บทที่11 ขาที่ค่อยๆก้าว ... ...ก้าว .... .ก้าวแบบไม่หยุดเดิน ตั้งแต่ที่สาดเหล้าออกไปแบบนั้น ขาของผมมันก็ก้าวเดินต่อไปแบบไม่ยอมหยุด ไม่ว่าจะชนใคร ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรก็ไม่ได้สนใจจะหยุดฟัง ก็ทำแค่เดินต่อไปอยู่แบบนั้น เพียงเพราะว่าต้องการจะออกไปจากตรงนี้ แค่อยากออกไปจากที่นี่ ... แม้ว่าทางข้างหน้าจะพร่ามัวเพราะม่านน้ำตามากแค่ไหน แสงสีวูบวาบๆที่ชวนคลื่นไส้และมองเห็นลำบาก ก็ยังคงก้าวต่อไป ....
‘พรึบ’
สุดท้ายขาของผมมันก็ต้องหยุดเดิน เมื่อมือใหญ่ๆที่กระชากแขนผม ให้หันไปหามันทั้งตัว หน้าตาหงุดหงิดของมันมาพร้อมเสียงเข้มที่เกรี้ยวกราด
“ไอ้ฝาหยุด! ... พวกกูเรียกทำไมมึ...ฝามึง.......”
“โอ๊ยยยยอิเชี่ยฝาคะ! ให้เกียรติรองเท้าส้นสูงและกระโปรงสั้นๆของกูด้วยค่ะอิเชี่ย ใครจะไปเดินทันมึง! จะรีบไป...ฝา!มึงเป็นอะไร มึงร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรมึง! บอกกูมา”
ไอ้ซินเซียร์คนสวยที่ตอนนี้ดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่แล้ว มันที่ก่อนหน้านี้พยายามเดินตามไอ้ธารมาเพื่อมาตามผม สองมือเรียวของมันหิ้วรองเท้าส้นสูงไว้และเดินเท้าเปล่าออกมา เป็นคนสวยที่มันไม่ห่วงหน้าตา ผิดแปลกแต่ว่า ตอนนี้มันเขวี้ยงรองเท้าทิ้งและวิ่งเข้ามาจับตัวผมไว้ พวกเราสามคนที่ยืนอยู่กลางลานจอดรถหน้าผับ สภาพแต่ละคนดูไม่สมประกอบ ... โดยเฉพาะผม คนที่น้ำตานองหน้า มองเพื่อนทั้งสองคนที่มองมาที่ผมด้วยแววตาแตกตื่น
“ไอ้ฝา”
ที่พูดอะไรไม่ออก มันพุ่งเข้ามากอดผมไว้แน่นๆ ผมที่กอดมันตอบและสะอื้นออกมาอย่างหนัก กูแค่รู้สึกว่ากูไม่ไหว ทำไมกูเจ็บจังวะ ก็แค่เจ็บ...เจ็บชิพหายกับคำพูดและการกระทำของคนที่ผมรักและปลื้มเค้ามากๆ เป็นความรู้สึกเจ็บที่อธิบายไม่ได้ รู้สึกเหมือนแค่ว่ากำลังโดนเศษแก้วที่แตกมันกำลังค่อยๆบาดก้อนเนื้อที่เรียกว่าหัวใจของผม ช้าๆ ช้าๆ...ไม่ได้เจ็บจนตาย แต่มันกลายเป็นแผลที่ทั้งช้ำ เลือดค่อยๆไหลซึมทีละนิดๆทุกครั้งที่มันบาดเนื้อ ทั้งเจ็บทั้งทรมาร
“กูว่ากลับกันก่อนเถอะ คืนนี้มึงไปนอนกับกู”
ไอ้ธารที่ว่าแบบนั้น ผมไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่เดินตามมันไปขึ้นรถ ไอ้เซียร์ที่รีบวิ่งไปเปิดประตูรถให้ผมอย่างกระวีกระวาดรีบร้อน รีบจนมันลืมรองเท้าที่ปาทิ้ง เสียเวลาต้องวิ่งไปเอามาอีก แต่จริงๆก็ขอบคุณพวกมันมากๆ ที่ไม่คาดคั้นอะไรผมตอนนี้
ค่อยๆเลื่อนตัวลงไปนอนเบาะหลัง หลับตาอยู่แบบนั้น ค่อยๆปล่อยให้น้ำตาให้มันไหลออกมาช้าๆ ทั้งๆที่หลับตาแต่ภาพในหัวมันกลับฉายซ้ำยิ่งกว่าเวลาที่เราดูหนัง เลื่อนมือมากอดตัวเองไว้แน่นๆ พยายามอย่างมากที่จะไม่สะอื้นเสียงดัง ...
“ไอ้ฝา ถ้าไม่ไหวก็แค่ร้องออกมา อย่าเก็บเลย”
“ฮึก ฮึก ฮื่ออออออ อึก ฮื่อๆๆ”
และเพราะคำพูดนั้นของไอ้ธาร น้ำตาและเสียงสะอื้นของผมมันก็ดังออกมาแบบห้ามไม่อยู่ ได้กอดตัวเองแน่นๆงอเข่าขึ้นมาแนบอก กอดแน่นเท่าที่จะทำให้ผมรู้ว่าผมยังมีตัวเอง แม้จะมีใครอีกคนที่ไม่ต้องการผมก็ตาม
.
.
.
ตื่นเช้าขึ้นมาในสภาพที่ดูไม่ได้ ถึงแม้จะตัดผมมาใหม่ แต่การที่ตาบวมเหมือนลูกกบ และบวกกับตอนนี้ที่ปวดหัวตุบๆ คิดว่าคนจืดชืดแบบผมมันจะน่าดูไหมล่ะ หันไปมองข้างเตียง เห็นไอ้เซียร์นอนอยู่บนโซฟา เมื่อคืนมันไม่ยอมกลับบ้าน มันไม่สนว่าใครจะมองว่าเป็นผู้หญิงแล้วมานอนกับผู้ชาย มันที่แค่บอกว่ามันห่วงผม และถ้าใครไล่มันกลับ มันจะเลิกคบ แล้วใครจะกล้าไล่มัน มองลงไปที่พื้น ไอ้ธารนอนน้ำลายยืดอยู่ตรงนั้น สภาพเหี้ยสุดๆ แต่ผมกลับน้ำตาไหลออกมา เป็นความรู้สึกเหี้ยมากๆที่ต้องทำให้เพื่อนลำบากกันขนาดนี้
“อื้ออ มึงตื่นแล้วหรอ”
ไอ้ธารที่เริ่มขยับตัว และยันตัวลุกขึ้น ผมชี้โด่ชี้เด่ของมันบวกกับมือที่เริ่มย้ายไปเกาตูด ... น้ำตากูหดกลับเข้าไปทันทีที่เห็นภาพนั้น
“กูตื่นแล้ว”
บอกมันไปแบบนั้น ทางไอ้เซียร์ก็เด้งตัวขึ้นมา หน้าบวมๆซีดๆของมันช่างเป็นภาพ.....
“ไอ้ฝา!! มึงงงงงงงงง” ถลามาจับตัวผม ก็แค่ยิ้มรับให้มัน
“กูโอเค แต่กูว่ามึงไม่โอเค”
“ไม่โอเคเชี่ยไร กูไม่เป็นไร มึงอ่ะยังไง หิวไหม ปวดหัวรึเปล่า”
“เซียร์”
“อะไรว่าไง บอกกูมาค่ะ”
“กูโอเคเว่ย...แต่มันแค่....”
มองหน้าพวกมันที่ก็ยังมองมาแบบลุ้นชิพหาย ก็เลยเล่าให้พวกมันฟังทุกอย่างเท่าที่ตัวเองจะนึกออก ถามว่าอยากร้องไห้ไหม ก็อยากนะ แต่ไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง เพราะฉะนั้นเลยจะฮึบไว้
“อีเชี่ย! ไอ้ผู้ชายหน้าหมามักมาก เป็นกูไม่สาดแค่เหล้า กูจะคว้าขวดเหล้าฟาดหน้ามันค่ะ!”
“ก็ถ้าจะอินขนาดนี้”
“อิดอกธาร มันทำเพื่อนกูเสียใจนะ เพื่อนกูที่ว่าก็เพื่อนมึงด้วย”
“เออ กูรู้...แต่มึงต้องยอมรับนะ มันเป็นสิทธิ์ของเค้า ไอ้ฝากับเค้าไม่ได้เป็นอะไรกันเลย นอกจากคนที่ไอ้ฝาตามจีบ แล้วยังไงวะ คนถูกจีบ เค้าก็มีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้นะ มันเรื่องของเค้า”
“เอ้าอิเหี้ย! งั้นก็อย่ามาอ่อยเพื่อนกูสิ”
“มันบอกหรอว่ามันอ่อย มันอาจจะเป็นนิสัยมันหรือเปล่าที่ชอบทำตัวแบบนั้นกับคนทั่วไป”
“อิเชี่ยธาร สรุปมึงเพื่อนใคร!”
“ก็เพื่อนพวกมึง แต่กูแค่กำลังจะบอกว่ามึงเสียใจได้เว่ยฝา แล้วเซียร์ มึงจะฟึดฟัดแทนเพื่อนก็ได้ แต่พวกมึงอย่าลืมนะ เราไม่ได้เป็นอะไรกับเค้า เราไม่มีสิทธิ์”
ไอ้ธารที่ค่อยๆอธิบายออกมาแบบนั้น ทำเอาไอ้เซียร์ยอมหุบปาก … ซึ่งมันก็พูดถูก จริงๆกูไม่มีสิทธิ์ทำท่าทางแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ ดีเท่าไหร่ที่มันไม่ต่อยสวนมา ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ถ้าเสียใจก็ผิดของเราเอง ที่ดันไปคาดหวัง
“ไม่ใช่กูไม่ห่วงมึงนะฝา มึงเพื่อนกู กูห่วง...แต่ความจริงมันก็เป็นแบบนี้ ถ้ามึงไม่ไหวก็ถอยออกมา อย่าไปยุ่งกับมันอีกก็แค่นั้น...มึงมีสิทธิ์ที่จะหวังนะเว่ย แต่บางทีความหวังกับการคาดหวังมันก็คนละเรื่องกัน”
“อืม กูเข้าใจ”
“แล้วแบบนี้...มึงจะยังไงต่ออิน้องฝา”
ผมที่แค่ยิ้มออกมาบางๆส่งไปให้พวกมัน ... เอาไงต่อ จะให้เอาไงวะ มันไม่มีอะไรต้องไปต่อแต่แรกแล้วนี่หว่า
...
สามวันผ่านไปหลังจากวันนั้น ผมไม่ได้ไปเร้าหรืออะไรพี่มันอีกเลย มาเรียนแล้วกลับไปขลุกตัวอยู่คอนโดไอ้ธารตรงทองหล่อ ทำแบบนี้มาแล้วสามวันติด ทางไอ้เหลือง มันเองก็คงไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้วล่ะที่ไม่เห็นผม จริงๆมันคงจะดีใจด้วยซ้ำไป ... และเพราะไปใช้ชีวิตเป็นปลิงตามติดไอ้ธาร วันนี้ก็เลยมาเรียนพร้อมมันอีกเช่นเคย บังเอิญจอดรถปุ๊บ รถข้างๆที่ตามเข้ามาจอกก็คือรถไอ้เซียร์ วิ่งถลาทำหน้าแรดเข้ามาหาเลยครับ ก็เลยเดินเข้าไปที่คณะด้วยกันเลย
“เห้ยพวกมึง มาช้าสัด”
ผมกับไอ้ธารและไอ้เซียร์ที่เดินเข้าไปในตึกคณะ เห็นไอ้หมอกที่โบกไม้โบกมือมาให้ มันที่ข้างๆตัวมีผู้ชายคนนึงที่ผมค่อนข้างจะคุ้นตา เค้ากำลังนั่งอยู่ที่ตรงนั้น ฝั่งตรงข้ามกับไอ้หมอก
“ทำไมมึงมาเช้าวะอิหมอก แล้วนี่ สวัสดีค่า......หน้าคุ้นๆจังเลยน้า”
เรื่องผู้ชายก็จะออกนอกหน้านอกตาหน่อยนึง ไม่ใช่ใคร ไอ้เซียร์ไงจะใครล่ะ มันที่วิ่งหน้าระรื่นเข้าไปนั่งใกล้ๆพี่โซล นักศึกษาแพทย์สุดหล่อที่แค่ยิ้มออกมาให้แบบสุภาพ หล่อไปไอ้สัดเอ๊ย
“พวกมึง นี่พี่โซล พี่โซลนี่เพื่อนผมเซียร์ ธาร และนั่นไอ้หมอก”
“อืม กูรู้จักหมอกแล้ว พอดีเดินมาถามหามึง โคตรบังเอิญ เพื่อนมึงซะงั้น”
“ว๊ายๆ พี่โซลตัวจริงนี่หล่อจังเลยนะคะ ขอห่อกลับบ้านจะได้ไหมเอ่ย”
“เก็บนอด้วยเพื่อน” ไอ้ธารที่ว่าแบบนั้น ผลักหัวไอ้เซียร์แรงๆทีนึง แล้วลงไปนั่งข้างๆไอ้หมอก
“อิเลวธารรรรรร”
“พอๆอย่าพูดมาก ไปหาไรกินเหอะ กูหิว” ไอ้หมอกพูดตัดบทก่อนมันจะจัดการลากเพื่อนทั้งสองออกไปจากโต๊ะอย่างรู้งาน แหม่...แดกอาหารเม็ดมาหรอ ฉลาดจังนะพวกมึง
หันไปมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผม พี่โซลที่มองยิ้มๆตามหลังเพื่อนผมไป ก่อนที่หน้าหล่อๆนั่นจะหันมาจ้องหน้าผมแล้วยิ้มให้ สายตาอบอุ่นของพี่เค้าที่ส่งตรงมา บอกถึงเจตนาแบบไม่คิดจะปิดบัง ผมที่แค่ส่งยิ้มไปให้บางๆ คือกูควรทำยังไงดีกับเหตุการณ์นี้
“กูไม่เห็นมึงกลับห้องหลายวัน กูเป็นห่วง”
“ฮ่าๆพี่ไม่มีไรเว่ย พอดีไปอยู่หอไอ้ธารอ่ะ แบบใช้ชีวิตคูลๆไง ผู้ชายสายแบดงี้อ่ะพี่”
ตอบออกมาแบบร่าเริง ยิ้มกว้างๆไปให้ เอาแบบมองเห็นฟันกูครบทุกซี่ไปเลยครับ พี่โซลถอนหายใจออกมาหนักๆ
“ฝา...ถ้าเรื่องที่กูบอกมึงวันนั้นทำให้มึงหลบหน้ากูแบบนี้ กูขอโทษว่ะ”
คนตรงหน้าที่ดูจะซึมลงไปตอนพูดประโยคนั้นออกมา ทำเอากูยิ้มค้างเติ่งเลย ค่อยๆหุบยิ้มช้าๆ แล้วเอื้อมมือไปจับมือพี่แกไว้ คือกูแค่ไม่อยากให้คิดมาก แต่อีกฝ่ายกลับจับมือกูไว้แน่นยิ่งกว่าคีมเหล็ก ... อิพี่ มึงนี่ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ มือไวนะมึงเนี่ย แต่จะทำเป็นมึนๆไม่รู้ไม่เห็นไม่กระโตกกระตากละกัน
“พี่ ...ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้นหรอก” จริงๆก็เอี่ยวนิดหน่อย แต่มันไม่มากเท่าเรื่องที่ยังจุกอกอยู่ตอนนี้หรอกเอาจริงๆ
“จริงหรอวะ”
“จริงพี่ มันไม่เกี่ยวกับพี่หรอกที่ผมไม่กลับ ผมแค่....” บอกออกไปแบบนั้น แล้วเงียบลงในประโยคสุดท้าย คนตรงหน้าที่เหมือนจะรู้ บีบมือผมเบาๆ
“ไม่ต้องพูดหรอกถ้ามันพูดยาก...เอาเป็นว่า เย็นนี้กูมารับนะ”
“หือ?”
“ไปกินของอร่อยกัน เดี๋ยวกูเลี้ยง”
จริงๆกูค่อนข้างจะดราม่านะ แต่พอได้ยินคำว่าเลี้ยง หูเหอก็เริ่มจะขยับเองซะแบบนั้น งงจุงเบย ไม่ได้งกหรือเห็นแก่กินจริงๆนะรู้ยัง
“โอเคพี่ ผมตกลง เจอกันเย็นนี้ครับ”
“เค กูไปล่ะ ตอนบ่ายมีเรียนบล็อกใหม่ มึงเองก็ตั้งใจเรียนล่ะ”
“คร๊าบบบ”
“หึ”
พี่มันที่หัวเราะหน่อยๆ ยื่นมือมาขยีหัวผม จนหัวกูโยก ขอบคุณมาก ทั้งเรื่องนี่มีแต่คนขยันเล่นหัวกูเป็นหมาเชียว แหม่...ตัดหัวกูไปเลยไหมล่ะ เล่นกันจัง ...
ผมที่ลุกขึ้นไปส่งพี่โซลที่หน้าตึกคณะ โบกมือหยอยๆให้พี่แก ตอนเห็นรถขับผ่านไป ส่งยิ้มบางๆเป็นการขอบคุณไปให้เป็นการทิ้งท้าย อย่างน้อยพี่มันก็คอยเป็นห่วงผมตลอด เป็นคนดีจริงๆเลยพี่โซล ละสายตาออกจากรถพี่โซล หางตาเผลอไปเห็นคนร่างสูงของอีกคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งถนน ตรงข้ามกับตึกคณะของผม ร่างสูงที่ถือโทรศัพท์เคสสีเหลืองลายมินเนียนและสะพายกระเป๋าเป้ลายมินเนียนร้อยตัว ผู้ชายร่างสูงที่ผมไม่เจอมาหลายวัน...
มันที่จ้องผมเขม็ง หน้าตาถมึงทึง มองผมแบบโกรธๆ ... คงจะโกรธที่เอาเหล้าสาดหน้าเมื่อวันนั้น อีกฝ่ายที่ทำท่าอยากข้ามถนนมา ... ขอโทษทีกูไปล่ะ ตัดสินใจหันหน้าเข้าตึกเรียนแล้วเอาของวิ่งขึ้นตึกเรียนไปเลยทั้งแบบนั้น เข้าไปรอในห้องเรียน ก่อนจะเข้าไลน์กลุ่มของพวกเรา...พิมพ์บอกพวกมันว่าผมขึ้นมาบนห้องเรียนก่อนแล้ว เวลาผ่านไปสักพัก พวกมันก็ตามขึ้นมาครับ ไอ้หมอกที่เดินมานั่งข้างผม จริงๆถ้าสังเกตมันชัดๆ วันนี้มันดูไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ แต่คิดเอาเองว่ามันคงเที่ยวหนัก เดี๋ยวนี้เหมือนไม่ค่อยเจอมัน อาจจะหนีไปแข่งรถแล้วไม่ยอมบอก
“ฝา กูรู้เรื่องแล้ว มึงโอเคไหมวะ”
เป็นไอ้หมอกที่สะกิดถามผมเบาๆ เดาว่าไอ้เซียร์ไอ้ธารคงเล่าให้มันฟัง แต่ไม่เป็นไร ผมไม่เคยคิดจะปิดพวกมันหรอก
“อื้ม เจ็บอยู่ แต่จริงๆกูผิดเองแหล่ะ พี่มันไม่ผิดหรอกที่มันจะไปดูดปากกับใครอ่ะ ผิดที่กูเสือกเจ็บ ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นไรกันนี่แหล่ะ ฮ่าๆ...ทางที่ดีสำหรับกูตอนนี้ ก็แค่ถอยออกมา และลืมมันไปซะ เพราะคนแบบมัน คงไม่มีทางชอบคนแบบกูอยู่แล้ว”
“ถ้ามึงทำได้จะดีนะ...แค่ถอยออกมา”
พยักหน้าตอบมัน ว่าแต่มึงงึมงำอะไรวะหมอก อยากจะถามต่อ แต่อาจารย์ป้า หัวหน้าเอกโฟโต้ก็เดินหน้าเคร่งเข้ามาซะก่อน ในจุดๆนี้ก็ต้องหุบปากและตั้งใจเรียนกันไป
‘ตื่อดึ้ง’
เสียงไลน์เรียกเข้าที่ทำเอากูต้องเลิกสนใจเรียน เปิดเข้าแอพสีเขียวๆที่ไม่ค่อยมีใครส่งมา นอกจากไอ้พวกที่นั่งอยู่ข้างๆกัน
นักรบ ((มึงหนีกูหรอไอ้จืด ... มึงหลบหน้ากู!))
ได้แต่กระพริบตาปริบๆ มองดูโปรไฟล์ผู้ชายใส่ฮูดสีเหลืองที่อยู่ในช่องแชท คนที่มันเคยบล็อกกู แต่ตอนนี้กลับไลน์มา
ทำไม?...
นักรบ ((อ่านแล้วไม่ตอบ มึงกวนตีนหรอวะ!))
นักรบ ((สัด))
กูอยากจะพิมพ์ด่ากลับครับว่า มึงสิสัดอิพี่ชอบสมสู่ไม่เลือกที่ แต่พี่ฝาพูดแบบนั้นไม่ได้ พี่ฝาไม่มีสิทธิ์ และก็บอกกับตัวเองแล้วว่าจะถอยออกมาแบบคูลๆ ถ้าอยากเป็นคนเท่ห์ เราต้องไม่เซกับของเหลือง**!**....แม้พี่จะเจ็บมาเยอะก็เถ๊อะ ฮรึก!
นักรบ ((กล้าดียังไง มึงนัดไอ้เชี่ยเมืองหลวงเกาหลีใต้มาที่ม. อย่าให้กูเจอมึงนะ กูจะเล่นให้ยับ เอาให้ล้มเลยไอ้เชี่ยจืด!))
ไอ้เมืองหลวงเกาหลีใต้??
นับถือความพยายามในการไม่ยอมเรียกชื่อพี่โซล...ไอ้ฉัด แล้วเอาอะไรให้ล้ม ไอ้เชี่ยเอ๊ย
“มึงเล่นอะไรอยู่วะไอ้ฝา ไมไม่ตั้งใจเรียน”
ไอ้หมอกยื่นหน้ามากระซิบถาม คำพูดคำจาดูเหมือนเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนคอยดุเพื่อน แต่เปล่าจ๊ะ มันนั่งเล่นเกมส์อยู่ข้างๆกูเนี่ย .... ส่งหน้าสองขีดไปให้มัน ระอา...แต่ก็ดันมือถือไปให้มันดู
“แม่ง ต้องการอะไรจากมึงวะ”
“ไม่รู้มัน ก็คงกวนตีนเฉยๆมั้ง”
“ขอให้มันแค่นั้นจริงๆเถอะ”
ไอ้หมอกที่บอกแบบนั้น ก่อนมันจะกลับไปเล่นเกมส์ของมันต่อ ผมก้มมองดูหน้าไลน์ที่ตอนนี้ไอ้พี่ส่งสติ๊กเกอร์มูนหัวร้อนมาให้ อะไรของแม่งวะ
.
.
.
“เลิกเรียนแล้วไปไหนต่อดีจ๊ะเพิลๆ”
“ทำไมต้องกระแดะพูดไทยไม่ชัดวะถามจริง”
“ไอ้ธาร คือมึงไม่กัดกูสักนิดจะตายไหม”
“พอๆพวกมึงเลิกตีกัน วันนี้กูจะกลับบ้าน กูเหนื่อย”
“ส่วนกูพี่โซลจะมารับว่ะ”
ผมกับไอ้หมอกบอกออกไปแบบนั้น ไอ้เซียร์ที่เบะปากออกมาทันทีเลยครับ เป็นผู้หญิงที่ทำหน้าได้หลากหลายจริงๆเลยมันเนี่ย กูขอให้หน้ามึงยับเอาจริงๆ
“แหมมมมมม มีผู้มารับจ๊ะ เหอะ เฮิร์ทจากคนนึงคนนึงก็พุ่งมาดามใจทันที กูไม่เข้าใจว่ากูจะสวยและมีมดลูกไปเพื่อใคร ถ้าผู้หญิงสวยๆแบบกูจะไม่มีใครมาสาดน้ำให้เลยแบบนี้”
“เชี่ยเซียร์ มึงเป็นผู้หญิงหรือกระเทยกูถามจริงๆเหอะแต่ละคำ” รับไม่ได้เลยครับ แต่ละคำของมัน
“ทำไมวะ กูเป็นผู้หญิงยุคใหม่งะ เก็ทมะ”
“ก็เพราะมึงยุคใหม่แบบนี้ไง มดลูกมึงเลยแห้งอ่ะ”
“กรี๊ดอิหมอก อิคนหยาบคาย ... มึงก็อีกตัว เอะอ่ะๆเหนื่อยแปลกๆนะมึงเดี๋ยวนี้”
“แปลกเชี่ยไรล่ะ กูเป็นคนบอบบางก็ต้องเหนื่อยอ่อนบ้างดิ ใครจะถึกบึกบึนและชอบเสือกแบบมึงอ่ะ”
“ฮ่าๆ กูชอบว่ะหมอก จัดไปเพื่อน”
ไอ้ธารที่ถูกใจยกมือแท็คไฮไฟว์กับไอ้หมอกอย่างไว ก่อนมันจะเดินไปโอบรอบคอไอ้หมอกไว้
“อิธาร มึงนี่ก็นะ ไอ้หมอกทำไรก็ดีไปหมดอ่ะ มันเป็นเมียมึงรึไงห๊ะ”
“อ้าว มึงไม่รู้หรอ นี่แหล่ะเมียกู” กอดคอไอ้หมอกไว้ก่อนจะหยิกแก้มไอ้หมอกทำตาจ๊ะจ๋ากันไป ก็แล้วแต่เลยครับ พี่ฝาจะไม่ยุ่งเรื่องของผัวเมีย
“ว่าไงทุกคน ทำไรดูท่าทางน่าสนุก”
รอยยิ้มคุณหมอ มาพร้อมหน้าหล่อๆของพี่โซลคนดีศรีสังคมไทย เดินล้วงกระเป๋ากางเกงเข้ามา หล่อเชี่ยๆในสไตล์นักศึกษาเเพทย์เลยครับ ดูดีตั้งแต่เท้าจรดหัว
“ไม่มีไรหรอกพี่ ไอ้ธารกำลังเปิดตัวเมียน่ะ”
“เชี่ยฝา เลอะเทอะ” ไอ้หมอกด่าพร้อมกับยื่นเท้ามาแตะเข้าที่ข้อพับ ทำเอาขากูอ่อน ดีแค่ไหนที่พี่โซลรับกูไว้ทัน สาธุบุญ
“ฮ่าๆ พวกเรานี่น่ารักดีนะ ว่าแต่...ไปเลยไหม มึงหิวยัง”
“หิวแล้วพี่ วันนี้กระเป๋าพี่ฉีกแน่นอน”
“ฮ่าๆ ตามสบายเลย” ยิ้มขำให้กูอย่างเอ็นดู ก่อนจะยื่นมือไปคว้ากระเป๋าเป้ที่ผมสะพายไว้ที่ไหล่
“เห้ยพี่ ผมถือได้”
“ไม่เป็นไร กูอยากช่วย”
“แหมมมมมมมม ขอโทษนะคะ ช่วยคิดนิดนึง พวกกูไม่ใช่วิญญาณนะคะ หวานม๊ากมากกกก ชะนีอิจฉา เบื่อๆๆๆ”
จีบปากจีบคอ ดูแรดมากๆเลย กูเพลียมึงไอ้เซียร์ ... พี่โซลยิ้มให้เพื่อนผมหน่อยๆแบบไม่ถือสา สุดท้ายพี่แกก็คว้ากระเป๋าผมไปถือจนได้ กว่าจะได้ออกมาจากตรงนั้นได้ก็นานพอดูเลยครับ เพราะเพื่อนปากมอมของผมนี่ล่ะ ขยันแซว...
“พี่ ผมว่าจะถาม พี่แข่งรถด้วยหรอ”
เดินไปถึงรถพี่แก ถามออกไปก่อนจะเปิดประตูขึ้นไปนั่ง พี่โซลยิ้มให้หน่อยๆ ก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบ
“เชรดดดด พี่เป็นหมอนะเว้ย เรียนหมอ”
“แล้วมันมีกฎข้อไหนห้ามไม่ให้นักเรียนแพทย์แข่งรถหรอวะ ฮ่าๆ...ปะขึ้นรถเถอะ” เออว่ะ ก็ถูกของพี่มันนะ ก่อนจะเปิดประตูขึ้นรถตามอีกคนเข้าไป ก็ต้องหันหลังไปมอง รู้สึกเหมือนถูกจ้อง และก็จริงตามนั้น...
ร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลออกไป ที่ยืนนิ่งๆจ้องผมจากตรงนั้น รู้สึกเสียวสันหลังจนไม่รู้จะทำยังไง
ดวงตาคมที่มองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแบบไม่กระพริบตา รู้สึกเหมือนกำลังถูกสแกน สายตาที่มองมาเหมือนกล่าวโทษว่าผมทำผิด และเค้าพร้อมจะลงโทษ แต่กูทำผิดอะไรล่ะ กูเปล่า
“ฝา ขึ้นรถสิ”
เสียงเร่งที่ดังมาจากในรถ ทำเอาผมต้องละลายตาจากภาพตรงหน้า และก้มตัวเข้าไปนั่งในรถ สุดท้ายรถก็คล่อยๆเคลื่อนตัวออกไป พี่โซลบอกจะพาไปกินแซลม่อน ขอบคุณมาก กูชอบและหิวมากครับ
‘ครืด ครืด’
แรงสั่นจากในกระเป๋ากางเกงที่ทำให้ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดู การแจ้งเตือนจากไลน์ .... .
นักรบ ((มึงกล้าดียังไงขึ้นรถไปกลับมันห๊ะ!))
ขนาดมาแต่ข้อความ กูยังรับรู้ได้ถึงแรงอารมณ์ที่ดูท่าทางว่าจะหัวร้อนน่าดู เชี่ย วุ่นวายอะไรกับกูนักหนาวะ กูอุตส่าห์ไม่ยุ่งด้วยแล้วไง
นักรบ ((อ่านแล้วไม่ตอบอีกแล้วนะมึง มึงเจอกูแน่))
นักรบ ((ไอ้ฝา!))
ฝอฝา ((เป็นเชี่ยไรมึงไอ้พี่ เลิกไลน์มา รำคาญเว่ย!))
สุดท้ายก็อดไม่ไหวพิมพ์กลับไป ก็เล่นส่งมารัวๆเหมือนพ่อใครตาย ไข่กูสั่นจนจะเป็นหมันอยู่แล้ว
นักรบ ((มึงกล้ารำคาญกูหรอห๊ะ!))
ฝอฝา ((เออ! กูกล้า))
ฝอฝา ((เป็นพ่ออ่อมาสั่ง เป็นผัวไงมาวุ่นวาย))
ฝอฝา ((กูก็ไม่ยุ่งกับมึงแล้วไง วอแวเพื่อ?))
ฝอฝา ((ไม่รักกูก็ทางใครทางมัน แยก!))
ฝอฝา ((กูไม่จีบมึงแล้วไอ้เชี่ยพี่ คูลไหม จอบอ!!))
ส่งข้อความสุดท้ายไป แบบที่ว่ามันไม่มีทางพิมพ์ทัน ก่อนจะตัดสินใจ กดบล็อกมันทันที...
ต่อจากนี้ก็ทางใครทางมัน ... คนไม่รัก ฝืนไปก็มีแต่เจ็บ โดยเฉพาะคนบ้าสีเหลืองแบบมัน บอกไม่ชอบผู้ชาย คนแบบกูจะไปไหนก็ไปเถอะ กูไปแล้วเสือกวอแวทำไมล่ะไอ้เชี่ย กูเจ็บนะเว่ย!
“ทำไมขมวดคิ้วแบบนั้นล่ะ เป็นไรมึง”
คนข้างๆตัวที่พูดออกมาเสียงนุ่มๆ ละมุนไปอีก ผมหันไปยิ้มให้หน่อยๆ ก็ไม่ได้รู้ตัวว่าจริงๆแล้วทำหน้าแบบไหนออกไป พี่โซลที่แค่ยกมือขึ้นมาลูบหัว สะดุ้งนิดๆ แต่ก็ค่อยๆโยกหัวออกแบบเนียนๆ พี่โซลที่ชะงักมือก่อนจะหุบยิ้ม และละมือกับไปจับพวงมาลัย
อ้าว...กูไม่เนียนหรอวะ เหมือนพี่เค้ารู้ตัวว่ากูไม่ชอบให้ใกล้ชิดมากเลยแหะ นี่กูไม่เนียนอ่อ?....
‘Rrrrrr’
เสียงมือถือดังขึ้น แต่ไม่ใช่ของกูครับ ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดถูกหยิบขึ้นมาจากที่วางตรงคอนโซนหน้ารถ มึงวางงี้เลยเรอะพี่
“ฮัลโหล เออ....ขับรถอยู่ว่ะ หรอ ได้ดิ...คืนนี้?”
อะไรคืนนี้แล้วมีการเหลือบตามามองกูนิดนึงครับพี่
“โอเคๆ เดี๋ยวเจอกันคืนนี้” พี่มันที่ว่าแบบนั้นก่อนจะวางสายไป
“ฝา”
“ครับพี่...”
“มึงชอบรถใช่ไหม แล้วชอบไปงานแข่งรถไหมวะ”
“ก็ชอบนะพี่ เคยตามไอ้หมอกไปครั้งนึงละ” และเพราะว่าไปครั้งนั้นไง กูเลยตกหลุมอะไรบางอย่าง จนตอนนี้คนคูลๆเริ่มไม่คูลและแม่ง เสียใจวนไป ไม่โอเค พี่ฝาต้องฮีลตัวเองครับ...
“งั้นคืนนี้มึงไปกับกูไหม”
“หือ?”
“พอดีกูมีแข่งว่ะ ไปกับกูไหม”
“ไปดิพี่ เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”
“เยี่ยม จัดไป”
“คร๊าบบบบ แต่ว่าตอนนี้ ไปกินซูชิ แซลม่อนๆๆๆกานนนนน”
“ครับผม”
พี่มันตอบรับเสียงใส เชี่ยเอ๊ย คนอะไรหล่อ สปอร์ต ใจดี...ผิดแค่ตรงที่ กูไม่ได้รักพี่มัน
...
((เออ...มึงจัดการนัดให้กูแล้วใช่ไหม ดี...ขอบใจ คืนนี้เจอกัน))
“มึงคุยกับใครวะไอ้รบ...แล้วคืนนี้มึงจะไปไหน”
หันหน้าไปมองไอ้เทียนที่เดินถือข้าวกระเพราไก่ไข่ดาวเข้ามา2จาน ผมที่แค่กดมุมปากยิ้มให้มันหน่อยๆ
“หน้าตามึงดูเลว”
“หึ ก็แค่มีเรื่องต้องไปจัดการ”
“หวังว่าเรื่องนั้น คงไม่ใช่เรื่องของไอ้ฝาหรอกนะ”
“หึ”
“ไหนมึงบอกไม่ชอบมันไง ก็ปล่อยมันไปสิวะ น้องมันก็บอกจะเลิกชอบมึงแล้วไง”
ก็เพราะแบบนั้นไง กูเลยปล่อยมันไปไม่ได้!
แต่ที่ปล่อยไม่ได้ ก็ใช่ว่ากูจะชอบมันหรอกนะ...ก็แค่เวลาที่ได้แกล้งมัน แล้วมันสนุกดีก็แค่นั้นต่างหากล่ะ ไม่ได้พิศวาสอะไรสักนิด ที่สำคัญ...คนมีสิทธิ์พูดว่าเลิกยุ่งก่อน มันต้องเป็นกูสิ ไม่ใช่คนแบบไอ้จืดสักหน่อย เหอะ
-TBC-
----------------------------------------------------------------------------------------------
อ้อหรอจ๊ะๆๆๆๆ ไม่ได้ชอบน้องมันหรอจ๊ะ แกตามติดน้องจนฉันคิดว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวรแล้วไอ้บ้า!
ตอนนี้ บอกเลยว่าคนแต่งปันใจไปให้พี่โซลอย่างเต็มที่ สงสารน้องฝามากเลย ฝาลูกไม่ร้องน้า ... ตอนน้องร้อง
น่าสงสาร แต่มันเป็นคนน่าสงสารที่คูลมาก มากเก่งในความคิดของเรา ตรงที่ว่า...พอรู้ตัวว่าไปต่อไม่ได้
น้องก็พยายามจะตัด เลยรู้สึกว่า น้องฝาน่ะคูลจริงๆนะ เพราะมันไม่ใช่ทุกคนสักหน่อย ที่รู้ว่าเจ็บแล้วจะถอยได้
ยังไงฝากเด็กๆเรื่อง NoLimit ไว้ด้วยนะคะ ...
รอดูตอนหน้ากัน รับรองว่าเด็ด ซี๊ดปาก ขโมยพริกบ้านข้างๆมาตำเลยล่ะ คริๆ >////////////<

(แก้ไขเครื่องแต่งกายพี่โซล 26/09/17)