#เสี่ยกับเน่ (shotacon) -จบ- :: เสี่ยกับเน่มีอีบุ๊คแล้วจ้า!!! 15 เม.ย.62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เสี่ยกับเน่ (shotacon) -จบ- :: เสี่ยกับเน่มีอีบุ๊คแล้วจ้า!!! 15 เม.ย.62  (อ่าน 73812 ครั้ง)

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
 :hao5: สงสารน้องเน่ แต่ก็จะได้เรียนรู้นะ

ออฟไลน์ JanJanIsHappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สงสารเน่นะ แต่ยังทีมเสี่ยอยู่ดี อย่าเพิ่งยอมง่ายๆนะเสี่ยยยยย

ออฟไลน์ kwang2555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทีมเสี่ยยยฮื่อออ กลับมาหาน้องเน่ไวๆน้าาาา

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Chapter 26
ถ้านี่คือคำตอบ




‘ไม่ได้เห็นหน้า แต่เห็นหลังคาบ้านก็ยังดี’
สำนวนนี้ยังใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่เปลี่ยนจาก ‘หลังคา’ เป็น ‘เว็บไซต์’ เท่านั้นเอง
เนเน่เป็นคนสมัครเว็บไซต์โซเชียลมีเดียที่มีโลโก้สีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์ให้เสี่ยเอง เอาไว้คุยกันผ่านแชท ส่วนหน้าหลักนั้นไม่ค่อยแสดงออกว่ารู้จักกันสักเท่าไหร่ นานๆทีเสี่ยจะโพสต์เรื่องงานบ้าง หรือถูกแท็กมาบ้าง เช่นวันนี้แกไปงานแต่งลูกสาวกำนันปั่น เสี่ยก็โพสต์อวยพร พร้อมแนบรูปหล่อๆของตัวเองที่ไม่รู้ตัวเลยว่าแย่งซีนเจ้าบ่าวจนหมด
แกก็เป็นคนแบบนี้
น่ารัก
จริงใจ
...ช่วยไม่ได้ที่ใครต่อใครพากันรักเสี่ย อาจจะยำเกรงกันบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ทุกคนก็ชื่นชมเสี่ยกันทั้งนั้น แม้แต่เน่ยังเผลอตกหลุมรักเลย อ้อมกอดอุ่นๆ กับคำปลอบโยนแสนหวาน เสี่ยอย่าเอาไปให้ใครนะ โดยเฉพาะผู้หญิงชุดแดงที่ยืนเบียดไหล่จนแทบจะสิงกันอยู่เนี่ย!

Tene fanclubka แสดงความคิดเห็น
>แฟนเหรอคะ คนข้างๆ :))

ใครกัน?
รูปโปรไฟล์เป็นภาพเขากับเต้ อีกทั้งชื่อ...สังเกตดีๆมันคือ เต้ กับ เน่ นี่นา
แล้วเป็นเพื่อนเสี่ยได้ยังไง นักธุรกิจ กับ แฟนคลับดาราวัยรุ่นหน้าใหม่น่ะนะ ...บังเอิญเหรอ?
...บังเอิญไปหรือเปล่า?

ใจร้อนรน
มือสั่นอยากตอบเอง
ทำไงดี เพราะเสี่ยคงไม่มายุ่งกับคนที่ไม่รู้จักหรอก ...แล้วไปรับเขาเป็นเพื่อนทำไมนะ
หรือว่าเสี่ยจะรู้จัก?
งั้นถ้าตอบแทนจะดูเสียมารยาทหรือเปล่า สมัครแอคเคาท์ใหม่เลยดีไหม แต่เสี่ยปิดสาธารณะนี่ กว่าแกจะกดรับเพื่อนก็รอเหงือกแห้งกันพอดี

ระหว่างที่คิดไปสารตะนั้น มือเน่ใช่ว่าจะหยุดค้างไว้ที่ภาพเดิม เน่เลื่อนดูโพสต์เก่าๆของเสี่ย ปรากฏว่ามันมีคนมาแสดงความเห็นอย่างน้อยก็หนึ่งความเห็นเสมอ ลางสังหรณ์คนเราน่ะเชื่อถือได้
พอกดดู
เป็นอย่างที่คาด

Tene fanclubka

ทั้งนั้น!

อยากบอกว่า ‘ยุ่งอะไร!’ เป็นประโยคคำสั่ง และไม่ใช่ประโยคคำถามด้วย
.
.
.
Nene Fonder
ตอบกลับ Tene fanclubka
>ไม่ใช่ครับ มีอะไรหรือเปล่า

.....เน่กดส่งไปแล้ว หลังจากเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ตัวเองเป็นหมาแมว ตั้งค่าส่วนตัวทุกอย่างเพื่อไม่ให้ยัยนี่ตามส่องได้ แต่ถ้าเห็นชื่อ Nene Fonder ก็คงพอเดาได้บ้างแหละ เพราะตั้งใจประกาศให้ชัดๆไปอยู่แล้วว่าเขาเด็กใคร แค่ให้มันสับสนสองสามวิก็แค่นั้น

เฮ้อ! รู้สึกว่าตัวเองทำเรื่องไร้สาระมากขึ้นทุกที

>แต่โอบกันถึงเนื้อถึงตัวเลยนะคะ

>ก็ถ่ายรูปกัน มันก็ต้องเก๊กท่าป๊ะ

>แหม คนที่มีแฟนแล้ว เขาไม่โอบคนอื่นแบบนี้หรอกค่ะพี่เน่

ยัยเด็กโรคจิตคนนั้นแน่!
เน่นึกเสียงเย้ยหยันของมันออกเลย แฟนคลับภาษาอะไร ทำตัวเหมือนแอนตี้แฟนมากกว่า

>ถ้าน้องมีมารยาทพอ น้องก็คงเข้าใจ

>ถ้าพี่เน่มีมารยาทพอ พี่เน่ก็ต้องเกรงใจแฟนตัวเองด้วยสิคะ ไม่เซอร์วิสพร่ำเพรื่อ

เด็กแก่แดดตอบเขา พร้อมแนบลิงก์ของเว็บไซต์วัยรุ่นแห่งหนึ่ง เป็นกระทู้รวมภาพทริปไปน่านแบบเอ็กคลูซีฟที่ไม่มีในบล็อกพี่ฟิล์ม และหลายๆภาพก็เป็นอาการแนบชิดสนิทเกินเพื่อนของไอ้เต้มัน อย่างที่มันบอกว่าเป็นธีมง้องอน ดังนั้นเต้ก็จะจับมือบ้าง โอบไหล่บ้าง หยิกจมูกบ้าง ขณะที่เน่สะบัดหน้าหนี ไม่ก็ทำหน้าตายซากใส่
ซึ่งกับแฟนคลับด้วยกัน ต่อให้เน่ต่อยเต้ พวกเขาก็จิ้นอยู่ดี

>เงียบเลยเหรอค้า หนูบอกแล้วว่าให้เลือกพี่เต้

>พี่ไม่เลือก

>คนหลายใจสินะเนี่ย

>พี่ไม่เลือกใครทั้งนั้นครับ

เนเน่เลือกที่จะจบการถกเถียงเพียงเท่านี้ เพราะมันดูเด็กน้อยมาก เขาเข้ามหาลัยแล้ว ควรเลิกพฤติกรรมงอแงสักที จึงปิดเว็บไซต์ยอดนิยมลง ล้มตัวลงนอน โทรหาแม่ ถามว่าเรื่องโน้มน้าวให้เสี่ยกลับมาไปถึงไหน พ่อแม่แกก็ให้ความร่วมมือดีนะ แต่ไม่วายแขวะว่าลูกติดผู้ชายกลับมา ซึ่งทำให้เน่คลายเครียดลงกับมุกตลกที่พ่อแม่พยายามทำให้เขาสบายใจ

ก๊อก ก๊อก

ทุกครั้งที่มีเสียงเคาะประตู เน่มักหวังให้เป็นเสี่ยตลอด ครั้งนี้ก็เช่นกัน อยากให้เสี่ยหายโกรธ กลับมาคุยกัน กลับมารักกันเหมือนเดิม

“อ้าว”

แต่มันก็ไม่เคยเป็นจริงเลย ไอ้ความหวังลมๆแล้งๆ
พี่หมียืนอยู่ หน้านิ่งตามสไตล์ เน่เบี่ยงตัวให้คนตัวใหญ่เข้ามา ไม่แปลกใจเมื่อเห็นหน้าตาตกใจของแก

“ทำไมห้องเป็นอย่างนี้เนี่ย”

“ไม่อยากจ้างแม่บ้าน ไม่มีตังค์”
น้ำเสียงออกห้วนของเน่ทำให้ไทรู้ทันทีว่าเด็กเริ่มโมโหเขากับเสี่ยแล้ว

“กวาดไม่เป็นเหรอ”

“เป็นสิ....แต่....”
เสียงสั่นใส่อีก ไทเลยใจอ่อนยวบ ลูบหัวเด็กที่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นเด็กในสายตาของเขา

“ตัวสูงขึ้นนะเนี่ย”
เปลี่ยนเรื่องเสีย เน่จะได้หายเศร้า

“เสี่ยจะมาไหม”

“รอสักพัก”

“เสี่ยพูดถึงเน่บ้างหรือเปล่า”

“ก็....”

“ถามจริงนะ อย่าโกหกเน่นะ—เสี่ยเคยบอกพี่หมีว่าเสี่ยรักเน่มั้ย”

“เอ่อ....เคยหรือเปล่านะ ใครจะจำได้ล่ะ แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้เกลียด”

“จริงเหรอ”

“จริงสิ”

เนเน่ทิ้งตัวลง คล้ายกับว่าโล่งใจมาก แต่สักพักก็ทำหน้าเศร้าขึ้นมาอีก ทำเอาไทตามอารมณ์ไม่ทัน แต่ก็เข้าใจล่ะนะว่าเด็กวัยกำลังโต อารมณ์ขึ้นๆลงๆ พอๆกับเสี่ยนั่นแหละ เพียงแต่รายนั้นเป็นวัยกำลังแก่

“แต่เสี่ยดูเหมือนไม่แคร์เน่เลย อยู่ๆก็มาบอกให้อยู่คนเดียว ทั้งๆที่เคยเคียงข้างกันมาตลอด อย่างตอนที่พี่หมีนิสัยไม่ดี เสี่ยยังอยู่ข้างเน่เลย แล้วนี่อะไร...มาทิ้งกันเฉยๆ”

ไทยิ้มขื่น ตอนนั้นก็ประทับใจเสี่ยนะ ที่ไม่ทิ้งเด็กแก่แดดคนหนึ่ง

“แต่อย่าลืมนะว่าเน่โกหกเสี่ย”

นั่น ทำหน้าจะร้องไห้อีกแล้ว

“เน่ผิดไปแล้ว”

“ขอโทษเสี่ยสิ”

“ก็เสี่ยติดต่อไม่ได้นี่!”
จะให้ขอโทษได้ไงวะ!

“เฮ้อ! พยายามเข้าละกัน ง้อทุกวันเดี๋ยวก็ตอบ”

“เสี่ยดูรำคาญคนแบบนี้นะ”

“ก็ใช่ แต่ถ้าลองได้รักใครแล้ว เราก็ไม่รำคาญเขาหรอก”

พี่ไทยิ้มเพ้อๆ ก่อนจะก้มลงตอบข้อความจากใครบางคนยิกๆ เนเน่เห็นแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้ งงว่าพี่แกมาทำไม มาทำหวานเยิ้มอะไรแถวนี้ หรือตั้งใจแกล้งเขากัน

“เอ้อ ลืมไป พวกค่าใช้จ่ายต่างๆเรียบร้อยดีนะ? เงินพอไหม?”

“ตอนนี้ยังพออยู่ครับ”

“ยังรับงานอยู่หรือเปล่า”

เน่ส่ายหน้า

“อ้าว แล้วเดือนหน้าจะทำยังไง”

เน่ส่ายหน้าอีก

“เสี่ยเขาเปิดโอกาสเต็มที่ ก็รับไปสิ”

“เน่คงทำงานด้วยสภาพแบบนี้ไม่ไหว”

“ลองดูก่อน”

คนฟังไม่ตอบ เอาแต่นั่งมองหน้าจอโทรศัพท์ เขาเลื่อนนิ้วไปเรื่อยไม่มีจุดหมายในแอปฯสีน้ำเงิน ไทสังเกตเห็นอย่างนั้น จึงลองเช็กความเป็นไปบนหน้าวอลล์ของทั้งเสี่ยทั้งเน่

ปรากฏว่าสัญชาตญาณเชื่อได้จริงๆ

เขาขำนิสัยเด็กของเน่ แต่มันก็สมควร มีเด็กที่ไหนไม่รู้มาคอมเม้นต์เสี่ยทุกโพสต์ มันก็ย่อมหึงเป็นธรรมดา แล้วดูเสี่ยสิ อยู่กับเพื่อนสมัยประถมหรือยังไง ถึงได้ปล่อยให้เขาควงแขนอย่างนั้น

“คนนี้เพื่อนเสี่ยล่ะมั้งเน่ ไม่ต้องหึงนะ”

“หื้อ...เน่ไม่หึงหรอก เพราะเสี่ยไม่ชอบผู้หญิง”

ปากบอกอย่างนั้น แต่ตากลับจ้องรูปเดิม

“เสี่ยเขาไม่ทิ้งเน่หรอก”

ไทพูดทิ้งท้าย ก่อนจะลงมือเก็บกวาดห้องหับอันรกรุงรัง ทีแรกก็กะว่าจะให้เด็กเก็บอยู่หรอก แต่วิญญาณแม่บ้านมันเข้าสิง เห็นแล้วอดใจไม่ไหว คันไม้คันมืออยากช่วยเหลือ
ไม่ใช่เพราะได้รับคำสั่งจากคนที่ชื่อ ‘สวัสดี บางกอก’ เลยนะ
...จริงจริ๊ง


.
.
.
.


หลังจากที่ไทผู้กลายร่างเป็นพี่ชายใจดีกลับไปแล้ว และเน่ไม่รู้ด้วยว่าแกไปอยู่ที่ไหน เนเน่ก็หันมาลงมือทำการบ้าน เป็นงานกลุ่มในหัวข้อ ‘ชีวิตวัยรุ่นกับสังคมในปัจจุบัน’ ซึ่งเราจะส่งอะไรให้อาจารย์ก็ได้ เป็นชิ้นงาน รายงาน หรือวิดีโออะไรก็ได้ให้ตรงกับหัวข้อ อาจารย์มีตัวอย่างให้เป็นหนังสั้นกุดจากรุ่นพี่ สนุกและตลกมาก อีกทั้งยังเข้าถึงง่าย กลุ่มเน่จึงทำตามอย่างบ้าง โดยหน้าที่ของเน่คือการตัดต่อที่เขาไม่ถนัดเอาเสียเลย ยังดีที่โปรแกรมสมัยนี้มันฉลาด คำสั่งต่างๆใช้งานง่ายอยู่มากโข

“โซเชียลกับวัยรุ่น ...—เฮ้อ! ทำไงได้ ก็ผัวอยู่ในนั้นนี่หว่า”

ทำไปบ่นไปตามประสาชายโสด(ชั่วคราว)

“มันก็ต้องเช็กบ้างป่ะวะ”

ด่าตัวเอก ผู้กำลังสั่งสอนเพื่อนตัวเองว่าอย่าติดมือถือ

“เสี่ยนะเสี่ย เคยรักเน่บ้างหรือเปล่า”

แล้วก็เศร้าอีกครั้งเมื่อเห็นคู่รักในนั้นกลับมาคืนดีกัน
เป็นเอามากจริงๆ
—และรู้ตัวด้วย
เน่ไม่น่าไปว่าพี่หมีตอนนั้นเลย กรรมถึงตามสนอง
เข้าใจแล้ว ...เข้าใจจริงๆ
ไอ้อาการคุ้มดีคุ้มร้ายแบบนี้ มันไม่ได้มีความสุขเลยนะ ต้องกังวลไปต่างๆนานา ว่าเขาจะเป็นอะไร สบายดีไหม ยังรักเราอยู่หรือเปล่า
พอเรากำลังจะสูญเสียบางอย่างไป เราถึงเพิ่งคิดได้ ว่าสิ่งนั้นสำคัญกับเรามากแค่ไหน
แล้วเสี่ยจะคิดแบบนี้หรือเปล่านะ?

เด็กหนุ่มหยิบมือถือขึ้นมาเป็นรอบที่ร้อย กดเข้าแอปพลิเคชั่นเดิม เสิร์ชชื่อเสี่ย
วันนี้เสี่ยจะโพสต์อะไรบ้างนะ
หรือจะมีคนแท็กหาไหม
ถ้าเด็กนั่นเจ๋ออีกก็จะด่ากลับเลยคอยดู

“เอ๊ะ?”

ทำไม...ไม่เจอหน้าวอลล์ของเสี่ย

เนเน่ลองกดหาอีกรอบ

ก็ไม่เจออีก

ลองเปลี่ยนชื่อใหม่ เสี่ยอาจจะเปลี่ยนเป็นภาษาไทย

ไม่มี!

ไม่ๆ
เสี่ยอาจจะใช้ชื่อเล่น

ชื่อบริษัท

ชื่อหมา

ชื่อแมว

ไม่

อาจจะใช้ ‘เสี่ยอเนก’ แบบนี้ก็ได้

ไหนลองหาจากเพื่อนของเสี่ยซิ

หาให้ครบทุกคน

เสี่ย

เสี่ยอยู่ไหน

“...เสี่ย”

“ฮึก...ส..เสี่ย”



และนั่นคือครั้งสุดท้ายที่เน่เห็นหน้าคนที่เขารัก
เพราะไม่ว่าจะขอร้อง อ้อนวอน ใครต่อใครจนเหมือนคนบ้า ก็ไม่มีใครช่วยได้ เพราะเสี่ยเลือกลบทุกสิ่งทุกอย่าง ราวกับว่าไม่เคยมีตัวตนในโลกโซเชียล
เน่โทรหาหลายต่อหลายครั้ง ก็ฝากไว้เพียงเสียงรอสาย

“ไอ้แก่ใจร้าย!”

คือนิยามใหม่ที่เขาให้เสี่ยได้

อยากให้รับงานนักใช่ไหม อยากให้อยู่คนเดียวให้ได้นักใช่ไหม!!

เน่จึงประชดด้วยการรับงานทุกงานที่ติดต่อเข้ามา ตามแคสทุกบทบาทที่คุณสมบัติถึง เขาเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดของโมเดลลิ่งเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่เจ้าของเป็นเพื่อนกับเจ้าของโมฯของเต้ ดังนั้นจึงสามารถรับงานคู่กันได้ โดยไม่ต้องกลัวเสี่ยหึง
ฟังดูสนุกนะ แต่ข้างในมันมืดมนไปหมด

ในขณะที่การเรียนแย่ลง เขากลับกวาดบ้านได้สะอาดขึ้น
เพื่อนรอบตัวไม่มี แต่เขากลับมีแฟนคลับคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ
เขาที่ไม่เคยแตะเหล้า แต่วันนี้เน่ได้ลิ้มรสแอลกอฮอล์มากมาย แม้คอจะยังอ่อน

ทุกสิ่งที่เน่ทำ คงต้องขอบคุณคนใจร้ายคนนั้น

“คืนนี้ไปอิทชี่กันมั้ย”
เต้เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวเดินเข้ามาทัก ทำให้เน่หลุดจากภวังค์เรื่องคะแนนพรีเซ้นต์อันห่วยแตก แน่หละ ก็เขาทำชุ่ยๆไปนี่

“กำลังรออยู่พอดี”
พี่หน่าผู้จัดการบอกเน่แล้วว่าคืนนี้มีฉลองปิดกล้องหนังทุนต่ำที่ผับอิทชี่ เน่ไม่ได้เล่นหรอก แต่ก็ไปทำความรู้จักแค่นั้น เพราะรู้สึกว่าอยู่คนเดียวแล้วฟุ้งซ่าน

“แล้วที่ไปแคสคู่รองเรื่องรักเท่าฟ้าล่ะเป็นไง”

“ผ่าน เริ่มถ่ายต้นปีหน้า”

“เฮ่ยจริงดิ!? ทำไมไวจังวะ”

“ก็คู่หลักเป็นเด็กเส้นนี่นา จะคัดอะไรมากมาย”

“แล้วเน่อ่านหนังสือยังเนี่ย มะรืนสอบนี่ คณะเน่อ่ะ

“ยัง สอบบ่ายอ่ะ อ่านเช้าคงทันมั้ง”

“โห ใจเย็นโคตร”

“พูดมาก ไปได้แล้ว”

“จ้าๆ”

กล่าวเสร็จ น้องเน่ก็เดินตามตูดคนมีรถต้อยๆ กะไปสิงอยู่ห้องเต้ก่อน เดี๋ยวนี้เขาไปบ่อยจนจะเป็นห้องของตัวเองอยู่แล้ว แต่ไม่เคยนอนค้างเลย เพราะหวังว่าเสี่ยจะแอบมาหาสักวัน


.
.
.
.


“เดี๋ยวไปตรงนั้นก่อนนะ”
เสียงตะโกนดังแทรกเสียงเพลงอันดังลั่นหู เต้ไม่ลืมทำท่าชี้ไม้ชี้มือไปที่ข้างเวที ซึ่งมีกลุ่มหนุ่มล่ำชูแก้วเหล้าให้อยู่
เน่พยักหน้ารับรู้ แต่พอเพื่อนผละออกไปได้ไม่เท่าไหร่ พระเอกของเรื่องก็เข้ามานั่งเบียดเขา

“นึกว่าเป็นแฟนกัน”
บอกตรงๆว่าจำชื่อไม่ได้ แต่หน้าไม่ใช่สเป็ค ออกตี๋ๆ และสำอางไปหน่อย

“เป็นเพื่อน”
เน่ตอบ

“แล้วเน่มีแฟนยังอ่ะครับ”

“....ไม่รู้”

“ไม่รู้เหรอ โม้ป่ะ”
มือไม้เริ่มเลื้อย จมูกกับปากใกล้แก้มเน่มากขึ้นทุกที แต่เจ้าตัวไม่หลบด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่สร้างความพึงใจให้ตนอย่างผิดปกติเมื่อได้รับรู้ว่ายังมีคนสนใจ

“ที่ไปแคสรักเท่าฟ้าอ่ะ เป็นไงบ้าง ได้คู่กับไอ้บาสหนิ”

เนเน่เหล่ตามอง ไอ้นี่มันรู้แฮะ

“ก็หนุกดี เขาให้ลองร้องไห้อยู่สามฉากด้วย”

“เจอไอ้บาสป่ะ”

“เจอ”

“มันเสือนะไอ้นี่ ระวังไว้”

“เขามีแฟนแล้ว เป็นผู้หญิง”

“รู้ครับรู้ แต่มันเอาหมดถ้าสดชื่น”

คนฟังหัวเราะ

“ขำง่ายจัง เมาแล้วรึไง”

เน่ส่ายหน้า
“หื้อ—กินแค่แก้วเดียว จะเมาได้ไง”

“ตาเยิ้มซะขนาดนี้”
นิ้วโป้งขาวเกลี่ยบริเวณใต้ตานวลเนียน ปลายจมูกโด่งเป็นสันเคล้าคลออยู่ที่พวงแก้มดั่งผีเสื้อที่หยอกล้อดอกไม้
ติดใจ
ไม่ยอมบินไปไหนสักที

ถ้าดอกไม้ดอกนี้มีเจ้าของแล้ว มันคงช้ำ กระดำกระด่าง แต่เท่าที่เห็นคงไม่ใช่ ...กลีบดอกแสนสวย ราวกับเพิ่งผลิบาน

อดใจไม่ไหวแล้ว

กดจมูกลงไปสูดกลิ่นหอม ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากประกบปากอีกฝ่าย สอดลิ้นเพื่อชิมน้ำหวาน ไล้ไปตามไรฟันหน้า แล้วประคองศีรษะทุยให้ขยับใกล้เข้ามาอีกหน่อย เพื่อสอดลิ้นพัวพัน คราวนี้ถึงได้รู้ว่าเน่เป็นงาน ไม่ใช่เด็กใสซื่อที่ไหน ทั้งสองแขนที่คล้องคอยึดเอาไว้ ทั้งลิ้นร้อนที่กล้าเล่นกับเขา

“อืม...”

“เฮ่ยเน่!”
เป็นเต้ที่กระชากเพื่อนออกด้วยความตกใจ ใครจะไปคิดล่ะว่าเน่ที่รักแฟนหนักหนาถึงได้มานั่งจูบปากกับผู้ชายแบบนี้

“โทษทีนะ ขอกลับก่อน”
เต้บอกพระเอกหนัง แล้วลากเพื่อนตัวดีออกมาข้างนอก บอกตรงๆว่าไม่ได้หึงเลย มองเป็นเพื่อนไปเสียแล้ว แต่เต้เป็นห่วงเน่มากกว่า เหมือนจะทำอะไรไปไม่คิดหน้าคิดหลัง ถ้าสร่างเมาขึ้นมาแล้วจะทำยังไง หากเกินเลยไปมากกว่านี้ ไหนจะแฟนที่เน่รอทุกวันทุกคืนอีก ในเมื่อยังไม่เลิกกัน ก็ไม่ควรปล่อยตัว

“ไหนว่ายังรักแฟนอยู่ไงเน่!”

จี้ใจดำซะเลย จะได้หายเมา

“จะบ้าไปกันใหญ่!”

เต้ด่าอีก ก่อนจะผลักร่างโปร่งเข้าไปนั่งสงบสติอารมณ์ในรถ

เนเน่ดูนิ่งไป เต้ไม่รู้ว่าสำนึกได้หรือยัง หรือยังเมาอยู่ เขาเลยสวดต่อ

“ถ้าไม่ใช่งานแล้วปล่อยตัวขนาดนี้ แม่งโคตรน่าเกลียดเลยนะ แฟนขี้หึงไม่ใช่เหรอ คิดอะไรอยู่วะ แล้วจะคืนดีกันได้ยังไงถ้าเขารู้ว่ามามั่วแหลกแบบนี้ ไม่เห็นหรือไงว่ามีคนถ่ายรูปอยู่ แม่ง”

“หึ!”

สิ่งที่เต้ได้ยินกลับมาคือเสียงหัวเราะในลำคอ
คิดว่าเน่คงไม่แคร์แล้ว

“ฮึก...”

“อ้าว”
ไม่ใช่แล้วแหละ
จู่ๆคนน่ารักก็ร้องไห้ออกมา พร่ำบอกว่า
“ผิดไปแล้ว” ซ้ำๆ จนเต้ต้องกอดปลอบ

“ไปหาเขาไหมล่ะ ไปเคลียร์ให้มันจบๆ ไม่ชอบเลยนะเว่ยที่เน่กลายเป็นคนซึมเศร้าแบบนี้ อีกอย่างเราก็ผิดด้วยส่วนหนึ่ง ไม่สบายใจว่ะ”

“เต้ไม่ผิดหรอก”

“ผิดดิ ยังไงเราก็เป็นส่วนหนึ่งของต้นเหตุ”

“ช่างมันเถอะ”

คนเมาเช็ดน้ำตา
ถ้าแม้จะกินไปแค่แก้วเดียว ยังไงก็ถือว่าเมาไปแล้ว ยับยั้งชั่งใจตัวเองไม่ได้ไปแล้ว
นิสัยแบบนี้เสี่ยไม่ชอบ ไม่มีทางเสียหรอก ให้ไปหาตอนนี้น่ะ

“กินอะไรไปวะเนี่ย คอโคตรอ่อนเลย”

“ไม่รู้ หวานๆ”

“ไม่ได้ถามโว้ย! บ่นกับตัวเอง”

“ฮึก...!”

เวรกรรม...
เต้ทึ้งหัวตัวเองระบายอารมณ์ ไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี ในเมื่อเจ้าตัวเขาไม่อยากเคลียร์

“เอาไงดีวะ”
เน่ไม่รู้เลยว่าเพื่อนคนนี้ถูกกดดันจากทั้งสองฝ่าย ทั้งสภาพของเน่เอง และทั้ง...เสี่ย
แฟนของเน่...ขอเรียกเสี่ยเหมือนทุกคนเรียกแล้วกัน
แกติดต่อผ่านผู้จัดการ ถามว่าคิดกับเน่ยังไง ในตอนนั้นเขาก็พาซื่อ ตอบไปว่าชอบ แต่เน่มีแฟนแล้ว ไม่ยุ่ง เลยเหลือเพียงเพื่อน แต่ถ้าพัฒนาความสัมพันธ์ก็ไม่รีรอที่จะทำ
เสี่ยเลยฝากฝังให้เขาดูแลเน่ให้ดีๆ ถ้าเน่พร้อมมีแฟนใหม่ ก็จีบได้เลย ไม่หวง

เต้คิดว่าเรื่องมันจะจบแค่นั้น
เปล่าเลย
เสี่ยส่งไอ้พี่หมีตัวโตมาสำรวจห้องหับ ดูสภาพความเป็นอยู่ สอบถามประวัตินั่นนี่ด้วยมาดที่โคตรจะ..มาเฟีย
แล้วใครมันจะกล้าจีบเน่ต่อวะ ขืนทำเน่อกหัก เชื่อขนมกินได้เลยว่าตามมาเก็บศพเขาแน่
แต่ก็ดีนะ เพราะมันทำให้เต้ผู้รักในการแสดงรู้จักการถูก ‘ข่มขู่’ ของจริง
ทีนี้แหละถ้าได้รับบทแบบนี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ เขาคงแสดงได้ดีสุดๆไปเลย!





ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
“หือ...?”

กว่าเน่จะตื่นขึ้นมาเพื่อรับรู้ว่าเพื่อนตัวดีขับรถเข้าสุพรรณฯแล้วก็หลายชั่วโมง ก่อนหน้านั้นเขาจำได้ว่ายังเถียงกันอยู่เลย จากนั้นเน่ก็ขอนอนในรถสักงีบ งัวเงียตื่นขึ้นมาอยู่หลายครั้ง เห็นเต้ยืนจีบหนุ่มอยู่ บางทีก็เดินวนไปวนมาอย่างกับไม่มีอะไรทำ ทั้งๆที่จะกลับห้องเลยก็ได้
ทว่าตื่นมารอบนี้เขาก็ได้คำตอบ...ป้ายยินดีต้อนรับสู่จังหวัดสุพรรณบุรีเด่นหรา มุ่งหน้าสู่อำเภอที่เสี่ยอยู่โดยที่เน่ก็ไม่รู้ว่าเจ้าเต้รู้ทางได้ยังไง?!

“ตื่นแล้วเหรอ ว่าไง อยากคุยหรือเปล่า ถ้าไม่อยากจะได้เลี้ยวกลับ”

เน่ยิ้มบาง เพราะคงอีกนานกว่าจะได้เลี้ยว เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นทางตรงหลายกิโล มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ ยูเทิร์นไม่ได้ถี่เหมือนกรุงเทพฯ

“รู้ทางด้วย?”

“ไม่อ่ะ สรุปว่าโอเคนะ?”

“อือ ไปก็ได้ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เกลียดก็เกลียดไปเลย”

“เขาไม่เกลียดหรอก”

“เต้ไม่คิดจะยุให้เราเลิกหรือไง”

“เลิกไปก็เท่านั้น ยังไงเน่ก็ยังรักเขาอยู่ดี คงอีกนานกว่าจะได้ใจ”

“ทำไมผู้ชายสมัยนี้ไม่รอเลย”
คนพูดบุ้ยปากงอนๆ แต่เต้ก็รู้ว่าแกล้งเล่น

“คงเพราะสมัยนี้คนหน้าตาดีมันเยอะล่ะมั้ง แถมอะไรๆก็ง่ายขึ้น เจอกันไวขึ้น เจอกันง่ายขึ้น ถ้าไม่ใช่ มันก็เลยไม่ใช่ ไปหาคนใหม่ดีกว่า ...ถ้าตั้งใจจีบจริงๆนะ ยังไงก็ติด”

“แบบไอ้อะตอมที่อกหักจากน้องซีน่ะเหรอ? สองวันถัดมาก็ได้แฟนใหม่แล้ว...ไม่ค่อยเข้าใจเลย มันลืมแฟนเก่าง่ายจัง”

“ไม่รู้ดิ บางคนคงชอบคบๆให้รู้สันดานกันไปเลยหรือเปล่า”

“นั่นสิเนอะ”

“ว่าแต่หายเมาแล้วเหรอ”

“ไม่ได้เมา”

“บอกทางได้ใช่มั้ย”

“ได้สิ!”

ชักจะรำคาญ ถามมากพูดมาก
เอ...หรือเขาอารมณ์ไม่ดีเองนะ?


“เลี้ยวซ้าย ตรงไปอีกสักห้ากิโล จะเจอเลย บ้านทรงไทย มีรั้วล้อมโคตรกว้าง ข้างๆเป็นโรงสี แต่มันเตี้ยนะ เห็นบ้านชัดกว่าอีก ส่วนรอบๆไม่มีบ้านคน มีแต่นา”

“ท่าทางจะหาง่าย”

“เฮ้อ!”

“เป็นอะไรอีก”

“หัวใจ...มันจะออกมานอกอกแล้วว่ะ”
พูดพลางจับหน้าอกตัวเอง แรงเต้นของอวัยวะข้างในมันรุนแรงมาก เขากลัวว่าจะเป็นลมไปกลางอากาศอย่างไรไม่รู้
“พูดยังไงดีอ่ะเต้”

“ขอโทษมั้ง”

“เอาที่น่าสงสารกว่านี้สิ”

“โห...ไม่รู้ว่ะ —คิดยังไงก็พูดยังงั้นดิ”

“เสี่ยเขาจะฟังเหรอ”

“ฟังแหละ ถ้ารักก็ฟัง”

“นั่นสินะ.... ‘ถ้ารัก’ ก็คงจะฟัง”

เต้ขับรถไปได้สักพักก็เห็นรั้วบ้านที่ดูแปลกตากว่าบ้านทั่วไป มันหรูหรากำลังดี เข้ากับบรรยากาศบ้านทุ่ง ใช่ว่าจะจับต้องไม่ได้ แค่มองแค่นี้ก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นเจือจาง ถ้าไม่ติดว่ามืดไปหน่อยล่ะนะ ...แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะนี่มันจะตีสี่แล้ว!

“เดี๋ยวลงไปบอกยามแป๊บ”
เนเน่ผลุนผลันลงไปอย่างกับว่าไอ้ความตื่นเต้นที่ผ่านมามันไม่มีอยู่จริง เต้มองตามหลังแล้วได้แต่ถอนหายใจ เขาสงสารตัวเองที่ไม่มีอย่างนี้บ้าง อยากมีคนให้รักให้คิดถึง นี่พอชอบใคร เขาก็มีแฟนกันหมด

เนเน่ลงไปพร้อมๆกับที่ลุงยามคนเก่ายืนมองอยู่พอดี นึกแปลกใจว่าลุงยามคนนี้ยังอยู่อีกหรือ เหมือนจำได้ว่าแอบหลับจนเสี่ยด่านะเมื่อเดือนก่อน

“อ้าว!”
ลุงแกชี้หน้าเหมือนไม่เชื่อตาตัวเอง

“เบาๆสิครับ ดึกแล้ว ลุงยังอยู่อยู่อีกเหรอ”
สงสัยฤทธิ์เหล้ายังไม่หมด เลยหลุดปากถาม

“ลุงก็นึกว่าจะตกงานเหมือนกัน แต่อยู่ดีๆเสี่ยก็ให้ลุงทำต่อ”

แปลกมาก
เสี่ยไม่สบายหรือเปล่า
เน่ชักเป็นห่วงแล้วสิ

“แล้วน้องเน่มาทำไมป่านนี้ครับเนี่ย”

“ลุงเปิดประตูให้เน่กับเพื่อนเข้าไปก็พอ แค่มาหาตาแก่ใจร้าย”

“แน่ใจนะ?”
ลุงยามทำหน้างง สมัยนี้ไว้ใจคนยาก อีกอย่างเน่ก็ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นเดือน ไม่ใช่ว่าเลิกกับเสี่ยแล้วเหรอ เห็นเสี่ยหน้าบึ้งอยู่ตลอดเหมือนคนอกหัก คนแก่อย่างเขามองออกจะตาย แล้วนี่เน่ยังพาเพื่อนผู้ชายมาด้วยอีก แฟนใหม่หรือเปล่า
มันน่าสงสัยอยู่นา...

“เฮ้อ! ลุงก็ไปเรียกเสี่ยมาเลยถ้ากลัวมากนัก”

“แล้วถ้าเสี่ยมา แล้วหนูยิงเสี่ยตายล่ะ”

“จะบ้าเหรอ!”

“เออๆ งั้นเดี๋ยวไปบอกไอ้ศรก่อนนะ”
ลุงแกว่า ก่อนจะวิ่งหายไปในความมืด

เน่กอดอกฮึดฮัดด้วยความขัดใจ อยู่ดีไม่ว่าดี ถูกหาว่าเป็นคนเลวซะแล้ว

“แต่มันก็ดึกจริงว่ะเน่ ดูโคตรเด็กเลยที่มาตอนนี้”
ไอ้เพื่อนรักที่ยังไม่ยอมลงจากรถเปิดกระจกคุยแทรกความเงียบ คืนนี้คงเป็นคืนวิปโยค ไม่มีแม้แต่เสียงหรีดหริ่งเรไรให้ชื่นใจกันบ้าง

“แผนใครล่ะ!”

“แหะๆ เราหาที่นอนก่อนมั้ย แล้วค่อยคุยกันตอนเช้า”

“...ไม่ทันแล้ว”

ไหนว่าลุงจะไปคุยกับบอดี้การ์ดไง...
ทำไมเป็นร่างสูงของเสี่ยที่เดินมา



ทั้งสองสบตากัน
เน่ไม่รู้ว่าควรยิ้ม หรือควรทำหน้ายังไงให้ดูดีที่สุด เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง มือสั่นระริก
กลัว...กลัวมากจริงๆ
ถ้าเสี่ยบอกเลิกล่ะ
ถ้าเสี่ยบอกไม่รัก
ถ้าเสี่ยมีคนใหม่แล้ว เป็นผู้หญิงคนนั้น ...ถึงปากจะบอกว่าไม่สน แต่จริงๆเขาก็คิดอยู่ตลอดเวลา เน่เอาเรื่องงี่เง่าพวกนี้ออกไปจากหัวไม่ได้สักที

พลันสายตาของเสี่ยก็เหลือบไปมองด้านหลัง เน่รู้ทันทีว่ามันหมายถึงอะไร จึงรีบบอกว่าเต้มาเป็นเพื่อน

“งั้นเหรอ” น้ำเสียงที่ใช้...ไม่แคร์เลย
เหมือนเวลาเราบอก ‘งั้นเหรอ’ ‘งั้นสินะ รู้อยู่แล้วล่ะ’ ‘งั้นเหรอ ตามนั้นสินะ โอเค’ พร้อมยักไหล่กวนโอ๊ย กอปรสายตาว่างเปล่า

เนเน่รู้สึกว่าเขาตัวเล็กเหลือเกิน แทรกตัวเข้าประตูที่ถูกแง้มออกเล็กๆ มือกุมอยู่ด้านหน้า ทุกคนคงดูออกว่าประหม่าจึงแยกย้ายกันไป รวมถึงเต้ ซึ่งเน่จำต้องเลิกห่วงมันก่อน มันโตแล้ว พูดภาษาคนก็รู้เรื่อง นาทีนี้เน่ขอใช้เวลาอยู่กับเสี่ย ต้องทำให้เรื่องทุกอย่างมันชัดเจน

‘ปั้ก!!’

อ้าว
ไหงมือมันไปไวกว่าปากวะ

เด็กหนุ่มรีบชักกำปั้นกลับ เขาไม่ได้ตั้งใจต่อยอกเสี่ยเลยนะ!

“อ...เอ่อ ...เน่ขอโทษ”

เด็กน้อยของเสี่ยรีบก้มหน้า ทำให้ไม่ทันเห็นรอยยิ้มมุมปากเล็กๆของคนแก่ ที่พยายามกลั้นสุดความสามารถ

“ไปคุยกันในบ้านก่อน”

“ครับ”
เนเน่เดินตามเสี่ยต้อยๆ อยากจะเข้าไปกอดเหลือเกิน แผ่นหลังของเสี่ยยังคงดูอบอุ่นสำหรับเขาเสมอ

“มาดึกจังเลยนะ เพื่อนขับรถไหวเหรอ”
เสี่ยถามระหว่างขึ้นบันไดบ้าน

“ครับ มันไม่ได้กินเหล้าเหมือนเน่”

อุ้บ!
ไม่ทันแล้ว!
เผลอพูดในสิ่งที่เสี่ยห้ามทำไป
ตายแน่ๆ เน่รู้สึกได้เลยว่าไอ้ความอบอุ่นนั้นกลายเป็นความเย็นยะเยือกทันที
ร่างสูงก้าวพ้นธรณีประตูได้ไม่ทันไร แกก็กระชากแขนเน่เข้าไปข้างใน ก่อนจะลงกลอนเรียบร้อย ตอนนี้บนเรือนจึงมีแค่เขาสองคนเหมือนอย่างที่มันเคยเป็นมาตลอดสี่ปี

“เสี่ย...”
เสียงอ่อนระโหยเพื่อวิงวอนขอร้อง

“กินเหล้าเหรอ”

เนเน่พยักหน้า

“ประชด?”

“ม...ไม่รู้”
จริงๆเขามีคำตอบที่ดีอย่าง ‘เข้าสังคม’ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อีกนั่นแหละว่าไม่ได้ตั้งใจประชด

“นั่งลง”

ร่างโปร่งทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะเอ่ยถาม

“เสี่ยคิดถึงเน่ไหมครับ”

เสี่ยนั่งห่างออกไปราวช่วงแขน ทำให้เน่นึกน้อยใจขึ้นมาอีก

“เสี่ยรักเน่ไหม”
ไม่อยากได้ยินคำตอบเท่าไหร่ แต่ก็อยากถาม

“มีอะไรหรือเปล่า”
เสี่ยเลือกที่จะไม่ตอบ แกถามกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนลง

“ที่เน่มาหาดึกๆดื่นๆน่ะเหรอครับ...—เพราะคิดถึงล่ะมั้ง”

“ใกล้สอบหรือยัง”

“เสี่ยครับ...เน่เป็นอะไรสำหรับเสี่ยเหรอ”
ใช่...
เขาเป็นอะไร
สถานะไหน
จะได้รู้
จะได้เข้าใจ
จะได้เรียกร้องให้สมกับสถานะที่ได้รับ
จะไม่เกินไปกว่านี้หรอก

“....ทำไมถึงถามแบบนี้”
เสี่ยมองหน้าเด็ก
เขาก็รู้คำตอบอยู่ แต่ไม่อยากพูดให้เรื่องมันยาว
โอเค...เขามันเลวเอง
ไม่ใช่ว่าไม่รู้

“เพราะเน่จะได้ทำตัวถูกไงครับ” เด็กหนุ่มอมยิ้ม ที่ดวงตาอันคลอหน่วยนั้นไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย
“ถ้าเน่จะเป็นคนที่เสี่ยสามารถทิ้งได้เลย หรือปิดเฟสหนีได้ทันทีที่รำคาญ —เน่ก็จะได้เข้าใจไงครับ”
เขากลืนก้อนสะอื้นลงคอก่อนเอ่ยต่อ
“ไม่เป็นไรหรอกครับเสี่ย เน่อยู่ได้ ...โตแล้ว..เหมือนที่เสี่ยอยากให้เน่เป็นไง

ความเงียบสงัดทำให้เน่ได้ยินเสี่ยถอนหายใจเบาๆ ก่อนร่างนั้นจะขยับเข้ามาใกล้ และมันสร้างความหวังเล็กๆให้เขา ดั่งน้ำเย็นเพียงหยดเดียวที่มอบให้กับผู้ที่หลงอยู่ในทะเลทราย

“ฉันรู้ตัวว่าฉัน...ไม่ใช่คนดี”

“เน่ก็ไม่ใช่คนดี คนเพอร์เฟ็คต์”
พูดเบาๆ จากนั้นจึงขยับตัวเข้าไปกอดร่างหนา เกาะแขนล่ำเอาไว้ แล้วพิงศีรษะกับต้นแขนนั้น
เน่รักเสี่ย ฉะนั้นเน่ไม่เล่นตัวหรอก

“เสี่ยคิดว่าเน่มีความสุขเหรอครับถ้าเน่อยู่คนเดียวได้”

“.....”

“ถ้าเน่มีความสุขจริงๆ เน่คงไม่ทำตัวเหลวแหลก ไม่โหมงานหนัก ไม่ตั้งใจเรียนจนคะแนนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ไม่มัวแต่ส่องเสี่ยจนเก็บเอามาคิดมาก”

“นี่ทำถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”

“ก็เน่นิสัยไม่ดี”
ซุกหน้าเข้ากับต้นแขนล่ำๆอีก จนไม่รู้จะซุกตรงไหนต่อ เขาอยากอ้อน อยากกอด

“ที่ปิดเฟสไป...เพราะไม่อยากให้เธอดูไม่ดี”

“โอเคเคลียร์”
เข้าใจแล้ว เพราะเน่ไปทะเลาะกับยัยนั่นใช่มั้ย
แต่ฝั่งเสี่ยน่ะสิ ขมวดคิ้วงงใหญ่ อะไรจะเข้าใจง่ายขนาดนั้น

“แล้วเสี่ยไม่คิดจะติดต่อเน่บ้างเลยเหรอ”

“ก็...”

“เสี่ยไม่คิดถึงเน่เหรอครับ”

“รู้มั้ย ฉันโกรธนะ”

“รู้”

“แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าต้องจัดการกับความโกรธโดยที่ต้องสอนเธอไปด้วยมันควรจะทำยังไง...ให้ออกมาดีที่สุด”

“เสี่ยไม่เก่งเลย”

“ใช่ ฉันไม่เก่งเลย”

“จะไม่ปฏิเสธหน่อยเหรอ”

“ฉันรู้ตัวน่า—ไม่งั้นจะถูกหักอกบ่อยๆเหรอ”

“ฮื่อออ”
เด็กเสี่ยรีบโอบคนแก่ทั้งตัว รัดแน่นจนตัวเองเหนื่อยเอง หากแต่เขาอยากปลอบเสี่ยนี่ เสี่ยผู้ผิดหวังในความรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า พ่อก็อยู่ไกล แม่ก็ไม่อยู่แล้ว เสี่ยเหลือใครให้พึ่งบ้าง?

“ถึงยังไง เน่ก็รักเสี่ย”

“เราห่างกันมาก...กลับไปลองคิดดูก่อน กลับไปใช้ชีวิตวัยรุ่นให้เต็มที่ ถ้าตอนนั้นยังรักก็ค่อยว่ากัน”

“ไม่เอา!”
เน่ปฏิเสธเสียงแข็ง
“ชีวิตวัยรุ่นของเน่ต้องมีเสี่ยด้วย!”

เสี่ยเงียบไปอีกอึดใจ
“ฉันไม่ใช่คนดีเลยเน่ ไม่ใช่เลย...ทั้งเห็นแก่ตัว ต้องการครอบครอง ขี้หวง อารมณ์รุนแรง อยู่ด้วยแล้วไม่มีใครยิ้มเลยสักคน มีแต่คนกลัวฉัน”

“ไม่ใช่นะ เน่ยิ้มไง น้องแป้งด้วย หมาด้วย แมวด้วย”

“อยู่กับฉัน มีแต่ความอึดอัด”

“นี่ตกลงเสี่ยจะให้เน่ไปจริงๆใช่มั้ย”
ชักโมโหแล้วนะ คนอะไรถล่มตัวเองอยู่ได้
เนเน่ผละออกมา มองหน้าเสี่ยท่ามกลางความมืดสลัว

“แค่ลองใช้ชีวิต”
สายตาคู่นั้นเรียบนิ่ง
มันหมายความว่ายังไง
เคยมีเน่อยู่ในหัวใจดำๆนั่นบ้างมั้ย!

“ตกลงว่าไม่เคยรักเน่เลยงั้นสิ ทำไมล่ะเสี่ย? ทำไมครับ? เน่ขอโทษที่โกหกไปวันนั้น แต่เรากลับมาดีกันเถอะนะครับ เสี่ยจะให้เน่เป็นอะไรก็ยอม ขอแค่อย่าทิ้งได้ไหม ติดต่อกลับมาบ้าง อย่าทำเหมือนเน่ไร้ตัวตน.....ฮึก...เน่จะอยู่ยังไง...ไม่เคยมีความสุขเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา...มันเหมือนว่าเน่ไม่มีความหมายกับใครอีกแล้ว...ฮึก...ทำไมใจร้าย..แบบ.นี้...”
กล่าวทั้งน้ำตา มันพรั่งพรูลงมายิ่งกว่าหยาดฝน ทำเอาแขนเสื้อเสี่ยเลอะไปหมด เนเน่พร่ำบอกว่ารัก รักเสี่ยแค่ไหน ด้วยเสียงอู้อี้ที่เริ่มฟังไม่ได้ศัพท์

“...ฉันไม่อยากทำลายอนาคตเธอเลย”
เสี่ยพูดในที่สุด พูดด้วยน้ำเสียงที่เบาเหลือเกิน ราวกับกลัวเน่จะได้ยิน

“เสี่ยคิดมากเกินไปแล้ว ...ฮึก เน่ผิดเอง..ถ้าเน่ไม่โกหกเสี่ย เรื่องมันคงไม่เลยเถิดมาถึงขนาดนี้ ตอนแรกเรายังมีความสุขกันอยู่แท้ๆ”

“ฉันไม่อยากให้เธอทำ แต่มันก็ห้ามไม่ได้ ในเมื่อมันคือชีวิตของเธอ ไม่ใช่ของฉัน ...แต่ฉันรู้ตัวเองดี ว่าจะแสดงอาการยังไงถ้าปล่อยเธอไว้แบบนั้น ...ถึงต้องถอยออกมา มองเธอห่างๆ ..ไม่ได้ไปไหนเลย”

“แต่เน่โอเค”

“แต่ฉันไม่ ...ไม่อยากชวนทะเลาะทุกครั้งที่เจอหน้า แล้วก็ไม่อยากทำลายชีวิตที่เธออุตส่าห์ได้เลือกเอง”

“เสี่ยก็ยังไม่เข้าใจ—เน่ต้องการใครสักคนมาอยู่เคียงข้างอยู่ดี ต่อให้ลำบากมากแค่ไหนก็ตาม การมีคนพิเศษก็ทำให้เราสู้ต่อไปได้”

“เราต่างกันเกินไป”

“เราเพิ่งจะมาต่างก็ตอนที่เน่เข้ามหาลัยใช่ไหมครับ ก่อนหน้านั้นเราอยู่กันมาได้ยังไง”

คนพูดเสียงแข็ง ผละออกมาจากร่างหนาอีกครั้ง
น้ำตาเน่หยุดไหลแล้ว ขอบตาแดง บวมช้ำจากการร้องไห้อย่างหนัก ไม่เจ็บเท่าข้างในเลย ตรงอกด้านซ้ายนี่

“คงเพราะเราเริ่มมองมุมกว้างออกไป ความคิดเราถึงได้ไม่ตรงกันขนาดนี้”

“เน่คิดว่า...ถ้าเสี่ยรักเน่มากขึ้นอีกนิ—“

“อย่าพูด...ว่าฉันไม่รัก”

“ได้ครับ เสี่ยบอกอะไร ...เน่ก็ทำได้ทั้งนั้น”
เขากล่าวก่อนจะลุกขึ้นหันหลังกลับ
ยังมืดอยู่เลย
มืดเหมือนคำตอบ
อุตส่าห์มาหา
แต่ก็ไม่ได้อะไรกลับไปเลย

“เน่...”
จู่ๆ มือหนาก็คว้าข้อมือเน่ไว้

“ไม่เป็นไรครับ เน่ไม่เป็นไร...แค่คุยกันมาตั้งนาน เน่ยังไม่รู้เลยว่าเราคุยเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ปล่อยเน่เถอะครับ เน่เข้าใจแล้ว..ถ้าเสี่ยอยากติดต่อ ก็คงจะติดต่อไปหาเองใช่ไหมครับ”
เขาพูดเองเออเองจนเหมือนคนบ้า
แล้วจะให้เข้าใจอะไรได้ ในเมื่อทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเสี่ย

อืม

คงเป็นแบบนี้แหละ อายุต่าง ความคิดต่าง การแสดงออกก็ยิ่งต่าง

เน่กับเสี่ย...จะไปกันได้ไกลแค่ไหน?




เวลาคนเราทะเลาะกันเนี่ย ชอบพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเนอะ จนลืมต้นเหตุของปัญหาตลอด รู้แค่ว่ามันไม่ดี มันไม่ใช่ สุดท้ายถ้าโชคร้ายก็เลิก
เพลง Mad ของ Ne-Yo ก็บรรยายความรู้สึกได้ดีทีเดียวค่ะ


ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เราเข้าใจเสี่ยเลยค่ะ แต่ก็เข้าใจน้องด้วย ค่อยๆจูนเข้าหากันนะคะ  :katai1:

ออฟไลน์ pktherabbit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ความรักทำให้คนตาบอดอิสเรียล

ออฟไลน์ kwang2555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หน่วงใจมากกกน้องเน่ค่อยๆคุยกับเสี่ยนะะะะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
ฮือออ หน่วงมากเลย สงสารทั้งเน่ทั้งเสี่ย

ค่อยๆคุยกันเถอะนะ

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เน่ ถอยออกมาตามที่เสี่ยต้องการ
เบื่อ กับการไม่พูดคุยกัน เบื่อเสี่ยมากอ่ะ
วันนึง ถ้าเน่ไม่อยู่ เสี่ยคงอยู่ได้ใช่มั้ย มันคงเป็นมุมมองของเสี่ย
ทั้งๆที่ตอนเอาเน่มาครั้งแรกๆ มันคือการไม่สมยอมของเน่ป่ะวะ
พอเด็กรักเสี่ย และเสี่ยเกิดพอไม่พอใจเด็ก ก็ทิ้งได้ง่ายๆอย่างงี้ ยุติธรรมมากกก
ลืมไป ใครรักมากกว่าคือ เจ็บมากสินะ
เบื่อเสี่ยเว้ยยยยย  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ดีจัง
เรียนรู้ทั้งคู่
ชีวิตคู่ที่อายุต่างกันมากๆ
เปิดโลกใหม่อีกเยอะ

ขอบคุณจากใจค่ะ

ออฟไลน์ JanJanIsHappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หน่วงมากกกกกกก ห่างกันเพราะไม่รัก ไม่เจ็บเท่าห่างเพราะเข้ากันไม่ได้อ่ะจริงๆ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Chapter 27
ความสุขของเน่ คือเสี่ย




“หรือว่าเน่เผลอบอกเสี่ยเรื่องจูบผู้ชายวะ?”

“ไม่ใช่ แล้วก็เลิกพูดถึงเรื่องนี้ได้แล้ว”

“เฮ่ย คุยกันก่อนดิ อย่านอนคลุมโปงสิ เดี๋ยวหายใจไม่ออกนะเว่ย”

“รู้แล้ว โตแล้ว หายใจเป็น”

“เนเน่ หันมาคุยกันก่อนนน”

“คุยอะไรล่ะ ก็มีให้แค่นี้”

“เสี่ยเขาโกรธอะไรอีกหรือเปล่าาา”

“คุยกันไม่รู้เรื่องอ่ะเข้าใจป๊ะ!”

“เขาจะใจร้ายถึงขนาดนั้นเชียวเหรอ”

“อย่าเรียกว่าใจร้ายเลย เรียกว่าไอ้แก่บ้าดีกว่า เป็นคนแก่ๆที่แก่แล้วแก่เลย เชอะ!”

“โห ด่ากันงี้ ถ้าเขาติดเครื่องดักฟังมา เราจะตายกันไหมวะ”

“ไม่ตายหรอก แค่ถูกหมกอยู่แถวชายแดน”

“หยึย~ เลิกพูดดีกว่า เน่นอนไปละกัน เราไปหาอะไรกินก่อน เอาอะไรมั้ย”

“ไม่ ยังไม่หิว”

โดนมาตั้งขนาดนี้ คงไม่มีอารมณ์หิวแล้ว!


เนเน่นอนคลุมโปง คิดว่าความมืดและความเงียบจะช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น ทว่าตรงกันข้าม เขาฟุ้งซ่าน สับสน ทุกอย่างตีกันอยู่ในหัวจนปวดหัวมาก ถึงแม้จะกินยาไปแล้ว แต่เน่ว่ามันอยู่ที่ความคิดของเขาเองด้วย ไหนจะตาบวมๆเพราะร้องไห้มาตลอดทางอีก

เสี่ยนะเสี่ย แค่วิ่งมายื้อแล้วก็กอดแน่นๆ แบบพระเอกหนังน่ะ ทำไม่ได้รึไง!

ตอนนี้เขาไม่รู้จะทำยังไงแล้ว มันเป็นเรื่องของความคิดที่ไม่เข้าใจกันจริงๆ คนหนึ่งจะเอาอย่าง อีกคนก็จะเอาอย่าง ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง จึงไม่มีใครฟังเหตุผลของกันและกัน
เนเน่รู้สึกว่า คำว่า ‘เรา’ ที่เคยมี
มันเริ่มกลายเป็น ‘เน่’ กับ ‘เสี่ย’
‘ผม’ กับ ‘คุณ’

หรือว่าเน่โตแล้ว เลยไม่ใช่สเป็คเสี่ยสินะ เหมือนหมาที่พอโตก็ไม่น่ารัก แล้วก็ถูกทิ้งในที่สุด

แต่เสี่ยก็พูดนี่ ว่าอย่าพูดว่า ‘ไม่รัก’
หมายความว่าเสี่ยยังรักเน่อยู่ไม่ใช่หรือ?

เฮ้อ! เห็นมั้ย ฟุ้งซ่านอีกแล้ว





ตื่นมาอีกทีก็เกือบสี่โมงเย็น เนเน่ต้มบะหมี่กินรองท้อง เตรียมชีทที่จะอ่านสอบ พลางนั่งดูรายการทีวีไปเรื่อย ยิ่งเดี๋ยวนี้มีช่องแปลกๆผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เขาก็ยิ่งมีทางเลือกมากขึ้น ดูๆไว้เผื่อว่าจะไปสมัครเป็นพิธีกรสักช่อง ไม่รู้ว่ายากหรือเปล่านะ แค่ตอนนี้เขายังไม่เห็นอนาคตของตัวเองเท่าไหร่ พอนึกอะไรได้ก็นึกไปก่อนนั่นแหละ

คิดถึงเสี่ยที่สุดเลย
เศร้าที่สุดด้วย
ทำไมเขาต้องมานั่งคิดอะไรแบบนี้ซ้ำๆซากๆด้วยวะ ทางนั้นเคยเป็นบ้างหรือเปล่าเหอะ พูดหล่อๆอย่างเดียว แต่ใจโคตรดำเลย

....’ไอ้เสี่ยบ้า ทำไมต้องมาหลอกให้รักด้วยวะ’

....’ปากบอกว่ารัก แต่ไม่ยื้อเราเลย’

“ฮึ่มมม ...เฮ่ย!”
เด็กขี้งอนรีบคลายมือจากชีทอันยับย่น เอกสารสำคัญเสียด้วย มีแต่เรื่องที่ออกสอบทั้งนั้น รีบกวาดไปให้ไกลๆมือก่อน
เขามองนาฬิกา เพิ่งห้าโมงเย็นเอง นอนดูหนังต่ออีกสักหน่อยดีกว่า สักหกโมงค่อยเก็บห้อง เมื่อกี๊รื้อชีทจนมันรกไปหมด


.
.
.


แต่ก็ไม่คิดว่าท้องมันจะหิวเร็วขนาดนี้...
เด็กหนุ่มรอให้หนังเรื่องที่สองจบ เป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อที่อยู่กับลูกชายสองคน ทำงานหาเงินแทบไม่พอใช้ ชีวิตลำบากมาก แต่สุดท้ายเขาก็ขวนขวายจนได้การงานที่ดี เพียงเพราะความพยายามโดยแท้ เขาน่ะร้องไห้ไปตั้งหลายรอบ ซึ้งในความพยายามของพ่อที่ทำเพื่อลูก และความรักที่ทั้งสองมีให้กัน ฟินจนไม่ได้คิดถึงเรื่องสอบเลยสักนิด

โครก~

ท้องร้องอีกแล้ว
ปิดหน้าจอ หยิบเงินออกไปซื้อลูกชิ้นกับข้าวเปล่าหนึ่งถุง เพราะไม่อยากกินอะไรหนักๆ พูดตรงๆก็คือไม่อยากอาหารมากกว่า ตรอมใจล่ะมั้ง ไม่รู้จะหายเศร้าได้เมื่อไหร่ เผลอหลงรักเขาเอง คิดๆดูแล้ว เสี่ยแกก็เป็นพวกนิ่งๆ เย็นชามาตั้งแต่ต้นนี่นะ

‘ยิ้มอะไร’

เน่เดินสวนกับสาวข้างห้องที่ยิ้มหวานตาปิดให้เขาทุกครั้งที่เจอกัน ซึ่งแน่นอนว่าหาได้สนใจไม่ ส่วนถ้าให้บอกว่าสนใจผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่ เนเน่ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน



หอของเน่อยู่ในซอยที่ค่อนข้างเงียบสงบ ดังนั้นจึงหมายความว่าร้านค้าต่างๆไม่ค่อยมีมากนัก ร่างโปร่งเลือกที่จะไปซื้อลูกชิ้นร้านประจำหน้าปากซอย แต่เขาก็ไม่เคยเอ่ยทักพ่อค้าหน้าตาดีคนนี้หรอก เพียงแค่ยิ้มให้กันเท่านั้น ก็คล้ายกับว่าจำกันได้แล้ว

“อ๊ะ...!”

ฝนบ้า
มาตกอะไรตอนนี้วะ

ฝนเม็ดเล็กค่อยๆตกกระทบร่างเด็กหนุ่ม
เนเน่ไม่รู้จะหลบฝนที่ไหน พ่อค้าก็ยังทอดลูกชิ้นไม่เสร็จด้วย เขาจึงจำใจยืนอยู่ที่เดิม ปล่อยให้เม็ดฝนตกลงมาเรื่อยๆ โชคยังดีที่แค่ตกพรำๆ ไม่ลำบากอะไร

“ระวังเป็นหวัดนะน้อง”
พ่อค้าลูกชิ้นคงสงสาร หรือสมเพชก็ไม่รู้ ถึงได้ทักออกมาอย่างนั้น

“เสร็จแล้วคร้าบ”
ไม่นานแกก็ยื่นถุงลูกชิ้นร้อนๆให้ เน่จ่ายเงิน รีบวิ่งกลับหอเมื่อสังเกตว่าไอ้ฝนซังกะบ๊วยชักจะหนักขึ้นเรื่อยๆ สรุปว่าต้องตัดใจไม่ซื้อข้าวสินะ เขาไม่มีทางออกจากห้องเป็นครั้งที่สองด้วยสิ

เฮ้อ....

ชีวิตวันๆ ที่ไม่มีแก่นสาร
เขาจะทนได้ถึงเมื่อไหร่...

“ฮัดเช้ย!!”

เวรกรรม
เดินเข้าห้อง พอเจอแอร์หนาวๆปุ๊บ ก็จามปั๊บ

ร่างโปร่งทิ้งตัวลงบนโซฟา แล้วนั่งจิ้มลูกชิ้นกินให้หายหิว จากนั้นจึงอาบน้ำแบบลวกๆ ไม่ได้สระผมด้วย เพราะมันเริ่มดึกแล้ว เขายังไม่ได้อ่านหนังสือเลย ไม่ชอบเวลาที่ผมยังเปียกอยู่ แล้วต้องไปทำอะไรต่อมิอะไร น่ารำคาญจะตาย อีกอย่างก็ขี้เกียจเป่าด้วย

“โอยย ทำไมมันเยอะอย่างนี้วะ”
บ่นรอบที่ล้าน แต่สิ่งที่ทำต่อจากนั้นคือโยนชีททิ้ง(อีกครั้ง) แล้วเปิดทีวีดูหนังแทน

“เบื่อโว้ย!”
มันไม่มีอะไรดูเลย!
ไม่ใช่ว่าเน่เบื่อชีวิตตัวเองเลยนะ จริงจริ๊ง

“ฮึก...”
ความเหงา มันทำให้เราเศร้ายิ่งกว่าที่เคย

ตอนที่เรารู้ว่าเรายังมีคนให้พึ่ง ยังมีคนที่รักเรา และเราก็รักเขามากอยู่ที่ไหนสักแห่ง
...ต่อให้เราเหงาแค่ไหน เราก็แค่เหงา
...ไม่เศร้าแบบนี้




ซวยกว่านี้มีอีกไหม?

เนเน่ฝืนสังขารลุกจากเตียงในสภาพที่แย่สุดๆ ตัวร้อนจัด ปวดหัวแทบระเบิด แต่ก็ต้องพาตัวเองไปสอบ

เมื่อคืนเขานอนร้องไห้จนเที่ยงคืนถึงได้มีเรี่ยวแรงเปิดชีท อ่านแบบลวกๆให้พอผ่านตา เพราะเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกาย ...แล้วดูสิ ป่วยจริงด้วย

[เย็นนี้ไปหานะ]

เป็นเต้ที่ส่งข้อความมา
ทำไมนะ ...ทำไมคนที่ส่งไม่เป็นเสี่ยบ้าง

.
.
.
.

“แล้วพรุ่งนี้จะไหวไหมเนี่ย สอบเช้าด้วย”
เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในตอนนี้เอ่ยถาม มันยัดยาพาราใส่ปากเน่จนเจ็บไปหมด เพราะเขาไม่ยอมกิน เน่เลยงอนไม่ยอมพูดด้วย แต่เต้คงไม่สนใจหรอก ไม่งั้นมันคงไม่ลากเน่มานอนบนเตียง แล้วจัดแจงห่มผ้าห่มอย่างดี ประหนึ่งแม่ดูแลลูก

“ไปหาหมอมั้ย ฉีดยาสักเข็ม จะได้หายไวๆ”

เต้เท้าเอวรอคำตอบ แต่เขาก็เดาได้แหละว่าไม่

“เฮ้อ! ลำบากจริงเลย”
เต้พูดบ่นตามประสา โดยที่ไม่รู้ว่าคนฟังจะคิดมากขนาดไหน
เนเน่อ่อนไหวกว่าปกติมาก เขาเจ็บข้างใน ..อกข้างซ้าย
เขาเป็นภาระเหรอ?
ไม่มีใครรักจริงๆใช่มั้ย?
ใช่สิ
คนไม่ดี
เด็กไม่ดี
เต้ถึงต้องมาลำบาก ทั้งๆที่พรุ่งนี้ก็ต้องสอบเหมือนกันแท้ๆ

“ฮึก...”

แย่ที่สุดเลย

“เฮ่ย! ร้องไห้เหรอ”

เนเน่ไม่ได้สะอึกสะอื้นน่าสงสาร เขามีแต่น้ำตาที่ไหลลงเปื้อนหมอนเป็นทาง

“เป็นอะไรเน่”
เอาใจไม่ถูกแล้วนะเนี่ย

“อะไรว้า”
เต้ไม่รู้จะช่วยยังไงแล้ว ทั้งเรื่องเสี่ย เรื่องเรียน ไหนจะมาดูแลตอนป่วยอีก เขาไม่รังเกียจหรอก แต่มันงงๆ พยายามเต็มที่แล้วแต่เพื่อนก็ยังอาการหนัก
นิสัยแบบนี้...ถึงว่าเสี่ยดัดหลังซะเป๋เลย เอาใจยากชะมัด

เอ้อ!

เสี่ย!

ถึงจะยังไม่คืนดีกัน แต่ลองได้เห็นเน่สภาพนี้สิ ไม่รักก็ต้องห่วงกันบ้างล่ะวะ


.
.
.

แอ๊ด....

“กลับไปอ่านหนังสือเหอะเต้ เราไหว”
เสียงแหบแห้งดังออกมาจากร่างเล็กๆ ที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียง
ความอ่อนแอนั้นทำให้เน่ตัวเล็กลงหลายเท่า
สายตาคมกวดมองความเรียบร้อยของห้อง ก่อนจะเห็นชามข้าวต้มกับยาวางอยู่ข้างเตียง เดาว่าคงสัญญากับเต้ว่าจะกิน แต่ก็ยังดื้อแพ่งไม่ยอมกิน

คงไปไม่รอดตามเคย...ชีวิตรักของเสี่ยอเนก
คิดแล้วก็ขำ
ท่าทางจะอยู่คนเดียวจนแก่นั่นแหละ

แต่อย่างน้อยก็อยากช่วยบ้างเพื่อตอบแทนบุญคุณ ในเมื่อทั้งเสี่ยและเน่ก็ช่วยเรื่องเทียนเหมือนกัน

ดังนั้นบอดี้การ์ดหนุ่มสุดหล่อและใจดีในสายตาเนเน่เสมอมา(?)จึงกดโทรศัพท์ โทรหาเจ้านายสุดที่รักเพื่อส่งสาส์นเกินจริงให้แกรีบมาไวๆ มาดูใจเด็กป่วยหนักที่ไม่มีกำลังใจจะอยู่ต่อนี่ซะ!





--ตัดฉับ!
ตอนต่อไป มาพรุ่งนี้ ไม่ก็มะรืนนะคะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
หมั่นไส้เสี่ยยย  อยากให้หนูเน่ อยู่ดีๆก็หายไป เสี่ยตามเจอ ไม่มีข่าว เหมือนไม่มีเน่แล้ววว อยากให้กระวนกระวายหัวใจวายตายไปเลยยยย :ling1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เสี่ยใจอ่อนเถอะค่าาา  :hao5:

ออฟไลน์ JanJanIsHappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หมั่นไส้เสี่ยอ่ะ เล่นตัวเก่งงงงง น้องยอมขนาดนี้แล้วม้ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เอาใจยากเนาะ
นิสัยแบบนี้จะแก้ยังไงดีนะ?

คนสองคนที่ยึดมั่นในเหตุผลของตัวเองมากๆ
แต่ต้องมาอยู่ด้วยกัน
ก็ต้องมีอะไรหลายๆ อย่างที่ต้องปรับจูนหากันอีกเยอะ

ขอบคุณที่มาต่อค่ะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Chapter 28
คนโง่เท่านั้น ที่คิดไม่ได้






“มาถึงไวจังเลยครับ”

คนฟังยักไหล่ ไม่ตอบ แกโยนกุญแจรถลงบนโซฟา ก่อนจะก้าวเท้ายาวเข้าไปในห้องนอนเล็กๆที่ประตูเปิดแง้มไว้อยู่

“ยังไม่ตื่นเลยครับตั้งแต่มา”
อดีตมือขวาตามเข้ามาทีหลัง รายงานความเป็นไปด้วยเสียงแผ่วเบา

“พรุ่งนี้ต้องไปสอบหรือเปล่า”

“ไม่ครับ สอบมะรืน”

“ทำไมไม่พาไปหาหมอ”

“น้องอาการดีขึ้นแล้วครับ ตัวไม่ได้ร้อนมาก แต่คงเพลียมากกว่า”

“กินยาหรือยัง”

“ก็ว่าจะให้เสี่ยป้อนน่ะครับ แหะ..”

‘เสี่ย’ ตวัดสายตาคมเหมือนจะแทงให้ทะลุ
ก็ในเมื่อไอ้บอดี้การ์ดสุดกวนมันส่งเสียงหัวเราะในคอ คล้ายสะใจอะไรบางอย่าง แค่นี้ก็รู้แล้ว ว่ามันหลอกเขามา

หนอย

“มึงออกไปเลยไป”

“เดี๋ยวผมเอาผ้าชุบน้ำมาให้เช็ดตัวนะครับ”

เสี่ยกำลังคิดว่าจะไล่มันออกดีมั้ย ยุ่งได้ทุกเรื่อง เมื่อก่อนเขาก็ว่าไม่ขนาดนี้นะ สงสัยเพราะเรารู้เรื่องมันเยอะด้วย มันเลยปีนเกลียวใส่ แต่ก็ช่างเถอะ เพราะถ้าไม่มีไท ก็ไม่รู้ว่าใครจะมาดูแลเน่ ส่วนเทียนก็ไม่อยากให้ยุ่งมาก ให้มันเป็นหน้าที่ใครหน้าที่มันจะดีกว่า

เอาเถอะ

บึ่งรถมาหาทันทีที่รู้ข่าว ถ้าไม่เรียกว่าห่วง ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรแล้ว

ไม่เจอกันแค่วันเดียว ...เน่ดูผอมลงมาก

เสี่ยลากปลายนิ้วทั้งห้าผ่านแก้มเนียน ที่เคยหอม เคยจูบ เคยสัมผัส ...ไอร้อนระอุตีขึ้นมาบ่งบอกถึงอาการของคนบนเตียงว่าหนักแค่ไหน
ร่างสูงรอให้ลูกน้องยกถังใส่ผ้าชุบน้ำอุ่นมาให้ กล่าวขอบคุณความมีน้ำใจ และการปฏิบัติหน้าที่ที่ดี แม้ว่าจะเคยขุ่นเคืองกันมาก่อน แต่ไทก็ยังคงเอ็นดูเน่ หวังให้เน่เป็นคนที่เสี่ยจะพึ่งพาได้

เมื่อไทออกไปแล้ว ห้องทั้งห้องจึงเงียบสนิท ไม่รู้เสี่ยเป็นอะไร แกเผลอกลั้นลมหายใจไม่ให้ส่งเสียงดัง ทั้งๆที่ต้องปลุกเน่ ซึ่งเสียงดังกว่า
“เน่...กินข้าวกินยาก่อนเร็ว”
มือหนาแตะไหล่คนนอนนิ่ง

“เน่ ตื่นก่อน”

เรียกอีกเป็นครั้งที่สอง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น
เสี่ยคลายเสื้อเชิ้ตด้วยการปลดกระดุมเม็ดบน แล้วถอดเข็มขัดออก

“เน่...”
เสี่ยเรียกเด็กอีกครั้ง คราวนี้คนนอนขยับศีรษะเล็กน้อย เสี่ยจึงรีบเขย่าแขนเป็นการย้ำเตือน น้องเน่ของแกจะได้ตื่นสักที

“อือ...”
ดวงตาปรือปรอยฉายแววอ่อนล้า
เสี่ยคิดผิดหรือเปล่าที่ปลุกขึ้นมา แต่ยังไงเน่ก็ต้องกินยา ให้นั่งเฝ้าโดยที่ไม่ทำอะไรเลยไม่ไหวหรอก
ก็เป็นห่วงซะขนาดนี้
อยากกอดแน่นๆ ให้สะใจไปเลย

“....คนใจร้ายมาทำไม”
ถึงเสียงจะแหบแห้งและเบาแค่ไหน เสี่ยก็ยังอุตส่าห์หูดีได้ยิน
โคแก่แค่นยิ้มรับคำประชด เขายอมรับก็ได้ว่าตัวเองเลวจริง แต่ทุกสิ่งที่ทำไปก็เพื่อเน่ทั้งนั้น ....จะมาพูดแก้ตัวตอนนี้คงสายไปแล้ว
วิธีเดียวที่จะสามารถเยียวยาทุกสิ่งได้นั้นเขารู้ว่าคืออะไร แค่ต้องถามเนเน่ก่อนว่าพร้อมที่จะทำด้วยกันไหม

“เน่”

“อือ...เรียกเราทำไม”

“กินข้าวกินยาก่อนนะ”
เสี่ยพยุงร่างโปร่งให้นั่งพิงหัวเตียง เขาจัดหมอนให้เน่ได้เอนหลังอย่างสบายที่สุด แล้วส่งถ้วยโจ๊กเย็นๆให้คนป่วยรับไว้ ซึ่งเน่ก็มองอย่างงงๆ ว่าไม่ป้อนเหรอ

“กินก่อนเร็ว เย็นหมดแล้ว”
เสี่ยยังไม่รู้ตัว แกหยิบผ้าจุ่มน้ำอุ่น บิดพอหมาด กำลังจะวางบนแขนเน่ แต่ก็ต้องชะงักเพราะคนป่วยทักเสียก่อน

“เสี่ยจะเช็ดตัวเหรอ”

“ก็ใช่น่ะสิ”

“แต่เน่จะกินข้าวนะ”

“เน่ก็กินไป ส่วนฉันเช็ดตัวให้”

“เน่กินไม่ถนัดหรอก เสี่ยเคยดูแลคนป่วยไหมเนี่ย”

“มีแรงเถียงแล้วเหรอ”

“เสี่ยไม่ตอบเน่อ่ะ”

“ไม่เคย แล้วตัวเองเคยหรือไง”

เน่ส่ายหน้า

“งั้นก็กินไปเลย”

“เสี่ยบ้า”
ไม่รู้ว่าจะขำหรือจะทำหน้ายังไงดี โคแก่ติ๊งต๊อง! อย่ามาทำตัวน่ารักไปมากกว่านี้ได้ไหม

‘โว้ย!!’

เนเน่อยากเกลียดเสี่ยเหลือเกิน อยากต่อว่า อยากไม่รัก
แต่ทำไมมันยากอย่างนี้
ยิ่งมองเสี่ยคนที่ไม่เคยดูแลใคร ทั้งเย็นชา ทั้งฟอร์มจัด กำลังก้มหน้าเช็ดตัวให้เน่ ค่อยๆลูบแขน ลูบขา โดยที่ดูรู้ว่ากำลังพยายามไม่ทำให้เน่ลำบาก ...มันน่ารักมาก

ไหนนะไอ้คนที่บอกว่าต่างคนต่างอยู่กันไปก่อน

เสี่ยมาเพื่อดูแลเหรอ
หรือเสี่ยต้องการอะไรอีก
เขาสับสนไปหมดแล้ว

“กินเยอะๆสิ”

จะกินได้ยังไงล่ะ ในเมื่อเสี่ยเช็ดตัวอยู่

“รีบกิน จะได้รีบนอน”

อยากให้เสี่ยป้อน

“หรืออยากกินอย่างอื่น?”

“ไม่ครับ เน่เวียนหัว”

“ไหวมั้ย”

“ไม่รู้สิ ห้องมันหมุนอ่ะ”
ก็หมุนนิดๆนะ แต่ไม่ถึงขนาดทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเสี่ยทำให้ก็จะดีมากๆ

เอาคืนเสี่ยดีกว่า

เพราะถ้าเน่หาย ก็ไม่รู้ว่าเสี่ยจะยังกลับมาไหม คนใจร้ายน่ะ ยังไงก็ใจร้ายอยู่วันยังค่ำ
Peace by vengeance กันไปเลย

“งั้นเดี๋ยวป้อน”

“เสี่ยป้อนข้าวก่อน แล้วค่อยเช็ดตัวให้เน่”

“อยากให้เธอได้นอนเยอะๆมากกว่า แต่ไม่เป็นไร”

โคแก่วางผ้าเปียกลง หยิบถ้วยมาคนโจ๊ก ประหนึ่งว่าระบายความร้อน ทั้งๆที่มันเย็นชืดมากแล้ว

เนเน่เฝ้ามองทุกอากัปกิริยาของคนตัวสูงแล้วอดขำไม่ได้ เขารู้ว่าสมัยหนุ่มๆ เสี่ยลำบากแค่ไหนตอนที่ไปอยู่เมืองนอก บ้านของพ่อที่ไม่ให้ความใส่ใจเด็กชายลูกครึ่งเอเชียคนนี้นัก เสี่ยเคยเล่าว่าต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งกับข้าว ทำความสะอาด ซักผ้า ไม่มีหรอกคนรับใช้ที่มาคอยเก็บกวาดให้เหมือนเด็กๆ แต่ก็ไม่คิดว่าเสี่ยจะไม่เคยดูแลคนป่วย

“อิ่มแล้วเหรอ”
คนป้อนถามเมื่อเห็นว่าเน่ส่ายหน้าไม่รับโจ๊กอีกคำ
กินแค่สามสี่คำก็รู้สึกเต็มกระเพาะแล้ว

“อีกสักหน่อยสิ”

“อิ่มแล้ว”

“กินน้อยจัง”

“ถ้ากินอีก เน่คงอ้วก”

เสี่ยไม่ดันทุรังป้อนต่อ เปลี่ยนเป็นเอาผ้าชุบน้ำถูตามตัวเน่อีกรอบ แกถกเสื้อยืดตัวบางขึ้น เผยให้เห็นยอดอกสีสวยที่ไม่ได้เห็นมานาน มันแข็งชูชัน เดาว่าเพราะอากาศหนาว แต่ใบหน้าของเสี่ยเรียบนิ่ง เหมือนกับว่าไม่สนใจ  ไม่เหมือนเน่...หัวใจเขาเต้นแรง ทั้งๆที่โกรธเสี่ยอยู่แท้ๆ แต่ไอ้ข้างในอกมันไม่รักดีเอาเสียเลย

“พอแล้ว เน่หนาว”

“ยังไม่ได้เช็ดข้างล่างเลย”

จะบ้าเหรอ !

โอ๊ยไอ้ปากบ้า อย่ายิ้มนะ อย่าให้รู้ว่าเราเขิน!
ต้องโกรธสิ ต้องโมโหสิ อย่าใจอ่อน อย่าหลงใหล อย่าเพิ่งมีอารมณ์นะเน่!

“ไม่ต้องหรอก ..หนาว”

“เพราะไม่สบายไง ถึงต้องเช็ดให้มันระบายความร้อน”
พูดจบไม่ทันไร เสี่ยอเนกรูปหล่อก็ดึงกางเกงเอวยางยืดลงแบบไม่ให้เจ้าของได้รู้เนื้อรู้ตัว ทั้งคู่จึงได้เห็นไอ้ท่อนแข็งๆที่ขึ้นรูปเป็นลำอยู่กลางตัวร่างบาง แน่นอนเนเน่รีบปิดแทบไม่ทัน

เอ่อ

ไม่ทันจริงๆ เพราะหน้าเสี่ยเริ่มขึ้นสีแดง ลามไปถึงใบหู

“อ๊ะ!”
แล้วจะยังเอาผ้ามาเช็ดอีก!

“เสี่ย...”

อีกคนไม่ตอบ ไม่มีปฏิกิริยาใดๆทั้งสิ้น แกขะมักเขม้นเช็ดต้นขาอ่อน เรื่อยไปถึงหัวเข่า ขณะที่เน่ยังไม่ละมือออกจากไอ้น้องไม่รักดี

“พอแล้ว”
เจ้าของร่างกายควรมีสิทธิ์ในร่างกายตัวเองสิ เสี่ยน่ะนิสัยไม่ดี ทำให้ร่างกายคนอื่นตกอยู่ในอุ้งมือของตัวเองได้ยังไง

“ยังเช็ดไม่หมดเลย”

“เน่หนาว อยากให้เน่ชักตายเหรอ”

“ไม่อยากหรอก”

คนฟังรอให้โคแก่พูดต่อ ทว่าไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมาอีก
เข้าใจว่าแกไม่ใช่คนพูดมาก เข้าใจและทำใจมาตั้งนานแล้ว แต่ตรงอกข้างซ้ายน่ะ มันโง่นะ ไม่ได้เหมือนสมองที่จะรู้ทุกเรื่องนะเสี่ย





วันต่อมาเน่ต้องอ่านหนังสือสอบถึงสองวิชาที่จะมีในวันพรุ่งนี้ วิชาแรกเป็นอังกฤษพื้นฐาน ที่เอาจริงๆ เขาไม่อ่านก็ได้ ส่วนอีกวิชาเป็นวิชาเลือกอีกตัวที่ยากสำหรับเน่เมื่อได้เรียน นั่นคือ การตลาด ไม่รู้ว่าตอนลงทะเบียนเขาพิมพ์รหัสวิชานี้ลงไปได้ยังไง กินอะไรถึงเบลอได้ขนาดนั้น

ร่างโปร่งลืมตาตื่นนานแล้ว นอนคิดเรื่องชีทว่าอยู่มุมไหนของห้อง แล้วก็นอนคิดถึงเสี่ยที่ไม่เห็นเลยตั้งแต่ตื่นมา กลับไปแล้วเหรอ? หรือไปทำธุระที่ไหนอีก? มาเยี่ยมเน่เพราะตัวเองมีธุระในกรุงเทพฯอยู่แล้วหรือเปล่า

เฮ้อ!

ทำไมต้องคิดเรื่องของเขาตลอดเวลาด้วยวะ

“ตื่นแล้วเหรอ”

ตายยาก!

เน่รีบหยิกแก้มตัวเองไม่ให้มันยิ้ม ปั้นหน้าบึ้ง ก่อนจะลุกพรวดขึ้นจากเตียง

“อุ๊บ”

มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ
เด็กดื้อลืมไปว่าตัวเองไม่สบายอยู่ พอลุกกะทันหันแบบนั้น ไอ้ท้องไส้แห้งๆมันก็ปั่นป่วน ดวงตาเห็นเป็นภาพดำมัว ห้องทั้งห้องหมุนคว้าง ตัวเขาคล้ายกับว่าลอยอยู่กลางอากาศ ก่อนจะตกลงมา ตุ๊บ! พร้อมเศษอาหารและน้ำย่อยอันไม่พึงประสงค์

โคแก่มองภาพเด็กยืนนิ่ง แล้วจู่ๆก็อาเจียนออกมา

เสี่ยเคยเลี้ยงลูกมาบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดเช็ดสิ่งปฏิกูลเลยสักครั้ง แกเลยตกใจลนลาน ไอ้ไทก็ไม่อยู่ ให้ใครช่วยก็ไม่ได้ รู้ตัวอีกที ร่างโปร่งก็ทรุดลงไปกองกับพื้นแล้ว

“เน่..”
เขย่าตัวเรียกสติเด็ก แต่เน่ก็ด่ากลับมา เพราะเขามึนหัวอยู่ ยิ่งเขย่าก็ยิ่งมึนน่ะสิเสี่ยบ้า

“นั่งดีๆ เดี๋ยวเอาน้ำให้”

เน่ทำตามอย่างว่าง่าย ร่างโปร่งนั่งทิ้งตัวอยู่ข้างเตียง พาดคอไปกับมุมขอบเตียงที่มีผ้านวมคลุมอยู่ จึงไม่เจ็บหลังคอมาก

“รีบลุกทำไม”

“...เพราะเสี่ยนั่นแหละ”....ทำให้ตกใจเอง

เนเน่ขมปาก ทั้งยังหยะแหยงตัวเอง เขาจึงไม่กล้าพูดกับเสี่ยเยอะ เพียงแค่รับน้ำเปล่ามาดื่มหลายอึก โดยที่ยังคงหลับตา ไม่ได้มองเลยว่าเสี่ยกำลังทำอะไรอยู่

“อะ...”
ผ้าชุบน้ำพอหมาดประทับลงบนปากเน่ แรงเบาตรงข้ามกับท่อนแขนหนาทำให้เน่อดหรี่ตามองไม่ได้

‘...ขนตาสวยจัง’

“อ่านหนังสือไหวไหม”

“......”

“ว่าไง”

“.......ไหว”

เสี่ยอมยิ้ม ขำเด็กข้างหน้าที่พูดแบบไม่เปิดปาก เสียงเลยอู้อี้เป็นเป็ด

“ไม่รังเกียจหรอก”
ยื่นจมูกหล่อๆเข้ามา เนเน่ล่ะเบื่อจริง คนอะไรหล่อยันจมูก  หมั่นไส้

“ลุกขึ้นไปนอนต่อเถอะ เดี๋ยวเช็ดอ้วกก่อน”

“เรียกแม่บ้านสิ”

“นิดเดียวเอง มีแต่น้ำย่อย”

คนแก่ชอบคิดว่าเด็กเอ๋อจนไม่รู้หรือไง ทำไมชอบปลอบใจในเรื่องที่มันเห็นๆกันอยู่ เน่เบื่อฟังแล้ว ความอายยังไม่ไปไหน ตอนนี้จึงทำตามเสี่ยบอกไปก่อน ห้องหยุดหมุนก็จริง แต่ในหัวยังคงเบลอๆ ยังคิดอะไรไม่ออก
แต่เน่ไม่ได้หลับนะ
เขานอนมองเสี่ยเช็ดคราบคาวบนพื้น เอาผ้าแห้งเช็ดก่อน แล้วตามด้วยผ้าอีกผืนชุบน้ำเช็ดอีกรอบ
ถึงการดูแลคนป่วยจะห่วย แต่งานบ้านก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร

“ยิ้มอะไร”

อุ้ย!
“เสี่ยไม่กลับไปสวีเดนบ้างเหรอ”
เปลี่ยนเรื่องซะเน่ เสี่ยจะได้ไม่สงสัย

“ไปทำอะไรล่ะ”

“เยี่ยมพ่อ เยี่ยมญาติมั้ง”

“ไม่มีเวลา ไปด้วยกันมั้ยล่ะ”

อะไรกัน
ทำไมมันเขินวะเนี่ย!?
เหมือนเสี่ยจีบเขาอยู่เลย ตอนที่เจอกันใหม่ๆยังไม่เห็นเป็นงี้
หรือว่า...ไม่สิ
เน่กำลังป่วย สมองเบลอ พร่ำเพ้อ
คิดๆดูแล้วเสี่ยก็ใช้น้ำเสียงปกตินี่นา

“ฉันก็คงรอเธอกลับมา แล้วเราค่อยไปเที่ยวด้วยกัน”

“...ง..งั้นเหรอ”

“อืม”

จากนั้นเสี่ยก็ออกไปข้างนอก เนเน่จึงใช้โอกาสนี้นอนพลิกซ้ายพลิกขวา ถ้าตีลังกาได้ก็จะตี
เขาควรโกรธเสี่ยต่อดีไหมนะ มันสั้นไง เพิ่งจะกลับคอนโดแค่ไม่กี่วันก็จะหายโกรธแล้วเหรอ ไม่คูลเลยน่ะสิ ตั้งแง่กับเขาตั้งมากตั้งมาย แล้วไหงถึงยิ้มได้แค่เห็นหน้าล่ะ
ตายแล้วๆ เสี่ยต้องได้ใจแน่เลย อาจจะทำให้เขาโกรธอีกหลายๆรอบ เพราะรู้อยู่ว่าเราหายเร็ว
เอ๊ะ!
โอ๊ย!
เออ
แล้วจะเอ๊ะทำไมวะ
งง!!

“กินข้าวเร็ว”
เสี่ยอย่าเพิ่งมาได้ไหมเนี่ย คนกำลังใช้ความคิด

“กินข้าว กินยา จะได้เลิกทำหน้าแบบนั้น”

“หน้าแบบไหน”

“เดี๋ยวก็ยิ้ม เดี๋ยวก็บึ้ง”

“เน่หายแล้ว”

“หายแล้ว แล้วอ้วก..โอเค หายแล้ว”

“...”
เน่เงียบประชด

“ถ้างั้นกินข้าว แล้วอ่านหนังสือสอบเลย เตรียมชีทไว้ให้หมดแล้ว”
ว่าแล้วก็จ้ำอ้าวไปหยิบชีทกว่าสิบชุดมากองข้างเน่

“เสี่ยรู้ได้ไงว่าสอบอะไร”

“ถามเพื่อนเธอไง หาชีทมาให้หมดแล้วด้วย น่าจะถูกนะ ลองดูซิ”
เพราะไม่สบาย อารมณ์ข้างในจึงหวั่นไหวมากกว่าปกติ น้ำตาของเน่รื้นออกมาเล็กน้อย เขารีบหลบตาไม่ให้เสี่ยเห็น

เสี่ยดีกับเน่จังเลย

“ไม่ทำงานเหรอ”

คนฟังนิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนตอบ
“ไม่รู้สิ รู้สึกว่าเธอสำคัญกว่า”

“สบายดีป่ะเนี่ย”
เน่ชักไม่แน่ใจว่านี่ใช่เสี่ยจริงๆหรือเปล่า

“ตัวเองนั่นแหละ ไม่สบายแล้วยังอวดเก่ง กินข้าวกินยาซะ”
พูดจบแล้วแกก็หายต๋อมไปอีก จนเน่ได้ยินเสียงน้ำกระทบพื้นจึงเข้าใจว่าเสี่ยอาบน้ำ

จำต้องวางมาดทั้งหมดลงบนพื้น จัดการตัวเองให้หายไวๆ ถึงจะขี้เกียจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากติดเอฟนี่


.

.

.


“อุปสงค์ คือ ลูกค้าอยากซื้อ ส่วนอุปทาน คือ ร้านอยากขาย —เข้าใจหรือยัง”

“ครับ”
เน่ใช้ปากกาไฮไลท์ขีดคำสำคัญที่เสี่ยบอก โดยไม่จำเป็นต้องเขียนสรุปใหม่เลย เสี่ยสรุปได้โดยที่อ่านกวาดเพียงครั้งเดียว แล้วสามารถบอกให้เขาจำคำสั้นๆได้ เพิ่งจะรู้ว่าเก่งขนาดนี้ เพราะที่ผ่านมาเน่ไม่เคยขอให้เสี่ยสอนการบ้านให้หรอก เนื้อหามันง่ายด้วย แล้วติดเล่นด้วย


“ขยับมานี่สิ จะได้เห็นชัดๆ”
ว่าแล้วก็รั้งไหล่คนตัวเล็กให้เข้ามานอนซบข้างๆ เสี่ยใช้แขนตัวเองต่างหมอน ทนรับน้ำหนักของหัวทุยๆได้ ...เขาเต็มใจ

“ต่อสิ ถึงไหนแล้ว”
น้ำเสียงอบอุ่นเหลือเกิน จนเน่ทนไม่ไหวแล้ว
เน่ไม่อยากอยู่กับความสงสัยไปทั้งวัน ถ้าไม่อยู่ในช่วงสอบก็ไม่เท่าไหร่ แต่ตอนนี้น่ะ ... รู้ไหมมันอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง!
พอจะจำบทนี้ที ก็หวนกลับไปคิดถึงเสี่ยที
เสี่ยคิดอะไรอยู่ เสี่ยจะทำอะไรต่อจากนี้
เขาอยากรู้ ...ไม่อยากเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้อีกต่อไปแล้ว

“เสี่ย”
น้ำเสียงจริงจังขึ้นมาเสียเฉยๆ โคแก่เกิดแปลกใจขึ้นมา

“อะไร”

“สงสารเน่เหรอ”

“อะไรเหรอ”

“ที่มาหา มาดูแล”

“เราค่อยเคลียร์เรื่องนี้ทีหลัง เธอต้องสอบนะ อ่านหนังสือสอบก่อนดีกว่า”

“ไม่”

“อ้าว แล้วยังไง”

“อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง—เสี่ยครับ เสี่ยจริงจังกับเน่แค่ไหน เสี่ยรู้ไหมทำอย่างนี้ เน่มีความหวังนะ”

“เฮ้อ...”

ได้โปรดอย่าทำหน้าแบบนี้ อย่าทำเสียงอย่างนั้น

ชั่วครู่ที่เน่เกิดซึมขึ้นมา แต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นตกใจเมื่อแขนแกร่งของเสี่ยรัดเขาแน่นขึ้น เอาตรงๆ เน่คิดว่าจะโดนฆ่าเพราะทำเสือร้ายโมโห ซึ่งโคตรติ๊งต๊องเลย เมื่อมองอีกที แขนทั้งสองข้างของเสี่ยกำลังกอดเขาจากด้านหลัง และมันอบอุ่นมากเกินกว่าจะฆ่าจะแกงกัน

“ฉันหวงเธอ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะกอดเธอไว้อย่างนี้แหละ”

“เสี่ยไล่เน่”

“ยังไง”

“เสี่ยบอกว่าอยากให้เน่ใช้ชีวิตวัยรุ่นเยอะๆ โดยที่ไม่ต้องมีเสี่ย”

“อืม”

“แต่เน่อยากมีเสี่ยนะครับ เน่รักเสี่ย”

“ฉันก็รักเธอ”
ไม่คิดฝันเลยว่าจะได้ยินคำว่ารักออกมาจากพ่อพิกุลทองได้ง่ายดายขนาดนี้
มันสะท้านอยู่ข้างในนั้น ...ในหัวใจก้อนนิ่มๆของเน่

“เสี่ย...เน่ขอโทษนะที่โกหก ทำตัวไม่ดี—สำนึกแล้วครับ เข้าใจแล้วว่าเสี่ยรู้สึกยังไง”
เด็กน้อยเงยหน้ามองตาคม ใจชื้นขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากเจ้าชีวิต

“หึ...เวลาคุยกับฉันนี่ชอบเกร็งอยู่เรื่อย”

“ก..ก็เน่ ...ไม่รู้!! แต่เน่ไม่ได้กลัวเสี่ยละกัน อย่าคิดอย่างนั้นนะ คนอย่างเน่ไม่กลัวใคร มีแต่ความเกรงใจเฉยๆ—โอ๊ย มึนหัวจัง เสี่ยให้เน่พูดเยอะอ่า”
ไม่เอาแล้ว ไม่พูดแล้ว
เข็ดแล้วกับการพูดเยอะๆจนต่างฝ่ายต่างไม่รู้เรื่อง

“แน่ใจเหรอว่าอยากอยู่กับฉัน”

“อื้ม”

“ทนได้แน่นะ”

“แน่สิ ทนมาได้ตั้งนาน”

“ขอโทษ...ที่ทำตัวไม่สมผู้ใหญ่”

“เสี่ยครับ เสี่ยรักเน่และอยู่กับเน่ก็พอ นอกนั้นจะดุจะด่าอะไรก็เชิญ นับแต่นี้เน่จะทำตามที่เสี่ยบอกทุกอย่างเลย”

“จะบ้าเหรอ ฉันจะทำงั้นได้ยังไง”

“เนี่ย ก็เสี่ยไม่ทำ เราเลยคุยกันไม่รู้เรื่องสักที”

“รู้แล้วๆ แต่มันห่วงนี่ ห่วงว่าเธอจะเกลียดฉันมั้ย”

“ไล่ตะเพิดเน่สิ เกลียดยิ่งกว่าอีก—เสี่ย เสี่ยของเน่ครับ..”
เด็กหนุ่มลูบริมฝีปากบาง มันถูกปกคลุมไปด้วยไรหนวดโดยรอบ ดูน่าหลงใหล และน่าฟัดเป็นที่สุด
“เราดีกันนะ เน่จะเป็นเด็กดี”

“สัญญากับฉันก่อนว่าจะไม่โกหก”

“เน่สัญญา เสี่ยก็สัญญามาด้วยว่าจะไม่ทิ้งเน่ ห้ามทิ้งเด็ดขาด รักเน่ให้เยอะๆด้วย”

“นอกจากเราจะซัพพอร์ตกันและกันแล้ว เราก็คงต้องบอกรักกันทุกวันด้วยสิเนี่ย ลืมไปว่าเธอเป็นวัยรุ่น ความรักมันก็จะหวือหวาหน่อย”

“แล้วเสี่ยไม่หวือหวาเหรอ เอาเน่แรงจะตาย”

“ไม่อายรึไง พูดตรงแบบนี้”

“ไม่อายหรอก เพราะพูดกับผัว จะอายทำไม ใช่ไหมจ๊ะผัวเหนก ผัวที่หล่อที่สุดในโลก ผั—“

“พอเลย”
คุณเสี่ยผู้ดีทนฟังไม่ได้ รีบปิดปากเด็กดื้อเสียสนิท ดูซิสายตากวนๆนี่ หายไข้แล้วสิ สงสัยไอ้ที่นอนซมเนี่ย จะเป็นไข้ใจเสียล่ะมั้ง







จูงมือกันขึ้นอาคารสอบให้พวกคนโสดอิจฉาเล่น

เน่ไม่ใช่คนขี้อวดหรอกนะ เน่แค่อยากบอกให้โลกรู้ว่าคืนดีกับผัวแล้ว ไม่ได้อวดว่าผัวหล่อเลยจริงจริ๊งงง

“อ้าว?”
เต้ทำหน้างงเมื่อเห็นเพื่อนรักยิ้มแป้นควงแขนแฟนมาแต่ไกล

“ไม่สอบเหรอเต้”
เน่ทัก

“ก็รอมาเจอก่อนเนี่ย กลัวมาสอบไม่ไหว—สวัสดีครับคุณเสี่ย”
ยกมือไหว้ปลกๆ รังสีอาฆาตมันรุนแรงเหลือเกิน
เต้ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะเสี่ย อุตส่าห์พาเน่ไปง้อด้วยซ้ำ

“สวัสดี”

“งั้นเราไปก่อนนะเต้ ตั้งใจสอบล่ะ”

“เออ เหมือนกัน”
และสุดท้าย เพื่อนอย่างเต้ก็ต้องกลายเป็นหมาหัวเน่าไปโดยปริยาย...



เสี่ยมาส่งเน่หน้าห้องสอบที่คนจอแจจนแกรำคาญ ต่างมองมาแล้วซุบซิบกันอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ เขาว่าเขาก็แก่กว่าพวกนี้อยู่นะ บารมีก็พอสมควร ไหงไม่กลัวกันบ้าง
อย่างว่าล่ะนะ เรื่องของชาวบ้านมันสนุก น้อยคนนักจะอดปากไม่พูดได้

“รอไหนให้บอกด้วยนะ อย่าทิ้งเน่ไปก่อนนะ”

เสี่ยพยักหน้า ทั้งๆที่อยากทำมากกว่านั้น
เนเน่เด็กเขาฝังใจเรื่องนี้มากน่าดู
แต่เสี่ยสัญญากับตัวเองและเน่ไปแล้ว ว่าเขาจะไม่ทิ้งขว้างง่ายๆอีก แล้วที่มาหาก็เพราะตั้งใจจะมาคืนดีจริงๆ กะว่าสะสางงานให้เสร็จก่อนค่อยมา เขาเป็นผู้ใหญ่ เป็นเจ้านาย ทิ้งลูกน้องกะทันหันไม่ได้ แต่พอไทโทรมาบอกว่าเน่ป่วยหนัก เสี่ยก็ไม่รีรอเลยที่จะทิ้ง
นั่นทำให้รู้ว่าเน่สำคัญกับเขามากแค่ไหน ไม่มีเลยที่จะไม่คิดถึง แม้พูดไปอย่างนั้น...แต่เสี่ยก็รู้สึกผิดทุกครั้ง
ว่าไงดี
เหมือนกับลองใจเน่ด้วย ลองใจตัวเองด้วย
เขาไม่ใช่คนดีมากมาย การกระทำถึงได้ดูใจร้ายแบบนั้น

[รออยู่ในคอฟฟี่ช็อปนะครับ ❤️]
เผลอส่งไปแล้ว ไอ้หัวใจบ้านี่ไม่ใช่ตัวเสี่ยเอาซะเลย

ความรักหนอความรัก
ตอนที่ไม่มีก็ขวนขวายอยากได้
ทว่าเมื่อมีแล้ว กลับทำเป็นไม่สนใจ

...พี่พยายามแก้ไขตัวเองอยู่นะเน่
รอพี่อีกหน่อยนะที่รัก...






—ขอโทษค่าาา มาไม่ตรงเวลา  :ling2:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
เย้~~ เสี่ยกับเน่คืนดีกันแล้ว *จุดพลุ*  :impress2:
รู้สึกว่าตอนนี้เสี่ยหล่อมาก ฮรือออ
ตอนเน่เรียกผัวเหนก กิ๊วก๊าวใจมาก

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เสี่ยใจบางแน่ๆตอนน้องเรียกว่าผัววว  :hao6:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
พอดีกันได้ก็หวานซะไม่สนใครเลย 5555   ชอบเน่ที่เป็นแบบนี้

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
พอดีกันได้ก็หวานซะไม่สนใครเลย 5555   ชอบเน่ที่เป็นแบบนี้

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
เขินเสี่ยและตลกเสี่ยไปพร้อมๆกัน เข้าใจน้องเน่เลยว่าทั้งรักทั้งหมั่นไส้เสี่ยมาก ฮ่าๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด