13
ถ้ามีรางวัลคนหล่อยอดเยี่ยมผมว่าจะส่งชื่อพี่ปลัดมันไปเข้าชิง เดาว่าต้องได้ถ้วยแน่นอน
ตลอดช่วงเวลาที่ป่วยพี่มันดูแลผมดีมาก อุตส่าห์ให้ผมไปนอนแห้งคาเตียงอยู่ตั้งสองวัน ดีแบบที่อีกนิดจะเรียกแม่แล้วเหลือแต่ป้อนข้าวกับตบตูดกล่อมนอน ทั้งห้ามกินอาหารเผ็ด บังคับกินยา กินเกลือแร่
ถึงช่วงนี้จะไม่ค่อยได้เจอเท่าไหร่เพราะพี่ปลัดติดทำธีสิทกับถ่ายซีรี่ส์ แต่ถึงจะงานเยอะยังไงออร่าความหล่อยังเท่าเดิมไม่มีหมองลง
โลกิที่ว่างามร้อยปียังต้องแพ้ปลัดกินวัตบอกเลย เอ๊ะ ปลัดกิ ทำไมฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ แต่ช่างมันเถอะ
“ไอ้คุณ มึงไปนั่งที่อื่นได้ไหมเนี่ย”
“เอ้า นินิว มึงเป็นเจ้าของมหาลัยหรอมาไล่กู” ผมมองนินิวที่วันนี้มาในชุดนิสิตผิดระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้าสีผมยันรองเท้า กระโปรงทรงเอแนบเนื้อแต่ตูดแฟ่บ
“มองหุ่นกูแล้วอึ้งเลยอ่ะดิ”
“เออ มึงดูเปรี้ยวมาก”
“เซ็กซี่ขนาดนั้นเลยหรอวะ!!”
“หึ เหมือนแหนม”
ป้าป!!
ผิดเสมออออ เป็นไอ้คุณผิดเสมออออ
“คุณมึงก็ขยันไปกวนตีนนินิวมัน” เนี่ยๆๆ มีปกป้องว่ะๆๆ ผมมองไอ้แทนที่เอื้อมมือมาผลักหัวผม มันมีซัมธิงวรองแน่ๆคู่นี้ เพื่อนร่วมทุกข์ร่วมยากร่วมห้องอย่างกูหมาขึ้นมาทันที ฮ่งๆ
“มิตร มึงว่าไอ้แทนกับนินิวมันแปลกๆป่ะ”
“ยังไง”
“มีสามหัว”
“ว้าย มุกนี้กูเล่นไปแล้ว” เอ้า โดนดัก เสียเงินได้แต่เสียมุกไม่ได้ ผมเลยเนียนกระทืบตีนมันไปหนึ่งที ขอให้ได้ระบายอารมณ์
“เออนี่ไอ้คุณ”
“หืม”
“มึงสนิทกับพี่ปลัดนี่หว่า มึงรู้ว่าพี่เขานอกจอป่ะวะ”
“สัด พี่ปลัดไม่ใช่ผีซาดาโกะ” ภาพพี่มันตะกายออกมานี่ได้หนึ่งฮาเลย
“กูหมายถึงนอกจอกับนางเอกซีรี่ส์ อีเวร”
ห๊ะ?
นางเอกซีรี่ส์?
“นางเอกซีรี่ส์อะไรวะ”
“โห คุณ มึงนี่ ปกติติดต่อกับชาวบ้านด้วยส่งจดหมายผูกขานกพิราบหรอ”
“หึ กูโซเดียม”
“อะไร”
“คอลไลน์”
ป้าป!!
เงียบ สงสัยไม่คอล!!
แต่นกแก้วมาคอล!!
“ไม่หล่ออย่าตลก ตอบมา กูอยากรู้” อยากจะถามว่าที่ตบมามือหรือกีบเท้าแต่ก็กลัวโดนอีกกีบเลยเงียบดีกว่า
“ซีรี่ส์อะไร กูไม่เห็นรู้เรื่อง”
“อ่ะ เอาไปดู” นินิวมองบนแล้วหยิบมือถือมาไถๆก่อนจะยื่นมาให้ผมดู
มือถือนินิวปรากฏคลิปวิดิโอบนแอพลิเคชั่นเฟสบุ๊คที่มียอดกดไลค์และกดแชร์เยอะล้นหลาม ปรากฏหัวชื่อคลิปเป็นชื่อซีรี่ส์ที่ผมเคยเห็นผ่านๆตาแต่ไม่เคยหยุดดูอย่างจริงจัง
และคราวนี้มันเริ่มเล่นทันทีที่มาอยู่ในมือผม
พี่ปลัดเล่นเป็นพระเอกที่โรแมนติกจนขนลุก ปกติที่หล่ออยู่แล้วนี่หล่อชุบแป้งทอดไปเลย นางเอกซีรี่ส์ก็น่ารักครับ ตัวเล็กๆสดใส เหมือนเคยเห็นบ่อยๆตามโฆษณาบนบีทีเอส ซีนก็ง้องแง้งงุ้งงิ้งดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดูดี ถ้าไม่ติดว่า....
จูบ... พี่ปลัดจูบนางเอก
แล้วก็สื่ออารมณ์ได้ดีจนน่าขนลุก
“เอ้าไอ้คุณ ซี่รี่ส์รักไม่ใช่สืบสวน ขมวดคิ้วอะไรขนาดนั้นวะ”
“กูเปล่า”
“ยัง”
“ทาทาหรอ”
“ยังไม่เลิกขมวดคิ้วอีก” นินิวเอื้อมมือมาขยี้คิ้วผม
ผมขมวดคิ้วหรอวะ ไม่เห็นรู้ตัวเลย
แล้วนี่มันฟีลอะไรอ่ะ ทำไมมันปวดหนึบๆในใจจังวะ มันเหมือนหลอดลมตีบๆ ไตหน่วงๆ ซี่โครงหุบๆ มันรู้สึกเหมือนแป๊ปซี่ที่ตายแล้ว ไม่โอเคเลยอ่ะ
แล้วมันต้องอะไรขนาดนั้นเลยหรอ เดี๋ยวนี้ทีวีฉายฉากจูบขนาดนี้ได้แล้วหรอวะ แล้วพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ว่าหรอ เห็นลิ้นแพล่บๆเลยนะ ถ้าเป็นแม่นี่โวยวายว่าบัดสีแล้ว ลูกสาวมีพ่อแม่มีแม่นะเว้ย
“เอ้า ขมวดหนักกว่าเดิมอีก” ผมเลี่ยงหัวตัวเองหนีนิ้วไอ้มิตรที่จิ้มมา
“โอ้โห หูลู่หางตกหมดแล้ว”
“ไม่ต้องมาหลอกด่ากูเป็นงูหางกระดิ่ง”
“งูไม่มีหู”
“ไม่รู้” ผมเอนหัวหลบทุกมือของเพื่อนที่ยื่นมาขยี้หัวผม ท้าทายอำนาจงูหางกระดิ่งนักนะ แล้วจะยกยิ้มกันทำไมยกกลุ่มวะ มีอะไรตลกนัก
“น้องคุณหงอยแล้ว”
“หมอกหงอย”
“เวลาเศร้าก็อย่าจังไรไอ้คุณ”
“กูไม่ได้หงอย”
“หมอกหรอ?”
“ไม่หงอกไอ้สัด แค่รู้สึกเหมือนปอดหด” จริงๆนะ แบบมันอื๊ดๆ เหมือนเครื่องในมีเสียงอื๊ดๆเครื่องยนต์ขัดข้อง นินิวหัวเราะแล้วอ้าแขนคว้าคอผมเข้าไปกอด
“อะไรนะ...”
“ปอดหด มันหายใจไม่สะดวก มันดังอึ๊ดๆ”
“นั่นคืออาการปอดหดของมึงหรอ”
“ใช่”
“น่าเอ็นดูจังวะ” อึดอัดโว้ย ผมดิ้นๆขัดขืนออกจากอ้อมแขนแรงควายของนินิว มองไปรอบวงพบแต่สายตาเหมือนมองลูกหมาจากเพื่อนๆ อะไรของพวกมันวะ
“ปล่อยกูหน่ะ”
“โอ๋เอ๋นะ ตกลงวันนี้มึงดีลไปลอยชายป่ะ พวกปีหนึ่งก็ไปด้วย” เปลี่ยนประเด็นเป็นร้านเหล้าเสียแล้ว...
“ที่ไหน”
“ราชเวที”
“เทวี!!!”
“พามพ่าม”
“กี่โมง”
“เจอสักสามทุ่ม” ผมพยักหน้าส่งๆไป ยังไงวันนี้ก็รู้สึกเซ็งๆอยู่แล้ว ไปดริ๊งค์ให้หายหงุดหงิดใจหน่อยก็ดี คิดแล้วก็ได้ยู่ปาก
หงุดหงิดจัง...
เลิกเรียนนานแล้ว ตอนนี้ผมนอนอยู่บนเตียงด้วยความคันหัวใจยิกๆ ความหงุดหงิดยังไม่จางหายไปไม่รู้ว่าด้วยเรื่องอะไรก็ตาม เบื่อแต่ไม่อยากจะเข้าเฟสบุ๊คเพราะนินิวไม่หยุดหวีดคลิปนั่นเสียที เต็มไทม์ไลน์ไปหมด ปกติเห็นแชร์แต่คลิปอาหาร ไม่รู้จะชอบอะไรนักหนา อยากโดนพี่ปลัดบดปากแทนนางเอกซีรี่ส์รึไง ฮึ่ม
ก๊อกๆ
หือ?
ผมเงยหัวไปตรงประตูเมื่อมีคนเคาะ คงไม่ใช่ไอ้แทนกับไอ้มิตรแน่ๆ เพราะการเคาะห้องดูจะมีอารยะธรรมเกินไป แถมถ้าเป็นพวกมึงคงเปิดเข้ามาแล้วเพราะห้องไม่ได้ล็อค
“ใครคร้าบ”
“กูเอง”
พี่ปลัด?
ผมลุกพรวดพราดขึ้นมาทันที ก่อนจะนึกได้ว่าไม่พอใจพี่มันอยู่ เฮ้ยๆๆ จะยอมเปิดประตูให้ไอ้เฒ่าลามกที่ดูดปากสาวขนาดนั้นง่ายๆได้ยังไง หึ ยังไม่เปิดให้หรอก ยืนรอไปสักสามนาทีให้เมื่อยจนขาตะคริวแดกไปเล้-
แอ๊ด..
อ้าว เสือกรู้ว่าไม่ได้ล็อค
“ยืนอยู่แค่นี้ทำไมเปิดช้า”
“ไม่รู้”
“หือ?” คิ้วพี่ปลัดกระดกขึ้นแบบที่ชอบทำ
“หือไร”
“เพื่อนมึงบอกว่าให้กูแวะมาดูอาการมึง” อาการอะไรวะ หายท้องเสียอ้วกแตกไปนานแล้ว สระผมร่วงเยอะแต่ก็ไม่น่าเป็นมะเร็งนี่หว่า
“ไม่ได้เป็นไรสักหน่อย”
“เพื่อนบอกมึงเป็น”
“เป็นไร”
“เป็นบ้า”
หลอกด่ากูป่ะเนี่ยไอ้พี่มึง ผมหรี่ตามองพี่ปลัดที่ยืนหน้านิ่งอยู่หน้าประตู ทำไมไม่รู้แต่พอเห็นหน้าพี่ปลัดแล้วผมโคตรหงุดหงิดเลย ไอ้หน้าหล่อๆกระดกคิ้วข้างเดียว กวนตีนแบบหล่อๆเนี่ย เห็นแล้วอยากจะเอาสก๊อตเทปขากาวตราช้างไปแปะขนขา
“พูดจบยัง”
“โฮ่ อารมณ์ไม่ดีหรอ” ไม่ต้องเอื้อมมือมาขยี้หัวเลย ไม่ให้จับโว้ย
“ไม่ต้องจับ”
“ไม่ชวนกูเข้าห้องหน่อยหรอ”
“อือ เชิญครับ” จริงๆเกือบจะตอบไปว่าไม่ให้เข้าแต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองก็ไปถล่มส้วมพี่มันมาหลายรอบ เกิดความละอายต่อบาปเลยยอมให้พี่มันเดินเข้าห้องมา พี่ปลัดเดินเอากระเป๋าไปวางบนโต๊ะก่อนจะหันมาหาผม
“เป็นอะไร ทำไมอารมณ์เสีย”
“ไม่รู้”
“ไปกินไอติมไหม ขนมทำให้อารมณ์ดีนะ” เกี่ยวหรอวะ เออๆเหมือนเคยเห็นวิจัยอยู่ผ่านๆ คิดแล้วก็อยากกินขึ้นมาเลย เป็นบิงซูมะม่วงแทนได้รึเปล่านะ ได้ข่าวว่าใช้บัตรนิสิตลดราคาได้
ไม่ได้สิ!!!!
เราหงุดหงิดอยู่!!!
“ไม่กิน ผมไม่อยาก ช่วงนี้ลดน้ำหนัก”
“หือ? อาการหนักกว่าที่คิด” พี่ปลัดหัวเราะเบาๆ
“ผมไม่ได้เป็นอะไร พี่โดนไอ้แทนไอ้มิตรต้มแล้ว กลับไปได้แล้ว ผมไม่อยากคุยกับพี่”
“คุณ” เสียงพี่ปลัดเข้มขึ้นทำให้ผมงอคิ้ว ทำไมเสียงเข้มวะ จะดุอะไรหรอ ไม่ได้ไล่สักหน่อย แค่พี่มันอาจจะอยากกลับไปพักผ่อนป่ะวะ ละ แล้ว ต่อให้ดุแล้วไง สู้นะโว้ย ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่ผมก็หางหดไปแล้วห้าสิบเปอร์เซ็น
“ครับ” โอ้โห เสียงอ่อยเป็นเยี่ยวสล็อตอายุร้อยปีเลยกู
“กูไม่รู้ว่าหงุดหงิดอะไรมา แต่อย่ามาลงกับกู” หงึ โดนดุ ทำไมกูโดนดุวะ ผมยอมเดินเตาะแตะเข้าไปหาพี่ปลัดที่ยืนกอดอกหน้าดุอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวกลางห้อง
“ขอโทษครับ”
“เอาหัวมานี่” พี่ปลัดวางมือลงบนหัวผมแล้วก็ขยี้ๆจนฟูไปหมด ผมช้อนตามองไอ้พี่ปลัดที่ตอนนี่เปลี่ยนจากหน้าดุเป็นยิ้มออกมาเล็กน้อยแทนแล้ว
“พี่...”
“หือ”
“...” รู้สึกอึดอัดจัง
“ว่าไง”
“พี่เล่นซีรี่ส์ได้ดี”
“ดูกับเขาด้วยหรอ” พี่ปลัดหัวเราะทั้งๆที่มือยังคงแปะบนหัวผมอยู่
“นินิวเปิดให้ดู มันฝากมาถามด้วยว่าพี่กุ๊กกิ๊กกันนอกจอด้วยหรือเปล่า”
“บ้า เพื่อนกัน”
“...” ใช่หรอวะ ขนาดนั้นเลย มีลิ้นด้วย!! เห็นลิ้นด้วย!!
“อีกอย่างคุณ กูเป็นเกย์ กูว่ากูก็บอกมึงแล้วนะ” เออ แต่มันก็มีหลักสูตรเปลี่ยนเกย์ให้เป็นกิ๊กป่ะวะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ผู้ชายมีหรอจะไม่ชอบผู้หญิงตัวน้อยๆน่ารักจิ้มลิ้ม
“ก็รู้ แต่พี่เล่นดีจนไม่รู้เลยว่าเป็นเกย์ บี้ปากขนาดนั้นอ่ะ” พี่ปลัดชะงักเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียด
“คุณ กูดีใจนะที่มึงอินขนาดนั้น แต่นักแสดงจะบทไหนเพศอะไรเป็นอะไรก็ต้องเล่นได้ ไม่งั้นเกย์ก็เล่นได้แต่บทเกย์เท่านั้นสิ หืม?”
ก็ ก็จริง... ไม่รู้อ่ะ แต่หงุดหงิดไม่ได้หรอวะ เหตุผลอะไรไม่รู้ หวงลูกสาวแทนพ่อนักแสดงสาวก็ได้อ่ะ!!!
“ไม่รู้”
“ไม่รู้บ่อยจังวันนี้”
“ก็ไม่รู้นี่”
“หึ แน่ใจนะว่าไม่อยากกินไอติม” พี่ปลัดถามซ้ำ ผมก็ยังคงส่ายหัว
“ไม่อยาก...” อยากกินบิงซูมะม่วงมากกว่า
“ท้องเสียทีเดียวหายตลกแดกเลย” ตลกแดกอะไร ไม่เคย อย่ามากล่าวหากัน พี่ปลัดบีบแก้มผมเล่นเบาๆ ผมสบตากับพี่ปลัดที่จ้องลงมาก่อนจะรู้สึกใจเต้นแปลกๆ วันนี้ทำไมอารมณ์มันแปรปรวนจังวะ
“หงึ อย่าบีบดิ”
“หึ ไปแล้ว ต้องกลับไปเตรียมตัวออกงานอีก ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง หยุดปากคว่ำได้แล้วไอ้เด็กเอ๋อ” พี่ปลัดบีบแก้มผมส่งท้ายแล้วก็คว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพาย ไม่ลืมขยี้หัวผมอีกรอบก่อนจะออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมยืนหัวฟูด้วยความรู้สึกทั้งอึดอัดทั้งใจเต้นทั้งรู้สึกเหมือนไตสั่นๆอยู่กลางห้องคนเดียว
“ไม่ได้คว่ำปากซะหน่อย...”
ไม่ได้ทำจริงๆ แค่ปากมันเหนื่อยเลยทิ้งตัวตามแรงโน้มถ่วงโลกหรอก!!!
ไม่เคยเรียนเรอะ ทฤษฏีแรงโน้มถ่วงที่แอปเปิ้ลตกใส่สโนว์ไวท์อ่ะ!!!
หลังจากที่พี่ปลัดออกไปได้ไม่นานไอ้แทนกับไอ้มิตรก็กลับมาพร้อมกับถุงเซเว่น ลองดมดูแล้วได้กลิ่นเป็นของกิน ผมเลยพักความรู้สึกที่ยุ่งยิ่งกว่าสายหูฟังไอโฟนไว้ก่อน เรื่องแย่งของกินต้องมาก่อนเสมอ คิดแล้วก็ได้แต่อยากกินไอติมเชอร์เบทมะม่วงของสเวนเซ่น
“พี่ปลัดได้แวะมาป่ะวะ” ผมที่กำลังแย่งเบนโตะถึงกับต้องชะงักจากคำถามไอ้แทน
“แวะ”
“ที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม”
“นั่นแพะ!!” ยังจะตลกโดนตบด้วยเบนโตะเสียเถอะ!! นี่แหน่ะ!! ไอ้มิตรนอกจากไม่เจ็บมันยังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากจนเบนโตะกระเด็นออกจากปากที่ต่างหาก ทุเรศแท้ทรู
“แล้วพี่มันพูดว่าอะไรบ้าง”
“ทำไมมึงดูอยากรู้อ่ะ” ผมถามกลับบ้าง
“ก็...”
“ก็?”
“กูใส่ใจมึงไง ก็กูเป็นคนขี้ใส่ใจ”
“การใส่ใจนี่เป็นการผันเวิร์บผู้ดีจากคำว่าเสือกหรอ” พูดดีไอ้มิตรเพื่อนรัก หน้าอย่างไอ้แทนหน่ะหรอจะมาใส่จงใส่ใจ มองกลับมาจากชาติหน้ายังรู้เลยว่าขี้เสือก เปิดดิกชันนารี่คำว่า butt in ไม่ได้เจอคำว่าเสือกนะ เจอคำว่าแทน
“เออ กูเสือก ตอบกูมา” ยอมจำนนต่อหลักฐาน ไอ้แทนหยิบกล้วยมาฟาดหัวผมไปหนึ่งที ข้อหารู้ทัน
“ก็ไม่ไง พี่มันแค่แวะมาถามอาการท้องเสียเฉยๆ”
“อ่อ แล้วอาการปอดหดมึงอ่ะ”
“หายหดแล้ว มันพองขึ้นตอนไหนไม่รู้ กูกลัวมันกลับมาตีบอีกรอบจังว่ะ” พูดแล้วก็นวดๆปอดตัวเอง บ๊ะ น้องปอดลูกรัก แค่ไม่ออกกำลังกายนิดหน่อย อ่อนแอขนาดนี้เลยหรอ พูดถึงออกกำลังกาย ไม่ได้พบเจอกับลู่วิ่งอีกเลยหลังจากคิ้วแตกไป หรือลู่วิ่งมันคิดถึงเราวะ เออๆ ไม่แน่ๆ
จากนั้นไอ้แทนกับไอ้มิตรก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เราจะกินข้าวเย็นพร้อมกับนั่งนอนรอเวลาจะออกไปแฮงค์เอาท์ พวกเราก็มาในธีมเสื้อยืดกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบ ใส่เสื้อยืดเหมือนกันแต่ไอ้แทนกับไอ้มิตรไหล่มันกว้างครับเลยดูหุ่นดี๊ดี ตัดภาพมาที่ผมไหล่แคบกรรมพันธุ์ พวกมันก็เป็นยักษ์ประหนึ่งไม้แขวนเสื้อตากสูธกับส่วนผมแห้งเป็นไม้แขวนตากกางเกงใน คิดแล้วเศร้า
พอผมไปถึงร้านเปิดเข้าไปก็เห็นพวกปีหนึ่งนั่งกันอยู่แล้ว เพลงงี้ดังกระหึ่ม ด้วยความที่ร้านนี้มีวงดนตรีสดทำให้มีคนมาเยอะเป็นพิเศษ วันนี้ไอ้เอริคน้องผมดูจะฮอตสุด ด้วยร่างกายสมส่วนของมันกับเสื้อเชิ้ตขาวบอกเลยว่าสมแล้วที่มันได้เป็นดิสเพลย์ของเพจคิ้วท์บอย
ส่วนน้องอายข้างๆก็มาในธีมน่ารักงุ้งงิ้งกิงก่องแก้ว น้องตัวเล็กพอใส่กระโปรงสั้นๆยิ่งดูตัวเล็กไปกันใหญ่ ผู้หญิงนี่ใส่อะไรก็น่ารักแหล่ะครับ ตอนแรกผมก็คิดงั้น จนมองข้างๆเป็นนินิวใส่ชุดคล้ายๆน้องอายแต่ดูเหมือนอาเจ๊เพิ่งเลิกงานหนีลูกแฝดสามมาปาร์ตี้กับเพื่อน นี่คิดแบบไม่ได้มีความสองมาตราฐานแต่อย่างใด
“เฮียคุณณณ”
“มานานยังวะ”
“สองพันล้านปีแล้ว เมื่อกี้เพิ่งแลกไลน์กับไทแรนโนซอรัสไป ว่าจะจ้างไปเฝ้าบ้าน”
“ถุ้ย!!” เออ ตลกแห้งดีว่ะ คุ้นเหมือนเคยเจอคนแบบนี้ ผมเลือกนั่งลงข้างไอ้ริก เพราะจะได้นั่งข้างน้องอายไปด้วย แอบแปลกใจเล็กน้อยที่ผมไม่ค่อยรู้สึกกระดี๊กระด๋าที่ได้นั่งข้างกับน้องอายเลย
“แล้วนี่ท้องใส้หายดีแล้วหรอเฮีย หมอให้กินของอ่อนๆอยู่ป่ะเนี่ย”
“ให้กินแมนยูหรอ”
“โอ้โหๆ พูดแบบนี้นี่ขึ้นเลย!!”
“อารมณ์หรอ?”
“บันได!!!”
“แอ่แฮ่!!”
มันต้องเง้ ไอ้น้องรัก!!
ผมรับแก้วจากไอ้มิตรมาชนกับไอ้ริกไปหนึ่งที น้องร่วมสาบาน เราจะมุกแห้งยิ่งกว่าทะเลทรายตากแห้งไปด้วยกัน
“หายหัวเสียแล้วหรออีคุณ” นินิวเดินเอาแก้วมาวางบนหัวผม
“เฮียคุณก็หัวเสียอยู่ทุกวันอยู่แล้วป่ะเจ้นิว ดูสติพังๆ” เหมือนโดนหลอกด่าอีกแล้ว แต่เราอาจจะคิดไปเอง
“กูไม่ได้หัวเสีย”
“เฮียคุณหัวเสียเรื่องไรอ่ะเจ้” เอ้า กูเพิ่งพูดอยู่ว่าไม่ได้หัวเสีย ไอ้น้องเวร
“นั่นสิ เรื่องอะไรน้า”
“เอ๊ะ พวกมึงนี่ กูบอกว่าไม่ได้หัวเสียไง อากาศร้อนคนเลยเป็น...”
“เป็น?”
“...เป็นคนหล่อ”
“เปลี่ยนชนแก้วเป็นชนหัวมึงแทนได้ไหมไอ้เหี้ยคุณ” ไม่ได้จ้ะ นี่หัวคนไงไม่ใช่หัวหินจะได้มาชนแล้วก็จากไป
“ป่ะๆเลิกหัวเสีย ดื่มกันดีกว่าเฮีย” ไอ้ริกขยี้หัวผม ชักงงแล้วว่าใครพี่ใครน้อง
“เอ้า มาดื่มฉลองแก่เอกอิ๊งใหญ่ของเรากันดีกว่า”
“มาครับ ชนแก้วกันดีกว่า”
“ชนแก้วให้ดังกูเกิ้ล!!”
“อะไรวะคุณ!!”
“ดังโครม!!”
โครมจริง...
ตัวกูเนี่ย!!
ถีบมาได้ไอ้เวรมิตร กูจะฉาบมึง!!
หลังจากคุณแอลหลั่งไหลเข้าคอเพียงไม่กี่แก้ว ชีวิตก็เริ่มสนุกคึกคัก เมื่อคุณมีแอลกอฮอล์ปนอยู่ในเลือดต่อให้เล่นเพลงของลุลาเราก็จะเต้นเบอร์ปาล์มมี่ได้ สนุกแค่ไหนไม่รู้ที่รู้ๆผมนี่ตีนไม่ติดพื้นเลย เพราะปีนขึ้นมาเต้นบนโต๊ะบ้างก็ปีนไปโต๊ะข้างๆ คืออีกนิดก็จับไปอยู่พาต้าได้แล้ว
“ไอ้คุณ มึงเมาแล้ว ไอ้สัด ลงมาจากโต๊ะเลยนะ”
“กูไม่เมาไอ้มิตร!!!”
“กูแทน ไอ้สัด”
“เออๆ นั่นแหล่ะๆ ไม่ใช่แฟนเป็นไอ้แทนก็ได้” อะไรวะงง พูดเองก็ไม่เข้าใจเอง แต่ก็ช่างมัน
ตอนนี้ตาผมเริ่มลายเห็นไอ้แทนมีสามหัวแล้ว เชี่ย โคตรคูลเลยเพื่อน โลกเราสามารถมีคนสามหัวเหมือนหมาในแฮร์รี่พอตเตอร์แล้ว!!
“เฮียคุณ ลงมาาาา” แล้วนี่ใครอีกเนี่ย ไอ้เวร งานบวชใครทำไมโผล่หน้ามาเยอะ แล้วทำไมหัวกูหนักขนาดนี้วะเนี่ย
“มึงใคร!!!”
“ไม่ใช่ไค นี่ชานยอล”
“อะไรหย่อนนะ”
“อ่ะ เกาหลีไม่รู้จักอีก” ไม่รู้โว้ย ที่บ้านเป็นแค่แฟนคลับทูพีเอ็มกับแบล็กพิงค์!!
“ฮืออออ ไอ้แทน ตอนนี้กูเห็นมึงมีสามหัวแล้วอ้ะ” ผมเมินไอ้น้องเทคไปหาไอ้แทนที่ยืนหน้าดุเป็นยักษ์อยู่ข้างโต๊ะ แหม ถึงหน้าจะดุแต่ก็ยังจับขาโต๊ะแน่นกลัวผมตก เนี่ยๆๆ รางวัลเพื่อนดีเด่นมากเว่ออออออ
“เออ เมาแล้วก็ลงมา มาเต้นที่พื้น”
“ฮืออออออ ทำไมมีสามหัวทั้งทีแต่หน้าเหมือนหัวนมแมลงวัน สงสารรรร”
“เมาแต่ปากหมาได้ นับถือใจเฮียว่ะ” อะไรหมาวะงง แล้วไอ้ริกทำไมวันนี้มันหล่อจังวะ เห็นแล้วหงุดหงิด ทำให้พาลไปนึกถึงไอ้เฒ่าลามกหน้าหล่อข้างห้อง คิดแล้วก็หงุดหงิด ฮึ้ย!!!
“ริก มึงอุ้มพี่มึงลงมาไวๆเลย กูปวดหัวกับแม่ง”
งึ้ย อยู่ดีๆก็โดนอุ้ม ผมชอบโดนอุ้มนะ มันเป็นฟีลที่เราจะตัวเบา เป็นจังหวะดีที่จะกางแขนกางขาแล้วตะโกนออกมาว่า
“นาาาา ซิเพ่นยาาาาาาา”
“ไอ้เฮี้ยยย หัวกู๊”
ไม่รู้ไม่สน กูเป็นไลออนคุณ!!!
นาซิเพ่นยาาาาาาาาาาาาาา
.
.
.