เพื่อนร่วมงานแบบที่ 23
“ชายานี่ แปลว่าเมียใช่หรือเปล่า”
ชยาเงยหน้าขึ้นมองคนที่พูดบางอย่างให้ได้ยิน และเบลก็ยิ้มตอนที่ชยาเงยหน้าขึ้นมอง ชยาแค่มองหน้าเบลแต่ไม่ได้พูดอะไรเพราะไม่อยากจะต่อปากต่อคำด้วย กลับไปก้มหน้าก้มตาใช้ตะเกียบคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากไปเงียบ ๆ และเบลที่แค่อยากพูดจาหยอกล้อเล่นกับชยาก็รู้สึกว่าพูดบางอย่างผิดไป
“แปลว่าสายธนูก็ได้”
ใช่ ชื่อชยา แปลว่าสายธนู ทั้งที่รู้อยู่ก่อนแล้ว ก็ยังจะพูดอะไรที่ไม่เข้าท่าออกมาได้ ว่าแต่...
“คุณรู้ความหมายของชื่อผมได้ยังไง”
ถามด้วยความสงสัยและเบลก็เพิ่งนึกได้ว่าไม่ควรจะรู้ความหมายชื่อของชยา รีบเบือนหน้าหนีและเฉไฉไปเรื่องอื่นทันที
“ก็พอดีวันก่อนผมดูโทรทัศน์ เรื่องคำไทยอะไรนี่แหละ ผมเลยจำได้ อีก 20 นาทีหนังจะเริ่ม คุณไม่ต้องรีบก็ได้นะ กินได้อีกเรื่อย ๆ”
เบี่ยงประเด็นจนรอดตัว และเบลก็แอบลอบถอนหายใจเล็กน้อย อุตส่าห์ชวนมาดูหนังด้วยกันได้แล้ว บางทีเบลก็คิดว่าต้องหัดสงบปากสงบคำบ้าง เพราะไม่อยากทำลายบรรยากาศดี ๆ ระหว่างกัน กว่าจะหลอกล่อให้คุณหนูมาดูหนังด้วยได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฉะนั้นถ้าเรื่องไหนเงียบได้ก็ควรเงียบดีกว่า
“งั้นเหรอ”
ชยาพยักหน้ารับแค่นั้น และคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากไปเงียบ ๆ กลายเป็นเบลที่นั่งมองชยากินไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้จะพูดอะไรอีก
น่าแปลก ตอนที่ทำงานด้วยกันก็มีการพูดจากันบ้างตามปกติ เคยอยู่กับชยานอกเวลางานบ้าง แต่ไม่ได้เป็นการใช้เวลาด้วยกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวด้วยความตั้งใจแบบวันนี้
“คุณแม่ของคุณเป็นยังไงบ้าง”
หาเรื่องคุยเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลายลงบ้าง และชยาที่กำลังคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากก็ชะงักนิ่งค้าง วางตะเกียบลงและถอนหายใจยาว
“โอเค ผมไม่ถามอะไรแล้ว”
ยกมือยอมแพ้ และชยาที่ถอนหายใจยาวก็หยิบตะเกียบมาคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากกินไปเรื่อย ๆ เพราะไม่อยากจะพูดอะไรอีก และเบลก็นั่งกอดอกมองชยากินไปเงียบ ๆ
ท่าทางแบบนี้คงไม่ค่อยดี ถ้าพูดจาไม่เข้าหูคุณหนูไป ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือคงต้องสงบปากสงบคำไปก่อน ไม่อย่างนั้นถ้ายังขืนพูดไปเรื่อย ๆ คงได้ทะเลาะกันมากกว่าจะคุยกันดี ๆ
+++
เลือกหนังที่คิดว่าสนุกแล้วแท้ ๆ แต่เมื่อหันไปมองอีกที ก็เห็นว่าคุณหนูนั่งกอดอกและหลับไปแล้ว แบบนี้มันใช่แล้วเหรอวะ ตกลงมาดูหนังหรือพาคุณหนูมานั่งหลับกันแน่
เบลไม่รู้จะทำยังไงเมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่ข้างตัวหลับไปแล้วตอนที่หนังเพิ่งฉาย เข้าใจว่าหนังคงน่าเบื่อมากคุณหนูถึงไม่สนใจอยากจะดู
ชยาเริ่มขยับร่างกายเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า ตอนที่หันมาก็เห็นว่าเบลมองอยู่ก่อนแล้วและชยาก็พยายามนั่งหลังตรง อยากจะตั้งใจดูหนังมากกว่านี้ พยายามลืมตาทั้งที่ง่วงมากหลังจากนั้นไม่นาน ชยาก็รู้สึกทนไม่ไหวเคลิ้มหลับไปอีกครั้ง
ไม่ใช่ไม่อยากดูหนัง ทั้งที่พยายามจะฝืนใจแล้วแท้ ๆ แต่เพราะความเย็นของโรงหนังรวมกับความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาตลอดทั้งวันทำให้ชยาไม่สามารถจะฝืนต่อไปได้อีก
หลับตั้งแต่หนังเริ่มฉายจนหนังจบ และชยาก็รู้สึกถึงความอุ่นที่แตะที่ข้างแก้มเบา ๆ พร้อมกับเสียงกระซิบเรียกที่ข้างหู
“คุณหนูครับ ตื่นเถอะครับหนังจบแล้วนะ”
ชยาปรือตาตื่นขึ้นมาและเพิ่งรู้ว่าตลอดเวลาเกือบสองชั่วโมงที่ผ่านมาใช้ไหล่ของเบลแทนหมอนหนุนนอนตั้งนานแล้ว
ยกมือขึ้นขยี้ตาและรีบเมินหน้าหนีคนที่กำลังมองมาและพยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด ทั้งที่รู้สึกเสียฟอร์มมากที่นอกจากหลับในโรงหนังยังไม่พอ ยังไปนอนซบไหล่เบลอีกด้วยและเบลที่ลอบมองหน้าชยาอยู่ก็อมยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก เห็นชยาทำตัวไม่ถูกและเมินหน้าหนีแบบนั้นยิ่งทำให้มีความสุข
ตอนแรกคิดว่า แบบนี้ไม่คุ้มเลยสักนิด ซื้อตั๋วหนังมาเพื่อให้คุณหนูเข้ามาหลับมันใช้ได้ที่ไหน แต่หลังจากหนังฉายไปได้ไม่นาน คุณหนูที่หลับก็เอนหัวมาซบไหล่ของเบล
ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าจะเสียเงินค่าตั๋วหนังฟรี ๆ ซะแล้ว แต่ตอนนี้ต่อให้ตั๋วราคาแพงกว่านี้สิบเท่าเบลก็คิดว่ามันคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม จะไม่ให้คุ้มได้ยังไง จ่ายเงินแค่ค่าตั๋วหนังแต่ได้คุณหนูขี้เซามาซบไหล่นอนหลับอยู่ใกล้ ๆ ให้นั่งมองเพลิน ๆ อยู่ตั้งนานโดยไม่ต้องกลัวโดนคุณหนูด่าแบบนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
+++
“ผมชื่อธนูศิลป์”
ชยาคิดว่าแบบนี้มันตลกเกินไป มองหน้าของคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ แล้วก็เบะหน้า ไม่มีทางเชื่อที่เบลพูดเด็ดขาด
“ใครเชื่อก็บ้าแล้ว”
“แล้วถ้าจริงล่ะ”
ไม่มีทางเป็นจริงไปได้หรอก ถ้าใครเชื่อสิ่งที่เบลพูดคงต้องบ้าแน่ ๆ เรื่องบังเอิญแบบนั้น ไม่มีทางเกิดขึ้นได้หรอก
“ชื่อผมไม่ใช่ชื่อโหล อย่ามาพูดจาเพ้อเจ้อหน่อยเลย ผมไม่เชื่อหรอก ทำไมเหรอ จะบอกว่า ผมชื่อชยา ที่แปลว่าสายธนู แล้วมันจะเข้ากับธนูศิลป์แบบนี้เหรอ”
พูดไปตรง ๆ และชยาก็ส่ายหน้า ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางเชื่อสิ่งที่เบลพูดเด็ดขาดและเบลก็หยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาเปิดออกและหยิบบัตรประชาชนส่งให้ชยาดู
“ธนูศิลป์มั้ย”
เบลมองหน้าชยาแบบยิ้ม ๆ และชยาก็รับบัตรประชาชนของเบลมาดูชื่อจริงของเบลที่ระบุเอาไว้ในบัตรประชาชน
“หน้าตาตลกมาก”
จะไม่ให้ตลกได้ยังไง ถ่ายไว้ตั้งหลายปีแล้ว
“ออกจะหล่อ”
ถึงแม้จะโดนพูดจาเสียดสีแต่เบลก็ยังยิ้มและดึงบัตรประชาชนของตัวเองคืนจากชยา
“เชื่อหรือยัง คุณหนูชยา”
ก็แค่พูดไปอย่างที่เคย เรียกชยาแบบนี้มาตลอด และชยาที่อารมณ์ดีเป็นพิเศษก็หันมามองหน้าของเบลและส่งยิ้มหวานให้
“เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าคุณอายุน้อยกว่าผม ต่อไปผมก็จะได้เรียกคุณว่าน้องเบลแล้วสิ คุณจะเรียกผมว่าพี่ชยาก็ได้นะ ถือเป็นคำสุภาพอย่างหนึ่ง ผมว่ามันก็ดูโอเคดี”
เพิ่งรู้ตัวว่าพลาดก็ตอนที่ถูกคุณหนูเรียกว่าน้องเบลนี่แหละ
“เกินไปนะคุณหนู”
“ไม่เห็นว่าจะเกินไปตรงไหนเลย ทีคุณยังเรียกผมว่าคุณหนูได้เลย ผมก็เรียกคุณว่าน้องเบลได้เหมือนกัน ดีมั้ย”
ไม่ดี แบบนี้มันจะไปดีได้ยังไง
“ถ้าคุณเรียกผมว่าน้องเบล ผมก็จะเรียกคุณว่าชยาเฉย ๆ เหมือนกัน เอาสิ”
“ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย ถ้าคุณเรียกผมว่าคุณหนูอีก ผมก็จะเรียกคุณว่าเบลเฉย ๆ เหมือนกัน”
“เหรอชยา ชยาจะเรียกเบลแบบนั้นเหรอจ๊ะชยา”
ก็แค่ต่อปากต่อคำไปอีกเล็กน้อย และชยาก็เรียกเบลกลับบ้าง
“ใช่สิจ๊ะ น้องเบล”
ดูท่าคุณหนูคงจะไม่ยอมเรียกเหมือนเมื่อก่อนแล้วแน่ ๆ แต่จะเรียกยังไงก็ช่างเถอะ เบลไม่คิดจะมีปัญหาเลยสักนิด ถ้าจะทำให้ชยามีความสุขกับการเรียกได้ จะเรียกแบบไหนก็เอา
“คุณที่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ”
ชยาไม่เข้าใจว่าเบลพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง หันมามองหน้าเบล และเอียงคอมองก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ดียังไง”
“ก็ไม่ดียังไงหรอก แค่รู้สึกว่าคุณที่เป็นแบบนี้...ก็...น่ารักดี"
TBC.