“ช่วยอะไรพี่หน่อยนะ” ว๊าก ไอ้พี่โมบายจะให้กรูช่วยอะไรเนี่ย อย่าบอกนะว่า...ว่า...ว่า
“คุณหนูข๊า ของวางเสร็จแล้วค๊า”
“คร๊าบบบ จะไปเดี๋ยวนี้แหละคร๊าบบบ” เสียงพี่ไอ้โมบายทำเสียงจิ๊ จ๊ะ ใส่ประตู เมื่อเสียงของสาวใช้เหมือนเสียงระฆังพักยกช่วยให้ไอ้หนูมะขามผู้อ่อนโยนและบอบบางอย่างเรา รอดตัวไปอีกหนึ่งวัน (หรอ)
“อู้หู๊ น่ากินจังเลย” อิอิ ไม่ใช่ตะกละอะไรหรอกนะคร๊าบบ แต่ของว่างที่บ้านพี่โมบายนี้ไม่ว่างเหมือนชื่อเลย เพราะในจานเต็มไปด้วยขนมเค้ก และผลไม้
“เอ๊า กินซะ จะได้อ้วน ๆ “ พี่โมบายใช้ซ่อมจิ้มคุกกี้ชิ้นนึงจะวางลงในจานผม แต่ก่อนจะวางลงในจาน มือพี่โมบายก็หยุดชะงัก พร้อมกับเปลี่ยนทิศ ยื่นมาตรงปากผมแทน
“เอ้า ป้อน” ยิ้มตาหยีเลยนะเมิง แต่ผมเล่นตัวนิดนึง
“เอ้า ป้อน” คุกกี้ในซ่อมของพี่โมบายยื่นติดปากผมขึ้นอีกนิดนึง แต่ผมก็ยังเล่นตัวอยู่ดี
“เอ้า ป้อนนนนนน”
“อ๊ากกก ไอ้อร้า คร่อก ๆ ๆ” คราวนี้ไม่ต้องร้องขอให้อ้าปากครับ ไอ้พี่โมบายจับซ่อมที่มีคุกกี้อยู่ยัดเข้ามาในปากยังไม่ทันได้ตั้งตัว
“555 สมน้ำหน้า เล่นตัวดีนัก” เออ ขำนะเมิง เอาไปกินบ้างเลย
คราวนี้ผมเอาคืนครับ แต่เปลี่ยนจากคุกกี้ เป็นเค้กครีมสีขาวละเอียดแทน 555 ตอนนี้ไอ้พี่โมบายแยกไม่ออกแล้ว ระหว่างรุ่นพี่สุดหล่อ กับซานตาครอส เคราขาว อิอิ
“อะแฮ่ม อะแฮ่ม เล่นกันน่าสนุกเชียว ขอเล่นด้วยคนสิ”
ผมกับพี่โมบายค้างเสียงหัวเราะไว้กลางอากาศ พร้อมกับหันไปตามเสียง และภาวนาไปด้วยว่าอย่าให้เป็นจริง แต่ พระเจ้าก็ไม่เข้าข้างคนหล่อและคนน่ารักอย่างเรา ๆ เจ้าของเสียงอะแฮ่ม ๆ เหมือนตรีนติดคอนี้คงจะเป็นใครไม่ได้ นอกจากไอ้พี่มาริโอ ที่เดินตามหลังสาวใช้จอมจุ้นมาถึงห้องทานของว่าง
“แหม คุณหนูมีเพื่อนเป็นดาราด้วยหรอค๊ะเนี้ย” นังสาวใช้ยืนหมุนไปหมุนมา พร้อมกับทอดสายตาหยาดเยิ้มไปที่ไอ้พี่โอ้ ตรีนติดคอ โอ๊ะ ใช้แล้วครับ ต่อไปจากนี้ ผมจะเรียกไอ้พี่มาริโอ้ว่า “โอ้ ตรีนติดคอ” อิอิ ดีไหมครับเพื่อน ๆ
“อะแฮ่ม อะแฮ่ม เดี๋ยวผมขออยู่ตามลำพังกับเพื่อนหน่อยนะครับ แล้วเดี๋ยวจะมาถ่ายรูปคู่ด้วย นะครับพี่สาวสุดสวย” อีพี่โอ้ ตรีนติดคอ ดัดเสียงหล่อ พร้อมกับทอดสายตาที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุด ไปยังพี่สาวใช้ที่ยืนเหมือนองค์ลงอยู่ข้าง ๆ แต่ผมเห็นสายตาแล้วน่าจะเป็นเซ๊กเสื่อมมากกว่า
“มาได้ไงเนี่ย” ไอ้เจ้าของบ้านอย่างพี่โมบายมันยังงงตัวมันเองเลย นับประสาอะไรกับผม
“กินเค้กด้วยกันไหมครับพี่ อะแฮ่ม อะแฮ่ม” ผมยืนชิ้นเค้กที่เมื่อห้านาทีที่แล้ว เคยไปอยู่ที่รักแร้พี่โมบาย พร้อมกับทำเสียงเลียนแบบซักหน่อยให้พี่โอ้ ตรีนติดคอ
“อะแฮ่ม อะแฮ่ม ถ้าทำได้ พี่อยากได้ชิ้นที่อยู่ในปากเพื่อนโมบายของพี่ดีกว่า” แหม ก็แหงหละ ก็ชิ้นเค้กในปากพี่โมบาย เป็นสุดยอดบราวนี่ที่อร่อยที่สุดในโลก ที่ตอนนี้เหลืออยู่ในปากพี่โมบายเป็นชิ้นสุดท้ายแล้วนะซี้
“แต่เสียใจด้วยนะ เรากินแล้ว และก็กลืนไปแล้วด้วย” พี่โมบายตอบพร้อมกับทำหน้าเหมือนหมาหวงก้าง ถ้าเป็นผมนะ คายและส่งให้ไปแล้ววววว แต่แค่เค้กชิ้นเดียว ทำไมพวกเมิงสองคนต้องมองกันเหมือนจะแดรกตับกันด้วยวะเนี่ย
“แล้วนี่มาได้ไงเนี่ย โอ้” พี่โมบายทักขึ้นเมื่อกลืนเค้กบราวนี้ลงท้องไปแล้ว
“อะแฮ่ม อะแฮ่ม เราเพื่อนกันไม่ใช่หรอ” อี่พี่โอ้ ตรีนติดคอ ทำน้ำเสียงยียวนกวนประสาทผมกับพี่โมบายสุดฤทธิ์ เออ เน้อะ เห็นพี่โอ้ บอกว่าเขาเคยเป็นเพื่อนกับพี่โมบาย เพื่อนกัน แล้วทำไมจะมาเที่ยวบ้านกันไม่ได้
“แล้วนี่ น้องมะขามมาอยู่ที่บ้านเพื่อนพี่ได้ยังไงกันครับ อะแฮ่ม ๆๆ”
จะบอกไอ้พี่โอ้ ตรีนติดคอดีไหมเนี่ยว่าเราเป็นแฟนพี่โมบาย
“มะขามเป็นแฟนเรา” โอ๊ะ โอ๊ะ ไม่ได้พูดนะคร้าบบ ผมไม่ได้พูดนะคร๊าบบบ แต่พี่โมบายคร๊าบบบที่เป็นคนพูด อิอิ ปลื้มใจจัง
“อะแฮ่ม ๆ ในที่สุด ก็พูดออกมาแล้วสินะ” อีพี่โอ้ พูดพร้อมกับเอามือลูบคางด้วยมาดที่เหมือนสรพงษ์ ชาตรี สมัยหนุ่ม ๆ
“ทีนี้นายก็รู้แล้วสินะ และฉันเตือนแกไว้ก่อนเลยนะว่าห้ามมายุ่งกับมะขามของฉันอีก ไม่งั้นได้เห็นดีกันแน่” ใจเย็น ๆ ไม่ต้องแย่งกัน ได้ทุ้กคน อิอิ ไม่ใช่ อิอิ หุหุ รู้สึกตัวเองเหมือนพลอย เฌอมาลย์ ยังไงไม่รู้
“อะแฮ่ม ๆ แล้วคอยดูละกัน พอดีฉันยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุด้วยสิ หึหึ เออ โมบาย ฉันถามอะไรหน่อย แกยังจำสายป่ายได้ไหม น้องสายป่าน ของแกไงหละ เขากลับไทยมาแล้วนะ ฉันว่า ฉันจะไปเยี่ยมเขาซะหน่อย” อีพี่โอ้ ตรีนติดคอยักคิ้วขึ้นหน่อย ๆ ดูเชิ่ด ๆ พร้อมกับสาวเท้าก้าวออกจากบ้านไป โดยมีผมยืนงงอยู่กับที่ ส่วนไอ้พี่โมบาย ถ้าไม่สังเกตก็ไม่รู้ว่าหน้าเสียไปเล็กน้อยถึงปานกลาง
“มะขาม ไหนว่าจะโทรหาแม่ไม่ใช่หรอ เบอร์อะไรอะ เดี๋ยวพี่ต่อให้” สักสามวินาทีเห็นจะได้ พี่โมบายก็กลับมาอยู่ในสีหน้าทีปกติ
“เออ ใช่ๆๆ จะโทรหาแม่ จะโทรหาแม่” ผมลืมเรื่องเมื้อกี้ไปเสียสนิท เมื่อพี่โมบายถามถึงเรื่องแม่ที่ลัลล้าอยู่ที่เกาหลี
ตี๊ด....ตี๊ดดดดด....ตี๊ดดดดด
“ฮัลโหลแม่” โอ้ย เสียงดังมาก ๆ ไม่รู้ว่าแม่ของผมอยู่เกาหลี หรืออยู่ตลาดนัด
“ว่าไงจ๊ะลูก คิดถึงลูกม๊ากกก” แหม คิดถึงแล้วทำไมไม่เห็นโทรมาเลยย๊ะ
“โอ้ย เสียงดังมากๆๆ แม่ทำอะไรอยู่ครับเนี่ย” ผมตะโกนตอบกลับไป โดยมีไอ้พี่โมบายหัวเราะคริก คริก
“อ้อ ยังไม่ถึงกำหนดกลับนิจ๊ะ”
“ผมไม่ได้ถามว่าแม่จะกลับเมื่อไหร่ ผมถามว่าแม่ทำอะไรอยู่” โอ้ย ต้องใช้ไมค์ไหมเนี่ย
“อ้อ แม่กำลังเพ้นท์เล็บอยู่จ๊ะ”
“ห๊า เพ้นท์เล็บเนี่ยนะ เล็บแม่บานกะใบพาย จะเอาที่ไหนไปเพ้นท์เนี่ย”
“ลูกนี่ไม่รู้อะไรซะเลยนะเนี่ย แม่ก็ต่อเล็บก่อนสิจ๊ะ แล้วค่อยเพ้นท์ แล้วนี่อยู่ไหนเนี่ย”
“อยู่บ้านพี่โมบายครับ มาเล่นเกม” ผมมองหน้าพี่โมบายนิดนึงก่อนที่จะตอบแม่ไป
“เกมอะไรจ๊ะ เกมกดหรือเปล่า อิอิ”
“ทะลึ่งละแม่” แหม แม่ผมนี่ แก่แต่ตัวจริง ๆ ส่วนพี่โมบายขำกร๊ากกเลยครับ
“ติ๊ด ติ๊ด.....ติ๊ด ติ๊ด” อ้าว โทรศัพท์ไอ้พี่โมบายมีสายซ้อนเข้ามานิหว่า
“แม่ ๆ แค่นี้ก่อนนะแม่ นี่เอามือถือพี่โมบายโทร พอดีมีสายเข้ามา” ใครโทรเข้ามาวะ
“ได้จ๊ะ อีกสองวันเจอกันนะจ๊ะ”
“ครับ หวัดดีครับ” พอผมกดวางเสร็จ ก็หันไปบอกพี่โมบายว่ามีสายเข้า พอพี่โมบายหยิบโทรศัพท์ไปดู ผมสังเกตได้ว่าหน้าพี่ซีดงนิดนึง ก่อนหันมามองหน้าผมที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่หูนี่ผึ่งเป็นโทรโข่งแล้วว
“เออ มะขาม เดี๋ยวพี่มานะ แป๊บนึง มะขามกินตรงนี้ให้หมดนะ...ที่รัก” กรูไม่เคลิ้มหรอกเว้ย มาเรียกกรูทีรัก ว่าแต่เมิงนั่นแหละ ใครโทรมา แล้วจะไปไหน
แต่ไม่ทันแล้ว พี่โมบายเดินหายเข้าไปในครัวเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าไอ้มะขามอย่างเรามีหรือจะยอมแพ้ ต้องสืบ ยังงี้ต้องสืบ...