~ของเหลือ Original~ บทส่งท้าย <<จบแล้ว>> [26/09/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~ของเหลือ Original~ บทส่งท้าย <<จบแล้ว>> [26/09/60]  (อ่าน 47979 ครั้ง)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 22 - 100% [07/09/60]
«ตอบ #150 เมื่อ07-09-2017 22:44:37 »

อาการหลานดิว มันฟ้องว่า "หึง" หรือเปล่านะ  :-[

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 22 - 100% [07/09/60]
«ตอบ #151 เมื่อ07-09-2017 22:57:03 »

ขอฝากผลงานเรื่องใหม่ด้วยนะคะ

เรื่อง ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม?

แนวน่ารักๆ สดใส ไร้ดราม่าาาา ปาลิงก์!!
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61709.0

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 22 - 100% [07/09/60]
«ตอบ #152 เมื่อ08-09-2017 01:59:46 »

ต้นนี่น่าตีจริงๆ ดิวจะไม่มั่นใจก็ไม่แปลกเล้ย

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 22 - 100% [07/09/60]
«ตอบ #153 เมื่อ08-09-2017 12:48:14 »

พี่ต้นนนนนนน ฮรืออออออ มาเป็นผัวหนูเถอะ 55555 ดิวเริ่มสับสนละ

ออฟไลน์ graciej

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 22 - 100% [07/09/60]
«ตอบ #154 เมื่อ08-09-2017 13:24:10 »

ชักจะมีหึง  :hao3:  เอาใจช่วยนะดิว

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 22 - 100% [07/09/60]
«ตอบ #155 เมื่อ08-09-2017 23:40:35 »

เอาละสิ ดิวหึงแล้ววว

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 22 - 100% [07/09/60]
«ตอบ #156 เมื่อ08-09-2017 23:49:37 »

ยิ่งอ่าน ยิ่งเสียดาย

ได้แต่นั่งถอนหายใจ เฮ้อออออออ+++++++

เสียดายยยยยยยยยยย

เสียดาย"ต้น" ไอ่หล่อ..ไม่น่าเล๊ยยยยยย


เฮ้อออออออ++++++++

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 22 - 100% [07/09/60]
«ตอบ #157 เมื่อ09-09-2017 06:56:33 »

แรก ๆ ก็ว่าดิวน่าสงสารนะ พ่อแม่ก็ทิ้งเวอร์มากค่ะ แบบว่าทิ้งจริง ๆ
แต่พอเป็นเรื่องแฟน ทำไปทำไม ก็ทำตัวเองน่ะ เข้าใจว่าต้องการความรัก โหยหา แต่ทำไมไม่เลือกบ้าง
แค่เค้ามาบอกว่ารัก ก็พลีกายแล้ว ก็เหมือนของที่ได้มาง่าย ก็ทิ้งง่ายเหมือนกัน
แต่ดิวกลับไม่แคร์คนที่รักจริง กลับมองว่าเค้าหลอก เอออ ชีวิต
แถมเชื่อคนง่ายด้วย ใจเปราะบางมาก เชื่อเพื่อนแบบว่าเชื่อมากเวอร์น่ะ
รู้ว่าเพื่อนไม่ดีก็ยังคบ พาตัวเองไปเจอเรื่องร้ายด้วย ... รอดูกันต้อไป คนพวกนั้นคงไม่มีตลิปหลุดออกมาหรอกนะ

ต้นบ้ามาก บื้อมากจริง ๆ แต่ทำไงได้ คนมันรักไปแล้ว ทำใจเลิกยาก เจ็บก็ยอมทน
ต้นคือที่สุดจริง ๆ ชายสายสตรอง

ไม้ก็ยังวัยซนอะนะ ที่ห่างดิวแล้วไม่ยุ่ง ก็ไม่แปลกน่ะ เพราะคิดว่าดิวเลือกแล้ว

แม่ลีลาเป็นคนอบอุ่นมาก ใจดีมาก ทำลูกชายบ้านนี้อ่อนไหว

ขอให้ทุกอย่างสงบ และผ่านไปด้วยดีนะคะ คือนาทีสงสารต้นมากน่ะ อยากให้สมหวัง

ออฟไลน์ Bk borz.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 22 - 100% [07/09/60]
«ตอบ #158 เมื่อ09-09-2017 20:46:18 »

รออออ

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 23 - 100% [09/09/60]
«ตอบ #159 เมื่อ09-09-2017 21:36:27 »

>>ตอนที่ 23 [100%]<<

“เฮ้อ...” ประมาณทุ่มหนึ่ง ไอ้ต้นเดินมานั่งถอนหายใจอยู่ข้างๆ มันถือแก้วน้ำมาด้วยและท่าทางก็ค่อนข้างเหนื่อยอ่อน

“เหนื่อยอ่อพี่”

“นิดหน่อยวะ วันนี้คนเยอะมากเลย...ไม่รู้มาจากไหนกัน” เขาก็มาจากบ้านของเขาไง หรือไม่ก็จากที่ทำงาน ถามบ้าอะไรโง่ๆ

“มาดูคนหล่อเปล่า นี่อาจจะโดนแอบถ่ายรูปแล้วไปขึ้นแฮชแท็ก พนักงานเสิร์ฟหล่อบอกต่อด้วย ฮ่าๆ” ไม้หัวเราะ พี่ชายังทำหน้าเอือม

“กูหล่อแล้วอ่อวะ ไม่จริงอะ ถ้าหล่อคนแถวนี้ลากกูเข้าห้องไปนานแล้ว” ต้นพูดพลางมองหน้าผม

“หล่อแต่ปากหมาก็ไม่มีใครเขาอยากเอาหรอก” ผมบ่นลอยๆ

“ถ้าเลิกปากหมาจะได้เอาใช่ปะ...” ต้นเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ ผมเหวอรีบขยับถอยห่าง

“จะไปรู้เหรอ”

“อ่าว ทำไมมึงไม่รู้ละ...” ดันหน้ามันออกไปห่างๆ แล้วขยับมานั่งดีๆ เหมือนเดิม

“เกี่ยวไรกับกูละ”

“ก็กูถามมึง” อ่า...ผมไปต่อไม่ถูก เลือกเบนสายตาไปมองอย่าอื่น

“ฮุ่ย....จีบกันไม่เกรงใจผมเลย” เรียกจีบแล้วเหรอไม้ บ้านผมไม่เรียกว่านี่คือการจีบนะ เรียกกวนตีนไปวันๆ

“ตลกแล้วไม้ ใครจีบใคร ไม่มีทั้งนั้นอะ” ผมรีบพูด

“มีดิ...” หันไปมองหน้าไอ้ต้นอย่างไว

“ไหน...กูไม่เห็นมีเลย มีแต่หมาเห่าหอนอยู่เนี่ยหนึ่งตัว” แล้วปากก็พาไป ต้นไหวไหล่ไม่ใส่ใจคำพูด

“มึงเห็น มึงรู้ มึงแค่ไม่สนใจ...” ต้นดื่มน้ำในแก้วให้หมด มันลุกแล้วไปทำงานของมันต่อ

“ใจร้ายชะมัด” อ่าวไม้ ทำไมว่าเราแบบนั้น

“เราเนี่ยนะใจร้าย”

“ใช่สิ พี่เรากลับบ้านไปร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่” พูดแบบนั้นมันน่าขำมากกว่าน่าสงสารนะ

“ฮ่าๆ ให้มันร้องไปเลย” ว่าจบก็หันมาสนการบ้านต่อ

ผมสอนการบ้านไม้ในข้อที่มันไม่รู้จะทำยังไง กว่าเราจะทำการบ้านกันเสร็จ ร้านก็เริ่มไม่มีคนแล้ว ตอนนี้พยักงานเริ่มทยอยออกมาเก็บโต๊ะเก็บอะไรให้เข้าที่เข้าทาง บ้างก็กวาดร้านถูร้านทำความสะอาดรอคนที่เหลือ ไอ้ต้นมันเดินไปพลิกป้ายปิดร้าน จากนั้นเอาไม้ถูมาถูพื้นช่วยคนอื่นๆ ผมมมองดูมันพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน หัวเราะเฮฮากันไปตามประสาผู้ชาย ฟังไปฟังมา มันคุยเรื่องเกมกันอยู่ ไอ้ต้นเป็นคนอย่างนี้แหละ...ชอบเล่นเกมไม่ก็ไปกินเหล้ากับเพื่อนๆ

“พี่ชายไม้ไม่มีงานอดิเรกเลยจริงดิ ไม่เคยเห็นทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง” มองเพลินๆ เลยถามคนที่น่าจะรู้ที่สุด

“ก็มีนะ พี่ต้นเคยเล่นกีตาร์โปร่ง ก็ดูเหมือนชอบแต่ไม่เอาดี” มันเล่นกีตาร์ด้วยแหะอันนี้เพิ่งรู้

“เล่นตอนไหนไม่เคยเห็น”

“เล่นในห้องอะ พี่แกไม่ค่อยเล่นข้างนอก หรือเล่นแค่แป๊บเดียวอันนี้ลังเล...จำไม่ค่อยได้เพราะมันนานแล้ว อ่อ แต่มีงานหนึ่งพี่ชอบทำมาก” ผมเบี่ยงสายตามาที่ไม้ทันทีด้วยความสนใจ

“อะไร”

“ถ้ำมอง ฮ่าๆ” แล้วมันก็ขำเป็นบ้าเป็นหลัง ผมรู้ได้เลยว่าที่ไม้พูดมันหมายถึงอะไร

ผมจำได้ว่าต้นเคยพูดว่าเห็นมีอะไรกับแฟนตรงหน้าต่าง ที่ไม้บอกแบบนี้ก็แสดงว่าต้นมันถ้ำมองผมที่หน้าต่างนั่นแหละ ห้องของเราอยู่ตรงข้ามกันพอดี มองจากห้องผมก็เห็นห้องมัน บางครั้งผมก็ชอบไปนั่งเล่นริมหน้าต่าง เห็นไอ้ต้นนั่งเล่นคอมพ์หรือทำรายงานอยู่ที่โต๊ะเป็นประจำ มันไม่ชอบปิดม่าน เปิดเอาไว้รับลมอยู่บ่อยๆ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจแอบมองมันนะ แค่มองออกไปด้านนอกแล้วมันเห็นเอง...

“เอาจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างมันจะชอบเรา” ผมไม่พูด ไม่กล้ามองหน้าไม้

“อืม...จริงพี่เขาชอบดิวมานานแล้วล่ะ” ฮะ พูดจริงพูดเล่น อย่ามาตลกนะไม่เชื่อหรอกเอาจริงๆ

“เห่อๆ อมทั้งวัดมาพูดยังไม่เชื่อเลย”

“เราก็ไม่อยากเสือกเรื่องนี้หรอกนะ แต่เห็นพี่แอบชอบดิวมานานแล้วก็อดสงสารไม่ได้...ดิวไม่เชื่อ ดิวก็ลองพิสูจน์เอาสิ เราไม่โกหกหรอกพูดจริงๆ” สีหน้าไม้จริงจังมาก แล้วผมก็พอจะเข้าใจ ผมมีแฟนอยู่ตลอด มีคนคุยอยู่เรื่องๆ ต้นมันไม่เคยพูดเองนี่ว่ามันชอบผม มันเอาแต่ปากหมาใส่อยู่แบบนั้นมีแต่ทำให้เกลียดมากกว่าชอบปะละ

“พิสูจน์ยังไง...” ผมถามอย่างสนใจ

“ไม่รู้สิ เราไม่เคยมีความรักแหะ” ทีงี้ละมาหนักใจ

“ทำการบ้านเสร็จยัง...” ต้นโพล่งขึ้นมากลางปล้อง ผมกับไม้หันไปมองมันที่กำลังถอดผ้ากันเปื้อน

“เสร็จแล้ว พี่อะปิดร้านแล้วเหรอ” ไม้พูดก่อนหันไปมองรอบร้าน ผมก็มองเหมือนกัน ยังมีคนทำความสะอาดร้านอยู่เลย แต่ก็แค่บางจุดเท่านั้น

“อืม เหลือนิดหน่อย เดี๋ยวให้พนักงานคนอื่นทำ นี่สี่ทุ่มแล้วกลับกันเหอะ” ต้นมันนวดต้นคอตัวเอง

“ครับๆ ปะดิวเก็บของกันเหอะ” ผมทำตามไม้ เก็บข้าวของใส่กระเป๋าตัวเองอย่างไว ไม่ได้มีอะไรมากก็เลยเร็วหน่อย

ต้นมันช่วยถือกระเป๋าของผมและไม้ให้ เดินนำหน้าไปที่รถก่อน ไม้แย่งนั่งหลังอีกเช่นเคย ดูเหมือนจะพยายามเปิดทางให้พี่ชายตัวเองได้รุกผมอยู่ ผมก็ไม่อยากว่าเพื่อนตัวเอง มันทำเพื่อพี่มันอะถูกแล้ว อีกอย่างก็ไม่ได้ยัดเยียดผมมากเกินไป ผมเลยไม่อึดอัดใจเท่าไหร่ที่ต้องอยู่อย่างนี้

เอาจริงๆ...ผมไม่ค่อยอึดอัดเลยเวลาอยู่กับต้น แค่ไมชอบขี้หน้า ไม่ชอบเวลามันอ้าปากพ่นคำหยาบใส่ หรือไม่ก็หาเรื่องแกล้ง ผมฝังใจกับสิ่งเหล่านั้นจนกลายเป็นความลังเลแบบนี้ ผมคิดนะ ทีคนอื่นที่เข้ามาจีบผมให้โอกาสพวกเขาได้ง่ายดาย แต่กับต้นมันมีความลังเลและไม่แน่นอนอยู่เต็มไปหมดเลย

หรือผมควรพิสูจน์ดูอย่างที่ไม้บอก แต่วิธีไหนละ...วิธีไหนที่จะทำให้ความลังเลของผมมันหายไปได้บ้าง เอาตามคำพูดของกานกับคิง มันชอบบอกว่าถ้าผู้ชายรักเขาจะอยากได้เรามาก นั่นหมายถึงเรื่องบนเตียง...

อ่า นึกถึงภาพที่ไอ้ต้นมันซุกไซ้ผมวันนั้นที่บ้าน วันที่มันพยายามทำให้พี่โอมกลับมาหาผม ท่าทางคุกคามและพยายามควบคุมตัวเองของมันผมรับรู้ได้อยู่บ้าง ถึงจะตกใจไปหน่อยกับสิ่งที่มันทำอย่างกระทันหัน ยิ่งตอนผมอาบน้ำเสร็จออกมากินข้าว มันกอดผมแล้วก็หอมแทบจะทั้งซอกคอ

ตอนนั้นมันดูสติหลุดมากๆ เลย...

แต่ว่า...ผมไม่ซิงนะ ผมผ่านผู้ชายมาตั้งหลายคน แถมยังโดน...แบบนั้นอีก มันจะชอบผมอยู่ต่อจริงเหรอ มันอาจไม่คิดมากที่ผมมีอะไรกับแฟนไม่กี่คนที่ผ่านมา แต่ถ้ามันรู้ว่าผมมั่วสุมแบบนั้น มันคงบ่ายหน้าหนีไป

ผมนั่งมองเสี้ยวหน้าคนขับรถ ดวงตาของมันค่อนข้างเหนื่อยล้า เป็นห่วงนะ...แต่ไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน ระหว่างที่มองอยู่ ผมคิดว่าถ้าผมถามออกไปตรงๆ หรือบอกสิ่งที่ผมผ่านมาตรงๆ มันจะยังรับได้อยู่ไหม...

ผมมันเป็นแค่ของเหลือๆ...เป็นของที่ไม่ได้มีค่าอะไรเลยอย่างนี้

“เป็นอะไร มองหน้าแล้วทำหน้าเครียด...คิดมากอะไรหรือเปล่า” จู่ๆ ไอ้ต้นก็ถามขึ้นเสียงนุ่ม ผมชะโงกไปมองไม้เผื่อว่ามันพูดกับน้อง ปรากฏว่าไม้หลับไปแล้ว เด็กกีฬาก็อย่างนี้ เพลียง่ายเพราะออกกำลังกายเยอะ

“พูดกับกู...”

“เห็นกูพูดกับใครละ” ต้นหันมามอง ผมเลยหันหนี

“เปล่า ไม่มีอะไร”

“เอาดีๆ ดิว มีอะไรก็พูด” เพราะมันไม่ได้ใช้น้ำเสียงเย้ยหยันหรือเปล่า ผมถึงอยากจะลองถามมันดู

“ไม่...” แต่ก็ไม่กล้า เกิดมันหัวเราะเยาะเย้ยผมขึ้นมา ผมคงรู้สึกแย่มากแน่ๆ

“มึงคิดว่าที่กูทำคือแกล้งมึงใช่ไหม...” อ่า มันพูดถูก นั่นเป็นสิ่งที่ผมคาใจที่สุด ผมหันไปมองหน้ามันอีกครั้งก่อนจะพยักหน้า

“ก็มึงชอบแกล้ง แล้วถ้านี่มึงแกล้งกูอยู่...กูอยากให้มึงหยุด” ถ้าผมหวั่นไหวไปกับมัน เผลอรู้สึกไปกับมัน ผมกลัวว่าตัวเองต้องเจ็บ...กับคนที่ผ่านมาผมไม่คิดมากขนาดนี้ แต่ต้นไมใช่เลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม หรือเพราะมันคุ้นหน้ากันมาตั้งแต่เด็ก บ้านอยู่ตรงข้ามกันอีกต่างหาก ผมไม่มีทางหนีมันไปตั้งหลักพ้น มีแต่ต้องเจอหน้าแล้วช้ำใจไปเรื่อยๆ

“ไม่ ครั้งนี้กูไม่ได้แกล้ง...นี่จีบมึงอยู่จริงๆ นะ” พอเจอมันพูดตรงๆ ผมกลับหาคำพูดตัวเองไม่เจอ

“รอมึงโสดมาตั้งนานแหนะ...” ต้นยิ้มบางๆ

“มึงโกหก”

“โกหกแล้วได้อะไร นี่กูพูดจริงนะ...ที่ปากหมาใส่ก็แค่หงุดหงิด กูไม่เคยเป็นคนที่ยืนอยู่ข้างมึงอะ” มันต้องบ้าแน่ๆ ที่พูดกับผมตรงไปตรงมาแบบนี้ แล้วผมก็บ้าไม่แพ้กัน หัวใจมัน...เต้นแรงไปหมดเลย

“ไม่ต้องเชื่อก็ได้ แค่เฝ้าดูไปเรื่อยๆ...” ต้นเอื้อมมือยีหัวผม เราเดินทางมาถึงบ้านแล้ว คุณน้านั่งรออยู่ที่ห้องโถง พอเห็นรถก็รีบออกมาต้อนรับ

ผมได้หนีจากความรู้สึกแปลกๆ เสียที หัวใจเต้นแรงแล้วกเก้อไปหมด ทำอะไรไม่ถูก แค่หายใจผมยังรู้สึกว่ามันผิดจังหวะไปหมดเลย ผมไม่เคยเป็นเอามากขนาดนี้ หรือเพราะเจอเรื่องร้ายมา พอเจอคนดีๆ ทำแบบนี้ด้วยมันก็เลยยิ่งหวั่นไหว

ไอ้ต้นฉวยโอกาสที่ผมอ่อนแอชัดๆ...

ผมกอดน้าลีลา หอมแก้มเธอซ้ายขวาก่อนเธอจะหอมผมตอบ ตามด้วยลูกชายทั้งสอง ผมได้อาบน้ำก่อนใคร ในห้องของคุณน้ามันมีห้องน้ำอยู่แล้ว ส่วนต้นกับไม้ต้องสลับกันอาบ ไม้เป็นน้องชายที่ดี มันเสียสละให้พี่ชายตัวเอง แต่คุณพี่มันกลับไม่ยอมอาบก่อน ปล่อยไม้น้องอาบแล้วให้น้องไปนอน มันเห็นว่าไม้หลับมาในรถ วันนี้คงเพลีย ทั้งที่มันเองก็เหนื่อยจากการทำงานมาเหมือนกัน

ต้นมันรอไม้อาบน้ำด้วยการนอนหนุนตักแม่ ถามว่าวันนี้เป็นยังไงแล้วทำงานเหนื่อยไหม ผมนั่งข้างๆ คุณน้า เอนหัวพิงไหล่บอบบางแล้วนั่งฟังพวกเขาคุยกัน คุณน้าเธอไม่เหนื่อยกับการทำงาน แค่ปวดหัวกับเอกสารนิดหน่อย ส่วนต้นมันโกหก มันบอกว่ามันไม่เหนื่อยเลย ทำงานสนุกมาก แต่คุณน้าก็รู้ทัน ตีหัวเจ้าต้นไปหนึ่งทีเพราะต้นโกหก

พวกเขาเป็นครอบครัวที่ดีจัง มองตาก็รู้ใจ เข้าอกเข้าใจกันเสมอ ในความอิ่มเอมใจมันก็มีความอิจฉาซ่อนอยู่ จริงที่คุณน้าเคยบอกว่าความรักของคุณน้าทดแทนความรักของพ่อแม่ผมไม่ได้ ยังไงซะ...เราก็ยังโหยหาความรักจากครอบครัวที่แท้จริงของเราอยู่ดี

คุณน้าลีลารู้ถึงจุดโหว่งนั้น เธอถึงได้พยายามให้ความสำคัญและสิทธิพิเศษกับผมมากกว่าใครๆ ผมอุ่นใจได้เพราะส่วนนี้นี่แหละครับ นี่ถ้าคุณน้ากลายเป็นแม่ผมจริงๆ ผมคงมีความสุขมากเลยนะ

เราไมได้นั่งเล่นข้างกันนานนัก วันนี้ดึกแล้วและทุกคนต้องการการพักผ่อน พอต้นมันได้ขึ้นไปอาบน้ำ คุณน้าก็ส่งไม้เข้านอนก่อนจะมานอนกอดผมบนเตียง มันดูเหมือนผมเป็นแค่เด็กเล็กๆ ไม่รู้จักโต แต่มันทำให้ผมรู้สึกดี แต่ก่อนจะได้นอน ผมตัดสินใจถามคำถามหนึ่งออกไป

“น้าครับ..”

“จ้ะน้องดิว” คุณน้าตอบกลับเสียงหวาน

“ไอ้ต้นมันชอบผมจริงเหรอครับ”

“ต้นสารภาพแล้วเหรอ” ที่ไม่บอกผมกันก่อนเพราะรอต้นมันพูดเปิดใช่ไหมนะ

“ครับ...บอกวันนี้”

“อืม...ใช่จ้ะ ต้นเขาชอบหนู” เหมือนได้รับการยืนยันความจริง ผมปิดเปลือกตาลงพร้อมกับความหนักอึ้งในใจค่อยๆ หายไปทีละน้อยคำพูดคนอื่นมันเชื่อยากไปหน่อยในความรู้สกึผม แต่กับคุณน้าลีลา...ผมมั่นใจในคำพูดของเธอ

แล้วถ้าต้นชอบผมจริง...ที่เหลือก็อยู่ที่ผมจะชอบมันตอบไหม ไม่หรอก...เอาเข้าจริงๆ มันต่างหากที่จะรับของเหลือชิ้นนี้ได้ไหม

.....100%....

ด้วยคสามที่ต้นมันแกล้งดิวมาตั้งแต่เด็กไง ดิวมันเลยระแวงกลัวโดนแกล้งอีกงี้ ดิวไม่ได้เล่นตัวเลยนะ จริ๊งงง ไม่มีอะไรให้เล่น อุ้ยยย แรงไปขออภัยน้องดิวนะคร้าบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 23 - 100% [09/09/60]
« ตอบ #159 เมื่อ: 09-09-2017 21:36:27 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 23 - 100% [09/09/60]
«ตอบ #160 เมื่อ09-09-2017 21:47:25 »

 o13 สุดยอดหลานต้น หมั่นขยันบอกรักไปเรื่อย ๆ นะ

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 23 - 100% [09/09/60]
«ตอบ #161 เมื่อ09-09-2017 22:19:41 »

เราชอบที่คนเขียนบอก ดิวไม่น่ามีอะไรให้เล่นตัว 55555

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 23 - 100% [09/09/60]
«ตอบ #162 เมื่อ10-09-2017 00:01:00 »

อีกนิดนะต้น ใกล้แล้วลูก

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 23 - 100% [09/09/60]
«ตอบ #163 เมื่อ10-09-2017 11:03:18 »

ของเหลือแต่มีคนรอนะ

ดิวไม่ต้องคิดแทนหรอก แค่เห็นสภาพ บ้านฝั่งนี้เค้าก็ดูออกแล้ว
ไม่งั้นไม่พามาอยู่ด้วยหรอก

ต้นรุกแล้วนะ บอกชัดแล้วด้วยว่าจะจีบ ดิวอย่ามึนค่ะ

ไม้คือเชียร์มากน่ะ แม่ก็ชงนะ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 23 - 100% [09/09/60]
«ตอบ #164 เมื่อ10-09-2017 12:33:16 »

ใกล้แล้ว. อีกนิดนะต้น,,,

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 23 - 100% [09/09/60]
«ตอบ #165 เมื่อ10-09-2017 21:33:23 »

โหยหาความรักอยู่ไหน
ตามหามาซะนาน

จริงแท้มันอยู่ใกล้ๆนี่เอง
คนข้างบ้านชื่อ"ต้น" คนนี้ล่ะ

ความรักที่ไม่ใช่ความใคร่
ดิวเรียนรู้จากต้นได้เลย

Have sex กับ Make love
มันคนละเรื่องเลย
อีกไม่ช้า ต้นจะทำให้ดิวรับรู้ได้
อิอิ

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 23 - 100% [09/09/60]
«ตอบ #166 เมื่อ10-09-2017 23:36:54 »

เสียดายอ่ะ อ่านมาบทนี้ก็ยังเสียดายอยู่ ต้นเอ้ยยยย เจอคนที่ดีกว่านี้เถอะ ก็ต้องยอมรับอ่ะนะว่าเป็นเรื่องแรกที่อ่านแล้วไม่อยากให้ตัวเอกเขาได้กัน 555

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 23 - 100% [09/09/60]
«ตอบ #167 เมื่อ11-09-2017 07:33:05 »

อ่านรวดเดียวเลย ชอบต้นมาก ชอบผู้ชายแบบนี้

ออฟไลน์ PositiveLove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 23 - 100% [09/09/60]
«ตอบ #168 เมื่อ11-09-2017 17:59:05 »

อ่านความคิดดิวแล้วก็เห้อก็ยังจะโทษคนอื่นรอบตัวไปหมดเลย
อยากบอกว่าถ้าศีลไม่เสมอกันอ่ะไม่คบกันมาได้ขนาดนี้หรอกเพื่อนคบมาก็นานจะไม่รู้นิสัยกันเลยเหรอ
ถ้าไม่ก็แสดงว่าคิดไม่ได้ ไม่มีที่ว่างในสมองเหลือไว้ให้คิดอย่างนอกจากผู้ชายแล้วสิน่ะงั้น
มาอ่านดูดีๆจริงๆดวก็แค่หาข้ออ้างให้ตัวเองคบผู้ชายได้ไม่ต้องคิดไรมากป่ะ
เพราะถ้าบอกขาดรักจนต้องหาใครมารัก แต่ก็ไม่เคยคิดจะรักตัวเองเลยสักนิด
ผิดและพลาดมาแล้วก็ยังวนลูปทำพฤติกรรมเช่นเดิม ล้วนมาจากตัวเองทั้งนั้น แค่มีใครมาบอกรักหน่อยก็พร้อมพลีกายอ้าขา
แล้วมาถึงคิวต้นบ้าง ก็เหมือนเดิมแหละ บอกรักหน่อยก็ทำเป็นหวั่นไหว คือตลกมากจริงๆแค่อยากได้อะไรกันแน่ดิว :katai4:
ส่วนครอบครัวต้นไม้ ก็ยังรำคาญแม่ต้นอยู่ดี ชงลูกแปลกๆแปลกมากเลยล่ะ แทนที่จะบอกให้ดูๆกันไปก่อนตอนนี้มีหน้าที่เรียนให้ตั้งใจในส่วนนี้ไป ไม่ใช่ส่งให้จีบ คือไม่กลัวลูกติดโรคเลยสิน่ะ อยากจะคิดบวกน่ะ... บวกแม่งเลยเนี้ย!!!
แล้วการที่ครอบครัวต้นไม้มาพะเน้าพะนอดิวแทนที่จะคอยชี้แนะให้คำแนะนำยืนข้างๆเพื่อให้โตและคิดได้ด้วยตัวเองบ้าง
ก็ไม่แล้วกลายเป็นว่าดิวก็ยังเป็นเหมือนเดิมไม่สามารถลุกขึ้นและคิดได้ด้วยตัวเอง มันก็จะกลับมาเหมือนเดิม วนไปเรื่อยๆ
ไม่ว่ากับต้นก็เหมือนกันเพราะดิวไม่ได้ขาดรักดิวแค่ใจแตก แล้วตอนนี้อย่ามาทำอ่อยต้นหน่อยเลย
ไม่เรียกพี่พอว่านี้เรียกไอ้ต้นทุกครั้งต่อหน้าแม่ต้นก็เรียก คือไม่ละอายเลยเหรอ หรือแม่ต้นถือหางให้
จุดนี้แม่ต้นก็แปลกค่ะ ไม่ว่าไม่อะไร อ่อก็รักลูกไม่เท่ากันเนอะ บางทีก็รักมากกว่าลูกในไส้ซะอีก
ยังคงยืนกระต่ายขาเดียวเชียร์ต้นให้คนอื่น ถึงแม้จะรู้ว่าไม่ได้แล้วก็ตามที
ปล.ไม่ใช่รับไม่ได้เรื่องผ่านมาหลายคนน่ะ คิดดูดิ การที่เราเอาเชื้อไปติดคนที่เรารักอ่ะ
คิดว่ามันทรมานน่ะต้องดูแลตัวเองมากๆและรับยาตรงเวลา ทำอะไรไม่อิสระเท่าที่ควรต้องระวังคนรอบข้างด้วย
ในเมื่อนักเขียนมีพล้อตมาจากสก๊อย เรื่องพวกนี้ก็คงได้รับฟังมาบ้าง แถมยังไม่ไปตรวจและฉีดยาป้องกันไวรัสอีก :mew5:
ตอนนี้ดิวไม่ใช่แค่ของเหลืออ่ะแต่คือของเสียสำหรับเรา นอกจากว่าจะคิดได้ด้วยตัวเองไปทำให้ตัวเองมีคุณค่า
ไปได้ไกลๆ ดูแลตัวเองได้ยืนได้ด้วยตัวเอง อยู่ในจุดที่ใครๆก็อิจฉาในความพยายามบากบั่นของเรางี้ค่อยน่าเก็บมาซ่อมแซมสักหน่อย
 

