► มหา'ลัยเดอะซีรีส์ ll ตอนที่ 20 เหลียงพีซ #นิเทศเทใจ (24.09.17) END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ► มหา'ลัยเดอะซีรีส์ ll ตอนที่ 20 เหลียงพีซ #นิเทศเทใจ (24.09.17) END  (อ่าน 62663 ครั้ง)

ออฟไลน์ ANNEW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
    • Twitter
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ




สารบัญ

★ พูดคุยบนทวิตเตอร์รบกวนติดแท๊ก #มหาลัยเดอะซีรีส์ นะคะ
PART 1- จ้าวตะวัน #วิศวะหวั่นไหว
PART 2- จ้าวตะวัน #วิศวะหวั่นไหว
PART 3- ป๋าไนท์ #วิศวะหวั่นไหว
PART 4- ป๋าไนท์ #วิศวะหวั่นไหว
PART 5- ทัพพาย #นิเทศเทใจ
PART 6- ทัพพาย #นิเทศเทใจ
PART 7- ภพกันต์ #แพทยรักสาส
PART 8- ภพกันต์ #แพทยรักสาส
PART 9- รักษ์คุณ #ถาปัตย์จัดรัก
PART 10- รักษ์คุณ #ถาปัตย์จัดรัก
PART 11- กวินภีม #ถาปัตย์จัดรัก
PART 12- กวินภีม #ถาปัตย์จัดรัก
PART 13- ครามฐา #วิศวะหวั่นไหว
PART 14- ครามฐา #วิศวะหวั่นไหว
PART 15- หมอกชิน #ประมงหลงรัก
PART 16- หมอกชิน #ประมงหลงรัก
PART 17- ไบร์ทแซน #ประมงหลงรัก
PART 18- ไบร์ทแซน #ประมงหลงรัก
PART 19- เหลีียงพีซ #นิเทศเทใจ
PART 20- เหลีียงพีซ #นิเทศเทใจ
 
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2017 13:16:30 โดย ANNEW »

ออฟไลน์ ANNEW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
    • Twitter
[1]




ผมติดโซเชี่ยล

อืม... จะว่ายังไงดีล่ะ ความจริงก็ไม่ใช่โซเชี่ยลหรอกที่ผมติด

แต่เป็นคนในโซเชี่ยลต่างหากที่ทำให้ผมต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูทุกครั้งที่มีการแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาบนหน้าล็อกสกรีน

ครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมกำลังนั่งดูดนมกล่องรอเพื่อนในกลุ่มตอนที่มือถือเด้งขึ้นมาว่าคนที่ผมกดติดตามไว้เพิ่งอัพสเตตัสใหม่บนโปรแกรมนกฟ้าที่ได้ความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของแอพลิเคชั่นโซเชี่ยล



TAWANNN @tawanchai

อวยพรให้วันนี้เป็นวันที่ดี



แคปชั่นสั้นๆ กับรูปถ่ายท้องฟ้ายามยามเช้า ผมไม่รู้เรื่ององค์ประกอบของภาพหรือแสงสีอะไรหรอกเพราะผมไม่ได้สนใจที่จะศึกษา แต่ก็พอจะรู้ว่ารูปถ่ายที่กำลังมองอยู่นี้สวยมากจริงๆ สมกับที่ขึ้นชื่อว่าเป็นช่างภาพมือหนึ่งของคณะและคนที่ผมเฝ้าตามดูผลงานอยู่ตลอด

ใช่ครับ ตะวัน หรือนายตะวันฉาย ที่เป็นเจ้าของแอคเคาท์ยอดฟอลโล่เวอร์นับหมื่นคือต้นเหตุที่ทำให้ผมติดโซเชี่ยล

ผมกดตามแอคเคาท์เขาไว้เท่าที่จะทำได้ ทั้งเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ รวมไปถึงอินสตราแกรมที่เขาสร้างไว้ เพื่อจะดูรูปที่เขาถ่ายไว้ได้แบบทันเหตุการณ์

ถามว่าผมตกหลุมรักเขาหรือเปล่าน่ะหรือครับ?

ผมขอตอบว่าผมตกหลุมรักรูปถ่ายของเขาแล้วกัน

"มาเช้าตลอดเลยว่ะน้องจ้าว ถ้าไม่ติดว่าสนิทกันกูจะคิดว่ามึงเป็นลูกพี่แช่ม"

ไอ้ทัพที่เพิ่งมาถึงโต๊ะคณะใช้ชีทบางๆ สำหรับเรียนวันนี้ตบหัวผมพร้อมเอ่ยทักทายตามประสาคนกวนตีน พี่แช่มคือพี่รปภ.หน้ามหาลัยผมครับ

"แล้วนี่มึงทำอะไร ส่องทวิตเดือนวิศวะอีกแล้วเหรอวะ"

"สู่รู้"

ผมด่ามันแล้วดูดนมกล่องในมือที่ยังเหลืออยู่จนหมด ส่วนไอ้ทัพก็หัวเราะลั่นแล้วทำหน้าทำตาล้อเลียนผม

ครับ ผมกำลังส่องทวิตเตอร์เดือนวิศวะอยู่

ก็ไอ้คนเดียวกับที่ลงรูปภาพท้องฟ้ายามเช้าไว้ในทวิตเตอร์นั่นแหละ ที่ผมบอกว่าเขาเป็นช่างภาพมือหนึ่งของคณะ เพราะดูแล้วคณะเขาไม่น่าจะมีใครถ่ายรูปสวยได้ขนาดนี้แล้ว น่าจะไปทำอะไรอย่างศึกษาเรื่องเครื่องยนต์กลไกมากกว่า และที่คนฟอลทวิตเตอร์เขาเยอะก็ไม่ใช่เพราะเขาถ่ายรูปสวยอย่างเดียว แต่เป็นเพราะหน้าตาและดีกรีเดือนคณะวิศวะด้วย

"ชอบก็จีบดิวะ น้องจ้าวของกูออกจะหน้าตาน่ารัก พี่ตะวันต้องมีหวั่นไหวมั้งอ่ะ" มันว่าพร้อมยื่นมือมาดึงแก้มให้ผมต้องฟาดหลังมือแล้วส่งตาเขียวใส่มันไป

"น่ารักกับพี่มึงเถอะ แล้วก็ไม่ได้ชอบ แค่เขาถ่ายรูปสวยดี"

"คนถ่ายรูปสวยกว่าเขามีตั้งเยอะ อย่ามาสตอเบอรี่กับพี่ครับน้อง"

เกลียดหน้ามันตอนนี้จริงๆ การยักคิ้วลิ่วตาของไอ้ทัพมักจะทำให้ฝ่าเท้าเบื้องล่างของผมกระตุกอยู่เสมอ และตอนนี้มันก็อยากจะพุ่งไปแนบหน้าใสๆ ตี๋ๆ ของคนตรงหน้าแล้ว

ผมตัดบททำเป็นไม่สนใจมันแล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า ยังไงเช้านี้เขาก็อัพรูปภาพไปแล้ว คงไม่มาอีกจนกว่าจะถึงช่วงพักนั่นแหละ





 

TAWANNN @tawanchai

รักแรกพบ



TAWANNN @tawanchai

คิดถูกว่ะที่ตามพวกไอ้ป๋ามากินข้าวที่นี่



หืม? ผมมองแอคเคาท์สลับกับข้อความที่เพิ่งเด้งขึ้นมาแล้วต้องขมวดคิ้ว ผมไม่เคยเห็นเขาลงข้อความโดยที่ไม่มีรูปภาพประกอบมาก่อนเลย หรือจะพลาดลืมลงรูปกัน

ผมรอให้เขาลบข้อความหรืออัพทวิตใหม่แบบที่มีรูปแนบ แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเพื่อนผมเอาเท้าเขี่ยไล่ให้ไปซื้อข้าวนั่นแหละ ผมถึงได้ยอมเก็บโทรศัพท์มือถือแล้วลุกไปหาร้านข้าวเจ้าประจำ

แอบมองเจ้าของทวิตเตอร์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลกันในโรงอาหารนักศึกษา เห็นครั้งแรกก็ตกใจเพราะไม่เคยเจอเขาเดินเข้ามาที่นี่สักครั้ง ปกติเห็นแต่แวะไปห้างดังที่อยู่แถวนี้แทน ดูจากทวิตเตอร์แล้วคงแอบปิ๊งใครสักคนในโรงอาหารนี่แหละมั้ง แต่ยังนั่งหน้านิ่งสลับกันหัวเราะเล่นหัวกับเพื่อนได้ ผมล่ะสับสนจริงๆ





 

TAWANNN @tawanchai

คนน่ารักจะใจร้ายกันทุกคนเปล่าวะ?

ถ้าเข้าไปทักเขาจะกระทืบหน้ากูมั้ย



TAWANNN @tawanchai

เหี้ยเอ้ย #วิศวะหวั่นไหว



หลังจากวันนั้น กิจวัตรที่เขาจะลงรูปทุกเช้า กลางวัน และเย็นยังคงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือข้อความที่ออกไปในเชิงว่าเขากำลังแอบชอบใครสักคนอยู่ พอทวิตเขาเด้งก็มีแฟนคลับเมนชั่นไปถามรัวๆ ว่าคนที่เขาชอบเป็นใคร อยู่คณะไหน แต่ก็ไม่ได้คำตอบเลยสักคน เหมือนเขาแค่อยากระบายลงทวิตเตอร์ประมาณนั้น

"พี่เดือนวิศวะเขาแอบชอบใครเหรอวะ?"

ทัพคนเดิมเพิ่มเติมคือเสือกมากขึ้นชะเง้อชะแง้มองหน้าจอโทรศัพท์เขาแล้วพูดไปด้วย

"คนงั้นมั้ง เห็นบ่นๆ มาเป็นอาทิตย์แล้ว"

"แล้วเขาชอบใครวะ?"

"ขี้เสือก"

"เอ้า! ไอ้น้องจ้าว พูดจาน่าโดนดูดปาก ไหนมาให้พี่ทัพดูดที"

ผมเอาเข่ายันพุงเพื่อนรัก หัวเราะกับหน้าตาเหมือนตูดพะยูนก่อนลอบมองคนที่พักนี้ดูจะขยันแวะมาแถวคณะนิเทศศาสตร์เหลือเกิน ได้ยินข่าวลือมาว่าเพื่อนเขา คนที่ชื่อป๋าคนนั้นตามจีบรุ่นพี่ในคณะผมอยู่ ก็ไม่แปลกนะ เพราะพี่ไนท์เป็นคนหน้าตาดี รูปร่างดี แถมนิสัยยังดีอีก ผมคุยกับพี่เขาบ่อยๆ ชอบมองพี่เขายิ้มครับ ยิ้มทีโลกสดใสมาก

 





TAWANNN @tawanchai

นั่นแฟนน้องเขาหรือเปล่าวะ ทำไมถึงเนื้อถึงตัวกันจัง เหี้ยเอ้ย ไม่เอานะ กูยังไม่ทันเริ่มเลย



PAPA @pavidva ถึง @tawanchai

ปอดแหกระวังโดนแย่งไปแดกนะครับ



TAWANNN @tawanchai ถึง @pavidva

สัสป๋า มึงจีบไนท์ให้ได้ก่อนเขาเรียนจบแล้วค่อยมาล้อกู



วันนี้ผมได้ข้อมูลคนที่เขาชอบมาอีกอย่าง เหมือนอีกฝ่ายจะเด็กกว่านะ แสดงว่าถ้าไม่เป็นเฟรชชี่ก็ต้องอยู่ปีสองเหมือนผม ส่วนพี่ป๋าคนนั้นก็ชัดเจนแล้วว่าจีบพี่ไนท์อยู่ สนุกดีครับดูสองคนนี้ทะเลาะกัน เห็นตีหน้าขรึมเวลาอยู่มหาวิทยาลัย ใครจะไปรู้ว่าพออยู่ในทวิตเตอร์แล้วจะตีกันเป็นเด็กขนาดนี้

 





TAWANNN @tawanchai

ผมทรงใหม่ ป๋ามันแนะนำว่าถ้าทำทรงนี้จะจีบน้องติด ถ้าไม่ติดจะเรียกมันว่าไอ้ดุ้นปลากระพงจนจบเทอม



TAWANNN @tawanchai

ว่าแต่ดุ้นปลากระพงมันเป็นยังไงวะ?



ผมเลื่อนดูรูปแล้วรู้สึกเหมือนจังหวะการเต้นของหัวใจที่แปลกไป คือปกติเขาก็หล่ออยู่แล้วนะครับ เป็นคนไว้ผมหางม้าได้ดูดีมาก แต่ผมทรงใหม่ที่เขาทำคือตัดทรงอันเดอร์คัทน่ะครับ ที่ช่วงนี้มีแต่คนชอบทำกัน แล้วให้ตายเถอะ เขาดูดีมาก มากจริงๆ

ผมแอบอิจฉาคนที่เขาชอบอยู่เหมือนกันนะ รู้สึกได้เลยล่ะว่าถ้าเขาสารภาพกับคนนั้นไปยังไงก็ต้องได้จีบ

แล้วนี่ผมจะรู้สึกเศร้าทำไม ผมไม่ได้ชอบเขาสักหน่อย

อืม... ไม่หรอก ผมแค่ชอบรูปถ่ายเขาเท่านั้นแหละ





 

"น้องจ้าว ทำไมมึงทำหน้าเหมือนลิงป่วยแบบนั้นวะ เสียดายหน้าตาน่ารักๆ"

ไอ้ทัพดึงแก้มผมอีกแล้วครับ ไม่รู้มันเป็นอะไรของมันถึงได้วุ่นวายกับแก้มผมนัก แล้วเพื่อนคนอื่นก็ไม่คิดจะช่วยผมเลยแม้แต่น้อย เอาแต่หัวเราะแล้วลูบหัวลูบหลังผมอยู่นั่นแหละ

"หรืออกหัก? ไม่มั้ง กูว่าไม่ใช่หน่า..."

"เงียบไปหน่า พูดมากอ่ะทัพ ผีเจาะปากมาเกิดเหรอ"

"แม่ะ ปากร้าย"

ผมไม่ต่อปากต่อคำครับ ได้แต่นอนเอาคางเกยแขนตัวเองมองนู่นมองนี่ไปเรื่อย

"แล้วนี่ไม่ตามทวิตพี่เขาต่อแล้วเหรอวะ?"

ทัพเอาโทรศัพท์ผมไปเปิดเล่นแล้วครับ ซึ่งผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกเพราะปกติมันก็ทำแบบนั้นอยู่แล้ว แต่มันคงสงสัยที่ผมไม่หยิบโทรศัพท์บ่อยเท่าเดิมนั่นแหละ

"ไม่อะ"

ผมเลิกส่องทวิตเตอร์เดือนวิศวะไปแล้วด้วย หลังจากวันที่เขาลงรูปทรงผมใหม่นั่นแหละครับ ก็ประมาณสองอาทิตย์... สองอาทิตย์ที่ไม่ได้เห็นรูปถ่ายของเขากับข้อความที่เขาเพ้อถึงรุ่นน้องที่เขาชอบ

ก็มันไม่อยากเห็น

ไม่รู้สิ ผมหงุดหงิดเวลาที่เห็นเขาคุยทวิตเรื่องพวกนั้น คิดเอาเองว่าเพราะหลังๆ เขาไม่ลงรูปภาพด้วยแหละ เลยไม่อยากดูไม่อยากตามแล้ว แต่ผมยังไม่ลบแอคเคาท์เขาไปนะครับ แค่ไม่เข้าไปตามติดเหมือนแต่ก่อนก็แค่นั้น ไม่ตั้งให้เด้งเตือนบนหน้าล็อกสกรีนแล้วด้วย

แต่ผมไม่ได้อกหักนะ จริงๆ นะครับ

มันแค่หน่วงๆ

"แล้วไม่อยากรู้เหรอวะว่าเขาชอบใคร กูเห็นเขาพูดๆ ถึงอยู่นะ"

"ไม่เอา ไม่ขี้เสือกแบบทัพ"

"ไอ้น้องจ้าว เดี๋ยวโดนจูบ"



"ไม่ให้จูบ"



ใช่ครับ ไม่ให้จูบ แต่นั่นผมยังไม่ได้พูดนะ แล้วใครเป็นคนพูดแทนวะ?

ผมเงยหน้ามองเจ้าของเสียง ได้ยินคนขี้เสือกผิวปากเบาๆ คล้ายกำลังพึงใจอะไรสักอย่าง อยากหันไปกระทืบหน้าจะได้มั้ย

ว่าแต่พี่ตะวันกับพี่ป๋า มาทำอะไรที่โต๊ะคณะผมกันล่ะเนี่ย

"น้องจ้าว"

".....ครับ"

ผมตอบรับทั้งที่สมองก็ยังประมวลผลไม่ได้ ยอมรับแล้วกันว่าความหล่อของเขาทำให้ผมอึ้งไปเลย คือเห็นในรูปว่าหล่อแล้ว ตัวจริงแม่งยิ่งหล่อ อยากจะทาบทามให้ย้ายมาเรียนคณะผมเหลือเกิน

พี่ตะวันเป็นคนตัวสูง หุ่นดีแบบนักกีฬา ผิวก็เหมือนนะเพราะออกแทนๆ หน้าตาก็หล่อครับ ตาโต จมูกโด่ง ปากหยักสวย ยิ่งมายืนให้พิจารณาตรงหน้าแล้วยิ่งไม่มีคำจำกัดความอื่นแล้ว

ว่าแต่หูพี่ดูแดงๆ นะครับ เจาะหูมาใหม่เหรอ?

"น้องจ้าว"

"ครับ พี่เรียกมาสองรอบแล้วครับ"

ไม่ได้กวนตีนนะ ก็พี่เขาเรียกสองรอบจริงๆ แล้วไอ้ทัพกับพี่ป๋าจะขำทำต้นหน้าวัวอะไร แล้วพี่ตะวันจะจับมือผมทำไมครับนั่น

"ชอบ"

"ครับ?"

"ขอจีบนะ"

"ครับ?"

"เท่ากับตกลงแล้ว เอาเบอร์มาด้วย ไลน์ เฟสบุ๊ค มีอะไรเอามาให้หมด"

อะไรวะ โคตรเผด็จการ ไม่ได้ยินหางเสียงที่สูงขึ้นหรือไง ตอนเด็กๆ ไม่เรียนวิชาภาษาไทยเหรอถึงไม่รู้ว่ามันคือการถามคำถาม แล้วผมเนี่ยอะไร ถึงได้รับโทรศัพท์เครื่องหรูของเขามาพิมพ์แล้วจัดการแอดให้เสียเรียบร้อย แบบนี้หรือเปล่านะที่เขาเรียกว่าใจง่าย

ว่าแต่พิมพ์มือเดียวมันยาก พี่จะจับมือผมไปถึงไหน

"ฟอลทวิตพี่ไว้ด้วย?"

"ก็ครับ... พี่ถ่ายรูปสวยดี"

ผมตอบไปตามความจริงเมื่อพี่เขาเห็นแล้วว่าผมเป็นหนึ่งในฟอลโลเวอร์นับหมื่นของเขา

"แล้วทำไมไม่ทักมา เห็นหมดเลยดิว่าขี้เพ้อ"

"ไม่รู้สักหน่อยว่าพี่เพ้อถึงใคร"

"เออ งั้นรู้ไว้ตั้งแต่นี้เลยว่าเพ้อถึงจ้าวอยู่"

"ก็... ครับ"

"ตอบเป็นอย่างเดียวดิ?"

ไม่รู้จะตอบอะไรนี่หว่า ไม่กล้ามองหน้าด้วย คนบ้าอะไรสายตาวิบวับขนาดนั้น แล้วพวกไอ้ทัพเงียบๆ ไม่ได้หรือไงนะ ผิวปากเป็นเปรตกันอยู่นั่น ขอให้ปากเท่ารูเข็ม!

"พี่ตะวันทำอะไร?"

ผมถามเมื่อพี่เขายกมือถือขึ้นตรงหน้าผม แล้วก้มลงไปพิมพ์อะไรบนมือถือ ก่อนจะส่งยิ้มหล่อวัวตายความล้มมาให้

"ถ่ายรูปแฟนในอนาคต"

เพิ่งรู้วันนี้ว่านอกจากพี่ตะวันจะหน้าตาดี ถ่ายรูปสวย กวนตีนเพื่อน นิสัยเด็ก แล้วยังจะขี้หยอดอีก!

"ไม่เอา ลบเถอะครับ"

"ไม่ลบ จองตัวแล้ว"

"พี่ตะวัน"

"ครับน้องจ้าวของพี่ตะวัน"

หึ้ย! ไม่คุยด้วยแล้ว





 

TAWANNN @tawanchai

คนเหี้ยอะไรน่ารักชิบหาย รู้ตัวมั้ยว่าทำคนอื่นเขาเพ้อ ยิ้มทีออร่ากระจายตายห่ากันหมด

ว่าแต่ไอ้นั่นมันใครวะ ลวนลามเด็กกูจัง



TAWANNN @tawanchai

ขอบคุณไนท์ที่ทำให้รู้จักชื่อน้อง ชื่อไม่สมตัวแต่พอเอามาต่อกับชื่อตัวเองแล้วละมุนดีวะ จ้าวตะวัน

โคตรตุ๊ดเลยกู



TAWANNN @tawanchai

น้องดูไม่สดใสเลยว่ะ เป็นอะไรหรือเปล่าวะ?



TAWANNN @tawanchai

เหี้ยเอ้ย ไม่ไหวละ กูเห็นเขาเล่นกับคนอื่นไม่ไหวละ กูต้องแสดงตัว จีบเท่านั้นที่ครองโลก



TAWANNN @tawanchai

ขอให้เขาไม่ปฏิเสธกูเถอะ...



ผมเลื่อนทวิตเตอร์พี่ตะวันดูอีกครั้งในเย็นวันนั้น แล้วก็เจอข้อความที่พี่เขาเคยทวิตเอาไว้ในระหว่างที่ผมยกเลิกการแจ้งเตือน คือเอาจริงๆ นะ ต่อให้ไม่เลิกตามก็เดาไม่ออกอยู่ดี ใครมันจะไปคิดวะว่าพี่เขาจะหมายถึงตัวเอง

แต่ก็ดีใจอยู่แหละ

ข้อความแจ้งเตือนขึ้นอีกครั้ง ผมเห็นชื่อคนที่เพิ่งฟอลผมมาเมื่อเที่ยง พร้อมข้อความว่าเขาแท๊กรูปมา



TAWANNN @tawanchai ได้แท๊กรูปคุณ

เจ้าของแท๊ก #วิศวะหวั่นไหว แต่ตอนนี้กูหวั่นไหวได้คนเดียว คนอื่นห้าม



PAPA @pavidva ถึง @tawanchai

"น้องจ้าวของพี่ตะวัน" กูได้ยินนะ เสียงตอแหลเหี้ยๆ



TAWANNN @tawanchai ถึง @pavidva

เขาเรียกอ่อนโยนต่อจิตใจ



PAPA @pavidva ถึง @tawanchai

อ่อนโยนต่อจุดซ่อนเร้นก็พอมึงน่ะ



ผมขำลั่นเมื่อเห็นเมนชั่นจากพี่ป๋าถึงพี่ตะวัน คู่นี้ถ้าไม่บอกว่าซี้กันผมจะนึกว่าเกลียดกันนะครับ

ผมมองรูปที่ถูกแท๊กมาแล้วอมยิ้ม พี่เขาถ่ายรูปเก่งจริงๆ นั่นแหละ เด็กหน้าตี๋ทำหน้าเอ๋อหน่อยๆ ตอนมองกล้อง ผมที่ปกติดูหน้าตาตัวเองแล้วเฉยๆ ยังชอบรูปนั้นเลย

ไม่สิ ต้องบอกว่าชอบคนถ่ายรูปมากกว่า

ยอมรับแล้วก็ได้ พอใจหรือยัง

ว่าแล้วผมก็จัดการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ให้เป็นรูปที่เขาแท๊กมา พร้อมพิมพ์ข้อความส่งรูปตอนพี่เขาจับมือบอกชอบ ทัพแอบถ่ายไว้ครับ แล้วแชร์หราลงหน้าเฟสบุ๊ค มันบอกต้องฉลองที่ผมจะมีผัว

ผัวพี่มึงสิ

นี่เป็นข้อความและรูปแรกที่ผมส่งถึงพี่ตะวัน ข้อความแรกของทวิตเตอร์ผม และข้อความแรกที่ได้รับการกดหัวใจพร้อมรีทวิตอย่างรวดเร็ว ผมหุบยิ้มไม่ได้เลยล่ะ



JAOJAO @jaojaonitade แท๊กรูปถึง @tawanchai

ถ้า #วิศวะหวั่นไหว แล้ว #นิเทศเทใจ ก็เข้าท่าเหมือนกันนะครับพี่ตะวัน





----------------------------------------------------------------





     Talk: สวัสดีค่ะ มาเปิดนิยายเรื่องใหม่ทั้งที่เรื่องเก่ายังไม่ได้ครึ่งแท้ๆ ก็พล็อตมันมา และใจมันอยากแต่งให้ทำยังไงล่ะเนอะ (โดนตี)

สำหรับเรื่องนี้เราจะมาเป็นคู่ๆ ค่ะ คู่ละกี่ตอนไม่มีตายตัว จะแต่งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีอะไรให้แต่งน่ะค่ะ ถึงได้เป็นซีรี่ย์ไง! 5555555

     เราเพิ่งเคยลองแต่งแนวบุคคลที่หนึ่งเป็นครั้งแรก ไม่แน่ใจว่าสื่อออกมาได้ดีหรือเปล่า หากมีข้อติชมสามารถเม้นบอกได้เลยนะคะ เรายินดีมากๆ กับทุกความเห็น

     สุดท้ายนี้ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ

     ขอบคุณค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2017 19:30:17 โดย ANNEW »

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ Arzumi

  • #เจ้าหนูจาไม
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านไปเขินไป :-[บิดจนผ้าห่มพันตัวหมดและ #คนอ่านก็หวั่นไหว :o8: แบ่งใจมาให้บ้างนร้าาาา :mew1:

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
น่ารักดีค่ะ  รอตอนต่อไป :3123: :pig4:

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
เนื้อเรื่องน่ารักมาก ฟินนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อื้อหือ ประโยคเด็ด

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
รอ ติดตาม ค่ะ  ชอบๆๆๆ

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
อื้อหื้ม น่ารัก กรี๊ดเลยคะ พี่ตะวันคนเพ้อเจ้อ คิคิ

ออฟไลน์ Snappy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :-[    ฮือออออออออออ

เขินอ่ะ อ่านไปบิดไป >//<

รอจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
น่ารักใช่เล่นเลยค่ะ

ออฟไลน์ ANNEW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
    • Twitter
[2]






                ผมชอบถ่ายรูป

                ถึงจะเรียนคณะวิศวะแต่เลือดช่างภาพที่อยู่ในตัวมันกู่ร้องให้ผมยกโทรศัพท์มือถือขึ้นเก็บภาพทิวทัศน์และบรรยากาศที่ชอบทุกครั้งที่ได้เห็น อ๋อ ผมไม่มีกล้องโปรอะไรเหมือนใครเขาหรอก ไม่มีเงิน ใช้ไม่เป็น เคยไปลองเล่นแล้วแทบทำของเขาพัง เลยตัดสินใจใช้โทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังต่อไปนั่นแหละซึ่งมันก็ไม่ได้แย่อะไร

                ผมมีทวิตเตอร์ด้วยนะ เอาไว้ใช้ลงรูปภาพที่ผมถ่าย อันที่จริงก็มีตั้งแต่เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ไปจนถึงอินสตาแกรม แต่ละที่ก็เอาไว้ใช้งานต่างกันไป เฟสบุ๊คก็เอาไว้คุย ลงรูปให้เพื่อนแท๊ก อินสตาแกรมก็เอาไว้อวดรูปถ่ายไม่ได้อะไรมาก แต่ทวิตเตอร์นี่นับว่าเป็นที่ๆ เปิดกว้างมากทีเดียว เพราะนอกจากจะลงรูปแล้วยังได้เห็นรูปและทริคอื่นๆ ที่คนเอามาแชร์กันไว้เยอะแยะในจำนวนหนึ่งทวิต คือแม่งอลังการ ก็เลยประทับใจเป็นพิเศษ แถมแฟนคลับยังเยอะด้วย ถ้าเรียนจบแล้วหางานทำไม่ได้ก็จะผันตัวไปรับจ้างถ่ายรูป หาลูกค้าในโซเชี่ยลนี่แหละง่ายๆ

                คิดโคตรตื้น

                ไม่ทำจริงๆ หรอก เดี๋ยวพ่อแม่ด่าตายห่า ส่งเสียมาเรียนตั้งเยอะสุดท้ายไปถ่ายรูป ไม่ใช่มันไม่ดี แต่ถ้ามีโอกาสก็ใช้สิ่งที่เรียนทำงานน่าจะดีใช่หรือเปล่าล่ะ คิดแล้วผมเลยตั้งใจจะเก็บการถ่ายรูปไว้เป็นงานอดิเรกต่อไป

                แต่เพิ่งมารู้สึกว่างานอดิเรกของตัวเองเปลี่ยนไป จากที่ชอบถ่ายรูปทิวทัศน์เริ่มเปลี่ยนมาเป็นรูปคน แถมต้องเป็นคนๆ นั้นคนเดียวซะด้วย

                เจอโดยบังเอิญก็มองตามจนละสายตาไม่ได้ ไม่เจอก็ยังมองหาอีก ยังไงดี

                สายตาตอแหลชิบหาย

               


               
                มันเริ่มที่ไอ้ป๋าลากผมไปตึกนิเทศเพื่อจีบเด็กมันนั่นแหละ เห็นว่าประทับใจตอนสั่งฟุตลองพริกสดที่ร้านสะดวกซื้อหน้ามอ จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าการสั่งฟุตลองพริกสดมันทำให้คนตกหลุมรักกันได้ยังไง แต่ป๋ามันชอบของมันครับ และผมก็เป็นเพื่อนที่ดี ไม่ขัดศรัทธาเพื่อนอยู่แล้ว เลยยอมปล่อยให้ลากไปด้วย

                ระหว่างที่นั่งกินข้าวรอเด็กมันนั่นแหละที่ผมได้เจอน้อง เดินมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนเขาที่มีกันประมาณห้า-หกคน แต่เจ้าตัวเด่นเป็นสง่ามาเลยครับ เพราะตัวเขาขาวมาก ขาวโอโม่ ขาวแบบที่ผมสงสัยว่าพ่อแม่ยัดแป้งให้กินตั้งแต่เด็กหรือเปล่า แต่นั่นยังไม่เท่าไหร่ พอเดินมาใกล้ๆ นี่สิของจริง

                อยากโทรบอกแม่ว่าเจอเนื้อคู่แล้ว

                น้องไม่ใช่ผู้ชายหน้าสวย หน้าหวาน หรืออะไรหรอกครับ เขาเป็นคนตัวขาว สูงตามมาตรฐานชายไทยวัยยี่สิบ มีกล้ามเนื้อน้อยๆ ตามประสาคนออกกำลัง แต่ตา จมูก ปาก ของเขามันดันวางแบบโคตรเหมาะเจาะบนใบหน้า รวมกันแล้วผมอดจะมองตามไม่ได้ ที่สำคัญคือตอนน้องยิ้มครับ ยิ่งเวลายิ้มทั้งตาทั้งปากนะ วิศวะหวั่นไหวเหลือเกิน



                TAWANNN @tawanchai

                รักแรกพบ



                TAWANNN @tawanchai

                คิดถูกว่ะที่ตามพวกไอ้ป๋ามากินข้าวที่นี่

             

                นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมทวิตถึงเรื่องอื่นนอกจากรูปถ่ายและแคปชั่นเก๋ๆ ตามประสาเด็กวิศวะใจรักการถ่ายภาพ

 





                “พี่ตะวันเหม่ออะไรครับ ไม่ไปซื้อข้าวเหรอ?”

                 มาแล้วครับแป้งเด็กเดินได้ ตั้งแต่ตกลงปลงใจ หน้าด้านเดินเข้าไปขอจีบน้องแล้วผมก็มาหาข้าวกลางวันกินที่ตึกนิเทศให้บ่อยเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ใช่ช่วงเรียกคะแนนด้วยครับ เพราะเราก็รู้ๆ กันอยู่ว่าไม่จำเป็นต้องเรียกคะแนนอะไรแล้ว ตอนนี้มันมาถึงจุดที่ใช้เวลาด้วยกันเพื่อเรียนรู้กันและกันมากกว่า

                ช่วงแรกก็แอบหวั่นนะครับว่าน้องจะโอเคหรือเปล่า เพราะเวลาไปไหนมาไหนก็เจอคนมอง ขนาดอยู่ในโซเชี่ยลยังมีทั้งแฟนคลับ และคนที่ไม่พอใจพูดจาเสียๆ หายๆ กับน้องอยู่บ่อยๆ แต่พอได้คุยกันเรื่องนี้แล้ว คนที่เด็กกว่าผมก็ออกความเห็นง่ายๆ ว่า

                “ก็บอกไปว่าไม่ขี้เสือก”

                สมกับเป็นน้องจ้าวของพี่ตะวัน หมาในปากไม่น้อยหน้าผมเลยจริงๆ

                “กินข้าวขาหมูอีกแล้ว เดี๋ยวก็อ้วนหรอก”

                ตอนนั้นป๋ามันซื้อมากินครับ พอจ้าวเห็นก็บอกว่าอยากกินบ้าง และตั้งแต่นั้นมาผมก็เห็นน้องกินข้าวขาหมูบ่อยกว่าเมนูอื่นๆ ในโรงอาหาร

                “ไม่อ้วนหรอก เดี๋ยวผมออกกำลังก็ได้”

                “เราจะไปออกที่ไหน?”

                “ฟิตเนสในร่มของมอครับ พวกทัพก็ไปนะ พี่ตะวันจะไปกับผมไหม?”

                “มึงไม่ต้องเข้าฟิตเนสในร่มหรอกน้องจ้าว ไปทำอย่างอื่นในร่มกับพี่ตะวันก็ลดได้”

                ทัพเริ่มแซวเพื่อนตัวเองโดยมีลูกคู่เป็นเพื่อนๆ คนอื่นในกลุ่ม ตอนแรกผมก็ไม่ชอบหน้ามันเท่าไหร่หรอกเพราะเห็นอยู่กับจ้าวแถมลวนลามเด็กผมบ่อย แต่พอรู้ว่าคู่นี้เขาซี้กันตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยเบาใจ แถมไอ้นี่มันกวนครับ ห้าวเป้งจนนึกว่าเป็นวิศวะมากกว่าเด็กนิเทศ เลยเข้ากันได้เร็วหน่อย

                “ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้นะทัพ”

                เด็กผมก็โหดครับ ไม่ยอมใครพอกันเลยโดนทัพมันดึงแก้มเอา แล้วผมก็แกล้งตีหน้ายักษ์ชี้หน้าไอ้ทัพอีกทีให้มันหัวเราะกัน แต่นี่หวงจริงนะมาแตะเนื้อต้องตัวง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง

                “พี่ทัพไปซื้อข้าว เดี๋ยวไม่ทันเรียนรอบบ่ายหรอก”

                น้องมองหน้าผมนิ่งๆ เวลาจะให้ใครทำอะไรชอบใช้เสียงหนึ่งกับหน้านิ่งๆ ครับ คงคิดว่าน่ากลัวมากมั้ง ตาโตเป็นลูกกวางขนาดนั้นมองแล้วอยากจับมาปั้นเป็นก้อนแล้วแดกแม่ง

                “อยากกินด้วย”

                “ก็ไปซื้อสิครับ ร้านป้าติ๋มหัวมุมนู้น คนยังไม่เยอะเท่าไหร่”

                “อยากกินจานจ้าว ป้อนหน่อย”

                ขอทำตัวง่อยอ้อนเด็กก่อนครับ เวลาโดนอ้อนน้องจะชอบทำหน้านิ่งแต่แก้มจะแดงเป็นลูกมะเขือเทศเลย นี่ไง... แบบนี้เลย อยากยกกล้องมาถ่ายรูปจริงๆ ให้ตายเถอะ

                ว่าแต่ข้าวขาหมูมันหวานขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย

 





                “ทำไมพี่ตะวันชอบถ่ายรูปล่ะครับ?”

                ผมกดปุ่มถ่ายภาพอีกครั้งเพื่อเก็บภาพแบบแนวนอน วันนี้ชอปเลิกไว้ผมเลยพาน้องมาเดินตลาดเย็นแถวมหาลัย ช่วงนี้มีงานนิทรรศกาลของกินด้วยครับ คนขายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนร่วมสถาบันกันเองทั้งนั้น เรียกว่าอยู่ใกล้มหาลัยเงินจะไหลไปไหนเสียประมาณนั้นเลยครับ

                “จ้าวเคยเป็นไหม เวลาที่ไปเที่ยวไหนสักที่แล้วพอกลับมาโดนถามว่าไปทำอะไรมาบ้างแล้วจ้าวจำไม่ได้” มองน้องพยักหน้าหงึกหงักพร้อมอ้าปากรับลูกชิ้นหมูกลมๆ เข้าไปเคี้ยวตุ่ยๆ แต่สายตาก็ไม่ละความสนใจจากหน้าผม น่ารักจริง “พี่ก็เป็น แล้วพี่ก็มานั่งถามตัวเองว่าทำไมเราจำไม่ได้ แล้วเราจะทำยังไงให้จำได้”

                “พี่ก็เลยเลือกถ่ายรูป”

                “อือหึ”

                ผมตอบรับแล้วกดถ่ายบริเวณงานโดยรวมอีกครั้ง ท้องฟ้าตอนนี้เป็นสีครามมีแต้มแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับฟ้า แถมยังมีประกายสีชมพูจางๆ ด้วย ผมชอบธรรมชาติแบบนี้ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เลยหันไปถ่ายรูปเด็กโอโม่กินลูกชิ้นแทน อืม... ถ่ายรูปขึ้นจริงๆ ด้วย คิดไว้ตั้งแต่รูปแรกที่ถ่ายรูปน้องลงทวิตเตอร์แล้ว

                “พี่ตะวันไม่แอบถ่าย”

                “แลกกันไง เราเคยแอบถ่ายรูปพี่เหมือนกัน”

                “นั่นรูปคู่หรอก ทัพเป็นคนถ่ายด้วย”

                “งั้นถ่ายรูปพี่ ให้สามรูปเลย แลกกัน”

                จ้าวมุ่ยหน้า เพราะลูกชิ้นยังคาอยู่ในปากเลยทำให้แก้มเจ้าตัวป่องตามไปด้วย ผมอยากจะจิ้มใจจะขาดแต่ถ้าน้องทำลูกชิ้นพุ่งออกมานี่หมดเลยนะอารมณ์ละมุนที่ลอยอยู่รอบตัว

                “ถ่ายรูปต่อไปเลยไป...”

                ผมหัวเราะแล้วตีเนียนเอื้อมไปจับมือจ้าวให้หลบคนที่เดินสวนมาแต่ไม่ยอมปล่อย และน้องก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะปราม ผมจะถือเสียว่าเป็นการอนุญาตกลายๆ กับการจับมือเดินตลาดนัดแล้วกัน

                จ้าวกินเก่งมากครับ หลังลูกชิ้นปิ้งสองไม้หมดไปเขาก็เดินหาบาร์บีคิวกับขนมสายไหมต่ออีก ผมก็ไม่อยากห้าม เอาเวลาไปถ่ายรูปน้องตอนกินกับตอนเลือกซื้อของดีกว่าอีก เราเดินเล่นกันอีกสักพักก็ไปจบที่ซุ้มขายเครื่องประดับที่คุ้นมากว่าคนขายเป็นเด็กคณะเดียวกับผม ภาคเดียวกันด้วยเลยดีกว่า แก๊งค์ปากหมาแห่งวิศวะเครื่องกลหรือง่ายๆ ก็คือพวกเพื่อนๆ ในกลุ่มผมนี่เองล่ะครับ

                “นั่นแหน่ะ จับมือกันมาเลย มาเลยไอ้ตะวัน มาอุดหนุนพวกกูเลย”

                “ถ้ารู้ว่าพวกมึงมาตั้งซุ้มตรงนี้กูไม่เดินมาหรอก”

                “ชะช่า! ไม่คุยกับมึงละ น้องจ้าวครับ อยากได้อะไรลองดูได้ พวกพี่รับทำด้วยนะ บริการครั้งแรกฟรี พี่ไปคิดเงินกับไอ้ตะวันทีหลัง”

                ไอ้เป้เริ่มแล้วครับ มาเนียนลากน้องเข้าซุ้มแถมยังตะโกนให้คนอื่นมาดูหน้าน้องจ้าวอีก นิสัยพวกมันนี่จริงๆ เลย มาอีหรอบนี้ผมก็ได้แต่ปล่อยมือน้องให้เดินตามเพื่อนผมไป ส่วนตัวเองก็ทำสิ่งที่อยากทำครับ... ถ่ายรูปน้องเก็บเข้าคอลเลคชั่น

                จ้าวเป็นคนถ่ายรูปขึ้นมากจริงๆ ไม่ว่าจะมุมก้ม มุมเงย หรือจะด้านข้าง รูปออกมาไม่น่าเกลียดเลยแม้แต่น้อย แถมเวลาหัวเราะกับมุขเสี่ยวๆ ของเพื่อนผมก็ไปทั้งตาทั้งปากเลย ดูแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม ผมตั้งใจจะลงรูปไว้ในทวิตเตอร์ด้วย อารมณ์อยากอวดว่าที่แฟนมาเต็มมาก แต่เดี๋ยวขอเลือกก่อนว่าจะเอารูปไหนดี แต่ไม่ให้จ้าวเลือกหรอกนะ ผมจะเลือกด้วยตัวของผมเอง

                ก็อยากให้คนอื่นๆ ได้เห็นเขาในมุมที่ผมมองบ้าง

                จักจี้หัวใจชิบหาย

                “พี่ตะวัน”

                พอเงยหน้าตามเสียงเรียกก็พบจ้าวกำลังถือโทรศัพท์ยกมาจ่อหน้าผมอยู่ เขาเลื่อนดูสักพักก่อนจะหัวเราะอย่างพอใจแล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า หน้าผมในนั้นคงดูตลกมาก ยิ่งตอนนี้ไม่มั่นใจผมทรงใหม่อยู่เลยอดตีหน้ายักษ์ใส่น้องไม่ได้

                ป๋ามันเป็นคนแนะนำให้ผมทำผมทรงนี้ครับ มันบอกว่าช่วงนี้เขาฮิตทรงอันเดอร์คัทกัน แถมทรงหางม้าของผมก็ไม่ได้ดูดีเหมือนแต่ก่อนแล้ว เสียมาดเดือนคณะหมด แถมยังมีการมาขู่ ว่าถ้าจีบไม่ติดก็เป็นเพราะทรงผมผมนั่นแหละ พาลหมดกำลังใจต้องรีบไปตัดซะเย็นวันนั้นเลย

                “ไหนดูหน่อย”

                “ไม่เอา ผมจะเก็บไว้ดูคนเดียว”

                “เอาไว้ดูหรือเอาไว้ทำอะไร? จ้าวพูดแบบนี้พี่คิดนะ”

                “พี่ตะวันอย่าหื่นตามสภาพหน้าสิ เดี๋ยวคนผ่านไปมาเขาตกใจ”

                มันน่าจับแดกนัก!

                ผมยีหัวทุยๆ ของจ้าวจนยุ่งไม่เป็นทรง แต่มีหรือที่เด็กแสบจะเกรงกลัว จ้าวหัวเราะ หันไปสนใจข้อมือหนังที่วางอยู่หน้าซุ้มแทนแล้ว แถมไอ้เป้กับพวกเพื่อนตัวประกอบที่นั่งประจำการอยู่ก็ส่งสายตาล้อเลียนมาใหญ่ อยากเอาไนกี้ทาบหน้าพวกมันจริงๆ

                “อันนี้เหมาะ”

                เห็นน้องมองอยู่นานเหมือนจะเลือกไม่ได้ ผมเลยลองหยิบเส้นที่เตะตาที่สุดมาทาบข้อมือให้ดู ด้วยความที่เขาขาว ใส่แค่อะไรเรียบๆ ก็ดูดี คิดแล้วผมก็ทำการยัดเยียดความเป็นเจ้าของด้วยการจ่ายเงินให้พวกไอ้เป้ทั้งที่จ้าวยังไม่ตกลง แต่เห็นน้องอมยิ้มนะ ผมตีความไปเองว่าเขาชอบนั่นแหละ

                ซื้อของเสร็จสรรพก็บอกลาเพื่อน เริ่มค่ำเริ่มมียุงชุม ขนาดผมยังทนไม่ไหวแล้วนับประสาอะไรกับคนตัวขาวแบบคนข้างๆ ยุงที่มหาลัยก็ตัวโคตรใหญ่ ยิ่งเวลามันรวมกลุ่มกันนะครับ ยากันยุงสิบซองโปะตามตัวมันก็กัด แถมเจ็บอีกต่างหาก

                “สนุกมั้ย?”

                ได้ยินเสียงทุ้มๆ ฮัมเพลงอยู่ข้างๆ เลยถามเขาไป ตอนนี้ในมือน้องมีของกินอีกแล้วครับ น้ำเฉาก๊วยร้านดัง กินเก่งจริงๆ เด็กคนนี้

                “สนุกครับ อร่อยดี”

                “สนุกเพราะอยู่กับพี่หรือของกิน?”

                “ขี้หยอด เดินไปเฉยๆ เลยพี่ตะวัน”

                ผมหัวเราะ มุมด้านข้างน้องจ้าวดูดีมากจริงๆ ผมอยากยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปอีกแล้วถ้าไม่ติดว่ามันมืดจนถ่ายออกมาแล้วมองอะไรไม่เห็นล่ะก็นะ ส่วนแฟลชผมก็ไม่อยากใช้ มันลอยครับ จากน้องจ้าวอาจจะเป็นเจ้าที่เจ้าทางได้ แต่เรื่องนี้ไม่บอกน้องเขาหรอกนะครับ

                “ผมอยากถ่ายรูปพี่บ้าง”

                “หืม? คิดยังไง เมื่อกี้ยังงอแงแง้วๆ ใส่พี่อยู่เลย”

                “แง้วก็บ้าแล้ว” ตาเขียวใส่ผมเลยครับ “ผมอยากถ่ายรูปพี่... ก็เหตุผลเดียวกับที่พี่อยากถ่ายรูปนั่นแหละ”

                หืม อะไรนะ

                ผมหยุดในขณะที่จ้าวยังเดินช้าๆ เยื้องหน้าผมไป แผ่นหลังกว้างแต่ดูยังไงก็ไม่เกินอ้อมกอดแน่ๆ ไม่มีอาการของความสั่นไหวแม้แต่น้อย ในใจมันร้องว่าปล่อยคนๆ นี้ไปไม่ได้แล้ว แต่ไม่รู้จะทำยังไง ผมเลยได้แต่เอื้อมไปคว้าแขนเขาเอาไว้ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับน้องแบบนั้น

                “...ขออีกรอบ”

                “ของดีมีรอบเดียวสิ”

                “แต่ของดีพี่ให้เราได้หลายรอบเลยนะ สนใจพิสูจน์ไหม?”

                “ทะลึ่งอีกทีผมถีบตกขอบถนนเลยนะ”

                ไม่ไหวครับ ตบมุกใต้สะดือผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ กับหน้าตายๆ ตลอด แต่แอบเห็นนะว่าจ้าวยิ้มตอนมองผมหัวเราะด้วยน่ะ อืม... อยากเก็บรูปไว้เป็นคอลเลคชั่น

                จะว่าไปมันก็มีอีกวิธีนี่หน่าที่ทำให้ผมกับเขาเก็บรูปของกันและกันได้โดยที่ไม่มีใครเสียเปรียบ

                “รูปคู่ไหมล่ะ?”

                จ้าวมองผมด้วยตาโตๆ คู่นั้นก่อนจะพยักหน้าให้ เชื่อเลยว่าถ้าแสงปกติต้องได้เห็นแก้มของเขาแดงเป็นลูกมะเขือเทศแน่นอน เสียดายนิดหน่อยแหะ

                มันตลกดีนะครับที่ผู้ชายสองคนยืนเก้ๆ กังๆ แล้วพากันเดินหาที่ๆ แสงสว่างพอจะถ่ายรูปเราทั้งคู่ชัด จะว่าไปนี่เป็นรูปแรกที่เราถ่ายด้วยกันเลยสินะ หากไม่นับรูปที่ทัพถ่ายให้ ผมยิ้ม มองรูปในโทรศัพท์มือถือตัวเองแล้วอยากให้มันมีเพิ่มขึ้นมาอีก รูปของเขา รูปของผม รูปของเรา

                นี่มันอาการหลงเด็กชัดๆ นี่หว่า

                “อย่าลืมส่งรูปให้ผมด้วยนะ” จ้าวว่าตอนชะโงกมองหน้าจอ “พี่ตะวันไม่เห็นหล่อเหมือนตัวจริง”

                “เก็บไว้หล่อให้คนแถวนี้ดูก็พอ”

                “แถวนี้นี่หมายถึงผู้หญิงสองคนตรงร้านน้ำปั่น หรือเด็กคณะบัญชีตรงนั้น หรือพวกพี่เป้ที่กำลังเดินมาตรงนี้ อ้ะ หรือหมายถึงพี่ป๋ากับพี่ไนท์ ผมเห็นหันหลังอยู่ร้านบาร์บีคิวนู้น หรือ...”

                สักวันผมจะปั้นแล้วจับแดก ให้ตายเถอะ!

               

               JAOJAO @jaojaonitade ได้แท๊กรูปคุณ

                ตะวันของจ้าว

 

                TAWANNN @tawanchai แท๊กรูปถึง @jaojaonitade

                จ้าวของตะวัน








----------------------------------------------------------------




     Talk: สวัสดีค่ะ มาเปิดนิยายเรื่องใหม่ทั้งที่เรื่องเก่ายังไม่ได้ครึ่งแท้ๆ ก็พล็อตมันมา และใจมันอยากแต่งให้ทำยังไงล่ะเนอะ (โดนตี)

สำหรับเรื่องนี้เราจะมาเป็นคู่ๆ ค่ะ คู่ละกี่ตอนไม่มีตายตัว จะแต่งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีอะไรให้แต่งน่ะค่ะ ถึงได้เป็นซีรี่ย์ไง! 5555555

     เราเพิ่งเคยลองแต่งแนวบุคคลที่หนึ่งเป็นครั้งแรก ไม่แน่ใจว่าสื่อออกมาได้ดีหรือเปล่า หากมีข้อติชมสามารถเม้นบอกได้เลยนะคะ เรายินดีมากๆ กับทุกความเห็น

     สุดท้ายนี้ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ

     ขอบคุณค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2017 19:30:56 โดย ANNEW »

ออฟไลน์ temaripik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบบบบบบเนื้อเรื่องน่ารักดี

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Snappy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮืออออออออ

เขินเว้ย!! 

 :hao7:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ ANNEW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
    • Twitter
[3]





ผมกำลังถูกจีบ

ไม่ได้หลงตัวเองนะครับ เพราะคนที่จีบผมเขามาบอกด้วยตัวเองเลย ส่วนถ้าถามว่าตกใจหรือเปล่าที่มีผู้ชายมาจีบ ไม่หรอกครับ ผมเป็นเกย์ แถมปิดเผยซะด้วย ถ้ามีผู้หญิงเข้ามาหานี่สิน่าตกใจกว่า

"พี่ป๋ามารอพี่ไนท์อีกแล้วนะครับ"

คำถามจากรุ่นน้องทำให้ผมละความสนใจจากชีทภาษาอังกฤษที่ตนเองทำมาเพื่อติวให้รุ่นน้องปีสองโดยเฉพาะไปมองเขาแล้วแหย่ด้วยคำพูด

"เขามาเพราะตามแฟนใครบางคนมานั่นแหละ"

"เขามาเพราะอยากเจอคนบางคนแถวนี้ต่างหากครับ แฟนผมบอกมา"

จ้าวตอบพร้อมยักคิ้วให้ผม เจ้าเด็กนี่แสบขึ้นทุกวัน

เห็นตอนแรกหงิ๋มๆ แต่พอมาสนิทด้วยแล้วก็กวนประสาทไม่ใช่เล่นเลย พอๆ กับเด็กคนอื่นในก๊วนเขานั่นแหละ

"ไม่เปลี่ยนสถานะสักทีล่ะครับ? ผมเห็นพี่ไปไหนมาไหนด้วยกันออกจะบ่อย แถม... การกระทำของพวกพี่ก็ไม่เหมือนคนกำลังจีบกันเลย"

น้องพึมพำท้ายประโยคพลางเหลือบมองเหมือนกลัวว่าถ้าได้ยินแล้วผมจะโมโห แต่ไม่หรอกครับ ผมแค่ยิ้มแล้วยื่นมือไปดึงแก้มยุ้ยๆ นั่นแรงนิดหน่อยให้เด็กจ้าวร้องโอดโอยเท่านั้นแหละ

ผมบอกให้น้องๆ เริ่มทำแบบฝึกหัดกันต่อก่อนจะทอดสายตามองไปยังศาลารับลมฝั่งตรงข้าม และก็ได้รับสายตานิ่งๆ มองตอบกลับมาราวกับอีกฝ่ายกำลังบอกว่าถ้าเขาไม่มองตอบอีกเพียงสองสามวิ คนที่ทำหน้านิ่งตรงนั้นจะต้องพุ่งเข้ามาขยำขอเป็นแน่

เหมือนหมาบลูด๊อกหิวตับไก่

เห็นหน้าแล้วแล้วพลันนึกย้อนไปถึงช่วงเทอมก่อนที่เรื่องราวพวกนี้มันเกิดขึ้น

 







คณะนิเทศมีกิจกรรมคัดเลือกตัวนักแสดงเพื่อหาคนที่เหมาะจะรับบทในละครเวทีของมหาวิทยาลัยซึ่งจัดขึ้นช่วงนี้ของทุกปี และเพื่อให้นักศึกษาปีหนึ่งกับสองต่างคณะได้ร่วมกิจกรรมด้วย ทางอาจารย์เลยให้พวกปีสามอย่างพวกผมเป็นคนจัดการเบื้องหลัง คัดเฉพาะคนที่อยากแสดงจริงๆ ไปขึ้นเวทีกับน้องๆ

ส่วนผมเลือกที่จะทำงานเบื้องหลัง เพราะเป็นงานที่ผมสนใจ และตั้งใจจะต่อยอดอนาคตด้วยเส้นทางนี้อยู่แล้ว

แม้จะถูกคะยั้นคะยอให้ออกไปแสดงผมก็ปฏิเสธไป เพราะรู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับตัวเองเท่าไหร่

"จะไปร้านสะดวกซื้อหน้ามอ ใครเอาอะไรบ้าง?"

เป็นธรรมเนียมไปแล้วว่าหากใครจะออกไปซื้ออะไรต้องถามไถ่สมาชิกที่เหลือด้วย และทุกคนก็จัดเต็มจริงๆ กว่าผมจะได้ไปคิดเงิน ตะกร้าในมือสองใบก็แทบล้นออกมา

"สะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง สวัสดีครับ"

เสียงทักทายของพนักงานแคชเชียร์และเสียงพูดคุยที่ฟังแล้วเป็นนักศึกษากลุ่มใหญ่ ทำให้ผมรีบปรี่ไปต่อแถว ด้วยกลัวว่าคนจะเยอะจนกินเวลาไปมากกว่านี้

"รับคนจีบ เอ้ย ขนมจีบ ซาลาเปาเพิ่มมั้ยครับพี่ไนท์?"

ผมขำกับมุขเนียนๆ ของรุ่นน้องแคชเชียร์ตรงหน้า เพราะนี่เป็นโซนมหาวิทยาลัยเลยทำให้มีนิสิตหลายคนทำงานที่ร้านสะดวกซื้อสาขานี้ รวมถึงพาย เด็กอักษรที่รู้จักกันตอนรับน้องด้วย

ผมย่อตัวลงเอาแขนท้าวเคาท์เตอร์แล้วทำหน้ากรุ้มกริ่มเหมือนคาสโนว่า เล่นกับน้องมันสักหน่อยครับ

"ฟุตลองพริกสดไม่มีในตัวเลือกเหรอ?"

"มีครับผม เอาเท่าไหร่ดี?"

"สามดุ้น ขอใหญ่ๆ ไซส์เท่ากระป๋องโค้กนะ"

"หึ"

หืม? ไม่ครับ นั่นไม่ใช่เสียงหัวเราะของผมหรือน้องพายหรอก แต่เป็นเสียงของคนที่ยืนต่อคิวอยู่ข้างหลังต่างหาก ท่าทางจะได้ยินที่ผมเล่นกับน้องพายนั่นแหละ ผมเหลือบมองก็เห็นเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่อยู่คนละคณะกัน

ป๋า คนชื่อแปลกที่ชอบอยู่กับเดือนคณะวิศวะบ่อยๆ กำลังมองมาที่ผมนิ่งๆ แต่แอบเห็นว่ามุมปากยกขึ้นเป็นข้อยืนยันแล้วว่าเสียงหัวเราะในลำคอคือเสียงของคนๆนี้นั่นแหละ

ผมยิ้มเขินๆ ให้เขาแล้วเขยิบตัวหลบเพื่อให้คนตัวโตกว่าวางของที่ถือมาเพื่อจ่ายเงินลงบนที่ว่างข้างหน้าเพราะยังไงเสียไส้กรอกที่ผมสั่งก็ต้องใช้เวลาพักหนึ่งจึงจะได้ หูฟังพายคิดเงินคิวต่อไปเรื่อยๆ ตาก็มองไปเรื่อยทั้งแผงลูกอม แผงบุหรี่ที่วางอยู่ด้านหลัง แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกถึงสายตาจากคนที่อยู่ข้างๆ มองมาที่ตัวเองตลอด

พอทำใจกล้าเหลือบมองก็เจอเจ้าของสายตากำลังมองมาทางตัวเองอยู่จริงๆ เล่นเอาผมทำอะไรไม่ถูกตีหน้ายักษ์ใส่เขาไป มองหน้าทำไม สนใจเพื่อนไปสิ สะกิดให้จ่ายเงินยิกๆ แล้ว

เห็นผมมองแบบนั้นเขาเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่มุมปากยกขึ้นสูงกว่าเดิมคล้ายสงสัยและขบขันไปในที จนจ่ายเงินเสร็จนั่นแหละอีกฝ่ายถึงได้เดินออกไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อนชอปแดงเลือดหมู ไม่วายทิ้งสายตาเรี่ยราดไว้ให้ผมอีก

หมั่นไส้จริง

“ฟุตลองพริกสดของพี่ไนท์ได้แล้วครับ”

“ขอบคุณครับ  วันนี้เข้ากะถึงกี่โมง? ทัพมันจะมารับเราทันมั้ยเนี่ย?”

“สองทุ่มครับ ทัพบอกแล้วว่าคงมาไม่ทัน แต่ผมอาจจะไปหาที่คณะแทน”

ผมรับถุงไส้กรอกมาแขวนรวมกับถุงขนมถุงอื่นๆ แล้วคุยกับน้องอีกสองสามประโยคจึงเดินออกจากร้านพร้อมของพะรุงพะรัง

ดีหน่อยที่เดินจากหน้ามอเข้าตึกคณะผมไม่ได้ไกลมากนัก เดินแค่ห้านาทีผมก็จะได้เอาของกินไปเซ่นพวกหิวโหยที่รออยู่ในห้องซ้อมได้แล้ว ถ้าไม่ติดว่าเจอร่างคุ้นหน้าคุ้นตาของคนที่จำได้ว่าเพิ่งมองหน้ากันที่ร้านสะดวกซื้อเมื่อครู่นี้

มายืนสูบบุหรี่หน้าคณะนิเทศเพื่อ คณะวิศวะไม่มีที่ให้สูบหรือไง

อาจเพราะความประทับใจแรกเจอติดลบเลยทำให้ผมพาลคิดเช่นนี้ มันน่าสงสัยจริงๆ นะครับ ตึกวิศวะกับตึกนิเทศไม่ได้ใกล้กันเลยสักนิด อยู่กันคนละฝั่งแบบที่ไม่ต้องเดินผ่านกันเลยแม้แต่น้อย แต่นี่เขามายืนชิลๆ ไม่มีเพื่อนในกลุ่มมาด้วย ดูยังไงก็แปลก แต่ก็นะ ไม่ใช่เรื่องของผมสักหน่อย

ผมไหวไหล่แล้วตั้งใจจะเดินผ่านคนที่มองกลับมาเหมือนไม่เห็นเขา ถ้าไม่ติดที่มือโดนคว้าเอาไว้ก่อน

“เฮ้ย!"

ผมร้องเพราะเกือบหงายหลังแถมถุงขนมในมือก็เกือบร่วงลงพื้น ในนั้นมันมีขวดแก้วอยู่ด้วยนะ!

“เมินกันง่ายๆ เลยนะ"

“พูดอะไร ปล่อยผมนะคุณ เราไม่รู้จักกันสักหน่อย มาคว้าแขนผมทำไม?”

“ป๋า”  คงเห็นผมทำหน้างงใส่ถึงได้ยอมขยายความทั้งประโยคอีกรอบ “ชื่อป๋า วิศวะเครื่องกลปีสาม ส่วนเรา ไนท์ นิเทศภาพยนตร์ปีสาม ถูกต้อง?”

ผมยังคงขมวดคิ้วแม้จะตอบรับด้วยการพยักหน้ารับ

ไม่แปลกใจและไม่ถามกลับหรอกว่ารู้จักผมได้ยังไง ไม่ได้หลงตัวเองแต่เด็กนิเทศที่ทำกิจกรรมเยอะขนาดผมมีไม่กี่คนหรอกที่จะไม่รู้จัก เดินไปไหนมาไหนก็มีแต่คนเรียก มีแต่คนทักทาย ทำกิจกรรมก็มีแต่คนตามตัว

“มีอะไรกับผมหรือเปล่า?”

“ทำวิศวะหวั่นไหวแล้วจะปล่อยไปง่ายๆ ได้ไง”

“...ห๊ะ?” พูดบ้าอะไรของเขา ผมไม่เข้าใจเลย

“จะจีบ เลยมาบอกให้รู้ตัวไว้”

“อะไรของคุณเนี่ย? สูบบุหรี่มากแล้วควันไปอุดตันเส้นเลือดสมองหรือไง คลีนิกคณะแพทย์อยู่ฝั่งนู้น ไม่ไปส่งนะ ลาขาด”

ไม่สนแล้วครับคำว่ามารยาทหรืออะไรก็แล้วแต่ จู่ๆ ไม่รู้จักมักจี่กันมาก่อนมาเจอพูดแบบนี้ใส่มันจะไม่น่ากลัวเกินไปหรือไง แล้วมือนี่ก็ปล่อยสักทีสิ หนักของจะตายอยู่แล้วเนี่ย!

“หึ”

หึแมวสามสีบ้านมึงสิ

“ปล่อยสักที ผมเหม็นบุหรี่”

“เรื่องจีบพูดจริง”

คนชื่อป๋าว่าพลางทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้รองเท้าไนกี้บี้ ไอ้คนไม่รู้จักรักษาสภาพแวดล้อม

“จะไม่ฟังข้อดีของการเป็นเด็กป๋าหน่อยเหรอ?”

เขาคิดว่าเราอยู่ในรายการอะไรสักรายการหรือเปล่าผมก็ไม่รู้หรอกนะ คนจะจีบเขาต้องเอาข้อดีของตัวเองมาหว่านล้อมอีกฝ่ายขนาดนี้เลยเหรอ โคตรมีความมั่นใจขนาดที่ว่าผมยังทำไม่ได้เลย

ยังไม่ทันจะตอบรับหรือปฏิเสธคนชื่อประหลาดหน้านิ่งก็คว้าถุงในมือผมไปถือแล้วเริ่มออกเดินพร้อมร่ายข้อดีของการเป็นเด็กป๋าให้ฟัง

“ไม่เจ้าชู้ ไม่นอกใจ ไม่ชอบอะไรแบบนั้น”

ก็ดี ใครมีแฟนแบบนี้ลดเรื่องปวดหัวได้เยอะเลยล่ะ

“เวลามีให้เท่าที่มี อยากได้เวลาส่วนตัวก็ให้ได้ แต่ไม่จำพวกวันสำคัญ ไร้สาระ”

ก็แฟร์ดีเพราะผมก็ไม่จำ ถือคติทำปัจจุบันให้ดีที่สุดครับ

"คบกันแล้วอะไรที่เป็นของกูก็จะเป็นของมึงด้วย โดยเฉพาะของชอบมึง มีพกไว้ทุกที่ทุกเวลา”

“ของชอบ... อะไร?”

ผมถามเมื่อคนตัวสูงกว่าหยุดเดินเมื่อมาถึงลิฟต์ที่จะพาขึ้นไปยังห้องซ้อม ผมเห็นว่าเขายกยิ้มมุมปากอีกครั้งแล้ว คนบ้าอะไรจะยิ้มดีๆ ให้มันเต็มปากไม่ได้เลยหรือไง เห็นแล้วผมล่ะเสียวสันหลัง หนังตากระตุกถี่ๆ ว่าที่มันพูดต่อจะต้องไม่ใช่เรื่องดีและความรู้สึกผมก็ตรงเสียด้วย

“ฟุตลองพริกสดดุ้นใหญ่ไซส์เท่ากระป๋องโค้ก พร้อมบริการ 24 ชั่วโมงแบบนี้ไม่มีที่ไหนแล้วนะ”

“เก็บไว้ให้หมาบ้านมึงแดกเหอะ!”







 

นั่นแหละครับการพบกันซึ่งๆ หน้าครั้งแรกของพวกผมสองคน หลังจากนั้นมาก็อย่างที่หลายคนได้เห็น ป๋าแวะเวียนมาเยี่ยมคณะนิเทศอยู่บ่อยครั้ง หรือถ้าวันไหนไม่เห็นตัวก็จะเห็นรถยุโรปมาจอดเทียบท่าเสมอ เราไปไหนมาไหนด้วยกัน ทำอะไรด้วยกันอยู่บ่อยๆ อาจจะเหมือนการให้ความหวัง แต่ผมเรียกว่าการเปิดโอกาสเสียมากกว่า

มีคนถามเหมือนจ้าวอยู่บ่อยครั้งว่าทำไมผมไม่ยอมตอบตกลงคบกับป๋าเสียทีทั้งที่การแสดงออกมันชัดเจนขนาดนี้ ยอมรับครับว่ารู้สึกที่ดีที่มีคนมาให้ความสำคัญ ดูแลเอาใจใส่ แต่พอคิดว่าชีวิตจริงไม่เหมือนในละครที่คบกันแล้วจะมีแต่เรื่องราวดีๆ เราทั้งคู่ยังต้องเติบโต ยังต้องเจอเรื่องอะไรอีกเยอะแยะ มันทำให้ผมกลัวการที่จะก้าวต่อ

ไม่ใช่ไม่มั่นใจในตัวเขาแต่ยังไม่มั่นใจในตัวเองมากกว่า

"เสร็จยัง?"

มาแล้วครับ สงสัยจะทนรอต่อไปไม่ได้เพราะวันนี้นัดไว้ว่าจะกินข้างเย็นด้วยกันก่อนที่จะไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์เพราะอีกคนจะไปทำโปเจคกลุ่มอะไรสักอย่าง ผมไม่เข้าใจหรอกครับเรื่องเครื่องยนต์กลไก แค่รับรู้ไว้ว่าจะหายหัวเท่านั้นก็พอ

"เสร็จแล้ว พี่ไปก่อนนะเด็กๆ"

โปรยยิ้มหว่ายเสน่ห์ให้น้องๆ ที่กำลังจะแยกย้ายกัน แล้วคว้ากระเป๋าตามไปขึ้นรถในตำแหน่งประจำ ตุ๊กตาหน้ารถของป๋า

"แรดนะเรา ส่งยิ้มไปทั่ว"

"ตัวเองก็แรดมาอยู่คณะนิเทศทั้งวัน มีสิทธิ์อะไรมาว่าคนอื่นเขา"

"สิทธิ์ของคนตามจีบ แรดแล้วอย่าเถียง คาดเข็มขัดด้วย"

ผมตวัดสายตาไม่พอใจไปให้สารถีส่วนตัวหนึ่งทีแล้วจัดการคาดเข็มขัดให้ตัวเอง พูดจาเอาแต่ได้นี่หว่า แล้วยังมาว่าคนอื่นเขาอีก นิสัยเสียจริงไอ้หน้าบลูด๊อกนี่

รถยุโรปคันสวยขับมายังศูนย์การค้าขนาดใหญ่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวมหาวิทยาลัยนัก บางครั้งก็สงสัยว่าถ้ามาแค่นี้นั่งรถชัตเตอร์ฟรีมาก็ได้ ง่ายๆ ทำไมไม่ทำ แต่เจ้าของรถงี่เง่าครับ บอกว่าอากาศมันร้อน คนก็เยอะ ไม่อยากจะใช้รถสาธารณะและไหนๆ ก็มีรถของตัวเองทั้งที ก็จริงของเขา แต่มันเปลืองน้ำมันไม่ใช่หรือไงกัน ไม่เข้าใจพวกคนมีเงินเลย

"งอนอะไร? ทำหน้าเป็นตะพาบโดนรถเหยียบ"

เปรียบเทียบซะน่าเกลียดเลย แล้วใครงอนกัน นี่หน้าตาคนไม่พอใจต่างหาก

"ไม่ได้งอน"

"ไม่ได้งอนแล้วเป็นอะไร?"

"...ป๋าพูดจาไม่ดี เราไม่ชอบ"

เวลาไม่พอใจอะไรให้บอกไปตรงๆ คือกฏของการใช้ชีวิตคู่ตามแบบฉบับของผมครับ ดีหน่อยที่อีกคนก็เป็นพวกตรงๆ เหมือนกัน ตรงจนนับได้ว่าเป็นพวกขวานผ่าซาก แต่เขารู้กาละเทศะนะครับ เพราะเวลาที่ไม่ควรพูดเขาก็ไม่พูด แต่เล่นซัดด้วยสายตาไม่ยั้งเลย

"ขอโทษ ก็ไม่ชอบให้ยิ้มให้ใคร" ป๋าว่าในขณะที่มือก็เลื้อยมากุมมือผมเอาไว้ด้วย ไม่เนียนนะ แต่ทำให้ผมเขินได้อยู่ "หวง เข้าใจหน่อยดิ"

"ทำตัวเป็นเด็กหวงของ"

"พูดมากเดี๋ยวยัดฟุตลองพริกสดเข้าปาก"

"ป๋า! ลามกว่ะ รีบลงไปเลย!"

ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอแล้วหมั่นไส้อยากจะฝากรอยเท้าเอาไว้บนหน้าหล่อๆ นั่นสักที แต่กลัวจะโดนเอาคืนเลยทำได้แค่ฟาดหลังมือแรงๆ ให้หลุดจากมือแกร่งแล้วลงจากรถนำเข้าห้างแทน

ร้านอาหารญี่ปุ่นที่คนต่อคิวน้อยเป็นตัวเลือกของวันนี้ เพราะเราทั้งคู่ต่างก็หิวและชอบอาหารญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอมาถึงก็สั่งไม่ยั้ง เหมือนตายอดตายอยากมาสิบปี ใช้เวลาไม่เกินสิบนาทีอาหารที่สั่งก็ทยอยมาเสิร์ฟ ลายตามากครับ ไม่รู้ว่าจะลงมือกับอะไรก่อนดี

"กินยังไงให้มันเลอะแก้ม"

ไม่ว่าเปล่า ป๋ายื่นมือมาหยิบข้าวที่ติดแก้มผมแล้วเอาเข้าปากหน้าตาเฉย คิดเหรอครับว่าผมจะเขิน ไม่หรอก เพราะผมก็เคยทำใส่เขามาแล้ว รายนั้นน่ะเขินจริง หูแดงไปหมดแต่ก็ยังตีหน้านิ่งได้

"ก็กินด้วยปากแล้วมันเลอะไง"

"ยอกย้อน"

โดนหยิกแก้มให้ร้องโอดโอยกันไป เป็นบลูด๊อกแล้วยังแรงควายอีก ศูนย์รวมสรรพสัตว์ในร่างคนชัดๆ

"...วันนี้ตะวันถามอีกแล้ว ว่าเมื่อไหร่จะคบกัน"

หลังนั่งจัดการอาหารในส่วนของตัวเองไปสักพักหนึ่งเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น ผมชะงักตะเกียบในมือไปชั่วครู่ก่อนจะใช้มันตักข้าวเข้าปากอีกครั้ง ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"...เหรอ สมกับเป็นแฟนจ้าวเลย วันนี้จ้าวก็ถาม"

ป๋าทำเสียงตอบรับในลำคอแล้วคีบข้าวคำสุดท้ายเข้าปาก เขากินจุมากเลยครับ เซ็ตข้าวหน้าปลาดิบ แถมด้วยสลัดทูน่า แล้วยังจัดซาชิมิเซ็ตพิเศษอีก เอาลงท้องไปหมดได้ยังไง ผมแค่ข้าวปลาซาบะก็จะตายอยู่แล้ว

ผมทำทีเป็นโอดครวญเรื่องข้าวเพื่อเปลี่ยนประเด็น แม้จะรู้แต่ป๋าก็ยอมที่จะไหลตามน้ำไปด้วย ใช้เวลาเดินเล่นอยู่ในห้างประมาณสองชั่วโมงก็ได้เวลาจรลีกลับหอกันเสียที

"แล้วคบกันได้ยัง?"

ยังไม่ทันคาดเข็มขัดเสร็จดีก็โดนถามคำถามเดินเป็นครั้งที่สี่ตั้งแต่รู้จักกัน ใช่ครับ ผมเคยโดนถามมาแล้ว ตั้งแต่เดือนแรกทีรู้จักจนถึงตอนนี้ ไม่ตกใจแล้ว รู้อยู่แล้วว่าจะต้องโดนถาม รู้อีกแหละอีกฝ่ายจริงใจและรอมานานแค่ไหน แต่จะให้คำตอบที่ชัดเจนตอนนี้ผมทำไม่ได้จริงๆ

"...ขอโทษนะป๋า เรายัง... เราไม่รู้"

และก็เป็นคำตอบเดิมเหมือนที่ผมเคยตอบไป คนได้ฟังเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจ ตอบรับอือออในลำคอแล้วจัดการออกรถ

ปกติแล้วระหว่างทางถ้าไม่ผมพูด หรือฮัมเพลง ก็จะเป็นเขาที่หาเรื่องมาชวนตี แต่ในเวลานี้มีเพียงความเงียบที่คั้นกลางระหว่างเรา บรรยากาศอึดอัดเช่นนี้เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการถามถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ของเราเกิดขึ้น นั่นทำให้ระยะเวลาเพียงสิบนาทีจากห้างสรรพสินค้าไปถึงหอเปลี่ยนเป็นนานเป็นวันในความรู้สึกของผม

"ป๋า..."

"ไนท์ กูรักมึง"

ป๋าชิงเอ๋ยตัดคำของคุณของผม คำพูดตรงๆ จากเขาดึงความสนใจของผมให้มองสบตาสีเข้ม ใจพลันเต้นแรงไม่เป็นส่ำ ปกติเขาทำหน้านิ่งก็จริง แต่แววตาเขาจะเป็นประกายเวลาพอใจที่ได้แกล้งผม ไม่เหมือนตอนนี้ ที่มันเต็มไปด้วยความจริงจัง การตัดสินใจ และการขอร้อง

"กูรู้ว่านี่เป็นการบังคับ เอาแต่ใจที่สุดเท่าที่กูเคยทำกับมึง แต่กูไม่อยากให้ระหว่างเราเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียกอีกต่อไปแล้ว"

"....."

"กูอยากให้มึงใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ที่จะไม่ได้เจอหน้ากันไปคิด คิดให้ดีๆ ถ้ามึงรู้สึกเหมือนกัน ครั้งหน้าที่ถามมึงต้องตอบตกลงคบกับกู แต่ถ้ามึงยังไม่มั่นใจหรือตอบว่าไม่..."

"....."

"กูจะหายไปจากชีวิตมึงเอง"

 







"เฮ้อ..."

ผมถอนหายใจเป็นครั้งที่สามร้อยเจ็ดสิบแปดต่อวัน คำพูดของคนตัวสูงที่หายไปจากวงโคจรรอบตัวผมสามวันแล้วยังวนเวียนไม่หายไปไหน ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย มันอึดอัด ชวนให้หายใจไม่ออก ให้ตายเถอะ

"พี่ไนท์ ทำไมมานั่งคนเดียวล่ะครับ?"

"จ้าว... เฮ้อ~"

ผมเอ่ยทักน้องแล้วหันมาเพิ่มอัตรการถอนหายใจขึ้นอีกหนึ่งครั้ง แย่จริงๆ เลย

"...ทะเลาะกับพี่ป๋าเหรอครับ?"

"ทำไมถึงคิดว่าทะเลาะกันล่ะ?"

"ก็ช่วงนี้ไม่เห็นพี่เขามาเลย แถมพี่ไนท์ยังทำหน้าไม่สดใส พี่ตะวันก็บอกว่าพี่ป๋าหงุดหงิด ใส่อารมณ์กับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว ผมเลยคิดว่าพวกพี่น่าจะทะเลาะกัน"

ฟังคำน้องแล้วผมก็ได้แต่ถอนหายใจอีกรอบ ทำไมต้องมารู้เรื่องของมันจากคนอื่นด้วย ทั้งที่ปกติแล้วมีอะไรผมต้องรู้ก่อนคนแรกแท้ๆ

ใช่ครับ ที่ป๋าบอกว่าจะไม่เจอกันคือมันหมายถึงไม่เจอจริงๆ หน้าไม่เจอ รถไม่เห็น โซเชี่ยลก็ไม่ยุ่ง โทรศัพท์ที่ปกติจะมีก็หม่มี เรียกว่าทำเหมือนไม่เคยมีคนชื่อป๋าโผล่เข้ามาในชีวิตเลยแม้แต่น้อย และนั่นแหละที่ทำให้ผมต้องมานั่งถอนหายใจเฮือกๆ เหมือนคนใกล้ตายแบบนี้

"ไม่ถึงกับทะเลาะหรอก แค่มีเรื่องไม่เข้าใจกันนิดหน่อย..."

ผมตัดสินใจเล่าเรื่องของตัวเองให้จ้าวฟัง เพราะเห็นว่าสนิทกันด้วยส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งคือน้องเป็นแฟนของตะวัน เดือนคณะวิศวะเพื่อนสนิทของป๋าเขา อาจจะไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่หรอก แต่ผมไม่อยากไปเล่าให้เพื่อนๆ ในกลุ่มฟัง เพราะรู้ดีว่าพวกมันจะไม่เข้าใจ ก็แต่ละคนด่าผมไม่เว้นแต่ละวันว่าทำไมเล่นตัวใส่เขานักนู่นนี่นั่น มันค่อนข้างจะน่ารำคาญเป็นบางครั้งนะครับ

"ผมว่า... ผมเข้าใจพี่ไนท์นะครับ" นั่นไงล่ะ! คิดไว้แล้วว่าน้องต้องเข้าใจ "แต่ผมก็เข้าใจพี่ป๋าด้วย" อ้าว...

"ไม่เห็นเข้าใจเลย ทำไมต้องบังคับกันขนาดนี้ด้วยล่ะ"

ผมบ่นกระปอดกระแปดแล้วซบหน้าลงกับท่อนแขนของตัวเองอีกครั้ง น้องจ้าวก็แสนดีครับ ลูบหัวให้เสร็จสรรพ ถ้าไม่สนิทกันคงด่าว่าปีนเกลียวไปแล้ว

"ตอนที่พี่ตะวันบอกผมว่าจะจีบ ผมตกใจมากเลยนะ เพราะพี่ก็รู้ว่าผมน่ะชอบพี่เขามาก่อนหน้านั้นอีก" ใช่ครับ ผมรู้ และผมนี่แหละที่เป็นหนึ่งในคิวปิดของน้องกับตะวัน "พอรู้จักพี่เขามากขึ้นผมก็ยิ่งรู้ว่าตัวเองกับพี่เขายังมีอะไรที่เข้ากันได้และเข้ากันไม่ได้อยู่เยอะ เราเคยทะเลาะกันด้วยนะ เป็นครั้งแรกเลยที่ผมคิดแล้วว่ายังไงก็ไปด้วยกันไม่ไหวแน่ๆ..."

ผมเงยหน้าขึ้นมามองน้องเขาด้วยไม่อยากเชื่อว่าคู่รักแห่งปีคู่นี้เคยทะเลาะอะไรกันจริงจังด้วยเหรอ ก็เห็นตะวันเอาอกเอาใจน้องขนาดนั้น ฝ่ายจ้าวก็แสนน่ารัก ตามอกตามใจ เข้าใจคนแก่กว่าทุกอย่าง

"แต่พอพี่เขาถามว่าจะคบกันมั้ย ผมไม่ลังเลใจที่จะตอบเลยว่าคบ เพราะอะไรรู้มั้ยครับ?"

"เพราะอะไรเหรอ..."

"เพราะตอนนั้นผมทำตามความรู้สึก ผมรักพี่ตะวัน พี่ตะวันรักผม เรารักกัน เท่านั้นเองครับ"

"....."

"ผมรู้ว่าพี่กลัว ใครๆ ก็กลัวอนาคตครับ ผมเองก็กลัวว่าวันหนึ่งผมกับพี่ตะวันอาจจะจับมือกันไปไม่ตลอดทาง เราอาจจะต้องปล่อยมือ อาจจะหมดรักกัน ความรักเราอาจจะไม่มั่นคงตลอดไป"

"....."

จ้าวมองผมที่เงียบไปพร้อมอมยิ้มจนตาหยี เป็นยิ้มแบบที่ตะวันเคยบอกผมเสมอว่าเจ้าตัวหลงรักน้องเพราะรอยยิ้มนี้ และขออาสาจะดูแลไม่ให้มันหายไปเด็ดขาด

"อนาคตมันน่ากลัวก็จริง แต่ปัจจุบันที่ไม่มีพี่ตะวันน่ากลัวกว่ามากครับ ในเมื่อมีโอกาสที่จะรักและดูแลกันทั้งที ทำไมเราต้องปล่อยให้มันหลุดลอยไปล่ะครับ จริงไหม?"







 

เจ็ดวันที่ไม่ได้เจอกันจะบอกว่านานก็นาน จะบอกว่าเร็วก็ว่าเร็ว เมื่อเช้าผมได้รับข้อความว่าป๋าจะอยู่รอจนกระทั่งผมเรียนวิชาสุดท้ายเสร็จ ให้มาเจอกันที่ลานจอดรถ เขาจะจอดนอนรอผมอยู่ในรถยุโรปคันโปรดของเขา ผมก็เคยเตือนอยู่หลายครั้งแล้วนะว่าอย่านอนในรถ ไม่เห็นข่าวหรือไงที่มีคนไหลตายกันไปนักต่อนัก แต่เจ้าตัวก็ดื้อครับ บอกว่าเปิดแอร์แล้วไม่เป็นอะไร ผมก็แล้วแต่เขาเลย ในเมื่อเตือนแล้วไม่ฟังเอง

จะว่าไปก็ตื่นเต้นนะครับ ไม่ได้เจอกันมาตั้งสัปดาห์ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นคุยเรื่องอะไรกันดี แล้วเรื่องที่ผมอยากบอกจะบอกจังหวะไหน บลาๆ ตีกันในหัวไปหมดเลยครับ

“สัปดาห์ที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง”

ครับ หลังจากที่กังวลว่าจะเป็นฝ่ายเปิดฉากว่ายังไงดี พอก้าวเข้าตัวรถปุ๊บป๋ามันก็เริ่มต้นก่อนเลย เล่นเอาที่เตรียมตัวมาหายแว้บไปหมด

“เรียน ติวสอบให้น้อง ช่วยกิจกรรมอาจารย์ไปเรื่อยเหมือนปกตินั่นแหละ”

“เออ ไม่มีคิดถึงกูเลยดิ”

ผมหันไปมองเขา ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่กันเสียแล้ว มันใช่เรื่องไหมต้องมางอนกันด้วยหรือไง

ตั้งแต่รู้จักเขามีแต่คนบอกว่าป๋าหน้าดุครับ ตาโตแต่ไม่มากเท่าผม ขัดกับจมูกโด่งๆ แถมยังทำปากคว่ำเหมือนไม่พอใจอะไรอยู่ตลอดอีก ถ้ามองเฉยๆ ก็ดูดุจริงๆ นั่นแหละครับ แต่พอมาคลุกคลีถึงได้รู้ว่าความจริงน่ะ

นิสัยดุกว่าหน้าตาอีก...

“ยิ้มอะไร” นั่นไง ดุอีกแล้ว

“ยิ้มป๋านั่นแหละ ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ได้ ”

“หึ ปากนี่นะ” หึอีกแล้ว ผมเกลียดเวลาป๋าหึแบบนี้จริงๆ เกลียดความเนียนของเขาด้วย มือไม้อยู่ไม่สุกมาจับมือคนอื่นเขาไปลูบหลังมือเล่นอีก “แล้วยังไง... สรุปคิดถึงหรือเปล่า?”

ใครนะที่เมื่อครู่ทำหน้าดุใส่ผม มาตอนนี้กลับทำหน้าเหมือนบลูด๊อกถูกทิ้งให้เฝ้าบ้านคนเดียวซะแล้ว ผมหลุดหัวเราะออกมาเลยครับทีนี้

“ถ้าบอกว่าไม่ล่ะ?”

“ล็อกรถปล้ำแม่ง”

“ป๋า!”

ไม่ว่าเปล่า เขากดล็อกรถแล้วทำท่าจะปีนข้ามมาหาผมจริงๆ แต่ผมใช้มือดันอกเขาเอาไว้ก่อน พูดห้ามอะไรม่ทันเลยครับเพราะตกใจ ตอนนี้ป๋าเปลี่ยนจากบลูด๊อกเป็นยักษ์ไปแล้วครับ ตัวก็โตพอทำท่าจะข้ามที่หัวเลยติดกับเพดานรถอย่างช่วยไม่ได้ และต่อให้เป็นรถยุโรปที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะแต่มันก็มีไว้แค่นั่ง ไม่ใช่ให้พาดโพนอะไรขนาดนี้ ท่าทางเขาในตอนนี้เลยดูประหลาดเอามากๆ เลย

“ตอบมาให้ไว ไม่งั้นมึงโดนเอาฟุตลองพริกสดยัดปากจริงๆ แน่”

“ไอ้เหี้ยป๋า! หยุดเลยนะ”

เห็นเขาทำท่าจะปลดหัวเข็มขัดผมก็ด่าไปเต็มๆ หน้า ปกติไม่ค่อยพูดคำหยาบกับคนที่คุยๆ กันอยู่เพราะผมถือว่าเขาพิเศษกว่าคนอื่นครับ แต่ครั้งนี้มันอดไม่ได้จริงๆ ผมไม่ยอมให้ตัวเองโดนปล้ำในรถแบบนี้แน่ๆ ตีหน้ายักษ์ไม่พอใจโคตรๆ ใส่ไปอีกหนึ่งดอก แต่คนที่โดนกลับไปสะทกสะท้าน ยิ้มพอใจใส่อยู่นั่นแหละ

ยิ้มหาอะไหล่รถยนต์มึงเหรอ!?

"ตอบ"

ตอนนี้ป๋างอแงมากครับ ทำตัวเอาแต่ใจเหมือนเด็กๆ แถมยังใช้สายตาดุๆ มองกดดันผมอีกด้วย บวกรอยยิ้มของเขาเข้าไปแล้วผมรู้สึกเหมือนลูกหนูที่โดนงูจ้องจะตะครุบเลยล่ะ ใจนี่สั่นไปหมดเลยครับ กลัวโดนกินจริงๆ

"เออ...คิดถึง จะอะไรมากมายล่ะป๋า"

"มากมายห่าอะไร ไม่เคยหวานใส่กูหรอกมึงน่ะ"

"ป๋าก็ไม่เคยหวานเหมือนกันนั่นแหละ กูมึง ทะลึ่งใส่ตลอด เราเพื่อนเล่นเหรอ"

ไม่พอใจแล้วนะครับ ใส่ไฟคนอื่นตลอด

"ไม่ใช่เพื่อน แต่คนแถวนี้แม่งเล่นตัวอยู่นั่น เลยไม่รู้ต้องพูดด้วยยังไง"

รู้สึกเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลางครับ เล่นตัวอะไรกัน เขาเรียกศึกษาดูใจเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในอนาคต ป๋าไม่เข้าใจเราเลย แล้วยังจะมาพูดจาน้อยอกน้อยใจอีก

ในระหว่างที่ผมทำหน้าไม่พอใจ ป๋าก็ยิ้มอีกแล้วครับ แถมยังเลื่อนหน้ามาเสียใกล้ด้วย แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะครับนอกจากกระเถิบตัวแล้วย่นคอหนี ได้ยินเสียงคนขี้แกล้งหัวเราะหึแบบโคตรน่าหมั่นไส้ด้วย ผมเลยต้องตีหน้ายักษ์ใส่หนักกว่าเดิมถึงจะรู้ว่าเขาไม่มีทางกลัวหรอก

จนกระทั่งปลายจมูกของเราสองคนชนกัน ตาผมประสานเข้ากับตาสีเข้มของเขา สิ่งที่อยู่รอบข้างมันถูกละความสนใจไปหมดเลยครับ ทำได้แค่มองและรู้ถึงลมหายใจที่รดกันอยู่ ใจก็เต้นรัวอยู่ในอก ผมว่าเขาต้องได้ยินแน่เลย เพราะขนาดผม... ยังรู้สึกถึงสิ่งที่เต้นในอกเขาผ่านเสื้อนักศึกษาได้เลย

“กูไม่ใช่คนดี ไม่ใช่คนเก่ง ไม่ได้รวยขนาดจะทำให้มึงสบายได้เพราะกูยังเกาะพ่อแม่กินอยู่เลย”

“...อือ”

“ปากก็ไม่หวาน หน้าตาก็กวนตีน ไม่อ่อนโยนต่อจุดซ่อนเร้นเหมือนไอ้ตะวันด้วย”

“...ป๋า” ผมครางเรียกชื่อเขาแล้วหัวเราะ นิสัยไม่ดี ไปว่าเพื่อนแบบนั้นได้ยังไง

 “คบกับป๋านะไนท์”

แล้วป๋าก็ยิ้ม ไม่ได้ยิ้มแบบกวนตีนแต่ยิ้มจริงๆ ชนิดที่ผมมองแล้วต้องยิ้มตามเขาไปด้วย ใบหน้าของเราขยับเข้าใกล้กันมากขึ้น สาบานเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมเขินเขามากจนกวนกลับไปได้ ทำได้แค่หลับตารอรับริมฝีปากนุ่มหยุ่นที่ทาบทับลงมา มันเนิ่นนาน ไม่เร่งเร้า ไม่บังคับที่จะสอดแทรก ต่างกับภาพลักษณ์ที่เขาเคยแสดงออกมาตลอด

แล้วแบบนี้ผมจะใจร้ายกับเขาต่อไปได้ยังไงล่ะ?

“...อื้อ คบก็คบสิ”







----------------------------------------------------------------




Talk: สวัสดีค่ะ พาคู่ถัดจากจ้าวตะวันมาเสิร์ฟแล้วล่ะ เป็นคู่ที่โตขึ้นมาและมีความซับซ้อนขึ้นอีกหน่อย คือ... ได้แค่นี้แหละค่ะ เป็นพวกแต่งดราม่าไม่เป็นเอาซะเลย แต่ตอนหน้าๆ อาจจะมี จะเปลี่ยนแนวความรักไปเรื่อยๆ ค่ะ เพราะความรักมันไม่ได้มีแค่หวานแหววเสมอจริงไหมล่ะคะ? :katai2-1:

ขอบคุณมากๆ เลยนะคะสำหรับคอนเม้นท์ เป็นกำลังใจที่ดีมากๆ และเราดีใจมากที่มีคนเขินไปกับเราค่ะ

แล้วเจอกันใหม่ในพาร์ทหน้าค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2017 19:31:15 โดย ANNEW »

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สองคู่ชู้ชื่น คู่จ้าวตะวัน น่ารัก น้องเจ้าใสใส พี่ตะวันจะจับปั้นกินอย่างเดียว ส่วนคู่ไนท์ป๋า ป๋าเอะอะก็จะจับฟุตลองพริกสดยัดปากตลอด :laugh: สนุกดี รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
อยากเห็นฟุตลองพริกสด
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบมากทุกตอนเลย
ทั้งตะวันจ้าว คู่นี้ละมุนๆ หวาน ฟิลกู๊ดดีต่อใจ
ส่วนป๋าไนท์ ฮาร์ดคอร์ แต่จริงใจ

ดีงามทั้งสองคู่เลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น่ารักทั้งสองคู่เลย //อย่าดราม่ามากนะครับ หัวใจมันปวดหนึบ

ออฟไลน์ dellyamin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอ้ย น่ารัก ชอบคู่ป๋าไนท์มาก อยากเจอฟุตลองพริกบ้าง >//////<

ออฟไลน์ pearlypear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คู่ป๋าไนท์ นี่แบบบบบ... โอ๊ยย ฟินอ่ะ งือออออออ :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ ANNEW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
    • Twitter
[4]






ป๋ากำลังหลงเมีย

ไม่ต้องรอให้เพื่อนมากระแนะกระแหนเช้า กลางวัน เย็น จนต้องส่งรองเท้าไนกี้คู่เก่งไปแนบหลังมันด้วยความหมั่นไส้ก็รู้ตัวดีว่ากำลังหลงเมียขนาดหนัก แถมไม่ได้หลงเพราะเพิ่งได้มันมาเป็นเมีย แต่หลงมาก่อนหน้านี้ที่เจอมันยืนแอ่นตูดทำหน้าตากรุ้มกริ่ม เล่นมุกใต้สะดือตอนสั่งฟุตลองพริกสดสามดุ้นที่ร้านสะดวกซื้อ

แล้วดู ไอ้คนทำตัวให้เขาหลงยังแรดไปยิ้มให้คนอื่นอีก พอว่าเข้าหน่อยก็ทำหน้าเป็นตูด รู้แล้วว่าเสน่ห์แรง แต่ไม่ต้องยิ้มโปรยเสน่ห์ให้คนอื่นเรี่ยราดก็ได้ มันทำให้คันไม้คันมืออยากจะจับยัดใส่กล่องตั้งโชว์บนหัวนอน

"ทำหน้าบึ้งทำไม คิ้วชนกันจนหน้าเป็นบลูด๊อกแล้วนะป๋า"

ว่าแล้วก็เอานิ้วมาจิ้มตรงหว่างคิ้ว ไม่สิ ไม่ได้เรียกว่าจิ้ม เรียกว่ากระแทกเข้ามาเน้นๆ เลยดีกว่า พอขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมก็หัวเราะซะตาหาย อะไรจะตลกขนาดนั้น

หมั่นเขี้ยว หยิกแก้มแม่ง

"โอ้ย! ป๋า นั่นมือหรืออะไร หยิกมาได้ โคตรเจ็บเลย"

"สมควร ยิ้มแม่งอยู่นั่น เค้กตรงหน้าเมื่อไหร่จะหมด"

ได้ยินมันบ่นพึมพำเบาๆ แล้วเอาส้อมตักเค้กเข้าปาก เด็กชะมัด กินแค่นี้ยังเลอะเลย สุดท้ายก็ต้องเอานิ้วเช็ดให้แล้วส่งเข้าปากตัวเองแทน หวานว่ะ สงสัยคนตรงหน้าก็คงจะหวานจนน้ำตาลขึ้นแก้มเหมือนกันเลยแดงเป็นลูกตำลึงแบบนั้น

"หึ"

เผลอหัวเราะแบบที่มันไม่ชอบ เลยโดนส่งตาเขียวๆ มาให้ น่ากลัวตายชักไอ้ลูกแมว

"ป๋าช่วยกินหน่อยดิ อิ่มไปครึ่งท้องแล้ว"

ส่งส้อมที่ยังไม่ใช้มาให้อีก ไม่ไหว ไม่ใช่พวกชอบอะไรหวานๆ แค่เดินผ่านหน้าร้านก็ทนมองแทบไม่ได้แล้ว ถ้าไม่เป็นเพราะคนตรงหน้าบ่นอยากกินประกอบกับโดนมองนิ่งๆ จนต้องใจอ่อนก็คงไม่เดินเข้ามาหรอก ผู้ชายสองคนเข้าร้านเค้ก หนักกว่าคือหนึ่งในนั้นใส่เสื้อชอปสีแดงเลือดหมูของคณะวิศวะอีก ตลกตายชัก

"ไม่ชอบกินเค้ก เราสั่งมาเองก็กินให้หมด"

"แต่มันเยอะนะ... กินไปสองชิ้นแล้วด้วย"

แต่มึงสั่งมาห้า... แค่คิดไม่พูดดัง เดี๋ยวโดนต่อย ไม่ได้กลัวเจ็บแต่กลัวไอ้คนต่อยนั่นแหละจะเจ็บ นิ้วเรียวซะขนาดนั้น

"บอกแล้วให้กินอย่างอื่น ดื้อ"

"ในร้านมันก็มีแต่เค้ก ป๋าจะให้เรากินอะไร"

"ฟุตลองพริกสด..."

"แดกเค้กไปนะมึงอ่ะ"

ยังพูดไม่จบก็โดนยัดเค้กเข้าปาก ทำไมเวลาเขินแล้วชอบทำตัวหยาบคายใส่ แถมยังใช้กำลังเหยียบลงมาบนไนกี้คู่ใหม่อีก ถ้าเป็นเพื่อนป่านนี้โดนถีบยอดหน้าไปแล้ว แต่นี่เมีย เมียกำลังเขินด้วย แล้วใครที่ไหนจะไปกล้าเอารองเท้าเบอร์ 46 ไปวัดหน้าได้

"เขินอะไรเยอะแยะ ก็กินออกจะบ่อย...”

“ป๋า! หุบปากไปเลย”

เขาเรียกว่าหาเรื่องเจ็บตัว เพราะโดนรัวเท้ามากระทืบไนกี้ใต้โต๊ะเสียระบมจนต้องเขยิบหนี แค่พูดเรื่องจริงทำไมต้องใช้กำลังด้วย ยอมรับว่ากวนตีนแต่ผู้ชายทุกคนก็ชอบแกล้งคนที่ตัวเองชอบกันทั้งนั้นไม่ใช่หรือไง ยิ่งกับคนตรงหน้าตอนเขินมันยิ่งหน้ามอง พยายามทำตาโตๆ เหมือนจะดุแต่แดงเห่อไปทั้งหน้าทั้งหู เห็นแล้วของขึ้น อยากจะพาแมวดุกลับบ้านไปปีนเสาเล่นถ้าไม่ติดว่านั่งอยู่ในร้านเค้ก

“กินไปดีๆ”

เอื้อมมือไปเช็ดปากให้อีกรอบเลยโดนกัดนิ้วเข้าอีกที สรุปว่าจะกลายเป็นแมวพยศจริงๆ ใช่ไหม? คนอยากป๋าพอโดนทำร้ายร่างกายก็ต้องเอาคืน เลยจัดการยีขนแมวที่เพิ่งเปลี่ยนไปย้อมสีเทาเขียวที่เรียกว่าว่าแอชอะไรสักอย่างจนยุ่ง ไม่เข้าใจเทรนด์เด็กนิเทศว่าผมที่สีดูเหมือนหงอกนั่นมันดูดียังไง แต่ก็ไม่ได้ห้ามเพราะเข้ากับผิวขาวๆ ของเจ้าตัวดี

นั่งรอจนกระทั่งเจ้าของเค้กห้าชิ้นบ่นอุบว่ากินต่อไปไม่ไหวแล้วถึงได้วานให้พนักงานเอาชิ้นที่เหลือใส่กล่องกลับไปให้รุ่นน้องที่หอ ต่อด้วยโดนคนอยากเที่ยวเต็มที่ลากไปตลาดนัดเดินดูต้นไม้ ไนท์มันเป็นวัยรุ่นที่ไม่ชอบเข้าห้างแต่ชอบเดินตามตลาดอินดี้ทั้งที่ทนความร้อนจากสภาพอากาศของประเทศบ้านเกิดไม่ค่อยได้ อย่างตอนนี้ก็หน้าแดงหูแดงจนต้องเอาใบปลิวที่ได้รับแจกมาพัดให้หายร้อน เห็นเหงื่อชื้อตามไรผมและใบหน้าแล้วอยากจะลากกลับไปเดินห้าง แต่ถ้าไม่ตามใจจะโดนไม่พอใจใส่อีก






​                “เราว่าจะเลี้ยงแคคตัส ป๋าว่าดีมั้ย?”

​                “อะไรคือแคคตัส?”

​                “ต้นกระบองเพชรไง กับพืชอวบน้ำที่มันต้นเล็กๆ น่ารักดี เพื่อนที่คณะก็เลี้ยงกันเยอะ”

​                “เลี้ยงเพราะอยากจริงหรือตามกระแส ถ้าจะตามกระแสก็ไม่ต้องเลี้ยง”

​                ป๋าชอบตามใจเมีย แต่ไม่ใช่ตามใจทุกเรื่อง และส่วนตัวก็ไม่ใช่พวกชอบอะไรตามกระแสสักเท่าไหร่ หากเอามาเลี้ยงแล้วมันตายหรือไม่อยากเลี้ยงต่อแล้วก็ต้องหาวิธีจัดการกันอีก สู้ห้ามไปเลยจะดีกว่า

​                “อืม... จริงๆ ตอนนี้ก็อยากเลี้ยงเพราะคนเลี้ยงเยอะ แต่เราขอเดินดูก่อนได้มั้ย? ถ้าเดินแล้วยังเฉยๆ ไม่ได้อยากได้อะไรมากเราก็จะไม่ซื้อ นะ?”

​                ชอบมันอีกอย่างก็ตรงนี้ ไม่งี่เง่า ตรงไปตรงมา แล้วชอบไม่รู้ตัวว่ากำลังอ้อนด้วยการลงท้ายคำว่า นะ

พอพยักหน้าเข้าหน่อยก็ฉีกยิ้มตาหาย เห็นยิ้มแบบนี้แล้วนึกไปถึงรุ่นน้องที่ชื่อจ้าว แฟนเพื่อนสนิท อีกคนก็ยิ้มแบบนี้แหละ ยิ้มทั้งตาทั้งปาก พอไอ้ตะวันเห็นก็จะมานั่งเพ้อรอยยิ้มเมียตัวเองให้ฟังเป็นวันๆ เพิ่งเข้าใจก็ตอนนี้ สงสัยอาการหลงเมียจะติดต่อทางอากาศได้

​               





“อันนี้เหมือนป๋า”

มองไอ้ต้นกระบองเพชรรูปทรงเหมือนปากจระเข้มีฟันแล้วขมวดคิ้ว มันเหมือนตรงไหน? ท่าทางจะเจอแดดจนเพ้อไปหมดแล้วล่ะมั้ง

"ยังไง?"

"ดูภายนอกโคตรดุแต่ความจริงน่ารักชิบหายเลย"

ฟังแล้วยิ่งย่นคิ้วหนักกว่าเดิม นี่ก็ซนจริงมาหยิกแก้มทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่ เป็นเด็กประถมหรือไง สงสัยจะไม่ใช่แค่เพ้อแดดแต่น้ำตาลที่กินเข้าไปแล่นขึ้นสมองด้วย

"ไร้สาระ สรุปจะเอายังไง?"

"อยากเลี้ยง เราจะลองเลี้ยงจากต้นนี้แหละ"

แล้วมันก็กระวีกระวาดไปบอกเจ้าของร้านว่าจะเอาเซ็ตสำหรับปลูกไอ้ต้นจิ๋วนั่นยกเซ็ต แถมหนังสือเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงดูอีกหนึ่งเล่มหมดไปไม่มากเท่าไหร่แต่หิ้วของกลับมาพะรุงพะรังจนต้องแย่งมาหิ้วด้วย ไนท์ไม่ชอบให้ช่วย ชอบบอกว่าเป็นผู้ชายเหมือนกันทำไมต้องมาทำเรื่องพวกนี้ แต่ก็แย่งมาถือได้ตลอด

ป๋าไม่ได้กลัวเมีย มันนั่นแหละกลัวผัว พอโดนทำตาดุใส่ก็ยอมให้ถือแล้ว ทำได้แค่บ่นอุบเสียงเบาไปเรื่อย น่าจับมาขยี้จูบหนักๆ

"ป๋าๆ ขอดูร้านนั้นก่อน"

สะกิดยิกๆ แล้วเดินปรี่ทิ้งให้ถือของเดินตามหลัง ครั้งนี้ร้านที่ดึงดูดความสนใจเป็นร้านสกรีนข้าวของเครื่องใช้ร้านดังที่เห็นผ่านโซเชี่ยลอยู่บ่อยๆ แต่เดาว่าคงไม่ได้ร้านดังหรือไม่ดัง แต่เพราะโปรโมชั่นร้านต่างหากที่จะดึงดูดความสนใจจากคนอย่างไนท์ได้

ลด 50% เมื่อซื้อสองชิ้น, โปรโมชั่นคู่รัก, โปรโมชั่นไฟไหม้...

"…เอาโปรคู่ ใช้อะไรเหมือนกันเวลาไปไหนเขาจะได้รู้ว่ามีผัวแล้ว"

"ป๋า เดี๋ยวโดนฟาดปาก"

"เออ ถ้าจะทำก็เอาโปรคู่ หมวก เสื้อ อะไรก็เอามา เราเลือกเลย"

ถึงจะทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจเพราะโดนบังคับให้ต้องเลือก แต่บอกแล้วว่ามันไม่งี่เง่า ปล่อยให้เลือกของอยู่หน้าร้านได้สักพักก็ตัดสินใจที่จะทำเสื้อคู่สกีนชื่อเอา จะเรียกว่าเสื้อคู่ก็ไม่เหมือนคู่เท่าไหร่เพราะแค่ให้สกรีนชื่อของแต่ละคนเป็นสีดำเรียบๆ บนเสื้อพื้นขาวเท่านั้น

และระหว่างรอก็มีการถล่มเงินในกระเป๋าเกิดขึ้น เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะได้ยินเสียงมันร้องเรียกแล้วสะกิดยิกๆ ตลอด

"ป๋าๆ ไปร้านนั้นก่อน"

"ขอเข้าร้านนั้นแป๊บนึงนะ ทัพฝากดูของให้ตะวัน"

"เฮ้ย! ไอ้นั่นน่ากิน"

และอื่นๆ อีกมากมายที่ถูกใจคุณชายคณะนิเทศเขา

กว่าจะถึงเวลารับเสื้อก็ตะลอนไปทั่วจนได้ของฝากติดไม้ติดมือเพื่อนอีกเซ็ตใหญ่ พอกลับมาเอาของเสร็จก็เห็นว่าทางเดินที่เคยเดินได้อย่างสบายๆ ก็เริ่มมีคนมากขึ้นแล้ว แบบนี้ต้องรีบพากลับ เดี๋ยวคนเยอะๆ อากาศยิ่งไม่พอหายใจจะทำเสียสุขภาพจิตเอาเปล่าๆ

 





"อยากกลับหอหรือไปไหนต่อ?"

ขึ้นรถเปิดแอร์ได้แล้วต้องรีบถามจุดหมายปลายทางเอาไว้ก่อน เพราะมันเป็นพวกนั่งอะไรที่เคลื่อนที่นานๆ แล้วจะหลับคอพับคออ่อน เรียกยังไงก็ไม่ได้ยิน

"กลับหอเถอะเย็นมากแล้ว ป๋าพาเรามาตะลอนทั้งวันคงเหนื่อยแย่"

"รู้ว่าเหนื่อยแล้วรางวัลล่ะ"

"ก็นี่ไงเสื้อคู่"

หยิบเสื้อในถุงออกมาโชว์ ทำท่าภูมิใจอย่างกับเป็นคนสกรีนลายเสื้อออกมาเองอีก วันนี้คงให้กินน้ำตาลมากไปจริงๆ ถึงได้ดีดหนักขนาดนี้

"คู่เหี้ยอะไร นี่มันเสื้อสกรีนชื่อตัวเอง"

"แกล้งโง่อีกแล้วป๋า ใครเขาให้ใส่ชื่อตัวเอง เขาให้สลับกันใส่ อะ เอาไป"

อย่าเรียกว่ายื่น เพราะสิ่งที่มันทำคือปาเสื้อให้เลยต้องรับมากางๆ ดู ลายสกรีนชื่อก็สวยดีหรอก ไม่เสียชื่อที่เป็นร้านดัง แต่ไซส์มันไม่เล็กไปหน่อยเหรอวะ

"ตัวมันเล็ก"

"ลองใส่ก่อนแล้วค่อยบ่น นี่มันไซส์ใหญ่สุดแล้ว มากกว่านี้ไปผลิตใส่เองเลยไป"

"หึ"

ช่างยอกย้อน แถมยังลอยหน้าลอยพูดเหมือนไม่รู้สึกอะไรอีก ดี กล้าๆ แบบนี้สมกับเป็นเมียป๋า เล่นไม้นี้มาก็ต้องโดนเล่นกลับเหมือนกัน

"ไอ้นั่นน่ะ ถ้าเลี้ยงแล้วตายจะโดน"

"ไม่ตายหรอกหน่า"

"เออ ราคาทั้งหมดเท่าไหร่ทบไว้ได้เลย"

"ทำไม ป๋าจะทำอะไ---"

ทำหน้าตากวนมากนักเลยเปลี่ยนใจจากที่จะไม่เอาความข้อหากวนตีนเป็นจูบปิดปากแม่งซะเลย กว่าจะปล่อยก็นู้นโดนทุบอักๆ เข้าให้ที่หลัง เจ็บแต่ได้เห็นคนถลึงตาหน้าแดงไปถึงหูใส่อีกรอบของวันก็ไม่แย่นัก ทำตัวน่าหมั่นเขี้ยวเองทำไมล่ะวะ

"จะทำแบบที่ทำกับเมื่อกี้ และที่อยากจะทำตามจำนวนเงินจ่ายไป ไม่เชื่อก็ลอง"

"ไอ้ป๋า! นิสัยไม่ดี! ลามกว่ะ ฮึ้ย!"

หึ โดนเมียด่าแล้วสุขใจจริงๆ

 





PAPA @pavidva ลงรูปภาพใหม่

เสื้อใหม่



TAWANNN @tawanchai ถึง @pavidva

เบื่อพวกขี้อวด ต้องประกาศตัวว่าได้กันแล้วด้วยการใส่เสื้อสกรีนชื่ออีกคน



PAPA @pavidva ถึง @tawanchai

หึ พวกได้แค่จับมือแม่งขี้อิจฉา



TAWANNN @tawanchai ถึง @pavidva

ไอ้สัสป๋า กูจะประกาศให้ทั่วมหาลัยว่ามึงหลงเมีย



PAPA @pavidva ถึง @tawanchai

เออ #คนหลงเมีย2017



MR.NIGHT @mrgoodnight กดถูกใจทวิตคุณ








----------------------------------------------------------------





Talk: สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่วงคนอวดเมียประจำสัปดาห์ 55555555555555555555555555
เบื่อหน้าพี่ป๋าอ่ะค่ะ ทำไมหลงเมีย ทำไมขี้อวด รู้ไหมว่ามีใครคอยมองอยู่ตรงนี้ #ผิดมาก

สำหรับตอนนี้ก็เป็นตอนของป๋า ตอนหน้าก็จะขึ้นคู่ใหม่แล้วเนอะ จะยังคงความอ่านง่ายย่อยง่ายเช่นเคยค่ะ แล้วเราจะค่อยๆ ลองแต่งแนวอื่นดูบ้าง จะได้ไม่เบื่อกันเนอะคะ  :mew3:
ส่วนคนที่ถามเรื่องฝนดาวตกมาก อดใจรอกันหน่อยนะ เราติดแต่งเรื่องสั้นอยู่ อย่าเพิ่งโกรธเรา (กราบ)
ขอบคุณสำหรับทุกคอนเม้นแล้วกำลังใจนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2017 19:31:31 โดย ANNEW »

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ป้าหลงเมียมากจิมๆ
ก็เมียป๋าน่ารักเนอะ

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :katai3: เอาเถอะหลงเมียกันทั้งคู่อะแหละไม่ได้น้อยไปกว่ากันหรอก  :katai2-1:


  :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด