ตอนที่ 8 เป็นแฟนกัน ผ่านมาแล้วหนึ่งสัปดาห์ ที่นายพลออกจากงานประจำ แต่เพิ่งมีวันนี้ที่พี่ฌอณนัดมาคุยงาน หลังจากก่อนหน้าเปรยว่าจะให้นายพลมาคุมธุรกิจตัวนี้
มันฝรั่งทอดปรุงรสที่เปิดขายได้เดือนกว่า...เริ่มเข้าที่เข้าทาง ฌอณทำแผนประชาสัมพันธ์ด้วยการจัดกิจกรรม จ้างพริตตี้สาวแสนสวย มายืนแจกเมนูชีสฟรายด์ให้ชิมกันฟรีๆ และในวันเดียวกัน ยังมีทีมรายการอาหารทางช่องยูทิวป์ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนก็เป็นเพื่อนสนิทของฌอณมาถ่ายทำนั่นเอง
นายพลเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่ามีจัดกิจกรรม ที่สำคัญไปกว่านั้น เป็นการมาเจอพี่ฌอณที่นายพลจับสังเกตได้ว่าพี่ฌอณดูแปลกๆไม่คุยเล่นเหมือนเดิม
คนที่เคยรุกจีบไม่มีเว้น วันนี้ช่างห่างเหิน...
ดูออกเพราะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ผนวกกับเห็นบางอย่างที่ชวนขัดหู ขัดตาก็ยิ่งพาลให้อารมณ์เสียอย่างบอกไม่ถูก นั่นคือ การเห็นพริตตี้สองสาวนุ่งน้อย ห่มน้อยที่จ้างมายืนแจกขนมให้ลูกค้าที่ผ่านไป ผ่านมายืนคุยเล่นและหัวเราะคิกคักกับพี่ฌอณกันอย่างสนิทสนม
ไม่คุยกับนายพล แต่กลับอี๋อ๋อสาวอย่างมีความสุข ปล่อยให้เด็กหนุ่มยืนเคว้งคว้าง เหมือนส่วนเกินอย่างไรไม่รู้...
ประจวบเหมาะกับช่วงคนซา ช่างภาพที่ถูกจ้างมาเก็บบรรยากาศกิจกรรมดึงพี่ฌอณถ่ายภาพร่วมกับพริตตี้แสนสวย ฌอณถูกจัดตำแหน่งให้ยืนอยู่ตรงกลางโดยมีสาวขนาบข้าง และสิ่งที่ทำให้พลไม่พอใจจนหน้าบูดเป็นตูดหมาก็ตรงที่ผู้หญิงสองคนยืนชิดจนหน้าอก หน้าใจถูไถไปมาตรงช่วงแขนชายหนุ่ม
ภาพตรงหน้า ไม่ให้เรียกว่า...อ่อย...จะให้เรียกว่าอะไรดี?
นายพลไม่เข้าใจตัวเอง ว่าตั้งแต่รู้จักพี่ฌอณ เขากลายเป็นคนนิสัยเสียกว่าเดิม
ซึ่งนิสัยเสียที่ว่า คือ การหมั่นไส้และไม่ชอบผู้หญิงทุกคนที่ใกล้ชิดพี่ฌอณอย่างบอกไม่ถูก
ยืนมองอยู่ห่างๆอย่างหงุดหงิดใจ จนต้องละสายตาจากคนหน้านิ่งยิ้มหวานให้ช่างภาพถ่ายรูป สายตาก็ปะทะกับกลุ่มเด็กนักศึกษาสาวที่ยืนจับกลุ่มซุบซิบและยิ้มเขินพลางชี้มาทางพี่ฌอณด้วย
สูดลมหายใจเข้าออกช้าๆไม่พอ นายพลถึงกับท่องพุทโธตาม
ทำไมวันนี้เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด
ก็อย่างว่า ขนาดพลเองที่เป็นผู้ชายด้วยกันยังมองว่าพี่ฌอณดูหล่อและสมาร์ทสุดๆ ถ้าผู้หญิงจะยืนมองจนเหลียวหลังบ้างก็คงไม่แปลก
ไม่ไหวจริงๆ เห็นอย่างนี้แล้วอารมณ์ไม่ดี พลจึงเดินไปนั่งพักข้างร้านตรงมุมอับสายตา แต่ไม่นานนฌอณและพริตตี้ก็เดินมานั่งด้วยกัน
นั่งไม่ทันไร พริตตี้หนึ่งในนั้น ก็ยื่นขวดน้ำดื่ม
"พี่ฌอณดูเหนื่อยๆ ดื่มน้ำก่อนสิคะ"
"ขอบคุณครับ" บอกและรับขวดมาจะถือเอง แต่น้องพริตตี้กลับจับไว้แน่น พร้อมดึงหลอดจ่อตรงปากฌอณ บริการถึงใจสุดๆ
"หนูป้อนให้ค่ะ" เหลือบมองพี่ฌอณว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ แต่ก็ทนเห็นต่อไปไม่ได้ เมื่อพี่ฌอณก้มหน้าดูดน้ำที่พริตตี้ถือขวดน้ำให้
หมับ!
นายพลปรี่เข้าไปบีบไหล่ฌอณจนเจ้าตัวผงะและเงยหน้ามอง
"พี่ฌอณครับ ผมจะไปซื้อกาแฟ เอาอะไรไหมครับ?" ส่งสายตาขึงขังและถามเสียงเข้ม
"ไม่เป็นไรครับ" หันมาตอบและกลับไปคุยกับผู้หญิงต่อ
แม่งเป็นอะไรวะ!! โคตรชาเฉยสุดๆ
นายพลจิ๊ปากในลำคอก่อนจะเดินหนีไปซื้อกาแฟทั้งๆที่ไม่ได้อยากกินเลยด้วยซ้ำ
ฮึดฮัดมาตลอดทาง จนมาถึงร้านก็สั่งเมนูที่กินประจำและหย่อนกายลงนั่ง ในขณะที่รอนายพลคิดวนเวียนอยู่เรื่องเดียว จนกระทั่งพนักงานมาวางแก้วบนโต๊ะถึงดึงสติกลับมาได้
เดินออกจากร้านด้วยความหงุดหงิดใจ นายพลพยายามจัดการอารมณ์ตัวเองด้วยการไม่เป็นคนงี่เง่า ไร้สาระ แต่พอเดินกลับมาแล้วเห็นพี่ฌอณยังคุยกับพริตตี้สีหน้าระรื่นมันไม่ไหวจริงๆ
จะระงับความหงุดหงิดได้อีกนานแค่ไหนกันวะ...นายพล
เพราะมัวแต่โฟกัสพี่ฌอณ เพ่งมองแต่พี่ฌอณ จึงไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวเลย ว่าช่วงที่เขาหายไป มีทีมงานถ่ายทำรายการมาถึงแล้ว
จังหวะที่ฌอณกวาดตามองเหมือนหาอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มประสานสายตากับนายพลที่จ้องตาไม่กระพริบ จึงกวักมือเรียก...
"ธรรม์ นี่พล พลนี่ธรรม์ เพื่อนพี่" เดินมาถึง ฌอณก็แนะนำตัวเพื่อนให้กับผู้มาใหม่เสร็จสรรพ
อีกฝ่ายหรี่ตามองนายพลอย่างสงสัย ก่อนจะรีบหันไปถาม
"ไอ้ฌอณ" เห็นเพื่อนยืนอึ้ง ฌอณจึงพยักหน้ารับ
"เฮ้ย! จริงดิ" ธรรม์อุทาน
นายพลมองหน้าทั้งสองสลับกันไปมาอย่างไม่เข้าใจการสื่อสารที่เหมือนจะเข้าใจกันแค่สองคน
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อ จากนั้นเขาหันไปบอกรายละเอียดกับนายพลพร้อมยื่นซองขาวเป็นค่าจ้างพริ้ตตี้ที่ทำงานลุล่วง เพื่อให้นายพลช่วยจัดการต่อ ส่วนฌอณจะอยู่คุยงานกับเพื่อนก่อน
รับมาก็เดินไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายแก่พริ้ตตี้ จัดการเสร็จพวกเธอก็แยกย้าย ฟากพลที่เดินเข้าไปถามพี่ฌอณอยู่หลายรอบว่ามีอะไรให้ช่วยไหม? ก็ได้แต่คำตอบว่าให้อยู่ดูงานเฉยๆ นายพลจึงถือโอกาสตัดสินใจเองด้วยการช่วยพนักงานรับออเดอร์ซะเลย
สี่ชั่วโมงผ่านไปที่ทีมงานถ่ายทำตัวเมนูอาหารและสัมภาษณ์พี่ฌอณเสร็จสิ้น เมื่อทีมงานเก็บของกลับบ้านจนหายไปจากตรงนี้
ช่วงเวลาเดียวกัน ทางร้านก็ขายดีเกินคาด ทำให้สินค้าที่สต็อกไว้หมดเกลี้ยง จึงปิดร้านไวกว่ากำหนด นายพลช่วยพนักงาน เก็บของ ทำความสะอาด ในขณะที่พนักงานเดินไปทิ้งขยะ ก็เหลือเพียงฌอณและนายพลที่อยู่บนรถฟู๊ด ทรัคกันสองต่อสอง
"พี่ฌอณ"
"ครับ"
"วันนี้ ไม่ต้องไปส่งผมนะ ผมกลับเอง" ถามเพื่อดูปฏิกิริยาการตอบกลับ
"ครับ" หวังจะให้อีกฝ่ายคัดค้านว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปส่ง แต่เปล่าเลย...พี่ฌอณกลับเออ ออง่ายดาย จนนายพลอารมณ์เสียที่ไม่เป็นไปดั่งใจคิด...
มองคนที่นั่งนับเงินตรงแคชเชียร์ อย่างไม่สนอีกคนว่าจะนั่งหน้าหงิกหน้างอแค่ไหน...
ไม่ไหวแล้วโว้ย!...
"พี่เป็นอะไรวะ" ไม่ว่าเปล่า มือผลักไหล่อีกฝ่ายอย่างหงุดหงิด
ทำไมพี่ฌอณถึงเปลี่ยนไป จากก่อนหน้า นี่พุ่งเข้าหาจนนายพลรำคาญ แต่ตอนนี้กลับตีตัวออกห่างจนนายพลร้อนใจ
"พลน่ะเป็นอะไร พี่นับเงินอยู่นะครับ"
"ผมไม่โอเคว่ะ" โพล่งขึ้นมาโดยที่ฌอณไม่รู้สาเหตุ
"ไม่โอเค? เรื่อง?" วางเงินลงบนโต๊ะ แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขายาวก้าวไปข้างหน้าเพื่อใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น
"ก...ก็...มีคนซื้อของร้านพี่เยอะ"
"แล้วไม่ดีหรือครับ? ที่ขายดี""ก็มันมีแต่ผู้หญิงมาซื้อร้านพี่ยังไงละวะ แม่งไม่เห็นมีผู้ชายเลย" มองคนโวยวายเหมือนคนสติหลุด เพียงได้ยินประโยคนั้น ร้อยทั้งร้อย ใครได้ยินก็พอเดาออก
สีหน้าเรียบเฉย ค่อยๆผุดรอยยิ้มขึ้นมาทีละนิด จากนั้น ฌอณเอื้อมมือไปดึงบานพับปิดมันลงมา และเดินไปปิดประตูร้านจนตอนนี้เหมือนกล่องสี่เหลี่ยมทึบๆที่ไม่มีใครมองเห็น
"พี่ไม่สามารถบังคับลูกค้าได้นะครับว่าจะให้ผู้หญิงหรือผู้ชายมาซื้อมากกว่ากัน" ฌอณยืนกอดอกจ้องมองไม่วางตา
"หึๆ...พูดแบบนี้เพราะพี่ก็ชอบอยู่แล้วไง สาวๆมาติด อยากอ่อยก็บอก" แสดงความไม่พอใจผ่านคำพูดประชดประชันอย่างไม่รู้ตัว
"แล้วถ้าพี่จะอ่อย มันผิดตรงไหนครับ? เพราะพี่ไม่มีแฟน"กึก!
จบประโยคนั้น ทำให้นายพลโมโหถึงขีดสุด
****1.1****