หนึ่งวันของหมอคเชนทร์
"คุณหมอคะ คนไข้ BP drop ค่ะ!"
"คุณหมอคะ คนไข้ arrest ค่ะ!"
"คุณหมอคะ คนไข้ถูกยิงที่อกขวาเหนือ rib 4 ตอนนี้อยู่บนรถฉุกเฉินค่ะ!"
"เตรียมห้องผ่าตัดเลยครับ" คเชนทร์บอกพยาบาลสาวที่วิ่งไปมาเตียงนู้นเตียงนี้จนหัวหมุน รอจังหวะผลัดมือที่ใช้ปั๊มหัวใจคนไข้บนเตียงเพื่อส่งหน้าที่ต่อให้แพทย์ประจำบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วไปดูแลเคสล่าสุดที่น่าจะต้องการการดูแลของเขามากที่สุดในตอนนี้
เป็นอีกหนึ่งวันที่วุ่นวายในห้องฉุกเฉินในเวลาตีสาม คเชนทร์ไม่เคยเข้าใจเหล่าวัยรุ่นที่มักจะยิงกันในช่วงเวลานี้ของวัน ทำไมต้องตีสาม?ทำไมต้องเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของมนุษย์หมอรู้สึกอ่อนเพลียที่สุด? ทำไมถึงไม่ยิงกันช่วงบ่ายสองโมงที่อาหารกำลังย่อย คาเฟอีนกำลังทำงาน จิตใจเขายังเบิกบานแจ่มใส
หมอไม่เข้าใจ
ภาพฉายรังสีแสดงให้เห็นว่ากระสุนเจาะเข้าไปที่ปอด แต่ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างคนไข้ของเขาเพราะลูกกระสุนไม่ได้ฝังอยู่ในร่างกาย จากรายงานของหน่วยกู้ภัยคนไข้ถูกยิงที่จุดอื่นแต่ดูเหมือนจะเป็นแค่การยิงถากๆ คเชนทร์จึงมุ่งจุดสนใจไปยังแผลที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้
"ขอScaple" ร่างสูงในชุดผ่าตัดสีเขียวที่ฆ่าเชื้อตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเริ่มต้นกรีดที่ผิวเนื้อขาวด้านข้างลำตัวด้วยมีดผ่าตัดที่ถูกส่งมาให้
"Tube"ท่อระบายเลือดที่คั่งในปอดถูกสอดเข้าไปอย่างชำนาญ เคสนี้ดูยังไงก็ไม่น่าจะซับซ้อน คนไข้เป็นชายชาวต่างชาติอายุสามสิบปีที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวตามคำบอกเล่าของคนที่มาด้วย
แต่คนเป็นหมอ หากประมาทว่าเป็นงานง่าย เผลอทำตามความเคยชินแม้แต่นิด อาจหมายถึงหนึ่งชีวิตที่ต้องดับสูญ
ต่อให้เคสง่ายแค่ไหน คเชนทร์ก็ยังคงมีสมาธิกับงานตรงหน้าอย่างเต็มที่
"ผมจะออกไปแจ้งข่าวกับญาติ ย้ายคนไข้ไปเฝ้าดูอาการที่ไอซียูซักคืน ถ้าไม่มีอะไรก็ย้ายไปห้องพักปกติได้" ร่างสูงบอก
หัวหน้าพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วเดินออกไปยังประตูห้องผ่าตัด ที่เขารู้ดีว่าคนที่อยู่ปลายทางอีกฝั่งกำลังกระวนกระวายเพียงใดที่เห็นไฟดับลง
แต่ชายหนุ่มไม่รู้ว่าคนที่นั่งรออยู่จะเป็นชายชาวต่างชาติร่างยักษ์ห้าคนในชุดสูทสีดำสนิทหน้าตาเหมือนลูกน้องแก๊งมาเฟียในละครหลังข่าว คนเอเชียคนเดียวในนั้นที่ขนาดตัวไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าพลพรรครอบข้างลุกพรวดขึ้นมาทันทีที่เห็นเขา
"คุณหมอครับ อาการบอสเป็นยังไงบ้างครับ?!"
บอส?
ดูท่าคนไข้ของเขาจะไม่ใช่แค่ชาวต่างชาติมาพักร้อนธรรมดาสินะ
"คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ คืนนี้จะให้นอนดูอาการที่ไอซียู ห้ามคนเข้าเยี่ยม แล้วถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน หมอจะให้ย้ายไปห้องพักปกติ" อาจารย์หมอรายงานตามที่บอกพยาบาลไว้ คนตรงหน้าพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
"หมอเป็นคุณหมอเจ้าของไข้ใช่มั้ยครับ?"
"ครับ"
"ถ้าอย่างนั้นวันนี้คงต้องรบกวนให้คนของผมเฝ้าหน้าไอซียู คงไม่ว่ากันนะครับ"
ร่างสูงขมวดคิ้ว
"ขอโทษนะครับ ผมคงให้คุณทำแบบนั้นไม่ได้..."
"คุณหมอคะ เมื่อกี้ผู้อำนวยการอนุญาตแล้วค่ะ" พยาบาลสาววิ่งกระหืดกระหอบกลับมา นั่นยิ่งทำให้คเชนทร์ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม เพราะเขาไม่ได้สั่งให้เธอไปถามอะไรใครเสียหน่อย
"คุณหมอเชิญทางนี้หน่อยค่ะ ดิฉันจะขอปรึกษาเรื่องเคสก่อนหน้านี้น่ะค่ะ" พยาบาลสาวที่เขาจำได้ว่าเพิ่งเข้ามาใหม่ดึงร่างสูงกลับเข้ามาในห้องผ่าตัด
"ใครสั่งใครคุณไปหาผู้อำนวยการ?"
"โธ่ หมอคะ เขาไม่ได้สั่งหนูหรอกค่ะ" ร่างเล็กในชุดเครื่องแบบสีขาวเอ่ยเสียงสั่น "เขาแค่ขอร้อง แต่คือตอนขอ เขายกมือเท้าเอว แล้วแบบ..."
"แบบ..?" ชายหนุ่มทวนคำ
"ปืนของจริงเลยค่ะหมอ เหน็บที่เอวทุกคนเลย จุดนั้นเขาขออะไรหนูทำหมดแหละค่ะ"
ปืน?
"เอาเถอะ ถ้าผู้อำนวยการอนุญาตแล้วก็แล้วไป คุณไปทำงานต่อเถอะ"ร่างสูงว่า
อาชีพนี้มันมีแต่เรื่องประหลาดๆทุกวันสิน่า
"อาการคนไข้ดูปกติดี ไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร"
คเชนทร์พึมพำขณะเดินมาที่ห้องผู้ป่วยวีไอพีราคาพอๆกับซื้อบ้านอยู่อีกหลัง ไล่สายตาอ่านชาร์ตของคนไข้ในความดูแลที่แพทย์เวรลงบันทึกไว้ให้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพบกับชาวต่างชาติในชุดสูทสีดำที่ดูเหมือนจะเฝ้าหน้าห้องคนไข้ของเขายี่สิบสี่ชั่วโมง
อาจารย์หมอวัยสี่สิบสองปีในชุดกาวน์สีขาวบริสุทธิ์ยกมือขึ้นเคาะประตูตามมารยาท ชายที่ยืนอยู่ข้างซ้ายของเขาเอื้อมมือมาเปิดประตูพร้อมกับโค้งกายให้ เล่นเอาชายหนุ่มแอบเกร็งเล็กน้อย
เคยเห็นแต่ในละคร มาเจอของจริงก็น่ากลัวพอสมควรเหมือนกันนะเนี่ย
"คุณหมอสวัสดีครับ" ชายไทยที่ยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ซึ่งคเชนทร์ทราบแล้วว่าชื่อนวินทร์ หรือคุณวิน ยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อม "บอสฟื้นแล้วครับ"
"ครับ เดี๋ยวผมขอตรวจอาการคนไข้ ญาติเชิญไปรอที่ห้องพักญาติผู้ป่วยก่อนก็ได้นะครับ" ร่างสูงผายมือไปยังห้องนอนขนาดใหญ่อีกห้องที่ซ้อนอยู่ในห้องวีไอพีแห่งนี้ซึ่งทำไว้ให้ญาติมานอนเฝ้าโดยเฉพาะ
"แต่ว่า..."
"ทำตามที่คุณหมอบอกเถอะวิน ฉันดูแลตัวเองได้" เสียงแหบพร่าจากการนอนหลับเป็นเวลานานดังขัดขึ้นจากร่างที่อยู่บนเตียง ร่างสูงของชายชาวต่างชาติในชุดคนไข้สีฟ้าถูกเตียงผู้ป่วยค่อยๆดันขึ้นมาให้อยู่ในท่านั่ง เครื่องช่วยหายใจถูกถอดออกไปแล้วทำให้เขาเพิ่งเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดเจน
เส้นผมสีดำสนิทตัดสั้นยุ่งเหยิงจากการไม่ได้หวี กระนั้นเขายังมองเห็นดวงตาสีมรกตจ้องตรงมาที่เขา ผิวสีซีดเหมือนคนไม่ได้ออกแดดขัดกับร่างกำยำล่ำสันไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าชายในชุดสูทที่เฝ้าเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง สิ่งที่ดูจะโดดเด่นเป็นพิเศษคือบาดแผลไฟไหม้ที่ลากจากลำคอด้านขวาของชายหนุ่มมาจนถึงหัวไหล่ ดูจากขนาดแผลน่าจะเกิดมาหลายสิบปีแล้ว
"คุณ นิโคไล ใช่มั้ยครับ?"จากที่คนป่วยสนทนากับลูกน้องโดยแทบไม่มีสำเนียงติดอยู่ เขาคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเข้าใจภาษาไทยมากพอสมควร
"ครับ" ร่างสูงพยักหน้า ยังคงไม่ละสายตาจากใบหน้าของคุณหมอเจ้าของไข้
"นามสกุลอะไรครับ?" เป็นคำถามพื้นฐานที่แพทย์ใช้เพื่อตรวจดูระดับสติรับรู้และการทำงานของสมองคนไข้
"ทำไมครับ หมออยากใช้นามสกุลเดียวกับผมเหรอ?"
...ซึ่งดูเหมือนฟังก์ชั่นสมองของคนตรงหน้าจะไม่ค่อยปกตินัก
"คนไข้จำนามสกุลตัวเองได้มั้ยครับ?" อาจารย์หมอถามย้ำ นิโคไลฉีกยิ้ม
"อัลฟอนโซ่ครับ"
"ทราบมั้ยครับว่าวันนี้วันอะไร?"
"วันที่ผมได้พบกับอีกครึ่งของชีวิตครับ"
ถ้าไม่ถูกแพทย์สภาเรียกสอบวินัยทีหลังเขาจะใช้ชาร์ตคนไข้ในมือโบกให้เข้าโคม่าไปอีกรอบ
คเชนทร์เคยได้ยินเรื่องแบบนี้จากเพื่อน รุ่นน้อง หรือแม้กระทั่งลูกศิษย์ที่เข้ามาปรึกษา แต่ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอกับตัวเอง อาจเป็นเพราะยุคที่เขาเริ่มใช้ทุนยังไม่ค่อยมีอะไรแบบนี้ แล้วตอนที่เขาเรียนต่อเฉพาะทาง คนไข้ส่วนใหญ่ก็มักจะอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยาสลบ พอมาเป็นอาจารย์ก็ไม่ค่อยได้ซักประวัติอะไรเป็นคนแรกแล้ว คนที่โดนคนไข้หยอดจึงมักจะเป็นหมอเด็กๆที่มาซักประวัติคนแรกกับพยาบาลเสียมากกว่า
"มีอาการอะไรมั้ยครับ? ปวดหัว คลื่นไส้ เจ็บแผล..."
"จริงๆก็มีนะครับหมอ" สีหน้าของชายหนุ่มบนเตียงดูจริงจังขึ้นมา เมื่อเห็นวี่แววว่าตัวเองจะได้ตรวจคนไข้จริงๆจังๆเสียที ร่างในชุดกาวน์จึงขยับเข้ามาใกล้คนไข้อีกนิด
"เจ็บตรงไหนครับ?"
"ตอนที่หมอเดินเข้ามา ตรงนี้มันก็ปวดตุบๆเลยครับ..." ร่างสูงชี้ลงมาที่จุดกึ่งกลางลำตัวพร้อมรอยยิ้มออดอ้อนบาทา "... หมอช่วยผมได้มั้ยครับ?"
คเชนทร์รู้สึกว่ามันคุ้มเหลือเกินจากเขาจะเสียใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมเพราะกระตุกสายน้ำเกลือคนไข้
"ได้สิครับ" อาจารย์หมอที่สั่งสมประสบการณ์มาเป็นสิบปีดันแว่นกรอบเหลี่ยมของตนขึ้น นิโคไลเอียงคออย่างคาดไม่ถึงกับคำตอบของร่างในชุดกาวน์ คเชนทร์โน้มตัวลงมาใกล้ คนป่วยเลียริมฝีปาก ฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจกับลาภลอยที่ได้มาง่ายกว่าที่คิด
ปิ๊บ!
'คนไข้มีอะไรรึเปล่าคะ?' เสียงของพยาบาลประจำวอร์ดดังขึ้นผ่านลำโพงเล็กๆข้างปุ่มกดเรียกที่หัวเตียงของชายหนุ่ม นิโคไลหันไปมองนิ้วเรียวของคุณหมอที่จิ้มปุ่มค้างอย่างไม่เข้าใจสถานการณ์ คุณหมอรูปงามโน้มตัวผ่านร่างสูงที่นอนอยู่แล้วกรอกเสียงผ่านลำโพงนั้น
"ผมหมอคเชนทร์ รบกวนเอาอุปกรณ์ทำหมันสดมาที่ห้องนี้ด้วยครับ"
เมื่อเสร็จสิ้นคำสั่ง ชายหนุ่มจึงกลับมายืนตัวตรงข้างเตียงอย่างเดิมพร้อมกับไขข้อสงสัยให้กับคนบนเตียงที่เลิกคิ้วสูง
"ไม่ต้องห่วง หมอไม่ได้แค่จะทำหมันหรอกครับ หมอจะตัดเส้นประสาทไม่ให้มันลุกขึ้นมาอีก แค่นี้ก็ไม่ปวดแล้ว ดีมั้ยครับ" คเชนทร์ระบายยิ้มน้อยๆให้คนบนเตียง
ขู่นิดขู่หน่อยคงไม่สะเทือนจรรยาบรรณมากหรอก...มั้ง?
"ดุแบบนี้สิดี ผมชอบ" ชายหนุ่มบนเตียงยิ้มอย่างไม่เจียมสังขาร "เวลาอยู่บนเตียงคงจะเผ็ดน่าดู"
ไอ้เด็กเปรต...
"I'm sorry to interrupt, Boss, but young master is calling.(ขอโทษที่ขัดจังหวะครับบอส แต่นายน้อยโทรมา)"
ชายหนุ่มชาวต่างชาติหนึ่งในบอยแบนด์ชุดสูทที่คเชนทร์จำได้ดีกว่าคนอื่นด้วยแผลเป็นที่ลากยาวจากขมับขวาผ่านดวงตาลงมาจนถึงมุมปากเดินออกมาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งที่ขึ้นหน้าจอว่ากำลังมีคนวีดีโอคอลมาหา นิโคไลรับเครื่องมือสื่อสารมากดรับ ยกมือขึ้นหนึ่งข้างเป็นเชิงขอโทษขอโพย แต่รอยยิ้มมุมปากกับดวงตาสีมรกตที่ขยิบให้เขาไม่ได้น่าให้อภัยซักนิด
ดีนะที่มาห้องนี้ห้องสุดท้าย
"Daddy!!!(พ่อฮะ!!)"
เสียงแหลมเล็กของเด็กผู้ชายตัวน้อยดังลอดออกมา คเชนทร์ขยับออกห่างจากเตียง ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขารุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว
"What's up, Adrian. Having fun at Mom's?(ว่าไง เอเดรียน อยู่บ้านแม่สนุกมั้ย?) " ชายหนุ่มยิ้มให้กับเด็กน้อยที่อยู่อีกฝั่งของหน้าจอ สีหน้าอ่อนโยนของชายหนุ่มยามที่ฟังลูกน้อยเล่าเรื่องของตัวเองเสียงเจื้อยแจ้วกระตุกหัวใจคนรักเด็กอย่างคเชนทร์เล็กน้อย แต่ก็ยังคงไม่อาจลบล้างความรู้สึกด้านลบที่มีต่ออีกฝ่ายได้
"...I miss you so much..(...ผมคิดถึงพ่อ..)"
"Me too, Kiddo.(พ่อก็เหมือนกัน เด็กน้อย)"
"When are you coming back?(พ่อจะกลับมาเมื่อไหร่ฮะ?)"
"Soon..(เร็วๆนี้...)"
"Is Nickie coming back with you?(แล้วนิกกี้จะมาด้วยมั้ยครับ?)"
"I'm starting to have this feeling that you just used me as an excuse to talk to him.(พ่อชักจะรู้สึกว่าลูกแค่ใช้พ่อเป็นข้ออ้างเพื่อโทรมาหาเขานะเนี่ย)"
"Well...Can I?( แล้ว...ผมคุยได้มั้ยฮะ?)"
คนเป็นพ่อหัวเราะในลำคอ ก่อนจะส่งโทรศัพท์ของตนให้บอดี้การ์ดคนเดิม คเชนทร์แอบเห็นเด็กน้อยที่น่าจะอยู่ในวัยหกเจ็ดขวบหน้าตาน่ารักน่าชัง เจ้าของเส้นผมสีบลอนด์สว่างและดวงตาสีมรกตกลมโต เด็กชายมีสีหน้าตื่นเต้นทันทีที่เห็นชายหนุ่มเจ้าของรอยแผลเป็นที่ควรทำให้เด็กปกติวิ่งหนีร้องไห้จ้าไปหาแม่
"Nickie!!(นิกกี้!!)"
เดี๋ยว...นั่นน่ะเหรอนิกกี้?
คเชนทร์พยายามควบคุมสีหน้าไม่ให้หลุดแสดงความประหลาดใจออกไป
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาที่ดูแล้วน่าจะอยู่ในวัยยี่สิบปลายๆ เจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลตัดสั้นติดหนังศีรษะฉีกยิ้ม ถึงแม้รอยแผลเป็นที่นูนขึ้นมาเล็กน้อยจะทำให้รอยยิ้มนั้นดูบิดเบี้ยว แต่ดูก็รู้ถึงความเอ็นดูที่ส่งผ่านแววตา ถึงดวงตาข้างที่เป็นแผลจะดูเหมือนจะมองไม่ค่อยเห็นก็ตาม
คนแบบนี้เป็นบอดี้การ์ดได้ด้วยเหรอ?
"Young master.(นายน้อย)" ระหว่างที่พูดร่างสูงค่อยๆเดินกลับไปที่ห้องพักแขก ระมัดระวังไม่ให้เด็กชายเห็นร่างของบิดาที่มีสายอะไรต่อมีอะไรห้อยระโยงระยาง
"สองคนนั้นสนิทกันมากกว่าผมที่เป็นพ่อแท้ๆอีกครับ" เสียงทุ้มที่ดังขึ้นดึงสายตาของคเชนทร์ที่มองตามคนเมื่อครู่ไปให้หันกลับมา "เห็นแบบนั้น นิกิต้าก็เป็นคนอ่อนโยนมากนะครับ"
นิกิต้า...
เรียกนิกกี้ซะยังกับแมวเหมียวเลย
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว หมอขอตัวก่อนนะครับ"คเชนทร์เอ่ยขอตัว แต่คนป่วยบนเตียงดูจะไม่ยอมให้เขาหมดทุกข์หมดโศกง่ายๆ
"เดี๋ยวสิครับ.."
ชายในชุดกาวน์เลิกคิ้ว รอฟังสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูด ยังคงมีความหวังในมนุษยชาติว่าชายหนุ่มจะพูดอะไรจริงจังเสียที
"ถึงจะมีลูกแล้ว แต่ผมโสดสนิทนะครับหมอ ไม่ต้องห่วง"
แล้วความหวังในตัวมวลมนุษยชาติก็หมดไป
"ขอตัวครับ"
ร่างโปร่งผละจากข้างเตียงคนไข้ เดินดุ่มๆออกไปจากห้องโดยไม่สนใจเสียงเรียกของคนไข้ที่ดังตามหลังมา
"หมอคเชนทร์คะ ผอ.เชิญที่ห้องทำงานด่วนค่ะ"
หลังจากออกจากห้องผ่าตัดคนไข้ที่นัดไว้รายสุดท้ายของวัน พยาบาลสาวรีบรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้สัมผัสกับสวรรค์ที่เรียกว่ากาแฟและอาหารกลางวันในเวลาสามทุ่มครึ่ง คเชนทร์พยักหน้ารับรู้ ลูบใบหน้าของตัวเองหวังเพิ่มการตื่นตัวให้กับสมองแล้วเดินไปยังห้องของผู้อำนวยการ
"พี่พัฒน์ มีอะไรรึเปล่าครับ?"
"คราม นั่งก่อนสิ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย"ชายวัยกลางคนในชุดสูทเงยหน้าขึ้นจากเอกสารบนโต๊ะ ผายมือเชิญให้คเชนทร์ซึ่งเป็นทั้งญาติและหุ้นส่วนโรงพยาบาลนั่งลง
"มีอะไรเหรอครับ?"คเชนทร์ถามย้ำ นั่งลงฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ
"คือ..เรื่องคนไข้ที่ชื่อคุณนิโคไล..."
ใบหน้าหล่ององุ้มลงก่อนที่ระพีพัฒน์จะเอ่ยจบเสียอีก ชายวัยกลางคนหัวเราะเล็กน้อย ไม่เคยเห็นคนอายุน้อยกว่าหลุดมาดเร็วขนาดนี้
"ทำไมครับ? เขามาคอมเพลนอะไรผม?"
"คอมเพลนอะไรล่ะ คุณนิโคไลเขาประทับใจนายมากเลยนะ" ระพีพัฒน์ว่า "พี่เลยอยากจะขอร้องให้ช่วยดูแลเขาเป็นกรณีพิเศษได้มั้ย?"
"ทำไมครับ? อาการเขาก็ดีขึ้นตามปกติ ไม่มีอะไรน่าห่วงนี่ครับ?" คเชนทร์ถาม รู้สึกไม่ชอบมาพากลกับคำขอประหลาดของผู้อำนวยการ
"คือ..พี่พูดตรงๆนะคราม คุณนิโคไลเขาเป็นคนไข้พิเศษของโรงพยาบาล มีอะไรที่เราทำให้เขาสบายใจได้ ก็ทำให้เขาหน่อยเถอะ"
"ที่บอกว่าพิเศษนี่ พิเศษเพราะเงินหนา หรือพิเศษเพราะถูกเขาข่มขู่มาครับ?" ชายหนุ่มเลิกคิ้ว
"น่า คราม ถือว่าพี่ขอซักครั้ง" ระพีพัฒน์ขอร้อง คนอายุน้อยกว่าไม่อยากทำให้ผู้มีพระคุณของตนต้องลำบากใจไปมากกว่านี้จึงรับปากอย่างช่วยไม่ได้
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ"
ร่างสูงยกมือไหว้ชายหนุ่มรุ่นพี่ ก่อนจะลุกออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นในอก
ปัง! ปัง! ปัง!
เกลียด!เกลียด!เกลียด!
"เชี่ยคราม มึงไปแดกรังแตนมาจากไหนวะ" ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วงุนงง มองเพื่อนที่บรรจุกระะสุนรอบที่สี่ทั้งที่เพิ่งเข้ามาในสนามยิงได้ไม่นาน คเชนทร์ไม่ตอบ ตบแม็กกระสุนเข้ารังเพลิงแล้วขึ้นนกเตรียมเหนี่ยวไกต่อ
"มึงอย่าไปชวนพี่ครามคุยตอนนี้ดิวะ เดี๋ยวเขาก็ใช้มึงแทนเป้าหรอก"วีรภัทรหัวเราะ ก้มลงแชทกับคนรักอายุน้อยกว่าที่ตอนนี้พักเที่ยงอยู่ที่มหาวิทยาลัยต่อ
"ทำไมทีไอ้ครามมึงเรียกพี่ ทำไมทีกูนี่สัตว์วิ่งเล่นทั้งสวนเลยวะ?" ชายหนุ่มลูกครึ่งถามอย่างไม่เข้าใจ
"กูเคารพคนที่น่าเคารพ"
คนอายุน้อยสุดในกลุ่มตอบ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์ราวกับเด็กวัยรุ่นแรกรัก
"สาธุ ขอให้มึงโดนเด็กถอนหงอก" ธีรเชษฐ์แช่ง บรรจุกระสุนในปืนของตน ก่อนจะเดินไปประจำที่ของตัวเองบ้าง
คเชนทร์วางปืนลงบนโต๊ะ หอบหายใจเล็กน้อยหลังจากปลดปล่อยอารมณ์ที่คุกรุ่นไปกับลูกกระสุนบ้างแล้ว เดินไปหยิบขวดน้ำที่วางอยู่ด้านหลังขึ้นดื่ม
เขาไม่เคยอยากให้คนไข้หายไวๆมากขนาดนี้
เพราะถ้าไอ้ฝรั่งขี้นกนั่นไม่ยอมหาย คนที่ต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาลบ้าน่าจะเป็นเขาเองนี่แหละ
อยากให้หมอดูแลแบบวีไอพีใช่มั้ย?
ได้...หมอจะจัดให้แบบไม่มีวันลืมเลย คอยดู!
--------
อย่าเข้าใจผิด ไรท์ยังสอบไม่เสร็จ555555
กว่าจะสอบเสร็จแล้วปั่นตอนต่อไปออกมากลัวว่าจะโดนคนอ่านแหกอกเสียก่อน เลยเอาตอนพิเศษที่แต่งไว้นานแล้วมาขึ้นรายการ55555
เห็นในเม้นท์อีกเรื่องมีคนถามว่าหมอคเชนทร์มีเจ้าของรึยัง....
ไม่รู้สสิน้าาาา55555
สอบเสร็จแล้วจะรีบปั่นทุกเรื่อง ขออภัยในความล่าช้า หาเวลาหายใจไม่ได้จีจี