กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว  (อ่าน 109488 ครั้ง)

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
«ตอบ #30 เมื่อ02-09-2017 00:00:14 »

 :hao7:  :hao7:  :hao7:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
«ตอบ #31 เมื่อ02-09-2017 06:45:10 »

หมอน่ารัก :L2:

ออฟไลน์ Thanaphon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
«ตอบ #32 เมื่อ02-09-2017 08:48:07 »

 :jul1: :jul1: :jul1:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
«ตอบ #33 เมื่อ02-09-2017 12:19:08 »

ห๊ะ! ตกใจกับน้องฝุ่นด้วยคน พี่หมอ อะไรคะ จู่ ๆ ก็มาขอจีบ มาหอมแก้ม  :-[
ไม่ใช่ขอสิ แค่บอกน้องเฉย ๆ ใช่ไหม ว่าจะจู่โจมแล้วนะ เตรียมตัวรับมือ 555
ถ้าเราเป็นฝุ่น ก็คงมึน ๆ งง ๆ อ่ะ แต่จากที่น้องแอ๋ม ดูจะฟินจนออกนอกหน้า
เดาว่า น้องแอ๋ม คงรู้อยู่แล้ว ว่าพี่อาร์ตต้องแอบชอบน้องฝุ่นมานานแล้วแน่ ๆ
นี่ยิ่งอยากรู้มาก ๆ ว่าสีฝุ่น ในความทรงจำของพี่หมออาร์ตเป็นยังไงบ้าง
อยู่ข้างบ้านกัน แม่สีฝุ่น เป็นคนตั้งชื่อให้พี่อาร์ต แสดงว่าทั้งสามคน
ก็น่าจะคลุกคลีกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วเนอะ แต่ดูฝุ่นไม่ค่อยรู้เรื่องพี่อาร์ตเลย
ชอบความกวนประสาทของพี่อาร์ตมาก ที่ขยันแกล้งน้องฝุ่นเนี่ย
เพื่อขยับเข้าใกล้น้องใช่ไหม ฝุ่นยังดูเกร็ง ๆ เรียกคุณ ๆ ผม ๆ ยังดูห่างเหินเกินไป
แต่พอเข้าโหมดอบอุ่น พี่อาร์ตก็ละมุนละไม ดีต่อใจเหลือเกิน ชอบที่รายงานตัวก่อนนอน
ตอนหน้า ไปเที่ยวเขาใหญ่ รอดูซิ พี่อาร์ตจะจีบน้องจนอายม้วนยังไงบ้าง >////<
น่ารักมากเลย รอตอนต่อไปจ้า ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
«ตอบ #34 เมื่อ02-09-2017 15:09:03 »

อะไรยังไง

ออฟไลน์ мıınta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
    • TW
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「6」03|09|60 P.2
«ตอบ #35 เมื่อ03-09-2017 22:26:44 »

• 6 •



ผัวะ!!


ผมเปิดประตูออกไปอย่างแรง ไม่สนแล้วว่าจะอยู่ในสภาพไหน คนที่อยู่ด้านหน้าผมยังคงเป็นหมอที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่เหมือนเดิม

“หมอว่าไงนะ!”

“พี่บอกว่า พี่-จะ-จีบ-ฝุ่น-นะ”

“หมอล้อเล่นใช่ไหม” ผมกระตุกยิ้มมุมปาก “ผมไม่ตลกด้วยนะ”

“พี่ไม่ได้ล้อเล่น”

หมอก้าวเข้ามาประจันหน้ากับผม ใบหน้ายิ้มแย้มเคลื่อนเข้ามาเสมอใบหน้าผม

“พี่จริงจังนะครับ”

“.....”

“ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวสายแล้วน้าศิลป์จะบ่นเอา”

หมอผลักไหล่เบาๆพอให้ผมถอยเข้าห้อง ก่อนเอื้อมมือมาจับลูกบิดประตูอีกฝั่ง ค่อยๆดึงประตูกลับอย่างช้าๆ

“เฮ้ย!!”

จุงหวะที่ประตูห้องกำลังจะปิดสนิท หมอกับเปิดมันออกอีกครั้ง ก่อนมือหนาจะคว้าเข้าที่ต้นแขนผม ออกแรงดึงกระชากให้ร่างผมไปปะทะกับคนตัวสูงกว่า

ก่อนที่จะรับรู้ถึงสัมผัสนุ่มหยุ่นที่ถูกกดลงมาบริเวณใกล้ๆมุมปาก...

“มอนิ่งคิสครับ”

หมอปล่อยผม ดันผมเข้าห้องและปิดประตูอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ผมยืนเอ๋อไปกับสัมผัสเมื่อสักครู่

วอท เดอะ ฟั*************!!




เก้าโมงครึ่งไม่ขาดไม่เกิน ผมจัดการตัวเองเสร็จปุ๊ปก็เดินลงมาข้างล่าง เห็นคนอยู่ครบทั้งบ้านเราและบ้านป้าเล็ก(ยกเว้นพี่ฟิล์มที่ยังคงไม่กลับบ้าน) มีพวกแม่ๆกำลังคุยกันอย่างออกรสออกชาติอยู่บนโซฟา ส่วนพ่อกับสองพี่น้องตัวอ.อ่างที่กำลังวุ่นอยู่กับการจับสามซนเข้ากรง

“แม่!”

“ลงมาได้แล้วหรอไอ้ตัวดี มาๆกินข้าวจะได้ไปกัน ไหนกระเป๋าล่ะ?”

“กระเป๋า? เป๋าไรแม่” ผมทำหน้างงถามแม่

“อ้าว อาร์ตไม่ได้บอกน้องหรอว่าไปค้างคืน” ป้าเล็กหันไปถามลูกชาย

“ขอโทษครับ สงสัยผมจะลืมบอกน้องไป”

“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวให้เจ้านี่มันกินเสร็จแล้วค่อยให้ไปจัด ออกช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก”

“ถ้าน้าศิลป์ไม่ว่าอะไร...ผมไปจัดให้น้องก็ได้ครับ” ผมเงยหน้ามอง หมอที่ก้มหน้าก้มตาเหมือนจะสำนึกผิดนะ ..... แต่ปากหมอยิ้มทำเชี่ยอะไรครับ!!!!

“ก็ดีนะศิลป์ ให้อาร์ตมันไปจัดให้จะได้เสร็จไวๆ” ป้าเล็กพูดกับแม่ผม

“ไม่!!!” ผมร้องเสียงหลง จนแม่ตีหน้าดุใส่ผม “ฝุ่นจัดเองได้ เดี๋ยวกินเสร็จจะขึ้นไปเก็บของแปปปปปปปนึงนะแม่นะ”

แม่ถอนหายใจก่อนจะเออออกับผม ทำให้ผมต้องรีบกินแล้วต้องไปจัดเสื้อผ้าต่อ

บอกตามตรง ไม่ไว้ใจหมอว่ะครับ!!!




เวลาสิบโมงกว่าๆ
ตอนนี้พวกเรากำลังขับรถอยู่แถวๆเขื่อนลำตะคลองครับ อากาศในตอนนี้กำลังดีไม่ร้อนเกินไป ยิ่งหนังท้องตึงไปแล้ว มีเพลงกล่อมเบาๆยิ่งโคตรดีจนหนักเปลือกตา แต่จะดีมากกว่านี้ถ้าคนที่ขับรถเป็นผมหรือพ่อ ไม่ใช่หมอ....


เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่นาน

‘ฝุ่นไปนั่งกับหมอนะ คันนี้ให้พ่อขับ’ แม่ชี้ไปที่รถอีกคันที่จอดอยู่ข้างรถพ่อ
‘ไม่ๆๆ เดี๋ยวฝุ่นขับให้เอง พ่อแก่แล้วนั่งเฉยๆเถอะ เนอะๆ’
‘ว่าใครแก่วะไอ้หมา ช้ะๆ เดี๋ยวเอ็งโดน!!’
‘เฮ้ย พ่อ ผมไม้ได้ว่าพ่ออย่างนั้นนนนนน’ ผมแก้ตัวเป็นพัลวันก่อนที่พ่อจะประเคนบาทาให้ผม
‘งั้นตามนี้นะฝุ่นไปกับตาอาร์ต น้องแอ๋มป้าเล็กไปกับแม่ ส่วนคุณก็ไปขึ้นรถได้แล้ว’
‘จ้ะ แม่จ๋า’
‘แม่! ฝุ่นไปด้วยยย’ ตะโกนออกไปแต่ไม่ทัน...พ่อซิ่งรถออกไปแล้ว...

ปี๊น

‘มาเร็วครับ มามะ’ หมอโผล่หน้าออกมาจากหน้าต่างเรียกให้ขึ้นรถ ผมจึงต้องจำใจขึ้นรถไปด้วยความหงุดหงิด
แม่นะแม่ ฮึ่ยยย


ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน
ผมนั่งเท้าคางมองวิวข้างทางที่ผ่านเข้ามา มืออีกข้างก็สไลด์หน้าจอโทรศัพท์ เข้าแอพตัวเอฟสีฟ้าเช็คหน้าฟีดข่าวไปเรื่อยๆ เห็นเพื่อนบางคนเช็คอินร้านเหล้าตั้งแต่เมื่อคืน เฮอะ! ไม่มีชวนกันเล้ยยยย
ผมนั่งเลื่อนฟีดเล่นจนเจอโพสรูปของผู้หญิงคนนึง แฟนเก่าผมนั่นเอง

Fon Rassaya
พาน้องมาหาหมอ แต่หมอไม่อยู่ ว้า~~

283likes 35comments

ผมมองโพสนั้นแล้วส่งเสียงหึออกมาเบาๆ น้องที่เธอว่าเป็นหมาครับ จำได้ว่าเป็นหมาของเพื่อนฝน และผมจำได้ว่าเธอเคยบอกไม่ชอบสุนัข เพราะมันเห่าเสียงดังและตัวเหม็น คิดดูนะครับขนาดเธอมาบ้านผม เธอยังไม่เข้าใกล้ไอ้ข้าวตังหมูหยองสักนิดเลยเลย
แล้วดูรูปนี่สิ แก้มคนแนบแก้มหมาซะสนิท


แปะ

“ฝุ่นครับ คิ้วขมวดแล้วครับ” มือของคนข้างๆละจากพวงมาลัยมาแตะหว่างคิ้วผม “ขมวดมากแก่ไวไม่รู้ด้วยนะ”

“ยุ่ง!” ผมปัดมือหมอทิ้ง กดออกจากแอพแล้วเก็บโทรศัพท์ลง

“ก็อยากยุ่งนี่”

“มันเรื่องของผม”

“เรื่องของคนที่พี่ชอบจะให้พี่ไม่ยุ่งได้ไงครับ หืม” หมอหันมายิ้มให้ ผมเบือนหน้าหนีทันที

“ถามจริงเถอะนะหมอ นี่จะจีบผมจริงอ่ะ?”

“จริงครับ”

“.....”

“ก็พี่มองเรานานแล้วนี่นา” หมอพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่ผมได้ยินชัดเจน

ทำไมจู่ๆรู้สึกร้อนที่หน้า...

“แต่ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย”

“พี่ก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย ....แต่พี่ชอบฝุ่นนะ” หมอหันมาขยิบตาใส่ผม ขับรถมองทางสิเฮ้ย!

“ให้โอกาสพี่ได้ไหมครับ”

“.................................”

ผมครางในลำคอเบาๆ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธคำขอนั้น ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมไม่ตอบปฏิเสธออกไปชัดๆ ผมเลือกที่จะเบือนหน้าหนี ตั้งหน้าตั้งตามองวิวข้างทางเหมือนกับว่าตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยพบเคยเห็นวิวแบบนี้มาก่อนเลย

กระจกสะท้อนภาพหมอที่ยิ้มกว้างจนหน้าหมั่นไส้



“ฝุ่นครับ”

“หือ...”

“ฝุ่นครับ ตรงๆ”

“หือ???” ผมขยับนั่งหลังตรงทันทีเพราะคิดว่าตัวเองบังกระจกข้าง แต่หมอกลับหัวเราะลั่น

“ไม่ใช่ให้นั่งหลังตรงครับ”

“อ้าว?”

“แม่พี่บอกว่า....” หมอเงียบไปจนผมต้องหันไปมอง หมอมองมาทางผมอยู่แล้วเหมือนกับรอจังหวะให้ผมหันมา “....ถ้าชอบใคร ให้บอกตรงๆ ครับ”

“.....”

ไอ้หมอหมา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

เออ ยอมรับกูเขินครับ......



———————————————————————————————————————



   แม่โทรมาบอกว่าให้แวะที่วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม หรือที่เรียกกันว่าวัดพระขาวที่กลางดงก่อน แล้วค่อยขับไล่ไปทางเขาใหญ่ พอลงจากรถได้ ผมก็คว้ากล้องขึ้นมาถ่ายภายในวัดทันที

วัดพระขาวเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ตั้งอยู่กลางเขา มีบันไดให้เราเดินขึ้นเขาไปสักการะได้ เราสามารถมองเห็นหลวงพ่อขาวได้จากถนนใหญ่ เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คของกลางดงเลยทีเดียว

“แม่จะขึ้นไปข้างบน ฝุ่นขึ้นไปด้วยกันไหมครับ?” แม่หันมาถาม ผมพยักหน้าให้เป็นคำตอบ

ผมและพวกแม่ๆไม่มีปัญหาเกี่ยวกับกับการเดินขึ้นเขาด้วยบันไดชันๆ แต่ไม่ใช่กับหมอ.....

“พี่ไหวไหมเนี่ย” แอ๋มถามพี่ชายที่นั่งหอบแฮ่กเป็นหมาอยู่กลางบันได

“ไหวๆ พี่ขอพักก่อน” หมดสภาพครับบอกเลย เหงื่อหมออกซ่กจนผมสงสาร จริงๆหมอดูเหมือนคนชอบออกกำลังกายนะ แต่แค่นี้ทำไมดูเหนื่อยง่ายจัง

ผมคว้ากล้องมาถ่ายสภาพหมอก่อนเปิดเป้หยิบผ้าให้แอ๋มเช็ดเหงื่อหมอ

“ขอบคุณครับ”

“พี่ไปเร็วแอ๋มหิวแล้วเนี่ย อีกนิดเอง”

“ครับๆ อีกนิด” หมอแหงนมองบันไดตรงหน้าด้วยแววตาเลื่อนลอย

“งั้นแอ๋มไปกับพี่ก่อนเนอะ ทิ้งคนแถวนี้ให้เดินขึ้นไปเองดีกว่า” ผมว่า ก่อนจูงแอ๋มให้เดินต่อโดนไม่หันไปมองด้านหลัง

“ยิ้มโคตรชั่วร้ายเลยนะพี่ฝุ่น” แอ๋มกระซิบขำ



เราใช้เวลาไม่นานในการขึ้นถึงจุดหมาย หมอเพิ่งจะเดินขึ้นมาถึงด้วยสภาพไม่ต่างกับเมื่อสักครู่ก็ตอนที่ผมสักการะหลวงพ่อขาวเสร็จนั่นแหละ ผมยิ้มขำให้หมอที่ทรุดกับพื้น ก่อนจะจดจ่อกับการถ่ายรูปวิวตรงหน้า วิวจากข้างบนเขานี้ทำให้มองลงไปเห็นถนนหน้าวัดที่ยาวเป็นเส้นตรงเกือบสองกิโล และรายล้อมไปด้วยต้นไม้และไร่ที่ชาวบ้านปลูกไว้ ผมถ่ายทั้งวิวและผู้คนที่มาวัดแห่งนี้จนเป็นที่พอใจ

แชะ

“หืม?”

ผมหันมองตามเสียงชัตเตอร์ เห็นแม่ๆยืนถ่ายรูปกันอยู่ไม่ไกลโดยมีแอ๋มเป็นคนอาสาถ่ายให้ ข้างๆแอ๋มเป็นหมอที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้โทรศัพท์ในมือตัวเอง ผมเก็บกล้องแล้วเดินไปรวมกลุ่มกับแม่ พักกันพอหายเหนื่อยแล้วถึงเดินลงมากัน แอ๋มบ่นหิวตลอดทางที่ลงมา แต่แม่บอกว่าให้รอไปหาที่กินข้าวแถวเขาใหญ่แทน
 
พอออกจากตัววัดมา เราก็มุ่งหน้าไปปาลิโอ้กันต่อ ครั้งนี้หมอให้ผมเป็นคนขับรถแทนเพราะหมอบอกว่าปวดขา ขับรถต่อไปไม่นานก็ถึงปาลิโอ้ แต่ดันมาใช้เวลานานเพราะหาที่จอดรถทำให้คลาดกับแม่ที่ได้ที่จอดทันทีที่ถึง ผมชอบที่นี่นะให้บรรยากาศเหมือนอยู่อิตาลีดี ยิ่งมาตอนอากาศดีๆแบบนี้ด้วย ผมอยู่ได้ทั้งวันเลยเถอะ
ผมไล่ถ่ายร้านค้าตลอดทางที่เดินมาเพลิน จนรู้สึกว่ามีคนมาสะกิดแขน
“น้าศิลป์บอกว่าให้ไปทานข้าวก่อนครับแล้วค่อยมาถ่ายต่อ” หมอชูโทรศัพท์ให้ดูประกอบ หน้าจอสายที่กำลังคุยอยู่เป็นชื่อแม่ผม หมอคุยกับแม่อีกไม่กี่คำก่อนเดินพาผมไปที่
.
.
.
.
เอ็มเคสุกี้..............

มาตั้งไกลเพื่อกินเอ็มเคเนี่ยนะ!!!!!!


พออิ่มหมีพลีมันกันเรียบร้อย ผมก็ขอตัวออกมาไปถ่ายรูปรอบๆโดยสองพี่น้องตัวอ.ตามมาด้วย แอ๋มขอให้ถ่ายเข้าตัวตามมุมต่างๆให้ผมก็ไม่เกี่ยง กดถ่ายเพลินทั้งตึกทั้งคน

“อ๊ะ ขอโทษครับ” ผมถอยไปชนคนด้านหลังด้วยความไม่ระวัง ก่อนหันไปขอโทษออกมาเบาๆ แต่กลับมีกุหลาบสีสวยดอกโตดอกหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้าแทน

“.....”
“ให้ครับ”

ผมยืนมองดอกไม้สลับกับคนถือ

แชะ

ยกกล้องขึ้นมาถ่ายดอกกุหลาบและคนถือหนึ่งรูปถ้วน ...

“ไปกันต่อไหมแอ๋ม” ผมคว้ากุหลาบ เสมองทางอื่นแล้วรีบจูงแอ๋มเดินหนีทันที

อายเว้ย!!




ขับออกจากปาลิโอ้มาอีกหน่อยก็เป็นทางขึ้นไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่พวกผมไม่ได้ขึ้นไป แค่จอดแวะซื้อของที่ชาวบ้านแถวนั้นเอามาขายแทน เราขับรถไปตามทางเรื่อนๆ มองนาฬิกาตอนนี้เกือบสี่โมงเย็น ขับไปถึงที่พักก็เกือบได้เวลาเคารพธงชาติตอนเย็น

ตอนแรกผมนึกว่าแม่จองโรงแรมหรือรีสอร์ทไว้แต่ที่ไหนได้....แม่พามาบ้านคนรู้จักครับ จริงๆเขาทำบ้านไว้สำหรับเป็นรีสอร์ทแหละครับ แต่มันยังไม่เสร็จดี เหลือตกแต่งเขาเลยให้แม่มาช่วยแต่งให้ แม่เลยถือโอกาสพาพวกผมมาเที่ยวซะเลย งานนี้ไม่เสียค่าที่พักเลยสักบาท

“ตอนนี้ห้องว่างมีสามห้องนะคะพี่ศิลป์ เดี๋ยวเก็บของกันแล้วค่อยมาทานมื้อเย็นกัน” เจ้าของบ้านเอ่ย ผมเดินไปหาพ่อ กะว่าจะนอนกับพ่อแต่ก็ดันโดนเบรกดังเอี๊ยด

“ไปนอนกับมันนู่น พ่อจะนอนกันแม่เอ็ง” พ่อบุ้ยปากไปทางหมอ

“ไม่เอา!!”

“ทำไมล่ะ ห้องตาอาร์ตไปค้างมาแล้วจะกลัวอะไร”

“ก็มัน-----” คิดไม่ซื่อกับลูกแม่นี่ ผมละประโยคหลังไว้ในใจ เลือกที่จะเงียบแทน

“ก็มันอะไร หนูแอ๋มนอนกับแม่เขา แม่นอนกับพ่อ ลูกก็นอนกับตาอาร์ตพอดีไง อย่าเถียงแม่เอาตามนี้” แม่ชี้หน้าผมที่กำลังจะพูดอะไรออกไป คำเด็ดขาดของแม่ทำให้ผมหุบปากแล้วฟึดฟัดลากกระเป๋าเข้าห้อง


มื้อเย็นคุณเจ้าของบ้านลงมือทำกับข้าวเลี้ยงพวกเราทุกอย่างอร่อยจนผมตึงท้อง พอตกดึกหน่อยแม่ก็ไล่พวกผมไปนอนบอกว่าเป็นเวลาของผู้ใหญ่ ผม25นี่ยังไม่ผู้ใหญ่หรอแม่!

เข้าห้องได้ผมก็คว้าเสื้อผ้าไปอาบน้ำห้องแม่ทันที กลับมาอีกทีก็ได้ยินเสียงจากในห้องน้ำ หมอคงมาแล้ว... ผมเปิดกล้องเช็ครูปที่ถ่ายวันนี้ไปเรื่อย ก่อนจะไปหยุดที่รูปหมอถือดอกกุหลาบ

มุมปากผมยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

“...บ้าเอ๊ย...”

ผมเก็บของและทิ้งตัวลงนอน ซุกหน้าที่เริ่มขึ้นสีกับหมอนใบโตก่อนหลับตาลง

รู้สึกถึงสัมผัสของอะไรสักอย่างที่นิ่มและเย็น แตะลงมาที่หน้าผากของผมก่อนที่ผมหลับสนิท...


Tbc.


———————————————————————————————————————


มาแล้วค่ะ เฮ้
ก่อนอื่นเลย เราต้องขอขอบคุณทุกกกกกกกกกกกทุกคอมเม้นเลยค่ะ บางเม้นอ่านไปยิ้มไปทำให้มมีกำลังใจแต่ขึ้นโขเลย////3\\\\
ยอมรับว่าตอนนี้เราว่ามันมึนๆหน่อย ฮา จริงๆแถวเขาใหญ่ปากช่องมันมีที่เที่ยวเยอะว่านี้นะ แต่เราไม่ได้ไปแถวๆนั้นตั้งแต่ปีใหม่ เต็มที่ก็เอ้าท์เลทปากช่องแล้ววนกลับเมืองเลย ตอนนี้แอบต้องอาศัยกูเกิ้ลในการบรรยายประกอบเยอะมาก 5555
อย่างวัดพระขาวนี่เวลาไปกับที่บ้านทีไรเป็นอันต้องแวะ แต่ไม่ขึ้นถึงข้างบนนะคะเหนื่อยจริงจัง บันไดตั้ง1250ขั้นแหน่ะ จริงๆข้างวัดพระขาวเป็นตลาดน้ำศิลปะค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่ายังมีอยู่ไหมเลยไม่พูดถึงดีกว่า เอาไว้ให้หนุ่มๆไปตลาดน้ำปากช่องแล้ววนไปวังน้ำเขียวดีกว่า ฮา
พาร์ทหน้าคุณหมอขอเล่าเรื่องค่ะ อะไรๆที่ทุกคนสงสัยมันอยู่ที่พาร์ทหมอนี่แหละค่ะ อิอิ

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2017 00:43:58 โดย miinta »

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「6」03|09|60 P.2
«ตอบ #36 เมื่อ03-09-2017 23:39:47 »

 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「6」03|09|60 P.2
«ตอบ #37 เมื่อ03-09-2017 23:48:43 »

 :impress2:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「6」03|09|60 P.2
«ตอบ #38 เมื่อ04-09-2017 00:09:23 »

 o13 เยี่ยมมากที่สุดพี่หมอ....บุกน้องเข้าไป...ดูท่ากองกำลังเสริม(ครอบครัวน้อง)  จะแน่นหนา....สู้ๆ  :o8:

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「6」03|09|60 P.2
«ตอบ #39 เมื่อ04-09-2017 01:38:26 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「6」03|09|60 P.2
« ตอบ #39 เมื่อ: 04-09-2017 01:38:26 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「6」03|09|60 P.2
«ตอบ #40 เมื่อ04-09-2017 13:07:18 »

ฮื่อออออ  เขินนนน   :ling1:  ทำไมพี่หมอน่ารักอย่างนี้อ่ะ ชอบบบ
พี่หมอ คนจริงจ้า แม่บอกให้พูดตรง ๆ ก็พูดตรง ๆ ชอบก็บอกว่าชอบ ดีต่อใจแท้ > <
แค่เริ่มจีบ ก็มอนิ่งคิสแล้วอ่ะ ทั้งขอโอกาส แอบถ่ายรูป ให้ดอกกุหลาบ
ปิดท้ายด้วย จูบหน้าผากก่อนนอนอีก โอยยย พี่หมอพลังทำลายล้างสูงนัก :-[
เจอขนาดนี้ ฝุ่นจะไม่หวั่นไหวได้ไง ดูสิ มาแอบดูรูปเขาแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ละ
แพ้ทางพี่หมอเห็น ๆ ตั้งแต่วันแรกเลย แต่เราชอบ แพ้ต่อไปนะฝุ่นนะ 555

ชักตะหงิด ๆ ยัยฝน ตอนที่แล้วยังทำเป็นหวงฝุ่นอยู่เลย แล้วที่ลงรูปมาหาหมอเนี่ย
พี่อาร์ตแน่ ๆ จริง ๆ ขอเลิกกับฝุ่น เพราะไปแอบสนใจพี่อาร์ตใช่ไหม แล้วยังมาหวงก้างฝุ่น
ยัยฝนนี่ต้องมาสร้างความวุ่นวายอีกแน่ ต้องให้น้องแอ๋มจัดการ ฮึ่มม

รอตอนหน้า พี่หมออาร์ตมาเอง อยากรู้จริง ๆ ไปแอบปิ๊งน้องฝุ่นตอนไหน ยังไงน้อ
ชอบเรื่องนี้มากกก อ่านไปอมยิ้มไปตลอดเลย ขอบคุณมาก ๆ นะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ мıınta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
    • TW
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
«ตอบ #41 เมื่อ05-09-2017 01:24:49 »

• 7 •


-อาร์ต-

ผมถอนริมฝีปากออกจากหน้าผากของคนที่นอนหลับไปแล้ว นั่งมองจนแน่ใจว่าน้องมันหลับสนิท ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอดังออกมาเบาๆ เกลี่ยปลายนิ้วไล่ไปตามรูปหน้าน้อง
 
...ผู้ชายอะไรวะแก้มโคตรนุ่ม...
 
ผมไล่ปลายนิ้วไปตามรูปหน้า ก่อนไปหยุดที่ริมฝีปากที่เผยอออกมาน้อยๆ

“....................”

ผมผละมือออกทันที ก่อนนอนตะแคงข้างมองสีฝุ่นอยู่อย่างนั้น
นึกไปถึงครั้งแรกที่แม่พาไปเจอน้องเมื่อตอนยังเด็กๆ...



พ่อกับแม่ผมแยกกันอยู่ตั้งแต่แอ๋มอายุ2-3ขวบ ผมถูกพ่อพาไปอยู่กับปู่ย่าที่กรุงเทพฯ แต่พ่อยังมีความใจดีมากพอที่จะให้ผมกลับไปหาแม่ทุกๆช่วงปิดเทอม โดยในช่วงนั้นแม่ก็ต้องส่งให้แอ๋มไปอยู่กับพ่อแทน ผมอยู่กับพ่อก็จริง แต่ผมไม่ได้สนิทกับพ่อเพราะตั้งแต่ที่ผมมากรุงเทพฯ พ่อก็เข้มงวดกับการเรียนผมมากบังคับให้เรียนพิเศษที่โรงเรียนทุกวันไม่พอ วันเสาร์อาทิตย์ก็แทบไม่ได้หยุด ผมอ่านหนังสือจนสายตาแย่ลงและมันสั้นมากพอจนต้องใส่แว่นสายตาไว้ตลอดเวลา

...เกรด4คือข้อตกลงของพ่อ แลกกับการที่ผมจะได้กลับไปหาแม่ในตอนปิดเทอม...
 ปิดเทอมก่อนผมขึ้น ป.4 จู่ๆพ่อก็บอกแม่ว่าไม่ต้องให้แอ๋มลงไปหาที่กรุงเทพฯและให้ผมไปหาแม่ทันทีที่สอบวันสุดท้ายเสร็จ พ่อไม่บอกสาเหตุกับแม่ แต่ผมคิดว่าผมรู้สาหุ....มีผู้หญิงคนนั้นที่พ่อให้ผมเรียกว่าแม่ เจ้าหล่อนไม่ชอบแอ๋มที่เป็นลูกติดของพ่อ รวมทั้งผมด้วย

ในปีนั้นผมจึงมีโอกาสได้อยู่กับแม่และน้องพร้อมหน้ากันครั้งแรก

ไม่กี่วันถัดมาแม่ก็พาผมและแอ๋มไปบ้านเพื่อนแม่คนนึง ซึ่งก็คือน้าศิลป์ แม่บอกว่าน้าศิลป์เป็นคนตั้งชื่อเล่นให้ผม ผมถูกพาให้ไปเจอเพื่อนใหม่อีก2คน นั่นคือครั้งแรกที่ผมเจอกับ กล้องฟิล์ม และ สีฝุ่น

“พี่ชื่ออาร์ตนะ ส่วนนี่แอ๋ม ยินดีที่ได้รู้จัก” ผมพูดกับสองพี่น้อง
“เราฟิล์ม ส่วนนี่ฝุ่นน้องเรา” ฟิล์มตอบผมกลับ พยายามแกะมือน้องชายที่เกาะเสื้ออยู่แต่ไม่เป็นผล

ตอนนั้นฟิล์มจะเป็นเด็กผู้หญิงแนวแก่นๆ ส่วนฝุ่นนี่แทบจะไม่คุยกับผมสักคำเอาแต่หลบหลังฟิล์ม  ถามอะไรก็ตอบแค่อื้อๆ ท่าทางจะเป็นเด็กขี้อาย แม่ปล่อยให้ผมเล่นกับสองพี่นั้นนั่นทั้งวัน ฝุ่นก็เอาแต่แอบมองผมไม่ยอมเข้าใกล้ ผิดกับแอ๋มที่สนิทกับสองพี่น้องนั่นไปแล้ว
จนกระทั่งได้เวลากลับบ้าน

กึก

ชายเสื้อผมถูกดึงโดยมือเล็กๆของเด็กผู้ชาย

“ม....นะ”

“หืม? ว่าไงนะ” ผมมองเด็กชายตัวเล็กที่ก้มหน้างุดพูดอะไรออกมา แต่ผมได้ยินไม่ชัดจึงก้มหน้าเอียงหูไปใกล้ๆปากเล็กนั่น

“มาเล่นกันอีกนะ! อ๊ะ” น้องเงยหน้าทันทีที่พูดจบ ด้วยระยะที่ใกล้มากทำให้พอน้องเงยหน้าขึ้น ปากเล็กนั่นก็จุ๊บแก้มผมเข้าไปเต็มๆ น้องทำตาโตเพราะตกใจก่อนวิ่งหนีไปหลบหลังน้าศิลป์

“ดูเจ้าตัวเล็กนั่นสิ ไปหอมแก้มเขาแล้วเขินเองซะงั้น” แม่ผมพูดกับน้าศิลป์

“โหยเล่นเขินซะแดงทั้งตัวแบบนี้ โตขึ้นไปลูกชายแม่จะจีบสาวไหนติดไหมครับ” น้าศิลป์แซวลูกชายตัวเองฝุ่นที่หน้าแดงอยู่แล้วยิ่งแดงขึ้นไปอีก ยังกับมะเขือเทศเลย

“....น่ารัก”

“แม่คะ! พี่เขาบอกว่าฝุ่นน่ารัก!!” ผมพึมพำออกมาเบาๆ ไม่คิดว่าไอ้ตัวแสบมันจะได้ยินแล้วบอกแม่ นิ้วป้อมชี้ไปหาสีฝุ่นที่หลบหลังน้าศิลป์ แม่นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่ผู้ใหญ่ทั้งสองจะหัวเราะร่าออกมาพร้อมกัน



ถัดจากปีนั้น แม่ก็ย้ายจากบ้านเดิมไปอยู่ข้างบ้านน้าศิลป์ ทำให้พวกผมได้เจอกันตลอดปิดเทอม

“พี่อาร์มมม อ้ามมม” แอ๋มจ่อขนมที่ปาก ผมทำหน้าเอือมกับคำเรียกชื่อก่อนงับขนมชิ้นนั้น ตั้งแต่ผมกลับมาแอ๋มก็เอาแต่เรียกผมว่าอาร์ม เพราะเพื่อนแอ๋มบอกว่าชื่อผมกับน้องไม่คล้องกัน ผมอธิบายไปแอ๋มก็ไม่ฟัง ร้องไห้จนแม่บอกให้ผมยอมๆน้องไปก่อน จนสองพี่น้องบ้านข้างๆก็เรียกผมด้วยชื่อนี้ เออเอาเข้าไป

“พี่อาร์ม” สีฝุ่นเดินหน้างอมาหาผม “ฝุ่นไม่อยากเล่นพ่อแม่ลูกกับแอ๋ม”

ผมหัวเราะ ปีนึงที่ผ่านมาน้องดูโต และพูดมากขึ้น “งั้นจะเล่นอะไรครับ”

“รถแข่ง!!” น้องชูรถบังคับที่ถือมาด้วย ผมพยักหน้าก่อนจูงน้องไปเล่นข้างนอก

“พี่อาร์มไปไหนมา” ฝุ่นทำตาแป๋วถามผม

“ไปไหน? พี่ไม่เห็นได้ไปไหน”

“ก็เวลาฝุ่นกลับจากโรงเรียนไปเล่นบ้านป้าเล็ก ฝุ่นเจอแต่แอ๋ม พี่อาร์มไปไหน” น้องลงไปนั่งยองๆ ก้มหน้าชิดเข่า “ฝุ่นไม่มีคนเล่นด้วยเลย”

ผมฟังน้องพึมพำ

“พี่ไปอยู่ที่อื่นมาน่ะ”

“พี่อาร์มอยู่นี่ตลอดไม่ได้หรอ”

“.....” ผมเงียบนานจนน้องรู้สึกหน้าเสีย “..งั้นพี่จะมาทุกปิดเทอมนะ โอเคไหม” ผมส่งมือไปยีหัวน้อง ทำให้น้องเงยหน้าขึ้นยิ้มร่า

“อื้อ! ” น้องทิ้งของเล่นเข้ามาผมแน่นผมก็กอดตอบ

โดยไม่รู้ว่ามีผู้ใหญ่ของบ้านกำลังนั่งมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม



ปิดเทอมก่อนขึ้น ป.6
ปีนี้ผมไม่ได้กลับไปหาแม่ ไม่ได้ไปหาเด็กน้อยคนนั้น พ่ออยากให้ผมเข้าโรงเรียนมัธยมชื่อดังจึงจัดให้ผมเรียนพิเศษหนักขึ้นในตอนปิดเทอม หลังจากสอบเข้าโรงเรียนได้สมใจพ่อ เขาให้ผมเรียนหนักมากขึ้นกว่าเดิม
เกือบ2ปีที่ผมไม่เจอหน้าแม่ แม้ว่าแม่ไม่เคยขึ้นมาหา ผมก็ไม่ได้น้อยใจหรืออะไรเพราะเข้าใจเหตุผลของแม่ดี แค่ได้ยินเสียงของแม่ผ่านสายโทรศัพท์ก็พอใจแล้ว

“น้องฝุ่นร้องถามหาลูกแหละ”

จู่ๆแม่ก็พูดขึ้นมาอย่างนั้น ภาพของเด็กน้อยตัวแดงแวบขึ้นมาในหัว ตอนนี้เป็นปิดเทอมของม.1 ปีนี้พ่อไม่ให้ผมไปหาแม่อีกแล้ว มีแต่โทรศัพท์ที่พอให้ผมคลายคิดถึงแม่ได้ ชีวิตผมมีแต่เรียน และเรียน หลักฐานคือ เลนส์แว่นที่หนากว่าเดิมมาก


เวลาผ่านจนถึงวันแรกปิดเทอมใหญ่ของมัธยม2

“ผมจะไปหาแม่!”

“แกจะไปทำไม ฉันส่งเงินให้แกเรียนแกก็มีหน้าที่เรียน! ไปหายัยนั่นก็เสียเวล่ำเวลา หลังจากนี้แกต้องเรียนให้สูงๆ เข้าใจไหม แกเป็นลูกชายฉัน ในเมื่อแกใช้นามสกุลนี้แกต้องสืบทอดตำแหน่งประธานบริษัทต่อจากฉัน!!”

“ผมไม่ใช่หุ่นเชิดของพ่อนะ!!”

เพี้ยะ !

ฝ่ามือหนาของพ่อตบลงจนหน้าผมหัน แว่นที่ผมใส่ร่วงหล่น และแตกร้าว...

นี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่ผมโดนพ่อทำร้ายร่างกายผม แต่ครั้งนี้...ความแรงนั่นทำให้ผมรู้สึกถึงคาวเลือดคละคลุ้งในปาก

ผมกุมหน้าซีกที่โดนตบ จ้องมองผู้ให้กำเนิดเขม็ง

เหมือนสติขาด... ผมไม่รู้ว่าหลังจากนั้นผมตวาดอะไรออกไปบ้าง เสียงมันคงดังจนคุณปู่คุณย่าเข้ามาห้ามและพาผมออกไปทำแผล

ผมหนีขึ้นมาบนห้องนอน ก้มมองโทรศัพท์ท่อยู่ในมือ กดเบอร์10หลักที่จำได้ขึ้นใจแต่ไม่ได้กดโทรออกไป
ไม่อยากให้แม่รู้... แต่ก็อยากให้รับรู้...

เสียงรอสายดังขึ้นเมื่อผมกดโทรออก รอไม่นานอีกฝั่งก็รับสาย

“ว่าไงครับลูกชาย ถึงโคราชแล้วหรอ”

“แม่...”

“อาร์ต? เป็นไรหรือเปล่าลูก?”

“ผม อาร์ตอยากไปหาแม่...” ผมเว้นช่วง “...เขาตบผม”

“ให้แม่ขึ้นไปหาไหม” เสียงแม่ร้อนรนขึ้นมาทันที ผมส่ายทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่เห็น

“ไม่ต้องมาครับ อาร์ตไม่เป็นไร” เสียงผมสั่นเครือ พึมพำกับแม่ว่าไม่เป็นไรซ้ำไปซ้ำมา

“เดี๋ยวแม่จะไปหาอาร์ตนะครับ”

“ไม่...”

“อาร์ตครับ” เสียงนุ่มของแม่ดังขัดขึ้น

“.....”

 “เดี๋ยวแม่ไปหาครับ รอแม่นะ”

 “.....” ผมกลั้นหายใจ ภาพสิ่งของข้างหน้าเบลอเพราะน้ำตาที่ตื้นขึ้นมา “ฮึก... แม่มาหาอาร์ตนะ”

...หยดน้ำตาร่วงหล่น...


ผมไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันดังขึ้น ผมเช็ดคราบน้ำตาออกก่อนคว้าแว่นสำรองมาใส่ ก่อนเปิดประตูออกไป

“ไหนบอกว่าคุณจะเลี้ยงเขาให้ดีไง!”

“ลูกผม ผมรู้ว่าอะไรดีไม่ได้คุณไม่ต้องมายุ่ง!!”

“ลูกคุณก็ลูกฉันไม่ใช่หรือไง! พ่อบ้าที่ไหนมายัดความรู้เข้าหัวเด็กมันจนไม่มีเวลาขยับตัวไปไหนแบบนี้!”

“คุณ!!!”

“ฉันจะเอาลูกฉันกลับไปอยู่ด้วย! อาร์ตบอกหมดแล้วว่าคุณทำอะไรเขา!”

“เฮอะ”

“แม่!” ผมเบิกตากว้างเรียกแม่เสียงดัง ทำให้ทั้งคู่หันมามองผมทันที

“แกบอกแม่แกไปว่าจะอยู่กับฉัน!” พ่อปรี่เข้ามากระชากแขนผม “บอกไป!!”

“คุณหยุดนะ ลูกมันเจ็บไม่เห็นรึไง!”

“ลูกผู้ชายเจ็บแค่นี้แม่เห็นจะเป็นไร” พ่อบีบแขนผมแรงขึ้นอีก ผมเบ้หน้าด้วยความเจ็บ

“คุณปล่อยลูก!”

“หยุดกันทั้งคู่นั่นแหละ”

เสียงของผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในบ้าน...เสียงของคุณปู่ดังขึ้น ข้างกายเป็นคุณย่าที่ถืออะไรบางอย่างมาด้วย


“พ่อไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแก ลูกชายของแกทั้งคนแกทำร้ายมันลงได้ยังไง ทั้งตี ทั้งบังคับมันเรียนหนักๆ” ปู่พูดกับพ่อผม ชี้เข้าที่แขนผมที่ถูกกำจนเป็นรอย “พ่อทนเห็นหลานมันไม่มีความสุขแบบนี้ไม่ได้”

“ผมแค่อยากให้ลูกได้ดี ถ้าแค่นี้ทำไม่ได้แล้วโตไปมันจะทำอะไรได้!” พ่อเถียง ปู่ได้แต่ส่ายหน้าให้ความรั้นของพ่อ

“พ่อจำได้ว่าตอนแก พ่อก็ไม่เคยบังคับให้แกเรียนหรือทำอะไรที่แกไม่ชอบสักครั้ง” ปู่ว่า “ไปห้องรับแขก พ่อมีเรื่องจะคุยกับแก เธอด้วยนะเล็ก” แม่พยักหน้า ก่อนเข้ามาสำรวจแขนผม ผมกุมมือแม่ไว้หลวมๆก่อนส่งยิ้มให้


เมื่อถึงห้องรับแขก คุณย่าก็เอาเอกสารในซองออกมาส่งให้ปู่

“เอกสารนี้คือข้อตกลงระหว่างพ่อกับแม่เรา ตั้งแต่เขาหย่ากัน ลูกสาวต้องไปอยู่กับแม่และลูกชายต้องมาอยู่กับพ่อ” ปู่หันมาพูดกับผม ก่อนฉีกเอกสารนั้นเป็นชิ้นๆ “ปู่ขอยกเลิกข้อตกลงทั้งหมด”

“พ่อครับ!!”

“และนี่คือข้อตกลงใหม่” ย่าหยิบเอกสารชุดใหม่ออกมา “แม่ให้ทนายแก้ข้อตกลงใหม่ ครั้งนี้ให้ตาอาร์ตรับรู้ด้วย”

พ่อกัดฟันกรอด ผมก้มอ่านกระดาษแผ่นนั้นทันที

“ข้อตกลงที่เพิ่มเข้ามา ข้อแรก แกจะมีสิทธิ์เลี้ยงดูหลานได้ถึงแค่สิบห้า หรือก็คือเมื่ออาร์ตจบม.3เท่านั้น หลังจากนั้นแม่เขาจะเป็นคนดูแลต่อ” ปู่พูด “ข้อสอง แกไม่มีสิทธิ์บังคับเรื่องการเรียนของอาร์ต เด็กมันไม่อยากเรียนอะไรก็อย่าไปยัดให้มัน”

“คุณพ่อครับ!”

ย่าจับมือผม “ย่าไปลาออกให้แล้วนะ พวกที่เรียนพิเศษทั้งหลายที่ลูกเรียนอยู่”

“ข้อสาม...อาร์ตยังคงเป็นผู้สืบทอดบริษัทนี้ แต่ถ้าอาร์ตต้องการที่จะไม่ทำแล้ว พ่อจะยกให้ลูกคนรองมันดูแลต่อ ส่วนข้อที่เหลือยังเหมือนกับแผ่นเก่า เซ็นต์ซะ”

ปู่วางปากกาลงตรงหน้าพ่อ

“ผมไม่เซ็นต์”

“กรณีที่แกไม่ยอมรับ ทุกอย่างจะตกไปให้หนูเล็กและลูกทันที” ปู่เอ่ยเสียงเรียบ ทำให้พ่อกัดฟันดังกรอด ก่อนกดปากกาเซ็นต์ชื่อลงไป

“หลังจากนี้หนูอยากเรียนอะไรก็แล้วแต่หนูแล้วนะ” ย่าเข้ามาลูบแขนผม “ถ้าไปโคราชแล้วอย่าลืมกลับมาหาคนแก่ที่ทางนี้มั่งนะ”

ผมได้แต่พยักหน้าให้...

ผมตัดสินใจกลับโคราชกับแม่ทันที แต่อยู่แค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น พอเปิดเทอมก็กลับมาเรียนที่กรุงเทพฯ โดยให้เหตุผลว่าผมไม่อยากที่จะย้ายโรงเรียนใหม่

“พี่อาร์มมมมมมมมมม” แอ๋มพุ่งเข้ามากอดผมทันทีที่เห็นหน้า

“ยังไม่เลิกเรียกชื่อนี้อีกหรอ หืม”

“มันติดแล้วอ่ะ แฮะๆ”
ผมชะเง้อมองข้างบ้าน เห็นการเปลี่ยนแปลงไปเยอะไม่ว่าจะสวนหรือแม้กระทั้งโครงสร้างของอะไรสักอย่างที่กำลังก่ออยู่

“พี่ฟิล์มพี่ฝุ่นไม่อยู่เขาบ้าน เนี่ยๆน้าศิลป์จะทำร้านกาแฟล่ะ” แอ๋มพูดขึ้นมาเหมือนรู้ว่าผมจะถามอะไร

“ใช่ๆ พี่ฝุ่นงอนที่พี่ไม่มาหาด้วยละ”

“........”



สองวันสุดท้ายก่อนเปิดเทอม ม.3
ตั้งแต่มาผมยังไม่เจอพี่น้องบ้านข้างๆเลยสักครั้ง แม่บอกว่าน้าศิลป์จะกลับวันนี้แหละ แต่วันนี้ผมต้องกลับกรุงเทพฯแล้วด้วยสิ....
ไม่ได้เจอสีฝุ่นตั้งนาน น้องยังจะจำผมได้ไหมนะ

“แม่! ฝุ่นเจอนกตกจากต้นไม้ พามันไปหาหมอได้ไหม”

เสียงเล็กๆดังขึ้นจากข้างบ้าน ผมรีบปีนกำแพงขึ้นดูเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กก็อะไรบางอย่างไว้ในมือและวิ่งไปหาแม่ตัวเอง

“ปีกหักหรือเปล่า เดี๋ยวแม่พาไปหาลุงหมอเนอะ”

“อื้อ! คุณหมอรักษาสัตว์นี่เก่งเนอะ รักษาได้ทุกอย่างเลย”

“เขาเรียกสัตวแพยท์ครับคนเก่ง ที่หมอเข้าเก่งก็เพราะเขาเรียนมา ลูกอย่างเป็นเหมือนเขาต้องขยันรู้ไหม”

“ไม่ฝุ่นอยากเป็นตากล้อง!! แต่ฝุ่นชอบสัตวแพทย์ เท่จัง” ประโยคหลังน้องพูดเสียงเบา

ผมเงี่ยหูฟังบทสนทนาของสองแม่ลูก ผมว่าผมได้เป้าหมายในชีวิตแล้วแหละ

ผมจะเรียนสัตวแพทย์! ! !

“อะแฮ่ม ไปได้ยังครับคุณลูก” เสียงแม่กระแอ่มดังจากด้านหลังผม รอยยิ้มกริ่มประดับริมฝีปาก
“ไปครับไป แฮะๆ”



“ชอบน้องมันล่ะสิ แม่ไปขอให้ไหม”
“แม่!!!!!!!!!!!”


Tbc.


———————————————————————————————————————


พาร์ทพี่หมอยังไม่จบนะคะทุกท่าน แต่งเพลินจนต้องตัดครึ่งมีต่อตอนหน้าอีกตอนแล้วเราจะคืนเรื่องให้ฝุ่นละ 555555555555555
หนูฝุ่นกับหมออาร์ตเคยเจอกันตอนเด็กๆค่ะ แต่เพราะน้องยังเด็กมากบวกกับยิ่งโตอะไรใหม่ๆก็เข้ามา พอนานไปก็ลืม แต่พี่หมอจำน้องได้ตลอดนะคะ
ตอนนี้แต่งไปก็สงสารอาร์ตไป(อาร์ต-สงสารแล้วให้บทงี้ผมทำไม....) พ่อแม่อาร์ตนี่แต่งงานกันเพราะโดนบังคับค่ะ พ่อแม่ทั้งคู่เขารู้จักกัน ทั้งปู่ย่าตายายของอาร์ตทำธุรกิจร่วมกันเลยให้ลูกดองกันเอง เรียกง่ายๆก็คุมถุงชนนั่นแหละ อะไรที่ไม่ใช่พอถึงจุดๆหนึ่งที่มันไปด้วยกันไม่ได้ก็ต้องแตกหักกัน
ปู่ย่าของอาร์ตรักหลานมาก แต่ลูกชายตัวเองเป็นคนเข้มงวดเกินไป ท่านเห็นว่าอนาคตน่าจะมีปัญหาเลยทำข้อตกลงขึ้นมา พอพ่อของอาร์ตทำร้ายลูกหนักๆทั้งร่างกายและจิตใจเลยทนไม่ได้ ยอมส่งลูกคืนแม่ดีกว่า

พ่ออาร์ตจะมีบทอีกหลายตอน แต่เรายังหาชื่อไม่ได้เลยตอนแรกจะให้สมบัติมันก็ยังไงๆอยู่ เรียกพ่อไปก่อนละกันเนอะ


#กลิ่นสีและกาวน์หมอ

ปล.เรากำลังแต่งตอนพิเศษ สปอยชื่อตอนลงไว้ในทวิตค่ะ ฮาาาาาาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2017 00:47:48 โดย miinta »

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
«ตอบ #42 เมื่อ05-09-2017 11:37:34 »

คุณหมอน่ารัก

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
«ตอบ #43 เมื่อ05-09-2017 12:54:33 »

ฮืออ น่ารักจังเลย รักฝังใจตั้งแต่น้องฝุ่นตัวเล็กตัวน้อยเลยเชียว  :m1:
เพราะความจิตใจดีของเด็กน้อยสีฝุ่น จึงเป็นสาเหตุให้พี่หมอมาเป็นสัตวแพทย์
เพราะอยากเป็นคุณหมอสุดเท่ห์สำหรับน้องฝุ่น ฮืออ ชอบมาก ๆ 
พี่หมอตอนที่ต้องอยู่กับคุณพ่อ น่าสงสารมาก เราอ่านไปน้ำตาคลอเลยอ่ะ T^T
แต่ยังดีที่มีคุณแม่ที่เข้มแข็งน่ารัก คุณปู่คุณย่าที่เข้าใจ ไม่งั้นชีวิตนี้ของพี่หมอคงไม่มีอิสระ
โดยเฉพาะคุณแม่เล็กเนี่ย ชอบมาก เป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจโลก รักลูก มีการจะสู่ขอน้องให้ด้วย 555
ตอนแรกคิดว่าน้องฝุ่น ไม่ค่อยสนิทกับพี่หมอตอนเด็ก ๆ นะเนี่ย ที่ไหนได้ ติดหนึบซะงั้น
แต่น้องยังเล็กมากอ่ะเนอะ พอแยกกันนาน ๆ ก็ต้องลืมเลือนไปบ้าง ก็เรื่องธรรมดา
แต่เดี๋ยวจบ มอสาม พี่หมอก็ได้มาอยู่กับแม่เล็กแล้ว แล้วทำไมยังไม่ค่อยได้เจอน้องกันนะ
รอพี่หมอมาเล่าต่อ ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลย ขอบคุณคนเขียนนะคะ   :กอด1:

ปล. ไปแอบดูรูปน้องฝุ่นในทวิตมา น่ารักมากค่า แต่ ชื่อตอนพิเศษนั่น คืออะไร  เอาจริง? 555

ออฟไลน์ fsbeentaken

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
«ตอบ #44 เมื่อ05-09-2017 21:38:17 »

น่ารักโว้ยยยยยยย  :o8:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
«ตอบ #45 เมื่อ05-09-2017 23:50:08 »

 :haun5:


น่ารักกกกกกกก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
«ตอบ #46 เมื่อ06-09-2017 07:27:18 »

มันอย่างนี้นี่เอง  :hao3:
อาร์ท ฝนเคยเจอกันตอนฝุ่นยังเล็กๆ
แล้วฝุ่นจุดประเด็นให้อาร์ทเรียนสัตวแพทย์  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
«ตอบ #47 เมื่อ06-09-2017 20:24:20 »

น่ารักกกก

ออฟไลน์ мıınta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
    • TW
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
«ตอบ #48 เมื่อ06-09-2017 21:28:38 »

• 8 •


พอผมอายุครบสิบห้า หลังจบม.3ผมตัดสินใจเรียนต่อที่กรุงเทพ แต่ขอออกจากบ้านพ่อมาอยู่คอนโดที่แม่ซื้อให้ ซึ่งพ่อก็ไม่คัดค้านอะไรเพราะว่าตอนนี้เขากำลังจะมีลูกชายคนใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับผมที่จะไม่โดนเพ่งเล็งมาก
ผมก็ยังกลับไปหาแม่บ้างในทุกปิดเทอม ถ้าผมไม่ไปก็จะแม่มาหาผม ผมยิ่งพอใกล้ม.6 ผมไปหาแม่แค่ระยะสั้นๆเพราะต้องกลับมาเรียนพิเศษ แล้วผมกลับโคราชทีไรบ้านข้างๆมีอันต้องไม่อยู่ทุกที

ทุกครั้งที่มาบ้าน ผมต้องชะเง้อมองบ้านข้างๆตลอด

“หนูฝุ่นลืมลูกไปแล้วม้างงง” แม่เอ่ยแซว ใครจะรู้ล่ะว่ามันลืมไปจริงๆ....

ผมสอบคณะสัตวแพทย์ติดตามที่หวัง ชีวิตในรั้วมหาลัยไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ยิ่งเวลาว่างยิ่งไม่ต้องพูดถึงครับ หายากยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทร
ปีสอง ผมกลับบ้านในช่วงหยุดยาว ซึ่งมันเป็นอะไรที่คิดผิดมหันต์ แย่งชาวบ้านเพื่อตั๋วใบเดียวไม่พอ ขึ้นรถไปก็ต้องแย่งอากาศบนรถกับผู้คนอีก...
พอกลับถึงบ้าน ผมก็เจอคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอยืนอยู่หน้าบ้านกับแม่ผม

“ฝุ่น...”

เจ้าของชื่อหันมามอง ผมเผลอกลั้นหายใจไปครู่หนึ่ง

น้องกวาดสายตามองสภาพผมที่เพิ่งไปเบียดอัดผู้คนมา ทั้งเสื้อชุ่มเหงื่อ หน้ามันแผล่บ ผมยาวรกหน้ารกตา(ขี้เกียจตัด) แว่นร่วงมาปลายจมูก ถ้าสายตาน้องมันพูดได้คงถามว่า ไอ้บ้านี่มึงเป็นใครวะ...

ผมไม่ได้เจอน้องมาแปด...หรือเก้าปีแล้วนะ ไม่แปลกที่น้องจะจำไม่ได้
แต่ผมไม่เคยลืมน้อง...

เด็กน้อยที่เอาแต่ตามผมต้อยๆตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว น้องหล่อและสูงขึ้นมาก ความสูงตอนนี้อยู่ราวๆปลายคางผมที่สูง187แล้ว อีกไม่นานน้องคงตามผมทัน

“ขอก่อนตัวครับ” น้องก้มหัวให้ผม ก่อนเดินสวนผมออกไป

กลิ่นกายที่คุ้นจมูกตอนเด็กเปลี่ยนไป กลายเป็นกลิ่นที่ผมไม่คุ้นเคย ผมมองน้องอย่างไม่ละสายตาจนกระทั่งน้องเข้าบ้านไป


“มองขนาดนั้น ให้แม่ไปขอให้ไหม” เสียงแม่ทำให้ผมสะดุ้ง ยกมือลูบหน้าลูบตาแก้เขิน

“ไม่ใช่แม่... คือมัน เอ่อ” ผมพยายามแก้ตัว

“ชอบน้องมันแม่ก็ไม่ว่าหรอก จะรักใครชอบใครก็ขอให้เขาเป็นคนดีก็พอ อย่าให้เหมือนแม่...กับพ่อเรา” ผมพูดเสียงเบา ก่อนหันหลังเดินเข้าบ้าน

“...ได้จริงหรอครับ”

“แม่ว่าศิลป์มันก็คงไม่ว่าอะไรหรอก บ้านนั้นอินดี้จะตายไป รู้ตัวไหมว่าพวกแม่เห็นลูกดูแลฝุ่นมันดีกว่าดูแลแอ๋มอีก”

“แม่ครับ..”

“ความรักมันไปใช่เรื่องแปลกครับลูกชาย” แม่ว่า “พวกแม่ไม่ขวางถ้าลูกจะจีบน้อง แต่ถ้าน้องไม่ชอบลูกมันก็อีกเรื่องนะ”  แม่ยักไหล่ให้

ถึงแม่จะว่าอย่างนั้นก็จริงแต่หลังจากนั้นผมไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้น้องเลยนี่สิ ฝุ่นสอบได้มหาลัยจังหวัดใกล้ๆจึงย้ายไปอยู่นู่นแทน พอผมอยู่ปีสูงขึ้นเลยได้แค่เรียน และเรียนจนไม่ได้ตามน้องมัน



ตอนนี้แอ๋มที่กำลังจะขึ้นปี1 ก็มาสอบติดที่มหาลัยเดียวกับผมจึงย้ายตัวเองมาอยู่คอนโดกันสองพี่น้อง พอผมจบเพื่อนผมก็ชวนไปทำงานที่ฟาร์มบ้านมันผมตอบตกลงไป แม่ที่ไม่อยากให้แอ๋มอยู่คนเดียวเลยขึ้นมาอยู่ที่นี่ด้วย บ้านที่โคราชก็ให้ญาติแม่มาอยู่ชั่วคราว ผมทำงานกับเพื่อนอยู่สองปีกว่า ก่อนตัดสินใจกลับไปอยู่โคราช สมัครเป็นสัตวแพทย์ของโรงบาลสัตว์แถวบ้าน
หลังจากที่ผมกลับบ้านเมื่อปี2 ผมก็ยังไม่ได้เจอน้องสักครั้งเห็นแต่รูปจากเฟสที่ไปขโมยจากแอ๋มมา ได้แต่ส่องไม่ได้กดแอดไปหรอกครับ ไม่กล้า....


“ผมไม่ได้อยู่บ้านนะ ว่าจะไปอยู่คอนโดเพื่อนที่อยู่ใกล้โรงบาลก่อนมันบอกไปให้เฝ้าให้ ไว้แอ๋มเรียนจบแล้วค่อยกลับบ้านด้วยกัน” ผมบอกกับแม่ และคอนโดที่ว่าก็คือที่อยู่ของผมยันปัจจุบัน (เพื่อนมันไปอยู่บ้านเมียแล้ว)
ผมใช้เงินเก็บตลอดสองปีในการทำเลสิคเพราะเบื่อแว่นหนาๆ บังเอิญไปเจอคนรู้จักที่เป็นคนรู้จักของคนรู้จักอีกทีปล่อยบิ๊กไบค์มือสองพอดีเลยขอซื้อต่อเขามา....

ชีวิตผมวนเวียนอยู่ที่ทำงาน หอพัก และร้านบ้านศิลป์ มีไม่กี่ครั้งที่ผมจะไปเจอฝุ่นอยู่ร้าน ไปทีไรก็เจอแต่น้าศิลป์

“โอ๊ย ตาอาร์ตรู้ไหม ตั้งแต่มันเรียนจบนะ มันชอบออกทริปถ่ายรูปกับพ่อมัน บ้านช่องก็ไม่ค่อยอยู่ ฟิล์มก็ไปทำงาน มีแต่น่าอยู่คนเดียวกับสองตัวนั่นแหละ” น้าศิลป์บ่นให้ผมฟัง

 ผมลองถามน้าด้วยคำถามเดียวกับที่เยถามแม่เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งคำตอบที่ได้ก็เหมือนๆกัน

แต่ว่า...

“เออ อาร์ตรู้หรือยังว่าตอนนี้ฝุ่นมีแฟนแล้วนะ”

...รู้สึกเหมือนกับโดนผลักตกจากที่สูง...

ผมไม่รู้ว่าน้องมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ เข้าเฟสน้องก็ดูได้แค่อะไรที่น้องแชร์เป็นสาธารณะ ผมไล่ดูจากรูปที่เพื่อนๆน้องถูกแท็กมาจนเจอรูปที่น้องมันนั่งเบียดชิดกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตา แต่ผมนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน

...คนนี้สินะแฟนสีฝุ่น...




“ไอ้หมอหมาอกหักเป็นด้วยหรอวะ มึงชอบใครกูไม่เห็นรู้เรื่องเลยวะ ห่า” เสียงติณณ์ เจ้าของห้องที่ผมอยู่พูดขึ้น ผมโทรเรียกมันออกมากินเหล้าย้อมใจครับ กินอยู่ห้องมันนี่แหละ

“ทำไมกูต้องป่าวประกาศว่าชอบใครด้วย” ผมยกแก้วที่มีน้ำสีอำพันขึ้นจนหมด

“สาวที่ไหนวะ ถึงตาถั่วไม่เอามึงเนี่ย”

“สาวห่าอะไร” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ แต่ไอ้เจ้าของห้องแม่งเสือกหูดี

“อุ๊ยตาย นี่มึงชอบผู้ชาย?!” ติณณ์สะดิ้ง “มึงคงไม่ได้คิดอะไรกับกูใช่ไหม กูมีเมียแล้วรักเมียคนเดียว” มันไถลไปกอดแฟนมัน ผลคือถูกแฟนมันถีบเข้าลูกชายเต็มๆครับ...

“อูยย ถ้าตินน้อยใช้ไม่ได้แล้วที่รักจะแย่เอานะ” มันนอนกุมเป้า ก่อนจวมดหิ้วหันมาหาผม “อย่าบอกนะว่าคนนี้ที่มึงเคยเล่าตั้งแต่ตอนนู้นนนนนนน”

“เออ”

“สมควรว่ะ มึงไม่รุกเขาสักทีนี่ ถูกหมาคาบไปแดกละ ดูกูสิชอบเขาก็ไปเอาเขา~~~” มันร้องเป็นเพลง ถูกแฟนมันถีบมาทางผม ผมยกแก้วขึ้นอีกครั้ง

“มึงมีโอกาสอยู่นะ”

“หืม”

“ทำให้เขาเลิกกันดิมึง แค่นี้เอง”

“เลว” ไม่ใช่เสียงผมครับ เสียงแฟนมันครับ

“ตินล้อเล่นครับที่รัก ไม่ว่าตินสิ”

ผมนั่งมองน้ำในมือ ทำให้เลิกกันงั้นหรอ...

“เออมึง กูมีอะไรจะบอก” ติณณ์เดินมาใกล้ผมก่อนกระซิบ “ครั้งแรกกับผู้ชาย...มึงจะรู้ว่ามันโคตรแน่— โอ๊ย ที่รักอย่าตีสิครับ!”



เช้าวันจันทร์ ผมหอบสังขารตัวเองขับลูกรักไปทำงาน โชคดีที่ไม่แฮงค์ ตื่นมาห้องสะอาดเอี่ยมไม่รู้ติณณ์กับแฟนมันกลับบ้านกันตอนไหน

“พี่อาร์ตคะ คุณคนเมื่อวานมาอีกแล้วค่ะ” หวาน เพื่อนร่วมงานบอกทันทีเมื่อเห็นผมเดินเข้ามา คือเดือนที่ผ่านมาเนี่ยหวานมันแอบเอารูปผมไปลง#หมอหล่อบอกต่อด้วย เท่านั้นแหละครับสาวๆจจากไหนก็ไม่รู้ก็แห่เอาสัตว์มาให้รักษา แต่มันมีลูกค้าคนนึงพาสัตว์เลี้ยงมานี่บ่อยกว่าชาวบ้าน ทั้งๆอาการก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก ยิ่งอาทิตย์ก่อนยิ่งมาถี่ เอาขนมมาฝากบ้างล่ะ มาทักทายบ้างล่ะ ทุกอย่างเจาะจงมาหาผม...
ใครไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนเล็งผมไว้ก็ตาบอดแล้วล่ะ

“อื้ม เดี๋ยวพี่ดูเอง” ผมพยักหน้ารับเอือมๆ วันนี้จะมาไม้ไหนนะ จริงๆผมปฏิเสธไปแล้ว แต่เธอตื้อไม่เลิก

ผมเข้าไปที่ประจำที่ ก่อนลูกค้าคนนั้นจะเดินเข้ามาในห้อง ผมก้มอ่านประวัติที่หวานเอามาให้พอเป็นพิธี เพราะจากที่ผ่านๆมา นอกจากครั้งแรกหมาที่คุณเธอเอามามันแทบไม่ได้เป็นอะไรเลย...

“คราวนี้น้องเป็นอะไรมาครับคุณฝน” ผมถาม เงยหน้ามองคู่สนทนาก่อนจะเบิกตากว้าง

ผู้หญิงคนที่อยู่ในรูปกับน้อง...

ผมนิ่งไปจนคนตรงข้ามสังเกต จงใจขยับมาใกล้ผมก่อนโบกมือไปมา

“หมอคะ หมอ” เสียงใสๆดังขึ้น ดึงให้ผมหลุดจากภวังค์

“ครับ น้องเป็นอะไรมาอีกเอ่ย” ผมปรับสีหน้าก่อนถาม

“ดุ๊กดิ๊กไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ฝนแค่หาข้ออ้างมาเจอหมอแค่นั้น” ฝนยิ้มหวานให้ ผมได้แต่ยกยิ้มมุมปากให้

“มาหาผมแบบนี้แล้วแฟนคุณไม่ว่าหรอครับ” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแค่แวบนึง

“แฟนอะไรกันคะ ฝนโสดค่ะ”

“ไม่น่าเชื่อนะครับว่าคนสวยแบบคุณจะยังโสด” สวยแต่รูปจูบไม่หอมนะ...

เธอหัวเราะอกมาเบาๆ ดูยังไงก็เสแสร้ง ท่าทางจะได้ทำแบบที่ติณณ์บอก

ทำให้เลิกกัน...

“ไหนๆก็มาแล้ว ขอผมตรวจน้องหน่อยนะครับ” ผมให้ความสนใจกับตัวสี่ขามากกว่าคนตรงหน้า เอื้อมมือไปอุ้มเจ้าหมามาดู

“ถ้าน้องไม่ได้เป็นอะไรก็ไม่ต้องมาหาหมอนะครับ เสียเวลาคุณเปล่าๆ” ฝนชักสีหน้าเมื่อได้ยินผมพูด

เธอเดินเข้าประชิดผม ก่อนกระซิบข้างหูผม “ถ้ากับหมอ...ฝนไม่เสียเวลาหรอกค่ะ”

อือหือ...แม่ได้สอนไหมว่าเป็นผู้หญิงให้รักนวลสงวนตัว



หลังจากนั้นผมขอแลกตารางงานกับเพื่อนจากช่วงเช้าเป็นช่วงดึก ทุกครั้งที่ผมเข้างานหวานก็จะมาบอกว่าเธอแวะมาหาผมตลอด คราวนี้มาทุกวันเลย

“พี่อย่าเอาผู้หญิงแบบนี้ทำเมียนะพี่” หวานบอกกับผมอย่างนั้น




23:52

ผมอยู่เวรดึกจนใกล้เวลาปิดร้าน มองนาฬิกาว่าเกือบๆเที่ยงคืนอาการง่วงก็เข้าแทรกทันที เมื่อเห็นว่าคงไม่มีใครมาแล้วก็จัดการล็อกประตูร้าน เช็คสัตว์ที่ต้องนอนดูอาการก่อนไล่ปิดไฟข้างใน

ปังๆๆๆๆ

“คุณหมอครับ! คุณหมออออออ”
“คุณหม๊อออออออ” ผมได้ยินเสียงคนตะโกนแหกปากจากหน้าร้าน ผมจึงชะโงกหน้าออกไปดู

ใครแม่งมาตอนนี้วะคนยิ่งง่วงๆอยู่อยากปิดร้านไปซุกที่นอนนิ่มๆ ผมเบ้หน้าลงก่อนเดินไปเปิดประตู

“มีอะไรครับคุ--”
“หมอครับ! ผมเจอไอ้ตัวนี่ถูกทิ้งนอนอยู่ตรงถังขยะหน้าบ้านผม ผมลองเอาขนมปังให้มันกินแต่มันไม่กินแถมไม่ขยับตัว เอาแต่ครางหงิงๆอยู่นั่นแหละ ผมว่ามันแปลกๆเลยลองอุ้มมันขึ้นมาดู คุณหมอรู้ไหมว่าผมเจอรอยกรีดยาวถึงสะโพก คนทำแม่งโคตรใจร้าย! พอเห็นอย่างนั้นผมเลยแบกมันวิ่งจากต้นซอยเข้ามาหาคุณหมอเลยเนี่ย นี่ไงๆหมอดูดิ” คนตรงหน้าพูดรัวจนผมจับใจความได้แค่ว่ามีหมาโดนกรีดหลัง

“เอ่อ.. ” ผมมองนาฬิกาสลับกันคนตรงหน้า ก่อนถอนหายใจออกมาแรงๆ  “พาน้องเข้ามาก่อนครับ เดี๋ยวขอผมเปิดไฟสักครู่”

“ตอนนี้เหลือผมเป็นเวรคนสุดท้าย รบกวนคุณกรอกข้อมูลของน้องเองได้ไหม? เดี๋ยวผมจะเอาน้องไปดูอาการข้างในก่อน” ผมรับกล่องนั้นมาก่อนพามันไปดูอาการ

ออกมาอีกทีคนๆนั้นนอนคอหักคอห้อยอยู่ตรงเก้าอี้ ปลุกก็ไม่ตื่นจนผมถือวิสาสะตบแก้มเบาๆหวังให้รู้สึกตัว

ที่ไหนได้มาคลอเคลียมือผมซะงั้น คนอะไรยังกับแมว


“คุณ สุนัขที่คุณพามาน่ะผมรักษาให้แล้วนะ แต่ต้องอยู่ที่นี่ดูอาการก่อน”  มันสะดุ้งโหยง สะบัดหัวไปมาเผื่อให้ตัวเองตื่น
ผมไล่ให้เขากลับบ้าน ผมจะได้ไปนอนซะที..

หมับ!

ชายเสื้อผมถูกดึงโดยมือผู้ชายคนนั้น

...ภาพทับซ้อนกับมือเล็กๆของเด็กชายมะเขือเทศในอดีต...

ไม่นะ...ไม่น่าใช่...

“หืม? มีไรครับคุณ ค่าใช้จ่ายค่อยมาพรุ่--”

 “ผมนอนเฝ้ามันได้ไหม”

“ห๊ะ????”

“แฮะๆ คืนนี้ผมนอนเฝ้ามันได้ไหมอ่ะ” คนนั้นชี้ไม้ชื่อมือไปที่ห้องพักสัตว์

“คุณฟังผมนะ นี่โรงพยาบาลสัตว์ไม่ใช่โรงพยาบาลคนที่จะเปิดห้องพิเศษแล้วจะนอนด้วยกันได้นะครับ”

“คือว่า..ผมเข้าบ้านไม่ได้อ่ะ จะไปบ้านเพื่อนก็ไม่มีคนสนใจ นะๆให้ผมค้างนี่นะ” ชายเสื้อผมโดนกระตุกรัว ผมก้มมองนาฬิกาและถอนหายใจออกมา กูง่วงครับคุณ

“บ้านคุณอยู่ไหน?”

“ตรงร้านกาแฟต้นซอยครับ” ผมชะงักเมื่อได้รับคำตอบ

“ร้านกาแฟนี่ใช่ร้านบ้านศิลป์? ที่เจ้าของชื่อน้าศิลป์? งั้นคุณก็ลูกชายคุณน้า??” ผมถาม คนตรงหน้าพยักหน้ารัวๆ

ผมรีบพิจารณาคนตรงหน้าทันที เห็นภาพทับซ้อนระหว่างเด็กน้อยในอดีต กับ คนตรงหน้า

...สีฝุ่น...

ผมเอามือลูบหน้าเพื่อซ่อนรอยยิ้ม ก่อนที่จะบอกว่า...

“งั้นคืนนี้คุณไปนอนกับผมก่อนแล้วกัน ยังไงน้าศิลป์ก็คนรู้จัก” ผมเดินออกห่างน้อง เพื่อซ่อนรอยยิ้มบนหน้า

คุณเอ๊ย สีฝุ่นตัวเป็นๆอยู่ตรงหน้าผม!!!

“ห๊ะ คุณว่าไงนะ!” น้องลุกตามผม

“ผมบอกว่าให้คุณมานอนห้องผมก่อน ยังไงผมไม่ให้คุณอยู่นี่หรอก จะไปกับผมหรือจะนอนหน้าร้าน? ถ้าไปกับผมก็ตามมานะ” ผมจัดการล็อกประตู รู้ว่าน้องมันไม่ยอมนอนหน้าร้านแน่ๆ ก่อนเดินไปเอาลูกรัก


เหี๊ยเอ๊ย หุบยิ้มไม่ได้!!!


———————————————————————————————————————

น้องซ้อนลูกรักผมมาจนถึงคอนโด จัดการต้อนน้องอาบน้ำหาชุดให้น้องเปลี่ยน ก่อนไปจัดห้องดีๆชุดนี้กูจะไม่ซัก...

ผมบอกให้ฝุ่นไปนอนในห้องก่อนออกมาอาบน้ำ ออกมาอีกทียังเห็นน้องเอกเขนกอยู่บนโซฟา

“ผมนอนนี่ก็ได้ นิ่มพอๆกับที่ฟูกบ้านผมเลย” น้องว่า ผมทำหน้าดุใส่

“มีคนเคยบอกคุณไหมว่าคุณดื้อมากเลยฝุ่น มาคุณ ไปนอนกัน” ผมจัดการลากเด็กดื้อขึ้นเตียงจนได้
 
“เฮ้หมอ รู้ชื่อผมได้ไง?” ชิบหายละอาร์ต

“เอ่อ.. ใช่ๆ ก็ใบประวัติที่คุณกรอกไง คุณเขียนชื่อเล่นลงไป” ผมแถจนแสบสีข้าง มันเขียนชื่อเล่นไปจริงๆหรอวะครับ...
แต่ดูเหมือนน้องจะพอใจในคำตอบ

“ว่าแต่ หมอชื่อไรอ่ะครับ?”

“...ลืมกันจริงๆสินะ...” ผมหันมองน้องก่อนพึมพำออกมา
เหมือนใจโดนบีบ...

“ขอโทษที่แนะนำตัวช้า ผมอินทัชครับ จะเรียกอาร์ตเฉยๆ หรือหมอเหมือนเดิมก็ได้” ผมฝืนยกยิ้มให้น้อง

“ผมสีฝุ่นครับ คิดว่าหมอคงรู้จักผมผ่านแม่แล้วแหละเนอะ แฮะๆ”

“ดึกแล้ว นอนเถอะครับ ตื่นมาผมจะพาไปร้านแล้วจะพาไปส่งบ้าน ผมปิดไฟได้นะ?”  น้องพยักหน้า ผมจึงปิดไฟและล้มตัวลงอีกด้าน

จู่ๆคำพูดไอ้ติณณ์แวบเข้ามาในหัว
ชิบหาย...


ผมหลับตานับแกะพยายามไม่ฟุ้งซ่าน รู้สึกว่าอีกคนพลิกตัวไปมา


“นอนไม่หลับหรอครับ เห็นพลิกตัวไปมา”

“แฮะๆ นิดหน่อยครับสงสัยแปลกที่ ขอโทษที่ทำหมอตื่นนะ”

“ไม่เป็นไรผมยังไม่หลับดี” ผมส่ายหน้าเบาๆ “ให้ผมเปิดไฟตรงหัวเตียงไว้ไหม?” น้องปฏิเสธ

“งั้น... ราตรีสวัสดิ์ครับฝุ่น” ผมเอื้อมมือไปลูบหัวน้อง เหมือนกับตอนเด็กๆ

“ราตรีสวัสดิ์ครับหมอ”

 เรายิ้มให้กันผ่านความมืด




ผมมองคนนอนม้วนกับผ้าห่มเป็นซูชิโรล ขยับตัวไปมาเหมือนหาของซุกจนมาหยุดที่อกผม

หมับ!

น้องยกมือมาลูกอก ผมหลับตาลงทันที แอบรี่ตามองเห็นหน้าลนลานเพราะขยับตัวไม่ได้ คนอะไรโคตรน่าแกล้ง

“หมอครับ”  ผมนิ่ง

“หมอออออ”
 
“หม๊อออออออออออออ” ผมลองขยับตัวแต่ยังไม่ลืนตา น้องเรียกผมอีกครั้ง

“หมอตื่นก่อน ผมจะไปอาบน้ำ”

“หนวกหู คนจะนอน” แกล้งพูด ก่อนกวาดแขนออกไปกอดแยมโรลผ้าห่ม ซุกหน้าลงกับกลุ่มผมนิ่ม

ฟื้ดดดดดดด ชื่นใจจจจจจ

ยิ่งผมกอดแน่น น้องก็ยิ่งดิ้น ด้วยความหมั่นไส้ผมเลยยกขาล็อกตัวไปด้วย ดูสิจะทำยังไง

“หมออออออออออ ตื่นนนนนนนนนนนนนนนนนน” ผมทำหูทวนลม จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

ผมแสร้งทำหงุดหงิดกับเสียงนั่น เอื้อมหยิบและกดรับสาย ปรือตามองน้องที่นอนฟังบทสนทนา

“อ่าฮะ ก็บอกเจ้าของมันแล้.........” ผมเงียบเมื่อน้องหยุดดิ้น ทำท่าคิดแล้วลืมตาขึ้นทันที “เดี๋ยวพี่โทรกลับ แค่นี้ก่อน!”

ภาพผมสะท้อนในตาน้องยังกับclose-up ผมกับน้องระยะตอนนี้โคตรอันตราย...ต่ออะไรบางอย่างที่ผู้ชายสุขภาพดีเป็นกันตอนเช้า
 
“เอ่อ... ปล่อยผมได้ยังหมอ”

สิ้นเสียงน้องผมก็รีบผละออก ก่อนที่อะไรๆมันจะไปโดนน้อง

“อ่า พี่ อืมมม เอ่อคือผม...โทษทีผมคิดว่าเป็นหมอนข้าง” ผมลูบหน้า น้องรีบออกจากห้องทันที โอ๊ย อาร์ตน้อยนอนลงไปสิลูกพ่อ



ผมไปส่งน้องกลับบ้านแบบมัดมือชก ผมเข้าร้านทันพอที่ได้ยินที่น้าศรคุยกับฝุ่น น้าศรพูดถึงคนชื่อฝน
...ดูจากสีหน้าน้องไม่น่าใช่เรื่องดี...


น้าศิลป์กลับมาพอดี น้าแกทักทายผมตามปกติ สงสัยยังไม่เห็นสีฝุ่น
 
“อีกอย่าง... ผมต้องมาส่งเด็กด้วยครับ” ผมดึงน้องออกมา น้าทำหน้าตกใจ

“อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนสีฝุ่นไปนอนกับอาร์ตน่ะ” ผมพยักหน้ารับ “แล้วนี่ไปเจอกันยังไง??” แต่ก่อนที่จะได้ตอบ น้าศรก็เอาเครื่องดื่มมาให้พอดี ผมเลยขอตัวออกมา

ไม่นานน้าศิลป์ก็โทรมาหาผม

“ฝุ่นเลิกกับแฟนมันแล้วนะ” ผมถือโทรศัพท์ค้าง นี่เรื่องจริงใช่ไหม??

“อาร์ตฟังน้านะ พวกน้าไม่ว่านะถ้าอาร์ตจะจีบไอ้ฝุ่นมัน แต่ขอแค่ให้ฝุ่นมันมีความสุขก็พอ” ผมยิ้มกว้างเอ่ยตอบรับก่อนกดวางสายไป



ไม่กี่วันถัดมาเพื่อนร่วมงานผมขอแลกเวรทำให้ผมต้องมาอยู่กะเช้าอย่างช่วยไม่ได้  ทำให้ผมเจอผู้หญิงที่ผมหนีหน้ามาหลายวันจนได้ คุณเธอเข้ามาหาผมอย่างหน้าชื่นตาบานกว่าตอนนั้น แหงดิเลิกกับน้องแล้วนี่หว่า
“หมอคะ พักเที่ยงเราไปทานข้าวกันไหมคะ” เธอกรีดนิ้วลงกับต้นแขนผมเบาๆ

“ไม่ว่างครับ”

“น่าหมอ แปปเดียวเอง”

“ไม่ครับ”

”นะหมอ”  ผมถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างกับเธอ

“คุณฝน คุณฟังที่ผมพูดนะ” เธอพยักหน้ายิ้มแย้ม “ผมมีคนที่ชอบอยู่ครับ”

“แล้วไงคะ? ก็แค่ชอบ”

“...คนที่ผมชอบ คุณก็รู้จัก”

“.....”

“สีฝุ่นไง”

หน้ายิ้มแย้มเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด  ตากลมนั่นจ้องผมเขม็ง ผมมองกลับด้วยสายตาจริงจัง

“เฮอะ”

“.....”

“ผู้ชายอย่างฝุ่นมันมีดีตรงไหน” เธอแสยะยิ้ม ผมนิ่งทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูดต่อ “ผู้ชายกับผู้ชายอย่างนั้นหรอ จะไปกันได้สักกี่น้ำเชียว คนอย่างหมออยู่เฉยๆก็มีผู้หญิงเสนอตัวให้ทำไมถึงไม่สนใจกันคะ” เล็บสีสวยกรีดลงบนต้นแขนผมอีกครั้ง

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็เชิญครับ ลูกค้าคนอื่นรอผมอยู่” ผมเบี่ยงตัวหนี ผายมือไปทางประตู

“ฉันไม่หยุดแค่นี้หรอกคุณอาร์ต ไว้เจอกัน”

ผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว...

หวังว่าหล่อนคงไม่ไปทำอะไรสีฝุ่นนะ



ใครจะไปรู้ว่าถัดไปไม่กี่วัน ฝุ่นกับแอ๋มจะบังเอิญไปเจอเธอที่ห้างอย่างนั้น...


Tbc.


———————————————————————————————————————
กลิ่นกาวพิเศษ

แม่ศิลป์ : อาร์ตลูก ปอมที่ฝุ่นเก็บมาแม่อยากตั้งชื่อใหม่ให้น่ะ ช่วยแม่คิดหน่อย
แม่เล็ก : พู่กันดีไหม? มีสีแล้วยังไม่มีพู่กันเลย
อาร์ต : เฟรมไหมแม่? ไม่มีพู่กันยังวาดรูปได้
แอ๋ม : หมาของพี่ฝุ่นกับพี่อาร์ตใช่ไหม
ฟิล์ม : ตัวที่แม่ส่งให้หนูดูป่ะ ไอ้ตัวน้ำตาลๆ?
อาร์ต : อื้อ
แอ๋ม : ชื่อไรดีอ่ะ นึกไม่ออก
ฟิล์ม : งั้นชื่ออุ่น อาร์ตกับฝุ่นรวมกันเป็นไออุ่น ไง
แอ๋ม : แอ๋มชอบๆ
แม่ศิลป์ : แม่ก็ชอบชื่อนี้ เดี๋ยวแม่ไปบอกฝุ่นก่อนนะ หุๆ
อาร์ต : ฟิล์มอยากได้อะไรบอกพี่เลยครับ พี่พร้อมซื้อให้ทุกอย่างเลย
อาร์ต : โดนใจชื่อนี้
แอ๋ม : หนูล่ะ!!หนูน้องพี่นะ! !

จบเถอะ
———————————————————————————————————————


สรุปว่าที่ฝนเจอฝุ่นกับแอ๋มที่ห้าง ที่คุณเธอมองไม่ใช้หวงนะคะ นางมองฝุ่นแบบผู้ชายคนนี้มีอะไรดีพอที่ให้หมอมาชอบค่ะ
ตอนนี้ยาวเป็นพิเศษเพราะเอาตอนเก่าๆมาใส่ด้วยค่ะ นี่เรียงไทม์ไลน์เวลาสนุกสนาน ว่าแต่ว่า8ตอนผ่านไปคุณกล้องฟิล์มก็ยังคงไร้บทนะคะ...
ตอนหน้าพอกลับโคราชแล้วคุณหมอก็จะเดินหน้าจีบหนูฝุ่นเต็มที่ค่ะ แล้วก็จะมีดราม่าพอหอมปากหอมคอ(หรอ...)หน่อย ละมุนมากไปไม่ใช่แนวเรา ฮุๆๆ
ไหนใครว่าพี่หมอรวยคะ นั่นก็คอนโดเพื่อน นั่นก็รถมือสอง----
พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ คือบทให้หนูฝุ่นแล้วนะ 555555

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
ปล. อิอาร์ตมันร้ายยยยย 55555555555555

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2017 00:52:33 โดย miinta »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
«ตอบ #49 เมื่อ06-09-2017 22:02:11 »

ฝนพิษ จริงๆ
ที่แท้ชอบหมออาร์ต เลยขอเลิกกับฝุ่น

พอรู้ว่าอาร์ต ชอบฝุ่น ยังมีหน้าว่าแค่ชอบ
ผู้ชายกับผู้ชายอย่างนั้นหรอ จะไปกันได้สักกี่น้ำเชียว
หมออยู่เฉยๆก็มีผู้หญิงเสนอตัวให้ทำไมถึงไม่สนใจ หน้าด้านมากๆ

ฝนพิษ เลว ตั้งแต่เจอฝุ่นกับแอ๋มแล้ว
ไม่แน่ไปหาเรื่องฝุ่นอีกเพราะจะจีบหมอ  :m16: :m16: :m16:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
« ตอบ #49 เมื่อ: 06-09-2017 22:02:11 »





ออฟไลน์ Thanaphon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
«ตอบ #50 เมื่อ06-09-2017 22:03:16 »

 :- :o8: :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
«ตอบ #51 เมื่อ06-09-2017 23:46:20 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
«ตอบ #52 เมื่อ07-09-2017 13:31:43 »

โห ผู้สนับสนุนพี่หมอเยอะขนาดนี้ มิน่าถึงมีโอกาสได้ทำคะแนนกับน้องลิ่ว ๆ
แล้วพี่ฟิล์มนี่เอง เบื้องหลังชื่อหนูไออุ่น แหม ขนาดตัวไม่อยู่นะเนี่ย 555
แต่พี่อาร์ตนี่ก็นะ ชอบน้องก็ยังปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปได้ตั้งนาน
จนสีฝุ่นมีแฟน นี่ถ้าสีฝุ่นไม่โดนทิ้ง พี่หมอคงไม่ได้เริ่มทำอะไรสิเนี่ย
ส่วนยัยฝน  เป็นผู้หญิงที่นิสัยเหลือรับ น้องฝุ่นไปเอามาเป็นแฟนได้ไง สงสัยมาก
ไปตามตื้อ เสนอตัวให้ผู้ชายถึงที่ ทั้งที่โดนปฏิเสธแล้ว ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว หน้าไม่อาย
พอเลิกกับแฟน ก็ยังมาพูดจาดูถูกแฟนเก่าตัวเองอีก น่าเกลียดมาก
ถ้าจะมีข้อดี ก็คงมีแค่ที่บอกเลิกสีฝุ่นเนี่ยแหละ ไม่งั้นพี่หมอเราคงไม่ได้เริ่ม
พี่อาร์ต ได้ใจเรามาก ตอนแรกแอบกลัว ว่าพี่จะทำตามที่เพื่อนแนะ
ที่จะทำให้ฝุ่นเลิกกับแฟน แบบนั้นมันไม่ดีเลย ดีที่พี่หมอไม่ทำ
แถมยังบอกยัยฝนชัดเจนด้วย ว่าชอบใครอยู่ รู้สึกสะใจมาก 555
แต่ยัยฝนนี่ ต้องกลับมาหาเรื่องอีกแน่ ๆ แต่แบบไหนแค่นั้นแหละ เฮ้อ
หวังว่าพี่อาร์ตจะรับมือได้ อย่าให้ยัยมารร้ายมาทำอะไรสีฝุ่นนะ
ดราม่า อย่าเยอะน้า เราไม่ถูกกับดราม่าเลย ไม่อยากเสียน้ำตา ฮือออ  :monkeysad:
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-09-2017 21:28:04 โดย TIKA_n »

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
«ตอบ #53 เมื่อ07-09-2017 22:31:53 »

 :katai3: :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
«ตอบ #54 เมื่อ09-09-2017 10:51:03 »

น่ารักกก

ออฟไลน์ мıınta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
    • TW
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「9」09|09|60 P.2
«ตอบ #55 เมื่อ09-09-2017 21:27:36 »

• 9 •


คืนพื้นที่ให้สีฝุ่น


วันนี้ผมตื่นไวกว่าปกติเพราะรู้สึกอึดอัดเหมือนโดนรัดตัว ลืมตาได้ก็เห็นท่อนแขนของผู้ร่วมห้องอีกคนพาดเอวผมอยู่ ท่านอนตอนนี้คือเราหันหน้าหากัน

“หมอ...” ผมลองเรียก ไม่กล้าขยับเพราะกลัวทำเขาตื่นนาฬิกาตอนนี้ยังไม่หกโมงเช้าดี ผมคิดว่าหมอควรพักเยอะๆ จะได้มีแรงขับรถให้ผมนั่ง (ขี้เกียจหรอลูก..)

นอนมองคนตรงหน้าที่หลับสนิท ผมของหมอยาวจนปรกหน้าปรกตาหมด ผมเอื้อมมือไปเกลี่ยผมออกจากหน้าหมอเบาๆ เผยให้เห็นโครงหน้าคมตามแบบฉบับชายไทยที่หนวดกำลังเริ่มขึ้นเป็นตอ โอเค-ผมยอมรับว่าผมลืมคนๆนี้ไปแล้วจริงๆ ก็ครั้งสุดท้ายที่ผมเจอก็ตอนน่าจะตอนป.2นู่น คิดดูดิว่าผ่านมากี่ปีแล้วใครจะไปจำได้ แล้วแอ๋มดันเรียกพี่มันว่าอาร์มอีก ใครจะรู้ว่าจริงๆคือชื่ออาร์ตกัน โถ่

พี่ชายข้างบ้านที่ใจดี คอยมาเล่น มาปลอบ มาดูแลตลอด

แล้วไหนจะคำพูดนั่น...

‘งั้นพี่จะมาทุกปิดเทอมนะ โอเคไหม’

แต่แล้วก็ไม่เคยมา...

พี่ชายใจดีคนนั้น กับหมอคนที่นอนอยู่ข้างผมตอนนี้คือคนๆเดียวกันสินะ

เผลอยิ้มออกมา ขยับมือไล้ตามโครงหน้าได้รูปเบาๆ

“พี่อาร์ต...” ผมเรียกเบาๆ กล้าเรียกเพราะเห็นว่าเขาหลับอยู่ ยังไงก็ไม่ได้ยิน~

ผมกำลังจะพลิกตัวนอนหงาย จังหวะเดียวกับที่เสียงทุ้มติดงัวเงียจะดังขึ้น

“ว่าไงครับ” อ้อมแขนกระชับตัวผมแน่นขึ้น “เรียกพี่ทำไมครับ”

เชี่ย ได้ยินด้วยหรอวะ หมอตื่นตั้งแต่เมื่อไร???

“ใครเรียกหมอกัน ตื่นแล้วก็เอามือออกไป” ผมตีแขนหมอรัวๆ แต่หมอกลับดึงผมให้ชิดกว่าเดิม จนหน้าผมแทบจะชิดกับหมอ

“พี่ได้ยินนะ เรียกอีกสิพี่ชอบ” หมอกดจมูกลงกับขมับผม ได้ยินเสียงสูดเบาๆ มือข้างที่กอดผมอยู่ก็ค่อยๆลูบขึ้นตามแนวสันหลัง

“หมออย่าเนียน ปล่อย!!” ผมดิ้นจนหมอยอมปล่อยมือ ลุกขึ้นมองคนตัวโตที่นอนอยู่ “ผม...ผมจะไปอาบน้ำ หมอนอนต่อก็ได้เดี๋ยวมาปลุก”

“ฝุ่น...” หมอลุกนั่งกับเตียงแล้วคว้ามือผม ก่อนเรียกชื่อผมออกมา

“ครับ?”

“แทนตัวเองว่า ฝุ่น เหมือนตอนเด็กๆได้ไหม” ผมนิ่ง

หมอขยับมาใกล้และ...กดจูบลงที่หลังมือผม...

“ได้ไหมครับ”

คนตัวโตเงยหน้าสบตาผม เอ่ยคำขอด้วยเสียงทุ้มติดอ้อน...

ผมเม้มปากแน่นด้วยความประหม่า รู้สึกถึงความร้อนที่กองขึ้นมาที่หน้า

“ผม..ผมไปอาบน้ำก่อนนะ!!!”

ดึงมือออกจากมือใหญ่ที่เกาะกุมไว้ ก่อนเอาตัวรอดด้วยการวิ่งหนีเข้าห้องน้ำ

อย่าเต้นแรงนักสิ...หัวใจ



พวกเราออกจากที่นั่นเมื่อทานมื้อเช้าเสร็จ ขับเลาะไปทางเส้นวังน้ำเขียว ตลอดทางมีที่ให้แอ๋มงอแงหยุดลงถ่ายรูปตลอดเวลา ตากล้องก็ไม่ใช่คนไกลครับ...ผมไง ขับมาถึงเขาแผงม้าก็เจอร้านกาแฟที่คนนิยมกันมา มีให้อาหารแกะด้วย

“พี่ดูดิๆ น่ารักกกก” แอ๋มชี้ลูกแกะที่เดินอยู่นอกคอก “ป้อนอาหารมันกัน” ว่าแล้วก็วิ่งไปซื้อผักสำหรับป้อนแกะมาแจกพวกผมทันที

ผมจ้องตากลมๆของแกะตัวตรงหน้า ฝากพ่อถือกล้องไว้

“แบะ แบะ” มันยืนเกาะคอกทันทีที่เห็นคนถืออาหารมาให้ ยื่นไปก้านนึงมันก็เคี้ยวทันที

“โอ๊ะ เฮ้ยยยยยย!!” ผมรู้สึกว่าผักในมือถูกดึง พอหันไปก็เห็นแกะสีน้ำตาลตัวใหญ่กำลังเขี้ยวผักในมือผมอยู่!!

“หยุด เฮ้ยหยุ๊ดดดดด” ผมยกผักหนี ไอ้ตัวที่อยู่นอกคอกแม่งพากันกรูมาที่ผม “ออกป๊ายยย”

“แม่จ๋า ดูไอ้ฝุ่นมันดิโดนแกะรุมแล้วนั่น” เสียงพ่อหัวเราะลั่น เห็นกำลังเล็งกล้องมาทางนี้...

“พ่ออย่าถ่าย!! แว๊กกกกกก” ตอมผมหันไปหาพ่อ มีแกะตัวนึง...มันยกขาหน้าถีบเข้าสะโพกผมอย่างแรง! ส่งผลให้ผมหน้าคว่ำลงไปทันที

“ฝุ่น!” “พี่ฝุ่น!!” เสียงสองพี่น้องนั่นเรียกชื่อผมพร้อมกัน ผมลุกขึ้นนั่งทันทีเพราะกลัวพวกมันเดินมาเหยียบซ้ำ ผักยังอยู่ในมือผมไง

“พี่ฝุ่นเป็นอะไรมากไหม เจ็บตรงไหนรึเปล่า” แอ๋มเข้ามาถามอย่างร้อนรน แม่กับป้าเล็กก็เข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง พนักงานที่ดูแลแกะก็เข้ามาสอบถามและเอ่ยขอโทษ

“ไม่เป็นครับ แค่ตกใจเฉย” ผมตอบ รู้สึกแสบที่ฝ่ามือขึ้นมานิดๆแต่ไม่แสดงออกไป

“ดีแล้วที่ไม่เป็นไร” ป้าเล็กถอนหายใจออกมา ผมลุกยืนเต็มความสูง ซ่อนฝ่ามือที่เจ็บไว้ด้านหลัง

“งั้นกลับกันเลยดีกว่า” แม่ว่า “ตรงกลับบ้านเลยนะลูก”

“ครับ”

“ฝุ่น” พ่อเรียก ก่อนยื่นกล้องคืน “พ่อถ่ายตอนฝุ่นโดนถีบได้พอดีเลย”

“พ๊อออออออ!”

ผมให้ทุกคนเดินนำไปก่อน ผมลอบถอนหายใจก่อนที่มือของในบางคนจะกำข้อมือผม ยกฝ่ามือที่เจ็บขึ้นไปสำรวจแผล ช่วงฝ่ามือและสันมือถลอกเป็นรอยกว้างจนเลือดออก

“เจ็บทำไมไม่บอก”

“.....”

“เด็กดื้อ”

“.....”

ผมเม้มปากแน่น เดินตามแรงดึงของอีกคนที่ดึงผมมาถึงห้องน้ำ หมอจับผมล้างมือเอาเศษดินเศษหญ้าออกจากแผล

“ที่รถมีชุดทำแผล เดี๋ยวพี่ทำให้”

น้ำเสียงที่หมอพูดกับผมตอนนี้มันนิ่งมาก...

“ครับ...”

หมอจูงผมจนมาถึงรถ เดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลออกมาทำให้ผม ตั้งแต่เดินมาหมอยังไม่พูดกับผมสักคำเลย

กึก

กล่องพยาบาลถูกปิดลง ผมมองมือที่ถูกปิดด้วยผ้าพันแผลก่อนเอ่ยขึ้น

“ขอโทษครับ”

“หืม?”

“หมอ..โกรธผมหรอ”

“เปล่า” หมอส่ายหน้า “ไม่ได้โกรธ พี่แค่คิดว่าทำไมฝุ่นเจ็บแล้วไม่บอกพี่หรือใคร ถ้าพี่ไม่สังเกตว่าเราซ่อนมือตลอด ตอนรับกล้องจากลุงกรก็ใช้มืออีกข้างแทนพี่ก็ไม่รู้ว่าเรามีแผล ทำไมไม่บอกพี่ครับ? หรือพี่พึ่งพาไม่ได้กัน?”

“ไม่ใช่อย่างนั้น...”

“.....”

“ผม...ฝุ่นขอโทษ”

“อื้อ ไม่เป็นไรมากก็ดีแล้ว” หมอหันมายิ้มให้ผม ก่อนหันไปมองถนนเหมือนเดิม

“แล้วก็..”

“.....”

“ขอบคุณครับ พี่อาร์ต”

ผมพูดเสียงเบา หันหน้าหนีมองวิว โดยไม่รู้ว่าอีกคนยิ้มกว้างแค่ไหน

———————————————————————————————————————

หลังจากกลับมาจากวังน้ำเขียว ผมก็กลับมาสู่ชีวิตปกติสุขอยู่ได้ไม่นาน....

วันอาทิตย์
   “ฝุ่นชอบสีเทาไหม”
   “ก็ชอบนะ”
   “ก็ดี เทาจะได้มีแต่เรอ เธอจะได้มีแต่เรา”
   “...........”

วันจันทร์
   “ฝุ่นครับพี่ให้ ลูกโป่งใบนี้สำคัญมากนะ” ผมเปิดประตูห้องไปเจอหมอที่ยื่นลูกโป่งลูกใหญ่มาให้
   “ฮะ?”
“ก็มันมีลมหายใจของพี่อยู่ไง”
“.......................”

วันอังคาร
   “ฝุ่นครับ มีโอป่ะ?”
   “ไม่อ่ะ ไม่ได้เลี้ยงแมวจะได้มีแมวต้องมีโอ”
   “เปล่าครับ มีโอ...กาสที่เราจะได้รักกัน”
   “......................”

วันพุธ
   “หมอเป็นรึอะไรป่าว?” วันนี้ผมอยู่ร้านครับ เห็นหมอทำหน้าเหนื่อยมาแต่ไกลจึงเข้าไปถาม   
   “มีเรื่องหนักใจน่ะ” หมอฟุบลงกับโต๊ะ
   “หมอมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ผมพอช่วยได้ไหม?”
   “พี่หนักใจ...เพราะก็ฝุ่นมาวิ่งเล่นในใจพี่ตลอดเลย”
   “เสี่ยวไปไหมลูกกกกกก” เสียงแม่ตะโกนมาจากอีกมุมของร้าน

วันพฤหัส
   วันนี้ประเทศไทยอากาศร้อนจัดจนเหงื่อออกเต็มทั้งๆที่ร้านก็เปิดเครื่องปรับอากาศ
   “ฝุ่นร้อนหรอครับ เหงื่ออกหมดแล้ว”
   “ร้อนดิ หมอไม่ร้อนหรือไงไม่ถอดกาวน์เนี่ย”
   “พี่ไม่ร้อนครับ”
“อื้อ”
“แต่...ถ้าฝุ่นร้อนเดี๋ยวพี่เป็น แฟน ให้นะ”
   “...มาทางไหนไปทางนั้นเลยครับ”

วันศุกร์
   วันนี้หมอมาซะเย็น ดูสิจะมาไม้ไหน   
   “ฝุ่น พี่ขอข้าวหน่อย”  เหะ วันนี้มาปกติ?
   “หมอกินอะไรครับ ผมจะสั่งร้านข้างๆพอดี”
   “พี่ขอข้าว....” หมอเว้นช่วงยาว “พี่ขอเข้าไปในหัวใจฝุ่นหน่อยครับ”
   “........................................................”



นั่นแหละครับ ตั้งแต่กลับมาผมก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีหมอมาแจกมุกเสี่ยวทุกวัน อยากรู้ว่าสัตวแพทย์ร้านนี้มันว่างขนาดเดินมากวนตีนกับชาวบ้านได้หรอ...

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่หมอหยุด ผมคิดว่าหมอคงไม่สละเวลานอนมากวนผมหรอก

แต่ที่ไหนได้...

“ฝุ่นครับ ไปเที่ยวกับพี่กัน” ลงจากห้องด้วยสภาพชุดนอนมาก็เจอหมอยืนยิ้มแป้นให้ผม

“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ” ผมหาววอด อยากนอนต่อแต่กระเพาะประท้วงด้วยความหิวเลยต้องลงมา

“ไปดูหนังกัน”

“ไม่ว่าง แม่ให้เฝ้าร้านให้”

“น้าศิลป์บอกพี่ว่าวันนี้ฝุ่นไม่ต้องไป”

“......”

“น่า ไปดูหนังกัน อยากกินอะไรอยากได้อะไรพี่เลี้ยงเอง”

“จริงป่ะหมอ” ผมหูผึ่ง ของฟรีนี่ชอบ

“จริงครับ”

“งั้นไป!”

“แต่ฝุ่นต้องเรียนพี่ว่าพี่ แล้วต้องแทนตัวเองว่าฝุ่นด้วยนะ” หมอยื่นข้อแลกเปลี่ยน ยกยิ้มมุมปากขึ้น

“.....”

“อ่า พี่คงขอมากไปสินะ ถือว่าพี่ไม่ได้พูดแล้วกัน” หมอยิ้มจาง “ถ้าจะไปก็โทรบอกพี่นะ วันนี้พี่อยู่บ้าน”

ผมมองแผ่นหลังหมอที่ค่อยๆห่างออกไป

“พี่อาร์ต!” ผมกลั้นใจตะโกนเรียก “เดี๋ยวไปด้วย รอนี่แหละอาบน้ำแปป!”

ผมพูดรัวก่อนวิ่งกลับเข้าห้อง


เรียกพี่อาร์ตก็ไม่ได้แย่เท่าไร

ถ้าไม่ติดที่กูเขินอ่ะนะ...
   
———————————————————————————————————————

หมอ.... ไม่สิ พี่อาร์ตพาผมมาห้างใหม่ของโคราช ผู้ชายข้างๆผมยิ้มเผื่อแผ่สาวน้อยหนุ่มน้อยตั้งแต่ลานจอดรถยันหน้าโรงหนังจนผมเบ้ปากใส่ ผมยื่นมองรายชื่อหนังเข้าใหม่แต่ไม่ทันที่จะได้เลือกเรื่อง พี่อาร์ตก็ยัดแบงค์ม่วงๆใส่มือผมให้ไปซื้อป๊อปคอร์น ส่วนเจ้าตัวเดินไปซื้อตั๋ว

ผมจะไม่โวยวายเลยถ้าหนังที่หมอเลือกไม่ใช่หนังผี และเก้าอี้โซฟาคู่...

“หมอก็รู้ว่าผมไม่ดูหนังผี!!” ผมโวยวาย

“พี่อาร์ตสิ”

“....พี่อาร์ตครับ พี่ก็รู้ว่าผมไม่ดูหนังผี” ผมกัดฟันพูดแต่อีกคนกลับยิ้มแป้น

“พี่รู้ไง ถึงเลือกโซฟาคู่เวลาฝุ่นกลัวจะได้ซบพี่ได้ ไปๆได้เวลาเข้าโรงแล้ว”

“ไม่ป๊ายยยยยยยยยยย”

ไม่รอดแรงดึงของพี่แก ถูกลากเข้าโรงจนได้...


“แว๊กกกกกกก”
“ฮื่อออออออ ฝุ่นไม่ดูแล้ว”
“อ๊ากกกกกกกกกกกก”
“เหี้ย!!!”
“พี่อาร์ตตต ไม่แกล้งดิเอาเสื้อมา!! อ๊ากกกกกกกก”
“ฮรื่อออ ไม่ดูแล้วววว”
ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงมีแต่ผมที่โวยวาย และซุกเบียดอีกคนจนแทบจะเกยตักรวมร่างตั้งแต่ต้นเรื่องยันหนังจบ นาทีนี้ไม่สนห่าเหวอะไรละกับไอ้มือที่ลูบเอวลูบสะโพกผมอยู่เนี่ยยยย


“โอ๋ๆ หนังจบแล้วครับคนเก่ง ไม่ร้องๆ” หมอปลอบด้วยท่าทีขำๆ มือลูบหลังผมไปมา ตอนนี้หนังขึ้นเอ็นเครดิตแล้ว คนส่วนใหญ่ก็อออกจากโรงไปแล้ว แต่ผมไม่มีแรงที่จะลุก...ได้แต่ซุกหน้าลงกับอกกว้างของอีกคนนิ่งๆ

“ไหนๆ คนเก่งครับเงยหน้ามองพี่หน่อยครับ” หมอใช้สองมือประคองแก้มให้ผมเงยขึ้นมองตัวเอง

“.....”

“ยิ้มหน่อยครับ”

“.....” ผมเบ้ปากใส่

“จบแล้วครับ ไม่กลัวนะ จุ๊บ”

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ผมเบิกตากว้าง เมื่อริมฝีปากพี่อาร์ต...ประทับลงมาที่ริมฝีปากผมเบาๆ

“ไม่กลัวนะครับคนเก่ง คืนนี้ให้พี่ไปนอนเป็นเพื่อนไหม”

“ไม่ต้อง!!!!!!!!!!”


ผมหนีหมอออกจากโรงหนังด้วยใจที่เต้นแรง สัมผัสที่ริมฝีปากยังคงติดอยู่

อะไรวะไอ้ฝุ่น จูบผู้หญิงไม่เห็นรู้สึกอย่างนี้...

งื้อออออออ หมอหมาบ้า!


ผมออกมายืนรอหมอที่หน้าทางเข้า เมื่อเห็นหมอเดินมาก็รีบเดินนำทันที...กลัวหมอเห็นหน้าแดงๆ

“ทานไรดีเที่ยงนี้ครับ” หมอก้าวยาวๆมาเดินข้างผม

“บาบีก้อน”

“โอเค ไปกัน”



กว่าพวกเราจะกลับถึงบ้านก็ฟ้ามืดแล้ว หมอมาส่งผมถึงหน้าห้องพร้อมบรรดาถุงหลากสีในมือ มีทั้งเสื้อผ้า ของใช้และกันพลาที่จ่ายโดยคนที่ถือมาให้นั่นแหละ

“ขอบคุณที่ไปกับพี่วันนี้นะครับ”

“ฝุ่นต้องขอบคุณพี่สิ ป๋าเปย์ซะขนาดนี้ ถามจริงหมดตัวยัง”

“สำหรับฝุ่น พร้อมเปย์เสมอครับ”

“เหอะๆ”

หมอวางถุงทั้งหลายไว้บนพื้นห้อง ก่อนขอตัวกลับบ้าน

“พี่กลับก่อนนะ” พี่มันยกมือมาวางบนหัวผม ก่อนขยี้เบาๆ “ถ้ากลัวก็โทรหาพี่นะ เดี๋ยวมาหาทันทีเลย” พี่มันพูดพร้อมขยิบตาใส่

“กวนละ กลับไปเลยยยย”

“ครับๆ”

“งั้นก็ราตรีสวัสดิ์ครับ”

“อื้อ ฝันดีครับ”

 “พี่อาร์ต”

“ครับ?”

ฟอด

“กลับบ้านดีๆครับพี่อาร์ต” ผมเขย่งตัวไปหอมแก้มอีกคน ก่อนรีบปิดประตูห้องลงทันที ไม่สนว่าอีกคนจะทำหน้ายังไง

“สีฝุ่น!!!!!”





อยู่กับพี่อาร์ตก็ไม่ได้แย่เท่าไรแฮะ

Tbc.

———————————————————————————————————————

ลงตอนที่9 วันที่9เดือน9 พอดีเลยยยย
ยอมใจความหมอ 5555555 ช่วงนี้จะละมุนกันยาวๆค่ะ เรื่อยๆเอื่อยๆให้พี่หมอได้จีบฝุ่นแบบชิลๆ พี่อาร์ตสายเปย์กับหนูฝุ่นสายฟรี----
เรื่องโดนแกะถีบนี่เราเจอกับตัวค่ะ กำลังเอ๋อๆอยู่มันยกขาหน้าถีบช่วงสะโพกเต็มแรง โชคดีที่ไม่ล้ม น้องชายเรายังถ่ายรูปรอบกีบเท้าแกะที่ติดเสื้อไว้อยู่เลย 5555555555555
ตอนหมอเล่นมุกเสียวนี่ต้องเปิดเว็บดู ปกติเล่นแต่ขอข้าวๆ คือหมอดูว่างมากเนอะ มาหยอดหนูฝุ่นทุกวันเลยยยย
เจอกันตอนหน้าค่า

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2017 00:59:02 โดย miinta »

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「9」09|09|60 P.2
«ตอบ #56 เมื่อ09-09-2017 21:36:38 »

เพิ่งมาอ่าน มีความน่ารัก :impress2:
ขอดราม่าน้อยๆๆๆๆๆๆน๊าาาา

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「9」09|09|60 P.2
«ตอบ #57 เมื่อ09-09-2017 21:53:52 »

ถึงจะเสี่ยวแต่ก็โอเคนะ 5555

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「9」09|09|60 P.2
«ตอบ #58 เมื่อ09-09-2017 22:35:14 »

 :mew4: :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「9」09|09|60 P.2
«ตอบ #59 เมื่อ10-09-2017 01:05:36 »

 :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด