[จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)  (อ่าน 507092 ครั้ง)

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ลุ้นอย่างกะเชียร์บอลว่าอะไรคืออะไร...รอนะค่ะ

ออฟไลน์ boommerang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
รอนะครับ


ปล.น่าจะอัพตอนเดียวจบเลย จะเว้นอีกอาทิตย์เหมือนนิยายเรื่องอื่นก็ไม่เป็นไร
แต่นี่อาทิตย์นึงมาครึ่งนึง ถ้าบางตอนแบ่ง 6part 6 สัปดาห์เชียวนะครับ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
หมอกเป็นลูกรึเปล่าเนี่ย คิดไกลมาก  :hao7:

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5

“พี่หมอกลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วอ่ะ พี่เมฆตามไปมั้ย”



ณ อีกมุมหนึ่งของภัตรคารหรูแห่งนี้ สองพี่น้องตระกูลทรัพย์ดำรงกำลังนั่งรับประทานอาหารกลางวัน เมฆาแค่อยากมาหาอะไรกินกับน้องชายเท่านั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับการที่เลขาของบิดาเขาออกมาพบกับลูกค้าที่มีสายตาไม่น่าไว้วางใจ แถมยังเป็นเจ้าพ่อมาเฟียรายใหญ่ที่มีอิทธิพลนวงการพอสมควรอีกด้วย




ไม่เกี่ยวเลยซักนิด




“นั่งลงซัน เดี๋ยวคนก็มองหรอก” ร่างสูงตำหนิน้องชายที่นั่งยุกยิกอยู่ไม่สุขตั้งแต่เดินเข้ามา



“แหม…”ทินกรเลิกคิ้ว “ไอ้ที่ใส่เสื้อโค้ทตัวยาว แว่นดำ กับหนวดปลอมนี่ กลมกลืนมากกกกกเลยนะครับ”



“เงียบน่า” เมฆาส่งสายตาดุๆให้น้อง แต่ก็ดึงหนวดปลอมที่ไม่รู้ว่าตนคิดอะไรอยู่ตอนซื้อมาออก




“พี่เมฆ ผมถามจริงๆเถอะครับ” เด็กหนุ่มลดเสียงลง ถามด้วยสีหน้าจริงจัง “นี่ห่วงเขาขนาดนี้พี่ยังสงสัยความรู้สึกของตัวเองอยู่อีกเหรอ?”




เมฆาก็ถามตัวเองแบบนั้นเหมือนกัน




โดยเฉพาะหลังจากภาพเหตุการณ์ที่วาบเข้ามาในหัวเมื่อวาน




“เมฆ กินมะระหน่อยนะ”



“ไม่เอา...ไม่ชอบ”




“อ้าปากหน่อยน้า..นะ....นะนะ”



“ไม่เอา”



“นะ…”




ภาพเด็กหนุ่มในชุดนักศึกษากอดแขนของเขาอย่างสนิทสนมพร้อมทั้งขอให้เขาอ้าปากเสียงออดอ้อนยังคงตราตรึงในหัว เมฆาไม่รู้จริงๆว่าสมองของเขาจะสามารถสร้างอะไรแบบนี้ขึ้นมาเองได้หรือไม่ แต่เขารู้สึกว่าเหตุการณ์นั้นดูสมจริงจนเขาไม่สามารถสลัดไปจากหัว ทั้งกินหอมอ่อนจางที่แตะจมูก ทั้งอุณหภูมิของร่างโปร่ง หรือแม้กระทั่งความรู้สึกที่เหมือนกับว่านั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดในโลกนั่น




สมองของเขาจะสร้างเรื่องแบบนั้นได้จริงเหรอ?



“ระวังนะครับ คุณนิโคไลอะไรเนี่ยยิ่งหน้าตาดีอยู่ รวยก็รวย เท่ก็เท่ เดี๋ยวพี่หมอกหลงขึ้นมาจะไม่ทันเอานา” ทินกรเตือนด้วยความหวังดีขณะที่ตักข้าวกับพะแนงหมูคำโตเข้าปาก




เขารู้แล้วล่ะน่า...



เมฆาถอนหายใจ เหลือบมองที่โต๊ะของคนที่พวกเขาตามมาสังเกตการณ์ ร่างโปร่งของมธุวันเดินกลับมาอีกครั้ง และนั่นทำให้เขาหยุดความคิดทุกอย่างไว้แล้วจับตามองเลขาของบิดา โดยมีน้องชายที่อาสาอย่างขันแข็งว่าจะมาช่วยจัดการอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างต่อ




ภายในห้องครัวใหญ่ของโรงแรมธาราที่วุ่นวายอยู่ตลอดเวลา บริกรสาวเดินกลับเข้ามาพร้อมสีหน้าเป็นกังวลหลังจากจงใจเทน้ำใส่ตักของลูกค้าวีไอพีที่เจ้าของโรงแรมเป็นคนจองโต๊ะให้เองกับมือ




“เชฟคะ แน่ใจเหรอคะว่าคุณวีรภัทรสั่งมาแบบนี้”




เชฟโตมร หรือที่รู้จักกันดีในนามเชฟใหญ่ หััวหน้าพ่อครัวและเชฟผู้มือชื่อสียงเจ้าของรางวัลมากมายไหวไหล่อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร




“เขาบอกให้ทำยังไงก็ได้ให้สองคนนั้นอยู่ด้วยกันน้อยที่สุด ผมก็คิดออกแค่วิธีนี้แหละ”




“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ทำอาหารคว่ำใส่ไปเลยล่ะคะ เขาจะได้กลับไปเปลี่ยนชุด”หญิงสาวอีกคนที่กำลังช่วยระดมหัวสร้างแผน
ชั่วอย่างขันแข็งเสนอ แต่โตมรส่ายหน้า




“แบบนั้นไม่ไหวหรอก ดีไม่ดีเขาอาจจะนัดเจอกันอีกเพราะครั้งนี้เกิดเรื่อง....”




“มีอะไรกันเหรอครับ?”




เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง ดูท่าคนรักของเขาจะดึงดันหาเรื่องเข้ามาขลุกอยู่กับเขาในครัวทั้งที่เป็นวันหยุดของเจ้าตัวเป็นแน่




“สวัสดีค่ะเชฟ/สวัสดีครับเชฟ!”



เสียงของเหล่าลูกมือในครัวตะโกนทักทายเป็นเสียงเดียวกัน ร่างสูงโปร่งของหัวหน้าเชฟขนมหวานอายุยี่สิบห้าปีในชุดเครื่องแบบสีขาวสะอาดตามักจะสร้างความกดดันให้พวกเขามากว่าหัวหน้าเชฟที่รับผิดชอบของคาวซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนพี่ชายแสนดีมากกว่าทั้งที่มีรูปร่างสูงใหญ่ข่มขวัญคนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก





“พี่ใหญ่ เมื่อกี้คุยอะไรกันครับ?” ณัฐภาส พาร์ติชิเย่หนุ่มดาวรุ่งยังคงถาม ทำไมเขาถึงได้ยินคนรักของตัวเองรวมหัวกับลูกน้องวางแผนไล่ลูกค้าออกจากร้านกัน?




“ไม่ใช่อย่างนั้นนะนัท”ร่างสูงยิ้มแห้งๆ “คือท่านประธานสั่งมาว่าให้พวกเราจับตาดูโต๊ะที่ท่านจองไว้ ทำยังไงก็ได้ให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพังน้อยที่สุด”




“ห๊ะ?”ณัฐภาสขมวดคิ้ว “ไหน ผมดูหน่อย”




ร่างโปร่งชะเง้อมองโต๊ะที่คนรักชี้ให้ดู ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าร่างโปร่งที่กำลังเดินกลับมาที่โต๊ะซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้าที่โตมรได้รับมอบหมายให้จับตาดูเป็นใคร ถึงแม้จะดูภูมิฐานขึ้นด้วยสูทราคาแพงและแว่นไร้กรอบ แต่มธุวันก็ยังคงเป็นรูมเมทสุดซื่อของเขาอยู่วันยังค่ำ





“อาหารของโต๊ะนั้นเสร็จรึยังครับ เดี๋ยวผมเอาออกไปเสิร์ฟเอง”




ชายหนุ่มร่างโปร่งในชุดเครื่องแบบของหัวหน้าพ่อครัวหันมาถาม โตมรเลิกคิ้ว แต่เขาเรียนรู้ที่จะไม่ถามอะไรคนรักแล้วเลย
ตามเลยมาหลายปีแล้ว




“เอาสิ”




“ขอโทษที่ให้รอครับ”





เสียงที่คุ้นเคยทำให้มธุวันซึ่งเพิ่งกลับมาจากห้องน้ำเงยหน้าขึ้นมองร่างโปร่งในชุดเครื่องแบบหัวหน้าพ่อครัวสีขาวสะอาดตาอย่างแปลกใจ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นรูมเมทที่ไม่ได้เจอกันนานหลายปียืนถือถาดอาหารในมือ




“นัท?”



“เฮ้ย ไอ้หมอก!” ณัฐภาสแสร้งทำเสียงตกใจ “มาอยู่นี่ได้ไงวะ?”




“เอ่อ...” มธุวันเหลือบมองนิโคไลที่นั่งอมยิ้มมองเห็นการที่เกิดขึ้น ดูไม่ถือโทษกับการเสียมารยาทของณัฐภาสซักนิด





“เพื่อนคุณหมอกเหรอครับ?”




“รูมเมทสมัยมหาวิทยาลัยน่ะครับ” ร่างโปร่งตอบ เหลือบมองณัฐภาสอีกครั้งด้วยสายตาเต็มไปด้วยคำถาม




“ถ้าอย่างนั้นคงรู้เรื่องของคุณหมอกเยอะแยะเลยสินะครับ”ร่างสูงมีสีหน้าสนใจที่ทำให้มธุวันรู้สึกอึดอัดมากกว่าเดิม “ถ้าไม่รังเกียจ เชิญนั่งด้วยกันก่อนสิครับ”




“อ่า…”




ทีแรกณัฐภาสกะจะใช้ความหนาของหนังหน้ามาตีเนียนนั่งลงกับมธุวันเพื่อกันไม่ให้คนทั้งสองอยู่ด้วยกันตามลำพัง แต่เมื่ออีกฝ่ายเป็นคนเสนอ เขาก็ขอเลยตามเลยแล้วกัน




“แล้ว...ตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัย คุณหมอกเป็นยังไงเหรอครับ”





นิโคไลท้าวแขนลงกับโต๊ะ โน้มตัวเข้าใกล้ผู้มาใหม่อย่างสนใจ รู้ตัวอีกที มธุวันก็กลายเป็นหัวข้อสนทนาโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอมเสียแล้ว



“พอแล้วนัท เราอาย..” ชายหนุ่มกระซิบบอกเพื่อนเสียงอ่อนเมื่อเพื่อนชักจะติดลมบนเล่าไปยันเรื่องที่เขาชอบนอนตกเตียงเสียงดังจนคนอื่นสะดุ้งตื่นบ่อยๆ




“โห..อะไรเนี่ย กำลังมันส์เลย” ณัฐภาสหัวเราะ




“ใช่ครับ คุณนัทเล่าเรื่องสนุกมากเลย” นิโคไลชม รอยยิ้มมุมปากตามประสาพ่อเสือไว้ลายชัดเจนจนมธุวันต้องรีบปกป้องเพื่อนที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะโดนงาบ




“แล้วตอนนี้นัทเป็นไงบ้าง มีแฟนรึยัง?”




“ก็คนเดิมกับตอนเรียนมหาลัยนั่นแหละ”ร่างโปร่งตอบเสียงเอื่อยๆ “นี่ก็ทำงานอยู่ด้วยกัน เขาเป็นหัวหน้าเชฟที่นี่”





“อ๋อ…” มธุวันนึกย้อนไปถึงสมัยก่อนที่ณัฐภาสดูจะเกลียดขี้หน้าเชฟชื่อดังคนนั้นพอสมควร เขายังงงๆอยู่เลยว่าไปทำอีท่า
ไหนถึงได้ชอบกันได้




….แถมยังรักกันมาจนถึงทุกวันนี้



มธุวันไม่ได้อิจฉา แต่เขาอดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ที่ความรักของตัวเองไม่ได้มีอายุยืนยาวเหมือนของเพื่อน





“เอ่อ...งั้นไว้เจอกันนะ เดี๋ยวเราไปประชุมต่อ ใกล้เวลาแล้ว”




ร่างโปร่งก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ ณัฐภาสที่เห็นว่าตนหมดหน้าแล้วพยักหน้า กล่าวลาเพื่อนและชายหนุ่มอีกคนพอเป็นพิธีแล้วถอยออกมาจากตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ หลบไปสังเกตการณ์คนทั้งสองอยู่ห่างๆเช่นเดิม




“ผมต้องขอโทษจริงๆนะครับที่ต้องกลับก่อน”




“ไม่เป็นไรครับคุณหมอก ผมอิ่มแล้วเหมือนกัน ให้ผมไปส่งมั้ยครับ” นิโคไลเสนอตัว




“ไม่ต้องหรอกครับ ท่านประธานส่งข้อความมาบอกว่ารออยู่ที่ล็อบบี้แล้ว” ร่างโปร่งปฎิเสธเสียงสุภาพ ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น นิโคไลก็ยังยืนยันที่จะมาส่งเขาด้านล่าง ทั้งสองเดินมาถึงล็อบบี้ที่ธีรเชษฐ์นั่งเล่นโทรศัพท์รออยู่



จะว่าไปพักนี้ท่านประธานสนใจโทรศัพท์มากขึ้นเหมือนกันนะเนี่ย




“ทันเวลามั้ยครับคุณเชษฐ์” นิโคไลถามพร้อมรอยยิ้ม ธีรเชษฐ์ลุกขึ้นยืนแล้วเหลือบตามองสำรวจเลขาของตนตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเห็นว่าเขาปลอดภัยดีจึงกลับไปสนใจคู่สนทนาของตน




“ถ้ารีบไปก็ทันครับ”




“ถ้าอย่างนั้นผมไม่รั้งตัวคุณหมอกไว้แล้วดีกว่า....อ้อ จริงสิ” นิโคไลหยิบปากกาสีเงินออกมาจากกระเป๋าแล้วเสียบมันไว้ที่กระเป๋าเสื้อของมธุวันด้วยความเร็วที่ร่างโปร่งขยับหนีไม่ทัน “ผมคืนครับ”




แม้จะพยายามไม่แสดงสีหน้า แต่มธุวันรับรู้ได้ว่าธีรเชษฐ์ดูเกร็งขึ้นมาเล็กน้อย




“พกติดตัวไว้ก็ดีนะครับคุณหมอก” ชายชาวต่างชาติมองเขาด้วยสายตาที่มธุวันไม่มั่นใจว่าต้องการจะสื่ออะไร “เดี๋ยวนี้ที่ไหนก็อันตราย...เราไม่รู้หรอกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น”




มธุวันพยักหน้าด้วยไม่รู้จะพูดอะไร ทั้งสองมองนิโคไลที่เดินจากไปพร้อมกับลูกน้องอีกหลายชีวิตก่อนที่ธีรเชษฐ์จะหันมาหาเขา



“โอเคใช่มั้ย?”




“ครับ”ร่างโปร่งพยักหน้า“กลับกันเถอะครับ”









มธุวันมาถึงหน้าห้องของตัวเองหลังจากเลิกงานเมื่อเขาเห็นกล่องลังกระดาษมากมายที่วางอยู่ห้องข้างๆ ครอบครัวที่อยู่ข้างห้องเขาเพิ่งย้ายออกไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ ร่างโปร่งยังคิดอยู่เลยว่าน่าจะไม่มีคนอยู่ข้างห้องเขาไปอีกซักพัก ไม่คิดเลยว่าจะหาคนเช่าต่อได้เร็วขนาดนี้



“ขอโทษนะครับ รกไปหน่อย ผมเพิ่งขนของเสร็จ”




เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง มธุวันหันกลับไปพบกับนาวินทร์ที่ยืนยิ้มแฉ่งในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นอวดรอยสักลายพร้อย ร่างสูงอุ้มลังกระดาษขนาดกลางท่าทางค่อนข้างหนักไว้




“วิน?”




“อ้าว หมอก บังเอิญอีกแล้วนะเนี่ย” นาวินทร์ทำท่าประหลาดใจ “นี่หมอกอยู่ห้องนี้เหรอ?”




“เอ่อ...ใช่” ร่างโปร่งตอบ สีหน้าเป็นกังวลของมธุวันทำให้ร่างสูงหัวเราะออกมาเล็กน้อย




“ไม่ต้องห่วง ฉันแค่เช่าห้องนี้ไว้เพราะเจ้านายจะมาทำธุรกิจที่ไทยชั่วคราว ฉันไม่พาไอ้เมฆโผล่จ๊ะเอ๋นายหรอกน่า”




“ขอบใจนะ”ร่างโปร่งถอนหายใจอย่างโล่งอก รอยยิ้มจางๆที่ไม่ค่อยมีบ่อยนักปรากฏบนใบหน้าเรียว อาจเป็นเพราะนาวินทร์เป็นคนจากอดีตของเขา ทำให้ตัวตนในอดีตของเขาเด่นชัดขึ้นมา





“เอ้อ ยิ้มแบบนี้สิค่อยเหมือนหมอกที่ฉันรู้จัก” นาวินทร์ยิ้ม “งั้นฉันขนของเข้าไปเก็บก่อนละกัน เนี่ย หิวมากเลย แต่อาหารสด
ตู้เย็น ข้าวสารก็ยังไม่ได้ซื้อ สงสัยวันนี้ต้องฝากท้องที่ร้านสะดวกซื้ออีกละมั้งเนี่ย”




“โห แต่นี่ก็ดึกแล้วนะ เก็บของเสร็จแล้วมากินกับเราก็ได้นะ เรามีของสดเยอะอยู่” มธุวันเสนอ





“ได้เหรอ? ถ้างั้นรบกวนด้วยนะ” นาวินทร์รีบรับข้อเสนอทันที ดูท่าชายหนุ่มคงจะหิวอยู่พอตัว มธุวันพยักหน้ายิ้มๆแล้วเปิดประตูเขาห้องไป





ทางฝ่ายนาวินทร์ ร่างสูงเปิดประตูแล้วเริ่มลำเลียงข้าวของเข้ามาด้านในอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มหยิบกระเป๋าหนังสีดำของตน
ขึ้นมาวางบนโต๊ะแล้วเปิดออก อุปกรณ์ดักฟังและเครื่องส่งสัญญาณขนาดเล็กหลายสิบชุดถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบอบู่ข้างปืนพกและลูกกระสุนของเขา





“ขอโทษนะหมอก มันเป็นคำสั่ง” ร่างสูงพึมพำ หยิบอุปกรณ์ขนาดเล็กทั้งหมดใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะออกจากห้อง เพื่อทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย






---------

มาล้าวววววว
ยังคงอยู่ในช่วงสอบ
แต่มันจบตอนพอดีเลยมาลงก่อน55555
จะสอบผ่านมั้ยติดตามต่อไป

แล้วก็ตอบคำถามเน้อ ที่ไรท์ไม่ลองเป็นตอนๆสัปดาห์ละตอนเพราะไรท์เรียนหนักอ่าฮับ คือหนักมากจีจีๆ เลยทยอยมาลงเพราะถ้ารอจบตอนนิยายอาจโดนลบไปแล้ว55555555

ขอบคุณที่ทนรอ

ทีมเทสต์น่าจะมาสัปดาห์หน้า

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แงงงงงง

เกิดอะไรขึ้นกับทั้งคู่เนี่ย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ยังยืนยังความคิดเดิม คุณพ่อแน่ๆ

ออฟไลน์ ปักษธร

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เราว่า หมอกน่าจะเป็นลูกของนิคละมั้ง ตอนแรกก็คิดว่าเป็นน้องแต่พอพูดถึงมิคาเอลแล้วคิดว่าน่าจะเป็นลูกแล้วมิคาเอลพาลูกหนี พอเลี้ยงไม่ไหวหรือว่าตายหมอกก็เลยไปอยู่สถานเลี้ยงเด็ก แต่ที่สงสัยคือถ้าหมอกสำคัญขนาดนี้ทำไมนิคถึงพึ่งหาเจอ หรือพึ่งแสดงตัว
ส่วนของเมฆ เมฆน่าจะมีเหตุผลที่อยากลืมหมอกละมั้ง พอประสบอุบัติเหตุจิตใจเลยปิดกั้นที่จะจำหมอก เมฆไม่ได้เลิกรักหมอกหรอกเมฆน่าจะมีเหตุผลแล้วเหตุผลนั้นน่าจะเกี่ยวกับหมอกด้วยละมั้ง

ออฟไลน์ aunszMT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
เราว่าสาเหตุมี่เมฆลืมหรือบอกเลิกน่าจะเพื่อตัวหมอกเองมากกว่าหมดรักอะ

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ซับซ้อนมาก เรานึกไม่ออกเลยว่าจะมาแถวทางไหน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ปากกา ที่นิโคไล เหน็บที่กระเป๋าเสื้อหมอก
ติดอุปกรณ์ดักฟัง และระบุสถานที่ด้วยแน่ๆ

แล้วข้างห้องวินทร์ยังมาเช่า เพื่อดักฟัง ติดตามหมอกอีก
อะไรจะขนาดนี้ นี่แสดงว่ามีธุรกิจสีเทา-ดำกันเหรอ

เมฆ ความจำเริ่มกลับคืนมาแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ปริศนามากมายจริงๆ  :katai1:

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
วินนนน อะไรยังงัยอ่ะะะะ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ปริศนาเยอะมาก รอวันกระจ่าง

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เห้อออออ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Aly-Q

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
เรื่องมันน่าสงสัยไปหมด :katai1: :katai1: :katai1: เมฆเริ่มรู้อะไรบ้างหรือยางงงง

ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :katai1: :katai1: ซับซ้อนจริงๆ

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
งานสายลับก็มา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
โอ้ยยยย เกลียดเหตุการณ์แบบนี้อ่ะะะะ  :katai1: :katai1: :katai1: อย่าพลาดท่าอะไรนะหมอกนะะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3

ออฟไลน์ QueenPlai

  • twitter - @khunhappymoon gmail - JangPlailiiz@gmail.com
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อ่านไปลุ้นไป55555 เดาทางไม่ออกออกเยว่าจะยังไงต่อ รอน้าาาา

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ถ้าเป็นพ่อลูกกันจริงนิโคไลนี่อายุเท่าไหร่หว่า -0- ไม่น่าจะใช้ม้างง อาจจะเป็น ญาติ หรือ อะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกันกับนิโคไลแน่ๆเลย

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
น่าติดตามมาก น่าสงสัย และที่สำคัญคืองง ต่อไปค่ะ
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ
 :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
สงสัยกันต่อ รอ เฉลยค่า

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
หนึ่งวันของหมอคเชนทร์





"คุณหมอคะ คนไข้ BP drop ค่ะ!"


"คุณหมอคะ คนไข้ arrest ค่ะ!"



"คุณหมอคะ คนไข้ถูกยิงที่อกขวาเหนือ rib 4 ตอนนี้อยู่บนรถฉุกเฉินค่ะ!"




"เตรียมห้องผ่าตัดเลยครับ" คเชนทร์บอกพยาบาลสาวที่วิ่งไปมาเตียงนู้นเตียงนี้จนหัวหมุน รอจังหวะผลัดมือที่ใช้ปั๊มหัวใจคนไข้บนเตียงเพื่อส่งหน้าที่ต่อให้แพทย์ประจำบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วไปดูแลเคสล่าสุดที่น่าจะต้องการการดูแลของเขามากที่สุดในตอนนี้




เป็นอีกหนึ่งวันที่วุ่นวายในห้องฉุกเฉินในเวลาตีสาม คเชนทร์ไม่เคยเข้าใจเหล่าวัยรุ่นที่มักจะยิงกันในช่วงเวลานี้ของวัน ทำไมต้องตีสาม?ทำไมต้องเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของมนุษย์หมอรู้สึกอ่อนเพลียที่สุด? ทำไมถึงไม่ยิงกันช่วงบ่ายสองโมงที่อาหารกำลังย่อย คาเฟอีนกำลังทำงาน จิตใจเขายังเบิกบานแจ่มใส




หมอไม่เข้าใจ




ภาพฉายรังสีแสดงให้เห็นว่ากระสุนเจาะเข้าไปที่ปอด แต่ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างคนไข้ของเขาเพราะลูกกระสุนไม่ได้ฝังอยู่ในร่างกาย จากรายงานของหน่วยกู้ภัยคนไข้ถูกยิงที่จุดอื่นแต่ดูเหมือนจะเป็นแค่การยิงถากๆ คเชนทร์จึงมุ่งจุดสนใจไปยังแผลที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้




"ขอScaple" ร่างสูงในชุดผ่าตัดสีเขียวที่ฆ่าเชื้อตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเริ่มต้นกรีดที่ผิวเนื้อขาวด้านข้างลำตัวด้วยมีดผ่าตัดที่ถูกส่งมาให้



"Tube"ท่อระบายเลือดที่คั่งในปอดถูกสอดเข้าไปอย่างชำนาญ เคสนี้ดูยังไงก็ไม่น่าจะซับซ้อน คนไข้เป็นชายชาวต่างชาติอายุสามสิบปีที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวตามคำบอกเล่าของคนที่มาด้วย



แต่คนเป็นหมอ หากประมาทว่าเป็นงานง่าย เผลอทำตามความเคยชินแม้แต่นิด อาจหมายถึงหนึ่งชีวิตที่ต้องดับสูญ
ต่อให้เคสง่ายแค่ไหน คเชนทร์ก็ยังคงมีสมาธิกับงานตรงหน้าอย่างเต็มที่




"ผมจะออกไปแจ้งข่าวกับญาติ ย้ายคนไข้ไปเฝ้าดูอาการที่ไอซียูซักคืน ถ้าไม่มีอะไรก็ย้ายไปห้องพักปกติได้" ร่างสูงบอก
หัวหน้าพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วเดินออกไปยังประตูห้องผ่าตัด ที่เขารู้ดีว่าคนที่อยู่ปลายทางอีกฝั่งกำลังกระวนกระวายเพียงใดที่เห็นไฟดับลง




แต่ชายหนุ่มไม่รู้ว่าคนที่นั่งรออยู่จะเป็นชายชาวต่างชาติร่างยักษ์ห้าคนในชุดสูทสีดำสนิทหน้าตาเหมือนลูกน้องแก๊งมาเฟียในละครหลังข่าว คนเอเชียคนเดียวในนั้นที่ขนาดตัวไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าพลพรรครอบข้างลุกพรวดขึ้นมาทันทีที่เห็นเขา




"คุณหมอครับ อาการบอสเป็นยังไงบ้างครับ?!"




บอส?




ดูท่าคนไข้ของเขาจะไม่ใช่แค่ชาวต่างชาติมาพักร้อนธรรมดาสินะ





"คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ คืนนี้จะให้นอนดูอาการที่ไอซียู ห้ามคนเข้าเยี่ยม แล้วถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน หมอจะให้ย้ายไปห้องพักปกติ" อาจารย์หมอรายงานตามที่บอกพยาบาลไว้ คนตรงหน้าพยักหน้าอย่างพึงพอใจ




"หมอเป็นคุณหมอเจ้าของไข้ใช่มั้ยครับ?"



"ครับ"




"ถ้าอย่างนั้นวันนี้คงต้องรบกวนให้คนของผมเฝ้าหน้าไอซียู คงไม่ว่ากันนะครับ"




ร่างสูงขมวดคิ้ว



"ขอโทษนะครับ ผมคงให้คุณทำแบบนั้นไม่ได้..."




"คุณหมอคะ เมื่อกี้ผู้อำนวยการอนุญาตแล้วค่ะ" พยาบาลสาววิ่งกระหืดกระหอบกลับมา นั่นยิ่งทำให้คเชนทร์ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม เพราะเขาไม่ได้สั่งให้เธอไปถามอะไรใครเสียหน่อย




"คุณหมอเชิญทางนี้หน่อยค่ะ ดิฉันจะขอปรึกษาเรื่องเคสก่อนหน้านี้น่ะค่ะ" พยาบาลสาวที่เขาจำได้ว่าเพิ่งเข้ามาใหม่ดึงร่างสูงกลับเข้ามาในห้องผ่าตัด




"ใครสั่งใครคุณไปหาผู้อำนวยการ?"




"โธ่ หมอคะ เขาไม่ได้สั่งหนูหรอกค่ะ" ร่างเล็กในชุดเครื่องแบบสีขาวเอ่ยเสียงสั่น "เขาแค่ขอร้อง แต่คือตอนขอ เขายกมือเท้าเอว แล้วแบบ..."




"แบบ..?" ชายหนุ่มทวนคำ




"ปืนของจริงเลยค่ะหมอ เหน็บที่เอวทุกคนเลย จุดนั้นเขาขออะไรหนูทำหมดแหละค่ะ"




ปืน?




"เอาเถอะ ถ้าผู้อำนวยการอนุญาตแล้วก็แล้วไป คุณไปทำงานต่อเถอะ"ร่างสูงว่า





อาชีพนี้มันมีแต่เรื่องประหลาดๆทุกวันสิน่า








"อาการคนไข้ดูปกติดี ไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร"




คเชนทร์พึมพำขณะเดินมาที่ห้องผู้ป่วยวีไอพีราคาพอๆกับซื้อบ้านอยู่อีกหลัง ไล่สายตาอ่านชาร์ตของคนไข้ในความดูแลที่แพทย์เวรลงบันทึกไว้ให้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพบกับชาวต่างชาติในชุดสูทสีดำที่ดูเหมือนจะเฝ้าหน้าห้องคนไข้ของเขายี่สิบสี่ชั่วโมง




อาจารย์หมอวัยสี่สิบสองปีในชุดกาวน์สีขาวบริสุทธิ์ยกมือขึ้นเคาะประตูตามมารยาท ชายที่ยืนอยู่ข้างซ้ายของเขาเอื้อมมือมาเปิดประตูพร้อมกับโค้งกายให้ เล่นเอาชายหนุ่มแอบเกร็งเล็กน้อย





เคยเห็นแต่ในละคร มาเจอของจริงก็น่ากลัวพอสมควรเหมือนกันนะเนี่ย




"คุณหมอสวัสดีครับ" ชายไทยที่ยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ซึ่งคเชนทร์ทราบแล้วว่าชื่อนวินทร์ หรือคุณวิน ยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อม "บอสฟื้นแล้วครับ"




"ครับ เดี๋ยวผมขอตรวจอาการคนไข้ ญาติเชิญไปรอที่ห้องพักญาติผู้ป่วยก่อนก็ได้นะครับ" ร่างสูงผายมือไปยังห้องนอนขนาดใหญ่อีกห้องที่ซ้อนอยู่ในห้องวีไอพีแห่งนี้ซึ่งทำไว้ให้ญาติมานอนเฝ้าโดยเฉพาะ




"แต่ว่า..."



"ทำตามที่คุณหมอบอกเถอะวิน ฉันดูแลตัวเองได้" เสียงแหบพร่าจากการนอนหลับเป็นเวลานานดังขัดขึ้นจากร่างที่อยู่บนเตียง ร่างสูงของชายชาวต่างชาติในชุดคนไข้สีฟ้าถูกเตียงผู้ป่วยค่อยๆดันขึ้นมาให้อยู่ในท่านั่ง เครื่องช่วยหายใจถูกถอดออกไปแล้วทำให้เขาเพิ่งเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดเจน





เส้นผมสีดำสนิทตัดสั้นยุ่งเหยิงจากการไม่ได้หวี กระนั้นเขายังมองเห็นดวงตาสีมรกตจ้องตรงมาที่เขา ผิวสีซีดเหมือนคนไม่ได้ออกแดดขัดกับร่างกำยำล่ำสันไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าชายในชุดสูทที่เฝ้าเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง สิ่งที่ดูจะโดดเด่นเป็นพิเศษคือบาดแผลไฟไหม้ที่ลากจากลำคอด้านขวาของชายหนุ่มมาจนถึงหัวไหล่ ดูจากขนาดแผลน่าจะเกิดมาหลายสิบปีแล้ว




"คุณ นิโคไล ใช่มั้ยครับ?"จากที่คนป่วยสนทนากับลูกน้องโดยแทบไม่มีสำเนียงติดอยู่ เขาคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเข้าใจภาษาไทยมากพอสมควร




"ครับ" ร่างสูงพยักหน้า ยังคงไม่ละสายตาจากใบหน้าของคุณหมอเจ้าของไข้




"นามสกุลอะไรครับ?" เป็นคำถามพื้นฐานที่แพทย์ใช้เพื่อตรวจดูระดับสติรับรู้และการทำงานของสมองคนไข้




"ทำไมครับ หมออยากใช้นามสกุลเดียวกับผมเหรอ?"




...ซึ่งดูเหมือนฟังก์ชั่นสมองของคนตรงหน้าจะไม่ค่อยปกตินัก




"คนไข้จำนามสกุลตัวเองได้มั้ยครับ?" อาจารย์หมอถามย้ำ นิโคไลฉีกยิ้ม




"อัลฟอนโซ่ครับ"




"ทราบมั้ยครับว่าวันนี้วันอะไร?"




"วันที่ผมได้พบกับอีกครึ่งของชีวิตครับ"




ถ้าไม่ถูกแพทย์สภาเรียกสอบวินัยทีหลังเขาจะใช้ชาร์ตคนไข้ในมือโบกให้เข้าโคม่าไปอีกรอบ




คเชนทร์เคยได้ยินเรื่องแบบนี้จากเพื่อน รุ่นน้อง หรือแม้กระทั่งลูกศิษย์ที่เข้ามาปรึกษา แต่ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอกับตัวเอง อาจเป็นเพราะยุคที่เขาเริ่มใช้ทุนยังไม่ค่อยมีอะไรแบบนี้ แล้วตอนที่เขาเรียนต่อเฉพาะทาง คนไข้ส่วนใหญ่ก็มักจะอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยาสลบ พอมาเป็นอาจารย์ก็ไม่ค่อยได้ซักประวัติอะไรเป็นคนแรกแล้ว คนที่โดนคนไข้หยอดจึงมักจะเป็นหมอเด็กๆที่มาซักประวัติคนแรกกับพยาบาลเสียมากกว่า





"มีอาการอะไรมั้ยครับ? ปวดหัว คลื่นไส้ เจ็บแผล..."




"จริงๆก็มีนะครับหมอ" สีหน้าของชายหนุ่มบนเตียงดูจริงจังขึ้นมา เมื่อเห็นวี่แววว่าตัวเองจะได้ตรวจคนไข้จริงๆจังๆเสียที ร่างในชุดกาวน์จึงขยับเข้ามาใกล้คนไข้อีกนิด




"เจ็บตรงไหนครับ?"




"ตอนที่หมอเดินเข้ามา ตรงนี้มันก็ปวดตุบๆเลยครับ..." ร่างสูงชี้ลงมาที่จุดกึ่งกลางลำตัวพร้อมรอยยิ้มออดอ้อนบาทา "... หมอช่วยผมได้มั้ยครับ?"




คเชนทร์รู้สึกว่ามันคุ้มเหลือเกินจากเขาจะเสียใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมเพราะกระตุกสายน้ำเกลือคนไข้




"ได้สิครับ" อาจารย์หมอที่สั่งสมประสบการณ์มาเป็นสิบปีดันแว่นกรอบเหลี่ยมของตนขึ้น นิโคไลเอียงคออย่างคาดไม่ถึงกับคำตอบของร่างในชุดกาวน์ คเชนทร์โน้มตัวลงมาใกล้ คนป่วยเลียริมฝีปาก ฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจกับลาภลอยที่ได้มาง่ายกว่าที่คิด




ปิ๊บ!



'คนไข้มีอะไรรึเปล่าคะ?' เสียงของพยาบาลประจำวอร์ดดังขึ้นผ่านลำโพงเล็กๆข้างปุ่มกดเรียกที่หัวเตียงของชายหนุ่ม นิโคไลหันไปมองนิ้วเรียวของคุณหมอที่จิ้มปุ่มค้างอย่างไม่เข้าใจสถานการณ์ คุณหมอรูปงามโน้มตัวผ่านร่างสูงที่นอนอยู่แล้วกรอกเสียงผ่านลำโพงนั้น




"ผมหมอคเชนทร์ รบกวนเอาอุปกรณ์ทำหมันสดมาที่ห้องนี้ด้วยครับ"



เมื่อเสร็จสิ้นคำสั่ง ชายหนุ่มจึงกลับมายืนตัวตรงข้างเตียงอย่างเดิมพร้อมกับไขข้อสงสัยให้กับคนบนเตียงที่เลิกคิ้วสูง




"ไม่ต้องห่วง หมอไม่ได้แค่จะทำหมันหรอกครับ หมอจะตัดเส้นประสาทไม่ให้มันลุกขึ้นมาอีก แค่นี้ก็ไม่ปวดแล้ว ดีมั้ยครับ" คเชนทร์ระบายยิ้มน้อยๆให้คนบนเตียง




ขู่นิดขู่หน่อยคงไม่สะเทือนจรรยาบรรณมากหรอก...มั้ง?



"ดุแบบนี้สิดี ผมชอบ" ชายหนุ่มบนเตียงยิ้มอย่างไม่เจียมสังขาร "เวลาอยู่บนเตียงคงจะเผ็ดน่าดู"





ไอ้เด็กเปรต...




"I'm sorry to interrupt, Boss, but young master is calling.(ขอโทษที่ขัดจังหวะครับบอส แต่นายน้อยโทรมา)"
ชายหนุ่มชาวต่างชาติหนึ่งในบอยแบนด์ชุดสูทที่คเชนทร์จำได้ดีกว่าคนอื่นด้วยแผลเป็นที่ลากยาวจากขมับขวาผ่านดวงตาลงมาจนถึงมุมปากเดินออกมาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งที่ขึ้นหน้าจอว่ากำลังมีคนวีดีโอคอลมาหา นิโคไลรับเครื่องมือสื่อสารมากดรับ ยกมือขึ้นหนึ่งข้างเป็นเชิงขอโทษขอโพย แต่รอยยิ้มมุมปากกับดวงตาสีมรกตที่ขยิบให้เขาไม่ได้น่าให้อภัยซักนิด




ดีนะที่มาห้องนี้ห้องสุดท้าย



"Daddy!!!(พ่อฮะ!!)"




เสียงแหลมเล็กของเด็กผู้ชายตัวน้อยดังลอดออกมา คเชนทร์ขยับออกห่างจากเตียง ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขารุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว




"What's up, Adrian. Having fun at Mom's?(ว่าไง เอเดรียน อยู่บ้านแม่สนุกมั้ย?) " ชายหนุ่มยิ้มให้กับเด็กน้อยที่อยู่อีกฝั่งของหน้าจอ สีหน้าอ่อนโยนของชายหนุ่มยามที่ฟังลูกน้อยเล่าเรื่องของตัวเองเสียงเจื้อยแจ้วกระตุกหัวใจคนรักเด็กอย่างคเชนทร์เล็กน้อย แต่ก็ยังคงไม่อาจลบล้างความรู้สึกด้านลบที่มีต่ออีกฝ่ายได้




"...I miss you so much..(...ผมคิดถึงพ่อ..)"



"Me too, Kiddo.(พ่อก็เหมือนกัน เด็กน้อย)"




"When are you coming back?(พ่อจะกลับมาเมื่อไหร่ฮะ?)"




"Soon..(เร็วๆนี้...)"




"Is Nickie coming back with you?(แล้วนิกกี้จะมาด้วยมั้ยครับ?)"



"I'm starting to have this feeling that you just used me as an excuse to talk to him.(พ่อชักจะรู้สึกว่าลูกแค่ใช้พ่อเป็นข้ออ้างเพื่อโทรมาหาเขานะเนี่ย)"




"Well...Can I?( แล้ว...ผมคุยได้มั้ยฮะ?)"




คนเป็นพ่อหัวเราะในลำคอ ก่อนจะส่งโทรศัพท์ของตนให้บอดี้การ์ดคนเดิม คเชนทร์แอบเห็นเด็กน้อยที่น่าจะอยู่ในวัยหกเจ็ดขวบหน้าตาน่ารักน่าชัง เจ้าของเส้นผมสีบลอนด์สว่างและดวงตาสีมรกตกลมโต เด็กชายมีสีหน้าตื่นเต้นทันทีที่เห็นชายหนุ่มเจ้าของรอยแผลเป็นที่ควรทำให้เด็กปกติวิ่งหนีร้องไห้จ้าไปหาแม่




"Nickie!!(นิกกี้!!)"



เดี๋ยว...นั่นน่ะเหรอนิกกี้?




คเชนทร์พยายามควบคุมสีหน้าไม่ให้หลุดแสดงความประหลาดใจออกไป




ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาที่ดูแล้วน่าจะอยู่ในวัยยี่สิบปลายๆ เจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลตัดสั้นติดหนังศีรษะฉีกยิ้ม ถึงแม้รอยแผลเป็นที่นูนขึ้นมาเล็กน้อยจะทำให้รอยยิ้มนั้นดูบิดเบี้ยว แต่ดูก็รู้ถึงความเอ็นดูที่ส่งผ่านแววตา ถึงดวงตาข้างที่เป็นแผลจะดูเหมือนจะมองไม่ค่อยเห็นก็ตาม




คนแบบนี้เป็นบอดี้การ์ดได้ด้วยเหรอ?




"Young master.(นายน้อย)" ระหว่างที่พูดร่างสูงค่อยๆเดินกลับไปที่ห้องพักแขก ระมัดระวังไม่ให้เด็กชายเห็นร่างของบิดาที่มีสายอะไรต่อมีอะไรห้อยระโยงระยาง




"สองคนนั้นสนิทกันมากกว่าผมที่เป็นพ่อแท้ๆอีกครับ" เสียงทุ้มที่ดังขึ้นดึงสายตาของคเชนทร์ที่มองตามคนเมื่อครู่ไปให้หันกลับมา "เห็นแบบนั้น นิกิต้าก็เป็นคนอ่อนโยนมากนะครับ"




นิกิต้า...




เรียกนิกกี้ซะยังกับแมวเหมียวเลย




"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว หมอขอตัวก่อนนะครับ"คเชนทร์เอ่ยขอตัว แต่คนป่วยบนเตียงดูจะไม่ยอมให้เขาหมดทุกข์หมดโศกง่ายๆ



"เดี๋ยวสิครับ.."




ชายในชุดกาวน์เลิกคิ้ว รอฟังสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูด ยังคงมีความหวังในมนุษยชาติว่าชายหนุ่มจะพูดอะไรจริงจังเสียที




"ถึงจะมีลูกแล้ว แต่ผมโสดสนิทนะครับหมอ ไม่ต้องห่วง"





แล้วความหวังในตัวมวลมนุษยชาติก็หมดไป




"ขอตัวครับ"



ร่างโปร่งผละจากข้างเตียงคนไข้ เดินดุ่มๆออกไปจากห้องโดยไม่สนใจเสียงเรียกของคนไข้ที่ดังตามหลังมา




"หมอคเชนทร์คะ ผอ.เชิญที่ห้องทำงานด่วนค่ะ"



หลังจากออกจากห้องผ่าตัดคนไข้ที่นัดไว้รายสุดท้ายของวัน พยาบาลสาวรีบรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้สัมผัสกับสวรรค์ที่เรียกว่ากาแฟและอาหารกลางวันในเวลาสามทุ่มครึ่ง คเชนทร์พยักหน้ารับรู้ ลูบใบหน้าของตัวเองหวังเพิ่มการตื่นตัวให้กับสมองแล้วเดินไปยังห้องของผู้อำนวยการ



"พี่พัฒน์ มีอะไรรึเปล่าครับ?"





"คราม นั่งก่อนสิ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย"ชายวัยกลางคนในชุดสูทเงยหน้าขึ้นจากเอกสารบนโต๊ะ ผายมือเชิญให้คเชนทร์ซึ่งเป็นทั้งญาติและหุ้นส่วนโรงพยาบาลนั่งลง




"มีอะไรเหรอครับ?"คเชนทร์ถามย้ำ นั่งลงฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ



"คือ..เรื่องคนไข้ที่ชื่อคุณนิโคไล..."




ใบหน้าหล่ององุ้มลงก่อนที่ระพีพัฒน์จะเอ่ยจบเสียอีก ชายวัยกลางคนหัวเราะเล็กน้อย ไม่เคยเห็นคนอายุน้อยกว่าหลุดมาดเร็วขนาดนี้




"ทำไมครับ? เขามาคอมเพลนอะไรผม?"




"คอมเพลนอะไรล่ะ คุณนิโคไลเขาประทับใจนายมากเลยนะ" ระพีพัฒน์ว่า "พี่เลยอยากจะขอร้องให้ช่วยดูแลเขาเป็นกรณีพิเศษได้มั้ย?"




"ทำไมครับ? อาการเขาก็ดีขึ้นตามปกติ ไม่มีอะไรน่าห่วงนี่ครับ?" คเชนทร์ถาม รู้สึกไม่ชอบมาพากลกับคำขอประหลาดของผู้อำนวยการ




"คือ..พี่พูดตรงๆนะคราม คุณนิโคไลเขาเป็นคนไข้พิเศษของโรงพยาบาล มีอะไรที่เราทำให้เขาสบายใจได้ ก็ทำให้เขาหน่อยเถอะ"




"ที่บอกว่าพิเศษนี่ พิเศษเพราะเงินหนา หรือพิเศษเพราะถูกเขาข่มขู่มาครับ?" ชายหนุ่มเลิกคิ้ว




"น่า คราม ถือว่าพี่ขอซักครั้ง" ระพีพัฒน์ขอร้อง คนอายุน้อยกว่าไม่อยากทำให้ผู้มีพระคุณของตนต้องลำบากใจไปมากกว่านี้จึงรับปากอย่างช่วยไม่ได้




"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ"




ร่างสูงยกมือไหว้ชายหนุ่มรุ่นพี่ ก่อนจะลุกออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นในอก











ปัง! ปัง! ปัง!





เกลียด!เกลียด!เกลียด!




"เชี่ยคราม มึงไปแดกรังแตนมาจากไหนวะ" ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วงุนงง มองเพื่อนที่บรรจุกระะสุนรอบที่สี่ทั้งที่เพิ่งเข้ามาในสนามยิงได้ไม่นาน คเชนทร์ไม่ตอบ ตบแม็กกระสุนเข้ารังเพลิงแล้วขึ้นนกเตรียมเหนี่ยวไกต่อ




"มึงอย่าไปชวนพี่ครามคุยตอนนี้ดิวะ เดี๋ยวเขาก็ใช้มึงแทนเป้าหรอก"วีรภัทรหัวเราะ ก้มลงแชทกับคนรักอายุน้อยกว่าที่ตอนนี้พักเที่ยงอยู่ที่มหาวิทยาลัยต่อ




"ทำไมทีไอ้ครามมึงเรียกพี่ ทำไมทีกูนี่สัตว์วิ่งเล่นทั้งสวนเลยวะ?" ชายหนุ่มลูกครึ่งถามอย่างไม่เข้าใจ




"กูเคารพคนที่น่าเคารพ"




คนอายุน้อยสุดในกลุ่มตอบ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์ราวกับเด็กวัยรุ่นแรกรัก




"สาธุ ขอให้มึงโดนเด็กถอนหงอก" ธีรเชษฐ์แช่ง บรรจุกระสุนในปืนของตน ก่อนจะเดินไปประจำที่ของตัวเองบ้าง




คเชนทร์วางปืนลงบนโต๊ะ หอบหายใจเล็กน้อยหลังจากปลดปล่อยอารมณ์ที่คุกรุ่นไปกับลูกกระสุนบ้างแล้ว เดินไปหยิบขวดน้ำที่วางอยู่ด้านหลังขึ้นดื่ม




เขาไม่เคยอยากให้คนไข้หายไวๆมากขนาดนี้




เพราะถ้าไอ้ฝรั่งขี้นกนั่นไม่ยอมหาย คนที่ต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาลบ้าน่าจะเป็นเขาเองนี่แหละ




อยากให้หมอดูแลแบบวีไอพีใช่มั้ย?









ได้...หมอจะจัดให้แบบไม่มีวันลืมเลย คอยดู!




--------

อย่าเข้าใจผิด ไรท์ยังสอบไม่เสร็จ555555
กว่าจะสอบเสร็จแล้วปั่นตอนต่อไปออกมากลัวว่าจะโดนคนอ่านแหกอกเสียก่อน เลยเอาตอนพิเศษที่แต่งไว้นานแล้วมาขึ้นรายการ55555

เห็นในเม้นท์อีกเรื่องมีคนถามว่าหมอคเชนทร์มีเจ้าของรึยัง....
ไม่รู้สสิน้าาาา55555

สอบเสร็จแล้วจะรีบปั่นทุกเรื่อง ขออภัยในความล่าช้า หาเวลาหายใจไม่ได้จีจี :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2017 15:45:18 โดย littlepig »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :pig4: สอดส่องอยู่ตลอดเวลาเลย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด