-02-
ด้วยความปากดีของตัวเองนั้น ไปบอกพวกพี่ว่าไหว...ไหวก็เหี้ยละ
“โว๊ยยยยยยยอะไรนักหนาวะเนี่ยไอ้สั๊ด!”
สกายขยี้หัวตัวเองจนฟูฟ่องซบหน้าลงบนชีทเรียนที่กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะหนังสือ ตั้งแต่บอกลากับพี่คุณอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามานั่งอ่านทวนก็พบว่า
“ไม่น่าทวนเลยกู ยิ่งอ่านยิ่งงงเข้าใจตอนแรกก็ดี ๆ อยู่แล้วตีกันมั่วหมดแม่งเอ๊ย!”
บ่นอยู่คนเดียวแล้วก็ถอนหายใจเมื่อไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีขึ้นจึงตัดสินใจปิดหนังสือเตรียมตัวเข้านอน ช่างแม่งแล้วกันยังไงต่อให้โง่แค่ไหนสกายก็มั่นใจว่าตัวเองผ่านมีนอย่างแน่นอน
ร่างสูงโปร่งในชุดนอนลายคุมะปิดโคมไฟยืดตัวบิดขี้เกียจจนกระดูกดังกร๊อบก็เดินออกจากห้องนอนมาหานมอุ่น ๆ ดื่ม เขาเป็นพวกติดดื่มนมก่อนนอนไม่ดื่มจะนอนไม่หลับ ไปเที่ยวที่อื่นก็ต้องซื้อนมจืดติดตัวไว้ดื่มก่อนนอน
ติ๊ง~
สัญญาณไมโครเวฟดังขึ้น ชายหนุ่มดึงปลั๊กออกเปิดไมโครเวฟหยิบแก้วมัคที่บรรจุนมไว้เกือบเต็มออกมานั่งตรงโซฟาหน้าทีวี หยิบมือถือมาสไลด์ตอบข้อความพร้อมกับจิบนมไปด้วย
เห็นรูปแพรวที่ลงอินสตราแกรมล่าสุด เป็นรูปไอ้โฟล์คนั่งหน้าเครียดในมือกดโทรศัพท์ที่เห็นว่าในหน้าจอภาพที่ปรากฏคือเกมส์ที่ฮิตกันอยู่ในตอนนี้ สกายอ่านแคปชั่นที่แพรวด่าแฟนตัวเองแล้วหัวเราะออกมา
ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมคนอื่น ๆ ถึงคิดว่าเขาคือคนอกหักแค่เพราะแพรวมีแฟนแล้วเขาจึงกลายเป็นคนอกหักอย่างนั้นหรือ เอากฏเกณฑ์อะไรมาวัด
คู่ของเขาไม่ได้เหมือนคู่ของยูกับแจมเพื่อนสองคนในกลุ่มที่คบกัน อธิบายให้ใครฟังคงไม่เข้าใจแต่เขากับแพรวรู้ดีว่าเรารู้สึกอย่างไร เรารักกันอาจจะมากกว่าคำว่าเพื่อนแต่ก็ไม่ได้มากพอที่จะเปลี่ยนสถานะแบบยูกับแจมได้
เห็นไหม พูดไปก็ไม่มีใครเข้าใจเอาเป็นว่าเรารู้ว่าถ้าคบกันแล้วทุกอย่างจะพัง เราจึงเลือกที่จะเป็นเพื่อนกันต่อไป เขาไม่คิดจะเปลี่ยนแพรวเองก็ไม่ยอมเปลี่ยนในเรื่องที่เรารับกันไม่ได้ ทางออกสุดท้ายก็คือเป็นเพื่อนกันนี่แหละดีแล้ว
ไม่ได้ดราม่าด้วยบอกไว้ก่อนแล้วก็ไม่ใช่เพราะคำสัญญาบ้าบอที่ให้ไว้กับพี่คุณด้วย กรณีนั้นนั่งนึกให้ตายก็นึกไม่ออกว่าอะไรเข้าสิงให้ไปขอพี่แกแต่งงาน
สกายไม่ได้มีใครแล้วก็ยังไม่อยากคบใครตอนนี้ด้วย อยู่คนเดียวสบายจะตายไม่ต้องคอยแคร์ใคร แคร์แต่พวกเพื่อนบ้าก็พอแล้ว
Rrrrr Rrrrrสกายเลิกคิ้วแปลกใจเมื่อเห็นรายชื่อของคนที่โทรเข้ามา เหลือบมองนาฬิกาเป็นเวลาเกือบ ๆ ตีสาม คงมีเรื่องเร่งด่วนจริง ๆ นั่นแหละ
“ครับพี่คุณ”
‘ฟ้ายังไม่นอนใช่ไหมครับ’“ครับ”
นอนแล้วเขาคงรับโทรศัพท์ได้หรอก คิดสิคิด สกายแอบจิกกัดปลายสายอยู่ในใจ
‘พี่ขอรบกวนหน่อยได้ไหม น้ำที่ห้องพี่ไม่ไหลเลยขอไปอาบน้ำที่ห้องฟ้าได้ไหมครับ’ถ้าตอบว่าไม่ได้ที่จะโดนฟาดหน้าไหมนะ สกายคิดในใจคนตัวขาวกระตุกยิ้มนึกหน้าพี่คุณโมโหมีควันปุด ๆ แบบในการ์ตูนแล้วก็ขำ
“ครับ”
‘ขอบคุณครับถ้าอย่างนั้นพี่ลงไปเลยนะ’“ครับ”
สกายกดวางโทรศัพท์แล้วเล่นมือถือต่อดื่มนมได้ครึ่งแก้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เมื่อส่องตาแมวเห็นว่าเป็นพี่คุณชายหนุ่มก็เปิดประตูรับ
“รบกวนหน่อยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะเรียกช่างมาดู”
สกายพยักหน้าเบี่ยงตัวหลบให้พี่คุณเดินเข้ามาในห้อง ปิดประตูเรียบร้อยก็เดินนำร่างสูงไปยังห้องน้ำ ห้องของเขาและพี่คุณต่างกันมากอยู่เพราะห้องเขาเป็นคอนโดแบบหนึ่งห้องนอนส่วนของพี่คุณเป็นเพนส์เฮาส์ที่อยู่ชั้นบนสุดของคอนโดนี้ ภายในห้องหรูหราอลังการสมฐานะของเจ้าของห้อง มีสระว่ายน้ำด้วยนะ เออว่าแต่ทำไมไม่อาบน้ำในสระ
“อมยิ้มอะไรอยู่คนเดียวครับฟ้า แล้วนี่เราใส่แว่นด้วยหรือ”
สกายหยุดความคิดตัวเองเงยหน้ามองพี่ชายที่สูงกว่าเขาเล็กน้อยแล้วส่ายหน้า มือเรียวถอดแว่นออกมาเสียบไว้ตรงกระเป๋าเสื้อ
“เลนส์กรองแสงครับ อ่านหนังสือมาก ๆ แล้วผมปวดตา”
ตรัยคุณพยักหน้าเข้าใจมองน้องชายเพื่อนแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปขยี้ผมอีกคน สกายงงการกระทำนั้นมองคนพี่ตาปริบ ๆ
“
ชุดนอนน่ารักดี”
ไอ้สั๊ด! พลาดอีกแล้วกู
สกายขยุ้มหัวตัวเองหลังจากที่ตรัยคุณอมยิ้มเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว แม่งเอ๊ยเขาก็ลืมตัวชุดนอนนี้จำไม่ได้ว่าแจมหรือแตงกวาซื้อให้วันเกิดแต่ที่ชอบใส่คือผ้ามันใส่สบาย พลาดรอบสองของวันขนาดพวกที่บ้านยังไม่รู้เลยนะว่านี่คือชุดนอนตัวเก่งของเขา
หวังว่าพี่คุณจะไม่ปากโป้ง
ความคูลชักจะหายไปเรื่อย ๆ เหมือนน้ำแข็งขั้วโลก คิดแล้วก็เจ็บหัวใจ
สกายตีหน้าขรึมนั่งอ่านชีทในมือหางตาเห็นพี่คุณเดินเข้ามา พี่ชายใส่ชุดเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงผ้าทิ้งตัวนั่งลงตรงพื้นที่ว่างข้างเขาก่อนจะชะโงกหน้ามามองที่เขาอ่านอยู่ในมือ
“Pharmacology?”
“ครับ”
“ให้พี่สอนไหม”
เสียงพี่คุณดังขึ้นใกล้ ๆ เมื่อสกายหันไปตามเสียงก็ เอ่อ...ใกล้จริงแหละ จมูกเขาเฉียดปากพี่คุณไปไม่กี่มิลฯ ใกล้จนได้กลิ่นครีมอาบน้ำของตัวเอง แหมเนียนใช้ของกูเลยนะพี่มึงแต่เอาเถอะคนคูลไม่ถือ
“ไม่เป็นไรครับผมทวนอีกนิดเดียวก็จะไปนอนแล้ว พรุ่งนี้สอบตอนเช้าด้วย”
ตรัยคุณไม่เซ้าซี้เพราะเห็นว่านี่ก็ดึกมากสมควรแก่เวลานอนจริง ๆ นั่นแหละ ร่างสูงพยักหน้าลุกขึ้นก่อนคิ้วเข้มจะขมวดเข้าหากัน
“เราสักเยอะขนาดนี้เลย?”
ไม่ว่าเปล่ามือตรัยคุณก็ยื่นมาเปิดเสื้อของสกายดู คนที่จู่ ๆ ถูกเปิดเสื้อสะดุ้งโหยงแต่พอตั้งสติได้ก็นั่งนิ่งให้พี่คุณสำรวจรอยสักบนตัว
“ผมชอบ”
แต่ดูท่าว่าเพื่อนพี่สาวจะไม่ชอบ ตรัยคุณหน้านิ่วคิ้วขมวดหลังจากตรวจพบรอยสักเกือบสิบแห่งบนร่างกายของเด็กชายตัวน้อยในวันวาน
“เสียดายผิวสวย ๆ หมดแล้วดูสิสักอะไรก็ไม่รู้”
“พี่คุณขี้บ่น”
สกายยู่ปากขัดใจเมื่อถูกพี่ชายมองดุ ก็จริงนี่บ่นเป็นลุงแก่ ๆ หัวโบราณเลยเดี๋ยวนี้ใคร ๆ เขาก็สักกันแล้วรู้ไหมว่ารอยสักแต่ละรอยมันมีความหมายนะเว้ย
พี่คุณแม่งไม่เข้าใจวัยรุ่น!
ไม่เฟี้ยวเลย สกายคนคูลรับไม่ได้
“ฮ้าว~ ง่วงนอนจัง พี่คุณจะกลับเลยไหมครับ”
เมื่อเถียงกลับไม่ได้สกายจึงเลือกที่จะไล่อีกฝ่ายทางอ้อมซึ่งตรัยคุณรู้ดีว่าตัวเองถูกไล่ คนอายุมากกว่าส่ายหัวแล้วเดินนำไปยังประตูห้อง
“ขอให้สอบได้ผ่านฉลุยคะแนนดี ๆ นะครับ แล้วก็ถ้าไม่เข้าใจวิชาไหนจะถามพี่ก็ได้นะ”
“ขอบคุณครับ”
“ฝันดีครับฟ้า”
“ฝันดีพี่ บ๊ายบาย~”
ให้ถามตาลุงขี้บ่นน่ะหรือฝันไปเถอะ ถึงพี่คุณจะเป็นคุณหมออนาคตไกลจบนอกเกรดนิยมก็เถอะ! สกายขอบาย
“เธอ!!! คิดผิดใช่ไหมเธอ ทำผิดใช่ไหมเธอที่เลือกเรียนแพทย์กูพลาดไปใช่หม๊ายยยยยยยยย”
“ไอ้ห่าแวนมึงจะโวยวายทำไม”
สกายผลักหัวเพื่อนด้วยความรำคาญเป็นอย่างนี้ทุกทีเวลาสอบเสร็จมันจะร้องเพลงโหยหวนว่าผิดไปแล้วที่เลือกเรียนหมอ คนโดนด่าว่าโวยวายหันมาจ้องเขม็งดันแว่นขึ้นแล้วจิกตามองเพื่อน
“แหมไอ้ห่าใครจะเก่งแบบมึงล่ะ”
“กูทำบุญมาดี”
ไม่มีการถ่อมตัวใดใดทั้งสิ้น สกายเอามือล้วงกระเป๋ายักไหล่ใส่เพื่อนด้วยท่าทางกวนโอ๊ยเป็นที่สุด
“เกลียดมึงจริง ๆ ไอ้สัด”
อีกเสียงดังขึ้นด้านหลัง สกายหันไปยักคิ้วกวนใส่เพื่อนอีกคนที่เดินเข้ามาสมทบ
“ไม่อิจฉาพี่สิน้องเนม”
“กวนส้นตีนดีจริงมึงเนี่ย”
เนมส่ายหัวด่าเพื่อน สงสารคนไข้ของมันในภายภาคหน้าจริง ๆ ที่ต้องมีหมอเจ้าของไข้โคตรกวนตีน
“หึหึหึ”
สกายหัวเราะชอบใจ การกวนตีนคนอื่นคือหนึ่งในการคลายเครียดของเขาล่ะ รู้สึกโรคจิตแปลก ๆ แต่พอพูดทีไรปากมันก็ไปเองตลอด บางทีนะเขาพูดธรรมดาพวกมันยังหาว่าเขากวนตีนเลย
นี่สิคนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด!
“แล้วนี่มึงแดกข้าวมายัง”
คนถูกถามส่ายหน้า แค่ตื่นมาสอบให้ทันยังยากแล้วจะเอาเวลาที่ไหนหาอะไรกิน อีกอย่างเขานอนคอนโดไม่ใช่ที่บ้าน ไม่มีอะไรกินนอกจากนมจืดหรอก
“งั้นไปหาไรกินกันเหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่าจะถึงคาบถัดไป”
“อือไปดิ ไปโรงอาหารกลางนะ”
สกายบอก เพื่อนทั้งสองพยักหน้ารับทั้งสามคนจึงพากันกอดคอเดินไปยังโรงอาหารกลางที่ไม่ไกลจากคณะมากนัก
“คือที่อยากมาแดกโรงอาหารกลางนี่มึงอยากมาเช็คเรทติ้งป่ะวะกาย”
“เช็คเรทติ้งตะระริ่งตะระริ่ง”
ไม่ว่าเปล่าสกายคนคูลแถมส่ายนมให้เพื่อนทั้งสองดูด้วย เนมกับแวนกุมขมับปวดหัวกับความกวนตีนและความเกรียนของมันเหลือเกิน สกายเห็นเพื่อนทำท่าทางละเหี่ยใจก็หัวเราะชอบใจ นี่ถ้าแวนมันอารมณ์ดีมันคงร่วมส่ายนมไปกับเขาแต่มันเครียดอยู่เลยมีแค่เขาเล่นอยู่คนเดียว
“นี่กูเอ็นเตอร์เทนพวกมึงอยู่นะ อย่าเครียดดิวะมันผ่านไปแล้ว ครั้งหน้าก็เตรียมตัวใหม่”
“มึงเก่งมึงก็พูดได้ดิวะไอ้กาย”
สกายส่ายหัวแล้วเดินเข้าไปกอดคอแวน
“คนเก่งแพ้คนขยันนะและกูเชื่อว่ายังไงมึงก็ผ่านแวน อย่าคิดมากไปหาเตี๋ยวไก่แดกกันดีกว่า”
สกายยิ้มกว้างขยี้หัวเพื่อนจนยุ่งแล้วรั้งคอให้อีกคนเดินตาม โดยไม่เห็นรอยยิ้มเขินของคนในอ้อมกอด
“พวกมึงไปซื้อเลยกูเฝ้าโต๊ะให้”
“แล้วมึงไม่กินอะไรหรือไง”
แวนส่ายหน้า
“กูกินมาแล้ว”
สกายกับเนมพยักหน้าเข้าใจและเดินแยกกันไปซื้อข้าว สกายเลือกร้านก๋วยเตี๋ยวไก่มะระที่อยากกินและเป็นสาเหตุที่เขาชวนพวกเพื่อนมากินที่โรงอาหารกลาง
“เอาอะไรจ๊ะสุดหล่อ”
“ผมเอาเล็กแห้งยำไก่ฉีก น่องสองน่องครับป้า”
แถมด้วยรอยยิ้มหวานให้ป้าคนขายใจสั่นเล่น ระหว่างยืนรอสกายก็กดมือถือเล่นไปด้วย
Rrrrrr Rrrrrคราวนี้อะไรที่ห้องเสียอีกล่ะ สกายถอนหายใจก่อนจะกดรับสายจากพี่คุณ
“ครับพี่”
‘ฟ้าอยู่มหาลัยใช่หรือเปล่า’“ครับ”
‘ตอนนี้อยู่ไหน’“โรงอาหารกลางครับ พี่คุณมีอะไรหรือเปล่า”
‘แปบนะครับ มึงโรงอาหารกลางไปทางไหน’สกายเงียบฟังเหมือนพี่คุณจะคุยอยู่กับใครสักคนที่เสียงคุ้น ๆ แต่สกายก็นึกไม่ออกว่าใคร สักครู่พี่คุณก็กลับมาคุยกับเขาอีกครั้ง
‘เดี๋ยวพี่ไปหา’“ดะ...เดี๋ยวพี่คุณ โว๊ย! เอาแต่ใจจังวะฟังมั่งไหมเล่า”
สกายโวยวายใส่โทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไปตั้งแต่ปลายสายพูดจบ ถามหน่อยไหมว่าทำอะไรอยู่ โอเคอาจจะโง่ไปหน่อยอยู่โรงอาหารก็ต้องกินข้าวใครจะนั่งอ่านหนังสือแต่ตามมารยาทแล้วก็ควรถามไม่ใช่หรือไงว่าเขาว่างไหม
ไม่ใช่แบบนี้! ทำไมเอาแต่ใจจังวะ!
ตีอกชกหัวอยู่กับตัวเองได้สักแปบก๋วยเตี๋ยวที่สั่งก็ได้เลยทำให้สกายอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อยเดินกลับมาที่โต๊ะก็เห็นว่าเนมกลับมาและเริ่มกินข้าวก่อนไปแล้วมีขวดน้ำเปล่าวางอยู่สองขวดตรงที่นั่งของมันและของเขา
“ขอบใจ”
“ใครบอกกูซื้อมาให้กูแดกเองสองขวดเว่ย”
เนมคว้าขวดไปทางตัวเองแล้วยักคิ้วกวนให้ สกายชี้หน้าเพื่อน
“แดกให้หมดนะไอ้สัด”
“พุงกูแตกตายก่อนสิใครจะแดกน้ำเยอะเหมือนมึงขนาดนั้นวะ”
เนมพูดกลั้วหัวเราะแล้วส่งขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตรมาให้สกาย ฟังไม่ผิดหรอกน้ำขวดใหญ่ถ้าเนสเล่กับคริสตัลก็ 14 บาท ถ้าพวกน้ำแร่อย่างออร่าหรือมิเนเร่ก็ราคายี่สิบกว่าบาทนั่นแหละ
“เคล็ดลับผิวสวย”
“ถรุ้ย//ถรุ้ย”
เพื่อนทั้งสองถุยออกมาพร้อมกันแล้วเบ้ปากกับท่าทางลูบแขนที่แสนกระแดะของสกาย สกายหัวเราะชอบใจแล้วเริ่มลงมือกินก๋วยเตี๋ยวสุดโปรดของตัวเอง กินไปได้สองคำโทรศัพท์มือถือก็สั่น สกายจิ๊ปากเซ็ง ๆ แล้วกดรับ
“ครับพี่คุณ”
‘ฟ้าอยู่ตรงไหนครับ’สกายไม่ตอบในทันทีแต่ยืดตัวมองหาพี่ชายหน้าหนวด? พอเห็นพี่คุณยืนอยู่ตรงทางเข้าโรงอาหารเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วยกมือข้างหนึ่ง
“พี่คุณหันมาทางซ้ายดิ”
พออีกคนเห็นก็กดตัดสายและเดินยิ้มมาหาสกาย เนมกับแวนมองหน้ากันงง ๆ ก่อนสกายจะเป็นคนแนะนำ
“พี่คุณนี่เนมกับแวนเพื่อนในคณะ ส่วนพวกมึงนี่พี่คุณเพื่อนพี่ดรีม”
“สวัสดีครับ//สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ กินข้าวอยู่หรือ”
“ครับ พี่คุณมีอะไรหรือเปล่า”
“พี่แวะมาหาเพื่อนแล้วนึกได้ว่าฟ้าเรียนอยู่ที่นี่เลยซื้อขนมของโปรดมาให้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังชอบอยู่หรือเปล่า”
ตรัยคุณพูดแล้วยื่นถุงขนมให้สกาย เด็กหนุ่มยกมือไหว้ขอบคุณแล้วเปิดถุงดูก็ตาโตเป็นประกายด้วยความดีใจ
“ลูกชุบ!!!! ขอบคุณมากเลยครับพี่คุณ”
สกายยิ้มกว้าง คนที่ซื้อมาฝากก็พลอยยิ้มตามไปด้วย
“ดีใจที่ฟ้ายังชอบอยู่”
“ไม่เลิกชอบง่าย ๆ หรอกน่าของอร่อย ๆ แบบนี้”
“ครับ ๆ แล้วเป็นไงบ้างสอบได้ไหม”
สกายยักไหล่
“ก็ได้อยู่ครับ”
“อ่าฮะถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามพี่ได้นะ”
“ครับ”
“พี่คุณเป็นหมอหรือครับ”
แวนที่นั่งฟังอยู่นานเอ่ยถามขึ้น ตรัยคุณละสายตาจากน้องชายมายิ้มมองเด็กแว่นตัวขาว
“ครับ”
“เจ๋ง!!!!”
แล้วบทสนทนาก็กลายเป็นเรื่องราวของบทเรียนระหว่างเพื่อน ๆ และพี่คุณซึ่งสกายไม่คิดจะเปล่งเสียงของตัวเองเข้าไปร่วมวงด้วยแม้แต่น้อย คนที่รักรอยสักเป็นชีวิตจิตใจกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่คนเดียว
ของรักของข้า~~~~
ลูกชุบที่รัก พี่หมอสกายจะกินไม่แบ่งใครเลย! หึหึหึ
Tbc.
talk. ความคูลชักไม่เหลือแล้วลูกเอ๊ย สงสารที๋สวดดดดดด
#ฟ้าของคุณ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า