#เสี่ยกับเน่ (shotacon) -จบ- :: เสี่ยกับเน่มีอีบุ๊คแล้วจ้า!!! 15 เม.ย.62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เสี่ยกับเน่ (shotacon) -จบ- :: เสี่ยกับเน่มีอีบุ๊คแล้วจ้า!!! 15 เม.ย.62  (อ่าน 73786 ครั้ง)

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Chapter 23
มือถือใบ(สั่ง) ไฟส่องหน้า



“พี่ว่าให้ข้างหลังเบลอๆ ก็สวยดีนะ”

มือเรียวสวยจับนั่นแต่งนี่อยู่นาน เพราะตัวเองก็ทำไม่เป็น
กล้อง DSLR สีดำขลับ สัญชาติญี่ปุ่นที่เสี่ยเพิ่งถอยออกมาให้ลูกสาวคนสวยกำลังอยู่ในมือของคนที่เล่นไม่เป็น ...เอาตรงๆ ก็เล่นไม่เป็นเลยสักคน เสี่ยแกแค่ซื้อให้เป็นของขวัญเรียนดี เพราะน้องแป้งร่ำร้องอยากได้มานานแล้ว และถ้าลูกสาวเอาดีทางด้านนี้จริงๆจังๆ เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่อีกคนนี่สิ ท่าทางจะเห่อมากกว่าเจ้าของเสียอีก จับใหญ่เลย ...
เฮ้อ! น่ารักชะมัด


“มองอะไรครับเสี่ย กาแฟเย็นหมดแล้ว รีบกินเลยๆ”
ไม่ต้องบอกว่าเขิน ก็ดูออกว่าเขินมาก เสี่ยจึงหยิกแก้มคนข้างๆด้วยความมันเขี้ยวไปหนึ่งที โดยทำเป็นไม่สนใจท่าอาเจียนของลูกสาวที่นั่งตรงข้าม น้องแป้งเลยจัดไม่เด็ดไปหนึ่งดอก
“พี่เน่ดูภาพเป็นอย่างเงี้ย แสดงว่ารับงานบ่อยเลยใช่มั้ยคะ”
โดนหางานให้แล้วไหมล่ะ เนเน่รีบวางกล้องลง หน้าตานิ่ง แต่แววตาลนลานอย่างปิดไม่มิด
เสี่ยมองควันจากกาแฟ มันกำลังลอยคุกรุ่น คล้ายดั่งอารมณ์เขาตอนนี้ พอเป็นเรื่องของเน่ หัวใจก็ควบคุมไม่ค่อยจะอยู่ ...เป็นคนแก่ที่แย่จริงๆ

“น้องแป้งก็พูดไป พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
ตอบด้วยเสียงเบาราวปุยนุ่น

“ทำน่ะทำได้นะ แต่ต้องพอประมาณ”

“ครับเสี่ย เสี่ยก็รู้ว่าพี่หมีตามตลอด ไม่มีอะไรหรอกเนอะ”
เด็กเสี่ยแอบอ้อนออเซาะ เอาหัวถูไหล่แกร่งไปมา

“เพิ่งผ่านมาแค่สองเดือนเองนะ อย่าให้ต้องบ่นหลายรอบ ตั้งใจเรียนอย่างที่หวังไว้สิ”

“คร้าบผม”
ปากน่ะยิ้มนะ แต่ในใจเน่ขมขื่น
เน่ชอบภาษาอังกฤษก็จริง แต่การเรียนในสิ่งที่มันไม่ท้าทาย และเรารู้ค่อนข้างเยอะ ทำให้เขาเบื่อมากๆ ถึงมากที่สุด แต่ไม่สามารถระบายให้ใครฟังได้เลย เพราะนี่คือสิ่งที่เน่เลือกเอง เขาร้องไห้ เขาอ้อนวอน เขาขอร้องเสี่ยให้ได้มาอยู่ ต้องทนคิดถึงสุพรรณ คิดถึงบ้านทรงไทยบรรยากาศเกินล้านมาได้ตั้ง 2 เดือน! 
ไม่เอาหรอก
ไม่บอกใครหรอก
...เรียนๆไปมันคงดีขึ้นเองล่ะมั้ง
อย่างน้อยๆตอนนี้ก็รับงานถ่ายแบบกับถ่ายงานเล็กๆน้อยๆให้เด็กนิเทศฯ ซึ่งก็พอถูไถไปได้บ้าง แถมบางงานยังหลอกพี่หมีว่าไปทำการบ้านกับเพื่อน ทั้งๆที่จริงไปถ่ายงานในตัวเมืองกับเต้ เด็กไอทีที่เน่ไปทำรถเขาเป็นรอยวันนั้นอีก
สนุก....มั้ง
ถลำตัวไปแล้ว ถอยกลับไม่ได้แล้วล่ะ

“สั่งอะไรเพิ่มไหมคะพ่อ พี่เน่”
คุณลูกสาวผู้รู้ตัวว่าเป็นต้นเหตุให้บรรยากาศเสียเอ่ยแทรกขึ้นมาเพื่อกลบความอึดอัดทิ้งไป ก็วันนี้มาเที่ยวใจกลางเมืองกรุงเทพฯทั้งที มันก็ต้องเอาให้สุด เข้าร้านกาแฟแพงๆแบบที่คนไม่เข้า ดื่มด่ำบรรยากาศแห่งความอบอุ่น

“เอาเรดเวลเวดมั้ย ให้น้องแป้งถ่ายรูป”
เน่พูดถึงเค้กสีแดงสด รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ เขาไม่ได้กินนานแล้ว อยู่กับพี่หมี แกก็เอาแต่นอนในห้อง แต่ถ้าจะให้ไปเที่ยวด้วยกัน มันก็ยังไงอยู่

“ก็ได้ค่า”
เด็กหญิงอาสาเดินไปสั่งด้วยตัวเอง นัยว่าให้สองคนที่เหลือเคลียร์ใจกันซะ

เนเน่ไม่รู้ว่าเสี่ยรูปหล่อจ้องมองเขาตลอดทุกการกระทำ
พิงไหล่
แคะเล็บ
กัดปาก
ปัดฝุ่นออกจากกางเกง
นั่งมองเท้าตัวเอง
ทุกช่วงเวลาปรากฏอยู่ในสายตาของเสี่ย
แกไม่อยากเดาเรื่องอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ รู้เพียงแค่ว่าเนเน่ เด็กดื้อของเขา ควรมีความสุขมากกว่านี้ ตอนนี้เน่ขาดความเป็นธรรมชาติ แววตาไร้ประกาย

“ถ่ายแบบมากเกินไปหรือเปล่า”

“หือ?”

การเป็นตัวของตัวเองนั้นดีที่สุด แต่เน่คงทำงานจนหลงลืมมันไป เฝ้าสวมคาแรคเตอร์ของคนอื่นเพื่อให้ดูดี เพื่อให้ขึ้นกล้อง ซึ่งไม่ควรนำกลับมาใช้ที่บ้าน

“อย่าดื้อนะ”

“อื้อ ไม่ดื้อหรอก”

เด็กยิ้มให้กับเสี่ย ให้กับมืออันอบอุ่นของเสี่ยที่ลูบหัวเขา



รถเก๋งทรงยาวสวยจอดเข้าซองในบริเวณของอาคารเรียนรวม ซึ่งวันนี้เนเน่ต้องมาเรียนวิชาเสรี เป็นวิชาเลือก เราอยากเรียนอะไรก็ได้ตามที่ใจปรารถนา แล้วก็เป็นวิชาง่ายๆ อาจจะมีงานกลุ่มบ้าง แต่ไม่เคร่งเท่าวิชาหลัก จะว่าไปก็เหมือนวิชาช่วยมากกว่า เด็กๆจึงนับวันรอเพื่อมาเรียนวิชาเสรีกันแทบทุกคน แถมยังได้เจอเพื่อนต่างคณะด้วยแน่ะ อย่างนี้ใครจะไม่ชอบ
สำหรับเนเน่ เขาเลือกวิชา Family Management คิดเอาไว้ว่าจะนำไปปฏิบัติเวลามีลูกกับเสี่ยน่ะนะ

“ไม่รีบเหรอ เดี๋ยวสายนะ”
เช้านี้เป็นเช้าที่พิเศษมากๆ เพราะเสี่ยมาส่งเน่ด้วยตัวเอง แต่มีที่ไหนมาบอกให้เขาลงจากรถ ทั้งๆที่มือยังจับกันอยู่เลย

“อีกสิบนาที ว่าแต่เสี่ยนั่นแหละ เข้าซองทำไมล่ะครับ”

“ว่าจะไปซื้อกาแฟก่อน”

“เน่ไปด้วยสิ”

“ไม่อายเหรอ”

“อายทำไม เขารู้กันทั้งคณะ”
พูดมาได้หน้าตาเฉย เสี่ยเลยเขกมะเหงกไปที

“กวนหรือเปล่า”

“จริง เขารู้หมดแล้วครับเสี่ย พ่อที่ไหนจะหล่อแบบนี้ อีกอย่างนะ เน่ก็แอบถ่ายรูปเสี่ยลงไอจีประจำ”

“โม้”

“ไม่โม้ๆ เอาเรื่องจริงป้ะ”

“เอา...—เอากันตรงนี้แหละ!”
น้ำเสียงกัดฟันเหมือนเขี้ยวจะงอกมากินหัว เนเน่กำลังจะอ้าปากพูด ก็ถูกเสี่ยจูบระรานอีก ฟันหน้าอันแข็งแรงฝังรอยเขี้ยวไว้ปลายคาง อีกทั้งลิ้นร้อนยังขอชิมรสปากเด็กหนุ่มอยู่นานกว่าจะปล่อย

“อือ....เสี่ย..เดี๋ยวก็มีคนเห็นหรอก”

“ให้เห็นไปสิ เธอไม่อายไม่ใช่เหรอ”

“เฮอะ! พ่อที่ไหนมาจูบลูก”

“เป็นพ่อทูนหัว ที่เป็น ‘ผัว’ เธอ”

“ฮ่าๆๆ โอ๊ยเสี่ย พอพูดคล้องจองแบบนี้แล้วดูแก๊แก่ ...ลืมไปเลยนะเนี่ยว่าคุณพ่อแก่แล้ว ฮ่าๆๆ”

เน่เผลอหัวเราะไป โดยลืมว่าตาแก่ขี้เก๊กเป็นคนกลัวเสียฟอร์ม พอถูกหัวเราะใส่เลยยั้วะ ทำท่าจะขย้ำลูกหมาอีกแล้ว

“อือ ...ไม่เอาาาาา”
วันนี้เสี่ยลืมโกนหนวด ปลายคางจึงมีขนเป็นตอทิ่มออกมา แล้วมันก็ทิ่มแก้มเน่ ปากเน่ คอเน่ มันเห่อแดง ลามไปถึงหู เสียงของเด็กหนุ่มเบาลง...เบาลง จากที่ต่อต้านในตอนแรก กลับกลายเป็นโอนอ่อนผ่อนตาม


.
.
.
.


สุดท้ายเน่ก็เข้าคลาสสายไปครึ่งชั่วโมง เพราะมัวแต่เถียงกับเสี่ยเรื่องจะกินกาแฟรสอะไร......มั้ง
 ไหนจะปั้นเรื่องโกหกเสี่ยว่าอาทิตย์นี้กลับสุพรรณฯไม่ได้อีก

ฟังไม่ผิดหรอก

เน่โกหกเสี่ย

สาเหตุที่เสี่ยมาหากลางสัปดาห์ก็เพราะเน่ไปปดเอาไว้ว่าเสาร์-อาทิตย์มีงาน ต้องทำงานกับเพื่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่ผ่านแน่ เพราะงานชิ้นนี้คิดเป็น 30% ของทั้งหมด ทั้งต้องสัมภาษณ์ฝรั่ง ทั้งเขียนรายงาน ทั้งจัดทำพรีเซนต์หน้าชั้นเรียน เน่น่ะกลับเรือนไทยไม่ได้แน่ๆ
เสี่ยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ บวกกับพี่หมีก็ไม่รู้ คิดว่าเป็นเรื่องจริง
ไม่ใช่สิ
ไม่เคยคิดว่าเป็นเรื่องอะไรทั้งนั้น มันก็แค่เรื่องธรรมดาของเด็กวัยมหาลัย
จะโกหก ไม่โกหก ไม่เคยอยู่ในหัว

แล้วเรื่องจริงล่ะ...?

เนเน่มีงานถ่ายแบบกับเต้ เป็นตีมคู่รักวัยรุ่นที่กำลังมีกระแส โดยโลเคชั่นเป็นป่าดอกหญ้า เน่เดาเอาว่าภาพคงออกแนวฟุ้งๆ ชวนฝัน เพราะต้องให้เข้ากับหน้าบล็อกของนักท่องเที่ยวรุ่นพี่นิเทศฯ ซึ่งพี่แกเป็นสาววาย อยากจะได้อะไรฟินๆมาประดับหน้าบล็อก
เขาเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนชอบมากขนาดนี้ แค่ถ่ายโปสเตอร์ด้วยกันกับเต้ครั้งนั้น ก็เริ่มมีแฟนคลับ เริ่มมีงานเล็กๆน้อยๆ ซึ่งช่วยแบ่งเบาความน่าเบื่อไปได้มาก นี่เต้มันก็แอบไปแคสงานละครด้วยนะ ไม่รู้ว่าถ้าดังแล้ว คู่จิ้นคู่นี้จะมีกระแสเพิ่มหรือเปล่า ตอนนี้ยังดังแค่ในวงเล็กๆ แต่เน่ก็ชอบ ไม่รู้สึกว่าถูกแย่งความเป็นส่วนตัวเลย

[มาเอาขนมที่กูด้วยนะ น้องฟิล์มฝากมา]
ข้อความจากเต้ถูกส่งมาระหว่างที่เน่กำลังจะแยกกับเสี่ย
คนมีประสบการณ์เรื่องความรักมาอย่างโชกโชนลอบสังเกตท่าทางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นั่น
เสี่ยคว้ามือเน่ไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินห่างออกไป

“ทำงานวันธรรมดาไม่ได้เหรอ”

“ไม่ได้หรอกครับ”

“ถ้าเธอเหนื่อย ก็กลับบ้านเรานะ อย่าแก้ปัญหาด้วยตัวเอง”

“โถ่เสี่ยอ่ะ พี่หมีก็อยู่ ขี้หวงมากกว่า อย่ามาอ้างเลย”

คนฟังอมยิ้มน้อยๆ
“ก็รู้ว่าเป็นคนยังไง อย่าให้มีเรื่องแล้วกัน”

เนเน่พยายามไม่ทำสายตาหลุกหลิกกับคำขู่นั่น
“เสี่ยรักเน่ไม่ใช่เหรอครับ”
พูดพร้อมกอดแน่นๆ
“เดี๋ยวเน่ง้อ เสี่ยก็หายงอนใช่ป่ะ”

เสี่ยไม่พูดอะไร ทำเพียงลูบผม สัมผัสสุดท้ายก่อนจากกัน

“นี่...—ถ้าเน่เลิกเร็ว ก็อาจจะไปหานะ ...รอนะครับ”

“อืม”

“...รักเสี่ยที่สุดเลย”



เน่คงลืมไป
ว่าคนรักกัน
ไม่ควรทำแบบนี้



แอบมากับเต้จนได้

บอกพี่หมีว่าไปทำงานบ้านเพื่อน เดี๋ยวเพื่อนมารับ ก่อนจะเช็กตัวเองให้ชัวร์ว่าพี่แกไม่ได้แอบติดgpsไว้ที่ไหน ทั้งยังไม่พกโทรศัพท์มือถือ แน่นอนว่าเน่ทำแบบนี้จนชิน จนเหมือนแอบสามีมาหาชู้ยังไงก็ไม่รู้

“ขยับเข้ามาอีกสิ”
เต้ดึงไหล่บางเข้าหาตัวเอง พยายามหามุมกล้องให้ดูเหมือนว่ากำลังจะจูบกัน แต่เน่คิดว่าแรงไป ไหนว่าจะมาถ่ายแนวคู่รักใสๆไง

“มันก็ใกล้แล้วนะ”

“เขินเหรอ”
ขยี้หัวซ้ำอีก
ก็เน่น่ารัก ไปที่ไหนคนก็เอ็นดู

“ไม่โว้ย แค่เกรงใจแฟน”

“หลอกเขามาขนาดนี้ยังเกรงใจกันอีก”

“ดูหน้าด้วย หน้าเราใสๆ ซื่อๆ บริสุทธิ์ผุดผ่อง”

“เชื่อจ้ะเชื่อ”

“โอ๊ยทำไมมดแถวนี้มันเยอะจังวะ”

เสียงรุ่นพี่แซ็วดังแทรกขึ้นมาในโลกของทั้งคู่
ไม่ปฏิเสธว่าเน่สบายใจมากเวลาได้อยู่กับเต้ แต่มันเป็นความรู้สึกคนละแบบกับคนรัก เขาไม่เคยคิดอยากจะมีอะไรกับเต้ พวกความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวอะไรนั่น แล้วก็ไม่พากันบ้าๆบอๆ แบบที่คบกับเอ็มมิค แต่เป็นความรู้สึกเรื่อยๆ สบายๆ มากกว่า

“เมื่อกี๊พี่ได้หลายช็อตเลย สวยมาก”

“ตอนเราเผลอเหรอครับ”

“ใช่ค่ะ แต่เสียดายแสงตรงนั้นมันเข้าทางฝั่งน้องเน่ซะเยอะ ไอ้เต้เลยดำๆไปนิด”

“ขอผมดูหน่อยสิพี่”
เต้เป็นคนเอาการเอางาน และจริงจังกับวงการนี้มาก จึงอยากพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ถ้าเขาแก้ไขงานตัวเองได้ ก็จะขอถ่ายใหม่ตลอด

“ก็สวยนะ”
ในรูปเท่าที่เน่เห็นนั้นสวยมากจริงๆ ภาพโฟกัสเขาสองคนยืนคุยกันห่างออกไป มีต้นหญ้ากระทบกับแสงแดดยามบ่ายขึ้นบังอยู่ข้างหน้ากำลังพอดี
“เหมือนนางฟ้าเลย”
เนเน่เหมือนไม่ใช่คนจริงๆ ด้วยแสงแดดที่ส่องเข้าหาแผ่นหลัง กับรอยยิ้มละมุนละไมนั่น มันลอยฟุ้ง มันสดใส คล้ายกับว่าปีกจะงอกออกมาตอนไหนก็ได้ ส่วนเต้เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งที่ได้พบนางฟ้า
“ก็ไม่ดำมากนะ”
เน่ทัก เขาคิดว่ามุมนี้เต้หล่อดีออก เข้มขึ้นด้วย จากที่ปกติจะออกแนววัยรุ่นหน้าตาดีธรรมดา

“อาทิตย์หน้าจะไปแคสติ้งบทตัวร้าย เอามุมนี้ดีไหมเน่”

“ก็ลองสิ หันข้างนิดๆ  หลบแสงหน่อยๆ แล้วมองแรงๆใส่กรรมการ”

“พี่ว่าแกก็ร้ายอยู่นะเต้ ไม่ต้องหามุมหรอก”

“พี่หลอกด่าผมป่ะเนี่ย”

“ไปเป็นตัวร้ายทำไมวะ ทำไมไม่ไปแคสละครวาย ดังไวนะเว่ย เนี่ยเล่นคู่กับเน่สิ”

“มันมีเหรอครับ”

“อื้อ เดือนหน้านี้ไง ที่พารากอน ลองไปสมัครดูดิ บอกสังกัดแกด้วยไอ้เต้ เผื่อจะช่วยฝากๆกันได้”

“ไม่เอาหรอก รู้สึกผิด”

“จ้า พ่อคนดี แต่ถ้าสนใจบอกพี่นะ ไม่ต้องเป็นเด็กฝาก แต่ติดต่อสังกัดแกไว้
ก็พอ ส่วนพี่จะช่วยแต่งหน้าแต่งตัวให้หล่อๆเลย ไปหาอ่านดูรายละเอียดตัวละครที่เขาคัดในเน็ตก็ได้ พี่เชียร์ว่ะ รุ่งแน่เอ็งสองคน เคมีเข้ากันออกอย่างนี้ ...ว่าแต่แฟนน้องเน่คงไม่โกรธใช่มั้ย”

คนถูกถามยิ้มเจื่อน
“น่าจะนะครับ”

“ก็ดีแล้ว—เอ้อ! มันมีเด็กคนนึงบอกว่าเป็นแฟนคลับแกสองคน พี่ให้ไปนั่งรอข้างนอก ลองไปหาสิ”

เนเน่ไม่ตกใจที่มีคนมาตามเพราะก็มีมาอยู่เรื่อยๆ แอบถามจากกองบ้างล่ะ จากเพื่อนบ้างล่ะ ไม่รู้ว่าจะขยันอะไรกันนักหนา บางคนตามจนจำหน้าได้ แต่น้องมันก็ไม่ได้วุ่นวายอะไร มาขอถ่ายรูปแล้วไปแค่นั้น รายนี้ก็คงเหมือนกัน

เด็กผู้หญิงหน้าตาดี ผิวขาวจัด แต่งหน้าเข้ม และทั้งคู่ไม่เคยเจอมาก่อน นั่งรอพร้อมยิ้มแป้น

“สวัสดีค่ะพี่เต้ พี่เนเน่”

“สวัสดีครับน้อง”

“ดีใจจัง...ได้เจอพี่สองคนสักที หนูชอบพี่ๆม้ากมากเลยค่ะ พี่เหมาะสมกันมากกกกก €¥#&&)>%*$|#^”

เน่กับเต้มองตากันอย่างรู้ทันว่าสิ่งที่น้องพูดมานั้น มึงเบื่อแล้วใช่ไหม เพราะน้องแกเล่นสาธยายตั้งแต่ที่หลงรักครั้งแรก ไปจนถึงเก็บรูปไว้ใต้หมอน ซึ่งยิ่งแปลกขึ้นเรื่อยๆ

“เอ้อน้อง”

“คะ?”

เต้มองตั้งแต่หัวจรดเท้า เท้าจรดหัว
“พี่ขอบคุณนะที่รักกัน ติดตามกัน แต่เดี๋ยวพี่สองคนไปทำงานต่อก่อนนะครับ ถ่ายรูปเลยดีมั้ย”

แทนที่จะดีใจ น้องหน้าขาวกลับขมวดคิ้วไม่พอใจ

“หนูยังพูดไม่จบ”
ท่าทางจะเจอคนประหลาดเข้าให้แล้ว เน่จึงยกให้เต้จัดการไปเลย เขาน่ะติดเหวี่ยงวีนกับคนเพี้ยนมาแต่ไหนแต่ไร ไม่กล้าในเวลาแบบนี้หรอก เสียภาพพจน์

“แต่งานพี่ยังไม่เสร็จเลย น้องรอได้หรือเปล่าครับ มันร้อนนะ”

“เอาล่ะๆ หนูเข้าใจค่ะ”

“โอเคครับ งั้นเรามาถ่ายรูปกัน”

“ไม่ๆ ที่จริงหนูมีเรื่องจะถามพี่เน่”

“ครับ?”
หน้าน้องจริงจังมาก

“พี่เน่มีพี่เต้อยู่แล้ว แล้วทำไมถึงมีคนอื่นได้อีก”

“ห๊ะ?”

“นี่ไง!”
จู่ๆก็ถูกเอามือถือกระแทกหน้าอกค่อนข้างแรง เนเน่ถึงกับเซไปข้างหลังเพราะไม่ทันตั้งตัว แต่เต้ก็ประคองไว้ทัน เจ้าตัวมีสติมากกว่า จึงหยิบมือถือของน้องหน้าขาวมาดู  ซึ่งเปิดแอปอินสตาแกรมหน้าของเน่ค้างไว้ ในนั้นมีรูปไม่ถึงสิบรูป แต่ทั้งหมดเป็นภาพแอบถ่ายเสี่ย ไม่ก็ภาพมือสองมือจับกัน ภาพเงาของคนสองคน มีแต่เสี่ย แต่เสี่ยเต็มไปหมด

“พี่ล็อกไอจีไว้นี่”

“หนูมีวิธีก็แล้วกัน”
เด็กบ้าแย่งมือถือของตัวเองคืนไป

ควรทำหน้ายังไงวะ

เน่กับเต้มองหน้ากันอีกแล้ว สายตาส่งคำถามร้อยแปดให้กันว่าควรจัดการกับเด็กนี่ยังไง เจอคนบ้าเข้าแล้วไหมล่ะ

“น้องข้องใจแค่นี้ใช่ไหมครับ”

“ใช่! พี่เน่มีเสี่ยเลี้ยง แล้วก็มาคบพี่เต้ ถามจริงเถอะ ไม่สงสารพี่เต้เลยเหรอ น่าเกลียด ทุเรศมากๆ —พี่เต้ยอมได้ไงคะ ทำไมไม่แย่งสักที หรือไม่มีปัญญา”

“เฮ่ยน้อง น้องเป็นอะไรมากป่ะ”

“หนูรักพี่ทั้งคู่นะ แต่เราต้องทำให้ถูกต้องสิคะ พี่เน่เลิกกับเสี่ยนั่นเดี๋ยวนี้เลย”

“จะบ้าเหรอ”
กำลังงง เลยพูดได้แค่นี้จริงๆ

“ไม่งั้นหนูจะแฉว่าพี่เน่เป็นเด็กเสี่ย คบเสี่ยแก่ๆเพราะเงิน”

“อะไรน้อง ทำเพื่ออะไร มายุ่งวุ่นวายทำไม”

“ก็หนูอยากให้พี่สองคนคบกันอย่างมีความสุขนี่คะ”

“พี่สองคนเป็น เพื่อน! กัน!”

“ไม่เชื่อ!”

“ไม่เชื่อก็ตามใจ แต่อย่ามายุ่งกับพวกพี่อีก”
เต้รีบตัดบท ก่อนที่เน่จะหนุมานถวายแหวนใส่
ทั้งสองเดินหงุดหงิดเข้ากองไปฟ้องพี่ๆอีกทอด แม้จะเห็นว่าเด็กนั่นถ่ายรูปรัวๆเพื่อเอาไปทำบ้าอะไรก็ไม่รู้ แต่เขาก็ไม่สนใจแล้ว อารมณ์มันเสียไปแล้ว ปล่อยให้พี่ๆจัดการไล่นางไปดีกว่า

บอกได้คำเดียวว่า เซ็ง!





To be continued...

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เป็นแฟนคลับก็ควรมีลิมิตนะจ๊ะ แหมมม ตบเลยดีมั้ย :katai4:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ทำอะไรไม่คิดถึงใจคนข้างหลัง พอเกิดเรื่องขึ้นมาแล้วจะเป็นยังไง?
เน่คิดน้อยไปมากจริงๆอ่ะ

 :hao3:

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูเสี่ย ต้องมีเด็กร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่ :z3:

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ JanJanIsHappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หาเรื่องใส่ตัวมากเน่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Chapter 23(2)
บางทีก็เหยียบหนามกุหลาบบ้าง



เรื่องของเด็กคนนั้นไม่ได้อยู่ในความทรงจำของเน่ตั้งแต่วันถัดมา เรื่องไร้สาระนั่นก็แค่เรื่องที่ผ่านมาแล้วผ่านไป เนเน่กลับมาเรียนหนังสือเหมือนเดิม รอนัดเต้ไปแคสติ้งซีรี่ส์วายของช่องชื่อดังแห่งหนึ่ง น่าสนุกดีนะ ได้ทำอะไรใหม่ๆ
กับการแสดง เขาก็ไม่เคยจริงจังขนาดนี้หรอก เคยแค่เล่นหนังสั้นกุด กับเอ็มวีโปรเจ็คต์ของนักศึกษา มานึกดูแล้วก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าจะมีงานเข้ามาเรื่อยๆ

“วันนี้กินอะไรดีเน่”
พี่หมีร่างมหึมาจนจะกลายเป็นหมียักษ์ เพราะบ้าเล่นกล้าม เห็นแกบอกว่าเครียดๆไม่มีอะไรทำก็เข้าฟิตเนส พอไปรอเน่ที่มหาลัย ก็เข้ายิม

“ยำมาม่า เอาแซ่บๆนะครับ”

“อืม พี่โทรสั่งเลยนะ”

“ครับผม —เอ้อ พี่หมีแอดคนที่ชื่อว่า ‘สวัสดี บางกอก’ ในเฟซเหรอ”

“อืม”
พูดพร้อมเหล่ตา ไทรู้ทันไอ้เด็กแก่แดดหรอกน่า

“ไม่ต้องรับหรอก เป็นโรคจิต”

“ไม่รู้สิ เห็นว่าเป็นเพื่อนเน่นี่”

“บล็อกไปแล้ว”

“เหรอๆ ไหนดูซิว่าจิตมากไหม”

“ถ้าเขายังไม่รับเราเป็นเพื่อน ก็ดูไม่ได้หรอก”

“ทำไมล่ะ”

“ปิดสาธารณะไง”

“มีแบบนั้นด้วยเหรอ แย่จัง ไหนดูก่อนว่าโกหกกันหรือเปล่า”

แน่ะ พูดแล้วยังไม่เชื่อกันอีก เนเน่จึงลุกออกจากโซฟา หนีไปเปิดคอมฯเล่นเกม

ผ่านไปเกือบชั่วโมงได้ เด็กเสี่ยกำลังยกพวกตีเมืองฝ่ายตรงข้ามกันอย่างเมามัน ถ้าพี่หมีอนุญาตให้เปิดไมค์ด่าจะยิ่งสนุกกว่านี้อีก แต่โดนเสี่ยสั่งมา จึงทำได้แค่ด่ากับตัวเอง ให้ได้ยินกันแค่สองคนในห้อง

สนุกจนไม่รู้เลยว่าพายุกำลังจะเข้า!

“...ได้ครับเสี่ย—-เน่”

เงียบ
บอสกำลังจะตายแล้ว เน่ใช้สมาธิอย่างหนักจึงไม่ได้ยิน

“เน่....”

เดี๋ยวซี่พี่หมีเถื่อน
ไม่เห็นรึไงว่าไม่ว่าง

“เน่!!”

“อะไร้~”
ขานรับจนได้ แต่ตายังจ้องมองจอคอมอยู่ อีกนิดเดียว อีดนิดเดียวเท่านั้น

“เมื่อวันอาทิตย์ไม่ได้ทำงานส่งอาจารย์ใช่มั้ย”

“อะไรนะ?”

ไม่ทันฟังหรอก ชนะพอดีเลย
เนเน่ส่งแชทหาเต้เพื่อนร่วมทีมเพื่อแสดงความดีใจ กว่าจะฝ่าด่านไอ้เด็กมาเลย์มาได้ ก็เล่นเอาเหงื่อตก อย่างนี้ต้องให้เต้เลี้ยงฉลองซะแล้ว บ้านมันรวย งานก็มี แหม่ เน่นี่เกิดมาโชคดีจริงๆ มีแต่คนรักและอุปถัมภ์

“เลิกเล่นก่อนได้มั้ย มีเรื่องจะถาม”

“ถามมาเลย เล่นเสร็จแล้ว”
หมุนเก้าอี้หันมาหาผู้ดูแลที่ไม่ค่อยจะถูกกัน หน้าตาสดใสของเด็กหนุ่มทำให้ไทผ่อนลมหายใจช้าๆ ไม่อยากทำลายมันหรอกนะ แต่เน่ทำตัวเองเอง
เน่ไม่ได้โชคดีแบบทุกวัน เพราะถ้าโชคดีจริงๆ เขาควรจะเห็นเป็นคนแรก แล้วค่อยๆคุยกับเสี่ย แต่นี่...เสี่ยเห็นก่อน รับรู้ทุกอย่างก่อน

ช่วยไม่ได้จริงๆ

“ว่าไงครับ มีอะไรเหรอ”

“เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์น่ะ ที่บอกว่าสัมภาษณ์ฝรั่ง...ทำงานจริงเหรอ”

“จริงซี่ มีอะไรอ่ะ เน่นัดเพื่อนไว้ทั้งวัน อาจจะมีเล่นๆบ้าง แหมพี่หมีก็ต้องเคยผ่านการเป็นวัยรุ่นมาก่อนใช่มั้ยล่ะ งานมันเลยเสร็จช้าไง เนี่ยเจอฝรั่งน่ารำคาญด้วยนะ ชอบมาเกาะแกะเน่ แต่เราเก่งไง เลยจัดการได้ ใช่มะๆ”

ไทขำแห้ง เน่กำลังพูดมากเพื่อกลบสายตาหลุกหลิก และพยายามปล่อยมุกให้เป็นธรรมชาติ แต่มันกลับไม่ใช่อย่างนั้น เน่ไม่เคยสนใจที่จะแก้ตัวอะไรกับเขายาวๆอย่างวันนี้หรอก ชอบกวนตีนใส่เสียด้วยซ้ำ

“เน่ไม่ได้โกหกแน่นะ”

“จะโกหกทำไม เน่ไม่โกหกหรอก อยากหยุดไปอยู่กับเสี่ยจะตาย”

“บอกพี่มาตรงๆเถอะ”

“อะไร ตรงๆอะไร”

“ไปทำอย่างอื่นมาใช่มั้ย”

“ไม่ช่าย ทำงาน”

“หลอกพวกเราทำไมเน่”

“อะไรพี่หมี มั่วแล่ว”
เนเน่ถูกต้อนจนมุม จึงทำท่าจะลุกเข้าห้อง แต่ไทไวกว่า แทบจะกระโดพุ่งตัวใส่ แล้วคว้าแขนเล็กไว้

“บอกมาเถอะ ถ้าเสี่ยโกรธล่ะเน่”

“เสี่ยไม่โกรธหรอก อย่างมากก็แค่งอน เสี่ยน่ะรักเน่จะตาย ง้อแป๊บๆก็หาย”

“แน่ใจเหรอ ถ้าเสี่ยรู้เรื่องนี้ เน่โดนหนักเลยนะ”

“โดนทำอะไรครับ? ทำโทษเหรอ? ทำโทษของเสี่ยไม่เห็นเหมือนทำโทษเลย แค่มีอะไรแรงๆแค่นี้เอง ฟินจะตายไป”

“ตกลงว่าไม่ได้ไปสัมภาษณ์ฝรั่งอะไรนั่นใช่มั้ย”

“เฮ่อ!”
บอกก็ได้

“ไม่ได้ไป เน่ยอมรับก็ได้ว่าโกหก แต่เน่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ พี่เขาดีกับเรามาก แล้วงานมันก็สนุกด้วย”

“ไม่รู้หรือไงว่าเสี่ยเหนื่อยแค่ไหนที่ต้องมาเจอกลางสัปดาห์แบบนั้น”

“เน่รู้ แต่เสี่ยก็วิน-วินนี่นา เจอทั้งลูกทั้งเน่”

“ได้คิดถึงใจเสี่ยบ้างหรือเปล่า”

“คิดสิ....”
คิดว่าเสี่ยเข้าใจ เสี่ยเป็นคนบ้างานเหมือนกัน ต้องเข้าใจและเห็นใจอยู่แล้ว
“เน่จะสารภาพกับเสี่ยเอง เรื่องแค่เนี้ย เดี๋ยวเสี่ยก็หายงอน—ว่าแต่...พี่หมีรู้ได้ไงอ่ะ”

“มีคนโพสต์ในเฟซ”
ไทปล่อยแขนเน่ เสียงเบาลง

“โพสต์ยังไง ขอดูหน่อยสิครับ”

“เปิดของตัวเองสิ”
เมื่อเน่หันหลังกลับไป ไทจึงกดปุ่มสัญลักษณ์สีแดงกลมที่มีรูปโทรศัพท์สีขาวอยู่ข้างในบนหน้าจอ
‘ขอโทษนะเน่’
คราวนี้ไม่ใช่แค่ไม่คุยด้วยเหมือนที่ผ่านมาแน่ๆ และไทไม่คิดว่าเสี่ยจะลงโทษด้วยการจับขึงเตียงบ้าบอนั่น

เด็กยังไงก็เป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ
เสี่ยนะเสี่ย จะได้เลิกมีรสนิยมแบบนี้ก็คราวนี้แหละ





อยากจะตามหาตัวเด็กนั่น แล้วเอามาจับถ่วงน้ำซะให้เข็ด เด็กเวร!
เน่กับเต้ปรึกษากันว่าจะแจ้งความคนโพสต์ ซึ่งเป็นใครไม่ได้นอกเสียจากเด็กผู้หญิงคนนั้นที่น่าจะจิตไม่ปกติ หล่อนไล่โพสต์เฟซบุ้คชุดภาพที่เน่กับเต้สวีทกันหลอกๆเพราะงาน คู่กับภาพจากแอปพลิเคชั่นอินสตาแกรมของเน่เอง บอกว่าเป็นคนไม่ดี มีเสี่ยเลี้ยง ทั้งยังตั้งกระทู้ด่าเขาอีก คงเจ็บใจมากที่ไล่ไปวันนั้น นี่ถ้าลองทำดีด้วย เรื่องมันจะบานปลายถึงขนาดนี้ไหมนะ

“เฮ้อ! อยากย้อนเวลาได้จัง”

ไม่ใช่ว่าไม่กังวล
กังวลมากๆเลยน่ะสิ
ถ้ารูปคู่เต้ไม่ได้มาจากเมื่อเสาร์-อาทิตย์ก่อน เน่จะใจชื้นกว่านี้ แต่มันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว เสี่ยต้องรู้ว่าเน่โกหก ได้แต่ภาวนาให้พี่หมีช่วย แต่ไม่ชัวร์จริงๆ เพราะพี่หมีก็ไม่ชอบเด็กนิสัยไม่ดีอยู่เป็นทุน
ซวย
ซวยซ้ำซวยซ้อน

“อย่าเครียดเลยน่า”
มือหนาแตะหลังเน่ พลางนั่งลงข้างกัน ท่าทางจึงคล้ายกับว่าเต้โอบเน่แบบหลวมๆ

“ไม่ให้เครียดได้ไงวะ ติดต่อแฟนไม่ได้เลยเนี่ย”

“แล้วผู้ติดตามนั่นหละ”

“มาส่งแล้วก็หายไปเลย —โอ๊ย อย่าว่างั้นงี้เลยนะ คุยกันยังไม่คุยเลย”

“เอาน่า...ชีวิตมันก็ต้องมีอุปสรรคบ้าง แต่ระหว่างทางมันก็มีเรื่องดีเกิดขึ้นนะเว่ย ให้ทายว่าเรื่องอะไร”

“เฉลยมาเถอะ ไม่มีอารมณ์”
ทำเสียงฟึดฟัดแบบนี้ เป็นใครก็กลัว
เต้ชอบเนเน่มาก เด็กหนุ่มน่ารัก ฉลาด ชอบอะไรเหมือนๆกัน แต่นิสัยนี่สิ ขอบายดีกว่า ทั้งเอาแต่ใจ ขี้งอแง ยังไม่ค่อยโตนักถ้าไม่นับเรื่องความมีเหตุผลในหลายๆอย่าง
เอาเป็นว่าถ้าเน่ใจนิ่งกว่านี้ก็จะจีบใหม่อีกรอบ

“เสาร์นี้ได้ไปแคสติ้งแล้ว”

“เหรอ”
ดีใจอยู่หรอก แต่สภาพนี้เนี่ยนะ
“ไม่ไหวว่ะ”

“ไม่ลองไม่รู้นะ หนุกดีออก คู่กับเรายังดีกว่าคู่กับไอ้หนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้”

“เฮ้อ!”

คงแก้คิดถึงเสี่ยไปได้ล่ะมั้ง
อยากให้เขารู้ด้วยว่าเราทำงานจริงๆ โกหกแค่ไม่กี่ครั้งเอง ไม่ได้เสียการเรียนเลย แถมยังได้เงินตั้งเยอะ

“ไปก็ไปวะ”

ตัดสินใจไปอย่างนั้นทั้งๆที่รู้ว่าเสี่ยต้องโกรธมากๆ แต่เน่ก็ส่งข้อความหา บอกข่าวให้เสี่ยรู้ทันทีที่พูดออกไป


.
.
.
.


เช้าวันเสาร์ไม่เห็นหน้าเสี่ยอย่างเคย
แหงสิ เนเน่กำลังเดินทางไปแคสติ้งละครชายรักชายที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพฯ โดยมีสารถีเป็นนายเต้สุดหล่อที่วันนี้ทำผมทรงใหม่มา เท่มากๆ มันบอกว่าจะเป็นฝ่ายรุก ก็ต้องรุกให้สุด ส่วนเน่ไม่ได้ทำอะไรกับตัวเองเลย ก็ในบทมันเขียนว่านายเอกเป็นคนปอนๆ เซอร์ๆนี่นา เลยใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ แค่นั้น

“นึกแล้วก็ขำว่ะ หน้าพี่หมีอ่ะ เหมือนจะเอาปืนมายิงกบาล”

“แกก็เป็นอย่างนั้นแหละ”

“แฟนเน่ไม่โกรธใช่มั้ย”

“ไม่รู้ดิ—ส่งข้อความมาอยู่”

“ว่า?”

“อืม”

“ห้ะ?”

“อืม”

“อะไรวะ..อืม”

“ตอบแค่ ‘อืม’ อ่ะ เข้าใจป๊ะ!”

“จ้าๆ แสดงว่าม้ายโกร๊ธ ..ม้ายโกรธแน่ๆ—กูตายแน่ๆ”
คำหลังเต้บ่นกับตัวเอง เตรียมใจเตรียมกายโดนหนุ่มใหญ่เมืองสุพรรณฯฆ่าตายในเร็ววันนี้




อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด
ไม่ใช่เต้โดนเสี่ยฆ่าตายหรอก แต่เป็นจำนวนคนมากมายมหาศาล ทั้งนักแสดงเอง และทั้งแฟนคลับเอง เนเน่ลองสอดส่องหาแฟนคลับตัวเองบ้าง แต่ไม่ยักเห็น เห็นแค่พี่ๆและเพื่อนๆวิ่งกรูเข้ามากรี๊ดกร๊าด จนต้องหันไปมองหน้าเต้ว่ามันจ้างมาเป็นหน้าม้าหรือเปล่า

“ไม่ใช่”
เต้รีบตอบทันที

“ลงทุนมาถึงนี่เลยเหรอครับพี่”
หันไปหาพี่ๆ บ้าง

“ต้องมาสิ ตัวเต็งขนาดนี้ แกสองคนหล่อจะตาย นู่นๆ สาวๆมองตาเป็นมันเชียว”

“คนเยอะอ่ะพี่ ไม่ได้แน่เลย”

“ไม่ต้องเครียด มาเอาประสบการณ์”

“นั่นสินะ”

“แล้วน้องเน่เป็นอะไรจ๊ะ หน้าไม่ค่อยดีเลย พี่สังเกตมาหลายวันแล้วนะ”

คนถูกถามส่ายหัว
“สบายดีครับ”

“เครียดอะไรบอกได้นะ”

“ไม่มีอะไรครับ”

จู่ๆ เนเน่ก็รู้สึกตื้อ เขาอาจจะตื่นคน หรือตื่นเต้นเกินไป แล้วอีกอย่าง...อยากโทรไปหาเสี่ย

“เป็นอะไรวะ เมื่อกี๊ยังคุยดีๆ”

“ไม่รู้ว่ะ เคยเป็นไหมล่ะ ที่จู่ๆก็มึน อึน ไม่ทราบสาเหตุ”

“กินอะไรหวานๆเย็นๆมั้ย”

“ไม่อ่ะ”

“น้ำเปล่าไหม?”

“หื้อ ไม่เอา”

“โอ๊ยๆ มดจะกัดพี่อีกแล้ว หยุดหวานใส่กันสักวันได้มั้ย”

ทั้งสองยิ้มให้แห้งๆ ก่อนจะขอตัวไปกรอกใบสมัคร

คนเยอะจริงๆ ต้องเบีบดเสียดกันเดิน สงสัยว่าประเทศไทยมีคนหล่อที่พร้อมจะเป็นดาราเยอะขนาดนี้เลยเหรอนี่ คงเพราะมันกลายเป็นอาชีพที่รวยเอารวยเอา อีกทั้งภาพลักษณ์ที่ดูสูงส่ง ต่างจากเมื่อก่อนที่คนแก่ไม่ชอบ หาว่าเต้นกินรำกิน ไม่มั่นคง
เสี่ยเองจะคิดแบบนี้หรือเปล่านะ ถึงไม่ชอบที่เน่อุตส่าห์ตั้งใจหางานทำ

“เดี๋ยวนั่งรอเรียงตามลำดับหมายเลขเลยนะคะ”

“ขอบคุณครับ”

ทั้งสองเดินคู่กันไปนั่งยังเก้าอี้ที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ ยิ้มให้พ่อรูปหล่อข้างๆไปหนึ่งที แหม่ งานนี้ช่างเป็นอาหารตาให้บรรดาเก้งกวางบ่างชะนีเสียจริงๆ เนเน่ค่อยๆลืมความรู้สึกอึดอัดไปได้บ้างเมื่อคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย และได้นั่งทำสมาธิสักพัก

“ถ่ายรูปกัน”

“อื้อ”
ตอบพร้อมส่งยิ้มให้กล้องโทรศัพท์มือถือของเต้ ส่วนของเน่น่ะเอาไว้ถ่ายเสี่ยคนเดียว เกรงใจแก อุตส่าห์ซื้อให้




“อู้ววว ว้าววว”


หูกระดิกกับเสียงอื้ออึงที่เน่เคยได้ยินเป็นครั้งแรกในชีวิต
อื้ออึงชนิดที่ว่าเป็นเสียงซุบซิบตามมาโดยรอบไม่ยอมหยุด
มีดารามาเหรอ?
หรือคนที่หล่อกว่าใครในนี้มาสมัครแคสติ้ง?
อะไรกัน
ยังอื้ออึงไม่หยุดเลย

เนเน่หันซ้าย ....ไม่เจอใคร นอกเสียจากบรรดาสาวๆที่ยืนเกาะกลุ่มกันเป็นหย่อมๆ กำลังชี้ไม้ชี้มือไปทางด้านขวา!

พรึ่บ!
ต้นแขนเพรียวถูกจับแล้วยกขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างเน่จึงต้องเซไปตามแรงดึงนั้น เก้าอี้เสียหลักล้มลง แต่คนๆนี้หาได้สนใจไม่ ยังคงลากเน่ออกมาจากห้องโถงการรับสมัคร ปล่อยให้ไอ้คู่ตุนาหงันนามว่าเต้นั่งงงเป็นไก่ตาแตก พร้อมกับเสียงอื้ออึงไม่จบไม่สิ้น!



“เสี่ย...”
พยายามใช้เสียงหวานๆเพื่อให้เสี่ยใจเย็นลง แกดันเนเน่เข้าไปในห้องน้ำห้องในสุด แอบเห็นหลังพี่หมีไวๆ แกคงยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก

ร่างสูงหนาล็อกประตู หันขวับมามองเด็กดื้อที่เหนื่อยแสนเหนื่อยจะสอนจะสั่ง
แววตาของเสี่ยจึงมีแต่ความเบื่อหน่ายฉายชัด คนมองไม่กล้าสบตา ด้วยกลัวรู้สึกผิด

“เจ็บมั้ย”
จู่ๆน้ำเสียงทุ้มละมุนก็เอ่ยถาม พลางแตะแขนที่เพิ่งปล่อยเมื่อสักครู่ ไม่ได้แดงมากนัก แต่รู้ว่าตัวเองออกแรงพอสมควร

“...เสี่ย”
พูดว่าขอโทษดีไหมนะ
ขอโทษ แล้วก็ขอโอกาสกลับไปแคส

“ไม่เคยฟังที่บอกเลยนะ”

“....”

“รู้ไหมว่าทำผิดอะไร”

“น่าจะรู้นะครับ”

“โกหก...ไม่เคยสอนให้โกหก พ่อแม่เธอก็น่าจะทำเหมือนกัน แต่เธอก็ยังทำ”

“แต่มันเป็นงานนะครับเสี่ย เน่ได้เงิน ได้ประสบการณ์ เสี่ยไม่ยินดีด้วยเหรอ”

“ไม่”

จุก

คนที่เรารักไม่สนับสนุนเรา
เป็นคำที่ทำร้ายจิตใจกันมากนะ แค่คำๆเดียว
เนเน่หมดคำพูด ได้แต่ยืนนิ่ง ก้มหน้าหลบสายตาคมอีกครั้ง

“เธอไม่รู้ว่าการอยู่ในแสงไฟมันลำบากแค่ไหนกับการเป็นคนของฉัน...อย่าเลยเน่ อยู่ในที่ของเราเถอะ ได้ไหม?”

“...เสี่ยก็เอาแต่สั่ง”

“เพื่อตัวเธอเอง”

“แล้วถ้าเน่...อยากทำเพื่อตัวเอง แบบที่เป็นตัวเองจริงๆล่ะ?”

“ด้วยการโกหกฉันน่ะเหรอ”

“....เน่...เน่ก็แค่—“

“ไม่เป็นไร”
นิ้วโป้งหนาไล้เรียวปากสวยแผ่วเบา ก่อนจะจับคางเล็กให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน
เสี้ยววินาทีหนึ่ง เน่เห็นแววตาของความสงสาร ก่อนจะกลายเป็นความดุดัน ...น่ากลัว ...เขาเคยเห็นสายตาแบบนี้แล้ว
ครั้งเมื่อตัดสินโทษยัยแพร

มันจริงจัง และบาดลึก
เหมือนมีด กรีดชะตา
กรีดให้ขาด หรือเพียงปาดให้เจ็บ
เดี๋ยวคงได้รู้

“อย่าทำอีก”

คนฟังกลืนน้ำลาย
บรรยากาศในห้องน้ำแคบๆมีแต่ความสงบนิ่ง แม้แต่เสียงหายใจ เน่ยังไม่กล้าให้เสี่ยได้ยิน

ทำยังไงนะ ให้เสี่ยกลับมาเหมือนเดิม
ลองกอดได้ไหม

ฟึ่บ!

“เสี่ยอย่าโกรธเน่เลยนะ”

โคแก่ถอนหายใจ
เสียงแค่นี้ ไม่จำเป็นต้องพูด ก็เหมือนด่าอยู่แล้ว

เนเน่จึงรัดแน่นขึ้นอีก กดจมูกเข้าหาลาดไหล่หอมกรุ่น กลิ่นผู้ชายผสมกับความอบอุ่นทำให้รู้สึกดีขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ

“เสี่ยไม่รักเน่เหรอ”
สองแขนของแกยังไม่ยอมกอดเน่กลับ

“พี่อเนก...พี่ยกโทษให้ผมนะ”

“...อย่าแคสติ้งสิ ทำได้ไหม”

“.....ม..ไม่รู้”

“ไม่ได้ใช่มั้ย”

“เน่สงสารเต้มันครับ มาคู่กันแท้ๆ”

“ถ้างั้นพี่ก็ไม่ยกโทษให้”

“โธ่....~ แล้วจะให้เน่ทำยังไง”
พูดแล้วก็กอดแน่นขึ้นอีก เอาหน้าซุกไซ้ซอกคอแกร่ง เบียดกายเข้าหาอย่างเด็กแก่แดด พออยู่ด้วยกันสองต่อสอง มันก็ย่อมมีโอกาสในการง้อได้มากกว่า ยิ่งในที่แคบๆแบบนี้ด้วยแล้ว เสี่ยจะทำอะไร เน่ยอมทุกอย่าง

“ไม่มีเน่ เพื่อนเน่ก็อยู่ได้”

“นะครับ”

“ไม่”

ถ้ายังหนักแน่นแบบนี้ เน่คงต้องใช้ไม้แข็ง!

ย่อตัวลงนั่งคุกเข่า ใบหน้าของเขาห่างจากเป้าเสี่ยเพียงฝ่ามือ รู้ว่าโคแก่ก้มมอง สายตาดุดันนั้นเริ่มอ่อนลง และมีแรงตัณหาเข้ามาแทนที่ ลองดูสิว่าจะได้สักกี่น้ำ เสี่ยไม่เคยปฏิเสธเรื่องนี้อยู่แล้วในเมื่อเน่อายุ 18 แล้วนี่
ยื่นมือออกไปสัมผัสผ่านเนื้อผ้า กางเกงสีดำ แต่เป้าเนินนูนเด่นชัด ไล้ปลายนิ้วเรียวขึ้นลง ก่อนจะปลดซิปจนสุด

“เน่ทำให้นะ”
เด็กดื้อกดปากลงบนรอยนูนที่ยังมีกางเกงชั้นในตัวบางขวางไว้อยู่ จุมพิตเบาๆ คล้ายสัมผัสจากผีเสื้อ แล้วแกล้งเป่าลมอุ่นๆใส่

ร้อน

ร้อนระอุ และกลิ่นของชายฉกรรจ์ที่เน่ไม่เคยได้พบจากตัวเอง

เขาปลดกระดุม และดึงเจ้าแท่งเนื้อยาวออกมา มันยังไม่แข็งเต็มตัวนัก ลอบมองเสี่ยจากข้างล่าง โคแก่หลับตาพริ้ม เน่จึงยิ้มอย่างผู้ชนะ

ส่งปลายลิ้นร้อนออกไปทักทายกับส่วนปลายอวบ เลียตามมุมโค้งโดยรอบ ก่อนจะจดจ่ออยู่กับรูตรงกลางอยู่นาน เสียงน้ำลายเฉอะแฉะดังขึ้นมาเป็นระลอก เคล้าเสียงครางฮือในลำคอของเสี่ยหนุ่มที่เอามือยันกับผนังห้องน้ำไว้
มือของเน่ข้างหนึ่งรูดแท่งยาวไปตามลำ โดยใช้น้ำใสจากส่วนปลายมาเป็นตัวช่วยหล่อลื่น ส่วนมืออีกข้างไม่ปล่อยให้ว่างงาน มันคลอเคลียกับลูกกลมๆสองลูกข้างใต้ หยอกเล่นไปมาเพื่อเอาใจเสี่ย

รสชาติแห่งกามารมณ์ มันช่างอิ่มเอมเหลือเกิน เนเน่มีความสุขแม้ตัวเองยังไม่ถูกปลดปล่อย ขอแค่เสี่ยรับรู้ไว้ว่าเด็กคนนี้ยอมทำทุกอย่าง เขาก็พอใจแล้ว แม้จะเมื่อยปากให้กับความอึดของเสี่ยมากแค่ไหน ก็ยังเพลิดเพลินกับการปรนนิบัติเจ้าชีวิต

“อือ”

มือหนากุมศีรษะเด็กหนุ่ม เน่รู้ด้วยสัญชาตญาณว่าเสี่ยจะกระแทกลำแท่งขึงขังเข้ามาในคอ จึงรีบห่อปากให้แน่นขึ้น สอดลิ้นดูดดุนแท่งเนื้อ

“อื้อ!”

เสี่ยใกล้จะถึงฝั่งแล้ว แกส่งบั้นเอวเข้าออก ทำเอาเน่หัวสั่นหัวคลอน จำต้องเกาะขาเสี่ยเป็นหลักยึด ไม่อย่างนั้นคงล้มกลิ้งไปถึงไหน

สวบ

สวบ

“อืออ”

“อึก...อา..สส”


ของเหลวขุ่นพุ่งใส่ปาก และเลอะเต็มใบหน้าหล่อเมื่อเสี่ยดึงออก เน่มองมันกระดกสักพัก แล้วจึงอ่อนตัวลง มองเสี่ยที่เก็บมันเข้าที่เดิม มองสายตาของผู้เป็นที่รัก...ที่กลับมาเย็นชาอีกครั้ง

“เลิกทำงานนี้ซะ”

ไม่ใจอ่อนเลยหรือ?

ต้องให้เอากันตรงนี้เลยไหม

หรือต้องให้ทำยังไง

คนใจร้าย!

“กลับไปต่อคิว เสร็จแล้วกลับบ้านทันที มีเรื่องต้องเคลียร์อีกเยอะ”

....เขารู้แล้วว่าครั้งนี้เสี่ยเอาจริง




ออฟไลน์ pktherabbit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตัดหางปล่อยวัดเลยค่ะเสี่ย
ต้องให้น้องได้รู้ว่าชีวิตนี้ต้องการอะไร
อยากทำงานก็ปล่อยให้ทำ ให้รับผิดชอบตัวเอง
งดมาหา มาเยี่ยม ตัดค่าใช้จ่ายบางส่วนออก
ความสะดวกสบายเกินจำเป็นต้องงด
ชีวิตไม่ง่าย

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ทำไมอ่ะ น้องแค่อยากทำงาน เสี่ยก็สนับสนุนไม่ได้เหรอ  เป็นบ้าอะไร เข้าใจวัยรุ่นป่ะ ห้ามไม้ได้ก็ประคับประคองให้ดี ไม่ใช่เอะอะทำโทษ ไม่ให้ทำนู่นนี่นั่น เดี๋ยวเคลียร์เดี๋ยวบลาๆๆ  น้องมันนอกใจหรือก็เปล่า  เป็นบ้าเหรอ  แม่งงงงงงงงง จะไม่บอกให้เลิกกัน เพราะรู้ว่ารักกัน แต่คนเราจะจับมือกันแน่นไปก็ไม่ดี เพราะไม่รู้ว่ามีใครอึดอัดหรือเปล่า  หลวมไปก็ไม่ดีเพราะไม่รู้จะหลุดตรงตอนไหน ความสัมพันธ์ก็เหมือนกัน กระชับบ้าง ผ่อนปรนบ้าง อย่าทำให้ตรงนี้ที่ยืนมันไม่ใช่ที่ควรกลับมา  แต่หากจะขู่เด็กตัดหางปล่อยวัด ถ้าเกิดเด็กมันทิฐิสูงแล้วบ้ากล้าเดินออกไป ก็เสียใจกันป่ะ  #รักไม่ใช่ทุกอย่างนะเสี่ยยยย

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เราว่าเสี่ยคงมีเหตุผลด้วยอาชีพเสี่ยกลหรืออะไรงี้หรือเปล่าคะ ทำงานเหนื่อยกลางสัปดาห์ก็มาหาน้อง น้องก็วัยรุ่น อยากทำอะไรด้วยตัวเอง มองกันคนล่ะมุม นี่แหล่ะความห่างของช่วงวัย ขอให้คุยกันดีๆ หาทางที่ทุกคนจะโอเคนะคะ  :hao5:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
คนเรา ลองได้โกหกแล้ว ..
การทำผิดอื่น ๆ ก็จะตามมาง่าย ๆ

ถ้าไม่ให้บทเรียนจากการโกหกนี้
ก็เหมือนส่งเสริมให้เด็กทำผิดขึ้นเรื่อย ๆ
จนที่สุดก็ ... สายเกินแก้

แล้วใครเสียล่ะ?
มันก็ "เน่" แหละเสี่ยเอ๊ยยยยย

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ต้องค่อยๆอธิบายให้เด็กฟังนะเสี่ย

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Chapter 24
ตัดบัวยังเหลือใย



แคสติ้งผ่านไปอย่างแกนๆ

มีไอ้เต้คนเดียวที่อารมณ์ดีทั้งวี่ทั้งวัน เพราะมันคิดว่ามันได้แน่ ส่วนเน่น่ะไม่มีทางเสียหรอก เล่นทำหน้าไม่รับแขกแบบนั้น พอออกมาก็ถูกเสี่ยลากออกไปทันที แถมยังส่งสายตาอาฆาตให้ไอ้เต้มันอีก เน่อายมากๆ ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เขาควรจะมีเพื่อนที่สนิทใจกัน ควรจะมีคนให้คุยด้วยอย่างที่เด็กรุ่นเขามี แต่เสี่ยกลับทำมันพัง เสี่ยไม่เข้าใจเน่เลย ...ไม่เคยเลย

“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย”

รู้ว่าเสี่ยง้อด้วยการพามากินข้าวข้างนอก เป็นร้านอาหารบนดาดฟ้าของตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย

“อย่าให้เหนื่อยไปมากกว่านี้เลย”

เฮ้อ! พูดแบบนี้คงไม่เรียกว่าง้อหรอก
ขอถอนคำพูด!

เด็กหนุ่มหน้าเศร้าก้มลงดูดน้ำอัดลม เคยสัมผัสความรู้สึกที่ว่ากินข้าวทั้งน้ำตามาแล้ว มื้อนี้จึงแค่เรื่องขี้ปะติ๋วมากๆ แต่หลังจากนี้น่ะสิ นึกภาพไม่ออกว่าจะดีกับเสี่ยยังไง
บางทีก็คิดนะ ...เราต่างกันเกินไป โลกของเราเป็นโลกคนละใบ
เราอาจจะแค่บังเอิญโคจรมาใกล้กันแค่นั้น แต่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างแท้จริง

เสี่ยไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายๆ และวิถีชีวิตของเสี่ยก็ไม่เหมือนผู้ชายบ้างานธรรมดาทั่วไป

ส่วนเน่ก็ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นสดใสร่าเริงตลอดเวลา มีหลากหลายมุม มีหลากหลายสิ่งที่เขายังต้องการค้นหา ด้วยความที่ว่าถูกขังอยู่ในกรงมาทั้งชีวิต พอได้อยู่คนเดียว จึงพยายามบินออกไปให้ไกลที่สุด
และเสี่ยก็ไม่แน่ใจว่าจะกลับมาไหม

“ฉันกลับพรุ่งนี้เช้านะ จะกลับด้วยไหม”


“......”
คนฟังเงียบ เพราะกำลังเหม่อคิดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเขาสองคนอยู่

“ถามก็ตอบสิ!”

เนเน่สะดุ้ง มองหน้าเสี่ยอย่างงงๆ ด้วยไม่รู้ว่าถามอะไร ซึ่งทำเสี่ยโมโหมาก แกทุบโต๊ะจนแก้วไวน์ล้มกลิ้ง ก่อนจะเดินหนีออกไปสงบสติอารมณ์

...ความอดทนคงถึงจุดสิ้นสุด

โกรธครั้งนี้คงอีกนานกว่าจะหาย
ก่อวีรกรรมเอาไว้เยอะ ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาล่ะนะ


เนเน่นั่งรอ....

เสี่ยหายไปประมาณสิบนาทีได้แล้ว แต่นาฬิกาสำหรับคนรอมักช้ากว่าเสมอ
เด็กหนุ่มเริ่มกระวนกระวาย กลัวว่าเสี่ยจะทิ้งเขาไป จึงเดินไม่เป็นสุขอยู่บนนั้น ไม่กล้าโทรหาใครเลยด้วย เขากลัวเสียหน้า เสียฟอร์ม
เขามั่นใจว่ายังไงเสี่ยต้องกลับมา เพียงแค่...กลัว.. แค่นั้น

“พี่ครับ”
สุดท้ายก็ทนไม่ไหว เรียกบริกรหน้าตาดี แล้วสั่งไวน์แดงตามอย่างเสี่ยมาหนึ่งแก้ว เขาเคยแอบจิบเล่นๆ แล้ว แต่ครั้งนี้ต่างออกไป จะกินให้เมาไปเลย เสี่ยจะได้มาหา แล้วลากกลับบ้าน งอนง้อกันไปแบบเมาๆ ไม่ต้องมัวทิฐิใส่กัน

แก้วที่หนึ่ง
ไม่ถูกปากเท่าไหร่

แก้วที่สอง
หัวเริ่มโคลง จิบบ่อยขึ้น รู้สึกอร่อยอย่างน่าประหลาด

แก้วที่สาม
เน่พะอืดพะอม ทำท่าจะอาเจียน จึงลุกเดินในแบบที่ตัวเองคิดว่าตรง แต่คนอื่นลุ้นคอแทบเป็นตะคริว

“เดินไหวไหมครับ”
หนุ่มที่ไหนไม่รู้ ใจดีมาพยุงเน่ พากันไปห้องน้ำอย่างทุลักทุเล ก็เน่ยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเดินเองได้นี่

“น้องมากับแฟนนี่  แฟนน้องไปไหนซะล่ะ”

“เดี๋ยวก็มา”

“ทะเลาะกันเหรอ”

“อือ”

เน่เกาะอ่างล้างหน้า ไฟในนี้มืดเป็นบ้า จะให้เห็นหน้าตัวเองชัดๆก็ไม่ได้หรือไงวะ

“ขอเบอร์ได้ป่ะครับ”

“ให้ได้ก็บ้าแล้วพี่”

“ทำไมอ่ะ แฟนหวงเหรอ”

หยุดคิดนิดนึง
“อื้อ”

“เสียดายจัง แล้วนี่น้องจะรอแฟนมาเหรอ”

“คงงั้นแหละ ไปไหนไม่ได้นี่นา เงินก็ไม่มี”

“ให้พี่ไปส่งมั้ย”

“ไม่ต้อง ไม่ว่าง”


.
.
.
.
.


ฝ่ายคนตัวสูงใหญ่หน้าดุน่ะเหรอ
ยืนอยู่หน้าห้องน้ำตั้งนานแล้ว เด็กดื้อนั่นเมาจนไม่เห็นเอง!

เสี่ยโทรเรียกให้ลูกน้องมารับแล้ว ด้วยไม่อยากขับรถเอง คาดว่าอีกไม่ถึงสิบห้านาทีคงถึง แล้วกะว่าจะไปเอาตัวเด็กดื้อกลับบ้านด้วยกัน แต่เน่ยิ่งทำให้เสี่ยโกรธหนักตรงที่ดื่มไวน์ประชด ซ้ำยังยอมให้ผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาแตะเนื้อต้องตัว

อยากคุยให้เข้าใจ
อยากทำความเข้าใจ
แต่มันต้องใช้เวลา
ใครจะบ้าหาเรื่องทะเลาะได้ทุกวันล่ะ มันเหนื่อยนะ เสี่ยผ่านการมีความรัก ทั้งการมีชีวิตคู่มานักต่อนัก และรู้ดีว่ามันไม่เคยไปรอดเพราะความแข็งทื่อของเขา แต่ไม่ใช่ว่าไม่รักไง เสี่ยรักทุกคนที่เสี่ยเลือก พยายามปรับตัวอยู่ตลอด .....ถ้าครั้งนี้มันไปไม่รอดอีก เขาก็คงไม่สรรหามาให้ปวดหัวอีกแล้ว

แล้วก็ไม่ต้องมาต่อยคนอื่นแบบนี้ด้วย!

พลั่ก!!

“เฮ่ย!”

“ปล่อยตัวเมียกู”
น้ำเสียงดุดัน สายตาคมกริบ มันไม่มีความเมตตาอยู่ในนั้น
แน่นอนหนุ่มผู้หวังดีรีบออกไป ทิ้งไว้เพียงเด็กหนุ่มขี้เมาคนหนึ่งที่มองเหตุการณ์อย่างงงๆ

ใช่

เมื่อสักครู่หนุ่มหล่อคนนั้นเบียดตัวเน่ที่ยืนมองตัวเองในกระจก ตัวมันแนบชิดเสียจนรู้ถึงสัมผัสแข็งๆตรงบั้นท้าย สองมือปลาหมึกลูบไล้ช่วงเอวจนเน่ขาอ่อน  เน่รู้ว่ามันไม่ถูกต้อง แต่กลับบังคับร่างกายไม่ได้
กระทั่งเสี่ยเข้ามา...

“จะปล่อยให้มันเอาตรงนี้เลยหรือไง”

“ก็...” ....กำลังจะขยับแล้วนะ

“กินไวน์ทำไม”

“..เน่...—”

“อย่าแรดให้มันมากนัก!”

“ห้ะ...”
แรงไปไหม
ด่าอย่างนี้เลยเหรอ
คำนี้เลยเหรอ
เน่เคยด่าตัวเองเล่นๆก็จริง
แต่เสี่ยไม่ได้เล่น
สายตาเสี่ยจริงจัง
ไม่ใช่ล้อเล่นแน่ๆ

“เน่...ไม่ได้แรด”
น้ำตาคลอ เสียงเริ่มสั่น
ภาพเบื้องหน้าพร่ามัวเพราะคำพูดทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง
เสี่ยไม่เคยเลย ...ไม่เคยโกรธขนาดนี้เลย
โกรธจนไม่นึกถึงใจกัน

เสี่ยคงเกลียดเน่แล้ว

“ถ้าไม่ได้แรดหาผู้ชายไปทั่ว ก็พิสูจน์ให้เห็นสิ”

“...ทำไมต้องพิสูจน์ด้วย”

“ไม่เคยสำนึก!”

“เสี่ยไม่เคยฟังเน่เลยต่างหาก!”
น้ำตาหนึ่งหยดไหลร่วง หัวใจเจ็บมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
เขาเคยคิดว่าการที่เสี่ยไม่สนใจมันหนักแล้ว การไม่มีใครรักมันหนักที่สุด หัวใจตายด้าน ไร้อารมณ์ ไร้ความรู้สึก
แต่การที่คนที่เรารักเกลียดเรา เข้าใจเราผิดไปต่างๆนานา ...มันกลับทรมานยิ่งกว่า ข้างในมันแตกหัก

...แหลกสลาย

“......ไหนว่าเสี่ยรักเน่ไง”
บ้าสุดๆไปเลย ร้องไห้หน้าเหยเก คงน่าเกลียดมาก เสี่ยถึงถอยหลังไปเมื่อเน่พยายามจะกอด
เน่โคตรอาย โคตรเสียใจ แต่ก็ยังก้าวขาออกไปหาเสี่ย
“เน่รักเสี่ยนะ .....ร..รักจริงๆนะ”

“เน่ไม่ชอบเรียน ไม่อยากเรียนสาขานี้แล้ว ก็เลยหางานทำแก้เบื่อ ...เนี่ยเน่พูดแล้ว...ส..เสี่ยเข้าใจเน่นะ”
สองแขนเอื้อมถึงร่างสูง ทว่าความรู้สึกกลับไปไม่ถึง
“กลับบ้านเรากันเถอะ เสี่ยจะได้ใจเย็นขึ้น”

คนฟังไม่ตอบ ทำเพียงเดินนำออกไป เนเน่จึงเซตามไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้



.
.

เสียงสะอึกสะอื้นยังคงดังขึ้นเรื่อยๆในรถหรูสีดำขลับ เพราะเมาด้วย เน่ถึงไม่มีฟอร์ม รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกอย่างนั้น ตอนนี้แขนเสื้อของเสี่ยจึงเปียกน้ำมูกน้ำตาไปหมด
และเพราะต้องการทำโทษเด็ก เสี่ยจึงไม่กอดปลอบ ไม่แม้แต่จะลูบหัวลูบหลัง แกนั่งนิ่ง มองทางข้างหน้า สมองเหนื่อยล้าจากการใช้ความคิดมากมาย
ถ้าต่อไปนี้..
ถ้า...น่ะนะ
ถ้า...ต่อไปนี้เน่ไม่รับงานมั่วๆ ไม่โกหกกัน
เสี่ยก็จะให้อภัย แล้วคิดเสียว่าเรื่องวันนี้ไม่เคยเกิดขึ้น
ส่วนเรื่องที่ใหญ่กว่านั้น เช่นการซิ่วออกจากสาขานี้ แล้วกลับบ้านนอก เสี่ยไม่หวังนักหรอก
เขาเข้าใจว่าเน่ได้อยู่ในที่ของเน่แล้ว ถ้านกมันได้ค้นพบบ้านของมัน มีหรือที่มันจะทิ้งไปอีก
เด็กวัยรุ่นคงไม่ชอบบ้านนอกบ้านนา เพราะถ้าเบื่อจริงๆ ทำไมไม่กลับล่ะ มัวแต่ทำอย่างอื่น ไปสนใจสิ่งอื่น ไม่ปรึกษาเรา ไม่เห็นหัวเรา


ใช้เวลาบนถนนเพียงครึ่งชั่วโมงก็ถึงคอนโด เพราะไม่มีรถเลย
เสี่ยพยุงตัวเน่ที่ยังคงร้องไห้ เพียงแค่ไม่มีน้ำตาหลงเหลือ
วางร่างเพรียวลงบนเตียง บอกให้ไทที่รออยู่ก่อนเตรียมน้ำเตรียมผ้า เอามาเช็ดตัวให้

“ให้ผมเช็ดเหรอครับ”

“อืม ทำไม?”

“เปล่าครับ”
ปกติเสี่ยจะหวงเน่มาก
เป็นไปไม่ได้ ต่อให้ไว้ใจไทมากแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้




เน่หลับไปแล้ว
เสียงลมหายใจบางๆเป็นเพียงเสียงเดียวในห้อง

ไทยืนมอง เสี่ยนั่งข้างๆเน่

กำลังคิด
ว่ามันถูกต้องหรือเปล่า
ได้มองเน่ที่หลับแบบนี้เป็นครั้งแรก ทำให้รู้ว่าเด็กคนนี้ยัง...’เด็ก’ มาก
เด็กที่ควรจะมีชีวิตที่ดี แต่ก็ถูกผู้ชายที่อายุเท่าพ่อพรากเอาความใสซื่อบริสุทธิ์ไป

“ฉันน่าจะปล่อยเขา”

“ทำไมเหรอครับ”

“มันไม่น่าเวิร์ค เห็นเสี่ยแก่หลายคนถูกเด็กทิ้งไปหาคนที่หนุ่มกว่า ดีกว่า อิสระกว่า ซึ่งมันก็ถูก”

“ถูกยังไงครับ”

“เด็ก ก็ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ จะให้เขามาติดกับเราไปทั้งชีวิตเหรอ”

“ผมนึกว่าเสี่ยชอบเด็กซะอีก”

“ก็ชอบไง”

“เสี่ยคบเด็กมาตั้งหลายคนแล้วนี่ครับ ทำไมเพิ่งมาคิดได้”

“ไม่รู้โว้ย”

ไทอมยิ้ม
“เสี่ยมัวแต่คิดว่ามันไม่เวิร์คนี่ครับ ถึงได้ทิ้งหนุ่มๆเป็นกระดาษทิชชู่เชียว จริงๆเด็กคนก่อนๆหลายคนน่ะ อาจจะรักเสี่ยก็ได้นะ แต่แสดงไม่เก่ง เก่งเรื่องไถเงินอย่างเดียว”

คนฟังปลายตามองแรง
ตกลงว่าจะช่วยหรือจะหลอกด่า

“ผมเพิ่งบรรลุเรื่องเทียนมาครับ ผมคิดว่าถ้าเราจริงจังซะอย่าง ยังไงชีวิตคู่ก็รอด ถึงจะเจอขวากหนามบ้างก็เถอะ บางทีเราอาจเลิกกันไปสองปี แล้วก็กลับมาคืนดีกันก็ได้ใครจะรู้ พอคบกันใหม่ เราก็เหมารวมสองปีที่หายไปด้วย แล้วบอกคนอื่นว่าคบกันมายี่สิบปีแล้วนะแบบเท่ๆ”

“หึ! ชีวิตคู่ของแกกำลังกลับมาดีแล้วนี่”

“ครับ...ถึงเขาจะยังไม่เฉลยว่าใช่เทียนหรือเปล่า แต่ผมก็เชื่อว่าใช่ อีกอย่างสัญญาที่เราตกลงกันไว้ก็มี เสี่ยไม่ใช่พวกเชื่อถือไม่ได้”

“อืม”

“เน่ดูรักเสี่ยนะครับ แค่ยังเด็กอยู่มาก”

“ฉันรู้”

“เด็กวัยนี้รักจริงหวังแต่งนะครับเสี่ย เสี่ยลืมตอนตัวเองเป็นเด็กไปแล้วเหรอ เสี่ยไม่เคยพร่ำเพ้อถึงใคร หรือเขียนจดหมายถึงใครสักคน แล้วบอกว่าจะให้แม่มาขอเหรอครับ มันอาจจะตลกที่พูดเรื่องนี้ตอนโต แต่ตอนนั้นเสี่ยจริงจังใช่ไหมครับ”

เหมือนกับว่าไทเล่าเรื่องของตัวเองอยู่ ตอนนั้นรู้แล้วว่าเทียนและเขาต่างมีใจให้กัน แอบคบกันอย่างลับๆ ทำเรื่องหวานๆใส่กัน สัญญาทุกอย่างเท่าที่นึกออก และโตมาเพื่อรู้ว่าอย่าสัญญาพร่ำเพรื่อถ้าทำไม่ได้

“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ดีสินะ แต่ฉันจะลองปล่อยเน่ไปก่อน”

“หมายความว่าไงครับ”

“หมายความตามที่พูด ให้เขาได้ใช้ชีวิตที่เขาต้องการเถอะ”

“แล้วผมล่ะ”

“เธอก็บอกเขาว่าฉันไม่ได้มีอะไรติดใจแล้ว คอยดูแลห่างๆเหมือนเดิม แต่ไม่ต้องพักที่นี่ เห็นสภาพแล้วสงสาร”

“เสี่ยบอกเองสิครับ”

“ไม่เหมาะ เพราะเน่จะยิ่งร้องไห้ และไม่ได้ตัดสินใจตามความต้องการจริงๆ ให้เขาเลือกโดยที่ไม่ต้องเกรงใจฉันดีกว่า”

“ก็ได้ครับเสี่ย”

“เฮ่ย...ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกกัน แค่อยากให้เขาได้อยู่กับตัวเองจริงๆ”





-โถน้องเน่ อดทนหน่อยนะลูก
-ตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยตอนนั้น ก็คือใบหยกนะคะ
สำหรับตอนนี้ เป็นช่วงเวลาที่เฟซบูม อินสตามา นิยายวายเริ่มเป็นกระแสทำซีรี่ย์ ประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
เสี่ยทำแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เน่จะได้รู้จักโตบ้าง  :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
มันเป็นเรื่องของความต่างของอายุ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เราเห็นด้วยกับเสี่ย ลองห่างออกมาทบทวนกันดูว่าจะทำยังไงให้ทั้งคู่โอเค แต่บอกน้องเองดีกว่าไหมคะ สงสารน้อง  :hao5:

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
ปล่อยให้เด็กผจญชะตากรรมสักพักก็ดีค่ะเสี่ย
จะได้รู้ตัวว่า ได้ละเลยสิ่งมีค่าไปแล้ว ...

และต้องหาทาง "คว้าคืน" มาใหม่ ด้วยตัวเอง

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เสี่ยทำดีที่สุดแล้ว ต้องให้เน่ออกไปเผชิญชีวิตด้วยตัวเองบ้าง ผิดถูกจะได้จำเอาไว้เป็นบทเรียนสอนใจ

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
มาม่าแน่ๆ ถ้าน้องตื่นมาต้องร้องไห้หาเสี่ยแน่ๆ
น้องรักเสี่ย แต่แค่อาจจะแสดงออกแบบเด็กๆ
ที่แสดงความต้องการหรือประชดก็เพราะอยากให้เสี่ยสนใจ
เพราะวัยที่ต่างกันทำให้มุมมองของทั้ง 2 คนไม่เหมือนกัน
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Chapter 25
เจ็บแค่ไหน ใครจะรู้




อาการแฮงค์เป็นอย่างนี้นี่เอง ปวดหัวตุบแทบลุกไม่ขึ้น อยากนอนต่ออีกสักชั่วโมง แต่พอดูนาฬิกา ก็หลับไม่ลง เพราะปาเข้าไปบ่ายกว่า
เน่เห็นยาแก้ปวดบนหัวเตียงพอดี จึงหยิบมากิน ข้างๆไม่มีเสี่ย และไม่รู้ว่าไม่มีมาตั้งแต่เมื่อคืนหรือเปล่า คิดแล้วพาลน้ำตาจะไหล เมื่อคืนไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรไปบ้าง ต่อว่าเสี่ยจนแกงอนหรือเปล่า? หรือพูดเรื่องแต่งจนเสี่ยเข้าใจผิด? ตอนนี้รู้แค่ว่าใต้ตาบวมมาก หน้าบวม ตาเบลอ เป็นคืนที่หนักมากจริงๆ สาบานกับตัวเองเลยว่าจะไม่ดื่มไวน์อีกแล้ว ถ้าอาการแฮงค์มันจะทรมานขนาดนี้

ไหนว่าเมาแล้วเราจะคืนดีกันไงวะเน่..?
นี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสี่ยไปไหน กลับหรือยัง โกรธมากไหม
เด็กโง่
สิ้นคิด
มาสำนึกได้ตอนนี้ จะยังทันอยู่หรือเปล่า!?
เข้าใจแล้วว่าคนที่ชีวิตหายไปครึ่งหนึ่งเป็นอย่างไร
มันวูบโหวง หัวใจสั่นอย่างผิดปกติ
รู้สึกไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัย
กระวนกระวาย และหวาดกลัว

คนอื่นทนอยู่ได้ยังไงนะกับอาการแบบนี้
นี่เพียงไม่กี่นาทีที่ตื่นมาแล้วไม่เจอเสี่ย เนเน่ก็แทบอยากล้มตัวลงนอน แล้วไม่ต้องรับรู้อะไรอีกเลย...


กระนั้นร่างโปร่งต้องจำใจโงนเงนออกจากเตียง ไม่ลืมเช็กข้อความในมือถือที่ส่งมาจากแม่ ...ไม่มีอะไรมาก โดนด่านิดหน่อย
ข่าวไปไวจริงนะ คงมีสายสืบเป็นใครสักคนในบ้าน แต่ไม่ใช่เสี่ยหรอก เสี่ยไม่โทรฟ้องอย่างนั้น เอาเป็นว่าแค่แกอ้าปากพูดก็เป็นบุญหูของลูกน้องแล้ว


เฮ้อ!

คิดถึงเสี่ย
แค่ไม่เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียง ไม่ได้กลิ่นหอมๆ เน่ก็คิดถึงเสียแล้ว
น้ำตารื้น ...เสียใจ น้อยใจ ไม่รู้จะหันไปทางไหน
ใจหนึ่งก็รักเสี่ย
อีกใจหนึ่งก็รักตัวเอง

เราอยากมีค่า อยากเป็นคนที่คู่ควร ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับคนที่เรารัก

แต่ก็รู้ว่าเราผิด หลอกเขา ปิดบังเขา
นิสัยเสียที่สุด
แย่ที่สุด

ถ้าไม่ใช่เรา เสี่ยจะมีความสุขมากกว่านี้หรือเปล่า
นั่นสินะ คนที่โตกว่า มีวุฒิภาวะมากกว่า มีความคิด เป็นคนเก่ง สามารถช่วยเสี่ยบริหารงานได้ตามใจนึก

...เนเน่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้เลย



“ตื่นแล้วเหรอ”
เสียงพี่หมีทัก แกกำลังออกกำลังกายบนพื้น เหงื่อโชกเต็มตัว แต่ยังดูสบายๆ ในท่าลุก-นั่ง

เนเน่แอบหันหลังมาปาดน้ำตาตัวเอง ก่อนตอบ
“อือ”

“ยาอยู่บนโต๊ะ กินหรือยัง”

“กินแล้ว”
เสียงแหบระโหยหายไปเมื่อเน่นั่งลงบนโซฟา เปิดทีวีดูช่องข่าว ตามองจอ แต่สมองไม่รับรู้
ไทเห็นแล้วสงสาร แต่ทำไงได้ เขาต้องบอกเรื่องเสี่ย จึงตัดใจเดินมาหา นั่งลงข้างๆกัน หยิบรีโมทมาปิดทีวี เพื่อที่จะได้ไม่รบกวนสมาธิของทั้งคู่

สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด รวบรวมความกล้าทั้งหมดเปิดปากคุย


“เสี่ยกลับไปแล้วนะ”

ความหวังที่ว่าเสี่ยอาจจะออกไปทำธุระข้างนอกล้มครืน เน่ถอนหายใจให้รู้ว่าเหนื่อย และผิดหวัง

“แล้วก็ฝากเรื่องไว้กับพี่”

“....ครับ?”
ดูเหมือนท่าทางการขยับของเน่จะกลายเป็นภาพสโลโมชั่นไปเสียหมด

ไทรวบรวมความกล้าอีกครั้ง ก่อนทิ้งระเบิด
“ต่อไปนี้เสี่ยจะปล่อยให้เน่เป็นอิสระ”

“...?”

“เน่อยากทำอะไร ตามใจเน่เลย เสี่ยไม่ห้ามแล้ว แต่ว่าต้องระวังเรื่องการโพสต์อะไรนิดนึงนะ อย่าให้เขารู้ว่าเน่เป็นเด็กเสี่ย มันไม่ดี”

“ไม่ดียังไง”
เริ่มโกรธ
เสี่ยอายเหรอ ไม่อยากให้ใครรู้ใช่มั้ย

“มันไม่ปลอดภัย...เข้าใจยัง?—แล้วก็...พี่จะออกไปอยู่ข้างนอกนะ ส่วนเน่อยู่นี่เหมือนเดิม ดูแลพวกค่าน้ำค่าไฟ ค่าบิลต่างๆด้วย พี่คงไม่ได้เข้ามาทำ ส่วนเสื้อผ้าจะจ้างแม่บ้านก็ได้ ซักเองก็ได้ มีร้านซักผ้าหยอดเหรียญชั้นล่างอยู่ เคยสังเกตไหม ตรงหัวมุมลิฟต์น่ะ”

“หมายความว่ายังไง ทำไมเน่ต้องดูแล แล้วจะเอาเงินจากไหนมาจ่าย เสี่ยจะเอามาให้เหรอ”

“จ่ายเงินตัวเอง”

“ห๊ะ...ล..แล้ว ค่าเช่าห้องล่ะ?”

“อันนี้ไม่ต้อง เสี่ยเขาโอนเข้าบัญชีเพื่อนเขาอยู่แล้ว เน่ดูแลแค่บิลก็พอ เอ้อ! หาข้าวกินเองด้วยนะ”

“ทำไม...เหมือนให้เน่ทำทุกอย่างเลย?”

“ใช่ เสี่ยเขาต้องการฝึกเน่น่ะ ไหนๆเน่ก็อยากมีอิสระแล้ว ลองดูสักครั้งก็ไม่เสียหาย อาจจะชอบมากกว่าการที่มีพี่คอยตามเฝ้าก็ได้”

“แล้วเสี่ยล่ะ จะมาหาเน่เหมือนเดิมใช่ไหม”
แววตาของเด็กหนุ่มมีความหวัง แม้สัญชาตญาณกำลังบอกว่าเขากำลังถูกตัดหางปล่อยวัด
แต่จะเป็นไปได้เหรอ?....
ถ้าเสี่ยเลิกจริง เสี่ยก็ต้องเก็บข้าวของออกไปสิ
เน่เห็น....
เห็นเสื้อของเสี่ย ยังอยู่ในตู้....


“เรื่องนี้พี่ไม่รู้”


ไม่...
ไทรู้
จึงรับหลบสายตา และนั่นไม่พ้นการรับรู้ของเน่ไปได้

เน่ไม่มีเรี่ยวแรงจะถามอะไรอีก เท่านี้ก็ชัดเจน

เสี่ยเกลียดเขาแล้ว!

เน่จะอยู่ยังไง
อยู่ไม่ได้
เสี่ยทิ้งเน่แล้ว ทิ้งแบบที่ไม่เหลียวมามองเลยสักนิด
พลันน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าก็ร่วงหล่น ร้องไห้เพราะเสียใจ ชีวิตเน่มีแต่เสี่ย จากนี้ไปจะใช้ชีวิตยังไง ไม่เคยเลย...ไม่เคยไม่มีเสี่ยเคียงข้าง
เขาพยายามทำตัวดีๆเพื่อให้เสี่ยรัก ให้เสี่ยรู้ว่าเขาก็พึ่งพาได้นะ แต่พอได้หลงแสงสี กลับเลือกทิ้งเสี่ยเองก่อนใช่ไหม เสี่ยถึงน้อยใจ แล้วทิ้งเขาเช่นกัน
ใช่สิ
เน่ไม่ดีเอง
เน่เลวเอง
แต่...เน่ก็รักเสี่ย รักมากๆ รักมากที่สุด
เน่เลือกแล้ว เลือกเสี่ยแล้ว
...ได้โปรด

เสียงสะอื้นไห้อันแสนทรมานของเน่ยิ่งทำให้ไททนฟังไม่ได้
ภาพของเด็กหนุ่มที่ชอบทำหน้าเชิดหยิ่งใส่เขา เหลือเพียงเด็กธรรมดาๆที่กำลังเสียใจอย่างหนัก ร้องไห้ตัวโยน กอดเข่าคุดคู้ราวกับจะแตกสลาย

ไม่รู้จะช่วยยังไง

“เสี่ยเขาไม่ได้บอกว่าเลิกนะ แค่เห็นว่าเน่ควรจะได้ใช้ชีวิตแบบที่อยากทำ เดี๋ยวแกหายงอน แกก็กลับมาเองนั่นแหละ ช่วงนี้เริ่มเข้าวัยทองไง อารมณ์แปรปรวน”
ไทพยายามผ่อนคลายบรรยากาศ แต่เน่กลับยิ่งร้องหนักขึ้น
ก็เขารู้นี่ว่าเสี่ยตั้งใจลงโทษ
เสี่ยรู้มาตลอดว่าเน่ไม่เคยใช้ชีวิตคนเดียว ตั้งแต่เกิดก็เป็นคุณหนูมาตลอด แม้กระทั่งตอนอยู่กับเสี่ย เน่ก็ไม่เคยต้องทำอะไรเองเลย มีแค่ตอนนั้น...ช่วงแรกที่บาดหมางกันแล้วเน่ขังตัวเองอยู่ในห้อง ประทังชีวิตด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่ดูจะลำบากที่สุด
แต่ก็ไม่
ทำไมน่ะเหรอ?
เพราะเน่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย และไม่ต้องอยู่กับความรู้สึกที่รู้ว่าเสี่ยเกลียดเน่!

เน่รักเสี่ย
เน่พยายามอยู่
เสี่ยรอเน่หน่อยไม่ได้หรือไงกัน

...เน่ผิดไปแล้ว





“มึงเข้าไปคุยก่อนสิ”

“มึงนั่นแหละ!”

“มึงอ่ะแหละ! มึงสนิทกว่า!”

“ใครบอกมึงล่ะ!”

“พอกันทั้งคู่นั่นแหละ กูคุยเอง!”




ติ๋มเดินอาดๆไปหาคนที่นั่งทำท่าหมดอาลัยตายอยาก ต้องให้เดาไหมว่าเรื่องอะไร? เด็กผู้ชายวัยนี้มันจะไปมีอะร้าย ถ้าไม่ใช่เรื่องของหัวใจ แต่ติ๋มก็ยังกลัวๆกล้าๆอยู่น่ะสิ เพราะรู้ว่าเน่ไม่ได้อยากเปิดเผยขนาดนั้น แหงล่ะ เธอเข้าใจนะ มีแฟนที่แก่กว่าหลายปี แถมราศีก็ออกเสี่ยๆ ยังไงไม่รู้ เน่คงจะอายแหละ แล้วไหนจะพี่หมีสุดหล่อคนนั้นที่ไม่มานั่งเฝ้าเหมือนเคย
มีเรื่องอะไรมาหรือเปล่านะ?

“เน่~”
แสร้งร่าเริงให้เพื่อนเชื่อใจว่าไม่ได้มาเผือกเลยจริงๆ

ผ่านไปสามวินาที
เนเน่ก็ยังไม่ตอบกลับ นั่งเท้าคางมองถนนหน้าคณะ
ติ๋มเลยมองดูบ้างว่าอะไรน่าสนใจ
....มีแต่ใบไม้แห้งปลิวว่อน

“มองใบไม้แห้งเหรอเน่ จะกวาดรึไง มันเพิ่งร่วง เดี๋ยวภารโรงก็มากวาดเอง”

“นั่นสินะ ...ใบไม้ที่เพิ่งร่วง เดี๋ยวก็มีคนมาเก็บ ไม่เหมือนกับเรา...ไม่มีใครสนใจ”

เป็นเอามาก

“นี่เน่ แกจะไปเที่ยวน่านมะรืนนี้ไม่ใช่เหรอ จัดกระเป๋ายัง”

“อืม”

“อกหักยังดีกว่ารักไม่เป็นนะเว้ย อีกอย่างนะเราก็ยังสาวยังสวย หาผัวใหม่ง่ายจะตาย ไม่ต้องเครียดหรอก”
แม้ความสัมพันธ์ระหว่างชายลูกครึ่งกับเนเน่จะยังไม่ชัดเจนว่าเป็นแฟน หรือเป็นเด็กเสี่ยกันแน่ แต่ติ๋มก็ต้องปลอบเพื่อนอยู่ดีด้วยความสงสาร อีกอย่าง...คงไม่มีใครอยากเห็นเพื่อนนั่งอมทุกข์ไปตลอดชาติหรอก งานการไม่เดินกันพอดี

“ดีเนอะที่ผลตอบรับพี่ฟิล์มดีเกินคาดแบบนั้น ถึงได้เอาพวกแกไปร่วมทริปด้วย นี่ถ้าไม่ติดว่าไปต่างจังหวัดนะ จะตามไปด้วยเลย”
ติ๋มว่าต่อ
เธอพูดถึงพี่ฟิล์ม เจ้าของบล็อกท่องเที่ยวที่เต้กับเน่เคยไปถ่ายเป็นรูปประกอบบล็อกให้ ไม่นานนักแกก็เกิดอยากจัดทริปขึ้นมา จึงให้พรีเซนเตอร์ของบล็อกมาล่อบรรดาเก้งกวางบ่างชะนี

“ไปกันหลายคนจะสนุกเหรอ อยากอยู่เงียบๆ มากกว่า”
เน่ไม่ได้ปกปิดว่าตนไม่เสียใจ โดยเฉพาะยามที่จะร้องไห้ตลอดเวลาอย่างนี้
เขาเคยลองแล้วช่วงวันแรกๆ แต่ผลลัพธ์มันกลับเลวร้าย ยิ่งเสแสร้งว่าเข้มแข็ง เขาก็ยิ่งน้อยใจ ยิ่งอยากร้องไห้

“เอาน่า ก็แกตกลงพี่เขาไปแล้วนี่ ยังไงก็โผล่หน้าไปก่อน ลองขอกลับไวๆก็ได้”

เน่ทำท่า ‘รับฟัง’
ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยถามเรื่องการจ่ายบิลค่าอินเตอร์เน็ตที่ครบรอบพอดี เขาไม่รู้ว่าจ่ายที่ไหนได้บ้าง แล้วจ่ายกี่บาทกันแน่ เห็นมีทั้งข้างหน้า ทั้งข้างหลัง
ช่วงนี้ยิ่งโง่ๆอยู่

.
.
.
.


หน้าจอมือถือส่องสว่างท่ามกลางความมืด
เพิ่งรู้ว่าห้องเล็กๆแห่งนี้เงียบเหลือเกินเมื่อมีเพียงเขาคนเดียวที่ยังคงมีลมหายใจอยู่
เนเน่มองบิลค่าใช้จ่ายต่างๆบนหัวเตียง อินเทอร์เน็ตจ่ายไปแล้วพันกว่า ค่าน้ำค่าไฟอีกพันกว่า ยังเหลืออะไรที่ยังไม่มาส่งอีกนะ?
เงินที่มีตอนนี้ ใช่ว่าจะใช้เหลือเฟือ
ไม่เลย...เน่ไม่เคยเตรียมตัวต่อการอยู่คนเดียวมาก่อน แค่เขาใช้จ่ายไปกับค่ากิน ก็ตกมื้อละหลายร้อย ...คงต้องกลับมาซดบะหมี่ประทังชีวิตอีกรอบแล้วสินะ หากแต่คราวนี้ไม่มีเงินของจริง ..ไม่ใช่ประชด

Nene Fonder : พี่ครับ ทำไมเสี่ยติดต่อไม่ได้เลย

เห็นคนๆหนึ่งออนอยู่พอดี จึงรีบถาม
ทั้งๆที่จริงก็ถามทุกครั้งจนพี่เขาคงเบื่อ

สวัสดี บางกอก : แกไม่พกมือถือหรือเปล่า

Nene Fonder : เสี่ยต้องติดต่องานตลอด ไม่พกไม่ได้นี่ครับ

สวัสดี บางกอก : ใจเย็นๆนะเน่ ถ้าเสี่ยเขาอยากให้เราทำอะไร ก็ตามใจเขาไปก่อน เพราะไม่ได้บังคับเน่แล้ว เน่ลองใช้เวลาช่วงนี้ทำความรู้จักกับความต้องการของตัวเองดีกว่าไหม

Nene Fonder : แต่เน่ก็อยากให้เสี่ยมาอยู่ข้างๆด้วย

สวัสดี บางกอก : บางทีเราก็ต้องเสียสละบางสิ่งบางอย่าง เพื่ออนาคตของเรา
ลองคิดดูสิ ถ้าไม่มีเขาแล้ว เราจะอยู่ยังไงในเมื่อเราทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง

Nene Fonder : อืม เน่จะพยายามเข้าใจ

เน่ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของผู้ใหญ่นัก ชอบสั่งชอบสอนให้อยู่กับความลำบาก ยิ่งเราลำบากเหมือนเขา เขาจะยิ่งดีใจหรือยังไง
ถึงต้องมาทำความเข้าใจอยู่เนี่ย

Nene Fonder : ฝากบอกเสี่ยด้วยนะถ้าพี่ติดต่อเสี่ยได้ ว่าพรุ่งนี้เน่ไปน่าน ไปสามวัน

สวัสดี บางกอก : อื้ม ดูแลตัวเองดีๆนะ บอกไทหรือยัง

Nene Fonder : บอกแล้ว



สารภาพว่าช่วงนี้เน่ไม่ค่อยมีคนมาคุยด้วยเท่าไหร่ ด้วยความที่เจ้าตัวสร้างโลกของตัวเองขึ้นมา ทำหน้าไม่รับแขก ใครชวนคุยด้วยก็ตอบแค่อืออา เขาเลยพากันหนีหายกันหมด คงมีเพียงเต้ที่ต้องรักษาคู่จิ้นของมันไว้ไม่ให้เตลิด คอยอยู่ข้างเน่ และชวนคุยบ้างนานๆครั้ง
ยิ่งทำให้เน่คิด ว่าทำไมเขาถึงมีคนคอยอุปถัมภ์ ทั้งๆที่ตัวเองไม่เคยตอบแทนสิ่งใด
ยิ่งรู้สึกผิด
มีแต่ Take take take
ไม่เคยที่จะ give

คิดถึงเสี่ย
คิดได้เท่านี้ในสมองก้อนเล็กๆ
ถ้อยคำอ่อนโยนที่คอยสั่งสอน และคอยเป็นกำลังใจ ทั้งๆที่เสี่ยจะต้มยำทำแกงเน่ยังไงก็ได้ แต่เสี่ยก็ไม่เคยทำ
เน่ยังอยากได้ยินมันอยู่นะ...แล้วก็อยากให้เสี่ยบ้าง ...ให้สิ่งที่นอกเหนือจากร่างกาย

อยากให้เสี่ยกลับมาสอนเขาจัง

“รู้ข่าวยัง”
เสียงเต้ลอยเข้ามาในโสตประสาท และทุกขณะจิตที่มีแต่เสี่ย ก็คิดว่าเสี่ยมีข่าวอะไร ข่าวไม่ดีหรือเปล่า แต่หน้าเต้ก็ไม่ได้เศร้านะ

“อะไรของคุณครับ สรุปว่ารู้มั้ย”
เต้เป็นงงที่เด็กน่ากอดนามว่าเนเน่จ้องเขาอยู่นั่น
เขินเป็นนะ!

“ข่าวอะไร เสี่ยเป็นอะไร”

“ใช่ที่ไหนล่ะ! เรื่องที่พี่ฟิล์มจะถ่ายรูปเราตลอดทริปไง แล้วเขาบรีฟว่าให้ออกแนวคู่รักงอนๆอ่ะ”

“ยังไง”

“ก็เราจะไปดูดาวที่ดอยเสมอดาวใช่มั้ย พี่ฟิล์มเขาจะเก็บทุกอิริยาบถของเราสองคนแบบธรรมชาติๆอ่ะ แต่ให้เราไม่ใกล้กันมาก เวลาเดินขึ้นเขาก็เดิมตามหลังกัน ไม่หวานใส่กัน เหมือนเน่งอนเราอยู่”

“ทำไม่ได้”
ไม่มีอารมณ์

“เออ ไม่ต้องทำหรอก เพราะตอนนี้เน่ก็เหมือนงอนคนทั้งโลกอยู่แล้ว เมื่อกี๊ก็แอบเก็บได้ตั้งหลายรูป ทำหน้าหยิ่ง สร้างโลกของตัวเองคนเดียว เข้าธีมมากๆ”

พอได้ฟังก็อดถอนหายใจแรงๆไม่ได้
เอาเถอะ
อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ ถ้าจะไม่ให้เกียรติกันขนาดนี้ เขาก็ไม่มีอะไรจะพูด ที่เขาว่ากันว่าคนเราสันดานจะออกก็ตอนเห็นเงินนี่ท่าจะจริงแฮะ รุ่นพี่ที่เคยเคารพคนนั้นหายไปไหน เน่เจอแต่พวกหลงใหลในชื่อเสียงเงินทอง จนทำได้กระทั่งกับคนที่กำลังทุกข์ เน่หวังมาน่านเพื่อบรรเทาความทุกข์ แต่เห็นจะไม่ใช่เสียล่ะมั้ง

“อย่าทำหน้างั้นสิ”

“ยังไง”

“เหมือนจะร้องไห้”

“อือ...แล้วมีอย่างอื่นให้ต้องรู้สึกเหรอ”

“เฮ่ย ขอโทษ”

เน่ไม่ตอบคำ ยกแขนกอดอกอันเป็นสัญญาณว่ากำลังสร้างกำแพง อย่าริข้ามมากวนใจ และพิงหัวกับหน้าต่างรถ มองภาพผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ข้างนอก แม้มันจะลางเลือนเพราะหยาดน้ำตาก็ตาม





ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เสี่ยก็แอบห่วงเมียแหละเชื่อเถอะ
แต่อยากให้เด็กเน่เรียนรู้

เอาละ เหมือนที่เทียนบอก
ต้องยอมแลกบางอย่างเพื่อให้ได้บางอย่างมา
ทนเอาแล้วกันเน่ การกระทำของตัวเอง
และการตัดสินใจของเสี่ย

ค่อยๆ เรียนรู้ไป
อาจจะทรมานใจ แต่ไม่ลองไม่รู้
จะไม่เข้าข้างใคร
ไม่เข้าข้างเด็กเน่
และไม่เข้าข้างเสี่ย

เพราะทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นผลจากการกระทำของพวกคุณทั้งสองคน ขอบคุณสำหรับนิยาย รู้สึกยิ่งอ่านยิ่งไม่พอ ขอบคุณจากใจค่ะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เห็นน้องเป็นแบบนี้แล้วสงสาร ใจไม่แข็งพอ ตอนหน้าพอแล้วเนอะเสี่ย  :hao5:

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เน่ๆ น่าจะลองเข้มแข็งดูนะ ลองอยู่แบบไม่มีเสี่ย
แบบเบื่อเสี่ยอ่ะ ทำไมดูแลและคอยสนับสนุนก็ไม่ได้เหรอ  ต้องให้วางกฏเกณฑ์เป๊ะๆเหรอ รู้ว่าเน่ทำไรไม่ได้ ก็จะใช้เรื่องนี้กดดันน้องเหรอ นี่เหรอคนรักคนผูกพัน เน่อยากทำ ทำไมไม่สนับสนุน หากวันหนึ่งเสี่ยกดดันมากๆ วัยรุ่นอ่ะ คงเตลิดไปซักวัน เรื่องราวก็จะยิ่งแย่ลง เน่ๆไม่ใช่เด็กไม่คิด แต่เขาคิดให้มุมของคนวัยนี้ เสี่ยก็มองในมุมคนอาบน้ำร้อนมาก่อน  แต่เข้าใจป่ะ ว่ายุคสมัยตัวเองมันไม่มาสารถตัดสินคนอีกยุคนึงได้ ผิดหวังเสี่ยว่ะ
#ใครทีมเสี่ยเขาไม่รู้ #รู้แต่ว่าทีมหนูเน่ๆ
 :z6:  :z6:  :z6:  :z6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด