บทที่15
“นี่ไอ้พี่ มึงมองไรนักวะ จะกินไหมถามจริง”
“กูก็กินอยู่”
อยากจะกรอกตาใส่แรงๆสักสองทีติด พี่ฝาไม่โอเคเลยครับอยากจะบอก ตั้งแต่เข้ามานั่งในร้าน พี่ฝาก็ค่อนข้างที่จะเกร็งแรงอยู่ คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นผสมความมินิมอล ย่านเอกมัย แบบว่าไม่เข้ากับหนังหน้าคนพามาอย่างแรง แต่ดูเหมือนมันจะค่อนข้างชอบนะครับ ชิลล์เหลือเกิน นั่งกระดิกเท้า ดูดน้ำแอปเปิ้ลมิ้นโซดาของมันไป
“กินก็ไม่ต้องมองหน้ากันดิวะ ตั้งใจแดกหน่อย”
“ก็ตากู เรื่องกู”
จิ๊ปากใส่มันไปที พี่ฝาขัดใจมากเลยครับ ชอบมาจ้องกันแล้วใครมันจะกินลง แม่งมองๆๆ แดกกูเข้าไปเลยไหมล่ะถ้าจะจ้องเบอร์นี้
“ถ้าพี่มึงไม่แดก กูจะแดกเองแล้วนะครับ”
ว่าแบบนั้นพร้อมเลื่อนส้อมไปจิ้ม’หมูสามวัน’มากิน ชื่อเมนูเวอร์วังมากๆ แต่กินทีก็อร่อยแบบชื่อมันนั่นแหล่ะครับ จิ้มเอามาหั่นเข้าปาก แค่มีดสะกิดเนื้อก็ล่อนออกมา ไม่ได้สนใจไอ้คนที่มองผมอยู่แบบนั้นแล้วตอนนี้
“อ้า”
เสียงคนตรงหน้าที่ทำให้ต้องเงยหน้าจากหมูอร่อยๆไปมอง อ้าๆหุบๆอะไรซิ?
“กูอยากกิน” บอกออกมาแบบนั้น พร้อมทำปากยื่นๆมาที่ส้อมของผมที่กำลังจิ้มหมูอยู่ อ่า....
“กะ...ก็กินดิวะพี่”
“อื้ม จะกินไง อ้า....อ้า”
ได้แต่จ้องหน้าไอ้คนหน้าดุตาคมที่ผมชอบ ตอนนี้กำลังทำเสียงน่ารำคาญ ทั้งๆที่ตัวเองก็ยังทำหน้านิ่งๆ ได้แต่กำส้อมในมือแน่นๆพร้อมเม้มปากเข้าหากัน แบบว่าทำตัวไม่ถูกเลยแบบนี้ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจยื่นหมูหมักสามวันนั้นส่งไปเข้าปากคนตรงหน้า
ฉ่า!
เสียงเหมือนหมูในกระทะไหม้...แต่เปล่า หน้ากูเนี่ยยยย พี่ฝาคนคูลฮ็อตมากเลยตอนนี้ เชี่ยเอ๊ยยยยย ไอ้เชี่ยพี่เหลืองแม่งเล่นกูแล้ว
“หึ” เคี้ยวไปแบบนั้น ก็ไม่ต้องมาหึ พร้อมยิ้มมุมปากใส่กู เชี่ย !
“อร่อยดีนะ” เออออ หุบปากแล้วแดกไปเลยแม่มมมม
“อร่อยเพราะมึงป้อนรึเปล่าวะ มา...กูขออีกคำดิเผื่อได้คำตอบ อ้า~~”
ให้มันได้แบบนี้สิ...ใจกู
.
.
.
“พี่ มึงจะพากูไปไหน”
หันไปถามคนที่วันนี้ทำเอาใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมาหลายวัน ร่างสูงที่ยังคงนิ่ง และตั้งใจขับรถต่อไปแบบนั้น …
“กูไม่ได้พาไปฆ่าหรอก”
“เอาดีๆ”
“ทะลึ่งนะมึงเนี่ย เอะอ่ะให้กูเอา อ่อยหรอวะ?” มีการปรายตามองไปอีก
“ก็เหี้ยละ!”
“หึหึ...มึงตลก”
มองค้อนไอ้ตัวกวนตีนข้างๆ เอาจริงๆเริ่มสับสน วันนี้พี่มันกินอะไรมา ทั้งกวนตีน ทั้งกวนใจ เป็นผู้ชายที่ผมตามอารมณ์และเดาความคิดไม่ออกสักที บางครั้งเหมือนคนอารมณ์ร้อน ใจร้าย ไม่แคร์ใคร แต่บางทีก็เอาใจใส่ มีมุมน่ารักที่ทำเอาใจบาง และอ้อนแบบอึนๆมึนๆของมัน โว้ย สรุปกูจีบมึง หรือมึงจีบกูเนี่ย
“ก็แค่จะพาไปดูห้องกู”
“ห๊ะ?”
“ทำห้องเสร็จแล้ว ได้ย้ายออกจากคอนโดไอ้รุกแล้ว มึงรู้ไหม มันแทบจุดพลุที่รู้ว่ากูจะออกจากห้องมันสักที เหอะ...แค่ไม่ได้เอาเมียไม่กี่เดือนเองเถอะ”
“ถ้าเป็นพี่ไม่ได้เอาเมียเป็นเดือนแบบพี่รุก พี่จะเฉยๆไหมล่ะ”
“ไม่รู้ดิ ของกูไม่เคยขาด”
“โวะ”
“แต่ถ้าอยากรู้คำตอบ ลองมาให้กูเอาดูไหมล่ะ แล้วลองขาดมึงสักพัก เดี๋ยวอาจจะรู้คำตอบ”
“เชี่ยกล้วย! ทฤษฏีทำการทดลองของมึงเหี้ยมาก กูขอด่า”
“เรียกแบบนี้อีกแล้วนะมึง ดูท่าจะอยากเป็นเมียเนอะไอ้จืด”
“เออกูอยากเป็น ก็กูตามจีบมึงนี่พี่ แต่หลังๆกูเริ่มสงสัยแล้วเนี่ย เหมือนมึงขโมยบทกูเลยว่ะพี่”
“ไอ้หลงตัวเอง”
ว่าไม่พอ ผลักหัวกูเพื่อ!...
“เจ็บนะเว้ย!”
“ก็ทำให้เจ็บ หรือมึงชอบแบบเจ็บๆวะ? ซาดิสนะเรา”
“ไม่พูดด้วยแล้วโว้ยยย คนคูลแบบกูเหนื่อยมากเลยกล้วย”
“ฮ่าๆๆ ตลกจริงๆนะมึงเนี่ย”
ดิเอ็นบทสนทนาให้ด้วยครับ พี่ฝาเหนื่อยจะพูด ปล่อยให้อีกคนที่วันนี้ดูมันจะขำมากเป็นพิเศษขับรถไป ไม่ไหว พี่ฝาเหนื่อยมาก เหนื่อยใจครับ ใจพี่ฝาเต้นรัว ตึกตักๆมาตั้งแต่เช้าแล้วนะเออ
รถคันหรูที่เลี้ยวเข้ามาจอดคอนโดแถวย่านอโศก ตึกสูงที่ผมไม่เคยมาเหยียบ แน่นอนว่ามันต้องแตกต่างจากห้องเช่าสตูดิโอเล็กๆของผมแน่นอน หรูสัดตั้งแต่ล็อบบี้ทางเดินเลยล่ะคุณ
“กูอยู่นี่ ชั้น29”
“อ่อ เค”
ยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ ก่อนจะเดินนำเข้าไปในโซนของลิฟที่จะพาขึ้นไปสู่ด้านบนของตัวตึก แต่เป็นผมเองที่เลือกจะหยุดเดินและยืนอยู่แบบนั้น จนทำให้อีกฝ่ายต้องหันมามองหน้า ก่อนมันจะเลิกคิ้วเป็นคำถามส่งมาให้
“ทำไมมึงไม่ตามมา”
“ก็รู้แล้วว่ามึงอยู่นี่ไงพี่ งั้นกูก็จะกลับล่ะ”
“มึงฝัน?”
“ห๊ะ”
“มานี่”
ว่าแบบนั้นก่อนจะกระชากแขนผมให้เดินตามเข้าไป กูจิกขากับพื้นไว้ก็ไม่ทัน และสุดท้ายก็เดินโง่ๆตามมันออกมาเมื่อลิฟมาจอดอยู่ที่ชั้น29
‘แกร๊ก’
“เข้ามา”
“คือกูว่า....”
“อย่าให้กูต้องพูดซ้ำได้ไหมวะ...มึงเป็นอะไรนักหนา นี่กูกำลังอารมณ์ดีนะไอ้ฝา” หันมาจ้องหน้าผมดุๆ กลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง และสุดท้ายก็เดินตามมันเข้าไปจนได้
“ทำตัวเป็นสาวน้อยแรกแย้มนะมึง กลัวการเข้าห้องผู้ชาย ตลก”
“ก็มันดูใจง่าย”
“มันดูใจง่ายตั้งแต่มึงให้กูนอนห้องละ มาคิดเหี้ยอะไรเอาตอนนี้” กูนี่แยกเขี้ยวใส่เลย อันนั้นไม่เรียกใจง่าย อันนั้นเรียกว่ากูไล่มึงให้ออกจากห้องกูไม่ได้จะดีกว่า
“มึงว่าห้องสวยไหม”
มันที่ถามออกมาแบบนั้น มองไปรอบๆ ก็ต้องยอมรับว่าสวยมาก ห้องนอนสองห้อง ห้องน้ำสองห้อง ห้องครัว ห้องรับแขกแยกเป็นโซนกว้างขวางอย่างชัดเจน ตรงโซนห้องรับแขก ตรงนั้นเป็นกระจกรอบด้านที่มองทะลุออกไปจนถึงระเบียงกว้างด้านนอก โปร่งและดูโออ่าน่าดู
“อืมสวย”
“มึงว่าต้องมีอะไรเพิ่มไหม”
“ก็แล้วแต่มึงดิพี่” คือห้องมึงไหม ถามกูทำไมครับ
“ก็กูถามมึง”
“เพื่อ! ห้องมึงครับพี่ ชอบแบบไหนก็เอาแบบนั้น ตามใจคนอยู่ไปดิวะ”
“ก็ใช่ไงวะ กูเลยต้องถาม” มันที่ว่าออกมาแบบนั้น ก่อนจะเดินหนีเข้าไปในห้องนอน หันหน้ามองตามแผ่นหลังกว้างนั่นไปแบบไม่เข้าใจ ทั้งๆที่ใจก็เต้นตึกตักๆอยู่แบบนี้ มันจะมากไปแล้วนะเว่ยไอ้พี่เหลืองบ้าเอ้ย
รอนานหลายนาที อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมออกมาจากห้องนอนสักที คือกูอยากกลับไปนอนบ้างอะไรบ้าง ชะเง้อคอมอง ยืนหมุนไปหมุนมาอยู่หลายนาที เอ้าวะ...ตามแม่ม .... เดินเข้าไปในห้องนอน กูสตั้นไปสามวิกันเลยทีเดียว เตียงนอนกว้างๆขนาด6ฟุต นอนกลิ้งคงสบาย แต่ก็เทียบไม่ได้กับสีของผ้าปูเตียง ไม่ต้องสืบว่าห้องใคร เหลืองกว่าขี้ไม่มีอีกแล้ว โอ๊ยยย...เหลืองจนต้องหยี๋ตามอง ผ้าห่มสีเหลืองอ่อน ผ้าปูที่นอนลายตารางสีเหลืองเข้มคาดน้ำตาล ปอกหมอนสีเหลืองครีม และวางหมอนกล้วยของขวัญวันเกิดที่ผมเคยให้มันในตอนนั้นอยู่กลางเตียง ครบสูตรความเหลือง
‘แกร๊ก’
“อ้าว”
หันหน้าไปตามเสียง ก็ต้องอ้าปากค้าง ร่างสูงที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ มีผ้าเช็ดตัวพันเอวสีเหลืองเข้มอยู่แค่ผืนเดียวที่เอาไว้ปิดกาย แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่อาย ... หยาดน้ำที่เกาะอยู่ตามตัวของอีกฝ่ายยิ่งทำให้คนตรงหน้าดูเซ็กซี่ หุ่นสมส่วนบวกกับหน้าท้องที่มีลอนแบบคนออกกำลังกายนั่นก็ยิ่งทำให้รู้สึกหายใจไม่ออก ใจเต้นแปลกๆจนต้องหันหน้าหนีกลับมาหมอนหมอนกล้วยให้สบายใจแทน
“หึ”
‘ตึก ตึก ตึก’
เสียงก้าวเดินที่ไม่เร่งรีบแต่ทำเอาคนที่ยืนหันหลังอยู่กระสับกระส่าย จะเดินหนีออกไปก็คงไม่ดี แต่จะอยู่ตรงนี้ก็ใจไม่ดีเหมือนกันเว่ยเฮ้ย ไอ้ฝาเอ๊ย มึงแกล้งตายแบบเจอหมีจะดีไหม
‘หมับ’
“เชี่ย!” ไม่ดีไม่พอ พี่ฝาว่าคงไม่ทันด้วย ในเมื่อวงแขนแข็งแรงอยู่ๆก็โอบรอบตัวผมไว้อยู่แบบนี้ ลมหายใจร้อนๆที่รินรดอยู่ข้างแก้มนั่นยิ่งทำให้ต้องหดตัวหนี
“พูดไม่เพราะ” ใช่เวลามาเทศน์สอนกูหรอถามจริง
“ปะ...ปล่อยเว่ยพี่”
“เสียงสั่น ตัวสั่น”
“พูดเชี่ยไร ปล่อยดิ!”
“ไม่รู้สึกอยากทำแบบนั้นว่ะ”
“ปล่อ…อึก!”
ริมฝีปากเย็นชืดที่แนบลงมาหยุดคำพูดของผม ในจังหวะที่ตั้งใจจะหันไปตะคอกอีกฝ่ายแบบนั้น เรียวลิ้นเย็นๆที่พึ่งผ่านการอาบน้ำค่อยๆไล้ตามริมฝีปากล่าง ขบเม้มเบาๆให้พอรู้สึกเสียววูบวาบไปทั่วทั้งตัว รู้สึกสมองเบลอๆชอบกล ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หรืออาจจะเป็นเพราะกลิ่นครีมอาบน้ำยี่ห่อไหนสักอย่างที่กำลังลอยเตะจมูกผมตอนนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้
“อื้อ”
เสียงครางขัดใจของอีกฝ่ายที่ผมไม่ยอมเปิดปาก ฝ่ามือเย็นๆที่โอบรอบเอวผมแนบชิดกับตัวมากยิ่งขึ้น พร้อมๆกับฝ่าของคนร่างสูงที่เลื่อนขึ้นมาจับที่ใบหน้า ลูบไล้เบาๆจนเผลอผวา มุมปากของคนตรงหน้าที่ยกขึ้นในตอนนั้น เผลอลืมตาขึ้นมาสบตาของอีกคน ดวงตาที่ผมชอบ ที่จ้องมองที่ไรก็เหมือนถูกดูดเข้าไปในโลกของอีกฝ่ายเสมอ
“อื้มมม”
เรียวลิ้นที่สอดแทรกเข้ามาอย่างเอาแต่ใจ ดูดดึงปลายลิ้นของผมจนเผลอหลุดเสียง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ถูกอีกฝ่ายพลิกตัวกลับไปหา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ลงมานอนแผ่หลาอยู่กลางเตียงแบบนี้
“อ๊า พี่...”
ริมฝีปากหนาที่ผละออกมา ก่อนจะเปลี่ยนไปซุกไซร้ขบเม้มเบาๆที่ข้างซอกคอ มือที่เปลี่ยนมาลูบเบาๆที่หน้าอก เผลอแอ่นอกรับอย่างเผลอไผล มองเห็นดวงตาดำสนิทที่ฉายภาพของผมอยู่ในสายตาของเขา ทำเอาหน้าแดงวาบไปหมด
“กูอยาก”
“อ๊ะ....มะ...ไม่!”
ว่าออกไปแบบนั้นทั้งๆที่ค่อนข้างจะลำบาก สถานการณ์ตรงหน้าที่ชวนอ้าขา แต่สมองก็บอกว่า อย่านะมึงไอ้ฝา มึงอย่าอ้าขาให้มันง่ายๆ
“ทำไม”
อีกคนที่ปรือตา ผละตัวออกมาจ้องหน้าผม จริงๆเป็นผู้ชายเหมือนกัน ผมแน่ใจว่าตัวเองเข้าใจความรู้สึกของคนตรงหน้าดี ว่าตอนนี้มันกำลังรู้สึกยังไง และโดยเฉพาะ ไอ้นักรบมังกรที่ทิ่มอยู่ที่ขาผมตอนนี้ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมเข้าใจมันดี
“พี่...มึงยังไม่ได้รักกู มึงยังไม่รู้ใจตัวเองอะไรด้วยซ้ำ แล้วจะมาเอากู กูว่ามันไม่แฟร์มากไปนะ”
มันหมดยุคสมัยเอาตัวเข้าแลกแล้ว ถึงผมจะเป็นผู้ชาย ท้องไม่ได้ ... แต่มันก็ไม่คุ้ม กับการที่จะอ้าขาให้และสุดท้ายความรู้สึกของผมก็พังในวันที่มันรู้ตัวว่าไม่ได้รัก ... ถึงความรักของผมจะไม่มีลิมิต แต่ก็มีสติมากพอนะ
นักรบที่คล่อมตัวทับอยู่แบบนั้น ดวงตาคมที่คนร่างบางหลงรัก มองจ้องลึกลงไปในแก้วตาใส จริงๆแค่จับขึงแล้วแก้ผ้า อ้าขาแล้วกระแทกมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร ... แต่มันจะคุ้มกันงั้นหรอ จะคุ้มกันไหม ... สุดท้ายก็ได้แต่หลับตาแน่น กัดฟันจนสันกรามขึ้น ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง แล้วผละตัวถอยออกมานั่งที่ปลายเตียงดีๆ
“โอเค...รอกูแต่งตัวแป๊บ เดี๋ยวกูไปส่ง”
.
.
.
.
บอกร่างบางที่ยังนอนยั่วไข่อยู่แบบนั้น เห็นมันที่นอนถอนหายใจแบบโล่งอกใส่ผม กูรีบลุกหนีจากมันเข้าห้องน้ำไปจะดีกว่า ...
ปิดประตูห้องน้ำ แล้วเอาหลังพิงประตู ยืนหลับตาข่มความรู้สึกที่ผงาดขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ เป็นความรู้สึกที่ไม่เข้าใจตัวเองแบบที่สุด ทั้งชีวิตไม่เคยคิดจะมองผู้ชายคนไหน เอาจริงๆก็บอกตรงๆว่ารังเกียจ ผู้ชายจะมาเอากันท่าไหน กูไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้เลยจริงๆ ... ไม่เข้าใจแม้กระทั่งคำว่ารัก เพราะโลกใบนี้สอนให้รู้ว่า ไม่มีรักแท้ ... แล้วจะให้กูเชื่อได้ยังไงว่า รักของผู้ชายกับผู้ชาย มันจะมีรักดีๆให้ ... เพราะขนาดแม่แท้ๆยังทิ้งไป แฟนสาวที่รักทั้งใจก็เปลี่ยนใจทิ้งไปหาน้องชายของตัวเอง แล้วจะเอาแน่เอานอนอะไรกับใครได้อีกในโลกใบนี้ ...... อดีตดำมืดที่ฝังใจและคอยหลอกหลอน แต่ไม่เคยบอกใคร
ทำได้แต่บอกตัวเองอยู่แบบนี้ ... ย้ำเตือนตัวเองเข้าไว้ให้เจ็บและจำ
แต่สุดท้ายมันกลับทนไม่ได้อีกแล้ว ในวันที่เด็กผู้ชายโคตรจะธรรมดา เดินมาบอกว่าขอใจที่มันให้มาคืน ในวันที่สายตามันสั่นไหวเหมือนอยากจะร้องไห้เต็มที แต่คำพูดของมันกลับมั่นคง แน่นอนว่ามันกำลังจะตัดใจ บอกตัวเองว่าไม่ต้องสนใจอะไร คิดอย่างมั่นใจว่าเดี๋ยวมันก็กลับมาเต๊าะเหมือนที่มันเคยทำ แต่เปล่า...หลายวันที่ไอ้ฝาหลบหน้า แถมมันยังไปไหนมาไหนกับไอ้หมอเถื่อนนั่นอีก โมโหจนขึ้นหน้า บอกตัวเองว่ากูก็แค่หมั่นไส้เท่านั้นเอง … แต่สุดท้ายมันไม่ใช่เลย เมื่อเห็นร่างบางๆที่กำลังถูกคนอื่นโอบกอด วงแขนแกร่งที่กระชากเอวบางของมันมากอด ริมฝีปากของคนอื่นที่กดจูบลงบนปากเล็กๆนั่นของมันแบบอุกอาจ กล้าดียังไง ...
มันเป็นของกู!
และเพราะแบบนั้น เลยต้องกลับไป ...
บอกกับตัวเองแบบนั้น ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะค่อยๆดึงผ้าเช็ดตัวผืนหนาออกจากตัว เงยหน้าหลับตาเอาหัวพิงกำแพงอยู่แบบนั้น ลมหายใจเข้าออกหอบกระเส่าที่ดูจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ามือหนาที่เลื่อนลงไปกอบกุมส่วนแข็งขืนลูบไล้เบาๆก่อนจะขยับฝ่ามือช้าๆเป็นจังหวะ ลมหายใจที่ถี่กระชั้น ภาพในหัวที่คิดเห็นเพียงหน้าของใครบางคนที่ไม่ได้ตรงสเป็ค ไม่ได้เป็นที่น่าสนใจ แต่กลับติดอยู่ในสายตาจนยากที่จะลืม
“อื้อ อา”
ริมฝีปากหนาที่กดจูบดูดดึงไปบนริมฝีปากบาง แทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากเล็ก ฝ่ามือหนาที่ลูบไล้ไปตามเอวบาง ริมฝีปากที่ผละออกกดจูบไปตามลำคอ ไล้ลงมาที่ยอดอกก่อนจะขบเม้มเบาๆ คนร่างบางที่ครางกระเส่าอยู่ใต้ลำตัว ขาขาวที่อ้าออกกว้าง ก่อนที่ส่วนแข็งขืนของเขาจะสอดแทรกเข้าไปในช่องทางรัก บีบรัดจนต้องกัดฟัน
“อ่า ฝ...ฝา”
ฝ่ามือหนากำส่วนแข็งขืนพร้อมขยับมือสาวขึ้นลงเป็นจังหวะ พร้อมทั้งหลับตาครางชื่อของคนที่ตัวเองเห็นในหัวออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ร่างสูงที่สอดใส่เข้าไปกระแทกแกนกายเข้าออกไวมากขึ้น ช่องทางคับแคบที่บีบรัดจนแน่นไปหมด ...
มือแกร่งขยับชัดรูดในจังหวะที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่สุดท้าย เสียงครางกระเส่าจะดังออกมา
“อ๊ะๆ ฝา อื้มมมม”
น้ำขุ่นใสที่เปราะเปื้อนไปเต็มฝ่ามือ รวมถึงไหลลงไปที่พื้นจนเปรอะเปื้อนไปหมด ร่างสูงที่ยืนเอาหลังพิงกำแพงได้แต่หอบหายใจเหนื่อยๆ ก่อนดวงตาสีนิลจะค่อยๆปรือขึ้นมา
.
.
.
พี่ฝาได้แต่มองคนตรงหน้าที่ข่มสันกรามจนแน่น ก่อนจะรีบลุกพรวดเดินหนีผมไปเข้าห้องน้ำ ได้แต่มองตามแผ่นหลังแกร่งนั่นไป ใจยังสั่นระรัวอยู่เลย แต่ถ้าพูดตรงๆว่าตกใจไหม ก็ตอบเลยว่าไม่ เพราะไม่ได้ต่างจากที่คิดไว้มากนัก มันพามาห้อง ผู้ชายที่หญิงเยอะแบบมัน ทำไมผมจะไม่รู้ แต่เสียใจ พี่ฝาไม่ง่ายนะครับเด็กๆ
“อื้อ อา”
หือ....เสียงอะไรซิ ก็บอกแล้วว่าพี่ไม่ได้ขี้เสือกหรอก พี่แค่สงสัยเล็กๆ ว่าแล้วก็เดินเข้าไปใกล้ประตูห้องน้ำ ลองเอาหูแนบประตูดู อยากจะรู้ว่าพี่มันพูดอะไรคนเดียววะ
“อ่า ฝ...ฝา”
“เชี่ย!”
อุทานออกมาแบบนั้นแล้วเด้งตัวออกห่างจากประตูทันที เลือกที่ไหลเวียนอยู่ในตัวไหลมารวมกันที่หน้าทันที ไม่บอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร ไหนมึงบอกจะไปแต่งตัวไงวะ
“อ๊ะๆ ฝา อื้มมมม”
อื้มมม เล่นใหญ่เล่นโตด้วย ดูท่าจะเสร็จแล้ว ... วิ่งสิฝาวิ่ง วิ่ง...
‘แกร๊ก’
ผ่าม!
“0.0”
“- -“
ตาสบตา สายตาก็จ้องมองกันรู้สึกเสียวซ่านหัวใจจจจจ ใช่เวลาไหมไอ้เชี่ย!
“แหะๆ...แบบว่าอยากจะปวดฉี่นิดหน่อยเลยเดินมาน่ะพี่”
“อ่อ...”
“งั้นขอเข้านะ”
“เห้ยเดี๋ยว!”
มึงคว้าตัวกูไม่ทันหรอกไอ้พี่ กูวิ่งพรวดพราดเข้าไปเลย อายเกินกว่าจะทนเห็นหนังหน้าของพี่มันได้ ถึงพี่ฝาจะชอบไอ้พี่เหลืองมากแค่ไหน แต่ใจไม่ด้านพอจะไม่เขินอายนะรู้ยัง
“หือ เชี่ย!...นี่มันอะไรวะเนี่ยกูเกือบลื่น”
ดีนะพี่ฝาฉลาดเกาะขอบอ่างล้างหน้าไว้ทันไม่งั้นกูหัวแตกแน่ครับ ยกฝ่าเท้าขึ้นมาดู ก้มลงไปมองแบบชัดๆ กระพริบตาปริบๆสองทีถ้วน เหนียวๆ ใสๆขาวๆ ลื่นปรืดๆ
ผ่าม!
“โว้ย!!! ไอ้เชี่ยพี่รบ ทำไมชักแล้วไม่เช็ดวะไอ้พี่!!!”
“ก็กูห้ามแล้วมึงไม่ฟัง โด่ขนาดนั้นก็ต้องรีบชักรีบเสร็จสิวะ!!”
เหยดแหมมมม ยังมีหน้าตะโกนตอบกูกลับมาอี๊ก เชี่ยเอ๊ยยย ขอความหน้าหนาจงสถิตมาบนหน้ากูด้วยเถิด หนาสักครึ่งนึงของหน้าไอ้พี่รบก็พอ ฮื่อออออ ช่วยพี่ฝาด้วยคร๊าบบบบบ เหนียวเท้าจุงเบย
...
เช้าวันใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม เพิ่มเติมคือการที่พี่ฝาคนคูลมามหาลัยเองครับผม ไม่มีราชรถมาส่งบ่อยๆ เพราะเมื่อคืนมันมาส่งผมที่หอแล้วกลับไป วันนี้พี่เลยแว๊นลุงมอไซต์มาและเดินเข้ามหาลัยเอง ก่อนเข้ามายังคงแวะซื้อขนมตาลเจ้าเดิมที่เคยซื้อไปเต๊าะไอ้พี่รบเมื่อคราวก่อนมาด้วย พี่ฝาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายครับ เคยซื้อ20บาทยังไง ตอนนี้พี่ก็ยังซื้อแบบเดิมล่ะครับผม คิดว่าตอนเที่ยงจะเอาไปฝากไอ้พี่รบมัน ... ตัดสินใจมาทางลัดทางเดิมที่จะทำให้ถึงตึกตัวเองไวกว่าทางอื่น เดินผ่านตึกคณะบริหารเหมือนวันนั้นไม่มีผิด วันที่พี่ฝาเจอไอ้พี่เหลืองฟันดะกับดาวคณะดาวมหาลัยอะไรสักสิ่งอยู่ในรถ ลานจอดรถตึกคณะนี้ยังน่ากลัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ ใบไม้ปลิวว่อนไม่ได้เหมือนฉากหนังเกาหลียังคงเกลื่อนเต็มพื้น
‘แฉะๆ’
เดินไปสักพัก ได้ยินเหมือนเสียงคนเหยียบเศษใบไม้ หยุดชะงักก้าวที่กำลังเดิน รู้สึกเหมือนมีคนเดินตามมา หันไปมองข้างหลัง ... ก็ไม่มีอะไรนี่หว่า หรือพี่ฝาจะคิดมากไปเองวะ
‘แฉะๆๆ ตึก ตึก’
ขมวดคิ้วแน่นเลยกู รู้สึกเหมือนมีคนจ้องอยู่ด้านหลัง ในใจนี่พี่สวดมนต์วนไปสามจบถ้วนแล้ว นี่คิดว่า อยากจะสวดบูชาพระรัตนตรัยต่อด้วย ผีจะมาหรอกพี่ตอนกลางวันแบบนี้พี่ไม่โอเคเลยนะหือ
เสียงจังหวะก้าวที่ถี่กระชั้นมากขึ้นๆ ทำเอาใจผมสั่น จนสุดท้ายต้องหยุดเดิน...พอหยุดเดินเสียงเดินข้างหลังก็หยุดตาม เชี่ยเอ๊ย ผะ...ผีหรอวะ!
‘พรึบ’
ตัดสินใจหมุนตัวหันไปมอง
ผู้ชายร่างสูงที่ตัดผมไถข้าง และสักลายที่แขน หน้าตาที่ดูเหมือนไม่ใช่คนไทย ผิวขาวเหลือง ดูท่าจะเป็นคนญี่ปุ่นหรืออาจจะลูกครึ่ง ความสูงน่าจะประมาณไอ้พี่รบ สัก186 กะประมาณจากสายตาเอา คนตรงหน้าที่จ้องหน้าผมก่อนจะแสยะยิ้มมุมปากส่งมาให้ ดวงตาวาววับที่จับจ้องผมจากหัวจรดปลายเท้า เรียกได้ว่าไม่เป็นมิตรเหี้ยๆ เรารู้จักกันหรอวะ?
“สวัสดี”
“เอ่อ....”
“เด็กไอ้นักรบ”
“ห๊ะ เห้ย! ปล่อยกูน...”
‘พรึบ’
ถุงขนมตาลที่ล่วงลงพื้น พร้อมๆกับร้อยยิ้มของใครอีกคนที่ยังคงโอบกอดร่างบางที่สลบสไลอยู่ในอ้อมแขน
“ยาสลบอันนี้ ได้ผลดีจังนะ หึ”
....
-TBC-
สวัสดีจ้าาา มาพบกันแล้วทุกวันส.นะเออ แคทมาแล้วจ้าาา...สำหรับตอนนี้ ไม่รู้จะถูกใจคนอ่านมากน้อยแค่ไหน หลายท่านอาจจะเบื่อกับนิยายเรื่องนี้แล้ว แบบว่าอะไรวะ พระเอกอารมณ์แปรปรวนมากคุณ ไม่รู้ๆอะไรของมึง และบางท่านอาจจะ ตอนที่15แล้ว...ทำไมยังไม่ได้กันอีก พี่นักรบโคตรกากในจุดนี้
**อยากจะบอกว่า ทุกอย่างมันก็มีคำตอบของมันเนอะ พี่รบจริงๆแคทว่าเป็นพระเอกที่น่าสงสาร ถ้าได้อ่านใน
พาร์ทนี้ ไม่รู้จะมีใครเข้าใจมากขึ้นไหม แคทมีความคิดว่า คนๆนึงที่เค้าโดนทำลายความรักมาตั้งแต่เด็ก กับโดนคนรักที่ครั้งนึงเคยคิดว่ามันเป็นรักที่ใช่ แต่สุดท้ายมันก็จบแบบไม่สวย แคทว่ามันไม่แปลกที่พี่รบจะตอบน้องฝาตลอดว่าไม่รู้ ...
ถ้าใครมีหนังสือOne Night...คืนเดียวก็เสียวได้ แคทคิดว่าอาจจะเข้าใจพี่แกมากขึ้นนะคะ จริงๆพี่รบน่าสงสารน้า
**ส่วนน้องฝา...แคทชอบน้องมากเลย แคทว่าถึงน้องจะหน้าตาธรรมดาจืดๆ แต่เป็นเด็กมีความคิดล่ะ และที่สำคัญน้องไม่ง่าย ถึงเรื่องความรักน้องจะเต็มที่ แต่น้องก็มีความคิดนะเออ
และสุดท้าย...ใครกันนะหือที่มาใหม่ ตัวละครเก่าตัวละครใหม่ คือใครมากันให้วุ่นคุณเอ๊ย ... สงสารฝาจังเลยอ่าาา
ปล. ตอนนี้เขียนลบๆหลายรอบมาก ถึงแคทจะยังเขียนไม่ดีมาก อาจจะไม่ถูกใจไปบ้าง แต่แคทจะพยายามมากๆนะคะ *0* งื้ออออ
รักคนอ่านนนน