ตอนที่สิบสอง : กอด กอด กอด
ช่วยด้วย! ช่วยผมด้วย! ฉิบหายแล้วกูโดนผีอำครับหัวหน้า!!
ดิ้นก็ดิ้นไม่ได้ ร้องก็ร้องไม่ออก ฮืออออพุทโธ ธัมโม สังโฆ แม่จ๋าช่วยปิงด้วยปิงยังไม่อยากตายยยยยย
เฮือกกกก!!!
และแล้วความจริงตรงหน้าก็ปรากฏเมื่อผมสะดุ้งลืมตื่นขึ้นมาเพราะความอึดอัดที่กำลังก่อเกิด แต่แท้จริงแล้วนั้น…คือแบบว่าไม่ได้โดนผีอำครับแต่โดนควายทับ…
ไอ้ห่าเสือครับสังคม ไอ้ห่าเสือ!!
จะไม่ให้ผมคิดว่าโดนผีอำได้ยังไงดูสิดู เล่นกอดรัดฟัดเหวี่ยงแน่นอย่างกับกำลังโคฟเวอร์เป็นงูเหลือมยังไงอย่างนั้น แขนนี่ก็
ล็อกคอกูแน่นจนหายใจแทบไม่ออก ขาหนักๆของมันนี่ก็ก่ายกอดมาที่ตัวผมจนขยับตัวแทบไม่ได้ คิดว่าตัวเองตัวเบาหวิวมากเลยหรือไง
อะๆเลิกบ่นก่อนก็แล้วกัน ลืมไปว่ามันเป็นไข้อยู่ว่าแล้วก็ขอดูอาการหน่อยสิว่าเป็นยังไงบ้าง
เสี้ยววินาที ผมใช้หลังมืออังที่หน้าผากของคนป่วยเพื่อวัดอุณหภูมิว่ายังร้อนอยู่ไหม
อืม…ตัวไม่ร้อนแล้วนี่หว่า แค่อุ่นๆ
เพราะงั้น…
“เสือ” จัดการปลุกซะเลย ไม่ได้เป็นหนักแล้วอย่าสำออย
“…” ขอโทษค่ะ ไม่มีสัญญาตอบรับจากหมายเลขที่คุณเรียกค่ะ
ก็นั่นแหละไม่ตอบรับอะไรกูเลยครับหัวหน้า ไม่แม้แต่จะขยับตัวด้วย
“ตื่นได้แล้วโว้ยยยยยย!!” คราวนี้ไม่ว่าเปล่า ไม่ได้เรียกด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มไพเราะเสนาะจับใจแล้ว ตะโกนใส่ซะเลยไม่ตื่นให้มันรู้ไป
เป็นไปตามคาด ว่าแล้วคนตรงหน้าก็ปรือขึ้นมาน้อยๆกะพริบตาปริบๆและมองหน้าผม จากนั้นก็…
เอาหน้ามามุดตรงซอกคอกูเฉยเลย
โอยยยยยยยยยยยยยย กูละเหี่ยใจ…
ลมหายใจอุ่นๆนั้นก็รินรดซอกคอผมจนขนลุกหมดแล้วเนี่ย!!
จะทำอะไรก็เกรงใจกูบ้างนะครับ เห็นกูไม่พูดละเอาใหญ่เลยถึงจะเคยมีอะไรกับกูก็ใช่ว่ากูจะยอมนะโว้ยยยยยย
ไม่ใช่อะไรหรอก…พอเป็นแบบนี้ทีไรได้ใกล้ชิดมันแล้วหัวใจผมจะเต้นไม่เป็นส่ำไม่รู้เป็นเพราะอะไรสงสัยต้องไปหาหมอหน่อยแล้วกลัวเป็นโรคหัวใจ เห็นไหมๆๆๆ ตอนนี้หน้าผมร้อนและแดงไปถึงกกหูแล้วมั้งเนี่ย เพราะงั้นการที่จะหยุดอาการแบบนี้ได้มันต้อง…
“ไอ้เสือตื่นได้แล้วโว้ยยยยยยยยย!” ครั้งนี้ไม่ได้มาแค่เสียง แต่มาพร้อมกับการตะลมต่อยอากาศ เนื่องจากว่ากำลังดิ้นๆๆแล้วก็ดิ้นเพื่อปลุกให้คนที่กำลังเอาหน้ามาซุกอยู่ตรงซอกคอผมนั้นตื่น จะได้หลุดจากการกอดรัดของมันสักที
ไม่นานเกินรอ เปลือกตาสีไข่ก็เปิดขึ้นอีกครั้ง
เห็นไหม… มันตื่นแล้ว
และเราสองคนก็…
อายส์คอนแท็คเลยไอ้สาดดดดด
หน้าของเราอยู่ใกล้กันแค่คืบ มันใกล้ชิดมาก…มากจนลมหายใจของผมกับคนตรงหน้านั้นประทะเข้าหากันจนตอนนี้มันร้อนไปหมดแล้ว…หน้ากูเนี่ยร้อน ฮืออออช่วยกูด้วยครับสังคม
“ปล่อยกูได้แล้ว” ผมพูดด้วยเสียงที่ไม่ค่อยมั่นคงนัก เพื่อที่จะได้ทำลายบรรยากาศในตอนนี้ด้วย ดูเหมือนว่เจ้าตัวเองก็เพิ่งได้สติเหมือนกัน รีบปล่อยแขนขาออกจากตัวผมอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจเหมือนกับว่าผมเป็นของร้อนอะไรทำนองนั้น
แหม…ทีเมื่อกี้ล่ะรัดกูซะแน่นเชียว
เหยยยย…แต่เมื่อครู่นี้น่ะ… ผมเห็นนะ เห็น…มันหูแดงว่ะครับ กร๊ากกกกก!
“ไข้ขึ้นเหรอทำไมหูแดงๆ” ผมก็แซวสิครับหัวหน้า ฮ่าๆๆๆ
ก็แค่แซวเฉยๆน่า คนอ่านอย่าคิดมาก…
ไม่ไงนานๆทีจะเห็นมันมีปฏิกิริยาแบบนี้ นี่กูควรบันทึกลงกินเนสบุ๊คดีไหมเนี่ย
“เปล่า…ไม่มีอะไร” คนป่วยตอบอ้อมแอ้มแล้วก็พลิกตัวหันหลังให้ผมเลย แน่นอนว่าคนอย่างไอ้ปิงก็ไม่ยอมแพ้ตามไปแซวมันให้ถึงที่สุด แหมๆ…หูแดงขนาดนี้แต่หน้ายังนิ่งเหมือนเดิมเลยนะเอ็งเนี่ย ไม่เขินเล๊ยยยยยย
“ไหนๆมาดูดิเผื่อไข้กลับทำไง” ยังอีกผมยังไม่หยุดแกล้งมัน จากนั้นก็เลยแกล้งยื่นมือหมายจะไปวัดไข้ไอ้ควายเผือกที่นอนหันหลังให้อยู่
ก่อนที่มือจะได้แตะที่หน้าผาก คนโดนแกล้งก็พูดขึ้นมาซะก่อน “น้องกวางล่ะ?” แหม…ทำเนียนเปลี่ยนเรื่อง
เออออ!! เฮ้ยยยน้องกวาง
“อ๋ออ อยู่ในห้องกูเอง”
พรึบ!!
ตอบไอ้เสือไปยังไม่ทันจบประโยคดีผมก็รีบหุนหันพลันแล่นลุกขึ้นจกที่นอนทันที ไม่ใช่อะไรเมื่อคืนก็เอาลูกเค้ามานอนด้วยกะว่าจะดูให้แล้วก็ดันไม่ได้ดูให้ซะนี่ ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาเดี๋ยวซวยอีก
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาทีก็มาถึงตรงหน้าห้องผม ไม่รอช้าผมรีบเปิดประตูเข้าไปด้วยความไวว่อง แต่…ภาพที่ปรากฏต่อหน้านั้น
แม่ง…
น้องกวางยังหลับอยู่ครับ…
ฟู่ววววว!
โล่งงงงง!
ผมนี่ถึงกับถอนหายใจออกมาแรงๆอย่างโล่งอกเลยครับสังคม
คนตัวสูงเดินตามผมมาติดๆและยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง “ทำไมให้มานอนนี่ล่ะ?” เจ้าตัวเอ่ยถามและเดินเบียดผมซึ่งยืนอยู่หน้าประตูเข้าไปในห้อง
“ก็ตอนแรกว่าจะเอามาดูให้เนี่ยแหละ เห็นมึงไม่สบายถ้าเอาไปนอนด้วยเดี๋ยวไข้จะกลับอีก…แล้วเมื่อคืนมีหมาที่ไหนไม่รู้มาดึงกูลงไปนอนด้วยเฉยเลย”
เออแม่งเป็นหมาขาดความอบอุ่นด้วย หมาชอบสกินชิพอีกต่างหาก
เอ่อ…ที่พูดขึ้นมาไม่ได้อะไรนะคร้าบบบ แค่อยากบอกให้มันรู้เฉยๆว่าไม่ได้เป็นคนเสนอตัวไปนอนข้างๆมันแบบนั้น
“อ่า…เหรอ” คู่สนทนาตอบเสียงเบาๆที่จริงมันพึมพำในลำคอต่างหากแต่ผมได้ยิน นั่นๆหูมันแดงอีกแล้ว ฮ่าๆๆ ขำว่ะ
“แล้วนั่นจะทำอะไร” ถามสวนขึ้นมาเมื่อเห็นว่าไอ้เสือมันกำลังทำท่าจะเข้าไปอุ้มน้องกวางออกจากเปล
“ก็อุ้มน้องกวางไง” หันหน้ามาตอบ
“อุ้มทำไปทำไม? ไม่เห็นไงว่าน้องกวางยังนอนอยู่”
“ก็เห็น แต่เดี๋ยวจะรบกวนมึงไง”
“รบกวนอะไร ก็ให้นอนไปสิวะทำไมกลัวกูจะกัดหัวลูกมึงเหรอ?”
“ไม่ใช่”
“ไม่ใช่งั้นก็ปล่อยให้นอนอยู่ตรงนั้นแหละ!” แหมผมล่ะอยากเกรี้ยวกราดจังครับหัวหน้า ทำไมเห็นกูใจร้ายขนาดนั้นเลยหรือไง!!
“ก็ได้ ไว้ถ้าน้องกวางตื่นเดี๋ยวกูมาอุ้มออกไปนะ” สุดท้ายมันก็ยอมจำนนท์และเคลื่อนย้ายตัวออกหากจากเปลน้องกวาง
“มึงก็ต้องมาอุ้มออกไปอยู่แล้วสิวะ หรือมึงจะปล่อยให้ลูกมึงเดินออกไปเอง”
“ห่า…กวนตีน” มันพูดแล้วก็ผลักหัวผมแรงๆจนหน้าแทบคว่ำลงพื้นแล้วก็เดินออกไปเลย
ชะชะชะเดี๋ยวนี้ชักหาญกล้า ริอาจมาผลักหัวกู เดี๋ยวๆ เดี๋ยวปั๊ดตบให้กะโหลกแตกซะหรอก!
ขณะนี้เวลาก็ล่วงเลยมาจนเกือบสามโมงเช้าแล้ว ตอนนี้ก็อาบน้ำแต่งตัวทานเข้าเช้ากันเสร็จ ผมเองก็กำลังนั่งเช็คโทรศัพท์อยู่ตรงหน้าโทรทัศน์ ส่วนน้องกวางนั้นก็ตื่นนานแล้วเธอกำลังโดนพ่อของเธอจับแปลงโฉมเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยๆ
“รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม? ไม่ได้ปวดหัวแล้วนะ?” ผมถาม… ที่จริงก็ถามไปงั้นแหละกลัวว่าจะป่วยขึ้นมาอีก ลำบากใครถ้าไม่ใช่ผม
“อืม…ก็ดีขึ้นแล้วแหละ ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไร คราวหลังก็อย่าโหมงานหนักนักสิวะ ตายขึ้นมาแล้วใครจะดูแลน้องกวางมึงยังไม่ได้เห็นเขาเป็นฝั่งเป็นฝาเลยนะโว้ย”
“ไม่ตายง่ายๆหรอกน่า…กูไหว…”
“คร้าบบบบ ไหวคร้าบบบบบบ” ประชดแค่ไหนถามใจดู ผมนี่ตอบเสียงลากยาวจนไปถึงดาวอังคารได้แล้วมั้งเนี่ย
จ้าไอ้คนเก่ง ไอ้คนขยัน ไอ้มนุษย์เหล็ก อยากจะเบ้ปากแรงๆสักทีสองทีให้หน้าเบี้ยวกันไปข้าง
“มันก็ต้องทำแบบนี้แหละไว้มึงมีภาระแล้วมึงจะเข้าใจ คือถ้าเราไม่ทำเองแล้วใครจะมาทำให้วะชีวิตมึงก็ต้องรับผิดชอบดิ”
“เออ…กูเข้าใจ แต่กูหมายถึงทำงานน่ะก็ต้องพักผ่อนบ้างไม่ใช่โหมงานหนักอยู่ท่าเดียว ตัวมึงเองถ้าไม่ดูแลแล้วใครจะมาดูแลล่ะ คร้าบบบบบบ” ขอแซะหน่อยเถอะ ก็เข้าใจฟีลคนต้องเร่งหาเงินแหละ แต่มึงครับหาเงินกว่าจะได้เอามาใช้นี่คงต้องจ่ายค่ายารักษาตัวเองก่อนแหงๆ เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย
“ไม่เอาหรอกคนดูแล ไม่รู้ว่าถ้ามีแล้วใครจะได้ดูแลใครกันแน่”
“ก็หาคนที่มันดูแลมึงได้สิวะ จะเอามาเป็นภาระทำไม!?” เออกูไม่เข้าใจมึงเนี่ย!
“แต่บางครั้งก็อยากเป็นคนมีภาระเพิ่มว่ะ” มันละสายตาจากน้องกวางและหันมาตอบผม แอบเห็นมุมปากนั้นยกยิ้มน้อยๆ
บ้า!...เป็นไข้จนประสาทกลับเลยหรือไงมึง
“โว้ะ! ผีบ้า!” คนดีที่ไหนอยากจะหาภาระเพิ่ม อยากได้เพิ่มนี่มารับเลี้ยงกูเป็นลูกอีกคนนี่มา ฮ่าๆๆๆ
ตลกละ…?
แค่ประชะครับหัวหน้า อย่าคิดมาก
“แล้วนี่ไอ้หมากมันไปไหน ไม่ค่อยเห็นเลยเดี๋ยวนี้” คู่สนทนาเปลี่ยนเรื่อง ถามขึ้นมาทั้งที่มือก็ยังง่วงอยู่กับการแต่งตัวให้ลูก
“ไม่รู้นะ แต่เห็นไอ้ฟาร์มมันเคยบอกว่าพี่หมากทำงานกลางคืน” จริงๆพี่มันก็กลับบ้านนะ แต่ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร ผมตื่นพี่มันนอน ผมนอนพี่มันไม่อยู่ไรงี้มากกว่า หรืออาจจะเข้ามาเวลาที่ผมไม่อยู่บ้าน
“อ่อ…แล้วมึงล่ะไม่ทำงานบ้างเหรอ?”
แหม…พอถามมาอย่างนี้แล้วอดหน้าสั่นไม่ได้เลย ทำไมผมดูเป็นคนไร้แก่นสารอย่างนี้วะ ไม่เป็นหลักเป็นแหล่งล่องลอยไม่มีอนาคต
“ปิดเทอมว่าจะหาทำอยู่ อยากหาที่ที่ทำเป็นพาร์ทไทม์ตอนเปิดเทอมได้ด้วยน่ะ”
“อืม…แล้วจะไปมหาลัยเลยไหม? ติดรถกูไปก็ได้”
“ไปด้วย…ไม่อยากเสียเงินค่ารถ แหะๆ” คือก็งงนะกำลังคุยเรื่องทำงานแล้วเปลี่ยนมาเป็นเรื่องไปมหาลัย ขอจูนสมองแป้บ!
เมื่อเช้าผมซ้อนรถมากับไอ้เสือแบบที่เคยซ้อนในวันนั้นที่ติดรถมันมาครั้งแรก ใครมองก็คงว่าครอบครัวสุขสันต์แต่…ใจเย็นครับหัวหน้านี่แค่คนรู้จัก พี่น้องกัน
“ไอ้ปิง” อยู่ๆไอ้โก้มันก็กระซิบเรียกพร้อมกับสะกิดผมที่กำลังตั้งใจฟังอาจารย์สอนอยู่
“อะไร?” เลยตอบแบบกระซิบๆกลับไป
“เย็นนี้ไปกินหมูกระทะบ้านมึงได้ไหม?”
“ทำไมต้องบ้านกู?” ผมเลิกคิ้วขึ้นในเชิงถาม นั่นสิอยากกินหมูกระทะก็ไปกินที่ร้านสิวะ มาบ้านกูทำไมขี้เกียจเก็บจานโว้ยยยย
“ก็หอกูมันกินเนื้อย่างไม่ได้”
“แล้วทำไมไม่ไปร้าน?”
“อยากเปลี่ยนบรรยากาศ”
“แล้วทำไมไม่ไปบ้านไอ้เจมส์?” บ้านไอ้นั่นยิ่งครบเรื่อง สบายกว่าบ้านผมเยอะ
“ไม่เอา บ้านมันกว้างไป” โอยยยย ไอ้บ้า! แบบนี้ก็ได้เหรอออ?
“ไม่เอาขี้เกียจเก็บจาน!”
“โว้ะอะไรวะ แค่นี้ก็ไม่ได้” นั่นไงทั้งกระซิบแล้วก็ตัดพ้อกูอย่างกับว่ากูไม่ให้ข้าวมึงกินยังไงอย่างงั้นแหละ
“เออๆแล้วแต่มึง อยากไปก็ไปแต่ช่วยล้างจานให้กูด้วย” สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะไม่ให้มันไป หนึ่งเลยก็แบบเพื่อนน่ะนะเลยไม่อยากอะไรมาก ส่วนข้อสองนี่สำคัญสุด ได้กินของฟรี กร๊ากกกกก!!
และเย็นวันนั้นปาร์ตี้หมูกระทะที่บ้านผมก็ประกอบไปด้วยผม ฟาร์ม เจมส์แล้วก็ไอ้โก้ตัวตั้งตัวตีของเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นงานนี้ไอ้โก้เลยเป็นคนออกหมดเลยเพราะมันอยากเสนอมาดีนักพวกผมเลยพร้อมใจกันสนองเทคะแนนเสียงออกมาว่าไอ้โก้ต้องเป็นคนเลี้ยงเพราะมันเป็นคนชวน เลยได้เนื้อย่างชุดใหญ่มาสี่ชุดครับ มันเป็นสองแถมหนึ่งทั้งหมดเลยเป็นหกชุด อะๆกำลังคิดล่ะสิว่ามันเยอะ กับคนอื่นอาจจะเยอะนะแต่กับพวกผมมันไม่ใช่ไง กินแต่ละทีนี่อย่างกับพายุลง ฮ่าๆๆๆ พอดีว่าช่วงนี้ปอบลง
“ไอ้เหี้ยเจมส์มึงแย่งหมูกูไปอีกแล้วสันดาน!” ขณะนี้สงครามขนาดย่อมๆกำลังเกิดขึ้นโดยผมกับไอ้เจมส์ไอ้จอมมารวายร้ายที่จะมาแย่งสามชั้นย่างแบบเกรียมๆไปจากผม
เออเอาผมก็เลยทำตัวปัญญาอ่อนไปเลยนะครับหัวหน้า ไม่ต้องแซะผมครับนี่แซะตัวเองได้
“ของมึงอะไรอันนี้ของกู กูถ่มน้ำลายจองไว้แล้วกูจำกลิ่นได้” โห…ต่ำตมแค่ไหนถามใจดู สารเฬววววว
“ไอ้สัด มึงมันเลวชิ้นนี้กูจำได้ว่ากูเป็นคนย่าง อีกอย่างเนื้อชิ้นนี้กูเอามาอมก่อนไปย่างมึงจะมาโมเมว่าเป็นของมึงไม่ได้!” แต่กูต่ำตมกว่าครับ กร๊ากกกก
“มึงสิเลว”
พรึบ!
“ไอ้เหี้ยฟาร์ม!!” ยังไม่ทันที่ผมจะพุดจบประโยค หมูชิ้นนั้นก็ลอยวับผ่านหน้าไป ผมกับไอ้เจมส์ถึงกับตะโกนออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เพราะไอ้ห่าตัวแย่งหมูที่แท้จริงนั้นแม่งมาชุกมือเปิบไปเฉยเลย เถียงกันตั้งนานสุดท้ายมาโดนไอ้ฟาร์มมันแย่งไปซะได้ผีปอบ…
“เถียงกันอยู่นั่นแหละรำคาญ!” มันทำเสียงแข็งกลบเกลื่อน
“เลว!!” แล้วก็รวมหัวกันด่าไอ้ฟาร์มแบบประสานเสียงอีกครั้งพร้อมกันสามสี่!
ขโมยหมูผมไปแบบหน้าด้านๆหนาเท่าถนนคอนกรีตยังไม่พอยังมาเบ้ปากมองบนใส่กูอีก ชะชะช่าเดี๋ยวตบให้หน้าเบี้ยวแบบไม่ต้องเบ้ปากเลยไอ้นี่
บื้นนนนน!!
พอกำลังจะอ้าปากด่ามันต่อแต่ก็ยังไม่ได้ด่าแขกคนใหม่ก็เข้ามาขัดคำพูดของผมซะแล้ว คือตอนนี้เรากำลังปูเสื่อนั่งกินตรงหน้าบ้านผมกัน ส่วนไอ้คนที่มานั้นก็ไม่ต้องแปลกใจ คนที่คุณก็รู้ว่าใครนั่นแหละ…ก็เสือไงจะใครล่ะ แต่เอ๊ะ! นั่นมันเสือคนเดิม
เพิ่มเติมคือไอ้พี่หมากนี่หว่า… ทำไมซ้อนรถมาด้วยกันได้ล่ะนี่
“เอ้าพี่มาพอดีเลย มาๆนั่งๆ” เป็นเสียงไอ้ฟาร์มคนดีคนเดิมเองครับก็พี่ชายสุดที่รักของมันทั้งสองมาพร้อมกันเลยนี่
“นี่ปาร์ตี้อะไรกันเนี่ยพวกมึง!?” ไอ้พี่หมากผู้ที่ตามตัวหายากมากกว่าใคร ทำตัวราวกับว่าเป็นนักฆ่าไร้เงาตอนนี้เพิ่งลงมาจากการซ้อนท้ายไอ้เสือแล้วก็เดินตรงมาทางพวกผมที่กำลังนั่งสวาปามกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ไอ้โก้มันเลี้ยงน่ะพี่” ผมพูด “อ้อพี่หมาก พี่เสือนี่เพื่อนไอ้ปิงมัน เพื่อนผมด้วยก็ได้ ชื่อโก้กับเจมส์” จากนั้นก็หันไปแนะนำไอ้เพื่อนทั้งสอง
“หวัดดีคร้าบบบบ” ว่าแล้วมันสองคนก็ยกมือไหว้กันไปตามระเบียบ ส่วนไอ้เสือนี่ก็เดินหน้าไร้อารมณ์มาเหมือนเคย สองมือก็ถือตะกร้าผ้าอ้อมน้องกวางอย่างพะลุงพะลัง
“แอ๊!!” นั่นไงเสียงยัยเด็กอ้วนเองแหละครับ พอไอ้เสือมันพาเดินเข้ามาในบ้านเท่านั้น อาจเป็นเพราะว่าเห็นผู้คนมากหน้าหลายตาเธอเลยส่งเสียงออกมาจนพ่อมันนี่มองหน้าลูกอย่าตกใจ
ไม่ใช่อะไรนะ ที่ร้องออกมานี่ไม่ได้ว่าร้องไห้นะสงสัยว่าเธอยากลงมาเล่นด้วยอะไรประมานนี้
“กินอะไรกันมายัง?” ผมหันไปถามไอ้พี่ทั้งสองคนที่เพิ่งมาใหม่
“ยังเลยกำลังหิว” อันนี้ไม่ต้องชวนหลายรอบเลยครับหัวหน้า ไอ้พี่หมากมันตอบแล้วก็นั่งข้างๆไอ้ฟาร์มทันที
“มาๆพี่มานั่งกินด้วยกันก่อนครับ” ไอ้โก้เจ้ามือประจำมื้อนี้ร้องเรียกไอ้เสือที่ยังจะอุ้มลูกเดินเข้าไปในบ้าน
“อ่อ…เดี๋ยวพี่เอาของไปเก็บก่อนเดี๋ยวออกมานั่งด้วย” พูดเสร็จแล้วร่างใหญ่ๆของมันก็หายเข้าไปในบ้านทันที นี่ก็ตกใจหมด
คิดว่าเป็นอะไรที่ทำหน้านิ่งๆไม่ค่อยพูด ตอนแรกก็คิดว่าโกรธที่ไหนได้ไอ้ห่านนน ก็ลืมไปครับว่าหน้ามันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
“พี่ไปไหนมาวะทำไมช่วงนี้ไม่เห็นหน้าเลย?” ผมอดที่จะถามไม่ได้ คนอยู่ด้วยกันไม่เห็นหน้ากันไม่ถามสิแปลก
“กูไปทำงานมา บางทีขี้เกียจกลับก็นอนห้องกิ๊ก” พี่หมากตอบแล้วก็จัดการคีบเนื้อในกระทะออกมาเป่าและก็ยัดเข้าปากทันทีหลังจากที่ตอบคำถามผม
“ว่าอยู่ทำไมหายไปไหน”
“ที่จริงก็กลับมานะ แต่พอกลับมาแล้วมึงไม่อยู่ เวลาไม่ตรงกันเลยไม่ได้เจอหน้าไง”
“เฮ้ยยยย!!”
“อะไรของมึงไอ้เจมส์!?” ไม่ใช่แค่ผมที่เป็นคนถามครับ ไอ้ฟาร์มกับไอ้โก้ก็ประสานเสียงถามออกมาด้วยความพร้อมเพียง ก็อยู่ๆมันเล่นอุทานขึ้นมาจนเนื้อหมูที่กำลังคีบเข้าปากผมนี่หล่นลงพื้น ส่วนไอ้โก้ที่กำลังกินน้ำอยู่ก็สำลักออกมาแทบไม่ทัน
“กูว่าแล้ว…”
“ว่าอะไรของมึง?” ไอ้โก้ถามพร้อมกับสีหน้าที่โคตรสงสัย เออกูเชื่อแล้วว่ามึงสงสัยจริง คิ้วนี่ขมวดเป็นปมจนแก้ไม่ออกละ ส่วนผมสามคนก็กำลังอ้าปากตั้งใจรอฟังจนยุงจะบินเข้าไปไข่ในปากแล้ว เพราะไอ้เจมส์มันยังคงลีลาลวดลายท่ามากไม่ยอมพูด
“ลืมซื้อเบียร์เข้ามาว่ะ…แหะๆ” มันตอบและยิ้มแห้งๆกลับมา
“โอ้ยยยยไอ้สัดดด!!!” แล้วก็พร้อมใจกันด่ามันออกมาโดยพร้อมเพียง
“แล้วไง?” ฟาร์ม
“ก็เดี๋ยวกูมาแป้บนึง ไปซื้อเบียร์ก่อนไอ้โก้ไปช่วยกูยกลังเบียร์ดิ” แหม…คือแบบมึงแค่พูดว่าลืมซื้อเบียร์ก็พอแล้วไหม มาทำเป็นท่าทำทางรีแอ็คชันใหญ่โต เดี๋ยวปั๊ดดดดด!!
และค่าเบียร์ครั้งนี้ก็ฟรีไปอีกเพราะถูกสมนาคุณ โดยไอ้พี่หมากจากมันหนึ่งลัง แต่รู้อะไรไหมครับ? มันแม่งพากันยกมาสองลัง โอยยยยจะพากันอาบเบียร์หรือไงพวกมึง!!
“แอ๊!!” และคนที่หายไปมันก็กลับมาพร้อมกับเสียงที่ผมโคตรจะคุ้นหู
หายเข้าไปสักพักก็ออกมาพร้อมกับไอ้เด็กอ้วนที่ท่าทางนี่โคตรจะดี๊ด๊ากว่าทุกครั้งที่เคยเป็น
“พี่เอาไรให้น้องกวางกินป้ะเนี่ยทำไมดูดีดๆอย่างนี้วะฮ่าๆๆๆ” ฟาร์มพูด
“ไม่รู้ว่ะ สงสัยเห็นคนเยอะมั้งเลยดีด” มันตอบแล้วก็นั่งลงข้างผม ส่วนน้องกวางนี่ก็จับนั่งลงรถโดนัทที่นั่งประจำตำแหน่งของเธอ
“พี่เอาเบียร์ไหมครับ?” ไอ้เจมส์คนที่นั่งกอดถังน้ำแข็งถังเบียร์ไว้ก็ชะโงกหน้ามาถามไอ้เสือที่เพิ่งได้นั่งกินหมูกระทะ
“สักแก้วก็ได้”
ส่วนผมนี้ก็ไม่ได้แตะอะไรมากมายสักเท่าไร เพราะเดี๋ยวมันจะเปลี่ยนนิสัยผมอีก ความไม่ปลอดภัยยิ่งอยู่ใกล้ๆตัวด้วย อยู่ในบ้านเลยด้วยซ้ำ ถ้าเกิดผมเมามันเมาแล้ว…
เออนั่นก็แหละครับก็…นั่นแหละ
เพราะฉะนั้นเราต้องปลอดภัยกันไว้ก่อน
และแล้วช่วงเวลาของความสุขก็หมดไป…แต่แทนที่ด้วยความทุกข์แทนไอ้สาดดดดดดดด
เหยดดแม่มมมมมมมม!! คือแบบพี่หมากมันก็เมาแล้วเข้าห้องนอนเลยไง ส่วนไอ้สามตัวนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย ตอนนี้ไอ้ฟาร์ม ไอ้เจมส์ ไอ้โก้ก็กำลังนอนสลบกันอยู่ตรงพื้น ไม่ต้องสงสัยเลยครับ สองลังไม่ได้ทำให้พวกมันเป็นแบบนี้ แต่เป็นเพราะเสนอหน้าไงกระแดะอยากกินกันต่อเลยไปจัดมาอีกหนึ่งลัง แล้วเป็นไงคนลำบากนี่ใครถ้าไม่ใช่คนไม่เมาแบบกู… โอยยยยจิครายยยยย
“เอายังไงล่ะทีนี้?” ไอ้เสือเดินมาถามผมและพยักพเยิดหน้าไปทางหมาสามตัวที่กำลังนอนกองกันอยู่ไม่รู้เรื่องรู้ราว เป็นไงล่ะติดลมแล้วลำบากใครไอ้พวกนี้นี่อย่าให้ตื่นขึ้นมาพรุ่งนี้นะ นี่จะตบหัวเรียงตัวเลย ชิชะ!
อ้อลืมบอกไป คือก็ไม่ได้รับชะตากรรมไปคนเดียวนะครับ ยังมีไอ้เสือด้วยอีกคนที่ช่วยกันเก็บช่วยกันกวาดจนตอนนี้ก็ต้องมาช่วยกันลากพวกมันสามคนเข้าไปในบ้าน
ดีหน่อยที่น้องกวางนอนแล้วก็คุณเธอนั้นเล่นกับผมจนเหนื่อยนั่นแหละ เพราะระหว่างที่ไอ้เสือมันกินอยู่ผมเลยอาสาดูน้องกวางให้ จะได้เต็มที่ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
“ก็ต้องลากพวกมันเข้าไปนอนในบ้านแหละ” ผมตอบอย่างหมดแรงพร้อมเกาหัวแกรกๆไปมา เห้อ…เห็นสภาพแล้วผมล่ะเหนื่อยรอตั้งแต่เนิ่นๆเลย คือแบบ…แต่ละคนนี่ตัวไม่ได้เบาๆเลยนะ
ฮึบบบบ!!
ฟู่ววววว!!
ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่ง เพราะตอนนี้ผมกับไอ้เสือก็ได้ช่วยกันแบกไอ้สามตัวบาทเข้ามานอนในห้องผมได้แล้ว ถ้าจะให้นอนข้างนอกก็สงสารเพราะว่าไม่มีแอร์มีแต่พัดลมก็กลัวมันจะร้อนกันจนตายน้ำก็ยิ่งไม่ได้อาบกันอยู่
“ขอบใจ…” ผมพูดพร้อมกับพ่นลมหายใจหอบๆออกมา ถ้าไม่ได้ไอ้เสือผมนี่ตายแน่ๆ
“ไม่เป็นไร แล้วจะนอนกันได้เหรอ?”
“ก็ได้แหละ ไม่อยากปล่อยให้นอนข้างนอกไงเดี๋ยวยุงหามพวกมันไปกินอีก”
“อ่อ…” มันตอบรับเสียงในลำคอ “เดี๋ยวกูไปนอนก่อนนะจะให้ช่วยไรก็บอก” พูดทิ้งท้ายไว้จากนั้นก็เดินออกไป
“โอเค…” หลังจากที่ไอ้เสือมันออกไปแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องชำระล้างร่างกายซักทีเหนื่อยมาทั้งวันละ เพราะถ้าไม่งั้นเดี๋ยวจะได้นอนแบบเน่าๆเนื่องจากตอนนี้ก็ง่วงเหมือนกัน เพราะเวลานี่ก็ล่วงเลยไปแล้วเกือบตีสอง ง่วงแค่ไหนถามใจดู
ฮ้าวววววววววววว
อาบน้ำยังไม่ทันเสร็จดีแทนที่ตาจะเปิดแต่กลับง่วงมากกว่าเดิมอีก เลยไม่รอช้าที่จะล้มตัวลงนอน หมายถึงล้มตัวลงนอนพื้นข้างล่างนะครับ เพราะพวกมันเล่นนอนยึดเตียงกันซะหมดเลย อีกอย่างถึงนอนได้ก็ไม่นอนกับพวกมันหรอก น้ำไม่อาบอย่างนั้นใครจะไปนอนเบียดด้วย กลิ่นเหล้ากลิ่นเบียร์กลิ่นควันหมูย่างนี่ไม่ต้องพูด ถ้าพวกมันตื่นขึ้นมานะจะไล่ให้เอาผ้าปูที่นอนผมไปซักเลย เพราะกลิ่นนี่ต้องติดแล้วแน่ๆ
ฮ้าวววววววว
หาวยาวขนาดนี้ที่จริงก็ควรจะนอนได้แล้วนะครับ… เพราะฉะนั้นขอตัวไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ก่อนนะครับหัวหน้า…
คร่อก…
แต่…ยังไม่ทันที่จะได้หลับตาลงเลยเสียงแปลกประหลาดก็เข้ามารบกวนบรรยากาศดีๆของผมเสียหมด อันเนื่องมากจากว่า…ไอ้สามตัวนั้นมันกำลังนอนแข่งกันกรนอยู่น่ะสิวะ!
บัดซบที่สุด!!
คร่อกกกกก!!!
เอาน่าเดี๋ยวก็หลับ ข่มตาไว้ข่มตาไว้… ผมปลอบใจตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่านับแกะตัวที่ร้อยถึงพันแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเข้าสู่ห้วงนิทราบ้างเลย
โอยยย ยิ่งนานเข้ายิ่งทวีคูณจนตอนนี้ตามันปิดแทบไม่ลงแล้วครับ ช่วยด้วยยยยยย
คร่อกกกกก!!
ยังอีกยังไม่หยุดอีก…ได้พวกมึงจะเอาอย่างนี้ใช่ไหม!?
ได้!!
.
.
.
กูไปนอนข้างนอกก็ได้โว้ยยยยยย
หนทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากเสียงกรนนรกได้ก็ต้องเป็นผมนี่แหละที่ต้องหนีออกมานอนข้างนอกคนเดียวตรงโซฟาหน้าทีวี… แล้วแม่งก็ร้อนฉิบหายเลย ยุงก็กัดด้วย
คอยดูนะพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาจะเช็คบิลเก็บต้นทบดอกกันให้ครบทุกคนเลย!
“ทำไมมานอนตรงนี้ล่ะ?”
ฉิบหาย! ตกใจหมดคิดว่าแต่ผีที่ไหนเล่นเข้ามาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงเพราะอยู่ดีๆในขณะที่ผมกำลังพลิกซ้ายพลิกขวากลิ้งมากลิ้งไปอยู่บนโซฟาเสียงทุ้มแสนคุ้นหูก็พูดแทรกขึ้นมาซะได้
“พวกมันกรนเสียงโคตรดังนอนไม่หลับ” ผมตอบ
ตอนนี้คือง่วงมาก แต่ก็นอนไม่หลับ ร้อนก็ร้อนยุงก็กัดทรมานมาก
“ไปนอนห้องกูดิ”
หะ! อะไรนะ?
“…”
“ก็แค่ชวนเข้าไปนอน เห็นนอนร้อนๆให้ยุงกัดกูก็เวทนา”
อ๋อออออ… ถึงบางอ้อเลยครับ!!
“แล้วน้องกวางล่ะ?”
“น้องนอนในเปลไม่ได้นอนบนที่นอน”
“อ่อ…งั้น…วันนี้กูนอนด้วยนะ”
พรึบ!!
ว่าแล้วก็ไม่รีรอที่จะหอบผ้าห่มหอบหมอนเข้าไปนอนตากแอร์ให้เย็นฉ่ำสบายใจ เลือกที่จะนอนฝั่งที่ติดกำแพงตอนนี้ก็เลยหันหน้าเข้ากำแพงซะเลย
ฮ้าววววแอร์เย็นๆแบบนี้ที่ปารถนา นอนแล้วครับ
คร่อก…
มีต่อนะคะ