#เสี่ยกับเน่ (shotacon) -จบ- :: เสี่ยกับเน่มีอีบุ๊คแล้วจ้า!!! 15 เม.ย.62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เสี่ยกับเน่ (shotacon) -จบ- :: เสี่ยกับเน่มีอีบุ๊คแล้วจ้า!!! 15 เม.ย.62  (อ่าน 73722 ครั้ง)

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
จุดพลุฉลองเข้าใจกันแล้วรักกันมากๆนะเน่อย่าดื้อเสี่ยก็อย่าซึนนะ..ขอบคุณนักเขียนนะคะ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Chapter 29
ปลูกอ้อยเป็นงานอดิเรก





ปิดเทอมเล็กเกือบหนึ่งเดือน แน่นอนมันน้อยนิดสำหรับเด็กวัยรุ่นกลัดมันที่ยังต้องการความสนุกในชีวิต เนเน่ยังไม่ได้จัดกระเป๋ากลับสุพรรณฯ เพราะเสี่ยยังจัดการธุระทางนี้ไม่เสร็จ อีกอย่างคือร่างกายเน่ยังไม่พร้อมนัก อาการไม่คงที่สักที จนเสี่ยบอกว่าจะพาไปหาหมอเย็นนี้หลังจากกลับมา
...ถึงจะดีกันแล้ว แต่เสี่ยยังไม่จู๋จี๋กับเน่เลย คงกลัวอาการหนักกว่าเดิม ซึ่งสำหรับเจ้าของร่างกายนั้น ถ้าตัดเรื่องมึนหัวและเบลอๆ งงๆ ออก เขาก็...อยากอยู่น่ะนะ

เสี่ยนะเสี่ย ทำไมนิ่งจังเลยวะ ยั่วทุกกระบวนท่าแล้วนะ!
ทั้งนอนอ้าขา ใส่กางเกงขาสั้น แหวกไปถึงไหนต่อไหน ตาแก่ก็แค่เหลือบมามองตาปริบๆ จิ๊! จะให้บอกว่าสายตาไม่ดีก็ไม่เชื่อหรอก เพราะคนสายตายาวแบบเสี่ยน่ะ เห็นไกลๆชัดกว่าอยู่แล้ว

“อือ....”
ข้างในร่างกายมันรุมๆ รุ่มๆร้อนๆ บอกไม่ถูก ทั้งๆที่เน่แค่นอนอยู่เฉยๆมาตั้งแต่เช้า นี่จวนจะเที่ยงแล้ว เขายังไม่ได้ลุกไปไหนเลย พี่หมีก็ไม่มา น่าจะไปทำงานกับเสี่ย เนเน่เด็กขี้เหงาเลยยิ่งเหงา เหงา และเหงาเข้าไปใหญ่
ห้องนี้มันเงียบเหลือเกิน ทั้งเงียบสงัด และกว้างมากเกินไป จนเขารู้สึกหวิวๆในอก
ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกนี้เขาคิดไปเองหรือเปล่า ว่ายิ่งหวิว ยิ่งร้อน ...ไอ้ตรงนั้นมันก็ยิ่ง...มีอารมณ์
...ขนาดกลาง สมส่วนกับรูปร่าง มีชื่อเรียกว่าเน่น้อย ...
มันขึ้นเป็นรูปลำของแท่งเนื้อชิ้นหนึ่ง เห็นได้ชัดเจนเพราะกางเกงรัดตัวเล็กกว่ามาตรฐาน กอปรกับก้นน้องเน่ที่งอนกว่าชาวบ้านเขา
เนเน่ลูบมันเบาๆ ไม่ได้หวังให้สงบ แต่หวังให้มัน ‘แข็ง’ กว่าเดิมมากกว่า

“อือ...เสี่ย~”
เด็กหนุ่มจินตนาการถึงฉากที่ตนประทับใจที่สุดในหนังโป๊เรื่องล่าสุด มันเป็นตอนที่ตัวเอกทั้งสองพลอดรักกันในสระน้ำ กอดรักฟัดเหวี่ยงจนน้ำกระจาย ก่อนจะจัดกันให้แล้วเสร็จที่ขอบสระ โดยฝ่ายรุกอุ้มฝ่ายรับได้เท่บาดใจเน่มาก ร่างสูงล่ำยืนพิงผนังตัวตรง สองมือช้อนก้นเปลือยของฝ่ายรับอย่ามั่นคง ไม่รู้สึกว่าจะหล่นเลยสักนิด...เป็นท่าลิงอุ้มแตงที่โปรที่สุดเท่าที่เน่เคยเจอมาเลย

“อา...”
ตอนนี้ภาพรุกสุดล่ำกลายเป็นเสี่ยแล้ว แน่นอนว่าเน่อยากให้เสี่ยลากตัวเองไปปู้ยี่ปู้ยำในน้ำสุดๆ ถึงจะเคยได้ยินว่ามันไม่สนุกอย่างที่คิดก็เถอะ แล้วไงล่ะ คนเราก็ต้องลองหลายๆแบบใช่ไหม

“แฮ่ก..”

เน่อ่อยตั้งหลายครั้ง เชิญชวนตั้งหลายหน
แต่สุดท้าย...
ก็ต้องมานั่งเล่นว่าวอยู่คนเดียวเปลี่ยวกาย...

อ๊ะ เน่น้อย
ออกมาสูดอากาศข้างนอกสักที
มันกำลังแข็งแรงได้ที่ เนเน่เลยขยี้ด้วยความหมั่นเขี้ยว ราวกับขยำขยี้กระดาษก็ไม่ปาน จากนั้นจึงใช้มือรูดแท่งลำขึ้นลง น้ำใสปริ่มออกมา มันจึงช่วยหล่อลื่นและเพิ่มความเร็วให้มือ เด็กหนุ่มห่อปาก ร้องครวญเบาๆ ไม่ใช่เพราะกลัวใครได้ยิน แต่นี่คือธรรมชาติจริงๆ ตอนอยู่กับเสี่ยน่ะ มันก็ต้องแอคติ้งบ้าง อีกทั้งสนุกกันสองคน เลยปลดปล่อยมากไปหน่อย พออยู่คนเดียวจึงไม่จำเป็นต้องแหกปากหรอก เจ็บคอ

แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก
ลมหายใจสะดุดทุกครั้งยามแขนขยับอย่างรวดเร็ว
...ที่ริมขอบสระ เจ้านั่นของเสี่ยกระทุ้งเข้าออกอยู่เบื้องล่าง มันเข้าไปลึกเหลือเกิน เน่เสียวไปหมด เหมือนกับว่าข้างในนั้นกำลังถูกแท่งไม้พายกวน ยิ่งกวนก็ยิ่งเร่าร้อน

“เสี่ยครับ~”
ยาวมาก ...ไม้พายอันแข็งแกร่ง
ปากเสี่ยจูบปากเน่อยู่ข้างบน แต่ข้างล่าง...ปากยาวๆก็จูบกับปากข้างในเน่เหมือนกัน ทั้งกว้าง ทั้งลึกกว่าด้วย

“เสี่ยครับ เสี่ยชอบไหมครับ อะ..อา”
รู้สึกว่าจินตนาการจะกู่ไม่กลับแล้ว เมื่อมืออีกข้างสอดนิ้วชี้เข้าไปในรอยจีบ หรือก็คืออีก ‘ปาก’ ของเนเน่
นิ้วเล็กๆควานหาจุดกระสันจนเจอ แล้วจัดการย้ำจุดนั้น ไปพร้อมๆกับมืออีกข้างที่ยังคงชักขึ้นลง
น้ำในจินตนาการกระฉอกใส่ปากข้างล่างของเน่ มันอัดเข้าไปพร้อมๆกับท่อนลำของเสี่ย บางส่วนก็กระเซ็นขึ้นมา สร้างความชุ่มฉ่ำได้ดียิ่ง สนุก สนุกจริงๆ
อยากโดนของจริงที่สุดเลย!

เน่หายใจไม่เป็นจังหวะ สิ่งหนึ่งกำลังตีรวนอยู่ ณ จุดๆเดียว เขาไม่เคยเรียกมันถูกเลย มันไม่มีชื่อเรียกสำหรับเขา มันเป็นมากกว่าจุดสุดยอด เน่อยากรู้สึกแบบนี้นานๆก่อนที่จุดสุดยอดจะมาถึงด้วยซ้ำ คล้ายๆกับ...ตอนที่เราได้กินของที่อยากมากๆ เราจะกินไม่หยุดล่ะมั้ง

“อะ..อา..”
ร่างโปร่งเหยียดตัวไปข้างหลัง ปลายเท้าจิกผ้าปู ก่อนจะกระตุกเกร็งสองสามที แล้วของเหลวขุ่นสีขาวก็ทะลักออกมาเต็มฝ่ามือ

“แฮ่ก”
ช่วยตัวเองครั้งนี้เสร็จเร็วไปหน่อย
ไม่แปลกใจเลย เพราะเน่ห่างหายมานาน อารมณ์จึงมากกว่าปกติ

เด็กเสี่ยทิ้งตัวนอนแผ่หราหมดแรง ในหัวยังคิดถึงแต่เสี่ย เมื่อไหร่จะได้อยู่ด้วยกันอย่างเต็มที่สักที ...อีก 4 ปี...จะทนได้ไหมนะ

...แค่ครึ่งปีแรกก็เละตุ้มเป๊ะแล้วเนี่ย






“ครับพี่แคท”
เนเน่วางสายจากพี่ที่ดูแลเขาหลังจากพี่แกโทรมาบอกว่าจะประกาศรายชื่อนักแสดงเรื่องรักเท่าฟ้าเย็นนี้ ให้เน่ลงโปรโมตในอินสตาแกรมที่เน่เพิ่งจะสมัครใหม่ไปสดๆร้อนๆ ส่วนอันเดิมนั้นไม่ลงอะไรมาตั้งแต่มีเรื่อง และคาดว่าจะปล่อยร้างตลอดไป

เขากังวลว่าจะบอกเสี่ยยังไงอยู่เหมือนกัน ตกปากรับคำไปแล้วด้วย คู่รองอย่างเน่ถ่ายไม่เยอะ แต่คงมีหยุดเรียนไปถ่ายบ้างบางวัน เน่ไม่เครียดอยู่แล้ว ปีหนึ่งวิชายังง่ายอยู่ ถ้าเอาเหตุผลนี้ไป เสี่ยน่าจะเข้าใจนะ

“อ้าว”
คนแก่ตายยาก ยังคิดถึงได้ไม่ทันไร เสี่ยก็เปิดประตูเข้ามาแล้ว แต่ไร้แววพี่หมี

“มาไวจังครับเสี่ย~”

เฮ่ย! ทำไมต้องดีดเสียงสองด้วยเนี่ย

ลองสะบัดหัวไล่ความดัดจริตไปสองสามที ...แต่หน้าก็ยังยิ้มแป้นแล้นเหมือนเดิม

แล้วโคอย่างเสี่ยจะทนไหวเหรอ แค่เห็นหน้าระรื่น น่าเอ็นดู น่าดูเอ็น น่ารัก น่าขยำขยี้...แบบนี้ แกอดใจไม่ไหว ต้องตอบรับด้วยจูบระทวยไปหนึ่งที เล่นเอาปากเด็กเจ่อเหมือนกินพริกมาทั้งสวน

“แฮ่ก”
เน่ปาดน้ำลายออกจากปากแดง
ตาสีประหลาดของเสี่ยหวานจริงๆ จ้องเน่ไม่วางตาเลย แล้วเขาจะเอาหน้าไปซุกตรงไหน ถ้าไม่ใช่อ้อมอกอุ่นๆของแก

“เสี่ยอ่ะ”

“อะไร”

“มาไม่ให้สุ้มให้เสียง”

“ก็คิดถึง”

“ฮึ่ยยย”
นั่นเป็นเสียงมันเขี้ยวของเด็ก ที่หลังจากนั้นได้เพิ่มแรงรัดจนต่างอึดอัดกันทั้งคู่ แต่ก็ไม่ยอมปล่อยสักที เสี่ยน่ากอดนี่ เรื่องอะไรจะปล่อย

“ปล่อยได้แล้ว จะแกะข้าว”

“โธ่ เสี่ยอ่ะ”
เด็กมันก็กระเง้ากระงอดไปงั้น เพราะท้องน้อยๆก็ร้องหาข้าวอร่อยๆหลังเสี่ยพูดจบ และเน่เพิ่งสังเกตเห็นกล่องข้าวกล่องเบ้อเร่อ
ข้างในเป็นปลากระพงทอดน้ำปลา หน้าตาน่ากิน คงกรอบแบบที่กินได้ยันกระดูก เนเน่ไม่รอช้า รีบหาจานชามมาเตรียม คดข้าวสวยร้อนๆที่เสี่ยหุงไว้ตั้งแต่เช้าใส่จาน ไม่ลืมเสิร์ฟน้ำเย็นๆให้เสี่ยได้ชื่นใจ

“อยากกินอะไรน้ำๆด้วย”
เสี่ยแกพูดลอยๆ

“แล้วทำไมไม่ซื้อมาล่ะครับ”

“ทำให้กินหน่อยสิ”

อ๋อ...เน่รู้แกวละว่าถูกอ้อน เลยหายไปทำบะหมี่ใส่ไข่มาให้หนึ่งชามภายในเวลาไม่ถึงสามนาที

“รอให้เส้นมันสุกก่อนนะ”

สายตาผิดหวังหน่อยๆทำให้เน่ขำ แหม...แกล้งคนมันสนุกนี่นา ขอแกล้งซักหน่อยเหอะ ทีเสี่ยยังแกล้งเน่ตั้งเยอะ

“อร่อยชัวร์ เน่อุตส่าห์ทำ”
เด็กน้อยนั่งลงข้างกัน ถ่ายรูปอาหารฝีมือตัวเอง แล้วก็เซลฟี่กับเสี่ย
...เด็กหนอเด็ก ติดโซเชียลมากเกินไปในสายตาของคนแก่อย่างเสี่ย แกไม่ชอบให้เน่เล่นโทรศัพท์ ไม่ชอบให้คุยแชทกับคนอื่น ไม่ชอบให้ลงรูปน่ารักๆ โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ด้วยกัน เพราะเดี๋ยวนี้ศัตรูมันก็ทันสมัย (จริงจริ๊ง เหตุผลอื่นไม่มี้) ไอ้พวกนั้นมันเช็กอะไรได้หมดเพียงแค่เราโพสต์ เสี่ยเลยไม่ให้เน่ระบุโลเคชั่น ถือว่าเป็นข้อห้าม และรูปก็ไม่ควรเปิดเผยบรรยากาศรอบๆมากเกินไปด้วย ส่วนมากรูปที่เน่ลงจึงมักเป็นเซลฟี่ตัวเอง แต่เรื่องลงหน้าเสี่ยนี่อย่าหวัง โดนด่าไง เลยไม่กล้าอีกแล้ว

“เสี่ยไปฟอลไอจีใหม่เน่ด้วยนะ เป็นออฟฟิเชียล แต่บางทีพี่ๆเขาก็เล่นให้”

“ดังแล้วเหรอ ถึงขนาดมีออฟฟิเชียล”

“ไม่ดังในฐานะดารา แต่ดังในฐานะหน้าตาดีอ่ะ เข้าใจป๊ะ”
ทำเสียงกวนอีก น่ากัดปากจริงๆ!

“อย่าลืมนะ ว่าอย่าเปิดเผยเรื่องของเรา”

“โอ๊ยไม่เปิดหรอกคร้าบ นี่ขนาดไม่เปิดนะเนี่ย มันยังมีคนอยากรู้อยู่อีก เด็กคนนั้นไง เป็นเพื่อนกับเสี่ยด้วยอ่ะ”

“ที่ทะเลาะกันในเฟสน่ะเหรอ”

“ใช่ๆ เสี่ยระวังนะ ป่านนี้มันขุดหมดแล้วมั้ง”

“ดีนะไม่ค่อยลงอะไร”

“โรคจิตรึไงก็ไม่รู้ ยังเด็กอยู่แท้ๆ”

“อายุเท่าไหร่”

“ม.ปลายอ่ะ ไม่เด็กกว่าเน่เท่าไหร่หรอก แต่ก็เด็ก”

“ปล่อยๆไปเถอะ วุฒิภาวะยังต่ำ ยังคิดไม่ค่อยได้...แต่ถ้าสร้างปัญหาอีกรอบ—จะขอคิดดูอีกที”

“โหดจริงๆเลย”

“พูดเยอะนะ กินข้าวได้แล้ว”

“แหะๆ ก็วันๆไม่ค่อยได้พูดนี่ ...นี่เสี่ยๆ เน่มีอะไรจะบอก”

“อะไร”

“คือว่า....”

“....?”

“เอ่อ....เน่รับงานซีรี่ย์อยู่เรื่องนึงครับ แต่ไม่ใช่ตัวหลักอะไร บังเอิญได้มาเฉยๆด้วย ได้ได้ไงไม่รู้เนอะ”

“ถ่ายเมื่อไหร่”
เสียงนิ่งจัง เน่ชักกลัวแล้วสิ

“ต้นปีหน้า”

“เปิดเทอมแล้วนี่”

“ก็...มันนิดเดียวเองนะ ไม่เยอะหรอก เน่เป็นตัวรอง”

“ถ้าไม่เหนื่อยก็ทำ”

“เสี่ยอนุญาตเหรอ?!”

“ก็ลองดูสิ ยังไม่เคยเล่นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ๆ แล้วจบงานนี้ เน่ก็ไม่มีงานอื่นแล้วครับ เน่ไม่รับแล้ว เสี่ยเชื่อใจเน่ได้เลยนะ”

คนแก่ยิ้มบาง
“อืม ฉันเชื่อใจเธอ”

“ขอบคุณนะครับ”
เด็กยกมือไหว้ ก่อนจะกอดเสี่ยแรงๆหนึ่งที
“เย็นนี้พี่เขาจะประกาศรายชื่อนักแสดงในเพจด้วย ไม่รู้ว่าคนจะชอบที่เน่มาเล่นหรือเปล่า แต่อยากบอกเสี่ยไว้ก่อน เดี๋ยวเอาชื่อกับหน้าคนอื่นมาให้ดูด้วย จะได้ไม่หึง เพราะคนอื่นนะหล่อไม่เท่าเสี่ยเลย ยิ่งพระเอกนะ ยิ่งไม่หล่อเข้าไปใหญ่ เป็นเด็กเส้นอ่ะ ทำไงได้”

“ไปว่าเขา”

“แหะ...ก็ไม่หล่อจริงๆนี่นา”

“อยากให้หล่อนักหรือไง”

อ้าว...ปากพาซวยอีกแล้วเน่

“ไม่ใช่นะเสี่ย” ส่ายหัวปฏิเสธยกใหญ่
“เน่ห่วงคนดูต่างหาก”

“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ—กินข้าว”

“จ้า”
โดนสั่งขนาดนี้ หยุดเถียงจะดีที่สุด






อากาศในห้องร้อนระอุด้วยเพลิงตัณหา แม้แอร์ 23 องศายังไม่ช่วยอะไรเน่ ร่างกายของเขา...ผิวหนังของเขารุ่มร้อน เม็ดเหงื่อชโลมกายด้วยไฟราคะ หลังจากพยายามยั่วยวนเสี่ยทุกกระบวนท่าแล้ว แต่เสี่ยก็ยังไม่ยอมเอาเน่!

เหนื่อยแล้วนะโว้ย!

“เสี่ย...”
เน่พาร่างเปลือยเปล่าของตัวเองขึ้นทับเสี่ยอีกครั้ง ร่างหนานั้นมีเพียงบ็อกเซอร์เพียงตัวเดียว ซึ่งเน่พยายามถอดออกอยู่นานสองนานก็สู้แรงเสี่ยไม่ได้  ได้แต่รั้งขอบยางด้านหน้าให้เปิดเผยความเป็นชายที่กำลังแข็งตัว แน่นอนว่าเน่ลองอมให้เสี่ยแล้ว แต่เสี่ยสมาธิสูงมาก มากเสียจนอดคิดไม่ได้ว่าเพิ่งสึกมาหรือไง

“เลิกได้แล้ว เดี๋ยวไข้กลับ”

“หายแล้ว”

“หายอะไร ตัวยังรุมๆอยู่เลย”
พูดพลางเอามือแตะหน้าผากขาว

“เน่ออนท็อปนะ”

โคแก่กลอกตาด้วยความหน่าย
ดื้อจริงๆ เด็กนี่

“อยากนักใช่มั้ย”

“ใช่ ก็เรายังไม่เคยมีอะไรกันเลยตั้งแต่คืนดีกัน...เสี่ยครับ....ทำให้เน่มั่นใจหน่อยสิว่าเน่ยังน่าพิศวาสอยู่”

คนฟังกลั้นขำกับความพร่ำเพ้อของเด็ก นี่เขาเลี้ยงมายังไงวะเนี่ย แก่แดดแก่ลม ยิ่งโตยิ่งตลก(?)

“ทำได้ แต่ทำแป๊บเดียวนะ”

“ครับผม”

สิ้นเสียงตอบรับ ร่างโปร่งจึงถูกพลิกกลับ กลายเป็นฝ่ายที่อยู่ใต้ร่าง
เสี่ยพรมจูบปากนุ่ม มือปัดป่ายไปทั่วหน้าท้องเพื่อสร้างความวาบหวิวให้เด็ก เนเน่หายใจไม่ทั่วท้อง  เสียวซ่านไปทั้งตัว และยอมแยกขาสองข้างออกจากกันแต่โดยดีเมื่อเข่าของเสี่ยดันมันออก

เขาค่อยๆเปิดช่องทางด้วยเจลร้อน แหย่นิ้วชี้เข้าไป ดึงเข้าดึงออกเพื่อให้ช่องทางลื่นไหล

“เสี่ยรู้มั้ยเมื่อเช้าเน่ช่วยตัวเองด้วย มันเลยเข้าง่าย”

“เด็กแก่แดด”

“เน่สิบแปดแล้วนะ แก่แดดตรงไหน ..อ๊ะ! ตรงนั้นครับ”

“นี่เหรอ”

“โอ๊ย..! อ...อ๊า...เสี่ย....~”


ดูแล้วกล้วยที่บ่มไว้คงสุกได้ที่...
เสี่ยจึงเหยียดขาตรง หาหมอนใบเล็กมารองก้นเด็กให้ปากทางยกสูงเพื่อที่จะได้เข้าง่ายๆ จากนั้นจึงจ่อท่อนลำที่ปราศจากถุงยาง แล้วกดเอวลงไป

ไม่มีใครเปิดปากอีก เพราะเสี่ยบอกว่าจะทำเร็วๆ
เนเน่เข้าใจว่าวันนี้เสี่ยเขาเน้นคุณภาพ ไม่อยากกวนอีก ได้แต่ร้องครวญเสียงแหบแห้งในเมื่อเสี่ยร่อนเอวอย่างกับติดเทอร์โบ เสียงเนื้อกระทบกันนั้นรัวเร็วจนนับจังหวะไม่ได้
ยิ่งเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งหายใจไม่ทัน
เสียววูบวาบ
ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความกระสัน
มือกำหมอนจนยับยู่ยี่
บางครั้งก็ทึ้งผมตัวเอง ด้วยไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับร่างกาย
มันเหมือนกับว่าไม่ใช่ของเขา
มันล่องลอย ล่องลอยแบบเร็วๆ ไปซ้ายที ขวาที
เดี๋ยวก็กระแทกก้อนเมฆ เดี๋ยวก็ชนพระอาทิตย์ ร้อนระอุเสียจนจะมอดไหม้
ถึงเน่จะไม่เคยมีเซ็กส์กับใคร แต่เน่ก็รู้ว่าเสี่ยของเขาแซ่บที่สุด

“อ..อา...”
เน่จำไม่ได้ว่าตัวเองถึงจุดสุดยอดตอนไหนด้วยซ้ำ เพราะรู้ตัวอีกทีคือเสี่ยล้มตัวลงมาหอบหายใจแฮ่กๆแล้ว

“ฮ้า..เสี่ย”
แท่งเนื้อร้อนจัดยังคงคาอยู่ข้างใน เน่รู้สึกถึงน้ำอุ่นๆกำลังไหลออกมา ชอบที่ร่างกายทั้งสองประสานกันอย่างนี้ และชอบที่เสี่ยเข้ามาคลอเคลียหลังมีความสุขด้วยกัน เพราะนั่นมันยิ่งเพิ่มความสุขเข้าไปอีก
เสี่ยน่ารัก
เน่รักเสี่ยที่สุด
อยากให้เสี่ยเอาเน่อีกด้วย ชักจะมีอารมณ์อีกแล้วสิ

“พอเลย”

เสี่ยรู้ทัน!
แกถอนตัวออกไป ทิ้งเน่ให้นอนหงอยอยู่บนเตียง
แน่นอนเขาเสแสร้ง เรียกร้องความสนใจจากเสี่ย ซึ่งเสี่ยก็รู้ เลยแกล้งไม่สนใจ เดินเข้าห้องน้ำไปเลย

“อย่าให้เผลอนะ จะจับปล้ำเลย!”
เด็กต๊องตะโกน

“แน่จริงก็ลองดู”
เสียงก้องๆตอบกลับ


Rrrrrrrrrrrrrrr

“โอยยย จะโทรมาทำไมดึกๆดื่นๆ”
บ่นพี่แคทยกใหญ่ แต่ปกติแกไม่ใช่คนไม่รู้เวลา เน่จึงจำใจรับโทรศัพท์แต่โดยดี อาจเป็นเรื่องด่วนมากก็ได้

“ครับพี่”

[“มีแฟนแล้วเหรอ??”]
น้ำเสียงร้อนรนแปลกๆ มีแฟนแล้วมันผิดตรงไหน

“ครับ มีแล้ว”

[“เป็นเด็กเสี่ยป่ะเน่ แกเด็กใคร”]

“ห้ะ? อะไรนะพี่”

[“มันมีคนแฉเรื่องแกเนี่ย บอกว่ามีเสี่ยที่สุพรรณเลี้ยง มีรูปด้วยนะ แคปมาจากไอจีของหนูอ่ะ แต่ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่านะ มันไม่มีหน้าชัดๆ...แล้วมันใช่หรือเปล่า ไปเปิดดูซิ ทวิตแอค เอ็กซ์ เอ็กซ์ เนท....แล้วบอกพี่มาว่ามันคืออะไร ยังไง แฟนๆถามกันใหญ่แล้ว บางคนก็เชื่อเป็นตุเป็นตะ บอกให้เอาออกจากซีรี่ย์”]

“แอคอะไรนะครับ??”

[“ตัวเอ็กซ์สองตัว แล้วก็ตัวเอ็นโนเกีย อีเอีย ทีไทเเลนด์ แล้วก็ อีเอีย”]

xxnete

....ถ้าอ่านเป็นภาษาไทยด้วยการวิเคราะห์ที่โลกมืดสุดๆ
เน่คิดว่า มันอ่านว่า...เน่ เต้
เด็กมัธยมคนนั้นหรือเปล่านะ?

“พี่แคทครับ”

[“ยังไงลูก พี่ห่วงนะเนี่ย อย่าอ่านเยอะจนเครียดละกัน เอาแค่ที่พอรู้เรื่อง เอาจริงพี่ก็เคยได้ข่าวมาบ้างแหละ แต่นี่ก็อยากคอนเฟิร์ม แต่พี่ไม่เอาหนูออกหรอก จะบ้าเหรอ”]

“คือเน่ก็พูดไม่ถูกอ่ะ...เราคบกันจริงๆ แล้วสำหรับที่บ้าน เขาก็มีสถานะเป็นเสี่ยสำหรับชาวบ้านอ่ะ เน่เลยไม่รู้จะปฏิเสธยังไง...เขายังหนุ่มอยู่นะพี่ ไม่มีเมีย”

[“หนุ่มของแกนี่อายุเท่าไหร่วะ”]

“ก็...ใกล้เลขสี่ละ”

[“ผู้ชายจะสี่สิบ แต่ไม่มีเมีย?!! อิมพอสสิเบิ้ลมากๆ ไปเจอได้ยังไง!!”]

“อ่า...อันที่จริง...เขาเคยแต่งงานแล้ว มีลูกหนึ่งคนครับพี่”

[“โอ๊ย เน่เอ๊ย ...จะปฏิเสธยังไงไม่ให้ดูเป็นเด็กเสี่ยวะเนี่ย...เอางี้ พี่ขอปรึกษากับบริษัทก่อนนะ หาคำสวยๆก่อน วันนี้ดึกแล้วพี่คิดอะไรไม่ออก...แต่เน่เงียบก่อนนะ อย่าเพิ่งทำอะไร ช่วยพี่คิดคำตอบดีกว่า ค่อยพูดจนกว่าพี่จะบอกเด้อ”]

“ครับผม...บายครับพี่”

กับสายตาคนอื่น ยังไงเขาก็เป็นเด็กเสี่ย ...เน่เข้าใจนะถ้าจะโดนโจมตี เพราะมันขัดกับตัวละครที่เขาเล่นพอดู กับบทคุณชายนิสัยดี เรียบร้อย ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง รอพระเอกมาเปิดซิง
เฮ้อ...!

“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
นี่หละสิ่งที่ลำบากใจที่สุด
มันคงฝังเข้าไปในก้านสมองเน่เลยมั้งเรื่องกลัวเสี่ยโกรธ ก็เวลาเสี่ยโกรธมันน่ากลัวนี่นา เน่ไม่รู้คนอื่นจะมีคนที่เกรงใจแบบนี้สักคนในชีวิตหรือเปล่า แต่สำหรับเน่ เน่ก็มีแค่เสี่ยคนเดียวนี่แหละ

“ตายยากมากๆเลยเสี่ย เด็กคนนั้นก่อเรื่องอีกแล้ว”

“ยังไงล่ะ”

“เดี๋ยวเน่เข้าห้องน้ำก่อนนะ แล้วจะมาบอก”
โมโหจนลืมไปว่าตัวเองยังไม่ได้เอาน้ำเสี่ยออกจากตรงนั้น

.
.
.
.


เน่เล่าทุกอย่างให้เสี่ยฟัง พร้อมทั้งเปิดแอคเคาท์ทวิตเตอร์ให้เสี่ยดูด้วย ซึ่งมันชัดเจนว่าคนๆนี้ต้องบ้าคู่จิ้นเต้เน่มากๆ ไม่อย่างนั้นไบโอ หรือคล้ายๆข้อมูลเล็กๆน้อยๆของเจ้าของแอคเคาท์จะเขียนว่า ‘โปเต้ชอบกินคอนเน่ คอนเน่ชอบกินโปเต้ ส่วนฉันชอบกินทั้งคู่’

“Ew น่ากลัวชะมัด”

ไหนจะที่อยู่ที่ลงไว้ว่า ‘ใต้เตียงเต้เน่’ อีกล่ะ

“เสี่ย...เน่กลัวนะเนี่ย รักเฉยๆอ่ะไม่เท่าไหร่หรอก”

“อืม...นี่มันเกินไป พิมพ์แต่ละอย่าง...เหมือนด่าเราด้วย คงผูกใจเจ็บมาก”

“นั่นน่ะสิ นางรักเน่ตรงไหน เหมือนเกลียดกันมากกว่า ดูนี่สิครับ...’ร่านแบบนี้ คาลาไมล์ก็เอาไม่อยู่ ติดใจค*ยลูกครึ่งจนลืมกำพืดตัวเอง’ อะไรอ่ะ อ่านแล้วจะอ้วก”

“เด็กสมัยนี้แรงนะ”
เสี่ยว่าเน่แรงแล้ว แต่คนอื่นน่ากลัวกว่า พอนึกได้ก็อยากกอดคนตัวเล็ก(สำหรับเสี่ย)ขึ้นมา จึงพลิกตัวกอด แล้วก็หอม แล้วก็ไซ้....

“อือ...เสี่ย” เนื่องจากเป็นเด็กเรียบร้อยมาก เน่จึงปัดป้องเสี่ยก่อน เขายังพูดไม่จบเลย
“โลกโซเชียลก็อย่างนี้แหละเสี่ย ไม่ค่อยระวังคำพูดกันหรอก คำหยาบเยอะจะตาย ถึงจะทำให้มันดูตลก แต่มันก็หยาบอยู่ดี เน่ไม่ค่อยเล่นแล้วเดี๋ยวนี้”

“แล้วอินสตาแกรมนั่นล่ะ”

“ลงแต่รูปเฉยๆนี่ครับ”

“แล้วจะทำยังไงต่อไป เขาตั้งใจประจานเลยนะ”

“รอพี่แคทบอกก่อน ...เสี่ยล่ะครับ คิดว่าไง”

“ที่จริงก็มีแผน แต่บริษัทเธอจะยอมหรือเปล่า”

“ต้องยอมสิ แค่เห็นหน้าเสี่ยก็ระทวยกันหมดแล้ว”

“เลอะเทอะ”

“ไม่ได้โม้นะ เน่หมายถึงหน้าตอนโมโหอ่ะ แค่เห็นก็วิ่งป่าราบ เพราะกลัวจะชักปืนมายิงใส่”

“เดี๋ยวเถอะ”

“คิก...อ..โอ๊ย! เน่หายใจไม่ออก!!”
เหมือนเด็กมันจะยังไม่รู้ตัวว่าเป็นมาโซคิสม์ ชอบความเจ็บปวด ถึงได้หาเรื่องให้เสี่ยทำโทษแทบทุกวัน นี่ก็โดนเสี่ยใช้แขนล่ำๆรัดทั้งตัวเป็นงูเหลือม รัดจนเส้นเลือดปูด แล้วเน่จะไม่เจ็บได้ยังไง

ว่าแต่...เสี่ยแกหลงเด็กจนลืมพาไปโรงพยาบาลหรือเปล่า?




-หวานจังเลย ความพยายามหวานของเรากำลังดีไหมคะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เด็กนั่นน่ากลัวเกิ๊น

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ว้าววว เสี่ยมีแผนอะไรอ่ะ :katai2-1:

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
เสี่ยจัดหนักมันเลยนะ
คนที่ทำอะไรเกินไปแบบนี้ ไม่ต้องไปปรานีเลยนะ :katai1:

 

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ไม่น่าเชื่อว่าเสี่ยก็มีมุมนี้กะเค้าด้วยย น่ารักอยู่นะ :hao7:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Chapter 30
นอกจากเป็นพ่อ แล้วยังเป็นอาอีก



รู้จักสำนวน ‘ยิ่งปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว’ ไหม

แผนการของเสี่ยไม่ได้ล้ำลึก ไม่ได้เด็ดขาดอย่างที่เน่หวัง มันเป็นแผนที่เล่นกับความคิดของคน ซึ่งพอมาคิดดูแล้ว เน่กลับชอบยิ่งกว่าการที่เสี่ยไปข่มขู่ หรือลากเอาไปทิ้งแถวชายแดนสักที่เสียอีก
และเนื่องจากว่ามันเป็นแผนที่ปลอดภัยที่สุด บริษัทของเน่จึงยอมอย่างง่ายดาย ไม่ใช่ว่าเพราะเห็นหน้าเสี่ย แล้วพยายามติดต่อให้เสี่ยเข้าสังกัดเลยจริงๆ
....ไม่ได้เอาใจเสี่ยเลยให้ตาย

“อิจฉา เบื่อคนหล่อ ทำไมโลกนี้ต้องมีคนหล่อด้วย”

“ว่าตัวเองอยู่เหรอ”

“อีกแล้วนะเสี่ย —เดี๋ยวนี้ชอบกวนเน่”

ร่างโปร่งลุกจากโซฟานิ่มๆ ไปนั่งตักแข็งๆ แต่ให้ความรู้สึกต่างกันลิบลับ
ตักของเสี่ยนั้นอบอุ่น มีที่วางมือเป็นไหล่กว้างน่าซบ ทั้งยังมีสายคาดกันตกเป็นวงแขนแกร่ง


“เน่โพสต์แบบที่เสี่ยบอกแล้วนะ ต่อไปจะให้ทำอะไรอีกก็บอกได้เลยนะครับ”

“รออีกสักสองอาทิตย์”

“ว่าแต่เมื่อไหร่เราจะกลับสุพรรณฯล่ะครับ เน่คิดถึงหมาแมว คิดถึงเพื่อน”

“ขอเคลียร์กับเด็กคนนั้นก่อนได้หรือเปล่า”

“ก็ได้ครับคุณเสี่ย”

“อยากจะรู้นัก ว่าจะดิ้นพล่านขนาดไหน หึๆ..”
คนฟังแอบขำ ขณะที่จมูกคลอเคลียซอกคอหอมกรุ่น  สงสัยแกจะดูหนังมากไป ทำไมต้องทำเสียงตัวร้ายด้วย

นึกถึงโพสต์ของตัวเองที่ไม่มีอะไรมาก ค่อนข้างจะตรงไปตรงมาเสียด้วยซ้ำ
รูปภาพของเขาที่โพสต์ลงเป็นรูปที่ส่งยิ้มการค้าให้กับทุกคน รอยยิ้มอันสดใส ฉากหลังเป็นผนังห้องสีขาว ฝีมือการถ่ายไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร สนุกดีนะที่มีเรื่องให้รู้กันอยู่สองคน เป็นเรื่องลับๆ ทำตัวลับๆ รู้สึกพิเศษขึ้นไปอีก เมื่อแฟนของเราหล่อมาก ทั้งอยากอวดและไม่อยากอวดในเวลาเดียวกัน
ซึ่งใต้รูปมีข้อความว่า
‘เน่ขอพูดถึงข่าวที่หลุดออกมาสักนิดนะครับ
ผู้ชายในข่าว เน่รู้จักจริง รู้จักมาตั้งแต่เด็กแล้ว ท่านเป็นคุณอาที่เน่เคารพ เราอยู่บ้านหลังเดียวกัน ท่านดูแลส่งเสียแทนพ่อแม่ที่อยู่ต่างประเทศด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่เราจะไปไหนมาไหนด้วยกัน มันเป็นเรื่องปกติธรรมดามากครับถ้าคุณมีญาติที่สนิท ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยใช่มั้ยล่ะ เน่อยากจะให้ใช้วิจารณญาณดู
สำหรับคนที่ปล่อยข่าว เน่ไม่เอาเรื่องนะ แต่อย่าทำอีกเลย เพราะมันสามารถทำลายอนาคตคุณได้เลยนะครับ’

ถ้อยคำง่ายๆ ชี้แจงเพียงแค่เรื่องสำคัญ แต่กลับส่งผลให้ทุกฝ่ายที่คิดไม่ซื่อเข้าใจในสิ่งที่พวกมันคิดเอาไว้
ศัตรูของเสี่ย...พวกนี้จ้องเล่นงานแบบตอดเล็กตอดน้อย เหมือนแมงหวี่แมงวันน่ารำคาญ เหมือนพวกมันแค่หมั่นไส้มากกว่าจะทำให้ล่มจม แต่เสี่ยก็รู้สันดานพวกมันดีว่าจะมาเล่นกับอะไรให้เสี่ยรำคาญที่สุดถ้าข่าวเรื่องคบกันออกไป ข้อความช่วงบนจึงเหมือนสาส์นส่งให้พวกนั้น ให้พวกมันรู้ว่า ‘คุณอา’ นอกสายเลือดคนนี้ เลี้ยงดูปูเสื่อ ‘เด็ก’
ซึ่งมันไม่มีทางเป็นแค่คุณอา ‘ที่เคารพ’ ได้อย่างแน่นอน พวกเสี่ยๆเขารู้กัน เข้ากับสำนวน ผีเห็นผี นั่นแหละ ทีนี้ศัตรูของเสี่ยก็จะได้ไม่มายุ่งกับเน่ หรือถ้ายุ่ง ก็ไม่รุนแรง เพราะเน่เป็นแค่เด็กเสี่ยรอวันหมดสภาพ ถูกทิ้ง ไม่สลักสำคัญอะไรกับเสี่ยเอนก ไม่ใช่คนรัก จึงไม่อยากเสียเวลาวุ่นวาย ส่วนคนนอกอย่างแฟนคลับจะคิดยังไงก็เรื่องของเขา มันตีความได้หลายมุมมองอยู่แล้ว เชื่อว่าเดี๋ยวเรื่องก็ซาไปเอง
สำหรับข้อความประโยคสุดท้าย...ถ้าไม่โง่เกินไป ยัยเด็กคนนั้นต้องเข้าใจได้แล้วว่าถูกขู่ ซึ่งเต้กำลังหาทางติดต่อให้มาเจอกันอยู่ ด้วยความที่เต้ใจเย็นกว่า และเด็กคนนั้นน่าจะชอบเต้มากกว่าเน่ ขืนให้เน่คุยเองสิ พวกใจร้อนพร้อมรบ คงฉะกันแหลก เดี๋ยวจะเป็นประเด็นให้ด่าอีก





เต้นัดเน่ให้มาเจอกันที่ร้านอาหารไทยในห้างแถวมหาลัย
เด็กหนุ่มยิ้มกริ่มด้วยว่าพรุ่งนี้เสี่ยจะพากลับสุพรรณฯ แล้ว เขาน่ะได้ปิดเทอมแค่เดือนเดียว แล้วตอนนี้อยู่กรุงเทพฯ ไปแล้วตั้งอาทิตย์กว่า เสียดายเวลาอยู่สุพรรณฯ มากๆ แต่ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยๆ เสี่ยก็อยู่กับเขาตลอด

“ทำไมนัดมานี่วะ เดี๋ยวคนรู้จักก็เห็นกันพอดี”

“เห็นเยอะๆแหละดีแล้ว และถ้ามันไม่ดีนะ เสี่ยแกคงค้านไปนานละ”

พาร่างตัวเองมายังเก้าอี้สีไม้ ร้านค่อนข้างมืดด้วยสีเอิร์ธโทนเข้มๆ ตกแต่งด้วยสีเขียวของต้นไม้ปลอม แต่กลับดูหรูและรู้สึกเลยว่าแพง
ตั้งแต่ไปอยู่สุพรรณฯ เน่ก็ไม่เคยได้เข้าร้านแพงๆแบบนี้อีก เขายังประหลาดใจอยู่เลยว่าคนกรุงอยู่กันเข้าไปได้ยังไง ข้าวจานละตั้งหกสิบบาทแน่ะ

...นั่นเป็นความคิดของเด็กที่ถูกคนงกล้างสมอง ทั้งๆที่จริงในสุพรรณฯ ก็มีร้านแพงๆ โรงแรมหรูๆ อยู่เหมือนกัน แต่เน่ไม่รู้หรอก ตราบใดที่ข้าวที่บ้านเสี่ยอร่อย

“สั่งเลยเต้ เดี๋ยวเสี่ยเลี้ยง”

“ไม่ใช่ ‘คุณอา’ เหรอ”

“อย่าแซวได้มั้ย”

“น่าอิจฉาว่ะ มีอาที่หล่อขนาดนี้”

“ก็นะ ทำไงได้”
เน่ยักไหล่

“ทำบุญวัดไหนวะ จะไปทำมั่ง”

“ไม่ได้ทำ กินบุญเก่าล้วนๆ เนี่ยเดี๋ยวกลับสุพรรณฯจะไปไหว้พระเก้าวัดต่อยอดบุญสักหน่อย”
จริงๆก็พูดเล่นไปอย่างนั้นแหละ แต่เต้ดูจะสนใจมาก

“เฮ่ย ไปด้วยดิ อยู่กรุงเทพฯ มันน่าเบื่ออ่ะ”

“ไปไม่เป็นหรอกนะ รู้แต่ว่าทั้งเก้าวัดอ่ะอยู่ในซอยเดียวกัน รู้จักวัดพระนอนมั้ย อยู่ในซอยนั้น”

“ไม่ว่ะ”

“วัดที่เขาให้อาหารปลากันเยอะๆไง แล้วพระก็นอนแบบหงายหน้า หนึ่งเดียวในประเทศไทยด้วย แล้วก็มีวัดที่ขุนแผนเคยบวช แล้วก็อีกหลายวัดเลยที่ดังๆ”

“เชื่อมั้ยว่าเรารู้จักแต่วัดป่าเลไลย์”
เต้ทำหน้าเซ็งๆ เขาไม่ใช่สายบุญ ที่ไปวัดได้ก็เพราะพ่อแม่ชวนทั้งนั้น แต่ถ้าไม่มีผู้ใหญ่ชวน เขาก็จะไปปั่นจักรยานเล่นในสวนบ้าง เดินช็อปปิ้งจตุจักรบ้าง

“วัดป่าอยู่ตรงข้ามกัน ไม่ได้อยู่ในซอยนั้น —เต้มาหาเราที่บ้านเสี่ยก่อนสิ แล้วจะพาเที่ยว”

“ไหนบอกว่าไปไม่เป็นไงวะ”

“ก็ให้เสี่ยพาไปไงถ้าแกว่าง หรือไม่ เราก็ให้พี่บอสักคนพาไป”

“พี่หมีน่ะเหรอ”

“เฮอะ! เห็นหน้าแล้วคงหมด’รมณ์เที่ยวอ่ะ เอาคนอื่นดีกว่า”

“ยังมีอีกเหรอ?”
วันที่พาเน่ไปง้อเสี่ยมันดึกแล้ว เต้จึงไม่เห็นเหล่าบอดี้การ์ดแบบครบจำนวน

“มีเยอะแยะ เสี่ยบอกว่าเอาไว้ขู่คนเล่นๆ”

“เหอะๆ”
เอาจริงๆแค่เสี่ยถลึงตาใส่ คนก็กลัวกันหัวหดแล้ว นี่ยังมีกองทัพบอดี้การ์ดอีกพ่อคุณ

ทั้งสองคุยกันเรื่องสัพเพเหระ ส่วนใหญ่เน่จะบ่นเรื่องเสี่ยที่พักนี้ดูสนิทสนมกับคนง่าย ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เห็นเป็น หรืออย่างน้อยๆ เน่ก็ไม่รู้
แต่จากการวิเคราะห์ของเต้แล้ว เขาว่าเนเน่กำลังหึงแค่นั้นแหละ เหมือนจะไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย แต่พอเป็นเรื่องเสี่ยเนี่ยอย่างกับคนละคน

“สวัสดีค่ะพี่ๆ”
และแล้วบุคคลที่ทั้งสองรอคอยก็มาถึง
น้องมายป่วนเมืองยังพอจะมีมารยาทอยู่บ้างนั่งลงข้างเต้ที่จัดที่ให้ไว้อยู่แล้ว เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนั่งข้างเนเน่

“หิวมั้ย สั่งอะไรมั้ย”
เพื่อนผู้เป็นพ่อพระเอ่ยถามน้องมายชื่อโหลด้วยความมีน้ำใจ แม้เน่จะไม่อยากมีให้ก็ตาม

“เอาแบบพี่เต้ก็ได้ค่ะ”

“ท่าทางวันนี้ฝนจะตกนะเต้”
อดว่าไม่ได้จริงเชียว วันนั้นเต้ยังโมโหน้องมันอยู่เลย แล้วยัยงี่เง่านี่ก็กลายเป็นคนมารยาทดีไปอีก

หงุดหงิด!


เนเน่รอให้น้องมายกินข้าวให้เสร็จ ระหว่างนั้นก็เล่นมือถือฆ่าเวลาไปเรื่อย เขาแอบเช็กทวิตเตอร์บ้าง แม้แอคเคาท์ของน้องมันจะถูกปิดไปแล้ว แต่เขาก็อยากจะเช็กให้แน่ใจว่าจะไม่มีแอคเคาท์ป่วนอันอื่นอีก

“แล้วเน่กลับสุพรรณฯเมื่อไหร่”

“ไม่บอก”
หมั่นไส้ไม่อยากพูด

“กวนตีน เดี๋ยวจับจูบซะนี่”

“พูดมาก กินข้าวไปเลยไป”
เน่ถลึงตาใส่ไอ้เพื่อนรูปหล่อที่หัวเราะคิกๆคักๆ เขาล่ะเบื่อจริงๆ มันชอบเซอร์วิสแฟนจนเป็นนิสัย เห็นหน้ายัยมายป่วนเมืองไหมเนี่ยว่ามันฟินขนาดไหน เคี้ยวข้าวแทบไม่เป็นคำแล้ว
เต้นะเต้ กับศัตรูก็ยังจะเล่นไม่รู้เวล่ำเวลา

“ขอโทษครับแม่”

“ไอ้—“

“พี่ๆสนิทกันจังเลยนะคะ น่ารักจังเลย”

“ก็เป็นเพื่อนกันนี่”
เน่ตอบตาขวาง

“คิกๆ”
น้องมันขำ เข้าใจตรงกันได้เลยว่าไม่เชื่อ
เนเน่ไม่ตอบโต้หรอก เพราะน้องมันเลือกที่จะเชื่อไปแล้ว ...เห็นน้ำเชี่ยว เขาว่าอย่าเอาเรือไปขวางให้เรือแตก เสียดายของ



“โอ๊ะ!”
ทีแรกเต้คิดว่าบรรยากาศกำลังไปได้ดีอยู่แล้วเชียว เนเน่ต่อปากต่อคำกับเด็กแบบที่ยังพอรับได้ เหมือนแมวแง้วๆใส่กัน แต่เต้กลับลืมเสียสนิทว่าพื้นที่นั่งว่างข้างเพื่อนเขานั้น ...มีเจ้าของ
และเจ้าของก็มาแล้วด้วย!

“อร่อยมั้ย”
ยิ่งเสี่ยทักออกมาอย่างนี้ ยิ่งทำเอาใจไม่ดีเลย
แกควรจะทักอย่างคนปกติเขาสิ อย่าง ‘สวัสดี’ ‘มานานหรือยัง’ อะไรพวกนี้น่ะ!

“นั่งก่อนสิครับ อร่อยมากเลย เน่ขอสั่งเพิ่มได้มั้ยครับอา”

เคร้ง!!
เสียงช้อนตกจากมือชายหนุ่มผู้ตกกระไดพลอยโจนมาคบเพื่อนชื่อเนเน่

“เอาสิ สั่งเลย สั่งให้อาด้วยนะ”

ร่องรอยความสงสัยปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อๆของเต้
ได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย
เนเน่เรียกเสี่ยว่า ‘อา’ ?!

“เต้เอาอะไรอีกมั้ยเพื่อน”

“เอ่อ...” มองหน้าคนจ่ายเงินแล้วเกรงใจขึ้นมาฉับพลัน
“ไม่เอาล่ะเพื่อน”
เล่นตามเน่บ้าง คงมีแผนอะไร ได้แต่ฮึดฮัดในใจที่เน่ไม่เตี๊ยมกันก่อน

“ไม่คิดจะสวัสดีผู้ใหญ่หน่อยเหรอ”
เหยื่อรายต่อไปเป็นเด็กม.ปลายที่ยังขาดการอบรมอีกมาก เสี่ยใช้สายตาคมจ้องใบหน้าแดงเรื่อ พร้อมโปรยยิ้มเจ้าเล่ห์

น้องมายสะอึกไปสักสองสามวินาที ก่อนจะยกมือไหว้

“อายุเท่าไหร่”
เสี่ยซักต่อ

“สิบเจ็ดค่ะ”

“เป็นคนแถวนี้?”

เด็กเงียบ

“ชอบเต้กับเน่มานานหรือยัง”

“...ก็ตั้งแต่งานถ่ายแบบเซ็ตแรก”

“คงชอบมากสินะ”

“ค่ะ”

“คงมีความสุขมากที่ทำให้พี่เขาทุกข์ใจ หรือมีความสุขที่ได้เป็นคนพิเศษ อยู่ในสายตาคนที่ชอบ มีตัวตน ..เป็นที่จดจำ”
เสี่ยจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเด็กสาว

“มันมีอีกหลายวิธี แต่เธอกลับเลือกทางนี้...คิดบ้างมั้ยว่าจะถูกเกลียด”

มายกำมือแน่น ทั้งกดดัน ทั้งกลัว
เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงทั่วไป มีชีวิตธรรมดา ไม่เคยเจอผู้ชายที่น่ากลัวอย่างนี้มาก่อน เคยอ่านนิยายที่พระเอกเป็นมาเฟียแล้วนางเอกรู้สึกอย่างไร ตอนนี้มายเข้าใจแล้ว
ผู้ชายคนนี้...ไม่ใช่คนธรรมดา

“ตอบสิ”

แค่เสียงเย็นๆ เรียบๆ  แต่กลับทำให้เธอสะดุ้ง
แต่ยังคงปากแข็ง ไม่ยอมพูดอะไรให้เข้าตัวเอง

“พี่เต้กับพี่เน่ของเธอ ก็ยังจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป...ส่วนฉันเป็นแค่คนรู้จัก  ทุกอย่างยังคงเดิมตราบใดที่เธอยอมรับความเป็นจริง —เลิกยุ่งกับพวกเราซะ”

มายกัดปากไม่ตอบโต้
ส่วนผู้ฟังอีกสองหน่อลุ้นตัวเกร็งเหมือนชิงบอลโลก ยิ่งเน่นะ ยิ่งห่วงเสี่ยกว่าใคร เพราะหน้าดุมาก ตาดุ มองดุ ปากดุ มือดุ ดุทั้งตัวเลย

“ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย เธอเป็นเด็กเก่ง อนาคตไกล รู้จักใช้ความสามารถในการสอดรู้สอดเห็นได้เป็นอย่างดี ถ้าใช้ในทางที่ถูกต้อง มันคงจะเกิดประโยชน์กับตัวเธอ เน่กับฉัน เราไม่ได้เป็นอะไรกัน —อย่าทำให้ตัวเองเสียอนาคต”

“.....”

“เข้าใจนะ...เอาล่ะวันนี้คงไม่มีอะไรแล้ว หวังว่าเราจะไม่เจอกันอีก —เชิญ”

มายรีบลุกขึ้นทันทีหลังจากถูกไล่
เธอรีบสาวเท้าออกจากร้าน เก็บกลั้นน้ำตาเอาไว้ จนทำนบพังทลายเมื่อเดินห่างออกมา
เป็นความกลัวที่แปลกประหลาด หัวใจมันสั่น สมองไม่รับรู้ เธอกดปิดเครื่องอัดเสียงในกระเป๋าด้วยความโมโหที่มันใช้อะไรไม่ได้เลย ไม่มีใครหลุดเรื่องลับๆของเน่ออกมาสักคน ซ้ำยังมาเจอมาเฟียโดยไม่ทันตั้งตัวอีก

“คงมีความสุขมากที่ทำให้พี่เขาทุกข์ใจ หรือมีความสุขที่ได้เป็นคนพิเศษ อยู่ในสายตาคนที่ชอบ มีตัวตน ..เป็นที่จดจำ”

“ไม่จริง!”
เธอไม่ได้คิดแบบนั้นนะ
ไม่ใช่
ไม่จริงสักนิด

ปฏิเสธ
แต่ถ้อยคำเหล่านั้นกลับก้องอยู่ในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า




“แค่คำขอโทษยังไม่มี”
เนเน่บ่นเมื่อเด็กมายจากไปแล้ว เด็กนี่ทำกับเขาตั้งเท่าไหร่ หาพวกด่าเขาไปตั้งกี่คน น่าเจ็บใจจริงๆ

“คงกำลังสับสนน่ะ”

“แน่ใจนะว่าจะไม่แย่ไปกว่าเดิม เสี่ยดุมันขนาดนั้น”

“ไม่หรอก”

“แต่เสี่ยเท่มากเลยอ่ะ เอาจริงๆนะเน่ว่าเด็กนั่นควรจับคู่เรามากกว่า เพราะเต้ดูๆไปก็ไม่เท่เท่าเสี่ย”

“ใช่ซี้~คนมันไม่หล่อล่ำ ตัวก็ไม่สูง ลูกครึ่งก็ไม่ใช่นี่หว่า”

“เสี่ยครับ เต้มันแขวะเสี่ยอ่ะ”

“เฮ่ย! ไม่ใช่ๆ! ไม่ใช่ครับเสี่ย”

กรรมอะไรของไอ้เต้วะเนี่ย

อยากเตะคนโว้ย!








ภาพดอกกุหลาบเหี่ยวเฉา กลีบแห้งกรอบย้อยตกลงมาสู่พื้น ปักอยู่ในแจกันแก้วสีหม่น มีน้ำเพียงติดก้นแก้ว

ใต้ภาพนั้นปรากฏชื่อผู้โพสต์ nene_siraofficial และข้อความที่เป็นที่น่าสงสัยในหมู่ผู้ติดตาม
‘บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น แล้วก็ดับไป
บางทีเราก็หลงคิดไปว่าคำว่าตลอดไปนั้นมีจริง แต่ไม่เลย
จากนี้คงต้องดูแลตัวเอง
อยู่ให้ได้
จะไม่เป็นแบบดอกไม้’





มาแต่เช้าค่ะวันนี้ รอขึ้นเครื่องไปเที่ยว เดี๋ยวจะหาพล็อตเที่ยวมาฝากอีกรอบ
ใครอยากอ่านเรื่องแรก ปีนัง ถึง สิงคโปร์ ก็ยินดีเลยค่า แนวเรื่อยๆมาเรียงๆ พาเที่ยวแบบอนาถา

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ฮือออ คุณอาดุมาก กร้าวใจมากเลย ไม่อยากให้ยัยมายด์ยอมแพ้ อยากเห็นโหมดคุณอาดุอีกเยอะๆ ฮ่าๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
เสี่ย .. เท่จริงจัง
หวังว่าทุกอย่างร้าย ๆ จะ .. จบ

แต่โพสต์ของเนเน่ คืออะไรหว่า?
อย่าดราม่าอีกนะ  :katai1:

ออฟไลน์ JanJanIsHappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เกือบดีแล้ววววว แต่โพสต์ของเน่นี่แอบทิ้งปริศนาดราม่ารึป่าว ไม่น้าาาา

ออฟไลน์ kwang2555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
นี่ว่ากับโพสต์ของเน่ต้องมีดราม่าตามมาแน่ๆ
แต่ไม่มีก็จะดีกว่า55555
รอเสี่ยกับน้องเน่อยู่นะคะ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Chapter 31
รักจริง หวังแต่ง





บัญชีใหม่ล่าสุด อาจจะสมัครเสร็จไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ เจ้าของบัญชี Facebook คนนี้ค่อนข้างเด็ดจนอดกดถูกใจไม่ได้ ด้วยใบหน้าคมได้สัดส่วน ดวงตารี ปลายหางตาเชิดเหมือนมองจิกคนตลอดเวลา รอยยิ้มมีเสน่ห์เรียกบรรดาสาวเล็กสาวใหญ่ให้หลงติดกับ
เนเน่มองแล้วอดยิ้มไม่ได้ ภูมิใจในตัวเองจริงๆที่เลือกเชื่อแม่แล้วมาสายนี้

“เพ้ออะไร”
ไทอดแซวเด็กต๊องไม่ได้ เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้มือถือ ไม่รู้ว่าเจอหนุ่มหล่อหรือเปล่า เดี๋ยวต้องไปฟ้องเสี่ยสักหน่อย ช่วยไม่ได้นะ เขาหมั่นไส้เวลาเห็นเด็กนี่มีความสุขได้ตลอด ทั้งๆที่บ้านล้มละลาย แต่ก็ยังสุขสบายในอ้อมกอดเสี่ยหล่อ วาสนาคนเรานี่มันแข่งกันไม่ได้จริงๆ

“เน่มีความสุขอ่ะ อิจฉาล่ะสิ”

“เออ”

“พี่หมีก็ไปง้อพี่เทียนซี่ คนเรานะถ้าง้อจริงๆจังๆ ยังไงก็ใจอ่อน แต่พี่หมีก็เป็นอย่างเนี้ย ฟอร์มจัด ระวังนะพี่เทียนจะไปเจอคนที่ดีกว่า”
เห็นคิ้วคนแก่กระตุกแล้วเน่ยิ่งใส่ไฟ
“รู้สึกช่วงนี้เสี่ยให้พักร้อนด้วย ตอบแทนที่ดูแลงานให้เยอะแยะไปหมด พี่แกไปเที่ยวกับเพื่อนใหม่ที่ทำงานด้วยกันด้วยน้า ....แต่พี่หมีก็ดั๊นนนกลับมาสุพรรณฯกับเน่ คิก...ป่านนี้พี่เทียนคง...หุๆๆ”

“.....ไม่จริง”

“ไม่จริงอะไรเล่า เน่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย พี่หมีคิดไปถึงไหนเนี่ย”

“ฝากไว้ก่อนเถอะ”
ไทขี้เกียจโดนเด็กปั่นหัวแล้ว เขาเดินจ้ำอ้าวออกมานั่งหลบมุมที่บ้านหลังน้อยอันเป็นแหล่งพลอดรักลับๆเวลาเดินเฝ้ายามอยู่บ้านเสี่ย
เทียนนะเทียน ทำไมใจแข็งนักวะ
สวัสดี บางกอก ก็หายเงียบไปด้วย กลัวเหลือเกินว่าเทียนจะกำลังมีความสุขกับเพื่อนใหม่อย่างที่เน่บอกจนลืมตอบข้อความเขา





อีกแค่อาทิตย์เดียวก็จะหมดเทอมแล้ว
เนเน่ไม่อยากกลับไปเป็นเด็กมหาลัยเลย รู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ของเขา เพื่อนในเซคก็ไม่สนิทสักคน ถึงแม้จะทานข้าวด้วยกันบ้าง ทำงานด้วยกันบ้าง แต่เน่ก็ได้แต่ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี  ไม่มีความเห็นอื่น น่าเบื่อ ไม่ใช่อย่างที่คนมีเพื่อนควรรู้สึกเลย
เพื่อนบางคนก็เอาแต่ใจ บางคนก็ไม่จริงใจ บางคนก็พึ่งพาอะไรไม่ได้สักอย่าง นี่เขาคบกลุ่มผิด หรือมันเป็นกันหมดก็ไม่รู้ เหมือนเด็กๆกันทั้งนั้น ไม่เห็นโตกันเลย
หรือว่าเน่ทำตัวแก่เองนะ

“เห็นแล้วเหรอ”
เสี่ยนอนอ่านนิตยสารกอล์ฟอยู่ข้างๆ แกคงเห็นว่าเขาถอนหายใจอยู่บ่อยๆ ตอนเล่นมือถือ

“อือ...เสี่ยหล่อ พี่เทียนก็หล่อ”

“อย่าคิดมากนะ”
เน่อมยิ้ม
เสี่ยเข้าใจผิดแล้ว เน่กำลังกลุ้มเรื่องจะเปิดเทอมต่างหาก ไม่ใช่เรื่องที่เสี่ยโพสต์รูปถ่ายคู่พี่เทียนในท่าทางหวานชื่น ราวกับเปิดตัวคนรักกลายๆ ซึ่งเฟซบุ้คของเสี่ยก็ถูกแชร์ถล่มทลายตามแผนการของแกที่วางไว้ตั้งแต่ต้นเดือนนั่นแหละ

“เน่ไม่อยากไปเรียนเฉยๆ ไม่ใช่เรื่องนี้หรอก”
หลังจากที่ออกข่าวไปว่าเสี่ยเป็น ‘คุณอา’ ที่รักยิ่ง แล้วตามด้วยโพสต์อกหักในอีกไม่กี่วันถัดมา คนก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เริ่มมีเสียงแตกเป็นหลายฝ่าย เสี่ยจึงปล่อยหมัดสุดท้ายเป็นภาพเหล่านี้ในเฟซแกเอง
เน่ว่าคนเครียดน่ะไม่ใช่เขาหรอก แต่เป็นไอ้พี่หมีโน่น

“ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ลองพักสักปีส—“
RRRRR

นั่นไง
มือถือเสี่ยดังทันที

“ว่าไง”
เสี่ยพูดกับคนในสาย

“ถามเขาเองสิ”
เน่เห็นนะว่ารอยยิ้มของเสี่ยมันกวนแค่ไหน

“คงรู้เรื่องหรอก”

“อย่าให้เสียงาน”


.

.

.


[ช่วยพี่หน่อย]

อยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้นานๆจัง
ไอ้ความรู้สึกชนะ ความลิงโลดเมื่อถูกคนที่เราหมั่นไส้ขอร้องอ้อนวอนเนี่ย!

เนเน่น่ะก็สงสารพี่หมีอยู่แล้วล่ะ คนเห็นหน้ากันมาตั้งกี่ปี ความผูกพันในแง่ของพ่อแง่แม่งอนมันมีอิทธิพลมากโข ไม่อย่างนั้นละครจะมีบทพระเอกนางเอกตีกันแต่สุดท้ายก็รักกันเหรอ เขาเลยกะจะช่วยพี่หมีน้อยเต็มที่ แม้ไม่อยากให้พี่เทียนกลับมารักคนแบบนี้ แต่คงเป็นเรื่องยากอันดับสองของโลกเลยล่ะ นี่ถ้าหากพี่เทียนตัดใจไปคบคนอื่นบ้าง เน่คงไม่ลังเลที่จะปฏิเสธ
เฮ้อ!
ความรักหนอความรัก
เสี่ยรักเน่แบบที่พี่เทียนรักพี่หมีหรือเปล่า
รักแบบที่ ...มีคนๆหนึ่งอยู่ในใจตลอดเวลา

“โอ๊ย แล้วจะดราม่าทำไมเนี่ย”
เหมือนเน่จะฟื้นคืนสติได้ แต่ดันเป็นตอนที่ปลากำลังจะติดเบ็ดพอดี พอมือมันทิ้งจากคันเบ็ด เจ้าปลาเลยชิ่งหนีไปไกล

“เป็นไร เสี่ยไม่รักเหรอ”
เพื่อนรักสองหน่ออดเสียดายไม่ได้ แต่ก็ไม่กล้าด่าเน่มันหรอก อุตส่าห์ซื้อเบ็ดฝรั่งยี่ห้ออย่างแพงให้เป็นของขวัญ แล้วยังมานั่งตกปลาด้วยกัน ทั้งๆที่ตัวขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าพันเท่า
นี่พวกเขาจะไม่พูดถึงที่เน่เป็นดาราอีกนะ

“ไม่ใช่โว้ย”

“วัยรุ่นแบบพวกเราจะเครียดเรื่องอะไรวะถ้าไม่ใช่ความรัก”

“เออๆ กูจะทำไงดีวะ”
ในที่สุดก็ยอมปริปาก

“เรื่องอะไร”
มิคขยับเข้ามาใกล้ๆ มันเป็นไปตามสัญชาตญาณเวลาจะจับกลุ่มสนทนาปัญหา(ของ)ชาวบ้าน

“ก็....ฟังก่อนนะเว่ย”
เน่กลั้นใจพูดต่อ
“กูอยากซิ่วว่ะ...มันน่าเบื่ออ่ะ แล้วก็อยู่ไกลเสี่ยด้วย สงสารเสี่ยต้องเดินทางไปๆมาๆ”

“สงสารหรือหึงกันแน่”
เอ็มแซว

“หึงอะไรเล่า!! —เออ..ก..ก็ระแวงนิดหน่อย ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดอ่ะ มึงอ่ะมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอเอ็ม น่าจะเข้าใจ”

“เข้าใจอยู่ เฮ่ย! ปลาติดเบ็ดๆ ไอ้มิคมึงมาจับแทนกูดิ๊”
คนถูกใช้ส่ายหัวเบาๆแต่ก็ช่วยเพื่อน มันจะได้เป็นศิราณีได้อย่างสบายใจ

เอ็มพาร่างที่เริ่มจะท้วมเพราะหนักเบียร์ไปหาเน่ พลางช่วยเพื่อนดึงหมวกให้ปิดใบหน้าขาวๆให้มากกว่าเดิม เห็นแล้วค่อยสบายใจหน่อย

“แต่มึงคิดดีนะว่าที่จะซิ่วไม่ใช่แค่ห่วงเสี่ย”

“อืม มันน่าเบื่อจริงๆ มันไม่ใช่ทางของกูเลยว่ะ”

“แล้วมึงชอบแบบไหน”

“ชอบอะไรที่แอดเวนเจอร์อ่ะ”

“ตกเบ็ดไปทั้งชาติเถอะมึง”

“เออ ถ้ามันมีโรงเรียนสอนก็คงเข้า”

“เถียงกันอยู่นั่น”
มิคโยนไอ้ช่อนตัวเขื่องลงถัง แล้ววักน้ำคลองใส่แค่ครั้งเดียว พอให้ตัวปลาไม่แห้ง
ที่จริงได้แต่ไอ้ช่อนตัวเดียว มือสมัครเล่นอย่างพวกเขาก็พอใจแล้ว อีกอย่างเรื่องของเน่สำคัญกว่า สามหนุ่มสามมุมจึงวางมือจากเบ็ดคันงาม แล้วมาจับกลุ่มคุยใต้ต้นมะขาม ซึ่งมีแคร่เก่าๆของเจ้าของนาที่สนิทกับเอ็มตั้งอยู่

“แล้วบอกเสี่ยหรือยัง”
มิคถามหลังจากที่นั่งฟังอย่างเงียบๆมานานสองนาน

เน่ส่ายหน้า เขาไม่กล้าบอกหรอก
“เคยเกริ่นๆว่าไม่ค่อยชอบ แต่ก็ไม่เคยบอกว่าอยากลาออก”


“กูว่าบอกไปเถอะ ไม่งั้นมันเสียเวลานะเว่ย ถ้าเรายังมีทางเลือกจริงๆ แล้วเราก็ไม่ชอบมันจริงๆ ยังไงเสี่ยก็เข้าใจ แกเคยเป็นเด็กมาก่อน”

“เป็นเด็กนอกด้วย”
เอ็มเสริม

“เออ คงไม่แคร์เรื่องจุ๋มจิ๋มแบบนี้หรอก เขาเลี้ยงมึงได้ หรือมึงกลัวเสี่ยทิ้ง?”

“ไม่รู้สิ...ไม่เชิง —แค่...แปลกๆอ่ะ รู้สึกว่าเราหลงเสี่ยมากๆ มากจนจะบ้าแล้วเนี่ย แต่เสี่ยแกเสมอต้นเสมอปลายไปหน่อย แล้วช่วงที่ไม่อยู่ด้วยกันก็ออกงานสังคมคนเดียว”

เอ็มกับมิคกลอกตามองบน นี่มันอาการ
“หึงชัดๆ!”
แฝดนรกพูดพร้อมกัน อยากจะเอาคันเบ็ดตีหัวเพื่อนเสียจริง แต่มันน่าเอ็นดู พวกเขาจึงเก็บความมันเขี้ยวไว้ก่อน

“เอาเท่าที่มองจากคนนอกนะ เสี่ยเนี่ยโคตรหวง ทั้งห้ามนู่นห้ามนี่ ไม่ให้เล่นละคร ไม่ให้ออกสื่อ เป็นไงล่ะมึง พอเสี่ยออกบ้างก็หวงเขา กรรมตามสนอง”

“เออดิ—เฮ้อ ! อยากกลับมาอยู่นี่อ่ะ ที่มอมึงมีไรน่าเรียนบ้าง”

“ไม่ค่อยเยอะนะ มีบริหาร คอมพิวเตอร์ สินกำ—“
เอ็มกับมิคอยากช่วยเน่ให้พ้นจากความว้าวุ่นใจ โดยที่เจ้าตัวก็คงไม่คิดว่ามันน่าเป็นห่วง
ตลอดหลายเดือนที่แยกกัน พวกเขาติดต่อกับเน่อยู่บ้าง แต่ไม่รู้ถึงรายละเอียด รู้ว่าเน่ทำอะไร ทะเลาะกับเสี่ยไหม หรือรักกันปานจะกลืน จึงพอเข้าใจสถานการณ์อยู่บ้าง
เน่น่ะเป็นเด็กที่ถูกสั่งให้เป็นผู้ใหญ่เร็วๆ จึงเหมาะแก่การเอามาบริโภค แต่จะเลี้ยงได้มั้ยนั่นก็อีกเรื่อง
เท่าที่สังเกตมา ยังไงเสี่ยก็รักเน่  ทางนี้ไม่เห็นมีข่าวอะไรเลย อยู่เป็นหนุ่มหล่อให้สาวๆปรายตากันไปอย่างนั้น แกเคยสนใจใครเสียที่ไหน พวกเขาคิดว่าเสี่ยเชื่อใจได้ ฉะนั้นถ้าเน่จะกลับมาจริงๆ ก็อยากให้ทำเพื่อตัวเองให้มากๆ
ประมาณว่าอยากเรียนในสิ่งที่ชอบ 80
คิดถึงเสี่ย อยากเจอหน้าอีก 20 ก็พอ


อ้อ! หลังจากได้ระบายกับเพื่อนเกลอจนพอใจแล้ว เน่ยังเล่าแผนการช่วยสามีภรรยาคู่อาภัพให้กลับมาคืนดีกันด้วย





“ก็คิดอยู่แล้วว่าเน่จะมาทำไม”

ร่างสมส่วนดูสะอาดเหมือนหนุ่มกรุงโดยกำเนิดพรูลมหายใจด้วยความเซ็งที่ถูกเด็กหลอก เขาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาหุ้มเบาะหนังสีแดงแจ๋นแสบตา
ใช่ ....มันคือร้านไอศกรีมชื่อดังที่มีไม่รู้กี่สาขา แล้วเน่ก็นัดมาเจอเขา โดยบอกว่ามีเรื่องให้ช่วย
แล้วไหนนี่
ไอ้เด็กดื้อน่ะ

เทียนหมุนดอกกุหลาบในแจกันเล็กๆเล่นด้วยจิตใจที่เหม่อลอย
เขาจะอยู่กรุงเทพฯได้อีกนานแค่ไหน ในเมื่อมันไม่ใช่ตัวตนเขาเลย อยากตกปลา ขี่รถเครื่องเที่ยวงานปิดทองฝังลูกนิมิต แล้วก็ดูดนตรีกินโต๊ะจีนรสชาติดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ก็สนุกที่ได้เจอเพื่อน


“ไง”

เฮ้อ!
เน่นะเน่ หลอกกันได้

เออๆ เทียนก็ไม่ได้โง่พอที่จะเชื่อว่าเน่กลับมากรุงเทพฯเพื่อจะคุยกับเขาหรอก ป่านนี้คงมีความสุขอยู่กับเสี่ย

“หาทางมาจนได้นะ”
น้ำเสียงเรียบๆเอ่ยทัก ไม่ได้คุยกันแบบตัวๆมาตั้งเท่าไหร่แล้ว

“ขอบคุณนะเทียน”

ไทกล่าวเรียบๆ ก่อนนั่งลงบนโซฟาฝั่งเดียวกัน แน่นอนเทียนไม่ยอมง่ายๆ พาร่างตัวเองลุกหนี แต่มือกลับถูกไทคว้าไว้อย่างรวดเร็ว

“จะไปไหน~ ไหนมาดูหน้าหน่อยซิ ตัวการที่ทำให้เน่อกหัก”
คนง้อรีบเล่นมุกคลายเครียด แต่คนฟังไม่สนใจ

“เทียน....นั่งคุยกันก่อนสิวะ”

เทียนถอนหายใจ แล้วเลือกนั่งเก้าอี้ตรงข้าม ไม่มีทางเสียหรอกที่จะมาจู๋จี๋ด้วย

“คิดถึง”

“ให้เน่หลอกกูทำไม”

ไทยิ้มเจ้าเล่ห์
“ขอบคุณนะที่ยอมเชื่อคำขอที่ไม่มีทางเป็นไปได้”

เทียนกลอกตาหนี ไม่อยากมองหน้าไอ้คนรู้ทัน

“วันนี้ขอคุยด้วย ส่วนวันพรุ่งนี้...มึงจะตัดสินใจยังไง กูก็ยอมรับว่ะเทียน”




-ไม่มีค่ะดราม่า สงสารเน่  :ling2:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
กลับมาอยู่บ้านเราเถอะเน่ เลือดสุพรรณ อยู่ที่ไหนก็ไม่เหมือนบ้านเรา

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ JanJanIsHappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น้องเน่ต้องขอเสี่ยซิ่วกลับสุพรรณได้แน่ๆ ลองดูลูกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าเสี่ยโคตรหล่อและคูลมากกกก 55555555555

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Chapter 32
ชีวิตของ ‘เรา’ I




ไอศกรีมรสช็อกโกแลตค่อยๆละลายกลายเป็นน้ำอยู่ในถ้วย ในเมื่อไม่มีผู้ใดสนใจที่จะกินมัน อาจเป็นเพราะฟ้าฝนเป็นใจ อาจเป็นเพราะเทียนอารมณ์ดีเกินกว่าที่จะมากินของหวานเพื่อเพิ่มน้ำตาลในเลือด ...แค่นี้เขาก็กระปรี้กระเปร่ามากเกินพอ ฟังไทเล่าอดีตความหลังก็สนุกดี แม้รู้ว่าเจ้าตัวพูดไปเพื่อขอคืนดี ...ขอให้เขาคิดถึงวันที่ยังรักกันมากๆ

ตอนนั้นยังวัยรุ่น อุปสรรคนอกจากการบ้านยากฉิบหายแล้วก็ไม่มีอะไรเลย ความรักมันถึงสนุก อิสระ ร้อนแรง

“จำไอ้กล้าได้มั้ย ที่แม่งสงสัยเราสองคนอยู่คนเดียว โคตรเก่ง”

“จำได้ ทำไมล่ะ”

“เจอมันที่ห้างแถวลาดพร้าว ผอมมาก แต่แฟนอย่างแจ่ม”

คนฟังยิ้มอ่อน “แล้วไงต่อ”

ไทเงียบไป
กำลังเรียบเรียงคำพูดให้เข้าที่เข้าทาง
“มันดูรักแฟนมันมากนะ เลยอิจฉา”
เตรียมตัวไว้ให้ดีนะเทียน ไอ้หมีคนนี้จะเข้าเรื่องแล้ว

“อืม...แล้ว?”
อยากรู้ว่าจะมาไม้ไหนเหมือนกัน

“เห็นมันแล้ว...กูแปลกใจ ว่าทำไมคนเพี้ยนๆอย่างมันถึงรู้จักรักคนได้ขนาดนั้น แม่งเมื่อก่อนนะไม่สนใจอะไรเลยนอกจากนั่งเป่ากบ”

“ก็คนมันโตขึ้น”

“ไม่รู้สิ ไม่นึกว่าจะเห็นมันในสภาพเป็นผู้เป็นคน มันดูแลแฟนมันดีมาก บอกด้วยว่าจะพาไปหาบ้านเช่าอยู่ด้วยกันสองคน ไม่อยากให้แฟนอยู่คนเดียว มันเป็นห่วง แล้ววันนั้นมันมาซื้อราวตากผ้าใหม่ เพราะที่มีอยู่เล็กเกินไป ไม่พอแขวนเสื้อผ้าของผู้หญิง แม่งโคตรน่ารักเลย มันใส่ใจคนเป็นด้วยว่ะ”

“ความรักเปลี่ยนคนล่ะมั้ง”
เทียนออกความคิดเห็น

“มันถามถึงเทียนด้วยนะ ถามว่าสบายดีมั้ย”

“ตอบไปว่าอะไร”

“ตอบว่าสบายดี เมียกูทั้งคน”

“ไอ้หมีควาย!”
เอาไอติมละเลงหน้าเสียเลยดีมั้ง พูดอะไรไม่อายปาก เบื่อจริงๆ
เทียนส่ายหน้าระอา ก่อนจะหยิบบิลไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ ทิ้งหมีควายให้นั่งขำไปคนเดียว




“เทียน”
ร่างหนาถือวิสาสะจับมือเจ้าของชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำไงได้ล่ะ เขาอยากเดินจับมือเทียน อยากเดินไปพร้อมๆกัน เห็นไหมคนเยอะจะตาย ห้างใหญ่เสียขนาดนี้ ถ้าเทียนเดินหลงจะว่ายังไง คนๆนี้มีแค่หนึ่งเดียวในโลกด้วย ไม่ทิ้งให้โง่หรอก (เพราะโง่ไปแล้ว)

“ที่ถ่ายรูปกับเสี่ยน่ะ หึงนะ”
ไทเอ่ยขึ้นเบาๆข้างหูเมื่อเทียนหยุดดูร้านเสื้อยืดลายกราฟฟิกเท่ๆเข้ากับตัว

“ตัวนี้สวยมั้ย?”

“.....”

ไม่ตอบ เพราะเทียนแกล้งเปลี่ยนเรื่อง

“ไม่ตอบก็ตามใจ ว่าจะซื้อให้สักหน่อย”

ทีนี้ล่ะหูผึ่ง ไทรีบคว้าเสื้อตัวนั้นมา ทำหน้าสำนึกผิดเหมือนหมีอดข้าว

“ไอ้หมีควาย” เทียนด่าเบาๆ เป็นคำด่าด้วยความเอ็นดูมากกว่า เพราะคนตลกทำอะไรก็ตลก เป็นตัวตนที่มีเขารู้อยู่เพียงคนเดียว มันถึงได้ยึกๆยักๆกันอยู่นี่ไง
เทียนก็อยากรู้จักไทให้น้อยลงกว่านี้บ้าง อยากให้ไทกลายเป็นคนอื่น....แต่ยากเหลือเกิน
ความผูกพันมันผูกมัดแน่นเสียยิ่งกว่าเงื่อนตายที่ถึงแม้จะตัดให้ขาดด้วยกรรไกร แต่คนสติดีที่ไหนเลือกตัดตรงเงื่อน? สุดท้ายแล้ว...ปมเงื่อนอันยุ่งเหยิงนั้นก็ยังคงอยู่ ไม่เคยถูกแก้ ...ไม่เคยเลย




ไทจ่ายเงินค่าเสื้อที่จู่ๆก็ยื่นเงินโดยไม่รู้ตัว และไม่รู้ว่าซื้อให้ใครกันแน่ ก่อนทั้งสองจะเดินออกมาจากร้าน เดินดูเสื้อผ้าไปเรื่อย
“อยากทำร้านขายเสื้อผ้าขายตลาดนัดเนอะ”

คนฟังพยักหน้าเห็นด้วย งานอิสระแบบนั้นเขาใฝ่ฝันมานานแล้ว
ก็ไม่ใช่ว่าอยู่กับเสี่ยแล้วเบื่อ เพียงแค่...อยากเป็นเจ้านายตัวเอง พนันเถอะว่า..คนทุกคน หรืออาจจะซักร้อยละ 90 ในโลก ต่างคิดแบบนี้กันทั้งนั้น

“มึงเป็นคนสกรีนเสื้อนะไท”

“ได้สิ แต่จะสวยหรือเปล่าไม่รู้นะ”

“สวยไม่สวยก็ช่างมัน พ่อค้าหล่อเสียอย่าง”

“โห ชมกูเป็นด้วย”

“เออ อยากอ้วกเลยว่ะ ไม่น่าชมเลย พลั้งพลาดจริงๆ”

“มึงแม่ง...” มันเขี้ยว อยากกัดปาก

ใช่ว่าเทียนจะไม่เห็นสายตาหื่นนั่น ให้ตายสิ ไม่ได้เจอะกันมาตั้งนาน มันไม่ค่อยชิน พูดง่ายๆก็เขิน แต่ต้องทำเป็นเก๊กกลบเกลื่อน ไม่ให้ไทมันได้ใจ เท่านี้ก็ใจดีมากพออยู่แล้ว
จะว่าไปความยุติธรรมอะไรนั่นมันมีจริงหรือเปล่าเทียนอยากรู้นัก
ไอ้คนที่ทำเขาเจ็บมานักต่อนัก แต่กลับเสียใจไม่เท่าเขา

“จะกลับบ้านเรามั้ย”

“ไม่รู้”

“งั้นกูขออยู่กับมึงที่นี่นะ”

เทียนรู้สึกถึงแรงกระชับที่ฝ่ามือ

ต่อให้ตายยังไง พวกเขาก็ย้อนกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ เขาผิดเองที่ไปคบคนบ้าๆบอๆ แต่อย่างน้อยๆมันก็ไม่เคยไม่รัก ทั้งสองต่างผ่านช่วงเวลาตั้งแต่เด็กจนเป็นผู้ใหญ่ เปลี่ยนไปบ้าง...ไม่เปลี่ยนไปบ้าง
อยากให้อภัย
...ไอ้คนงี่เง่า

เทียนเลือกที่จะเงียบ เขาอยากปล่อยให้ไทได้คิด ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรบ้างตอนที่เดินจับมือกันเย้ยประชาชีไปทั่วทั้งห้าง ไม่ได้ซื้อของแล้ว แต่ก็ยังคงเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย มีเพียงผู้ชายข้างๆที่ยอมเดินตามโดยไม่บ่น
กระทั่งขึ้นรถคันหรู อภินันทนาการจากเสี่ยที่ยอมให้ไทมาตามแผนของเน่
เทียนไม่ได้เอารถมา เขาจึงอาศัยติดรถไปด้วย อย่างไรก็สบายกว่าโหนรถเมล์

“ไท...”
น้ำเสียงอ้อนวอน บอกให้รู้ว่าประโยคต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ไท ‘ต้อง’ ทำ ไม่ใช่คำสัญญาปากเปล่า


“เราจะเก็บความลับไปจนวันตายก็ได้ แต่มึงอย่าคบใครบังหน้าอีกได้มั้ย แล้วก็อย่าโกหกกู เพราะนี่คือโอกาสสุดท้ายของมึง”

ไทอมยิ้ม ต้องสัญญาสิ

“กูมีตัวเลือกเยอะ และมึงก็รู้”

ขู่อย่างนี้ไอ้หน้าหมีไปไม่เป็นเลย เขาไม่อยากนึกภาพเทียนกับผู้ชายที่เพอร์เฟ็คต์กว่าเขาจู๋จี๋กัน เพราะแค่คิดก็อยากจะคว้าลมข้างๆเทียนมาเตะสักป๊าบสองป๊าบ
เทียนจะต้องมีแต่ไท
ไทต้องคู่กับเทียน
หรือถ้าจะเอาให้เหมาะกว่านั้น เขาก็พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็นธูปเลยคอยดู!






-สั้นๆจ้า พี่เทียนค่าตัวแพง

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ฮรือออ
พี่ไทน่ารักกกก
รักกันนานๆน้าาา

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Chapter 33
ชีวิตของ ‘เรา’ II




หน้าหนาวมาเยือน
คิดว่าจะได้เจออากาศเย็นๆท่ามกลางป่าปูนซีเมนต์น่ะเหรอ...?
โอกาสนั้นน่ะ เจอเพียงสามวันต่อปีเท่านั้นนั่นแหละ ที่เจอบ่อยกว่าลมหนาว เห็นจะเป็นลมฝนเสียมากกว่า

ตัดภาพมาที่ผู้ชายสองคนจูงมือกันวิ่งฝ่าสายฝน ถึงตัวจะเปียกซ่กทั้งคู่ แต่คนที่ดูจะตัวใหญ่กว่าก็ยังคงไม่ละมือไปจากศีรษะของอีกคน ราวกับว่าฝ่ามือเพียงแค่นั้นจะสามารถป้องกันทั้งลมทั้งฝนที่โหมกระหน่ำได้
ทั้งสองเห็นป้ายรถเมล์เก่าๆ จึงคิดหยุดพักให้หายเหนื่อย มีคนยืนหลบอยู่ก่อนสองคน เป็นเด็กผู้หญิงม.ปลาย โรงเรียนแถวนั้น ส่วนอีกคนเป็นลุงแก่ๆ นั่งตาลอย ดูจากสภาพการแต่งตัว และความคุ้นหน้าคุ้นตา คาดว่าเป็นคนเร่ร่อนที่แกอาศัยอยู่แถวนั้น

“ข้าวเปียกหมดแล้ว”
เทียนชูถุงข้าวก้อนแข็งๆ ที่เขาขายกันในตลาด พวกเขาต้องยอมกินข้าวห่วยๆแบบนี้ไปก่อน เพราะข้าวจากสุพรรณฯที่บ้านส่งมาให้เพิ่งหมดไป ช่วยไม่ได้...ดันมีหมียักษ์เพิ่มมาอีกคนนี่นา

สายตาไทผิดหวัง แต่ปากกลับฉีกยิ้มเพื่อให้คนรักสบายใจ แต่หารู้ไม่ว่าเทียนสังเกตเห็นทุกความรู้สึก ...คบกันมาตั้งนาน เรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่รู้

“กินอย่างอื่นแทนก็ได้ กับก็ยังอยู่”
ไทชูถุงของตัวเองบ้าง ภายในมีข้าวแกงสองถุง กับปลาทอดแห้งๆ ที่คงจะชื้นนิดหน่อยอีกหนึ่งตัว

“จะอิ่มเหรอ”

“ไม่อิ่มก็ต้องอิ่ม ป่านนี้ป้าคงเก็บร้านแล้ว ลวกบะหมี่กินก็ได้ เหลือตั้งหลายห่อ”

“ซื้อหมี่เกี๊ยวปากซอยไปกินมั้ยล่ะ”

“ไม่ต้องหรอก”

“อยากกินอะไรก็บอกสิ”

“แค่นี้ก็พอแล้ว...ดูสิเปียกหมดเลย จะเป็นหวัดหรือเปล่าหืม”
ไทเกลี่ยปอยผมที่เปียกปรกหน้าขึ้นไปด้านบนแทนเจ้าของ ไม่ว่าในสายตาคนอื่นเทียนจะมาดแมนสักแค่ไหน สำหรับไท เทียนก็คือเด็กผู้ชายตัวเล็กที่โคตรซน เขาต้องดูแลอยู่ตลอด ริ้นก็ไม่ให้ไต่ ไรก็ไม่ให้ตอม ยกเว้นไอ้หมีตัวใหญ่ตัวนี้ไว้หนึ่งตัว

...นัยตาสีอ่อนมีเสน่ห์
เกิดมายังไม่เคยเจอใครมีดวงตาสวยเท่านี้ แม้มันจะหม่นแสงลงด้วยอะไรหลายๆอย่าง
โอเค
เก้าในสิบของสาเหตุก็คือเขา ไม่ปฏิเสธ
แต่ตอนนี้ยอมรับผิดแล้ว จะอยู่เคียงข้างกัน ทุกข์หรือสุขก็จะอยู่ด้วยกัน

“จ้องอยู่ได้ เดี๋ยวกูก็ท้องหรอก”
คนกำลังจะท้องรีบทักแก้เขิน ไอ้ไทมันไม่รู้นี่ว่าสายตาตัวเองน่ะรุนแรงแค่ไหน ไหนจะเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกสองคนอีก ไม่อายเขาบ้าง

เทียนจับมือที่เพิ่งช่วยเก็บผมเขามากุมไว้แทน ซ่อนไว้ข้างๆตัก เบียดๆ กันเพราะหนาว

“ทำไมมึงหล่อจังวะ”
อะไรของไอ้หมี

“มึงก็หล่อ”

“มึงหล่อกว่า น่ารักด้วย ผมเปียกก็ยิ่งน่ารัก นึกถึงตอนมึงออกจากห้องน้ำใหม่ๆเลยว่ะ”
น้ำเสียงหื่นๆ ไม่คิดปิดบัง
คนฟังกลอกตาด้วยความหน่ายใจ สงสัยโดนฝนจนเป็นไข้แล้วมั้ง เขาจึงลุกขึ้นยืน เตรียมวิ่งกลับห้อง

“หนาวแล้ว กลับกันเหอะ”

“ขอจับมือหน่อย”
ไทยื่นมือออกมา เวลาเดินด้วยกันมันต้องจับมืออีกฝ่าย เป็นเรื่องอัตโนมัติไปซะแล้ว

“ขอทำไมเล่า!”

คนของง ไหงจู่ๆมาโดนว่า? ก็จับเป็นปกตินี่?

เทียนป้องปาก ขยับหน้ามาใกล้ๆหูหมี ก่อนจะกระซิบสู้เสียงฝน
“คนอยู่เยอะแยะ พูดทำไม มันอาย จะจับก็จับเลยสิวะ”
เขารู้ว่าไทต้องน้อยใจบ้างล่ะ ถูกด่าแบบไม่รู้ต้นสายปลายเหตุแบบนั้น เขาจึงต้องรีบแก้ตัว ความรู้สึกของกันและกันน่ะสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด
เขารักไท จะไม่ยอมให้ไทรู้สึกไม่ดีต่อตัวเขา

“ขอโทษนะที่ตะคอก”
เสริมด้วยน้ำเสียงแมวๆ

ซึ่งคนฟังปลื้มตัวลอย อยากจะจับฟัดเสียตรงนี้ แต่ต้องยั้งใจไว้ก่อน วิ่งอีกแค่ห้านาทีก็ถึงห้องแล้ว เมื่อนั้นแหละจะขย้ำให้แหลก


.
.
.
.
.


“แฮ่ก....ท..ไท...”
ร่างสูงโปร่งทรุดลงไปกองกับพื้น แนบหน้าผากกับผนังห้องด้วยความเหนื่อยและหมดแรง เทียนหอบเอาอากาศเข้าสู่ปอด เท้าเขี่ยกางเกงเปียกๆไปให้ไกลจากบริเวณสงครามโดยรอบ ตรงหน้า...ประตู

ร่างของไททรุดตามมา ลมหายใจร้อนรินลดต้นคอพาเสียว ริมฝีปากนุ่มหยุ่นคลอเคลียอยู่แถวติ่งหู มือหนาชื้นเหงื่อลูบไล้เอวขึ้นลง คล้ายการสะกดจิตให้อีกฝ่ายเคลิ้มตามอีกรอบ ทั้งๆที่เหนื่อยแทบขาดใจ

เทียนร้องห้าม เข้าอยากอาบน้ำเต็มแก่ น้ำฝนของเมืองกรุงนั้นสกปรก มีแต่เชื้อโรคพาหะของไข้หวัด และอะไรต่อมีอะไรมากมาย ไหนจะเท้าที่เหยียบย่ำน้ำขยะอีก
คนรักความสะอาดพลิกตัวกลับมาหาคนรัก ตอนนี้นั่งลงกันทั้งคู่ด้วยความเมื่อย ไทนั่งคุกเข่า แท่งสวรรค์ยังคงชี้โด่เด่ ว่าอะไรได้ ก็ไอ้เจ้าของมันยังรูดขึ้นลงเหมือนเด็กที่ชอบเล่นน้องชายตัวเอง

“บ้า”
คันปากอยากด่า แต่คนโดนว่ากลับหัวเราะ ก่อนจะจับเข่าเทียนแยกออก ช่องทางสวยงามนั้นมีของเหลวขุ่นไหลออกมาเลอะพื้นไม่มากนัก ไทเพ่งมองราวกับหลงใหลมันเป็นอย่างมาก ท่อนลำของเขาแข็งขึง อยากปลดปล่อยอีกสักรอบ จึงส่งสายตาขอร้องอ้อนวอนให้ที่รักเห็นใจ
เทียนยิ้มมุมปาก หน่ายใจ แต่เขาก็รักมัน จึงเลื่อนตัวลงเล็กน้อย อ้าขาให้กว้างขึ้นอีกนิด เพื่อเปิดทางให้ไทสอดใส่ได้สะดวก
ไทสอดท่อนลำยาวเข้าไปอีกรอบ ครั้งนี้เข้าได้ง่ายเพราะน้ำเก่ายังค้างอยู่จึงช่วยหล่อลื่นได้เป็นอย่างดี

ขยับช้าๆ
รับเอาทุกความรู้สึก
ทั้งรัก ทั้งโหยหา ปรารถนาครอบครอง
คนๆเดียวที่ทำให้รู้

“อ๊า....เบาๆหน่อยไท ไม่ใช่บ้านเดี่ยวนะ”

“อืม...อือ..พยายามอยู่”
น้ำเสียงอดกลั้นของไทเร้าอารมณ์คนฟังจนต้องรั้งต้นคอเข้ามาจูบ


“ไท...กูว่า...อึก...เรา...”

เจ้าของชื่อค่อยๆผ่อนแรงกระแทกลง รับรู้ว่าเขากำลังฟังอยู่

“หืม...พูดมาสิ”

สองมือสอดประสาน ปลายจมูกโด่งคลอเคลียข้างแก้ม เทียนของไทผอมลงตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพฯ เวลากระแทกแล้วเจ็บอยู่เหมือนกัน เขาอยากให้เทียนมีความสุขกว่านี้ กินอิ่มกว่านี้ สาบานได้เลยว่าตอนที่กลับไปสุพรรณฯ ไทคิดถึงแต่เทียนทุกขณะจิต ทุกกิจกรรมที่เขาทำ ข้าวทุกมื้อที่เขากิน
อยากให้เทียนได้ทำมัน
มีความสุขกับมัน

“เรากลับบ้านกันเถอะ”/“กลับบ้านกัน”

ทั้งสองชะงัก มองตากัน ไม่ถึงวินาทีก็ขำออกมาพร้อมๆกันอีก

ใจตรงกันขนาดนี้...ถึงได้รัก...มาก

“เน่จะกลับสุพรรณฯ แล้ว ส่วนเราสองคนก็ดีกันแล้ว —ไปขอเสี่ยกันเถอะนะ ชีวิตแบบนี้ไม่เหมาะกับมึงหรอกว่ะไท”

“อืม...ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเรา เราไม่เหมาะกับที่นี่ แต่กูจะกอดมึง จูงมือมึงอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้...มึงโอเคนะ?”

เทียนพยักหน้าแทบจะทันที
ความรู้สึกของไทสำคัญกว่า กับอีแค่แสดงความรักต่อกันน่ะ แสดงในบ้านก็ได้ เขาอยากดูแลไทในแบบที่ควรจะเป็น ทำกับข้าวให้ ดูแลบ้านให้ ขับรถชมวิว ตกปลากันสองคน

อยู่ที่นี่มีแต่ฝืน

เหนื่อยเปล่า

“กูรักมึงนะไท”
เทียนกระชับอุ้งมือที่ประสานกันอยู่

“กูก็รักมึง”
ไทจูบแก้ม ไล่มาที่ปาก บดคลึงและขบเม้มจนสีปากขึ้นสีชมพูแวววาว ท่อนล่างที่ยังเชื่อมกันอยู่เพิ่มแรงขึ้น
ทั้งสองต่างจูบอย่างหื่นกระหายต่อจากที่คั่งค้างไว้เมื่อครู่ จูบจนลิ้นชา ไม่รับรู้ว่าส่วนใดในร่างคือของตัวเอง เพราะมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันไปแล้ว







เน่กำลังรวบรวมความกล้าอยู่
เสี่ยน่ะเหมือนพ่อ มากกว่าพ่อแม่แท้ๆ เสียอีก
เน่จึงมีทั้งอารมณ์เกรงใจ ทั้งงอแง เพราะใจลึกๆก็เหมือนรับรู้โดยสัญชาตญาณไปแล้วว่าเสี่ยจะไม่ทิ้ง เหมือนที่พ่อแม่ไม่เลิกรักลูก
แต่เวลาห่างกัน มันก็ย่อมคิดมากเป็นธรรมดา

เน่สูดลมหายใจลึก
หันไปหาร่างกำยำของอีกฝ่ายที่นอนข้างกัน
แผ่นหลังเปลือยเปล่าเช่นเดียวกันกับเขา มีกลิ่นหอมของผู้ใหญ่หลังเสร็จกิจกรรมบนเตียงมาหมาดๆ
เสี่ยอาจจะกำลังเคลิ้มหลับ แต่เน่ต้องบอก!

“เสี่ยครับ เสี่ยตื่นอยู่หรือเปล่า”
ทันทีที่พูดจบ โคมไฟข้างเสี่ยก็ติดขึ้นมา หนุ่มน้อยตกใจ ไม่อยากคุยแบบเห็นหน้านะ เสี่ยไม่เข้าใจเอาซะเลย เขาเอื้อมตัวคร่อมเสี่ยไปปิดไฟ เห็นสายตาเสี่ยเพียงเสี้ยววินาที แต่เหมือนถูกเสี่ยจ้องมาทั้งชีวิต
เนเน่กลับมานอนยังที่ตัวเองท่ามกลางความมืด
สัมผัสได้ว่าเสี่ยนอนตะแคงมองเขาอยู่จนนึกว่าอยู่ในรายการเดอะช็อค เมื่อดวงตาเริ่มปรับแสงได้ สิ่งเดียวที่โดดเด่นที่สุดคือแสงสะท้อนจะดวงตาสีแปลกของคนแก่คราวพ่อ
เสี่ยนอนมองเน่โดยที่ไม่พูดอะไร ราวกับกดดัน ซึ่งก็กดดันจริงๆนั่นแหละ จนเน่ต้องเอ่ยปาก

“เสี่ยครับ มะรืนเน่ก็ต้องกลับไปเรียนแล้วนะ แล้วก็ถ่ายละครด้วย”

มือหนาลูบหัวเด็ก
“ตื่นเต้นเหรอ”

“เปล่าครับ”

“มีอะไรหรือเปล่า”

เสียงนุ่มๆ ไม่มีวี่แววดุ เป็นอารมณ์สบายๆ ที่เน่รอคอย
“เน่...เน่ว่า....”
โอย...กลัวโดนดุ แต่เน่คิดดีแล้วจริงๆ
“...เน่ขอซิ่วนะครับเสี่ย”


น้ำตาคลอทำให้ดวงตาของเน่แวววาว มันกระทบแสงจากด้านนอก เสี่ยเห็น และรับรู้อารมณ์ของเน่ เขาไม่อยากผลีผลามทำให้เน่ตกใจ จึงยื่นมือออกไปลูบแก้มนิ่ม สวยงาม สะอาด

“ไม่อยากเรียนแล้วครับ อยากอยู่ที่นี่กับเสี่ยมากกว่า...น..เน่ขอโทษ”
สองมือน้อยพนมขึ้นหว่างอก ก่อนร่างบางจะถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอดของเสี่ย ..เจ้าชีวิตของเน่

เด็กหนุ่มร้องไห้ เขาดีใจที่ได้ปลดพันธนาการที่รัดรึงเขาไว้มาตั้งครึ่งปี สุขแค่ไหนก็มาทดแทนความรู้สึกที่ว่าเราต้องตื่นไปเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบทุกวันๆ ต้องฝืนยิ้มและหลอกตัวเองว่ามันไม่เป็นไร มันจะผ่านไปได้ พอเรียนจบก็จะมีหนทางเอง แค่สี่ปี...
ไม่เอาหรอก
ไม่ทนหรอก
คิดถึงเสี่ยแทบบ้า
เกลียดกรุงเทพฯ แทบตาย
ขอเป็นเด็กบ้านนอกไปตลอดชีวิตดีกว่าต้องมาฝืนเรียนเพื่อชื่อสถาบันที่ไม่จำเป็นสำหรับเน่

“ฮึก...เสี่ยอย่าโกรธเน่นะ”
เสียงอู้อี้ดังขึ้น เน่พยายามดึงผ้าห่มมาเช็ดน้ำตาเมื่อได้สติ เพราะถ้าให้น้ำตาเปื้อนอกเปลือยๆของเสี่ย มันจะดูไม่ดี

“แล้วงานละครล่ะ”

“เน่จะถ่ายให้จบครับ แค่เดือนสองเดือน ค่ายเล็กๆ บทเล็กๆ ไม่มีสัญญาผูกมัดอะไร ...ถ้าดังก็แค่ออกงานนิดหน่อยครับ”

“งั้นเล่นห่วยๆไปเลย จะได้ไม่ดัง”

“จะบ้าเหรอ”

“ล้อเล่น หายเครียดหรือยัง”
เสี่ยหัวเราะ
ใช่
คนหล่อของเน่หัวเราะ เพราะอยากให้เน่สบายใจ
คนขี้แยหยุดร้องแล้ว ผละตัวออกมามองเสี่ย มองสายตาอันอบอุ่น รอยยิ้มที่โคตรจริงใจ

“จริงๆแล้วเน่อยากกลับมาคุมเสี่ย ไม่ให้ไปอยู่ใกล้ผู้หญิงสวยๆที่ไหนอีก”
เด็กพูดเล่นบ้าง อยากผ่อนคลายความตึงเครียดในตัวเอง เมื่อเสี่ยไม่ได้ดุตามคาด

“งั้นใกล้ผู้ชายได้ป่ะ”

“ไม่ได้!”
เด็กมันแหว ก่อนจะรัดลำตัวเสี่ยด้วยสองแขนเล็กๆเป็นงู เอาให้สมกับความหึงหวงที่มีคุกรุ่นเต็มอก
ฝ่ายเสี่ยยิ่งชอบใจเลยน่ะสิ นานๆเด็กจะหึงที เพราะปกติแกก็ไม่ค่อยไปรุ่มร่ามอะไรกับใคร เลยไม่มีโอกาสให้เน่ลมออกหู

“เน่รักเสี่ยนะครับ เน่ขอโทษจริงๆที่ทำให้เสี่ยเสียทั้งเงินทั้งเวลา”
วกกลับเข้าเรื่องเดิม ด้วยความรู้สึกผิดยังคงฝังในใจ เน่น่ะไม่ได้เรื่องเลย ไม่ใช่ว่าเขาไม่โทษตัวเอง ความโลเลน่ารำคาญมาหลายเดือนก็ทำเอาอยากจะเอาหัวจุ่มชักโครก แล้วกดน้ำซ้ำๆใส่

“แล้วบอกพ่อกับแม่หรือยัง”

“เสี่ยบอกให้หน่อยสิครับ”
เด็กมันอ้อน

“เธอไม่ต้องเครียดหรอกนะ เราจะไปลาออกด้วยกัน ฉันอยู่ข้างเธอเสมอ”

“ขอบคุณนะครับเสี่ย โชคดีจริงๆที่เน่มาเจอเสี่ย”

“นี่ถ้าแก่กว่านั้นอีกสักหน่อย ก็คงไม่ได้เป็นเด็กแก่แดดของฉันแล้วหละ”
นั่นสินะ ถ้าตอนนั้นเน่อายุเกิน 18 เขาก็อาจจะไม่ได้มาอยู่กับเสี่ย แต่ได้อาศัยอยู่ตัวคนเดียวแทน ที่เสี่ยรับมาก็เพราะอายุยังน้อย ยังดูแลตัวเองไม่ได้ บวกกับหน้าตาน่าเคี้ยวเข้าไปอีกนิดหน่อยล่ะมั้ง
เขาก็ได้แต่คิดเองเออเองนั่นแหละ เพราะตาแก่ชอบกลัวดอกพิกุลจะร่วงจากปาก

“อยู่ด้วยกันนะ อยู่ด้วยกันอีกครั้ง”
ความอบอุ่นจากการกระทำแค่นี้ก็พอ เน่ไม่ต้องการอะไรเลย

“เน่จะอยู่ให้เสี่ยเบื่อเลยครับ”




-มันเขี้ยวพี่เทียน อยากได้แฟนเป็นพี่เทียน
( ˊ̱˂˃ˋ̱ )
-มีกิจกรรมให้เล่นจ้ะ เพื่อนๆสามารถถามคำถามกับทุกๆตัวละครที่อยากจะรู้จักกันมาได้ ไม่ว่าจะเป็นคู่หลักคู่รอง น้องแป้ง เพื่อนเน่ เพื่อนเสี่ย เหล่าตัวประกอบทั้งหลายที่เราก็ลืมชื่อ5555 แล้วเราจะมาทำถาม-ตอบกัน ให้คนถูกถามตอบเองกันไปเลย

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ยิ่งอ่านยิ่งเอ็นดูความแก่แดดแก่ลมน้องเน่  :hao7:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Chapter 34
Life goes on





มากี่ครั้งก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม
ทุ่งนากว้างสุดลูกหูลูกตา เสียงลมเคล้าเสียงหมาแมว อาจเป็นที่รำคาญของใครหลายคน แต่ด้วยความห่างไกลจากบ้านหลังอื่นก็ทำให้ป้าจันทร์ไม่ได้รับคำครหามากนัก
หลายปีแล้ว ป้าจันทร์ก็ยังเหมือนเดิม ยังคงรับหมาแมวจรจัดที่คนละเลยหรือไล่ตีด้วยความรังเกียจมาไว้ที่บ้าน ซึ่งตอนนี้ดูเป็นที่เป็นทางด้วยทุนของเสี่ยใหญ่คนข้างๆ ซึ่งมือของทั้งคู่กำลังสอดประสาน เดินเคียงข้างกันอย่างไม่รู้เบื่อ ชวนคุยเรื่องกอกล้วยดงที่อยู่ห่างออกไป ต้นมะม่วงลูกดกเป็นของใคร เผื่อจะไปขอสอยมาทำมะม่วงน้ำปลาหวานกินกันหงุงหงิง
นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว....เนเน่ลาออกจากมหาวิทยาลัยชื่อดังเพื่อมาเข้าเทคโนฯ ราชมงคล สาขาการจัดการ เขาไม่ได้คิดว่าจะเอาไปต่อยอดอะไรหรอก ไม่รู้สิ ความฝันของเน่คือการที่เรามีความสุขในชีวิต และความสุขของเน่นั้นไม่มีการบังคับหรือตั้งความหวังว่าจะต้องเป็นใหญ่เป็นโตในหน้าที่การงาน เขาอาจจะหางานธรรมดาๆ ทำ คอยปรับตำแหน่งไปเรื่อยๆ ถ้ายังจงรักภักดีต่อบริษัท หรือเอาสบายกว่านั้น ก็อาจจะอยู่กับเสี่ย เป็นเลขาให้เสี่ย ทั้งในห้องทำงาน กับทั้งบนเตียง...
ยิ่งตอนนี้เน่กำลังบ้าปลูกต้นไม้ โดยเฉพาะบอนไซ น่าหลงใหลจะตาย กับการย่อขนาดต้นไม้ใหญ่ให้ออกมาเป็นต้นเล็กๆ น่ารัก มันอัศจรรย์มาก เน่ก็เลยชวนเสี่ยมาขุดหาไอ้ต้นเล็กๆ ยังไม่โตเต็มที่ เพื่อเอาไปทำบอนไซเองที่บ้าน

“นี่—อย่ารับเลย”
จู่ๆ ก็พูดขึ้นมา

“พูดรอบที่ร้อยแล้วนะครับคุณพ่อ”
เน่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร เขาน่ะฟังมาล้านรอบแล้วตั้งแต่เมื่อวานซืน เรื่องไม่มีอะไรให้กังวลหรอก กับอีแค่ไปถ่ายนิตยสารคู่กับเต้ตามกระแสคู่จิ้น ทั้งๆที่คู่จิ้นในซีรีส์ควรจะดังกว่า แต่ยังไงๆ เต้xเน่ ก็ยังคงมีแฟนคลับเหนียวแน่น
ตั้งแต่ซีรีส์จบ เน่ออกงานสุดท้ายคือแฟนมีตติ้ง และไม่รับงานใดๆอีก นี่จึงเป็นงานแรกหลังจากเขาเข้ามาเรียนที่ใหม่ แต่กลับลืมเช็ก theme ของภาพว่าเป็นการถ่ายแบบแนวไหน แล้วมารู้ทีหลังว่ามีการถอดเสื้อ
เวรกรรมจริงๆ จะให้ปฏิเสธก็ไม่ได้ด้วย ....เพราะรับไปแล้ว

“งั้นก็แล้วแต่”
น้ำเสียงงอแง เอาใหญ่แล้วเดี๋ยวนี้

“อย่างอนสิครับเสี่ย”
ขี้เกียจง้อแล้ว

“บอกเขาไปสิว่าผู้ปกครองไม่อนุญาต”

“เน่บอกแล้ว แต่วันจริงจะโดนไซโคหรือเปล่าก็อีกเรื่อง”

“เน่”
เสี่ยเรียก จริงจังในเชิงว่ามีเรื่องสำคัญจะพูด ชั่วขณะหนึ่งเน่คิดว่าเสี่ยจะขอแต่งงานด้วย แต่ก็ปัดทิ้งไปเพราะเสี่ยแกไม่ใช่คนโรแมนติก ซึ่งถ้าขอขึ้นมาจริงๆนะ ฟ้าต้องผ่ากลางทุ่งแน่ ดูสิ เมฆก้อนดำลอยมานู่น

“ครับ?”

“อึดอัดหรือเปล่าที่อยู่กับฉัน เธอไม่มีอิสระเหมือนเด็กคนอื่นเขา ไม่ได้เที่ยวเล่นกับเพื่อน ไม่ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่น”

“ชีวิตวัยรุ่นแบบไหนเหรอครับ”

“ก็ไปเที่ยวไกลๆ ไปกับเพื่อน ทำอะไรคนเดียวบ้าง เข้าผับเข้าบาร์บ้าง”

คนฟังขำ ตาเสี่ยบ้า ไม่รู้อะไรบ้างเลย
“เน่อ่ะเป็นลูกคุณหนูประเภทที่รักสบายนะครับเสี่ย ถ้าให้เน่ไปเที่ยวคนเดียวแบบนั้นน่ะลำบากแย่ ไม่เอาหรอก มีเสี่ยพาเที่ยวดีกว่า ทั้งคอยดูแล แล้วก็คอยจ่ายค่าช็อปปิ้ง หุหุ”

“แต่มันไม่สนุกเหมือนอยู่กับเพื่อนหรอก”

“แล้วเสี่ยอนุญาตเหรอ”

คำถามปักเข้ากลางอก
เอ่อ
ถ้าอนุญาต ก็แสดงว่าเสี่ยผู้นี้บรรลุธรรมแล้ว เตรียมบวชได้เลย

“เห็นมั้ย ...เน่ไม่อยากให้เสี่ยไม่สบายใจหรอก —เน่รักเสี่ย”

คนแก่มองด้วยสายตาแห่งความรัก และคำขอบคุณอยู่ลึกๆ

“ถ้าเสี่ยไม่สบายใจ...ต่อให้เน่ไปเที่ยวดาวอังคาร เน่ก็ไม่สนุกหรอกครับ”

“...เด็กดี”
ปลายนิ้วโป้งไล้ปากสีแดงเรื่อ  เด็กคนนี้เป็นเด็กดีสมกับที่บ่มเพาะออกมาจริงๆ
เขาก็รักเน่เช่นกัน รักและเอ็นดู อยากอยู่ด้วยกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จู่ๆก็รู้สึกไม่อยากแก่ ไม่อยากไม่หล่อ ไม่อยากเป็นวัยทองให้เน่รำคาญ
ไม่รู้ว่าเนเน่จะรู้หรือเปล่าว่าเขาก็มีความคิดพรรค์นี้ ความคิดแบบเด็กๆ
...ก็เพราะรักทั้งนั้น

“อืมม”
ริมฝีปากประกบเข้าหากัน เสี่ยแทะริมฝีปากนุ่มด้วยฟันคม ไม่ได้ส่งลิ้นเข้าไป เพียงขบเม้มเบาๆ จูบกันเบาๆ เลียรสชาติหวานจนปากแห้ง จึงหยุด

ความรักเนี่ย...หวานจนแสบคอเลยเนอะ












15 พฤษภาคม
วันเกิดปีที่ 23 ของเนเน่
เขาเรียนจบพอดี แล้วก็เนื้อหอมสุดๆ
อย่างที่เขาว่ากันว่าพอเด็กๆโต เข้ามหาลัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กกะโปโลแค่ไหน ก็ย่อมเฉิดฉาย ผุดผ่อง ยิ่งกับเน่ที่ปกติก็หน้าตาบาดใจอยู่แล้วก็ยิ่งมีเสน่ห์ของความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ใบหน้าที่น่ารักอยู่แล้วมีความคมสันกว่าแต่ก่อน ดวงตาสะท้อนมิติของความคิดความอ่านตามประสาคนที่ผ่านการร่ำเรียนและฝึกฝนก่อนทำงานจริงมา เรียกได้ว่าทุกอย่างในตัวของเน่ ไม่ว่าจะภายนอกหรือภายใน....มันบ่มเพาะออกมาได้พอเหมาะพอดีจนแมงเม่าแถวนี้บินตอมกันให้วุ่น
เอาเถอะ
คิดจะเล่นกับไฟ
ก็คงต้องเจอไฟที่เจนโลกมาถึง 44 ปี ก่อนนะ

“อย่าใส่แรงมาก”
เจ้าของบ้านปรามบาเทนเดอร์ที่จ้างมาจากโรงแรมให้เบามือเรื่องม็อกเทลหน่อย ประเดี๋ยวไอ้เด็กขี้เมาแถวนี้มันจะเมาจนพาเน่เสียคน

มองไปยังกลุ่มเด็กๆที่บัดนี้เติบโต เวลาผ่านไปไวจนคิดไม่ถึงว่าเด็กที่ดูไม่จริงจังกับชีวิตพวกนี้จะเรียนจบและมีงานที่มั่นคง มีก็แต่เน่ที่กำลังจะได้เริ่มต้นชีวิตบทใหม่ นั่นคือการทำงานอย่างเต็มตัว ให้ตายสิ เสี่ยคนนี้คงต้องติวเข้มหลายๆรอบ บอกตรงๆ ว่าห่วงเด็ก อยากให้ทุกคนรักเขา เห็นความน่ารักของเขาเหมือนที่เราเห็น

“เต้โทรมาบอกว่าจะมานะเสี่ย ตอนนี้มันเพิ่งออกจากกอง”
ร่างสูงโปร่งราวร้อยเจ็ดสิบกว่า วิ่งตึกตักมาหา เน่น่ะสูงสมส่วนดูดีมากจริงๆ เสี่ยเห็นทีไรจะต้องยืดคอขู่ศัตรูเป็นงูเห่าตลอดเลย บางทีแกก็เมื่อยคอนะ แต่พอตกกลางคืนทีไร แล้วมีเด็กมานวดให้ เสี่ยก็ยอมยืดคอต่อไปอยู่ดี

“ไม่เหนื่อยหรือไง”

“มันมากับแฟนมันน่ะครับเสี่ย แฟนคงขับรถให้มั้ง ...นี่ๆ เสี่ยอย่าไปบอกใครนะว่าเต้แอบคบกับพระเอกช่อง 33 อยู่”

เสี่ยอเนกไม่ใช่คนดูละคร ไม่รู้จักดารา เลยไม่รู้ว่าไอ้พระเอกช่อง 33 อะไรนั่นดังมากไหม ต่างจากช่อง 1 ที่เต้สังกัดอยู่ยังไง หน้าตาประมาณไหนเขาจินตนาการไม่ออกหรอก

“โหเสี่ย ม็อกเทลน่ากินมากเลย เน่ลองชิมนะ”
นกน้อยในกรงตาลุกวาว

“รอเพื่อนๆสิ”

“แต่พี่บาเทนเดอร์เขาเทใส่แก้วแล้วเนี่ย”

ตัวเองส่งซิกบอกให้เทแยกออกมาล่ะสิไม่ว่า

“นะครับเสี่ย~”
น้ำเสียงออดอ้อนไม่มีใครเกิน อายุเข้าเลขสองแล้ว ยังคงอ้อนเก่งให้ใจคนแก่ละลายอยู่เรื่อย

“นิดเดียวพอนะ”

“ครับพ้ม!”

เสี่ยส่ายหน้าน้อยๆ แต่ปากยังคงยิ้ม และไม่รู้ว่าแกกะพริบตาบ้างหรือเปล่าเวลามองเน่ เล่นมองอย่างกับจะกลืนกินอยู่ตลอด จนเนเน่ต้องหันมาถลึงตาใส่ตอนที่กระดกแก้วอยู่ เสี่ยจึงหันหลบแก้เขินไปทางอื่น แล้วมาบังเอิญอะไรก็ไม่รู้ เมื่อเห็นลูกสาวสุดที่รักกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ลับๆ ล่อๆ!


อยากจะบ้า!
เนเน่ไม่เข้าใจอาการหวงลูกสาวจนโอเว่อร์อย่างนี้เลย เขาต้องรีบกระดกพรวดๆ เพราะมันอร่อย ก่อนจะแข่งเดินไวไปหาเสี่ยที่นู่นนนน ยืนประกบน้องแล้ว

“พ่ออ่ะ”
น้องแป้งในวัย 18 ปี เรียกได้ว่ากำลังสาวสะพรั่ง ไม่แปลกที่พ่อจะหวง

“มางานก็ไปคุยกับคนในงาน ไม่ใช่มาคุยโทรศัพท์”
น้ำเสียงมาคุมาก แม้แต่เน่ที่ตามมายังเงียบก่อน

“หนูคุยกับเพื่อนนะคะ แค่นิดเดียวเองด้วย”

“แล้วทำไมต้องออกมายืนคนเดียวล่ะ มีความลับล่ะสิ”

“ก็ข้างในมันเสียงดังนี่พ่อ ทำไมต้องดุด้วย หนูโตแล้วนะ— 18 แล้ว”

“นั่นแหละยิ่งต้องหวง”

เฮ้อ! ฟังพ่อลูกเถียงกัน ก็เหมือนฟังบทสวดที่แปลไม่ออก
เนเน่กลอกตา ก่อนจะแตะไหล่ห้ามคนโต เพราะยิ่งเสี่ยว่าลูกมาก มันจะยิ่งเข้าตัวแก

“เสี่ยครับ น้องแป้งน่ะรู้ถูกรู้ผิดนะครับเสี่ย น้องไม่ทำเรื่องที่ไม่ดีหรอกครับ”

“ก็ดูเด็กสมัยนี้สิ มีลูกมีเต้ากันตั้งแต่สิบขวบ”

“เสี่ยเอาเด็กแถวนี้ไปเปรียบกับน้องแป้งได้ไง น้องแป้งเป็นถึงลูกของเสี่ยอเนกเลยนะครับ คนที่สอนลูกด้วยความเข้าใจมากที่สุดในประเทศไทย —ไม่มีใครดีกว่าเสี่ยเลยนะ”

“เว่อร์”
เสี่ยหลุดยิ้มกับคำนิยามอันอลังการนั่น

“หนูไม่ทำเรื่องที่จะทำให้ตัวเองลำบากหรือสร้างภาระให้พ่อแม่หรอกนะคะ”

“ใช่ๆ น้องแป้งน่ะฉลาดพอ เอาตัวรอดได้ เหมือนเน่ไงเสี่ย”

“เฮ้อ!”
คนเป็นพ่อยังคิดไม่ตก เข้าใจน่ะเข้าใจ แต่คนที่ไม่มีลูกสาวมันไม่เข้าใจไง!  ไม่ได้อยากว่าลูกหรอก รู้จักลูกดี แต่มันหวงโว้ย! เห็นแก่หนวดที่ไว้บ้างสิ

“อย่าเป็นลุงแก่ขี้งอนสิคะพ่อ เสียบรรยากาศหมดเลย”

ใช่!

เน่พยักหน้าเห็นด้วย

“วันนี้วันเกิดเน่น้า~ อารมณ์ดีหน่อยสิครับ”
งานวันนี้นอกจากมีเพื่อนๆเน่แล้ว ยังมีพ่อกับแม่ของเน่อีก อันที่จริงพ่อแม่กลับมาตอนเน่อยู่ปีสอง กลับมาในรูปแบบคนธรรมดาอย่างที่เน่ไม่เคยจินตนาการว่าพ่อแม่เราจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้ ซึ่งเปลี่ยนไปในทางที่ดีด้วยสิ แต่พวกท่านไม่อยู่สุพรรณฯ เลือกเช่าบ้านแถบชานเมืองในกรุงเทพฯ อยู่ ทำงานอะไรก็ไม่รู้ เป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ คิดว่าถ้าเน่อายุ 30 เสี่ยแกคงจะบอกล่ะนะ

เป็นสิ่งที่เขากลัว
เรื่องผิดกฎหมายต่างๆที่เสี่ยไม่เคยให้ยุ่ง เน่ไม่กลัวว่าตัวเองจะโดนร่างแห เขากลัวเสี่ยโดนจับ แล้วต้องพรากจากกันมากกว่า แต่เสี่ยเคยเปรยไว้ว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ ธุรกิจนี้คุยง่าย ไม่หนักหนา คู่แข่งก็ให้อารมณ์คานอำนาจกันมากกว่า พอเจอกันในที่สาธารณะก็ยิ้มแย้มปกติ ไม่น่าห่วงเลย

โอ๊ย...น่าเชื่อมาก!

“คุณพ่ออยู่ในวัยทองแน่เลย”

“อะไร ยังไม่ถึงหรอก”
เสี่ยปฏิเสธยกใหญ่ เรื่องอะไรจะแก่

“น้องแป้งแซวเล่นน่ะเสี่ย เอ๊ะ! หรือเสี่ยจะเป็นจริงๆ?”

คนถูกกล่าวหาแจกมะเหงกลูกกับเมียไปคนละที หาเรื่องเจ็บตัวซะแล้ว

.

.

.
“มายืนประชุมอะไรกันครับ”

อ้อ

ลืมสองคนนี้ไปสนิท

ไทกับเทียน

คู่รักทรหดที่ยังไม่หมดดราม่า เพราะยังไม่กล้าบอกพ่อแม่ตัวเองสักที ให้เห็นกันไปเอง ให้ทำใจกันเงียบๆ แต่เท่านี้ก็ดูดีมากแล้ว ด้วยใบหน้าหล่อสะอาดของเทียนที่มักจะขึ้นสีแดงให้เห็นเป็นประจำ


“เห็นพ่อแม่ลูกเขาคุยกันก็อิจฉาเนอะเทียน”

“แหมพวกพี่เดินออกมาจากกระท่อมรังรักนั่นน่ะ อย่าคิดว่าไม่เห็นนะ”
เอาสิๆ คู่ปรับตลอดกาลไม่ยอมอยู่เฉยๆ แน่ กระท่อมที่เสี่ยปรับปรุงให้เขาต้องกลายเป็นเรือนหอของไอ้พี่หมี ยังเสียใจไม่หายเลย

“เน่อยากได้อะไรยังไม่บอกพี่เลยนะ”
ของขวัญวันเกิดที่เทียนติดไว้เพราะนึกไม่ออกว่าจะเอาอะไร ขนาดเจ้าของวันเกิดเองยังนึกไม่ออกเลย

“เน่ไม่รู้ เอาต้นไม้สักต้นก็ได้พี่เทียน แต่เน่กลัวมันตายอ่ะ”

“เอาหมาได้ไหมพี่เน่ หนูอยากเล่นกับหมา พันธุ์โกลเด้นเลย”
แป้งช่วย

“ที่มีอยู่ก็เหนื่อยจะตายแล้ว”
แล้วพ่อก็ขัด บ้านน้องแป้งน่ะมีหมาตั้งหลายตัว พันธุ์ทำลายล้างทั้งนั้น มาบ้านเสี่ยก็มีทั้งหมาทั้งแมว วุ่นวายไปหมด

“เอาสร้อยทองไปเลย หนักสิบบาท”

“จะบ้าเหรอพี่หมี คอหักตายพอดี”
เน่ขำใส่ ขณะที่จับสร้อยทองเส้นเล็ก ของขวัญจากเสี่ยตั้งแต่งานวันเกิดปีที่ 16 ที่เน่ไม่เคยถอดออกเลย ใส่จนชิน จนบางครั้งก็ลืมว่าใส่สร้อยอยู่ เคยเอาไปซ่อมเพราะขาดอยู่หนหนึ่ง และยืนกรานว่าจะไม่ยอมเปลี่ยน

“งั้นคิดๆ ไปก่อนละกันเนอะ —พี่ว่าเราไปนั่งกันเถอะ ฟังเจ้าพวกนั้นร้องเพลงดีกว่า”

อย่า—อย่าคิดเชียวว่าเด็กต๊องอย่างเอ็มจะร้องเพลง ดีดกีต้าร์ สร้างบรรยากาศสวยๆ
มันบอกขี้เกียจ วันนี้มาเพื่อปลดปล่อยโดยเฉพาะ ฉะนั้นเวทีปีนี้จึงไม่มีอะไร นอกเสียจากหน้าจอคอม เอาไว้โชว์เนื้อเพลงคาราโอเกะ ใครใคร่อยากร้องก็ร้องไป งานนี้มีแต่กินกับกินเท่านั้น


เน่จูงมือเสี่ยไปนั่งไกลๆจากเวทีหน่อย ตอนเดินผ่านพ่อแม่ เขาก็หยุดแวะทักทาย แอบรับซองอั่งเปาสีทองมาไว้ในมือ จากการสัมผัสความหนาแล้ว คิดว่ามากโขอยู่ ...เอาใจลูกยังไงก็ยังเอาใจอยู่อย่างนั้น เน่คิดว่าถ้าไม่ได้อยู่กับเสี่ย เขาจะต้องกลายเป็นเด็กเป-รตแน่

“อย่าดื้อกับเสี่ยนักล่ะ”
แม่ป้องปากพูดราวกับเสี่ยจะไม่ได้ยินอย่างนั้นแหละ ทั้งๆที่แกก็ยืนอยู่ข้างๆ

“ถ้าดื้อก็คงไม่ได้อยู่มาจนถึงสิบปีหรอกแม่—เนอะเสี่ยเนอะ”
หันไปย้ำกับร่างสูง

“ก็ใช่ว่าจะไม่ดื้อ”

“โธ่! เสี่ยอ่ะ ทำไมชอบกวนเน่อยู่เรื่อย—พ่อ แม่ เน่ไปนั่งตรงนู้นนะ”

เด็กไม่ติดพ่อติดแม่ แต่ติดแฟนทิ้งบทสนทนาไปเสียดื้อๆ ให้ทำไงเล่า เน่เข้ากับพ่อแม่ไม่เก่ง พูดคุยจิ๊ะจ๊ะน่ะได้อยู่หรอก แต่ถ้าอยู่นานๆ มันจะเดดแอร์


.

.

.

.


“อันนี้อร่อย”
เน่ยื่นส้อมพลาสติกที่มีเค้กรสส้มชิ้นเล็กให้
รสหวานอมเปรี้ยวของส้มเข้ากันได้ดีกับบรรยากาศของเจ้าภาพที่สดใส ราวกับว่าเด็กผู้ชายคนนี้เกิดมาต้อนรับหน้าร้อน คนไทยอาจจะไม่อินในเรื่องนี้มาก เพราะร้อนตับแตกทั้งปี แต่เสี่ยที่เคยไปอยู่บ้านพ่อมานั้นกลับชอบหน้าร้อนเป็นที่สุด เหมือนชีวิตวัยรุ่นสมบูรณ์ได้ก็เพราะหน้าร้อน ความสนุกจะสนุกสุดๆ ได้ก็เพราะหน้าร้อน
กลิ่นแดด
กลิ่นส้ม
เหมือนเป็นกลิ่นที่ฝังอยู่ข้างในไม่จางหาย เรียกใช้เมื่อไรก็มาเมื่อนั้น แค่นึกถึงก็ได้ความรู้สึกแบบนั้นแล้ว

“อ๊ะ!”
เนเน่ตกใจนิ้วหนาที่อยู่ๆ ก็บีบแก้มเขา

“มือเลอะป่ะเนี่ย”

“ทำไม หวงเหรอ”

“เดี๋ยวสิวขึ้น”
เด็กมันบ่นไม่จริงจัง

“โตแล้วนะ”
สายตาภาคภูมิใจสุดๆ

“อื้อ...โตแล้ว พร้อมทำงานแล้วครับ”

“เวลาทำงานน่ะมันไม่เหมือนตอนเรียนนะ เราจะได้เจอคนน่าเบื่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วก็ต้องเก็บอารมณ์ให้มากๆด้วย”

“ถ้าเน่กลับไปเข้าวงการล่ะเสี่ย เนี่ยยังหล่ออยู่เลยน้า”

“ไม่—ให้นอนอยู่บ้านยังดีกว่าอีก ตัวแค่นี้...เลี้ยงเองได้”

“คนแก่ขี้หวง”
เน่หน้าบุ้ย เขาก็แค่พูดเล่น ไม่นึกว่าเสี่ยจะหวงให้เขินแทบบ้า
เนี่ย...เอาหัวมุดหน้าอกแน่นๆ กลิ่นตัวก็หอม หอมน่ากอดจริงๆ เขาอธิบายไม่ได้ว่ามันคือกลิ่นอะไร รู้แต่ว่าดมแล้วมีความสุขมาก อยากซุก อยากกัดด้วย มันเขี้ยว

“แง่ม”
ฟันขาวขบเนินอกแกร่งผ่านเสื้อราคาแพง ปรากฏรอยน้ำลายเป็นวงฟัน
เสี่ยน่ะหวงเสื้ออยู่เหมือนกัน แต่เพราะคนๆนี้เป็นเน่ แกจึงปล่อยให้ฟัดไป
ว่าแต่เขา เนเน่ก็ตัวหอมเหมือนกันนั่นแหละ เสี่ยจูบกลุ่มผมนุ่ม ส่วนแขนก็กอดรัด ไม่สนใจสายตาใครว่าจะมองด้วยความอิจฉาหรือหมั่นไส้ เพราะเด็กของเขาก็สมควรที่จะถูกมองแบบนั้นอยู่แล้ว น่ารักและขี้อ้อนอย่างนี้ คนแก่ๆ ไม่หลงก็แปลกสิ
ถึงแม้เสี่ยจะไม่คาดคิดว่าเด็กคนนี้จะอยู่มาได้ตั้งเกือบสิบปี เพราะความต่างกันอย่างมากของทั้งคู่ แต่ในที่สุดเสี่ยก็มาคิดได้ว่า การมีคนรักนั้น มันไม่ใช่แค่เราได้เจอกับคนที่รับเราได้ ถึงจะอยู่ด้วยกันตลอดรอดฝั่ง แต่การมีคนรักคือการที่เรารู้จักเสียสละต่างหาก เสียสละตัวตนของเราไปบ้าง เพื่อที่จะเข้าหาเขา เพื่อให้อยู่ด้วยกันได้...เสี่ยเพิ่งมารู้จักความรักก็ตอนนี้เอง และรับรู้ได้ว่าเนเน่เด็กดื้อก็ยอมเสียสละเช่นกัน โดยที่ไม่ต้องเรียงความบรรยายเป็นหน้ากระดาษหรอก อยู่กันไปก็เข้าใจและรับรู้การเปลี่ยนแปลงไปเอง เรียกว่าความใส่ใจล่ะมั้ง
ตั้งสิบปีแล้วนะ
ไอ้จัดงานวันเกิด งานนู่นนี่นั่นน่ะ เสี่ยจัดสม่ำเสมอ เป็นรางวัลให้ลูกน้องและเน่ เพื่อให้เด็กๆผ่อนคลายกัน
แต่ว่าสิบปีทั้งที คนแก่อย่างเขาก็อยากมีของชิ้นพิเศษให้เน่ มันซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อนี่เอง เป็นของชิ้นเล็กๆ ที่ไม่ได้ถูกบรรจุกล่องใดๆ ทั้งสิ้น เพราะกลัวว่ามันจะโป่งนูนจนไม่เซอร์ไพรส์
มือข้างหนึ่งลูบหัวเน่ที่ยังคงซุกอกเขาอยู่ ส่วนอีกข้างก็หยิบเจ้าสิ่งนั้นออกมา

แววประกายยามต้องแสงไฟ...

เสี่ยมองมันด้วยความปลาบปลื้ม ก่อนจะจับมือข้างซ้ายเน่ขึ้นมา มืออันสะอาดสะอ้าน นิ้วมือเรียวยาวไร้เครื่องประดับใดๆ
คิดว่า...เห็นทีจะต้องมีบ้างแล้วล่ะ
แหวนทองคำขาวประดับเพชรเรียบๆ สักวงเป็นไง

“เสี่ย....?”
เน่ตาเป็นประกายระคนตกใจ
เสี่ยบ้า
ให้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วเขาควรทำตัวยังไงดี ก็รู้มาตลอดว่าเสี่ยเป็นคนไม่โรแมนติก แล้ววันนี้นึกครึ้มอะไร ทำไม? ทำไมเป็นแหวน?

“จะสิบปีแล้ว ควรจะให้ได้แล้ว”
เสี่ยพูดขึ้นเบาๆ
เพียงแค่นั้นเน่ก็เข้าใจทั้งหมด พลันน้ำตาก็พร่างพรูออกมา น่าเกลียดเป็นบ้า โตแล้วนะ แต่ยังโดนผู้ชายคนนี้ทำให้ร้องไห้อยู่เรื่อย
ก็ยอมแหละ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เสี่ยไม่เคยให้แหวนอันเป็นสัญลักษณ์ของพันธสัญญาเลยสักวง
เวลาสิบปี คนทั่วไปอาจคิดว่าคงไปต่อได้อีกแน่คู่นี้ แต่มันต่างกันเหลือเกิน เมื่อคุณมีสิ่งๆ หนึ่งมาเป็นเครื่องยืนยันว่าเราจะไปต่อกันได้
เน่รอคอยมาตลอด
อยากให้เสี่ยชัดเจนสักที เขาไม่อายหรอกที่จะมีผัวแก่ จะอายมากกว่าถ้าผัวไม่ชัดเจน

“รักเสี่ย..ที่สุดเลย”
พูดไปก็สะอึกสะอื้นไป แอบเห็นแววตาวาวๆของเสี่ย แกคงซึ้งไม่ใช่น้อย แต่ต้องทำเป็นไม่เห็น เพราะก็รู้ว่าคนแก่ขี้อายในเรื่องแบบนี้

“รักเหมือนกัน รักมากๆ”

เนเน่โอบกอดเสี่ย เสี่ยก็กอดตอบ กอดกันกลมไม่สนใคร...ที่มองมาด้วยสายตายินดี

“อยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะครับ”

“จะอยู่ให้มากกว่านั้นอีก”


ความรัก...
มันก็เป็นเรื่องธรรมดาอย่างนี้เอง






-จบ-

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
ขอบคุณค่ะที่แต่งเรื่องนี้ให้อ่าน  :pig4: :pig4:
รอตอนพิเศษ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
แงๆๆจบแล้วเหรอขอหวานๆอีกนิดนึงนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด