Chapter 31
รักจริง หวังแต่ง
บัญชีใหม่ล่าสุด อาจจะสมัครเสร็จไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ เจ้าของบัญชี Facebook คนนี้ค่อนข้างเด็ดจนอดกดถูกใจไม่ได้ ด้วยใบหน้าคมได้สัดส่วน ดวงตารี ปลายหางตาเชิดเหมือนมองจิกคนตลอดเวลา รอยยิ้มมีเสน่ห์เรียกบรรดาสาวเล็กสาวใหญ่ให้หลงติดกับ
เนเน่มองแล้วอดยิ้มไม่ได้ ภูมิใจในตัวเองจริงๆที่เลือกเชื่อแม่แล้วมาสายนี้
“เพ้ออะไร”
ไทอดแซวเด็กต๊องไม่ได้ เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้มือถือ ไม่รู้ว่าเจอหนุ่มหล่อหรือเปล่า เดี๋ยวต้องไปฟ้องเสี่ยสักหน่อย ช่วยไม่ได้นะ เขาหมั่นไส้เวลาเห็นเด็กนี่มีความสุขได้ตลอด ทั้งๆที่บ้านล้มละลาย แต่ก็ยังสุขสบายในอ้อมกอดเสี่ยหล่อ วาสนาคนเรานี่มันแข่งกันไม่ได้จริงๆ
“เน่มีความสุขอ่ะ อิจฉาล่ะสิ”
“เออ”
“พี่หมีก็ไปง้อพี่เทียนซี่ คนเรานะถ้าง้อจริงๆจังๆ ยังไงก็ใจอ่อน แต่พี่หมีก็เป็นอย่างเนี้ย ฟอร์มจัด ระวังนะพี่เทียนจะไปเจอคนที่ดีกว่า”
เห็นคิ้วคนแก่กระตุกแล้วเน่ยิ่งใส่ไฟ
“รู้สึกช่วงนี้เสี่ยให้พักร้อนด้วย ตอบแทนที่ดูแลงานให้เยอะแยะไปหมด พี่แกไปเที่ยวกับเพื่อนใหม่ที่ทำงานด้วยกันด้วยน้า ....แต่พี่หมีก็ดั๊นนนกลับมาสุพรรณฯกับเน่ คิก...ป่านนี้พี่เทียนคง...หุๆๆ”
“.....ไม่จริง”
“ไม่จริงอะไรเล่า เน่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย พี่หมีคิดไปถึงไหนเนี่ย”
“ฝากไว้ก่อนเถอะ”
ไทขี้เกียจโดนเด็กปั่นหัวแล้ว เขาเดินจ้ำอ้าวออกมานั่งหลบมุมที่บ้านหลังน้อยอันเป็นแหล่งพลอดรักลับๆเวลาเดินเฝ้ายามอยู่บ้านเสี่ย
เทียนนะเทียน ทำไมใจแข็งนักวะ
สวัสดี บางกอก ก็หายเงียบไปด้วย กลัวเหลือเกินว่าเทียนจะกำลังมีความสุขกับเพื่อนใหม่อย่างที่เน่บอกจนลืมตอบข้อความเขา
•
อีกแค่อาทิตย์เดียวก็จะหมดเทอมแล้ว
เนเน่ไม่อยากกลับไปเป็นเด็กมหาลัยเลย รู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ของเขา เพื่อนในเซคก็ไม่สนิทสักคน ถึงแม้จะทานข้าวด้วยกันบ้าง ทำงานด้วยกันบ้าง แต่เน่ก็ได้แต่ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี ไม่มีความเห็นอื่น น่าเบื่อ ไม่ใช่อย่างที่คนมีเพื่อนควรรู้สึกเลย
เพื่อนบางคนก็เอาแต่ใจ บางคนก็ไม่จริงใจ บางคนก็พึ่งพาอะไรไม่ได้สักอย่าง นี่เขาคบกลุ่มผิด หรือมันเป็นกันหมดก็ไม่รู้ เหมือนเด็กๆกันทั้งนั้น ไม่เห็นโตกันเลย
หรือว่าเน่ทำตัวแก่เองนะ
“เห็นแล้วเหรอ”
เสี่ยนอนอ่านนิตยสารกอล์ฟอยู่ข้างๆ แกคงเห็นว่าเขาถอนหายใจอยู่บ่อยๆ ตอนเล่นมือถือ
“อือ...เสี่ยหล่อ พี่เทียนก็หล่อ”
“อย่าคิดมากนะ”
เน่อมยิ้ม
เสี่ยเข้าใจผิดแล้ว เน่กำลังกลุ้มเรื่องจะเปิดเทอมต่างหาก ไม่ใช่เรื่องที่เสี่ยโพสต์รูปถ่ายคู่พี่เทียนในท่าทางหวานชื่น ราวกับเปิดตัวคนรักกลายๆ ซึ่งเฟซบุ้คของเสี่ยก็ถูกแชร์ถล่มทลายตามแผนการของแกที่วางไว้ตั้งแต่ต้นเดือนนั่นแหละ
“เน่ไม่อยากไปเรียนเฉยๆ ไม่ใช่เรื่องนี้หรอก”
หลังจากที่ออกข่าวไปว่าเสี่ยเป็น ‘คุณอา’ ที่รักยิ่ง แล้วตามด้วยโพสต์อกหักในอีกไม่กี่วันถัดมา คนก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เริ่มมีเสียงแตกเป็นหลายฝ่าย เสี่ยจึงปล่อยหมัดสุดท้ายเป็นภาพเหล่านี้ในเฟซแกเอง
เน่ว่าคนเครียดน่ะไม่ใช่เขาหรอก แต่เป็นไอ้พี่หมีโน่น
“ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ลองพักสักปีส—“
RRRRR
นั่นไง
มือถือเสี่ยดังทันที
“ว่าไง”
เสี่ยพูดกับคนในสาย
“ถามเขาเองสิ”
เน่เห็นนะว่ารอยยิ้มของเสี่ยมันกวนแค่ไหน
“คงรู้เรื่องหรอก”
“อย่าให้เสียงาน”
.
.
.
[ช่วยพี่หน่อย]
อยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้นานๆจัง
ไอ้ความรู้สึกชนะ ความลิงโลดเมื่อถูกคนที่เราหมั่นไส้ขอร้องอ้อนวอนเนี่ย!
เนเน่น่ะก็สงสารพี่หมีอยู่แล้วล่ะ คนเห็นหน้ากันมาตั้งกี่ปี ความผูกพันในแง่ของพ่อแง่แม่งอนมันมีอิทธิพลมากโข ไม่อย่างนั้นละครจะมีบทพระเอกนางเอกตีกันแต่สุดท้ายก็รักกันเหรอ เขาเลยกะจะช่วยพี่หมีน้อยเต็มที่ แม้ไม่อยากให้พี่เทียนกลับมารักคนแบบนี้ แต่คงเป็นเรื่องยากอันดับสองของโลกเลยล่ะ นี่ถ้าหากพี่เทียนตัดใจไปคบคนอื่นบ้าง เน่คงไม่ลังเลที่จะปฏิเสธ
เฮ้อ!
ความรักหนอความรัก
เสี่ยรักเน่แบบที่พี่เทียนรักพี่หมีหรือเปล่า
รักแบบที่ ...มีคนๆหนึ่งอยู่ในใจตลอดเวลา
“โอ๊ย แล้วจะดราม่าทำไมเนี่ย”
เหมือนเน่จะฟื้นคืนสติได้ แต่ดันเป็นตอนที่ปลากำลังจะติดเบ็ดพอดี พอมือมันทิ้งจากคันเบ็ด เจ้าปลาเลยชิ่งหนีไปไกล
“เป็นไร เสี่ยไม่รักเหรอ”
เพื่อนรักสองหน่ออดเสียดายไม่ได้ แต่ก็ไม่กล้าด่าเน่มันหรอก อุตส่าห์ซื้อเบ็ดฝรั่งยี่ห้ออย่างแพงให้เป็นของขวัญ แล้วยังมานั่งตกปลาด้วยกัน ทั้งๆที่ตัวขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าพันเท่า
นี่พวกเขาจะไม่พูดถึงที่เน่เป็นดาราอีกนะ
“ไม่ใช่โว้ย”
“วัยรุ่นแบบพวกเราจะเครียดเรื่องอะไรวะถ้าไม่ใช่ความรัก”
“เออๆ กูจะทำไงดีวะ”
ในที่สุดก็ยอมปริปาก
“เรื่องอะไร”
มิคขยับเข้ามาใกล้ๆ มันเป็นไปตามสัญชาตญาณเวลาจะจับกลุ่มสนทนาปัญหา(ของ)ชาวบ้าน
“ก็....ฟังก่อนนะเว่ย”
เน่กลั้นใจพูดต่อ
“กูอยากซิ่วว่ะ...มันน่าเบื่ออ่ะ แล้วก็อยู่ไกลเสี่ยด้วย สงสารเสี่ยต้องเดินทางไปๆมาๆ”
“สงสารหรือหึงกันแน่”
เอ็มแซว
“หึงอะไรเล่า!! —เออ..ก..ก็ระแวงนิดหน่อย ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดอ่ะ มึงอ่ะมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอเอ็ม น่าจะเข้าใจ”
“เข้าใจอยู่ เฮ่ย! ปลาติดเบ็ดๆ ไอ้มิคมึงมาจับแทนกูดิ๊”
คนถูกใช้ส่ายหัวเบาๆแต่ก็ช่วยเพื่อน มันจะได้เป็นศิราณีได้อย่างสบายใจ
เอ็มพาร่างที่เริ่มจะท้วมเพราะหนักเบียร์ไปหาเน่ พลางช่วยเพื่อนดึงหมวกให้ปิดใบหน้าขาวๆให้มากกว่าเดิม เห็นแล้วค่อยสบายใจหน่อย
“แต่มึงคิดดีนะว่าที่จะซิ่วไม่ใช่แค่ห่วงเสี่ย”
“อืม มันน่าเบื่อจริงๆ มันไม่ใช่ทางของกูเลยว่ะ”
“แล้วมึงชอบแบบไหน”
“ชอบอะไรที่แอดเวนเจอร์อ่ะ”
“ตกเบ็ดไปทั้งชาติเถอะมึง”
“เออ ถ้ามันมีโรงเรียนสอนก็คงเข้า”
“เถียงกันอยู่นั่น”
มิคโยนไอ้ช่อนตัวเขื่องลงถัง แล้ววักน้ำคลองใส่แค่ครั้งเดียว พอให้ตัวปลาไม่แห้ง
ที่จริงได้แต่ไอ้ช่อนตัวเดียว มือสมัครเล่นอย่างพวกเขาก็พอใจแล้ว อีกอย่างเรื่องของเน่สำคัญกว่า สามหนุ่มสามมุมจึงวางมือจากเบ็ดคันงาม แล้วมาจับกลุ่มคุยใต้ต้นมะขาม ซึ่งมีแคร่เก่าๆของเจ้าของนาที่สนิทกับเอ็มตั้งอยู่
“แล้วบอกเสี่ยหรือยัง”
มิคถามหลังจากที่นั่งฟังอย่างเงียบๆมานานสองนาน
เน่ส่ายหน้า เขาไม่กล้าบอกหรอก
“เคยเกริ่นๆว่าไม่ค่อยชอบ แต่ก็ไม่เคยบอกว่าอยากลาออก”
“กูว่าบอกไปเถอะ ไม่งั้นมันเสียเวลานะเว่ย ถ้าเรายังมีทางเลือกจริงๆ แล้วเราก็ไม่ชอบมันจริงๆ ยังไงเสี่ยก็เข้าใจ แกเคยเป็นเด็กมาก่อน”
“เป็นเด็กนอกด้วย”
เอ็มเสริม
“เออ คงไม่แคร์เรื่องจุ๋มจิ๋มแบบนี้หรอก เขาเลี้ยงมึงได้ หรือมึงกลัวเสี่ยทิ้ง?”
“ไม่รู้สิ...ไม่เชิง —แค่...แปลกๆอ่ะ รู้สึกว่าเราหลงเสี่ยมากๆ มากจนจะบ้าแล้วเนี่ย แต่เสี่ยแกเสมอต้นเสมอปลายไปหน่อย แล้วช่วงที่ไม่อยู่ด้วยกันก็ออกงานสังคมคนเดียว”
เอ็มกับมิคกลอกตามองบน นี่มันอาการ
“หึงชัดๆ!”
แฝดนรกพูดพร้อมกัน อยากจะเอาคันเบ็ดตีหัวเพื่อนเสียจริง แต่มันน่าเอ็นดู พวกเขาจึงเก็บความมันเขี้ยวไว้ก่อน
“เอาเท่าที่มองจากคนนอกนะ เสี่ยเนี่ยโคตรหวง ทั้งห้ามนู่นห้ามนี่ ไม่ให้เล่นละคร ไม่ให้ออกสื่อ เป็นไงล่ะมึง พอเสี่ยออกบ้างก็หวงเขา กรรมตามสนอง”
“เออดิ—เฮ้อ ! อยากกลับมาอยู่นี่อ่ะ ที่มอมึงมีไรน่าเรียนบ้าง”
“ไม่ค่อยเยอะนะ มีบริหาร คอมพิวเตอร์ สินกำ—“
เอ็มกับมิคอยากช่วยเน่ให้พ้นจากความว้าวุ่นใจ โดยที่เจ้าตัวก็คงไม่คิดว่ามันน่าเป็นห่วง
ตลอดหลายเดือนที่แยกกัน พวกเขาติดต่อกับเน่อยู่บ้าง แต่ไม่รู้ถึงรายละเอียด รู้ว่าเน่ทำอะไร ทะเลาะกับเสี่ยไหม หรือรักกันปานจะกลืน จึงพอเข้าใจสถานการณ์อยู่บ้าง
เน่น่ะเป็นเด็กที่ถูกสั่งให้เป็นผู้ใหญ่เร็วๆ จึงเหมาะแก่การเอามาบริโภค แต่จะเลี้ยงได้มั้ยนั่นก็อีกเรื่อง
เท่าที่สังเกตมา ยังไงเสี่ยก็รักเน่ ทางนี้ไม่เห็นมีข่าวอะไรเลย อยู่เป็นหนุ่มหล่อให้สาวๆปรายตากันไปอย่างนั้น แกเคยสนใจใครเสียที่ไหน พวกเขาคิดว่าเสี่ยเชื่อใจได้ ฉะนั้นถ้าเน่จะกลับมาจริงๆ ก็อยากให้ทำเพื่อตัวเองให้มากๆ
ประมาณว่าอยากเรียนในสิ่งที่ชอบ 80
คิดถึงเสี่ย อยากเจอหน้าอีก 20 ก็พอ
อ้อ! หลังจากได้ระบายกับเพื่อนเกลอจนพอใจแล้ว เน่ยังเล่าแผนการช่วยสามีภรรยาคู่อาภัพให้กลับมาคืนดีกันด้วย
•
“ก็คิดอยู่แล้วว่าเน่จะมาทำไม”
ร่างสมส่วนดูสะอาดเหมือนหนุ่มกรุงโดยกำเนิดพรูลมหายใจด้วยความเซ็งที่ถูกเด็กหลอก เขาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาหุ้มเบาะหนังสีแดงแจ๋นแสบตา
ใช่ ....มันคือร้านไอศกรีมชื่อดังที่มีไม่รู้กี่สาขา แล้วเน่ก็นัดมาเจอเขา โดยบอกว่ามีเรื่องให้ช่วย
แล้วไหนนี่
ไอ้เด็กดื้อน่ะ
เทียนหมุนดอกกุหลาบในแจกันเล็กๆเล่นด้วยจิตใจที่เหม่อลอย
เขาจะอยู่กรุงเทพฯได้อีกนานแค่ไหน ในเมื่อมันไม่ใช่ตัวตนเขาเลย อยากตกปลา ขี่รถเครื่องเที่ยวงานปิดทองฝังลูกนิมิต แล้วก็ดูดนตรีกินโต๊ะจีนรสชาติดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ก็สนุกที่ได้เจอเพื่อน
“ไง”
เฮ้อ!
เน่นะเน่ หลอกกันได้
เออๆ เทียนก็ไม่ได้โง่พอที่จะเชื่อว่าเน่กลับมากรุงเทพฯเพื่อจะคุยกับเขาหรอก ป่านนี้คงมีความสุขอยู่กับเสี่ย
“หาทางมาจนได้นะ”
น้ำเสียงเรียบๆเอ่ยทัก ไม่ได้คุยกันแบบตัวๆมาตั้งเท่าไหร่แล้ว
“ขอบคุณนะเทียน”
ไทกล่าวเรียบๆ ก่อนนั่งลงบนโซฟาฝั่งเดียวกัน แน่นอนเทียนไม่ยอมง่ายๆ พาร่างตัวเองลุกหนี แต่มือกลับถูกไทคว้าไว้อย่างรวดเร็ว
“จะไปไหน~ ไหนมาดูหน้าหน่อยซิ ตัวการที่ทำให้เน่อกหัก”
คนง้อรีบเล่นมุกคลายเครียด แต่คนฟังไม่สนใจ
“เทียน....นั่งคุยกันก่อนสิวะ”
เทียนถอนหายใจ แล้วเลือกนั่งเก้าอี้ตรงข้าม ไม่มีทางเสียหรอกที่จะมาจู๋จี๋ด้วย
“คิดถึง”
“ให้เน่หลอกกูทำไม”
ไทยิ้มเจ้าเล่ห์
“ขอบคุณนะที่ยอมเชื่อคำขอที่ไม่มีทางเป็นไปได้”
เทียนกลอกตาหนี ไม่อยากมองหน้าไอ้คนรู้ทัน
“วันนี้ขอคุยด้วย ส่วนวันพรุ่งนี้...มึงจะตัดสินใจยังไง กูก็ยอมรับว่ะเทียน”
•
-ไม่มีค่ะดราม่า สงสารเน่