ชมนาดเย้าภุมริน [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนพิเศษ๐๒-๐๓ ๑๖.๐๕.๖๑ หน้า ๐๗
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ชมนาดเย้าภุมริน [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนพิเศษ๐๒-๐๓ ๑๖.๐๕.๖๑ หน้า ๐๗  (อ่าน 105537 ครั้ง)

ออฟไลน์ TiwAmp_90

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ชอบเจ้าหลวงภุมรินก็ตรงที่รักเมีย หลงเมีย เชื่อเมีย อยู่ในโอวาทเมีย และมีเมียเดียวนี่แหละค่า ส่วนเจ้าชมนาดก็ฉลาด รู้จักใช้มารยาในเวลาที่ถูกที่ควร นี่ไม่ได้ด่านะคะ ชมนางอยู่จริงๆ ชอบบบ! ปล.อยากรู้ว่าทำไมเจ้าหลวงถึงไม่มีพระสนมมาตั้งแต่แรกจังค่ะ

ออฟไลน์ Siran

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้วค่ะ พออ่านบทแรกก็ปังเลย ติดงอมแงม 55555

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
ชมนาดเย้ายวนส่งกลิ่น...ภุมรินหลงใหลคะนึงหา ตอนพิเศษ

   วันพรุ่งแล้วที่จักเป็นวันขึ้นปีใหม่  ทางวังหลวงจึงจัดงานพิธีศาสน์เพื่อความเป็นสิริมงคล แลมีพิธีฉลองร่วมกับเหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ เจ้าชมนาด พระชายาในองค์ภุมริน มารดาแห่งภุมริกาจึงมีหน้าที่เป็นแม่งาน ดังนั้น เจ้าชมนาดจึงยุ่งเสียจนหน้าที่เลี้ยงลูกตกเป็นขององค์ภุมริน พระวรกายสูงใหญ่กำยำบรรทมอยู่บนพระยี่ภู่ในอ้อมพระกรแกร่งมีเจ้าบัวงามนอนซุกพระอุระอยู่ ส่วนเจ้าภุชงค์นั้น เมื่อตื่นขึ้นมิเจอมารดา แลพระบิดากับน้องก็บรรทมอยู่ องค์รัชทายาทตัวน้อยปีนป่ายข้ามพระวรกายบิดาไปมา หากแต่พระบิดา แลน้องน้อยก็มิมีท่าทีว่าจักตื่นจากห้วงนิทรา

“แอ้ แอ้ ป้อ ป้อ”ส่งเสียงพลางใช้มือดึงขยำก้นกลมของเจ้าบัวน้อย จนน้องดิ้นดุกดิก แต่ก็มิยอมตื่นจากฝันหวาน



แปะ



ฝ่ามือเล็กฟาดแปะลงบนพระพักตร์พระบิดา

“อืม...เจ้าภุชงค์ตื่นแล้วหรือลูก”ดวงตาใสแจ๋วทอดมองพระพักตร์งามของบิดา องค์ภุมรินปรือพระเนตรมองหน้าลูกน้อยที่จับจ้องพระองค์มิวางตา



แปะ



“ฮึก....แง~~”มือเล็กเหวี่ยงฟาดอีกครา แต่ครานี้เป็นแก้มกลมของเจ้าบัวงาม เมื่อถูกพระเชษฐาฉุดกระชากออกจากฝันหวานก็สะดุ้งเฮือกสุดตัว ก่อนจักแผดเสียงร้องดังลั่นตำหนัก

“เจ้านาคน้อย!!...มิทำน้องหนาลูก”ทรงดุโอรสองค์โตเบาๆ แลช้อนโอรสองค์เล็กขึ้นปลอบ

“ฮึก....ฮึก....แง~~”เมื่อโดนพระบิดาดุก็น้อยอกน้อยใจ แผดเสียงร้องออกมาดังมิแพ้น้อง เอนกายซบพระเขนยอย่างช้ำใจ

“เจ้าภุชงค์...เจ้าบัวงาม”วางเจ้าคนน้องลงก่อนจักคว้าคนพี่เข้ากอด กลายเป็นว่าพระอุระกว้างตอนนี้มีเจ้าลิงน้อยทั้งสองซุกซบอยู่ แลแข่งกันแผดเสียงร้อง

“แง~~”

“แง~~”

“โอ๋ ลูกพ่อเงียบหนาลูก”พระหัตถ์ทั้งสองข้างลูบแผ่นหลังเล็กของลูกสองคนปลอบ

“ฮึก....อึก”

“ฮึก”พอร้องจนเหนื่อยก็ค่อยๆคลายสะอื้น แลเมื่อเห็นอีกคนเงียบก็เงียบตาม

“เฮ้อ....”องค์ภุมรินถอนพระปัสสาสะอย่างโล่งพระทัย

“ป้อ...ป้อ”

“จ๋าลูก”

“หม่ำๆๆ”

“หิวหรือเจ้า”

“หม่ำๆๆๆ”

“อ่าๆ...ประเดี๋ยวพ่อพาไปหาแม่หนา”ตรัสแล้วก็อุ้มลูกน้อยทั้งสองเข้าพระกฤษฎี กระเตงเสด็จไปที่ตำหนักศาสน์โดยมีสุธีองครักษ์หลวงคนสนิทถือพระกลดให้นายเหนือหัวทั้งสามเดินตาม

“หม่ำๆๆๆๆๆ”

“หม่ำๆๆ”

“รู้แล้วลูก พ่อรู้แล้ว”

“หม่ำๆๆๆ”

“หม่ำๆๆ”

“น้อง”ตรัสเรียกเมียรักที่กำลังร้อยมาลัยสำหรับถวายพระวันพรุ่ง

“เสด็จพี่”

“แอ้ๆๆ...หม่ำๆๆๆ”

“หม่ำๆๆ...แอ้!!”

“กระไรกันลูกเจ้าภุชงค์ เจ้าบัว”

“ลูกหิวจ้ะ”

“หม่ำๆๆๆ”

“แอ้...หม่ำๆๆ”

“อ๊ะ...เจ้าบัวมิทำแบบนี้หนาลูก ประเดี๋ยวก็ตกลงไปดอก”เจ้าบัวงามทิ้งตัวไปหาแม่เสียจนเจ้าชมนาดผวารับแทบมิทัน เจ้าตัวน้อยเกาะคอมารดาเป็นลูกวานร

“หม่ำๆๆ”

“จ้ะๆ แม่รู้แล้ว”ว่าแล้วก็อุ้มลูกน้อยออกจากตำหนักศาสน์ โดยมีพระภัสดาอุ้มลูกน้อยอีกคนตามมา เจ้าชมนาดเลือกใช้ตำหนักรับรองที่อยู่ใกล้ๆเป็นที่ให้นมลูก  มือเล็กปลดผ้าแถบคาดอกออกก่อนจักประคองเจ้าบัวน้อยให้นอนลงในอ้อมแขน เจ้าบัวน้อยเมื่อจัดที่ทางได้แล้วก็มุดหน้ากับอกมารดา ปากเล็กงับจุกนมเป็นกระเปราะของมารดา แลออกแรงดูดดึงจนน้ำนมไหลให้ดื่มกิน

“แอ้ๆๆ”เจ้าภุชงค์ที่เห็นน้องได้กินก็ตะกายตัวจักไปหาแม่

“เจ้าภุชงค์ให้น้องกินก่อนหนาลูก”

“แอ้ๆๆ”ดิ้นจนพระบิดาต้องกอดไว้แน่น

“จุ๊บๆๆๆ”ส่วนเจ้าบัวงามเมื่อได้ยินเสียงพี่งอแง ก็เหลือบหางตามองก่อนจักดูดดึงจุกนมของมารดาอย่างเร่งรีบราวกับกลัวโดนแย่ง

“อะ โอ๊ย..เจ้าบัวเบาเถิดลูกแม่เจ็บหนาเจ้า”

“เจ้าบัวงามค่อยๆลูก ถันแม่เจ้าช้ำหมดแล้ว”

“แอ้!!”เจ้าภุชงค์ส่งเสียงราวกับจักดุ

“อื้อ...จุ๊บๆๆๆ”ครางในลำคออย่างไม่พอใจ ดูดดึงจุกนุ่มหยุ่นจนแดงช้ำ

“แอ้!!...แอ้...ฮึก”เมื่อเห็นน้องได้กินแลตนมิได้ ก็ออกอาการงอแง คิ้วเล็กขมวดมุ่น ริมฝีปากเบะออกจนโค้งคว่ำ

“เจ้าภุชงค์ให้น้องก่อนหนาลูก”องค์ภุมรินตรัสพลางอุ้มลูกเขย่าเบาๆ

“เจ้าบัวให้พี่เจ้าบ้างหนาลูก”เจ้าชมนาดว่าพลางดึงจุกนมตนออกจากปากเล็กพลางส่งลูกน้อยให้พระภัสดา แลรับเจ้าภุชงค์เข้ามาในอ้อมกอด เจ้านาคน้อยดีใจกระโดดดีดตัว ผิดกับคนน้องที่นิ่งงัน แลเบะปากซบหน้ากับพระอังสะพระบิดา สะอื้นอย่างช้ำใจ เจ้าภุชงค์ที่ได้งับจุกนมแล้วก็ดูดกินอย่างอารมณ์ดี


.
.
.


รุ่งขึ้นวันปีใหม่ทั้งสี่พระองค์เข้าร่วมพิธีศาสน์ในตอนเช้าพร้อมเหล่าขุนนางขั้นผู้ใหญ่ พระโอรสน้อยทั้งสองพระองค์นั่งอยู่บนพระเพลาบิดา มารดา มือเล็กพนมตามพ่อแม่ ได้รับการผูกข้อไม้ข้อมือจากพระคุณเจ้าท่าน

“อึก...”

“...แอ้”

ส่งเสียงเล็กน้อยเมื่อหยดน้ำมนต์ที่พระท่านพรมกระเด็นมาโดนตัว นัยน์ตาเบิกกว้าง ปากเล็กเผยอขึ้น นั่งตัวแข็งเสียจนเรียกเสียงพระสรวลจากบิดา


เมื่อพิธีศาสน์เสร็จสิ้นก็เหลือเพียงงานเลี้ยงฉลองช่วงค่ำของวันนี้ เจ้าชมนาด แลพระภัสดาจึงพาลูกน้อยทั้งสองกลับมาพักผ่อนที่ตำหนักหลวง ความเหนื่อยล้าจากกาเป็นแม่งานจัดงานวันนี้ทำให้เจ้าชมนาดเผลอหลับไปหลังจากที่เอาลูกน้อยทั้งสองนอนกลางวัน

“หึหึหึ”องค์ภุมรินทอดพระเนตรเมีย แลลูกที่นอนหลับตาพริ้มด้วยความเอ็นดู เอนพระวรกายซ้อนแผ่นหลังบางของเจ้าชมนาด ก่อนจักเผลอบรรทมไป

“อึก...อือ”เจ้าบัวงามดิ้นน้อยๆ ก่อนจักค่อยๆปรือนัยน์ตากวางขึ้นกระพริบปริบๆ เจ้าตัวน้อยคนน้องพลิกตัวนอนคว่ำก่อนจักดันตัวขึ้นนั่งแบะขา ใบหน้าเล็กดูมึนงงยังมิตื่นดี นัยน์ตากวางเหลือบมองพระเชษฐาที่นอนหลับตาพริ้มข้างกัน แลเกิดอาการหมั่นเขี้ยว มือเล็กขยุ้มผมพระเชษฐาเต็มมือเขย่าไปมาจนเจ้านาคน้อยเบะปาก เมื่อลืมตาขึ้นเห็นผู้กระทำก็ส่งเสียงข่ม

“แอ้!!”

“แอ้!!!”ยอมเสียที่ไหนตวาดกลับไป ปล่อยมือจากกลุ่มผมภุชงค์น้อย ก่อนจักเงื้อฟาดเพี้ยลงบนแก้มกลมของพระเชษฐา

“อึก...”เบะปากด้วยความเจ็บผลักน้อยเสียจนผงะ

“แอ้...ฮึก”ตั้งท่าจักไห้

“อืม...”เจ้าชมนาดขยับตัวเล็กน้อยแต่ก็มิตื่น แลเมื่อเห็นแม่ขยับก็ชะงักทั้งสองคน จากที่ตั้งท่าจักไห้เมื่อครู่ก็เงียบกริบ

“แอ้”ส่งเสียงพลางไถตัวลงจากพระแท่นบรรทมไปนั่งแปะบนพื้น เมื่อเห็นน้องลงก็ไถตัวลงตาม สองพี่น้องถึงจักยังพูดมิได้ แต่ก็เดินได้แข็งแล้ว จับมือกันเดินเตาะแตะออกนอกห้องบรรทม แลในเวลาที่นายเหนือหัวพักผ่อนจึงมิมีข้าหลวงมารบกวน เจ้าตัวน้อยทั้งสองลัดเลาะออกจากตำหนักหลวงโดยที่ข้าหลวงรับใช้มิทันได้มอง

“แอ้”

“แอ้”ส่งเสียงอย่างอารมณ์ดี มือเล็กทั้งสองคู่เกาะพระบัญชรไว้แล้วพากันขย่มตัวขึ้นลง

“อุๆๆๆ”

“อู้”เห็นบรรดาแมวทรงเลี้ยงของพระบิดาก็ส่งเสียงตื่นเต้น ก้าวเท้าเตาะแตะออกจากตำหนักหลวงตามแมวไป จับมือพากันวิ่งตามแมวไปทางท้ายวังหลวง เพลานี้ข้าหลวงในวังต่างก็วุ่นอยู่กับการเตรียมงานฉลองค่ำนี้จึงมิทันสังเกตเห็นองค์รัชทายาท แลเจ้าน้อยที่ซุกซนไปทั่ววังหลวง


.
.
.


เพลาผ่านไปกว่าชั่วยาม

“อือ..อืม”เจ้าชมนาดครางในลำคอเบาๆ มือเล็กควานหาลูกน้อย แต่ก็เจอเพียงความว่างเปล่า คิ้วเล็กขมวดก่อนนัยน์ตากวางจักเปิดขึ้น เมื่อมองภาพตรงหน้าบนพระยี่ภู่ที่ควรจักมีเจ้าภุชงค์ แลเจ้าบัวงามนอนอยู่กลับว่างเปล่าไร้ร่างลูกน้อยทั้งสอง เจ้าชมนาดเบิกตากว้างปัดพระกรพระภัสดาที่พาดเอวบางออก แลผุดลุกอย่างตกใจ

“อืม..มีกระไรหรือน้อง”

“เสด็จพี่ ลูก!!!...ลูกหายพระเจ้าค่ะ”

“อืม...หา!!”ผุดลุกตามเมียรัก กวาดพระเนตรมองรอบห้องบรรทมก็มิเห็นลูกน้อยทั้งสอง

“....”เจ้าชมนาดหน้าซีด กายบางวิ่งออกจากห้องบรรทมตามด้วยพระภัสดา ร้องเรียกหาลูกน้อยทั้งสองจนข้าหลวงตกอกตกใจ

“มีกระไรเพคะพระชายา เกิดกระไรขึ้นเพคะ”

“อุ่น!!! อึก...ลูกข้า เห็นลูกข้าหรือไม่!!”

“องค์รัชทายาท แลเจ้าน้อยหรือเพคะ..ก็ทรงอยู่ในห้องบรรทมกับพระองค์นี่เพคะ”

“!!!”ได้ยินแล้วลมแทบจับ

“บอกข้าหลวงแลองครักษ์ในวังหลวงออกตามหาองค์รัชทายาท แลเจ้าน้อยประเดี๋ยวนี้”องค์ภุมรินประคองร่างอ่อนปวกเปียกของเมียรัก แลรับสั่งอย่างเคร่งเครียด


.
.
.


“อู้...อุๆๆๆ”

“อุๆๆ..แอ้”
ด้านเจ้าตัวน้อยทั้งสองก็หาได้รับรู้ถึงความกังวลใจของพอ แลแม่ไม่ พากันเล่นดิน เล่นทรายจนมอมแมมไปหมด มิเหลือเค้าพระโอรสแห่งภุมริกาเสียแล้ว

“แอ้...อุๆ”

“คิกๆ...อ้า..อุ๊..อึก”เจ้าบัวงามวิ่งก่อนจักสะดุดขาตัวเองล้มกลิ้งเป็นลูกขนุน นอนแผ่บนพื้นหญ้านุ่ม ก่อนจักหัวเราะเอิ๊กอ๊าก เจ้าบัวงามลุกขึ้นก่อนจักตีลังกาล้มกลิ้งลงไปอีกครา แลหัวเราะจนตัวโยน ก่อนจักทำวนไปซ้ำๆ ส่วนเจ้าภุชงค์ก็พยายามมุดเข้าไปในพุ่มไม้ที่เจ้าตัวเห็นแมวสีสวาทมุดเข้าไป

“ภุชงค์!!...เจ้าบัว!!!”เมื่อได้ยินเสียงบิดาก็ชะงัก เจ้าบัวงามหยุดค้างในท่าโก่งโค้งมองลอดหว่างขา ในขณะที่เจ้านาคน้อยคลานถอยหลังออกจากพุ่มไม้ องค์ภุมรินหอบหายพระทัยทอดพระเนตรลูกน้อยทั้งสอง แลแทบยกพระหัตถ์กุมพระเศียร หากเจ้าชมนาดได้มาเห็นสภาพลูกรักในตอนนี้คงได้เป็นลมล้มพับไปเป็นแน่

“ป้อๆๆๆ”

“แอ้ๆๆ”

เดินเตาะแตะมาเกาะพระชานุของบิดา เจ้าบัวงามเงยหน้ายิ้มหวานให้พลางซบใบหน้าแนบพระชานุ ส่งเสียงฮึมฮัมในลำคออย่างอารมณ์ดี ภุชงค์เมื่อเห็นน้องอ้อมพ่อก็คลานเร็วๆมาอยู่ที่พระบาท มือเล็กตีแปะๆที่หลังพระบาทขาว

“กลับตำหนักหลวงประเดี๋ยวนี้ ทั้งคู่!! ป่านนี้แม่เจ้าเป็นลมเป็นแล้งไปแล้วกระมัง”ตรัสพลางช้อนลูกน้อยทั้งสองเหน็บพระกฤษฎีกระเตงกลับตำหนัก


.
.
.


“พระทัยเย็นก่อนหนาเพคะพระชายา”อุ่นว่าพลางบีบนวดแขนขาเล็กของคนเป็นนาย

“ฮึก...ลูกข้า หายไปตั้งแต่ตอนไหน เหตุใดจึงมิมีผู้พบเห็น”

“พระทัยเย็นไว้เพคะ ฝ่าบาทท่านทรงเสด็จตามแล้ว ประเดี๋ยวคงจักกลับมา อย่ากังวลไปเลยเพคะ”ข้าหลวงคนสนิทอีกคนว่าพลางจอยาหอมที่จมูกโด่งรั้น

“พระชายาองค์ภุมรินเสด็จกลับมาแล้วเพคะ”อุ่นว่าเมื่อเห็นนายเหนือหัวเสด็จเข้ามาพร้อมกระเตงเจ้านายน้อยๆทั้งสอง

“เสด็จพี่..ลูกแม่!!”ผุดลุกวิ่งเข้าไปหาพระภัสดา

“มิเป็นไรหนาน้องลูกปลอดภัยดี”ตรัสพลางวางลูกทั้งสองลงพื้น

“ลูกจ๋า ไปเล่นซนที่ไหนมาหนาลูก”ทรุดกายลงกอดร่างเล็กของลูกแน่น เจ้าตัวน้อยก็ซบหน้ากับไหล่เล็กของมารดาอย่างออเซาะ

“อุๆๆๆ”ส่งเสียงราวกับจักเล่าให้ฟังว่าไปเจอกระไรมาบ้าง

“แอ้ อู้ๆ”

“จ้ะๆ...ไปเล่นสนุกใช่หรือไม่”ลูบแผ่นหลังเล็กเบาๆ

“อุ่นเจ้าพาเจ้าภุชงค์ แลเจ้าบัวงามไปอาบน้ำผลัดผ้าทีเถิด”

“เพคะฝ่าบาท”

“น้อง...ให้ลูกไปอาบน้ำผลัดผ้าก่อนหนา”ตรัสพลางแยกแม่ลูกออกจากกัน

“พระเจ้าค่ะ”รับคำแลปล่อยให้ข้าหลวงคนสนิทพาลูกน้อยออกไป

“หึหึหึ...เช็ดน้ำตาก่อนดีไหม”ตรัสเย้าพลางใช้พระดรรชนีเกลี่ยคราบน้ำตาบนแก้มนวลให้เมีย

“น้องใจหายหมดเลยพระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ ไปเล่นที่ท้ายวังนั่นแล จักโกรธหรือก็โกรธมิลง น่าเอ็นดูเสียขนาดนั้น”

“นั่นสิพระเจ้าค่ะ”ใครกันจักทำใจแข็งโกรธเจ้าตัวน้อยได้

“แสบนักทั้งคู่”รั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมพระกร กดจูบที่ขมับขาว

“คิกๆ ก็ลูกพระองค์นั่นแลพระเจ้าค่ะ”

“หึหึ ข้ามิปฏิเสธ”








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-05-2019 08:17:36 โดย Thichadad3938 »

ออฟไลน์ nutae or

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เจ้าจันทร์ กับ เจ้าบัว....... :ling1: มาต่อนะๆๆๆ น่าสนุกอ่ะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น่ารักมากๆเลย รออ่านเจ้าบัวนะ  o13 o13 o13

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ยกนิ้ว o13 o13 o13 o13

..อยากอ่านรุ่นลูกจัง  :m13: :hao3: :m13: :m13:

ออฟไลน์ mickeyz.min

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สนุกอ่านแบบวางไม่ลง

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
แสวได้โล่ทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ชอบชมนาดจังฉลาดสู้คนภุมรินก็รักเมียที่สุดไม่มีไขว้เขวเลยชอบค่ะ

ออฟไลน์ mu_mam555

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
น่ารักมากเลยค่า
ภาษาสวย
อ่านเพลินเลยค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
สนุกมากๆเลย ภาษาดีมาก ราชาศัพท์ทั้งเรื่อง รู้บ้างไม่รู้บ้าง 55555555555555 เนื้อเรื่องดำเนินเรื่อยๆไม่แหวกจากแนวแต่น่าอ่าน น่าติดตาม ชอบตรงไม่ดราม่ามาก พระเอกรักเมีย หลงเมีย และไม่โง่ ชอบตรงนี้ น้องชมนาดเองตอนแรกก็ดูนิสัยเด็กๆลูกคนรวยเอาแต่ใจ แต่พอเข้าวัง รับรู้สถานภาพน้องก็ปรับตัวดี นิสัยดีขึ้น น่ารัก ใครดีมาดีตอบ ร้ายมาก็ร้ายแต่ไม่จองเวร ชอบๆๆๆๆๆ ขอภาค2ค่ะ คู่น้องบัว  o1

ออฟไลน์ pimkihae

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ น่ารักมากๆค่ะ
อยากอ่านตอนพิเศษอีกเจ้าค่ะ ><  :mew1:

ออฟไลน์ JanJanIsHappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านพีเรียดครั้งแรก ดีมากๆ ภาษาดีมากกกกก เราไม่ค่อยรู้ราชาศัพท์แต่ก็พอเดาได้สบายมาก เนื้อเรื่องดีมาก พระนายไม่โง่ให้หงุดหงิดใจเลย ดีจนอยากพาคนเขียนไปเลี้ยงข้าว แอบรอคู่ลูกอยู่นะคะ

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เราก็ไม่กล้าอ่านตั้งนานเพราะเห็นชื่อเรื่องและย้อนยุคคิดว่าต้องดราม่าหนักแน่ๆ แต่ไม่เลยยยยย เรื่องน่ารักมาก พี่หลงน้องมากๆเว่อ ดีต่อใจมากๆค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



ชมนาดเย้ายวนส่งกลิ่น...ภุมรินหลงใหลคะนึงหา ตอนพิเศษ ๐๒




ปีนี้เจ้านาคน้อย แลเจ้าบัวงามดอกน้อยมีพระชนมายุสามปีบริบูรณ์ อยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอน แลซุกซนเสียยิ่งกว่าลูกวานร มารดาอย่างเจ้าชมนาดปวดเศียรลมแทบจับเมื่อลูกน้อยพากันเล่นซนคึกคะนอง บัดนี้พระภัสดาทรงงานอยู่ในราชสำนัก มารดาจึงพาลูกน้อยออกสูดอากาศที่ศาลาริมสระหลวงแทนที่จะอุดอู้อยู่แต่ในตำหนัก หากแต่เจ้าตัวน้อยเมื่อได้ออกมานอกตำหนักก็พากันเล่นซนจนเจ้าชมนาดจับไม่อยู่ เหล่าข้าหลวงสาวต่างวิ่งหน้าตั้งตามเจ้านายน้อยที่วิ่งพลางสรวลร่า เห็นวิหกก็วิ่งตามวิหก เห็นวิฬารก็วิ่งไล่วิฬาร

“เจ้าภุชงค์!! เจ้าบัว!!!”หากแต่พระสุระเสียงหวานดุดันของพระมารดาก็ทำเอาองค์รัชทายาท แลเจ้าน้อยหยุดชะงัก มิบ่อยนักดอกที่พระมารดาชมนาดจักเรียกโอรสด้วยพระสุระเสียงเช่นนี้ เจ้านาคน้อยคนพี่ชะงักเท้าที่กำลังวิ่งเอี้ยวตัวกลับขาเล็กสับไปในทิศทางที่มารดาประทับยืนอยู่ พระพักตร์งามเรียบตึง นัยน์ตากวางฉายแววตำหนิ ส่วนเจ้าบัวงามดอกน้อยก็รีบชักมือที่ดึงขนนุ่มของวิฬารทรงเลี้ยงกายเล็กทิ้งตัวนั่งจุ้มปุกกับพื้นหญ้า  ร้อนถึงพระพี่เลี้ยงสาวที่รีบถลาเข้าช้อนร่างน้อยขึ้นอุ้มพาเจ้าน้อยคนงามส่งให้พระชายาอุ้มต่อ

“เฉด็จแม่”แขนเล็กสั้นป้อมยื่นหามารดา เจ้าชมนาดรับร่างเล็กเข้าเจ้าบัวงามมาอุ้มต่อ ลูกน้อยก็ช่างออดช่างอ้อนแสร้งทำตัวอ่อนซบพระอังสะบาง นัยน์ตากวางที่ทอดแบบมาจากพระมารดาเหลือบมองพระเชษฐาที่ยืนเกาะซบหน้ากับพระชงฆ์เรียวของมารดา

“เจ้าจมมะนาดจ๋า~”เลียนแบบพระบิดาที่เรียกพระมารดาพระสุระเสียงหวาน

“เจ้าภุชงค์ใครสั่งใครสอนให้ลูกพูดเช่นนี้กัน”นัยน์ตากวางเบิกกว้าง มือบางช้อนใต้คางโอรสให้เงยสบพระเนตร ไถ่ถามหาต้นตอ หากแต่ในพระทัยคาดโทษคนที่กำลังประชุมหารือกับเหล่าขุนนางในราชสำนักเสียแล้ว เจ้านาคน้อยไร้เดียงสามองพระพักตร์งามของพระมารดาตาแป้ว

“....”

“ไม่ดีเรียกแม่เช่นนี้หนาลูก”เมื่อทอดพระเนตรใบหน้าไร้เดียงสาของโอรสองค์โตก็อดพระทัยอ่อนมิได้ กายบางทรุดประทับบนตั่ง แขนข้างหนึ่งกอดเจ้าบัวน้อยที่เกาะอกมารดาเป็นลูกวานร อีกข้างโอบกอดนาคน้อย

“..พะย่ะค่ะ”ก้มหน้ารับผิด แลปีนขึ้นตั่งกอดพระกฤษฎีบางคอดของมารดาอย่างออดอ้อน แลเจ้าชมนาดเมื่อถูกลูกอ้อนเช่นนี้จักมิใจอ่อนได้อย่างไร

“ทูลพระชายา ฝ่าบาทเสด็จเพคะ”

“.....”มาแล้วหรือพ่อต้นตอที่ทำให้ลูกพูดจาห่ามๆ

“ทำกระไรกันอยู่หรือ เหตุใดจึงอ้อนแม่เจ้า เกาะเป็นลูกลิงเยี่ยงนี้”อยากจักคาดโทษให้มากกว่านี้ หากแต่เมื่อเห็นหยาดพระเสโทที่พระนลาฏ เจ้าชมนาดก็จับเจ้าบัวน้อยนั่งตัก แลยื่นพระหัตถ์เล็กขอผ้าชุบน้ำลอยดอกมัลลิกาหอมกรุ่นบิดหมาดมาเช็ดพระพักตร์ของพระภัสดาอย่างอ่อนโยน องค์ภุมรินแย้มพระสรวลกว้างกับความเอาใจใส่ของเมีย

“มิมีกระไรดอกพระเจ้าค่ะ เจ้าภุชงค์เพียงแค่เลียนแบบพระองค์ก็เท่านั้น”

“หืม...เลียนแบบกระไรจากพ่อกันเจ้านาคน้อย”

“ยูกพูด...”เจ้าตัวน้อยเอ่ยเจื้อยแจ้วราวกับจักฟ้องพระบิดาว่าตนเรียกมารดาอย่างไร

“พูดกระไรลูก”

“เจ้าจมมะนาดจ๋า~~~”

“.....”

“.....”

“.....ฮะฮ่าๆๆๆ”ทรงสรวลพระสุระเสียงดังจนเจ้าชมนาดหน้าม้าน

“..เสด็จพี่”

“ฮะฮ่าๆๆ เจ้านาคน้อยของพ่อ เจ้าชมนาดจ๋า ที่เจ้าว่า พ่อเรียกได้คนเดียวหนาลูก”ตรัสพลางอุ้มโอรสองค์โตมากอดหอม

“....”ส่วนคนเป็นแม่ก็ได้แต่หน้าแดงกอดเจ้าตัวน้อยคนเล็กไว้แนบอก

“งื้อออ”เจ้าบัวงามดอกน้อยมุดหน้า ถูไถใบหน้าเล็กกับอกมารดา มือเล็กยกขยี้นัยน์ตากวางจนเจ้าชมนาดต้องรั้งไว้

“ง่วงหรือลูก”เจ้าชมนาดก้มถามเจ้าน้อยที่ซุกหน้ากับอกตน

“อื้อออ”

“อุ่นขอผ้าชุบน้ำให้ข้าที”

“เพคะพระชายา”ข้าหลวงสาวส่งผ้าชุบน้ำลอยมัลลิกาหอมกรุ่นให้คนเป็นนาย

“เช็ดตัวหน่อยหนาเจ้าบัวจักได้มิเหนียวตัวหนาลูก”

“งื้อออ”เจ้าตัวน้อยเบะปากเมื่อความเย็นจากผ้าถูกผิวกาย

“ชู่ว มิงอแงหนาลูก”เช็ดหน้าเช็ดตาให้ แลลากผ้าเนื้อนุ่มลงมาที่ซอกคอขาว จับแขนเล็กยกขึ้นเช็ดรักแร้ทั้งสองให้ก่อนจักสอดมือเข้าใต้เสื้อคอกระเช้าตัวเล็กเช็ดแผ่นหลังเล็กให้

“อื้อ ฮึก”ความง่วงงุนทำให้เจ้าน้อยคนงามออกอาการงอแง ใบหน้าเล็กมุดหน้าอ้าปากงับยอดถันมารดาผ่านผ้าแถบสีงาช้างปักลายดอกไม้เล็กๆทั่วผืน

“อ๊ะ เจ้าบัว”ขืนตัวออก

“ฮึก แงๆ”

“โอ๋ๆ กลับตำหนักหนาลูก บัวน้อยคนดีของแม่อย่าไห้หนาเจ้า”จับลูกน้อยพาดบ่า มือลูบหลังเล็กปลอบ

“ฮือออ”เจ้าบัวซบหน้ากับพระอังสะมารดาสะอื้นอย่างช้ำใจ

“เสด็จพี่กลับตำหนักเถิดพระเจ้าค่ะ”

“จ้ะ”ตรัสแล้วก็อุ้มเจ้านาคน้อยตามหลังเมียกลับตำหนักหลวง






เมื่อพระทวารห้องบรรทมปิดลงเจ้าชมนาดก็วางลูกน้อยลงบนพระยี่ภู่ มือบางปลดผ้าแถบคาดอกผืนงามออกจนเปลือยช่วงบน หน้าอกเป็นกระเปาะ แลยอดถันสีทับทิมดึงดูดสายตาพ่อลูกสองให้นิ่งงัน แขนเรียวอุ้มเจ้าบัวประคองนอนบนพระเพลาเล็ก

“ฮึก อึก”พอจัดท่าจัดทางถูกใจแล้วก็มุดหน้ากับอกมารดา ปากเล็กอ้างับยอดถันดูดดึงจนเกิดเสียงจุบจับ นัยน์ตากวางที่ปรือปรอยค่อยๆปิดลง หากแต่ปากยังคงทำงาน มือเล็กแปะอยู่ที่อกอีกข้าง น้ำนมจากอกของเจ้าชมนาดหมดแล้ว หากแต่ก่อนนอนเจ้าบัวก็ต้องดูดนมแม่จึงจักหลับแม้จักไม่มีน้ำนมให้ดื่มกินก็ตาม


ฟืด

   
“เสด็จพี่!!”เอ็ดพระภัสดาเสียงเบา นัยน์ตากวางจิกจนองค์ภุมรินสะดุ้ง พระองค์ก็แค่เผลอคว้าผ้าแถบที่เมียปลดทิ้งไว้ขึ้นจรดพระนาสิกสูดกลิ่นกายหอมหวานต่อหน้าลูกเท่านั้น ใยแม่กวางจึงกลายร่างเป็นแม่เสือ

“ขอโทษจ้ะคนดี”รีบวางผ้าผืนงามลง อุ้มโอรสองค์โตพาดพระอังสะกว้างโยกพระวรกายน้อยๆ พระหัตถ์ตบก้นเล็กเบาๆ หวังให้ลูกนิทราตามน้องโดยเร็ว แม้นจักเป็นแฝดแต่เจ้าภุชงค์กลับหย่านมเร็วกว่าเจ้าบัวงามคนน้อง





มินานปากเล็กที่ดูดดึงยอดถันมารดาก็หยุดนิ่ง มือเล็กที่วางบนอกมารดาร่วงลงบนตัก เจ้าชมนาดอุ้มลูกขับกล่อมอีกสักหน่อยจึงจับกายเล็กนอนคว่ำกับพระยี่ภู่ ใบเล็กหันข้าง ตบก้นเล็กเบาๆ ก่อนจักผละไปรับเจ้าภุชงค์ที่ตาเริ่มปรือปรอยมาขับกล่อมจนหลับสนิทจึงจับให้นอนคว่ำหันหน้าออกข้างกันกับเจ้าบัวงาม


หมับ


“อ๊ะ”เจ้าชมนาดสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกพุ่งกอดจากด้านหลัง พระพักตร์งามขององค์ภุมรินซุกไซ้ซอกคอขาวของเมีย พระหัตถ์สองข้างกอบกุมเต้ากระเปาะของเมียคลึงเบาๆ

“อืม”พระโอษฐ์กดจูบตามผิวขาวเนียนไล่ตั้งแต่ลาดไหล่เล็กลงมาที่ต้นแขน กลับขึ้นไปที่ซอกคอขาวหอมกรุ่น พระชิวหาแตะไล้เลียดูดเม้มที่ติ่งหูนิ่ม

“เสด็จพี่ อืม ลูกนอนหนาพระเจ้าค่ะ”

“ก็เพราะลูกนอนหนาสิน้อง หากลูกไม่นอนเจ้าก็มิมีเวลาให้พี่ดอก”ตรัสราวกับน้อยพระทัย

“ตะ แต่ลูกจักตื่นหนาพระเจ้าค่ะ”

“ให้พี่หนาเจ้า คนดี พี่จักทำเบาๆ”

“หม่อมฉันเคยขัดพระทัยพระองค์ได้หรือพระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ..อ่า”

“อึ๊ อื้อ...อือ”มือเล็กยกปิดปากตัวกลั้นเสียงหวานกระเส่ายามถูกรังแกหนักหน่วง กลัวเหลือเกินว่าลูกจักตื่นมาเจอพ่อ แลแม่ร่วมรักกัน แต่เจ้าตัวน้อยทั้งสองกลับนิทรานิ่งราวกับเปิดทางให้พระบิดา





ไหนจักเลี้ยงลูก ไหนจักดูแลงานฝ่ายใน แลไหนจักถวายงานรับใช้พระภัสดาก็ทำให้เจ้าชมนาดอ่อนเพลียจนจับไข้ล้มป่วยลง ด้วยมิอยากให้ลูกน้อยทั้งสองติดไข้จึงต้องให้พี่เลี้ยงข้าหลวงเลี้ยงลูกแทน หากแต่เจ้าตัวน้อยทั้งสองกลับงอแง มิยอมอยู่กับพี่เลี้ยง จักให้อยู่กับแม่ก็มิได้ ดังนั้นองค์ภุมรินจึงกระเตงลูกทั้งสองเข้าพระกฤษฎีไปยังท้องพระโรง

“เจ้าบัวมิเอามือเข้าปากหนาลูก”ดุจนเจ้าตัวน้อยชะงัก ศีรษะเล็กทิ้งลงซบซอกคอบิดาออดอ้อน เรื่องเอาตัวรอดต้องยกให้เจ้าบัวน้อยเป็นที่หนึ่ง




ภายในท้องพระโรง เหล่าขุนนางต่างมองหน้ากันเมื่อเห็นองค์เหนือหัวกระเตงองค์รัชทายาท แลเจ้าน้อยเข้าประชุมหารือที่ท้องพระโรง

“อะแฮ่ม เริ่มได้ ผู้ใดจักถวายฎีกาก็เชิญเถิด”ตรัสพระสุระเสียงขรึม บนพระเพลามีลูกน้อยทั้งสองจับจองคนละข้าง เมื่อเริ่มไปได้สักพักร่างน้อยของบัวงามบนพระเพลาก็ดิ้นหยุกหยิกอยู่ไม่สุขจนคนเป็นพ่อต้องปล่อยลูกลงจากพระเพลา จากนั้นความโกลาหลก็เกิดขึ้นภายในท้องพระโรง เจ้าบัวงามคนน้องคว้าฎีกามาโบกเล่น

“เจ้าบัวงามวางลงหนาลูก”ตรัสพระสุระเสียงเข้มจนเจ้าตัวน้อยชะงักปล่อยฎีกาลง แลวิ่งเข้าไปกอดคอสุธีอย่างหาตัวช่วย

“ฉุธีเจ้าขาาาา~ “แขนเล็กกอดรอบลำคอแกร่งขององครักษ์ประจำพระวรกายของบิดา ใบหน้าเล็กซุกซอกคอแกร่ง

“เจ้าน้อย”โอบพระวรกายเล็ก แลโยกเบาๆมือก็ลูบพระขนองปลอบ

“งื้อ ฉุธี เฉด็จป้อดุดุ บัวกลัว”แสร้งทำตัวอ่อนออดอ้อนท่านสุธี บนแคว้นภุมริกาแห่งนี้จักมีใครตามใจเจ้าน้อย แลองรัชทายาทได้เท่าองครักษ์หลวงสุธีมิมีอีกแล้ว

“โอ๋ ทรงซนนี่พะย่ะค่ะ”

“ม่ายยย บัวมิดื้อ มิซนหนาเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ พะย่ะค่ะ เจ้าน้อยบัวงามของสุธีมิดื้อมิซนเลย เป็นเด็กดีมากๆ”เอ่ยชมเสียงนุ่ม

“คิกๆๆ”เขินบิดตัวไปมา วางแก้มกลมบนกว้างของท่านสุธี ปากจิ้มลิ้มร้องเพลงไม่เป็นภาษาทำเอาเหล่าขุนนางก้มหน้ากลั้นขำกันเป็นแถบ คนเป็นพ่อหรือก็พยายามกลั้นพระสรวลตีพระพักตร์ขรึมอย่างยากลำบาก ส่วนภุชงค์คนพี่ก็เลียนแบบคนเป็นพ่อนั่งตีหน้าขรึมอยู่บนพระเพลาบิดาถอดแบบมาทุกกระเบียดนิ้ว




กว่าการประชุมจักเสร็จสิ้น เจ้าน้อยบัวงามก็หลับคาอกองครักษ์สุธีไปเสียแล้ว มือน้อยมิยอมคลายออกจากลำคอแกร่งของชายหนุ่ม ใบหน้างามซบแนบบนไหล่กว้าง ความอบอุ่นจากร่างกายกำยำทำเอาเด็กน้อยสบายจนหลับลึก ครั้นคนเป็นพ่อจักอุ้มก็มิยอมลืมตามอง แถมยังมิยอมปล่อยมือจากคอสุธีอีก พอถูกกวนมากก็เบะปากงอแงเสียจนองค์ภุมรินผู้เป็นพ่อจำต้องยอมให้องครักษ์คนสนิทอุ้มลูกน้อยไปส่งที่ตำหนัก แต่ก็มิวายจิกพระเนตรใส่จนสุธีมิกล้ามองพระพักตร์งามของคนเป็นนาย  ทรงอุ้มเจ้าภุชงค์แนบพระอุระเสด็จนำขบวนกลับตำหนักหลวง มิรู้ว่าป่านนี้อาการป่วยของเจ้าชมนาดจักทุเลาแล้วหรือยัง

“เสด็จพี่”เจ้าชมนาดที่นั่งปักผ้ารอพระภัสดา แลลูกน้อยทั้งสองเงยดวงหน้างามขึ้นเมื่อพระวรกายกำยำก้าวเข้ามาพร้อมองครักษ์คนสนิท

“เจ้าชมนาดเป็นเยี่ยงไรบ้างน้อง”

“ทุเลาขึ้นแล้วพระเจ้าค่ะ หากแต่คงจักต้องรอให้หายขาดเสียก่อน คงจักต้องรอวันพรุ่งนี่แลพระเจ้าค่ะ”

“ดีแล้วเจ้า หายไวๆหนา”

“พระเจ้าค่ะ...แลเหตุใดเจ้าบัวงามจึงให้สุธีอุ้มมาเยี่ยงนี้เล่าพระเจ้าค่ะ”เกรงว่าลูกน้อยจักรบกวนองครักษ์หนุ่มมากเกินไป

“เจ้าบัวหลับจ้ะ”

“สุธีส่งเจ้าบัวให้ข้าเถิดจ้ะ”

“พะย่ะค่ะ”ส่งร่างเล็กของเจ้าน้อยให้อุ่นอุ้มถวายพระชายาอีกทอด

“อื้อ ฮึก”

“ชู่ว มิร้องหนาลูก”เขย่าโยกกายเล็กเบาๆ

“อึก งื้อออ”นัยน์ตากวางปรือมอง เมื่อเห็นว่าเป็นมารดาจึงกอดคอไว้แน่นวางแก้มกับลาดไหล่เล็ก กระพริบตาปริบๆ ตื่นเต็มที่แล้ว

“แลภุชงค์มินอนกลางวันมิง่วงดอกหรือ”

“ม่ายพะย่ะค่ะ ชงค์มิง่วง ชงค์โตแล้วพะย่ะค่ะ”ตรัสเกินตัวเรียกเสียงพระสรวลจากบิดา มารดา

“หึหึ นั่นสิหนา ลูกแม่คงโตเป็นหนุ่มแล้วกระมัง”

“บัวก็โต โตๆ โตแล้วเจ้าค่ะ”

“เจ้าหนาหรือโตแล้ว เมื่อครู่ยังงอแงอยู่เลยเจ้าลูกวิฬารน้อย”บิดาตรัสพลางบีบปลายจมูกเล็กเบาๆ

“ม่าย บัวมิงอแง บัวโตๆ”

“จ้ะๆ ลูกแม่โตกันหมดแล้วทั้งคู่เลย”

“โตๆๆ”

“หึหึหึ”สรวลอย่างเอ็นดู

“.....”ริมฝีปากบางแย้มยิ้มหวานให้พระภัสดา
ทั้งสองพระองค์มองพระพักตร์กัน แลสรวล ความสุขเยี่ยงนี้เอากระไรมาแลกก็มิยอม องค์ภุมรินทรงรั้งกายบางของเมียเข้ากอด กอดทั้งสามแม่ลูก ประทานจุมพิตที่หน้าผากแก่ลูกเมีย ตระกองกอดทั้งสามด้วยความรักยิ่ง







ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



ชมนาดเย้ายวนส่งกลิ่น...ภุมรินหลงใหลคะนึงหา ตอนพิเศษ ๐๓




“ฮึก แงๆๆ แงๆๆๆ”เพลานี้ ณ ตำหนักหลวงแคว้นภุมริกา ทุกคนต่างหัวหมุน วุ่นวายกันไปทั่ว เมื่อเจ้าน้อยแก้วตาของนายเหนือหัวทั้งสองทรงประชวรจับไข้

“ชู่ว เจ้าบัวมิไห้หนาลูกแม่ใจมิดีเลย”เจ้าชมนาดอุ้มเจ้าตัวน้อยพาดบ่าพาเดินทั่วห้องบรรทม มีอุ่นคอยเดินตามเอาผ้าชุบน้ำลอยดอกมะลิคอยเช็ดพระวรกายให้นายน้อย หากแต่เจ้าบัวงามคนดีก็ยังงอแงจนคนเป็นแม่น้ำตาคลอสงสารลูกจับใจ มือเรียวตบก้นเล็กของลูกเบาๆ

“ฮึก ฮึก แงๆๆๆ”สะอื้นฮัก ร้องเสียจนพระพักตร์แดงไปหมด

“โถ..เจ้าน้อยของอุ่น ไห้เสียจนพระพักตร์แดงหมดแล้วเพคะ”อุ่นว่าพลางใช้ผ้าซับไปตามใบหน้าเล็ก

“ฮึก..อึก ฮึก...แค่กๆ”

“โถ ลูกจ๋า”เจ้าชมนาดกดจูบที่หน้าผากเล็กพลางพาลูกน้อยดำเนินกลับไปที่พระแท่นบรรทม เจ้าบัวงามนอนตัวอ่อนอยู่บนพระเพลาเล็กของมารดา พระพักตร์งามมุดเข้าพระอุระบางของมารดา

“อือ...ฮึก แค่กๆ”

“ชู่วๆ หิวหรือลูก เยี่ยงนั้นกินนมหนาเจ้า”เจ้าบัวงามปลดผ้าแถบออกพลางประคองลูกน้อยเข้าเต้า เจ้าบัวมุดพระพักตร์เข้าเต้านุ่มหยุ่นของมารดาพลางอ้าปากงับ ดูดดึงให้น้ำนมไหล

“จุ๊บๆๆๆ”ริมฝีปากร้อนเพราะพิษไข้ดูดเม็ดบัวของมารดาเสียงดัง เจ้าชมนาดรับผ้าชุบน้ำลอยดอกมะลิจากอุ่นมาเช็ดตามแขนขาเล็ก





“สุธี”

“พะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

“ข้าฝากเจ้าภุชงค์ประเดี๋ยว ข้าจักไปดูเจ้าบัวงามเสียหน่อย”ตรัสพลางส่งรัชทายาทตัวน้อยให้องครักษ์หลวงคนสนิท เจ้าบัวงามคนน้องป่วยเยี่ยงนี้จึงต้องแยกสองพี่น้องจากกัน มิเช่นนั้นหากเจ้าภุชงค์ติดไข้เจ้าบัว วังหลวงคงวุ่นกว่านี้เป็นแน่

“พะย่ะค่ะ”สุธีรับพระบัญชา มือที่เคยถือแต่ดาบ จับแต่อาวุธโอบประคองนายน้อยแนบอกกว้าง โดยมีข้าหลวงสาวสี่นางคอยช่วยดูแลองค์รัชทายาท





“เจ้าชมนาด”

“เสด็จพี่”

“ลูกเป็นเยี่ยงไรบ้างเจ้า”

“งอแงเหลือเกินพระเจ้าค่ะ ลูกคงมิสบายตัว...น้องสงสารลูกเหลือเกิน”

“เจ้าบัวงาม ขอพ่ออุ้มหน่อยหนาลูก”

“ฮึก...อื้อ...อึก”พระหัตถ์ใหญ่ช้อนลูกน้อยขึ้นแนบพระอุระ เขย่าน้อยๆเมื่อเสียงเล็กสะอื้นแผ่วๆ

“แลเจ้าภุชงค์เป็นเยี่ยงไรบ้างพระเจ้าค่ะ”

“เจ้านาคน้อยสบายดี คงมิได้ติดไข้เจ้าบัวมา”

“ดีแล้วพระเจ้าค่ะ หากเจ้าภุชงค์จับไข้ไปอีกคนน้องต้องขาดใจเป็นแน่”ว่าพลางยกมือขึ้นลูบใบหน้าจิ้มลิ้มที่แดงเพราะพิษไข้

“ตามหมอหลวงมาแล้วใช่หรือไม่”

“พระเจ้าค่ะ หมอท่านว่าลูกจับไข้ หมั่นเช็ดตัว แลให้กินยาตามที่หมอสั่งมิเกินห้าวันก็น่าจักหายเป็นปกติพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดกราบทูลพระภัสดา

“หึหึหึ...มิสบายที ทำเอาแม่เจ้าแทบจักไห้เลยหนาเจ้าบัว”

“ไห้ไปแล้วเพคะฝ่าบาท”อุ่นทูลขึ้น

“หืม....”

“น้องสงสารลูกนี่พระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ...”

“...ลูกหลับแล้วพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดว่าเมื่อเจ้าบัวน้อยหายใจสม่ำเสมอ ใบหน้าจิ้มลิ้มซบแนบกับพระอังสะของบิดา เจ้าชมนาดจัดที่จัดทางให้พระภัสดาเอาลูกน้อยนอนลงบนพระยี่ภู่ ผ้าแพรสีหวานถูกห่มให้เจ้าน้อยบัวงามจนถึงอกเล็ก พระชายาชมนาดตบก้นเล็กของลูกกล่อมเบาๆ

“อุ่น”

“เพคะ พระชายา”

“ข้าฝากดูเจ้าบัวทีหนา ข้าจักไปดูเจ้าภุชงค์เสียหน่อย”

“เพคะ”






“ท่านสุธี”

“ถวายพระพรพะย่ะค่ะพระชายา”

“จ้ะ...ภุชงค์เป็นเยี่ยงไรบ้าง”

“องค์รัชทายาทใกล้จักบรรทมแล้วพะย่ะค่ะ นางข้าหลวงกำลังกล่อมพะย่ะค่ะ”

“อืม...ภุชงค์ลูก”เจ้าชมนาดเอ่ยเรียกลูกน้อยที่ดวงตาปรือปรอย

“อื้อ...”เจ้านาคน้อยเมื่อได้ยินเสียงมารดาก็ลืมตาขึ้น ชูมือหา

“โถ..ลูกแม่”ใบหน้าเล็กมุดเข้าหาพระอุระของมารดา

“สุธีออกไปก่อนเถิด...พวกเจ้าด้วย”องค์ภุมรินทรงตรัสให้องครักษ์หลวงคนสนิท แลเหล่านางข้าหลวงออกจากห้องรับรองตำหนักฝั่งซ้ายที่เจ้าชมนาดเคยอยู่ เมื่อครั้งที่เข้าวังมาใหม่ๆ

“...ค่อยๆหนาลูก”ปลดผ้าแถบให้นมลูกโดยมีพระภัสดาลูบหัวลูบหางนาคน้อยในอ้อมอกเมีย





“เจ้าบัวงาม หากเจ้าหายดีแล้วพ่อจักพาไปเที่ยวตลาดนอกวังหลวงปลอบใจดีหรือไม่”องค์ภุมรินตรัสกับลูกน้อยที่ยังซึมเพราะพิษไข้อย่างเอาใจ

“ชงค์ไปด้วย”เจ้าภุชงค์ที่เจ้าชมนาดกำลังป้อนข้าวโพล่งขึ้นเรียกรอยพระสรวลจากบิดา แลมารดา

“จ้ะ...ภุชงค์ไปด้วยกันหนาลูก”เจ้าชมนาดว่าพลางใช้ผ้าซับรอยเปื้อนที่มุมปากเล็ก

“อืม...ชงค์ไป...ไปกับบัว”เจ้าน้อยคนงามที่ซึมเพราะพิษไข้ ละจากข้าวที่บิดาป้อนมาพูดกับพระเชษฐา

“หึหึหึ พ่อจักพาไปทั้งคู่นั่นแล”องค์ภุมรินป้อนข้าวใส่ปากเล็กของเจ้าบัว ก่อนจักจูบที่กระหม่อมเล็กเบาๆ

“บัวใคร่อยากกินขนมทองฟูพระเจ้าค่ะ”ว่าพลางอ้าปากรับข้าวที่บิดาป้อน

“หายดีก่อนหนาลูก...กินขนมตอนนี้ประเดี๋ยวจักเจ็บคอเอา”

“กินตอนนี้มิได้หรือพระจ้าค่ะ”

“มิได้เจ้า”

“.....”

“ชู่ว...มิงอแงหนาลูก วันนี้เจ้าไห้มากไปแล้วหนา แลเยี่ยงนี้เมื่อใดจักหายไข้กัน”

“ฮึก...”เบะปาก น้ำตาคลอ จนองค์ภุมรินต้องสบตาเจ้าชมนาดขอความช่วยเหลือ หากลูกออดอ้อนเช่นนี้ มิแคล้วคงจักต้องให้ห้องเครื่องนำขนมมาให้ลูกน้อยเป็นแน่

“เจ้าบัวงาม”

“เสด็จแม่...”

“เชื่อฟังพ่อเจ้าหนาลูก...ไว้เจ้าหายดีเมื่อใดแม่จักให้ห้องเครื่องทำขนมให้เจ้าคนเดียวพานหนึ่งเลยดีหรือไม่”

“ชงค์ขอด้วยพานหนึ่งพะย่ะค่ะ”

“จริงหนาพระเจ้าค่ะ”เอ่ยถามอย่างลังเล

“จ้ะ...แม่จักให้พวกเจ้าคนละพานเลยลูกรัก”หากแต่จักพานแค่ไหนนั้นค่อยว่ากันอีกทีหนาลูก แต่แน่นอนว่าพานนั้นมิใหญ่เกินฝ่ามือมารดาดอก

“...ก็ได้พระเจ้าค่ะ”






เมื่อเจ้าน้อยบัวงามหายไข้ดีแล้ว ก็ถึงเวลาที่องค์ภุมรินจักต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับลูกทั้งสอง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสี่พระองค์พ่อ แม่ แลลูกจึงอยู่ในชุดชาวบ้านเพื่อออกประพาสตลาดนอกวังหลวง

“เจ้าบัวงามมาหาแม่ก่อนลูก”เจ้าชมนาดคว้าตัวลูกน้อยมานั่งตักก่อนจักหยิบหวีที่อุ่นส่งให้มาสางผมยาวสลวยเคลียบั้นเอวของเจ้าบัวงาม ก่อนจักรวบขึ้นเป็นหางม้าสูง แลใช้เชือกสีหวานรัดไว้

“เจ้าน้อยช่างน่ารักน่าชังนักเพคะ”อุ่นเอ่ยชม เจ้าน้อยวันนี้ทรงสวมใส่เสื้อคอกระเช้าสีเหลืองไหล แลโจงกระเบนสีฟ้าแลบ

“หึหึหึ ก็ลูกข้านี่”เจ้าชมนาดวันนี้สวมเสื้อแขนกระบอกคอตั้งสีเขียวน้ำไหล แลโจงกระเบนสีคราม

“แล้วหรือยังแม่ลูก”องค์ภุมรินเสด็จเข้าห้องบรรทมมาพร้อมองค์รัชทายาทในอ้อมพระกรตรัสถามขึ้น

“แล้วแล้วพระเจ้าค่ะ...วันนี้เจ้านาคน้อยลูกแม่รูปงามจริงเชียว”เจ้าชมนาดเอ่ยพลางหอมแก้มนุ่มของโอรสองค์โต เจ้าคนพี่ช่างเหมือนพ่อนัก แลยิ่งแต่งกายคล้ายกันเยี่ยงนี้ยิ่งรูปงามราวกับเทวดาตัวน้อยๆ องค์รัชทายาทวันนี้สวมใส่เสื้อแขนกระบอกสีคราม แลโจงกระเบนสีดินแดง ในขณะที่องค์ภุมรินทรงใส่ฉลองพระองค์แขนกระบอกสีเมฆคราม แลโจงกระเบนสีดำเขม่า ที่พระกฤษฎีสอบมีผ้าสีหงส์ดินคาดอยู่

“น้อง แลลูกบัวก็งามเสียจนพี่มิใคร่ไปเสียแล้ว”

“ว่ากระไรเยี่ยงนั้นพระเจ้าค่ะ หากมิให้ไปวังหลวงคงแตกเพราะเสียงไห้ของเจ้าบัวเป็นแน่

“ฮะๆๆ นั่นสิหนา”

“คิก~”

“ไปกันเถิดประเดี๋ยวช้ากว่านี้ แลอากาศจักร้อน”

“พระเจ้าค่ะ”





“มิได้ออกมาตลาดเสียนาน หากแต่ก็ยังคึกคักเหมือนเดิมเลยหนาขอรับท่านพี่”เจ้าชมนาดว่า

“นั่นสิ...แต่สุธีบอกว่าที่กลางตลาดมีร้านน้ำชาเปิดใหม่ พี่ว่าจักพาเจ้า แลลูกไปนั่งเล่นดีหรือไม่”

“พระเจ้าค่ะ”

“เชิญจ้ะนายท่าน และคุณหนู”บ่าวร้านน้ำชาค้อมหัวกล่าวเชิญลูกค้าผู้มาเยือน ก่อนจักพาไปนั่งที่แคร่พลางใช้ผ้าปัดแคร่ไปมาให้

“ขอบใจจ้ะ”เจ้าชมนาดกล่าวพลางยิ้มให้ วางเจ้าบัวนั่งลงบนแคร่ แลขึ้นนั่งพับเพียบ

“รับกระไรดีจ๊ะนายท่าน”

“ข้าขอน้ำชาชุดหนึ่ง แลนมโคสดก็แล้วกัน”

“ได้จ้ะ แลจักรับขนมหวานด้วยไหมจ๊ะ”

“งืออออ...”เมื่อบ่าวหนุ่มพูดถึงขนมหวานเจ้าบัวงามก็ครางหงุงหงิงช้อนตาสบพระเนตรบิดา

“เอามาชุดหนึ่งก็แล้วกัน”

“ได้จ้ะๆ รอประเดี๋ยวหนานายท่าน”




ประทับเสวยชา แลขนมไปได้มินานพระขนงก็กระตุก เมื่อเจ้าเด็กหัวจุกที่ดูจากการแต่งกาย ท่าจักเป็นลูกคนใหญ่คนโตเดินเข้ามายืนจ้องหน้าเจ้าบัวงาม จนลูกน้อยหวาดกลัวเบียดกายเล็กเข้าหามารดา

“ชื่อกระไรหรือ”เอ่ยถามพลางจ้องเจ้าบัวเขม็ง

“...บะ บัว”ตรัสตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ

“ไอ้หนูพ่อแม่เอ็งไปไหน มายืนกระไรที่นี่คนเดียว”

“.....”เหลือบตามองพระพักตร์ หากแต่ก็มิตอบ

“ข้าชอบเจ้า...ใคร่อยากได้ไปอยู่ที่บ้าน”

“เสด็จแม่ บัวมิไป...บัวกลัว”เบะปากจักไห้

“ชู่ว...มิไห้หนาลูก...พ่อแม่เจ้าไปไหน...หืม ใยจึงมาอยู่นี่ หลงมาหรือ”เจ้าชมนาดตรัสถามอย่างใจดี

“ข้าใคร่ได้เจ้าคนนี้กลับบ้าน”องค์ภุมรินพระขนงเต้นตุบๆ ยังดีที่มีภุชงค์น้อยนั่งอยู่บนพระเพลามิเช่นนั้นพ่อจักลุกไปลั่นกบาลไอ้เด็กแก่แดดนี่สักที

“มิได้ดอก...เจ้าเอาน้องกลับบ้านมิได้ดอกหนา”เจ้าชมนาดเอื้อมมือไปตบพระหัตถ์พระภัสดาเบาๆ พลางหันมาเอ่ยกับเด็กน้อยเอาแต่ใจ

“ใยจึงมิได้!!!...ท่านพ่อบอกว่ามิมีกระไรที่ข้าอยากได้ แลมิได้”เด็กน้อยตะโกนใส่จนเจ้าบัวงาม แลเจ้าภุชงค์สะดุ้งมุดหน้ากับพระอุระบิดา มารดากันจ้าละหวั่น อยู่ในวังหลวงมิเคยมีผู้ใดมาเสียงดังให้ตกพระทัยเยี่ยงนี้ดอก

“ไอ้เด็กนี่...บังอาจนัก”องค์ภุมรินขึ้นพระสุระเสียงใส่

“เสด็จพี่พระทัยเย็นพระเจ้าค่ะ นี่เด็กหนา”เจ้าชมนาดปราม พระภัสดาจึงทำได้เพียงกอดภุชงค์น้อยไว้ แลลูบหลังให้คลายตกใจเช่นเดียวกับเจ้าชมนาดที่ตบหลังเจ้าบัวงามเบาๆ

“...ฮึ่ย”


หมับ


ฟึ่บ


“อ๊ะ”

“งะ..แงๆๆๆ”เผลอแค่เพียงชั่ววินาที เจ้าเด็กหัวจุกก็เอื้อมมือมาลากเจ้าน้อยลงจากพระเพลาพระชายา เจ้าบัวงามตกใจร้องจ้าในขณะที่เจ้าชมนาดแกะมือเจ้าเด็กตัวร้ายออกจากแขนลูก


เพี๊ยะ


“อ๊ะ”มือเล็กฟาดลงบนมือเจ้าชมนาดจนขึ้นรอยแดง


เพี๊ยะ


“แงๆๆๆๆๆ”องค์ภุมรินเมื่อทนมิไหวก็ยกพระหัตถ์ขึ้นฟาดลงบนมือของเจ้าเด็กมีปัญหา แม้จักไม่ได้ออกแรงมาก หากแต่ก็ทำให้มือของเด็กน้อยแดงนูนเป็นรอยพระองคุลี

“ตายแล้ว!!...คุณหญิงเจ้าขา คุณชายอยู่นี่เจ้าค่ะ”บ่าวสาวเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้จ้าของคุณชายน้อยก็รีบรุดมาดู พลางตะโกนร้องเรียกนายตน

“ไหน ลูกข้าอยู่ไหนอีปริก”

“คุณชายอยู่นี่เจ้าค่ะ”อีปริกว่าพลางอุ้มคุณชายน้อยที่ร้องจ้าแข่งกับเจ้าน้อยขึ้นปลอบ

“ลูกแม่ไห้ทำไม เอ๊ะ....แลนี่ ใครตีลูกข้า หา!!!”เสียงแหลมหวีดร้องเมื่อเห็นรอยพระองคุลีบนมือบุตรชาย

“ข้าตีเอง”พระสุระเสียงเข้มตรัสขึ้น

“....เจ้าเองหนาหรือที่ตีลูกข้า บังอาจนัก”คุณหญิงชะงักไปชั่วครู่เมื่อเห็นพระพักตร์งาม ก่อนจักหวีดเสียงโวยวาย

“เจ้าเด็กนี่บังอาจมากระชากแขนลูกข้า แลยังจักกล้ามาตีเมียข้าอีก หากพ่อแม่มันมิมีปัญญาสั่งสอน ข้าก็จักตีสั่งสอนให้เอง”

“บังอาจ!! เจ้ากล้าเรียกลูกข้าว่าไอ้เด็กนี่หรือ รู้หรือไม่ว่าผัวข้าเป็นใคร แลลูกข้าเป็นลูกใคร”

“จักใหญ่สักแค่ไหนกันเชียวแม่...”

“เหอะ เจ้า แลเมีย แลลูกของเจ้าเตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย ข้าจักให้ผัวข้ากำจัดพวกเจ้าออกจากแคว้นเสีย!!!”เสียงหวีดแหลมของคุณหญิงเรียกสายตาคนทั้งตลาดให้หยุดมอง

“พ่อหนุ่ม อย่าไปต่อกรกับคุณหญิงท่านเลย ผัวนางเป็นถึงคนสนิทเจ้าหลวงเชียวหนา ดีไม่ดีจักโดนเนรเทศออกจากแคว้นทั้งครอบครัวเอาได้”หญิงชาวบ้านวัยกลางคนขยับเข้ามากระซิบเตือนด้วยความหวังดี

“คนสนิทเจ้าหลวงหรือ”คนสนิทข้าเห็นทีก็มีเพียงสุธี มาวิน แลท่านราชเลขา แลพระองค์มั่นใจว่าหญิงผู้นี้มิใช่เมียของคนสนิททั้งสามเป็นแน่

“ก็ใช่หนาซี่”

“น้องหญิง”ยังไม่ทันจักสิ้นคำเตือนของหญิงชาวบ้าน เสียงใหญ่ของชายวัยกลางคนก็ดังขึ้น ก่อนจักปรากฏร่างอ้วนฉุ หัวล้านของขุนนางที่องค์ภุมรินเคยเห็นผ่านๆพระเนตรยามมีการถวายฎีกา

“คุณพี่...ผัวข้ามาแล้วพวกเจ้าเตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย”

“ไหน!! ไอ้อีคนไหนมันกล้าทำลูกข้าไห้เยี่ยงนี้”

“ไอ้คนนี้มันตีลูกเราเจ้าค่ะ”

“หากแต่นั่นก็เป็นเพราะลูกท่านมาฉุดกระชากลูกข้าก่อน”เจ้าชมนาดตรัส

“แล้วอย่างไร หากลูกข้าใคร่ได้ลูกเจ้าไปเป็นทาส ข้าก็จักเอาลูกเจ้าไปเป็นทาสในเรือนเบี้ยของข้า”

“เจ้าจักเอาลูกข้าไปเป็นทาสในเรือนเบี้ยของเจ้าหรือ”พระสุระเสียงเย็นเยียบตรัสขึ้นจนรอบๆบริเวณเงียบกริบ มีเพียงเสียงหวีดร้องของเจ้าเด็กมีปัญหา แลเสียงสะอื้นเบาๆของเจ้าบัวงาม

“ก็เออหนาสิวะ อะ..ไอ้....ฝ่าบาท”เมื่อได้เห็นพระพักตร์คุ้นเคยเต็มตาร่างอ้วนฉุก็ทรุดหมอบกับพื้นพนมมือไหว้ปรกๆ ตัวสั่นเหงื่อไหลเป็นทาง

“คุณพี่!!! คุณพี่ทำกระไรเจ้าคะ”คนเป็นเมียหวีดร้องอย่างขัดใจเมื่อสามีทรุดลงกับพื้นไหว้คู่กรณีปรกๆ ทั้งๆที่ใจเสียไปกว่าครึ่ง

“เงียบประเดี๋ยวนี้คุณหญิง แลเหตุใดพวกเจ้ายังยืนค้ำพระเศียรฝ่าบาทท่านเยี่ยงนี้”ตวาดเมียเสียงดัง บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนมันทำเงาหัวพ่อมันหายแล้วไหมล่ะ

“หา...กระไรกันคะคุณพี่”

“เงียบคุณหญิง แลหมอบกราบเจ้าหลวงท่านประเดี๋ยวนี้”

“หา!!!...จะ เจ้า หละ...หลวง....เจ้าหลวงหรือเจ้าคะ”

“ก็เออหนาสิ”

“เฮือก”คุณหญิงทรุดลงข้างสามีพนมมือไหว้ปรกๆมิต่างกัน

“ว่าอย่างไร...คุณพระจักเอาเจ้าน้อยบัวงามลูกข้าไปเป็นทาสในเรือนเบี้ยของท่านเยี่ยงนั้นหรือ”พระสุระเสียงเย็นตรัสพร้อมรอยพระสรวลที่มุมพระโอษฐ์ แต่กลับทำเอาคุณพระเหงื่อตกยิ่งกว่าเดิม

“หะ หามิได้พะย่ะค่ะฝ่าบาท...หมะ หม่อมฉัน...ฮึก”

“..แลข้าไปสนิทกับท่านตอนไหนหรือถึงกล้าแอบอ้างเป็นคนสนิทข้า”

“ฮึก...หมะ หม่อมฉัน...ฮือ ประทานอภัยให้หม่อมฉันด้วยพะย่ะค่ะ”

“คุณหญิงเมียท่านว่าจักเนรเทศข้า แลลูกเมียออกจากแคว้น...ครอบครัวคุณพระยิ่งใหญ่กระไรเยี่ยงนี้หนา”

“...หม่อมฉันขออภัยแทนมะ เมียหม่อมฉันพะย่ะค่ะ”

“หากเป็นคุณพระแลมันยิ่งใหญ่คับฟ้า เบียดเบียนผู้อื่นเยี่ยงนี้...ลดศักดินาไปเป็นชาวบ้านเสียก็แล้วกัน เอ...หรือจักไปเป็นทาสในเรือนเบี้ยดีหนา”

“ฮือ...ฝ่าบาทเมตตากระหม่อมด้วยพะย่ะค่ะ”

“หรือจักโบยบุตรชายเจ้าสักห้าร้อยที โทษฐานทำร้ายพระวรกายพระชายาดี”

“ฮือ..ฝ่าบาท...เมตตาครอบครัวหม่อมฉันด้วยเถิดพะย่ะค่ะ”

“สุธี”

“พะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

“บอกราชเลขาทำหนังสือปลดคุณพระแลส่งเรื่องแจ้งราชสำนักเสีย”

“ฮือออ...ฝ่าบาท เมตตาหม่อมฉันด้วย”

“หากการเป็นขุนนางมันทำให้ท่านมิมีเวลาสั่งสอนลูกเมีย ก็เป็นชาวบ้านธรรมดานี่ล่ะ”

“ฝ่าบาท...ฮือ...ฝ่าบาท...ฮือออ”

“....กลับวัง”รับสั่งพลางอุ้มองค์รัชทายาทแนบพระอุระ แลโอบเอวเจ้าชมนาดที่อุ้มเจ้าบัวงามออกจากร้านน้ำชา ตามหลังด้วยสุธี

“.....”






ภายในห้องบรรทม ตำหนักหลวง เจ้าชมนาดขับกล่อมลูกน้อยทั้งสองจนหลับสนิท ก่อนจักบรรจงประคบสมุนไพรแก้ช้ำที่แขนเล็กของเจ้าบัวงามเบาๆ

“พ่อขอโทษหนาเจ้าบัวงาม ภุชงค์...พี่ขอโทษหนาเจ้าชมนาด”ทรงตรัสอย่างสลด เมื่อทอดพระเนตรรอยช้ำบนแขนเล็กของลูกน้อย

“เรื่องกระไรกันพระเจ้าค่ะ”

“พี่พาพวกเจ้าออกเที่ยวจนเจอเรื่องเช่นนี้ แลลูกยังต้องเจ็บตัว เสียขวัญเยี่ยงนี้อีก”

“มิเป็นไรดอกพระเจ้าค่ะ.....มิมีใครใครอยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นดอกพระเจ้าค่ะ...อย่าได้ทรงกังวลไปเลย”

“.....”

“ทรงปกป้องลูก แลหม่อมฉันได้อย่างดีเยี่ยม....ทรงเป็นพ่อ เป็นสามีที่ดีที่สุดสำหรับพวกเราแล้วพระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ.....พี่รักเจ้า รักภุชงค์ รักเจ้าบัวหนา”

“หม่อมฉันก็รักเสด็จพี่ รักลูกทั้งสองพระเจ้าค่ะ”

“จุ๊บ”กดพระโอษฐ์จูบซับที่ริมฝีปากนิ่ม

“จุ๊บ”จูบตอบพระภัสดาเอาพระทัย







ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ดีงามมมมมมม ชอบบบบบบบบ ขอบคุณสำรับตอนพิเศษมากๆเลยค่ะ  :heaven
ขอวาร์ปไปตอนจ้าวบัวโตเลยได้ไหม ไม่งั้นก็ เปิดอีกเรื่องไปเลย  :call: 55555555555

ออฟไลน์ PeachMint

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กำเงินในมือ รอเล่มเลยค่ะ
ฮือออออ อยากได้ๆ  :ling1:



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านแล้วสนุกมาก ภาษาสวย ทุกอย่างดีงาม  o13

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อ่านไปกลัวดราม่าการะเกดไปแต่สุดท้ายก็ไม่มี ไร้ดราม่าที่แท้ทรู นายเอกพระเอกคนดีมีเหตุผลทั้งคู่ ดีไปหมดค่ะเรื่องนี้

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
เราพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไง มันดีมากเลยค่ะ เราอ่านรวดเดียวจบเลย ชอบมากๆ นิยายดีมากเลยค่ะ

ออฟไลน์ imkhimaut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากเห็นตอนที้ลูก ๆ โตแล้วอะะะะ ><

ออฟไลน์ Pthassa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่กลับมาอ่านอีกหลายครั้งมาก ชอบในเนื้อเรื่อง สำนวน แล้วยังได้ความรู้ด้วย ชอบในตัวละครเจ้าชมนาด ที่ไม่ยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว สารภาพว่าแอบจิ้นบัวกับสุธีอีกด้วย

ออฟไลน์ Bear Company

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด