เพื่อนร่วมงานแบบที่ 22
“น้องยา ไปเล่นกัน”
ชยาเดินตามพี่เต้ยที่เป็นลูกของคุณป้าไปที่สนามหญ้าหน้าบ้าน เตะฟุตบอลเล่นกันอย่างสนุกสนานตามประสาพี่ ๆ น้อง ๆ ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริง ๆ แต่ชยาก็รู้สึกสนุกทุกครั้งที่พี่เต้ยแวะมาเล่นด้วยที่บ้าน เพราะหมายความว่าชยาจะมีเพื่อนเล่น ชยาอยากให้พี่เต้ยมาบ่อย ๆ มาทุกวัน เราจะได้เล่นด้วยกันทุกวัน
“พรุ่งนี้พี่เต้ยจะมาอีกมั้ย”
เอ่ยถามและพี่เต้ยก็พยักหน้ารับและส่งยิ้มให้ตอนที่เตะฟุตบอลด้วยกัน ช่วงเวลาที่รู้สึกสนุกและมีความสุขคือช่วงที่ได้อยู่กับพี่เต้ย เพราะทำให้ชยารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้แตกต่างจากคนอื่น เราเหมือนเป็นพี่น้องกันจริง ๆ และชยาก็มีความสุขมากที่สุด ยิ้มได้กว้างที่สุด เพราะมีพี่เต้ยที่เป็นเหมือนพี่ชายแท้ ๆ ที่คอยมาหามาเล่นด้วยบ่อย ๆ ทุก ๆ ครั้งที่พี่เต้ยแวะมาที่บ้านกับครอบครัวชยาจะมีความสุขทุกครั้ง และตั้งหน้าตั้งตารอคอยให้ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อที่เราจะได้เล่นด้วยกัน
ทุก ๆ วันหยุดชยาจะทำเหมือนเดิม ชะเง้อคอรอคอยว่าเมื่อไหร่พี่เต้ยจะมาและแค่เพียงเห็นรถเลี้ยวเข้ามาในบริเวณบ้าน ชยาก็รีบเตรียมลูกฟุตบอลและวิ่งไปที่รอเพื่อจะได้เล่นกับพี่เต้ยเหมือนเช่นทุกครั้ง
“ผู้หญิงสาว ๆ สวย ๆ มีเยอะแยะไม่เลือก ไปเลือกแม่ม่ายลูกติดไม่มีหัวนอนปลายเท้าเป็นแค่ช่างเสริมสวยมาเป็นเมีย ยกย่องเชิดหน้าชูตาลูกเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเอง แม่มันน่ะตัวดี ได้ดิบได้ดีเข้าหน่อย ทำเป็นเผยอหน้า หยิ่งยโสคอตั้ง ยิ่งไอ้ลูกกาฝากนั่นยิ่งตัวดี อีกหน่อยประวิทย์คงได้หลงทั้งลูกทั้งเมียมีอะไรก็จะประเคนให้มันหมด”
ชยาไม่รู้ว่าคุณลุงกับคุณป้าพูดเรื่องอะไร ได้แต่แอบยืนมองอยู่ห่าง ๆ และมองไปที่พี่เต้ยที่เงยหน้าขึ้นมองพ่อแม่คุยกัน
“เต้ยจำที่แม่พูดให้ดีนะ กับไอ้เด็กกาฝากนั่นน่ะ ไม่ต้องไปอะไรกับมัน เรากับมันอยู่คนละชั้นกัน แต่เวลาอยู่ต่อหน้าคุณอาประวิทย์เต้ยรู้ใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง”
พี่เต้ยอยู่ตรงนั้น และพี่เต้ยก็พยักหน้าอย่างช้า ๆ ตอนที่แม่ของพี่เต้ยพูดบางอย่างที่ชยาได้ยินชัดเจน
เรามันคนละชั้นกัน...
กับไอ้เด็กกาฝากคนนั้นที่หมายถึงชยา...ไม่ต้องไปอะไรกับมัน
เป็นครั้งแรกที่ชยารู้สึกเสียใจเพราะโดนทำร้ายจิตใจจากคนที่เป็นเหมือนพี่ชาย
ชยาหันหลังกลับ ลูกฟุตบอลที่ถือเอาไว้ในมือหล่นลงบนพื้นหญ้า และชยาก็วิ่งขึ้นบ้าน เปิดประตูห้องและวิ่งเข้าไปหาแม่ กอดแม่เอาไว้แน่นและแม่ก็ยิ้มให้เพราะคิดว่าลูกชายตัวน้อยอยากจะอ้อนแม่บ้าง
“พี่เต้ยมา น้องยาไม่ไปเล่นกับพี่เต้ยเหรอลูก”
ชยาส่ายหน้าและยังคงกอดแม่เอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“ทำไมวันนี้มาแปลก พี่เต้ยอุตส่าห์มาหา ถ้าไม่ไปเล่นด้วย แล้วพี่เต้ยกลับไปชยาจะร้องไห้คิดถึงพี่เต้ยไม่ได้นะลูก”
ชยาอยากเล่นฟุตบอลกับพี่เต้ย แต่พี่เต้ยคงไม่อยากเล่นฟุตบอลกับชยาแล้ว
“แม่ครับ ป้าประไพ บอกว่าชยาเป็นลูกกาฝาก”
ชยาเงยหน้าขึ้นมองแม่ และแม่ก็ชะงักนิ่งไปตอนที่ได้ยินสิ่งที่ชยาบอก
การโดนดูถูกจากคนในครอบครัวสามีเป็นเรื่องปกติที่แม่ของชยาที่เป็นแม่ม่ายลูกติดโดนอยู่ตลอด เรื่องนินทาว่าร้ายฟังจนชินชา และแม่ของชยาตอบโต้และเอาคืนด้วยการทำให้ทั้งตัวเองและลูกมีที่ยืนให้มากที่สุดในครอบครัวใหญ่ครอบครัวนี้
คนที่คอยให้กำลังใจมาตลอด ไม่เคยนึกรังเกียจก็คือพี่ประไพ พี่สาวของสามีที่ไม่ว่ามีเรื่องอะไรก็คอยช่วยเหลือให้คำปรึกษามาตลอด
ทั้งที่คิดว่ามีแค่พี่ประไพเท่านั้นที่เข้าใจและไม่เคยรังเกียจชยาที่เป็นลูกติดมา
แม่กอดชยาเอาไว้แน่นขึ้นและซบหน้าลงที่กลางกระหม่อมของลูกชายตัวน้อย จูบเบา ๆ ที่เส้นผมของลูก และพูดสิ่งที่ทำให้ชยาจดจำมาได้จนถึงทุกวันนี้
“น้องยามีแค่แม่คนเดียวก็พอแล้ว แม่รักน้องยามากที่สุดนะครับ กับคนอื่น ๆ ถ้าเขาไม่นับเราเป็นญาติ เราก็ไม่ต้องไปนับเขาเป็นญาติเหมือนกัน น้องยาเข้าใจที่แม่พูดใช่มั้ย”
ชยาพยักหน้ารับและแม่ก็กอดชยาแน่นขึ้น
“ใครที่มันว่าชยา ใครที่มันดูถูกแม่ ดูถูกชยา ให้ชยาถือว่าคนพวกนั้นไม่มีตัวตนไม่ต้องมองไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น”
ชยาเงยหน้าขึ้นมองหน้าแม่ และแม่ก็แตะฝ่ามือประคองที่แก้มของชยาเบา ๆ
“ชยาจำเอาไว้ให้ดี แม่จะทำให้ไม่มีใครกล้ามาดูถูกชยาของแม่ได้อีกเลย”
+++
มีบางครั้งที่ชยาก็นึกอยากรู้ ว่าตอนนั้นที่เราได้เล่นด้วยกัน พี่เต้ยเคยนึกอยากเล่นกับชยาจริง ๆ มั้ย พี่เต้ยเคยรู้สึกสักครั้งมั้ยว่าพวกเราเป็นพี่น้องกันจริง ๆ
แต่มันก็เท่านั้น
เรื่องทุกอย่างมันผ่านมานานเกินไป และตอนนี้เราก็เป็นแค่คนที่ไม่ควรอยู่ร่วมโลกเดียวกัน
สิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตชยาจำได้ไม่เคยลืม ทั้งเรื่องดีเรื่องร้าย เรื่องที่ทำให้ชีวิตพลิกผัน เรื่องที่ทำให้ตกต่ำย่ำแย่ ไม่ว่าเรื่องไหนชยาก็ค่อย ๆ ก้าวข้ามผ่านมันมาได้ แม้จะผ่านมาอย่างยากลำบาก แม้จะผ่านมันมาได้ไม่ค่อยดีนัก แต่ชยาก็ได้ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาแล้ว
สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ไม่ใช่คิดถึงเรื่องอดีตแต่คือการมองไปข้างหน้า และไม่ว่าจะต้องโดนดูถูกเหยียดหยามจากใครอีกกี่ครั้ง ชยาก็ต้องผ่านมันไปให้ได้
ค่อย ๆ ก้าวข้ามผ่านมันไป...
ชยาวางมือจากใบส่งของที่อยู่เต็มตะกร้าและพักสายตาด้วยการถอดแว่นออกวางไว้บนโต๊ะคอมพิวเตอร์
วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสดี และชยาก็มองไปที่ลานรับสินค้าเมื่อเห็นว่าใครบางคนกำลังก้าวขายาว ๆ เดินมาที่ชยาและมาทรุดกายลงนั่งข้าง ๆ ชยา หยิบกระดานเช็กสินค้าที่วางอยู่มาพัดและหยิบถุงมะม่วงสุกที่วางอยู่บนโต๊ะมาเปิดดูและวางกลับคืนไว้บนโต๊ะ
“อันนี้แบ่งกันครบหมดทุกคนแล้ว นี่ของผมกับคุณ”
ชยาพยักหน้ารับและเบลก็ลอบมองหน้าของชยาและอมยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก
“วันนี้ไปมิตติ้งมั้ย”
โดนถามด้วยคำถามแบบวันก่อนและชยาก็เบะหน้าและรีบตอบทันที
“ไม่”
“อืมมมมม งั้นไปกินข้าวมั้ย ร้านนั้นก็ได้ที่เคยไป พอดีมีงบแผนกมา”
“ไม่”
ชยารีบตอบออกไปทันที เพราะทั้งสองครั้งที่ไปกับเบล ก็โดนหลอกไปทุกครั้ง และชยาไม่มีทางยอมโดนหลอกอีกเป็นครั้งที่สามแน่
“อะไรวะ แค่นี้ทำเป็นหยิ่ง ทำไมไม่ไปล่ะ ใคร ๆ เขาก็ไปกัน”
ใครจะไปก็ช่างเถอะ ชยาถามพี่นิดมาแล้ว ถ้ามีมิตติ้งจริง พี่นิดจะเป็นคนชวนชยาเอง และชยารู้แล้วไม่มีมิตติ้งอย่างที่เบลว่ามา
“ไม่ไปก็คือไม่ไป อยากไปเดี๋ยวไปเอง”
ปฏิเสธไปแบบตรง ๆ และเบลก็เริ่มทำหน้ายุ่ง เพราะไม่พอใจกับคำตอบของชยา
“งั้นปอกมะม่วงให้กินหน่อย”
ไม่ใช่เรื่องที่ชยาต้องทำ และชยาก็หยิบถุงมะม่วงที่มีมีดสำหรับปอกส่งให้เบล
“ปอกให้หน่อยก็ไม่ได้”
ได้ยินที่เบลบ่นพึมพำแล้วชยาก็ไม่อยากสนใจอีก หยิบแว่นสายตาขึ้นมาเช็ดและเบลที่กำลังปอกมะม่วงอยู่ก็ร้องออกมาตอนที่กำลังปอกมะม่วง
“โอ้ย มีดบาด”
เพราะไม่ระวังถึงโดนมีดบาด และเบลก็สะบัดนิ้วไปมาด้วยความเจ็บและชยาก็รีบเปิดลิ้นชักโต๊ะหยิบกระดาษทิชชู่มาส่งให้เบลใช้ซับเลือดที่ปลายนิ้ว
“เฮ่อ จะกินยังลำบาก แถมมีดยังบาดนิ้วอีก”
เบลมองที่ปลายนิ้วของตัวเองและขมวดคิ้วมุ่น และชยาก็หยิบพลาสเตอร์ยาที่มีอยู่ในลิ้นชักออกมาและดึงมือของเบลมาดูแผลที่โดนมีดบาดที่ปลายนิ้ว
มองและฉีกซองพลาสเตอร์ยาออก ค่อย ๆ แปะพลาสเตอร์ยาให้ที่ปลายนิ้วของเบลที่มองหน้าชยานิ่ง ๆ
มองและนึกอยากแตะต้องที่ผิวแก้มขาว ๆ ที่ได้เห็น
ยังจำได้ดีตอนที่ได้กอดชยาในห้องเย็น ร่างกายที่เคยได้สัมผัสแตะต้องทุกอย่างยังจำได้ไม่ลืม
“ระวังกว่านี้หน่อยสิ”
ชยาบ่นใส่คนที่กำลังมองหน้าชยานิ่ง ๆ และเบลก็พูดบางอย่างให้ชยาได้ยิน
“ไม่ไปมิตติ้ง ไม่ไปกินเลี้ยงแผนก งั้นไปดูหนังกันมั้ย”
ชยาเงยหน้าขึ้นมองหน้าของเบลที่พูดจาไม่รู้เรื่องแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่น
“ไม่”
ตอบออกไปทันทีโดยไม่ต้องคิดและเบลก็ตอบกลับมา
“โอเค ตกลงตามนั้น”
ชยาไม่รู้ว่าเบลเป็นอะไร อยู่ดี ๆ ก็ชวนไปดูหนัง ไม่รู้จะหลอกไปทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ อีกหรือเปล่า ชยาไม่ได้สนใจคนที่ลุกขึ้นเดินหนีไปที่ลานรับสินค้าอีกเลยจนกระทั่งเลิกงานเบลก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับตั๋วหนังสองใบและวางเอาไว้บนโต๊ะทำงานของชยา
“เลิกงานแล้วไปกันเลยนะ”
หมายความว่ายังไง
ชยาไม่เข้าใจว่าเบลหมายความว่ายังไง หยิบตั๋วหนังที่เบลวางไว้ให้มาดูและถามออกไปด้วยความสงสัย
“ไปไหน”
“ก็ไปดูหนังกันไง”
ไม่ได้บอกว่าจะไป ปฏิเสธไปแล้วอย่างชัดเจน แล้วทำไมถึงได้มีตั๋วหนังสองใบ
“ใครจะไป”
“ก็คุณหนูไง”
ชยามั่นใจว่าไม่ได้ตอบว่าไปแน่ ๆ และเบลก็ลงมานั่งข้าง ๆ ชยาและขมวดคิ้วมุ่นแสดงท่าทางให้รู้ว่ากำลังไม่พอใจ
“ผมถามแล้ว คุณก็ตอบเองว่าไป”
ชยามั่นใจว่าไม่ได้ตอบว่าไป และกำลังจะอธิบายให้เบลเข้าใจแต่เบลก็ยังพูดต่อไม่ยอมหยุด
“คุณบอกเองว่าไป ผมได้ยินชัดเจน ไม่งั้นผมจะบอกว่าโอเคแล้วก็รีบไปทำงานให้เสร็จเพื่อจะได้ไปดูหนังทำไม คราวหลังถ้าไปไม่ได้ก็บอกให้ชัดเจนสิ ไม่ใช่ทำเป็นอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ บอกว่าไปแล้วก็มาปฏิเสธกันทีหลัง เนี่ย ผมได้ตั๋วฟรีมาสองใบ แล้วมันก็จะหมดเขตวันนี้แล้วด้วย จะให้ผมทำยังไง”
กลายเป็นชยาที่สร้างปัญหาให้เบลไปแล้ว และชยาก็ขมวดคิ้วมุ่นและถามเบลที่ยังพูดไม่หยุด
“คนอื่นก็มี น้องเอื้อยหรือเซียง หรือใคร ๆ ก็มี ทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะ”
พยายามจะปฏิเสธและเบลก็ถอนหายใจยาวและมองหน้าของชยานิ่ง ๆ
“แล้วเห็นมั้ยว่าคนอื่นเขากลับบ้านกันหมดแล้ว ถ้ารู้ว่าคุณไม่ไปผมก็ให้คนอื่นไปแล้วสิ จะกั๊กตั๋วเอาไว้ทำไม คุณบอกผมเองว่าไป แล้วอยู่ดี ๆ ก็มาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบอกว่า ไม่ไป แถมยังจะให้ผมเอาตั๋วไปให้คนอื่นอีก ตกลงเป็นความผิดของผมใช่มั้ย”
ชยาไม่รู้จะเถียงกับอีกฝ่ายยังไง และชยาก็หยิบตั๋วหนังขึ้นมาดูและถอนหายใจยาว ถึงขนาดนี้ถ้าไม่ไปก็คงไม่ได้แล้ว
“โอเค ไปก็ไป แต่ผมต้องรีบกลับนะ พี่แหววลากลับบ้านไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่”
แค่ชยาบอกว่าจะไป เบลก็ยิ้มกว้างแล้ว และชยาก็มองหน้าของเบลด้วยความสงสัยว่าทำไมเบลต้องยิ้มขนาดนี้ด้วย และเบลก็รีบหุบยิ้มพยายามทำหน้านิ่งเฉยและลุกขึ้นยืนทันที
“ผมไปรอที่รถนะ ปิดคอมแล้วตามไปเร็ว ๆ ด้วยล่ะ”
ชยาพยักหน้ารับและเก็บเอกสารในตะกร้าให้เรียบร้อย ปิดคอมพิวเตอร์และเดินตามเบลไปที่รถมอร์เตอร์ไซค์ของเบลที่จอดอยู่และชยาก็ยังคงสงสัยสิ่งที่ตัวเองตอบเบลไปตอนบ่าย
มั่นใจว่าตอบว่า “ไม่” แล้วทำไมเบลถึงฟังว่า “ไป”
จนถึงตอนนี้ชยาก็ยังมั่นใจว่าตอบปฏิเสธไปแล้วแน่ ๆ แล้วทำไมเบลถึงได้ฟังเป็นแบบนั้นไปได้ ชยาไม่เข้าใจ
TBC