คุณแม่รับจ้าง ภาค 2 [ฟ้า-บีท] >>เจ้าเล่ห์แสนรัก<< 20 THE END. [31/03/18]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณแม่รับจ้าง ภาค 2 [ฟ้า-บีท] >>เจ้าเล่ห์แสนรัก<< 20 THE END. [31/03/18]  (อ่าน 25812 ครั้ง)

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS


-18-

                ผ่านไปสองสัปดาห์แล้วที่แผ่นฟ้ายึดห้องของบีทเป็นบ้านหลังที่สอง อันที่จริงเขาก็ไม่ได้อยู่ทุกวันหรอกเพราะบีทยังคงบินไปต่างประเทศครั้งละหลายๆ วันเหมือนเดิม แต่วันไหนที่บีทกลับมา เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เห็นเขา...

                การที่แผ่นฟ้าอยู่กับบีทนั้นไม่สะดวกหลายอย่าง ทั้งเรื่องอาหารการกินที่ต้องกินอาหารแช่แข็งซะส่วนใหญ่ หรือไม่ก็ต้องพากันออกไปหาอะไรกินตอนดึกๆ อีกทั้งเสื้อผ้าที่ไม่ได้ส่งซัก กลับกลายเป็นต้องหอบกลับไปซักที่บ้าน

                แผ่นฟ้าไม่ได้บ่นอะไรแต่บีทกลับรู้สึกขัดหูขัดตาเสียเอง ลงท้ายก็เลยเอ่ยออกมาเรียบๆ “พรุ่งนี้เราย้ายกลับไปบ้านคุณแล้วกัน”

                แผ่นฟ้าชะงักไปอึดใจจากนั้นก็ยิ้มกว้างช่วยเขาจัดของอย่างกระตือรือร้น

วันรุ่งขึ้นพวกเขาก็กลับมาที่บ้านแผ่นฟ้าอีกครั้งจนได้ บีทถอนใจปลงๆ เขาเดินเข้าบ้านไปทักทายคนรับใช้รวมทั้งโฟร์วิลด์ตามความเคยชิน

ดูเหมือนทั้งคนทั้งหมาจะยินดีไม่น้อยเลยที่ได้พบเขา ทว่าคนที่ยินดีมากที่สุดเห็นจะเป็นเจ้าของบ้าน เพราะเปรยกับสองสาวเบาๆ ว่า

                “ในที่สุดก็จะได้กินอย่างอื่นที่ไม่ใช่ก๊วยเตี๋ยวเรือแล้ว!”

                บีทนิ่วหน้าพลางเถียงในใจ... เหอะ ใครบังคับให้กินไม่ทราบ!!

.

                ย้ายบ้านได้สองวันบีทก็บินไปญี่ปุ่น พอกลับมาอีกครั้งแผ่นฟ้าก็บอกว่ามีคนติดต่อเรื่องซื้อคอนโดแล้ว เขาชะงักไปนิดหนึ่ง ต่อให้เคยคิดจะขายจริงๆ แต่ก็อดใจหายไม่ได้ อย่างน้อยก็อยู่มาตั้งหลายปี...

                “หรือคุณเปลี่ยนใจไม่อยากขายแล้ว?” แผ่นฟ้าถามขึ้นมาคล้ายว่าในแววตามีบางอย่างซ่อนอยู่...

                บีทกะพริบตาทีหนึ่งสลัดความลังเลทิ้ง

                ไหนๆ ก็คิดจะตัดแล้วก็ให้มันขาดไปให้หมดก็ดี...

                “เปล่า... กำลังคิดน่ะว่าจะขายเท่าไรดี” เขาแสร้งทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง ซึ่งแผ่นฟ้าเหมือนจะรู้ทันทว่าไม่ได้เอ่ยขัด คุยต่อไปตามปกติ

                “ตั้งราคาที่พอใจได้เลย ผมบอกเพื่อนแล้วให้หาลูกค้าดีๆ ไม่ทำให้คุณขาดทุนแน่”

                “งั้นก็ดี”

                “อ้อ... พวกเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆ ก็ทิ้งไว้ที่นั่นแหละนะ ไม่ต้องขนมาหรอก ยังไงบ้านนี้ก็มีครบหมดแล้วหรือถ้าอยากได้อะไรค่อยซื้อใหม่เอาก็ได้” คำพูดของแผ่นฟ้าแฝงความนัยบางอย่าง

บีทฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ เลิกคิ้วใส่อีกฝ่าย “พูดเหมือนผมจะขนของมาอยู่กับคุณ”

                “หึๆ แล้วตอนนี้ไม่ได้อยู่กับผมหรือไง?” แผ่นฟ้าถามหน้าทะเล้น

                บีทถลึงตาใส่เขา อ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่แล้วก็เงียบไป

                ช่างเถอะ คำว่า “อยู่แค่ชั่วคราว” นั่น อย่าพูดให้เสียบรรยากาศจะดีกว่า...

คงต้องอยู่ที่นี่ไปอีกสักพัก... อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะหาที่พักใหม่ได้ละนะ

                หลังจากมีวี่แววว่าจะขายคอนโดได้ บีทก็เลยใช้เวลาที่ว่างออกตระเวนหาพี่พักใหม่ เขาลังเลว่าจะเป็นคอนโดหรือบ้านดี ถ้าอยู่คนเดียวซื้อคอนโดน่าจะดีกว่า... แต่ถ้ามีบ้านก็จะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้

                ไม่สิ เขาอยู่คนเดียว แถมยังไม่ค่อยอยู่บ้าน จะเลี้ยงสัตว์ได้ยังไง...

                อย่าว่าแต่จะหาที่อยู่ใหม่ แค่ตัดสินใจเลือกระหว่างหาแม่บ้านสักคนมาอยู่ด้วยกับล้มเลิกความคิดเลี้ยงสัตว์ก็ยังทำไม่ได้เลย เรื่องนั้นเลยพักไว้ก่อน...

                ตั้งแต่มาอยู่บ้านแผ่นฟ้า ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ช่วงวันหยุดผ่านไปอย่างรวดเร็ว การทำงานผ่านไปอย่างเชื่องช้า ใช่สิ ต่อให้ได้ไปเที่ยวต่างประเทศก็เถอะ แต่ลองไปที่เดิมๆ บ่อยครั้ง พูดเรื่องเดิมๆ ซ้ำซากก็ต้องเบื่ออยู่แล้ว

ผิดกับเวลาที่อยู่บ้าน... เขาตื่นสายได้โดยไม่มีใครปลุก พอตื่นแล้วมีอาหารคอยเสิร์ฟ จากนั้นก็เล่นกับโฟร์วิลด์ทั้งวัน นั่งดูหนังฟังเพลงเงียบๆ คนเดียว ตกเย็นมีใครบางคนกลับมาร่วมกินอาหารค่ำ แล้วนอนกอดเขาทั้งคืน วนเวียนอยู่อย่างนี้จนเขาเริ่มเคยชิน

ชีวิตช่างสุขสบายเสียจนแม้แต่ที่พักใหม่ก็ยังขี้เกียจหา... แล้วคิดเข้าข้างตัวเองไปว่า ผลประกอบการก็ยังไม่ออกนี่ เขาคงยังไม่ถูกไล่ไปตอนนี้กระมัง...

                เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ถึงปีใหม่แล้ว นอกจากฉลองครบรอบจัดตั้งบริษัทแล้ว... งานฉลองปีใหม่ อิทธิฤทธิ์กรุ๊ปก็ไม่เว้นเช่นกัน

                งานฉลองจัดสองวันคือวันที่ 30 ธันวาคม เป็นงานของพนักงานระดับล่างๆ ส่วนวันที่ 31 ธันวาคมจัดเลี้ยงสำหรับระดับผู้จัดการขึ้นมาจนถึงระดับผู้บริหาร สำหรับบีทแล้ว ถ้าจะไปก็ควรไปงานวันที่ 30 ถึงจะถูก ทว่าสิทธิพิเศษของคนรัก “ท่านประธาน” นั้นก็ได้รับเชิญมางานฉลองในวันสิ้นปีแทน

                ปีที่แล้วยังได้ไปกับคนพี่อยู่เลย แต่ปีนี้... เขาอยากอยู่บ้านมากกว่า

                “ไปด้วยกันเถอะ ผมจะปล่อยให้คุณส่งท้ายปีเก่าคนเดียวได้ไง” แผ่นฟ้าคะยั้นคะยอเขาทั้งวันจนเขารำคาญแล้ว

                “ก็แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”

                “ก็ผมอยากอยู่กับคุณไง...” เสียงออดอ้อนพร้อมเบะหน้าร้องขอความเห็นใจทำเอาบีทปั้นหน้าไม่ถูก

                “ผมบอกกี่รอบแล้วว่าไม่ไป จะมาเซ้าซี้เอาอะไร คุณนี่น่ารำคาญชะมัด” บีทแหวอย่างหงุดหงิด ก็บอกว่าไม่ไปไม่รู้กี่รอบแล้วทำไมไม่ฟัง!

                “ผมรู้ว่าคุณเบื่องานเข้าสังคมแบบนี้ ผมเองก็เบื่อ ถ้าผมโดดได้ละก็ ผมอยากจะโดดแล้วพาคุณไปเคาน์ดาวน์ที่อื่นอยู่เหมือนกัน แต่มันทำไม่ได้ไง เพราะงั้นคุณก็ขืนๆ ไปกับผมหน่อยไม่ได้หรือไง?”

                บีทเข้าใจดี งานฉลองปีใหม่นี้สำหรับพนักงานแล้วไม่ได้บังคับ อยากมาก็มา ไม่อยากก็ไม่ต้อง พนักงานบางส่วนที่อยู่ต่างจังหวัดก็ไปฉลองหยุดยาวที่บ้านเกิดกันแล้ว แต่เพราะตำแหน่งประธานที่ว่าทำให้แผ่นฟ้าไม่สามารถโดดงานฉลองนี้ได้

                “คุณโดดไม่ได้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ?”

                “ก็ผมอยากจะส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กับคุณนี่นา น่านะ ไปด้วยกันเถอะ พลีส พลีสสสสส” ไม่ว่าเปล่า แผ่นฟ้าพนมมือขึ้นเอ่ยคำขอร้องออกมาไม่หยุด

                บีทรำคาญแทบแย่แล้วเลยเอามืออุดหู หลับตาอย่างอดกลั้น ในระหว่างนั้น แผ่นฟ้าก็หงุดหงิดใจไม่แพ้กันเลย

                ดื้ออะไรขนาดนั้น! แผ่นฟ้าคิดในใจ ในระหว่างที่บีทปิดหูปิดตาไม่ฟังเขา แผ่นฟ้าก็เคลื่อนตัวเข้าใกล้ ยื่นหน้าเข้าไปจูบปากฝ่ายนั้นเบาๆ อย่างมันเขี้ยว คนที่หลับตาปี๋ลืมตาโพลงขึ้นมาทันทีจับจ้องอีกฝ่ายเขม็ง

                “บ้าอะไรเนี่ย!” บีทโวยขึ้นมา แต่อีกฝ่ายไม่ตอบ สองแขนคร่อมตัวเขาไว้ ใบหน้ายังคงอยู่ชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ

                “ตามใจผมสักวันเถอะ แล้วต่อไปผมจะตามใจคุณบ้าง”

                “ปกติคุณก็ตามใจผมอยู่แล้วนี่...” บีทเผลอเถียงออกไปอย่างลืมตัว

                “อ้อ.. รู้ด้วยเหรอว่าผมตามใจคุณ” แผ่นฟ้าสวนกลับพลางอมยิ้มล้อเลียน 

บีทหน้าแดงขึ้นมาทันทีนึกในใจว่าตัวเองพลาดท่าเสียแล้ว เขาขัดเขินจนไม่อยากถูกกักตัวอยู่กับที่แบบนี้เลยได้แต่ทำเสียงดังใส่

                “ถอยไปสิ ผมจะไปเลือกเสื้อผ้า”

.

ช่วงหัวค่ำของวันสิ้นปี บีทเดินตามแผ่นฟ้าเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงอย่างเบื่อๆ เขาเป็นคนหน้าตายแบบนี้มานานแล้ว ไม่ชอบทักทายพูดคุยกับใครโดยไม่จำเป็น ต่อให้แผ่นฟ้าจะพาเขาเดินไปทำความรู้จักกับใคร เขาก็ทักทายไปแกนๆ

อันที่จริงคนเหล่านี้เขาพอคุ้นหน้าอยู่บ้าง เพราะอิฐเคยแนะนำให้รู้จัก แต่น้อยคนนักที่เขาจะจำชื่อได้ แต่สำหรับ “อดีตคนรัก” ของท่านประธานคนก่อนแล้ว ดูเหมือนคนส่วนใหญ่จะจดจำเขาได้ดี มาตอนนี้เมื่อเขาเปลี่ยน “คู่ควง” มาเป็นอีกคนแต่ยังรั้งตำแหน่งเดิม สายตาของคนที่มองมา ถ้าไม่อิจฉา หรือชื่นชมก็กลายเป็นหมิ่นแคลน

เพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้เขาถึงไม่อยากมา...

เขาเบนสายตาไปมองคนข้างๆ แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ แผ่นฟ้าก็น่าจะรู้อยู่แล้ว แต่ก็ยังพาเขามา ไม่รู้ว่าทำแบบนี้เพราะอยากจะกลั่นแกล้งเขาหรือเปล่า

แผ่นฟ้าหยิบแก้วคอกเทลไว้ในมือแล้วหันไปยื่นให้บีท จึงปะทะสายตาเคลือบแคลงใจเข้าพอดี แม้บีทจะหลุบตาลงไปมองมือเขาแล้วหยิบแก้วค็อกเทลมาถือไว้ทันทีก็ตาม แผ่นฟ้าก็ยังยื่นมือไปเกี่ยวนิ้วอีกฝ่ายมากุมไว้แล้วบีบเบาๆ โดยไม่พูดอะไร

บีทแข็งค้างไปอึดใจหนึ่งเหลือบตามองมือตัวเองที่ถูกบีบเบาๆ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ได้แต่เดินตามอีกฝ่ายไปเงียบๆ

งานเลี้ยงปีใหม่ผ่านไปอย่างเชื่องช้า นอกจากฝ่ายบริหาร ผู้จัดการและแขกที่เชิญมาเขายังได้เจอคุณเขตแดนอีกด้วย เขาเข้ามาคุยกับลูกชายสองสามคำ ปรายตามองบีทแล้วฝืนยิ้มให้ตามมารยาทแล้วก็จากไปง่ายๆ

ไม่ใช่ว่าบิดาของแผ่นฟ้าไม่เคืองใจที่ลูกชายกล้าพาบีทมาเดินลอยชายอวดโฉมอย่างนี้ ทว่าน้ำท่วมปากพูดอะไรไม่ได้ เพราะถ้าขืนเอะอะโวยวายทำอะไรไม่เข้าท่าขึ้นมา เกรงว่าลูกชายผู้กตัญญูจะไปจัดการบ้านเล็กบ้านน้อยของเขาไม่เหลือซาก  เลยต้องทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เสียบ้าง

อิฐไม่ได้มา แม่ของเขาก็เช่นกัน ยังเหลือก็แต่เพทายซึ่งเป็นน้าสาวของอิฐ ซึ่งยังคงรั้งตำแหน่งผู้บริหารอย่างแน่นเหนียวแม้ว่าพี่สาวและหลานชายจะปลีกตัวหายไปกันหมดแล้ว

เพทายไม่เหมือนพินทิพย์แม่ของอิฐ ด้วยไม่อยากให้หลานชายไม่สบายใจเวลาเจอหน้าบีทเมื่อก่อนจึงยังไว้หน้าบ้าง เพราะไม่ว่าอิฐจะคบอยู่กับบีทหรือแม็กม่าก็ไม่เห็นถึงความแตกต่าง แต่พอเห็นบีทเลิกกับหลานชายแท้ๆ แล้วมาควงกับแผ่นฟ้า สายตาที่เคยอ่อนโยนบ้างก็พลันเย็นชาลงอย่างเห็นได้ชัด

 แต่คนอย่างบีทน่ะหรือจะสนใจ เขามองเมินไปได้ทุกสรรพสิ่งอยู่แล้ว

“อันที่จริง มันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของน้าหรอกนะ แต่ว่าเราเองก็ไม่ใช่คนสิ้นไร้ไม้ตอก จะเลือกคบคนดีๆ ก็ไม่ยาก แต่มาหยิบไม้ใกล้มือ... ยักษ์ลักไปลิงลักมาแบบนี้ คนอื่นเขาจะมองไม่ดี”

เพทายเป็นคนจริงใจ พูดจาเปิดเผย บทจะตักเตือนแผ่นฟ้าก็พูดออกมาตรงๆ ต่อหน้าเจ้าตัวเสียเลยไม่ปิดบัง ทำให้สายตาของบีทฉายแววตกตะลึงออกมาเล็กน้อย

แผ่นฟ้ายังคงบีบมือบีทเบาๆ เป็นเชิงตักเตือนไม่ให้พูดอะไรออกมา ส่วนชายหนุ่มกลับจุดยิ้มบนใบหน้าอย่างไม่รู้ร้อน “ระหว่างผมกับพี่อิฐนี่ใครเป็นยักษ์ใครเป็นลิงเหรอครับ?”

เพทายคิ้วขมวด ที่พูดไปก็แค่เปรียบเปรยไปเท่านั้น ตั้งใจจะเปรียบเทียบระหว่างพวกเขาสองคนที่ไหนล่ะ

“พ่อฟ้า...ที่น้าเตือนเนี่ย...” เพทายยังไม่ทันพูดจบคนฟังก็รีบขัดคอทันที

“ผมรู้ว่าคุณน้าหวังดี แต่ผมไม่รักดีเองนั่นแหละ เลยไม่เห็นด้วยเท่าไร สมัยก่อนผู้หญิงรักนวลสงวนตัว ผัวเดียวเมียเป็นพรวน ต่อให้โดนซ้อมจนน่วมก็ยังไม่เลิกกัน ทนจนแก่ตายไป แต่สมัยนี้คนเราความอดทนต่ำกว่ามาก ทะเลาะกันสองสามคำก็เลิกกันแล้ว นับประสาอะไรกับการถูกนอกใจ...”

พูดมาถึงตรงนี้คนฟังเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ที่แท้แล้วสาเหตุที่บีทกับหลานของหล่อนเลิกกัน ต้นแหตุนั้นก็เป็นที่หลานชายต่างหากที่ผิดก่อน สีหน้าเลยไม่ค่อยดีเท่าไร จะเถียงอะไรก็ไม่เต็มปากเต็มคำ

“บีทเลิกกับพี่อิฐไปแล้ว เขาจะไปคบกับใครต่อก็ไม่ผิด พวกเราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ไม่ได้ลักกินขโมยกิน แอบคบกันลับหลังใครด้วย” แผ่นฟ้าตอบกลับยิ้มๆ ชัดถ้อยชัดคำเหมือนไม่คิดอะไร แต่คนฟังกลับหน้าร้อนผ่าว เพราะยิ่งพูดก็เหมือนแผ่นฟ้ายิ่งโยนความผิดกลับไปที่ตัวญาติผู้พี่ทั้งหมด บีทกลับเป็นผู้เสียหาย สมควรได้รับการชดเชยด้วยซ้ำไป

“เอาเถอะ ถือว่าอาไม่ได้พูดก็แล้วกัน” เพทายฟังหลานชายห่างๆ ยอกย้อนแล้วก็ขี้เกียจจะเถียง เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่งเอากระดูกมาแขวนคอแท้ๆ จึงได้แต่ถอนตัวออกไปท่าเดียว

“ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้...” รอจนเพทายเดินออกไปไกลแล้วบีทจึงค่อยเอ่ยลอยๆ ขึ้นมา

“ไม่ทำไม่ได้ต่างหาก”

“ไม่กลัวจะโดนหาว่าก้าวร้าวหรือไง”

“ช่างสิ ก็แค่ญาติห่างๆ เท่านั้น อย่าว่าแต่น้าเพทาย ต่อให้ป้าทิพย์มาเองผมก็ไม่ทนเหมือนกัน” แผ่นฟ้าคุยโว

“เก่งเหลือเกิน...” บีทพึมพำเบาๆ แต่คนข้างๆ ก็ยังได้ยิน

“ผมแค่อยากปกป้องคุณบ้างเท่านั้น” แผ่นฟ้าเอ่ยเอาใจพลางทอดสายตาอบอุ่นมองมา 

บีทลอบยิ้มเงียบๆ ส่วนลึกในใจก็รู้สึกพอใจกับท่าทีของเขา บางครั้งคนเข้มแข็งถูกปกป้องก็รู้สึกไม่เลวเลย

ต่อให้เขาจะถูกมองยังไง เขาก็ไม่ใส่อยู่แล้ว หรือถ้าหากจะต่อปากต่อคำ ก็ทำได้ไม่ยาก  ทว่าการที่ตัวเองเอาแต่เงียบฟังเสียงคนอื่นออกปากปกป้องตัวเองกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป

ในหัวใจรู้สึกอบอุ่นขึ้นอย่างประหลาด 



..

หลังจากจบจากสงครามน้ำลายอันดุเดือด งานเลี้ยงดำเนินไปจนเกือบเที่ยงคืนแล้ว แผ่นฟ้าจึงปลีกตัวออกมากับบีทสองคน หามุมสงบโล่งๆ ที่สามารถมองเห็นดอกไม้ไฟได้ชัดเจน

ชายหนุ่มเหลือบมองนาฬิกาหลายครั้งเตรียมตัวรับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่

“5 4 3 2” ดอกไม้ไฟสาดกระจายเต็มฟ้า “แฮปปี้นิวเยียร์...”

“Akemashite  Omedetou…  kotoshimo yoroshiku onegaishimasu” คำตอบยาวๆ ที่ได้ทำให้แผ่นฟ้าเบิกตากว้างอย่างงุนงง

บีทเห็นหน้างงเป็นไก่ตาแตกของเขาแล้วเผลอหัวเราะออกมาจากนั้นจึงแปลเป็นไทยว่า “สวัสดีปีใหม่ ปีนี้ก็...ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ”

ไม่ว่าเปล่าบีทยังโค้งให้เขาอย่างสุภาพอีกด้วยทำเอาแผ่นฟ้าถึงกับมองตาค้าง เขาเคยได้ยินมานานแล้วว่าคนญี่ปุ่นนั้นสุภาพและถ่อมตัว บางครั้งยังคิดเลยว่าบีทที่เย่อหยิ่งนั้นไม่เห็นจะเข้ากับวัฒนธรรมของญี่ปุ่นสักนิดไม่รู้ว่าเป็นไกด์มาตั้งนานได้อย่างไร ที่จริงก็แปลกใจตั้งแต่รู้ว่าอีกฝ่ายทำงานบริการได้แล้วด้วยซ้ำ! แต่วันนี้ก็พอจะเข้าใจได้ว่า ถ้าอีกฝ่ายคิดจะสุภาพก็ทำได้.. เพียงแค่อยากทำหรือไม่ก็เท่านั้นแหละ

“ได้ๆ ฝากตัวด้วยๆ  เอ่อ... ปีหน้าไปเคาน์ดาวน์ที่อื่นด้วยกันนะ” แผ่นฟ้าฉีกยิ้มแล้วเอ่ยชักชวนอย่างกระตือรือร้น

บีทเหลือบตามองเขานิ่งๆ พลางคิดขึ้นมาว่า สถานะลุ่มๆ ดอนๆ อย่างพวกเขาสองคน จะคบหากันได้นานจนถึงปีหน้าเลยหรือ... เขาข้องใจอยากถาม ทว่าเห็นรอยยิ้มกว้างขวางของอีกฝ่ายแล้วก็เปลี่ยนใจ...

เห็นแก่บรรยากาศดีๆ ในตอนนี้แล้วไม่พูดอะไรไม่ดีจะดีกว่า...

เขาได้แต่ครางรับในลำคอเบาๆ  “อืม... ปีหน้าก็อยู่ด้วยกันอีกนะ”
++++++++++



อยากจะบอกว่า 20ตอนจบนะคะ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อยากให้บีทมีความสุข ^^

อยากรู้จริงๆ ว่าอิฐมันรู้สึกอะไรบ้างไหมกับการนอกใจบีท
เกลียดว่ะ!!!
ขอไม่ไปอ่านเรื่องนั้นนะคะ ทำใจไม่ได้จริงๆ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
เนี่ย ชอบเวลาบีททำตัวน่ารักแบบนี้ น่าเอ็นดูเนอะ

แล้วแผ่นฟ้าก็จะดุ๊กดิ๊กเป็นพิเศษ ฮาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2018 21:23:14 โดย BAKA »

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
-19-

ผ่านปีใหม่ไปได้ไม่นานบีทก็ทำสัญญาซื้อขายคอนโด ผู้ซื้อโอนเงินมัดจำมาให้อย่างรวดเร็ว ส่วนแผ่นฟ้าก็เจ้ากี้เจ้าการเก็บของใช้ส่วนตัวของบีทมาไว้ที่บ้านของเขาอย่างว่องไวไม่แพ้กัน ครั้นบีทบอกแผ่นฟ้าว่าคนซื้อไม่ได้เร่งให้เขาย้ายออกสักหน่อย แผ่นฟ้ากลับตอบกลับหน้าตาเฉยว่า “เขาไม่รีบแต่ผมรีบ”

บีทไม่ใช่คนพูดมากอยู่แล้วพอเจอคำตอบกำปั้นทุบดินก็ขี้เกียจต่อปากต่อคำ ปล่อยให้แผ่นฟ้าย้ายของเข้ามาตามใจชอบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นจำพวกเสื้อผ้า รองเท้า และของมีค่าต่างๆ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ ก็ปล่อยทิ้งไว้ในห้องตามเดิมอย่างที่เขาเคยเสนอเมื่อไม่นานมานี้

เมื่อบีทมีเวลาว่างจึงกลับไปสำรวจดูข้าวของที่เหลืออยู่ เขาพบว่ายังเหลือของใช้ยิบย่อยบางส่วน

บีทไล่เก็บของใช้ส่วนตัวอย่างเชื่องช้า เพราะเกรงว่าจะลืมของสำคัญทิ้งไว้ เมื่อเดินวนรอบห้องและเดินเข้าไปในห้องนอนก็พบว่ามีของเหลือให้เก็บไม่มากแล้ว แต่สิ่งที่สะดุดตากลับกลายเป็นกรอบรูปถูกคว่ำไว้ บีทจำได้ว่ามันเป็นรูปคู่

เขาเดินไปที่โต๊ะ อดไม่ได้ที่จะหยิบขึ้นมาดู

เมื่อแผ่นฟ้าพาคนรับใช้ตามมาที่ห้องแล้วเห็นบีทนั่งนิ่งอยู่บนเตียง ในมือถือของบางอย่างอยู่ก็ชะงักไปนิดหนึ่งแต่ก็ปรับสีหน้าอย่างรวดเร็ว เขาบอกให้คนขับรถคนใหม่ขนของที่จัดเสร็จแล้วลงไปที่รถ ส่วนตัวเองเข้ามายืนข้างๆ เตียง

ในมือบีทมีกรอบรูปใบหนึ่งอยู่ในมือ ต่อให้มันไม่ได้หันออก แผ่นฟ้าซึ่งมาที่นี่ก่อนหน้าย่องต้องรู้ดีว่ารูปนั้นเป็นรูปของใคร เขารู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาทว่าพยายามข่มกลั้นไว้แสร้งถามว่า “คุณเก็บของเสร็จแล้วเหรอ?”

“เสร็จแล้ว”

“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะให้โฉมกับนวลมาทำความสะอาดห้องให้นะ”

“อือ...” บีทรับคำเหม่อๆ เหมือนไม่ได้ตั้งใจฟัง

แผ่นฟ้ามุ่นคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นวางบนไหล่บีทแล้วบีบเบาๆ อย่างให้กำลังใจแล้วเอ่ยอย่างนุ่มนวลว่า “คุณควรต้องเริ่มต้นใหม่ได้แล้ว อะไรที่ไม่ดีก็อย่าเอาไปเลย ทิ้งมันไว้ที่นี่แหละ”

บีทกะพริบตาทีหนึ่ง แววตามีความรู้สึกขึ้นมาหันไปพยักหน้าให้แผ่นฟ้า อึดใจต่อมา เขาวางกรอบรูปเล็กๆ ในมือคว่ำลงบนเตียงแล้วขยับตัวลุกขึ้น

“ผมเสร็จธุระแล้ว เรากลับกันเถอะ บอกนวลกับโฉมตอนมาทำความสะอาดด้วยว่า ของที่เหลือผมไม่ต้องการแล้ว ให้ทิ้งไปได้เลย”

หลังจากเก็บของออกไปไม่นาน ห้องที่บีทเคยอาศัยอยู่สี่ปีก็เป็นของคนอื่นไปแล้ว แต่จะขายหรือไม่ขายจะต่างอะไรกันเล่า ในเมื่อต่อให้ไม่ขายเขาก็ย้ายมาอยู่บ้านแผ่นฟ้าแล้วอยู่ดี และคล้ายกับว่าได้หอบหิ้วเอาความรงจำทั้งดีและร้ายเหล่านั้นหายไปด้วย

                เรื่องราวของอิฐเหมือนละอองน้ำบางเบาที่ค่อยๆ จางหาย เพียงเพราะคนเป็นน้องชายดึงเขาออกมาจากสถานที่แห่งนั้นแล้วยัดเยียดความทรงจำใหม่ๆ มาให้

                หลังปีใหม่มานี้บีทรู้สึกว่าแผ่นฟ้าขยันขันแข็งกว่าเดิมมาก เขาอาจจะไม่ได้ไปรับบีทที่สนามบินแล้วแต่กลับจ้างคนขับรถคนใหม่ไปรับไปส่งบีทแทน

ข้อดีก็มีอยู่... นั่นทำให้ชายหนุ่มไม่ต้องฝากรถไว้ที่สนามบิน ไม่ต้องขับรถไปกลับเอง สามารถหลับระหว่างเดินทางได้ง่ายๆ ส่วนข้อเสีย... แผ่นฟ้าอยากจะให้เขาเป็นง่อยหรือไงกัน!

                เพราะแผ่นฟ้าเจ้ากี้เจ้าการอย่างนี้... ชีวิตของบีทจึงมิได้เงียบเหงาโดดเดี่ยวเหมือนเดิมแล้ว ต่อให้แผ่นฟ้าไม่อยู่บ้านหลังใหม่ยังมีทั้งคนทั้งหมาอยู่เต็มไปหมด จากที่เคยรำคาญก็เริ่มเคยชินขึ้นมาบ้างแล้ว ราวกับว่าตัวเขาได้หลอมรวมไปกับที่นี่ กิน นอน ทำงาน... ใช้ชีวิตประวันอย่างปกติสุข

                เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึงกลางเดือนกุมภา ในวันวาเลนไทน์แผ่นฟ้ามอบดอกไม้พลาสติกสีดำให้เขาดอกหนึ่ง คนให้ทำราวกับว่าเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่น่ายกย่องเสียเหลือเกิน

                บีทเห็นดอกไม้แล้วรู้สึกเฉยชามาก เพราะมันก็แค่สวยแต่กินไม่ได้ เขาไม่ค่อยชอบของขวัญไร้ประโยชน์อย่างนี้เลยไม่ปลื้มอะไร ตอบออกไปอย่างเย็นชาว่า “ขอบใจ แต่ผมไม่ค่อยชอบดอกไม้”

                แผ่นฟ้าที่หน้าบานเป็นกระด้งตอนมอบดอกไม้ให้เลยหน้าหดเหลือสองนิ้ว บีทเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้เลยยื่นมือไปรับไว้ แล้วเดินหายไปหยิบกล่องช็อกโกแลตมาส่งให้แผ่นฟ้ากล่องหนึ่ง

                คนรับมองของสิ่งนั้นเหมือนของล้ำค่าจนบีทส่ายหน้าด้วยความหมั่นไส้

                “ไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าจะได้ช็อกโกแลตจากคุณ คนญี่ปุ่นมักจะให้ช็อกโกแลตคนที่ชอบในวันวาเลนไทน์ใช่ไหม?” พอได้ยินประโยคหลังบีทถึงเข้าใจว่าทำไมแผ่นฟ้าถึงมีท่าทีตื่นเต้นดีใจมากนัก

                “อืม... แต่ของผมเป็นของขวัญตามธรรมเนียมนะ” บีทเอ่ยขัด ทำลายความหวังแผ่นฟ้าให้พังครืนอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อล้มแล้วก็ลุกขึ้นใหม่ได้อยู่ดี

                “ช่างเถอะ แค่ได้ก็ดีแล้ว” แผ่นฟ้ารำพึงเบาๆ อย่างปลอบตัวเอง พลอยทำให้บีทเผลอหัวเราะแล้วตอบกลับไปอย่างอารมณ์ดี

                “ต้องดีอยู่แล้ว อย่างน้อยของขวัญจากผมก็ยังกินได้นี่”

                ได้ยินอย่างนั้นแล้วแผ่นฟ้าเลยคลี่ยิ้มแล้วหันไปเอาอกเอาใจอีกฝ่ายทันที “ถึงของขวัญจากผมจะกินไม่ได้ แต่ผมพาคุณออกไปกินได้นี่...”

                บีทเหลือบตามองแผ่นฟ้าแล้วยิ้มให้ “ได้ ให้คุณออกตังค์ ส่วนผมเลือกร้านเอง”

                “ได้... ที่ไหนก็พาไป ยกเว้นที่นึง”

                “ที่ไหน?”

                “ร้านก๊วยเตี๋ยวเรือ” คำตอบแผ่นฟ้าออกมาพร้อมใบหน้าเบื่อๆ ทำเอาบีทหลุดหัวเราะออกมา

                “แน่นอน วาเลนไทน์ทั้งที ผมไม่ยอมให้คุณพาไปเลี้ยงของถูกขนาดนั้นหรอก!!”

                เมื่อดินเนอร์อันหรูหราผ่านไป ค่ำคืนร้อนแรงก็เข้ามาแทนที่ คลับคล้ายเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว พวกเขาสองคนกอดกัน จูบกัน มีอะไรกันนับครั้งไม่ถ้วน สิ่งหนึ่งที่ยังคงไม่ขาดหายคือคำบอกรักที่วนเวียนกรอกหูไม่เลิกรา

                บีทฟังคำบอกรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฟังจนเกือบเชื่อว่ามันคือเรื่องจริงไปแล้ว แต่บางครั้งคำโกหกก็เยียวยาหัวใจและทำให้อารมณ์ดีกว่าความจริงที่ทำร้ายไม่ใช่หรือ การร่วมเตียงกับคนที่รักเขาย่อมดีกว่าคนที่เกลียดเขาแน่อยู่แล้ว เขาก็เลยยอมทนฟังต่อไปโดยไม่เอ่ยขัด จากนั้นก็ดำดิ่งสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว

                ทว่าในค่ำคืนของวันวาเลนไทน์กลับพิเศษมากกว่าทุกวัน แผ่นฟ้าแนบร่างเปลือยกับแผ่นหลังชื้นกระชับกอดให้แน่นเข้า พลางสอดมือเข้าไปหยิบของบางอย่างใต้หมอนหนุน ท่ามกลางความมืด เขาดึงมือบีทมาสวมแหวนให้เบาๆ

                “คุณต้องเริ่มต้นใหม่ได้แล้วนะ.... แล้วคนคนนั้น ขอให้เป็นผมเถอะ” แผ่นฟ้าเอ่ยขึ้นมา ไม่ดังและไม่เบาจนเกินไป ในใจก็คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาได้ยินพอดี ทว่าความอ่อนเพลียทำให้บีทหลับสนิทไม่รู้เรื่องราวไปแล้ว และแผ่นฟ้าก็ไม่ใจร้ายมากพอที่จะปลุกเขา จึงได้แต่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นแล้วเอนตัวลงนอนบ้าง

                แผ่นฟ้าออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว บีทตื่นสาย ดังนั้นตอนที่เขารู้ตัวในห้องน้ำว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้าย ก็ไม่มีโอกาสถามเหตุผลของเจ้าตัวต่อหน้าแล้วและบีทก็ไม่ได้โทรไปถามด้วย เขาทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเตรียมตัวออกไปทำงานตามปกติ

                หลายวันต่อมาบีทยังคงอยู่ที่ญี่ปุ่น ปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองอย่างดีเยี่ยม เต็มที่กับงานจนลืมแล้วด้วยซ้ำว่าวันนี้เป็นวันอะไร... ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างประหลาดใจมากตอนที่เดินทางมาถึงห้องพักแล้วพบว่าแผ่นฟ้าในชุดสูทเต็มยศยืนรอเขาอยู่ที่หน้าห้อง ในมือถือกล่องกระดาษขนาดใหญ่ไว้

                “คุณมาได้ยังไง...” บีทถามอย่างแปลกใจ น้ำเสียงและแววตาแสดงอารมณ์ออกมาเต็มที่ ไม่ได้กักเก็บอย่างมิดชิดเหมือนปกติ

                แผ่นฟ้าเงยหน้าขึ้นหันไปมองคนถามด้วยสายตาอ่อนโยน เรียวปากคลี่ยิ้มยินดีแล้วตอบว่า “อยากเอาของกินมาเป็นของขวัญ”

                บีทขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจนักแต่ก็เดินเข้ามาใกล้แล้วก้มมองกล่องกระดาษในมือแผ่นฟ้า ด้านบนใสจนมองเห็นได้ว่าด้านในคือเค้กปอนด์ก้อนหนึ่ง

                “สุขสันต์วันเกิด”

                บีทพูดอะไรไม่ออก แววตาประหลาดใจยังคงอยู่ที่เพิ่มเติมคือแววตาที่ค่อยๆ ส่ายไหว ริมฝีปากสั่นระริก ภายในอกกระหน่ำรุนแรงโครมครามเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มตื้นตัน ฉับพลันนั้นเองเขาก็คว้าหมับเข้าที่ลำคออีกฝ่ายดึงให้เข้ามาจูบ แผ่นฟ้าตกใจเหมือนกันแต่ก็ยอมจูบแต่โดยดี

                “ตกใจหมดเลย ดีนะไม่ทำเค้กหล่น” เมื่อผละจูบแล้วแผ่นฟ้าจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงยั่วเย้า

                “ช่างเค้กเถอะ ถ้าตอนนี้มีอะไรที่ผมอยากกินละก็ น่าจะเป็นคุณมากกว่า”

                แผ่นฟ้าเลิกคิ้วสูงอย่างมึนงง ในขณะที่บีทไม่สนใจ เขาหันไปเปิดห้องพักแล้วดึงแผ่นฟ้าให้ตามเข้ามา

เมื่อห้องปิดลงแล้วเค้กในมือแผ่นฟ้าก็ถูกแย่งเอาไปวางทิ้งๆ ขว้างๆ และถูกลืมไปโดยปริยาย จากนั้นเจ้าของเค้กกลับเป็นฝ่ายถูกบีทลอบคราบแล้วจับกินอย่างมูมมาม ราวกับว่าอีกฝ่ายเก็บกดอัดอั้นมานานแสนนานอย่างนั้นแหละ...

                แผ่นฟ้ารู้สึกว่าการลงทุนของเขาคุ้มค่าอย่างที่สุด น้อยครั้งที่บีทจะเป็นฝ่ายจูบเขาก่อนอย่างนี้ พวกเขามีเซ็กซ์กันนับครั้งไม่ถ้วน แต่บีทเพิ่งใช้อุ้งปากรองรับตัวตนของเขาเป็นครั้งแรก จากนั้นก็ปรนนิบัติอย่างเอาใจ ทำให้เขาสมความปรารถนาได้ไม่ยากเย็น

แต่ความสุขสมของเขามันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเกมนี้เท่านั้น บีทไม่ใช่คนที่ปล่อยให้คนอื่นมีความสุขฝ่ายเดียวอยู่แล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ได้มองว่าเป็นข้อเสียอะไร ดูจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องเสียด้วยซ้ำ เพราะชายหญิงร่วมเตียงกันส่วนหนึ่งก็เพื่อสืบพันธุ์ตามธรรมชาติแต่ผู้ชายด้วยกันไม่ใช่... (ไม่รับรวมพี่ชายของเขาที่แปลกแยก) ดังนั้นเมื่อการร่วมรักเกิดขึ้นโดยไม่มีเรื่องการมีลูกเข้ามาเอี่ยว แปลว่าสองฝ่ายย่อมเท่าเทียมกัน ต่างสมควรได้รับความสุขร่วมกันทั้งสองฝ่าย เขาจึงไม่ถือสาความเอาแต่ใจของบีทที่เรียกร้องความสุขนั้นด้วยตัวเอง เขาไม่สึกแย่อะไร ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่อยากจะเสียบเขาขึ้นมาละก็นะ

ตอนนี้แผ่นฟ้านอนหงายอยู่บนเตียงมองหน้าบีทที่คร่อมเขาอยู่ด้านบน ขยับสะโพกรับตัวตนของเขาเข้าออกอย่างเชื่องช้า บีทเป็นคนไม่ค่อยพูดมาก แต่เวลาไม่พอใจมักจะชักสีหน้าอัตโนมัติ เวลาอย่างนี้ก็เช่นกัน เสียงที่เปล่งออกมาไม่ใช่เสียงครวญครางแหลมสูงจนน่ารำคาญ แต่เป็นเสียงหอบหายใจปะปนเสียงครางทุ้มต่ำแผ่วเบา ใบหน้าขาวขับสีเลือดเล็กน้อยระหว่างเคลื่อนไหวขึ้นลง การเสียดสีเหล่านั้นทำให้เขาเกร็งตัว ความเสียดเสียวแล่นริ้วไปทั่วร่าง ปลดปล่อยความต้องมาอย่างเต็มอารมณ์ เขาคิดไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้ วันนี้บีทช่างร้อนแรงเหลือเกิน...

หลังจากอาบน้ำด้วยกัน ทั้งสองก็กลับมานอน บีทไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับแหวนแต่แผ่นฟ้าก็สังเกตเห็นว่ามันยังคงติดอยู่บนนิ้วอย่างเดิม เขาอดอมยิ้มน้อยๆ ไม่ได้

“คิดอะไรอยู่เหรอ?” บีทถามอย่างสงสัยที่เห็นรอยยิ้มของเขา

“เปล่า ผมแต่มีความสุขเวลาอยู่กับคุณ...” ชายหนุ่มส่ายหน้า เขายกมือขึ้นลูบแก้มเขาเบาๆ

                หึ... บีทแค่นยิ้มน้อยๆ คล้ายพึงพอใจในคำตอบ

                หลังจากผ่านค่ำคืนอันอบอุ่นรุ่มร้อนมาแล้ว แผ่นฟ้านอนตะแคงตัวโอบกอดบีทไว้อย่างนั้นจนใกล้รุ่ง นาฬิกามือถือดังปลุกขึ้นมา แผ่นฟ้าจึงต้องข่มความง่วงงุนลุกจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัว

บีทสะลึมสะลือขึ้นมาเมื่อมีเสียงรบกวนแต่เมื่อเสียงงั้นเงียบไปก็หลับต่อไป จนกระทั่งแผ่นฟ้าแบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินกลับมาที่เตียงแล้วก้มลงจูบหน้าผากเขานั่นแหละ บีทจะตื่นขึ้นมาอีก

แม้จะหงุดหงิดเล็น้อยที่มีคนมากวนตอนกำลังหลับ ทว่าเมื่อลืมตาขึ้นมาเจอแผ่นฟ้าแต่งตัวเต็มยศก็ต้องเลิกคิ้วสูง

 “นี่คุณ จะไปไหนเหรอ?”

“ต้องกลับแล้ว”

“อะไร? นี่คุณมาแค่นี้เหรอ?”

“อือ แค่อยากมาเซอร์ไพรส์คุณ ที่จริงก็อยากอยู่นานๆ แต่งานยุ่งๆ น่ะ”

บีทพูดอะไรไม่ออก ในใจรู้สึกวูบโหวงอาลัยอาวรณ์ ไม่อยากให้อีกฝ่ายไปเลย แต่เขาโตแล้วไม่อาจจะงอแงเหมือนเด็กได้ มีแค่พยักหน้ารับไปเท่านั้น

แผ่นฟ้ายิ้มกว้างก้มลงจูบหน้าผากบีทซ้ำอีกครั้งแล้วบอกด้วยเสียงทุ้มนุ่ม “ผมจะรอคุณอยู่ที่บ้านของเรานะ”

เสียงประตูปิดลงหลังจากนั้นไม่นาน ส่วนคนบนเตียงที่ง่วงแทบแย่ ทว่าตอนนี้กลับตาแข็งค้าง บีทยังคงนอนนิ่งอยู่ที่เดิม กับความรู้สึกที่เหมือนโดนจับแช่แข็งไว้  กำแพงใจถูกพังทลายจนย่อยยับ

แผ่นฟ้าทำเกินไปแล้วจริงๆ เขาไม่ควรทำดีกับบีทถึงขนาดนี้ ต่อให้เขาจะใจแข็งสักแค่ไหน แต่ไม่ถึงกับไร้หัวใจ มีคนมาทำอะไรดีๆ เหมือนเขาเป็นคนพิเศษแบบนี้บ่อยๆ จะให้ไม่รู้สึกอะไรเลยคงเป็นไปไม่ได้หรอก

ตอนนี้สิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุดก็คือกลับไปที่ “บ้านของเรา” เดี๋ยวนี้เลย แต่เพราะทำไม่ได้ ดังนั้นช่วงเวลาแค่วันสองวันที่ต้องอยู่ญี่ปุ่นจึงยาวนานเหมือนชั่วกัปชั่วกันต์

บีทกลับไทยตอนบ่ายวันเสาร์ ดังนั้นพอกลับไปถึงบ้านจึงได้เจอแผ่นฟ้ากับโฟร์วิลด์รออยู่ที่โถงหน้าบ้าน พอบีทเจออีกฝ่ายก็สาวเท้าเข้าหาแล้วโถมกอดแนบแน่นโดยไม่สนใจสายตาของใครทั้งสิ้น

แผ่นฟ้าค่อนข้างตกใจที่บีทมีท่าทีแปลกไป แต่ก็โอบแขนกอดตอบ พลางบอกว่า “คิดถึงคุณจัง”

บีทพยักหน้ารัวๆ ครางรับแค่คำว่าอืม... ทว่าภายในหัวใจ กลับตะโกนร้องตอบ

บ้าเอ๊ย.... คิดว่าตัวเองคิดถึงเป็นคนเดียวหรือไงกันเล่า!!


++++++++++++

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
บีทน่ารักจังเลยอ่าาาาา

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ใกล้จะจบแล้ว ยังไม่อยากให้จบเลย :sad4:
ตอนนี้บีทน่ารักมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2018 22:18:11 โดย PrimYJ »

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
-20-

ความทรมานผ่านไปอย่างเชื่องช้าเช่นไร ความสุขก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่นนั้น  จู่ๆ บีทก็ค้นพบว่าแผ่นฟ้ามีคนอื่น

ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ มันเริ่มขึ้นเมื่อไม่นานมานี้จู่ๆ แผ่นฟ้าก็ถอยรถป้ายแดงออกมาคันหนึ่ง ส่วนรถคันเก่าก็หายไปจากโรงรถ อาจจะเป็นเพราะที่โรงรถไม่กว้างมากพอจะจอดรถสามคันก็เป็นได้ บีทเป็นคนไม่ชอบละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของคนอื่นอยู่แล้ว จึงไม่ได้ถามว่าแผ่นฟ้าขายรถคันเก่าไปแล้วหรือ เขาใช้ชีวิตตามปกติต่อไปอย่างนั้น กระทั่งวันหนึ่งรถคันเก่าของแผ่นฟ้าก็มาจอดอยู่ที่หน้าบ้าน ทว่าคนขับกลับกลายเป็นสตรีหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง

ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นมาที่บ้าน สาวใช้ค่อนข้างลังเลว่าจะยอมให้เธอเข้ามาดีหรือไม่ เหมือนจะเกรงอกเกรงใจบีทมากกว่าถึงขั้นเดินมาถาม บีทอยากจะบอกเหลือเกินว่าให้ไล่กลับไปเถอะ เจ้าของบ้านไม่อยู่และเขาขี้เกียจจะมาต้อนรับขับสู้คนที่ไม่รู้จัก... แต่พอดูเวลาแล้วก็เปลี่ยนใจ

วันนี้เป็นวันทำงาน แต่เพราะเย็นแล้ว คาดว่าอีกไม่นานเจ้าของบ้านคงจะกลับ บีทข่มใจพยักพเยิดบอกสาวใช้ให้ไปเชิญเธอเข้ามา

“อ้าว... ฟ้าไม่อยู่เหรอ?” หญิงสาวผู้มาใหม่ถามออกมาคำหนึ่งเมื่อเจอบีท

ในเมื่อไม่เห็นคนแล้วยังจะถามขึ้นมาอีกทำไม... บีทอยากจะตอกกลับไปนัก ทว่ายังสงบใจไม่พูดอะไรเสียมารยาทออกมา

“เขาไปทำงาน แต่อีกสักพักก็คงกลับแล้ว” บีทตอบสั้นๆ น้ำเสียงไม่บ่งบอกอารมณ์ แสร้งทำเป็นก้มหน้ามองมือถือตัวเองก่อนจะส่งข้อความไปหาเจ้าของเรื่อง

มีคนมาหาคุณที่บ้าน....

ทว่าแผ่นฟ้าไม่ตอบ อาจจะยุ่งอยู่หรือไม่ก็อาจจะกำลังขับรถกลับมา

“อ้อ... ฉันเอากุญแจรถมาคืนน่ะค่ะ ฟ้าให้ยืมหลายวันแล้ว” หญิงสาวเอ่ยขึ้นมา ทั้งบอกกล่าวธุระและชวนคุย แต่สำหรับบีทแล้วทำไมจะมองเจตนาอีกฝ่ายไม่ออก น่าจะตั้งใจโอ้อวดเสียมากกว่า

“เหรอครับ” บีทตอบรับสั้นๆ คล้ายไม่ยินดียินร้ายต่อข้อมูลที่เพิ่งได้รับ

แขกผู้มาใหม่หุบยิ้ม เพราะถูกความเย็นชาของบีทโจมตีเลยรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา จำต้องหุบปากไม่เอ่ยอะไรออกมาอีก เปลี่ยนเป็นหยิบมือถือออกมาต่อสายแทน

คาดว่าเธอคงจะติดต่อแผ่นฟ้าได้แล้ว หลังจากรับคำสองสามคำเธอก็ตัดสาย หลังจากได้น้ำหนึ่งแก้ว หญิงสาวทนนั่งเงียบๆ อยู่ในห้องรับแขกต่อไปเพื่อรอ แต่ทั้งๆ ที่บีทไม่ได้พูดด้วยทว่าไม่ได้ลุกหนีไป ยังคงนั่งกดดันอยู่ด้วยจนกระทั่งแผ่นฟ้ากลับมาถึงนั่นแหละ

“เอม...” เสียงมาพร้อมกับตัว และเจ้าของชื่อก็เด้งตัวลุกขึ้นเดินไปหาเขาอย่างรวดเร็ว

“กลับมาแล้วเหรอคะ ฟ้า?”

 “อื้อ... จะมาทำไม่โทรมาก่อนล่ะ?” แผ่นฟ้าตำหนิอย่างไม่จริงจังนักระหว่างเหลือบตามองบีทที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม

“ก็กะจะมาเซอร์ไพรส์ไง” เธอบอกด้วยเสียงออดอ้อน แนบร่างบอบบางเอนพิงแขนเขา

บีทปรายตามองคนทั้งคู่แล้วในอกพลันร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก สายตาที่ส่งไปยังแผ่นฟ้าเหมือนจะมีเปลวไฟคุโชนอยู่ แผ่นฟ้าหนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้พยายามรูดแขนออกมาจากอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล

“เอ้อ อันที่จริงเราเจอกันข้างนอกดีกว่านะ ไม่น่าลำบากมาถึงนี่เลย ออกจะไกล”

ดีนี่... นัดเจอกันที่อื่นสะดวกกว่างั้นเหรอ? บีทเผลอกำมือแน่นอย่างมีโทสะ

“เอมผ่านมาแถวนี้พอดีน่ะค่ะ”

“อ้อ...” แผ่นฟ้ารับคำเหม่อๆ  เขาเอาแต่มองไปทางบีทว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทีอย่างไรมากกว่าสนใจสาวสวยข้างๆ เสียอีก

“เอ่อ... เอมตั้งใจเอากุญแจรถมาคืนด้วยค่ะ”

“ฮะ? เอากุญแจมาคืน? แล้วเอมจะกลับยังไง” ความหมายของเขาคือ โทรบอกให้เขาไปเอากุญแจและรถยังจะง่ายกว่า

“เอ๊ะ นั่นสิคะ เอมนี่โง่จริงๆ เลย ลงท้ายก็ต้องให้ฟ้าไปส่งอยู่ดี” หญิงสาวช่างแกล้งโง่ได้น่ารักน่าเอ็นดูยิ่งนัก จากการตำหนิอ้อมๆ กลับกลายเป็นการบังคับกลายๆ ให้เขาไปส่งเสียได้

แผ่นฟ้ามีท่าทีหนักใจ กำลังคิดอยู่ว่าจะหาทางหลีกเลี่ยงอย่างไรดีถึงจะให้คนขับรถไปส่งหญิงสาวแทนได้ แต่คนที่นิ่งเงียบมาตลอดการสนทนากลับเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน “งั้นก็รีบไปเถอะ... เดี๋ยวจะกลับมากินข้าวเย็นไม่ทัน”

ดวงตาสองคู่มองไปยังทิศทางเดียวกันทันที ดูเหมือนว่าน้ำเสียงของบีทจะมีอิทธิพลต่อคนฟังทั้งสองไม่น้อย สำหรับเอมแล้วรู้สึกกดดันและหวาดๆ ขึ้นมา ส่วนแผ่นฟ้าพอจะจับสำเนียงไม่พอใจได้ถนัด

บีทตั้งใจไล่พวกเขาออกไปชัดๆ และแผ่นฟ้าไม่เห็นประโยชน์ของการดื้อรั้น ดันทุรัง เขารับคำในลำคอสั้นๆ แล้วย้ำกับอีกฝ่าย “อืม... ผมจะรีบกลับมา รอก่อนนะ”

จากนั้นแผ่นฟ้าก็จับแขนหญิงสาวแล้วพาเดินออกไป

บีทที่นั่งตัวตรง หน้านิ่งเป็นหินมาตลอดบัดนี้กลับหยิบมือถือออกมาดูวันที่ แล้วก็เหมือนบรรลุธรรม ทุกสิ่งอย่างกระจ่างแจ้งขึ้นมาในบัดดล

ผลประกอบการใกล้ออกเต็มทนแล้ว... จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นแค่ละครฉากหนึ่ง และตอนนี้คงหมดเวลาแห่งการเสแสร้งเสียที เขาได้แต่แค่นยิ้มขบขันตัวเอง คำพูดประโยคหนึ่งคล้ายดังก้องขึ้นมาอีกหน

“จนกว่าจะถึงตอนนั้น... คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าใครกันแน่ที่โกหก”

มันคงถึงเวลานั้นแล้วใช่ไหมแผ่นฟ้า...

                พวกเขาออกไปได้ไม่นาน บีทค่อยลุกขึ้นจากโซฟาอย่างอ่อนแรง ลากขากลับไปห้องตัวเองที่ชั้นล่างช้าๆ ห้องนี้เขาไม่ได้กลับมานอนตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มาก็คงไม่ได้ เพราะเขาคงไม่จำเป็นต้องกลับไปห้องนั้นอีกแล้ว...

                บีททิ้งกายลงไปฝังกับฟูกนอน พลางยกแขนขึ้นมาปิดตาตัวเอง ปิดบังแสงไฟที่สาดเข้ามาจนแสบร้าวไปทั้งกระบอกตา ขมับทั้งสองปวดตุบ ลำคอตีบตัน จู่ๆ ก็เกิดอาการคัดจมูกขึ้นมากะทันหัน เขาพลันไม่สบายอย่างหนัก สูดน้ำมูกฮึดฮัดอย่างทรมาน สองเบ้าตาแสบร้อน ใบหูเปียกชุ่มหยาดน้ำ ก่อนจะหลับไปทั้งๆ ที่คิ้วขมวดมุ่น 

                หลับไปได้ครู่ใหญ่ๆ แผ่นฟ้าก็โทรมา บีทพยายามระงับอาการช็อกหนักของตัวเองแสร้งทำเหมือนว่าไม่รู้สึกรู้สาเหมือนเคย กรอกเสียงเฉยชากลับไป “ว่าไง”

                “คุณกินข้าวไปก่อนเลยนะ ผมอาจจะกลับช้าหน่อย” ปลายสายอุตส่าห์แสดงน้ำเสียงห่วงใยออกมา ทว่าคนฟังกลับหัวใจด้านชาไปเสียแล้ว

                “อืม... รู้แล้ว” บีทตอบรับแล้ววางสายไปทั้งๆ อย่างนั้น

                เมื่อเขาถูกปลุกขึ้นมาทุกอย่างก็เลื่อนลอยไปหมด อาจจะเป็นเพราะหลับไปตอนเย็นตื่นขึ้นมาจึงเวียนหัวเล็กน้อย เขาไม่ได้กินมื้อค่ำอย่างที่ควร แต่ขึ้นไปชั้นบนดึงกระเป๋าเดินทางออกมา เพียงคิดจะรวบเสื้อผ้าที่แขวนอยู่รวมกันออกมาจัด ก็เหน็ดเหนื่อยใจแทบบ้า

                บ้าเอ๊ย เขาไม่น่ารีบร้อนขายคอนโดไปเลย ไม่อย่างนั้น ข้าวของเครื่องใช้คงไม่มากมายขนาดนี้

                บีททั้งปวดหัวทั้งเป็นหวัดเลยหงุดหงิดหนักกว่าเก่า เพียงดึงเสื้อออกมาจากไม้แขวนตัวหนึ่งก็อยากจะดึงทึ้งเสื้อทิ้งหรือหักไม้แขวนออกมาเป็นเสี่ยงๆ ให้รู้แล้วรู้รอด แต่เขาจะทำเรื่องน่าขันแบบนั้นได้ยังไงกัน ไม่สมกับเป็นเขาเลย...

                ต่อให้จะต้องแตกหักก็ควรคุยกันให้รู้เรื่องไม่ใช่รีบยอมแพ้แล้วจากไปเฉยๆ

                กว่าแผ่นฟ้าจะกลับมาก็ดึกแล้ว เขากระวนกระวายใจแทบแย่กลัวว่าบีทจะโมโหจนหนีออกจากบ้านไป  แต่เนื่องจากรถยนต์ของบีทยังคงจอดอยู่ชายหนุ่มจึงสามารถสงบจิตสงบใจตัวเองลงได้

                นวลที่ออกมาเปิดประตูบ้านให้เขารับเอาเสื้อนอกไปถือพลางรายงานว่า “คุณบีทไม่ได้ทานข้าวเย็น”

                แผ่นฟ้าถอนใจออกมาเฮือกหนึ่งหันไปสั่งให้อุ่นนมให้หนึ่งแก้ว ก่อนจะขึ้นบันไดบ้านไป

                ห้องนอนมืดสนิท แต่พอมีแสงไฟด้านนอกลอดเข้าไปบ้างจึงเห็นร่างคนนอนอยู่บนเตียงได้ แผ่นฟ้าก็ค่อยใจชื้น อย่างน้อยบีทยังไม่ได้หนีเขาไปไหน เพียงแต่งอนเล็กน้อยจนไม่ได้กินข้าวเย็น

หลังจากปิดประตูห้องเปิดไฟจนสว่าง แผ่นฟ้าก็ปีนขึ้นไปบนเตียงแล้วเขย่าไหล่บีทเบาๆ

                “บีท คุณหลับแล้วเหรอ ไม่ลุกขึ้นมากินอะไรหน่อยเหรอ”

                “ผมไม่หิว” บีทหลับตาตอบกลับ น้ำเสียงคล้ายสะกดกลั้นอารมณ์ไว้

                “ผมให้นวลอุ่นนมให้แล้ว ดื่มสักแก้วก็ยังดี”

                บีทไหวไหล่ ขยับตัวหนี “ไม่ต้อง”

                แผ่นฟ้ามีสีหน้าลำบากใจ เอาเอนกายลงนอนแล้วโอบแขนโอบกอดเอวบีททั้งผ้าห่มไว้ คนที่ถูกกอดขยับตัว จับมือของเขาออกจากเอวตัวเองทว่าแผ่นฟ้ายังดื้อดึงพยายามแนบร่างเข้าไปชิดกว่าเดิม ริมฝีปากแตะที่หลังคอของบีทพลางเม้มจูบเบาๆ อย่างออดอ้อน แต่นั่นกลับเป็นการสุมไฟโทสะของบีทให้คุโชนขึ้นกว่าเก่า

                “ถอยไป...”

                “ผมทำอะไรไม่พอใจเหรอ?” น้ำเสียงแผ่นฟ้าเหมือนคนโง่ที่ไม่รู้ตัวจริงๆ ว่าตัวเองทำอะไรผิด

                บีทดีดตัวขึ้นจากเตียงทันทีเหมือนไฟลนพร้อมใบหน้าถมึงทึงหันไปหาอีกฝ่ายที่ค่อยยันตัวลุกขึ้นอย่างเชื่องช้าคิ้วย่นเล็กน้อย “ไม่ใช่แค่ไม่พอใจนะ แต่ผมรังเกียจเลยแหละ”

                แผ่นฟ้าถอนใจออกมาพลางอธิบาย “ถ้าคุณไม่พอใจเรื่องเอมนะ ผมกับเขาไม่มีอะไรกัน”

                “อ้อ... คุณหายไปด้วยกันทั้งคืนแบบนี้ ผมควรเชื่อว่าไม่มีสินะ  คุณเห็นผมเป็นคนหูหนวกตาบอดหรือไม่มีสมองใช่ไหม?”

                “เราแค่คุยเรื่องงาน ก็เลยนานไปหน่อย”

                “งาน?”

                “อือ...”

                “งานด้านไหนเหรอที่ต้องให้รถเขาไปยืมขับ.... ไม่ทราบว่างานบนเตียงหรือในอ่าง?”

                แผ่นฟ้าถอนใจออกมาอีกคำรบหนึ่ง บางครั้งเขาก็คิดนะว่านอกจากเรื่องบนเตียงแล้ว เรื่องอื่นๆ บีทก็ ไม่ได้ต่างจากเขา ไม่ว่าจะเป็นการวางตัว กิริยาท่าทาง ก็คือผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น แต่มาตอนนี้เพิ่งพบว่าบีทนั้นช่างต่อปากต่อคำ ช่างประชดประชันขนาดนี้  นี่ไม่ใช่นิสัยผู้หญิงหรือไงกัน...

                “ผมกับเอมกำลังตกลงกันว่าจะลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน แล้วบังเอิญรถเอมก็เกิดไปชนขึ้นมา ผมก็เลยให้รถเธอยืมแค่นี้เอง...”

                “อ้อ.. หุ้นส่วนการค้า หรือหุ้นส่วนชีวิตกันล่ะ บอกมาเลยตามตรงดีกว่า ถ้าเป็นอย่างหลังผมจะได้รู้ตัวเสียตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าเป็นส่วนเกินในชีวิตคุณ” คล้ายคำตอบของเขาทำให้บีทยิ่งอารมณ์ขึ้นกว่าเก่า สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยอารมณ์ทั้งเจ็บปวดน้อยใจ

                “ก็แค่เรื่องงานเท่านั้น ไม่มีเรื่องอื่นจริงๆ คุณอย่าคิดมากได้ไหม?”

                “ผมเนี่ยนะคิดมาก? ลองคิดดูสิ ถ้าผู้หญิงคนนั้นมีเงินมากพอจะมาทำธุรกิจร่วมกับคุณได้ คงไม่ได้มีรถคันเดียวใช้แน่ๆ จำเป็นด้วยเหรอที่จะต้องมาขอยืมรถคุณน่ะ?”

ใบหน้าแผ่นฟ้ายังคงแสดงความลำบากใจดังเดิม ทว่าไม่มีเค้าลางของความตื่นตกใจใดๆ ทั้งสิ้น มันทำให้บีทผิดหวังขึ้นมา

                “คุณก็คงรู้อยู่แล้วว่ามันก็แค่คำถามลองใจคุณ แต่คุณก็ยังไม่ปฏิเสธ”

                “ผมก็แค่อยากจะแสดงความมีน้ำใจเท่านั้น” แผ่นฟ้าตอบอ้อมแอ้ม อันที่จริงเอมอยากให้เขาไปรับไปส่งต่างหาก แต่แผ่นฟ้าเลี่ยงไป เปลี่ยนเป็นให้เธอยืมรถแทน

                “แล้วคุณไม่รู้หรือไงว่าเขาชอบคุณ”

                “บีท...” แผ่นฟ้าได้แต่เรียกอีกฝ่ายด้วยสีหน้าลำบากใจ

                “ก็รู้อีกนั่นแหละ... แต่คุณก็ไม่ใส่ใจ อืม...ผมเข้าใจแล้ว”

                สิ้นสุดคำถามที่ต้องการ เพียงพอแล้วสำหรับคำตอบ บีทพยักหน้าพร้อมส่งแววตาผิดหวัง  เขาขยับเท้าคล้ายจะเดินออกไป  ทว่าแผ่นฟ้าคว้าแขนเขาไว้เสียก่อน รีบอธิบาย

                “บีท... ฟังผมหน่อยได้ไหม จริงอยู่ว่าผมรู้ทุกอย่าง แต่แล้วยังไงล่ะ เขาอาจจะชอบผม แต่ผมไม่ได้ชอบเขานี่ ผมแค่ดีกับเขาบ้าง ก็เพราะเราต้องทำธุรกิจร่วมกัน  แต่ผมทำทุกอย่างก็เพื่อคุณนะ”

                “นี่คุณบ้าหรือเปล่า? คุณใกล้ชิดกับเธอ ทำงานกับเธอ ให้ความหวังเธอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมไม่ทราบ หรือคุณแค่เคยชิน เสพติดเซ็กซ์จากผม กลับไปเอาผู้หญิงแล้วไม่เร้าใจพอก็เลยรั้งผมไว้ด้วยล่ะ?”

                “ไม่ใช่...” แผ่นฟ้าตอบได้แค่นั้น...  ไม่รู้จะตอบยังไงต่อไปดี

                “ไม่ใช่แล้วยังไง ที่คุณทำอยู่ตอนนี้ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับพี่คุณหรอก แอบมีคนอื่นลับหลังผม ปากก็พูดอยู่แต่ว่าไม่มีอะไร ไม่คิดอะไร แล้วสุดท้ายก็มีแต่ผมที่โง่ ที่เจ็บอยู่คนเดียว!! บอกเอาไว้เลย ในขณะที่ผมไม่มีคนอื่น ผมก็ไม่อนุญาตให้คุณมี แต่ถ้าคุณอยากจะมีก็แปลว่าเรื่องของเรามันจบลงตรงนี้ คุณเข้าใจไหม” บีทตะเบ็งเสียงใส่ ร่ายยาวเพื่อระบายความอัดอั้น ขอบตาแสบร้าวเหมือนปริ่มน้ำขึ้นมานิดๆ แล้ว

                “บีท...นี่คุณ...” แผ่นฟ้าเลิกคิ้วแล้วเปลี่ยนเป็นสีหน้าตื่นเต้นดีใจจนบีทยิ่งโมโห

                “คุณยิ้มทำไม?”

“เมื่อครู่ คุณบอกว่าเจ็บใช่ไหม? แล้วคุณก็ไม่ยอมให้ผมมีคนอื่นด้วย ถ้าผมไม่ได้เข้าใจผิด คุณกำลังหึงผมใช่ไหม”

                คนถามคลี่ยิ้มตื่นเต้นส่วนคนถูกถามเริ่มระบายสีแดงไปทั่วใบหน้า ทั้งเขินทั้งโมโหปนกันให้ยุ่งไปหมด

                “ผมก็แค่... แค่... โธ่เว้ย หึงแล้วทำไม ก็คุณเป็นคนบอกรักผมเอง ทำดีกับผมเอง ผมก็คิดน่ะสิว่าคุณเป็นคนของผม จู่ๆ คุณก็เปลี่ยนไปจะไม่ให้ผมโมโหได้ยังไง”

                “ถ้าคุณรักผม งั้นก็ควรรั้งผมไว้สิ ไม่ใช่ไล่กันแบบนี้” แผ่นฟ้าเปรยขึ้นมาพลางส่งรอยยิ้มล้อเลียนไปให้

                เมื่อครู่พูดว่าหึง ต่อมาพูดว่ารัก บีทฟังแล้วปั้นหน้าไม่ถูก จะยอมรับก็ไม่ได้จะเถียงก็ไม่ออก ได้แต่ทำหน้าตะบึงตะบอนอย่างเดิม “ไม่เอาแล้ว ผมไม่คิดจะรั้งคนที่หมดใจไว้อีกแล้ว  ไม่ว่าก่อนหน้านี้คุณจะพูดจริงหรือโกหก ถ้าตอนนี้คุณเจอคนที่ใช่แล้วจริงๆ ก็บอกมาตรงๆ ดีกว่า ผมจะได้ตัดใจได้ ไม่ต้องโกรธแค้นคุณ”

                แผ่นฟ้าเข้าใจ บีทคงจะเหนื่อยแล้วจริงๆ นิสัยของเจ้าตัวเป็นคนเย่อหยิ่ง ฟอร์มจัดขนาดนี้  แต่กลับยอมทิ้งศักดิ์ศรีทุกอย่างวางแผนตั้งมากมายเพื่อทำให้พี่อิฐกลับไปหา แต่ลงท้ายแล้วต่อให้ทำให้เด็กคนนั้นจากไปได้ แต่พี่อิฐก็ยังไม่กลับมา ทุกอย่างเหมือนเสียเวลาเปล่าแท้ๆ มาตอนนี้เขาคงปล่อยวางได้บ้างแล้ว...

                จะว่าไปสิ่งที่บีทว่าก็ถูก ไม่ว่าเขาจะคิดไว้ยังไง แต่ไม่มีใครล่วงรู้เรื่องในอนาคต โดยเฉพาะบีทเองก็มีปม เรื่องแนวนี้เคยเกิดขึ้นแล้วคงไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก เขาเองก็ไม่ควรปิดบังเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเรื่องราวอาจจะเลวร้ายขึ้นมาก็ได้ เมื่อคิดได้อย่างนั้นเขาจึงตัดสินใจเปิดอกพูดความจริงเสียเลย...

                “ความจริงก็คือ...ผลประกอบการออกแล้ว... ถึงจะไม่เป็นทางการ แต่คงไม่พลิกล็อกได้หรอกมั้ง บีท... ผมแพ้แล้ว แต่สิ่งที่ผมไม่อยากจะเสียไปมากที่สุดก็คือคุณ” แผ่นฟ้าจ้องหน้าบีทแล้วส่งสายตาแสนเศร้า มันไม่ใช่แค่ความเสียใจ มันมีทั้งความผิดหวัง ความล้มเหลว ความหวาดกลัวอยู่เต็มไปหมด

                บีทไม่ได้สนใจเรื่องบริษัทมาแต่ไหนแต่ไร แต่เมื่อพบความเศร้าจากแววตาของอีกฝ่ายในใจก็เจ็บปวดขึ้นมาด้วย เมื่อความสงสารพุ่งขึ้นมาความโมโหโกรธเกรี้ยวก็ค่อยทุเลาลงบ้าง เขายกมือแตะไหล่ที่ตกลู่ของแผ่นฟ้าคล้ายปลอบ

                “ผมขอโทษนะที่ไม่ได้บอก ผมแค่อยากจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่อยากให้คุณต้องกังวล”

                “คุณจะจัดการยังไง?” ในคำถามนั้นบีทก็หวั่นกลัว จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ตกลงแล้วการมีอยู่ของเขา สามารถช่วยเหลือแผ่นฟ้าอย่างไรได้บ้าง

ถ้าแผ่นฟ้าอยากใช้เขาต่อรองกับอิฐจริงๆ เวลานี้ก็เป็นเวลาที่ก็เหมาะสมแล้วที่แผ่นฟ้าจะตัดขาดจากเขา แต่แผ่นฟ้ากลับพยายามรั้งเขาไว้ เขาเลยสับสนไปหมดแล้ว

“อันที่จริงถึงจะไม่ได้เป็นประธานแล้วถอยกลับไปอยู่ในตำแหน่งกรรมการตามเดิมมันก็คงไม่หนักหนาอะไรหรอก แต่ผมไม่รู้ว่าพี่อิฐจะเอายังไงกับคุณ หรือคุณจะเป็นยังไงต่อไปนี้ ผมปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามยถากรรมไม่ได้... อย่างน้อยๆ ผมก็ควรเตรียมการอะไรไว้บ้าง”

“คุณก็เลยอยากจะทิ้งอิทธิฤทธิ์กรุปไปอย่างนั้นเหรอ?” บีทเริ่มคาดเดา

“ใช่... ถ้าไม่มีผมสักคน ต่อให้คุณทำงานอยู่ที่เดิม พี่อิฐคงจะวางใจว่าคุณจะไม่สามารถเข้าไปยุ่ง หรือไปก้าวก่ายชีวิตเขาได้อีกแล้ว... หรือต่อให้เขาจะเอาคุณออกให้ได้ คุณก็สามารถมาทำงานกับผมได้”

“ทำงาน? นี่คุณจะเปิดบริษัททัวร์ด้วยเหรอ?”

“อือ...”

“นี่คุณ...”   

บีทพูดอะไรไม่ออกแล้ว คลับคล้ายมีอะไรมากมายตีกันในหัวเต็มไปหมด แผ่นฟ้าคิดถึงเขา ทำเพื่อเขามากมายขนาดนี้  แล้วเขาล่ะ ได้ทำอะไรเพื่ออีกฝ่ายบ้าง แต่ต่อให้คิดกลับไปกลับมาเท่าไรก็ยังไม่พอใจกับวิธีการของอีกฝ่ายอยู่ดี

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะไม่ชอบให้แผ่นฟ้าหลอกใช้คนอื่นหรือเป็นเพราะหวงเขาไม่อยากให้ใกล้ชิดคนอื่นกันแน่...

                “ผมดีใจนะที่รู้ว่าคุณทำเพื่อผมมากมายขนาดนี้ แต่ถ้าคุณไม่ได้คิดอะไรกับเธอคนนั้นจริงๆ มันก็ไม่ยุติธรรมกับเธอเท่าไร เพราะงั้น... ถ้าคุณทำทุกอย่างเพื่อผมจริงๆ ละก็ ผมขอให้คุณอยู่ห่างๆ เธอไว้ได้ไหม?”

                “นอกจากเรื่องงานแล้วผมไม่มีปัญหานะ ถ้าจะไม่ต้องเจอเอมอีก แต่ถ้าผมถอยออกมาจริง แล้วเรื่องของเรา...”

                “เรื่องของเราก็คือเรื่องของเราสิ  ถ้ามีแค่เรายังไงมันก็ดีกว่าเอาคนอื่นเข้ามาไม่ใช่เหรอ?” บีทสวนกลับ จ้องหน้าแผ่นฟ้าเหมือนออดอ้อนเชิงบังคับ

                แผ่นฟ้านิ่งค้างไปชั่วขณะก่อนจะพยักหน้ารับ

                “ผมจะพักเรื่องบริษัทใหม่ไว้สักพักก็แล้วกัน ไว้ผลประกอบการออกมาอย่างเป็นทางการแล้วค่อยคิดอีกที”

                ครั้นได้รับคำตอบนั้นแล้วจึงสามารถเรียกรอยยิ้มให้คืนมาบนใบหน้าคาดคั้นนั่นได้ 

บีทยืนนิ่งอย่างนั้นได้เพิ่งครู่เดียวก็ขยับตัวเดินอ้อมเตียงไป แผ่นฟ้าเลิกคิ้วน้อยๆ พลางถามอย่างข้องใจ “อ้าว นั่นคุณจะไปไหนล่ะ?”

                “ลงไปหาอะไรกินน่ะสิ ไม่ใช่ว่าคุณสั่งให้อุ่นนมให้ผมหรอกเหรอ?” คำตอบตรงไปตรงมาพร้อมใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แผ่นฟ้าหลุดหัวเราะออกมาทันที

                หึ! หิวแทบตายแล้วแต่ทำหยิ่ง ประชดไม่ยอมไปกิน

นี่ถ้าคืนนี้คุยกันไม่รู้เรื่อง คงยอมทนท้องกิ่วยันเช้าใช่ไหมเนี่ย!

                ++++++++++



                อิฐไม่ได้เข้าบริษัทมานานแล้ว เพราะกำลังหัวหมุนกับกิจการโรงแรมที่กำลังก่อตัว ครั้นเข้ามาตรวจงานก็พึงพอใจเล็กน้อยไม่ได้กับผลกำไรที่เพิ่มขึ้น

                4.8 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ตัวเลขที่น้อยเลย ทว่าก็ยังไม่ถึงเป้าตามที่ตกลง...

 อันที่จริง บริษัทของเขาไม่ได้ขาดทุนแต่อย่างใด ผลกำไรก็เป็นที่พอใจมาตลอด การจะทำกำไรเพิ่มขึ้น 5เปอร์เซ็นต์ความจริงเป็นเรื่องยาก  เขาก็เพียงแค่ตั้งเงื่อนไขยากๆ เพื่อความท้าทาย น้องชายจะได้ขยันขันแข็งมากขึ้นเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องการต่อรองอื่นๆ น่ะมันเป็นแค่ผลพลอยได้

                ก่อนหน้านี้เขาคุยกับแผ่นฟ้ามาบ้างแล้ว เจ้าตัวย้ำกับเขาอย่างหนักแน่นว่า ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เจ้าตัวก็จะยอมรับมันแต่โดยดี แต่ไม่ยอมให้ลากบีทเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเดิมพันนี้เป็นอันขาด และในเมื่อบีทเองก็ไม่มายุ่งกับเขาแล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลับไปสร้างความลำบากเช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้ยุ่งยากใจก็คือ แผ่นฟ้าเกริ่นๆ ไว้ว่าจะขายหุ้นคืนให้เขา ส่วนตัวเองจะถือครองหุ้นไว้บางส่วนแล้วไปเริ่มทำอะไรของตัวเอง...

                ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะตอบรับง่ายๆ โดยไม่คิดอะไร ทว่าตอนนี้เขามีงานใหม่ที่เพิ่งเริ่ม ยังไม่เข้าที่เข้าทางต้องดูแล ถ้าให้ดูแลอิทธิฤทธิ์กรุปไปพร้อมๆ กันอาจจะพอไหว แต่เมื่อคิดไปถึงสิ่งที่เขาวางแผนจะทำในไม่กี่เดือนข้างหน้าก็กังวลใจขึ้นมาทันที ด้วยสภาพร่างกายตอนนั้น เขาคงรับงานหนักเหล่านี้ไม่ไหวแน่...

ในระหว่างที่กำลังกังวลนั้นไม่คาดคิดเลยว่า บีทจะมาขอพบเขา ชายหนุ่มเหลือบตามองอดีตคนรักด้วยความประหลาดใจ “ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเจอคุณ”

                “ผมก็ไม่ได้อยากจะมานักหรอก”

                “นั่งสิ มีอะไรเหรอ?”

                “จะมาเจรจา...”

                “อ้อ... เรื่อง?”

“เรื่องตำแหน่งประธานบริษัท...” อ้อ ที่แท้ก็เรื่องนี้ เขายิ้มบางๆ

                “ผลยังไม่ออกซะหน่อย ถึงจะพอเดาๆ ได้ก็เถอะ”

                “ถ้าผมขอร้องให้คุณไม่ยึดตำแหน่งนั้นคืนไป มันพอจะเป็นไปได้หรือเปล่า?”

อิฐขมวดคิ้ว อดคิดไม่ได้ว่าน้องชายห้ามไม่ให้เขาไปพบบีทอีก ห้ามพูดจาผลักไสบีท เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไป ทว่าตอนนี้บีทเป็นคนเสนอตัวเข้ามาคุยเอง อย่างนี้แล้วเขาก็ไม่ผิดใช่ไหมที่จะต่อรองกลับไป

ดูจากภาระหนักอึ้งของตัวเอง เขาอยากคืนตำแหน่งนี้ให้แผ่นฟ้าอยู่แล้วแต่แรก ทว่าจะกลับคำพูดเสียทันทีก็ดูง่ายดายเกินไป ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เขาไม่อาจจะปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปได้

เรื่องที่ไอ้ฟ้าหลงรักบีทไปแล้วน่ะ เขาไม่ติดใจสงสัย แต่บีทคิดอย่างไรกับไอ้ฟ้าต่างหากที่เขายังแคลงใจ อดไม่ได้จริงๆ ที่จะพิสูจน์...

“ได้แน่นอน...  ผมมีทางเลือกให้คุณสองทาง แล้วแต่จะเลือกเลย”

                “ว่ามาสิ...”

                “เลิกติดต่อ เลิกยุ่งเกี่ยวกับไอ้ฟ้าซะไม่ว่าวิธีใดก็ตาม”

                “แล้วทางที่สอง...” บีทรีบตัดบทคลับคล้ายกับทางนี้เขาไม่มีทางจะเลือกแน่นอน

                “ส่วนทางที่สอง... ก็คือลาออกจากที่นี่”

+++++++++++


ต่อรีล่าง

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS





                ไม่กี่วันหลังจากนั้นก็ถึงประชุมแจ้งผลประกอบการอย่างเป็นทางการของบริษัท ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ได้แตกต่างจาก ที่คาดการไว้นัก

                แผ่นฟ้าปลงแล้ว เขานั่งที่เก้าอี้หัวโต๊ะในตำแหน่งประธานกรรมการฝ่ายบริหารเป็นวันสุดท้ายฟังรายงานต่างๆ ไปเรื่อยเปื่อยด้วยท่าทีสงบ

                “ผลประกอบการออกมาแล้ว เพิ่มขึ้น 4.8 เปอร์เซ็นต์ ขอปรบมือให้กับความพยายามของประธานบริษัทคนใหม่” อิฐ ยืนขึ้นส่งรอยยิ้มยินดีไปรอบๆ พลางปรบมือนำ ทำให้คนอื่นๆ ในโต๊ะพลอยปรบมือตามไปด้วย

แผ่นฟ้ามีสีหน้างุนงง หันมองไปรอบๆ อย่างไม่เข้าใจอะไรนัก

                “พี่ภูมิใจในตัวเราจริงๆ ฟ้า หวังว่าต่อไปจะขยันขันแข็งอย่างนี้ นำพาบริษัทของเราให้รุ่งเรืองต่อไป” อิฐเอ่ยอย่างชื่นชมพลางเดินเข้ามากอดเขาไว้

แผ่นฟ้ายิ่งงงหนักกว่าเก่า ที่อีกฝ่ายไม่พูดถึงการเปลี่ยนตัวประธานกลับเป็นคนเดิมเลยสักคำ แถมยังเข้ามากอดเขาอย่างนี้นี่มันละครฉากไหนกัน แต่ถึงเขาจะสงสัยแทบแย่แต่เขาเองก็ไม่โง่ขนาดเอ่ยถามทะลุปล้องขึ้นมาตอนนี้ ทำได้เพียงยิ้มเขินๆ และตอบรับคำชมจากคนอื่นๆ ไปตามมารยาท รอจนการประชุมสิ้นสุดลงแล้วจึงมีโอกาสพูดคุยกับพี่ชายเป็นการส่วนตัว

                “พี่อิฐ นี่มันหมายความว่ายังไง”

                “ไม่เข้าใจตรงไหนล่ะ? ฉันก็บอกไปในที่ประชุมแล้วไงว่า ภูมิใจกับผลงานนี้มาก แกคิดว่า 4.8เปอร์นี่มันได้มาง่ายๆ หรือไง”

                “แต่ก็ไม่ถึง 5”

                “ใช่ แต่แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว...”

                “พี่พอใจเหรอ?” แผ่นฟ้ายังคงส่งสายตาไม่วางใจอยู่ดี เพราะรู้สึกว่าแบบนี้จะง่ายเกินไป  ต่อให้รู้ว่าอิฐไม่ได้อยากจะกลับมาในตำแหน่งที่สร้างปัญหาต่อการอุ้มท้องในอนาคตก็เถอะ แต่ยอมง่ายๆ แบบนี้ก็แปลกเกินไปอยู่ดี

                “ใช่ ถึงงานนี้แกจะแพ้ แต่ก็มีคนมาช่วยแกไว้แล้ว ขอแค่เขายอมไป ข้อต่อรองของเราก็สิ้นสุด”  อิฐยิ้มมีเลศนัยพลางล้วงซองสีขาวออกมาจากเสื้อนอกแล้วส่งให้

                สิ่งที่อยู่ด้านในทำให้คนที่เปิดอ่านตกตะลึงจนตาค้าง...

                อิฐขยับเข้ามาใกล้คล้ายจะกอด เขาบีบไหล่น้องชายไปทีหนึ่งพลางกระซิบด้วยเสียงเคร่งเครียด

                “เขายอมเสียสละสิ่งที่รักที่สุดให้แกได้... ไม่ว่ายังไง อย่าทำให้เขาเสียใจนะ”

                ++++++++++

                แผ่นฟ้ากลับมาที่บ้านแทบจะในทันที แล้วก็เป็นอย่างที่คิด เขาเจอบีทเล่นกับโฟร์วิลด์อยู่หน้าบ้าน

                “กลับมาแล้วเหรอ? ทำไมวันนี้กลับไวจัง?” บีทส่งยิ้มมาให้ ถามเขาเหมือนคำพูดธรรมดา 

                แผ่นฟ้าจ้องมองอีกฝ่ายเต็มตา ในใจรู้สึกหนึบหน่วงขึ้นมาพลัน สองเท้าเร่งก้าวเข้าไปหาแล้วดึงบีทเข้ามากอดไว้ทันที

                “อะไรของคุณเนี่ย?” บีทถามพร้อมหัวเราะน้อยๆ

                แผ่นฟ้าไม่ได้ตอบยังคงกอดรัดร่างอีกฝ่ายแน่น เนื่องด้วยเขามัวแต่ยุ่ง เพราะหวังลึกๆ ว่าบางทีผลประกอบการอาจจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่ต้องการ  เลยไม่ทันได้สังเกตว่าบีทไม่ได้ไปไหนเลยมาหลายวันแล้ว

ก่อนหน้านี้เขาจัดตารางงานให้บีท  อีกฝ่ายเลยว่างติดๆ กันหลายวัน ทว่าตอนหลังเขางานยุ่งเพราะต้องเร่งกระตุ้นยอด เลยไม่ได้เข้าไปยุ่งกับตารางงานของอีกฝ่ายแล้ว ดังนั้นการที่บีทจะว่างงานติดกันหลายวันขนาดนี้ย่อมเป็นเพราะบีทยื่นใบลาออกไว้แล้วต่างหาก..

“ทำไมคุณถึงลาออก... พี่อิฐบีบบังคับคุณใช่ไหม?” เสียงของแผ่นฟ้าสั่นเล็กน้อยคล้ายคนจะร้องไห้ บีทจึงเข้าใจว่าอีกฝ่ายคงรู้สึกผิดกระมัง เขาขยับตัวออกมาจากอ้อมกอดแล้วเอ่ยตอบ

“เปล่า เขาแค่ให้เลือกเท่านั้นว่าจะยอมไปจากคุณ หรือจะยอมลาออก แล้วผมก็แค่เลือกลาออกเท่านั้นเอง” คำตอบนั้นตอบออกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ ราวกับว่าเป็นคำถามที่ไม่ได้ตัดสินใจยากอะไรเลย

“แต่เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยนะ คุณไม่จำเป็นต้องลา...”

                “เกี่ยวสิ เกี่ยวมากๆ ด้วย คนเราก็ต้องเรียนรู้ความผิดพลาดของตัวเอง ผมเคยพลาดมาแล้ว แล้วก็ไม่อยากจะพลาดอย่างเดิมอีก ผมไม่อยากต้องมาถามตัวเองว่าผมทำอะไรผิด เพราะคำตอบมันคือผมไม่ได้ทำผิด ผมไม่ผิดเพราะผมไม่เคยทำอะไรเลย”

                “.....”

                “ถ้าผมเลือกที่จะอุ้มท้องให้อิฐตั้งแต่ตอนนั้น เขาคงไม่คงต้องหาคนอื่นมาอุ้มท้องแทนให้ เหมือนกับตอนนี้ถ้าคุณไม่เสียตำแหน่งนั้นไป คุณก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปทำดีกับผู้หญิงคนนั้น ถ้าผมไม่ทำอะไรเลย ผมอาจจะต้องเสียคุณไปอีกคนสู้ผมลากออกไปซะดีกว่า ผมไม่อยากจะต้องมาเสียใจทีหลังอย่างนั้นอีกแล้ว...”

                “แต่คุณรักงานนี้มากไม่ใช่เหรอ”

                “ก็รัก แต่อาจจะไม่มากเท่า...” บีทไม่ได้พูดจนจบทว่ากลับจ้องตาแผ่นฟ้านิ่ง คล้ายจะสื่อสารความในใจ

                คนมองเข้าใจขึ้นมาทันที บีทอาจจะรักงานมาก แต่เมื่อเทียบกับเขาแล้ว บีทก็เลือกเขา แผ่นฟ้าผลิยิ้มตื้นตัน แล้วรั้งร่างอีกฝ่ายมากอดซ้ำอีกครั้ง พร่ำคำขอบคุณซ้ำไปมา “บีท... ผมไม่รู้จะขอบคุณคุณยังไง ขอบคุณจริงๆ นะ”

                “อือ... ไม่เป็นไรหรอก ผมเป็นแฟนกับเจ้าของบริษัททัวร์ทั้งที มีหรือจะกลัวไม่ได้ไปเที่ยว” บีทพูดทีเล่นทีจริงพลางตบหลังแผ่นฟ้าเบาๆ

                “นั่นสิ... ไว้เราไปเที่ยวด้วยกันสองคน ผมจะเป็นคนนำเที่ยวเอง”

                “ที่ไหน”

                “แล้วแต่คุณอยากไปไหน”

                “หึ ทำเป็นพูดดีไปเถอะ ถ้าผ่านไปสักครึ่งปีแล้วเคลียร์งานไม่ได้ ผมไม่ยอมจริงๆ ด้วย”

                “ถ้าผมเคลียร์ไม่ได้ คุณก็เคลียร์ไม่ได้เหมือนกัน ผมจะจัดตารางงานคุณให้แน่นเอี้ยดเลย” แผ่นฟ้าทำเสียงเข่นเขี้ยว

                “ตารางอะไร ก็ผมลาออกแล้วนี่...” บีทเลิกคิ้วฉงน เผลอคิดไปว่าแผ่นฟ้าอาจจะยังไม่ล้มเลิกความคิดที่จะไปร่วมทุนกับผู้หญิงคนนั้นก็พลันหน้าคว่ำทันที “ถ้าคุณหมายถึงบริษัทที่จะไปตั้งใหม่กับผู้หญิงคนนั้นละก็ บอกให้รู้ไว้เลย ผมไม่มีทางยอมไป ให้เลิกกับคุณไปซะยังดีกว่า”

                บรรยากาศเมื่อครู่ ยังซาบซึ้งตื้นตันอยู่เลย มาตอนนี้พลันคุกรุ่นขึ้นมาเฉยๆ แผ่นฟ้าอดละเหี่ยใจไม่ได้

                “ใจเย็นๆ สิ ไม่ใช่สักหน่อย ผมหมายถึงงานที่คุณเพิ่งลาออกไปนี่แหละ ใบลาออกยังไม่ถึงแผนกบุคคลเลย พี่อิฐแค่ทำเรื่องลาพักร้อนให้คุณแล้วส่งใบลาออกมาให้ผมแทนเท่านั้น แล้วผมก็ไม่อนุมัติให้คุณลาออกด้วย เพราะงั้นไว้คุณอยากไปทำงานเมื่อไรก็บอกแล้วกัน”

                “หมายความว่ายังไง” บีทหน้าเหลอหลา เหมือนไม่อยากจะเชื่อ

                “คบกับเขามาตั้งนาน ไม่รู้เหรอไงว่าเขาก็แค่ลองใจคุณน่ะ ถ้าคุณรักผมขนาดยอมลาออกเพื่อช่วยผมได้ เขาก็วางใจแล้วว่าคุณจะไม่กลับไปก่อเรื่องวุ่นวายให้ครอบครัวเขาอีก แล้วมีเหตุผลอะไรให้เขาต้องมาไล่คุณออกอีกล่ะ?”

                บีทอึ้งงันไปทันที แววตาแปลกใจกลายเป็นรอยยิ้มโล่งอก

ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง... เขายังนึกอยู่ว่าอิฐเกลียดเขาขนาดนั้นเชียวหรือ ถึงขนาดตัดหนทางเขาทุกทางอย่างนี้ ไม่ว่าเลือกทางไหนก็เจ็บไม่แพ้กัน... แต่ที่แท้อีกฝ่ายก็เพียงแค่ลองใจเขาเท่านั้นเองว่าเขาตัดใจแล้วจริงหรือเปล่า...

เขาดีใจเหลือเกินที่คราวนี้ตัวเองเลือกถูก เพราะถ้าเลือกงาน เขาก็คงเสียแผ่นฟ้าไปจริงๆ แต่เพราะเขาตัดสินใจเลือกคนที่สำคัญมากที่สุด ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงดีเกินคาด... คือเขาไม่ต้องเสียอะไรไปสักอย่าง

“คุณคิดอะไรอยู่เหรอ?” แผ่นฟ้าเห็นบีทนิ่งไป คล้ายคิดอะไรอยู่ก็เอ่ยถามขึ้นมา

บีทเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้พลางว่า “กำลังคิดว่าจะให้เจ้านายพาไปเที่ยวที่ไหนดี”

“อ๋อ... ที่ไหนก็ได้ แต่ไม่ไปญี่ปุ่นนะ ผมพูดไม่ได้...” อันที่จริงแผ่นฟ้าคิดว่าญี่ปุ่นเป็นที่ที่บีทกับพี่ชายเคยมีความหลังร่วมกัน เขาไม่อยากให้บีทคิดถึงใครคนนั้นขึ้นมาอีก เลยอยากพาบีทไปเที่ยวที่อื่นมากกว่า แต่จะบอกตามตรงก็ ไม่ดีเลยเฉไฉไป

“อ้อ... หรือจะพาไปแถบยุโรป?” บีทเสนอขึ้นมาบ้าง

                “ยุโรปก็ได้... เกาหลีก็ได้”

                “เอ๊ะ... พูดเกาหลีได้?” บีทเลิกคิ้วหันไปถามคล้ายทึ่งในความสามารถด้านภาษาของอีกฝ่ายที่ไม่เคยรู้มาก่อน

เพราะเรื่องภาษาเป็นแค่ข้ออ้าง แผ่นฟ้าก็เลยเผลอเสนอแนะถึงประเทศที่น่าจะให้บรรยากาศโรแมนติกอย่างประเทสเกาหลี แม้ว่าเขาจะพูดภาษานี้ไม่ได้สักคำ เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มรับแล้วตอบกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน... “พูดได้หนึ่งคำ”

“คำว่า?”

“ซารางเฮโย” คำเฉลยออกมาด้วยเสียงหวานเชื่อมทำให้คนที่คาดหวังปั้นหน้าไม่ถูก นึกเคืองตัวเองที่คาดหวังเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้...

                “หึ...” ชายหนุ่มทำได้เพียงแค่นหัวเราะออกมาสั้นๆ แต่เรียวปากคลี่ยิ้มออกมา

                แผ่นฟ้ากลับไม่สำนึกผิดแม้แต่น้อย เขาโน้มหน้าเข้าไปใกล้ เอ่ยย้ำเป็นภาษาไทยว่า “บีท... ผมรักคุณ”

                บีทรับฟังคำนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยดุจเดิม  มีเพียงสายตาอบอุ่นที่ชำเลืองสบกลับไป

                “อื้อ... watashi mo”

+++++++++

The end



"watashi mo" ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า ฉันก็เช่นกัน

++++++++++++++++++



เฮ  จบซะที  หลังจากไปจัดการเรื่องหนังสือจบก็ทั้งติดเกมแล้วก็คิดงานปรู๊ฟ​เลยไม่ได้เขียนต่อ

ช่วงนี้ได้อ่านนิยายหลายเรื่องก็มีแรงบันดาลใจให้แต่งนิยายขึ้นมา

ดีใจที่ในที่สุดก็เข็นเรื่องนี้จนจบได้อีกเรื่อง

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านด้วยนะคะ อาจจะดองนานไปบ้างก็ขออภัยด้วย


แล้วเจอกันใหม่เรื่องหน้าค่ะ ♥♥

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อ๋อยยยยย รักในความเสมอต้นเสมอปลายของแผ่นฟ้า และดีใจกับบีทด้วยน๊าาาา มีความสุขมากๆ ไม่ต้องระแวงแล้วเนอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ขอบคุณมากค่ะ
ดีใจที่บีทมีความสุข
บางทีนายเอกที่เริ่ดเชิ่ดๆก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบนะ ^^

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ดีใจที่บีทกับฟ้ามีความสุข

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 658
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter
รู้สึกโล่งใจที่บีทมีความสุข ถึงแม้ตอนเรื่องของอิฐ
บีทจะดูเอาแต่ใจมาก แต่พอพาร์ทของตัวเองมีความเป็นตัวของตัวเองสูง
น่ารักค่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
บีทมีความหลังฝังใจ ทำให้กลายเป็นไม่ค่อยแคร์ใคร
มั่นใจในตัวเอง ดูแลตัวเองได้ และเรื่องที่บีทไม่อยากมีลูก
ก็ชัดเจนในตัวแล้วเพราะบอกไปแล้ว อยู่กันสองคนก็ได้
แถมที่บ้านไม่ชอบ คนแข็งน่ะ จะปรับจะจูนมันยากและคิดว่าอิฐเข้าใจ
แต่พอมีคนมาให้เทียบ กลายเป็นบีทไม่พยายาม แป่ววว เจ็บเลยงานนี้

แผ่นฟ้าคือผู้กู้ความสดใส และความมีชีวิตให้บีทนะ
อย่างน้อยก็ทำให้มีอารมณ์ ความรู้สึกตลอดเวลา
แผ่นฟ้าทำให้เห็นว่าจริงจังและจริงใจ เอออ ก็เป็นดีนะ
ถึงจะเคยร้ายมาก่อน คิดไม่มีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เลวร้ายรุนแรง

บีทมีความสุข ได้รักจริง ได้รู้สึกถึงมันจริงๆ
แผ่นฟ้าชนะใจได้แบบดีงาม ความจริงใจเป็นผล

ขอบคุณมากนะคะสำหรับเรื่องราวดีๆ เป็นกำลังใจให้ต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2018 15:40:28 โดย ๛ナーリバス๛ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ namwaan16

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไม่ว่าจะอ่านกี่รอบต่อกี่รอบเราก็ยังไม่เลิกเกลียดอิฐกับเมียมันสักที เพราะเราค่อนข้างจะใส่ใจเรื่องมือที่สามมากเพราะเรื่องที่แล้วดูทุกคนจะใส่ความให้บีทผิดอยู่คนเดียวไม่มองไปที่ตัวพระเอกกับนางเอกเลยว่าพวกนั้นก็ร้ายมากเหมือนกันเรื่องนั้นเราอ่านแค่ตอนแรกก็ข้ามไปอ่านตอนจบเลย

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ชอบคู่นี้จัง
ดูลงตัวทุกอย่างเลย
เสนอมุมมองการถูกนอกใจ
เป็นอะไรที่รับไม่ได้จริงๆนั่นแหละ
อิฐไม่หนักแน่นพอเลยทำให้เป็นอย่างงี้
แต่ก็เหมือนชดใช้ ให้บีทเจอรักจริงบ้าง
อยากอ่านตอนพิเศษคู่นี้จัง
จะมีช่วงบีทท้องไหมนะ

ออฟไลน์ Gatjang_naka

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
เรื่องแม่ บีทรักอิฐจริงเค้าก็ควรเข้าหาแม่อิฐ ถึงแม่จะปากร้ายแต่ก็ใจดี เค้าแค่อยากให้คนที่รักลูกจริงๆ ถ้าเค้าหาด้วยความจริงใจ อ่อนน้อม แม่ต้องรักบีทเหมือนแม็กแน่ๆ แต่บีทเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่ยอมอ่อน แรงมาแรงกลับ แล้วผู้ใหญ่ที่ไหนเค้าจะเอ็นดู

เรื่องลูก อิฐอยากมี ถึงไม่ใช่สายเลือด ไม่ชอบเด็ก แต่คนที่รักอยากมีเด็ก มันก็ต้องรักได้สิถ้าเรารักแฟนเราจริงๆแค่เด็กเอง

เรื่องนอกใจ อิฐชอบแม็กแต่ก็ไม่ได้นอกใจบีท ยังรักและซื่อสัตย์ แต่บีทก็ทำเกินไปที่ผลักแม็กที่ท้องลูกคนที่ตัวเองรักตกน้ำ

แม้ว่าบีทไม่รู้ว่าแม็กว่ายน้ำไม่ได้ แต่การที่ผลักคนท้องลงน้ำไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ ที่เลิกกันเพราะตัวบีทเองไม่ใช่เพราะคนอื่น
ความรักคือ ปกป้อง ดูแล ใส่ใจ หาใช่การครอบครองเสมอไป

ดูเหมือนว่าบีทจะรักตัวเองมากกว่ารักอิฐ เพราะไม่เอาใครเลย แม้แต่แม่คนที่รัก ซึ่งความรักอย่างเดียวมันไม่พอ ถ้าอิฐยังรักบีทอยู่ก็เป็นแบบนี้ต่อไปหรอ แยกบ้าน บ้านแม่ บ้านบีท

สำหรับบีทเราว่ายังรักอิฐไม่มากพอ อิฐทำทุกอย่างเพื่อบีทแต่บีทไม่ได้ทำอะไรเพื่ออิฐเลย นอกจากเอาตัวเอง ดีแล้วที่ต่างคนต่างเลิกเพราะยังอยุ่ต่อไปปัญหาที่แก้ไม่ได้ก็คงไม่จบจนกว่าแม่ของอิฐตายอ่ะมั้ง



ออฟไลน์ PanGii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ้ยบีทน่ารักเกินไปแล้วนะเนี่ย!!!

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ดีใจกับบีทที่ได้มาเจอกับคนที่่มุ่งมั่นและมั่นคงเหมือนแผ่นฟ้าา  บีทร้อนแรง :katai1:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
กลับมาอ่านอีกครั้ง ก็ยังเสียน้ำตาให้บีทอีก
ดีที่มีแผ่นฟ้า บีทจะได้มีความสุขเสียที

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ sakura_sung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด