... สิ บ ส อ ง เ ศ ร้ า ... l (I) บัลลังก์ปักษา l up : 19/08/17 [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ... สิ บ ส อ ง เ ศ ร้ า ... l (I) บัลลังก์ปักษา l up : 19/08/17 [END]  (อ่าน 487474 ครั้ง)

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
อ้าวชะนีทำไมแรด :katai1: :angry2:

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ทนาย ถ่ายคลิปไว้ให้อาสาดูเป็นหลักฐานของชะนีกอเตยเลย อย่าให้นางลอยนวล นางฟ้ายังต้องเป็นนางฟ้าของหนุ่มๆต่อปายยย  กลับมายังทางของหนูเถอะลูก อาสา... :hao6:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
นังชะนีนี้มันร้ายยิ่งนัก :beat:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ต้องมีแผนการณ์อะไรแน่ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
นกกับชะนีก็ถูกแล้วหนิ

ออฟไลน์ PiiNaffe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ทหายจีบอาสาเลยเอาให้นังกอเตยมันเจ็บใจเล่นน!

ออฟไลน์ skysky

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
 :impress2: :impress2: :impress2:
ชอบเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆ มันดีต่อใจเรา
เรามีความสุขที่ได้อ่านเรื่องนี้
ขอบคุณนะคะ รอคอยเรื่องนี้ทุกวันเลยล่ะ

ทนายอยู่กับอาสา แน่นอนอ่ะเนอะว่าต้องเจอดาเมรุนแรงแบบไม่ตั้งใจ 555
ทนายจะได้เอทุกตัวไหม รอดูต่อไป
กอเตย เธอ!!! มาทำแบบนี้กับอาสาได้ยังไง
#เลือดหอสามต้องมา 555
รออ่านตอนต่อไปน้า ^^

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ต้องปกป้องอาสา!!

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
กำลังคิดว่าชะนีมีแผน


หลอกอาสา มาให้ใครหรือเปล่า

นี่ทีมห้อง 204 นะ จะปกป้องอาสาเอง

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ติดใจเรื่องนี้   อร๊ายยยยย

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เตยมีแผนร้ายแน่ ๆ  เป็นห่วงอาสา  รอตอนต่อไปค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
นี่กอเตยหรือกอตมคะลูก
ทำไมผีแบบนี้ กลับมาคุยกับอาสานี่มีแผนอะไรไม่ดีรึป่าว ชักไม่วางใจ

ทนายคีปโกอิ้งลูกกกกกก

ปล.ทำไมรู้สึกอยากให้สงครามคู่พี่อ้าย เรือเจ้จะได้เป็นเพียงเรือผีหรือไม่น้าาาาาาา

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12

บัลลังก์ปักษา


ตอนที่ 4



   สองสามวันถัดมาผมใช้ชีวิตอยู่บนความกระอักกระอ่วน

   บางอย่างที่เป็นไปได้สวยก็สวยงามจริงๆ จนไม่มีอะไรมาขัด เช่น ความสัมพันธ์ของผมกับผู้คนรอบข้างดีขึ้นทุกวัน ทั้งเพื่อนร่วมห้อง เพื่อนร่วมคณะ และก็ชาวหอสาม ผมเริ่มรู้จักคนนั้นคนนี้ไปทั่ว (ถึงแม้จะรู้จักกันดีแค่ในหอสามก็เถอะ) มีแก๊งเล่นบาสเก็ตบอลตอนเย็นและก็แก๊งเข้าฟิตเนส เรียกได้ว่าผมสามารถปรับตัวให้เข้ากับหอสามที่มีแต่มนุษย์ที่หน้าตาดีได้แล้วครับ พวกนี้แม่งหล่อ แต่ก็มีความกวนประสาทคล้ายกับผมดี ผมจึงเข้ากันได้กับทุกคน

   ส่วนบางอย่างแม่งไม่ได้ดีขึ้นเลยครับ มีแต่จะทิ้งดิ่งลง และคงจะแย่อย่างนั้นต่อไป สิ่งนั้นก็คือความลับของห้อง 204 ที่ผมเป็นผู้กุมเอาไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกของเตกับไมล์ และก็เรื่องที่กิ๊กไอ้อาสาดันเป็นกิ๊กของคนจากหอสี่อีกทีหนึ่ง บอกตามตรงว่าทั้งหมดมันไม่ใช่เรื่องของผมครับ ผมไม่ได้อยากยุ่งเลย แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเป็นสิ่งที่มีผลโดยตรงต่อชีวิตเพื่อนร่วมห้องของผม

   ผมไม่รู้จะบอกพวกแม่งยังไง ไม่รู้ว่าควรเริ่มตรงไหน ยิ่งได้เห็นไอ้อาสาออกไปเดตกับกอเตยบ่อยสลับกับเห็นสายตาเศร้าๆ ของไอ้เตกับไอ้ไมล์ ผมยิ่งรู้สึกอัดอั้นจนตัวแทบระเบิด

   โชคชะตาแม่งเล่นตลกกับกูป่ะวะ ท่านส่งผมมาอยู่หอนี้และก็ห้อง 204 นี้ แต่ทำไมท่านไม่ส่งคู่มือการวางตัวสำหรับการอยู่ที่นี่ให้ผมล่ะ

   ทำไมวะ ทำไม...

   วันนี้เป็นวันหยุดวันแรกของสัปดาห์แรก ผมเพิ่งกลับมาจากรับรถยนต์ที่แม่ส่งมาให้มองดูคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง 204 ด้วยสายตางุนงง คนๆ นั้นก็คือพี่อ้าย พี่มันกำลังจะเคาะประตูพอดี

   “มึงมาก็ดีแล้ว” เมื่อเห็นผม พี่อ้ายก็หันมาหาพร้อมยัดกระดาษ 7-8 แผ่นใส่มือผม

   “อะไรครับ”

   “โหวตเดือนหอกับดาวหอ”

   ผมมองพี่อ้ายพร้อมด้วยใบหน้าตึงๆ “มันมีอะไรพรรค์นี้ด้วยเหรอพี่”

   “มีดิ กูจำได้ว่ากูเคยพูดกับมึงไปแล้วนะ”

   ผมจำไม่ได้แฮะ ผมรับกระดาษมา มองดูกระดาษสีฟ้าและสีชมพูที่อยู่ในมือผมอย่างละสี่แผ่น

   “หมดเขตโหวตคืนนี้ตอนสี่ทุ่ม ห้องอื่นเขาโหวตกันหมดแล้ว เหลือแต่ห้องมึงอ่ะ แม่งไม่เคยอยู่กันสักที กูมาหาทีไรก็ไม่เคยเจอ”

   “ผมอยู่ตลอด”

   “กูเห็นมึงออกไปเล่นบาสบ่อย อย่ามาพูด” พี่อ้ายจ้องมองมาที่ผม “แล้วคนอื่นๆ ล่ะ ทำไมช่วงนี้แม่งไม่ยอมจับกลุ่มกันเป็นก้อนเหมือนเดิม แตกกระจายกันไปคนละทิศคนละทางอย่างกับผู้หญิงงอนกัน”

   พี่อ้ายสังเกตเห็นด้วยเหรอวะ ไอ้เตกับไอ้ไมล์มันชอบชวนกันไปแดกเหล้าย้อมใจครับ ส่วนไอ้อาสาแม่งก็ตัวติดกับกอเตย ผมอยู่แต่กับพวกหอสามที่ชอบเล่นกีฬา เพราะงั้นห้อง 204 ก็เลยไม่ได้จับกลุ่มกันเหมือนแต่ก่อน

   “แหะ ตามประสาคนหน้าตาดีมั้งพี่ ไปเที่ยวงี้ มีกิ๊กงี้” ผมตอบเลี่ยงๆ

   “เฮ้อ พวกบ้า” พี่อ้ายดูปลงๆ คงจะเคยชินกับเรื่องอะไรแบบนี้ของคนในหอ “รีบโหวตนะ กูรอ 8 คะแนนสุดท้ายอยู่”

   พี่อ้ายเดินจากไป ทิ้งให้ผมยืนงงว่าเรื่องเดือนหอดาวหอจะสำคัญอะไรขนาดนั้น

   โชคดีที่วันนี้มีคนอยู่ในห้องเพื่อให้คำตอบผมพอดี คนๆ นั้นก็คือไอ้เต มีมันคนเดียวที่อยู่ในห้องเวลานี้ครับ ผมก็เลยยิงคำถามใส่มัน ดูมันกระตือรือร้นมากจนผมสงสัย

   “เชี่ย ลืมนึกไปเลยว่าต้องโหวต” ไอ้เตรับกระดาษมาแล้วรีบเขียนทันที “สำหรับเดือนหอ ขอโหวตให้ไอ้เหี้ยทนาย”

   มันเขียนคำว่า ‘ไอ้เหี้ยทนาย’ ตัวใหญ่มากลงบนกระดาษสีฟ้า จากนั้นก็พับครึ่ง

   “เฮ้ย โหวตให้กูเป็นเดือนเหรอ”

   “เออ ก็มึงหล่อที่สุด”

   “มีคนหล่อกว่ากูตั้งเยอะ”

   “มึงหล่อสุดๆ แล้ว”

   “พี่อ้ายงี้ ไอ้ไมล์งี้”

   “ความคิดกูคือมึงหล่อสุดไง”

   ผมไม่เถียงแม่งแล้ว ย้ำอยู่นั่นว่าผมหล่อ ผมลอบมองดูมันที่เริ่มเขียนชื่อดาวหอที่มันโหวตคะแนนให้

   ‘มีน’

   “ใครวะ”

   “สุดๆ ไปเลยคนนี้ พี่มีน วิศวะปีสี่มาสายเดียวกันกับไอ้อาสาเลย แต่หวานกว่าเยอะ”

   “สายเดียวกันกับอาสา?” มันเหมือนสายรถเมล์มั้ยวะ

   “ก็หน้าตาค่อนไปทางสวยมากกว่าหล่ออ่ะ”

   “นึกว่ามึงจะเขียนชื่ออาสาซะอีก”

   เตยักไหล่ จากนั้นก็พับครึ่งกระดาษสีชมพู “มึงโหวตเร็วๆ จะได้ไปส่งพร้อมกัน”

   “ต้องจริงจังอะไรขนาดนั้น” ผมยังไม่เห็นถึงความจำเป็นในการโหวตอะไรนี่เลยครับ

   “มันสนุกดี”

   ผมโหวตบ้าง โหวตให้คนที่ผมคิดว่าตรงใจผมที่สุด เดือนหอก็คือไอ้เชี่ยเต ถึงแม้ว่าในหอสามจะมีคนหน้าตาดีเดินไปเดินมาจนผมชินตา แต่เพื่อนร่วมห้องของผมคนนี้แม่งดูดีที่สุดในสายตาของผม

   ส่วนดาวหอ...ผมโหวตให้อาสา

   ก็สำหรับผมมันน่ารักที่สุดในหอนี้แล้วนี่หว่า    

   “ช่วงนี้เชี่ยไมล์แม่งแปลกๆ ไปว่ะ” หลังจากที่หย่อนกระดาษโหวตลงกล่องที่หน้าออฟฟิศประธานหอเสร็จ ไอ้เตก็โพล่งคำนี้กับผม “ปกติมันไม่ได้เป็นแบบนี้นะ”

   “มันแปลกยังไง” ผมไม่รู้จะใช้คำพูดไหนกับไอ้เตดี

   “ดูมันเฮิร์ต เศร้า และก็เก็บตัว ปกติมันชอบเถียงกูจะตาย แต่อยู่ดีๆ แม่งก็เงียบ กูด่าอะไรแม่งก็ไม่สวนกลับ”

   “มึงไม่รู้จริงๆ เหรอว่าเพราะอะไร” ผมถามลองเชิง ส่วนไอ้เตเลิกคิ้วสูง

   ไม่นานนักคำตอบของคำถามทุกอย่างก็มาถึง อาสาเดินเข้ามาในตึก ท่าทางเหมือนเพิ่งกลับมาจากเดต มันยิ้มแห้งๆ ให้ผมกับเต

   “พวกมึงแดกข้าวเย็นหรือยัง”

   ผมกับเตส่ายหน้า อาสาก็เลยพยักเพยิดชวนไปยังโรงอาหารหอสาม ผมกับเตเดินตามหลังมันไป พลางคิดสงสัยในใจว่าเชี่ยอาสามันทำหน้าเซ็งเพราะอะไร

   ถ้าให้ผมเดานะ คงหนีไม่พ้นเรื่องของกอเตยชัวร์ๆ

   โว้ยยยยย พอนึกถึงผู้หญิงคนนี้แล้วผมทำหน้าหงุดหงิดขึ้นมาซะเฉยๆ

   “มึงไปไหนมาวะ” หลังจากทุกคนได้ข้าวกันหมดแล้ว เตก็เอ่ยถามคนที่มันแอบชอบ

   “ไปห้างมากับเตย”

   “ทำไมมึงดูไม่มีความสุขเลย”

   “ไม่รู้ว่ะ ถามไอ้ทนายดูสิ”

   อ้าว เรื่องของมึงแท้ๆ โยนมาให้กูทำไม ไอ้เตหันมามองหน้าผม ผมจึงต้องตอบคำถามแบบขอไปที

   “มันกลัวมันอกหักเพราะมันไม่อยากอกหักอีกแล้ว กอเตยอะไรนี่มีอะไรบางอย่างที่เชี่ยอาสาคิดว่าแม่งไม่ชัดเจน”

   “ใครจะไปอยากอกหักวะ” เตหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม “คนมีความรักแม่งก็ต้องเสี่ยงกันทุกคนทั้งนั้น”

   เช้ดดดด คำคมก็มาว่ะ แม่งคมสัดจนบาดแขนกูเลยเนี่ย

   ผมลอบมองดูไอ้เต ผู้ที่ให้คำปรึกษาเรื่องความรักกับคนที่มันมอบความรักให้ ภาพนี้แม่งเหมือนเดจาวูตอนที่ผมมองไอ้ไมล์เมื่อไม่กี่วันก่อน อาสาพูดเรื่องกอเตยที่โรงอาหารคณะบัญชี ไอ้ไมล์ก็ให้คำแนะนำเหมือนที่ไอ้เตกำลังทำเด๊ะๆ

   พวกแม่งเหมือนกันทั้งคู่ ให้ความสำคัญกับคำว่ามิตรภาพมากกว่าความรัก

   กูขอซูฮก

   “เฮ้อออออ” อาสาคอตก “กูไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจอะไรกับเขาเลยสักอย่าง”

   “เกิดอะไรขึ้น” เตถามต่อ

   “ตลอดเวลาที่อยู่กับกู เขาเอาแต่เล่นโทรศัพท์”

   “เอ่อ...”

   “เขายิ้มและหัวเราะเวลาพิมพ์ มีความสุขกับตอนที่คุยกับกูเยอะ”

   ผมถึงกับอึ้งไปเลย

   “ถ้าเขามีความสุขกับคนอื่นมากกว่ากู เขาจะเก็บกูไว้ทำไมวะ”

   “มึงยอมให้เขาทำแบบนั้นเองหรือเปล่า” เสียงของผมชักแข็งมากขึ้น อาสาถึงกับสะอึกกับคำพูดผม

   “กูไม่...”

   “กูว่ามึงยอมว่ะ มึงไปกับเขามากี่ครั้งกี่หนแล้ว ทุกครั้งที่มึงกลับมา กูไม่เห็นว่ามึงจะแฮปปี้มีความสุข มึงเอาแต่ทำหน้าเครียด จะนอนก็นอนไม่ค่อยหลับ”

   ไอ้เตมองผมอย่างตื่นตกใจ คงไม่คิดว่าผมจะสังเกตอาสามันขนาดนี้ แน่นอนผมต้องสังเกตสิ ก็มันนอนอยู่ชั้นล่างของเตียงผมนี่

   “คนที่มึงให้ความรักควรเป็นคนที่ทำให้มึงแฮปปี้ดิ ไม่ใช่คนที่ทำให้มึงต้องคิดมากขนาดนี้ มึงคิดดูดีๆ นะ” ผมลุกขึ้นพร้อมกับจานอาหาร ไอ้เตกับอาสาดูงงมากๆ ที่อยู่ดีๆ ผมก็ไม่สบอารมณ์ นี่ถือว่าผมเก็บอาการได้มากที่สุดแล้วนะ ปกติผมโวยวายจะตายห่า

   “ทนาย มึงเป็นอะไร” อาสาลุกขึ้นมาพร้อมกับวิ่งตามผม “ทำไมต้องโกรธ”

   “กูแค่...” ผมหันมาสบตานัยน์ตากลมๆ ของอีกฝ่าย ผมเห็นแค่นั้นผมก็ไม่อยากที่จะทำร้ายมันแล้ว เพราะงั้นผมจึงได้แต่กล้ำกลืนความจริงเกี่ยวกับกอเตยกลับลงไปในคอ ไม่ยอมพูดมันออกมา   

   ควบคุมอารมณ์ไว้สัดทนาย ควบคุมมันไว้

   “แค่อะไร กูรอฟังอยู่” อาสากอดอก “กูรู้สึกจริงๆ นะว่ามึงไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ของกู”

   “ไม่ได้ไม่ชอบ” กูแค่ไม่เห็นด้วยโว้ย

   “ถ้าเพื่อนไม่ชอบ กูคิดใหม่เรื่องเขาก็ได้”

   “กูไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น”

   “สำคัญดิวะ ถึงตอนแรกกูจะไม่ค่อยชอบมึง แต่ตอนนี้มึงก็เป็นเพื่อนกูไปแล้ว”

   ผมมองอาสาอย่างช่ั่งใจ สลับกับมองไอ้เตที่กำลังมองมา รู้สึกงงไปหมดว่าควรทำยังไงต่อไป

   โว้ยยย นี่กูมาที่นี่เพื่อมาเรียนจริงๆ นะ ทำไมกูต้องมาอึดอัดใจกับเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยวะ

   “มีอะไรก็พูดมาเหอะ”

   “ขอเวลากูสักชั่วโมง” ผมสรุปในที่สุด

   “หา”

   “กูขอเวลาเรียบเรียงคำพูดในหัว”

   “มึงจะไปกล่าวสุนทรพจน์ที่ไหนหรือไง มึงก็แค่คุยกับกูป่ะวะ”

   “เชื่อเถอะ” ผมแตะไหล่อาสาเบาๆ “เรื่องของมึงยังไงก็ต้องใช้เวลาคิดคำพูดว่ะ”

   “อะไรของมึง”

   “อ้อ มึงอย่าลืมโหวตดาวเดือนหอด้วยนะ” ผมจงใจเปลี่ยนเรื่อง เดินหนีไอ้อาสาให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกแปลกใหม่กำลังสิ่งที่ผมกำลังเจอ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มาพูดถึงผู้หญิงในแง่ร้าย ไม่เคยเลยครับ แต่เพื่อความสุขของเพื่อนในอนาคต ผมจำเป็นต้องจำใจทำ ปล่อยให้แม่งเจ็บไปเลยทีเดียวจะได้ไม่ต้องเจ็บซ้ำๆ นานๆ

   หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ผม อาสา และก็เตกำลังนั่งประจันหน้ากันในห้อง 204 คนที่เครียดที่สุดก็คือผม ผมหยุดสั่นขาไม่ได้จนไอ้เตต้องเตะหน้าแข้งให้ผมหยุดสั่นขา

   “เอาล่ะ มีอะไรพูดมา กูรู้ว่ามึงมีอะไรในใจ” อาสามองผมด้วยสายตาอยากรู้

   “คือว่า...”

   เสียงโทรศัพท์ไอ้เตดังขัดคำพูดผมซะก่อน ไอ้เตบอกให้ผมอย่าเพิ่งพูดก่อนที่มันจะกดรับสาย

   “ฮัลโหล” มันนิ่งไปสักพักก่อนจะทำหน้าตื่นตกใจ “เฮ้ยยย จริงดิ มันอยู่ไหน อืม อืม โอเค เดี๋ยวกูออกไปรับ” เตกดวางสายแล้วหันมาคุยกับผมและอาสา “เพื่อนคณะกูที่อยู่หอสองโทรมา เชี่ยไมล์แม่งเมาอย่างหมา ตอนนี้อยู่ในร้านที่เป็นถิ่นของหอสองว่ะ”

   ผมที่อยู่ที่นี่มาเกือบอาทิตย์ รู้ดีว่าสถานการณ์ที่ไมล์กำลังเผชิญอยู่แม่งอันตรายขนาดไหน ดีไม่ดีอาจจะอันตรายถึงชีวิตของมัน

   ไอ้สาดดดดดด มึงไปเมาร้านที่เป็นถิ่นของหออื่นไม่ได้เหรอ หอหนึ่ง หอห้า หอหก หอเหี้ยอะไรก็ได้ทำไมต้องเป็นหอสอง!
 
   “เชี่ยแม่งเมาแล้วชอบปากเสียด้วย”

   ผมกับอาสาตื่นตัวทันที “ไปรถกู” ผมพูด ลุกขึ้นไปหยิบกุญแจรถ

   “ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูไปแบกมันกลับคนเดียว” เตบอก

   “สัด ถิ่นหอสองนะเว้ย” ผมพูดอย่างหนักแน่น “อาสามึงไม่ต้องไป”

   “อ้าว ได้ไง”

   “เดี๋ยวพวกแม่งลากมึงไปปล้ำ”

   “แต่กูไปกับพวกมึงนะ” อาสาทำหน้าไม่เข้าใจ

   “โอ้ย กูกับไอ้เชี่ยเตน่ากลัวจะตายห่าเลยมั้ง” ผมประชดประชัน ถึงผมกับเตจะตัวใหญ่ก็จริง แต่คงสู้อะไรพวกหอสองไม่ได้ ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างลูกผู้ชาย

   แต่ถ้าจะให้สู้ ก็จะสู้ครับ

   “สาด เพื่อนเมาจะให้กูไม่ไปช่วยอะไรเลยงั้นเหรอ”

   “นี่กูกำลังห่วงสวัสดิภาพมึงนะ”

   “มึงห่วงเกินไป มึงเว่อร์มากสาด”

   “ไอ้...”

   “พอ เลิกเถียงกัน” เตห้ามศึกระหว่างผมกับอาสา “ไปกันให้หมดนี่แหละ รีบไป”

   ผมจิ๊ปากใส่อาสา มันทำหน้าบึ้งใส่ผม เราสองคนกลับมาไม่ชอบขี้หน้ากันอีกรอบ ผมเทเรื่องมันทิ้งไปก่อน ตอนนี้ผมควรโฟกัสกับการไปหิ้วคนเมาอย่างไอ้ไมล์ให้กลับมาที่หอสามอย่างปลอดภัย




[ มีต่อนะคะ ]


   




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12




   ร้านเหม่อมองฟ้า

   ชื่อร้านนี่แม่งก็นะ...ผมส่ายหน้าใส่ป้ายของร้านก่อนจะเดินเข้าไป ในร้านมีแต่พวกหอสองครับ ฟังจากเสียงและก็ดูขนาดตัวก็รู้ เชี่ยไมล์เลือกมาดื่มร้านนี้ทำไม แม่งอยากจะฆ่าตัวตายป่ะวะ

   “แม่งๆๆ” เตสบถซ้ำไปมา “อยู่ไหนวะ”

   ผมสังเกตว่ากลุ่มผมกำลังถูกทุกสายตามองมา และคนที่ถูกมองมากที่สุดก็คืออาสา มันก้มหน้างุด เอามือสองมือปิดหน้า เหมือนไม่อยากให้ใครรู้ว่ามันมาที่นี่

   “เห็นมั้ย รู้ว่าลำบากก็ยังจะดื้อด้านมา” ผมตะโกนด่าแข่งกับเสียงเพลง

   “มึงหาไอ้ไมล์ให้เจอเถอะ”

   เอาไว้เถียงกับแม่งทีหลัง ผมมองซ้ายมองขวาจนคอแทบหัก พยายามหลีกเลี่ยงสายตาเอาเรื่องของพวกหอสองที่คงอยากจะใช้กำลังเต็มที่ ไอ้เตที่เดินไปมุมร้านโบกมือร้องเรียกผมกับอาสา ท่าทางมันจะหาตัวไอ้ไมล์เจอแล้ว เราสองคนจึงเดินไปหามันทันที

   ผมกับอาสาทักเพื่อนของเตที่เป็นคนโทรมาหา มันรีบเฟดตัวออกไปจากจุดที่มันอยู่ทันที อาจเป็นเพราะกลัวว่าคนทั้งร้านจะมองว่ามันแปรพักตร์ ผมบอกขอบใจมัน ก่อนจะเร่งรุดเข้าไปดูไอ้ไมล์

   สภาพไอ้ไมล์ตอนนี้เหมือนกระดาษทิชชูเปียกๆ ที่แตะนิดเดียวก็ขาด

   “แม่ง” อาสาเอ่ย “มึงไหวป่ะไมล์”

   ไร้ซึ่งการตอบรับใดๆ จากไอ้ขี้เมา ผมกับอาสามองหน้ากันแล้วถอนใจ

   “กลับกันเหอะ” ไอ้เตทำท่าจะแบกตัวเพื่อน แต่ไมล์แม่งดื้อ ไม่ตอบอะไรและก็ไม่ขยับ “ไอ้เหี้ย นี่มันร้านถิ่นหอสองนะเว้ย ถ้าอยากแดกต่อกูจะพามึงไปร้านพี่น้อย”

   อ้าว ซะงั้นน่ะ ไอ้เตมองหน้าผมเหมือนให้ผมเออออกับมันไปก่อน

   “กูจะอยู่นี่!” ไอ้ไมล์สะบัดมือของเต “ขอเหล้าอีก เหล้าเยอะๆ!”

   “ตายๆ” อาสาทำท่านวดขมับ “ตีสองแน่แบบนี้ ตีสองแน่ๆ”

   “มันเป็นคนได้แดกแล้วแดกไม่หยุดเหรอ” ผมกระซิบถาม

   “ใช่”

   “...”

   “ทำได้อย่างเดียวคือมอมให้แม่งนอนล้มพับไปเลย”

   “กูกับไอ้เตคงแบกมันไหวมั้ง” ผมลองเสนอทางเลือกดู

   “เชื่อเถอะ มันฤทธิ์เยอะ มึงพามันเดินไปได้ไม่เกินสามก้าวแน่นอน”

   ผมเชื่อเพื่อนก็ได้ครับ ยกมือสั่งเหล้ากับมิกซ์มาเพิ่ม ระหว่างที่สั่งผมเห็นสายตาหลายคู่ของหอสองมองมาด้วย นอกจากพวกมันจะมองว่าพวกหอสามอย่างผมกับเพื่อนมาเหยียบถึงถิ่นมันแล้ว พวกมันยังมองอาสาที่วันนี้น่าจะเป็นอาหารตาที่ดีที่สุดในร้านนี้อีกด้วย

   นางฟ้าแม่งเหมือนกำลังถูกแดกลงท้องคนอื่นๆ ผ่านสายตา ผ่านไวไฟ และผ่านบลูทูธอ่ะ

   “มึงเปลี่ยนที่นั่ง” ผมที่สังเกตอยู่นานพูดกับอาสา ที่ๆ มันนั่งอยู่ตรงนี้ยังไงคนทั้งร้านก็มองเห็น “สลับที่กัน มานั่งข้างสัดไมล์นี่”

   มันทำหน้าเอ๋อ ผมลุกขึ้นและก็ดันตัวมันให้เข้าไปใกล้ไอ้เหี้ยไมล์ คนเมาที่สุดหันมามองอาสาด้วยตาปรือๆ

   ฉิบหายละ ผมส่งตัวต้นเหตุที่ไอ้สัดไมล์เมาไปให้มันเฉย...นี่ผมคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ย

   “แดกเยอะไปแล้ว” อาสาพึมพำ มันไม่รู้อะไรเลยว่าเพื่อนแม่งเมาเพราะมัน คนเมามองอาสา สายตาเต็มไปด้วยอะไรที่หลากหลายจนผมเองก็อธิบายไม่ถูก

   “เฮ้ย พี่สงคราม!” จู่ๆ ไอ้ไมล์ก็ร้องลั่น ไอ้เตกับอาสาทำหน้าตื่นตระหนกที่สุดในชีวิต ส่วนผมสะดุ้ง เพราะเมื่อกี้ผมยังมองมันอยู่ครับ “พี่คิดว่าพี่เก่งที่สุดในมอเหรอ!” ไอ้เตตะครุบปากไอ้ไมล์เอาไว้ ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นมุมที่ไอ้เตมันกระวนกระวายขนาดนี้  ปกติมาดมันคูลๆ จะตายไป

   คนจากโต๊ะใกล้ๆ หันหน้ามามองโต๊ะเรากันหมดอย่างสโลว์โมชั่น

   ผมพอจะเดาออกแล้วว่าคนไหนคือพี่สงคราม ประธานหอสอง

   จินตนาการของผมก่อนที่ผมจะมาเจอก็คือต้องตัวใหญ่เหมือนหมีและก็หนวดดกเฟิ้ม แต่เปล่าเลยครับ พี่สงครามทั้งสูงและก็หุ่นพอดีตัวมาก ใบหน้าหล่อคมคาย ผิวขาวเหลือง และจุดเด่นก็คือที่แขนมีรอยสักโผล่พ้นเสื้อยืดสีขาวออกมา

   แม่งคือคนที่เป็นศูนย์รวมแห่งความเท่อย่างแท้จริง

   พี่สงครามไม่ต้องทำอะไรมากเลยครับ แค่มองมาอย่างนิ่งๆ ก็ทำคนอย่างผมขนลุกไปทั้งตัวแล้ว ปกติผมไม่กลัวคนจากหอสองนะ แต่สำหรับพี่คนนี้ผมยอมว่ะ แม่งจะน่ากลัวอะไรปานนั้น เหมือนมีรังสีอำมหิตแผ่รอบตัวตลอดเวลา

   “มึงเรียกกูเหรอ” พี่สงครามลุกขึ้น เดินมานั่งฝั่งตรงข้ามไอ้ไมล์ เพื่อนพี่มันพากันลุกตามมาหมด ทุกคนแสดงออกอย่างเต็มที่ว่าพร้อมมีเรื่องได้ทุกเมื่อ ภายในร้านเริ่มเงียบ เพลงเริ่มเบาลงอย่างที่ผมสังเกตได้ (ดีเจมึงก็รู้งานดีจริงๆ) “เมื่อกี้มึงพูดอะไรนะ กูไม่ได้ยิน”

   คนทั้งร้านเริ่มหันมามอง บางส่วนเริ่มลุกตามคนอื่นๆ และมายืนอยู่ข้างหลังพี่สงคราม ตอนนี้คนทั้งร้านหันมามองข่มขู่โต๊ะหอสามของพวกผมทั้งหมด

   กูเข้าใจแล้ววววว กูเข้าใจพวกมึงแล้วววววววว รู้แล้วว่าทำไมถึงไม่ควรหาเรื่องคนจากหอสอง กูรู้แล้ววววว

   “พี่ครับ คือเพื่อนผมมันเมา” ผมพูดกับพี่มันด้วยน้ำเสียงเรียบๆ พยายามแสดงออกอย่างสุดฤทธิ์ว่าไม่ได้หวาดกลัวอะไรขนาดนั้น
ถึงแม้ว่าจะกลัวอยู่บ้าง แต่ผมก็ไม่อยากให้เพื่อนใหม่มันมองว่าผมกระจอก อีกอย่างหนึ่งไอ้อาสาแม่งก็อยู่ด้วย ถ้าไม่มีใครกล้าไฟต์ ไอ้พวกนี้ต้องคิดวางแผนแบกอาสาไปที่ไหนสักที่แน่ๆ

   ก็ดูสายตาพวกแม่งสิ...หื่นกามน้อยซะที่ไหนกันล่ะ

   “เมาแต่ก็จำกูได้” ประธานหอสองนวดนิ้วมือไปมา “มึงข้องใจอะไร พูดกับกูมาตรงๆ”

   “เอ่อ...ผมขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยครับ” อาสายกมือไหว้ “ปล่อยผมกับเพื่อนไปเถอะ”

   โอ้โห นางฟ้าแสดงอิทธิฤทธิ์ เพื่อนพี่สงครามหลายคนมีสีหน้าที่ผ่อนคลายลง มีคนเข้ามากระซิบข้างหูพี่มันว่าปล่อยเด็กหอสามพวกนี้ไปเถอะ

   กูยอมใจเลย อาสาพูดแค่ไม่กี่ประโยคก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้เฉย คำว่านางฟ้าประจำหอชายล้วนมีอยู่จริงครับ   

   “กูไม่ปล่อย วันนี้กูหงุดหงิด” พี่สงครามตวาดเพื่อน

   อ้าววววววว แบบนี้คนซวยก็คือพวกกูงั้นสิ มันใช่มั้ยเล่า

   “คนที่ไม่เกี่ยวก็หลบไป กูจะขอเคลียร์กับคนที่พูดชื่อกูเมื่อตะกี้”

   “มันเมานะครับ อย่าไปถือสามันเลย” เตพูดบ้าง

   “กูก็เมา”

   โลกนี้แม่งต้องหมุนรอบตัวพี่สงครามป่ะวะ ผมมองดูไอ้ไมล์ที่ยังคงคอตกและก็เอียงโงนเงนไปมา ท่าทางของมันน่าสงสารมาก ตอนนี้มันเจ็บที่ใจและไม่แน่ว่าอาจจะเจ็บที่ร่างกายในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

   ผมไม่ยอมให้เป็นงั้นหรอกนะ

   “คนนี้หรือเปล่าที่พวกหอเราชอบมาก” พี่สงครามหรี่ตามองดูไอ้อาสา คนทั้งร้านส่งเสียงตอบรับอย่างเห็นด้วยด้วยน้ำเสียงถูกอกถูกใจพร้อมกับสายตาหยาบโลน อาสาเอามือข้างหนึ่งปิดหน้าตัวเองเอาไว้

   ผมรู้สึกสติขาดผึงแทบจะในทันที

   “ผมขอเคลียร์แทนเพื่อนเอง” ผมนั่งลงประจันหน้ากับพี่สงคราม “พี่บอกมา พี่จะเคลียร์ยังไง”

   เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบตัวผมกับพี่สงคราม ไอ้เตกับอาสาพยายามดึงตัวผมกลับไปสุดฤทธิ์ แต่ผมดื้อ ผมตัดสินใจไปแล้ว ผมต้องสานต่อให้จบดิ

   ถ้าโลกหมุนรอบตัวพี่สงคราม ผมก็อยากจะให้โลกหมุนรอบตัวผมบ้าง

   อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าโหดสัดรัสเซียที่สุดในมหา’ลัยแห่งนี้จะโหดแค่ไหน

   “มึงกล้ามากนะ” พี่สงครามยิ้มมุมปาก กระดกเหล้าลงคอด้วยท่าทางเท่ๆ

   “ถ้ามันชดเชยในสิ่งที่เพื่อนผมผิดได้ ผมยอมทำทุกอย่าง”

   “มึงชื่ออะไร”

   “ทนาย”

   “ทนาย?”

   “ครับ ทนาย”

   “คนบ้าอะไรชื่อทนาย”   

   “พี่อยากถามพ่อแม่ผมเรื่องนี้มั้ยครับ”

   “เชี่ยยยย” อาสาร้องลั่นเมื่อเห็นว่าคำพูดผมชวนเรียกให้เท้าอีกฝ่ายมาอยู่บนใบหน้าของผมขนาดไหน “สัดทนาย อย่า!”

   “มึงกวนตีนกูนี่” พี่สงครามหัวเราะ “เด็กนี่แม่งกล้าดี นานๆ ทีเจอคนกล้าต่อปากต่อคำกับกู”

   พี่มันไม่ได้โกรธอะไรแฮะ ในใจผมโล่งไปเปลาะหนึ่ง ตอนนี้ขาผมเริ่มจะสั่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะตื่นเต้น ไม่รู้ว่าพี่สงครามแม่งจะมาในอารมณ์ไหน จะลากคอผมไปซัดให้หน้าทิ่มเลยมั้ย หรือว่าอยากจะลากให้ผมไปเป็นศูนย์รวมบาทาของคนทั้งร้าน

   ดูจากอะไรหลายๆ อย่างแล้ว เพียงแค่พี่มันสั่งคำเดียว ใครหลายคนก็คงทำตามแบบไร้ข้อกังขา

   “ถอย” เสียงหนึ่งดังขึ้น มีคนแหวกทางให้ผู้มาใหม่ คนๆ นั้นก็คือพี่อ้าย ท่าทางบึ่งมาที่นี่คนเดียวอย่างรีบเร่ง ดูจากเม็ดเหงื่อที่เกาะพราวตามใบหน้าก็รู้แล้วครับ “สงคราม ปล่อยน้องกูไป”

   “โวะ เบื่อมึงสัดๆ” พี่สงครามดื่มเหล้าแก้วที่มีคนเพิ่งชงมาให้ “กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

   “เหรอ มึงแทบจะยกพวกรุมตีน้องกูอยู่แล้ว”

   “น้องมึงมาเหยียบถิ่นพวกกูก่อนนะ”

   “จะไปถือสาพวกแม่งทำไมวะ” พี่อ้ายเดือดปุดๆ “มึงควรเอาเวลาถือสาเด็กหอกูไปดูแลลูกหอมึงดีกว่า ทำไมลูกหอมึงถึงชอบปีนหอกูนัก กูอยากรู้”

   สิ้นเสียงพี่อ้าย ในร้านถึงกับเงียบไปเลยครับ (ดนตรีหยุดได้ถูกจังหวะอีกตามเคย) มีใครหลายคนที่ร้อนตัวเริ่มขยับออกห่างจากพี่สงคราม หลายคนก็เริ่มกลับไปสนใจการดื่มต่อด้วยการไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง

   พี่อ้ายแม่งก็มีอิทธิฤทธิ์เหมือนกันว่ะ

   “อะไรอีกล่ะ” พี่สงครามเริ่มโมโห พี่มันลุกขึ้นก่อนที่จะตะโกนลั่นร้าน “กูบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าไปปีนหออื่น โดยเฉพาะหอสาม!”

   แม่เจ้า ตอนนี้คนในร้านนัดกันคอตกหมด เป้าหมายของพี่สงครามเปลี่ยนจากผมไปเป็นลูกหอของตัวเอง

   “หลงของขาวกันนักเหรอ ดี คืนนี้ก็นอนแม่งอยู่ร้านนี่แหละ นอนที่นี่ให้หมด!”

   “ไม่นะพี่”
   “ไอ้สงคราม ไม่นะ”
   “พี่สงงงงงงงงงง”

   คำโอดครวญอันสุดท้ายนี่อย่างกับพากย์หนังจีน นี่ถ้าเป็นเสียงของพันธมิตรนี่ใช่เลยครับ

   “อย่าให้กูเห็นว่าใครกลับหอนะ” พี่สงครามเดินไปทั่ว เคาะหัวไปทีละคน ทุกคนยอมพี่มันหมดเลย

   พี่อ้ายเหลือบมองดูพี่สงคราม ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าตอนที่หันมามองพวกผม

   “ไอ้พวกรนหาที่เอ๊ย” พี่อ้ายกัดฟัน “ทนาย เมื่อกี้ไอ้สงครามอาจจับมึงยัดโถส้วมก็ได้”

   “ผมแค่ช่วยเพื่อน” ผมพูด “ถ้าผมไม่ช่วย ใครจะช่วยล่ะพี่ ไอ้พี่สงครามเหี้ยนั่นแม่งหาเรื่องได้แม้กระทั่งคนเมา”

   “หอสองมันก็งี้ แม่งโกรธคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผล ชอบหาเรื่องไปทั่วอยู่แล้ว” พี่อ้ายเรียกพนักงานร้านมาเก็บตังค์ “แบกศพเพื่อนมึงแล้วตามกูมา ส่วนอาสา มึงก้มหน้าไว้ อย่าไปสบตากับตัวผู้คนไหน กูไม่อยากมีปัญหาเพิ่ม”

   “ผมไม่ได้จะสบตา” อาสาพูดเสียงอ่อย

   “อย่ายั่วโมโหกู”

   พี่อ้ายเองก็โกรธนี่หว่า ผมทอดถอนใจ ก่อนจะทำตามคำสั่งประธานหอ ช่วยไอ้เตหิ้วปีกของไอ้ไมล์ด้วยท่าทางทุลักทุเล

   “เชี่ยอ้าย” ระหว่างที่กำลังเดินออกจากร้าน มีคนมาขวางทางพวกเราเอาไว้ คนนั้นก็คือพี่สงคราม ทุกคนชะงักกึกยกเว้นพี่อ้าย 

   “เหี้ยอะไรอีก ถอยไป” พี่อ้ายคนดีของหอสาม ไม่กลัวอะไรพี่สงครามเลยแม้แต่น้อย ติดจะรำคาญด้วยซ้ำไป

   “บอกเด็กหอมึงว่าอย่ามาร้านนี้อีก”

   ได้ ผมจะจำไว้อย่างขึ้นใจเลยครับ

   “และก็...ขอโทษ”

   คำว่าขอโทษที่ออกมาจากพี่สงครามทำเอาผมอ้าปากค้าง เป็นคนโหดที่ขอโทษได้เท่มากเลยสาด

   “ขอโทษอะไรวะ”

   “เรื่องที่กูคุมลูกหอกูไม่ได้” เป็นคำพูดที่เรียบไปหน่อยแต่ก็ดูจริงใจดี

   “ลูกหอกูอาจจะไปอ่อยลูกหอมึงเอง” พี่อ้ายตอบส่งๆ “ถอยไป อย่าขวางทาง”

   พี่อ้ายแม่งไม่ได้กลัวพี่สงครามเลยสักนิดนี่หว่า ผมมองอย่างทึ่งๆ จนกระทั่งพี่สงครามหันมามองผม “กูจับตามองมึงอยู่”

   เหี้ยยยยยย จับตาดูผมทำซากมะเขืออะไรครับพี่ ผมตื่นตระหนกอยู่ในใจ แต่ภายนอกผมแสดงออกว่าผมนิ่ง ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไรกับคำพูดนั้น

   “อยากสู้กับกูเมื่อไหร่ก็บอก”






   ห้อง 204 เวลา 22.12 น.

   “เหี้ยมาก” อาสามีสีหน้าเคร่งเครียด “แบบนี้มึงห้ามเดินไปไหนคนเดียวเลยนะ พี่สงครามอาจจะเข้ามาหามึงเมื่อไหร่ก็ได้”

   ผมพยายามปล่อยวางเรื่องนี้ สิ่งที่ผมสังเกตได้จากตัวพี่สงครามก็คือพี่มันแม่งโหดจริง ควบคุมคนอื่นได้จริง แต่ผมยังจำตอนที่พี่มันขอโทษพี่อ้ายได้ เซ้นส์ของผมบอกว่าพี่สงครามไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คนอื่นกลัว
   ...แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เกรงใจอยู่ดีนั่นแหละวะ

   “ไอ้พวกเหี้ย แบกกูกลับมาทำไม กูจะไปสู้กับพี่สงคราม!” ไมล์อาละวาดแบบนี้มาหลายนาทีแล้วตั้งแต่กลับมา มันนั่งอยู่กลางห้อง ดิ้นไปดิ้นมาเหมือนเด็กงอแงไม่ได้ของเล่น ทุกคนปล่อยให้มันดิ้นตามสบาย “กูสู้พี่สงครามได้!”

   “สู้ในโลกความฝันของมึงน่ะสิ” ไอ้เตส่ายหน้าใส่เพื่อนขี้เมา แล้วหันมามองผม “เชี่ยทนาย มึงกล้ามากเลยว่ะ”

   “มันยังไม่รู้ถึงความน่ากลัวของพี่สงครามไง” อาสาเอ่ย

   “กูรู้ แต่ต้องมีสักคนที่ลุกขึ้นสู้ป่ะวะ”

   เตกับอาสามองหน้ากันแล้วยิ้มแห้งๆ

   “ขนาดไอ้เตยังกลัว อาสาไม่ต้องพูดถึง” อาสาทำหน้าบึ้งใส่ผมหลังจากที่ผมพูด “ถ้าไม่ใช่กูแล้วจะเป็นใคร”

   “เอาเถอะ ต่อไปมึงต้องระวังตัวนะ อยู่ให้ห่างจากพวกหอสองเข้าไว้”

   “กูก็ไม่เคยอยากใกล้พวกมันอยู่แล้ว” ผมหยิบหนังสือขึ้นมาเปิด เผื่อจะลืมเรื่องราวที่น่าปวดหัวทั้งหมด

   “อาสา!” คนเมาเริ่มร้องตะโกนอีกรอบ เชี่ยไมล์ มึงจะตะโกนให้คนทั้งตึกได้ยินมึงใช่มั้ย ทำไมต้องเสียงดังขนาดนั้น

   “มีอะไร” อาสาตอบรับคนเมาขำๆ

   “ทำไมมึงต้องน่ารัก!”

   เหี้ยแล้วไง ผมกับเตมองหน้ากัน ก่อนจะรีบเข้าไปเขย่าตัวเรียกสติไอ้สัดไมล์แบบด่วนๆ

   “มึงน่ารักมาก มึงรู้ตัวป่ะ!”

   “ทำไมอยู่ดีๆ มันถึงชมกูล่ะ” อาสางงมาก

   “มึงนิสัยดี มึงเป็นคนดี!”

   “เชี่ยไมล์แม่งเริ่มพูดไม่รู้เรื่องแล้วว่ะ” ไอ้เตพยายามแก้ไขสถานการณ์ แต่อาสาหันมาสนใจไอ้ไมล์อย่างเต็มที่เป็นที่เรียบร้อย

   ผมตะครุบปากไอ้ไมล์ มันปัดมือของผมออก

   ไอ้สาดดดด นี่กูกำลังช่วยชีวิตมึงอยู่นะ

   “เพราะงี้ไงกูถึง...ชอบมึง!”

   ฉิบ หาย แล้ว

   ไม่ทันแล้วครับ ไม่ทันแล้วจริงๆ

   “กูชอบมึงมาก! กูไม่อยากให้มึงคบกับใครนอกจากกู!”

   ไม่ว่าผมจะปิดปากมันยังไงในตอนนี้ มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว

   “ผู้หญิงที่มึงชอบมีกิ๊กไปทั่ว กูไม่อยากให้มึงคบกับผู้หญิงแบบนั้น มึงมาคบกับกูเถอะ กูชอบมึงมานานมากแล้วจริงๆ!”

   อาสาเดินจากห้องไปแล้ว ผมกับไอ้เตทรุดตัวนั่งลงข้างๆ คนเมาอย่างหมดแรง

   “เอิ๊กกกกกกกกก” ไอ้ไมล์ทิ้งตัวลงนอนกลางห้อง

   หลังจากวินาทีนี้เป็นต้นไป บรรยากาศในห้อง 204 ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วอย่างตลอดกาล...







tbc*



มีตอนไหนที่ไม่วุ่นวายบ้างมั้ยเนี่ย 555

ออฟไลน์ aunszMT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
เอาแล้วไงทีนี้ ห้อง 204 จะเป็นยังไงต่อเนี้ยย

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
อ่านจบแบบรีบๆ เดี๋ยวเจ้มาใหม่นะ
ตอนนี้บอกได้เพียงว่า....

เรือเจ้ต้องไม่ใช่เรือผี #สงครามพี่อ้าย ต้องมา!!

ออฟไลน์ PiiNaffe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
นี่เป็นทนายคงประสาทแดก 555555555

ออฟไลน์ Sowa_apple

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หู้ยยย มันส์แน่งานนี้

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
สนุกดี  :mew1:
สงครามก็น่าสนใจนะ มีแวว มีแวว

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ตายหมู่คะงานนี้ 5555 :ling3: :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
อาสาทำเราหงุดหงิดอะ รู้ว่าตัวเองล่อผช.หอสองก็ระวังตัวเซ่ แบบ ทำไมอาสาใสซื่อเว่อๆ ขัดใจ  :katai1: เลิกหลงอิผญ.ชั่วๆได้แล้ว

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
งานงอกเพราะเหล้าแท้ๆ ถถถถถถ

ออฟไลน์ babaaa

  • tue10mar
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สงครามกับอ้าย นี่มีแวว :z1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด