ขอโทษษษษษษษษษษษษษษษษษ ที่มาต่อช้านะ ช่วงนี้ยุ่งมากๆๆๆๆ
มาต่อกะเลยดีก่า
+++++++++
พอทำธุระเสร็จ ผมก็ด้อม ๆ มอง ๆ ออกมาจากห้องน้ำ เห็นพี่โมบายยืนอยู่ในครัว สงสัยคงจะหาอะไรให้กินละมั้ง ผมเลยเดินไปยังห้องรับแขกที่ใหญ่โตมโหฬาร มีโซฟาสีสวยอยู่ตรงกลางห้อง มุมห้องประดับตกแต่งด้วยกระถางต้นไม้ใบสวย พร้อมกับกรอบรูปครอบครัวของพี่เขาบนผนัง ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว
“เอ้า นั่งลงสิ” พี่โมบายเดินมาข้างหลัง และบอกให้ผมนั่งลง
“อ้อ ครับ นั่งครับ” ผมรีบนั่งลงบนพื้นหน้าทีวีทันที
“จะบ้าหรอ นั่งบนนี้ โซฟานี่” พี่โมบายงงกับอาการโก๊ะของผม รีบดึงผมลุกขึ้นจากพื้นและให้นั่งที่โซฟา
“เออ บ้านพี่นี่เลี้ยงแมวด้วยหรอเนี่ย พี่ไม่ยักกะรู้แฮะ” พี่โมบายนั่งลงข้าง ๆ และหันมาถามผม
“ครับ แมว แมวจริง ๆ ตัวเบ่อเริ่มเลย” ระหว่างพูด ผมก็เอามือเช็ดเหงื่อไป โกหกทีไร ตื่นเต้นทุ้กที
“แล้วตอนนี้อยู่ไหนหละ” พี่โมบายเลิกคิ้วถามผม
“ในชักโครกครับ”
“หา ในชักโครกเนี่ยนะ”
“เอ้ย ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึงผมเห็นมันนั่งบนชักโครก แต่ตอนนี้มันอยู่ไหนแล้วไม่รู้ครับ” เฮ้ยยย รอดตัวไป
“คุณหนูขาๆๆๆ จะทานของว่างเลยดีไหมคะ” เสียงสาวใช้ลอดออกมาจากในครัว อิอิ คุณหนูหรอ ตัวอย่างกะควาย
เป็นคุณหนู น่าจะเก็นหนูควายมากกว่า
“ขำอะไร” ท่าทางพี่โมบายจะได้ยิน หันมามองผมตาเขียวปั๊ด
“อ๊ะ เปล่าซะหน่อย ไม่ได้ขำอะไรคร้าบบ” ผมรีบเอาหัวไปถู ๆ ไหล่พี่โมบายเป็นการอ้อนไปในตัว อิอิ ต้องบริหารเสน่ห์ซะหน่อย
“อย่าทำแบบนี้ เดี๋ยวพี่ปล้ำไม่รู้ด้วยนะ” พอสิ้นเสียงพี่โมบาย ผมรีบดีดผึงตีลังกาหน้าสองตลบออกห่างจากพี่โมบายทันที
“นี่ๆๆ ไม่ต้องกลัวขนาดนั้น พี่ไม่ทำอะไรหรอกหน่า....ถ้ามะขายไม่ยอม” อ้าว ไอ้บร้านี่
“ไหนหละ เกม ชวนผมมาเล่นเกมไม่ใช่หรอ” ต้องเปลี่ยนเรื่อง ไม่งั้นเปลืองตัวแน่ๆ
“อ้อ อยู่บนห้องนะ ปะ ขึ้นไปด้วยกัน” พูดจบ พี่โมบายก็จูงมือผมค่อย เดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง ตรงเข้าสู่ห้องนอน ตรงหน้าประตูห้องนอนพี่โมบาย มีป้ายแขวนไว้ว่า “ว่าง” แต่พอพี่โมบายดันตัวผมเข้าไปในห้องและเดินตามเข้ามา ผมแว๊บ ๆ ว่าเห็นพี่โมบายไปขยับป้าย เปลี่ยนเป็น “ไม่ว่าง” ก็ใช่นะสิ มีคนอยู่จะว่างได้ยังไง เน้อะ
“โหพี่ ห้องนอนพี่นี่รวมห้องนอนผม ห้องน้ำ ห้องนอนแม่ ห้องรับแขกเข้าด้วยกันได้เลยนะครับเนี่ย
“ใหญ่หรอ” พี่โมบายยืนกอดอกอย่างภาคภูมิใจ
“เปล่า ความเหม็น” ตอนนี้พี่โมบายเหี่ยวลงทันที
“เดี่ยวจะโดนมิใช่น้อย” พี่โมบายขู่ผม ขณะเดินไปยังทีวีในห้องนอน พร้อมกับเสียบเครื่องนู้นกับปลั๊กตัวนี้ และเอาปลั๊กอันนี้ เสียบกับเครื่องอันนู้น โอ้ย ปวดหัว ดีนะที่เราเล่นเป็นอย่างเดียว ระหว่างที่รอให้พี่โมบายต่อเครื่อง ผมก็ไปนอนคอยท่า อะอะ อย่าคิดเยอะ นอนคอยเล่นเกมต่างหาก ไม่ใช่คอยทำอย่างอื่น
“แหม สบายเชียวนะเรา” พอพี่โมบายต่อเกมเสร็จ ก็เดินมานั่งข้าง ๆ ผม พร้อมกัวลูบหัวเบาๆๆ
“นี่ ไม่ใช่กระรอกนะ จะมาลูบหัวเล่น”
“โหยยยยย สูงไปมั้ง กระรอก แค่หมาก็พอ” พี่โมบายพูดไปก็ขำไป ส่วนไอ้กระผมก็นอนแก้มป่องตาหรี่ด้วยความงอน
“เอาละๆๆ มาแล้วๆๆๆ” ผมยังงอนไม่ทันพอ เกมก็เริ่มพอดี ทำให้ต้องหยุดงอนก่อน และมาเล่นเกมอย่างเอาเป็นเอาตาย...
“เหนื่อยจังเลยอะพี่”
“พักก่อนไหม มะขาม”
“มะเอาอะ ยังไม่หมดแรงเลย ต่ออีกนะ”
“แต่ว่าพี่เมื่อยแล้วอะ ตั้งหลายท่าแล้ว
“งั้นลองท่านี้มะ ไม่เหมื่อยเท่าไหร่ แถมยังมันด้วย”
“มีท่าไหนที่พี่ยังไม่ได้ทำอีกหรอ”
“ท่านี่ไง ท่านอนคว่ำ”
“โหย ท่านั้นอะ เมื่อยชะมัด”
“งั้นท่านั่งมะ”
“ท่านั่งหรอ ก็ดีเหมือนกัน”
หลังจากที่เราสองคนเถียงกันไป เถียงกันมาเรื่องท่าในการเล่มเกม จนในที่สุดก็มาจบกันที่ท่านั่ง หลังจากเปลี่ยนมาหลายท่า
“จบเกมนี้ พี่ว่าเราลงไปข้างล่างกันเถอะนะ พี่หิวอีกแล้วอะ”
“โหย เพิ่งกินไปไม่ใช่หรอ” ผมตอบพี่โมบาย แต่มือผมยังกดยิ๊กๆๆๆ อยู่ที่จอยสติ๊ก
“จะลงไม่ลง”
“ไม่”
“ถ้าไม่ลง พี่ปล้ำนะ”
“ลงก็ได้” เมิงใช้ไม้นี้ขู่กรูเลยหรอ ไอ้บร้า
“แต่ผมขอพี่ข้อนึง ได้เปล่า” พี่โมบายทำหน้างง ๆ นิดนึง ก่อนที่จะตอบตกลง
“ผมขอโทรหาแม่นะ”
“ก็เอาดิ ใครไปห้ามละ”
“แต่เป็นมือถือพี่นะ” อิอิ ถ้าใช้ของตัวเองโทรก็แพงอะดิ
“โห งกนิหว่า ได้ๆๆๆ” อิอิ ยังไงพี่โมบายก็ต้องยอมเราอยู่วันยังค่ำ
“คิดถึงแม่หรอ” ลูบหัวกรูอีกละ
“อืม ใช่ ไปตั้งสามวันแล้ว ไม่เห็นติดต่อกลับมาเลย”
“ไม่ว่างมั้ง” ไม่ต้องแก้ตัวแทนเลย ยังไม่ทันไร แก้ตัวแทนกันซะแล้ว
“แหม จะไม่มีเวลาเลยหรอ”
“อืม งั้นเอางี้ เดี๋ยวไปกินของว่างเสร็จแล้ว เราโทรหาแม่มะขามกันนะ”
“ได้ครับ” ผมยิ้มตาหยีรับพี่โมบาย ที่เอามือมาลูบหัวผม...อีกแหระ
แต่ก่อนไป พี่ขออะไรน้องมะขามอย่างดิ" เอ๊ะๆๆ ชักไม่ชอบมาพากลซะแล้ว และทำไมต้องยื่นหน้ามาอย่างนั้นด้วย
นี่ จะทำอะไรกรูเนี่ย