บทที่14
“อื้มม ม”
ร่างบางที่เริ่มรู้สึกตัวตื่น เพราะความร้อนจากแดดที่ส่องเข้ามาจากทางหน้าต่างห้อง จึงทำให้รู้สึกไม่อยากจะนอนต่อ ดวงตากลมสวยที่ค่อยๆปรือตาลืมขึ้นมาช้าๆ ก่อนที่จะพยายามบิดขี้เกียจ แต่ความรู้สึกหนักๆที่ช่วงเอวมันทำให้ขยับไปไหนไม่ได้นี่สิ
“หือ...เห้ย!!”
“อื้ออ จืด ... แหกปากไรแต่เช้าวะ”
คนข้างตัวที่ยังยึดเอาเอวบางมากอดไว้แน่น ทั้งๆที่บ่นออกมาแบบนั้น แต่หน้าหล่อกลับซุกลงไปบนหมอนไม่ยอมขยับไปไหน
“เห้ย ปล่อยกูดิพี่เหลือง” ขยับตัวไปมาพยายามจะดึงตัวเองออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย ที่ไม่ยอมลุกจากเตียง
“อื้ออ อย่าดิ้น”
“ไม่เว้... หือออ”
“ก็บอกแล้วว่าอย่าดิ้น อื้ม...กูมันคนสุขภาพแข็งแรง เช้าๆแบบนี้ สงสัยนักรบมังกรกูจะตื่นว่ะ”
ยกหน้าขึ้นมาจากหมอน ใบหน้าหล่อๆทั้งๆที่พึ่งจะลืมตาตื่น วงแขนหนาที่คว้ากอดเอวบางเข้าไปแนบชิดมากขึ้น ก่อนจะปรือตามองน้อยๆ หน้าตาเซ็กซี่ที่มาพร้อมกับเสียงในลำคอแผ่วๆ เล่นเอาเลือดจากทุกเส้นในร่าง วิ่งขึ้นมารวมบนหน้าทันที เชี่ยเอ๊ยยยย
“ไอ้เชี่ยนักรบจังไร!”
‘พลัก’
“โอ๊ยยย ไอ้ฝา เจ็บนะโว้ยยย”
พี่ฝาไม่ได้ตั้งใจ พอตกใจแล้วตรีนมันก็จะชอบไปแบบยั้งไม่อยู่ และตอนนี้ก็เช่นกัน วิ่งสิฝาวิ่ง รอให้พี่มันมาสิงกูเรอะ! หนีเข้าห้องน้ำแม่ง ไม่รอให้ไอ้คนที่ถูกถีบตกเตียงตามมาฆ่าหรอกเว่ย
“ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้หลอดนมยาคูล!”
กดล็อคประตูห้องน้ำ พร้อมๆกับเสียงตะโกนของคนที่อยู่ข้างนอกดังลอดเข้ามา ถอดเสื้อผ้าแล้วก้มหน้าลงไปมอง...
“หลอดยาคูลพ่อง! แบบพี่ฝามันต้องหลอดชาไข่มุกเว้ยยย”
ภูมิใจจุงกะเบย - - ……
...
รถสีเหลืองคันหรูที่เลี้ยวเข้าไปจอดในตึกโฟโต้ เล่นเอานักศึกษาที่กำลังเดินเข้าเดินออกคณะถึงกับต้องเหลียวหลังหันมองกันเป็นว่าเล่น เนื่องด้วยว่าไม่คุ้นตา ไม่เคยเห็นว่าจะมีนักศึกษาของคณะนี้ใช้รถแบบนี้ และสีเด้งโดนลูกตาขนาดนี้มาก่อน คนร่างบางที่กำลังนั่งถอนหายใจเป็นรอบที่ล้านอยู่ในรถ จนเจ้าของรถต้องหันมามอง
“ทำไมมึงทำหน้าแบบนั้นวะ ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยไอ้จืด”
“ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องเลี้ยวเข้ามาไงวะพี่”
“ก็กูจะมาส่ง มึงจะทำไม” ตวัดสายตามามองแบบดุๆ จนได้แต่ถอนใจอีกรอบ … ผีเข้าอยากมาส่งกูไปอีก
“ผมไปล่ะ หวัดดีพี่”
“เดี๋ยว!”
“อะไรอีกอ่ะ จะรีบลงแล้วเนี่ย” ยิ่งจอดอยู่นานๆก็ยิ่งเด่น กลัวว่ารูปตัวเองจะไปเด่นหราอยู่ในหน้าเพจมหาลัยอีกเนี่ยแหล่ะเลยอยากจะรีบๆลงไปซะ
“เลิกกี่โมง”
“วันนี้หรอ”
“เออ!”
“เอ้า พูดดีๆไม่ได้หรอวะไอ้พี่” หันหน้าไปมองมันทันทีเลยครับ เป็นไรทำไมชอบตะคอก ถ้ามึงเจ็บคออย่ามาบอกให้หายาอมให้นะมึง
“เออๆ ...ก็นั่นแหล่ะ สรุปว่าไง” อีกคนที่ทำหน้าหงุดหงิดตอบกลับมาให้ แต่ก็ยอมลดเสียงลงและถามออกมาแบบอ้อมแอ้ม
“วันนี้เลิกบ่าย3”
“เออ เดี๋ยวกูมารับ”
“หือ?...มารับทำไมวะพี่”
“เสือก! ลงไปเลยไอ้จืด ไปๆ”
ไม่ว่าเปล่า อีกฝ่ายที่เอามือมาดันๆไหล่ผมให้รีบลงอีกต่างหาก เอากับมึงเลยไอ้พี่ คนเชี่ยไรเอาใจยากชะมัด เอาแต่ใจตัวเองจริงๆ ผมที่แค่ส่ายหน้าหน่ายๆ แต่ก็ยอมลงจากรถมา เห็นรถหรูสีเหลืองตาสี่ห่วงที่ขับออกไปด้วยความเร็ว คือมึงไม่รู้หรออิพี่ นี่รั้วมหาลัยไง ไอ้คนไม่มีมารยาทเอ๊ย ... ถึงจะด่ามันแบบนั้น แต่มันก็อดจะยิ้มๆไม่ได้อ่ะนะ พี่ฝาไม่ได้มีความสุขหรอกนะ มันแค่ยิ้มๆเฉยๆ
หันหลังจะเดินเข้าไปในตึกคณะ ก็เห็นร่างโปร่งของใครบางคนที่เดินลงมาจากรถอีกคัน ได้แต่ขมวดคิ้วมองอยู่แบบนั้น ยืนเสือก เอ้ย ยืนมองจนรถคันนั้นแล่นออกไป และในที่สุดร่างโปร่งนั่นก็หันมาเห็นผม ที่ยืนมองมันมาสักพักแล้ว ... ไอ้หมอกที่สะดุ้งตอนเห็นหน้าผม คือกูแค่จืด ไม่ถึงกับหน้าเละไงครับเพื่อน ส่งยิ้มให้มัน อีกฝ่ายที่ก็เดินเข้ามาหา พร้อมยิ้มกว้างมากๆส่งมาให้ เป็นอาการของคนที่กำลังมีพิรุธ พี่ฝาสัมผัสได้ พี่ฝาไม่ได้โง่นะรู้ยัง
“มึงมารถใครวะไอ้หมอก”
“อ่อ เอออออ กูมารถเพื๊อน” แหม...น้องหมอกของพี่ฝา กูนึกว่ามึงเป็นนักร้องโอเปร่า เอาจริงๆเสียงนี่แตะโน้ตตัวสุดท้ายกันเลยทีเดียว พยักหน้าเออออๆตามที่มันอยากให้กูเข้าใจ ถึงแม้ว่า กูจะแอบคุ้นรถคันนั้นเหมือนเคยเห็นแถวๆตึกคณะบริหารก็เถอะ เค้าไม่อยากบอก เราก็นิ่งไปครับ
“อ๋อ มึงมารถเพื่อนมึงนี่เอง แล้วรถมึงล่ะ”
“อ่อ...คือรถกู แบบ....”
“ไปแดกข้าวดีกว่า ไว้มึงหาคำตอบดีๆให้กูได้ ค่อยไลน์มาบอกนะเพื่อนนะ” ฉีกยิ้มให้มันแบบกวนตีน ไอ้หมอกที่ก็แค่ขยับปากด่าแบบไม่มีเสียงมาให้ อ่านปากของมันได้ว่า ‘ขวย’ .... แหมมมม แจกพี่ฝาแต่เช้าเชียว
เดินกันเข้าไปในโรงอาหาร เห็นไอ้ธารนั่งหน้าหิวตับเด็กอยู่ก่อนที่โต๊ะประจำ ไอ้หมอกหยุดชะงักทันที หันไปมองมันงงๆ ผีเข้าหรืออะไรไหนบอกพี่มา
“มีไรวะ”
“คือ...กูว่าไอ้ธารน่าจะโกรธกูว่ะมึง”
“ทำไมวะ? มึงขโมยขนมมันหรอ” อยากจะบอก เป็นกูกูก็โกรธครับ แม่งไม่คูลเลย เพื่อนกัน ห้ามขโมยขนมกูนะบอกก่อน
“สัด ซีเรียส” ทำหน้าทำตาด่ากูทางอ้อม ห่าเอ๊ย นี่กูก็ซีเรียสอ่ะ แต่ไม่เอาครับ ไม่เถียงดีกว่า คนคูลต้องไว้ท่านิดนึง
“แล้วสรุปคืออะไร เป็นไรกันวะ”
“คือ....คือวันนั้นกูไปกินข้าวกับมัน แล้ว....”
“มึงชิ่ง มึงไม่จ่าย เสรดดดดด ข่นเฬววว”
“ก็ฟังกูให้จบก่อนได้ไหมล่ะ เดี๋ยวกูถีบสักที”
“อ่ะๆ ต่อเลยจ๊ะๆ พี่ฝาไม่ขัดละเออ” ทำท่าทางขัดใจใส่กูอีก แต่ก็ยอมพูดออกมาต่อ
“คือกู...แอบหนีกลับบ้านไม่บอกมันว่ะ”
“อ้าว แล้วไมมึงทำงั้นวะ” เลิกคิ้วมองมันแบบสงสัย คนแบบไอ้หมอก จริงๆมันไม่ใช่คนทิ้งเพื่อนครับ เป็นคนเฮไหนเฮนั่นกับเพื่อนเสมอ ไอ้เรื่องจะกลับก่อนไม่บอกนี่ไม่ใช่วิสัยคนแบบมันสุดๆ
“คือ...”
“เอาเถอะ มึงไม่ต้องบอกกูหรอก มึงไปบอกไอ้ธารเหอะ กูว่ามันคงไม่โกรธมึงหรอก”
บอกออกไปแบบนั้น พร้อมตบบ่าให้กำลังใจมันสองแปะ ถึงจะบอกมันแบบนั้น แต่หนังหน้าไอ้ธารตอนนี้ เหมือนหมีหิวกล้วย(?)มากอ่ะคุณเอ๊ย หวังว่ามันจะไม่จับไอ้หมอกแดกเข้าไปก็พออ่ะนะ
เดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะ ไอ้ธารก็ลุกขึ้นยืนทันที ... ไหนๆมึงก็ยืนละ งั้นกูนั่งละกัน
“ธาร” ไอ้หมอกเดินเลียบๆเคียงๆเข้าไปหา พร้อมยิ้มแหยๆไปให้ ไอ้ธารที่เดินตรงเข้ามาจับแขนมันแบบโกรธๆ กูว่าผิวบอบบางแบบไอ้หมอก แม่งต้องเป็นรอยแน่ๆ
“มึงหายไปไหนมาไอ้เหี้ย! โทรหาก็ไม่รับ มึงคิดจะหายก็หายไปแบบนี้ได้หรอวะ มึงคิดบ้างไหมว่าจะมีใครเป็นห่วง”
หน้าตาถมึงทึงมาพร้อมเสียงที่ไม่เบา กูนี่อ้าปากค้างลุกขึ้นจะห้าม แต่ไอ้ธารหันมามองแรงใส่ก่อน พี่ฝาทรุดตัวลงนั่งที่เดิมก็ได้ โอเค พี่จะไม่ก้าวก่าย เชิญพี่ตามสบายเลยครับพี่ครับ
“เห้ยธารรรรรร กูขอโทษเว่ย” ไอ้หมอกที่ทำเสียงอ่อย แล้วเดินเข้าไปเกาะแขนไอ้ธารอ้อนๆ อีกฝ่ายที่ทำท่าจะอ้าปากด่า เลยงับปากลงแทบจะไม่ทัน โอ้โห ... เจอลูกอ้อนน้องหมอกเข้าไป จ๋อยเลยเว่ย
“พอดีว่ากู....แบบว่า แบบว่ากูมีธุระด่วนมาก”
“ด่วนขนาดไหนมึงถึงไปโดยไม่บอกกูวะ โทรหาก็ไม่รับ” ไอ้ธารที่ว่าแบบนั้น ทรุดตัวลงนั่งทำเสียงฮึดฮัดๆในลำคอแบบไม่สบอารมณ์อยู่หน่อยๆ แต่ดูท่าว่าจะดีขึ้นกว่าตอนแรก
“โหย ธารคร๊าบบบ พี่หมอกขอโทษจริงๆนะ” มันที่นั่งลงข้างๆ เอียงหน้าไปถูๆที่ไหล่ไอ้ธาร
“เชี่ยเอ๊ย ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะมึง ...ไอ้กูก็กลัวว่ามึงจะโดนใครฉุดไปปล้ำในห้องน้ำ”
หันไปมองหน้าไอ้หมอก มันที่ชะงักหน่อยๆ เป็นเชี่ยไรอีกล่ะเพื่อน? แต่ก่อนที่จะมีใครพูดอะไรต่อ ร่างสวยๆในกระโปรงนักศึกษาสั้นๆและรองเท้าส้นสูง ก็ปราดเข้ามาที่โต๊ะของเรา ไม่ใช่ใครอื่น....ไอ้เซียร์ แต่คราวนี้มันกลับหนีบใครบางคนมากับมันด้วย...
“ฮัลโหลค่ะพวกมึง ดูซิว่ากูพาใครมาด้วย” หันหน้าไปมองก่อนจะยกมือไหว้
“หวัดดีครับพี่เทียน”
“เออๆ หวัดดีพวกมึง ว่าแต่ทำไรกันอยู่วะ ทำไมหน้าเครียดๆ” พี่เทียนที่พยักหน้าตอบแล้วส่งยิ้มมาให้ สายตาพี่แกมองไปรอบๆโต๊ะ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่มือของไอ้หมอกที่เกาะอยู่ที่แขนไอ้ธารนิ่งๆ
“ไม่มีไรหรอกพี่ ผมกำลังเฉ่งไอ้หมอกนี่อ่ะดิ เมื่อวานไปกินข้าวกับผม อยู่ๆแม่งหายตัวไปเฉย” ไอ้ธารที่ตอบออกมาแบบนั้น พร้อมมือของมันที่ยกขึ้นผลักหัวไอ้หมอกอย่างหมั่นไส้ ไอ้เซียร์มองแล้วเบ้ปากใส่หน่อยๆ
“อ่อ หรอ” พี่เทียนที่ตอบรับแบบนั้นพร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก
“ว่าแต่พี่เทียนมาไมหรอครับ” เป็นกูที่หาบทให้ตัวเองได้สักที เลยถามพี่แกออกไปแบบนั้น อีกคนที่แค่หยิบมือถือเครื่องนึงออกมา เป็นมือถือราคาแพงยี่ห้อผลไม้ที่ผมออกจะคุ้นตาอยู่หน่อยๆ
“มึงลืมเอาลงมา กูเลยวกกลับเอามาให้”
พี่เทียนที่ยื่นมือถือไปให้ไอ้หมอกพร้อมบอกแบบนั้น ดวงตาคมที่มองมันนิ่งๆ
“อ่ะ...เอ่อ ขะ...ขอบใจ”
“อืม”
รู้สึกเดทแอร์ขึ้นมาซะงั้น ไอ้หมอกที่รับมือถือมาไว้กับตัวไม่พูดอะไรต่อ พี่เทียนเลยแค่หมุนตัวกลับออกไป อะไรซิ?
“ยังไงคะอิหมอก อธิบายคนสวยแบบกูมาเดี๋ยวนี้” และเราไม่ต้องเสือกเอง ทีมเสือกเรื่องเพื่อนเสมอต้นเสมอปลายยกให้ซินเซียร์เค้าครับ
“ก็ไม่มีอะไร”
“ไม่มีก็เหี้ยละ อย่ามาหลอกคนสวยแบบกู ทุกทีมึงรังเกียจพี่เค้าจะตาย แล้วไม่ทราบว่านี่อะไร มือถือมึงไปอยู่กับเค้าได้ยังไง”
“ก็แค่บังเอิญ”
“บังเอิญยังไง” ไอ้ธารที่รับไม้ต่อจากไอ้เซียร์ถามกดันมันต่อทันที ไอ้หมอกที่ได้แต่หลบตา น่าสงสารมันนะครับ
“ก็....”
“กูหิวน้ำว่ะ ไอ้หมอก มึงไปเลี้ยงกูหน่อยเดะ”
ผมที่ขัดขึ้นมาแบบนั้น ไอ้หมอกที่มองหน้าผมแบบขอบคุณ ก่อนมันจะลุกตามผมขึ้นมาทันที ปล่อยให้ไอ้เซียร์กับไอ้ธารทำหน้าหงุดหงิดในการเสือกไม่สำเร็จต่อไป
“ขอบใจนะมึง”
“ไม่เป็นไร แต่ว่านะ...เรื่องบางเรื่อง มึงปิดไปตลอดไม่ได้หรอก...ป้าครับขอโกโก้ปั่น”
“กู...กูมากับไอ้เทียน”
ผมหันไปยิ้มให้มันก่อนจะพยักหน้าให้ ไม่อยากบอกเท่าไหร่ว่ากูเห็นเว่ย กูแบบว่ายืนเสือกอยู่ตอนนั้น กูเห็น แต่ไม่บอกมึงหรอก รอให้มึงเล่า
“คือ...จริงๆแล้ว” ลุ้นจนเยี่ยวเหนียว แต่กูต้องทำนิ่ง นิ่งแบบคูลอ่ะครับ
“คือ มันบอกมันจะจีบกู”
“ห๊ะ!” อ้าปากค้างเลยกู อะไร ยังไงซิ?
“จริงๆมันมีหลายเรื่องมากเลย แต่แบบ...กูก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ไม่รู้จะบอกกับพวกมึงยังไงดี”
“อ่า...แล้วมึงว่ายังไง คือ...กูไม่เคยคิดว่ามึงชอบผู้ชายเลยว่ะเอาจริงๆ อีกอย่าง...มึงบอกกูว่ามึงเกลียดพี่เทียนนี่หว่า มึงบอกว่าเค้าเคยแย่งแฟนมึงนี่”
งงเป็นไก่ตาแตก ตอนที่ยื่นเงินไปจ่ายค่าโกโก้ ดูดซักอึก เผื่อกูจะเข้าใจอะไรมากขึ้น
“ก็เคยแย่ง แต่...มันก็มีอีกหลายๆเรื่อง คือ...”
“เออช่างเถอะถ้ามันพูดยาก ว่าแต่...พี่มันจะจีบ แล้วมึงโอเคหรอวะ มึงอนุญาตมัน?”
“ก็เปล่า”
“อ้าว ไม่ปฏิเสธไปล่ะ”
ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ มึงไม่ชอบก็ปฏิเสธไปสิ แต่ก็อย่างว่า การปฏิเสธความสัมพันธ์ใครสักคน...มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักหรอก พอพูดมาถึงตรงนี้ มันก็อดคิดถึงคนๆนึงไม่ได้ ... พี่โซล
‘ตือดึ้ง’
เสียงข้อความจากโปรแกรมแชทสุดฮิต ดังขึ้นมา จนผมต้องยกมือถือขึ้นมาเปิดดู ในจังหวะที่ไอ้หมอกก้มหน้าก้มตาเหมือนคิดอะไรอยู่ ก็ปล่อยมันคิดไป.... เปิดโปรแกรมไลน์แล้วต้องขมวดคิ้วหนักขึ้นไปอีก คนที่ไม่คิดว่าจะส่งมา
((นักรบ : ถึงคณะแล้ว))
((นักรบ: เฮ้ ...กูพูดด้วยก็ตอบสิวะ ไอ้จืดดดดด))
กระพริบตาปริบๆเลยกู นี่ตาฝาดหรืออะไร ไอ้พี่นักรบส่งมา....ส่งมาบอกว่าไปถึงคณะแล้วนี่นะ คืออะไรซิ?
((ฝอฝา: อ่าหะ...พี่ พี่บอกผมทำไมวะ)) พร้อมส่งสติ๊กเกอร์หมีน้ำตาลทำหน้างง
((นักรบ: ส่งสติ๊กเกอร์มินเนียนทำหน้าหงุดหงิดมา))
((นักรบ: ไม่รู้เว่ย แค่กูเห็นเพื่อนกูมันส่งบอกเด็กมันตลอดแบบนี้ เลยทำมั่ง))
((นักรบ: กูไม่ได้คิดถึงมึงนะ ไม่ได้อยากจะบอกว่ากูถึงแล้วหรอก กูเปล่า กูแค่ทำตามเพื่อนเว่ย!))
((นักรบ: พอแยก จบ!!))
((นักรบ: นี่...กูไม่ได้ให้ความสำคัญมึงนะเว่ย! กูแค่ส่งมาบอกเพราะทำตามเพื่อนเฉยๆ))
กระพริบตาปริบๆหลังอ่านข้อความที่อีกฝ่ายส่งมารัวๆแบบไม่เปิดโอกาสให้กูได้กดปุ่มพิมพ์ อะไรของวะ...อะไรของมึง !! ไม่ได้หมายถึงไอ้นักรบนะ หมายถึงกูเนี่ย...ยิ้มอะไรของมึงนักวะไอ้ฝา!!
“ฝา...กูว่ามึงหน้าแดงล่ะ”
สัดหมอก เงียบปาก!
อย่าเอาเรื่องจริงของหน้าตากูมาล้อเล่นออกสื่อแบบนี้ดิ พี่ฝารู้สึกร้อนหน้าจังเลยครับ >//////<
.
.
.
“กรี๊ดดดดดด วันนี้เป็นวันดีมากจ๊ะเธอจ๋า อาจารย์ไม่สั่งการบ้าน อิเชี่ย โซ อเมซิ่งมักๆ”
“มึงไม่กรี๊ดไม่ได้หรอเซียร์”
“มึงไม่ขัดกูบ้างได้ไหมล่ะอิธาร อิเพื่อนเลว”
“ก็เสียงมึงดัง มันหนวกหูกู”
“เบื่อค่ะเบื่อมาก ขัดคนสวยแบบกูอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน กูขอให้มึงได้เมียที่เสียงดังยิ่งกว่ากูอีก”
“ไม่มีทางเว่ย”
“เกลียดอะไรมักได้แบบนั้น คอยดูเถอะมึงอิธาร ส่วนอิสองตัวข้างหลัง ลืมปากไว้ในห้องเรียนหรอย๊ะ”
ผมกับไอ้หมอกที่เดินตามพวกมันออกมาจากห้องเรียนเงียบๆ อุตส่าห์สงบปากสงบคำ ก็ยังจะหันมาแว้งกัดกู หันไปหาไอ้หมอก มันที่แค่ก้มหน้ามองมือถือเดินตามมาอยู่แบบนั้น คิดว่ามันพยายามที่จะไม่พูดอะไร เพื่อไม่ให้ไอ้เพื่อนๆตัวดีทั้งหลาย เสือกเรื่องของมันได้นั่นแหล่ะครับ
“โอ๊ะ โอววววววว....”
ไอ้เซียร์ที่อยู่ๆก็หยุดเดิน ก่อนมันจะร้องออกมาแบบนั้น เสียงของมันทำให้พวกผมที่เหลือต้องมองตามไป ที่ถนนหน้าตึกคณะ รถหรูที่จอดโดดเด่นอยู่หน้าตึก สีเหลืองแสบตา ไม่บอกก็รู้ว่าของใคร ก็เพราะว่าเจ้าของรถร่างสูงที่ตอนนี้อยู่ในชุดนักศึกษา มันที่ยืนพิงรถอยู่แบบนั้น ใบหน้าคมหล่อที่กำลังก้มหน้ามองมือถือเครื่องหรูภายใต้กรอบเคสสีเหลืองลายมินเนียน ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆที่เสียงซุบซิบในคณะดังอื้ออึง หึ่งๆเหมือนผึ้งแตกรังอยู่แบบนี้ ด้วยว่าใครๆก็คงจะสงสัย ว่า พี่นักรบจากบริหาร มายืนหล่อรอใครอยู่หน้าตึกโฟโต้แบบนี้ ... ไอ้เซียร์ที่หันมามองหน้าผมแบบจิกๆขอคำตอบทันที
“นอกจากไอ้หมอกแล้ว กูว่ามึงก็อีกคนที่ยังมีเรื่องไม่ได้บอกพวกกู อิน้องฝาหอย!”
“แหะ” ฉีกยิ้มใส่ทันทีเลยกู
“ไอ้พี่นักรบนั่นมันมาทำไมอีก มันคงไม่ได้มาหามึงหรอกนะอิฝา ไหนมึงบอกว่า...”
“มาสักที กว่าจะเลิกกูรอตั้งนาน”
ขายาวๆที่ก้าวเดินตรงเข้ามาในกลุ่มเราแบบไม่มีใครเชิญ มันเชิญตัวเองมา แถมเสือกบทสนทนาแบบไม่มีใครร้องขอด้วยครับ ... ไอ้นักรบที่ทำหน้านิ่งๆในแบบที่มันชอบทำ ไอ้ธารกับเซียร์หันหน้าไปจิกตาใส่ทันที
“เอ่อ...”
“ไปได้แล้ว”
มันที่พูดขัดประโยคผมออกมาแบบนั้น ไม่ได้สนใจหนังหน้าเพื่อนในกลุ่มผมสักนิดว่ามองมันในแบบไหน มือหนาที่เอื้อมมาหยิบกระเป๋าเป้ของผมออกจากบ่า แล้วเอาไปสะพายไว้เอง
“คือ....”
“จะเอ่อๆคือๆอีกนานไหมไอ้จืด ไป”
ไม่ได้สนใจใดๆ แค่คว้าข้อมือของผมไปจับไว้ แล้วตั้งท่าจะพาเดินออกมา แต่ติดตรงที่ไอ้เซียร์เดินมาขวางไว้ซะก่อน
“เดี๋ยวค่ะพี่รบ”
“หื้ม?” น่าตบที่สุดก็ตอนเอียงคอเลิกคิ้วใส่ไอ้เซียร์นี่ล่ะ ทำหน้าทำตาไม่รู้เรื่องรู้ราวไปอีก
“พี่จะพาไอ้ฝาไปไหนคะ”
“พาไปหาอาหารกิน” ไอ้สัด! อยากจะด่าแบบนี้ หาอาหารพ่อง พาไปกินข้าวอะไรมึงก็ว่าไปเซะ
“แล้วทำไมต้องพามันไป พี่เป็นอะไรกับเพื่อนหนู หนูเห็นพี่มีผู้หญิงเยอะแยะ ไม่รักไม่ชอบก็อย่ามาให้ความหวังเพื่อนหนูสิคะ ไอ้ฝามันโง่ มันตามไม่ทันหรอก หนูไม่อยากเห็นเพื่อนหนูร้องไห้อีก ถ้าพี่ไม่จริงจัง ปล่อยมือมันซะ หนูจะพาเพื่อนหนูไปแดกหญ้าเองค่ะ”
กูซึ้ง...แต่...มึงหาว่ากูเป็นม้าหรออิเซียร์!! ม้าพ่อง...ควายล้วนๆแบบไม่มีวัวผสมเลยกู
ไอ้นักรบที่จ้องหน้าไอ้เซียร์นิ่งๆอยู่แบบนั้น ก่อนที่มันจะกระตุกยิ้มมุมปากส่งไปให้
“หึ ไม่รัก ไม่ชอบ...ก็ไม่รู้สินะ”
มันที่ตอบออกไปแบบนั้น ก่อนจะดึงมือผมนิดๆให้เดินตามมันไป กูก็ใจง่ายเดินตามไปแบบงงๆ จริงๆก็เพราะว่าไม่เข้าใจในคำตอบของมันมากกว่า
“อ้อ...แล้วไม่ต้องลำบากพามันไปกินหญ้าหรอก เดี๋ยวพี่ดูแลมันเอง”
.
.
.
“พี่ มึงจะพากูไปไหนวะ” หันหน้าไปถามคนที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ตอนนี้
“อยากแดกอะไร”
“ถามไมวะ”
“สมควรที่เพื่อนมึงจะพาไปแดกหญ้านะ ถามแบบนี้ก็แสดงว่าจะพาไปแดกข้าวไงวะ” ละมือออกจากพวงมาลัย แล้วยกมาผลักหัวกูจนเอนไปชนกระจกอีกฝั่ง เจ็บเชี่ยๆ นี่ถามจริงมึงหยอก หรือตั้งใจให้หัวกูโขกเอาดีๆ
“มึงเลี้ยง?”
“ดูจากหนังหน้า ก็ต้องกูเลี้ยงแน่ๆ จะให้มึงหรอ ไอ้ไม่มีอันจะกิน”
“เชี่ยพี่ ถึงบ้านกูจะไม่รวยหรูฟู่ฟ่าแบบมึง แต่กูก็ไม่ใช่ขอทานนะเว่ย”
“หุบปากน่า โวยวายทำไมวะ ถึงมึงจะรวยมากกว่ากู กูก็ต้องเลี้ยงมึงอยู่แล้ว”
“ทำไม?”
“ก็ไม่ทำไม”
“กวนตีนหรอเชี่ยพี่รบ พูดอะไรไม่เข้าใจเลยเว่ย”
“หึ ก็ถ้าจะเป็นผัว ไม่มีใครเค้าให้เมียมาจ่ายหรอก จริงไหมล่ะ”
หันหน้ามายักคิ้วให้กูที่นึงพร้อมยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ ก่อนจะเข้าเกียร์แล้วเหยียบคันเร่งออกไปในจังหวะที่ไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว ผมที่ได้แต่หันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง ก็ไม่เข้าใจเลย พยายามเม้มริมฝีปากเข้าหากันมากๆ อย่านะมึง อย่าเผลอหลุดยิ้มออกมานะไอ้ฝา เชี่ยเอ๊ย ไอ้หัวใจนี่ก็เต้นแรงจัง หรือกูจะเป็นโรคความดันวะ
“อ้อ...แล้วมึงน่ะ อย่าร้องไห้อีกล่ะ”
“หือ?”
“เพื่อนมึงบอกว่ามึงร้องไห้เพราะกู”
“อ่อ...”
“อย่าร้องอีก”
มันที่บอกออกมาแบบนั้น กูก็ได้แต่คิดโดยไม่พูดออกไปเลยว่า ในโลกใบนี้จะมีใครอยากร้องไห้หรอวะ โดยเฉพาะร้องไห้เพราะเราเสียใจ มีความทุกข์ ใครมันจะอยากปล่อยให้น้ำตาไหล ถ้าเราห้ามมันได้ คงไม่มีใครอยากจะร้อง
“ไว้มึงคอยร้อง ในเวลาที่กูรู้จะดีกว่า”
“มึงจะรู้อะไรวะพี่ ก็คนแบบมึง ที่คอยบอกกูตลอด ว่าไม่รู้ๆ...แล้วจะให้กูคอยตอนมึงรู้ มึงรู้อะไร”
หันไปถามอีกฝ่าย ที่เลี้ยวรถเข้าซองถอยจอด และรถก็ค่อยๆจอดลงช้าๆ หน้าร้านอาหารร้านหนึ่ง พี่มันที่เข้าเกียร์ไปที่ตัวPเรียบร้อยพร้อมปลดสายเข็มขัดออก แต่ผม ที่ก็ยังคอยจ้องหน้ามันแบบเดิม จนอีกฝ่ายต้องหันมาจ้องหน้าตอบ
ไอ้พี่นักรบที่กระตุกยิ้มมุมปากมองมาที่ผม สายตาที่ไม่ได้แข็งกร้าวของมันจ้องผมอยู่แบบนั้น ก่อนอีกฝ่ายจะค่อยๆเลื่อนโน้มตัวเข้ามาหา ช้าๆ ช้าๆ...ใกล้จนผมต้องถอยตัวไปแนบกับเบาะรถ ลมหายใจอุ่นๆที่รดอยู่ที่ใบหน้า
‘คลิก’
สายเข็มขัดที่คาดอยู่ที่ตัวผมค่อยๆไหลเลื่อนหลุดออกจากตัวช้าๆเพราะฝีมือคนตรงหน้าที่ปลดออกให้ ทำเอาหายใจไม่ทั่วท้อง แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมถอยออกไป
“สิ่งที่กูจะรู้น่ะหรอ...รักดีๆล่ะมั้ง ที่อาจจะกำลังได้รู้...มึงว่างั้นไหมล่ะ น้องฝา หึ”
ตึกตักๆๆ
เชี่ยยยย หัวใจเต้นแรงรัวๆหลังจากที่คนตรงหน้าพูดแบบนั้นออกมา กูต้องเป็นโรคความดันแน่ๆเลย...ดันไปหลงรักคนชอบสีเหลืองแบบมึงเนี่ย ไอ่บ้า ไอ่บออออออ ... วิบัติเพื่อเสียงนี่บอกเลย พี่ฝาคนคูลไหวหวั่นจุงกะเบยคร๊าบ
“นั่งหน้าแดงอยู่นั่นแหล่ะ เขินล่ะสิ หึ...”
“ขะ เขินเชี่ยไร แค่นี้คูลๆพี่”
“ครับ คูลจนไข้ขึ้น แดงทั้งหน้าทั้งตัว...จริงๆมึงก็ไม่จืดนี่หว่า มองใกล้ๆแบบนี้ก็..........”
“ก็ไรวะ-0-“
“ก็น่ารักดีนะมึงน่ะ”
เชี่ย ไม่ไหวแล้วแม่ง แดกไรมาตอนเที่ยง มึงแรงมากอิพี่ ผลักอกมันออกไปให้ห่างจากตัวผมสักที ก่อนจะเปิดประตูหนีแม่งลงรถเลย
“หึหึ” ยังจะตามมาหัวเราะกูอีก คนเลว หน้ากากคนเลว หน้ากากคนขี้แกล้ง2017!!
ร่างสูงของนักรบที่ได้แต่เดินตามคนร่างบางที่เขินจนหน้าแดงเดินหนีเข้าไปในร้านก่อน ร่างสูงที่ส่ายหัวน้อยๆก่อนจะยกยิ้มขำๆกับภาพตรงหน้า จริงๆก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันก็น่ารักดี คิดแบบนั้นในใจอยู่คนเดียวก่อนจะเดินตามเข้าไป แต่ก้าวไปได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องขมวดคิ้วและหันกลับมามองที่ลานจอดรถอีกครั้ง มีความรู้สึก....
“ไอ้พี่! มึงอย่าช้า กูหิวแล้วครํบบบบ”
“ก็ถ้าจะตะโกนเรียกกูขนาดนี้”
“อย่าบอกว่ามึงอาย กูรู้ว่าพี่มึงมันหน้าด้าน”
“เออ! ใครมันจะขี้เขินหน้าแดงแบบมึงล่ะ”
“พ่อง!”
สุดท้ายก็เลิกสนใจอะไรทุกอย่างก็เพราะไอ้เด็กจืดๆนี่ทุกที คิดแบบนั้นก่อนจะเดินตามอีกคนเข้าไปในร้านอาหาร ไม่ได้จะตามใจหรือใส่ใจมันหรอกนะ ก็แค่...ตอนนี้กูก็รู้สึกหิวแล้วเหมือนกันแค่นั้นแหล่ะครับ
...............
-TBC-
มาแล้ววววววววววววววว หนูมาแล้วจ้าาาา...มีใครคิดถึงเราไหม เราคิดถึงทุกคนเลย
มาในพาร์ทนี้ งื้อออ โดดลงเรือพี่เหลืองแป๊บจะได้ไหม ขอความเป็นพระเอกให้พี่เค้านี๊ดนึงจ้าาาา
ขอความหวานเล็กๆให้นิยายเรื่องนี้นี๊ดนึง เผื่อพาร์ทหน้าพายุจะมาหรืออะไร ง่อวววว
ขอกำลังใจให้แคทหน่อยจ้า หัวใจอ่อนไหว ไหวหวั่นง่าย ขอกำลังใจหน่อยจ้าาาาา
