บทที่19
เช้าวันใหม่ที่ต้องเดินเข้ามหาลัย’ไม่ใช่สิ่งสดใสในโลกของพี่ฝาคนคูลอีกต่อไป ก็ตั้งแต่ที่ก้าวลงจากลุงมอไซด์วิน เดินผ่านป้าขายขนมตาลเจ้าเก่าเจ้าเดิม ตั้งใจว่าจะไม่ซื้อแล้ว เพราะมีความหลังฝังใจ แต่พอหันไปมองหน้าป้าแล้ว พี่ฝาคนคูลก็สงสารครับ กูเลยเดินไปซื้อมา20บาท ราคาเดิมเป๊ะๆ เป็นคนดีนี่มันลำบากจริงๆ พอทีนี้เดินเข้ามหาลัย’มา รับรู้ถึงการตกเป็นเป้าสายตาอย่างโจ่งแจ้ง เอ่อ...หันซ้ายหันขวา ก้มหน้ามองเป้า กูเปล่า...กูรูดซิบแล้ว มองอะไรกันเบอร์นี้ มองไม่พอ ยังจะหันไปซุบซิบกัน หรือว่าพี่คิดมากไปน่ะหือ
“พวกมึง”
“อิฝามึงมาแล้ว มานั่งนี่เลยค่ะ!”
เดินไปนั่งที่โต๊ะม้าหินหน้าตึกโฟโต้ครับ วางขนมตาลลงบนโต๊ะ ไอ้เซียร์ไอ้ธารก็มองกูตาปริบๆ หน้าตาที่มองมาอารมณ์แบบซื้อมาทำไมของมึง
“พวกมึง กูมีอะไรแปลกๆไหม”
“ทำไมวะ”
“ไม่ทำไม แต่แบบกูเดินเข้ามามีแต่คนมอง” บอกไอ้ธารไปแบบนั้น ก่อนจะหย่อนตัวลงไปที่เก้าอี้ม้าหินตัวที่ยังว่าง ไอ้เซียร์เปะปากออกมาทันทีที่ผมตอบแบบนั้น เอ้า กูผิดอะไรครับ
“คนเค้าจะไม่มองมึงได้ยังไงคะ เมื่อคืนเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น”
“มีใครตายหรอ?”
“มึงสิจะตายอิฝา!” ด่าพี่ทำไม พี่ทำไรผิด
“เห้ยพวกมึง หวัดดี้”
ไอ้หมอกที่เสือกเข้ามากลางวง หน้าตาดูแฮปปี้ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างผม มันที่ยิ้มให้ทุกคน ร่าเริงแบบมีพิรุทมากๆครับ ทำตาหลุกหลิก แล้วหยิบขนมตาลที่กูซื้อมาเข้าปากแล้วเคี้ยวๆ....คือกูควรด่ามึงว่าอะไรดีเพื่อน
“มาช้าเสมอต้นเสมอปลายจริงๆนะอิหมอก แล้วนี่มึงจอดรถที่ไหน”
“เห้ย! ขนมตาลนี่อร่อยว่ะ ใครซื้อวะ”
“กูเอง”
“โอ้โห อร่อยวันหลังมึงซื้อมาอีกนะ” หันมาบอกกูแล้วหยิบชิ้นใหม่ไปกินอีก จ๊ะ...น้องหมอกน้อยๆ มึงเปลี่ยนเรื่องได้ส้นเท้ามาก ไม่คูลเลยอ่ะพี่อยากจะบอกน้อง อย่าหาว่าพี่ฝาสอนเลยนะจ๊ะ
“เอ้อไอ้ฝา สรุปเมื่อวานมึงแอบไปเดทหรอวะ” ถ้ากูถีบมึงตกโต๊ะจะได้ไหมสัดหมอก เบี่ยงประเด็นเรื่องตัวเอง แล้วเขวี้ยงขี้ใส่หน้ากูทำไม พี่ว่าไม่โอเคเลยซิ
“แอบเดทพ่อง”
“แต่เมื่อวานมึงก็รีบหนีออกจากห้องเรียน นี่คือมึงแอบกุ๊กกิ๊กกับพี่หมออะไรนั่นหรอย๊ะ”
“เปล่าเว้ย! กูแค่ไปเดินซื้อหนังสือ แต่เจอพี่เค้าโดยบังเอิญ เลยไปคุยกัน”
“คุยกันท่าไหน ได้รูปสวีทมาแบบนั้นวะ”
“สวีทเชี่ยไรล่ะ มุมกล้องโคตรเวอร์”
“ช่างเรื่องพี่หมอนั่นเถอะ ที่กูสงสัยน่ะ มันคือเรื่องที่พี่รบเข้ามาคอมเม้นท์ว่ามึงเป็นเมียมากกว่า บอกพวกกูมาซิว่าคืออะไร”
ก็ถ้ามึงพูดออกมาทั้งทีจะเชี่ยแบบนี้นะเพื่อนธาร พี่ฝาว่ามึงหุบตูดนั่งนิ่งๆเป็นหุ่นเหมือนเดิมจะดีกว่าครับ
“ก็ไม่มีไรเปล่าวะ มันกวนตรีนไปงั้น”
“อิฝา เอดอกกกก คิดว่ากูโง่หรอห๊ะ”
“อ้าว มึงไม่โง่หรอ”
“กูตบมึงได้ไหม สวยขึ้นแล้วกวนตีนหรอห๊ะ”
กูรีบยกมือไหว้แม่เลย พี่ฝากลัวแล้วครับผม ถ้าแดกกูได้คงปีนมากลืนกูลงท้อง ไอ้เซียร์มึงแม่งเป็นผู้หญิงที่ไม่อ่อนโยนที่สุดในชีวิตกูครับ
“สรุป?” ไอ้ธารว่าออกมานิ่งๆ ใช้สายตามองกูแบบกดดันไปอีก จ๊ะพ่อ
“แหม พวกมึง”
“ไม่ต้องมาเสียงอ่อนเสียงหวาน เล่าไหม จะเล่าไม่เล่า ถ้าไม่เล่านี่กูตบจริงๆนะอิน้องฝา”
“พวกมึงจะให้กูเล่าอะไรวะ ถามจริงๆมึงไม่รู้หรืออะไร”
“เอาจริงๆเลยก็คือ คนฉลาดแบบกูก็พอจะรู้หรอกว่ามึงกับไอ้พี่รบมันต้องมีสัมพันธ์สวาสกันแน่ๆ”
“คำพูดมึงนี่นะไอ้เซียร์” ไอ้หมอกว่าออกมาพร้อมส่ายหน้าหน่ายๆ ส่วนกูนี่หน้าเบ้ไปแล้ว
“อ๊ะ หรือไม่จริง มันจริงใช่ไหม พูดค่ะ...อ๊ะๆ อย่าบังอาจปฏิเสธนะอิหนูฝา เพราะกูไม่เชื่อ”
“แล้วกูเลือกอะไรได้ไหม”
“ไม่ค่ะ”
“เออๆๆ”
“เนี่ยเห็นไหมอิธาร กูว่าแล้วว่ามันต้องปะๆโอ้ปะบะลึมมะกึ้มกันแล๊ววววว เห็นไหมอิโง่ กูว่าแล้ว”
“จำเป็นต้องดีดดิ้นเบอร์นี้หรอวะกูถามจริง”
“ก็จะไม่ดีดได้ไง ขนาดอิหนูฝายังมีผัว แล้วกูล่ะ เหมือนโลกลืมกู เหมือนตอนพระเจ้าสร้างกู ลืมใส่ชื่อผัวมาให้ คือคนสวยๆแบบกูจำเป็นต้องมีมดลูกไปเพื่อใคร!”
“ไม่เพื่อใครทั้งนั้นแหล่ะ เพราะมึงไม่น่าเอามาทำเมียไง เป็นผู้หญิงที่ปากและกริยาน่ากลัว”
“อ๊ายยยอิธาร กูอยากเลาะฟันมึงมาทำสร้อยคอ”
“ก็มันจริงนี่หว่า”
“ขอให้เมียมึงดี๊ด๊าลัลลากว่ากูร้อยเท่าพันเท่า!!”
“กูจะเอามาทำไมแบบนั้น กูไม่โง่นะ”
“อ๋อหรา เออใช่สิมึงไม่ใช่คนโง่นิ แต่ก็ไม่ฉลาดเพราะมึงรักคนที่เค้าไม่รักมึงนี่นา ใช่มะ”
ไอ้เซียร์ที่ลอยหน้าลอยตาใส่แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ไอ้ธารอยู่แบบนั้น มันจะไม่อะไรเท่าไหร่ถ้าอีกฝ่ายไม่เสือกนิ่งไปกับคำพูดของเซียร์มันแบบนั้น ไอ้ธารที่ชะงักและหลบตาหน่อยๆในขณะที่ไอ้หมอกก็เสือกขึ้นมาทันที
“เชรดดด มึงไปแอบชอบใครครับเพื่อน ทำไมไม่บอกไม่กล่าวกันคร๊าบ”
มันที่เสือกแบบนั้นแล้วถลาเข้าไปกอดคอโยกหัวไอ้ธารเล่น ไอ้เซียร์ที่ถอนหายใจและกรอกตาแรงมาก กูรู้สึกเหมือนพลาดอะไรไปเลยแฮะ
“เบื่อจริงๆ มีเพื่อนผู้ชายแต่ละคน นอกจากชอบผู้ชาย แม่งยังโง่หมดกลุ่มจริงๆ”
ไอ้เซียร์ที่พึมพำๆงึมงำๆออกมาแบบนั้น พี่ฝาน่รีบเอียงหูเลย แต่ก็ฟังไม่ชัด
“หยุดเสือกอิฝา เอาเรื่องของมึงให้รอดเถอะย๊ะ” หันมาแว๊ดใส่พี่ แล้วผลักหัวจนกระเด็น แม่ม ไม่คูลเลยว่ะเซียร์ ทำกับพี่ไม่คูลเลยครับผม
.
.
.
“ฝา”
เสียงเรียกที่ต้องให้ชะงักขาตัวเองในตอนที่ผมและเพื่อนๆกำลังเดินลงมาจากตึกเรียน หันไปมองก็เจอหน้าหล่อๆของคนคุ้นเคย ผมยิ้มตอบในจังหวะที่อีกฝ่ายเดินเข้ามาหา
“ต๊าย สวัสดีค่ะพี่หมอโซล”
“สวัสดีครับทุกคน”
“ไปไหนมาหรอคะ หรือว่าตั้งใจมาหาใคร” เสนอหน้ามาแบบไม่มีใครเชิญเช่นเคย
“ฮ่าๆ พอดีพี่มาหาเพื่อนน่ะ แต่บังเอิญเห็นพวกเราก่อน”
“อ๋อหรอออ ใช่หร๊อ” เสียงมึงสูงมากครับ
“มึงไม่เสือกได้ไหมล่ะเซียร์ ถอยออกไปไม่ใช่ซีนมึง” ไอ้ธารที่ด่ามันออกมาแบบนั้น ก่อนจะดึงตัวมันให้ถอยออกไป ก็อยากจะขอบใจมากๆ กูกลัวว่ามึงจะสิงพี่โซลเค้ามากในจุดๆนี้
“พี่ มาหาเพื่อนหรอวะ”
“เออ ว่าแต่มึงกินไรยังวะ มีเรียนต่อเปล่า ไปหาไรกินกัน”
“ยังคะ ไปๆๆๆ”
“เค้าชวนมึงหรอ?”
ไอ้หมอกปลายตามองมันหน่อยๆ ไอ้เซียร์เลยถลึงตาใส่ไปแบบนั้น พี่โซลที่หันไปยิ้มให้พวกมัน
“ไปสิ ไปกินกัน เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”
“ว๊าย หล่อ สปอร์ต ใจดี กรุงโซลมากๆค่ะพี่”
“เก็บนอหน่อยไหมล่ะ”
“หุบปากอิหมอก”
ผมที่หันไปทำหน้าแหยๆให้พี่โซล แต่อีกฝ่ายก็ทำแค่ยิ้มตอบออกมาให้ รอยยิ้มที่ผมเห็นแรกๆ วันนี้เหมือนมันกลับมาอยู่บนหน้าพี่เค้าอีกครั้ง บางทีกูก็สงสัย พี่ไปได้อะไรดีมาวะ ที่แน่ๆ ไม่ใช่จากกูอ่ะครับ
และสุดท้าย หลังจากที่ไอ้เซียร์เสนอหน้าออกตัวว่ายังไม่ได้กินอะไร และอยากให้พี่โซลเลี้ยงแบบออกนอกหน้านอกตา เราเลยนัดสถานที่กันเรียบร้อย และแยกกันไป และก็เป็นกูครับ ที่ถูกไอ้เซียร์ยัดเยียดให้มาขึ้นรถพี่โซลแบบหน้าไม่อาย
“ขอโทษนะเว่ยพี่”
“ขอโทษเรื่องไรวะ”
“ก็เพื่อนผมแม่งหน้าด้านไปหน่อยอ่ะ”
“ฮ่าๆไม่หรอก เพื่อนมึงก็น่ารักดี” พี่โซลที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วหัวเราะยิ้มขำๆ หล่อชิพหายครับ ถ้าเป็นผู้หญิงต้องใจระทวยกับพี่แกแน่นอน
“พี่ ผมถามจริง วันนี้พี่ยิ้มอะไรนักหนาวะ”
“กูก็ยิ้มทุกวันไหม”
“มันก็ใช่ แต่แบบวันนี้มันมากกว่าทุกที มากกว่าที่เคยมี แบบเหมือนคนพึ่งเสียน้ำมาแล้วฟิน หรือพี้ยามานะเอาจริงๆ” ผมที่ว่าออกไปแบบนั้น พี่โซลที่หันมามองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะ
“พรืด อุบ ฮ่าๆๆๆ มึงตลกว่ะไอ้ฝา ฮ่า”
จ้า กูตลกมากเลยจ้า เอาซะหน้ากูเปียก กับอิแค่จะขำทำไมต้องพ่นน้ำลายใส่กูวะพี่ หมอหล่อก็ใช่ว่าจะไม่สกปรกนะครับคุณ ต้องเอามือลูบหน้าแป๊บนึงเลยคุณ
“เฮ้ย โทษๆ พอดีกูฮามากไปหน่อย” ไม่หน่อยหรอกกูว่า หน้ากูนี่นึกว่าโดนน้ำมนต์ พี่โซลที่รีบกุลีกุจอหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดให้ผมแบบนั้น ก็ขอบคุณมากๆครับ แม้ว่าหน้ากูจะเปียกไปแล้วก็ตาม
‘พรึบ’
“อ๊ะ!”
ยังไม่ทันที่หน้ากูจะแห้ง มือหนาๆก็กระชากข้อมือของผมอย่างแรง ทำเอาถลาไปตามแรงกระชากนั่นจนหน้ากระแทกเข้ากับอกแกร่ง เงยหน้าขึ้นมาจากอกแกร่ง ก็ต้องสะดุ้งกับสายตาที่ก้มมองลงมา .... นักรบ
“เชี่ย!”
“มึงทำอะไรกัน”
เสียงทุ้มที่กดเสียงเข้มใส่ พร้อมๆกับดวงตาคมที่จ้องมองหน้าผมแบบไม่พอใจสุดๆ พอตั้งหลักได้ก็รีบผละออกจากอกของอีกฝ่าย แต่ก็อย่าคิดว่าจะหลุดออกจากมือแกร่งนั่นได้
“ทำอะไรแล้วเกี่ยวไรด้วยวะไอ้พี่รบ”
“กูเกี่ยวกับมึงทุกเรื่องแหล่ะไอ้ฝา มึงจะเอาเรื่องไหนก่อน!****”
ดวงตาคมที่กดหน้าจ้องลงมามองผมแบบดุๆ ฝ่ามือหนาที่บีบแขนบางไว้แน่นขึ้นตามแรงอารมณ์ทำเอาร่างบางต้องเบ้หน้า
“เห้ย กูว่ามึงปล่อยฝามันก่อนดีกว่า”
“เสือกไอ้เมืองหลวงเกาหลีใต้!”
“ห๊ะ?” พี่โซลที่หน้าเหวอออกจะงงหน่อยๆกับคำพูดนั้น สงสารแต่ก็ไม่ทันที่จะได้อธิบายอะไรให้พี่เขาเข้าใจมากขึ้น ก็ถูกคนตรงหน้ากระชากให้เดินตามมา พี่โซลที่ตั้งท่าจะวิ่งตาม
“
หยุด! ถ้ามึงรู้แบบที่เคยบอกกู ก็อย่าเสือก!”
ใบหน้าคมเฉียบที่สะบัดไปมองร่างของหมอหนุ่มแบบดุดัน ทำเอาอีกฝ่ายต้องหยุดชะงัก นักรบไม่รอให้ใครได้พูดอะไรออกมาอีก ตั้งหน้าตั้งตากระชากแขนบางให้ตามมา ก่อนจะเปิดรถและโยนคนร่างบางเข้าไปในรถทันที
“โว้ย! ปล่อยนะไอ้เชี่ยพี่เหลือง” ฝ่ามือเรียวที่แทบจะพังประตูให้รถเปิด ติดตรงที่อีกฝ่ายล็อครถจากข้างนอก ก่อนจะรีบวิ่งมาขึ้นนั่งทางด้านคนขับทันเวลา
‘พรึบ’
“อึก อื๊อ อืออออ”
ฝ่ามือหนาที่กระชากแขนเรียวเข้ามาหาตัว ก่อนจะบดจูบริมฝีปากลงไปโดยไม่ให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว มือเรียวที่พยายามดันอีกฝ่ายให้ออกไปแต่ก็ไม่เป็นผล ฝ่ามือหนาที่เอื้อมไปล็อคท้ายทอยให้อยู่นิ่ง ก่อนที่จะแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย ก่อนจะกวาดต้อนความหอมหวานตรงหน้าอย่างกระหาย ขบเม้นดูดดึงปลายลิ้นเล็กจนคนร่างบางต้องจิกฝ่ามือลงที่ต้นแขนแข็งแรง ฝ่ามือแกร่งที่ละออกจากหลังท้ายทอย ก่อนจะเปลี่ยนมาประคองข้างแก้มใส ลูบไล้แผ่วๆเอียงหน้าทำมุมค่อยๆกดจูบให้ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาคนร่างบางสะท้านไปทั้งตัว จากที่ขัดขืนก็อ่อนละทวยฝังตัวลงกับเบาะรถ พร้อมกับเสียงครางแผ่วๆ
“อื้ม อื้ออ”
ริมฝีปากของนักรบที่เปลี่ยนมากดจูบดูดดึงอ้อยอิ่งที่ริมฝีปากล่างเบาๆ คลอเคลียลิ้นร้อนไปตามไลฟันและริมฝีปากบาง เปลี่ยนความรู้สึกร้อนแรงที่ชวนเสียวซ่านในช่องท้องมาเป็นอบอุ่นละมุ่นที่ช่วงอก ผ่านไปนานหลายนาทีกว่าที่ร่างสูงจะค่อยๆผละริมฝีปากออกมาช้าๆ ใบหน้าคมที่ไม่ได้ละไปไหนไกล พร้อมกับยังใช้ดวงตาคู่คมจ้องเข้าไปในดวงตาใสที่ตอนนี้ก็ปรือตามองกลับมาอย่างเหนื่อยอ่อน พร้อมทั้งยังพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดให้มากที่สุด
“
ทำให้กูไม่มีทางไป เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อยนะมึง” นักรบพูดออกมาเสียงไม่ดังมากนัก นิ้วหัวแม่มือที่ยังคงลูบเบาๆอยู่ข้างแก้มช้าๆ ทำเอาหน้าของร่างบางถึงกับร้อนแปลกๆ
“พะ...พูดบ้าอะไรของมึงวะพี่”
“หึ โง่”
“ปากหมานะ แล้วมึงมาจูบกูทำไมไอ้บ้าเหลือง” เมื่อตั้งตัวได้ก็รีบผลักอกแกร่งให้ถอยห่าง ซึ่งคราวนี้นักรบก็ยอมถอยออกมานั่งที่เบาะของตัวเองแต่โดยดี ร่างสูงยักไหล่ใส่อย่างไม่สนใจก่อนจะตอบออกมาแบบกวนประสาทไปอีก
“กูจะจูบ กูจะยุ่ง แต่มึงอ่ะไม่ต้องยุ่ง”
“มึงบ้าหรอวะไอ้พี่ ก็มันเรื่องของกูอ่ะพี่ จะไม่ให้กูยุ่งได้ไง ที่มึงจูบก็ปากกู มึงนั่นแหล่ะอย่ามายุ่งกับกู”
“กูจะยุ่ง กูจะยุ่งกี่เรื่องก็ได้”
“มึงจะมายุ่งทำไมวะพี่! เพื่ออะไร เพราะอะไร!”
“บอกว่าอย่ามายุ่งไง”
“โอ๊ย ไอ้บ้า กูจะโมโหมึงแล้วนะไอ้พี่”
“บ้าก็เรื่องของกู”
ถ้าทำได้กูจะกระโดดกัดหูมัน ไอ้เชี่ยกล้วย! ได้แต่ทำปากขมุบขมิบตามันแบบไม่มีเสียง และอีกฝ่ายก็ทำเป็นไม่สนใจพอว่าออกมาแบบนั้นจบ ก็เหยียบคันเร่งออกไปตามใจตัวเอง
“แล้วนี่จะขับไปไหน กูไม่ไปกับมึง กูมีนัด มึงจอดเลย!”
“นัดอะไร! เหอะ กับไอ้เมืองหลวงนั่นล่ะสิ”
“มึงนี่ เค้ามีชื่อนะ”
“ชื่อเหี้ยไรก็ช่างมัน กูสดวกแบบนี้มึงจะทำไม”
“แล้วแต่มึงเถอะพี่ แต่ตอนนี้น่ะมึงจอดเลยนะ”
“มึงสั่งกู?”
“ก็เออน่ะสิ”
“นอนไหม?”
“อะไรของมึงพี่ - -”
“ก็นอน มึงจะได้ฝันเอาไงว่ากูจะจอดน่ะ”
“ไอ้...!”
“หุบปาก! กูยิ่งหงุดหงิดอยู่นะมึง”
“กูสิที่ต้องหงุดหงิด”
ถลึงตาใส่มันออกไปแบบนั้น อีกฝ่ายก็ปลายตามามองแรงใส่ คืออะไรของมึง กูเนี่ยที่ควรจะไม่พอใจ มึงมีสิทธิ์มาทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอใส่กูแบบนี้รึไง
“พูดมาก ไม่อยากฟังเสียง”
“ไม่อยากฟังแล้วลากกูมาทำไมวะ!”
“
รำคาญเสียงมึง! แต่เพราะกูไม่อยากให้มึงไปกับไอ้เวรนั่นมากกว่าไงไอ้เด็กโง่!”
เสียงเข้มที่ตะคอกออกมาแบบนั้น พร้อมๆกับที่ดวงตาคมหันมามองนิ่งๆ และไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะดวงตาดุดันคู่นั้นที่มองมาแบบไม่พอใจ หรือเพราะประโยคก่อนหน้านั้นกันแน่ ที่ทำให้เงียบเสียงลงได้แบบนี้
.
.
.
“จะกินอะไร”
“ไม่อยากกิน” คนร่างสูงที่ปิดเมนูดังฉับก่อนจะวางลงบนโต๊ะเสียงดัง พร้อมๆกับเลื่อนสายคมมาจ้องหน้าผมนิ่งแบบดุๆ
“กินข้าวกับกูนี่จะตาย?”
“ก็บอกว่ามีนัดไงวะพี่ แล้วยังเสือกลากกูมาร้านอาหารอีก มึงทำแบบนี้กูเสียคำพูดนะเว่ย”
“แล้วไง หรือถ้าหนักใจนัก ก็โทรไปบอกมันไปว่ามากินข้าวกับผัว”
“ผัวเชี่ยไรล่ะ!”
“หึ ทำมาเป็นพูดดี มึงเองก็รู้ดีว่ากูหมายความว่ายังไง” อีกฝ่ายที่นั่งกอดอกแล้วพิงหลังลงไปกับโซฟานุ่ม จ้องตรงมาแล้วพูดออกมานิ่งๆ
“นี่พี่...มึงน่ะ รู้รึไงว่ามันหมายความว่ายังไง คนแบบมึงมันไม่เข้าใจอะไรหรอกว่ะพี่ ขอเหอะ เราเลิกยุ่งกันไม่ได้หรอวะ”
ผมที่จ้องหน้ามันเฉยๆ ก่อนจะพูดออกไปอย่างเหนื่อยๆ บอกตรงๆว่าเหนื่อยใจจะเถียงกับคนไม่มีเหตุผลแบบพี่มันเต็มทีและในใจลึกๆก็ยังไม่ลืมกับเรื่องที่มันทำเอาไว้ ... แม้ว่าจริงๆจะยังเลิกชอบมันไม่ได้ก็เถอะ
“ทำไมกูต้องเลิกยุ่งกับมึง!” อีกฝ่ายที่ดูจะโกรธขึ้นมา เด้งตัวขึ้นมานั่งตัวตรง พร้อมเอื้อมมือมาบีบมือผมไว้แน่น
“ก็แล้วมันมีเหตุผลอะไรที่เราต้องยุ่งกันอีกวะพี่ ความรู้สึกกู มึงยังเล่นไม่พอหรอ?”
“ยัง”
มันที่ตอบออกมาแบบนั้น ทำเอาผมต้องอ้าปากค้าง ก่อนจะตั้งสติกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดฝืนแล้วตอบมันออกไปบ้าง
“...กูรู้นะว่ามึงเหี้ย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเหี้ยขนาดนี้” จ้องมองเข้าไปในดวงตาคมคู่ที่ไม่ว่ามอเมื่อไหร่ ผมก็หลงรัก ดวงตาคู่เดิม ที่ยังคงไม่ตอบสนองอะไรให้เข้าใจ ไม่แตกต่างเหมือนกับวันแรกที่ผมได้เห็น
“จะแดกไหม” นักรบที่หันหน้าหนีและเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องไป คนร่างบางที่ถอนหายใจออกมาหนักๆ
“ไม่แดก”
ตอบออกไปแบบนั้นและลุกขึ้นเดินหนีออกมาทันที ไม่มีประโยชน์ที่จะนั่งอยู่กับคนที่ไม่คิดจะสำนึก
“มึงจะไปไหน!” อีกคนที่รีบลุกตามออกมา พร้อมฝามือหนาที่ตามมาดึงรั้งเอาไว้
“ไปไหนก็เรื่องของกูพี่ ไปไหนก็ได้ ไปให้ไกลๆจากคนเหี้ยๆที่เห็นแก่ตัวแบบมึง”
“
แต่กูไม่ให้มึงไป”
“กูถามมึงว่าทำไม!”
“กู....”
“ถ้ามึงยังหาคำตอบดีๆมาบอกกูไม่ได้
ก็เลิกมาวุ่นวายกับกูเหอะว่ะ”
ต่างฝ่ายต่างจ้องมองกันอยู่แบบนั้นอย่างไม่มีใครยอมใคร คนนึงไม่ยอม อีกคนก็ไม่คิดจะปล่อย ความเงียบที่โรยตัวลงมายิ่งทำให้บรรยากาศตรงหน้ายิ่งอึดอัด และสุดท้าย ก็เป็นคนร่างบางที่เลือกจะบิดแขนออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายผลิกตัวและหันเดินออกไป แต่ก็เดินไปได้ไม่เท่าไหร่ก็หนีมือคู่เดิมไม่ได้ มือหนาที่ตรงมารั้งจับข้อมือไว้ทั้งๆที่ผมไม่ได้หันหน้ากลับไป
“ฝา...
กูขอโทษ”
เสียงเข้มๆที่ดังออกมา ทำให้จังหวะก้าวของการเดินที่ตั้งใจว่าจะเดินต่อต้องหยุดชะงักลง ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายมันสั่นสะท้านกับคำที่อีกฝ่ายพูดออกมา ไม่เคยนึกว่าจะได้ยินออกมาจากปากของมัน ... ดีใจ ... ความรู้สึกมันบอกแบบนั้น ว่านี่คือคำที่เฝ้ารอ แต่อีกเสียงกระซิบเบาๆแผ่วๆจากสมองในส่วนลึกมันกลับกระซิบบอกว่า อย่าพึ่งยอม อย่าพึ่งเชื่อ มึงลืมไปแล้วหรอว่ามันกี่ครั้งแล้วที่มึงต้องยอมมัน ... และเพราะแบบนั้น ...
“....ไม่...ไม่พอว่ะ คำขอโทษคำเดียวกับเรื่องที่มึงทำ กูว่ามันไม่พอว่ะพี่”
…
และสุดท้าย วันนี้ก็ไม่ได้ไปกินข้าวกับพี่โซลและผองเพื่อน อดกินของดี พี่ฝาต้องเดินมาซื้อกระเพราไก่ไข่ดาวหน้าหอขึ้นมากินตามอัตภาพเลยครับ พวกเพื่อนที่รักมันระดมกันส่งข้อความมาในแอพสีเขียวรัวเหมือนปืนกรน กดเข้าไปอ่าน ส่วนมากเป็นคำด่าของไอ้เซียร์มันครับ พวกมันอยากรู้ว่าผมหายไปไหน อะไรยังไง สรุปง่ายๆว่าไอ้เซียร์เสือกเรื่องราวไปประมาณ80% อีก20%คือด่าผมครับ พวกเพื่อนผมบอกว่าสุดท้ายพี่โซลแกก็ไปที่ร้านและตั้งใจจะไปเลี้ยงแม้ว่าผมไม่อยู่ โถ่ พ่อคุณคนดีเหลือเกิน แต่ด้วยความเกรงใจ(อันน้อยนิด)ของเพื่อนๆผม มันเลยไม่ยอมให้พี่โซลแกเลี้ยง ไอ้เซียร์ยังด่าผมมาเป็นเสียงข้อความอีกว่า ทำให้มันได้อยู่ใกล้คนหล่อแค่แป๊บเดียว คือกูค่อนข้างที่จะสงสัยแบบหนักหน่วงว่า สรุปมึงห่วงอะไร ระหว่างที่กูหายไป กับมึงไม่ได้เต๊าะพี่โซลกันแน่
‘ตือดึง’
เสียงข้อความเข้ามาอีกรอบ ผมที่นอนกลิ้งเล่นอยู่บนที่นอน มือกำลังจิ้มๆเปิดเฟสบุ๊คไปด้วยนี่ถึงกับถอนหายใจ คาดว่าไอ้เซียร์ต้องรัวมาอีกระรอกแน่ๆ เอื้อมมือไปหยิบมือถือมาเปิดดู และก็ต้องเลิกคิ้ว กระพริบตาปริบๆไปอีกสองที
นักรบ: ขอโทษ
ข้อความเดียวที่ส่งมา ไม่มีคำอื่น นอกจากคำๆนี้ ผมที่กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดฝืน ตัดสินใจปิดมือถือลงและเลือกที่จะไม่ใส่ใจ เอาตัวเองไปไถเฟสบุ๊คต่อ เลื่อนไปเลื่อยๆ ก็เจอเข้ากับเฟสบุ๊คของคนที่ผมพึ่งปิดไลน์มันไป ... ข้อความที่ถูกโพสลงไปเป็นข้อความสั้นๆ แต่เห็นคนในเฟสตื่นเต้นกันมากเลย มันโพสเมื่อไม่กี่นาที มีคนกดไลค์ไปหลายพัน พร้อมคอมเม้นท์อีกหลายร้อย คอมเม้นท์ที่มาจากหนุ่นสาวในมหาลัยที่เป็นแฟนคลับของมันทั้งนั้น ก็ไม่รู้จะตื่นตกใจอะไรกันขนาดนั้น กับอิแค่ที่มันโพสลงไปว่า
‘ขอโทษ’ ... ก็แค่เนี้ย ตื่นเต้นกันทำไม
“เออ ตื่นเต้นทำไม ...กูเนี่ยยยยย ตื่นเต้นทำเชี่ยไรวะไอ้ฝา!!”
คว้ามือปิดหน้าจอโน๊ตบุ๊ค ก่อนจะรีบมุดหน้าลงหมอนซ่อนหน้าตัวเองไปเลย ไม่อยากสำคัญตัวเองเท่าไหร่ แต่พี่ว่า...พี่อดไม่ได้ มันขอโทษใครวะ กูหรอ กูรึเปล่า อาจจะเป็นกู กูเนอะ บ้าบอออไม่ใช่มั้งงงง...
“ตื่นเต้นเป็นสาวน้อยเลยกู แม่งพี่ว่าไม่คูลเลยโว้ยยย”
ในใจได้แต่คิด...ของเหลืองเล่นกูแล้วแน่ๆเลย
------------------------
-TBC-
น่อววววววว ไม่เอาไม่ขี้หึงไม่ขี้หวงดิ ไหนบอกไม่ชอบผู้ชายไง ไหนว่าเล่นๆไง ไหนๆๆ คนที่ตามง้อ เค้าจะง้อยังไงน้าาา คูลไม่คูล นี่คิดว่าไม่คูล เพราะมันออกจะอุ่นนิดๆ ... ง่อววว ขอทางให้พระเอกเราเดินหน่อยจ๊ะ พระเอกเรื่องนี้คือพี่นักรบนะรู้ยัง 555555
ปล. รักพี่โซลจังคุณ พี่โซลคนดีของหนู ของคนเขียน ฮิ้วววว
ขอขอบคุณคอมเม้นท์ของทุกๆคนที่เม้นท์เข้ามาให้แคทได้ดีใจนะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ ไม่คิดว่าที่เล้าเป็ดจะมีคนมาอ่านและคอมเม้นท์ให้กันขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆค่ะ
ส่วนตอนหน้า...มารออ่านกันนะคะ (กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์) ^_____________^
สุดท้าย 1 คอมเม้นท์ = 1กำลังใจ นะจ๊ะตะเองงงงงงง
-------------------------------------
[/color]