ออฟไลน์ Bk borz.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 23 - 100% [09/09/60]
«ตอบ #169 เมื่อ11-09-2017 18:49:44 »

รอทุกวันเลยนะมาต่อทุกวันได้ไหมอยากอ่านทุกวันเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 23 - 100% [09/09/60]
« ตอบ #169 เมื่อ: 11-09-2017 18:49:44 »





ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 24 - 100% [12/09/60]
«ตอบ #170 เมื่อ12-09-2017 20:47:53 »

>>ตอนที่ 24 [100%]<<

ตอนเช้า ผมตื่นมาพร้อมคุณน้า ลงไปช่วยคุณน้าทำอาหารให้สองหน่อที่ยังไม่ตื่น ผมทำไม่เป็นหรอกครับ แค่ช่วยหยิบช่วยจับเท่านั้นเองไม่เก่งกาจขนาดแสดงฝีมืออะไรออกมาได้ ทำกันยังไม่เสร็จ กลิ่นแกงกะหรี่สูตรเผ็ดน้อยก็ลากเจ้าไม้ลงมาข้างล่าง ตาปรือหัวฟูอยู่เลยครับ คุณน้าต้องไล่ให้มันกลับขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย เรียกพี่ชายลงมากินข้าวด้วยกันได้แล้ว

ผมว่านะ...มื้อเที่ยงวันนี้เอาแกงกะหรี่นี่ไปกินที่โรงเรียนดีกว่ามะ กลิ่นมันทั้งหอมแล้วก็น่ากินมากๆ ที่จริงคุณน้าบอกว่าถ้าให้ดีต้องเคี่ยวทิ้งเอาสักคืนสองคืน มันจะอร่อยกว่านี้มากๆ แกงกะหหรี่เป็นอาหารที่ยิ่งทำนานก็จะยิ่งอร่อย นี่ทำแค่แป๊บเดียว รสชาติดีจริงแต่ยังไม่ถึงแก่น ผมไม่สนอะ ผมว่านี่สุดยอดแล้ว

“ต้นละลูก...” คุณน้าเห็นไม้เดินติดกระดุมลงมาคนเดียวก็เลยถาม

“ไม้เรียกแล้ว แต่พี่ไม่ยอมตื่นอะ” พูดแล้วเหล่มองมาทางนี้คือยังไงครับเพื่อน

“งั้นเดี๋ยวผมไปตามให้” ต้องการแบบนี้ใช่ไหมครับ เป็นน้องชายที่แสนดีเกินไปละนะ

“ดีจัง...ขี้เกียจพอดีเลย” หนอย ทำหน้าทำตา หมั่นไส้จริงๆ

ผมเคาะประตูห้องต้นอยู่หลายที แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เรียกมันก็แล้วยังไม่ขานอีก ก็เลยลองเปิดประตูเข้าไป ต้นไม่ได้ล็อกห้อง ผมถือวิสาสะเข้ามา ก็เคยเข้ามาก่อนแหละไม่ใช่ไม่เคย ยิ่งตอนเด็กๆ นี่เข้ามาบ่อยเลยครับ เข้ามาเล่น แอบรื้อของๆ มันด้วย จำได้ว่าในลิ้นชักคอมพ์มีหนังสือโป๊ เดี๋ยวนี้ไม่น่ามีมั้ง...ดูในคอมคงสะดวกกว่า

“ไอ้ต้น ตื่นได้แล้ว” เจ้าตัวขี้เกียจนอนขดกลมอยู่บนเตียง ผ้าห่มคุมถึงหัว โพล่มาแค่เส้นผมกระหย่อมหนึ่ง

“....” แมงไม่กระดิกตัวเลยวะ จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนวะ

“ไอ้ต้นเว้ย ลุก!!!” ผมตัดสินใจดึงผ้าห่มมันออก ต้นไม่ได้ใส่เสื้อนอน มันใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเดียว แถมรอยช้ำจ้ำบนตัวมันก็ยังไม่หายดี เหลือล่องรอยเอาไว้เยอะอยู่ ดูแล้วรู้สึกผิดเหมือนกัน ต้นขยับตัวนิดหน่อย มัพยายามเอาหน้าซุกหมอนหนี อ่อ..แสงไง

ผมเดินไปเปิดผ้าม่านออก แสงอาทิตย์สาดเข้ามาเต็มๆ ไม่พอ ยังขึ้นไปนั่งข้างๆ ตัวมันแล้วจับหัวหนักๆ ให้หันไปรับแสงแดดยามเช้าด้วย ต้นมันรีบเอามือขึ้นมาบังแสงทันที ครางงึมงำบ่นอะไรในคอก้ไม่รู้

“ตื่นโว้ย!!! จะสายแล้วเนี่ย ลงไปกินข้าวได้แล้วไอ้หมาต้น” เห็นมันพยายามนอนต่อ ผมก็ตีไหล่มันมันแรงๆ หวังว่าเจ็บแล้วมันจะตื่น

“กูเจ็บ...” นั่น ก็รู้สึกตัวนี่

“ตื่นสิวะ คุณน้ารอกินข้าวอยู่นะ” ซ้ำเข้าไปอีก

“อื้อ...ตื่นแล้วๆ” มันพลิกตัวนอตะแคงมาฝั่งที่ผมนั่ง ปรือตามองหน้าผมก่อนจะยิ้ม

“ยิ้มเหี้ยไร ลุก!”

“มีความสุขก็ต้องยิ้มดิ”

“ความสุขมึงคือการได้ป่วนประสาทกูอะสิ ปลุกยากฉิบ อะไรจะขี้เซาขนาดนั้นวะ” ผมขยับเพื่อจะลงไปข้างล่าง แต่ติดมือไอ้ต้นเสียก่อน เล่นรวบเอวผมเอาไว้กะทันหัน ผมก็หงายหลังไปนอนหนุนอกมันพอดีอะสิ

“เปล่า มีมึงมาปลุกอะกูมีความสุข...เห็นหน้ามึงคนแรกเลย แฮปปี้ฉิบหาย” อ่า...กลับไปปากหมาแบบนเดิมเหอะ
“ขนลุก” ผมตั้งท่าจะดิ้นแล้วลุกอีกครั้ง

“ฟอด...” แต่ก็โดนมันขโมยหอมแก้มเสียก่อน

“ชื่นใจ” มันปล่อยผมไปอย่างง่ายดายหลังหอมแก้มผมแล้ว

“มึงนี่จอมฉวยโอกาสเหมือนกันนะ”

“แน่นอน กูรอโอกาสมานานแล้ว...มีเข้ามาก็ต้องฉวยเท่าที่ฉวยได้” ว่าจบมันก็ขโมยหอมแก้มผมอีกฃ้าง ผมคว้าหมอนจะปาใส่ไอ้ต้น แม่งเสือกวิ่งเร็วไง หนีออกไปอาบน้ำโคตรไว หมอนผมกระแทกประตูห้องมันเต็มๆ แทนที่จะเป็นหลังมัน

เดินหน้าหงิกลงมาข้างล่าง แทนที่ไม้จะถามว่าเป็นอะไร มันกลับหัวเราะเหมือนเดาเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้โดยที่ผมจำเป็นต้องบอกอะไร คุณน้าลีลาเองก็ยิ้มๆ รู้ทันกันหมดแบบนี้ ผมเริ่มเหมือนไม่มีพรรคพวกเลยนะ พวกเขารุมผมอะ แกล้งผมชัดๆ เลยแบบนี้

ต้นเดินผิวปากลงมา สบายอกสบายใจมากๆ มันไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาแต่เป็นชุดไปรเวท เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์สีดำเข้าชุดกัน เจ้าตัวเข้ามากอดแม่ตัวเองก่อนจะนั่งลง ต้นมองมาทางผมยิ้มๆ ก่อนจะหันไปให้ความสนใจมื้อเช้าที่แสนอลังการวันนี้

“ไม่ไปเรียนเหรอลูก...” คุณน้าถามขณที่เอาจานที่จัดเอาไว้แล้วเสิร์ฟให้

“ครับ วันนี้ต้นไม่มีเรียน อาจารย์ยกเลิกคลาสเมื่อคืน ก็เลยนัดกับเพื่อนว่าจะไปซื้อของมาทำโครงงาน อาจจะรกบ้านหน่อยนะแม่...ต้นต้องใช้ที่นี่ทำงานแหละ”

“อ่อ เอาสิ...แกงกะหรี่มีเยอะพอดีเลย ชวนเพื่อนกินด้วยกันนะ”

“ครับ”

ต้นไปส่งผมกับไม้ไปโรงเรียน ระหว่างทางมันโทรหาเพื่อนตัวเอง บอกว่ากูออกมาแล้ว ตื่นได้แล้วจะไปรับอะไรพวกนี้แหละ ผมได้ยินเสียงบ่นแว่วมาตามสาย พวกนั้นด่าไอ้ต้นยับเลยที่รีบปลุกมันแต่เช้า ก็นี่ยังไม่เจ็ดโมงครึ่งเลยนี่ครับ อาจารย์สั่งเลิกคลาสทั้งทีก็คววรจะได้ตื่นสายนี่นาเนอะ

ผมกับไม้หอบหิ้วเอาปิ่นโตแสนน่ารักมาด้วยในวันนี้ ข้าวแกงกะหรี่แม่งอร่อยมากจนผมอยากเอามากินที่โรงเรียน ไม้เห็นผมเอามันก็เอาบ้าง เรียกว่าทำตามๆ กันไป แต่เราเอามาเยอะมากครับ เผื่อคนอื่นอยากกินกับเราด้วย นี่แค่หิ้วปิ่นโตเข้าห้อง โอ๊ตก็แซ็วมาเลยว่ากลิ่นอะไรน้าหอมจังเลย ผมกับไม้พากันขำ แล้วอวดข้าวเที่งวันนี้ให้เพื่อนดู ผมเห็นว่ากลุ่มกานคิงหันมาทางผมเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ทักทายพวกนั้น มัวแต่สนใจความอยากอาหารของโอ๊ตอยู่ มันตลกมากๆ อ้อนวอนขอกินใหญ่เลยเห็นไหม ผมบอกแล้วว่าเราควรเอามายเอะๆ หน่อยเผื่อคนที่อยากจะกิน อ่อ...ที่เอามาเยอะมากไม่ได้คือเพื่อนไอ้ต้นจะไปทำรายงานที่บ้าน เดี๋ยวพวกนั้นไม่มีอะไรกิน

ตอนเที่ยง โอ๊ตส่งข้อความไปหาเพื่อนๆ ชมรมแบดมินตันชั้นปีเดียวกันแต่คนละห้องมารวมตัวกันที่โต๊ะเรา เพื่อแย่งแกงกะหรี่กลิ่นหอมยั่วนี่แหละ ดีนะผมให้เอามาเยอะหน่อย เลยสามารถซื้อข้าวเปล่ามาแล้วตักแกงแบ่งๆ กันไปได้ เหล่าพวกผู้ชายกระหายหิวออกปากชมอาหารมื้อนี้ ไม้ยืดอกอวดตัวเองใหญ่ นี่แม่กูทำนะ ฮ่าๆ เห็นแล้วก็ขำ ไม่ใช่แค่ผม แต่ทุกคนก็คำในความโอ้อวดของมันทั้งนั้น

ผมแทบไม่รู้ตัวเลยว่า ระยะเวลาไม่กี่วันมานี้จะทำให้ผมออกห่างจากเพื่อนกลุ่มเดิมมาได้มาก ตอนแรกคิดว่ามันจะยากแล้วก็ชวนอึดอัดใจกว่านี้เสียอีก แต่พอเอาเข้าจริง เพื่อนๆ กลุ่มใหม่ของผมก็มีเรื่องตลกโปกฮาหรือกิจกรรมเล่นกันอยู่ตลอด จนผมไม่มีเวลาไปใส่ใจส่วนของกานกับคิงเลยแม้แต่น้อย แล้วพวกนั้นเองก็เลือกที่จะไม่เข้าหาผมด้วย

ข่าวลือเกี่ยวกับผมเข้าหูมาบ้าง มันแย่เหมือนทุกครั้งที่มีข่าวลือนั่นแหละ หาว่าผมคบกับไม้ เป็นแฟนกันแล้วทิ้งเพื่อนกลุ่มเดิม ไม่เห็นหัวเพื่อนอีกเลยตั้งแต่ถูกรายล้อมด้วยหนุ่มๆ นักกีฬา ว่าผมเป็นเมียของทุกคนในชมรมไปแล้ว แม้กระทั่งอาจารย์ผมก็อาจจะหมายตาเอาไว้เหมือนกัน ไม่รู้อาจารย์เสร็จมันไปหรือยัง

เรื่องราวด้านลบถูกปล่อยออกมาตลอด พี่ชินเองก็ผสมโรงไปกับเขาด้วยเหมือนกัน เขาหาว่าผมร่าน เขาถึงได้เอาเรื่องพนันมาพูด ดิวมันแกล้งอ่อนแอไปงั้น หนีไปร้องไห้งั้นงี้เพื่อเรียกร้องวามสนใจ ที่จริงตอนผมกลับมาเรียนเมื่อวันพุธ ทุกคนยังเห็นใจผมอยู่บ้างที่พี่ชินทำแบบนั้นกับผม แต่ตอนนี้มันกลายเป็นหน้ามือกับหลังเท้าไปเลย ทุกคนเห็นดีเห็นงามกับพี่ชินไปหมด เข้าข้างพี่ชินแล้วผมก้กลายเป็นคนเลวในสายตาทุกคน

เพื่อนกลุ่มใหม่ของผมรู้ข่าวพวกนี้อยู่ตลอด พวกเขาแค่ไม่พูดแล้วก้ไม่สนใจมันเท่านั้น ไม้เองอ่านแล้วก็เฉยๆ ผู้หญิงมาพูดใส่มันก็แค่เออแล้วก็เงียบไป ผมสังเกตทุกคนเหมือนกันนะว่าจะมีปฏิกิริยาอะไรกับเรื่องราวพวกนี้บ้าง พวกเขาจะเกลียดผมไหม หรือจะว่าร้ายผมลับหลังหรือเปล่า แต่ก็ไม่...ผมรู้สึกดีที่มันไม่เป็นอย่างที่กลัว

“มันก็แค่ข่าวลือ วันหนึ่งมันก็จะหายไปเมื่อมีเรื่องใหม่ที่น่าสนใจกว่ามาให้ทุกคนพูดถึง...” ไม้พุดแบบนั้นตอนที่ผมอ่านไทมไลน์ของเพื่อนๆ ในห้องเรียน ไม้สนใจแค่ผม เรียนและกีฬาเท่านั้น เขาไม่ค่อยแคร์ข่าวพวกนี้

“ขอบคุณนะ...”

“ไม่เป็นไร เราเพื่อนกันไงดิว” ไม้กอดคอผมแล้วจับเอนไปเอนมา ผมขำกับการปลอบที่ดูจะเด็กน้อยเหลือเกิน
ตอนเย็นเรากลับบ้านกันเอง หลังเลิกชมรม อาทิตย์นี้ไม่มีซ้อมเพราะผ่านฤดูกาลแข่งขันไปแล้ว ไม้ดูจะสบายใจขึ้นมาเพราะไม่ค่อยได้พักอยู่ช่วงหนึ่ง โหมซ้อมแบด กลัวจะทำให้แม่ผิดหวังถ้ามาดูแล้วเขาดันแพ้ ผมมองดูไม้แล้วก็คิด...ผมไม่เคยพยายามเพื่ออะไรได้เท่ากับไม้เลย ไอ้เรื่องที่ทำลงไปก้มีแต่เรื่องชวนเสียหายมากกว่าเรื่องดีอีก

เริ่มต้นใหม่ได้...ผมบอกกับตัวเองแบบนั้น ตอนนี้ผมถึงพยายามเล่นแบดให้ได้ดีถึงจะไม่ชอบมัน แต่มันก็สนุกแล้วก้เป็นงานอดิเรกที่ดีเหมือนกัน ได้อยู่กับกลุ่มเพื่อนดีๆ กับเขาบ้าง ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เด็กวัยเราได้ใช้

“โอ้ย....กุไม่ไหวแล้ว กูจะนอน” เสียงโอดครวญของคนในบ้านดังออกมาแว่วๆ ผมกับไม้มองหน้ากันก่อนเปิดประตูไปเห็นสภาพห้องโถงที่เละเทะ กระดาษเอย คอมพ์เอย เครื่องเขียนต่างๆ กระจัดกระจายไปหมด ต้นมันนั่งก้มหน้าคีย์งานอยู่ ส่วนเพื่อนๆ ของมันนอนแอ้งแม้งหมดสภาพ

“สัตว์ อย่ายกเลิกคลาสเลยแบบนี้” เพื่อนคนหนึ่งของต้น ตัวอ้วนๆ ใหญ๋ๆ ผมเคยเห็นเขาแว้บๆ ตอนที่มีแฟนอยู่ในมหาลัยเดียวกับต้น ผมมารู้ทีหลังว่าไอ้นต้นเองก็เรียกคณะเดียวกันกับแฟนเก่าของผม

เฮ้อ...นึกถึงพี่คนนั้นแล้วผมยังเสียใจไม่หาย เขาเป็นรักแรกและผมก็รักเขามากเลยครับ เป็นผู้ชายคนแรกของผมด้วย ไม่คาดคิดเอาไว้เลยว่าตัวเองต้องมาโดนทิ้งเหมือนหมูเหมือนหมาแบบนั้น

“กลับมาแล้วอ่อ กี่โมงแล้ววะเนี่ย...” ต้นเห็นพวกผมเป็นคนแรก คนอื่นๆ หันมองเพราะเสียงทักทาย

“พี่ทำบ้านรก พี่ต้องเก็บนะเว้ย” ไอ้ไม้บอกกับพี่ชชาย

“เออ กุเก็บอยู่แล้วหน่า เรียนเป็นไงมั้ง...” ต้นยืดเส้นยืดสาย มันลุกแล้วบิดตัวไปซ้ายทีขวาที เสื้อก็ไม่ใส่ บ้านไม่ร้อนขนาดนั้นเลยเหอะไอ้นี่

“ก็ดีพี่ รำคาญข่าวลือดิวนิดหน่อย ไอ้พี่ชินแม่งเลว...แม่งปล่อยข่าวมั่วแล้วกลายเป็นคนดีขึ้นมาทันที” พูดถึงพี่ชิน คนนี้ก็ทำผมเจ็บไม่น้อยเลย

“ช่างหัวแม่งเหอะ มึงไม่เป็นไรใช่ไหมดิว” อ่า...ผมส่ายหัว

“ไม่อะ”

“ดีแล้ว ไปอาบน้ำอาบท่าไป เบื่อแกงกะหรี่กันหรือยัง ถ้าไม่เบื่อจะอุ่นให้ แต่ถ้าเบื่อก็บอกมาจะกินอะไร” มันไม่ได้พูดจาดีนัก พูดห้วนๆ ตามนิสัยมัน แต่ก็ทำให้ผมยิ้มได้...นี่อาจดีสุดแล้วก็ได้สำหรับมัน

“ถามคนนี้สิ...” ไม้ชี้มาที่ผม

“แน่นอน กูไม่ได้ถามมึงอยู่แล้วไม้” หน้างอไปเลยสิไอ้ไม้ พี่ชายไม่เห็นหัวอีกแล้ว

“กินแกงกะหรี่นั่นแหละ จะได้ไม่ต้องทำ กลัวกินที่มึงทำแล้วจะท้องเสีย” ผมว่าลอยหน้าลอยตาตอบ ไอ้ต้นหน้าหงิกไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

ผมกับไม้เดินกะย่องกะแย่งขึ้นห้อง แยกย้ายไปอาบน้ำ ตอนขึ้นบันไดมาเห็นไอ้ต้นเดินเข้าไปในครัว มันให้เพื่อมันทำงานส่วนของมันแทนไปก่อน เดี๋ยวมันจะมานั่งทำต่อเอง ได้มาอยู่ใกล้แบบนี้ มันเองก็งานเยอะเหมือนกันนะ เมื่อก่อนมักเห็นมันนั่งอยู่หน้าบ้านตลอด กลับมาจากโรงเรียนทีไรก็เจอทุกที เรียกว่าเจอเป็นประจำ ถ้าวันไหนผมออกมาส่งแฟนกลับหรือควงแฟนมา ก็มักจะได้ยินเสียงแขวะแว่วมาตามลมเสมอ ก็ไม่ได้ใส่ใจหรอก คิดว่าเป็นเรื่องปกติของมันนั่นแหละ ไอ้นี่ปากหมาเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มองย้อนกลับไป...มันทำแบบนั้นเพราะอิจฉาแฟนผมสินะ

ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก่อนไม้ เห็นต้นยืนคนแกงอยู่ในครัว เจ้าตัวหาววอดๆ มือเท้าเอว ตามองหม้อแกงแบบปรือปรอย ง่วงมากไปนอนไหมละ ไม่น่าฝืนตัวเองนะเอาจริงๆ ผมเดินเข้าไปใกล้ ไหล่เกือบโดนแขนของมัน ชะโงกหน้ามองเข้าไปในหม้อเพื่อดู ทว่าไอ้ต้นเสือกโอบไหล่ผมเอาไว้เสียอย่างนั้นอะ

“หอม...” มันโน้มหน้าลงมาตรงซอกคอ สูดลมหายแล้วก็กลับไปสนใจแกงในหม้อต่อ ผมนี่หน้าร้อนวูบขึ้นมาทันที เล่นบ้าอะไรไม่รู้เรื่อง

“ปล่อยกูเลย”

“ไม่ปล่อยได้ปะละ” ผมหันมามอง

“ไม่ได้”

“ไม่ได้นี่เพราะไม่ชอบหรือไม่ได้เพราะเขิน...” ไอ้นี่ ผมไม่เขินอะไรมันทั้งนั้นแหละ ผมรีบเบี่ยงหน้าหนีสายตาเจ้าเล่ห์ ดันตัวเองออกมาตักข้าวใส่จาน

“ไม่ชอบเว้ย”

“จริงดิ ไม่ชอบกูเลยงี้เหรอ...” คำถามนี้คาดหวังอะไรปะวะ ผมมองหน้าต้นไม่ได้ตั้งใจแต่มันหันไปสบตาเอง ความรู้สึกที่ได้รับคือการคาดหวังคำตอบ ถ้าผมปฏิเสธเด็ดขาดมันคงเสียใจแล้วมันก็คงจะขัดแย้งกับความรู้สึกของผมด้วย

งั้น...ผมไม่ตอบดีที่สุด

โชคดีที่ไม้เดินเข้ามาร่วมวง เจ้าตัวตักข้าวพูนจานแล้วเร่งพี่ชายตัวเองยิกๆ ให้ตักแกงราดจานข้าวมันได้แล้ว ไอ้ต้นบ่นน้องชายไปเรื่อยตามประสา ไม้ก้เถียงกลับไม่ยอมแพ้เหมือนทุกวัน สุดท้ายผมเป็นคนได้กินข้าวก่อน

“โทษที พอดีเป็นคนพิเศษอะ...” ผมตบไหล่ไม้ เยาะเย้ยมันพร้อมขำเบาๆ ในลำคอ ไม้หน้างอ หันไปมองหน้าพี่ชายตัวเองที่ก็ยิ้มอะไรไม่รู้คนเดียว ใกล้เป็นบ้าแล้วมั้งมันน่ะ

ไม่สิ...ทั้งผมและมันนั่นแหละ

ผมสะบัดหัวไล่ความคิดชวนเก้อออกไป เอาใจมาอยู่ที่อาหารเย็น ไม้ตามมา มันยังบ่นไม่เลิก กล่าวหาว่าผมแย่งความรักจากพี่มันไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรมาก ไม้มันบ่นไปเรื่อยตามประสามันนั่นแหละ ไม่จริงจังอะไร ขำๆ กันมากกว่า ยิ่งมันงอแง ผมก็ยิ่งเฮฮา...อารมณ์แกล้งคนอื่นได้มันมีความสุขแบบนี้สินะ

.....100%.....

เมื่อวานไปดูเรื่อง 'It' มาล่ะ เลยกลับดึก แถมยังหลอนมากด้วย คิดว่ามันเป็นหนังฆาตกรรมจนกระทั่งมันฉายได้สิบกว่านาที ฮื่อออ ตะมัยตอนเราอ่านรีวิวเราถึงยังคิดว่ามันเป็นหน้งฆาตกรรม เศร้า เฮากลัวปี๋~ :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 24 - 100% [12/09/60]
«ตอบ #171 เมื่อ12-09-2017 20:58:33 »

น่ารักอ่ะ เป็นแฟนคลับไม้ได้มั้ย :mew1:

ปล.เราก็ไม่ดูหนังผี กลัวว ฮ่าๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 24 - 100% [12/09/60]
«ตอบ #172 เมื่อ12-09-2017 22:15:36 »

หลานต้น หยอดไปเรื่อย ๆ นะหลาน  :m4:
ส่วนหลานไม้ น่ารักขึ้นนะเนี่ย  :m11:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 24 - 100% [12/09/60]
«ตอบ #173 เมื่อ12-09-2017 22:51:35 »

 o13

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 24 - 100% [12/09/60]
«ตอบ #174 เมื่อ12-09-2017 23:55:06 »

จีบให้ติดนะครับ,,,

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 24 - 100% [12/09/60]
«ตอบ #175 เมื่อ13-09-2017 11:54:33 »

ไม้.....มาเป็นแฟนเราเถอะนาย 55555

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 25 - 100% [13/09/60]
«ตอบ #176 เมื่อ13-09-2017 20:55:19 »

>>ตอนที่ 25 [100%]<<

กินข้าวกันเสร็จ ผมกับไม้ก็นั่งเล่นอยู่ข้างล่าง ทำการบ้านด้วยกันสองคนตรงโต๊ะอาหาร พวกของไอ้ต้นทำรายงานกันอยู่หน้าทีวี ไม่มีใครเปิดอะไร เพราะพวกเขาสลับกันนอน ไปอดหลับอดนอนมาจากไหนกันก็ไม่รู้ ตัวไอ้ต้นก็หาววอดอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังก้มหน้าก้มตาพิมพ์งานของมันไปเรื่อยเปื่อย

ประมาณเกือบสองทุ่ม คุณน้ากลับมาบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ผมกับไม้ทำการบ้านเสร็จพอดีก็เลยไปช่วยคุณน้าขนของกินลงมาจากรถ ส่วนใหญ่เป็นขนมนมเนยแบบกินเล่นเสียมากกว่า เพื่อนต้นคนตัวใหญ่ๆ มองของกินตาวาว คุณน้าลีลาเรียกทุกคนให้มากินข้าวกินขนมกันก่อน พักมือจากงานที่ทำสักแป๊บแล้วค่อยทำต่อก้ได้ ของกินมาอยู่ตรงหน้าขนาดนี้ ไม่มีใครกล้าปฏิเสธครับ ไอ้ต้นและเพื่อนๆ ของมันก็ยังไม่ได้กินอะไรตอนเย็น ท้องนี่ร้องกันโครกครากเลยทีเดียว

ผมกับไม้แค่นั่งกินขนม ส่วนต้นกับเพื่อนๆ กินข้าวแกงกะหรี่ที่เหลือโดยไม่ยอมอุ่น แถมยังมีไม่มากเท่าไหร่ พวกนั้นกินขนมเสริมเข้าไปหวังให้ตัวเองอิ่ม คุณน้าจะทำเพิ่มให้ก็ไม่เอา ไม่อยากรบกวน

“แล้วงานเหลือกันเยอะไหมล่ะต้น...” คุณน้าเดินไปที่กองกระกระดาษกลางห้อง บ้างก็หยิบขึ้นมาอ่านคร่าวๆ

“เยอะแม่...ทั้งคืนอะ” ต้นพูด มีเสียงโอดครวญของสองหนุ่มด้านหลังตามมาเป็นแบล็กกราว

“เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ ไหวเหรอลูก พรุ่งนี้หนูหยุดค่อยทำดีไหม พักผ่อนกันก่อน” ต้นมันส่ายหน้า เดินข้าไปกอดแล้วซบไหล่แม่ตัวเอง

“ต้นอยากทำให้เสร็จ....” เพื่อนทั้งสองเห็นมันแบบนั้นก็เงียบ ไม่กล้าส่งเสียงเรียกร้องความเห็นใจ

“ก็ได้ ตามใจ แต่ไม่ไหวต้องพักนะ”

“ครับแม่”

ผมกับไม้ต้องทำตัวเป็นน้องที่ดีของบ้าน เมื่อพวกผู้ชายกลุ่มนั้นกินข้าวกันเสร็จ การเก็บกวาดก็ตกเป็นของเรา คุณน้าขึ้นห้องก่อนเพราะมีงานต้องเคลียนิดหน่อย อีกอย่างไม่อยากอยู่ข้างล่างรบกวนหนุ่มๆ ด้วยแหละครับ ไม่เหมือนกับไม้ ทำทุกอย่างเสร็จแล้วยังไปแกล้งเปิดทีวีรบกวนสมาธิพวกเขาอีก

“ไม่มีไรทำกันแล้ว?” ต้นเงยหน้าจากคอมพ์มองไม้

“ไอ้ดิวมันอยากดูทีวี” อ่าว โยนมาให้กูเฉยเลย ผมไม่เกี่ยวนะเว้ย ผมไม่ได้อยากดูอะไรทั้งนั้นอะ

“ร้อยวันพันปีกูไม่เห็นมึงอยากดู” ไอ้นี่ก็เสือกรู้ดี ผมเล่นมือถือมากกว่ามาสนใจโทรทัศน์น่ะ

“ทำเป็นรู้ดี...” ไม้ส่งเสียงล้อเลียน

“อืม กูรู้เรื่องคนที่ตัวเองชอบมันก็ปกตินี่วะ” มันพูดตรงๆ แบบนี้อีกแล้ว เพื่อนมันมองผมเป็นตาเดียว...นี่ความรู้ใหม่ใช่ไหมครับทุกคน

“หยอดเข้าไป ไม้ไปนอนดีกว่า ฝันดีนะดิว” ไม้ตบบ่าผมเบาๆ แม่งเดินทิ้งผมไว้คนเดียว

ผมไม่รู้ว่าคุณน้าจะทำงานเสร็จหรือยัง ไม่กล้าขึ้นไปเพราะกลัวจะรบกวนคุณน้าเขา แล้วจะไปไหนได้นอกจากนั่งเล่นอยู่หน้าโซฟาตัวเดิม ผมเอื้อมไปเอารีโมตมากดลดเสียงแทนที่จะปิด ก็ถ้าปิดแล้วผมจะดูอะไรฆ่าเวลาล่ะ

“มึงไม่ง่วงเหรอ”

“ง่วง”

“แล้วไม่นอน?”

“กลัวรบกวนคุณน้าทำงาน”

“ไม่หรอก ง่วงก็ขึ้นไปนอน” สงสัยว่าการอยู่ตรงนี้จะรบกวนมันแฮะ ถึงได้ไล่ผมแบบนี้

ผมตัดสินใจปิดทีวี ไม่พอใจหน่อยๆ แต่ไปก็ได้ ไม่อยากให้อยู่ก็จะไม่อยู่ ผมเดินขึ้นมาชั้นสอง กล้าๆ กลัวๆ เกรงใจคุณน้ามากหากเธอยังทำงานอยู่ แต่พอเข้าไปในห้อง คุณน้าก็วางงานแล้วชวนผมนอนด้วยกันทันที ผมก็ถามแหละว่างานเสร็จแล้วหรือถึงได้นอน คุณหน้าส่ายหน้าแต่บอกว่าง่วงแล้ว โอเค ถ้าคุณน้าตัดสินใจนอน ผมก็นอนด้วยเหมือนกัน

ผมนอนกอดคุณน้าได้ไม่เท่าไหร่ ก็รับรู้ว่าคุณน้าลีลาดึงแขนตัวเองออกจากแขน เธอไม่ได้หายไปไหน แต่เอนหลังพิงหัวเตียงทำงานกับไอแพดของเธอ หวังว่าผมจะไม่รบกวนคุณน้ามากเกินไปนะ ผมยายามข่มตานอน บอกตัวไม่ต้องคิดมาก ทว่าคุณน้ากลับส่งมือมาลูบหัวผมเบาๆ ทั้งที่ผมทำเป็นหลับอยู่ ความอ่อนโยนแบบนี้ผมได้รับมันอีกแล้ว ความเพลิดเพลินทำให้ผมหลับลึกในเวลาไม่นาน

กลางดึก...ผมสะดุ้งตื่น ไม่ได้ฝันร้ายแต่อยากเข้าห้องน้ำ มองดูนาฬิกา นี่มันตีสองกว่าเข้าไปแล้ว ไม่น่าตื่นมาเวลานี้เลย ดีนะที่ในนี้มีห้องน้ำ ผมไม่ค่อยชอบควมมืดเท่าไหร่ มันน่ากลัว ตอนอยู่ห้องตัวเองผมเปิดไฟห้องน้ำไว้ตลอด อะไรเปิดได้ก็จะเปิดไว้ครับ ผมรีบลุกไปเข้าห้องน้ำ ทำธุระให้เสร็จ เตรียมจะเดินกลับไปนอนเหมือนเดิม กลับได้ยินเสียงพูดคุกันอยู่แว่วๆ

ป่านนี้ยังไม่นอนกันอีกเหรอ...

ผมเดินลงไปข้างล่าง ไม่ได้ตั้งใจแค่อยากดูว่าพวกขังไม่นอนกันจริงไหม ด้านล่างยังเปิดไฟเอาไว้ ผมเลยไม่กลัวเท่าไหร่ ก้าวลงบันไดไม่กี่ขั้นก็เห็นเงาคน ลงไปช่วยงานพวกนั้นดีไหมเผื่อจะเสร็จเร็ว ผมเคยช่วยแฟนเก่าทำรายงานบ่อยๆ แค่มันรวบรวมข้อมูลไว้ให้ผมก็พิมพ์ให้ได้นะเอาจริงๆ

“ยังไม่นอนกันอีกเหรอ...” ผมถามเสียงเบา จะว่าไม่นอนก็ไม่ได้ เพื่อนมันสองนอนเป็นศพทับกระดาอยู่บนพื้น

“อ่าว มึงลงทำไม...ไม่นอนวะ” ไอ้ต้นตกใจที่เห็น

“ก็ได้ยินเสียงคนคุยกันก็เลยมาดู” คนตัวผอมสูงปรือตาขึ้น ยกมือทักทายแล้วหลับตาต่อ น่าจะเป็นคนที่คุยกับไอ้ต้นนะ

“ก็ไม่มีอะไรแล้ว ไปนอนเหอะ”

“ไม่ง่วงละ” ผมเดินหน้ามึนไปนั่งใกล้ๆ เหลือบตามองต้นพิมพ์งาน ลายมือพวกนี้ไก่เขี่ยชะมัด คุ้นๆ ว่ามันไม่ใช่ลายมือของไอ้ต้นอะ น่าจะเป็นของสองคนนี้

“มานั่งใกล้ๆ แบบนี้นี่เรียกอ่อยปะ” ตาก็ปรือขนาดนั้น ยังมาพูดจากวนประสาท

“แล้วคิดว่าไง”

“คิดว่าอ่อยมาก...” มันโน้มหน้าลงมาหอมแก้ม แต่ผมหลบทันก็เลยหวืดไปเต็มๆ

“กูพิมพ์งานให้ป่ะ กูพิมพ์เร็วนะ” ลองหยิบเอกสารของมันมาดู ผมทำให้ไม่น่านานคงเสร็จ ให้ไอ้ต้นงีบรอได้เลย

“ไม่อะ กูทำเองดีกว่า...เดี๋ยวมึงทำพลาดกูจะซวยนะ” ปากดี ถ้าพลาดก็พลาดที่พวกมันแหละ ผมแค่รับหน้าที่พิมพ์เองเหอะ

“ตามใจ เชิญทำต่อเลยครับ...” ผายมือเชื้อเชิญเต็มที่ แต่ตอนนี้ไอ้ต้นมันนั่งเท้าคางมองหน้าผมเสียแล้ว ไม่สนแล้วเหรองานอะ รีบไม่ใช่รหรือไง

“อยากช่วยเหรอ หรือว่าอยากก่อกวน...หรือว่าอยากมาปั่นป่วนกัน กันแน่” ถามมาขนาดนี้ ผมดูชั่วร้ายมากเหรอ

“ก็อยากช่วยไง สงสารหมาอดนอน” ต้นกระตุกยิ้ม

“งั้น..ชงกาแฟให้หน่อยสิ” ให้ช่วยแค่นี้เหรอ เอาจริงสิ

“ก็ได้” ผมรับคำทำให้ง่ายๆ สงสารจริงจังนะ เห็นง่วงขนาดนั้น

ผมชงกาแฟนมาให้ต้น ใส่น้ำตาลมากหน่อยเพราะคิดว่าหวานๆ จะทำให้ร่างกายตื่นตัวได้ดี ต้นมันรับไปจิบๆ ทั้งที่ผมไม่ได้ชงร้อนมาก เจ้าตัวเอ่ยขอบใจ สายตาจับจ้องงานบนจอ มันให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มีสมาธิไม่ลอกแล่กจนผมรู้สึกทึ่งไปเหมือนกัน ผมเท้าคางมองหน้าคนตั้งใจทำงานไปเรื่อย...

คนๆ นี้แอบชอบเรามานานแล้ว...

คนๆ นี้กำลังจีบเราอยู่ด้วย...

จากที่ได้รู้มันก็ดูเป็นคนมั่นคงมากนะ มากจนน่านับถือ มีแต่ผมเองที่งี่เง่า...อยากแน่ใจมันอยู่นั่นแหละ เล่นตัวอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ทั้งระแวงทั้งกังวล ความรู้สึกของผมเองไม่ใช่ผมไม่รู้หรอก แต่...ต้นมันจะรับผมได้จริงๆ น่ะเหรอ

‘อยากรู้ก็พิสูจน์สิ...’

ผมไม่รู้ว่าจะพิสูจน์ยังไง มีแค่คำของเพื่อนที่บอกว่าที่ผู้ชายเขาอยากมีอะไรกับเราก็เพราะเขารักเรา งี้ผมต้องอ่อยต้นเหรอ ถ้ามันอยากได้ผม มันมีอะไรกับผมคือมันชอบผมจริงๆ สินะ แต่อ่อยผู้ชายที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็กจนโตอย่างมันเนี่ย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ...ผม...ผมทำไม่ถุกแหะ ในความรู้สึกอะ มันเกร็งกว่าการอ่อยแฟนตัวเองอีกนะ ยิ่งมองหน้ามันก็ยิ่งไปไม่เป็น...เอาวะดิว คนอื่นพูดไม่สู้พิสูจน์เอง

ผมตัดสินใจซบไหล่ไอ้ต้นทั้งที่มันกำลังพิมพ์งาน เจ้าตัวสะดุ้งนิดหน่อยแล้วหันมามองหน้าผมที่ทำเป็นมองหน้าคอมพ์มัน ผมเอื้อมมือไปดึงมือมันออกจากคีย์บอร์ด เปลี่ยนเป็นพิมพ์ให้ ทว่าไม่ใช่คำที่ควรพิมพ์ลงไป...

‘รักกูไหม...’ นั่นคือสิ่งที่ผมพิมพ์ ต้นมองสักพักก็พิมพ์ตอบ

‘รัก’ เห็นคำนั้นแล้วใจผมสั่นขึ้นมาทันที

‘ทั้งที่กูเป็นของๆ คนอื่นมาแล้วน่ะเหรอ’ ตั้งใจจะยั่ว แต่คิดว่าการถามผ่านตัวหนังสือแบบนี้มันก็ดีนะ ไม่ต้องสบตา ไม่ต้องกังวลว่าจะพูดผิดพูดถูก

‘เกี่ยวอะไรกันล่ะ’

‘กูไม่ซิงแล้วไง...เป็นแค่ของเหลือๆ มึงยังชอบอยู่อีกจริงดิ?’ ต้นปัดมือผมออกก่อนที่ปากผมจะโดนจูบหนักหน่วงกดทับ

สองแขนแข็งแรงของมันโอบรัดร่างกายของผมเอาไว้แนบแน่น มันทั้งอึดอัดและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ผมเผลอสบตาโกรธเกรี้ยวนิดๆ ของต้น ซึ่งผมไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้มันรู้สึกแบบนั้น ประโยคเมื่อครู่กระตุ้นอะไรในความรู้สึกของมันงั้นเหรอ ความคิดต่างๆ นาๆ เริ่มกระเจิดกระเจิงเมื่อต้นสอดลิ้นเข้ามาในปาก มันกระหวัดเอาลิ้นของผมไปดูดกลืนเล่น ทั้งหิวกระหายและอ่อนโยน ผมไม่เคยได้รับสัมผัสแบบนี้จากใคร....

“แฮ่ก...อื้ม” ดูเหมือนมันเองก็เริ่มคุมสติตัวเองไม่อยู่ เป็นคนเริ่มเอง และหยุดเองกลางคันไม่ได้ ผมหอบหายใจอย่างหนัก เพราะมันเล่นตักตวงจากผมจนผมตอบสนองมันไม่ทัน สองแขนของผมบีบหัวไหล่เปล่าเปลือยของมันเอาไว้แน่น ความต้องการของร่ากายปะทุขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกจับให้นอนราบลงกับพื้นแข็งและเย็นเฉียบ ต้นค่อมทับแต่กลับไม่ปล่อยให้ระหว่างเรามีช่องว่างเกิดขึ้น มันไม่โถมน้ำหนักใส่เพื่อทำให้ผมอึดอัด รสจูบที่โหยหากระหายหิวจาบจ้วงมากยิ่งขึ้น พร้อมๆ กับที่ผมรับรู้ถึงความเป็นชายของมันริ่มพองนูนโดนหน้าท้อง ความร้อนแผดเผาทั้งใบหน้าและร่างกายผมอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ต้นมีความต้องการสูงมากและผมก็เสี่ยงจะเสียตัวตั้งแต่ยังไม่ตกลงปลงใจ

แล้วยังไงล่ะ...ผมเป็นคนอ่อยมันเอง เป็นกระตุ้นและต้องการสิ่งนี้เองนี่

เพราะรักถึงต้องการ หรือเพราะต้องการถึงทำเป็นรัก ความต่างที่ขั้นแยกด้วยเส้นบางๆ เกิดขึ้นในใจ ผมไม่รู้ว่าต้นเป็นแบบไหน แต่ถ้าผมเชื่อมันก็คงเป็นแบบแรก อ้อมแขนของมันสร้างความมั่นคงในความรู้สึกผมอย่างแปลกประหลาด พร้อมๆ กับความต้องการให้มันกระทำต่อจากการจูบจนถึงขั้นสุดท้าย...

ในขณะที่ทุกอย่างล่องลอยกระจัดกระจายในหัว ผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่มันพยายามบอกผ่านการกระทำ ต้นไม่ใช่คนอ่อนโยนขนาดที่ผมชื่นชอบ แต่มันมีความใส่ใจอยู่ในนั้น ต้นไม่ได้ลวนลามร่างกาย ทว่ากลับสัมผัสสรีระของผมเบาๆ คล้ายปลอบขวัญอยู่ในที

ถ้าเป็นมัน...มันจะไม่ทิ้งผมแบบคนอื่นๆ ใช่ไหม

ถ้าเป็นมัน...มันจะไม่ได้หวังแค่ร่างกายผมหรือเปล่า

ผมไม่รู้ และไม่มั่นใจอะไรนัก แต่สิ่งหนึ่งที่กระจ่างในความคิดคือมันไม่ไดรังเกียจที่ผมเคยเป็นของใครมาก่อน ทว่ามันยังไม่ได้รับรู้เรื่องที่ผมไปมั่วในค่ำคืนนั้น จริงอยู่ที่ผมโดนข่มขืนในตอนเช้าของอีกวัน แต่คืนนั้น...ผมเสนอตัวให้พวกนั้นเอง

พอคิดถึงการกระทำบ้าๆ ของตัวเอง ผมก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา...ผมไม่น่าทำตัวแบบนั้น มันเป็นความผิดพลาดที่ตั้งใจให้เกิด ผมมันโง่ ผมมันร่านอย่างที่ใครๆ เขาว่า ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากเป็นแบบนั้นหรอกนะ...ถ้าผมเป็นตัวของตัวเองจริงๆ ผมจะได้รับความรักบ้างหรือเปล่าล่ะ

“ร้องไห้ทำไม...” ผมไม่รู้ว่าน้ำตากำลังไหล จนกระทั่งต้นทักด้วยสีหน้าตกใจ

“กูมันสกปรกนะต้น...กูเป็นแค่ของเหลือเดนจากคนอื่น มึงรับกูที่เป็นแบบนี้ได้จริงๆ น่ะเหรอ” ผมพูดปนสะอื้น ต้นถอนหายใจ มันปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของผมเบาๆ

“ของเหลือเหรอ...นั่นมันสำหรับคนอื่น ไม่ใช่กู มึงอาจเป็นของเหลือของคนพวกนั้น แต่มึงคือของสำคัญสำหรับกูเสมอนะดิว...ไม่จำเป็นหรอกว่ามึงต้องซิง ต้องบริสุทธิ์ผุดผ่องอะไร กูก็ไม่ซิงนะ...มึงซีเรียสปะละที่กูเคยมีอะไรกับคนอื่นมาก่อน” ผมส่ายหน้า

“มันไม่เหมือนกัน...กูมั่วผู้ชาย...” พูดแล้วเบี่ยงหน้าไปทางอื่น คิดว่ามันคงจะช็อกแล้วลุกหนีไป ทว่ามันกลับดันแก้มให้ผมกลับมาสบตาก่อนจะหอมแก้มผมเบาๆ

“แค่ความผิดพลาดเว้ย...กูไม่สนสิ่งเหล่านั้นหรอก สิ่งสำคัญที่สุดคือมึงรู้ว่าพลาดแล้วมึงก็เปลี่ยนตัวเอง ตอนนี้มึงทำอยู่นี่ ใช่ไหมล่ะ..เพราะงั้นอะไรที่มันพลาดไปแล้วมึงก็เอาไว้เป็นบทเรียน แล้วกูสัญญา...ว่ากูจะไม่ทำเหมือนคนที่ทำมึง กูจะไม่ทำให้มึงเสียใจ” ทำไมคำพูดของมันถึงอ่อนโยนในความรู้สึกผมแบบนี้นะ ผมห้ามน้ำตาตัวเองไม่อยู่ คว้าตัวต้นไว้แล้วร้องไห้เหมือนเด็กตัวน้อยที่โดนรังแกอยู่กับอกของมัน

“เป็นแฟนกันนะ...” คำขอแผ่วเบาข้างหู เป็นคำขอที่ไม่ต้องใช้สมองในการไตร่ตรอง ผมขานตอบรับในทันที แม้ว่ามันจะเคยเป็นคนที่ผมเกลียด...แต่ตอนนี้มันกลายเป็นคนที่ผมรู้สึกรักไปแล้ว


....100%....

เราได้อ่านคอมเมนต์ยาวๆ นั่นละ...อ่านละคิดตาม ซึ่งมันก็จริงในอีกมุมองล่ะนะ คือดิวเนี่ยไม่ได้บอกใครเลย คนในบ้านนี้ก็ไม่รู้หรอกว่าดิวไปโดนหรือเจออะไรมา ด้วยไม่อยากถามไม่อยากรื้อฟื้นหรือกดดันดิว กลัวดิวเตลิดประมาณนั้น แต่ก๋ขอบคุณมากๆ เลยล่ะค่ะ มีโอกาสจะลองทบทวนละรีไรท์ดู ส่วนตอนนี้เราเขียนเรื่องจบไปนานแล้วและยังพอใจกับเรื่องราวทั้งหมดอยู่ อาจได้เห็นมุมต่างและคิดตามว่าเออ...มันก็สมควรแก้ในส่วนนั้นส่วนนี้ แต่เราขอลงจนจบก่อนนะคะ จากนั้นเราถึงจะทบทวนเพื่อปรับแก้อีกที ขอบคุณสำหรับมุมต่างนะคะ...^^

จุฟๆ.เราจะมาอัปให้ทุกวันตามคำขอน้า  :mew1:

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 25 - 100% [13/09/60]
«ตอบ #177 เมื่อ13-09-2017 21:48:44 »

โมเม้นต์พิมพ์คอมตอบกันน่ารักมากเลยอ่ะะ :-[

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 25 - 100% [13/09/60]
«ตอบ #178 เมื่อ13-09-2017 21:51:03 »

 o13

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ~ของเหลือ~ ตอนที่ 25 - 100% [13/09/60]
«ตอบ #179 เมื่อ13-09-2017 23:14:29 »

ซึ้งมาก,, โรแมนติกมากต้น,,

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด