าไอ้หน้าเกาหลีนี่ยื่นหน้ามาใกล้จนผมหดคอหนีแทบไม่ทัน งือ พี่ตาณ ช่วยด้วย จะคว้าแขนทิ้งก็ไม่กล้า นี่ไม่ใช่ถิ่นผม เดี๋ยวศพไม่จ๋วย ขณะที่ผมกำลังอ้อนวอนคุณชายในใจนั้น พระเจ้าก็เห็นแก่เด็กน้อยอย่างผม



                ปึง!



                เสียงปากกากระทบโต๊ะดังลั่น คุณชายลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาหาผมทันที ในขณะที่เพื่อนคุณชายก็มองตามอึ้งๆ แต่ที่อึ้งกว่าคือคุณชายสอดมือมาจับเอวผม แล้วดึงไปชิดตัวเองแทน มือของไอ้รากไทรที่วางบนไหล่ผมตกลงข้างตัวบวกกับหน้าเหวอๆ ของพี่แก ทำให้ผมแทบจะหลุดหัวเราะ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะคุณชายส่งไอสังหารมารอบตัว ผมสัมผัสได้



                “งานอีกส่วนไปทำเองแล้วกัน ขอตัวนะ” ว่าแล้วคุณชายก็ออกเดินทันที ผมที่ถูกคุณชายคว้าเอวก็เดินตามไปแบบก่งก๊ง พอหันไปมองก็เห็นเพื่อนคุณชายลุกมาตบหัวไอ้หน้าเกาหลีนั่นใหญ่



                “เฮ้ย คุณชายเดี๋ยวดิ! เชี่ยกานต์ มึงไปทำมันโกรธแล้วเนี่ย”



                “เอ้าก็เด็กมันน่ารัก”



                “ยังไม่หยุดอีก ไอ้นี่”



                “คุณชาย กูหยอกเด็กมึงเล่นเองนะเพื่อนนนนน”

 





                “เอ่อ...พี่ งานพี่เสร็จแล้วหรอ” เอ่อ เดินดุ่มๆ ไม่พูดไม่จาเลยง่า คุณชายพาผมมาที่จอดรถก่อนจะแย่งเอากระเป๋ากีตาร์ผมไปวางไว้เบาะหลัง แล้วก็เปิดประตูข้างคนขับยัดตัวผมเข้าไป ส่วนตัวเองก็วางแขนไว้กับประตู แบบว่าทำไมโซฮอตจัง คุณชายก้มมองผมที่เลิ่กลั่ก เหงื่อแตกพลั่กๆ เพราะไม่เคยเห็นคุณชายเงียบแบบนี้มาก่อน



                “มอมแมม เคยบอกว่าไง” คำแรกก็เรียกกูเหมือนหมาเลย



                “บอกอะไรพี่” คุณชายเสมองที่ไหล่ขวาเป็นคำตอบ ผมถึงกับบางอ้อทีเดียว “เฮ้ย เพื่อนพี่มือเปื้อนหรอ”



                “ใช่ เมื่อกี้มันไปเข้าห้องน้ำไม่ล้างมือด้วย”



                “เชี่ยยยยยยยยยยย”



                “อย่าให้ใครมาจับตัวอีกเป็นครั้งที่สามล่ะ”



                “ทำไมพี่ไม่บอกผมเร็วๆ” ผมอ้อมแอ้มบอก หลบสายตาพิฆาตของคุณชาย “ก็...เพื่อนพี่น่ากลัว เดี๋ยวผมโดนตื๊บทำไงอะ”



                “คนปากเก่งไปไหนแล้ว”



                “ใครปากเก่ง ไม่มี๊ ผมเรียบร้อยจะตาย”



                “หึ” คุณชายหัวเราะในลำคอมาคำเดียวแล้วก็ยื่นนิ้วชี้มาจิ้มหัวผม “อยู่กับฉัน ไม่มีใครทำอะไรนายหรอก”



                เอ่อ นี่มัน…



                ตึกตัก ตึกตัก



                คณะอักษรมีแมลงเยอะจังครับ



                “พี่...” ผมมองคุณชายเบลอๆ เหมือนกล้องที่โฟกัสผิดจุด



                “แล้วอีกอย่าง...กะโหลกหนาเป็นปูนซีเมนต์แบบนี้ไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก”



                กึก!



                แม่ง



                ที่นี่ไม่มีแมลงอะไรทั้งนั้นอะ!

                 







                เหอะ ผมเคืองห้านาที



                “กินอะไรก่อนมั้ย”



                “ผมยังไม่หิว แต่ถ้าพี่หิว ผมมีแซนวิช ซื้อมาให้พี่ด้วย”



                “หึหึ”



                นี่เห็นผมเป็นตลกหรือไงครับคุณชาย



                “แล้วนี่ ห้องซ้อมนายอยู่ไกลมั้ย”



                “ไม่ไกลพี่ อยู่ในกรุงเทพนี่แหละ”



                “กวนเท้าหรอสุกร”



                “แฮ่ อยู่หลังมอซอยแปดอะพี่ ตรงไปก็ถึงแล้ว”



                “อืม”



                “พี่...” ผมหันไปมองคุณชาย “ถ้าพวกมันชวนคุยให้พี่อึดอัด พี่บอกผมนะ”



                “นายจะทำอะไร”



                “ก็ผมชวนพี่มา ไม่อยากให้อึดอัดหรอก แต่ถ้าพี่อึดอัด ผมจะไปอยู่ใกล้ๆ เอง”



                “อยู่ใกล้แล้วช่วยอะไรได้”



                “ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อยู่ใกล้กันดีกว่าแน่นอน ผมคือผู้พิทักษ์ของคูมชายไงชื่อว่าเขาฟาย”



                คุณชายส่ายหน้าเบาๆ “ไม่เชื่อผมหรอ” ผมพูดเสียงสูง คุณชายที่ขับรถอยู่ปรายตามามองนิ่งๆ



                “เชื่อ ก็มีอยู่ตัวเดียวจะให้ไปเชื่อใคร”



                ทำไมทะแม่งๆ วะ แต่ฟังแล้วรู้สึกดี ยิ้มก็ได้!


[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 29-12-2017 20:21:45
[ต่ออีกนิดด]


                “เอ่อ ทุกคนนี่คุณชาย...” ผมเดินนำคุณชายขึ้นมายังห้องซ้อมชั้นสองเมื่อไม่กี่นาทีก่อน พอขึ้นมาแล้วก็พบว่าเพื่อนในวงอยู่กันครบแล้ว และตอนนี้พวกมันมองมายังคนที่ถือกีตาร์ตามหลังผมด้วยแววตาอึ้งๆ



                “...นักร้องนำชั่วคราวแทนไอ้ยิม”



                กว่าสิบวิที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย ผมหันไปหาคุณชายที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงแสล็คนิ่งๆ หน้าตาเรียบเฉย ไม่บอกความรู้สึกใดๆ มีแต่ผมเองที่ทนต่อความเงียบไม่ไหว



                “พวกมึง...”



                “เฮ้ๆๆๆ วู้วววว ไอ้เขาทำได้แล้วเว้ยยยยยยยย!!! ไอ้หมูรัวกลองงง”



                “เชี่ย ตอนมันบอกกูยังคิดว่าโม้ ตึงตึงตึงเซี้ยบเซี้ยบ”



                “เจอตัวเป็นๆ ผมใจเต้นเลยว่ะพี่ ผมชื่อแต้งครับพี่ ตอนเฮียดุกแอบถ่ายคลิปตอนพี่ร้องเพลง เสียงพี่เจ๋งโคตร พี่โชคดีแล้วที่อยู่วงเรา”



                พวกมันทำท่าจะกรูเข้ามาหาคุณชาย ไอ้เขา ผู้พิทักษ์คุณชายเลยเคลื่อนตัวไปบังโดยอัติโนมัติ “พวกมึงใจเย็นๆๆ”



                “วงเราต้องเป็นที่โจษอังคาร”



                “โจษจัน!”



                ตึง โป๊ะ แหน่ะ ตีกลองตบมุกให้อีกนะไอ้หมู



                “มาๆ ผมจะแนะนำอย่างเป็นทางการ มือกลองชื่อหมู พี่คงเคยเห็นหน้าแล้ว นี่ก็เฮียดุกไม่มีตำแหน่งแข่งกับสัมภเวสี”



                “เชี่ยนี่” เฮียดุกยื่นมาหมายจะตบกบาลผม แต่พอเหลือบตามองด้านหลัง มันเลยทำเป็นยกมือทักทายแทน



                “สวัสดีอย่างเป็นทางการครับคุณชาย อาหารบ้านคุณชายอร่อยสั...อร่อยมากๆ ครับ”



                “แล้วนี่ไอ้แต้ง คีย์บอร์ด แล้วนู่นไอ้บาส กีตาร์เหมือนกับผม”



                “หวัดดีคร้าบ”       



                “หวัดดีครับ”



                คุณชายพยักหน้าลงทีนึง แต่สีหน้าผ่อนคลายขึ้นมาก     



                “เอ่อพวกเรามาแนะนำให้สมาชิกใหม่รู้จักวงของเรามากขึ้นดีมั้ย” เฮียหมูเปิดประเด็น พร้อมกับชวนทุกคนมานั่งล้อมวงกันที่พื้นพรม



                ผมกระตุกมือคุณชายที่ยืนอยู่ให้นั่งลง พอคุณชายนั่ง ก็หันมาหาเพื่อนๆ ...เช็ดเขร้ มองกูตะไม



                “แฮ่มๆ วงเราเน้นเพลงร็อคนะครับ”



                “ถนัดเลย” ไอ้บาสตอบก่อนจะหันไปถามคุณชาย “แล้วคุณชายล่ะชอบเพลงร็อคมั้ยครับ”



                “พี่ พี่เคยฟังเพลงร็อคบ้างป้ะเนี่ยถามจริง” เห็นไม่ตอบผมก็เลยถามไปอีก คุณชายปรายตามองนิดๆ พร้อมกับยักคิ้วกวนหน่อยๆ ไม่ได้ตอบอะไรแต่ถามกลับมาแทน



                “วงพวกนายชื่อวงอะไร”



                “ชื่อว่า วารชีวิต พอรวมกับคำว่าวง”



                “กลายเป็น”



                “วงวารชีวิต!!” สามหนุ่มสามมุมอย่างผม ไอ้หมู แล้วก็เฮียดุก ประสานเสียงกันอย่างเฮฮา แท็กมือกันด้วยเพราะชื่อแม่งคูลที่สุดในจักรวาล ไงล่ะพี่



                “ขอโทษด้วย ร้องให้ไม่ได้ละ”



                “เฮ้ยๆๆๆ พี่ขอร้องงงงงง” ผมคว้าแขนคุณชายที่ทำท่าจะลุก ไอ้แต้งกับไอ้บาสหัวเราะกันใหญ่ 



                “ชื่อวงพวกมึงนี่กวนตีนชะมัด” ไอ้บาสว่า มันหัวเราะจนไหล่สั่น



                “พี่ มันไม่ดีตรงไหน คูลจะตาย”



                “ไปเปลี่ยนชื่อวงไป ไม่งั้นไม่ร้อง”



                “ไม่ได้ครับ ส่งไปแล้วง่า” ผมครวญคราง เฮียดุกกับไอ้หมูมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ฤทธิ์คุณชายระเบียบจัดไม่ได้มีแค่นี้นะเมิงงง



                “พวกผมเคยคิดจะเปลี่ยนชื่อวงแล้ว มีหลายชื่อแต่ก็ได้ชื่อนี้อะ”



                “ชื่ออะไรบ้าง”



                “ไอ้เขา มึงเล่าให้คุณชายฟังสิ คุณชายอยู่อักษรจะได้ช่วยคิด” เฮียดุกแปรพรรคเรียบร้อย มันคงกลัวคุณชายจะไม่ร้องเพลงให้แหงๆ เมื่อกี้มึงยังค่อดคูลกับกูอยู่เลย



                “เราเคยตั้งกันแล้ว ชื่อที่ได้รับการโหวตสูงสุดห้าชื่อคือ...” ทั้งห้องเงียบกริบ พยายามส่งสายตาให้เพื่อนรักช่วยพูดแต่พวกมันเม้มปากเน้น



                “คือ?” คุณชายถามย้ำ



                “คือชื่อวงกลม วงเวียนใหญ่ วงกบ วงใน แล้วก็วงวารชีวิต เลือกกันไปเลือกกันมาได้ชื่อสุดท้ายเนี่ยอะพี่”



                “อุ๊บ ฮ่าๆๆๆ”



                “เชี่ยบาส หยุดหัวเราะ”



                คุณชายถอนหายไปแล้วสบตาผม “หาคนร้องใหม่เถอะ”



                ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย







 

                ผมหน้ามุ่ย เดินลงมาซื้อของกินด้านล่าง เมื่อกี้ผมเล่นคอร์ดผิดเลยโดนลงโทษ คุณชายนะคุณชายไม่ช่วยผมเลย ไม่ให้ผมพิทักษ์พี่แล้วหรือไงวะ



                แต่...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คุณชายเข้ากับเพื่อนผมได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ(และผมเหมือนถูกลืมไปชั่วขณะด้วย) สุดท้ายพี่ท่านก็แกล้งเรื่องชื่อวงเฉยๆ ครับ  แถมคุณชายที่ผมรู้จักไม่เคยร้องเพลงร็อคของไทยแต่วันนี้ลองร้องให้ฟังท่อนนึง ผมใจพองโตออกไปนอกโลก โคตรดีเลยจริงๆ ครับ คิดไม่ผิดที่ผมเลือกคุณชายยย หลังจากนี้คุณชายต้องไปฝึกเพลงที่พวกเราจะเล่น ไม่นานวงผมต้องระเบิดระเบ้ออออ ติดอยู่อย่างเดียวหน้านิ่งไปนิดนึง ไม่เป็นไร ไอ้เขาจะช่วยให้คุณชายมีเสน่ห์บนเวทีเองงงง



                คิดอย่างสุขใจแล้วผมก็เดินลั้นลามาที่ห้องซ้อม



                “พี่ ไอ้เขาแม่งเรื้อนของจริง ตอนไปรับน้องนะพี่ เปิดตู้เสื้อผ้าเยี่ยวเฉย”



                “หึหึ”



                “ผมกับเฮียดุกถึงกับตาสว่าง ไม่ได้อึ้งนะเหม็นเยี่ยวอะพี่”



                “จ้อจี้ชิบหายยยย ไอ้เขาเนี่ย”



                “เผาไรกูวะ!”



                ผมเดินกระแทกเท้าเข้ามาในห้อง แอบไม่พอใจที่คุณชายคุยกับไอ้พวกนี้มากกว่าผม พอผมวางเครื่องดื่มกับขนมดังโครม แล้วฝูงคนกระหายหิวก็เข้ามาหยิบจนเหลือแค่น้ำขวดเดียว ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งคุยกันที่โซฟามุมห้อง ทิ้งผมให้บ่นกระปอดกระแปดอยู่กับคุณชายสองคน



                “พี่ ไม่ต้องไปฟังมันมากนะ พวกนี้แม่งโม้”



                “อืม”



                อืม แล้วหัวเราะทำไมมม หงุดหงิด ผมหน้าก็ทิ่มตาอยู่ได้ เสลดเป็ด แล้วน้ำส้มนี่เปิดยากอีก เหนียวมือไปหมดแล้ว!



                “ใจเย็นๆ” คุณชายยื่นมือมาลูบหัวผมสองสามที ผมกลัวเพื่อนเห็นเลยรีบหันไปมองทันที แต่พวกมันก็คุยกันไม่สนใจผม ผมเลยหันไปหาคุณชายอีกครั้ง



                “ผมมันยาวแล้วอะพี่ ก้มหน้าดีดกีตาร์แล้วทิ่มตาอยู่เรื่อย”



                “อ้อน?”



                “ไม่ได้อ้อนซะหน่อยบอกเฉยๆ มือก็เหนียวน้ำส้มไปหมดเลย มัดไม่ได้”



                “หึ” คุณชายอมยิ้มซึ่งวันนี้ยิ้มบ่อยไปแล้วนะ พอเห็นผมไม่สบอารมณ์คุณชายเลยคว้าหนังยางรัดแกงตรงพื้นมามัดผมให้



                คุณชายโคตรใจดีเลย เผื่อใครไม่รู้ มัดเสร็จก็ดีดหน้าผากผมไปที



                “เจอแล้วๆ คุณชาย Rock bottom ที่พี่บอก โคตรน่าเล่นเลยว่ะพี่ ไม่น่าเชื่อคุณชายจะรู้จักด้วย” ไอ้หมูตะโกนขึ้นมา



                “ลองฟังดูเจ๋งดีพี่”



                “อะไรอะ” ผมหันไปมองหน้าเหรอหรา พูดเรื่องไรกันฟะ



                “เห็นทีผมต้องหาทั้งอัลบั้มมาฟังมั่งแล้ว ไลน์กีตาร์สุดมากเลยพี่” ไอ้บาสด้วยอีกคน มันใส่หูฟังแล้วโยกหัวไปด้วย ฟังด้วยดิเฮ้ย



                “ชอบบบบเว้ยพี่ โคตรดี วู้วววว” พวกมันเหมือนมันส์ในอารมณ์แล้วผมอะ ไม่รู้เรื่องด้วยเลย



                “เฮ้ย มีคนหน้างอว่ะ” เฮียดุกเดินมานั่งยองๆ ข้างผม “เออ...มัดผมแบบนี้มึงช่วยพี่ตูนได้นะไอ้เขา”



                “อะไร”



                “หัวล้านถึงแม่สายขนาดนี้ พี่ตูนคงวิ่งได้หลายพันล้าน ฮ่าๆๆๆๆ” หัวเราะเสร็จก็เดินไปนั่งสุมหัวกับไอ้พวกนั้น



                “ไอ้เหี้ยดุก พี่ดูมันดิ มันหัวล้านกว่าผมอีก ชอบเอาผมตรงท้ายทอยมาปิดหน้าผากกูยังไม่ว่าอะไรมึงเลย”



                “กูเกลียดมึง ไอ้สัดเขา” ว่าแล้วมันก็ขว้างโน้ตเพลงมาแทน หูดีจริงจริ๊งงงง



                “แต่...พี่ตาณ พี่ว่าผมหัวล้านมั้ยอะ” เครียดจริงจัง นี่แอบเห็นเฮียทิวเริ่มผมร่วงแล้ว



                “หึ” คุณชายส่ายหน้าพลางลูบหน้าผากผม



                “เหม่งเอ๊ย”



                หมายความว่าไง คนโง่ไม่เข้าจรัยส์







 

                “กลับเลยมั้ย”



                คุณชายเอ่ยถามหลังจากที่พวกเราเริ่มเก็บอุปกรณ์ พอถามปุ๊บ ไอ้หมูก็โพล่งมาปั๊บ



                “ไอ้เขานี่มึงไม่ได้บอกคุณชายหรอว่าเราจะไปต่อ”



                “ไปต่อ? ไปไหน”



                ชะอุ้ย สายตาคมกริบ



                “กูลืมบอกไง” ผมกัดฟันตอบก่อนจะฉีกยิ้มให้คุณชาย



                “อ้าวเวร งั้นคุยกันไปนะครับ พวกเรา ปะ! ไปรอข้างล่าง โชคดีเว้ยเพื่อน” เพื่อนรักอย่างเฮียดุกหาทางชิ่งทันที มันลากทุกคนไปหมด



                “เฮ้ย รอกูก่อนดิ” ผมทำท่าจะเดินตามไปด้วยแต่ก็ถูกคว้าคอเสื้อไว้ซะก่อน



                “จะไปไหน?”



                “เอ่อ คือว่า...วันนี้พวกเราจะไปดริ๊งกันที่ร้านประจำอะพี่ซอยถัดไปนี่เอง แต่มันคงดึก พี่กลับก่อนเลยก็ได้”



                “หมายความว่านายจะอยู่ต่อจนดึก ไม่กลับบ้าน?” คุณชายปล่อยคอเสื้อผมแล้วกอดอก หรี่ตามองไอ้เขา



                “ดึกแล้วรถหมด ผมก็นอนหอเพื่อนแถวนี้ก็ได้ อีกอย่างพรุ่งนี้วันเสาร์ ไม่มีเรียนด้วย”



                “จำสัญญาที่นายมาขอร้องให้ไปร้องเพลงได้มั้ย ข้อแรกน่ะ” จู่ๆ คุณชายก็เปลี่ยนเรื่องเร็วจนผมตามไม่ทัน แต่เนื่องจากสมองน้อยๆ ได้ประมวลผลแล้วผมจึงทวนคำสัญญาเมื่อสายันห์ออกไป



                “ข้อแรกก็...ผมต้องให้พี่ไปรับไปส่งทุกวัน”



                “อืม...ถ้าคืนนี้นายจะไม่กลับ ก็แสดงว่าฉันไม่ได้ไปส่ง งั้นก็ร้องเพลงอะไรนี่ก็เป็นโมฆะแล้วกัน”



                “พี่ๆๆๆ เดี๋ยวก้อนนนน พี่จะไม่ให้ผมไปกับเพื่อนหรอ” สลดเลยกู อยากแดกไม่ใช่อะไร อาทิตย์นี้คุณชายมาคุมตลอด มาส่งผมที่บ้านไม่เกินหกโมงทุกวัน ใจมันโหยหาง่ะ



                “...แล้วผมรับปากเพื่อนไว้แล้วนะ จริงๆ พวกมันดื่มเพราะจะรับน้องใหม่เข้าวง แล้วก็นัดรุ่นพี่ไว้แล้วด้วยอะพี่”



                “นายอยากดื่มก็ดื่มไปสิ ฉันมีหน้าที่ส่งนายกลับบ้านตามสัญญา”



                “แต่ว่า...” ผมไม่อยากให้คุณชายไปเจอความอัปปรีย์ของแกงค์สวรรค์รำไร คุณชายดีเกินไปถ้าจะมาพัวพันกับพวกมัน แล้วคุณชายก็ต้องกลับบ้านดึกด้วย อันตรายจะตายไป ข้อนี้ขีดเส้นใต้ไว้เลย



                “ถ้านายไม่อยากให้ไปก็โอเค งั้นจบกันแค่นี้” ทำไมคุณชายพูดแค่นี้ ผมถึงรู้สึกว่าใจหล่นไปกองอยู่ตรงเท้า หน้าหงอยยิ่งกว่าเดิม แต่เพราะมือเร็วกว่าสมอง ผมจึงรีบคว้าเสื้อเชิ้ตด้านหลังคุณชายก่อนที่คุณชายจะเดินออกไป



                “ไม่ใช่ไม่อยากให้ไปนะพี่ ผมอะนอนไหนก็ได้ แต่ว่าพี่...กลับดึกๆ มันอันตราย เเล้วถ้าผมเมาแล้วใครจะช่วยดูทางล่ะพี่ ผมเป็นห่วงนะ” ผมรีบพูด ขยุ้มเสื้อเรียบกริบของคุณชายแน่น



                “...” คุณชายเงียบไปจนผมชักจะใจเสีย ยิ่งได้ยินเสียงถอนหายใจ ผมก็ยิ่งก้มหน้าลงอีก



                คุณชายจับมือผมจากด้านหลังก่อนหันมาทั้งตัว เเละเพราะเสียงเรียกเบาๆ นั้นทำให้ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้น



                “มอมแมม...”



                “ฮื่อ ครับ”



                “จะให้นายอยู่นี่โดยที่ไม่มีฉันน่ะ...ไม่ได้หรอก”



                “ทะ...ทำไมล่ะพี่...”



                “เด็กโง่  ก็เพราะฉันเป็นห่วงนายเหมือนกันไง...”





________________
มาเเล้วค่า สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า
รักเเละคิดถึงทุกคนเสมอ รวมถึงคิดถึงนังเขาเด็กโง่ด้วย
ติดเเท็ก #คุณชาย2017 (ที่อาจจะต้องเปลี่ยนเป็น2018เเล้ว 55)
หรือมาคุยกันได้ที่ทวิตเตอร์ @jaevin3
ขอบคุณทุกวิว ทุกคอมเม้นต์ ทุกกำลังใจเลย
ขอให้ทุกคนมีจิตใจที่เข้มเเข็งมากยิ่งขึ้นในปี2018นะคะ
เจอกันใหม่ปีหน้าเลยค่ะ เลิฟ
 :3123: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 29-12-2017 20:41:14
ฮือออ ใจบางไปหมดแล้วว มันดีต่อใจจริงๆๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-12-2017 20:43:39
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 29-12-2017 21:32:34
พี่ตาณ  :-[
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 29-12-2017 22:32:45
แพ้ความละมุนของพี่ตาณ จริงๆพี่ตาณไม่ใช่คนเนียน
แต่เพราะน้องเขาเป็นคนซื่อเลยตามพี่ตาณไม่ทัน
ปักธงรอพี่ตาณด้วยคนค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 29-12-2017 22:34:40
 :-[ :-[ :-[ :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 30-12-2017 00:01:14
เขินนนนนนนนนนนนน คุณชายไม่ซึนแล้ว
อยากเป็นเด็กโง่ของคุณชายจังเลย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 30-12-2017 04:05:10
คุณชาย :ling1: ละมุนเฟ่อ  :o8:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-12-2017 07:45:52
โอ๊ย.............เขาเอ๊ยยยยยย..........
อย่าชื่อภูเขาเล้ย  ชื่อหลังเขาเฮอะ

คุณชาย ทั้งหลง ทั้งหวงมอมแมมมาก แต่ชอบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
อยากอ่านพาร์ทคุณชายแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 30-12-2017 12:12:18
งือๆๆๆพลังความอ่อนโยนของคุณชาย มีความทำลายล้างขั้นรุนแรง  :impress2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 30-12-2017 13:40:04
โอ้ๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: hoihak ที่ 30-12-2017 14:24:26
ถึงเขานางจะเอ๋อแต่คนอ่านไม่โง่นะเออ เรารู้นะคะคุณชายยยยยยยย :heaven :ruready
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 30-12-2017 14:35:47
อิจฉานังเขาาาาอ่า
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 30-12-2017 18:33:52
อบอุ่นกว่าอากาศตอนนี้ ก็คุณชายตาณนี่แหละจ้าาา :o8:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 30-12-2017 20:35:55
เขินเวอร์
ยิ้มจนแก้มปริแล้ววว>\\<
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 30-12-2017 21:58:08
หวายยยยย เจอความอบอุ่นแอทแทคเข้าไป!!!ระทวยกันเลยจุดนี้
พี่เขาอยากไปด้วยทุกที่ก็ให้เขาไปลูก พี่คาณหวงน้องมากๆ น่ารัก

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 30-12-2017 22:41:04
คุณชายยยยยย ละมุนได้อีกกกกกก  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 31-12-2017 17:15:47
ค่ะ เป็นชื่อวงที่น่าวงวารมาก ฮ่าๆๆๆ ข้าวแทบพุ่ง  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 01-01-2018 08:28:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 11 ห้ามไม่มีฉัน p.5 [29-12-17]
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 01-01-2018 14:40:11
คูมชายขยันทำนังเขาใจบางเหลือเกินน บางเป็นกระดาษแล้วมั้งเนี่ย

สงสารเขาหน่อย เขาตามไม่ทัน ฮรือออ

โอ้ยย รีบมาอัพนะคะคูมคนเขียน
ชอบมว๊ากก สนุก อ่านเพลิน มุกก็......ฮาก็ได้  :laugh:

สวัสดีปีใหม่ค่า ยังติด #คุณชาย2017 อยู่นะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 10-01-2018 19:12:57
ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต


“พี่ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ”



“อืม”



“ซักนิดก็ไม่”



“ไม่”



“ซักกะติ๊ดก็ไม่เลยหรอ”       



“ถ้าถามมากจะลากกลับบ้าน...”



“ครับๆ ครับพี่ชายตาณครับ เชิญเสด็จได้เลยครับพี่”



ไอ้เขาลอบถอนหายใจให้ชาวร็อคเงียบๆ หลังจากที่พยายามตบแมลงไม่ให้ส่งเสียงตึกตักเพราะคำพูดคุณชายแล้ว ปัญหาระดับชาติก็เกิดขึ้น ผมเงยหน้ามองป้ายที่ทำจากไม้เขียนด้วยตัวหนังสือสีขาวว่า “ร้านประจำ” แล้วก็ถอนหายใจอีกรอบ ก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ 25 hours แค่เธออยู่ข้างๆ อ๊ะอ่าว ก็เปลี่ยนให้ชีวิตฉันไม่เหมือนเก่า พอเถอะ เดอะฟรัคกิ้ง



“เดินนำไปสิ”



เรื่องของเรื่องก็คือว่า พอตกลงกันได้แล้ว ผมก็ให้เพื่อนๆ ไปนั่งรอที่ร้านประจำ ร้านนี้เป็นร้านประจำจริงๆ นะ ชื่อร้านยังชื่อประจำ แถมเจ้าของร้านก็ยังชื่อประจำอีก แต่ที่บอกว่าเป็นปัญหาเนี่ยคือร้านนี้มันเป็นร้านอาหารอีสานที่มีเหล้าขาย ทั้งยาดอง ยาไม่ดอง มีหมด ซึ่งฟันธงว่าคุณชายต้องคุมโทนไม่เข้ากับร้านนี้แหงแซะ



ร้านประจำตกแต่งด้วยบรรยากาศสไตล์บ้านนา ประกอบด้วยโต๊ะไม้ไผ่และผ้าขาวม้า กลางกรุงแบบนี้แหละ ดีนัก พวกผมโหยหาบรรยากาศแบบนี้กัน โดยเฉพาะดึกย่ำค่ำคืน ตอนสี่ทุ่มยามดีนี่แหละครับ พี่ประจำจะเพลงตื๊ดๆ แว้นซ์ๆ ไรงี้ โอ๊ยยย มันส์สะโพกหลุด



ถึงจะชอบร็อคแต่พวกเราก็ back to basics นะครับ อย่าถามว่าแปลว่าอะไร เห็นเค้าพูดกันครับ หล่อมะ ทำท่าเช็คถูกใต้คางแป๊บ



“เป็นอะไร ผีเข้า”



ชะอุ้ย ลืมไปไม่ได้มาเท่คนเดียว



“ผีบ้าไรล่ะพี่”



“ผีบ้าเนี่ยแหละ”



“เอ้า เดี๋ยวกัดเอวเลย”



“กัดได้แค่เอว?”  คุณชายยักคิ้วกวนๆ เดี๋ยวนะ นี่พี่มึงหลอกด่ากูว่าเตี้ยใช่มั้ย ถึงจะโง่เรื่องอื่นแต่เรื่องนี้ฉลาดเป็นกด อ๋อ กรด



“ทางนี้เว้ยไอ้ควาย”



แหมะ ควายเต็มร้าน คนมองกันตรึม ผมเก๊กท่าเดินอาดๆ ตรงเข้าไปที่นั่งหน้าเวที สาวโต๊ะข้างมองผมตาค้างเลย หึหึ นี่แหละ ภูเขา แห่งดุริยางค์เด็กสายดนตรีสุดโดนตรีนครับผม



“คุณชายยยยย ว้ายกรี๊ด”



“วันนี้กูจะกินยาดองจนเป็นลำยองไม่ได้”



“คุณชายยยย มาได้ไงเนี่ย”



“เรียนมาหลายปีกูยังไม่เคยเห็นคุณชายเดินเข้าร้านแบบนี้เลย”



“บุญตา บุญตา”



“โหหห คุณชายเดินตามควายอย่างไอ้เขามานี่เรตติ้งยังไม่ตกนะครับ” เฮียดุกจัดแจงที่นั่งให้คุณชายเลยแล้วเชิญคุณชายนั่ง



“เหี้ยเขา มึงจะเก๊กท่าเป็นเทพีสันติภาพอีกนานมั้ย”



“คนมองกูเยอะ กูขอยืนก่อนเดี๋ยวนั่งแล้วพวกมึงบัง”



“เดี๋ยวๆ ใครมองมึง” ไอ้หมูว่าพลางมองซ้ายมองขวา ไอ้เพื่อนไม่รักดีก็สาวๆ ไงวะ เค้ามองอยู่เนี่ย



“สาวๆ พวกนี้ไง” ผมว่าแล้วกระแทกตัวนั่งข้างคุณชาย ไอ้หมูมึงนี่นะต้องให้ออกเสียง เซ้นส์ไม่มีเลยมึงเนี่ย



ผลัวะ!



“เค้ามองคุณชาย ไม่ได้มองตอม่อแบบมึง ไอ้ห่าน” ไอ้หมูตบหัวผมจนหน้าแทบทิ่ม ดีที่คุณชายคว้าคอเสื้อผมไว้ได้ทันเวลา พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นเฮียดุกที่นั่งตรงข้ามผมทำตาเหลือก มันลากคอไอ้หมูไปนั่งข้างตัวเองทันที



“ตบแรงไปไอ้สลัดหมู”



“ทำไมกูรู้สึกว่าคุณชายมองกูตาขวางเลย เค้ารับความสถุลของกูไม่ได้หรอวะ”



“ยังจะถาม บักห่าพากเอ๊ย”



“พวกมึงกระซิบกระซาบไรกัน เชี่ยหมู มึงนี่มือหนักชิบเป๋ง” ผมลูบหัวป้อยๆ คุณชายหันมามองนิ่งๆ ก่อนจะเลื่อนมือมาลูบตรงที่โดนฝ่ามือไอ้หมูตบให้เบาๆ



“เจ็บง่าพี่”



“เชี่ยนี่ลิ้นเปลี้ยออเซาะ คุณชายอย่าหลงเชื่อมันนะครับ” ไอ้หมูว่า



“ไม่ต้องพูดมาก สั่งของกินมาให้ไว”



“ไอ้บาสกับไอ้แต้งไปสั่งนู้นแล้ว” เฮียดุกชี้ไปที่หน้าเคาน์เตอร์ที่เพื่อนในวงผมอีกสองคนไปส่งใบรายการอาหาร ร้านนี้แม่งต้องบริการตัวเอง ดีนะไม่ต้องไปทำเข้าครัวเองไม่งั้นกูว่าชาตินี้ไม่ได้แดกแน่นอน



“พี่กินได้มั้ย” ไอ้เขารำลึกชาติได้ว่าพี่ชายตาณเคยบอกว่าไม่กินข้าวถ้าไม่ใช่เวลาอาหารนี่หว่า นี่ก็ปาไปสองสามทุ่มแล้ว คุณชายจะกินอะไร ตอนไปกินก๋วยเตี๋ยวยังนั่งมองผมอย่างเดียวเลย



“อืม”



“พี่ไม่กินอะไรบอกผมนะหรือถ้าอยากกินอะไรก็บอกนะพี่” เห็นหน้าคุณชายแล้วรู้สึกผิด เหมือนพาพี่ท่านมาลำบาก แต่จะให้กลับก่อนก็ไม่ยอม เศร้าอะ คุณชายลูบหัวผมเบาๆ สบายจัง หายเศร้าแล้ว



“โอ๊ย!”



“เป็นไรเฮีย” ไอ้บาสทำตาโตหลังจากกลับมานั่งที่แล้ว



“มดแดงกัดขา”



“ช่วยเอาออกมั้ยพี่”



“ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูเอาเท้ารูด พี่ประจำนี้ไม่ดูแลร้านเลยนะ มดเมิ้ดเยอะไปโม้ดดดด”



“เออแล้วสวรรค์รำไรจะมากี่โมง” ไอ้แต้งพูดขึ้นหลังจากที่มองสาวโต๊ะข้างๆ ส่วนไอ้บาสก็ตักน้ำแข็ง แจกจ่ายให้พวกเรา คนดีศรีสยามจริงๆ เลยครับ



“อย่าไปสน มาๆ ชนดีกว่า พวกมันอยากเปิดตัวกี่โมงก็เรื่องของมัน” เฮียดุกว่างั้น แล้วเริ่มชนแก้ว ดริ้งเบียร์กัน เร็วเชียว คุณชายไม่รับเบียร์ก็ยกแก้วจิบน้ำเปล่าครับ และผมก็ต้องจิบน้ำเปล่าด้วย คุณชายบอกว่าต้องกินข้าวก่อน ไม่งั้นไม่ต้องอยู่ กลับบ้านทันที



“เฮะ เฮะ มะกี้... ใครเรียกสวรรค์รำไรครับโผมมมมมมมมม”



เหมือนสปอร์ตไลท์ส่องไปที่ทางเข้า พวกเราเห็นเงาดำๆ ยืนเรียงกันสี่คน สามคนแรกทำท่าเหมือนไมเคิล เจ๊กสัน วันนาบีมากมึงเอ๊ยยย คนมองทั้งร้าน




“ผี(สำเนียงใต้)สวรรค์รำไร มองไมจ๊ะหน่องสาวววว”



พี่ฟั่นมูนวอล์คเข้ามาในร้าน พวกเรามองค้างกันหมดไม่เว้นคุณชาย ขนาดแก้วน้ำเปล่ายังถือค้างไว้เลยอะคิดดู



“กินไม่รอกูเนี่ยคิดดีแล้วอ่อเบเบ้”



“ใช่ๆ ใช่ๆ” มือขวามือซ้ายประสานเสียงกันลั่น พี่ฟั่นชะโงกหน้าเข้ามากลางโต๊ะก่อนจะหยิบแก้วไปจิบ เอ่อ...แก้วนั้นมัน…



“แค่ก! น้ำเปล่า”



“ใครช่างกล้า มาถึงถิ่นพี่ประจำแล้วแดกน้ำเปล่าครับสมุน” พี่แกเล่นใหญ่ ดีนะไม่พ่นน้ำใส่หน้ากู ส่วนพี่สิงห์เดินไปสั่งเด็กเสิร์ฟลากโต๊ะมาต่อกัน พี่สิงห์เหมือนมาคนเดียวนะบ่องตรง



“ใคร! ลูกพี่กูถามว่าใครรรรช่างกล้ากินน้ำปฎิเสธ”



“น้ำเปล่า!”



“ผ่าม!”



“เอ่อ...พี่มึงครับ นั่นมัน...แก้วคุณชาย”



“อะโฮ้ยยยยย คุณชายคุณเชยอะไร กูเห็นมีแต่คนใช้บ้านทราย...” พี่ฟั่นส่งเสียงหัวเราะแบบโรคจิต ก่อนจะกวาดตาไปทั่วโต๊ะ และแน่นอนว่าพอเห็นคุณชายปุ๊บ พี่ฟั่นชะงัก อึ้ง ทึ่งไปทั่วทั้งขนตูด



“บ้านทรายไรครับเพื่อนฝูง” พี่ป้อนถาม ตามด้วยพี่แจ้ตอบ ยังไม่มองอีก ยังอีกกกก



“ทราย เจริญปุเระ แฮ่”



“เอ๊ะหรือว่าจะเป็น ทรายเจริญพร ฮ่า”



ผลัวะ ผลัวะ



“เพื่อนครับ คนใช้ก็ต้องบ้านทรายทองไงอีสัด แหกตาดูบ้าง ว่าใครนั่งอยู่ตรงนี้ เอ่อขออภัยใต้เท้า นี่แก้วคุณท่านใช่มั้ยครับ เชิญคุณชายดื่มด่ำได้เพครับ” พี่ฟั่นรีบหยิบแก้วใหม่ส่งให้คุณชายทันที ผมงี้มองตาปริบๆ พี่แกเติมน้ำก่อนจะพูดต่อ



“เอ่อ แล้วอย่าตัดงบคณะผมนะขอรับ”



“ไอ้ฟั่นเป็นเชี่ยไรวะ เชี่ยยยยยยยย ของสูง” พี่แจ้พูดเสียงสูงหันหน้ามาทางคุณชายอีกคน ไอ้ผมก็รีบกางมือห้านิ้วมาด้านหน้าคุณชายทันที กลัวน้ำลายกระเด็นใส่



“เหนื่อย” จู่ๆ คุณชายก็พูดเบาๆ แถมยังถอนหายใจ พี่มากับผมแล้วเหนื่อยหรอ “เหนื่อยกับคนสติสตังค์ไม่ค่อยมี”



จะร้องไห้ พี่ไม่เคยพูดคำว่าเหนื่อยกับผมมมมม



“พวกพี่มึงนั่งลงเงียบๆ ได้มั้ย” ผมเอ็ด ขมวดคิ้วหน้ายุ่ง ใจแหลกเหลวเป็นน้ำเพราะคุณชายเหนื่อย



“เฮ้ย เชี่ยเขา นี่มึง...คุณชาย... อย่าบอกนะว่า...” พี่ป้อนที่นั่งลงมองผมกับคุณชายสลับไปมา ส่วนเพื่อนผมหรอ เงียบเป็นเป่าสาก ไม่มีลิ้นไก่กันเลยทีเดียว พวกพี่ทั้งสามคนพอรู้สถานการณ์แล้วก็นั่งลงเงียบๆ แถมยังนั่งหลังตรงอีกต่างหาก พี่สิงห์กลอกตาหมุนวนด้วยความรำคาญหลายรอบ



“เอ่อ น้องหมูครับช่วยบอกเพื่อนผมเกรียนตรงนั้นรินน้ำเมาให้พวกเราคนละแก้วหน่อยครับ”



บาสที่ทำหน้าที่นั้นพยักหน้าให้พี่ฟั่นก่อนจะส่งแก้วน้ำต่อมาให้ไอ้หมู เฮียดุก แล้วต่อพี่สิงห์ ทำทุกอย่างอย่างเรียบร้อย ส่วนผมหูตก หางตกหมดแล้ว ผมเหลือบมองคุณชายที่นั่งนิ่งๆ อยู่ข้างๆ จนพี่ท่านหันมาสบตากัน



“ล้อเล่น”



จู่ๆ คุณชายก็หัวเราะในลำคอก่อนจะส่ายหน้า พวกเรามองมาเป็นตาเดียว ยกเว้นพี่สิงห์ที่ยกซดไม่สนใจใคร



“ทำตัวตามสบาย มานั่งเฝ้าเขาเฉยๆ ไม่ต้องเกรงใจ”



พี่ฟั่นเอามือทาบอกก่อนจะพูด “มาฝะ..เฝ้า เอ่อคุณชายไม่ตัดงบนะครับ”



“ไม่ ไม่ใช่ประธานสโมฯ”



“พูดคำหยาบได้ใช่มั้ยครับ”



“ตามสบาย” คุณชายพูดอีกครั้ง และตอนนั้นก็เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่ประจำเดินนำเด็กเสิร์ฟมาที่โต๊ะเราพอดี



“ไอ้พวกนี้ ข้าวไม่ทันรองท้องแดกเหล้าแดกเบียร์กันแล้ว”



“เอ้าก็ข้าวมาช้า ก็ต้องกินน้ำทิพย์รองท้องก่อนดิพี่จำ”



“มาเลย วางข้าวเหนี่ยว เร็วเข้า เร็วๆๆๆ” พี่ประจำที่มีผ้าขนหนูสีเหลืองพาดไว้ที่บ่าออกคำสั่งให้กับเด็กเสิร์ฟที่อิมพอร์ตมาจากต่างชาติ นี่มึงสั่งเค้าหรือจับเวลานักวิ่งกันวะเนี่ย



“พี่...พี่เหนื่อยหรอ”



ผมถามหลังจากที่แนะนำตัวพี่ๆ ให้คุณชายรู้จักอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ทุกคนได้กลายร่างเป็นสัตว์ปีกกันหมดแล้ว อิเวง แร้งลงไม่เหลือลาบให้กูแม้แต่ชิ้นเดียววว แถมยังคุยกับคุณชายอย่างออกรสไม่เกรงกลัวฉายาเทพตีนหนักเลยแม้แต่น้อย 



“บอกว่าล้อเล่น”



“อือ” ผมก้มหน้า ตักกินผักชีฝรั่งที่ลอยอยู่เหนือต้มแซ่บกระดูกอ่อน



“เชี่ยเขามึงจะทำหน้าเป็นผ้าขาวไม่ได้ซักทำไมวะ”



“หน้าผ้าขาวอะไรของมึงวะพี่ป้อน”



“หน้าเป็นผ้าขาวก็...”



“หมองไง!”



ขอบคุณที่ช่วยกันตอบครับเพื่อนหมู



“เอ้ามุกขี้หมางี้อย่าไปสนใจ แดกๆๆๆ คุณชายแดก เอ๊ย กินหน่อยนะครับ นี่ตับเหล็กลวดหล่อนต้ม เจือน้ำส้มโรยพริกไทย” พี่ฟั่นเลื่อนจานตับหวานมาไว้ตรงกลาง ชวนคุณชายกินด้วย คุณชายเลิกคิ้วมองคนพูดอย่างแปลกใจ



“แหนะๆๆ สงสัยอะดิ ทำไมมาเป็นกลอน”



“ยังไม่มีใครพูดเลย” พี่สิงห์พูดตัดบท พี่ฟั่นเลยทำแก้มป่อง เรื่องสยองสองวิจริงๆ



“ถามหน่อยดิๆ อยากบอก”



“อะๆ ทำไมถึงมาเป็นกลอน อย่าบอกว่าเป็นประตูนะกูไม่โอเค” เฮียดุกถามส่งๆ พลางจิ้มตับหวานมากินหนึ่งคำ



“กูเคยจีบเด็กเอกไทยตอนทำรายงานเรื่องนี้ เวลาถามว่าอยากกินอะไรนี่แม่งตอบไลน์กูเป็นกลอนเชียว เอ...เดี๋ยวๆ จะว่าไปคุณชายเรียนอักษรนี่ เอกอะไรนะ”



“เอกไทย” ทุกคนต่างส่งเสียงฮือฮากันหมด ไม่เว้นแม้แต่ผม ไอ้เขาไม่เคยรู้เลยนะครับเนี่ย ทุกคนในวงเหล้า ตอนแรกก็เกร็งอยู่ ผ่านไปซักพักพวกสวรรค์รำไรก็เรื้อนจนคุณชายหลุดขำ แล้วพอคุยกันไปคุยกันมา ไม่รู้ทำไมหัวข้อถึงมาเป็นเรื่องคุณชายแบบนี้ เหมือนกับว่าคุณชายที่ดูจะเข้าถึงยากแท้จริงแล้วก็เป็นคนธรรมดานี่เอง ผมแอบพราวเล็กๆ ก็ผมเป็นคนแรกที่รู้ว่าคุณชายใจดีมากเว่อร์ แล้วก็ดีใจที่คนอื่นๆ ชอบคุณชายอย่างที่ผมชอบ



เดี๋ยวนะ ชอบ...



ชอบหรอ...



เชี่ย เสียงแมลงมาอีกแล้ว



แปะ! แปะ!



ผมรีบตบมือดังลั่นแหวกอากาศทันที เฮ้อ ค่อยยังชั่ว ความคิดเมื่อกี้แม่งหายไปละ



“ยุงหรอ” คุณชายขมวดคิ้วมองซ้ายมองขวา



“แมลงอะไรไม่รู้อะพี่ แต่ไม่มีแล้ว คุยต่อเลย” ไอ้เขาหลบตาคุณชายก่อนจะยกเบียร์มาดื่มอึกๆ วันนี้พี่ๆ ผมยังไม่กินยาดองครับ มันจะกินตอนเปิดฟลอร์



“แล้วเมื่อกี้ต้องบอกว่ามาเป็นกาพย์ไม่ได้มาเป็นกลอนนะ” คุณชายหันไปคุยกับพี่ฟั่นที่นั่งเยื้องๆ กัน



“ทำไมเป็นกราบล่ะคุณชาย มารยาทดีจัง”



“ไอ้เชี่ยพี่ฟั่นมึงฟังคุณชายก่อน เล่นมุกดูอากาศประเทศไทยด้วย” ไอ้หมูลุกเดินมาดึงผมพี่ฟั่นหนึ่งที ส่วนคุณชายชะงักไปแล้ว แต่ก็กระแอมเบาๆ เรียกสติ



“ก็เมื่อกี้ที่พูดน่ะกาพย์เห่ชมเครื่องคราวหวาน ไม่ใช่กลอนชมเครื่องคาวหวาน”



“อ๋ออออ สาระก็มา แต่ๆ ผมก็มีนะสาระแบบนี้อะ” พี่ป้อนตบอกดังปั่กๆ



“สาระแน!”



“เดี๋ยวๆ นี่มึงต่อมุกหรือด่ากู เชี่ยแจ้”



“ต่อมุกๆ”



“อ้าวหรอๆๆ เออๆ ขอบใจ”



“เออ...คุณชายมานั่งกับพวกผมงี้ แฟนคุณชายไม่ว่าหรอครับ” ไอ้แต้งส่งเสียงถามท่ามกลางเสียงล้งเล้งผสมเสียงเพลงผู้สาวขาเลาะเวอร์ชั่นรีมิกซ์



“ไม่มีแฟน”



“อะไรนะครับ”



“ยังไม่มีแฟน”



เดี๋ยวๆ แล้วหันมามองผมทำไมเล่า ไอ้เขาหน้าร้อนขึ้นทันที คิดว่าคงเป็นผลจากการดื่มแอลกอฮอล์ที่เริ่มสะสมในเลือด



“เอ่อพี่เติมน้ำเปล่ามั้ย” เปลี่ยนเรื่องถึงจะอยากรู้ก็เถอะ และดูเหมือนผมจะเห็นไอ้หมูยิ้มกริ่ม กูเห็นนะมึงแอบหยิกเอวเฮียดุกด้วย



“อ้าวแล้วสาวเภสัชล่ะครับ”



“แฟนเก่า”



“อ๋อออออออ บอกผมไม่ได้บอกไอ้เขาใช่มั้ยครับคุณชาย”



“...”



กริบ



คุณชายไม่ตอบ แต่เบนสายตามามองผมแทน หมายความว่ากระไรครับพี่ชายตาณ



“เอ่อ ชนครับชน” พี่ฟั่นพูดแทรกด้วยความเด๋อด๋า บรรยากาศเลยกลับไปเฮฮาเหมือนเดิม



“พวกเราสี่ทุ่มแล้วว่ะ” เฮียดุกมองนาฬิกาในโทรศัพท์ก่อนจะพูดขึ้น หางตาผมเห็นสาวๆ โต๊ะข้างเริ่มตบแป้งกันแล้ว



“วิ้วววววว คันมือคันตีน...เอ๊ย คันเท้าเลยว่ะพรรคพวก” พี่ป้อนสลับคอจนเกิดเสียงดังแกร๊ก



“สี่ทุ่มทำไมหรอ” ไอ้บาสยื่นหน้ามาถามกลางวง



“โธ่ น้องบาสน้องใหม่ใสๆ ของวงวารชีวิต ร้านประจำเนี่ยจะมีเวลาเปิดฟลอร์ สี่ทุ่มเพลงตื๊ดอย่างมันส์ พี่ประจำเนี่ย แกเคยเป็นดีเจเก่า มิกซ์เพลงอย่างโปร” เฮียดุกเป็นคนตอบครับ



“พวกเราชาวประจำ ถ้ามาแล้วไม่เต้น ไม่นับเข้าแกงค์”



“เดี๋ยวถามก่อนมั้ยว่าอยากเข้ารึเปล่า”



“สิงห์เมียรัก เมียไม่ต้องอยากเข้าเพราะพี่พาเข้าอัตโนมัติไงจ๊ะ” พี่สิงห์ที่นั่งหัวโต๊ะไม่ตอบแต่ยกมือสั่งยาดองทันที “แหน่ะ ตัวเองไม่อยากเข้าแต่สั่งยาดองให้รู้ใจผัวจริงๆ”



“รำคาญ ขุดหลุมไปนอนเป็นเพื่อนเหรียญบาทในปากไป”



“โอ๊ยเจ็บบบบบบบบบ”



“ฮ่าๆๆๆ พวกพี่สองตัวนี่กัดกันเหมือนผัวเมียจริงๆ เลยว่ะ” ไอ้บาสหัวเราะ มันซดเบียร์ไปหลายขวดจนหน้าแดง เมาง่ายจริ๊งงง



“ตกลงพวกเราต้องไปเต้นเปิดฟลอร์ตรงนั้น” พี่ฟั่นรับแก้วยาดองมาจากสมุนมือซ้ายก่อนจะยกแก้วเป๊กขึ้นดื่ม พวกมันมีกระเพาะแยกระหว่างเบียร์และยาดองครับ 



“พวกเรา?” คุณชายทวนคำ ไอ้เขาที่เป็นผู้พิทักษ์คุณชายจึงเริ่มปฏิการณ์ทันที



“พวกนี้มันไปเต้นประจำ พี่ไม่ต้องไปหรอก นั่งอยู่ตรงนี้ก็ได้” ผมบอกพร้อมกับจับแขนคุณชายไว้ กลัวไอ้พวกหมาบ้ามันลากคุณชายไปแปดเปื้อน พวกมันไม่ได้สนใจผมกับคุณชายเพราะกำลังเมามันส์กับยาดอง และการกรอกใส่ปากไอ้บาสกันครับ



“ปกตินายไป?” คุณชายก้มหน้าถาม



“ก็...นิดนึง”



“นิดนึง?” แหนะ มองหน้าเหมือนผมโกหก



“แหะ ก็แบบว่า พี่ก็รู้เด็กดนตรีอย่างผมชอบความบันเทิง เพลงแบบนี้ไม่รอดหรอก แต่วันนี้ผมไม่ไปหรอกนะ ผมจะอยู่เป็นเพื่อนพี่เอง”



“หึ ไม่เป็นไรนายไปเต้นเถอะ อยากรู้เหมือนกันว่าสุกรจะเต้นไม่ให้พุงติดพื้นยังไง”



พุงติดพื้น?



นี่พี่มึงสรรหาคำให้สมกับเป็นเด็กเอกไทยเลยใช่มั้ย



ผมตาโต ส่วนคุณชายก็กลั้นขำ



แต่เชี่ย..



คุณชายยิ้มด้วย หล่อชิบเป๋ง หล่อเหมือนเทวดาท่ามกลางผีฟ้าอย่างพวกผม



หล่อจนรู้สึกร้อนๆ ที่หน้า



“แก้มแดงเนี่ย เมารึเปล่า” จู่ๆ คุณชายก็ขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองแก้วยาดองในมือผม เฮ้ย ใครยัดตอนไหนวะ ไอ้เชี่ยแต้งแน่นอน ผมไม่กินยาดองครับเพราะเบียร์เต็มท้องเดี๋ยวแม่งอ้วก อีกอย่างผมคออ่อนกับยาดองครับ ความลับเลย คริ



“ไม่เมาครับ” ผมบอกคุณชาย



“คุณชายไม่ต้องห่วง ไอ้เขาไม่เมาหรอกครับ” ไอ้หมูตะโกนมาจากฝั่งตรงข้าม ตาเยิ้มเลยเพื่อน



“พูดถึงเรื่องเมานี่ผมนึกถึงสุนทรภู่เลยนะคุณชาย” พี่ฟั่นพูดต่อ



“อะไรว้าบอสฟั่น”



“อะไรนะกูนึกแป๊บ เออๆๆ นึกออกแล้ว กูเคยอ่านตอนจีบหญิง ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก  สุดจะหัก..ห้ามจิตคิดไฉน... ถึง...ถึงอะไรน้า” พี่ฟั่นเอียงหน้า คุณชายที่มองอยู่เลยทำท่าจะพูดต่อ



และในตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่ม เสียงเพลงจึงเงียบไปเพราะได้เวลาเปิดฟลอร์ ดังนั้นเสียงทุ้มมีเสน่ห์จึงดังขึ้นเล็กน้อย คุณชายกวาดสายตามองรอบโต๊ะขณะที่ท่องกลอน ก่อนที่ประโยคสุดท้ายจะหยุดอยู่ที่ผม



“ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป  แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน”



งือ มองทางอื่นสิพี่ตาณ



ไอ้เขาทำตัวไม่ถูกเลยซดยาดองเข้าปากอึกๆ



“ฮิ้ววววววววววววววววววววว”



“เหี้ยหมู เหี้ยดุกแหกปากไมเนี่ย กูตกใจหมด กำลังเคลิ้มๆ คุณชายอยู่”


“เปล่าๆ พี่ กลอนนี้มันจึ๊กกะด๊าว เจี๊ยกกะดิ๋วยังไงไม่รู้ง่า บับ...เห็นสีม่วงในตาฉันมั้ย เห็นเงาอยู่ในนั้นมั้ย” ตอนพวกมันพูดก็ทำหน้าบิดเบี้ยวส่งมาให้กูทำไมไอ้ฝัดดด



"งี้ที่คุณชายกินน้ำเปล่าเเต่ก็เมารักอยู่ดีป้ะว้าาาาไอ้หมู"


“เป็นเชี่ยไรมึงสองคน” เออเปงไรบิดตัวเป็นงูอยู่ได้



“เฮ้ยมาแล้ว พี่ฟั่น ไปเต้น” ไอ้แต้งตะโกนพร้อมกับชี้ตัดบท ตอนนี้ทั้งร้านไม้ไผ่และผ้าขาวผ้าเต็มไปด้วยเสียงเพลงประหนึ่งอยู่ในงานวัด หลายคนขยับตัวไปตามเพลง แต่หลายคนก็เริ่มเดินถือแก้วเหล้าไปกลางร้าน



“เออไอ้เชี่ย เดี๋ยวคว้าแก้วเหล้าแป๊บ”



สวรรค์รำไรคว้าแก้วเหล้าออกไปกันหมด พี่สิงห์ก็โดนพี่ฟั่นจับมือออกไปด้วย ไอ้หมูกุ้งแห้งก็ลากเพื่อนวงวารชีวิตออกไปกันทุกคน ขนาดไอ้บาสที่เงียบๆ กูเห็นกระดิกหน้า สั่นไหล่ตอนเดินออกไปด้วยนะสาสสสส



“เพื่อนฟายกูออกไปก่อนนะ รีบตามมา เดี๋ยวคนเต็มมันไม่เด่นนะเพื่อนนะ” เชี่ยหมูว่างั้นแล้วก็มันก็วิ่งไปในทันที เมื่อกี้กลับมาซดเหล้า




“ไปสิ” คุณชายหันมาหาผม



“ไม่เอาเดี๋ยวพี่เหงา” ทำไมรู้สึกมึนๆ วะประเทศไทย ผมสะบัดหัวพร้อมกับถูจมูกแรงๆ “ไม่เต้นซักวันก็ได้ ไม่อยากให้พุงติดพื้น”



คุณชายยิ้มจนผมตาพร่า อาจจะเป็นเพราะแสงไฟวิบวับประกอบเพลงนั่นทำให้ผมต้องหยีตา คุณชายขยี้ผมไอ้เขาแรงๆ



ผมไม่เต้นหรอก



จริงๆ นะ



[ต่อข้างล่างอีกนิด]
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 10-01-2018 19:14:43
[ต่อจากด้านบนค่ะ]


“เพ่ตาณณณณ มาเร็ว เชี่ยบาสนั่งเฝ้าโต๊ะ...อึก...แล้ว”



นี่ใครกำลังสิงผมอยู่ ภาพข้างหน้าแม่งเบลอเหมือนฟีลเตอร์แต่งรูป แสงไฟวูบวาบจนมวนท้อง มือของผมยื่นไปจับข้อมือใหญ่ๆ ของคุณชายก่อนจะออกแรงลากมาอยู่ในโลกแห่งเพลงแว้นซ์ด้วยกัน

“เชี่ยเขา เมาได้ไงวะ แดกแต่เบียร์”



“กูเห็นมันแดกยาดอง”



“ชิบหาย ตีกันมั่วขนาดนั้นก็สมควรเมา”



พูดไรกันวะ ไม่เมา กูอยากเต้น



“เพ่ ฮึก ตาณ ทำไมตัวหนักวะ”



“คุณชายไปดูมันเถอะ กลางวงเดี๋ยวไปเหยียบตีนใครเข้าจะมีปัญหา” เหมือนเสียงคุ้นๆ เมียบอสตามหลังมาแว่วๆ



“ปัญหาอะไรเอ่ย”



“พ่อมึงไอ้สัดเขา”



“อยากเต้นง่า อยากเต้นนนนน” ผมดิ้นๆ กระตุกมือคนที่ยืนนิ่งเป็นเสาไฟฟ้าอยู่ข้างๆ



“เฮ้อ”



“ถอนหายใจใส่ทำไม! ฮือ แม่งเศร้า ปายคนเดวกะด้ายยย” ผมหมุนตัวหันหลังเดินสู่สังเวียนแดนซ์ แต่แล้วคนที่ยืนนิ่งก็จับมือผมแล้วเดินนำเข้าไป คนเบียดมาโดนก็มีคุณชายบังไว้หมด



“อะ อยากเต้นก็เต้น”



พี่คนนี้โคตรแปลก อยู่ท่ามกลางเพลงมันส์ขนาดนี้ ยังยืนทื่ออยู่ได้



“เพ่ มาเร็ว ค่อดหนุก ดึงดาว ดึงดาว สะบัดผ้า สะบัดผ้า” ไอ้เขาออกสเต็ปเต้นแบบลืมโลก เห็นพี่ฟั่นตัวบอสชักดิ้นชักงออยู่ติดเวที แถมด้วยเพื่อนหมูที่กำลังเต้นท่าหลบด่านตำรวจ เชรดเข้ ผมไม่ยอม แล้วทำไมคนอื่นมองมาทางนี้กันวะ หรือว่าเพราะพี่ไม่ยอมเต้น



“เอ้าชาวประจำว่าไง ว่า ว่า ว่าไงสายย่อ!!” เสียงดีเจดังมา ทุกคนในร้านกรี๊ดลั่น



“เพ่ค้าบ เร็วววว อย่ายอม ทำตามผม ย่อ ย่อ ย่อ สายย่อ” ผมจับมือคุณชายเต้น แต่คุณชายก็เอาแต่ส่ายหน้า



“หัวเราะอะไรอ่า” สนุกจนใจเต้นแรงอะ ไม่ได้ปลดปล่อยมานานแล้ว



“อย่าย่อเยอะนักล่ะ”



“...”



“เดี๋ยวพุงติดพื้นแล้วจะยืนขึ้นไม่ได้”

 

 





“ฝากมันด้วยนะคุณชาย เหนื่อยแย่เลย”



“ไหวมั้ย หรือว่านอนหอผมก่อน”



“ไม่เป็นไร กลับได้”



“แน่นะคุณชาย”



“อืม”



“เจอกันครับ”



“เจอกัน ไว้แวะไปแจมตอนซ้อมร้องเพลงนะคุณชาย”



“ดีใจที่ได้คุยกันครับคุณชาย”



“คูณชายยยย กลับแหล่วหร๊อ”



“พี่ฟั่นแม่งหมดสภาพจริง มึงอย่าไปจับขาเค้า กางเกงเค้าเปื้อนหมด พี่สิงห์มาดูผัวหน่อยพี่”



“ไปล่ะดึกแล้ว”



“ขับรถดีๆ นะคุณชาย”




อือ ง่วง



คุยไรกันนักหนา



“ไหนบอกจะช่วยดูทาง”



“แจ้บๆ”



“มอมแมมขี้เมา”



บีบตะหมูกไมเนี่ย หายใจไม่ออก!

 





หายใจ!



ไม่!



ออก!



“แฮ่กๆ จะตาย แฮ่ก แล้ว”



คิดว่าตัวเองจมน้ำ ไอ้เขารีบผุดตัวขึ้นทันที



โป๊ก!



“เจ็บๆๆๆ”



ผมยกมือกุมหัว พอความเจ็บเริ่มหายไปเพราะตัวช่วยคือการแหกปากแล้ว ผมก็ลืมตาขึ้นมึนๆ เงยหน้ามองแล้วก็พบว่ามีผีผู้ชายหน้าตาดีกำลังจ้องอยู่ใกล้ๆ ผีตนนั้นมีรอยแดงจางๆ บนหน้าผากด้วย



“ผี!”



“เลอะเทอะ”



“พี่ตาณ?”



“สร่างเมาก็ลงมาได้แล้ว”



“ลงมาไหนอะพี่ หือ ห๊ะ เฮ้ยยย กี่โมงแล้ว”



“เที่ยงคืนกว่า ดึกแล้วนอนที่นี่แล้วกัน” คุณชายว่าแล้วก็เปิดประตูลงไปทันที ไอ้เขาปรับสมอง จูนคลื่นให้เครื่องติดแล้วก็พบว่า กูเมาจนหลับไปแถมปล่อยให้คุณชายขับรถกลับคนเดียว



“พี่...” เสียงอ่อยไปอีก ผมพยุงตัวเองลงจากรถเต่าสุดคลาสสิค ปากก็เรียกพี่ไปด้วย แต่ก้าวขาลงเท่านั้นแหละ นี่คือความอ่อนแรงที่แท้ทรู



พรึ่บ!



“ผมเดินไม่หวายยย” นาทีนี้ไม่ปากกล้าอะไรทั้งนั้น คุณชายโกรธผมมั้ยเนี่ย ประตูบ้านมีไฟเปิดไว้สองสามดวง พอให้เห็นว่าที่นี่คือบ้านของคุณชาย ผมพาคุณชายไปเถลไถล คุณชายเดินอ้อมมาหาผม ผมจึงได้สังเกตว่านอกจากหน้าผากที่เป็นรอยแดงแล้วหน้าตาคุณชายดูเหนื่อยๆ พี่ไม่ตอบอะไรแต่หันหลังให้แล้วย่อตัวลงเล็กน้อย



“ขึ้นมาสิ”



“ขึ้นหลังหรอครับ”



“อืม เดินไม่ไหวไม่ใช่หรอ”



“แค่... แค่พยุงก็พอพี่”



ผมมองแผ่นหลังคนตรงหน้าแล้วได้ยินแมลงอีกครั้ง ซึ่งวันนี้ทั้งวันผมได้ยินเสียงนี้นับครั้งไม่ถ้วน อย่าอ่อนโยนกับเขา เขารู้สึกผิดดด



พี่เนี่ยน้า...



“ถ้าไม่ขึ้นก็นอนกินหญ้าหน้าบ้านแล้วกัน กลางคืนอาจจะมีคนมานอนด้...”



อั่ก!



ถึงปากร้ายแต่ใจดีเหมือนเดิม



“ก็...กลัวหลังพี่หักอะ” ผมปีนหลังคุณชายก่อนที่คุณชายจะยืดตัวตรง แล้วเริ่มออกเดิน ผมไม่ถึงกับสร่างเมา ทำตัวสดใสซะทีเดียว เพราะหัวแม่งมึนไปหมด แต่ก็รู้เรื่องนะครับ ที่รู้ดีเลยก็คือ วันนี้ผมทำให้คุณชายลำบากหลายเรื่อง



“พี่ ผมขอโทษนะ”



ท่ามกลางเสียงฝีเท้าหนึ่งคู่และแสงไฟประดับตามพุ่มไม้ ผมได้เอ่ยขอโทษไป



“ขอโทษทำไม”



“พี่ต้องเหนื่อยเพราะผม” ผมมองเสี้ยวหน้าด้านซ้ายของคุณชาย



“บอกว่าพูดเล่น”



“หมายถึงเหนื่อยจริงๆ”



“ไม่ต้องขอโทษ”



“ทำไมอะพี่”



“เต็มใจ”



ตึกตัก ตึกตัก



“เอ่อ กลับดึกแบบนี้คุณน้าไม่ว่าหรอครับ” ไอ้เขารีบเปลี่ยนเรื่อง ถ้าขืนยังพูดเรื่องเดิมแมลงกินหัวใจแล้วผมตายทำไง



“บอกแล้ว”



ไม่รู้ทำไม เวลาในตอนนี้มันถึงเดินช้าจัง หรือว่าเทพแห่งกาลเวลาจะมาที่นี่ ไอ้เขาสะบัดหัว กูเมาหรือกูเป็นบ้า



“อ๋อครับ พี่ แล้วพี่เรียนเอกไทยทำไมผมไม่เห็นรู้” นอกจากชื่อเล่นพี่ตาณแล้วผมก็ไม่ยักรู้ว่าพี่ท่านเรียนเอกไทย เอ...แต่ไอ้การใช้คำสุภาพ ผมก็น่าจะเก็ทแล้วนะ หรือว่าผมจะ...



“...สมองน้อย”



“ใช่พี่ผมโดนซอมบี้ล่าก็ไม่ตาย เฮ้ย พี่!”



“หึหึ ตัวก็หนัก”



“เอออ แบกไปเลย ว่าผมดีนัก ไม่ลงหรอกจะขี่คองี้แหละ เป็นชัตเตอร์ แม่งไม่พูดละ กลัว”



“...ขี้กลัว”



“พี่ทำไมถึงเรียนเอกไทยอะ”



“ชอบ”



“ชอบอะไร”



“...” จู่ๆ คุณชายหยุดเดินหันหน้ามาหาผมจนผมชะโงกหลบแทบไม่ทัน “ก็ชอบ...วรรณคดี”



“ละ...แล้ว เอ่อ อ๋อถ้าชอบวรรณคดีงั้นพี่ต้องเคยอ่านเรื่องพระรอด้วยใช่มั้ยพี่”



“อืม”



“เค้ารอนานมั้ย”



กึก



“...ไม่เล่นก็ได้” เปลี่ยนเรื่องคุยเผื่อพี่จะได้ลืมความหนักบนหลังพี่ไงครับผม “ผมก็เรียนนะ ตอนนั้นอิฉาพระลอได้เมียตั้งสองคน แต่ก็สงสารผู้หญิงนะพี่ พี่ว่าถ้าพี่เป็นพระเพื่อนหรือพระแพงพี่ยอมมั้ยที่ต้องแบ่งความรักให้กับอีกคนนึง”



“ก็คงยอม”



“ทำไมอะ”



“เพราะรักไง”



ไม่รู้ทำไมคำๆ นี้มันหนักแน่นจนผมพูดไม่ออก ได้แต่ส่งเสียงอือออไปเท่านั้น



“พระเพื่อนพระแพงรักก็เลยต้องยอมที่จะแบ่งความรัก”



ผมยิ้ม ถ้าเป็นเมื่อก่อน คงไม่รู้ว่าคนที่บังคับผมโน่นนี่ คนที่ผมไม่เห็นจะชอบขี้หน้า จะมาคุยอะไรกันเเบบนี้



“พี่ตาณ” ผมว่าผมยังไม่สร่างแน่เลยถึงได้กล้าเรียกพี่ตาณออกไป



“หือ?”



“วันนี้ผมเศร้าที่ผมทำให้ลำบาก แต่ผมก็ดีใจนะ”



“ดีใจอะไร”



“ดีใจที่เห็นพี่อีกมุมนึงอะ พี่ไปเต้นกับผมด้วยผมจำได้”



“แค่ยืนเฉยๆ”



“นั่นแหละ ดีใจอะดีใจ ได้ยินมั้ยย”



ผมพูดข้างหูคุณชายพร้อมกับรัดคอคุณชายเเน่น สงสัยจะใกล้ไปเพราะคุณชายหูแดงมากเลย


 

.
“พี่ผมนอนบนโซฟาก็ได้นะ เกรงใจอะ” ผมถามหลังจากที่คุณชายก้าวเท้าเข้ามาในห้องนั่งเล่นแล้ววางผมลง ตอนวางลงไม่ได้มองข้างหลังไง นึกว่าถึงโซฟาเเล้ว ปล่อยให้ไอ้เขากลิ้งกับพื้นเหมือนลูกข่าง



“ไม่ได้ ตัวสกปรกเหม็นสุรา เหม็นบุหรี่ขนาดนี้นอนโซฟาไม่ได้” คุณชายเดินไปรินน้ำที่ห้องครัวพร้อมกับออกมากับคำตอบนี้



ชะอุ้ย ลืมไปไง คุณชายไม่ชอบคนสกปรกนี่หว่า



“งั้นนอนพื้นก็ได้พี่”



“ไม่ได้”



“เอ้า แล้วจะให้ผมนอนไหน บ้านหมาก็ไม่มี ตัวผมเหม็นซะขนาดนี้”



“ก็อาบน้ำแล้วก็นอนด้วยกันไง”



นอนด้วยกัน...


ด้วยกันเนี่ยนะ

 



บร้า...เค้าเขินนะ

 _____________
-คูมชายตะไมอ่อนโยน-
แล้วที่ถามเรื่องยอมอะเพราะพระเพื่อนพระเเพงนึกถึงเพลงของพี่เสกต่างหากล่ะ
"ที่ฉันยอมทุกสิ่ง เรื่องจริงไม่เคยยอมใคร ก็เพราะรักเธอ ทั้งหัวใจอะไรก็ยอมเธอ"
ติดเเท็ก #คุณชาย2017 มาบอกฟามรู้สึกกัลได้นะคะ
คราวที่เเล้ว ใครที่อยากเปงเด็กโง่ของคุณชาย เขาฝากมาบอกว่า
ที่บ้านเธอไม่มีคูมชายล่ะสิ (รัดคอคุณชายเเน่น)
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์เลย อ่านเเล้วมีความสุขที่สุด ทุกวิวด้วยนะคะ เลิฟทุกคน
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 10-01-2018 20:02:04
น่ารักมากกกกกกก คุณชายทำใจบางเลย  :-[
ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: absolutepoison ที่ 10-01-2018 20:14:10
งุ้ยยย เขินคุณชายจังเลยค่ะ กริ๊บกริ๊ว 55
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 10-01-2018 20:48:18
เขาจะนอนเตียงเดียวกันแล้ว รีบไปอาบน้เลยน้องเขา
มาลงบ่อยๆนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-01-2018 20:51:42
อูยยยยยยยย......คุณชายทำเขาหวั่นไหว  :z3:
เหมือนมีแมลงมาบินในหน้าอก
ไปกินน้ำเปล่า ทั้งที่คนอื่นกินเหล้า
ไปยืนที่ฟลอร์เฉยๆ ทั้งที่เขาเต้นสายย่อซ้า  :ling1:
พาเขากลับบ้านตัวเอง
ให้เขาไปอาบน้ำจะได้นอนบนเตียงด้วยกัน อะจ๊ากกกกก  :o8: :-[ :impress2:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 10-01-2018 21:01:17
เอาใจไปเต็มๆคุณชาย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 10-01-2018 21:04:25
ส่งตัวเข้าห้องหอเลยจ้าาาา ฮิ้วววววว :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 10-01-2018 21:14:32
 :ling1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-01-2018 21:27:47
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 10-01-2018 21:47:50
น้องเขาสายย่อ เอ้า ย่อๆๆ สุดท้ายก็เมา
คุณชายอ่อนโยนอีกล้าว ยอมๆ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 10-01-2018 21:59:09
พอภูเขาบอกได้ยินเสียงแมลงทีไรนี่อยากส่งสเปรย์ไปให้ฉีดกำจัดแมลงมาก เผื่อจะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองสักที คุณชายเขารอจนเหนื่อยแล้วเนี่ยมอมแมมม
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 10-01-2018 22:01:37
ฮืออออออออออออ นังเขาน่รักเหมือนเดิม คูมชายนี่ขี้หวงจริงๆ เมื่อไหร่นังเขาจะรู้ตัวซะที
เนนน้ แอบสงสัยฟามสัมพันธ์ของฟั่นกับสิงห์นะ คู่เรียลใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 10-01-2018 22:18:21
สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 10-01-2018 22:28:10
อ่านไปเขินไป :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 10-01-2018 22:30:43
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-01-2018 22:49:20
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Jintajam ที่ 10-01-2018 23:07:10
ชอบประโยคสุท้าย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-01-2018 23:28:44
อาบน้ำแล้วนอน ก่อนนอนคุณชายอย่าลืมตบตูดเขาด้วยนะ ไม่งั้นนอนไม่หลับ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 10-01-2018 23:57:28
คิดถึงคนเขียน
ดีใจมาต่อแล้วว

อยากเผือกคู่ฟั่น(เฟือน?)สิงห์ด้วยค่ะ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: sripaerrr ที่ 11-01-2018 04:17:44
เขาไปทำอะไรหัวคุณชายยยยยย บทนี้แบบ'ก็เพราะรักเธอทั้งหัวใจ อะไรก็ยอมเธอ'จริงๆค่ะ ขอเกลียดจังหวะสามช่าของเพื่อนผองของเขามากกกกก555555 เจอเพื่อนแบบนี้นะจะหยิกให้เนื้อเขียวเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: marshall ที่ 12-01-2018 00:04:34
คุณชายดูแลดีดี้ ตามเฝ้าน้องตลอดแบบนี้ สักวันจะกลายเป็นสายย่อด้วยหรือป่าว
ปล. อยากแหวกกอไผ่ดูคู่ฟั่นสิงห์จริงๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: armize ที่ 12-01-2018 06:52:17
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 12-01-2018 13:37:15
รอช้าทำไมล่ะเขา รีบไปอาบน้ำสิ  ได้นอนกับคุณชายเชียวนะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 12-01-2018 14:38:16
คุณชายมีความหวงเขามากกกก อิเขาก็ซื้อซื่อเนาะ ฮ่าๆๆ นี่ไม่รู้ทำไมฉากที่อิเขาบอกหายใจไม่ออกตอยอยู่บนรถนี่แอบคิดว่าน่าจะโดนคุณชายลักหลับซะแล้วละ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 12-01-2018 22:18:03
คุณชายยยยย :mew2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 13-01-2018 08:43:42
 :z1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 13-01-2018 15:52:58
ขนาดนี้แล้วเขายังคงไม่รู้  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 16-01-2018 17:55:42
น่ารักเชียว ..
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 12 ห้ามเมารักก็เหมือนหักจิต p.6 [10-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 18-01-2018 00:30:37
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 19-01-2018 21:34:35
คำเตือน ตอนนี้มีโมเม้นต์พ่อลูกผูกพัน รักกันอยู่ขอบฟ้าเขาเขียว


ระเบียบที่ 13 : ห้ามอะไรก็ห้ามได้...เเต่จะห้ามความชอบไม่ได้หรอก



“ไปไหนมา”



“ไปแดกเหล้ามาแน่ๆ ค่ะ”



“มือถือมีทำไมไม่รู้จักโทรบอก”



“อีโง่”



“เห็นกูเป็นหัวหลักหัวตอรึไง”



“อีเนรคุณ”



“ยังอีก”



“เออยังไม่คิดอีก มันใช่มั้ยคะเฮียทิว”



“มึงอะยังไม่หยุดอีก แจ็ค เดี๋ยวกูถีบเปรี้ยงซักทีดีมั้ย!”



ทันทีที่ไอ้เขาเดินย่างเท้าเข้าบ้านมา ประโยคคำถามก็ดังมาไม่หยุดจากบุคคลที่นั่งเปลือยท่อนบนอยู่ที่โซฟา และก็ไม่ทันได้อ้าปากตอบก็มีบุคคลที่สามสาระแนตอบแทนทุกอย่าง ก็คนนั้นน่ะ... อีแจ็คนั่งพื้นด้านล่างมือสองข้างกอดขาพ่อกูเหมือนทาสในเรือนเบี้ย



“ใจร้าย จะทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆ ได้ลงหรอคะเฮียทิว” มันออเซาะพร้อมกับพูดเสียงเล็กเสียงน้อย ใช้หนังหน้าสากๆ ออดอ้อนพ่อผม ส่วนลูกภูเขาก็ยืนนิ่งกอดกระเป๋ากีตาร์เป็นบ้าหอบฟางอยู่ตรงนี้



“มึงตัวใหญ่กว่าลูกกูอีกแจ็ค” เฮียปรายตามองอีแจ็คเล็กน้อยก่อนจะพาดแขนสองข้างไว้กับโซฟา อย่ามองลูกแบบนั้น กลัวแล้ว และผมมันคนแมนๆ ทำผิดแล้วต้องยืดอก ไอ้เขาหันไปสบตาเฮียทิวช้าๆ แล้วก็...



“เฮียติววววววววววว”



ใช่...กูแหกปากก่อนเลย แถมด้วยถลาไปเกาะขาพ่ออีกข้าง โดยมีสายตาค้อนจากอีแจ็คมาเป็นส่วนประกอบฉากนี้



“ไม่ต้องมาแอ๊บแบ๊ว ตอบคำถามกูมาซะดีๆ”



“ฮืออ อย่าทำน้องงง” พ่อดันหัวผมออกอย่างแรงจนผมเอนหัวเหมือนตุ๊กตาล้มลุก แต่ไอ้เขาไม่ยอมแพ้ เด้งหัวกลับมาซบไปใหม่



“ทำไมมึงมาเอาป่านนี้ รู้มั้ยว่ากูต้องไปเปิดร้านสายเพราะรอด่ามึงเนี่ย”



“ก็คือ...เขาหลับ...เพลินไปหน่อย” อ้อมแอ้มตอบ ไม่อยากจะบอกว่านอนกับคุณชายสบายมากเว่อร์ คริ



“มีบ้านไม่ค่อยจะอยู่ติดบ้านซักวัน” เฮียทิวพูดเสียงแข็ง ประหนึ่งว่าผมเป็นลูกสาวที่พึ่งมีประจำเดือน



“อีเขามันไปแรดที่หมู่บ้านข้างๆ นี้ค่ะเฮีย”



ขวับ!



“มึงรู้ได้ไง”



“เมื่อวานกูเจอพี่เสก...แกเม้าธ์มึงใหญ่เลยจ้า ว่าภูเขา ลูกเฮียทิวติดใครไม่รู้ที่หมู่บ้านนั้น ไปขลุกอยู่ด้วยกันทุกเย็น ตอนเช้าก็มารับมาส่ง มึงมาเมื่อกี้เขาก็มาส่งด้วยใช่ป้ะล่ะ”



“มั่ว!”



“วันเสาร์เฮียทิวไม่ไปเปิดร้านหรอ วันเสาร์งี้คนเยอะนะ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะพ่อเริ่มมองด้วยสายตาแห่งความสงสัยแล้ว



“ทำไมจะไม่ไป ขาดทุนตั้งเท่าไหร่เพราะเปิดร้านช้าเนี่ย” เฮียทิวเคาะกะโหลกหนาๆ ของผมสองสามที แล้วก้มหน้ามาจ้องตาตรงๆ “ตกลงจะตอแหลได้ยังว่าไปไหนมา”



นี่บ้านกูหรือศาลไคฟงวะเนี่ย ท่านเปาเปิดศาลแล้ว



ว่าแต่



ตอแหลได้จริงๆ อ่อ



อ่า...มองแรงขนาดนี้



ไม่ได้สินะ



“ก็เมื่อวาน เขาไปซ้อมวงไง ไม่เชื่อถามไอ้หมูกับเฮียดุกได้เลย ซ้อมเสร็จก็ดึก เลยก๊งเหล้าต่อ พอเมาก็กลับไม่ไหว ดึกแล้วด้วยเลยนอนบ้านรุ่นพี่ที่เป็นนักร้องอะ เขาผิดอะไรรรร เขาอยากกินเหล้าบ้าง”



“มึงผิดที่ไม่โทรบอกกู” อุ้บส์ จริงๆ ด้วย เขาขอโทษที่เวลาอยู่กับคุณชายแล้วเขาไม่ได้คิดถึงพ่อเลย(แรด)



“เขาไม่ได้จับโทรศัพท์เลย พึ่งรู้เมื่อกี้ว่าแบตหมดง่า พ่อจ๋า”



“กูไม่ได้ชื่อจ๋า”



“ลูกน้อยอ้อนอยู่นะ” ผมซบหน้ากับตักพ่อ พูดอู้อี้แก้ตัว แต่ว่ามีหนึ่งคนที่เรียกร้องความสนใจเนื่องจากไม่มีบท



“มาอ้อนแม่ด้วยสิจ๊ะลูก”



“แม่ต๋า...เฮ้ย อีแจ็ค! เฮียทิว เขาไม่เอามันเป็นแม่ แม่เขาต้องไม่มีหนวดกับขนหน้าอก” ผมเด้งตัวออกมาแล้วฟ้องพ่อทันที



“อีเหี้ย กูแว็กซ์แล้ว” ว่าแล้วมันก็ก้มหน้ามองอกตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มแหะๆ “เออเหลือนิดหน่อยว่ะ แว็กซ์ยี่ห้อนี้แม่งไม่ดีเลย บ้าบอ”



“เครื่องประหารหัวสุนัขขขขขขข” จู่ๆ เฮียทิวก็โพล่งขึ้นพร้อมกับโยนหมอนทิ้งลงบนพื้นดังตุ้บ ผมกับอีแจ็คแทบสะดุ้งแต่เก็บอาการได้ทัน



“ประหารใครคะเฮีย” อีแจ็ครีบถามทันที มือมึงน่ะลูบหน้าท้องพ่อกูอยู่ได้! ผมเม้มปากแล้วสบตาพ่อที่กำลังกวาดสายตามองมาทางผมกับอีแจ็ค



“ประหารพวกมึงทั้งคู่!”



“อูเวววววววว อูเวววววววว” เอ่อ เสียงแม่งออกมาจากปากเองนะ มันเป็นจิตใต้สำนึกล้วนๆ



“กูปวดขมับโว้ย ลูกก็เป็นบ้า! คนข้างบ้านก็เป็นตุ๊ด!” พูดจบเฮียทิวก็ลุกขึ้น เป็นผลให้ผมกับแจ็คที่กำลังกอดขาเฮียทิวล้มกลิ้งกันไปคนละทาง



“ชีวิตและโดนทำร้ายยยยยยยยยยยยย”



“เฮียทิวบ้าบอออออออออออออ”

 





“เล่ามาดิ๊”



“เล่าไร”



“อย่ามาเฉไฉ กูรู้ กูเห็นว่าคุณชายไปด้วย”



“รู้ได้ไง”



“เห็นในเฟซบุ๊ค เพจสวรรค์รำไรอัพเดต”



“เพจที่มีคนกดไลค์เพราะจะแจกทุเรียนทอดอะนะ”



“เออเพจนั้นแหละ พี่ป้อนแอดมินอัพเดตว่าไปแดกเหล้า แล้วก็อัพรูปมึงกับคุณชายด้วย”



“หือออออออ” ผมตาโต ปกติไม่เล่นโซชงโซเชียลอะไรนี่อยู่แล้ว ขี้เกียจ แต่รู้เรื่องบ้างเพราะมีคนคาบข่าวมาอัพเดตตลอด



“ตามึงนี่น่าบีบ ตอบมา! ถ้าไม่ตอบกูจะเอาสไปร์ทมึงไปเผา...”



“...อย่าทำน้องไปร์ท” ไอ้เขากอดขวดน้องไปร์ททันที ไม่ได้นะ ใต้ฝามีรหัสจะเอาไปชิงโชค อีแจ็คเอาไม้ตียุงมาชี้หน้าผมก่อนที่จะเริ่มสอบสวนเสียงเข้ม



“มึงไปนอนกับคุณชายใช่มั้ย”



“อะ..อือ”



“นอนกับคุณชายเป็นยังไงบ้าง”



“ก็ฟินดี เฮ้ย”



“นี่มึงปล้ำคุณชายหรออีเขา! ทำไมเค้าต้องมาแปดเปื้อนเพราะคนควายๆ อย่างมึงด้วย คุณชายคะ แจ็คขอโทษที่ปกป้องคุณชายไม่ได้ ฮืออออออออ”



“แจ็คๆ มึงเรียนเอกมโนจริงๆ ใช่มั้ย”



“ฮือออออ”



“มึงจะไม่ฟังดีๆ ช้ะ กูไม่เล่าแล้วนะ”



“อึก หายละ พร้อมฟัง”



แหมะ อีแจ็คคคค เรื่องเผือกนี่ไม่เข้าใครออกใครจริงจริ๊งงงง ผมเหล่ตามองพร้อมกับคว่ำปากเป็นรูปตัวเอ็ม มันเป็นยังไงวะ เออช่างมัน



“เรื่องมันมีอยู่ว่า...” ผมลากเสียง พร้อมกับลากความทรงจำ 15 เมกะไบต์สู่สังเวียนเมื่อคืน

 





“พี่ ผมไม่มีชุดดดด” ผมพูดพร้อมกับแง้มประตูออกมาด้วย หลังจากวิ่งเข้าห้องน้ำเพราะคุณชายทำหน้าดุใส่ พอถอดเสื้อผ้าล่อนจ้อนแล้วก็พบว่า ตรูไม่มีอะไรนอกจากไข่ใบเล็กๆ



“ค่อยออกมาแต่งตัวด้านนอก”



เชี่ยยย เย็นวาบเลยอะ



“ดะ...ด้านนอกหรอพี่” พอเห็นผมตะกุกตะกักชะงักเป็นแผ่นซีดีสะดุด คุณชายที่นั่งหลับตาอยู่ตรงโต๊ะทำงานก็ลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาที่ประตูห้องน้ำอย่างรวดเร็ว



“เฮ้ยๆๆ พี่ ผมโป๊อยู่” ผมผงะ มือไม้สั่น รีบดันประตูปิดแต่ไม่ทันคุณชายที่จับลูกบิดเช่นเดียวกัน ลูกตาผมโผล่ตรงช่องประตูเพียงข้างเดียว เอ่อ...เอาเป็นว่าตอนนี้พวกเรากำลังเล่นดันประตูอยู่ ใครปล่อยก่อนแพ้ หนึ่ง สอง ซั่ม!



“ก็มัวแต่พูดมาก”



“ผมแค่ถามเอง”



“หรือที่ยื้อเวลานี่อยากให้ช่วยอาบหรอ” คุณชายถามหน้าตายพร้อมกับเอียงคอเล็กน้อย



ปัง!



พูดแค่นั้นไอ้เขามีแรงปิดประตูทันที ผมวิ่งเข้าไปใต้ฝักบัวพร้อมกับส่งเสียงให้คนโรคจิตด้านนอก



“ก็ออกไปแต่งตัวข้างนอกมันไม่ชินอะ!”

 





หลังจากอาบเสร็จ ผมก็ออกมายืนเก้ๆ กังๆ ที่หน้าตู้เสื้อผ้าด้วยสภาพเกือบล่อนจ้อนเพราะมีผ้าเช็ดตัวพันเอวผืนเดียวเอง หนาววว แล้วคุณชายที่มุดตัวหาเสื้อผ้าอยู่ก็โผล่มา



“อะ ตัวนี้คงพอดี”



ผมงึมงำขอบคุณแล้วรีบคว้ามาปิดหัวนมทันที และนั่นทำให้คนตรงหน้าส่งเสียงหัวเราะอย่างเอือมระอา



“อายอะไร...”



“อย่าพูดว่ามีเหมือนกันนะ”



“ไม่ได้จะพูดแบบนั้นซะหน่อย”



“แล้วพี่จะพูดว่าอะไร”



“เล็กเหมือนหน้าอกเด็กไม่เห็นต้องอายเลย”



“พี่!”



“ฮ่าๆ”



อารมณ์ดีไรนักหนาวะจะตีหนึ่งแล้วเนี่ย คุณชายส่ายหน้าขำๆ ที่เห็นผมทำหน้าบูดกอดชุดนอนไม่ปล่อย



“มอมแมมงอน”



ไม่ต้องมายีหัว!

 





ผมนั่งรอที่ปลายเตียง แหนะ รออะไร อย่าคิดลึก ตาเริ่มจะปิดแล้วแต่ต้องรอคุณชายก่อน จะมานอนก่อนเจ้าของบ้านได้ไงครับประเทศไทย ไม่ด้ายยย แล้วขากางเกงนี่ก็ยาวประหนึ่งหางว่าว



“พี่...” พอได้ยินเสียงเปิดประตู ผมก็เงยหน้าไปหาทันที ทำไมเหมือนหมารอเจ้าของก็ไม่ปาน



เห....เดี๋ยวนะ



ทำไมชุดนอนมันเหมือนกันงี้อะ



“พี่มีแต่ลายนี้หรอ” ชุดนอนที่เราใส่อยู่ตอนนี้เป็นชุดนอนลายสก๊อตแขนยาว ขายาว สีน้ำเงินเข้มเหมือนกันด้วย



“อืม” คุณชายตอบแค่นั้นแล้วก็เดินไปที่เก้าอี้โต๊ะทำงาน



“พี่ให้ผมนอนตรงไหน” ถึงปากจะว่าแบบนั้นแต่ตัวนี่เอนไปด้านหลังเต็มแก่แล้วครับ



“มอมแมม” เสียงทุ้มดังขึ้น ง่วงจะลืมตาไม่ขึ้นแล้ว



“หือ”



“มาเอาผ้าเช็ดตัวไปตาก”  ผมแค่พาดไว้กับเก้าอี้เอง



“ขอฝากไว้ตรงนั้นไม่ได้หรอพี่ตาณ ผมง่วงแล้วอ่า”



“ไม่ได้ ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้ก็จะไม่ทำตลอดไป”



คุณชายเจ้าระเบียบเข้าสิงตอนตีหนึ่ง ผมเงยหน้ามองคุณชายที่ไม่ท่าทีล้อเล่นก่อนจะจำใจลุกขึ้นมา “ก็ได้คร้าบ ตากตรงไหนอะ”



“ตรงนั้น...ดีมาก” คุณชายหัวเราะที่ผมเดินหรี่ตาไปที่แขวนผ้าเช็ดตัวมุมห้อง คนมันง่วงงงงงง



“นอนได้เด็กน้อย”



“เย้” เย้แต่เสียงเอื่อยเฉื่อยมาก ผมคลานเข่าขึ้นเตียง ไม่รอแล้ว จะนอนตรงนี้แหละ! คุณชายปิดไฟกลางห้องก่อนจะเปิดโคมไฟหัวเตียงให้มีแสงสว่างเล็กน้อย



“สุกรนอนดีๆ สิ นายจะไม่เหลือที่ให้เจ้าของเตียงรึไง”



ผมรู้สึกว่าขาทั้งสองข้างถูกยกไปไว้อีกฝั่ง คุณชายบ่นอะไรอีกสองสามคำแล้วก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ ผมได้กลิ่นหอมๆ จากอะไรซักอย่างลอยมา ตอนนั้นผมเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น ในหัวผมเห็นภาพเป็นอาหารอีสานในวันนี้ที่ผมไม่ได้กิน ทำได้แต่ดมเท่านั้น



“...หิว” เสียงน้ำย่อยลอยประกอบคำพูด



“หือ...”                                                                                                                                       



“ท้อง...ร้อง หอม”



ผมเดินตามกลิ่นหอมๆ ไป แล้วก็พบว่าอาหารมันอยู่ตรงหน้านี้เอง



“ละเมอรึไง โอ๊ย กัดทำไมเนี่ย”



หร่อย...



“อื้อ!”



ทำไมอาหารมันกัดผมคืน



มันเป็นปีศาจอาหารแน่ๆ เอาล่ะ ผมจะต่อสู้กับมัน



โดยใช้ท่าไม้ตายรัดอาหารไว้แน่นๆ



ฮึบ แกขยับไม่ได้แน่!

 





“ตาณ แม่ขอน้ำใบเตยเพิ่มหน่อยนะลูก... เอ้า ภูเขา ตื่นแล้วหรอจ๊ะ”



“แหะๆ สวัสดีครับคุณน้า ผมขอโทษที่รบกวนดึกๆ นะครับ”



“ไม่หรอกจ้ะ แต่ว่าเราสองคนน่ะ อย่าไปพากันไปเถลไถลอีกนะ บ้านเราอยู่ไกล เกิดอะไรขึ้นมันจะแย่เอา”



“ขอโทษครับ” ผมก้มหน้าสำนึกผิด แต่คุณน้าก็หัวเราะน้อยๆ ก่อนจะเดินมาลูบหัว



“ที่ดุเนี่ยเพราะน้าเป็นห่วง...ทั้งคู่เลย มาจ๊ะ ทานข้าวต้มกัน พี่เค้าทำน่ะ”



ผมยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมกับตอบรับเบาๆ แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ผมเหลือบมองคุณชายเล็กน้อย ทำไมพี่ตาณถึงไม่มีอาการง่วงงุนแถมยังลงมาทำอาหารเช้าอีก แงง รู้สึกผิดไปถึงขั้วหัวใจ



ว่าแต่พี่ต้องเป็นคนเหล็ก 2017 แน่ๆ เลย



นมแจ่มเป็นคนยกถาดอาหารมาเสิร์ฟ พอนมวางถ้วยข้าวต้มตรงหน้าผมแล้วนมก็ลูบหัวผมแรงๆ สองสามที ผมกำลังจะหันไปหานมเพราะอยากหาคนงอแงใส่ แต่คุณนมก็พูดขึ้นมาก่อน



“นี่นอนหรือออกรบหื้อเจ้าภูเขา ผมก็ยุ่ง ปากก็ดูบวมๆ”



“เอ๊ะ...ปากบวมหรอครับ”



หรือผมแพ้เหล้า ผมตาโต ยกมือลูบปากตัวเองอัตโนมัติ



แกร๊ง! คุณชายกระแอมเพราะตัวเองเกือบทำช้อนหลุดมือ



“พี่เมื่อคืน...”



“ทานข้าว”



คุณชายตัดบทก่อนที่ผมจะถาม ผมเลยต้องตักข้าวต้มขึ้นทานตามคุณน้าและคุณชาย ทานข้าวไม่ควรพูดมากผมรู้ แต่ว่าทำไมปากผมถึงบวม...อุ๊!...เหมือนมีคนมาจุดพลุบนหัว ข้าวต้ม...อร่อยมากเว่อร์ จนแทบจะอุทานว่า



รสมือพ่อออ

 





พอทานข้าวเสร็จผมก็อาสาล้างจานชามให้ แม้ว่าคุณน้าจะห้ามก็เถอะ แต่ผมอยากช่วยอะไรบ้าง บางทีก็ลืมไปว่าคุณชายจ้างผมมาทำงานที่บ้านหรือว่าให้ผมมาเป็นแขกกันแน่ คุณชายกับคุณน้าไปนั่งคุยกันตามประสาแม่ลูกที่โซฟา ทางด้านผมที่ล้างจานกร๊องแกร๊งก็ส่งจานชามให้กับนมแจ่มที่คอยรับไปเช็ดอยู่เงียบๆ



และเพราะมันเงียบเกินไปผมเลยชวนคุย



“นมครับ คุณชาย เอ๊ย พี่ตาณนี่เค้ามีชุดอื่นนอกจากเสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็คมั้ยครับ”



คุณนมเหลือบมองคุณชายก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ “คุณดาท่านสอนว่าถ้าออกจากห้องต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย ใส่ชุดนอนหรือชุดไม่สุภาพเด็ดขาด”



“ทำไมล่ะครับ”



“เวลาแขกเหรื่อมาเราจะได้พร้อมอยู่ตลอดเวลา”



คุณพระ แล้วบ๊อกเซอร์และเสื้อกล้ามที่ผมใส่อยู่บ้านดูอุบาทว์ไปเลย ถ้าแขกมาก็หาหมอนมาปิดเป็นพอ เรื่องนี้ต้องโทษเฮียทิวที่ทำเป็นตัวอย่าง ผมไม่ผิดนะครับ



“เราน่ะหัดเอาอย่างคุณตาณไว้บ้าง ยังหนุ่มยังแน่น สาวที่ไหนจะมาชอบคนสกปรกซกมก”



ไอ้เขาเหลือบมองตัวเองทันที ผมเป็นผู้นำทางด้านสไตล์สกปรกหรอครับเนี่ย นี่หรือ...คือสภาพของคนสกปรกในสายตานมแจ่ม อยากจะวาร์ปกลับไปดูตอนที่ยังรุงรังกว่านี้ ถึงว่าคุณชายทนไม่ได้จนต้องพาผมไปตัดขน เอ๊ย ตัดผม



“นี่ก็ดีมากแล้วนะครับนม แต่ถ้าจะให้ผมใส่เสื้อเชิ้ตคอจีนแบบคุณชายอะไม่ไหวหรอก ทิ่มคอตายเลย”



นมแจ่มหันไปมองทางห้องนั่งเล่นก่อนจะทำหน้าสงสัย แล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ “เอ...ปกติคุณตาณก็ไม่ใส่เสื้อคอจีนวันหยุดหรอก สงสัยอายมั้ง เมื่อเช้าคุณดาท่านทักว่ามีรอยแดงๆ ที่คอ คุณเค้าก็รีบขึ้นไปเปลี่ยนใหญ่เลย”

 



ผมนั่งคุยกับคุณน้าไม่นานก็สมควรแก่เวลาที่มารบกวนแล้ว อันที่จริงพึ่งควานหาโทรศัพท์ให้กระเป๋าเลยเห็นว่าแบตหมด ความกลัวเลยแล่นริ้วเข้ามาหวิวๆ เฮียทิวเวลาโกรธเนี่ยใช่เล่นนะครับ



“เอ่อพี่...เดี๋ยวผมต้องกลับบ้านก่อนนะครับ ลืมบอกที่บ้านว่าจะมาค้างข้างนอก ไม่รู้เฮียทิวจะรอด่าอยู่รึเปล่า”



“ไม่ต้อง เดี๋ยวไปส่ง” คุณชายตอบกลับมาทันควัน ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังนั่งจ้องทีวีไม่สนใจผมอยู่แท้ๆ



“ไม่เป็นไรครับพี่ นั่งวินไปแค่นี้เอง”



“อย่าขัดใจ”



“โอเคครับคุณชาย”



“...” เอ้าก็โอเคแล้ว ไหงมองกันตาขวางงั้นอะ



“ไม่มีคุณชายที่นี่” ได้ยินเสียงคุณน้าหัวเราะคิก ผมเลยเก็ตทันที



“โอเคครับพี่ตาณ”



“สองคนนี้น้า ว่าแต่เฮียทิวนี่พี่ชายภูเขาหรอลูก” คุณน้าถามขึ้น



“เปล่าครับ พ่อผมเอง”



“อ๋อจ้ะ ชื่อทิวหรอ...”



“ใช่ครับ ผมเรียกเฮียทิวตามเด็กแถวๆ บ้านจนติดเลย”



“เอ..ทิว...” คุณน้าทำท่าคิดและเป็นเวลาเดียวกันกับที่ผมเอ่ยลาพอดี



“คุณน้าครับ ผมไปก่อนนะครับ ขอโทษนะครับที่มารบกวนแล้วก็ขอบคุณมากๆ เลยครับที่เมตตาภูเขาตัวน้อยๆ อย่างผม”



“ขี้อ้อนนักนะเรา” คุณน้าหัวเราะพร้อมกับยื่นมือมาลูบท้ายทอยผมด้วย



“เค้าเรียกคะแนนสงสารมากกว่าครับ”



“เปล่านะ...”



“ฮะๆ อะพี่ตาณไปส่งน้องเขาหน่อยลูก เดี๋ยวพ่อจะเป็นห่วง” คุณน้าหัวเราะก่อนจะลุกขึ้นยืนมาส่งผม ก่อนจะเดินออกจากห้องนั่งเล่นคุณน้าก็พูดขึ้นมาเหมือนนึกได้ ท่านเลยเรียกคุณชายไว้



“ตาณ ส่งภูเขาแล้วก็รีบกลับนะ แม่ลืมบอกว่าบ่ายนี้เรนนี่จะแวะมาหาตาณน่ะ”



“ได้ครับแม่”



วินาทีนั้นผมหันไปสบตาคุณชายที่มองมาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไรแต่ในใจผมปั่นป่วนชอบกล

 





“ฮ้าว!”



“เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละ”



“เรื่องอะไรมึง”



“เอ้า ก็เล่าให้ฟังจบแล้วเนี่ย”



“เล่าเหี้ยไร กูให้มึงเล่ามึงก็นิ่งไปตั้งนานสองนาน กูแดกสไปร์ทรอมึงเล่าจนแทบหลับแล้วเนี่ย”



“อ้าว คือทั้งหมดเมื่อกี้กูไม่ได้เล่าหรอวะ” ไอ้เขาเกาหัวแกรกๆ สรุปแล้วผมคิดแค่ในใจหรอครับเนี่ย



“มึงเป็นบ้าอะไร เออไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า”



“มึงไม่ต้องมาทำเสียงสะบัด คิดว่าน่ารักตายล่ะ” ผมเหลือบมองอีแจ็คที่นอกจากเสียงสะบัดแล้ว มันยังสะบัดหน้าหนีอีก ตอนนี้เฮียทิวออกไปร้านเรียบร้อยแล้ว ทิ้งผมไว้กับเพื่อนสาวข้างบ้านที่จงรักภักดีต่อคำสั่งเฮียทิว เพราะก่อนออกจากบ้านเฮียสั่งให้มันเฝ้าผมไว้



ผมใช้นิ้วสะกิดติ่งหูมันสองสามที อีแจ็คเลยหลุดหัวเราะ



“มันก็ไม่มีไร เมื่อคืนมันดึกแล้วคุณชายเลยให้กูไปค้างด้วย นอนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรมโนมะนาวอย่างที่มึงคิดหรอก”



“เออเชื่อก็ได้ แต่เพราะเป็นมึงกูถึงยอมให้เข้าใกล้คุณชายนะ” กูขอมองบน มึงเป็นอะไรกับเค้าครับเพื่อนฝูง มันหยิบถั่วเข้าปากก่อนจะพูดต่อ “ถ้าเป็นพี่เรนนี่เรนเน่า กูกับแก๊งพิทักษ์หัวใจคุณชายจะไม่อยู่เฉยๆ แน่ๆ”



ผมชะงักเมื่อได้ยินชื่อบุคคลที่สี่ออกจากปากอีแจ็ค ซึ่งชื่อนั้นเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ผมปั่นป่วนหัวใจ



 “มึง...มึงรู้จักพี่เรนนี่ด้วยหรอวะ”



“โอ๊ยยยย ยิ่งกว่ารู้อีก”



“หมายความว่าวะที่จะพิทักษ์หัวใจอะไรนั่น”



“ไม่ให้พิทักษ์หัวใจคุณชายได้ไงวะ ก็ยัยเรนนี่อะไรเนี่ยเป็นแฟนคนแรกของคุณชาย จะว่ารักแรกก็ได้ คบกันตั้งแต่เรียนม.ปลายพึ่งเลิกกันเมื่อตอนปีสองนี่เอง ได้ข่าวว่าพี่แกทิ้งคุณชาย คุณชายนี่โคตรเศร้า แถมโทรมไปตั้งเยอะ”



“จริงหรอวะ”



ผมตอบออกไปคล้ายคนละเมอ แต่ในหัวมีแต่คำว่ารักแรกกับคำว่าเศร้า แต่ว่า...ไม่เห็นเกี่ยวกับผมเลยนี่ รักแรกมาหากันขนาดนั้น ถ้าไม่อยากรีเทิร์นจะไปมาหาสู่กันหรอ ไม่เห็นเกี่ยวกับผมเลย!



โอ๊ย ทำไมเจ็บกระดองใจ ต้องรีบหายจากอาการนี้อย่างเร่งด่วน



“เรื่องชาวบ้านนี่ รู้ลึกรู้จริงนะมึงอะ” ผมเสมองแก้วน้ำ ทำทีไม่สนใจเรื่องที่อีแจ็คเล่า



“เอ้าก็กูเต้า ทีวีพูน”



“ถุย!”



“อี๋ แจ็ครับไม่ได้ ว่าแต่ทำไมมึงดูจะอยากรู้เรื่องพี่เรนเน่าอะไรนี่จังวะ”



“เอ่อ...ก็ป้าวววววววว”



“เสียงสูงเชียะ”



“เปล่าจริงๆ อะ”



“อีเขา กูเป็นเพื่อนมึงมั้ย”



“เดี๋ยวๆ กูไม่มีตังค์ให้ยืมนะบอกก่อน”



“มึงเห็นกูใช้เงินฟุ่มเฟือยเหมือนมึงหรอ” เอ๊ะ นี่เราถูกด่ารึเปล่านะ... อีแจ็คบ่นพึมพำแล้วก็กลอกตา เบะปาก



“อ๊องๆ เอ๋อๆ จริงๆ มึงฟัง...กูถามมึงจริงๆ นะ” มันใช้มือที่ไร้ความนุ่มจับแก้มผมไว้ทั้งสองข้าง บังคับให้ผมสบตากันมัน แววตาจริงจังนั้นทำให้ผมนิ่งไป



“...มึงชอบคุณชายใช่มั้ย”



“เฮ้ย เฮ้ยยย กูอะนะ บ้าบอออออออออออ”



ผลัวะ!



“นั่นมันคำกู”



“อ๋อ...โทษๆ เฮ้ย แต่กูไม่..ไม่ คุณชาย คือ...”



“ใจเย็นๆ กูอนุญาตให้มึงไปตัดลิ้นก่อน”



“กูไม่ได้ชอบเว้ย” ผมพูดเสียงดังแล้วคว้าแก้วสไปร์ทมาดื่มอึกๆ เพื่อหลบสายตากรุ้มกริ่มของอีแจ็ค



“อาการออกขนาดนี้ปิดแจ็คกี้ไม่ได้หรอกค่ะอีเขา กิ้วๆๆๆ”



“อย่ามายุ่งกับหน้ากู!”



ถ้าผมยังยิ่งนั่งอยู่ตรงนั้น เพื่อนข้างบ้านมันจะต้องส่งเสียงล้อเลียนไม่หยุดแน่ ทางที่ดี...เดินหนีแม่มมม



“อีเขามึงอะชอบคุณชายโว้ยยยย”

 





แจ็คมันพูดได้ยังไงวะว่าผมชอบพี่ตาณ ผมเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว ผมนอนกอดหมอนฟังเพลงพี่โตที่เปิดเสียงดังๆ ให้กลบความคิดฟุ้งซ่านของตัวเอง ประโยคทิ้งท้ายของอีแจ็คลอยวนอยู่ในสมองน้อยๆ ของผม เท่านั้นยังไม่พอมองไปทางไหนก็มีแต่หน้าคุณชายเต็มไปหมด แถมบนหน้าผากคุณชายยังมีตัวอักษรสามตัวแปะอยู่บนนั้น



ช อ บ



นี่ผมชอบคุณชายจริงๆ หรอวะเนี่ย



ตลอดทั้งบ่าย ผมพยายามจะหาคำตอบให้กับตัวเอง แต่ก็ทำไม่ได้ในเมื่อนั่งนิ่งๆ ยังมีเสียงคุณชายลอยมาหลอกหลอนและแทรกแซงทุกความคิด ทำลายสมาธิของผมไปซะหมด และในขณะที่นอนเหม่อมองเพดานอยู่นั้นก็มีเสียงทุ้มต่ำของมนุษย์พ่อดังขึ้นด้านหลัง



“เป็นอะไร”



“เฮ้ย ผีหลอก!”



“น้อยๆ หน่อยกูพ่อมึงนะ”



“ก็มาไม่ได้ซุ่มให้เสียงอะเฮียทิว แล้วทำไมวันนี้กลับเร็วจังยังไม่สี่ทุ่มเลย” ผมลูบอกตัวเอง มาหลอนๆ แบบนี้ได้ไงกัน เฮียทิวไม่ตอบผม แต่กลับเดินเข้าไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็นแทน



“ทำไม มึงจะไปไหน” ทำไมต้องหรี่ตามองลูกแบบน้าน พ่องใจรั้ยส์



“ไม่ได้ไปไหน เขาก็ถามเฉยๆ ป้ะ”



“เออ” พ่อตอบพร้อมกับดื่มน้ำกับขวดดังอึกๆ “แล้วมึงเป็นอะไร มานอนกลิ้งกับพื้นเนี่ย อยากถูบ้าน?”



“ไม่ใช่ซะหน่อย” ผมเหลือบมองพ่อที่นั่งลงบนโซฟาเล็กน้อย ในหัวเหมือนมีคนมาดีดนิ้วดังเปาะ ผมดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมกับเรียกพ่อลั่นบ้าน



“พ่อ!”



“อะไร”



“เขามีเรื่องจะปรึกษาอะ” พ่อเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะช่วยผมได้ในขณะนี้ พ่อเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เพราะถ้าเป็นไอ้เขาเวอร์ชั่นไม่ปกติแบบนี้ จะไม่เรียกพ่อว่าเฮียทิวเด็ดขาด



“เดี๋ยวนะ นี่มึงไปทำใครท้องรึเปล่า” พ่อยืดหลังตรง ผมจึงได้แต่เบะปาก



“พ่อ เขาไม่ใช่พ่อนะ”



“เดี๋ยวมึงจะโดน”



“ล้อเล่นง่า รักนะ” ผมซบแก้มไปที่เข่าพ่อ พ่อผู้เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตของผม เฮียทิวคงสัมผัสได้ถึงความจริงจังเพราะสายตาที่มองผมนั้นแฝงด้วยความเป็นห่วง



“พ่อ...เคยชอบใครซักคนป้ะ”



“แค่กๆ”



“เฮ้ย สำลักเลยหรอพ่อ”



“แค่กๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยถามเรื่องอะไรแบบนี้ คิดไงมาถาม หรือว่าที่แจ็คพูดเป็นเรื่องจริง”



“คือ...คือว่า เขาอยากรู้อะ ว่าชอบมันเป็นยังไงหรอ เขาสับสนอะ...เขาไม่รู้เลยมาถามพ่อ ชอบมันคืออะไร มันเหมือนชอบพี่โตมั้ยอะพ่อ”



“สั้นๆ มึงอยากได้พี่โตเป็นผัวหรอ”



“พ่อ!”



“ร้องนี่อยากหรือไม่อยาก”



“อยากก็บ้าแล้ว! พี่โตเป็นเทพที่เขาเคารพบูชา คิดแบบนั้นฟ้าผ่าตายเลย”



 “หึหึ เขาเอ๊ยย มึงโตแล้วหรอ” พ่อยีหัวผมแรงๆ จนเจ็บไปหมด



“โตแล้วสิ”



“มึงโตแล้วนะเนี่ย ไม่งั้นคงไม่คุยเรื่องแบบนี้กับกู” พ่อยิ้มพลางตบหน้าผากผมสองสามที



“เขายังไม่เข้าใจเลย พ่ออธิบายให้ฟังหน่อย”



“ความรู้สึกมึงยังจะให้กูพูดหรอ ตัวมึงเองนะ” ก็เป็นเพราะตัวผมไง เลยอยากได้คำยืนยัน ว่าตกลงแล้วมันใช่รึเปล่า



“...”



“สำหรับกูนะชอบก็คือชอบ เอ้างงอีกลูกกู เอางี้ เวลามึงเล่นกีตาร์ มึงรู้สึกยังไง”



“ก็...รู้สึกสนุก มีความสุขตอนได้เล่น พอได้ยินเสียงกีตาร์ ใจจะทะลุเลยอะพ่อ”



“ชอบก็เป็นแบบนั้นแหละ”



ชอบก็เป็นแบบนั้นหรอ...



“ก็แบบที่ว่ามึงอยากคุย อยากอยู่ใกล้ ใจเต้นแรง อะไรเทือกๆ นั้น นี่กูต้องมาสอนลูกสาวหรอวะเนี่ย ลองคิดดูดีๆ ว่ามึงรู้สึกแบบนี้กับใครรึเปล่า”



อยากคุย อยากอยู่ใกล้ ใจ...เต้นแรงหรอ เต้นเหมือนเสียงแมลงที่ผมได้ยินบ่อยๆ เวลาอยู่ใกล้ๆ คุณชายใช่มั้ย ไอ้ความรู้สึกแบบที่ผมไม่เคยจะรู้สึกกับคนไหนเลยนั่นใช่มั้ย



“พ่อ แล้วถ้าใช่...ถ้ามันเป็นแบบนั้นแล้วเขาจะทำยังไง”



“ไม่เห็นยาก”



“...”



“ถ้าชอบใครก็ให้พูดตรงๆ”



“...”



“เชื่อพ่อ”



ถ้าชอบใครให้พูดตรงๆ หรอ




------------
เออ เชื่อเฮียทิวนะเขานะ
มาลุ้นกันว่าเจ้าเขามันจะป๊อดหรือไม่ป๊อด
คิดถึงทุกคนเสมอ ขอบคุณที่ยังรอเราถึงเเม้เราจะมาช้ามากก็ตาม
สุดท้าย ยังเหมือนเดิมคืออยากให้เรื่องนี้ทำให้ทุกคนยิ้มได้บ้าง
เราก็จะยิ้มเหมือนกังง
อย่าลืมติดเเท็กให้น้องเขากันนะคะ #คุณชาย2017
         
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 19-01-2018 22:04:19
ขอหวีดทีละประเด็นๆไป
ประเด็นแรกคือ หนอยยยยยยยยย นังเขาแกได้ละเมอจูบคอคุณชายใช่มั้ย
และสองคือคุณชายดูดปากนังเขาคืนใช่มั้ยยยยยยยยย
สาม ยัยเรนนี่เรนเน่า จะมาหาคุณชายด้วยเหตุผลอันใด

ประเด็นสุดท้ายก็คือ เขา.. แกหลงรักคุณชายแล้วแหละ เอาใจช่วยนะ
ตอนหน้าบอกรักคุณชายไปเล้ยยยย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-01-2018 22:59:51
แม่คุณชายกะเฮียทิวรู้จักกันแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-01-2018 23:24:39
เขาเชื่อพ่อ เขาไปบอกพี่ตาณได้เลย พ่อทิวหนับหนุนซะขนาดนี้   :m3:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 20-01-2018 00:01:22
เขาเอ้ยยยยละเมอจนไม่รู้สินะว่าโดนคุณชายลักหลับไปถึงไหนก็ไหนละ แล้วเรนนี่นี่คือยังไงคะคุณชาย เคลียร์ด่วน!!!
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 20-01-2018 00:32:26
ดูดคอคุณชาย เจอคุณชายดูดปาก วินๆเนอะ  :hao7:
ไม่เชื่อเฮียทิวแล้วจะเชื่อใคร จริงไหม ทำตามที่เฮียบอกล่ะถูกแล้วว 555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: marshall ที่ 20-01-2018 01:34:16
ปากบวม ? มีรอยที่คอ ?
คุณชายกรุณาแถลงด่วนค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 20-01-2018 06:45:33
โอ้ยยคู่พ่อลูกมุ้งมิ้ง วิ้งๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 20-01-2018 07:35:02
 คือเฮียทิวมีซัมติงอะไรกับแม่พี่ตาณรึเปล่า
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: absolutepoison ที่ 20-01-2018 07:39:52
เขา ไม่ใช่ว่าตอนหน้าแกจะพูดกับคุณชายว่า "ตรงๆ" หรอก ใช่ไหม 55555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 20-01-2018 17:48:48
เขาหนูไปกัดคอคุณชายเค้าก่อนนะลูก หนูเลยโดนคุณชายเอาคืนด้วยการกัดปาก ปากถึงได้บวมขนาดนี้  :impress2: กรี๊ดดดดดดดดดด อิจสุดๆเลยลูก
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-01-2018 00:04:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Jintajam ที่ 21-01-2018 16:52:57
กลัวจะมามุกแบบ เดินไปหาคุณชายแล้วพูด "ตรงๆ " อย่าเชียวนะ !
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 21-01-2018 21:26:15
น้องเขาโดนจูบจนปากบวมแน่ๆ ฮาตอนคิดว่าตัวเองเล่าหมดแต่ที่จริงแค่กำลังคิด ตลกกก
เพื่อนก็รอจนปากหวอ เรนนี่เสี้ยนหนามว่ะ น้องเขาจะนิ่งๆ ไม่ได้นะคะ แม่คุณชายแม่นมก็เอ็นดูน้องเขาไปหมด คนมันน่ารัก
ชอบเขาคุยกับพ่อ หนิดหนมน่ารักมาก

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 22-01-2018 04:08:55
เขาไปทำไรมาลูก ปากบวมเลย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 22-01-2018 12:28:55
ขอคุณชาย1ที่...มาเสิร์ฟด่วนๆๆๆ 555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 22-01-2018 16:51:50
บอกไปเลย .. ยิ่งกว่าช้อนหล่น ..
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterCucumber ที่ 27-01-2018 02:06:12
เอ้ย หนุกง่ะะะะะะ ชอบบบ มาต่อด่วน5555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 09-02-2018 08:20:39
ระเบียบที่ 14 : ห้ามยืนอยู่คนเดียว



                เช้าวันนี้—ผมคว้ากระเป๋ากีตาร์ขึ้นมาสะพายที่ไหล่ขวาพลางส่งสายตามุ่งมั่นไปที่ประตูรั้ว ยามเมื่อได้ยินเสียงนุ่มนวลของรถเต่าที่ผมนั่งมาตลอดหลายอาทิตย์ดังแว่วๆ อยู่หน้าบ้าน



                ผม...ภูเขา ลูกน้อยของเฮียทิว มีความพร้อมอย่างเต็มเปี่ยมกับภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่จะต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งขณะนี้ก็ถึงเวลาอันสมควรแล้ว (เช้าวันจันทร์ 6 โมง 50 นาที) ผมขอกล่าวอย่างเป็นทางการว่า...



                “ปฏิบัติการณ์ชอบใครให้พูดตรงๆ ได้เริ่มขึ้นแล้ว ณ บัด...เน้!”



                ผลัวะ!



                “โอ๊ย”     



                เจอปีศาจชอบโชว์หน้าอกขัดขวางการทำภารกิจหนึ่งอัตรา!



                “มึงจะเต๊ะท่าอีกนานมั้ย เปิดประตูค้างไว้เนี่ยลมมันเข้า”



                “เฮียทิวอ๊ะ! เขาเจ็บนะ”



                “ตอแหล”



                ผมลูบหัวป้อยๆ เกือบจะหน้าทิ่มลงไปกับพื้นแล้วถ้าคนที่ลงมือไม่เอื้อมมือมาคว้ากระเป๋ากีตาร์ไว้ซะก่อน ไม่งั้นนะ...พื้นบ้านยุบแน่ๆ ถุ้ย! หน้าทิ่มไม่ใช่เรื่องตลกนะเฟร้ย ผมหันไปมองเฮียทิวตาขวางแล้วก็พบว่าเฮียทิวยืนเกาพุงอย่างสบายใจ ตบหัวแล้วลูบหลังของจริง พ่อตู



                “ทำไม มองมามีปัญหาไร”



                “เปล๊า ใครจะมีปัญหากับเฮียทิวล่ะครับ แล้วนี่แปลกจัง ปกติตื่นสายโด่ง วันนี้มาส่งลูกเขาไปโรงเรียนหย๋อ”



                “ใครบีบลิ้นมึงไว้”



                “อะแฮ่ม”



                “กูแค่อยากมาเห็นหน้าลูกเข...ไอ้คนที่มึงชอบเนี่ย จะหล่อซักแค่ไหนเชียวทำให้ลูกกูเพ้อพกนอนมองเพดานอยู่ได้”



                “หล่อ?...เฮียทิว!”



                “กูพูดอะไรผิด คนที่มึงชอบไม่ได้เป็นผู้ชายหรอ” เฮียทิวเท้าเอวมอง ตอนนี้เราสองพ่อลูกคุยกันอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน ถัดออกไปตรงประตูรั้ว มีรถของคุณชายที่ติดเครื่องรอผมอยู่ตรงนั้น แต่เอ๊ะ..



                “นะ...นี่ เฮีย ...เฮีย...รู้”



                “กูไม่ได้โง่เหมือนมึง” ว่าแล้วก็จิ้มหัวลูกไปอีกที ที่มันโง่ก็เพราะพ่อรักส์มอไซค์มากกว่าลูกไง ซื้ออาหารบำรุงมอไซค์แต่ไม่ซื้ออาหารสมองให้ลูกบ้างเลย เดี๋ยวนะกลับมาปากสั่นเรื่องเดิม



                “คือว่า เฮียทิว..ผู้ชาย ชอบ ว่า เขา แล้ว...”



                “เอออออ ไม่ได้จะว่าอะไรหรอก”



                “ตะ...แต่...ว่า...ไม่...ว่า...เขา...หระ...หรอ”



                “ปากสั่นทำพระแสงอะไร กูจะบอกมึงไว้ตรงนี้ มึงจะชอบใคร จะรักใครก็เรื่องของมึง กูไม่ใช่คนขี้เสือกอยู่แล้ว”



                กึก!



                เพราะคำพูดเดียวของเฮียทิวทำให้ผมปลดล็อก ไอ้เขาชะงัก มองพ่อตัวเองนิ่ง



                “ฮือออออ น้ำตาจะไหล พ่อไม่ขี้เสือก เอ๊ย พ่อไม่ว่าเขา พ่อเข้าใจเขา ฮือ ฮือ”



                “ไม่ต้องร้องปลอมๆ ได้มะ”



                “เขาขอบคุณพ่อนะครับ”



                “เออ! ไม่ต้องมากอด!”



                “ก็เขาซึ้งนี่” ผมแนบเเก้มลงกับอกพ่อ ซึ่งพ่อก็พยายามดันหน้าผมออกอยู่ทุกวินาที



                “แต่จะว่าไปกูชักสงสารไอ้คนนั้นของมึงแล้วว่ะ”



                “งือ ทำไมอะพ่อ”



                “ก็มีเด็กเพี้ยนมาบอกชอบเนี่ย ตอนบอกก็ระวัง อย่าให้เค้ากัดลิ้นตัวเองตายนะ”



                “พ่ออออออออออออ นี่ลูกนะ”



                “เออ ไปได้ละไป”



                ผมไม่ทันยกมือไว้ เฮียทิวก็ใช้ฝ่าเท้าเขี่ยก้นผมให้เดินลงบันไดหน้าบ้านพร้อมกับโบกมือไล่ ผมน้ำตารื้น โลกนี้ไม่มีใครดีเท่าพ่อผมอีกแล้ว ไอ้เขาดราม่า ผมหันกลับไปมองพ่อก็เห็นตาลุงคนนั้นจ้องไปที่รถคุณชาย...เอ่อด้วยสภาพกางเกงตัวเดียว เฮียทิวเป็นห่วงลูกใช่มั้ย ไม่ต้องห่วงนะเขาจะทำให้เต็มที่ ถ้าผิดหวัง...เขารู้ว่าพ่อเป็นยังอยู่เป็นเพื่อนเขา เหมือนที่เราอยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิต



                เขารักพ่อนะ



                ผมบอกรักพ่อในใจ แต่เพราะความรู้สึกอันล้นทะลัก ผมจึงต้องวิ่งกลับไปหาพ่อพร้อมกับคว้าคอพ่อมาจูบแก้มหนึ่งที



                “พ่อเป็นกำลังใจให้เขาด้วยนะ จุ๊บ!”



                เฮียทิวเบิกตากว้าง ยืนตัวแข็ง คงจะดีใจที่ลูกแสดงความรักล่ะสิ



                “ไอ้เขา เดี๋ยวกูยันไปนู่น!”



                โธ่ พ่ออยากแสดงความรักกลับก็ไม่บอก หน้าแข้งกระตุกมาจูบตูดผมซะแรงเลยง่ะ เจ็บ,,,

 



                ผมขึ้นมาบนรถด้วยสีหน้าเบิกบานเพราะได้กำลังใจจากพ่อแบบสุดๆ พอนั่งปุ๊บก็ยกมือสวัสดีคุณชายทันที แต่คนที่รอในรถเกือบสิบนาทีไม่พูดอะไรทำให้ในรถเงียบกริบ และเพราะแบบนั้นผมจึงค่อยๆ หันไปมองต้นเหตุแห่งความเงียบอย่างช้าๆ



                ชะอุ้ย



                มีรังสีแห่งความหงุดหงิดแผ่ซ่านไปทั่วรถ หรือว่าผมเล่นกับพ่อนานเกินไป พี่ชายตาณเลยรอ ผมนั่งตัวเกร็ง กลอกตาไปทางขวาเพื่อมองคุณชาย นั่งเกร็งไม่นานคุณชายก็ออกรถ อันที่จริงแล้วก็เหมือนเดิมทุกวันที่คุณชายจะต้องมารับ แต่ความรู้สึกของผมวันนี้คือคุณชายขับรถไม่เหมือนเดิมเลย มันฉวัดเฉวียนเวียนเกล้าชอบกล



                “เอ่อ พี่...ครับ”



                “เล่นกับพ่อแบบนั้นตลอดเลยหรอ นายน่ะ” คุณชายถามขึ้นแต่สายตามองตรงไปที่ถนน และเป็นผมเองที่เอียงหน้ามองอย่างงงๆ



                “เล่นกับพ่อ? อ๋อที่เขาจูบเเก้มพ่อน่ะหรอ เขาแกล้งพ่อ..เอ๊ยไม่ใช่ ผมก็แกล้งพ่อแบบนั้นแหละ” ผมยิ้ม วันนี้เป็นวันดีๆ มองอะไรก็เป็นสีชมพูไปหมด เอ๊ะ เดี๋ยวนะ สีม่วงมาจากไหน สงสัยตาพร่า



                “จริงๆ นะพี่” ผมย้ำพลางยกมือมาขยี้ตา



                “อืม รู้แล้ว อย่าขยี้ตา” คุณชายพยักหน้ารับก่อนยื่นมือมาจับมือผมไว้ แล้วต่างคนก็ต่างชะงัก นอกจากจะชะงักแล้วใจผมก็เต้นแรงโดยที่ทราบสาเหตุ ก็เป็นเพราะมือคุณชายที่กำรอบมือผมนี่ไง



                คุณชายกระแอมก่อนจะปล่อยมือผม แล้วในรถก็กลับมาเงียบอีกครั้ง



                “โตเป็นกระบือแล้วอย่าไปกระโดดแกล้งพ่อแบบนั้นอีก เดี๋ยวพ่อนายล้มหัวฟาดทำยังไง” จู่ๆ พี่ตาณก็พูดขึ้น แต่ไม่รู้ทำไมสายตาพี่ตาณถึงเอาแต่มองปากผมนะ แต่ช่างเถอะ เฮียทิวครับ เขาชอบคนไม่ผิดจริงๆ อะ คุณชายเป็นห่วงพ่อด้วยนะ



                ใจกระดอนไปหมดแล้ววว



                ผมยกมือกุมอก รู้สึกถึงความชื้นที่มือทั้งสองข้าง หัวใจเต้นตึกตัก แบบว่าตื่นเต้นจนกลัวว่าคุณชายจะได้ยินเสียงหัวใจเข้า

     

                แต่ว่าเวลานี้แหละ!...เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะบอกความรู้สึกตัวเองในตอนที่ความชอบมันวิ่งพลุ่งพล่านอยู่ในหัวใจแบบนี้



                “พี่ตาณ...” ผมวางมือตัวเองลงบนมือคุณชายที่ตอนนี้กำลังจับเกียร์รถอยู่ คุณชายไม่มีท่าทีตกใจแต่กลับส่งเสียงในลำคอเป็นเชิงตอบรับ



                พี่ครับ...



                “...”



                “พี่ตาณ”



                “อืม...”



                “ผม....” ไอ้เขาช้อนสายตามองคุณชายด้วยความรู้สึกที่มี วินาทีนั้น...ผมพูดเสียงดังพร้อมกับหลับตาปี๋



                “ผม...ตรงๆ พี่ครับ!!!”



                พระเจ้าช่วยกล้วยทอด



                ผมพูดออกไปแล้ว!



                แต่ว่ามัน...



                กริบ



                เงียบกริบจนได้ยินแต่เสียงแอร์หึ่งๆ...



                มันเป็นภาพสโลว์โมชั่นที่มนุษย์ผีบ้าอย่างผมอยากจะเก็บความทรงจำดีๆ ในบรรยากาศบนรถเต่าสุดคลาสสิคนี้ เสี้ยววินาทีที่ค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น ผมเห็นพี่ตาณเบิกตากว้างก่อนที่ริมฝีปากสุขภาพดีจะเอ่ยอะไรบางอย่างออกมา…



                “ตรงอะไรล่ะ เลี้ยวข้างหน้าก็ขึ้นทางด่วนแล้ว”



                ไม่ว่าเปล่าคุณชายตาณสะบัดมือผมออกก่อนจะเลื่อนมือที่จับเกียร์ไปหมุนพวงมาลัยแทน ขอย้ำอีกครั้งว่ามันเป็นภาพสโลว์โมชั่น ผมเห็นรถเต่าสีสวยเลี้ยวขวาขึ้นทางด่วน ไอ้เขามองมือตัวเองที่โดนสะบัดทิ้งอย่างนิ่งอึ้ง ตาเบิกค้างประหนึ่งเจอเรื่องราวสุดช็อก...



                ผม...ภูเขา...และมือข้างนี้โดนทิ้งอย่างไร้เยื่อใย



                ทุกคนครับ



                ผม...อกหักบนทางด่วน



                รบกวนจส.100 ช่วยแจ้งประชาชนให้ด้วยนะครับ

 



                “เป็นอะไรเรา” ทันทีที่จอดรถที่หน้าคณะ คุณชายก็เห็นความผิดปกติของผมเข้า พี่แกขมวดคิ้วฉับ แต่น้ำเสียงกลับอ่อนโยนตรงกันข้ามกับสีหน้า



                ฮือ อย่ามาอ่อนโยนกับนุ้งได้มั้ย นุ้งอกหักอยู่



                “ไม่อยากไปเรียนหรอ”



                “...” กูเบะปากเลย อกหักยังหาว่าไม่อยากเรียนหนังสือ



                “เอาน่า โตแล้วอย่าร้อง”



                “ไม่ได้ร้อง!” เพราะคุณชายขำในลำคอ ผมถึงเงยหน้าเถียง แต่จ้องได้ไม่นานก็ต้องก้มหน้าลงใหม่ ก็...เวลายิ้มแล้วพี่เค้าหล่อจัง



                “ไม่ร้องก็ไม่ร้อง จอมงอแง” พี่ตาณยื่นมือมาลูบหัวแรงๆ ผมที่ทนไม่ไหวอีกแล้วจึงเอ่ยขอบคุณเบาๆ ก่อนจะรีบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมมายืนข้างรถฝั่งประตูคนขับเพื่อจะข้ามถนนพร้อมกับกีตาร์สุดที่รัก ผมเม้มปาก หันกลับมามองไปที่พี่ตาณนิ่งไม่ไปไหน คุณชายท่านก็ยังนั่งอยู่ในรถมองผมไม่ไปไหนเช่นกันเพิ่มเติมคือเปิดกระจกให้เห็นหน้ากันชัดๆ



                “พี่...”



                “หืม?...”



                “ผมตรงๆ พี่ ถ้าพี่ไม่ตรงๆ ผม ก็อย่ามาลูบหัวให้ใจผมบางเป็นหมูสไลด์ชาบูเลย”



               



                “พวกมึง กูอกหัก”



                แกร๊ง!



                กร๊อง!



                ท่ามกลางกลิ่นน้ำซุปในร้านชาบูข้างมอ เพื่อนรักที่นั่งฝั่งตรงข้ามผมทั้งสองคนปล่อยตะเกียบและช้อนในมือลงกับถ้วยกระเบื้องจนเกิดเสียงดัง และพวกมันเบิกตากว้างก่อนที่จะ...



                “เฮียดุก บอกมาซิ กูกำลังฝันอยู่ใช่มั้ย”



                “หมูน้องรัก เฮียคงจะตอบมึงว่า แน่นอน เราทั้งคู่อยู่ในความฝันที่พิสดารที่สุดในเมืองนี้”



                “เราจะติดอยู่ในความฝันนี้อีกนานมั้ยเฮีย กูกลัวว่าไอ้เขาจะโดนผีเข้าตลอดไป”



                “หมู กูกับมึงจะร่วมมือกันฝ่าฟันฝันร้ายนี้ไปให้ได้”



                “เฮียดุก...”



                “ไอ้หมู”



                “เฮียดุก”



                “ไอ้ห.......”



                ผลัวะ! ผลัวะ!



                “พวกมึงเป็นผักกาดอะไรเนี่ย!”



                ผมลุกขึ้นยืนตบหัวเพื่อนรักทั้งสองด้วยแรงไม่เบามากนักก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งเหมือนคนหมดแรง



                “กูอกหัก”



                “เชี่ยยยย เรื่องจริงหรอวะ”



                “ถึงว่าไอ้เขาขี้งก ชวนพวกเรามาแดกชาบู”



                “เออ อยากเมาสันในให้ตายไปเลย”



                เฮียดุกกับไอ้หมูสบตากัน ก่อนที่มันจะทำการสอบสวนผม “มึงอกหัก แสดงว่ามึงไปชอบใครเค้าล่ะสิ”



                “กูเจ็บ...” ว่าแล้วก็คีบหมูมาเคี้ยวอย่างรวดเร็ว แล้วก็...



                พรึ่บ!



                “ไอ้สัดเขา! มึงนั่งลง มึงจะยืนทำห่าไรคนมองเต็มร้านแล้ว”



                “...ยืนอยู่คนเดียวววว ช่างเปล่าช่างเปลี่ยวหัวใจ ฉันยืนอยู่คนเดียวได้ยินไหม ช่างเหงาหัวใจเหลือเกิน และฉันคงทนต่อไปอีกไม่ไหว คงต้องมีใครมาดูแลหัวใจ มันทนต่อไปอีกไม่ไหว อยากจะบอกกกก...ว่าฉันมีเพียงความรักอยู่เต็มหัวใจและอยากรู้ว่ามีใครจะมารับเอาว้ายยยยย”



                “นั่งล๊งงงงงงงงงงง”



                “เพื่อนกู เพลงพี่โตก็มาว่ะ”



                ผมร้องเพลงด้วยเสียงที่ไร้เรี่ยวแรง คนมองผมก็ไม่สน คนมันเศร้าอะ เฮียดุกที่ทนไม่ไหวรีบย้ายฝั่งมาฉุดผมนั่งลงทันที



                “แดกเข้าไปสันในเนี่ย”



                “ยืนอยู่คนเดียวววว...”



                “ยังไม่หยุดอีก มึงนั่งได้แล้วไอ้ห่า”



                “ไหนมึงเล่ามาซิ ว่ามึงไปทำยังไงให้อกหัก” ไอ้หมูเปิดประเด็นพร้อมกับใช้ตะเกียบชี้หน้าผม



                “กูชอบคนๆ นึง กูบอกชอบเค้า แต่เค้าไม่สนใจกู”



                “เชี่ยเขา!” ไอ้หมูสบตากับเฮียดุกอีกครั้งก่อนจะพูดเสียงเบา “คุณชายรู้ป้ะวะเนี่ย”



                “หลอกถามมันเลยไอ้หมู”



                พูดไรกันวะ เออช่างแม่ง...จะกินหมูให้ลืมเธอว์



                “มึงบอกชอบเค้ายังไง ไอ้ตัวชอบป๊อดอย่างมึงอะนะจะกล้า” ผมว่าผมเมาเนื้อแล้วจริงๆ สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย ความเจ็บมันลวกปาก



                “กูปรึกษาเฮียทิว เฮียทิวบอกว่าให้พูดตรงๆ”



                “แล้วมึงบอกชอบเค้าตรงๆ เลยหรอวะ”



                “เออดิ! สองต่อสองในรถด้วย!”



                “อู้หูวววว ไอ้เชี่ย เพื่อนกูโคตรแมน”



                “ในรถด้วย?”



                “ใช่!”



                “ไอ้เขา คุณชา..เอ๊ย คนที่มึงชอบเค้าฟังไม่ถนัดรึเปล่า”



                เอ๊ะ...



                “ไม่ถนัดยังไงวะ” ผมกระแอม ดึงสติตัวเองมาครู่หนึ่ง หรือว่าคุณชายจะหูไม่ดีจริงๆ



                “ก็ความหมายว่า เค้าอาจจะมีสมาธิอยู่กับการขับรถ ไม่ทันฟังมึงไง”



                “หรอ” เอนเอียงตามแล้วกู ผมคิดตาม ใช่สิ ตอนนั้นคุณชายจะต้องขึ้นทางด่วนนี่ ผมอาจจะไปกวน คุณชายเลยไม่ทันฟัง



                “แล้วตอนมึงบอกมึงได้เอาอะไรให้เค้ารึเปล่า”



                “ต้องมีด้วยหรอวะ”



                “เอ้า ไอ้เชี่ย เวลาไอ้หมูไปดูน้องบีบี๋เต้นโคฟเวอร์มันยังต้องเอาดอกไม้ไปให้เลย ถ้าไม่มีก็เอามินิฮาร์ทให้”



                “จริงด้วย กูไปตัวเปล่า กูไม่มีอะไรเลย แล้วๆๆ กูต้องให้มินิฮาร์ทได้ยังไงวะ ซื้อที่ไหนไอ้หมูบอกกูมาหน่อยยยย” ผมผลักเฮียดุกที่ย้ายมานั่งข้างๆ ออกก่อนจะสลับไปนั่งข้างไอ้หมูแทนพร้อมทั้งเขย่าแขนมัน เสียงน้ำเดือดดังคลอบรรยากาศตื่นเต้นของผม



                “ฮ่าๆๆ ไม่ต้องซื้อหรอกเว้ย” ไอ้หมูบอก มันเช็ดมือกับเสื้อตัวเองก่อนจะใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้มาไขว้กันตรงปลายนิ้ว



                “ไอ้เขามึงก็ทำตามดิวะ” เฮียดุกสั่ง ผมเลยทำตามงงๆ ตกลงมึงไม่บอกชื่อร้านที่ขายมินิฮาร์ทให้กูหรอวะ



                “เออ อย่างงั้นๆ เดี๋ยวๆ มึงจะมาจีบหงายอะไรตอนนี้ ไขว้กันเยอะๆ เอออออ อย่างงั้น เฮียดูเพื่อนมึงทำใช้ได้เปล่าวะ”



                “ให้กูทำอะไรเนี่ย”



                “ไอ้เขาควาย นี่แหละมินิฮาร์ท ไม่ต้องซื้อแต่แสดงความรักได้ดีที่สุด อันที่จริงแค่มึงชูนี่นะ เค้าก็เข้าใจแล้วเว้ย”



                “จะ...จริงหรอวะ” ผมมองมินิฮาร์ทที่ปลายนิ้วมือตัวเอง พลันก็เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์



                “เออดิ”



                “คราวนี้มึงลองอีกที ถ้าเค้ายังไม่หือไม่อือ เตรียมทิชชู่เช็ดน้ำตาได้เลย” ไอ้หมูชูนิ้วโป้งให้แล้วตบไหล่ผมเบาๆ



                “อีกทีเว้ยเพื่อน” ตามมาด้วยเฮียดุกอีกคน



                ผมเงยหน้าสบตาเพื่อนทั้งสองคนด้วยแววตาสุดซึ้ง ใจที่ฟีบลงไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนกลับมาพองโตอีกครั้ง



                “ขอบคุณนะเว้ยพวกมึง กูจะลองอีกครั้ง”



                ฮึบ!



                “ลองไรกันพวกมึงงงงง”



                จู่ๆ เสียงแหลมที่ดัดเรียบร้อยแล้วก็ดังแหวกอากาศมาจากด้านหลัง แก๊งสามหนุ่มสามมุมเลยหันไปมองพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย



                ...มนุษย์เพื่อนข้างบ้าน ปัจจุบันเรียนคณะอักษร ได้ปรากฏตัวขึ้นในชุดนักศึกษาหญิงรัดไข่ เอ๊ย รัดติ้ว



                “เออพวกมึงกินต่อเหอะ...”



                “หมูนี่แม่งโคตรนุ่มเลยว่ะ”



                “นี่พวกมึงเมินกูหรอ!”



                ตุบ! อีแจ็คที่มาคนเดียวกระแทกตูดนั่งข้างเฮียดุกทันที มันเหยียดปากเป็นเครื่องหมายเช็คถูกให้ผมเป็นการทักทาย กูเพื่อนมึงนะอีแจ็ค



                “คิดยังไงมาแดกชาบูตอนเที่ยงเนี่ย เสี้ยนมาจากไหนฮะ เลว” ไม่ต้องรอให้อ้าปากทักทายกลับอีแจ็คเปิดประเด็นทันที



                “พวกกูเลวที่แดกตอนเที่ยง?”



                “เลวที่ไม่ชวนกู! ถ้ากูไม่นั่งวินผ่านมาจะเห็นพวกมึงมั้ย โกรธมากบ้าบออออ”



                “อยากแดกก็สั่ง”



                อีแจ็คกวาดตามองรอบโต๊ะ ก่อนจะทำตาโต



                “เฮ้ย น้ำเดือดปุดๆ แล้วเนี่ยยยย เทรนดิ บ้าบอออออ” อีแจ็คส่งเสียงร้องอย่างตกใจก่อนจะชี้ๆ ไปที่หม้อชาบู พวกเราเลยมองหาเทรนที่ว่ากันเลิ่กลั่ก



                “อะไรของมึงวะเทรน กูจะรู้มั้ยย” 



                “Train ก็ลดไฟไงอีโง่”



                “นั่นมันรถไฟ! มุกมึงล้ำหน้าประเทศไทยแล้วโว้ย”



                “เอ้าอีสัด นึกว่าใช้ได้เหมือนกัน เออลดความร้อนลงหน่อย เดือดขนาดนี้ เดี๋ยวผักก็ยุ่ยเป็นเนื้อเฮียดุกแล้วจะยุ่ง” ผมที่อยู่

ใกล้ปุ่มสุดก็กดสองสามทีตามที่มันบัญชา



                “แจ็คกูยังไม่ตาย” เฮียดุกมองตาขวาง มือขวายังถือตะเกียบค้างไว้อยู่เลย



                “อ้าวหรอ”



                “ฮ่าๆๆๆ”



                เสียงเพื่อนผมหัวเราะกันลั่นร้าน เฮียดุกที่เคี้ยวผักต้มอยู่แทบจะคายทิ้ง ไอ้หมูก็หัวเราะจนตบหลังผมตุ้บตั้บ อีแจ็คยกมือเรียกพนักงานชายแต่เห็นว่าหล่อเลยแอ๊วเค้า กว่าจะได้สั่งก็หลายนาทีถัดจากนั้น



                ความวุ่นวายตรงหน้านี้ทำให้ผมหลุดหัวเราะเบาๆ



                …ขอบใจนะพวกมึง...



                “ยิ้มอ่อนไรมึงเนี่ยอีเขา เมื่อเช้าไม่ได้ขี้หรอ”



                เออ!!!!



 [ต่อหน้าถัดไปค่ะ]
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 09-02-2018 08:23:23
[ต่อจากหน้าที่เเล้วค่ะ]



                วันนี้ผมมีเรียนแค่ตอนเช้าเลยมีเวลานั่งกินชาบูกับเพื่อนๆ ค่อนข้างนาน ส่วนคุณชายเห็นบอกว่านัดเพื่อนทำพรีเซ้นท์ตอนบ่ายที่ใต้คณะอักษรฯ รู้แบบนั้นแล้วปฏิบัติการบอกชอบใครให้พูดตรงๆ ก็กลับมาอีกครั้ง คราวนี้ผมเตรียมซ้อมทำมินิฮาร์ทมาอย่างดี ไม่พลาดแน่นอน



                หลังจากที่แยกย้ายกับเพื่อนแล้ว ผมก็แบกกีตาร์ไปด้อมๆ มองๆ ที่ใต้ตึกคณะอักษร เอ...ไม่เห็นมีคุณชายหรือกลุ่มเพื่อนๆ ของพี่ท่านเลย



                “อุ๊ยยย เด็กดุริยางค์มาอีกคนแล้วว่ะ”



                “เท่ว่ะมึง แบกกีตาร์มาเหมือนกันด้วย แต่คนนี้กีตาร์ยาวเท่าตัวเค้าเลยอะ”



                “อีบ้า ตัวเล็กแต่เท่ให้อภัยได้”



                เดี๋ยวนะ พวกมึงเปงใครรรร มึงด่ากูว่าเตี้ยเถอะสังคมมม ผมพูดในใจแต่ก็ยิ้มแหะๆ ออกไป ทำไงได้...ใต้ตึกนี้มีแค่ผมที่แบกกีตาร์นี่ครับ แถมยังแต่งตัวไม่เหมือนชาวบ้านเค้าอีก พอเห็นท่าไม่ดี ไอ้เขาแห่งดุริยางค์เลยต้องขอหลบไปก่อน



                ผมเดินเลาะมาทางสวนหลังคณะเพื่อมาหาที่นั่งระหว่างรอคุณชาย เท้าก้าวไปข้างหน้า ปากก็ยิ้มด้วย ก็ผมดีใจนี่ นึกถึงหน้าพี่ตาณทีไรแล้วอยากยิ้มทุกทีเลย บ้าบอแน่ๆ เลยไอ้เขาเอ๊ยยย



                ตู้หูววว แค่เห็นทางเข้าก็ร้องโหแล้ว บรรยากาศคณะอักษรนี้โคตรดีเลยครับ ตรงกลางลานมีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขามาก มันคงผลัดใบเพราะตรงพื้นนี้มองไปทางไหนก็เห็นใบไม้สีเหลืองเต็มไปหมด



                เอ๊ะ เสียงกีตาร์มาจากไหน



                ผมกระดิกหูตามเสียงกีตาร์ไป เรื่องดนตรีนี่อย่าให้บอก ผมหูเทพ



                “เฮ้ย ไอ้ปั๊ม!”



                “พี่เขา!”



                “มึงมาทำไรที่นี่วะเนี่ย”



                ผมมองไปรอบๆ แล้วก็พบว่าที่นี่ไม่มีคนมากนัก มีสองสามคนที่นั่งคุยเล่นกันอยู่ตรงโน้น นอกนั้นก็มีไอ้เด็กดุริยางค์รุ่นน้องที่นั่งกอดกีตาร์อยู่ตรงนี้อีกคนนึง



                “พี่ขาววววว....พี่หายไปไหนทุกวันนน ผมรอพี่ที่ห้องกิจฯ ตลอดเลย”



                “ไอ้เชี่ยมึงจะร้องทำไมวะ” แล้วก็พูดเหมือนกูเป็นพี่มาก พระโขยง เอ๊ย พระโขนง ผมตบกบาลมันก่อนจะนั่งลง วางลูกรักไว้บนโต๊ะหินอ่อนอย่างเบามือ เมื่อกี้ทำโขกกับเสาไปทีนึง ต้องระวังหน่อย



                “ก็พี่แม่งโกหกผม ไหนบอกจะช่วยผมซ้อม นี่มันก็ใกล้เข้ามาแล้วนะเว้ย”



                “เฮ้ยๆๆ อย่ามาซบกู๊ววว ว่าแต่มึงมาหาที่ซ้อมไกลถึงขนาดนี้เลยหรอวะ”



                “ก็ใช่ดิ ห้องกิจฯ โดนสวรรค์รำไรยึดไป ผมเลยต้องหาที่ซ้อมใหม่ เพื่อนผมที่เรียนอักษรมันเลยเสนอที่นี่มา เงียบไม่มีคน”



                “เออจริง วังเวงอีกต่างหาก”



                “แล้วพี่อะ มาทำไร”



                “กูหรอ...มาหาคุณชาย” พูดถึงแล้วก็ต้องอมยิ้มเบาๆ เขิงเวอะ...



                “คุณชาย?”



                “แฮ่ม ก็คุณชายไง ไม่รู้ป่านนี้ไปไหน” ว่าแล้วผมก็ชะเง้อคอมองด้วย ถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่โทร อ๋อ ผมไม่เติมตังค์โทรศัพท์ครับ เดี๋ยวนี้มันยังมีบริการออกให้ก่อนรึเปล่าก็ไม่รู้นะ



                “พี่”



                “เฮ้ย” ผมตกใจเมื่อไอ้ปั๊มมันทำหน้าบึ้ง แถมยังจับคางที่ผมหันไปมามามองที่มันอีกด้วย “จับไมเนี่ย” ผมปัดมือมันออก



                “พี่คุยกับผมก็มองแต่ผมสิ” ทำไมวันนี้มันเคร่งขรึมเเปลกๆ



                “อะไรของมึงวะ เออ เอาเถอะ ตกลงมึงจะเล่นเพลงอะไร”



                “พี่ ผมว่าจะเปลี่ยนเพลงอะ เห็นหน้าพี่แล้วอยากเล่นเพลงนี้เลย”



                “ไอ้เชี่ยปั๊ม อย่าเล่นเพลงธรณีกรรแสง มุกเก่าสัด”



                “รู้ได้ไงวะ ล้อเล่น! ผมไม่เล่นเว้ยพี่ อะ...เพลงนี้ตั้งใจฟัง” ไอ้ปั๊มทำเสียงเข้ม พร้อมกับสีหน้าจริงจัง นิ้วมือมันจับคอร์ดอย่างชำนาญเหมือนกับว่าเพลงนี้เป็นเพลงถนัด



                โน้ตเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ของเพลงนี้ปล่อยออกมาช้าๆ มันเป็นความคุ้นเคยที่เด็กวัยรุ่นหลายๆ คนคงจะร้องตามกันได้ ไอ้ปั๊มเล่นโดนไม่มองคอร์ดแต่สายตามันมองมาที่ผมแทน ผมมองมันอย่างแปลกใจเช่นกันเมื่อได้ยินเสียงทุ้มคลอมาตามเสียงกีตาร์ ก็ไม่คิดว่ามันจะร้องเพลงหรอก...มันเหมือนๆ กับผมที่ถนัดแค่กีตาร์แต่เรื่องร้องนั้นไม่เอาไหน



                “คิดอยู่ ว่าต้องทนไว้

                จะทุกข์จะทนเท่าไร ความรักจะพาหัวใจไป

                คิดเอง ว่าต้องทนไว้

                แต่ยิ่งทุกข์ยิ่งทนเท่าไร ความรักที่มียิ่งหายไป”



                ทำไมมึงถึงต้องจ้องกูขนาดนี้วะเนี่ย ไอ้ผมก็เริ่มทำตัวไม่ถูกเลยได้แต่ผงกหัวตามทำนองไปอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ในใจ กลับคิดว่าที่หน้าผมมีอะไรติดหรอวะ จ้องจัง



                “จะโทษดิน จะโทษน้ำ จะโทษเดือนและดาว

                กับเรื่องราว ที่ปวดร้าว ที่เธอมาทำแล้วหนีไป

                 ฟ้า ถ้าไม่ส่งมาให้เธอมีใจ

                บอกกันซักคำเป็นไร...”



                “อ้าวน้องเขา...” จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง ผมรีบหันขวับไปทันที และเป็นเวลาเดียวกับที่เสียงของไอ้ปั๊มแผ่วลงจนเงียบไป



                “เอ่อ...”



                “มาเล่นกีตาร์ที่คณะพี่เลยหรอครับน้องงง”



                “หวัดดีครับพี่...” ผมยกมือไหว้แต่ไอ้ปั๊มหน้านิ่ง ดูเหมือนมันจะมองคนมาใหม่ตาขวาง คนที่ยืนค้ำหัวพวกเราสองคนเป็นเพื่อนคุณชายครับ แต่ผมจำชื่อไม่ค่อยได้... อันที่จริงเเล้วหน้าตาไม่หล่อเลยไม่อยากจำ



                “พี่ชื่อบิ๊กไง ที่เราเจอกันใต้ตึกเมื่อวันนั้น”



                “อ๋อออออ พี่นั่นเอง....พอดีผมมารอพี่ตาณอะครับ เห็นบอกว่ามาทำงานกับพวกพี่”



                “ตาณ อ๋อ ไอ้คุณชายอะนะ มันเดินไปข้างตึกนู่นอะ ทำงานเสร็จเมื่อกี้เอง ไปไหนไม่รู้มัน ลองไปตามหามันดู”



                พี่บิ๊กเลิกคิ้วเมื่อเห็นสายตาไม่พอใจส่งมาจากไอ้ปั๊ม ก่อนจะหันมาสลับกับผม



                “นี่น้องผมเองครับ” แนะนำซะหน่อยเดี๋ยวเสียมารยาท



                “อ๋อ น้องงงงง” พี่บิ๊กลากเสียงยาว ไม่รู้ว่าผมหูฝาดไปรึเปล่า เพราะได้ยินเสียงจิ๊ปากมาจากไอ้ปั๊ม ไอ้เด็กนี่วันนี้มันเป็นอะไรวะเนี่ย



                “น้องเขา พี่ไปก่อนนะกลับล่ะ ง่วงว่ะ รีบไปหาไอ้คุณชายของเขาล่ะ เผื่อมันตามหา”



                “ครับพี่”



                พอได้ยินแบบนั้น ผมก็ใจเต้นแรงขึ้นมาอีกระลอก ผมรีบสะพายกระเป๋ากีตาร์แล้วบอกลาไอ้ปั๊มทันที



                “ปั๊ม ไว้กูมาฟังมึงซ้อมใหม่”



                “ไปไหนอะพี่! พี่เขา พี่จะกลับมามั้ย!”



                “คงไม่กลับแล้วว่ะ ไว้เจอกัน!”

 





                ผมรีบเดินไปตามทางที่พี่บิ๊กชี้เมื่อกี้ ใจเต้นตึกตักไม่รู้ว่าเพราะรีบวิ่งมาหรือเพราะพี่ตาณก็ไม่รู้ แต่คิดว่าคงจะสองอย่างนั่นแหละ ผมชะลอฝีเท้าพร้อมกับลองทำท่ามินิฮาร์ทอีกครั้ง อือหือ สวยใช้ได้ ครั้งนี้แหละไม่พลาดแน่!



                นั่นไง ข้างตึกนั้นไม่มีใครเลย อาจจะเป็นเพราะอยู่ในมุมอับเลยไม่มีใครผ่านมาทางนี้ ผมเห็นแผ่นหลังพี่ตาณแล้ว มือข้างขวาของคุณชายกำลังถือโทรศัพท์แนบหูอยู่ ผมควานหาโทรศัพท์ตัวเองทันทีแล้วพบว่าไม่เห็นมีสายเข้าเลย



                “พี่!”



                คุณชายชะงักพร้อมกับหันหลังมา มือขวาที่กำโทรศัพท์ลดลงช้าๆ



                “มอมแมม”



                ตึก ตึก ตึก



                “บอกให้รอพี่คณะไม่ใช่หรอ” พี่ตาณทำเสียงดุอย่างไม่จริงจัง ผมเลยได้แต่หัวเราะแหะๆ กลับไป



                “ผมมีเรื่องอยากจะบอกพี่...เลยอยากมาหาพี่เอง”



                “หืม เมื่อเช้าหายงอแงแล้วหรอเราอะ”



                “หายแล้วครับ” ผมเม้มปากก้มหน้ามองพื้น ความร้อนพวยพุ่งเต็มพวงแก้ม



                “แล้วจะบอกอะไรถึงได้รีบมาที่นี่” คุณชายขยับตัวมาใกล้ ใบหน้าหล่อเหลานั้นก้มมองผม รู้ตัวเลยว่าสั่นไปหมด แบบที่ไม่เป็นตัวเองเลย ปลายเท้าผมจิกพื้นรองเท้าแน่น ส่วนมือก็กำขากางเกงไว้



                ไอ้เขาตัดสินใจแล้ว วินาทีนั้นเองเสียงไอ้หมูก็ลอยเข้ามาในหัว



            “นี่แหละมินิฮาร์ท ไม่ต้องซื้อแต่แสดงความรักได้ดีที่สุด อันที่จริงแค่มึงชูนี่นะ เค้าก็เข้าใจแล้ว”



            ผมขยับนิ้วจากจีบหงายให้กลายเป็นมินิฮาร์ทช้าๆ ก่อนจะยืดแขนจนเหยียดตึงไปด้านหน้าทั้งๆ ที่ก้มหน้าอยู่แบบนั้น



                “นี่ผมให้พี่…”



                “หึหึ มอมแมมเอ๊ย...” เสียงหัวเราะคุณชายดังมาแว่วๆ พร้อมกับฝ่ามือที่วางบนหัวผม



                “พี่...ผม...” ผมกำลังจะเงยหน้าขึ้นแต่ทันใดนั้นก็มีเสียงใครคนหนึ่งที่มาพร้อมกับเสียงฝีเท้า



                “คุณชายคะ!...ฮือออออ”



                ร่างบางของเธอคนที่มาใหม่นั้นเบียดผมจนเซ มินิฮาร์ทที่มือค่อยๆ หลุดออกจากกันช้าๆ



                “เรนนี่” พี่ตาณดูจะตกใจที่เธอคนนั้นวิ่งเข้ามากอดตัวเองพร้อมกับร้องไห้ “เป็นอะไร”



                “ฮืออออออ”



                พี่เรนนี่ที่ผมเคยเห็นไกลๆ ในวันนั้นยืนกอดพี่ตาณอยู่ตรงนี้



                แล้วผมล่ะ...อยู่ตรงไหน?



                “เค้าใจร้ายกับเรนอีกแล้ว”



                “ใจเย็นๆ นะ” พี่ตาณยกมือมาลูบหลังเธอเบาๆ ผมมองตามแล้วเหมือนจะหายใจไม่ออก สายตาเศร้าของคุณชายมองคนในอ้อมกอด ก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาขอร้อง ในเเววตานั้นมีความกังวลพาดผ่านมาให้ผมเห็นเเวบหนึ่ง



                “ไปนั่งตรงนู้นรอก่อนนะ”



                ผมไม่ได้ตอบอะไรแต่หมุนตัวกลับไปทางเดิมที่เข้ามา หางตาเห็นพี่ตาณทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างกับผมแต่เพราะความปวดหนึบในใจมันโจมตีผมอย่างแรงกล้า ผมบังคับสายตาให้มองแค่ทางเดิน ท่าทางดูเหมือนไม่เป็นอะไรแต่ในใจนั้น...



                เฮียติวววววววว เขาอกหักอีกแล้ว เขาอยากหาพ่ออออออ



                ฮือ ไอ้ภูเขาคนโง่อกหักอีกครั้ง แล้วดูเหมือนว่าจส.100 คงจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ไม่รู้ทำไมพอนึกถึงหน้าเศร้าๆ ของคุณชายก่อนจากมาแล้วผมเจ็บหัวใจมากกว่าเดิม



                ไม่อยากให้พี่เศร้าเลย



___________
ไม่รู้จะพูดยังไงดีกับการหายไปครั้งนี้
ขอเรียกมันว่า การปรับตัวเเล้วกันเนอะ
ทำงานที่ใหม่เเล้ววิถีทุกอย่างมันไม่เหมือนกับที่เคยทำ
ดังนั้นเเล้วเลยจะเเจ้งว่าจะช้าหน่อยนะคะ
ขอบคุณมากเลยที่รอกัน เรานึกถึงคนอ่านเลยฮึดขึ้นมาได้อีก
เเต่เนื่องจากอะไรหลายๆ อย่าง ก็เลยต้องขอโทษทุกคนล่วงหน้าเลย

ส่วนตอนนี้พบคนอกหักสองอัตรา โดยเฉพาะเขาเด็กบ้าที่อกหักได้น่าเอ็นดู
ปล.เรื่องนี้ยังเป็นนิยายขบขันเหมือนเดิมนะ5555
เเล้วพบกันใหม่ค่ะ #คุณชาย2017

ลืมไปคราวที่เเล้วมีคนเดาถูกว่ามันจะต้องพูดตรงๆ 55 เราก็คงจะเล่นต่อไป


หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 09-02-2018 08:48:44
คือน้องเขานี่ก็เพี้ยนได้โล่มากอ่า แอบสงสารคุณชาย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 09-02-2018 09:57:02
มีคนเข้าใจผิดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 09-02-2018 10:02:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-02-2018 11:32:50
เขา ไม่ใช่ว่าตอนหน้าแกจะพูดกับคุณชายว่า "ตรงๆ" หรอก ใช่ไหม 55555

แม่นมากกกกกกกกกก ถูกหวยไปเลย ๓๐ ล้าน

เรื่องนี้ ขำจริงๆ อ่านไปหัวเราะไป

แต่พอตอนท้ายน้ำตาซึมเลย
โธ่เขา..............เขลาจริงๆ พูดไปได้  "ผม......ตรงๆ พี่ครับ!!!”
มันไม่เข้ากับเรื่องที่จะบอกชอบเลย  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:
พูดเป็นล้านครั้ง ใครก็ไม่เข้าใจ
ก็คราย มันจะไปรู้ล่ะ...♬。 ♫♫~♬ ♫~ ......ก็ครายมันจะไปเข้าจาย.....♬ ♫ ♬ ♪ ♩ ♭ ♪ 

ท่าทางเขาจะอกหักจริงๆ
อาจหลบลี้ หนีหน้าคุณชายไปเลย   :serius2:
พี่ตาณ  ภูเขา   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 13 ห้ามอะไรก็ห้ามได้... p.7 [19-1-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 09-02-2018 12:21:28
ไม่รู้จะสงสารใครดี
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 09-02-2018 17:25:30
โอ๊ยโดนขัด  :mew2:  คิดถึงเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 09-02-2018 18:13:15
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยย นุงเขาลูก หนูจะพูดแต่ตรงๆไม่ได้ :m20:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 09-02-2018 18:58:58
โอ้ยยย นุ้งเขาของพี่ โอ๋ๆนะลูกนะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-02-2018 19:01:40
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 09-02-2018 19:14:47
โถ เอ็นดูน้องเขานะ :mew4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 09-02-2018 20:24:59
ไม่รู้จะนิยามตัวเขาออกมายังไงอะ... จริงๆนะ คือมัน.. หาคำมาบัญญัติตัวเขาไม่ได้จริงๆ 555555555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Jintajam ที่ 09-02-2018 21:18:09
ว่าแล้วมุกนี้ต้องมาา แล้วเมิ่อไหร่จะได้คบกัน หะ นังเขานังเด็กซื่อ  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 09-02-2018 21:53:23
ว่าแล้วเขามันต้องพูดว่าตรงๆ ฮือเครียดเลย ปวดหัวแทนคุณชายในอนาคตเลยค่ะ
ใจเย็นๆนะเขา เชื่อเราว่าคุณฃายกับเรนนี่ไม่มีอะไรกัน อย่าเศร้าไปปปป
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 09-02-2018 22:55:16
 :katai1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 10-02-2018 01:15:51
โอ๊ยยย เขาาาาา
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-02-2018 02:30:24
เอาน่า เขา อกหัก 2 ครั้ง  มันเป็นภูมิต้านทานความรักอย่างดีเชียวนะ คราวหน้ารอสารภาพรักใหม่นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 10-02-2018 06:15:00
ใครจะไปเข้าใจตรงๆ ของภูเขา หืมๆๆ เอ้าเรนนี่มาไม คาน
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 13-02-2018 22:29:42
น้องเขาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 14-02-2018 03:08:01
โอ้ยยยยย นุ้งเขาาาา ซื่อไปอีกก  :m20:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 14-02-2018 09:30:07
น้องเขาลูกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 14-02-2018 17:32:04
 :jul3:ปวดใจไปกับน้องเขา จริงๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 17-02-2018 19:07:13
ฮาความเขาอ่ะ ไปบอกเขาว่าตรงๆ ชาตินี้ก็ไม่เข้าใจหรอก แอบสงสารคุณชายเบาๆ

ตอนหน้าจะมีมาม่าป่าวเนี้ยยยย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 20-02-2018 17:07:45
ขอสักดอกนะ "อิเขา อิโง่วววว!!!!" โอ้ยยย คุณพ่อควรซื้ออะไรมาบำรุงสมองลูกบ้างนะคะ นี่ไม่ได้เรียกซื่อแล้วมันเข้าขั้นบื้อแล้วค่ะ รำคาญ!!! ส่วนคุณชายตาณอะไรยังไงคะ สายตาเศร้านี่หมายความว่าไง แอบรักเพื่อนเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นคุณชายควรเคลียร์ตัวเองก่อนเนอะแล้วค่อยมาเคลียร์กับนังเขาต่อ

ปล.เอฟซีเฮียทิวค่ะ อยากได้เฮีย ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 21-02-2018 02:01:38
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 25-02-2018 22:19:38
อิเขาาาาาาา อิบร้าาาา   ฉันว่าเฮียทิวควรซื้อน้ำมันปลามาให้แกกินจริงๆจังๆแล้วล่ะ   บอกตรงๆ  ตรงๆๆ  อิบร้าาา  ขรรมอ่ะ  ใจบางเป็นหมูสไลด์
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: yewlyz ที่ 26-02-2018 18:18:29
ปวดหัวกับเขาโคตรรรร เขาโว้ยยยยยย  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-03-2018 23:39:51
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 09-03-2018 11:33:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 09-03-2018 23:41:27
คิดถึงเรื่องนี้  :mew2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 10-03-2018 01:17:57
อ่านแล้ว เขา นี่มุงอกหัก หรือ เอาฮาา อิหอยขม

ปรับอามรมณ์ไม่ทันมุงเลยค่ะ เปลี่ยนฟิลเร็วยิ่งกว่า 4G
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 10-03-2018 11:23:15
นังเขา นังโง่ววว ไม่รู้จะว่ายังไงงงง  :laugh:
สงสารคุณชายนะคะ แทนที่จะได้ฟินตอนนังเขาสารภาพรัก ดันไม่เข้าใจ  :m20:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 14 ห้ามยืนอยู่คนเดียว p.7 [9-2-18]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 11-03-2018 08:24:58
 :L2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 19-03-2018 22:04:11
https://www.youtube.com/watch?v=BXq44o9Rx3M


ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง



                “เขา มึงรู้เรื่องคุณชายมั้ยวะ!!”



                “...”



                “อีเขา”



                “...”



                “ทำไมบ้านมืดงี้เนี่ย กูรู้ว่ามึงกลับมาแล้ว เขา”



                “...”



                “เฮ้ย! ผีจับขา!”



                “กู เอง”



                “โอ๊ยยยยยยยยยย มึงมานอนอะไรตรงนี้ถ้าเกิดกูเหยียบมึงไส้แตกทำไง แล้วสวิตซ์ไฟอยู่ไหนวะ”



                พรึ่บ!



                เสียงเสื้อผ้าเสียดสีกันผ่านตัวผมไปไม่นาน แสงไฟจากหลอดนีออนก็สว่างทั่วห้อง มันสว่างจนผมที่นอนมองเพดานในความมืดแสบตา แสบจนน้ำตาจะไหลเลย ฮึก และทันทีที่เห็นผม อีแจ็คที่ยืนค้ำหัว ทำตัวใหญ่บังแสงไฟให้ผมก็ร้องลั่น มันทรุดตัวเขย่าไหล่ผมประหนึ่งกูเป็นตุ๊กตายัดนุ่น



                “อีเขาเพื่อนกูวววว มึงทำไมทำร้ายตัวเองอย่างนี้ ฮืออออออออ”



                “ปล่อย ปล่อย กู ยัง ไม่ ตาย”



                “แล้วมึงเอาผ้าห่มมาพันตัวเป็นศพทำไมเนี่ย”



                “ก็กูหนาวอะ” ผมตอบเสียงสะบัดก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง โดยยังมีผ้าห่มสีตุ่นคลุมหัวเหมือนเดิม อีแจ็คเลิกเขย่าตัวผม มันทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ก่อนจะหยิบกล่องข้าวในถุงผ้าที่สะพายอยู่ยื่นมาให้



                “ร้อนจะตายห่า อะ แม่เอาข้าวผัดน้ำพริกกะปิมาให้ ค่ำแล้วก็หมกตัวเป็นเชื้อโรคบนพื้นอยู่ได้ บ้าบอ”



                “ขอบใจ” ผมรับมาแล้วเอ่ยขอบใจเบาๆ นี่กูอกหักหรือกูเป็นซอมบี้ รู้สึกไม่มีสมอง ถุ้ย!



                “พูดแค่เนี้ย เอ้...มึงแปลกๆ นะ ปกติมึงต้องด่ากูกลับนี่”



                “กูไม่มีอารมณ์ด่าใครทั้งนั้น”



                “แปลกจริงด้วย เรื่องของมึงเถอะ เออ...กูมีเรื่องจะถาม...” อีแจ็คทำท่าสงสัยผมได้ครู่หนึ่ง จู่ๆ มันก็เปลี่ยนท่าทางเป็นขี้เผือกทันที



                “ถามไร”



                “คุณชายตอนมาส่งมึงเค้าพูดอะไรป้ะ”



                “ส่งอะไรวันนี้กูกลับเอง” ไม่สิต้องบอกว่าผมหนีมาต่างหาก



                “เป็นไปได้ไงวะ คุณชายให้มึงกลับเองด้วยหรอวะ ถ้างั้นมึงก็ไม่รู้เรื่องอะดิ”



                “มึงอย่าพูดถึงคุณชายให้กูได้ยิน” ยิ่งพูดยิ่งช้ำ ผมเสมองพื้นไปเรื่อย อีแจ็คปฏิเสธคำขอของผมเสียงดังก่อนจะหน้าผมให้หันมาจ้องตากับมันนิ่ง



                “ไม่ได้! มึงต้องฟังกูเม้าธ์ก่อน คืองี้เว้ย ตอนบ่ายๆ มีคนเห็นยัยเรนเน่าไปหาคุณชาย ร้องห่มร้องไห้ใหญ่เลย...ปิดหูทำไมเนี่ยย ฟังงง”



                ไม่อยากฟัง “เจ็บ” ผมบอกอีแจ๊ค



                “มึงเจ็บตรงไหน”



                “กูเจ็บตรง...”



                “..”



                “...นม”



                “โอ๊ยยยย มะเร็งเต้านมแดกแล้วมั้ง อย่ามาทำให้กูเปลี่ยนเรื่อง ถึงมึงไม่อยากฟังกูก็จะเล่า ต่อจากนั้นนะเว้ย แฟนนางก็มาตามที่สวนหลังตึก ทะเลาะกันยกใหญ่ มึงคิดดูดิ เอาจริงๆ กูเข้าใจนะเว้ย คุณชายปฏิเสธนางไม่ลงหรอก สุภาพบุรุษขนาดนั้น แต่คุณชายของแรร์ของคณะกูต้องมาเป็นแค่ที่รองรับปัญหาของแฟนเก่าหรอวะ บ้าบอมากเว่อร์”



                ผมชะงักทันที



                “สายกูเล่าให้ฟังว่า คุณชายช่วยพูดให้เรนเน่านั่นไปปรับความเข้าใจกับแฟนนาง โอ๊ยยย พ่อเทพบุตร ต้องช้ำใจขนาดไหนอะ ตอนโดนทิ้งนี่ก็ใยดีซักนิด พอมีปัญหาแบบนี้ก็กลับมาซบอกคุณชาย คุณชายต้องรู้สึกแย่แค่ไหน”



                “แล้ว..แล้วคุณชายเป็นยังไงบ้างวะ” ผมรีบถามทันที



                “แหนะ สนใจแล้วสิ”



                “กูอยากรู้ว่าคุณชายเป็นยังไงบ้าง”



                “คุณชายนี่หน้าเศร้าเลยเว้ย แต่อีดาร่ามันบอกว่าคุณชายตอนที่คุณชายส่งยัยเรนเน่าให้ไปคุยกับแฟนนางแล้ว คุณชายก็หันกลับมายืนนิ่งอยู่คนเดียว เหมือนจะมองหาอะไรซักอย่างแต่หน้าโคตรเศร้าเลย ดาร่ามันถึงกับหลั่งน้ำตาเพราะความสงสารคุณชายเลยนะเว้ย”



                “ไอ้พวกคนใจร้าย” ผมกัดปากตัวเองแน่น ใจร้ายที่สุด



                ผมคิดถึงคุณชายขึ้นมาจับใจ ทำไมคนพวกนั้นถึงได้ใจร้ายกับพี่ขนาดนี้ แล้วทำไมตอนที่คุณชายบอกให้รอผมถึงไม่รอนะ คุณชายอาจจะต้องการใครซักคน ไอ้เขาโง่! มึงมันโง่จริงๆ ตอนที่คุณชายเศร้าอยู่ ทำไมมึงถึงหนีมา ไอ้ขี้ขลาดกับอีแค่อกหัก มึงถึงทิ้งคุณชายมาได้ลงหรอวะ



                แค่นึกภาพคุณชายยืนอยู่คนเดียวแบบนั้น... ความรู้สึกบางอย่างก็ตีตื้นแทรกความเศร้าเข้ามา และ...ไอ้เขาคนโง่ไม่กลัวการอกหักอีกต่อไป จะอกหักยังไงผมก็ไม่สนแล้ว ผมสนแค่ความรู้สึกของพี่ตาณเท่านั้น ในสมองมีแต่คำถามวิ่งวนไปมา ทำไมผมถึงไม่อยู่กับคุณชาย



                ทำไมไอ้คนโง่คนนี้ถึงปล่อยให้พี่ตาณเศร้าอยู่คนเดียว



                “แจ็คเดี๋ยวกูมา ปิดบ้านให้กูด้วย!”



                “เฮ้ยอีเขา จะไปไหน!!”



                “ไปหาคุณชาย”



                “เออ รีบๆ ไป เค้ารอมึงตั้งนานอีเพื่อนเด๋อ!”



                ตะโกนอะไรของมัน กูรีบ!

               







                ผมบิดเวสป้าอย่างไม่คิดชีวิต ภาพในหัวผมคือรถต้องแล่นฉิว ผมต้องปลิวสะบัดด้วยแรงลม แต่ในความเป็นจริงแล้ว เวสป้าก็ป้าสมชื่อ เสียงท่อดังอย่างเดียวเครื่องไม่แรงเลยวุ้ย ผมมาถึงหน้าบ้านคุณชายในเวลาสิบห้านาที พอมาถึงก็รีบพรวดพราดเปิดประตูรั้วบานเล็กอย่างรวดเร็ว



                พี่ตาณกลับมาแล้วแน่ๆ เพราะผมเห็นรถเต่าอยู่ไกลๆ อีกคันตรงหน้าบ้านไม่รู้ว่าเป็นของใคร ทั้งๆ ที่ตอนออกจากบ้านใจโคตรฮึกเหิม แต่ไม่รู้ทำไมพอมาถึง ใจกลับฝ่อ ไม่กล้าพออีกแล้วโว้ยยย



                พี่จะโกรธผมมั้ยที่ผมกลับมาก่อนก็ตอนนั้นผมอกหักนี่ ถึงพี่จะไม่ตรงๆ ผมแต่ผมก็รู้สึกแย่ที่ผมไม่อยู่ในตอนที่พี่ต้องการใครซักคน ในขณะที่พี่ยังอยู่ทุกช่วงเวลาที่ผมต้องการเลย นาทีนี้ผมจะละทิ้งความเจ็บปวดของตัวเอง...เพื่อรอยยิ้มของพี่ ไม่อยากเห็นพี่ทำหน้าเศร้าอีกแล้ว!



                ดราม่าดาวพระศุกร์ไปอีก



                ว่าแต่กูจะยืนงงในดงพุ่มไม้ทำไมฟะเนี่ย



                “อ้าว น้องเขามาทำอะไรตรงนี้”



                “...ลุงชัย หวัดดีครับ”



                “สวัสดีลูก วันนี้ไม่กลับมาพร้อมคุณชายหรอ นมแจ่มถามหาน้องเขากับคุณตาณ คุณตาณก็ไม่พูดไม่จา”



                “เอ่อ...ผมติดธุระน่ะครับ...ลุงชัยครับ พี่ตาณอยู่ไหนครับ”



                “อยู่ศาลานู่นล่ะ วันนี้คุณตาณเป็นอะไรก็ไม่รู้มีแขกแต่ก็ออกมานั่งคนเดียว น้องเขามาก็ดีเลย คุณตาณจะได้อารมณ์ดีบ้าง” ใจผมแทบจะบินตั้งแต่ที่ลุงชัยพูดว่าพี่แปลกไปแล้ว



                “ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”



                พี่ตาณกลับมาแล้วจริงๆ ด้วย ผมเดินเลียบพุ่มไม้เข้าไปใกล้ศาลา เห็นพี่นั่งหันหน้ามาทางประตูหน้าบ้าน ยิ่งเห็นพี่นั่งกอดกีตาร์โปร่งสีขาวหน้าเศร้า ผมยิ่งเร่งฝีเท้า



                “พี่!” ผมเรียกก่อนจะเดินขึ้นบนศาลาไปหยุดอยู่ตรงหน้าคุณชาย พี่ตาณเงยหน้าขึ้นช้าๆ ริมฝีปากสีสวยค่อยๆ เผยอออก



                “มอมแมม”



                “ผมเอง” ผมยิ้ม กลืนความปวดหนึบในใจลงไป



                “บอกให้รอทำไมกลับไปก่อน” พี่พูดเสียงแข็งแต่แววตาสั่นไหวเล็กน้อย คล้ายๆ กับว่า...ดีใจ



                แน่นอนว่าผมไม่ตอบ ตอนนี้อยากรู้อย่างเดียวว่า “พี่โอเคมั้ย”



                “แล้วทำไมต้องโอเค” พี่ตวัดสายตามามองผมอีกครั้ง พี่ตาณอย่าทำตัวเข้มแข็งเลยนะ ผมรู้พี่เจ็บ ผมระบายกับผมก็ได้



                “ผมขอโทษที่ทิ้งพี่ไว้คนเดียว” เพราะพี่เศร้าผมจึงเจ็บปวด



                “...” พี่ตาณไม่ตอบอะไร เอาแต่จ้องหน้าผมนิ่งๆ ระหว่างเราได้ยินเพียงเสียงลมกระทบใบไม้ดังมาเท่านั้น



                “...”



                “บอกให้รอ” เป็นคุณชายเองที่ทำลายความเงียบนั้นก่อน



                “...”



                “อยากให้รอ”



                “ผมขอโทษ” ไม่มีข้อโต้แย้ง ไอ้เขายอมรับผิดก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ พี่ตาณที่มองผมไม่วางตา “พี่...อยากระบายอะไรมั้ย” ผมพูด สบตาพี่ตาณนิ่ง ทั้งๆ ที่พูดเอง เจ็บเองก็เถอะ ตอนที่คุณชายมองพี่เรนนี่แล้วทำหน้าเศร้า ผมก็แทบไปไม่เป็นแล้ว



                คุณชายผ่อนลมหายใจเบาๆ ก่อนจะมองออกไปที่สระน้ำซึ่งสะท้อนไฟสีเหลืองนวลริมทางเดิน



                “เรนนี่เป็นแฟนเก่า”



                “ผมรู้แล้ว” ผมเสมองปลายเท้าตัวเอง



                “แต่ก่อนเราสนิทกันมากจนคิดว่ามันคือความรู้สึกดี เราเลยตกลงเป็นแฟนกัน เรามีความสุขกันดีจนกระทั่งวันนึงเรนนี่รู้สึกว่ามันไม่ใช่”



                “...”



                “แต่ก็นั่นแหละ เราจบกันด้วยดี เพราะลึกๆ แล้วเราต่างรู้ว่านั่นมันเป็นแค่ความรู้สึกดี ไม่ใช่ความรัก”



                “พี่ตาณ...”



                ไอ้เขาเซ้นซิทีฟน้ำตารื้น แสบจมูกขึ้นมาทันที



                “ร้องทำไมเนี่ย ไม่อยากเล่าให้ฟังก็เพราะแบบนี้” คุณชายขำ ใช้นิ้วโป้งปาดความชื้นที่หางตา ก่อนจะเลื่อนไปบีบต้นคอเบาๆ



                “ก็พี่เสียใจ ผมก็เลยเสียใจ ผมเป็นผู้พิทักษ์พี่ไง ลืมแล้วหรอ”



                “ก็คิดไปไกลแบบนี้ถึงไม่อยากบอก”



                “อะไรนะครับ”



                “ที่ฉันเสียใจเพราะนายจะเสียใจต่างหาก” พี่ลูบหัวผมแผ่วเบา ที่พี่เสียใจเพราะผมเสียใจงั้นหรอ



                “หมายความว่ายังไง”



                “เอาเถอะ สรุปว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับเรนนี่แล้วกัน วันนี้มีปัญหานิดหน่อยก็เลยเป็นอย่างที่เห็น เราเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น”



                “พี่บอกผมหรอ”



                “...ก็มีนายคนเดียวนี่” แววตามั่นคงจ้องมองมา ไอ้เขาอ้าปากน้อยๆ เพราะสมองขี้เลื่อยปั้นให้เป็นก้อนไม่ทันจึงประมวลผลช้าไปมาก คุณชายเห็นแบบนั้นจึงพูดย้ำอีก



                “ไม่ได้คิดอะไร ไม่เศร้าเพราะเรนนี่ด้วย เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว”



                “แต่อีแจ็คบอกว่าพี่เสียใจนี่ พี่เจ็บก็บอกผมได้นะ ผมยินดีรับฟัง”



                “ที่ฉันเสียใจน่ะ ก็เพราะนายไม่อยู่รอต่างหาก” พี่ตาณพึมพำพลางละมือจากท้ายทอยผม แล้วหันไปกอดกีตาร์แทน



                “แล้วพี่มานั่งทำอะไรตรงนี้ กับกีตาร์ตัวนี้ด้วย”



                “นี่หรอ” คุณชายมองตามก็จะอมยิ้ม “ก็เอามาหัดเล่น”



                “พี่อะนะ”



                “อืม ว่าจะเอาไว้ร้องเพลงสารภาพรักคนที่เล่นกีตาร์เก่งแต่ฉลาดน้อยอะ”



                ขณะที่พี่ตาณพูดนั้นเอง ผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินมายังศาลาริมน้ำ ผมหันหลังไปมองทางประตูบ้านทันที ตรงนั้นมีชายหญิงคู่หนึ่งยกมือไหว้คุณน้าก่อนจะกุมมือกันแล้วเดินตรงมาที่นี่



                “อยากฟังมั้ย” คุณชายเงยหน้าถามอีกครั้ง มุมปากจุดรอยยิ้มน่ามอง ผมถึงรีบละสายตาจากคู่รักคู่นั้น แล้วแกล้งกระแอมกลบเกลื่อนเมื่อพี่ตาณมองมา



                “อะ...เอ่อ ว่าไงนะครับพี่” ผมใจเต้นแรงเพราะไม่อยากให้พี่หันไปมองด้านหลัง คนสองคนนั้นที่กำลังเดินมานั่นคือพี่เรนนี่ ส่วนอีกคนคงจะเป็นแฟนของเค้า ท่าทางที่ดูรักกันมันยิ่งทำให้ผมไม่พอใจ จะตามมาเยาะเย้ยพี่ตาณหรือว่ายังไง หยุดทำร้ายความรู้สึกคนอื่นได้แล้ว



                ผมไม่ยอมหรอก ถ้าพวกเค้าจะมาทำให้พี่เสียใจอีก ไม่เอาอีกแล้วที่พี่จะต้องเจ็บอยู่คนเดียว



                ไอ้ภูเขา...ยอมเป็นคนอกหักครั้งที่หนึ่งล้านดีกว่าต้องปล่อยให้พี่เผชิญหน้ากับคนใจร้ายพวกนั้น



                “ถามว่าอยากฟังมั้ย จะเล่นให้ฟัง...”



                “พี่ตาณ พี่อย่าเล่นเลยเดี๋ยวเจ็บนิ้วเปล่าๆ” คุณชายเลิกคิ้วมอง เมื่อเห็นว่าผมคว้ากีตาร์โปร่งสีขาวมาถือไว้เอง น่าแปลกที่เด็กเพี้ยนอย่างผมมีประโยคนี้ขึ้นมาในสมองน้อยๆ



                พี่ครับ...อย่าหันไปหาความเศร้าอีกเลย



                “คุณชายคะ เรนจะกลับ...”



                ทันทีที่เสียงหวานๆ เอ่ยขึ้นจากด้านหลัง พี่ตาณกำลังจะหันไป แต่ผมยื่นมือไปจับมือพี่ไว้แน่น ก่อนจ้องหน้าพี่นิ่งๆ ส่งความอ้อนวอนผ่านแววตาของผม และพี่คงเห็นมัน...จึงหยุดมองผมอยู่อย่างแปลกใจ



                “ผมร้องไม่ค่อยเก่งนะพี่ แต่อยากให้พี่ฟัง” ผมผละมือออกก่อนจะเริ่มเล่นเพลงที่ผมถนัด หวังว่าพี่จะไม่หันไป... และถ้าพี่เสียใจ ผมจะไม่หนีไปไหนอีกแล้ว



                “Hey... แอบได้ยินได้ฟังว่าเธอเจ็บช้ำใจ

                พอได้รู้ฉันเลยต้องการจะถามไถ่

                พอเธอรู้ว่ารักที่เขาให้เธอนั้นเปลี่ยนไป

                เธอเลยเศร้าใจ”



                เด็กอย่างผม ไม่ค่อยมั่นใจเวลาต้องร้องเพลงนักหรอก แต่ผมอยากให้พี่ฟังนะ...อย่างน้อยก็ตอนนี้



                “Hey... แอบได้ยินว่าเขาทำให้เธอเสียใจ

                พอฉันรู้ ฉันเลยต้องการบอกสิ่งที่อยู่ข้างใน

                ในใจฉัน ... Hey...”



                พอร้องมาถึงท่อนนี้ พี่ตาณก็ยิ้มบางๆ แววตาทอประกายอย่างที่ผมไม่ค่อยเห็นมากนัก



                “จับมือฉันไว้ อย่ามองไปข้างหลัง

                จะบอกอย่างไรให้รู้ว่ามีฉัน

                จับมือฉันไว้ อย่ามองไปทางนั้น

                จะบอกอย่างไรให้รู้

                จะบอกอย่างไร จะทำอย่างไรให้เธอเห็น

                ฉันเป็นคนที่มีใจ ที่รอคอยอยู่ไม่ไกล

                จะบอกอย่างไร จะพูดอย่างไรให้เธอรู้...”



                กึก



                จู่ๆ คุณชายก็ขยับเข้ามาใกล้ ยื่นมือมาเชยคางผมขึ้น เพราะแบบนั้นนิ้วที่ดีดกีตาร์จึงหยุดชะงัก ตัวผมแข็งทื่อเมื่อใบหน้าพี่ตาณค่อยๆ เคลื่อนมาใกล้ๆ บรรยากาศรอบตัวเหมือนอยู่ใต้น้ำ ผมหูอื้อ ตาพร่าไปหมด คล้ายกับว่าผมเป็นนักกีฬาดำน้ำที่ไม่เก่งเอาซะเลย ผมรู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบาที่คลอเคลียตรงข้างแก้ม ก่อนที่ปลายจมูกของอีกคนจะเฉียดแก้มผมไปมา



                และ...เสียงกีตาร์เงียบลงไปนานแล้ว



                ผมลืมไปเลยว่าตัวเองนั่งอยู่ที่ไหน



                ไม่รู้ตัวว่าคู่รักเมื่อครู่เดินเลี่ยงไปตอนไหน



                ไม่รู้ว่ากีตาร์หลุดจากมือไปตั้งแต่เมื่อไหร่



                ไม่รู้ตัวว่าผมกำลังทำอะไรอยู่



                ผมไม่รู้อะไรเลย



                ทุกอย่างดูเบลอไปหมด



                แต่ชัดเจนที่สุดคงจะเป็น...คนตรงหน้านี้แหละมั้ง



                ผมมองการกระทำของคุณชายอย่างสับสน



                “เด็กโง่ ทำไมถึงคิดอะไรเยอะนัก” พี่ตาณอมยิ้มอย่างเอ็นดู เราสองคนสบตากันอยู่แบบนั้น จนกระทั่งมือข้างหนึ่งรั้งต้นคอผมให้เข้าไปใกล้ ใกล้จน...



                ริมฝีปากร้อนจัดของคนตรงหน้าแตะเบาๆ ตรงมุมปากผม



                ตึกตัก ตึกตัก



                เสียงแมลงตัวใหญ่เบอเร่อวิ่งชนหน้าอกผมจนเสียงดังหวั่นไหว มือไม้อ่อนแรงจนจับกีตาร์ไว้ไม่อยู่



                เดี๋ยวนะ นี่มันอะไรกัน...



                ผลัก!



                ผมเบิกตากว้าง สองมือดันอกพี่ตาณออกอย่างรวดเร็ว ใจเต้นระรัวอย่างกับกลองชุด



                “นี่แทนคำขอบคุณที่เป็นห่วงกัน  แต่ว่าห้ามคิดอะไรแบบนี้อีก” ประโยคแรกคุณชายพูดเสียงเบาก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงเข้มในประโยคถัดไป



                แต่ว่าทั้งหมดนี้...มัน



                “หมะ...หมายความว่ายังไง”



                 “บอกแล้วไง ฉันไม่ได้เจ็บปวดกับเรนนี่มานานแล้ว คนเดียวที่ทำให้เศร้าได้มีแต่ตัวมอมแมมนี่แหละ” คุณชายส่ายหน้าก่อนจะใช้นิ้วชี้เคาะบนหน้าผากผมเบาๆ



                “ผม...ไม่เข้าใจ”



                “ภูเขาเด็กโง่...”



                  คุณชายพูดเสียงอ่อนโยน และเป็นผมที่ชะงักงันเพราะไม่บ่อยนักที่พี่จะเรียกชื่อผม



                “...”



                “มินิฮาร์ทของนายน่ะฉันรับไว้แล้ว มันอยู่ที่นี่แล้วนายไม่มีสิทธิ์เอาไปให้ใครอีก ส่วนมินิฮาร์ทของฉันก็จะให้นายเหมือนกัน”



                พี่รับมินิฮาร์มผมไปแล้ว แล้วจะให้มินิฮาร์ทกับผม



                แสดงว่า...



                “พี่...ตรงๆ...ผมหรอ!” ทำไมนะ ถึงได้รู้สึกดีใจจนหางกระดิก



                “อืม”



                 อืม

                 อืม

                 อืม



                เฮียทิวครับ พี่ชายตาณตรงๆ ผม!



                ผมตาเบิกกว้าง อ้าปากค้างได้ไม่นาน  ความนุ่มหยุ่นบนริมฝีปากตัวเองก็ทำให้ผมหลุดจากภวังค์ ผมเห็นดวงตาของพี่ตาณชัดกว่าที่เคย แน่นอนว่าผมไม่กล้ามองนานมากนักจึงได้แต่หลับตาปี๋ ปล่อยให้ความรู้สึกคล้ายหวานเย็นเข้าจู่โจมในประสาทสัมผัส



                คราวนี้มันเหมือนกระแสไฟฟ้าแสนโวลต์ช็อตทั่วร่าง



                “นายตรงๆ พี่ พี่ตรงๆ นาย”



                “...”



                “ก็ถูกแล้วที่เราตรงๆ กัน”

 







                ผมยอมรับว่าการเกิดเป็นไอ้ภูเขาเนี่ย มันจะมีความป๊อดอยู่ในเลือดประมาณนึง และเพื่อหลีกเลี่ยงอาการเขินของตัวเอง ผมเลยหลบหน้าคุณชายมาเป็นเวลา เอ่อ หนึ่งคืนถ้วนครับ ก็ตั้งแต่ที่คุณชายมาส่งผมที่บ้านจนถึงเช้าวันนี้ ผมก็ยังซ่อนตัวอยู่ในผ้าห่ม เฮียทิวขึ้นมาปลุกและสรุปอาการว่าผมไม่สบาย แต่จะไม่ไปเรียนก็เรื่องของมึง พ่อว่างั้น



                คุณชายโทรมาสองสายผมก็ไม่รับ มันไม่กล้า มันเขิน มันฝัน มันอะไรซักอย่างที่บอกไม่ถูก ผมไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นนนน แค่นี้หน้าคุณชายก็โผล่มาทุกที่ที่ผมเดินแล้ว



                Rrrrrr Rrrrrr



                ชะอุ้ย สะดุ้งแทบสะดุดผ้าห่ม



                นมแจ่ม? มีเรื่องอะไรรึเปล่านะ ผมหยิบโทรศัพท์ที่ปลายเตียงแล้วคลานกลับเข้าไปในผ้าห่ม นมแจ่มมีเบอร์ผมไว้ตั้งแต่ช่วงที่ไปเป็นลูกมือนมแจ่มครับ เราใช้มือถือรุ่นเดียวกันเลยเป็นเรื่องเดียวที่คุยกันรู้เรื่อง ส่วนมากนมแจ่มจะโทรมาถามเรื่องการใช้มือถือนี่แหละ



                “ฮัลโหลครับนมมมม”



                “ให้เวลาอธิบายสิบวิ เรื่องที่นายกล้าเมินฉัน แต่กลับรับโทรศัพท์ของนม”



                เฮือก!



                เสียววาบไปทั้งตัว ผมอ้าปากค้าง เสียงเย็นๆ ของคุณชายกระชากสติผมไปตามสาย เมื่อวานยังพี่อย่างนู้นอย่างนี้อยู่เลย ทำไมวันนี้โหดอีกแล้ว คุณชายจะฆ่าผมมั้ยครับ ฆ่าให้ตายในความรักของ...



                (สิบ)



                เดี๋ยวมึงจะได้ตายจริงๆ ไอ้เขาเอ๊ย



                “พี่ครับ...คือว่า...”



                (เก้า)



                “ผม ผม...”



                ผมอะไรดีวะเนี่ยกู รู้อย่างเดียว ผมยังไม่พร้อมเจอหน้าพี่ตาณ ตั้งใจจะไปปลอบคุณชายแต่ดันได้มินิฮาร์ทที่ปากมาซะอย่างงั้น งืออออ หน้าร้อนแทบไหม้แล้วง่า



                (แปด เจ็ด หก ห้า สี่ สาม) แหน่ะ รัวไม่มีหยุดพัก



                “คือ...”



                (สอง จะลงมาดีๆ หรือให้ฉันขึ้นไปลากนายลงมา)



                เชี่ย



                มัจจุราชของจริง



                “ผม...ลงไปก็ได้ครับ”



                มันเป็นช่วงที่ยากลำบากต่อใจผม ไอ้ภูเขาค่อยๆ เดินลงไปชั้นล่าง หนึ่งก้าวต่อสองวิ ยิ่งเดินไปใจก็เต้นแรงทะลุอก มันจะตื่นเต้นอะไรขนาดนี้ครับ ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน



                แกร๊ก



                ผมเปิดประตูรั้ว พยายามไม่มองคนที่กอดอกและขมวดคิ้วอยู่ตรงหน้า คุณชายในชุดนักศึกษาสุดเนี้ยบยืนพิงรถมองผมอยู่ มองแบบที่ว่าทุกย่างก้าว นี่ขนาดไม่สบตาตรงๆ ยังรู้เลยว่า...สายตาเชือดเฉือน



                ผมก้มหน้า หลบตาคุณชาย ก่อนจะเอ่ยทักทายทำลายบรรยากาศอึมครึมตรงหน้า “พี่...มีอะไรรึเปล่าครับ”



                “เงยหน้า”



                อึก



                “พอดีผมนอนยาวไปหน่อยอะพี่ ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์เล..”



                “เงยหน้าเดี๋ยวนี้”



                น้ำเสียงเฉียบขาดจนผมสะดุ้ง มือไม้สั่น กลัวก็ส่วนหนึ่ง แต่เพราะเหตุการณ์สิบแปดบวกเมื่อวานวิ่งวนอยู่ในหัวตลอดเวลา และความร้อนมันเหมือนจะพุ่งทั่วไปหน้าตลอดเวลาเช่นเดียวกัน ความเขินจงออกไป ความเขินจงออกไป



                “เป็นอะไร” คุณชายถอนหายใจก่อนจะพูดเสียงอ่อนลง และนั่นทำให้ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้น



                “ไม่ได้เป็นอะไรครับ”



                พี่ตาณเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะวางมือไว้บนหัวผมแผ่วเบา “ไม่สบายหรอ” น้ำเสียงอ่อนโยนนั้นยิ่งทำให้ผมใจเต้น ยืนนิ่งไม่กล้าขยับเขยื้อน



                คุณชายเลื่อนฝ่ามือมาแนบไว้ตรงแก้มก่อนจะลูบเบาๆ สีหน้าคุณชายเป็นกังวลหมดคราบความหงุดหงิดเมื่อครู่



                “มอมแมมไม่สบายทำไมไม่บอก หน้าแดงหมดแล้ว”



                ดูเหมือนคุณชายจะเข้าใจว่าผมไม่สบายจริงๆ แต่ที่จริงๆ แล้วนั้น....พี่ตาณครับ ผมไม่สบายเพราะพี่นะ ผมแพ้ความอ่อนโยนนนนนนนน



                “ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ ครับ พะ...พี่..มาหาผมมีอะไรรึเปล่า”



                ทำไมทำตาดุขึ้นแบบนั้น ผมพูดอะไรผิดไปหรอ พี่ตาณเปลี่ยนท่าทางกะทันหันโดยการกอดอกและเชิดหน้าขึ้น ตรงแก้มมีสีแดงจางๆ พี่เม้มปากหนึ่งทีก่อนจะตอบออกสั้นๆ



                “มี”



                “มี?”



                “มีแต่เป็นห่วงเนี่ยพอจะมาหาได้มั้ย”



                อะ....งือ



                ไอ้เขาไม่สู้ความอ่อนโยนนี้จึงได้แต่ก้มหน้ากัดริมฝีปากล่างอยู่อย่างนั้น ได้ยินเสียงพี่ตาณหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะพึมพำว่าต้องไปหาหมอจริงๆ ซะเเล้ว ฮือ คุณชายทำไมถึงดีกับออเขาขนาดนี้



                “พี่ตาณ ผม...”



                “ไอ้เขา!! มึงมายืนบิดอะไรหน้าบ้าน ปวดเยี่ยวก็ไปเข้าห้องน้ำไป!”



                เฮียทิ๊วววววววววววว







-----------
คิดถึงทุกคนมากๆๆๆๆ เลย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 19-03-2018 22:29:46
เฮียทิวเขาจีบกันอยู่ไม่รู้เหรออออ 5555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 19-03-2018 22:54:23
เฮียคะ เขาแค่เขินลูกเขยเฮียอะค่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 19-03-2018 23:05:11
ในที่สุดเขาก็ตรงๆ กัน ภูเขาเอ๊ย อ่อนเพลียกับนายเอกเหลือเกิน แต่นางก็น่ารัก เอ็นดู
คุณชายเหงาเลยน้องทิ้ง ร้ายนะคุณชายเนี่ย

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 19-03-2018 23:08:42
555555555555555 คุณชายน่ารัก ภูเขาบ้าบอออออ เฮียทิวตัวขโมยซีน  :pigha2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 19-03-2018 23:31:48
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 19-03-2018 23:41:51
 :pig4: :pig4: :pig4:

อุต้ะ  คุณชายเข้าใจ "ตรงตรง"  ด้วยเว้ยเฮ้ย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 20-03-2018 00:10:27
โอ๊ย เฮียทิ๊ววววววว สุดๆอ่ะคนนี้ 55555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-03-2018 00:29:50
เอ่อมมม เฮียทิวมาได้จังหวะมากๆๆๆ :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 20-03-2018 00:48:34
จูบกันอีกแร้วววววววววววววว อิจฉานังเขาที้ได้พี่ตาณไป
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-03-2018 01:05:59
เฮียทิว ไม่น่าแทรกเลย แมน ๆ เขาจะจูบจะจีบกัน  :katai1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: marshall ที่ 20-03-2018 01:46:54
อาการเสี่ยว เพราะเบลอว่ารักแถบ ไม่ต้องหาหมอค่ะคุณชาย พูดบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 20-03-2018 07:26:31
โธ่ เฮียทิววว หมดมู้ดเลยอ่ะ โผล่มาผิดเวลาจริงจริ้งงงง
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 20-03-2018 07:59:03
 :pigha2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: sripaerrr ที่ 20-03-2018 09:42:37
คุณช๊ายยยยยยยยยยยยยย ยังอุตส่าห์เข้าใจ "ตรงๆ" ของนังน้องเขาอี๊กกกก  :jul3: :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 20-03-2018 10:11:58
 :jul3: :jul3: :jul3:  เฮียทิวมาาาา
มันดีต่อใจพี่ตาณกับน้องภูเขาเด็กโง่ตรงๆกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 20-03-2018 13:38:36
ใครๆก็แพ้เฮียทิว
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 20-03-2018 15:41:50
เฮียทิ๊วววววว ลูกเขาเขินอยู่ค่าา

หมดกันความเขินนี้ 55555555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 20-03-2018 19:51:19
บุญหัวที่มีคนฉลาดมาหลงรัก
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 20-03-2018 20:04:38
555555555 เฮียมา ฟิล จบ เลอออ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 20-03-2018 23:26:54
 :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 20-03-2018 23:50:10
ใจบางแล้ว
ตรงๆกันซักที
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-03-2018 00:18:11
โอ้ยเฮียทิวว ขำแป๊ป นุ้งเขาบิดเพราะโดนผู้จีบนะลุง 5555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Minzero ที่ 21-03-2018 00:22:18
น้องเขาาาจะหวานกะคุณชาย เฮียทิวก็มาขัดเดี๋ยวจับเฮียทำสามีเลยคิคิ :hao6:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 21-03-2018 00:26:44
เค้ากำลังจีบกันอยู่เฮียทิวมาขัดทำม้ายยยย ไหนบอกไม่หวงลูกชายไงคะ หืม?
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 21-03-2018 07:47:58
เฮียทิ๊ววววววว เฮียจะมาขโมยซีนไม่ได้นะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 21-03-2018 12:29:14
เฮียทิวแย่งซีนอ่ะ พาคุณชายขึ้นห้องเลยน้องเขา :hao7:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-03-2018 14:17:12
เฮียทิวคะ เรา ตรงๆ เฮียมากเลยค่ะ
เลี้ยงน้องเขาออกมาได้ลิมิเต็ดมากๆ 55555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 30-03-2018 15:45:19
 o13
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: por_pla4u ที่ 31-03-2018 22:37:29
ถถถถถ เฮียทิวววววว เค้ากำลังฟินกันอยู่เลอ  :ruready
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 05-04-2018 19:14:38
เพิ่งมาตามอ่านเรื่องนี้
น่ารักมากค่ะ ตลกด้วย

ขอบคุณคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-04-2018 00:07:36
 :call: :call: :call: :call: :call:

เดือนกว่าแล้วอ่ะ

อาคุณชาย นุ้งเขา  หายไปไหนอ่ะ

เล้าให้อภัยแล้ว  กลับมาเหอะ  นะ  ขอร้อง
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: MissM ที่ 06-05-2018 02:56:59
ค้างงง~~~ น่ารักอ่ะจีบกันได้ตะมุตะมิมาก เขินแทนเลย มาต่อเร็วๆนะคะ :hao7: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 12-05-2018 00:21:54
เค้าเกิดมาคู่กันอ่ะ บอกตรงๆยังจะเข้าใจกันอีก หวานเว่
ชอบเวลาคุณชายเรียก มอมแมมอ่ะมันแบบเขินแทนตัวจะบิด มันดูรักดูละมุน โอ๊ยอยากเข้าสิงภูเขาน้อยเลย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 18-05-2018 21:09:21
รอนะ รอนะ ชอบ ชอบจ้า  :mew1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 15 ห้ามอ่อนโยนกับน้อง p.9 [19-3-18]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 05-06-2018 10:00:38
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ แจ้งข่าวค่ะ p.10 [20-6-18]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 20-06-2018 23:06:26
แจ้งข่าวจากคนไกลลล

เรากลับมาเเล้วค่ะ
ขอโทษที่หายไปนานนะคะ
คาดการณ์ว่าจะลงอีกเรื่องให้จบก่อน
เเต่ถ้าไม่ติดขัดอะไรจะลงทั้งสองเรื่องเหมือนเดิมเลย
ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ
คิดถึงเรื่องนี้มากๆ ด้วย

แล้วพบกันนะคะ
 :o12: :กอด1:

หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ แจ้งข่าวค่ะ p.10 [20-6-18]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 21-06-2018 00:30:03
แจ้งข่าวจากคนไกลลล

เรากลับมาเเล้วค่ะ
ขอโทษที่หายไปนานนะคะ
คาดการณ์ว่าจะลงอีกเรื่องให้จบก่อน
เเต่ถ้าไม่ติดขัดอะไรจะลงทั้งสองเรื่องเหมือนเดิมเลย
ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ
คิดถึงเรื่องนี้มากๆ ด้วย

แล้วพบกันนะคะ
 :o12: :กอด1:

รอนะง้าบบบบ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ แจ้งข่าวค่ะ p.10 [20-6-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-06-2018 01:08:41
รอจ้า
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ แจ้งข่าวค่ะ p.10 [20-6-18]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-06-2018 01:11:17
ได้จ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ แจ้งข่าวค่ะ p.10 [20-6-18]
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 21-06-2018 06:32:25
คิดถึงมากกกกกกก มารอนังเขาที่ท่าน้ำทุกวันนน
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ แจ้งข่าวค่ะ p.10 [20-6-18]
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 21-06-2018 09:58:49
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: ดีใจอ่ะกลับมาแล้ว รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ แจ้งข่าวค่ะ p.10 [20-6-18]
เริ่มหัวข้อโดย: absolutepoison ที่ 21-06-2018 16:47:12
คิดถึงคุณชายยยยยย รีบๆ กลับมาเจอกันน้า
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ แจ้งข่าวค่ะ p.10 [20-6-18]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 29-06-2018 20:31:37
รออยู่นะคะ~~~~~ <3
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ แจ้งข่าวค่ะ p.10 [20-6-18]
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 29-06-2018 21:31:49
จะได้อ่านต่อแล้ว  :oni2: :oni2: :oni2: :กอด1:   :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ แจ้งข่าวค่ะ p.10 [20-6-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 29-06-2018 22:04:45
คิดถึงเรื่องนี้  :mew2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ แจ้งข่าวค่ะ p.10 [20-6-18]
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 30-08-2018 01:01:12
กว่าจะตรงๆ กันเข้าใจ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ แจ้งข่าวค่ะ p.10 [20-6-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 30-08-2018 01:17:36
 :pig2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ แจ้งข่าวค่ะ p.10 [20-6-18]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 30-08-2018 11:31:47
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 03-09-2018 22:16:01
จะต่อกันติดมั้ยน้อ แต่ยังไงก็ตาม คิดถึงเสมออ ไปอ่านคลายเครียดกันเล้ย


ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันแล้ว



            สุดท้ายผมก็ไปเรียน โดยที่คุณชายมาส่งเหมือนเดิม เพิ่มเติมคืออาการเบลอๆ ของผมเอง



            ก็...แบบว่ามันเบลอว่ารักแถบตลอดเวลา จนไม่กล้ามองหน้าคุณชายตลอดทางไปมหาลัย



            ก่อนจะลงรถ จำได้ว่าผมค่อยๆ หันตัวไปไหว้ขอบคุณ พี่ตาณไม่ตอบอะไรแต่อมยิ้มมุมปากเล็กๆ ก่อนจะลูบหน้าผากผมสองสามที เท่านั้นแหละ เผ่นลงจากรถแทบไม่ทัน



            ...ขุ่นพระ ใจกะตึก ใจกะตัก ยังไงก็ไม่รู้
            เพียงเธอมาใกล้กัน หัวใจมันสั่นๆ แต่ค่อนข้างเหงา
            เกิดอาการ วิง วิง เธอจะรักกันจริงรึเปล่า เวา เวา



            บ้าาาา เขินอะ



            “มึงๆ พี่ภูเขาแกเป็นไรวะมึง มาโฟร์-มดอะไรตรงนี้”



            “เออ กูว่าแม่งบ้าแล้วว่ะ”



            “ไปเหอะมึง กูกลัว”



            กูไม่ได้บร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา





            .
            .
            ความอ่อนโยนของคุณชายแทรกซึมเข้าในฝันของผม โดยมีเสียงอาจารย์ร้องโอเปร่าอยู่หน้าห้องเป็นเพลงกล่อมชั้นดี



            ในฝันนั้น ผมเห็นพี่ตาณผมเปียกไม่เป็นทรง หัวของพี่ตาณโผล่พ้นออกมาจากห่วงยาง ตั้งแต่เท้าขึ้นไปจนถึงคอ...เอ่อ...ห่วงยางสี่ห้าห่วงได้เขมือบพี่ชายตาณเป็นที่เรียบร้อย ผมกัดปากเพราะอายประเทศไทยที่พี่ตาณมายืนเป็นมนุษย์ห่วงอยู่หน้าคณะ



            “ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ ครับ พี่เอ่อ..มาหาผมมีอะไรรึเปล่า” ผมพูดเสียงสั่นแต่อีกคนตอบกลับมาสั้นๆ ตามสไตล์



            “มี”



            “...”



            “มีแต่เป็นห่วงเนี่ยพอจะมาหาได้มั้ย”



            เพียงเท่านั้นแก้มผมก็ร้อนฉ่า ผมเลื่อนสายตามองคุณชายสุดเนียบที่โดนห่วงยางกลืนแล้วลอบสูดลมหายใจเข้า



            ...มีแต่เป็นห่วงจริงๆ ด้วย…





 

            อาการใจเต้นยังคงค้างจากฝันเมื่อครู่ พอตื่นมาก็พบกับสายตาจับผิดจากเพื่อนหมูทันที



            “เชี่ยเขาได้ข่าวว่าไม่สบายหรอวะ”



            “ไม่นะ!...”



            “ไม่นะอะไรมึง หน้าแดงเป็นเลือดไก่ขนาดนี้”



            “กูสบายดี๊ มี....มีตรงไหนที่กูไม่สบายหรอ ไม่มี๊”



            “ไอ้ซั๊ด มึงจะเสียงสูงเป็นมิสแกรนด์ทำไม๊”



            “เปล๊า กูพูดปกติ๊”



            ผลัวะ! / ผลัวะ!



            “พอกันทั้งคู่เลยไอ้เหี้ย พวกมึงนี่จริงจังซักสามนาทีจะตายห่าหรอวะ” เฮียดุกผู้ที่ทำหน้าตาถมึงทึงตบหัวผมกับไอ้หมูคนละที (เสียงดังด้วย) เดี๋ยวนะนี่กูรู้จักคำว่าถมึงทึงด้วยหรอวะ



            “อะ กูสรุปให้ ไอ้เขาไม่ได้ป่วย แต่มันอะ...บ้า!” เฮียดุกว่างั้นก่อนจะขยับก้นซ้ายขวา สงสัยกางเกงในเข้า...



            “เออว่ะจริงของมึง งั้นกูขอจบการหาคำตอบเพียงเท่านี้”



            ไอ้หมูสะพายกระเป๋าแล้วเดินตามตูดเฮียดุกออกจากห้องเรียนไปอีกคน



            “เดี๋ยวๆ แล้วพวกมึงรู้ได้ไงว่ากูไม่สบาย เอาข่าวมาจากไหน กูมีเพจอัพเดตชีวิตหรอ”



            ดีใจได้เป็นคนดัง



            “มึงคิดว่ามึงเป็นคนคิ้วท์บอยไง๊ พวกกูได้ข่าวมาจากพ่ออออออออออมึงอะ” พวกมันหันมาตะโกนใส่ผมอย่างมิได้นัดหมาย



            พ่ออออออออออออง? เฮียทิวอะนะ



            “เฮียทิวเนี่ยนะ ไม่เชื่ออะเมื่อเช้ายังเอาเท้าเขี่ยยอดตูดกูอยู่เลย ไม่สนใจกูซักนิด”



            “ไม่ใช่เฮียทิวโว้ย” ไอ้หมูเอ็ดเสียงสูง



            “เอ้า กูมีพ่อคนเดียวไม่ใช่เฮียทิวจะเป็นใครวะ”



            “มึงนี่โง่ไม่สร่าง จ้างก็ไม่หายโง่จริงจริ๊งง มึงมีพ่อทูนหัวอีกคนไง คุณชายอะไอ้โง๊”



            พ่อ...อะไรนะ



            “พะ...พ่อทูนหัว!!! อู้ว!!! พวกมึงมั่ว คุณชายหนักจะตายจะไปทูนหัวได้ไง”



            ว่าแล้วก็เกาหัวแกรกๆ เอาไปทูนหัวผมก็หลังหักพอดี เฮียดุกเห็นท่าทางนั้นก็ด่าผมทันที รุ่นน้องใต้ตึกหันมามองกันให้รึ่ม



            “ไอ้ซื่อบื้อ ถ้ามึงไม่เชื่อ มึงรอถามคุณชายนะ เย็นนี้ไม่มีซ้อม กูให้มึงฟรีหนึ่งวัน ไปถามกันให้เข้าใจ จะทูนหัวทูนตัวอะไรก็เรื่องของมึง แต่ว่าพรุ่งนี้สี่โมงซ้อมนะเว้ย งานใหญ่ใกล้เข้ามาแล้ว”



            “เออก็ได้ หิวแล้วอะแดกไรดี”



            “เชี่ยนี่ บทจะง่ายก็ง่าย”



            “เข้าใจง่าย?”



            ไหนขอเล่นบ้าง



            “ตัวมึงอะง่าย”



            อุ๊!!!!!

               

             



               .
               .
               .
               “ตอนบ่ายไม่มีเรียนไปร้องเกะกันมั้ยวะ คลายเครียดก่อนทำรายงาน”



              “เออดีเหมือนกัน ฟังหัวข้อกูก็ปวดหัวแล้วว่ะ”



            ตรรกะไหนมึงวะเนี่ยเพื่อน ผมส่ายหัวอย่างเอือมระอา พวกมึงนี่หน้าตาไม่ดียังไม่ตั้งใจเรียนอีก ว่าแต่….



            “ร้องเพลงไรดีวะ ขอลิสต์ก่อน เออๆ ชวนแกงค์สวรรค์รำไรไปด้วยดีมั้ยวะ ไม่ได้เจอหลายวันโปรเจ็คทับหัวตายไปรึยังไม่รู้”



            “แหมะ ยิ่งกว่าพวกกูอีก”



            เอ้า ทำไมต้องเบะปากอะไรเบอร์นั้น



            “แล้วมึงจะไปได้หรอไอ้เขา เวลาไม่มีซ้อมทีไรกลับเร็วเหมือนชินคันเซ็น”



            “ไป! ไปได้เว้ย! คุณชายทำงานที่คณะ วันนี้คงกลับสี่โมงนู่นแหละ” ผมมองบนนึกถึงตารางกลับบ้านของตัวเอง ถึงจะแกล้งหน้ามึนเพราะเขิน แต่ก็จำได้ว่าพี่ตาณพูดว่าจะมารับตอนเย็น



            นึกถึงคุณชาย ใจเต้นแรงอีกแล้วอะ ฮืออออ



            “ขอคุณชายก่อนมั้ยเดี๋ยวก็มีปัญหาหรอกมึง” เฮียดุกรีบพูด เท่านั้นแหละไอ้เขาจึงต้องหันขวับไปทันที



            “ขอทำไม คุณชายไม่ว่าหรอก”



            แอบไปเงียบๆ ก็ดีเหมือนกัน ...เราห่างกันซักชั่วโมงสองชั่วโมงดีกว่าครับคุณพี่ชายตาณ เจอหน้าแล้วมันทำตัวไม่ถูกทุกทีเลย



            “เออๆ งั้นรีบไปเถอะ ร้องตอนบ่ายนี่แหละแจ่มแมว”



            “ไปๆ กูรู้แล้ว กูจะร้องเพลงพี่โตเหมือนเดิม”



            “ถรุ้ย เดี๋ยวก็ร้องไห้ขอจี่หอยอีกล่ะมึงน่ะ”



            ว่าแล้วสามหนุ่มสามมุมก็เดินกอดคอกันออกจากโรงอาหารด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข จุดมุ่งหมายของเราคือร้านคาราโอเกะที่เจ้าของหน้าโคตรบึ้งที่สุดในหน้ามอ



            หอมกลิ่นอิสระแบบว่าฟรีด้อม



            ดูสิ....ท้องฟ้าวันนี้มันช่างสดใสจริงจริ๊งงงงงง



            Rrrrrr Rrrrrrr



            ชะอุ้ย



            เดินได้ไม่ถึงสามก้าวก็ต้องชะงักกึก เพราะมีสายเข้า ผมรีบหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูทันที และ....นี่คืออาการของคนร้อนตัว เพราะยืนอยู่ตรงกลางเพื่อนผมทั้งสองคนจึงชะโงกหัวเข้ามาดูด้วยความเสือก



            “อะ กูว่าล่มแน่ๆ เลยเฮียดุก”



            “เออก็ว่างั้น แต่คุณชายแม่งเทพว่ะ จังหวะเป๊ะ”



            “เอ่อ ขอตัวไปรับโทรศัพท์แป๊บนึงนะเพื่อนรักทั้งสอง เดินไปก่อนเลยเพื่อน” ผมชะลอฝีเท้าก่อนจะเรียกพลังแห่งความกล้า เป็นผู้ชายต้องกล้าหาญเฟ้ยไอ้เขา



            หนึ่ง สอง สาม



            อะแฮ่ม!



            ติ๊ด



            “พี่ตาณ...”

           

               (เลิกเรียนแล้วอย่าเถลไถล)

               

               ชิบหาย คุณชายญานทิพย์!!

               

               “!!!”



            (เงียบแบบนี้คิดจะไปไหน)

               

              “เอ่อ พะ...พี่ตาณ เนี่ย...ผมไม่ได้ไปไหนเล้ย...เรียนเสร็จกินข้าวว่างแล้วว่าจะไปห้องสมุดอะครับ”

             

               (ก็ดี งั้นมาหาหน่อย)



             “หือ? หาใครนะครับ”



                (มาหา...)



                “ฟาเธอร์”



                กริบ...



                (มอมแมมอย่ากวน)



                “แหะ ล้อเล่นนิดเดียวเอง”



                (ต่อหน้าให้กล้าแบบนี้บ้างนะ)



                เอ่อะ



                “...”



                (เมื่อเช้าพูดอะไรยังเชื่อฟังเป็นตุ๊กตาอยู่เลย)



                “เป็นตุ๊กตาลัลลาเบลหรอครับ?”



                (หึ ตุ๊กตา....สุนัขเน่าๆ /กริ้ววว ไอ้คุณชายมียิ้มเว้ยพวกมึงงง/)



                 “...”



                (/กุกกัก/ เงียบๆ หน่อย มอมแมม? เงียบทำไม งอนหรอ)

               

               ผมหน้ามุ่ย ไม่งอนได้หรอ อยู่ดีๆ ก็เป็นหมาอะ



               “ใช่! และผมไม่ไปหาพี่ด้วย ผมไม่บอกหรอกว่าผมไม่ได้ไปห้องสมุด เพราะผมจะไปร้องเกะกับเฮียดุก แค่นี้นะครั...”



                (ห้ามวาง แล้วก็ไม่ต้องไปด้วย /เอ้าๆ หน้าบึ้งแล้วว่ะ น้องเขามาเร็วๆ ครับน้องงง มีคนโมโห/)



                ผมได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกฟังไม่ได้ศัพท์ดังมาตามสาย แต่จังหวะดีจงรีบชิ่งครับ



                “กุกๆๆๆๆ สัญญาณไม่ดี ไม่ได้ยินเลยครับ วางก่อนนะครั...”



                นิ้วมือน้อยๆ ของผมกำลังจะกดวางแต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงนิ่งๆ ดังลอดออกมา ไอ้เขาคนแมนจึงรีบเอากลับไปแนบหูในทันใด



                (มอมแมม)



                ชะ... คุณชายกดเสียงต่ำ     



                “คะ...ครับ”



                (จะมาดีๆ ...)



                 “...”



                 (หรือจะมาด้วยน้ำตา)



                 ในตอนนั้นเอง เพื่อนรักอย่างไอ้หมูและเฮียดุกก็หันมาหาผมที่ยืนหน้าซีดอยู่พอดี เหมือนพวกมันรับรู้ด้วยสัญชาตญาณว่า…



                 ผมคงได้ร้องไห้มากกว่าจะได้ไปร้องเกะ

               

           



               .

               .

               ผมนั่งรอคุณชายทำงานด้วยใบหน้าเซ็งๆ อยากจะเล่นกีตาร์ก็ไม่ได้ จะร้องเพลงก็ไม่ได้อีก ใต้คณะอักษรน่ะเต็มไปด้วยนักศึกษาที่ตั้งใจทำงานมากเว่อร์ เปิดเทอมมาได้ไม่เท่าไหร่ทำไมเด็กอักษรมีงานเยอะจัง ดูผมดิอยากเล่นกีตาร์งานเฟรชชี่ใจจะขาด เฮียทิวสอนว่าอย่าให้กิจกรรมมากระทบการเรียนครับ ให้ทำทุกอย่างให้ดียกเว้นเรียนหนังสือ ว่าแล้วก็คันไม้คันมือ อยากซ้อมเพลงขึ้นมาซะอย่างนั้น



                “เขาสมาธิสั้นหรอ” เพื่อนคุณชายคนหนึ่งที่นั่งตรงข้ามผมทักขึ้นเมื่อเห็นผมเริ่มดิ้นเหมือนคนที่อยู่แบบดิบๆ  อ๋อ อยู่ไม่สุข



                “เฮ้ยยย พี่รู้ได้ไงอะ นี่ผมไม่เคยบอกใครเลยนะ” ผมพูดเสียงตื่นเต้น ถ้าบินได้คงจะตีปีกพั่บๆ ดีใจออกนอกหน้าว่ามีคนคุยด้วยแล้ว! จนคุณชายที่นั่งคุยงานกับเพื่อนอีกคนเงยหน้าขึ้นมามอง ถึงตอนเงยหน้าจะหล่อก็เถอะแต่ผมขอพูดถึงเรื่องนี้ก่อน นี่มันโคตรซีเคร็ตเลยนะครับทุกท่าน เฮียทิวส่งผมไปเรียนดนตรีตั้งแต่เด็กเพราะพ่ออีแจ็คบอกว่า การเล่นดนตรีจะช่วยเรื่องสมาธิได้ สำหรับไอ้เขาแล้วช่วยได้แค่จบเพลงเท่านั้นแหละ นอกนั้นก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม



                เพื่อนพี่ตาณหัวเราะหึหึเมื่อเห็นผมทำตาโต ก่อนยื่นมือมาตบหลังผมดังป้าบ “พี่ไม่โง่นะเว้ยไอ้น้อง เห็นมึงยุกยิกเหมือนมดไก่ขัดก็รู้แล้ว”



            “...เอ๊ยพี่นั่นมัน ยุกยิกเหมือนมดกุดขุ่ยต่างหาก”



            “ไม่ใช่นั่นมดกุกขุก”



            “เฮ้ยพี่ นั่นมันมดกักขัก”



            “ไม่ใช่เว้ย เห็นมึงยุกยิกเหมือนมดกัดไข่



            “ไม่ใช่พี่”



            “เฮ้ย ถูกแล้ว!!!”



            เรามองหน้ากันก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา



            “ฮ่าๆๆๆๆ”



                “พี่นี่ตลกว่ะมุกเนียนเหมือนไม่ใช่มุก ทีตอนไล่กระทืบผมนะหน้าโคตรโหด”



                “ตอนนั้นมึงกวนตีนนี่หว่า ตอนนี้ก็กวนตีนเหมือนกัน”



                ผมคุยเล่นกับพี่กานต์(จำชื่อไม่ได้หรอกพี่แกบอกมา)สองสามคำ จู่ๆ ก็มีความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้น ไม่สิมันรู้สึกตั้งแต่เริ่มคุยกับพี่กานต์แล้ว ตรงสีข้างมันเย็นเยียบไปถึงกระดูก แถมยังรู้สึกว่ามีสายตาทิ่มแทงมาจากคน...เอ่อ...ใกล้ๆ



                “เชี่ยกานต์ กูว่ามึงรีบมาแปลส่วนนี้ดีกว่า”



                “แป๊บนึงๆ เดี๋ยวไป คุยกับเขาสนุกดีว่ะ แป๊บๆ”



                “มึงไม่ควรแป๊บนึง มึงดูหน้าลูกพี่มึงด้วย” พี่แกไม่พูดเปล่าถึงกับลุกขึ้นมาลากคอพี่กานต์ที่ทำหน้างงๆ ผมหันไปก็เห็นว่าพวกพี่ๆ ขยับตัวไปนั่งสุมหัวกันอีกฝั่งของโต๊ะ ดังนั้นตรงนี้ก็เหลือแต่ผมกับพี่ตาณที่ไปกินรังแตนมาจากไหนก็มิรู้



                “อะ...อะไร อย่ามามองผมนะ” ผมใช้มือสองข้างปิดนมตัวเองพร้อมกับบิดตัวไปมา หวังว่าพี่ตาณคงจะหันมากัดผมเหมือนอย่างเคย



                “อย่ามาทำเล่น”



                ชะอุ้ย!                                 



                เสียงโหด



                “ไม่เล่นด้วยเลย” ผมพึมพำ พึ่งสังเกตว่าคุณชายทิ้งปากกา ไม่สนใจเปเปอร์ที่ตัวเองตั้งใจทำเมื่อกี้เลยแม้แต่น้อย



                “ไม่ใช่เพื่อนเล่น”



                เฮ้ย! พูดงี้ก็หล่อดิคุณชาย ไอ้เขาขึ้นเลยเว้ย ขึ้นเลย



                “ผมทำผิดอะไร ทำไมพี่ตาณต้องมองผมแบบนี้”



                “ผิด ผิดมากด้วย”



                “ผมทำอะไรพี่บอกดิ แล้วพี่ล่ะ...พี่เรียกผมมาหาแล้วไม่เห็นคุยกับผมซักคำ ให้ผมมานั่งเล่นกับจั๊กกะแร้ตัวเองตั้งนาน ทีงี้ก็มาดุใส่” ยิ่งพูด พี่ตาณยื่นมือมาบีบปากผม ประโยคต่อมาก็เลยพูดอู้อี้อยู่คนเดียว “ผมทำอะไรผิดนัก ทำไมพี่ตาณต้องเสียงแข็งใส่กันด้วย”



                เพื่อนใจน้อยมันเกิดอาการน้อยใจนะพี่ตาณ



                “ก็โกรธ” คุณชายพูดเสียงอ่อนลงพร้อมกับคลายมือเล็กน้อย ผมเห็นท่าทีดังนั้นก็เปลี่ยนท่าทีข่มคุณชายใหญ่



                “โกรธอะไรผม”



                “กับ(ไอ้)กานต์”



                “พี่กานต์? ผมเสียงดังรบกวนพี่ตาณหรอ ขอโทษ ก็ผมเหงาไม่มีใครคุยด้วยนี่ แล้วพี่ตาณให้ผมมาที่นี่ทำไมไม่...”



                “...มอมแมม” คุณชายเลื่อนมือมาลูบเหม่งผมสองสามที อย่ามาอ่อนโยนกลบเกลื่อนนะ “มอมแมมฟัง”



                “...”



                ก็ได้ ฮึ! ถึงจะอยากจะสะบัดหน้าแต่เพราะสัมผัสอุ่นๆ ทำให้ผมเอียงหัวเข้าหามือพี่ตาณเหมือนหมาอ้อนเจ้าของ ก่อนที่จะคิดอะไรมากกว่านั้น เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น



                “คนที่ตรงๆ กันแล้วไม่ควรจะไปยิ้มให้คนอื่น”



                “...”



                “ไม่ควรหัวเราะกับคนอื่น”



                “...”



                “โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่อยู่ข้างๆ กันแบบนี้...ไม่น่ารักเลย”



                ทันใดนั้นโลกก็หยุดหมุน



                ผมชะงักค้าง สบตาคู่สวยของพี่ตาณก่อนที่สมองน้อยๆ จะประมวลผลประโยคเมื่อกี้ให้กลายเป็นความร้อนบนใบหน้า คุณชายเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนกระทั่ง...



                ป๊อก!



                “โอ๊ย ดีดหน้าผากผมทำไม” ผมร้องก่อนจะใช้สองมือกุมหน้าผาก



                “เล่นใหญ่ตลอด”



                หมดกันไอ้บรรยากาศหวานซึ้งเพียงสี่สิบวิ



                “เจ็บบบบ” ผมโอนเอนหัวไปด้านข้าง หวังให้พี่ตาณยื่นมือมารับ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผล เพราะพี่ชายตาณขยับตัวออกห่างไปสองมิลฯ



                ทำไมอ๊ะ! เขยิบออกห่างผมทำไม ส่งแววตาหมาสงสัยไปให้คุณชายเพียงแค่นั้นก็รู้คำตอบ



                “ลงโทษ”



                คุณชายใจร้ายแค่คุยเล่นกับเพื่อนพี่แค่นี้เอง ผมยังไม่ละความพยายาม สุดท้ายคุณชายยื่นมือมารับหัวผมจนได้



                “พี่ลูบหัวด้วย”



                ง้อด้วยการขอให้ลูบหัวเลยนะ โห่ พี่ตาณเนี่ยขี้งอนจริงๆ



                 “จะทำอีกมั้ย” คุณชายพูดเสียงเข้ม ไม่ยอมขยับมือซักที



                “ไม่ทำแล้วค้าบบบบบ”



                ดูเหมือนว่าพายุน้ำแข็งจะหายไปแล้ว เพราะฝ่ามืออุ่นๆ ลูบหน้าผากผมเบาๆ



                “หึ เด็กดี”



                   อื้อ...ผมโคตรเด็กดีเลยแหละ

   

                    เจี่ยม!!!

 

 





                ใต้คณะอักษรเงียบไปถนัดตา ไม่ใช่ว่าทุกคนหันมามองมนุษย์ที่ลูบหัวลูบหางกันหรอกนะ เป็นเพราะว่าพวกมันไม่เห็นใครเลยต่างหาก เพื่อนคุณชายที่ลอบมองผ่านกระดาษอ้าปากค้าง ก่อนจะเรียกสติด้วยการหันมามองเปเปอร์ที่คุณชายไม่คิดจะชายตามอง ใช่สิ เปเปอร์ไม่ใช่หน้าน้องเขานี่





                “เอ่อ พวกมึงข้อนี้ตอบอะไรนะ ห้าบวกห้าเท่ากับสิบเนอะ” ขนุนเอ่ยขึ้นคนแรก หวังให้เพื่อนเลิกเบะปากใส่คู่ข้างๆ แทน



                “สัด! เราแปลเปเปอร์มีเลขที่ไหนไอ้ขนุนสนามหลวง”



                “ยังไงก็แหล่วแต้...”



                “แล้วแต่!”



                “เออนั่นแหละ ยังไงก็แล้วแต่พวกมึงหันเฮด(head) มาทำงานดีกว่า ไม่งั้นต่อมอิจฉาจะต้องลามเข้าสู่หัวใจเราแน่ๆ”



                “พูดอย่างกับว่างูกัด โอ๊ยยย! คุณชายเพื่อนนนน งูกัดกูพาไปโรงบาลหน่อยยย” หนึ่งร้องเสียงหลงก่อนจะเหล่ตาไปประเมินสถานการณ์ “ไอ้สัดนี่กูร้องดัง ไอ้คู่นั้นยังไม่เลิกซบกันอีกหรอวะ”



                “พอเหอะ” หนุนโบกมือไปมา



                “พวกมันอะนะ”



                “มึงเนี่ยแหละ!”

 

จบตอน


บอกเลยว่าเรื่องนี้สงสารพระเอกที่สุด555
หายไปนานขอโทษมากเลยค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
ให้มินิฮาร์ททุกคนค่ะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 03-09-2018 22:37:50
แง หายไปนานต่อไม่ติด 555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-09-2018 22:41:40
อีน้องเขาเฮียดุก น้องหมู สามคนนี้อยู่ด้วยกันแล้วฮาดีอะ 5555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 03-09-2018 22:58:07
มอมแมมน่ารักกก อยากเข้าไปลูบด้วย แต่กลัวคุณชายตีมือ555556
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 04-09-2018 01:02:33
 :pig4: :pig4: :pig4:

หายไปนานมากกกกกกกก

ขอบคุณที่กลับมาลงเรื่องต่อ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 04-09-2018 01:40:48
สงสารพระเอกจริงๆนั่นแหละ คือคุณชายคิดดีแล้วใช่มั้ยคะที่จะเป็นแฟนกับนังเขาเนี่ย เห็นความเอ๋อของนางแล้วคิดว่าคุณชายต้องปวดหัวอีกเยอะแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-09-2018 03:27:51
เจอเสียงดุ ลูบหัว แค่นี่ก็ตายสนิทไปแล้วมอมแมม  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 04-09-2018 07:42:14
แงง หายไปนานจนลืมว่าพี่กานต์เปฟ้นใคร

มาต่อเร็วๆน้าคิสถึงง  :mew2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 04-09-2018 09:23:27
ติดไว้ก่อนนะคะ ...
นานเกิ๊นนนนน ต่อไม่ติดเลยค่ะ
ขอเวลาไปตั้งหลักจากเรื่องอื่น หาเวลามาย้อนอ่านเรื่องนี้อีกครั้งนะคะ

ไม่ก็เจอกันตอน THE END เลยเนอะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 04-09-2018 10:06:08
คิดถึงนังเขากับคุณชายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย มาต่ออีกเรื่อยๆนะคะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 04-09-2018 12:23:35
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 04-09-2018 19:26:58
ดีดหัวมอมแมมมากเดี๋ยวเซลส์สมองตายหมดนา แค่นี้ก็เหลือน้อยแล้ว  :laugh:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 04-09-2018 21:19:12
 :laugh: :pigha2: :pigha2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Bringmelove ที่ 04-09-2018 22:11:36
ยังต่อติดอยู่ค่าาา หายไปนานมากก
น้องเขาเดี๋ยวนี้คุณชายพูดอะไรก็ฟังเหมือนหมาจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 05-09-2018 01:03:36
ยังสนุกเหมือนเดิม คนเขียนอย่าหายไปนานๆอีกนร๊าาาา  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 05-09-2018 12:21:04
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-09-2018 18:45:44
หายไปนายเลย.........คิดถึง   :mew1: :mew1: :mew1:

คุณชายหึงเขาหนักเลย   :hao5:
พี่ตาณ  เขา   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 05-09-2018 22:56:12
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 16 : ข้อห้ามของคนที่ตรงๆ กันเเล้ว p.10 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-09-2018 01:12:55
เราเกลียดตัวเองมาก ที่อ่านแล้วทำเสียงสูงตามน้องเขาไปอี๊ก 55555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 23-09-2018 17:44:44
มาสั้นๆ แต่อยากมาบ่อยๆ นะ หุหุ





ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิว (แต่ถูได้ ถรุ้ย!)



อีกห้าวันก็จะถึงวันเฟรชชี่ไนท์แล้ว พวกเราซ้อมกันอย่างจริงจัง และพูดได้เลยว่าตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเป็นเหา...



เอ๊ะ



ทำไมผมถึงเป็นเหาน่ะหรอ



ก็เพราะผมอยู่กับคุณชายตลอดเวลา ติดหนึบคุณชายเป็นเหาฉลาม ดังนั้นแล้ว....ผมจึงเป็นเหา



ก็ตอนเช้าคุณชายมารับไปเรียน แถมตอนเย็นก็อยู่ซ้อมจนค่ำอีก และนั่นก็ทำให้คุณชายสุดเนี้ยบดูระโหยโรยแรง ผมลอบสังเกตท่าทางของพี่ตาณเพราะคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่เหนื่อยรึเปล่า พี่ตาณอยู่ปีสี่แล้วแต่ก็ต้องมาร้องเพลงให้วงผมอีก



รู้สึกผิดง่ะ แต่ว่าไอ้ต้นเหตุน่ะก็มาจากผมนั่นแหละ ฮือ เจ็บหัวใจจัง ถึงพี่ตาณจะบอกว่าไม่เป็นไรก็เถอะ แต่ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย เพราะงั้นพอถึงตอนพักผมก็ได้แต่ไปนั่งข้างๆ เอาแก้มแนบแขนพี่ พร้อมกับทำหน้าตาเป็นหมาขาดอาหารเม็ด



ก็สงสารพี่อ่า....



เฮ้อ เห็นพี่ตาณเหนื่อยแล้วผมก็ห่อเหี่ยวเหมือนต้นหญ้าที่โดนเหยียบย่ำ

 







“ลืมกีตาร์” คุณชายเดินลงมาจากรถน้องเต่าเพื่อเอากระเป๋ากีตาร์มาให้ผมซึ่ง...ยืนไหล่ตกอย่างซังกะตายอยู่ข้างรถน้องเต่า(ไม่เหม็น)



“ขอบคุณครับ”



 “เป็นอะไร เหนื่อย?”



ขุ่นพระขุ่นเจ้ายังจะเป็นห่วงผมอีก



พี่ชายตาณช่างแสนดีอะไรอย่างนี้ ฮือ ฮือ (ฮือสองที)



“หือ? กระบือน้อยเหนื่อยเป็นด้วยหรอ”



ไม่ต้องมาหัวเราะเลย ตัวเองนั่นแหละเหนื่อย



“ไม่ตอบก็ไม่คุยแล้วนะ”



“อื้อ”



“อื้ออะไร”



“ก็เดี๋ยวพี่ตาณไม่คุยด้วยเลยส่งเสียงตอบไง พี่เหนื่อยมั้ย กลับบ้านไหวมั้ย ให้ผมแว้นมอไซค์ไปส่งมั้ยครับ” ผมมองพี่ด้วยสายตาเศร้าหมอง กระดองใจมันปวดหนึบๆ เห็นอีกคนไม่ได้พักแล้วมันไม่โอเคเลย พี่ตาณส่ายหน้าเบาๆ อย่างระอาเป็นคำตอบก่อนจะยื่นมือมายืดแก้มผมออกจากกัน ทีแรกผมก็ไม่ยอมจะยืดแก้มพี่กลับบ้าง แต่ความสูงไม่ถึงก็เลยเหมือนหมาตะกุยอากาศ ยืดกันไปยืดกันมาเราก็ยืนชิดกันได้ยังไงก็ไม่รู้



และเพราะท่าทางนั้นผมกับคุณชายจึงยืนพิงกันและกันเงียบๆ



“ไม่เห็นตอบคำถามผมเลย”



“ไม่เป็นไร คิดมากนะเรา”



คุณชายทิ้งท้ายไว้แบบนั้นก่อนจะมีสัมผัสอุ่นเฉียดกระหม่อมผมไป



เอ๋?



เมื่อกี้มันอะไรกัน



ก่งก๊ง

 









แกร๊ก!



“พ่อต๋า เขากลับมาแล้ว” ผมเอ่ยเสียงเนือยๆ ก่อนจะใช้เท้าสะบัดรองเท้าไปด้านหน้าสองสามที คุณชายกลับไปเมื่อกี้และผมก็ยืนมองไฟท้ายพี่เหมือนนางเอกละครช่องทูสามสิบสอง



อ้าว แล้วพ่อหายไปไหน ไฟก็เปิดอยู่เต็มบ้าน ผมวางกระเป๋าลูกรักเบอร์หนึ่งไว้ที่โซฟาอย่างเบามือ จากนั้นเดินลากเท้าเหมือนผีดิบเข้าสู่เขตห้องแห่งความลับ



...โดยไม่รู้เลยว่าที่นั่นจะมีนางมารร้ายรอผมอยู่



“เฮียติววววววววววว” ขออ้อนพ่อหน่อย ไม่กลับบ้านมากินข้าวเย็นหลายวัน เดี๋ยวจะเกิดอาการใจน้อยงอนผมอีก



และ...จังหวะที่เลี้ยวเข้าห้องครัวนั้นก็มีเสียงแหลมดังขึ้นมาทันใด!!



“มาแล้วหรออีลูกไม่รักดี!!”



นางมารร้ายตนนั้นปรี่เข้ามาฟาดไม้เกาหลังที่น่องผมนับครั้งไม่ถ้วน บนตัวมันมีผ้ากันเปื้อนที่สกรีนตัวหนังสือสีแดงสดว่าเมียในอนาคตเฮียทิวตัวเท่าบ้านติดอยู่



ใช่ครับ



อีนางมารร้ายที่อยากเป็นเมียพ่อกูจนตัวสั่นตนนั้นคืออีแจ็ค จตุพร นั่นเอง



ผลัวะ! ผลัวะ!



“โอ๊ย โอ๊ยย มึงหยุดนะอีแจ็ค!”



“มานี่มึงจะหนีไปไหน ต้องตีให้หลาบจำ ทิ้งพ่อไปอยู่กับผู้ชาย รู้มั้ยว่าสามีฉันต้องนั่งรอแกกินข้าวมากี่มื้อ”



ผมปัดไม้เกาหลังออกพัลวัน อะไรนะ...เฮียทิวรอกินข้าวหรอ ผมตาเหลือก หันไปมองเฮียทิวขวับ แล้วก็พบว่า...พ่อของผมนั่งชันขาข้างนึงบนเก้าอี้ มือขวากำขาน่องไก่ทอดเกลือกินอย่างเอร็ดอร่อย



เดี๋ยวนะ ความขัดแย้งมันเกิดขึ้นในตาของโผ้มมม



“ฉันต้องมาปลอบใจสามี ว่าลูกไม่รักดีอย่างมึง เอ๊ย อย่างแกเนี่ยกำลังเรียนหนังสือทำกิจกรรมสมกับที่พ่อส่งเสียให้เรียน แต่จริงๆ แล้วแม่(ใหม่)ก็รู้อยู่เต็มอก ว่ามึ้งงง มันไม่รักดี! บ้าบอออออออ”



“โอ๊ย อีจตุพร! มึงเลิกมโนเป็นแม่กูได้แล้ว!!”



ผลัก!



ผมยื่นมือไปผลักมันออกแต่เพราะมันตัวโตกว่าผม สองมือของผมจึงจับโดนชุดชั้นใน(ปลอม)ของมันเต็มมือ



เท่านั้นแหละ พื้นโลกคล้ายว่าแตกเป็นเสี่ยง ผมอ้าปากค้างเงยหน้าสบตากับอีแจ็คที่มีสีหน้าตกใจไม่ต่างกัน



“กรี๊ดดดดดดดดดด” อีแจ็คร้องลั่นก่อนจะถลาไปนั่งกอดขาเฮียทิว “สามีขา เมียโดนลูกชายสามีลวนลาม บ้าบออที่สุดดด”



“เฮียทิว อย่าไปเชื่อมัน เดี๋ยวเขาจะไปล้างแอลกอฮอล์แล้วมานั่งกินข้าวกับเฮียทิวนะ” ผมพูดพร้อมกับเบะปากใส่อีแจ็ค ถ้าเป็นปกติเฮียทิวจะต้องด่าผมกับอีแจ็คสองสามประโยค



แต่ว่าวันนี้มันไม่เหมือนเดิม!



เพราะจู่ๆ เฮียทิวก็ลุกขึ้น สะบัดขาที่อีแจ็คเกาะอยู่ก่อนจะพูดประโยคทำเอาใจของลูกน้อยเย็นเยียบ



“กูกินข้าวคนเดียวมาทั้งอาทิตย์ ถ้ามึงหิวมึงก็กินคนเดียวไปแล้วกัน”



พูดแล้วก็เดินเคี้ยวไก่ดังกร้วมๆ ออกไป



ผมหันมองเฮียทิวก่อนจะสบตากับอีแจ็ค มันยิ้มแหยๆ ก่อนจะพูดว่าสมน้ำหน้าโดยไม่ออกเสียง



ทะ...ทำไมกัน



“พ่อต๋าาาาาาาาาาาาาาา”

 







“พ่องอนอะไรเขาจ๊ะ”



พ่อปรายตามองหลังจากที่ผมไปวอแวอยู่พักใหญ่



“...”



“พ่อสุดหล่อของนุ้ง”



พ่อกดรีโมทเปลี่ยนช่องทีวีไม่สนใจผมซักกะติ๊ด ทั้งๆ ที่ไมค์หมดหนี้ก็จบไปแล้วพ่อยังจ้องทีวีอยู่ได้ ส่วนไอ้เขาควายอย่างผมก็นั่งกอดขาพ่อเหมือนปลิงเลยทีเดียว พอพ่อเลื่อนสายตามาพอดี ผมก็รีบส่งสายตาปริบๆ ไปทันใด



“งอนที่ลูกน้อยไม่มากินข้าวด้วยหรอ”



นี่ลูกง้อนะ...



“...”



“หรือว่าลูกน้อยทำตัวไม่ดี”



เฮียทิวชำเลืองหางตามามองเหมือนกับว่าประโยคข้างต้นเป็นคำตอบถูกต้อง จากนั้นก็ค่อยๆ เผยอปากเล็กน้อย



“เปล่า เพราะมึงแรดเหมือนแม่มึง”



ชะ!         



ผมอ้าปากค้าง เผลอเบิกตากว้างขึ้น ว่าแต่...แม่เขา...แรดจริงหรอเฮียทิว (อิเขาคนบาป, 2017)



เดี๋ยวนะ เราจะหลงประเด็นไม่ได้!



“แล้วเข้าใจซะใหม่ด้วย กูไม่เคยตุ๊ดแตกงอนอะไรไร้สาระ”



นี่ขนาดไม่งอนนะทิวววว



“เฮียทิวเดี๋ยวๆ แล้วเขาแรดอะไรอะพ่อถึงปั้นปึ่งใส่เขา”



ผมคิด...ทุกวันนี้ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ไปเรียนพร้อมคุณชาย ซ้อมดนตรีกับคุณชาย แล้วก็กลับบ้านกับคุณชาย มีบางวันที่ไปกินข้าวเย็นบ้านคุณชาย



ไม่เห็นจะมีอะไรเล้ยยย



แถมผมก็กลับบ้านทุกวันด้วย เพราะงั้นผมไม่ใช่แรดอย่างที่พ่อต๋ากล่าวอ้าง



“อีแจ็คมันเป่าหูเฮียทิวใช่มั้ย มันว่าอะไรบ้างล่ะ เฮียทิวถึงงอนตุ๊กป๋องๆ แบบเนี้ยะ...”



“ตุ๊บป่อง! ตุ๊กป๋องบ้านป้ามึงสิ”



“ตุ๊บป่องก็ได้ เฮียทิวอย่าเปลี่ยนเรื่องดิ ตอบเขามา อีแจ็คมันพ่นลมใส่หูเฮียทิวใช่มั้ย”



“เหอะ ไม่มีใครบอกกูทั้งนั้น ทั้งประเทศไทยเค้าก็เห็นทั้งนั้นที่มึงก็มึงลูบหัวลูบหางกับไอ้ตัวสูงๆ นั่นอยู่เช้าค่ำ”



ตัวสูง? ลูบหัวลูบหาง? ทุกเช้าค่ำ?



“อย่ามาทำหน้าเหมือนหมาแดกปลาทู เมื่อกี้ก่อนจะเข้าบ้านมึงก็แทบจะสิงกันแล้ว กูยืนอยู่ท้ายซอยยังเห็นเลย”



พ่อ...เห็น....



“คะ...คือ...”



นี่กูจะปากสั่นทำไม



“กูไม่อะไรหรอกนะ กูบอกมึงแล้วว่าจะไม่เสือก แต่พวกมึงน่ะขั้นไหนกันแล้ว เป็นลูกกูต้องรู้จักรักนวลสงวนตัวไว้บ้าง ปล่อยให้มันลูบคลำได้ไง ถ้ามึงท้องขึ้นมานะ กูจะตัดหางปล่อยวัด บอกแล้วไงมึงจะรักใครชอบใครกูไม่เคยเสือกเลย”พ่อพูดรัวจนผมน้ำลายแทบยืดเหตุเพราะว่าฟังไม่ทัน



 “เฮีย...เฮียทิวใจเย็นก่อน เฮียทิวเป็นอะไร เขาไม่ใช่ผู้หญิงนะ จะท้องได้ไง”



“นี่มึง…พูดแบบนี้ แสดงว่ากับไอ้ขี้เหร่นั่นถึงขั้นนั้นกันแล้วหรอ ถึงไม่กลัวเรื่องท้องน่ะ!” พ่อปารีโมตลงบนโซฟาก่อนจะเขย่าตัวผมด้วยท่าทางโมโห ไอ้ผมก็โดนเขย่าจนสมองจะไหล



พ่อแสนคูลของเขาหายไปไหน!



“พ่อจะบ้าหรอ! เขากับคุณชายแค่คนที่ตรงๆ กันแล้วแค่นั้นเอง ไม่ได้มีอะไรซะหน่อย”



พอว่าแบบนั้น พ่อก็นิ่งไป ก่อนจะกระแอมดังๆ



“ไม่รู้ล่ะ ถึงพวกมึงจะตรงๆ เตรงๆ กันแล้วแต่ก็ต้องเห็นแก่หน้ากูบ้าง ถ้าไอ้ขี้เหร่นั่นมันหลอกฟันมึงล่ะเขา อย่ามาร้องไห้ให้เห็นนะ”



“นะ...นี่พ่อเป็นห่วงเค้าหรอ เขินอะ”



“มึงอย่ามาแป้นแล้นกลบเกลื่อน เดี๋ยวบ้องหู”



“ฮะ...เฮ้ย เฮียทิวไม่ต้องห่วงเขาหรอก จริงๆ นะ พี่ตาณไม่เคยพกมีดพกดาบเลย มาหลอกฟันเขาไม่ได้หรอก แต่เขามีฟันนะนี่ไง ยิ้มแฉ่งให้ดู”



พูดแล้วก็ฉีกยิ้ม ก่อนจะเหลือบมองปฏิกิริยาของพ่อ



ชะอุ้ย คิ้วกระตุกเป็นสามช่าเลย ผมพูดอะไรผิดอีกล่ะ



“ไอ้เขา!”



“อะไรอ๊ะ ก็เขาพูดจริงนี่”



“กูเลี้ยงมึงมายังไงทำไมถึงโง่แบบนี้วะ พูดกับมึงก็เหมือนพูดกับจอมปลวก ฟังนะ ต่อจากนี้มึงต้องมานอนห้องกู”



เฮ้ย! นอนกับพ่อไม่ต่างอะไรกับนอนบนหนามทุเรียนเลยนะ นี่มันบทลงโทษที่เขาไม่มากินข้าวกับพ่อหรอก ใจร้ายเกินไปแล้วนะ ผมยังไม่ทันได้อ้าปากเถียง พ่อก็บีบแก้มผมจนปากจู๋



“จะไปไหนต้องรายงาน โดยเฉพาะไปกับไอ้หมอนั่นสองต่อสอง ถ้าเรียนเสร็จจะซ้อมดนตรีอะไรก็แล้วแต่ มึงต้องกลับบ้านไม่เกินสองทุ่ม ถ้าไม่รับสาย ไม่บอก ไม่กลับบ้านตรงเวลา กูจะบีบไข่มึงเป็นการลงโทษ เข้าใจมั้ย”



เหี้ยมโหด... ผมเผลอหุบขาเข้าหากันโดยอัตโนมัติ



พ่อไม่เคยพูดยาวกับผมแบบนี้เลย



ฮรุก



ว่าแต่...



“พ่อ! หรือว่าพ่อจะกีดกันความตรงๆ ของผมกับพี่ตาณหรอ ฮือ ฮือ ไหนพ่อบอกว่าพ่อไม่ยุ่งไง คนสักปลักก”



“สับปลับ! แล้วกูก็ไม่ได้กีดกันด้วย แต่มันต้องมีขอบเขตมึงเข้าใจมั้ย...ช่างแม่งมึงไม่เข้าใจหรอก แล้วอย่ามาจู๋จี๋กันหน้าบ้านให้กูเห็นอีกนะ!” จู่ๆ พ่อก็โพล่งขึ้นแล้วก็ลุกขึ้นยืนขยี้หัวตัวเองแรงๆ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับบ่นในสิ่งที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง



“นึกแล้วหงุดหงิดเว้ย! ให้คบกันได้ไม่ได้หมายความว่าจะมามือปลาหมึกกับลูกกูได้นะ เดี๋ยวเจอแน่ไอ้ลูกเขยขี้เหร่”



โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ



พ่อต๋าใจร้ายยยยยยยยยย



ถ้าต้องนอนกับพ่อแล้วคลิปโป๊ที่โหลดมาจะทำยังไงอ่า....

 

 







คำสั่งของพ่อเป็นผลนับตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น



เช้าวันนี้ ตาลุงทิวออกมาส่งผมหน้าบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อคืนก็มานอนห้องผมโดยไม่ได้นัดหมาย แถมยังรัดตัวผมแน่นจนเกือบตายไม่พอ เมื่อกี้ยังทารุณกรรมผมด้วยไข่เจียวไหม้ๆ กับข้าวสวยหนึ่งจาน



บ่นไปงั้นแต่ก็กินหมดเพราะหิว



เฮียทิวผู้ใส่กางเกงตัวเองเดินมากอดคอผมจากด้านหลังพลางชะเง้อมองไปทางถนน เราอยู่หน้าบ้านกันเพราะงั้นสาวๆ (ป้าๆ) ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปตลาดจึงเหลียวหลังมามองจนเกือบตกข้างทาง



“ไหน ไอ้นั่นอยู่ไหน”



ผมกุมเป้าทันที “ก็อยู่นี่ไง”



ผลัวะ!



“กูหมายถึงแฟนมึง”



“พ่อ!”



จะบ้าหรอเขากับพี่ชายตาณอยู่ในขั้น...(เอานิ้วชี้ชนกัน)เท่านั้นเอง ยังไม่ใช่แควน



“ท่าจิ้มอะไรของมึง ว่าไงมันไม่มาหรอวันนี้”



“พี่ตาณติดธุระ ตอนเย็นถึงจะมาส่งได้”



ทันทีที่ได้รับข้อความตอนตีห้าว่าติดธุระ บอกเลยว่าไอ้เขาโล่งใจโคตรๆ ก็พ่อน่ะสิขนาดนอนยังพึมพำชื่อพี่ตาณเลย ผมเป็นห่วงพี่ตาณว่าจะโดนพ่อแกล้งอะไรอีก แค่เรื่องเรียนก็ปวดหัวไม่ได้พักจะแย่แล้ว ยังจะต้องมาเจอเฮียทิวที่จ้องจะตะครุบอยู่



เฮ้อ เกิดเป็นไอ้เขานี่มันลำบากจริงจริ๊งง



“หึ” พ่อส่งเสียงในลำคอขัดความคิดผม “มันป๊อดล่ะสิท่าถึงไม่กล้ามาน่ะ”



ผมเหลือบมองเฮียทิว พ่อที่ไม่เคยสนใจลูก แต่กลับมายืนส่งหน้ารั้วบ้าน วันนี้จะเค้นอีแจ็คให้จงได้ มันเกิดอะไรกับพ่อที่แสนดีของเขากันแน่



“งั้นเขาไปเรียนก่อนนะครับ” ตามน้ำไปก่อน เดี๋ยวค่อยหาทางอ้อนพ่อให้ยกเลิกกฎนี่ทีหลัง



“เออ แล้วอย่าลืมรีบกลับบ้านสองทุ่มนะ ถ้าไปนัวเนี...อะแฮ่ม ถ้าเถลไถลกูจะจุดธูปเรียกแม่มึงมาตีตูด”



เฮือก พูดไม่ทันขาดคำ ไอ้คำขู่นี่ก็ตามมาจนได้



“พ่อ เขากลัวนะ”



“เออกลัวก็อย่าทำอะไรนอกลู่นอกทาง กูให้สายของกูจับตามองมึงไว้แล้ว”



“ใคร!”



“แม่มึง”



พ่อกระตุกยิ้มมุมปากจนผมเสียวสันหลังวาบ



ไม่รู้ว่าแม่ที่อยู่บนฟ้า หรือคนที่อยากเป็นแม่อย่างอีแจ็คกันแน่

 









สุดท้ายผมก็ไม่เจออีแจ็ค แต่เจอคุณชายที่เจอทุกวันเหมือนเดิม



“ทำไมเมื่อคืนถึงไม่รับโทรศัพท์”



พี่ตาณขมวดคิ้วแต่ก็ยังส่งขนมปังมาให้ผม ฮือ ดีกับผมอีกแล้ว พี่ตาณน่ะ...ผมไม่อยากให้พี่พบเจอกับเรื่องราวรว้ายๆ เลย



“คือ ผมนอนเร็วครับ กลับบ้านแล้วก็นอนเลย คร่อกฟี้คร่อกๆ”



“มีพิรุธ” คุณชายดีดหน้าผากผมเบาๆ ผมแกล้งทำหน้ามุ่ยไปงั้นแต่จริงๆ แล้วกำลังคิดว่าจะบอกเรื่องกฎบ๊องๆ บวมๆ ของพ่อยังไงดี แต่เห็นหน้าพี่แล้วก็...



ตัวมันเหมือนไม่มีกระดูกสันหลัง เอนหัวไปหาคุณชายช้าๆ



 “อะ...เอ่อ คุณชายและคุณภูเขาขอรับ ข้าทาสบริวารอยากจะเริ่มต้นซ้อมรอบต่อไปแล้วขอรับ ไม่ทราบว่าพวกท่านพร้อมหรือยังขอรับ”



 กึก!



“มารผจญ!” ผมเด้งตัวออกจากคุณชายแล้วชี้นิ้วไปหาคนที่มาขัดขวางควานโงนเงนของผม “คุณชายพาบ่าวดุกตัวนี้ไปประหารหัวสุนัข!”



ผลัวะ!



“เชี่ยเขา เดี๋ยวเถอะมึง เล่นใหญ่รัชดาลัยไปอีก” เฮียดุกที่คลานเข่ามาเมื่อกี้ถึงกับลุกเท้าเอวตบหัวผมทันที ผมลูบหัวพร้อมกับทำหน้าเด๋อด๋า และไม่กี่วิหลังจากนั้น...



“เฮียดุก”



“ไอ้บาสไม่ต้องมาสะกิดกู ไอ้เขาเล่นก็ผิดแทนที่พักจะไปทวนโน้ตเสือกมาไถหัวไหล่คุณชายเฉย เดี๋ยวกูตีซักทีดีมั้ย”



“เฮียๆ ลดมือลงก่อน”



“อะไรวะไอ้แต้งก็อีกคน”



“เฮียตบหัวไอ้เขาแบบนั้น ดูหน้าคุณชายด้วยเค้าด้วย...” ไอ้แต้งพูดเบาๆ แต่ทั้งห้องเงียบกริบ ผมประมวลผลไม่นานจับมือคุณชายมาวางไว้ที่หัวตัวเองหมับ



“พี่ตาณเจ็บง่า”



ไม่รู้ว่าคนข้างๆ ทำหน้าแบบไหน เพราะต่อจากนั้นเฮียดุกก็วิ่งเข้าไปหลบหลังกลองชุดทันใด พร้อมกับที่เสียงโหยหวนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง



“บ่าวผิดไปแล้วขอรับบบบบ บ่าวสมควรถูกตัดมือออออออ คุณชายกรุณาอย่าทรงลงโทษข้าน้อยเลยขอรับบบบ”



หลังจากซ้อมเสร็จสิ่งที่ผมทำเป็นอันดับแรกไม่ใช่การทบทวนคอร์ดที่ผิดพลาดแต่เป็นการเก็บของที่เร็วยิ่งกว่าห้าจีดีแทค มองนาฬิกาบนผนังก็ยิ่งต้องรีบเก็บของเร็วขึ้น



ก็เฮียทิวน่ะสิ ส่งข้อความมาข่มขู่ ผมจึงรีบส่งข้อความกลับว่าซ้อมอยู่ก่อนที่เฮียทิวจะเกรี้ยวกราดมากกว่าเดิม



ผมสรุปเอาเองว่าที่เฮียทิวเป็นอยู่นี้ คืออาการเหงาของพ่อเลี้ยงเดี่ยว



“ไปทานข้าวกับคุณแม่ก่อนนะแล้วค่อยกลับ”



คุณชายเอ่ยขึ้นขณะที่เลี้ยวเข้าหมู่บ้านของตัวเอง เพราะผมเผลอหลับไปแป๊บเดียวเลยไม่รู้ว่ารถได้ผ่านหมู่บ้านผมมาแล้ว ผมรีบหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาดูเวลาแล้วก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม และข้อความใหม่จากเฮียทิวทำเอาผมกระสับกระส่ายจนคุณชายผิดสังเกต



“คือ...วันหลังได้มั้ยครับ”



“ทำไม”



“วะ...วันนี้ เอ่อ จริงๆ แล้วช่วงนี้ผมต้องรีบกลับบ้าน เดี๋ยวผมลงตรงนี้ก็ได้ นั่งวินกลับบ้านเลยแล้วกันพี่ตาณจะได้ไม่ต้องไปส่ง”



เท่านั้นแหละ ภายในห้องโดยสารของรถก็เงียบสนิทขึ้นมาซะอย่างนั้น เหมือนกับว่าแอร์รถเต่าเข้าสู่วิกฤตติดลบ



คุณชายตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทางทั้งๆ ที่อีกสามสี่หลังจะถึงบ้านตัวเองแล้ว ก่อนจะหันมาหาผมทั้งตัวด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์





“มอมแมม”

 

“ขะ...ครับ”



“สารภาพมา”



น้ำเสียงของคุณชายจริงจัง จนผมไม่กล้าที่จะกลืนน้ำลาย



“นาย...กำลังนอกใจฉันใช่มั้ย”



“เฮ้ย ไม่ใช่นะครับพี่ตาณ” ผมหน้าซีด พอหาเสียงตัวเองเจอก็รีบปฏิเสธ โบกไม้โบกมือ



“ทำไมพี่ตาณคิดงั้นนน” ไอ้เขาลากเสียงยาว เพราะดูท่าคนข้างๆ จะไม่พอใจในคำตอบ



“ไม่ใช่? แล้วทำไมนายปฏิเสธ”



“ช่วงนี้ผมมีธุระจริงๆ” เขาควายอย่างผมฉีกยิ้มโง่ๆ สมองน้อยๆ คิดไม่ทันแต่การกระทำนำลิ่วไปแล้ว ผมจับมือพี่ตาณมาแนบแก้ม



“เชื่อผมเถอะนะๆๆๆ ผมอยู่กับพี่ตาณคนเดียว เจอหน้าพี่ตาณคนเดียวทุกวัน ผมจะไปนอกใจได้ไง...”



เหมือนเกี้ยวสาวเลย ชิบหัย เขินซะงั้น ผมชะงักซ่อนหน้าตัวเองไว้ที่ฝ่ามือพี่ตาณ



“หึ”



พรึ่บ



“พี่ยิ้มแล้วหรอ”



หรือว่าผมหูฟาด ทำไมพี่ชายตาณยังหน้านิ่งไม่สบอารมณ์เหมือนเดิม



ดูท่า ลูกอ้อนคงจะไม่ประสบความสำเร็จ



ไอ้เขาไหล่ตกหูตกก่อนจะตามมาด้วยท่าหมาตกใจเมื่อได้ยินเสียงนิ่งๆ ของคุณชาย



“ช่างเถอะ นายคงมีธุระ วันนี้ทั้งวันเจอหน้ากันแค่ตอนซ้อม ไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันก็ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวกลางคืนก็คงไม่รับโทรศัพท์อีกเพราะติดธุระ ปล่อยมือเถอะ จะขับกลับไปส่ง”



ว่าแล้วก็ดึงมือออกจากการเกาะกุมของผม



อึก



ถึงเสียงจะราบเรียบแต่ผมสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างในประโยคนั้น



พลังงานที่เหมือนกับเฮียทิวเมื่อคืน



ผมก้มมองมือถือที่โชว์สายโทรเข้าเป็นชื่อเฮียทิวแล้วเงยหน้ามองพี่ตาณหนึ่งครั้ง

 





เฮียทิวครับ

 

 





เขาขอเลือก

.

.

.

ผู้ชาย!







______________
คำถาม : เฮียทิวเป็นอะไร
1. งอนลูก
2. หวงลูก
3. อิจฉาลูก
4. อยากมีซีน
คิดถึงทุกคนเช่นเคย ขอบคุณทุกคอมเม้นท์เเละกำลังใจค่ะ
มีความสุขตอนเขียนนิยายตลอดเพราะนั่นเเสดงว่าได้พักอย่างจริงจัง
เอ๊ะ หรือว่าลาออกจากงานมาเขียนนิยายเลยดี 555
เลิฟเสมอ

หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-09-2018 19:15:38
เฮียทิวก็ ไหนๆ เดินหน้ามาแล้ว เข้าไปคุยกับหลัวหนูเขาเลยเป็นไง  :laugh:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-09-2018 19:17:34
คนอ่าน ก็มีความสุขตอนอ่านนิยายตลอด  :mew1:
อ่านไปยิ้มไป ขำไป  สนุกมากกกกกกกก  :katai2-1:

เฮียทิว อนุญาตลูกให้ตรงๆกับคุณชาย
แล้วมาแสดงท่าทีกับเขาแปลกๆ นี่ เพราะหวงลูกชายใช่ป่ะ
เขาก็บอกคุณชายไปตามตรงก็ได้นี่นะ
ว่าพ่อเกิดหวงเขาขึ้นมา จำกัดเวลาให้เขาถึงบ้านเวลาสองทุ่มซะด้วย  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

คุณชาย เขา   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 23-09-2018 19:28:29
เสียงเฮียทิวลอยมา - แรดเหมือนแม่มันเลยยยย  :m20:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 23-09-2018 20:02:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 23-09-2018 20:17:39
เขาลูกเลือกผู้ชายเดี๋ยวโดนแม่มาตามกลับบ้านนะลูกก
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-09-2018 20:44:18
อิจฉาลูก อิอิอิ หาคู่ให้เฮียทิวเลย ไม่เอาอีแจ๊คนะ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 23-09-2018 21:37:28
นังเขา แกทำแบบนี้กับพ่อบังเกิดเกล้าได้ยังไง!  //กอดเฮียทิว
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 24-09-2018 12:24:18
 เลือกผู้มากกว่าพ่อ จัดเลยค่ะเฮียทิว แต่จริงๆคิดว่าเฮียทิสแค่อยากได้ซีน5555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 26-09-2018 14:10:12
เฮียทิวต้องหลั่งน้ำตา 555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 26-09-2018 18:56:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 26-09-2018 22:25:02
จะสงสารใครดี เฮียทิวจะปวดหัวแค่ไหน เขาโตมาเป็นคนซื่อๆขนาดนี้
พี่ตาณ ทำใจเข้าใจความเป็นเขาไหวได้ไง 5555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 27-09-2018 07:21:09
โอ้ยน้อเฮียทิว55555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 28-09-2018 15:22:40
คิดถึงนังเขาาาาาาาาาาาาาา เป็นเด็กดีจริงๆเลือกผู้แทนพ่อเนี้ย5555555555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 29-09-2018 20:56:55
เฮียทิวเตรียมเหลาไม้เรียวรอหน้าบ้านแล้วน้องเขาเอ้ยยยย :laugh:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 01-10-2018 01:43:14
น่าสงสารเฮียทิวเค้านะคะ มีลูกๆก็เห็นผู้ชายดีกว่า จะมีเมียใหม่ก็หันไปเจอแต่อีแจ็ค พี่ตาณอย่าถือโทษโกรธความเด๋อของเขามันเลย แค่นี้เขามันก็เลือกพี่แทนพ่อแล้ว กลับบ้านไปนังเขาโดนบีบไข่แน่เลย คิดแล้วหวาดเสียว คนตรงๆกันแล้วนี่มันมีอุปสรรคเยอะเหลือเกิน อ่านแล้วรู้สึกพร่ำเพร้อเหมือนอีแจ็คเข้าไปทุกวันเลย ฮื่ออ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 17 : ห้ามขัดเฮียทิวแต่ถูได้ถรุ้ย! p.11 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 15-10-2018 07:37:34
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 18:ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้จุดจุดจุด p.11 [26-11-18]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 26-11-2018 10:12:04
มาแล้วทุดคนนน ขอซื้อเวลาเยอะๆ ได้มั้ยย
ใช่แล้ว สายตาคุณยังปกติดี ตอนที่18มาแว้ว





ระเบียบที่ 18 : ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้(จุด จุด จุด)



“น้องเขากินเยอะๆ นะลูก นี่พี่ตาณขอให้นมแจ่มเข้าครัวทำอาหารเองเลยนะคะ” คุณน้าว่าพลางตักเต้าหู้ทรงเครื่องใส่จานผม  เต้าหู้โย้ๆ เอียงไปมาน่าเขมือบให้หมดสิ้น



“ช่วงนี้เห็นตาณบอกว่าน้องเขาซ้อมเยอะเลยทานข้าวไม่ตรงเวลาหรอจ๊ะ”



พอได้กินอาหารอร่อยๆ แล้วมันพูดอะไรไม่ออกเลยครับคุณน้า ผมทำหน้าจะร้องไห้พร้อมกับพยักหน้าแรงๆ สองสามที อันนี้ก็อร่อย อันนั้นก็อร่อยง่า



“ดูน้องสิตาณ ทานเพลินเลย”



“แหะๆ อร่อยที่สุดเลยครับ”



ผมอมยิ้มแก้มตุ่ย แก้มตุ่ยไม่ได้อ้วนนะครับ ตะกละล้วนๆ ล้อเล่น ก็มันฟินอะเข้าใจมั้ยทุกคน



“วันก่อนน้าเห็นลูกชายแม่นั่งหน้าเครียดเชียว นึกว่าเป็นอะไรที่แท้นั่งนึกเขียนเมนูให้น้องเขานี่เอง”



กึก



ไม่น่าเชื่อ... ว่าจะมีใครบางคนทำให้คุณใจกระตุกตอนเคี้ยวข้าวได้ ผมค่อยๆ เหลือบสายตาไปมองคนที่ถูกเอ่ยถึงแล้วก็พบว่าพี่ชายตาณยังคงทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น



ที่แท้...



ที่พี่โกรธผมก็เพราะผมไม่ยอมกินข้าวที่ตัวเองเตรียมไว้นี่เอง



ฮือ



ลืมไปได้ยังไงนะ ว่าพี่ชายตาณคือคนที่ใจดีกับผมที่สุด แม้บางทีจะปากร้ายไปหน่อยก็เถอะ



อ่า ยิ่งรู้สาเหตุ ท้องผมเหมือนจะหวิวๆ



“ขอบคุณนะครับพี่ตาณ”



ผมส่งยิ้มตาปิดไปให้พี่ตาณพร้อมกับเอ่ยขอบคุณจากใจจริง ไม่ติงนัง



ผมเลือกคนที่ตรงๆ ด้วยไม่ผิดจริงๆ



“คุณแม่ก็ทานเยอะๆ นะครับ” พี่ตาณพยักหน้ารับคำขอบคุณ สบตาผมแค่แวบเดียวก่อนจะหันไปตักอาหารให้คุณน้าแทน



เปลี่ยนเรื่องๆ เห็นนะว่าหูแดงอ๊ะ



ตัวเองเขินล่ะสิ เขินล่ะสิ

 







“น้องเขาเนี่ย เหมือนคนที่น้าเคยรู้จักจริงๆ เลยน้า”



คุณน้าพูดยิ้มๆ หลังจากที่พวกเราจบอาหารมื้อเย็นแล้วก็มานั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น แถมยังตบท้ายด้วยของหวานตอนสองทุ่ม สองทุ่มหรอ? เหมือนผมจะลืมอะไรไปนะ



ลืมอะไรว้า....



นมแจ่มทำกล้วยบวชชีเป็นของหวานนี่นา อะ...ลืมตักกล้วยบวชชีเข้าปากนี่เอง ผมลืมเรื่องที่คิดไปอย่างรวดเร็วเพราะเห็นความอร่อยตรงหน้า คนที่นั่งตรงข้ามกับผมคือพี่ตาณที่ปฏิเสธของหวานด้วยการส่ายหน้านิ่งๆ เอาแต่จิบชาเป็นคุณชายคูลๆ และตลอดการพูดคุย(และกิน)ของผมกับคุณน้า คุณชายจ้องมองผมแปลกๆ



พอไล่สายตาตามก็พบว่าจริงๆ แล้วคุณชายน่ะไม่ได้จ้องผมหรอก พี่มองกล้วย....(บวชชี)ของผมมากกว่า



อะไรเล่าไม่กินเองแล้วจะมามองกล้วยบวชชีผมได้ไง แอบเลื่อนมือบังถ้วยตัวเองไว้สามวิ



“เอ่อ...แล้วคนที่คุณน้ารู้จัก เค้าหน้าตาเหมือนเขาหรอ หรือเขาหน้าตาเหมือนเค้าครับ” ผมชวนคุณน้ากลับเข้ามาคุยประเด็นที่ข้างไว้อยู่ก่อนหน้านี้ หลังจากที่กลืนกล้วยลงท้องไปจนหมด



“เอ เขาหน้าคล้ายๆ เค้าเลยนะ ชื่อก็คล้ายๆ กัน ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เพราะล่าสุด น้าเห็นเค้าแวบๆ ก็ตอนงานเลี้ยงรุ่น ตอนนั้นตาณอายุได้หกขวบ เอ้อ ตาณจำได้มั้ยลูก รักแรกของแม่น่ะ วันนั้นเค้ามางานเลี้ยงรุ่นแถมจูงลูกสาวมาด้วย ตาณน่ะมองตาไม่กระพริบเลย เค้าปล่อยลูกให้วิ่งเล่น ส่วนตัวเองก็หายไปไหนก็ไม่รู้” คุณน้าเล่าด้วยท่าทีสบายๆ แต่ประโยคหลังมันทำให้ผมวางช้อนลงทันที



“โอ้ โอ้โห ถ้างั้นแสดงว่ารักแรกของคุณน้าต้องหน้าตาหล่อเหมือนเขาแหงๆ เลย” ผมแอ็คหล่อ แถมยังทำท่าทางอยากรู้เต็มที่ แต่จริงๆ ไอ้ที่อยากรู้น่ะไม่ใช่เรื่องรักแรกของคุณน้าเท่าไหร่หรอก อยากรู้เรื่องคนที่พี่ตาณมองตา-ไม่-กระ-พริบต่างหาก เหอะ...มองหญิงแต่เด็กเลยนะพี่ตาณ ไม่ได้โมโหเลยนะจริ๊งๆ



“เขาหล่อกว่าเยอะจ้ะ...รู้มั้ย รักแรกของน้าเกิดขึ้นตอนเป็นที่ยังเป็นสาวน้อย...ฮะๆ ก่อนจะเจอกับพ่อตาณเค้าด้วยซ้ำนะ ตอนนั้นพวกเรายังเด็กมาก ไม่ได้วางแผนชีวิตกันเท่าไหร่ ชอบพอกันคุยกันไม่ได้คิดอะไร แต่คุณตาคุณยายท่านคิด แล้วก็มองไปถึงทางข้างหน้า ท่านค่อนข้างกีดกันเพราะเห็นว่าคนที่คบอยู่ไม่มีอนาคต พอมันหลายๆ ครั้งเข้าเค้าก็คงยอมแพ้ เราเลยจบกันไปแบบนั้น” คุณน้าเล่าไปด้วยอมยิ้มไปด้วย ใบหน้าสวยไม่มีที่ติเหม่อคิดถึงเรื่องรักแรกของตัวเองทำให้ผมเผลอมองตาค้าง ลืมเรื่องมองหญิงของพี่ตาณไปซะสนิท พลางคิดว่ารักแรกของคุณน้านี่ตาถั่วหรือยังไงนะ หล่ออย่างเดียวแถมต้องโง่ด้วยแหงๆ เฮ้อผู้ชายสมัยก่อนนี่ไม่ไหวเลยจริงๆ



ถ้าเป็นผม คุณน้าสวยขนาดนี้ผมจะจับ...



แกร๊ง!



เสียงแก้วกระทบจานรองดังขัดจังหวะขึ้น ทั้งผมและคุณน้าจึงหันไปมองต้นเสียงพร้อมๆ กัน



“ขอโทษครับคุณแม่” พี่ตาณเอ่ยก่อนจะกระแอมเบาๆ ผมรีบยืดหลังให้ตรงแด่วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อกี้คิดอะไรวะตู



“ไม่เป็นไรลูก เอ้...แม่เนี่ยก็...มารำลึกความหลังอะไรก็ไม่รู้ ตาณกับน้องคุยกับไปเถอะลูก แม่จะไปพักแล้ว”

 

 







“แม่พี่ตาณนี่น่ารักเนอะ ตอนสาวๆ คงจะสวยน่าดู” ผมพูดพลางเดินนำพี่ตาณไปที่ศาลาริมน้ำ เสียงฝีเท้าเจ้าของบ้านดังสม่ำเสมอตามหลังผมไม่ไกลนัก



“อือ” พี่ตาณตอบรับเบาๆ แต่ว่ารังสีอึมครึมกลับแผ่กระจายมาแปลกๆ



“...”



ไม่ได้การล่ะ เปลี่ยนเรื่องดีฟ่า กลัวหัวขาด “อะ...เอ้อ พี่ตาณว่าสมัยก่อนเวลาคบกันเค้าจะพูดแทนกันว่ายังไง”



ถ้าคนที่ตามมานั่งข้างๆ ตอนนี้อารมณ์ดีแล้วผมจะดีใจเป็นที่สุด



คิดดี ทำดี พูดดีจริงๆ เลยเรา



“ไม่รู้สิ” พี่ตาณว่าแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ผม  ในตอนนี้ผมลืมเวลาจนหมดสิ้น ไอ้เขาแค่อยากเห็นพี่ตาณยิ้มให้ซักครั้งเป็นการยืนยันว่าเราไม่ได้มีเรื่องให้คันยุบยิบในใจกันอยู่



“จะมีคำเรียกเหมือนนิยายที่อีแจ็คอ่านมั้ยอะพี่ตาณ ยัยโหนกสูงกับนายปากกรรไกรอะไรแบบนี้”



“....”



“หรือว่า...ยัยแคระมานี่สิ นี่!...อย่ามาเรียกฉันแบบนั้นนะนายเสาไฟฟ้า”



“หึ”



โอ๊ะ หลุดหัวเราะแล้ว



“เด็กโง่นั่นมันนิยาย” พี่ตาณส่ายหน้า ส่งกำปั้นมาวางบนกระหม่อมผมหนึ่งที การกระทำดูเหมือนจะใจร้ายแต่กลับส่งสายตาเอ็นดูมาให้จนผมใจเต้นแรงอีกหน



ว่าแต่...



ได้เป็นเด็กโง่ของพี่ตาณก็ไม่เลวนะ อิอิ



“แล้วตอนที่พี่ตาณมีแฟนน่ะ พี่ตาณเรียกอีกฝ่ายว่ายังไง”



คุณชายไม่ตอบอะไรแต่เหลือบมองผมแวบนึง เพราะเห็นว่าพี่ตาณอารมณ์ดีขึ้นแล้วเลยกลับมาติงต๊องพุงป่องเหมือนเดิม ไม่ทันเห็นยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ของอีกคน



“หรือเวลาคุยต้องคุยกันแบบลิ้นเปลี้ยป้ะพี่ อย่างนี้น่ะ...”



“...”



“ตัวเองเค้าอยากจิกิลสัดบาร์อ๊ะ” ผมทำแก้มป่องข้างหนึ่งแล้วก็เอานิ้วชี้จิ้มแก้มข้างหนึ่ง การม้วนลิ้นนี่แม่งบันเทิงจริงๆ ดีนะเฮียดุกกับไอ้หมูชอบเล่นกันบ่อยๆ



“สลัดบาร์?”



คุณชายเอียงคอถาม ขยับหน้าเข้ามาใกล้...



“ชั่ยๆ ตัวเอง เค้าอยากกิลสัดบาร์อ๊ะ...อื้อ!”



จู่ๆ มือของพี่ตาณก็กดท้ายทอยผมตอนไหนก็ไม่รู้



รู้แต่ว่า...



ตอนนี้



คุณชายกำลังรักษาโลกลิ้นเปลี้ยของผม



...ด้วยตัวเอง...



นะ...นี่มัน



มีเสียงแมลงดังออกมาจากปากผมใช่มั้ย...เสียงมันร้องแบบว่า...



อื้อ



อื้อ



คุณชายผละตัวออก มืออบอุ่นคลึงต้นคอผมเบาๆ ส่วนไอ้เขาน่ะหรอ หอบหายใจแรงเหมือนวิ่งพันเมตร



บรรยากาศอึมครึมที่พี่ตาณสร้างมาหายไปจนหมด มีแต่แววตาเปล่งประกายสะท้อนไฟสีส้มนวลมีเสี้ยวหน้าผมอยู่ในนั้น พี่ตาณก็ยื่นมือมาเช็ดที่มุมปากผมแผ่วเบาก่อนจะเอ่ยประโยคที่ผมก็ไม่คิดว่ามันจะออกจากปากของคุณชายเจ้าระเบียบ



“มอมแมม...”



“...?”



“อันที่จริงน่ะ”



“...?”



 “กล้วยบวชชีน่ะอร่อยกว่าสลัดบาร์เยอะ”



นาทีนั้นผมถึงได้รู้คำตอบ ที่พี่เอาแต่จ้องผมเพราะอะไร



ฉ่า....



ผมมองรอยยิ้มสวยของพี่ตาณด้วยท่าทางเบลอๆ แล้วก็ขยับตัวเข้าหาพี่ตาณเองซะอย่างนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าผมโดนกล้วยบวชชีมอมเมาแหงแซะ



ถึงได้เห็นแพขนตาของพี่ตาณใกล้ขึ้นเรื่อยๆ



เรื่อยๆ



และเรื่อยๆ...



ก่อนที่สัมผัสนุ่มหยุ่นจะประทับลงอีกรอบ...



ปริ้นนนนนนนนนน ปริ้นนนนนนนนนน ปริ้นนนนนนนนนน



ชิบหาย ปลายกะละมัง!



ผมสะดุ้งผลักอกพี่ตาณออกทันทีเพราะเสียงแตรรถบวกกับเสียงทุ้มคุ้นหูตะโกนโหวกเหวกอยู่หน้าบ้าน



“ไอ้เขาอยู่ในนี้ใช่มั้ย!!”



“คุณครับ! อย่าเข้าไปนะครับ!”



“ปล่อยกูนะเว้ย!! ไอ้เสกมึงจะช่วยเขาห้ามกูทำไม ปล่อยเว้ย”



“เฮียทิว เฮียทิวยังไม่ได้ตอบคำถามเลย เป็ดอะไรโคตรเก่ง?”



“ไอ้เสก มันใช่เวลามั้ยวะ ลูกกูโดนกักขังหน่วงเหนี่ยวอยู่นะเว้ย ไอ้เขาโว้ย!”



”พ่อ!”



ผมลุกขึ้นก่อนจะตรงไปที่หน้าบ้านคุณชายอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่รวดเร็วเท่าคุณชายที่คว้ามือผมไว้แล้วออกแรงดึงผมมาด้านข้างตัวเอง และเวลานั้นเองที่เฮียทิวสะบัดทุกการเกาะกุมแล้วผลักประตูรั้วเข้ามาทันที



ผลัก!



ตาประสานตา



ใจประสานใจ



“ไอ้เขา!”



“พ่อต๋า!”



ทุกอย่างหยุดนิ่ง มีเพียงเหงื่อเม็ดเป้งหยดมาตามไรผม ชิบหาย บอกตรงๆ ว่าชิบหายแล้ว



และเป็นเฮียทิวเอง...ที่ทำลายความเงียบด้วยการไล่สายตามองหน้าผม แล้วไล่มาที่เอ่อ...มือของผมด้วยสายตาที่คมกริบอย่างกับมีด พอผมเลื่อนมองตามก็สะดุ้งจนสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของพี่ชายตาณ แต่อีกคนก็กระชับแน่น



บรรยากาศเย็นเฉียบลามมาถึงข้อมือ



“เอ่อ พะ...พี่ตาณครับ...นี่เฮีย เอ๊ย พ่อเขาเองครับ” ผมปากคอสั่น นี่กูไปประกวดร้องเพลงได้เลยนะเนี่ย ผมส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปที่พี่เสกแต่ก็ไม่ได้ผล หายไปนาน พอเจอหน้ากัน พี่เสกมึงสร้างความร้าวฉานโดยการพาพ่อผมมาหาถึงที่



“สวัสดีครับ” คุณชายมาดนิ่งก็ยังนิ่งเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือยกมือที่จับมือผมอยู่ไหว้พ่อผมด้วย เล่นเอาผมงงเป็นควายตาแตก คุณชายมีท่าทีกวนบาทาอย่างเห็นได้ชัด หรือว่าคราวนี้ผมจะคิดไปเอง



คิ้วเฮียทิวกระตุก ก่อนแยกเขี้ยวใส่ผม



“ไอ้เขากูบอกว่ายังไง สองทุ่มให้ถึงบ้าน ห้ามเถลไถลนี่อะไร โทรศัพท์ก็ไม่รับ ที่ไม่กลับบ้านเพราะมึงยินยอมอยู่ที่นี่งั้นหรอ!” พ่อไม่รับไหว้แถมยังเปิดประโยคแรกด้วยคำแสนโบราณ ยินยอมอะไรเล่า พ่ออ๊ะ อายนะ!



เดี๋ยว...ผมว่ามันไม่ใช่เวลา



“พ่อ มันไม่ใช่แบบนั้นนะ เขาไปซ้อมกีตาร์ไงแล้วตอนกลับคุณแม่พี่ตาณชวนเขากินข้าวกะทันหัน เขาเลยไม่ได้บอกพ่อง่ะ พ่ออย่าโกรธเขาเลยนะ เนี่ยๆ เสร็จแล้วเรากลับกันเถอะเนอะๆๆ” ผมพูดต่อและเป็นจังหวะเดียวกับที่คุณชายปล่อยข้อมือผมพอดี ไอ้เขาจึงถลาตัวไปหาพ่อ พี่ชายตาณตัวจริงต้องแบบนี้สิ คนสุภาพของนุ้ง



“เดี๋ยวครับ”



คุณชายที่ยืนมองเงียบๆ เอ่ยขึ้น



“...ขอผมติดกระดุมให้น้องเขาก่อนได้มั้ยครับ"



"...????"



"...เมื่อกี้เผลอดึงแรงไปหน่อย”



เท่านั้นแหละ เฮียทิวตาแทบถลน สายตาเราสองพ่อลูกมองหน้ากันกัน ก่อนจะก้มต่ำมองหน้าอกน้อยๆ ของผมพร้อมกัน



ไอ้เขาตาเหลือกเมื่อเห็นรังดุมที่หลุดไปสองเม็ด ดึงอะไรกัน...



ขุ่นพระ!



พี่ตาณได้กลายเป็นตัวรว้ายในคราบคุณชายไปซะแล้ว



“ไหนบอกกินข้าว กินข้าวอะไร กระดุมหลุดขนาดนี้วะ!” เฮียทิวหัวเสียสุดขีด มองหน้าพี่ชายตาณตาขวาง ถ้าพ่นไฟได้คงจะพ่นไปแล้วแน่ๆ



“คุณพ่อครับ”



“กูมีลูกคนเดียวโว้ย! และกูไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ไป ไอ้เขากลับบ้าน! กูจะบีบไข่มึงไม่ให้ออกแรดเกินสองทุ่มแน่”



“พ่อ!!” ผมร้องเสียงหลง พ่อเล่นใหญ่ไปมั้ยเนี่ย พ่อต๋าของนุ้งเป็นอะไร เฮียทิวจ้องตากับคุณชายสองวินาทีเศษก่อนจะเอ่ยปากประกาศลั่น



“ส่วนมึง ถ้าอยากเป็นลูกเขยกูจริงๆ ล่ะก็.. รอไปอีกชาติหน้าแล้วกัน!”



ผมคาดหวังว่าคุณชายจะมีท่าทีตกใจ แต่ทำไมปฏิกิริยายิ้มมุมปากนั้น...คล้ายกับว่ามีชัยเหนือกว่า



พี่...



ไอ้เขายื่นมือห้านิ้วออกไปหวังให้ปลายนิ้วสัมผัสตัวอีกคนที่ดูเหมือนว่าจะไม่อาลัยอาวรณ์ผมซักเท่าไหร่ ส่วนพ่อก็ดึงเอวผมไปทางหน้าบ้านทันที ปากก็ออกคำสั่งให้พี่เสกที่ยืนอึ้งให้ไปสตาร์ทรถ



พี่ตาณครับ....



“ลาก่อน อ่อน อ่อน อ่อน”



คุณชายส่ายหน้า ก่อนเอ่ยประโยคที่ตรึงเท้าเฮียทิวเหมือนกับโดนตอกหมุด



“ผมไม่ต้องรอชาติหน้าหรอกครับ...อาจจะไม่กี่นาทีต่อจากนี้เลยก็ได้”



ตึกตึก



“ตาณ เกิดอะไรขึ้นเสียงดังไปด้านในเลยลู...”



ร่างของคนที่มาใหม่ปรากฏขึ้น ทันใดนั้นแรงที่รัดเอวผมก็คลายลง



“หญิง”



พ่อเอ่ยเสียงเบา แต่ก็ดังพอที่จะทำให้คุณน้ายืนนิ่ง ตาสวยเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเรียกชื่อพ่อผมแผ่วเบา แววตาที่มีความรู้สึกมากมายถูกส่งถึงกัน



“ทิว”



“หญิง”



“ทิว”



“หญิง”



“ทิว”



“หญิ...”



พอเถอะครับ!

 







“อย่าบอกนะครับว่า รักแรกที่แสนโง่งมของคุณน้าคือ...เฮียทิวพ่อของเขาหรอครับ”



ผลัวะ!



“โอ๊ย!”



“น้อยๆ หน่อย กูพ่อมึงนะ”



“เจ็บอ๊ะ พี่ตาณ....”



ผมทำเสียงร้องไห้ก่อนจะถลาไปกอดขาคุณชาย แต่ติดที่พ่อดึงคอเสื้อผมไว้แน่น เฮียทิวผู้ที่เกรี้ยวกราด ตอนนี้กำลังเก๊กหล่อและลอบมองคุณน้าบ่อยๆ



“นี่คุณทิว ถ้าขืนยังรุนแรงแบบนี้ ฉันว่าคุณกลับไปดีกว่า ทิ้งน้องเขาไว้ที่นี่ถ้าอารมณ์เย็นแล้วค่อยคุยกัน”



ชะอุ้ย



คุณน้าพูดเสียงเฉียบขาดในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ต่างจากตอนที่เล่าถึงรักแรกตัวเองลิบลับ แล้วก็นะ...พ่อไม่เห็นเคยเล่าเรื่องรักแรกของตัวเองให้ผมฟังเลย ผมเงยหน้ามองคุณน้าที มองพ่อตัวเองที มองคุณชายอีกที



เดี๋ยวนะ....



มีผมคนเดียวรึเปล่าเนี่ย ที่นั่งงงกลางดง...ผู้ใหญ่



“ผมกับลูกก็เป็นแบบนี้ปกติ พวกเราอยู่กันแบบฮาร์ดคอ ใช่มั้ยภูเขาลูกรัก” พ่อคว้าคอผมด้วยแขนอันแข็งแกร่ง



“แอ่กๆ ขะ...ครับ”



“...แล้วนี่ยังไง คุณรู้เห็นเป็นใจให้ลูกชายคุณไม่ไว้หน้าผมเลยหรอ ถึงจะชอบพอกันก็ไม่ควรกักตัวลูกผมไว้แบบนี้” พ่อตวัดสายตามองคุณชายที่นั่งนิ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม หลังจากการปรากฏตัวของคุณน้าจะทำให้พ่อเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็แอบวางมาดข่มคุณชายไปด้วย



“ลูกชายฉันไม่ไว้หน้าคุณยังไง ตาณดูแลน้องเขาดีไปรับไปส่งตลอด มีแต่คุณที่จู่ๆ เกิดหวงลูกขึ้นมาก็มาโวยวาย แต่ก่อนโดนกีดกันตอนนี้ก็จะมากีดกันแทนหรือไง บอกไว้ก่อนนะลูกชายฉันน่ะถึงจะโดนกีดกันแต่ก็สู้ไม่เหมือนบางคนหรอกค่ะ!”



แลงงงงง



นี่รักแรกจริงป้ะครับ หรือว่านี่เป็นการแสดงออกที่แตกต่างจากคนอื่น



เฮียทิวคิ้วกระตุก จะอ้าปากเถียงแต่ก็คงแทงใจดำฉึกๆ



“เรื่องนั้นน่ะ ผม...” เป็นครั้งแรกที่เห็นเฮียทิวอึกอัก ไม่สมกับเป็นเฮียประจำซอย ไอดอลของเด็กขี่มอเตอร์ไซค์เลยซักกะติ๊ด



“ตาณ แม่บอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าลูกชอบใครแม่ก็ชอบคนนั้น ไม่เหมือนคนบางคนที่ไม่เข้าใจหัวอกของคนเป็นลูก...”



ผมอ้าปากค้าง



ไม่ต้องงงครับ เพราะกูตามไรไม่ทันเลย คุณน้ารู้แล้วหรือครับว่าผมกับพี่ชาย...



“นี่คุณไม่ให้โอกาสผมพูดเลยรึไง คุณโกรธผมที่ผมหายไปใช่มั้ย แต่คุณไม่เห็นจะฟังผมอธิบายเลยนี่”



คุณน้าลุกขึ้นทันที หน้าตาสวยไม่สร่างบึ้งตึง เฮียทิวจึงลุกตามพร้อมกับยื่นมือจะคว้าแขนคุณน้าไว้ แต่มีอีกคนที่มือไวกว่า (ไอ้เขาพิสูจน์เเล้ว)



หมับ!



“คุณอาครับ ผมว่า...เรามาคุยกันหน่อยมั้ยครับ”



เพราะแบบนั้นคุณน้าจึงเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เฮียทิวมองตามด้วยความหงุดหงิดก่อนจะสะบัดแขนที่คุณชายจับไว้



“คุยอะไร”



“ผมรู้นะครับ ว่าคุณอามาที่นี่ไม่ใช่แค่เรื่องผมกับภูเขาอย่างเดียว...” คุณชายหันไปมองแม่ตัวเองทีนึงก่อนจะลากสายตากลับมาหาเฮียทิว



เฮียทิวชะงักและมีท่าทีลังเล แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ สุดท้ายคุณชายก็เดินนำพ่อออกไปทางหลังบ้าน



ผมเงยหน้ามองทั้งสองคนอย่างงงงวย มองจนทั้งคู่เดินออกไป



สรุปแล้ว



ตูมาทำอะไรตรงนี้วะเนี่ย เกาหัวแกรกๆ



พ่อเล่นใหญ่ คุณชายกลายร่าง คุณน้าคนสวยงอนตุ๊บป่อง



ช่างเถอะ แต่คุยกันเสร็จแล้วมารับผมด้วยล่ะ



ว่าแล้วก็เดินไปที่ครัว



“นมครับบบบ กล้วยบวชชียังเหลือมั้ยครับ คุณชายแย่งเขากินหมดเลยง่า....”



“คุณตาณเธอไม่ได้แตะกล้วยบวชชีเลยนะ อย่ามาคุยโวหน่อยเลย”



“ไม่ได้แตะได้ไงครับก็พี่ตาณมาจู...”



“จู...อะไร เกะกะจริงๆ เลย จะมาขอทานเพิ่มแล้วก็หน้าแดงใส่ เอ้าในหม้อนู่นเจ้าตะกละเอ๊ย”



นมอะ ก็พี่ตาณมาแย่งชิมกล้วยบวชชีจากปากผมไปหมดเลยนี่



นึกถึงก็เขิน กินดีกว่าเรา





=========
อ่านคลายเครียดเหมือนเดิมนะตุ๊กคนน
ส่วนพี่เสกอยากมีบทแล้วง่าาาาา ช่วยตอบคำถามแทนเฮียทิวที
#คุณชาย2017 ติดแท็กพูดคุยกันได้นะคะ
เลิฟและคิดถึงมากกก
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 18:ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้จุดจุดจุด p.11 [26-11-18]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-11-2018 11:11:19
 :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 18:ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้จุดจุดจุด p.11 [26-11-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 26-11-2018 11:46:34
อยากให้เฮียทิวกับแม่พี่ตาณกลับมารักอีดครั้งงะ  เป็นดองกันเลย
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 18:ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้จุดจุดจุด p.11 [26-11-18]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 26-11-2018 12:19:27
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 18:ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้จุดจุดจุด p.11 [26-11-18]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 26-11-2018 14:36:44
พี่ต๊าณณณณณณณณณณณณ ไม่ธรรมดาจริงๆค่ะ
อรุ่มมมม
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 18:ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้จุดจุดจุด p.11 [26-11-18]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-11-2018 16:21:16
รอตอนต่อปาย  :katai5:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 18:ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้จุดจุดจุด p.11 [26-11-18]
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 26-11-2018 21:47:43
นังเขากลับมาแร้วววววว
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 18:ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้จุดจุดจุด p.11 [26-11-18]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 27-11-2018 09:06:28
ยังเกรียนเหมือนเดิมนะนังเขา 555
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 18:ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้จุดจุดจุด p.11 [26-11-18]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 27-11-2018 23:13:33
ยังไงกันๆ
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 18:ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้จุดจุดจุด p.11 [26-11-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-11-2018 23:55:26
อูยยยยย...........  :o8:
คุณชายมือถึง ปากถึงปากเขาตลอด  ชอบบบบบบบบ  :impress2:

ก็ว่าและว่าแม่พี่ตาณต้องเคยรู้จักพ่อเขามาก่อน  :hao3:
แล้วก็จริงด้วย ไม่ใช่แค่รู้จัก เคยเป็นคนรักกันซะด้วย  o18

พี่ตาณ  เขา    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 18:ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้จุดจุดจุด p.11 [26-11-18]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 26-12-2018 22:14:02
สนุกๆๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 18:ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้จุดจุดจุด p.11 [26-11-18]
เริ่มหัวข้อโดย: ppnplg ที่ 26-12-2018 23:01:07
รอลุ้นคู่เฮียทิวกับแม่นะคะ อยากให้กลับมารักกัน
เอ็นดูวววววววเขา ปล่อยผู้ใหญ่เค้าคุยกันเนอะ เราเข้าครัวหาของกิน
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 18:ห้ามใจเฮียทิวไม่ให้จุดจุดจุด p.11 [26-11-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 14-05-2019 01:35:51
ไปไหนแล้วววววว :call: :call:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 19 : ห้ามคีพคูล (ข้ามปี) p.12 [23-10-19]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 23-10-2019 00:31:39
คุณคนอ่านที่เข้ามาอ่านตอนนี้
คุณไม่ตาฝาดหรอกนะ เพราะการมาครั้งนี้ก็เหมือนฝันตื่นหนึ่ง




ระเบียบที่ 19 : ห้ามคีพคูล (ข้ามปี)



คุณกำลังรับชม ภาพยนตร์เรื่อง “รักเราสู่ขิตอีกครั้ง”
กำกับภาพโดย กระผมนายภูเขา เหล่ากา
คำเตือน ผู้ที่มีอายุน้อยกว่าสิบแปดปีต้องดื่มนมก่อนนอน




เริ่ม!



“แสงไฟจากเสาไฟฟ้าหน้าบ้านกระทบเสี้ยวหน้าของชายมีอายุคนหนึ่ง...”



“หงึก” เสียงคิ้วกระตุกหนึ่งที



“เขานั่งชันเข่าเฝ้ามองแมลงเม่าบินเข้าใกล้ไฟอย่างเชื่องช้า ท่าทางเหงาหงอย จ๋อยสนิท”



ในบ้านเล็กๆ ที่อบอุ่น พบคนบ้าหนึ่งอัตรากำลังทำท่าถือกล้อง ไม่สนใจสายตาเอือมของผู้ชายมีอายุคนนั้น มันเคลื่อนกล้อง(ในมโน)ตัวมายังมุมต่ำ ภาพที่เห็นเลื่อนจากเท้า ขนหน้าแข้ง เป้ากางเกง(ภาพค้างตรงนี้นานกว่าที่อื่น) มาจนถึงอก กับเสียงบรรยายคล้ายทีมพันธมิตร



“เขารู้สึกเจ็บเหลือเกิน...เล็บขบที่นิ้วโป้งของเขายังไม่เจ็บเท่าใจเขาตอนนี้เลย เขาได้แต่ถามตัวเองว่าทำไมอ่า ทำไมอ่าาา เธอคนนั้นถึงไม่เหลือบตามองขี้หมาอย่างผม หรือเพราะเราเป็นแค่รักครั้งแรกของกัลและกัลเท่านั้น...”



“รักครั้งแรกงั้นหรอ”



ผู้ชายคนนั้นพึมพำแผ่วเบา เราสบตากันหลังกล้อง(มโน) และพูดออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย



“รักครั้งแรก หัวใจก็แตกสลาย”



“เร็วเกินไปไหมกับควายผิดหวัง”



ผลัวะ!



“โอ๊ย”



“ไอ้เขาเห็นกูเคลิ้มก็เอาใหญ่เลยนะ แล้วนี่ทำท่าถ่ายหาอะไร กูไม่ใช่พระเอก”



“ใครบอกพ่อเป็นพระเอด”



“เอก! ไอ้นี่เดี๋ยวมึงจะโดนมากกว่าบีบไข่”



“งื้อ ไม่เอาแล้ว”



ผมขว้างกล้องมโนทิ้งก่อนจะกุมเป้าพร้อมนั่งพับเพียบตรงเท้าพ่อพอดิบพอดี



“เขาเห็นพ่อเงียบๆ อะ เขาไม่ชิน เขาอยากให้พ่อตลก”



“กูไม่ใช่จาตุรงค์”



“ว้าย เก๊าเก่า บอกอายุ”



“หงึกๆ” เสียงตีนกระตุกสองที ไอ้เขาคลานเข้าไปใกล้พ่ออีกนิด แล้ววางคางไว้ตรงเข่าพ่อ โหมดจริงจังของไอ้เขาก็มา เมื่อพ่อหันไปเหม่อมองแมลงเม่าอีกแล้ว



“พ่อเป็นอะไร”



“...”



“พ่ออยากเล่าอะไรมั้ย”



พ่อเบนสายตาลงมามองผม ความรู้สึกสับสนปะปนผ่านดวงตาของพ่อ และนั่นทำให้ผมนึกย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนที่แม่จากเราไป ตอนจำไม่ค่อยได้นักหรอก แถมยังไม่เคยรู้เลยว่าชีวิตรักของพ่อเป็นยังไงเพราะพ่อไม่เคยพูดถึงเลย ตั้งแต่จำความได้ผมก็อยู่กับพ่อแค่สองคน เรานอนง่ายๆ กินง่ายๆ ตามประสาผู้ชาย พ่อเลี้ยงผมด้วยตัวคนเดียว และเริ่มสร้างฐานะจากร้านซ่อมรถเล็กๆ พ่อยุ่งมากจนผมได้แต่เล่นไขควงกับนิ้วเท้าตัวเองไปวันๆ ไม่ได้เที่ยวหรือเล่นสนุกแบบบ้านไหนๆ



แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่รู้สึกขาดเหลืออะไร ผมรู้สึกว่าผมมีพ่อที่เจ๋งมาก ผมน่ะ...ฮรุก...



“เขา...”



ผมน่ะ...รักป้อที่ฉุด



“พ่อต๋า...”



“มึงอยากมีแม่ใหม่ไหม”



เอี๊ยด!



“เดี๋ยวนะ เขางง”



“งงไร” พ่อใช้นิ้วชี้ดันหัวผมออกจากเข่า ก่อนจะขยับตัวเกาหลังแกรกๆ “ใครงงเป็นควายนะ”



“เขาเป็นควายหรอ”



“ใช่!”



“มออออ เอ้ย! พ่อ เขาเป็นห่วงพ่ออยู่นะ ยังจะมาเล่นอยู่ได้”



“กูไม่ได้เล่น ก็ถามอยู่เนี่ย ว่าอยากมีแม่ใหม่ไหม”



“คือ...”



อ่า...ไอ้เขาตาเหลือก สมองเท่ารอยเท้ามดประมวลเร็วจี๋



หลังจากคุยกับคุณชาย พ่อก็นั่งทำเอ็มวีอยู่นานสองนาน ทำให้ผมต้องหาวิธีให้พ่อกลับมาเป็นเฮียทิว นักเลงโตเหมือนเดิม



แต่ว่าที่พ่อตูนั่งเงียบ ตั้งแต่เพราะว่าเหตุผลนี้หรอ



แม่ใหม่....



เอาความเป็นห่วนกลับคืนมา



ห่วง!



“หรือว่ามึงไม่อยากให้กูมีใหม่”



พอพ่อพูดเสียงจริงจังทำให้เราเงียบกันไปครู่หนึ่ง ผมหลบสายตาพ่อ เสมองไปทางอื่น ก่อนจะตัดสินใจพูด



“ใหม่....”



“อืม” พ่อรับคำคล้ายไม่ใส่ใจ แต่เชื่อว่าตาลุงแอ๊บวัยรุ่นคนนี้คงจะกังวลอยู่ไม่น้อย



“ใหม่ไหนอะพ่อ เจริญปุระ หรือใหม่ ดาวิกา”



ผลัวะ!



“เขาเจ็บนะ”



“ยังจะเล่นอีก”



“โอ๋ๆๆ พ่อไม่ต้องคิดมากหรอกน้าลลลล(ม้วนลิ้น)” ไอ้เขาถูผมที่ชี้โด่ชี้เด่ของตัวเองกับหัวเข่าพ่อ “เขาเป็นลูก แต่ชีวิตพ่อเป็นของพ่อนะ อะไรที่พ่อมีความสุขพ่อก็ทำไปเถอะ”



พอเงยหน้าจากหัวเข่าพ่อจ๋า กระผมก็ส่งรอยยิ้มพิฆาตไปให้พ่อ เฮียทิวชะงักแต่หลังจากนั้นก็ค่อยคลี่ยิ้มอย่างเก๊กๆ พร้อมกับกระตุกหัวเข่ามาชนหัวผมสองสามที



“มึงนี่ พูดอะไรซึ้งๆ ก็เป็นเหมือนกันนะ”



“อี๊ๆๆ”



“มึงไปหัวเราะไกลๆ นู่นไป”



“โหยยยย ทำมาไล่ แล้วใครที่ไปตามเขากลับบ้าน เล่นใหญ่รัชดาภิเษก แถมโวยวายเป็นบ้านเป็นหลัง”



“พูดก็ไม่ถูกซักประโยคโว้ยลูกกู อะแล้วถ้ากูไม่เล่นใหญ่จะรู้มั้ยว่าลูกชายแรดขนาดนี้” พ่อส่ายหน้าพลางกลั้วหัวเราะ ดีจัง พ่อกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว



“พ่อ”



“ไร”



“ว่าแต่แม่เขาอะแรดจริงหรอ”



“หึ”



“หมายควายว่าไง”



“หึหึ กูพูดเล่น แม่มึงไม่ได้แรดหรอก” พ่อหัวเราะในลำคอ สายตามองไปยังภาพสีขาวดำข้างทีวี



“แล้วแม่เขาเป็นยังไง” ผมมองตามก็เห็นภาพกลุ่มวัยรุ่นยุคเก๊าเก่ากอดคอกันอยู่ตรงนั้น



“แม่มึงอะนะ...” พ่อเว้นวรรค ก่อนจะยิ้มอีกครั้ง



“...เป็น”



“...”



“...เพื่อนที่ดีที่สุดของกู”



“อ่า....”



อย่างนั้นเองสินะ



พ่อเอื้อมมาขยี้หัวผมอย่างไม่เบามือเท่าไหร่นัก



“แต่จำไว้ว่ามึงเกิดมาจากความรักนะภูเขา”



“อื้อ!”



แน่นอนอยู่แล้ว



เราต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่ไม่นาน จู่ๆ ผมก็คิดได้ จึงรีบถามเดี๋ยวหลับแล้วลืม



“เอ่อพ่อฮับ!”



ไอ้เขายกมือขวาสุดแขน พร้อมกับใช้มือซ้ายปิดจั๊กกะแร้



“เชี่ย! ตกใจหมด” พ่อสะดุ้งโหยง “แล้วนี่จะแบ๊วพูดพ่อฮับทำปลาจวดไร”



“ก็เขาเป็นลูกน้อยของพ่อนะ” จิ้มแก้มประกอบความแบ๊ว



“มึงจะพูดอะไร กูปวดหัวกับมึงจริงๆ”



“เอ่อ...แล้วดราม่ากีดกันเขากับพี่ชายตาณจบแค่นี้หรอ”



“เหอะ”



พ่อพูดแค่นั้นแล้วก็ถอดเสื้อ ขว้างทิ้งมาคลุมหัวไอ้เขา แล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป



หมายความว่าไงอะพ่อ



ใช่ หรือ ไม่ หรือ คิดเอาเอง หรือ อะไร



เขาก่งก๊ง



ผม นายภูเขา เกาหัวแกรกๆ ขอจบความงงเพียงเท่านี้ครับ

 





เช้าวันต่อมา ผมตื่นเช้าแบบไม่ต้องมีนาฬิกาปลุก ว่ากันว่าคนมีความสุขก็จะตื่นอย่างสดใส แถมเฮียทิวยังไม่ทำหน้าถมึงทึงยามที่มีรถเต่าสุดคลาสสิกมาจอดตรงหน้าประตูบ้าน ตอนนี้คงนอนเกาตูดอยู่บนห้องนู่นแหละ ดังนั้นคำว่า 'เหอะ' เมื่อคืน ผมจึงตีความเอาเองว่า ดราม่ากีดกันมันจบลงเพราะผมให้ซีนพ่อไปอย่างเต็มที่



เพราะงั้นทุกอย่างจึงดูสดใสไปหมด และผมจะไม่โดนพ่อบีบไข่อีกต่อไปแล้ว



“พี่ตาณ”



ผมยิ้มร่าเรียกพี่ตาณเสียงดัง ก่อนจะมุดรีบมุดตัวเข้าไปนั่งในรถ แต่ลืมตัวว่าสะพายน้องบีม ส่งผลให้ท่าทางทุลักทุเลเป็นอย่างมาก



“ระวังๆ” พี่ตาณดุทันทีขณะที่มองไอ้เขายืดตัวไปด้านหลัง แถมสองแขนยังประคองน้องบีมไปวางไว้ที่เบาะหลังด้วย



“โห่ ไม่โดนรถพี่ตาณหรอกน่า ผมน่ะระวังอย่างดี”



“ไม่ใช่น้องบีม แต่ระวังหัวโข...”



โป๊ก!



“โอ๊ย”



“พูดยังไม่ทันขาดคำ”



“แหะๆ ไม่เจ็บเลย” ผมยังยิ้มเป็นคนบ้าเหมือนเดิม ก็คนมันมีความสุขง่า



“มาดูซิ” พี่ตาณเกี่ยวคอผมเข้าไปดูใกล้ๆ มืออุ่นๆ ของพี่ตาณลูบหัวผมไปมาเบาๆ



“ไปโรงพยาบาลมั้ย”



ฮือ ตัวเองคนดีของเค้า อิจฉาผมล่ะสิ ผมล่ะสิ แค่หัวโขกแค่นี้ถึงกับต้องพาไปโรงพยาบาล



“ไปตรวจแผลหัวโขกหรอพี่ตาณ ไม่เป็นไรหรอกแผลจี๊ดเดียว”



ผมทำท่าโบกไม้โบกมือปฏิเสธ โฮ่ๆๆๆ เกิดเป็นเขาเนี่ยลำบากจริงจริ๊ง  ผู้ชายเป็นห่วง



“เปล่า จะพาไปเช็คสมอง แต่ดูท่าแล้วหมอคงไม่ช่วยอะไร”



ชะอุ้ย!





ขณะที่พี่ตาณขับรถ ผมก็เล่าเรื่องเมื่อวานให้คุณชายฟัง



“พี่ตาณดีใจมั้ย พ่อไม่กีดกันเราสองคนแล้ว” คนฟังสีหน้าไม่เปลี่ยนเลยซักนิด “พี่ตาณรู้อยู่แล้วใช่มั้ย”



ไอ้เขานะถึงจะไอคิวน้อยแต่ก็ไม่โง่นะครับ ฮุ



“พี่ตาณรู้มาก่อนว่าพ่อกับคุณน้ารู้จักกัน ถึงขั้นมีความหลังด้วยกันมาก่อน เพราะงั้นเมื่อวานคุณชายจึงกลายร่าง ยั่วยวนพ่อ”



“ยั่วยุ”



“นั่นแหละๆ” ผมกอดอกแอบงอนเป็นสาวสะพรั่งบนคานทอง(?) เอ้าก็พี่ตาณมองบนอะคุณณณ มองบนใส่โผ้ม



“พี่ตาณทำผมตกใจมากเลยนะ”



“เด็กโง่ ถ้าไม่ทำแบบนี้ เราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกนะ”



“...!!”



ราวกับคำว่าไม่ได้เจอ เป็นคำร้ายแรง เพราะผมรู้สึกถึงสายฟ้าหน้าดำฟาดลงมากลางอก ได้กลิ่นไหม้ลอยมาเลยด้วย



“ถึงเราจะตรงๆ กันแล้ว แต่การได้รับการยอมรับจากครอบครัวก็เป็นเรื่องสำคัญ ฉันแค่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเท่านั้นเอง”



“อ่า....”



ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง วิกาสโอกฤตอะไรง่า



“แล้ว...พี่ตาณหวงแม่มั้ยครับ” เปลี่ยนเรื่องแม่งเลย



“อืม แต่ฉันรู้จักคุณแม่ดี”



“ถึงพ่อผมจะดูห่ามๆ ขี้เก๊ก ซกมก แต่ก็เป็นคนดีนะ พี่ตาณไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะช่วยดูพ่ออีกแรง ไม่ให้พ่อทำอะไรให้คุณน้าลำบากใจ”



“...”



“ผมจะไม่ยอมให้อะไรมาทำให้ความตรงๆ ของเรา กลายเป็นความเบี้ยวๆ แน่นอน!” ผมกำมือแนบอก ความมุ่งมั่นฉายในแววตา พี่ตาณยิ้มก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้หัวผมอีกรอบ



“ทำดีมาก ขอมือหน่อย”



ทำไมฟังดูแล้วเหมือนผมเป็นหมาเลย เอียงหน้าคิดแต่ก็สลัดมันออกอย่างรวดเร็ว



ต้องรีบยื่นมือไปหาพี่ตาณ เดี๋ยวพี่รอนาน



“นี่มือครับพี่”



“หึหึ เด็กดี”



โฮ่ง!

 





“เฮียดุก เฮียว่าโลกนี้สีอะไร”



ผมถามขึ้น ขณะที่นั่งรอเวลาพี่ตาณมารับไปซ้อมดนตรี โดยมีเพื่อนรักหักเหลี่ยมตูดอย่างเฮียดุก และไอ้หมูนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม วันนี้พวกมันเสนอหน้าขอติดรถคุณชายไปที่ห้องซ้อมด้วย



“เอ่อ สี...ศรีทนได้...มั้ง” เฮียดุกหรี่ตาแต่หันมาตอบอย่างงงๆ



“แต่กูว่าโลกนี้สีชมพูว่ะ” ดูสิ ขนาดปากกาในมือยังเป็นสีชมพูเย นู่นต้นไม้ใบหญ้าหน้าคณะก็เป็นสีชมพู อิอิ ผมยิ้ม รู้สึกหัวใจโพตองอยู่ตลอดเวลา



“เชี่ยยยย ไอ้หมูน้องรัก มึงว่าไอ้เขาฟายมันเป็นไรวะ”



“มึงไม่ต้องถามหรอกครับเฮียดุก หนักขนาดนี้ กูว่ามันแอบไปลงเรียนกัญชาศาสตร์มาแน่นอน”



“เดี๋ยวๆ แล้วมึงขึ้นไรเนี่ย”



“กูอยากลงเรียนด้วย ถรุ้ย!”



ไอ้สลัดปลาหมึก มึงคิดว่ากูไม่ได้ยินที่พวกมึงกระซิบกระซาบเป็นแมลงสาบสีชมพูหรอวะ



เอาเถอะ นายภูเขาจะไว้ชีวิตเจ้าทั้งสอง ผมเหลือกตามองบนก่อนจะทำเป็นไม่ได้ยิน



“มึงๆ หลอกถามปัญหามันดีกว่าเผื่อมันจะได้สติมากขึ้น”



“ได้ๆ”



ทำเป็นหลอกถามหรอ กูน่ะ ตอบพวกมึงได้แน่นอน



มาเล้ย!



กูจะใช้พลังคลื่นเต่าเหยียบโลกาสีชมพู สยบพวกมึงเอง เฮียดุกพยักหน้ากับไอ้หมูด้วยความมาดมั่น ก่อนที่จะพุ่งคำถามมาอย่างรวดเร็วเหมือนยิงกระสุน



“จังหวัดอะไรรวยสุด!”



“จังหวัดตรัง!”



“เป็ดอะไรเก๊งเก่ง!”



“เป็ด โปรฯ!”



“ม้าอะไรอยู่ในวัด!”



“ม้ายางพันเต!”



“....!!!”



อึ้งๆ อึ้งแดก



“เป็นไงล่ะ ถึงการเรียนกูจะไม่เอาถ่าน ถ้าเป็นห่านเอาเรื่องนะเว้ยยย”



ว่าแล้วต้องทำท่าเช็คถูกใต้คางเหมือนโคนัน ยอดนักตุ้มจิ๋ว



“เชี่ยยยย ไอ้หมู ไอ้เขามีพลังเทพบังเกิดหรอวะ มันไม่ใช่ตัวจริงแน่นอนเพราะแม่งตอบถูกทุกข้อ” เฮียดุกยังคงกระซิบกระซาบต่อไป ถ้ากูมือยาวแบบแม่นาค กูจะจับหัวพวกมันแยกกันละ



“พอเลยๆ นี่พวกมึงคิดว่ากูโง่หรอ”



“เออ!” กูมาดหลุดละ พูดงี้ด่ากูว่าควายดีกว่า



“ว่าแต่คาแรดเตอร์กูเป็นแบบนี้หรอวะ”



“คาแรกเตอร์!” ไอ้หมูลุกขึ้นแล้วยืดตัวมาด้านหน้า มันใช้แขนอันผอมแห้งตบกระโหลกผมทีนึง



“สาบานว่ามึงไม่รู้เลย”



ผมเกาหัวแกรกๆ



“เชี่ยเขา ถึงมึงจะมีแควนเป็นตัวเป็นตนน่ะ มึงต้องคีพคูลนะเว้ยเพื่อน เราจะขึ้นเวทีอีกแค่ไม่กี่วันนี้เเล้วนะ มึงจะมานั่งละเมอเพ้อพกโลกสีชมพูไม่ได้”



“ทำไมวะ พี่ตูนยังอยากให้มันเป็น...สีชมพู อู แค่ให้หัวใจของเราได้รู อู้ เย่”



ไอ้หมูและเฮียดุกยกนิ้วมาจิ้มบนอากาศพร้อมกันแล้วพึมพำว่า พระบิดา พระบุตร และพระจิต



“พี่ตูนครับ ยกโทษให้พวกผมด้วยครับ”



“อ้าว กูร้องผิดหรอ?” ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแล้วสบตาเพื่อนรักหัวเถิกและผอมแห้งด้วยความงงงวย



“มึงร้องถูกเพื่อนๆ เหมือนต้นฉบับเลย เพราะคุณคือนักร้องเสียง....” เฮียดุกเว้นวรรค



“เพี้ยน!” ไอ้หมูสนอง



“กูว่าเราต้องคุยเรื่องนี้กันจริงจังแล้วนะเว้ย” จู่ๆ ไอ้หมูเปิดประเด็นอย่างจริงจังจนเกือบตามไม่ทัน และนั่นทำให้แกงค์สามหนุ่มสามมุมค่อยขยับหัวเข้ามาใกล้กันประหนึ่งเป็นแฝดสยาม โดยที่โต๊ะหินอ่อนตรงกลางไม่เป็นอุปสรรคขวางกั้น



“มึงหมายถึง...เรื่องได้รูหรอวะไอ้หมู” 



“เออรูไหนจะดีกว่ากัน เชี่ย! ผิดประเด็นแล้วไอ้เขา หยุดทำหน้าโง่แล้วฟังกู เฮี้ยดุกด้วย อะแฮ่ม การที่เรา...ผู้ก่อตั้งวงวารชีวิตจะได้ขึ้นเล่นเปิดเวทีให้ 25hours หรือเดอะริชแมนทอยเนี่ย มันไม่ใช่เร่นๆ เลยนะเว้ย”



“อื้อหือ”



“เป็นไง มึงตื่นเต้นแล้วใช่มั้ย”



“ไอ้สัส เร่นๆ มึงเนี่ย น้ำลายกระเด็นอย่างกับกูยืนอยู่ข้างน้ำตก”



เฮียโวย แม่งกูต้องรีบปิดหน้าเลย เดี๋ยวเหม็นน้ำลาย



“กูกำลังอิน อย่าขัดกู ทนดมไปก่อน”



“เออไอ้สัส”



“เออนั่นแหละ สิ่งสำคัญนอกจากเบ้าหน้าที่มาจากตลาดบนอย่างเราๆ แล้ว เราจะต้องทำตัวให้ดูคูลอยู่ตลอดเวลา”



“เชี่ยยยยย!” ผมแหกปากอยู่กลางวง ไอ้หมูเบิกตากว้าง พร้อมกับพยักหน้ารัวๆ



“เพื่อนเขามึงเข้าใจในสิ่งที่กูต้องการสื่อใช่มะ คีพคูลลลลลลอะเพื่อน”



“กูเข้าใจแล้วๆๆๆ คือกูต้องทำตัวหน้าสั่นจอนดีดกีตาร์เพราะหนาวอยู่ตลอดเวลาช้ะ”



“ไอ้เขาไม่ใช่! มึงต้องเอาเสื้อหนาวขนเป็ดขึ้นเวทีโว้ย” เฮียดุกขมวดคิ้ว มองหน้ากูเหมือนกูโง่กว่า



ผลัวะ ผลัวะ



“พวกมึงสองตัวเนี่ย ไม่ได้เรื่อง มึงได้อิ้งบังคับตอนปีหนึ่งเท่าไหร่เนี่ย”



“เอ้าเชี่ยหมู ไม่เห็นต้องถาม เราสามคน ได้ D มากันหมดนะเว้ย” กูรีบตอบเลย เรื่องด็อกๆ เนี่ยกูจำได้ขึ้นใจ



“อ้าวหรอโทษทีๆ กูหมายถึงการทำตัวเท่ๆ เว้ย”



“โธ่ พวกกูรู้หรอกน่า เห็นมึงจริงจังแล้วคันฝ่าเท้า” ผมบอกพลางพยักเพยิดหน้ากับเฮียดุก



“เออนั่นแหละ แล้วงานนี้อะสาวๆ หนุ่มๆ ทั้งมอเค้ารอดูคอนเสิร์ตกันทั้งนั้น พอเราขึ้นไปเนี่ย เราคีพคูลก่อนเลยเว้ย มันจะเป็นจุดสนใจ แบบเปิดใหญ่อะเข้าใจมั้ย”



 “อืมมม” พวกเราครางในลำคอพร้อมกัน ถึงแม้ว่าเฮียหมูจะเป็นเด็กเก็บสายไฟแต่ก็ให้ความสนใจเต็มที่ เอ๊ะหรือว่าอยากเท่ตอนเดินเก็บสายไฟ เออใช้ได้ว่ะวงเรา



“แล้วไอ้ท่าทางเช็คถูกใต้คางเป็นโคนันของมึงเนี่ย มันเอ้าทึแล้ว เอ้าทึแล้วไอ้เขา”



ชะ กูหุบมือแทบไม่ทัน



“ท่านี้กูไม่เท่หรอวะเฮียดุก”



“ไม่ค่อยว่ะ แล้วไอ้ท่าคีพคูลมันต้องทำไง ท่านหมูบอกพวกเราหน่อยครับ” เฮียดุกทนไม่ไหว ดังนั้นไอ้ตัวเทพหมูจึงผละออกมานั่งตัวตรง กอดอกแบนๆ แบบไม่เข้ากับเนื้อตัวมันเท่าไหร่



“อะแฮ่ม อย่างแรก เราจะต้องรู้สึกว่ามึงอายนิ้วโป้งของมึง มึงจึงต้องเก็บนิ้วโป้งข้างใดข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋ากางเกง”



“เชดดด ท่าอายนิ้วโป้งแม่งอย่างเฉียบ”



“จากนั้นตอนมึงเดินขึ้นเวที มึงต้องเสยผมหน้าทุกห้าวิ”



“เฮ้ย กูว่าข้อนี้เฮียดุกแม่งทำไมไม่ได้แน่นอน” ไอ้เขารีบพูด เพื่อนทั้งสองหันมามองพร้อมกัน



“ทำไมวะ”



“เอ้า ก็เฮียดุกไม่มีผมอะ”



“ไอ้สัส เล่นกูอีกแล้ว”



“แล้วอย่างที่สามทำไงๆ” ผมไม่สนใจอยากรู้ข้อต่อไปแล้ว อยากคูลอะ ไอ้หมูเพื่นผมนี่เทพจริงๆ ...เทพ โพธิ์งาม? จ้ะ…



“เล่นกูแล้วก็เปลี่ยนเรื่องนะเชี่ยเขา” เฮียดุกบ่นพึมพำ



“อย่างที่สามมึงต้องทำตาปรือแบบโลกแคบ”



“ยังไงวะ” เฮียดุกดูสนใจ เพราะพยายามปรือตา แต่ขอโทษเถอะ มึงเหมือนเมาขี้ตาตอนเช้ามากกว่าครับเฮียครับ



“โลกมันแคบเพราะมึงต้องเผยอตาแค่ครึ่งนึง เออเฮียๆ เริ่มได้แล้วๆๆ ทำไมต้องทำอย่างงั้นเพราะท่านี้คือท่าไม่สนโลก สาวๆ เค้าชอบผู้ชายเย็นชาเว้ย ยิ่งมึงหยิ่งมากเท่าไหร่ ผู้หญิงจะรู้สึกว่ามึงน่าค้นหา”



“แล้วผู้ชายล่ะ” เมื่อเอาทุกอย่างมารวมกัน กูว่ามันทะแม่งๆ



“ไอ้พวกผู้ชายมันต้องบอกว่า เชดเข้ โคตรคูลลลล แล้วมึงจะกลายเป็นไอดอลพวกมันแน่นอน”



“หรอวะ”



ผมกับเฮียดุกสบตากัน ในใจผมปั่นป่วนคิดว่าไอ้ท่าทางทั้งหมด มันคุ้นๆ เหมือนกูเคยเห็นนักเลงท้ายซอยทำ



เออ แต่ไม่มีไรหรอกมั้ง เพราะมันเป็นสไตล์



“เฮ้ย พวกมึงไม่เชื่อกูหรอ” ไอ้หมูลุกขึ้น ย้ายตัวเองมานั่งข้างผม ก่อนจะกระซิบเสียงแหบพร่า “ไอ้เขา ถ้ามึงคีพคูลได้นะเว้ย คุณชายต้องอยากค้นหามึงแน่นอนเลยว่ะ แล้วโลกมึงจะไม่มีแค่สีชมพูมึงจะมีสีอื่นด้วย สีฟ้าๆ เหลืองๆ งี้ก็ได้นะเว้ย”



หรอวะ



แต่กูชอบโลกชมพูนะ



“มึงอย่าหลอกกูนะ”



“เฮ้ย ไม่หลอก คนอย่างกูเคยหลอกใคร๊ที่ไหน๊ เอาล่ะๆ มึงเริ่มคีพคูลตั้งแต่ตอนนี้เลยเป็นไง”



พอพูดจบไอ้หมูก็ยกยิ้มข้างเดียว เฮียดุกทำหน้างงซักพักก็เริ่มยิ้มตามไอ้หมู



อีหยังวะ





 



“คุณชายมารับแล้วเว้ย”



“พี่!”



“เชี่ยเขามึงอย่าเรียกเเบบนั้น เบาๆ คีพคูลๆ มึงท่องไว้ น่าค้นหา น่าค้นหา” ไอ้หมูดึงแขนผมมากระซิบท่องมนต์ใส่หัวผม ก่อนที่ตัวเองจะถลาไปหาพี่ชายตาณ



โอเค งั้นต้องคีพคูล ไอ้เขาใช้นิ้วโป้งเกี่ยวกระเป๋ากางเกง เดินไปหาคุณชายจอดรถรออยู่เยื้องหน้าคณะ พอเห็นผมเดินเข้ามาใกล้ พี่ตาณก็เดินลงมาพร้อมกับเอื้อมมือมาดึงน้องบีมจากมือผมไปถือเอง



“พี่ตาณ”



ผมเสยผมหน้าหนึ่งที พร้อมกับทำตาปรือ



“หือ” พี่ตาณเลิกคิ้วข้างเดียว แต่หล่อมากจนผมเกือบจะหลุดคาแรกเตอร์ “ตาเป็นอะไร เจ็บหรอ”



“อุ๊บส์ คุณชายหวัดดีครับ” ไอ้หมูกับเฮียดุกทักทายคุณชาย พวกมันเบียดก้นเข้าไปนั่งรอที่เบาะหลัง



“รีบไปซ้อมกันเถอะ ผมรอวันขึ้นแสดงไม่ไหวแล้ว” เป็นไงล่ะ เสียงอย่างงี้คูลมากมั้ย คึคึ



หลังจากเก็บน้องบีมแล้ว พี่ชายตาณเปิดประตูมานั่งที่เบาะคนขับด้วยสีหน้าสงสัย



“หิวมั้ย”



เสยผมหนึ่งทีก่อนตอบ “ไม่ครับ”



“คิกๆๆ”



เชี่ยเพื่อนรักมันคิกๆ ทำไมวะ หันไปมองเบาะหลังไม่ได้ เดี๋ยวแม่งไม่คูล



“เป็นอะไร”



เสยผม และตาปรืออีกที



“เป็นคนคูลๆ ครับ”



พวกเราเดินทางไปห้องซ้อมใกล้มอไม่นาน แต่ระหว่างทางผมรู้สึกว่ามันยาวนานเหลือเกิน คอตูเกร็งไปหมดแล้ว และพี่ตาณก็เริ่มขมวดคิ้วแล้วด้วย บรรยากาศในรถเลยดูอึดอัดชอบกล แน่นอนว่าไอ้เพื่อนรักของผมคงจะรู้สึกได้อย่างไม่ต้องสงสัยเพราะพอรถจอดปุ๊บ พวกมันก็ชิ่งทันที แถมยังหวังดีอุ้มกีตาร์ผมติดมือไปด้วยอีกต่างหาก



“พวกผมลงไปก่อนนะครับ”



“แฮ่ๆ อย่าดุมันมากนะครับ มันแค่โดนหลอก”



ไรนะ ฟังไม่ชัด



 “มอมแมม” พี่ตาณพูดทิ้งท้ายเสียงเข้ม



นี่แหละชัดของจริง



“ครับ!”



“ลงมา”



“ครับ?”



“แล้วเลิกทำท่าเหมือนกระบือไม่มีหญ้ากินแบบที่ทำมาตลอดทางด้วย”



ชะ!



ผมนี่ รีบวิ่งไปรายงานตัวข้างพี่ชายตาณเลยครับ



 “เป็นอะไร ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว คิดก่อนตอบ”



 “ทำไมต้องดุด้วยง่า” พอต้องคิดก่อนตอบไอ้เขาก็เลยหลุดมาดคูลอะไรนั่นแล้วออเซาะพี่ทันที “ผมฝึกคีพคูลให้ชินก่อนขึ้นเวทีไงครับพี่ตาณ ไอ้หมูบอกว่าสาวๆ หนุ่มๆ เค้าจะได้สนใจวงเราตอนเล่นเปิดงาน”



“ใครสนใจนะ” ไม่รู้ทำไม ยิ่งอธิบายสีหน้าคุณชายถึงได้ทะมึนขึ้นเรื่อยๆ



“ก็...สาวๆ แล้วก็เอ่อ...หนุ่มๆ”



“พูดจาไม่เข้าหู”



พี่ตาณเดินต้อนผมอย่างน่าจัว และไอ้เขากลัวจนเดินถอยหลังไปชนกับรถเต่าน่ารัก หรือว่าพี่ชายตาณจะจับได้ว่าผมพูดไม่หมด



“ผมพูดผิดไปๆๆ” ผมยกมือโบกเป็นพัลวัน หลับหูหลับตาพูดจบรวดเดียวจบ “ไอ้หมูมันบอกว่าถ้าผมคีพคูลแบบเนี้ยะ พี่ตาณจะอยากค้นหาผม แถมโลกของผมจะได้ไม่มีแค่สีชมพูอย่างเดียวด้วยอ๊ะ!”



กึก



พี่ตาณชะงัก ยืดตัวตรงก่อนจะเหลือบตาคมๆ มามองผม



“อยากให้ค้นหาหรอ” พี่ชายตาณยื่นมือมาบีบแก้มผม



อื้อ! พยักหน้าหนึ่งที “แต่ที่จริงอยากรู้ว่าโลกจะเป็นสีอื่นได้ยังไงอะ”



ผมเกาหัวพูดเสียงอ้อมแอ้ม ทำหน้าเหรอหรา



“อยากให้โลกเป็นสีอื่นด้วย?” พี่ตาณพูดด้วยเสียงคุณชายเย็นชา แต่ทว่าที่ข้างแก้มของเค้ากลับขึ้นสีเล็กน้อย



“พี่ตาณทำให้ผมได้หรอ”



กึก



ชะงักอีกรอบ มือพี่ตาณที่ยืดแก้มผมอยู่เลื่อนลงมาอยู่ที่ต้นคอแล้วลูบเบาๆ สัมผัสนั่นร้อนผ่าวจนใจผมเต้นแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ



“ทำได้ ถ้ายอมให้ทำ”



 “หือ”



 “ถ้าอยากให้ทำ...”



กะพริบตาปริบๆ เป็นสุนัขรอเจ้าของแทนคำตอบ



“...”



“งั้นกลับบ้านกัน”



“เห? พี่....”



มันจะดือนะครับ



แต่แล้วลมหนาวพัดมาวูบหนึ่ง



ผมหันหน้าไปมองป้ายสตูฯ สลับหน้าพี่ตาณที่มีแววตาอะไรบางอย่าง ที่ยิ่งมองใจก็แทบจะหลุดมากองที่พื้น



ตึกตัก ตึกตัก



ครั้งที่แล้วผมต้องเลือกระหว่างพ่อบังเกิดเกล้ากับผู้ชาย



แต่ครั้งนี้



ผมจะต้องเลือกระหว่าง



วงวารชีวิต



กับ



พี่ตาณ



.

.

.

ผมขอเลือก....





====================
ขอโทษค่ะทุกคนนนน ขอโทษจากใจจริง
เสียใจที่หายไปนานนมมาก กลับมาอ่านเรื่องนี้อีกทีมุกจากต้นเรื่องอาจจะเป็นปี 2017 เเต่มาถึงตอนนี้ ใช่ค่ะ ปี2019
หวังว่าทุกคนคลายเครียดจากเรื่องราวชีวิตบ้าบอของน้องเขาได้บ้างนะคะ
เรากังวลว่าอาจจะไม่ต่อเนื่องถ้าติดขัดตรงไหนบอกเราได้เลยค่ะ เรายินดีที่ฝุด
เจอกันปี 2020 ค่ะ (ล้อเล่น) คิดถึงน้องเขา คุณชาย และคนอ่านมากๆ ค่ะ
#คุณชาย2017-2019
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 19 : ห้ามคีพคูล (ข้ามปี) p.12 [23-10-19]
เริ่มหัวข้อโดย: pookyss ที่ 09-11-2019 07:58:57
 :m3: :music:
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 20 : ห้าม...เลิกนะ ขอร้องงง p.12 [14-3-20]
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 14-03-2020 20:10:06
คำเตือน กรุณาย้อนกลับอ่านตอนก่อนๆ หน้าใหม่อีกครั้ง หากจำไม่ได้ (แง้)


ระเบียบที่ 20 : ห้าม...เลิกนะ ขอร้องงง



                วิธีทำให้โลกเป็นสีอื่นในความคิดของคุณเป็นยังไงครับ กำลังจะตอบผมหรอ ไม่อยากรู้แระ (อ้าว อิเวง-ด่าตัวเองครับ) ของพวกคุณเป็นยังไงไม่รู้แหละ แต่วิธีที่ทำให้โลกเปลี่ยนเป็นสีอื่นฉบับพี่ตาณน่ะ



                ฉบับพี่ตาณน่ะนะ....



                มันจึ๊กกะดึ๋ยดุ่มดุ่ม จุ๊บๆ จั๊บๆ มะงึกมะงักกุ๊กๆ



                ผมน่ะเห็นโลกสีชมพูมาสองวันแล้วล่ะครับ งู้ยยยย



                ผลัวะ!



                “เป็นไรไอ้เขา”



                “เชี่ยหมู เจ็บนะเว้ย”



                “เอ้า แล้วมึงเป็นอะไรยืนบิดเป็นเกงในอยู่ได้ แล้วทำตาเยิ้มมองคุณชายทำไม” มันส่ายหน้าแล้วก็พูดต่อ “ไอ้เขา มึงนี่นะรู้ตัวมั้ยว่าทำให้คุณชายตีนหนักแห่งอักษรกลายเป็นเบ๊มึงแล้วรู้ตัวเปล่า เอ้าๆ ยังจะมองตามอีก”



                ผมลูบหัวที่โดนตบป้อยๆ แล้วมองไอ้ตัวการตาขวาง “กูไปหยิกตูดมึงหรอเชี่ยหมู ด่ากูซะยาวเงี้ย เอาตีนมาสะกิดหัวนมกูเลยมา”



                “อาฮ้า มึงอย่าคิดว่ามีคุณชายมาด้วยแล้วกูจะไม่กล้านะ”



                ไอ้หมูทิ้งไม้กลอง แล้วหันมาชี้นิ้วใส่ผมประหนึ่งเป็นลิเก ตอนนี้พวกเราพักครึ่งแรกอยู่ครับ ไม่ใช่มวยนะ แต่ซ้อมวงนี่แหละ ผมกับไอ้หมูเข้าไปนัวเนียกันเป็นยกที่สาม



                “กูยังไม่ได้คิดบัญชีกับมึงเลยนะ หลอกกู ไอ้เรื่องโลกเปลี่ยนสีอะไรของมึงเนี่ย”



                “ทำไมๆๆๆ ชอบล่ะสิ”



                “มึงคิดจะจุดไฟร่านในตัวกูรึไอ้หมู”



                “แล้วได้ผลมั้ยล่ะ ปากเจ่อมาซ้อมทุกวันเลยน้า”



                “เชี่ย หุบตูดเบาๆ เลยนะ ย้าก วันนี้กูต้องล้างก้น เอ้ย ล้างแค้นมึงแน่”



                “มาสิ๊!”



                “เอิ่ม ไอ้แต้ง มึงว่า...วงเราจะรอดมั้ยวะ” ไอ้บาสเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะกระซิบกระซาบด้วยเสียงอันดัง เฮียดุกได้ยินดังนั้นก็เล่นทิ้งสายไฟที่เอามาอมเล่นลงกับพื้นอย่างแรง ก่อนจะวาดแขนกอดคอไอ้บาสและไอ้แต้งมาใกล้ๆ



                “พวกมึงไม่ต้องเป็นห่วง ไอ้หมูกับไอ้เขามันชอบเล่นใหญ่ แบบใหญ่ๆ เรียกพลังก่อนจะขึ้นแสดงอะ มึงไม่เข้าใจไหปลาร้าม้าในคอกหรอว้า”



                “อื้อหือออออออออ” ไอ้แต้งกับไอ้บาสพูดพร้อมกัน พวกมันหันมาหาเฮียดุกที่อยู่ตรงกลางพร้อมๆ กันอีกด้วย



                “มึงเก็ตที่เฮียพูดละช้ะ”



                “เปล่าเฮีย เหม็นหัวว่ะ ไปสระผมมั่งนะ”



                ผ่ามพามมม



                มันว่าพร้อมกัน ก่อนจะผละตัวไปเช็คเครื่องดนตรีคนละมุม การหน้าแตกครั้งนี้ของเฮียดุกทำให้ผมและไอ้หมู หยุดทำการแสดงและหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่



                “ว่าแต่ ไอ้เขา มึงนี่ทำคุณชายเสียคาแรกเตอร์จริงๆ นะ”



                เฮียดุกเปิดประเด็นหลังจากที่เราสามคนนั่งล้อมวงเช็ดถูคราบมันจากเหงื่อและผิวหนังที่เครื่องดนตรีประหนึ่งเป็นต้นกล้วยให้หวยประจำวัด 



                “ทำไมวะ” ผมถามด้วยควายสงสัย



                “เอ้า ก็เลิกซ้อมท่านก็ต้องไปหาซื้ออาหารมาบูชาถวายมึงเนี่ย แทนที่มึงจะหาอะไรให้เค้ากิน ร้องเพลงคอแห้งซะขนาดนั้น”



                ผมชะงักกึก เงยหน้าสบตาเพื่อนรักทั้งสอง แล้วคิดตาม “เฮ้ย จริงด้วยว่ะ พี่ตาณร้องเพลงใช้เสียงอยู่คนเดียว งั้นเดี๋ยวกูมานะ”



                ไอ้เขา มึงนี่มันโง่จริงๆ พี่ตาณเหนื่อยขนาดนี้ ยังทำตัวโง่ๆ อีก



                ก๊อกๆ



                ผมทำท่าจะลุกแต่ประตูห้องซ้อมกลับมีเสียงเคาะมาซะก่อน ต้องเป็นพี่ชายตาณแน่เลย มารยามงามขนาดนี้ ไอ้เขารีบลุกขึ้นไปรับด้วยความรู้สึกผิด



                “พี่ตาณ ผมกำลังจะลงไปหาพอ...”



                แต่ทว่า พอเปิดประตูผมจึงได้พับกบ พบกับ!



                “แหม อีเขาพอเห็นกูนี่หุบยิ้มเหมือนต้นไมยราพโดนตีนเลยนะ”



                เสียงแบบนี้ ปากแบบนี้ ใช่ครับ อีแจ็คไม่ผิดตัวแน่ ผมไม่สนใจมันที่ทำท่ายิ้มค้าง ก่อนจะผลักหัวมันให้ห่างออกจากประตู แหมะ ท่าผมอย่างกันนางพญา



                “หลีกไป อีแจ็ค คนไม่สังคัง”



                “กรี๊ด อีเขา สังคังบนหัวมึงสิ อุตส่าห์มาให้กำลังใจนะอีบ้าบออออ เหี้ยดุกช่วยน้องด้วยค่ะ แต้งขาช่วยศรีด้วยค่ะ” ว่าแล้วก็บิน บิน บินถลาเล่นลมบินล่องบินลอยไปหาผู้ชายในห้องซ้อม



                แต่ทว่าต้องชะงักอีกรอบ เพราะเมื่ออีแจ็คบินถลาไปแล้วก็ยังมีอีกคนที่ยืนอยู่หน้าประตู คนนั้นๆ ก็คือ...ไอ้ปั๊ม เดือนปีหนึ่งที่หายไปนาน #คนเขียนก็เช่นกัน



                “อ้าว ไอ้ปั๊มมาทำไรแถวนี้วะเนี่ย อ๋อหรือว่ามาซ้อมเพลงประกวดช้ะ”



                ผมร้องทัก แต่ตาก็ยังชะเง้อมองตรงไปที่บันได พี่ตาณไปนานจังง่า



                “พี่เขา”



                “เออว่าไง” เสียงมันเรียกสติผมอีกครั้ง น่าแปลกที่คราวนี้มันทำเสียงหงอยเหงา ไม่กวนตีนเหมือนที่ผ่านมา และนั่นทำเอาผมงงงวยเป็นปวยเล้ง



                “เป็นไรวะ เข้ามานั่งข้างในก่อน”



                ผมเชื้อเชิญทว่าไอ้ปั๊มที่สะพายกระเป๋ากีตาร์สีน้ำเงินเข้มกลับขืนตัวไม่ยอมเข้าไป แต่ก็ยังชะโงกหัวไปสวัสดีรุ่นพี่ในคณะ แถมยังขอบคุณอีแจ็คที่พามันขึ้นมาด้วย



                “พี่เขาผมมีเรื่องจะคุยด้วยแป๊บนึง” ตอนแรกผมจะพูดปฏิเสธ แต่พอเห็นสายตาและความนิ่งเงียบไอ้เขาเลยได้แต่เกาหัวพร้อมกับหันหลังตามไอ้ปั๊มไป



                “ไอ้หมู-ฝาก-บอก-คุณชาย-ว่า-เดี๋ยว-มา” ผมอ้าปากพะงาบๆ โดยไม่ออกเสียง ก่อนประตูจะปิดลงผมก็ได้ยินเสียงแว่วๆ ดังมาตามลม



                “พวกมึงไอ้เขามันลมเข้าปอดหรอวะ”



                ฮ่วย พึ่งพาไม่ได้ซักคน

 

                ไอ้ปั๊มเดินนำผมมาที่บันไดหนีไฟ พอมันหันหลังกลับมาผมถึงได้รู้ว่าสีหน้ามันเศร้าสร้อย จนผมทำตัวไม่ถูก



                “พี่เขา” จู่ๆ เสียงมันก็สั่นพร่าและตาเริ่มแดง



                “เอ่อ...มึงเปงไรวะ ทำไมดูหน้าเครียดๆ”



                สิ้นประโยคนั้น ไอ้ปั๊มก็แหกปากลั่น หมดสภาพเดือนคณะที่แสนจะหล่อเหลาและกวนตีน น้ำตาหนึ่งหยดของมันไหลลงที่หน้าต่าง เอ้ย แก้ม ส่วนในใจไอ้เขานั้นร้องเหี้ยดังมาก



                “ผมเจ็บพี่ ฮือออ” ว่าแล้วมันก็ทุบอกดังปั๊กๆ



                “เฮ้ยยย มึงเป็นไรไอ้น้อง ใครทำไรมึงบอกพี่มา เดี๋ยวกูไปกระทืบมันให้ เอาให้ไข่แม่งแตกเลยดีมั้ย แม่งมาทำงี้ได้ไง ไอ้สัด อย่าให้เจอนะ หัวนมมันใหญ่มั้ยกูจะไปบีบให้” ไอ้เขาเดือนพล่าน ไอ้ปั๊มมันถือว่าเป็นน้องรักของผมคนนึง ใครมาทำน้องผมเจ็บ ผมทนไม่ได้!



                “พี่ ฮึก อย่าทำเลยพี่” มันสูดขี้มูก แล้วโผเข้ากอดเอวผมไว้แน่น เมื่อเห็นผมทำท่าจะเปิดประตูออกไปจากบันไดหนีไฟ



                “ทำไมวะ ก็มึงเจ็บนะ!”



                “ก็คนที่ทำให้ผมเจ็บคือพี่นั่นแหละ!!!” มันตะโกนพร้อมกับเสียงเอคโค่ที่สะท้อนก้อง



                “หมายความว่าไงวะ” เมื่อผมหันกลับมา ไอ้ปั๊มจึงคลายมือที่รัดเอวผมลง



                “ก็พี่นั่นแหละ หักอกผม ฟืด”



                “เหี้ยยยยยย!”



                “ฟังไม่ผิดหรอกพี่นั่นแหละ! ที่หักอกโผม”



                “ไม่ใช่! ขี้มูกมึงเต็มหน้ากูเลยสลัดผัก”



                “อ้าวหรอพี่ โทษๆ” ไอ้ปั๊มสะดุ้ง มันถอยหลังไปหนึ่งเซนติเมตร ก่อนจะยกหลังมือมาเช็ดขี้มูก



                ส่วนผมยกมือปาดสิ่งสกปรก และร้อง...อี๋อยู่ในใจเป็นหมื่นล้านคำ แล้วก็กลับมาดึงซีนดราม่าต่อ       

     

                “มึงอำกูป้ะเนี่ย ซ่อนกล้องอ่อไอ้น้อง” ไอ้เขาไม่เชื่อครับ...ไอ้ปั๊มที่ทำตัวปีนเกลียวกวนตีนผมทุกครั้งที่เจอหน้าเนี่ยนะ แต่ยิ่งไปกว่านั้นไอ้เขามีผู้ชายมาบอกชอบเนี่ยนะ บร้าบอ



                “ผมพูดจริง ผมชอบพี่...” ไอ้ปั๊มสบตาผม ในแววตาไม่มีความล้อเล่นแต่อย่างใด ไอ้เขาลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนึ่งเอื๊อก พวกเราปล่อยให้ความอึดอัดลอยผ่านอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ผมจะเอ่ยขึ้น



                “แล้วมึงมาบอกทำไมตอนนี้วะไข่ย้อย”



                “ดากานดา...ถรุ้ย! พี่แม่งไม่เคยจริงจังอะไรเลยว่ะ กูรู้สึกโชคดีแล้วที่อกหัก”



                “เอ่อ...ตกลง...มึง...จริงจังจริงๆ ช้ะ”



                “เอ้อ! กูไม่ดราม่าแม่งละ วันนี้อะ! ผมจะมาบอกพี่ว่าผมชอบพี่ และผมรู้ว่าพี่ชอบคนอื่นไปแล้ว ผมอกหัก! ผมเสียใจ! ผมอยากให้พี่รู้เอาไว้! เพราะถ้าผมไม่พูดวันนี้ ผมอึดอัด ผมเก็บมานานแล้วพี่ ถ้าผมไม่พูดออกไปวันนี้ เพลงที่ผมร้องในงานประกวดพรุ่งนี้ ผมคงทำใจร้องมันไม่ได้ ดังนั้นวันนี้ผมเลยมาหาพี่! ผมไม่อยากติดค้างอีกแล้ว!”



                “...”



                “ฟู่! โล่งอกละกู ไม่เสียแรงที่ทำใจมานาน อ้าวพี่ทำไมทำหน้ามันควายลืมเคี้ยวเอื้องซะงั้นอะ งงไร”



                “บอกตรงๆ นะ กูมึนกับพรุ่งนี้ วันนี้ของมึงว่ะ”



                ไอ้ปั๊มเท้าเอว พร้อมกับส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู เดี๋ยวนะ กูรุ่นพี่มึงตั้งกี่ปี ทำไมมึงถึงเอ็นดูคนที่แก่กว่ามึงวะ



                “เอ้า งงหนัก คุณชายไม่ปวดหัวบ้างหรอวะ” ไอ้ปั๊มดูเหมือนจะปรับตัวได้เร็ว มันยกมือหมายจะวางบนหัวผมแต่ก็ชะงักไป ก่อนจะทำหน้าตาเหมือนฉันไม่ได้เลือกตั้ง...อะไรนะไม่เก็ต ก็...ฉันมันคนไม่มีสิทธิ์ ถ้าคิดรัก....(เซ็นเซอร์)



                “มึงว่าไงนะ”



                “เอออออ ไม่มีไรโว้ย แต่บอกไปแล้วแต่แม่งก็เจ็บอยู่ดีว่ะใจกู”



                “ไอ้ปั๊ม” ผมเรียกรุ่นน้องที่เหม่อมองไปด้านหลัง มึงคุยกับแม่ซื้อหรอวะ พอๆ กูต้องซีเครียดละ ดูเหมือนว่าไอ้ปั๊มมันจะพูดจริงๆ ถึงมันจะทำตัวตลกแต่สายตาที่มันดูหมองลงไปจริงๆ



                “...”



                “ไอ้ปั๊ม...”



                “ว่าไงพี่”



                “ที่มึงบอกว่าชอบกู กูขอบใจจริงๆ นะเว้ย กูก็ชอบมึงนะ มึงเป็นน้องที่น่ารักถึงแม้จะกวนตีน หลอกกูเลี้ยงข้าวโรงอาหาร ยืมตังค์กูสิบยี่สิบ หรือเล่นข้ามรุ่นไปหน่อยก็เถอะ”



                “...กูดีจริงมั้ยเนี่ยชักงง”



                “แต่มึงก็เป็นน้องที่น่ารัก เล่นกีตาร์ก็เก่ง แต่เราสองคนเป็นพี่น้องกัน และมันก็จะเป็นแบบนั้นต่อไปเว้ย กูนับถือใจมึงนะ...ที่บอกกับกู แต่ถึงยังไงคนที่กูตรงๆ ด้วยมีแค่คนเดียว”



                “ผม...เข้าใจ เข้าใจพี่” ไอ้ปั๊มยิ้มอ่อน ผมจึงตบไหล่มันไปสองที แล้วเดินผ่านมันไป และก่อนที่ผมจะเปิดประตูออกไปนั้น...ไอ้เขาก็หันกลับมาอย่างเท่ๆ



                “แต่...กูอยากมึงอย่างนึงเว้ยไอ้น้อง”



                “....”



                “อกหักก็เหมือนรอยสัก...”



                “...?”



                “....เพราะถึงยังรักแต่ก็ลบไม่ออก”

 





                เซี้ยบ!

                พวกเราซ้อมกันเสร็จแล้วครับ กำลังเตรียมตัวกลับบ้าน ส่วนอีแจ็คกลับไปแล้วตอนเราเล่นไปเพลงนึง ไม่รู้รีบหนีอะไรไปไม่หันหลังเลย แถมผมยังรู้สึกว่าหลังจากคุยกับไอ้ปั๊มแล้วมานั่งพิงพี่ตาณกินขนม ดื่มน้ำเสร็จ พลังมันมาแบบเยอะขึ้น แบบว่าพุ่งสูงทะลุเพดาน ผมดีดกีตาร์อย่างเมามันส์จนหัวเปียก แล้วก็ยังรู้สึกว่าเพื่อนในวงจะเล่นกันแบบไม่ผิดไม่เพี้ยน ความฝันของเด็กดุริยางค์ตัวน้อยๆ กำลังจะเป็นจริงแล้ว พวกเราจะได้ไปเล่นเปิดให้กับนักร้องดังๆ แล้วววพ่อจ๋า



                “พี่ไปไหนครับ”



                ไอ้เขารีบร้องทักเมื่อเห็นคุณชายตรงไปที่ประตูห้องซ้อม



                “ห้องน้ำ”



                “โอเชครับ” ผมพยักหน้าหงึกๆ สองทีก่อนจะก้มหน้าเก็บลูกรักเข้ากระเป๋า พอคล้อยหลังพี่ชายตาณไปเท่านั้นแหละ เสียงตั่งต่างก็ดังขึ้น



                “ฟู่...”



                “เชี่ยเหมือนกูจะตายเลยว่ะ หายใจไม่ออก”



                ไอ้เขาที่ฮัมเพลงซ้อมถึงกับหยุดชะงัก “พวกมึงเป็นไรวะ แอร์เย็น ขนลุก ปวดอึ๊หรอ กริ้ว”



                ผลัวะ!



                “กริ้วพ่อง”



                “เอ้าเชี่ยหมู เดินกะหร่องมาตบกู’ไมเนี่ย”



                “ก็มึงนั่นแหละไปทำอะไรไว้ แล้วยังมาทำตลกอีก มึงรู้มั้ยตอนที่คุณชายกลับเข้ามาก่อนมึง หน้านิ่งเหมือนโดนปูนฉาบเส้นเลือด”



                “เออ กูนี่โคตรเกร็งอะไอ้สัส” ไอ้บาสเสริมขึ้น เล่นเอาผมเกาหัวแกรกๆ



                “แบบกูเกือบจะกดคีย์บอร์ดผิดแล้ว พอเห็นสายตาคุณชายเท่านั้นแหละ นิ้วกูกดถูกทันทีเลยอะ” ไอ้แต้งพูดต่อพร้อมกับทำท่าขนลุกขนชัน



                เป็นอิหยังวะ



                “ไอ้เขาเอ๊ย มึงรีบๆ คิดเลยว่ามึงทำอะไรไว้ รีบทำให้บรรยากาศวงเรากลับเป็นเหมือนเดิมด่วนๆ จะเล่นพรุ่งนี้แล้วนะเว้ย”



                “เดี๋ยวพวกมึง กูไม่เห็นพี่ตาณจะเป็นอะไร...เลย” พี่ตาณยังป้อนน้ำส้มให้ผมอยู่เลย แต่ดูเหมือนว่าผมเอาแต่ดูดน้ำส้มไม่ได้สังเกตพี่ตาณซักเท่าไหร่ เอาล่ะสิเหมือนงานจะเข้า



                “ไอ้เขา มึงรีบไปนั่งวิปัสสนาบัดนาวว่ามึงไปทำไรไว้ ใช้สมองอันน้อยนิดของมึงคิดเลยนะ”



                “แต่กูไม่ได้ทำไร...นะเว้ย แล้วพวกมึงอะคิดมากไปเปล่า อีกอย่างพี่ตาณเค้าเป็นคนมีเหตุผลคงไม่โกรธอะไรง่ายๆ หรอก”



                “แน่ใจ” ไอ้เฮียดุกรูดซิบกระเป๋าก่อนจะเงยหน้าสบตาผมนิ่ง



                “อะ...เออ แน่ใจดิวะ” ชิบหัย เสียงสั่นเหมือนไข่



                “ไอ้เขาที่กูบอกให้มีคิดดีๆ อะก็เพราะว่าบางทีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามองข้าม มันอาจจะไม่เล็กน้อยสำหรับใครบางคนนะเว้ย”



                “เชี่ยยยยยยยยยย”



                “เฮียดุกมึงอินไรเนี่ย” ในขณะที่ไอ้เขากำลังประมวลผลคำพวกเฮียดุก ไอ้หมูก็กระโดดกอดคอเฮียดุกพร้อมกับทำหน้าเหลือเชื่อ



                “มึงไม่รู้หรอว่ากูน่ะ อิน....”



                “....มึงจะพูดว่ามึงเป็นอิน สารินที่เป็นดาราป้ะ”



                “เปล่า กูอะ อิน...ทผาลัม”



                “ถุ้ย! อร่อยเลยสาส”



                “ฮ่าๆ ไปๆ เก็บของๆ ดึกแล้วเว้ย ไปพวกมึง”



                ว่าแล้วพวกมันก็ขำครืนๆ กับมุกไม่เต็มบาทเต็มหน่วยของเฮียดุก ปล่อยให้กู...ยืมซึมกะทืออยู่คนเดียว



                พวกมึงวางระเบิดให้กูคิดมากแล้วก็จากไป

 





                ด้วยเหตุนั้น ผม นายภูเขา บรรจงภักดี จึงเดินมึนๆ งงๆ มาขึ้นรถ แต่พอขึ้นรถปุ๊บผีปากมากของผมก็เข้าสิง เพราะปกติแล้วไอ้เขาจะจ้อไม่หยุด โดยเฉพาะตอนขับรถกลับบ้านค่ำมืดๆ กลัวพี่ตาณง่วงครับ มีบางครั้งที่ผมเผลอหลับตื่นมาคือพี่ตาณจะอุ้มเข้าบ้าน คือแบบไอ้เขารู้สึกผิดมาก พี่เหนื่อยแล้วต้องมาเหนื่อยกับผมอีก อุแง้ ดังนั้นผมจึงพับเรื่องที่พวกเพื่อนๆ พูดไปก่อน ไม่รู้ตัวเลยว่าไอ้เรื่องที่ผมจ้อเนี่ยจะเป็นหนึ่งในสาเหตุความหงุดหงิดของพี่ตาณ



                “ไอ้ปั๊มมันร้องไห้โวยวายใหญ่เลย ตอนแรกผมนึกว่าน้องแม่งมีเรื่อง ผมจะเอาเรื่องใหญ่เลย ทำน้องผมร้องไห้ได้ไง แบบจะไปหยิกหัวนมคนที่มาทำน้องของผมเลยอะ เล่นใหญ่รัชดาลัยเลยอะ ไอ้ปั๊มมันรีบเบรกผมแถมน้ำตาไหลเป็นทางเลย มันบอกว่าผมเป็นคนหักอกมันล่ะพี่ตาณ... ตกใจมากแต่แอ๊บขำไปงั้น ใครจะไปคิดว่าไอ้ปั๊มเนี่ยนะจะมาชอบ เฮ้ยผมเป็นผู้ชายนะ....นึกว่าอำผมอะพี่....ตาณ”



                “...”



                “หึ น้องผม ของผม” พี่ตาณพึมพำขณะที่สายตามองตรงไปข้างหน้า เมื่อได้ยินไม่ชัดผมจึงเอียงหน้าไปหาคุณชายชัดๆ



                อะเฮือก! ทำไมหน้าดุงั้นอะ



                “พะ...พี่ตาณ?”



                “พูดต่อสิ”



                ใจแป้วแล้วพ่อ ผมก้มหน้าชิดคางเลยง่า ไม่กล้ามองพี่ตาณ ผม ผม...และแล้วสิ่งที่ไอ้เพื่อนผมพูดๆ ก็กลับมารีรันในสมองอีกครั้ง       

 

          "เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามองข้าม มันอาจจะไม่เล็กน้อยสำหรับใครบางคนนะเว้ย"



                “พี่...”



                “...”



                “ผมพูด หรือทำอะไรไม่ดีไปใช่มั้ย” เงยหน้าถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ แล้วก็ต้องรีบก้มหน้าอีกครั้งเมื่อประสานสายตาคมกริบที่มองมาพอดี



                “เล่าต่อสิ” พี่ตาณไม่ตอบคำถามทั้งยังย้ำคำสั่งอีกที ไอ้เขากลัวมากได้แต่ลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ



                “อึก”



                “...”



                “คือ...”



                “อย่าให้ตกหล่น”



                “คระ...ครับ คือ แล้ว แล้ว.... แล้วไอ้ปั๊ม เอ่อ น้องคนนั้น” ชิบหายพอพูดชื่อไอ้ปั๊มแล้วเสียวสันหลังวาบๆ ผมเรียบเรียงคำพูดใหม่ และแอบตบแก้มเรียกสติตัวเองไปทีนึงแต่ดังเพี้ยะ พี่ตาณไม่ชอบเสียงดังใช่มั้ยถึงขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม



                “น้องคนนั้นก็บอกว่าชะ....ชะ...”



                “อะไร”



                นั่นเสียงก็เข้มยิ่งกว่ากาแฟอะแรบิแก้



                “ชะ...ชอบผมครับ!”



                กึก



                เชี่ย รถกระตุกไปวินึงเลยอะ



                “แต่ๆๆ แต่มันไม่มีอะไรนะครับ ไอ้น้องคนนั้นมันก็รีบพูดพุ่งพรวดเหมือนอืออึ๊เลย เชี่ย กูพูดเรื่องขี้ไรตอนนี้วะ คือพี่ตาณครับ คือน้องมันก็บอกว่าผมอยากผม เอ๊ย อยากบอกผมให้มันโล่งใจเท่านั้นเอง มันรู้ว่าผมคิดกับมันแค่พี่น้อง มันอึดอัดถ้าไม่บอกวันนี้แล้วมันจะรู้สึกไม่ดีวันพรุ่งนี้มันไม่อยากบอก คือมันเป็นมะล็อกก๊อกแก๊กอะครับพี่ตาณ เข้าใจผมมั้ยๆๆแล้วผมก็บอกว่าผมมีคนที่ตรงๆ แล้วด้วย มีคนเดียว ไม่มีคนอื่น!”



                “...”



                นี่พูดจนไม่หายใจ ไม่รู้เป็นอะไร น้ำตาซึมหางตาแล้วนะ



                “พี่ตาณ โกรธผมหรอ”



                ในตอนที่ผมถามคำถาม รถเต่าประจำตัวพี่ตาณก็จอดที่หน้าบ้านผมพอดี ไม่คิดเลยว่าระยะทางไกลจะหดสั้นลงขนาดนี้



                “ถึงบ้านแล้ว ไปพักเถอะ”



                “พี่ตาณโกรธผมหรอ” ขนาดหน้ายังไม่มองเลย ไอ้เขาซึมยิ่งกว่าส้วม ในใจวูบโหวงเป็นรูโบ๋



                “...”



                “...”



                ระหว่างนั้นผมนั่งนิ่ง ไม่กล้าขยับตัว กระทั่งผมได้ยินเสียงพี่ตาณถอนหายใจ



                “นอกจากร้องไห้แล้ว ‘น้อง’ คนนั้นทำอะไรกับนายอีก”



                ไม่ทันได้ตอบอะไรพี่ตาณก็ยื่นมือมาจับมือข้างหนึ่งของผมไว้พร้อมกับถามด้วยเสียงคาดคั้น



                “จับมือ...?”



                “ไม่ครับ”



                “จับหน้า?” ไอ้เขาส่ายหน้าจนคอแทบหลุด เมื่อพี่ตาณเลื่อนมือมาจับแก้มผม ส่วนนิ้วโป้งก็ไล้ปากล่างเบาๆ พร้อมกับเริ่มพูด



                “จู...?”



                “แค่กอดครับ!”



                ไม่ต้องปล่อยให้พี่ตาณคิดนาน ไอ้เขารีบพูดเสียงดังห้ามความคิดพี่ตาณทันที ผมใช้สองมือรวบมือพี่ตาณที่ทำท่าจะผละออก “แค่กอดเท่านั้นเอง...” พอได้ยินเสียงฮึในลำคอด้วยความหงุดหงิดปนเหนื่อย แถมยังทำท่าจะเปิดประตู ไอ้เขาก็รีบกอดพี่ตาณทันที ถึงแม้พุงจะติดเข็มขัดนิรภัยก็ตาม



                “แค่กอดอ่าพี่ตาณณณณ” พี่ตาณเกร็งตัวจนผมใจแป้ว แต่สุดท้ายก็ยอมวางคางไว้ที่หัวผมเบาๆ เห็นดังนั้นผมจึงรีบพูดต่อทันที



                “ผมบอกมันไปแล้วว่าผมมีคนที่ตรงๆ แล้วคนเดียวง่า”



                เพราะประโยคนั้น พี่ตาณจึงเงียบไปเหมือนกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่ไม่นานมือที่แสนอบอุ่นคู่นั้นค่อยๆ กอดตอบผม



                “งอแงซะแล้ว”



                “งือ...” ผมส่ายหน้ากับอกพี่ตาณไม่สนใจว่ามันจะเลอะเทอะหรือไม่ “พี่ตาณอย่าโกรธผมเลย”



                “ไม่ได้โกรธ” ผมชะงักแล้วขืนตัวออกมาเพื่อมองหน้าพี่ตาณ



                “แล้วทำไม...”



                “...แค่หงุดหงิดตัวเอง”



                “แง้” ผมหลับตาซุกตัวเข้าหาพี่ตาณมาขึ้น ผมจะเกาะติดเป็นโคอาล่าจนกว่าพี่ตาณจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ท่าไม้ตายที่ทำทีไรพี่ตาณก็กลับมายิ้มได้เหมือนเดิม  และผมหวังว่าอย่างนั้น



                พี่ตาณส่ายหน้าพร้อมกับเลื่อนฝ่ามือลูบหัวเบาๆ “ก็เป็นซะแบบนี้”



                “ผม...ผมเป็นแบบไหน ฮือ ก็ผมโง่ ผมโง่มากๆ พี่ตาณต้องบอกผมนะผมขอร้อง เพราะผมโง่พี่ตาณอย่าโกรธผมเลยนะ” ผมโวยวายดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของพี่ ถึงจะอยากรู้คำตอบแต่อีกใจนึงก็กลัวว่าพี่ตาณจะเหนื่อยกับผมแล้วจริงๆ ผมน่ะไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลย



                “....ใครว่านายโง่กัน ฉันกำลังคิด....ถ้าในอนาคตมีคนมาบอกชอบนายอีก กอดนายอีก...”



                “พี่...”     



                “...หรือทำอะไรมากกว่านั้นแล้วจะทำยังไง เราจะแบบนี้ต่อไปจริงๆ น่ะหรอ”



                ผมค่อยๆ ผละตัวออกมาจากพี่ตาณ บอกตรงๆ ว่านั่นเป็นครั้งแรกที่ผมไม่รู้จะพูดอะไรออกไปเลย ผมที่โวยวายเมื่อครู่พูดอะไรไม่ออกแม้แต่นิดเดียว หรือว่าพี่...



                “พี่กำลังจะพูดอะไร”



                “...”



                ผมบอกแล้วว่าผมเป็นคนโง่



                “พี่กำลังจะ...”



                “เราเลิกเป็นคนที่ตรงๆ กันเถอะ”



                “...!”



                สิ้นประโยคนั้นภายในรถเงียบจนน่าอึดอัด ในใจของผมรู้สึกเจ็บ มือที่จับเสื้อพี่ตาณคลายลงและเราสบตากัน แววตาของพี่ตาณนั้นคล้ายตัดสินใจอะไรบางอย่าง ในขณะที่ผมเริ่มมองอะไรไม่ชัด



                “เราเลิกเป็นคนที่ตรงๆ กันแล้วมาเป็นแฟนกัน...ได้มั้ย?”



                “....!?”



                ภายในรถเงียบสนิทอีกครั้ง สมองผมพยายามประมวลผลแล้วผมก็....



                อุแงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง้



                ถลาตัวเข้าไปหาพี่ตาณเหมือนกระรอกบิน พี่ตาณขมวดคิ้วแต่ก็อ้าแขนรับ



                “ร้องไห้ทำไม ไม่อยากเป็นแฟนฉันหรอ เอ้า ร้องหนักกว่าเดิม”



                “ผมไม่อยากเลิกเป็นคนที่ตรงๆ กับพี่นี่!” รู้ไหมว่ามันพิเศษกับผมขนาดไหน ไม่ชอบคำว่าเลิกเลย



                “เปลี่ยนสถานะไง” เสียงทุ้มนุ่มพูดข้างหู



                “ไม่เอา ฮึก”



                “ตัวมอมแมมเอ๊ย” พี่ตาณหัวเราะเบาๆ กอดผมแน่นขึ้นไปอีก “แล้วจะเอายังไง”



                “อึก...ผมตรงๆ พี่ เราตรงๆ กันตลอดไป แล้วผมก็จะเป็น...นั่นด้วย!”



                “เป็นอะไร...หึหึ เข้าใจแล้วๆ”



                “...อึก ต่อไปนี้คำว่าเลิกเป็นคำต้องห้าม”



                “หืม?”



                “พี่ห้ามพูดว่าเลิกอีก!”



                ผมพูดเสียงดัง แต่ทว่า จู่ๆ ก็มีเสียงบางอย่างดังกว่า แถมยังดังทะลุเข้ามาในรถอีกด้วย



                “แล้วเมื่อไหร่มึงจะเลิกกอดกันซักที กูเหลาไม้เรียวยืนรอมึงแรดนานแล้วนะไอ้เขา!!”



                “พ่อจ๋า!!!!!!!!!!!!!!!!!”







===========
หึงเค้าแล้วก็ทำดราม่าเนียนซะเล้ยพ่อ
ปล.วงวารชีวิตจะได้แสดงรึยัง ซ้อมมาตั้งแต่ปี2017แล้วนะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตอนนี้นะคะ
มันอาจจะไม่ดีมากพอแต่เอาไว้อ่านเล่นๆ คลายเครียดนะทุกคนน
หัวข้อ: Re: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 20 : ห้าม...เลิกนะจจยั ขอร้องงง p.12 [14-03-20]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 26-05-2020 00:41:52
ยังรอตอนต่อๆไปอยู่นร๊าาาา
 :m20: