♥รักของเสือ ♥#อัพจ้า รักของเสือตอนที่(21) - 18/4/61 (หน้าที่5)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥รักของเสือ ♥#อัพจ้า รักของเสือตอนที่(21) - 18/4/61 (หน้าที่5)  (อ่าน 25524 ครั้ง)

ออฟไลน์ กิงก่องโก๊ะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
    • เข้ามาฝอยกันได้นาจาาาาา
ต่อค่ะ



 บันทึกของเสือ


     หลังจากที่ผมพาไอ้ขี้โมโหไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้วก็พากันกลับถึงบ้านในเวลาตีหนึ่งกว่าๆ วันนี้น้องกวางเธอไม่ยอมกลับกับผมงอแงจะอยู่กับน้าเล็กให้ได้ก็เลยไม่ขัดใจ อยากนอนก็นอนแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ถึงจะรับกลับ


     “เพิ่งเลิกงานเหรอปิง?”   หมากมันเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเอง เมื่อเห็นว่าใครมามันก็ทักทายตามประสา

     “เลิกนานละ แต่กว่าจะรอคนมารับกว่าจะได้กินข้าวน่ะพี่” หน้าตาของปิงตอนนี้บอกได้เลยว่าพร้อมไฟท์มาก ถ้าผมกวนมันอีกนิดหนึ่งนี่รับรองว่าปรี๊ดแตกแน่ๆ  ฟาร์มหมาในปากมันคงเดินออกมาเพ่นพ่านกันเป็นว่าเล่น

     “กูว่าวันนี้มึงต้องซักแห้งอีกแน่เลย”  ไอ้หมากพูดอย่างรู้ทัน 

     “รู้ดี ไปละผมไปนอนละ”  ท่าทางมันจะเหนื่อยมากถึงกับเดินคอตกตาก็แทบจะปิดเข้าห้องไปเลย

     “แล้วน้องกวางไปไหนล่ะ?” ไล่หลังจากที่ปิงมันเดินเข้าห้องไปหมากมันก็หันมาถามผมที่กำลังจะเดินเข้าห้องตัวเองบ้าง

     “นอนบ้านน้าเล็ก แล้ววันนี้ไม่ทำงานไง๊?” 

     “ไม่อ่ะ กูหยุด…เหนื่อย”  แล้วก็ยิ้มแห้งๆตอบกลับมา 
     เออ ก็สมควรเหนื่อย ผมทำงานเยอะยังไงไอ้หมากนี่ก็ไม่ต่างกันหรอกครับ

     “เออ…กูไปนอนละ” 



 เช้าต่อมา…


     ผมตื่นเช้าอย่างเช่นทุกครั้งถึงวันนี้จะเป็นวันเสาร์ไม่มีเรียน แต่ก็ต้องไปทำงานว่าจะแวะเข้าไปหาน้องกวางที่บ้านน้าเล็กด้วย ผมชงกาแฟกินตามปกติ ค่อนข้างที่จะติดเลยก็ว่าได้ถ้าไม่ได้ก็จะหงุดหงิดอยู่หน่อยๆ




 ติ๊งต่อง!

     แก้วกาแฟซึ่งกำลังจ่ออยู่ที่ริมฝีปากกลับต้องลดลงและเอาไปวางไว้ที่โต๊ะตั้งกระติกน้ำร้อนก่อน เพราะเสียงออดหน้าบ้านนั้นดังขึ้นขัดจังหวะพอดี

     ใครมันมาทำอะไรแต่เช้า…?
     อาจจะเป็นไอ้ฟาร์มก็ได้ เพราะที่นี่น่ะไม่ค่อยมีใครมาหรอกนอกจากเพื่อนของไอ้เจ้าของบ้าน ส่วนผมกับหมากก็ไม่ค่อยพาใครมาที่นี่หรอก



     แต่…

     ไม่ใช่ครับ

     ผิดคาด

     เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าบ้านนั้นไม่ใช่ไอ้ฟาร์มหรือเพื่อนของปิง แต่เป็น…

     ผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาสะสวยเอาการ
     เมื่อเห็นหน้าผมโผล่ออกไปเธอก็ส่งยิ้มมาให้น้อยๆ “ปิงอยู่ไหมคะ?” และถามผมซึ่งหยุดอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว แต่มีรั้วบ้านกั้นเราไว้อยู่

     “อยู่ครับ…คุณ?” 

     “เพลงค่ะ” 

     หือ…? เพลง
     อ่า…เพลง คนที่เคยทำไอ้ปิงเสียใจใช่ไหม?

     และรถยนต์คันสวยของเธอที่จอดอยู่ทางเบื้องหลังทำให้ผมอดแปลกใจไม่ได้… ก็นั่นมันรถคันเมื่อคืนที่จอดถามทางไอ้ปิงนี่

     แสดงว่า…ปิงโกหกผมเหรอ
     แล้วผมควรที่จะทำยังไงดีล่ะ? เชิญเธอเข้าบ้านดีไหมหรือยังไง? 


     “เข้ามารอก่อนสิครับ เดี๋ยวไปตามปิงให้” 
     สุดท้ายก็ให้เข้ามารออยู่ดี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยากให้เข้ามาสักเท่าไร
     ก็เธอคือคนที่ทำให้ไอ้ปิงเจ็บแล้วเป็นบ้าเป็นหลังอยู่นานสองนานนะ ไม่อยากให้เข้ามาก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก  อีกย่าง…

     นี่ไปคุยกันตั้งแต่ตอนไหนวะ!?

     “รอตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมเรียกปิงให้”   บอกให้เธอนั่งรออยู่ตรงโซฟากลางบ้าน เธอยิ้มตอบกลับมาพร้อมกับหย่อนก้นนั่งลงตรงนั้น

     เฮ้ออออ…ยิ้มพิมพ์ใจอีกแล้ว ไม่แปลกที่ไอ้ปิงมันจะหลงเขาอะไรขนาดนั้น ได้ข่าวว่าเป็นรักแรกตั้งแต่ที่เรียนมัธยมนี่? 
     ข้อดีของการที่ชอบตีสีหน้าเรียบเฉยตลอดเวลาคือไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่และอยู่ในช่วงอารมณ์ไหน…เพราะ ตอนนี้ผมแม่ง โคตรหงุดหงิด

     ไม่รู้ว่าเพราะเธอหรือเพราะว่ายังไม่ได้กินกาแฟ




     ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องไอ้ปิงอย่างถือวิสาสะเนื่องจากว่ามันไม่ได้ล็อคเพราะขี้เกียจมายืนเคาะให้เสียเวลาไอ้นี่มันขี้เซาต้องเข้ามาปลุกด้วยตัวเอง ถ้ามาแค่เสียงจ้างให้มันก็ไม่ตื่น

     “ปิง…” และเดินเข้าไปหาไอ้เจ้าของห้องที่กำลังเอาหน้ามุดอยู่กับหมอน

     “…”  แต่ก็ไม่ได้มีเสียงตอบรับใดๆนอกจากการนอนหลับเป็นตายไม่แม้แต่จะขยับตัว

     “ไอ้ปิง”  เรียกอีกครั้งพร้อมกับการดึงผ้านวมผืนเน่าๆของมันซึ่งกำลังคลุมตัวไว้อยู่ออกมา

     “อืออออออ”   เจ้าตัวพึมพำเสียงในลำคอ พลิกตัวหันไปทางอื่นแล้วก็นอนต่อ

     “ไอ้ปิงมีคนมาหา!!”  ใช้ระดับเสียงที่ดังมากขึ้นว่าเดิม ไม่ใช่แค่เพียงเรียกเปล่า ผมดึงแขนมันให้ตัวลุกขึ้นจากที่นอน
มันอิดออดยังไม่ยอมลุก แต่… “โว้ยยยยยย ไอ้เหี้ยนหนิ! กูจะนอน!!!” สุดท้ายก็ลุกได้
ตื่นทั้งคนทั้งหมาในปากเลย ก็มันไม่ชอบให้คนปลุกตอนนอนยิ่งนอนไม่เต็มอิ่มมันยิ่งไม่ชอบ  เมื่อวานท่าทางงานจะหนักมันไม่ยอมอาบน้ำจริงๆด้วย ยังคงสภาพชุดเดิมไว้เปลี่ยนแค่กางเกงเป็นบ๊อกเซอร์เน่าๆที่ชอบใส่


     “กูจะนอนนนนนนน”  หน้าตามันบิดเบี้ยว และดิ้นเร่าๆบนที่นอน
     
     โห…อะไรมันจะขนาดนี้วะ
     
     งอแงเหมือนเด็กน้อยเลย
     
     เป็นลูกกูอีกคนเลยดีไหมเนี่ย!? 

     “มีคนมาหา มึงลุกออกไปหาเขาก่อน” ดึงแขนมันให้ลุกขึ้นมาจากที่นอนอีกครั้ง

    “โว้ยยยย” แล้วแม่งก็โว้ยวายใส่ผมเฉยเลย
     บางทีมึงอาจจะชอบก็ได้นะ…ถ้ารู้ว่าคนที่มาหาแม่งเป็นใคร

     สุดท้ายมันก็ลุกขึ้นมาจากที่นอนเดินออกมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องด้วยสภาพหน้าที่ยับยู่ยี่ไม่พร้อมรับแขกผมเผ้านี่กระเซอะกระเซิงชี้ไปคนละทิศคนละทาง ปากหาววอดๆจนแมลงวันจะบินเข้าไปไข่ได้แล้ว




     “ปิง…”   

     “พี่เพลง…” 



     เมื่อมองดูแล้วจากหน้าตาที่นอนไม่เต็มอิ่มง่วงหงาวหาวนอนนั้นหายไปในทันที แต่แทนที่ด้วยความมึนงงสับสนแทน ผมเดินเลี่ยงออกมาหาแก้วกาแฟของผมซึ่งวางไว้อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น  แต่ก็ยังไม่พ้นที่จะได้ยินเสียงสนทนาของทั้งคู่

     ไม่ได้ตั้งใจฟังนะ แต่มันเข้าหูเอง
     และเสียงนั้นก็ค่อยๆหายไปเมื่อเขาทั้งสองเดินออกไปคุยกันอยู่ข้างนอกบ้าน  ผมว่าร้อยทั้งร้อยที่กลับมาแบบนี้ต้องมาขอคืนดีแน่ๆ… มึงจะคืนดีกับเขาจริงๆเหรอวะปิง?


     กาแฟก็กินแล้วแต่ทำไมมันถึงหงุดหงิดอยู่แบบนี้?

     ผมว่าไม่ใช่เพราะกาแฟแล้วล่ะ เพราะไอ้ปิงนั่นแหละ…


    จบบันทึกของเสือ




     TBC...



     เเอร้ยยยยยย สวัสดีคร้าบบบบบบบบบบบ /คลานมารับโทษเเต่โดยดี 
     ขอโทษที่หายไปนานนะค้า เเต่ก็อย่างที่บอกน้องกลับไปรีไรท์ตั้งเเต่เเรกเลย รีไรท์กินเวลาเค้าเป็นอย่างมากกกก ฮ่าๆๆๆ ที่จริงก็ไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไรค่ะ  งานเยอะเเถมยังสามวันดีสี่วันไข้ป่วยบ่อยมากกก TwwwT (เเต่ก็ยังมีเวลาไปเขียนเรื่องใหม่ แหะๆ) 

ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ยังรอกัน ก๋อมไม่ทิ้งนิยายเรื่องนี้เเน่นอนสบายใจได้เลยยยยย(มีเเพลนอยากทำเล่มด้วยซ้ำ เเต่ไม่รู้ว่ามีใครอยากได้กับน้องมั้ย? คือน้องเเค่อยากมีผลงานของตัวเองเก็บไว้ดอมดมTwwT) ขอเเค่คนอ่านอยู่กับก๋อมไปนานๆนะคะ  ขอบคุณค่ะที่ยังติดตามกันนน

ก็...ขอโอกาสฝากนิยายเรื่องใหม่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ  ชื่อเรื่องว่า sleep with me free breakfast  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59929.0

สุดท้ายเเล้วหนึ่งคอมเมนท์หนึ่งล้านกำลังใจนะคะ
โอเคหรือไม่โอเคยังไงติเตียนเราได้ตลอดเวลาเลยนะคะ 

ส่วนตอนนี้นั้น...ขอไปปั่นนิยายอีกเรื่องก่อนนะคะ 
ใครเล่นทวิตเตอร์ก็อย่าลืมติดเเท็ก #รักของเสือ เป็นกำลังใจให้น้องด้วยนะคะ  :mew2:

สุดท้ายท้ายสุดค่ะ
เอ็นจอยรี้ดดิ้งค่ะ

รัก
กิงก่องโก๊ะ
17/7/60

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
งานนี้อยากจะร้องเพลง กลับมาทำไมมมม ฉันลืมเธอไปหมดแล้วววว ชะมัดเลย
ไม่รู้เพลงจะมาหาปิงทำไม คราวนั้นก็เห็นอยู่ว่าไม่ไยดี
รอตอนต่อไปค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2017 18:17:22 โดย sirin_chadada »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ดีใจ ไรท์ มาต่อ คิดถึงงงงง  :mew2:

ต้องร้องเพลงด่านังเพลงเลย
กลับมาทำม้าย นังคนร้อยเล่ห์ ......นังคนหลอกลวง

ปิง ยังจะดีกับชะนีเพลงที่หลอกลวง
จนตัวเองโดนผัวเขายำ
ไล่ไปเลย นีนิสัยเสีย
มาเอาอะไรจากปิงอีกล่ะ ยั่วผัวอีกครั้งหรือไง
ปิงเลี้ยงหมาก็ปล่อยหมาไปกัดนางซะสิ

โถ......เสือ ใจรอนๆเลย
เห็นนีมาหาปิง แล้วปิงก็ออกไปกับนี
ไม่ใช่ นีพาปิงไปเลี้ยงฉลองที่ได้คืนดีกับผัวนางนะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-07-2017 05:50:24 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
พี่เสือเริ่มออกอาการมากแล้ว ว่าแต่เพลงกลับมาทำไมอีกเนี่ย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
นั่นสิเพลงเธอจะกลับมาทำไม ทุกอย่างมันกำลังดีอยู่แล้วแท้ๆ

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เมื่อไหร่จะมาซะทีค้าาา หายไปนานๆนี่ ขออย่างเดียวตอนต่อไปมายาวๆให้สมคิดถึงหน่อยก็พอ  :hao3: :laugh:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
กำลังจะไปได้ด้วยดี ทำไมต้องมีคนมาขัดขวางด้วย
ไรท์เตอร์ อย่าหายไปนานนะ ใจคอไม่ดี555

ออฟไลน์ กิงก่องโก๊ะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
    • เข้ามาฝอยกันได้นาจาาาาา
ตอนที่สิบหก : เราสองสามสี่ห้าหกเจ็ดแปดเก้าคน



 

     “ปิง…” 
     เสียงใครก็ไม่รู้คุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหนสักที่ดังเข้ามาในหู

     แต่…กูไม่ตอบหรอกครับกูจะนอน

     “ไอ้ปิง”   น้ำเสียงแบบเดิมยังคงเรียกผมอีกครั้ง พร้อมกับสัมผัสที่หนาวเย็นสัมผัสเข้าที่ผิวเนื้อ

     “อืออออออ”   อย่ามาดึงผ้าเน่ากูนะ

     “ไอ้ปิงมีคนมาหา!!” ไม่ว่าเปล่าเจ้าของเสียงนี้พูดกวนอารมณ์ยังไม่พอ หนำซ้ำยังมีหน้ามาดึงแขนผมให้ลุกขึ้นมาจากที่นอน 


     ไอ้สัดดดดดดด!! กูจะนอนนนนนน
     ได้แค่ก่นด่าอยู่แค่ในใจ เพราะครั้งนี้ยังพอให้อภัยได้เนื่องจากขี้เกียจเปิดตาเปิดปากลุกขึ้นไปด่าจริงๆ

     แต่… “โว้ยยยยยย ไอ้เหี้ยหนิ! กูจะนอน!!!”  ไม่ถึงหนึ่งนาที แม่งสุดท้ายก็ทนไม่ไหวเป็นอันต้องลุกขึ้นมาในที่สุดเพราะไอ้เจ้าของเสียงนี้มันยังคงส่งเสียงรบกวนการนอนของผมอยู่แล้วคนที่ปลุกนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ… ไอ้เหี้ยเสือ!

     มึงมัน…

     ฮึ่ยยย!!

     ไอ้ฉิบหายไม่รู้หรือไงวะว่ากูไม่ชอบให้ใครมากวนเวลานอน มึงนะมึงนะ! เดี๋ยวมึงโดน


     “กูจะนอนนนนนนน” ไม่ยอมครับผมไม่ยอม ดิ้นเร่าๆใส่มันด้วยความขัดใจ เอาสิกล้าปลุกกูอีกก็เอาสิไม่ด่าก็บุญหัวแค่ไหนแล้ว!

     “มีคนมาหา มึงลุกออกไปหาเขาก่อน” แต่ไอ้เสือมันไม่ยอม พูดอีกพร้อมกับดึงแขนผมให้ลุกขึ้นมาจากที่นอนอีกครั้ง

     “โว้ยยยย” ฮืออออ กูง่วงจะตายแล้ว
     
     
     สุดท้ายก็ต้องยอมลุกขึ้นมาจากที่นอนด้วยหน้าตาที่ไม่สบอารมณ์ยับยู่ยี่บูดเบี้ยวไปตามอารมณ์
     ฮ้าวววว… อ้าปากหาววอดๆออกมาเพราะแม่งโคตรง่วง 

     ใครวะแม่งมาหาแต่เช้าวะ ถ้าพวกไอ้โก้ไอ้เจมส์คงไม่ใช่ไอ้ฟาร์มยิ่งไม่ใช่แน่นอนเพราะรายนั้นน่ะเข้ามาแบบไม่ต้องให้ใครมาเรียกแน่ๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยมีใครมาหาแล้วนี่มันเป็นใครกันล่ะหนอ


     “ปิง…” 
     หืมเสียงคุ้นๆ 

     เปลือกตาผมที่แทบปิดลงนั้นกลับเปิดมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้งเพราะเจ้าของเสียงที่เรียกผมเมื่อครู่นี้ก็คือ…


     “พี่เพลง…” 
     ผมไม่ได้ตอบรับ แต่เพียงแค่เอ่ยชื่อเธอเบาๆในลำ ค่อนข้างจะไปทางพึมพำเสียมากกว่าด้วยซ้ำ

     สติที่ค่อนข้างกระเจิดกระเจิงได้กลับเข้าที่ดังเดิมเมื่อเห็นว่าไอ้เสือมันขยับตัวหนีออกไปและทำอะไรสักอย่างจนเกิดเสียงเข้ามาในโสตประสาท นั่นเลยทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ 


     ว่าแต่พี่จะกลับมาทำไมครับพี่เพลง…?
     ผมเดินเข้าไปหาผู้หญิงที่ผมแอบชอบซึ่งเมื่อหลายเดือนมานี้เธอทำให้ผมเจ็บแทบบ้า


     “พี่เพลงมีอะไรครับ?”  ผมถามและนั่งลงตรงโซฟา ฝั่งตรงข้ามกับเธอ

     “พี่อยากมาขอโทษ”  สีหน้าของคู่สนทนาดูเศร้ากว่าที่ผมคิด  พี่เพลงพูดพร้อมกับเอื้อมมาจับมือของผมไปกุมไว้ แววตาที่ฉายออกมานั้นดูจะเอ่อคลอไปด้วยน้ำสีใส

     “ผมไม่เป็นอะไรครับ”  ผมตอบเสียงเรียบ กำลังใช้ลักษณะน้ำเสียงท่าทางและหน้าตาแบบไอ้เสือเป้ะๆ

ถ้าถามว่าโกรธไหม? โกรธครับ โกรธมากด้วย แต่…โกรธแล้วทำยังไงได้ ก็แค่ต้องปล่อยผ่านไปจนตอนนี้ความโกรธมันก็หายไปแล้วเหลือแต่ความว่างเปล่าที่ผมจะมอบให้ ก็เท่านั้น…


     “พี่…เพิ่งรู้ว่าวันนั้นเปอร์เค้าไปรุมทำร้ายปิง”  พี่เพลงยังคงไม่ปล่อยมือผมแถมยังบีบแน่นมากขึ้นกว่าเดิม

     “ครับ”

     “ทำไมปิงไม่บอกพี่?”
     โห…พี่ครับ ผมจะบอกพี่ได้ยังไงวันนั้นก็เห็นไปดูหนังด้วยกันอยู่เลย


     “ผมไม่เป็นไรหรอก เรื่องมันผ่านมาแล้วอีกอย่างผมไม่ได้เป็นอะไรแล้วด้วย”  สบตาคนตรงหน้ากลับไปบ้าง
     ตอนนี้ผมค่อนข้างแปลกใจ คือพี่เพลงกลับมาแบบนี้นั้นต้องการอะไร ที่จริงแค่ปล่อยให้มันผ่านไปก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ? 

     “อย่าโกรธพี่เลยนะปิง”   ช่วงหนึ่งที่เราสบตากัน

แววตาของพี่เพลงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ส่วนของผมแววตานี้คงสับสนพอตัว… ถึงปากจะบอกว่ามีแต่ความว่างเปล่าที่มอบให้แต่ลึกๆแล้วปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าหัวใจมันยังคงรู้สึกอยู่เสมอ

แผลเป็นยังใช้เวลาตั้งนานกว่ารอยจะจางลงไปบ้าง แล้วผมที่เคยแอบชอบพี่เพลงมาตั้งหลายปีจะให้ใช้เวลาแค่ไม่เท่าไรตัดใจ …แม่งทำไม่ได้หรอก


     “ผม…”

     “ยกโทษให้พี่ได้ไหม?” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไรพี่เพลงก็พูดแทรกขึ้นมา อย่างกับว่ากลัวคำตอบที่ผมกำลังจะตอบออกไป

     และยังคงมองมาที่ผมอย่างคาดหวังในคำตอบ

     “ตอนแรกผมโกรธพี่…”

     “แล้วตอนนี้ล่ะ?”  อีกครั้งที่ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคพี่เพลงก็พูดแทรกขึ้นมา 

     “ไม่แล้ว”

     “งั้นยกโทษให้พี่ได้ใช่ไหม?”  แววตาของคนตรงหน้าสั่นระริกด้วยความหวัง มือนุ่มก็ยังไม่ปล่อยจากมือผมจนมันเริ่มชื้นเหงื่อ
ไม่รู้ว่าพี่คาดหวังอะไรจากผมนักหนาชอบก็ไม่ได้ชอบแล้วมาทำแบบนี้ทำไม แววตาที่แสดงถึงความหวัง สีหน้าที่ลุ้นเต็มที่ว่าผมจะยกโทษให้หรือเปล่า

     “แน่นอนว่าได้”  ผมยิ้มให้น้อยๆ
     ใช่แล้วผมตอบไปแบบนั้น

     ไม่ใช่ว่ายังอาลัยอาวรณ์ ที่บอกว่าตัดใจยากแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะตัดไม่ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นที่บอกไปแบบนั้นก็เพราะยังไงเราก็ยังเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้

     
     ก็ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นอะไรนี่นา…

     “ขอบคุณนะปิง…”  คู่สนทนาฉีกยิ้มอีกครั้งก่อนจะเอามือผมแนบลงไปที่แก้มตัวเองและหลุบตาต่ำลง


     เฮ้…พี่ไม่สมควรทำแบบนี้

     
     “ผ ผมว่า พี่กลับไปก่อนเถอะ”  ผมพยายามดึงมืออกมากจากตรงนั้น ยังไงมันก็ไม่เหมาะสม จนทำให้ผมอดเหลือบตาไปมอง
ใครอีกคนที่กำลังยืนดื่มอะไรสักอย่างอยู่ตรงครัวไม่ได้ มันยืนหันหลังแผ่นหลักว้างใหญ่นั้นตึงเรียบไม่แม้แต่จะขยับ

     เอ๊ะ?…แล้วกูจะมองมันทำไมล่ะเนี่ย!

     “ปิงไม่โกรธพี่แล้วแน่นะ?”  พี่เพลงช้อนตามอง

     “ไม่หรอก เราเป็นพี่น้องกันได้” 

     “ก็ได้” และฉีกยิ้มกว้าง “ขอบคุณนะ”  พร้อมกับลุกขึ้นยืน
 


      ผมพาพี่เพลงเดินออกมาส่งที่หน้าบ้านเงียบๆ  ไม่ได้พูดอะไรกันมากนักนอกเหนือจากนั้น เราแค่ส่งยิ้มให้กันน้อยๆก่อนจะจากลา

      เหตุผลที่พี่เพลงกลับมาทำไมนั้นผมไม่รู้หรอก แต่เหตุผลที่ผมยกโทษให้ มันไม่มีอะไรมากหรอก ผมไม่ใช่คนมีความคิดซับซ้อนสักเท่าไร ไม่ใช่คนเข้าใจยาก ก็อย่างที่บอกไป อย่างน้อยก็ยังเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันได้เสมอ



      ผมเดินกลับเข้ามาในบ้านตอนนี้เห็นไอ้เสือมันกำลังนั่งกดโทรศัพท์อยู่ตรงโซฟากลางบ้านที่ซึ่งก่อนหน้านี้ผมกับพี่เพลงได้นั่งคุยกัน  ขจัดความคิดต่างๆนาๆออกจากความคิดก่อนจะแกล้งเดินไปนั่งข้างๆมัน

     เออ…ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องแกล้ง แค่ตอนนี้อยากคุยกับมันเฉยๆ ก็ไม่เข้าใจอีกเหมือนกันว่าทำไมต้องคุยแค่รู้ว่ามันต้องคุยดูจากท่าทางและสายตาก่อนหน้านี้แล้วก็ต้องคุยกับมันหลังจากพี่เพลงกลับไปให้ได้ ส่วนคุยอะไรนั้นก็ยังไม่รู้หรอก เออเอาเป็นบ้าเหรอวะ


     กูเนี่ยเป็นบ้าเหรอ!!

     “มึงไม่รับน้องกวางเหรอ?”  รู้สึกเหมือนตอนนี้ตัวเองไม่ปกติยังไงอย่างนั้น ท่าทางแม่งแปลกไปหมดหวังว่ามันจะมองไม่ออกนะ

     “เดี๋ยวก็ไป”  ไอ้เสือยังคงไม่เงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์ ผมทิ้งตัวนั่งลงในขณะเดียวกับที่เจ้าตัวตอบพอดี

     “ฮ้าวววว ง่วงว่ะ”  อยู่ๆก็หาคำมาพูดไม่ได้ซะงั้น

     “ก็นอน”  แต่คนข้างๆก็ตอบกลับมาแค่เพียงสั้นๆ ปกติมันก็ไม่ใช่คนพูดยาวอยู่แล้ว แต่ทำไมครั้งนี้มันรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย



     ฮืออออ แม่จ๋า ปิงไม่รู้ปิงเป็นอะไร ช่วยปิงด้วยยยยย!!



     “มันนอนต่อไม่ได้ มึงแหละปลุกกู!”  ก็เลยแกล้งโมโหใส่มันไปตามแบบนิสัยของตัวเอง แต่กลับรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองซะงั้น

     “ก็มีคนมาหาจะให้เขานั่งรอหรือไง?”  ยังอีก แม่งยังไม่หันมามองกูอีก!

     “ก็…” 

     “มึงจะกลับไปคืนดีกับเขาเหรอ?”  ยังพูดไม่ทันจบคนข้างๆก็พูดแทรกขึ้นมา 

     “ไม่ เขาแค่มาขอโทษ” 

     “ก็เลยให้อภัย?”  คราวนี้ไอ้เสือมันเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอโทรศัพท์ และหันมาทางผมพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ

     “อืม…กูก็ไม่รู้ว่าโกรธไปแล้วได้อะไร ถ้าได้เงินก็จะโกรธต่ออยู่หรอก ฮ่าๆๆ”  แกล้งพูดติดตลกเข้าไว้

     “อ่อ…” ส่งเสียงในลำคอตอบกลับมาแค่เพียงสั้น  และประโยคต่อมาก็ถูกพูดต่อ “จะทำอะไรก็คิดดีๆ”  แล้วก็ลุกขึ้นจากโซฟาเฉยเลย

     “เดี๋ยวกูไปหาน้องกวางละ เจอกันตอนมึงเลิกงาน” 

 
     ทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านี้แล้วก็เดินออกไป

     ไม่ชอบเลย ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย!!!







คืนวันนั้น…


     โอ้ยยยยยย

     เหนื่อยยยผมเหนื่อยมากช่วยด้วยยยยยยย

     เมื่อวานเหนื่อยยังไงตอนนี้ก็เหนื่อยแบบนั้น ไม่ไหวแล้วจะตายคาถนนให้ได้เลยครับหัวหน้า!
ตอนนี้ผมเพิ่งเลิกจากงานได้ประมาณห้านาทีได้ รอไอ้เสือได้สักพักก็เห็นขับรถมาแล้วจอดอยู่ตรงถนนฝั่งตรงข้าม ผมก็เลยวิ่งข้ามถนนไปหาด้วยความรวดเร็ว ไม่ใช่อะไรอยากกลับบ้าน


     “วันนี้ไม่พาน้องกวางมาด้วยเหรอ?”  ผมกระโดดขึ้นรถทันทีพร้อมกับถามคนตัวสูงที่นั่งค่อมรถรออยู่ก่อนแล้ว 

     “ไม่มา” ตอบแค่เพียงสั้นๆจากนั้นก็ขับซูโม่เอ็กซ์ออกไปด้วยความเร็วที่ห้าสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง   

     ผมว่าเหตุการณ์ตอนนี้ออกจะแปลกๆ ก็มันไม่ถามผมอย่างเช่นทุกครั้งที่เคยถามว่า ‘กินข้าวหรือยัง’  อะไรทำนองนี้
มันเงียบและผมก็เงียบ

     ความเงียบของเราครั้งนี้ทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเท่าที่ควร ปกติที่เงียบก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนี้แต่ครั้งนี้ทำไมถึง…
ถึงรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังมีเรื่องบาดหมางใจกันยังไงอย่างนั้น




สิบนาทีผ่านไป…


     ความฟุ้งซ่านถูกปัดเป่าออกไปเพียงแค่ส่วนหนึ่งเมื่อเจ้าของรถได้หยุดลงอยู่ตรงหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเจ้าประจำที่ชอบพากันมากินเสมอ


     “ไม่ลงมาล่ะ นั่งอยู่ได้ อย่ามาแดกหัวกูทีหลังนะ!”  อาจเป็นเพราะผมกำลังมึนๆงงๆ ไม่รู้ว่าไอ้เสือมันจอดรถแล้วลงไปนานแค่ไหนรู้ตัวอีกทีก็เป็นอย่างที่เห็น รู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังกลับมาเป็นปกติ
 
     “ก กินๆ”  ตอบรับด้วยเสียงตะกุกตะกัก ก็คงมีแต่ผมมั้งที่ไม่ปกติ

วูบหนึ่งที่ความรู้สึกใหม่ได้เกิดขึ้นมาและมันบอกว่า ‘เราอาจจะคิดมากไปเอง’  อืม…คงจะคิดมากไปเองไอ้ตัวสูงตรงหน้ามันคงไม่มีอะไรหรอก อีกอย่างจะมีได้ยังไงเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย

เพราะจริงๆแล้วเรื่องที่ผมคิดสาเหตุมันก็มาจากเมื่อเช้า แต่พอคิดดูดีๆแล้วมีเหตุผลอะไรที่เราต้องแปลกไปเพียงเพราะพี่เพลง เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย


     ใช่…
     คิดถูกแล้ว มึงคิดถูกแล้วไอ้ปิง


     กลิ่นก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ใบโหระพาหอมฉุยลอยมาแตะจมูกจนทำเอาท้องน้อยๆของไอ้ปิงคนนี้ส่งเสียงออกมาอย่างกับฟ้ากำลังผ่า 

ตอนแรกก็ไม่หิวหรอกเพราะกำลังคิดมาก…แต่ตอนนี้เนี่ย ฮือออออ  กูหิวว้อยยยยยยยย 


     “บะหมี่เนื้อน้ำตกพิเศษเส้นเล็กด้วยอย่างละหนึ่งครับ”  คนตัวสูงเดินนำหน้าเข้ามาในร้านจากนั้นก็ออกปากสั่งของอย่างรู้งาน  ก็ผมน่ะชอบกินบะหมี่ร้านไหนไม่มีบะหมี่ก็ไม่กินเลยเพราะเส้นอื่นไม่ชอบ ใดๆในโลกล้วนแล้วแต่มาแทนที่บะหมี่ไม่ได้!
     เมื่อดูในร้านรอบๆเพื่อหาที่นั่งแล้วกลับพบว่า โต๊ะแม่งเต็มสัด!
     ก็เล้ยยยก็เลยระเห็จกันมานั่งตากลมแรงๆยังโต๊ะข้างนอกร้านซึ่งยังมีที่ว่างอยู่บ้าง


     “วันนี้มึงแปลกๆนะ”  หลังจากที่พากันหย่อนก้นนั่งลงและเงียบได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผมมันก็พูดขึ้น

     “ฮะ… กูเหรอ?”  ผมที่ยังคงมึนๆงงๆถามขึ้นพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นถามหน้าตาตอนนี้ต้องเหรอหรามากแน่ๆ 

     “ก็มึงสิ จะให้เป็นป้าที่ขายก๋วยเตี๋ยวหรือไง”   



     ชะชะชะแหมมมม…!!

     ไอ้สัดกวนตีนนนนนน


     “ไม่รู้สิ แต่กูว่ากูไม่แปลกนะ”  มึงต่างหากที่แปลกไอ้เสือก็หลังจากที่เจอพี่เพลงตอนเช้าแล้วท่าทีมึงก็เปลี่ยนไป จนกูรู้สึกทำตัวไม่ถูกเลยเนี่ย เหมือนเด็กที่ทำความผิดมาแล้วพ่อแม่แต่ถูกลงโทษด้วยการไม่ยอมคุยด้วยยังไงอย่างนั้น

     “เหรอออออ…” มันลากเสียงยาวด้วยสีหน้านิ่งๆของตัวเอง “ทำไมมึงคิดเรื่องผู้หญิงคนนั้นเหรอ?” 

     “อ …เออ”  ใช่ที่ไหนกูคิดเรื่องมึงตางหากเนี่ย! แต่ใครจะกล้าพูดวะ

     “ทำไมยังรักอยู่เหรอ?” 

     “ไม่ใช่ว่ารักอยู่ แต่มันก็ยังไม่ได้เลิกรู้สึก”  เอ้ะ! หรือนี่จะคือรัก?

     “อ่อ…ก็” คนตรงหน้าเงียบไปครู่หนึ่ง “จะทำอะไรก็คิดดีๆละกัน” ประโยคแนวเดิมๆกลับมาอีกครั้ง

     “อือ”

     “…”

     “ว่าแต่เรื่องที่ไปทะเลนี่ว่าไงจะไปไหม?” อยู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ว่าต้องไปทะเล อีกอย่างคนตรงหน้ามันยังไม่ให้คำตอบเลยว่าจะไปหรือเปล่า ส่วนพี่หมากนี่เดี๋ยวถามอีกทีเพราะไม่ค่อยได้คุยกันเลย

     “ไปวันไหนนะ?”   

     “ยี่สิบเดือนนี้ อีกไม่กี่วันแล้วเนี่ยยังไม่ได้เตรียมตัวเลย”  ก็มัวแต่ทำงานเลยยังไม่มีเวลาเตรียมตัว แต่ที่จริงก็ไม่มีอะไรต้องเตรียมมาก เสื้อผ้าก็เดี๋ยวเอาตัวใส่สบายๆที่มีอยู่จากบ้านไปแล้วกันไม่ต้องเสียเวลาซื้อใหม่ เสียเวลาไม่เท่าไรเสียเงินนี่สิ แหม…ยังมีค่าเทอมรออยู่นะ ใช้เงินฟุ่มเฟือยได้ไง

     “แป้บนะ” คนตรงหน้าตอบ จากนั้นก็ยกมือขึ้นมานับอะไรสักอย่างของมัน น่าจะเป็นวันที่ล่ะมั้ง

     “อือ ไปก็ได้”  และคำตอบที่ได้มาก็ช่างง่ายดาย นอกจากการนับนิ้วมือแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรให้วุ่นวาย

     เออเร็วดี

     “โอเค”  ว่าแล้วก็ล้วงเอาโทรศัพท์ของตัวเองมากดบ้าง กดเข้าไปในไลน์กลุ่มเพื่อจะได้บอกให้พวกสามตัวบาทมันรู้ด้วยว่าไอ้เสือจะไปด้วย ครั้งนี้ก็เป็นการเดินทางทั้งหมดหกคน ผม ไอ้เสือ น้องกวาง ไอ้เจมส์ ไอ้โก้ ไอ้ฟาร์ม ส่วนพี่หมากก็รอดูก่อนว่าจะได้ไปไหม และนอกเหนือจากนั้นจะมีใครไปเพิ่มอีกหรือเปล่า


     แต่…คงไม่มีหรอก(มั้ง) 

     ทำไมลางสังหรณ์มันแปลกๆวะ!?


● ● ●






วันไปทะเล



     วันนี้วันดีวันที่เรากำลังจะไปทะเล๊ทะเล อิอิ

     ก็ขอตื่นเต้นบ้างอะไรบ้างนานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ไปเที่ยวแบบนี้  หัวใจเต้นตุ้มๆต่อมๆอย่างกับว่ากำลังจะไปออกเดทยังไงอย่างนั้น ทั้งที่จริงก็แค่ไปเที่ยวทะเล

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าร่างกายต้องการทะเล ถึงมันจะเป็นที่เที่ยวที่โคตรเบสิคที่สุด แต่ก็น่าแปลกที่ในความเบสิคของมันทำเอาผมใจเต้นไม่เป็นส่ำได้เสมอ


     ทะเลจ๋าปิงมาหาแล้ววววววววว

     อะๆๆ ยังหรอก อย่าเพิ่งนึกถึงภาพที่ว่าผมกำลังอ้าแขนรับลมพร้อมกับวิ่งลงทะเลด้วยหน้าตาชื่นมื่น ถ้าคุณคิดแบบนั้นรบกวนตัดออกไปไดเลย ฮ่าๆๆ 

เพราะตอนนี้ยังไม่แม้แต่จะได้ขับรถออกจากจังหวัดเลยน่ะสิครับ แหมมมม จะเอาน้ำทะเลจากไหนมาให้กระโดดลง
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนที่เรากำลังช่วยกันขนของ ขนกระเป๋าและสัมภาระต่างๆขึ้นรถ ฝั่งๆไอ้สามตัวบาทมันเสร็จหมดแล้วตอนนี้ก็เหลือพวกผมทั้งสี่คนซึ่งมีผมไอ้เสือน้องกวางไอ้พี่หมาก


     ใช่แล้ว!

     ไอ้พี่หมากมันไปด้วยเฉยเลย ที่ถามไปก่อนหน้านี้พี่มันบอกไม่ไปหรอก จนเมื่อเช้าอยู่ๆแม่งก็เสือกเปลี่ยนใจไปเฉย ก็เลยตอบพี่มันกลับไปว่า ‘ไม่รอให้พากันขับรถออกไปก่อนเลยล่ะค่อยบอก’ 


รถที่พวกเราใช้ขับไปเป็นรถจากทางบ้านไอ้เจมส์นั่นแหละครับ ไอ้คนตัวตั้งตัวตีอยากไปทะเลมันยืมฟอร์จูนเนอร์ของพี่มันมาขับ ส่วนบ้านที่พักก็อย่างที่มันเคยบอกว่ามีให้อยู่แล้ว พวกผมเลยสบายไปมีแค่เงินอันน้อยนิดและรอยยิ้มไปเท่านั้นก็พอ


     “เราไปกันแค่นี้ใช่ไหมวะ?”  พี่หมากยกลังเบียร์ขึ้นรถเป็นอย่างสุดท้าย จากนั้นก็เดินเปิดประตูเข้ามานั่งฝั่งคนขับและเอ่ยถาม ถามใครสักคนซึ่งไม่ใช่ผมกับไอ้เสือแน่นอน 

     “เอ่อ…ก็” 

     “รอด้วยค่า!!”    ไอ้เจมส์ที่กำลังจะอ้าปากตอบก็ถูกเสียงหนึ่งพูดแทรกขึ้น ดีที่ยังขึ้นรถกันไม่หมดถ้างั้นก็คงไม่ได้ยิน

     “ล แล้วก็ ย แยมแฟนผมอ่ะพี่”  เจ้าของรถตอบเสียงตะกุกตะกัก ไม่เต็มเสียงนักเมื่อเห็นว่าใครสักคนที่กำลังวิ่งมาด้วยความกระหืดหระหอบ   


     หืม…

     แยม?

     เพื่อนที่คณะพี่เพลงอ่ะนะ?     

     ไม่แปลกที่มันจะตอบไม่เต็มเสียงแบบนี้ ไอ้ฉิบหายยยยยยย!!


     “ก กูไม่ได้ตั้งใจนะเว้ยไอ้ปิง!”  แล้วแม่งก็รีบตารีตาเหลือกโผล่หน้าเข้ามาในรถเพื่อแก้ตัวกับผมใหญ่เลย ไอ้เสือที่นั่งอยู่ตรงส่วนโล่งท้ายรถด้านหลังกับผมถึงกับหันมามองหน้าและเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้างด้วยความสงสัย เพราะพี่มันสองคนไม่รู้ไงว่าแยมกับพี่เพลงเป็นเพื่อนกัน

     “ช่างเถอะ” ผมตอบปัดๆ 
     ก็เพื่อนเขามาหนิ ไม่ใช่พี่เพลงมาสักหน่อย

     “โทษทีรอนานไหม?” ผมได้ยินเสียงเธอคุยกับไอ้เจมส์แต่ไม่ได้เห็นตัวเพราะนี่กำลังเล่นกับยัยเด็กอ้วนอยู่ ส่วนไอ้เสือนี่กำลังนั่งพิมพ์อะไรของมันก็ไม่รู้อยู่ในโน๊ตบุ๊ค สงสัยว่าจะทำงานนั่นแหละ แหมมม…ไอ้คนขยันมาเที่ยวก็ยังไม่แม้แต่หยุดทำงาน

     “ขึ้นรถกันเถอะ” เสียงไอ้เจมส์มันคุยกับแฟนของมัน
   
     ไวไฟกันเจร๊งงงงงงงง โสดยังไม่นานเท่าไรนี่มีแฟนละ เกลียดดดด

     “เดี๋ยวแป้บนึงนะคะ”  บทสนทนากับแฟนของมันดังเข้ามาในหูอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งรถตอนนี้ก็เหลือแค่ไอ้เจมส์กับแยมที่ยังไม่ได้ขึ้นมานั่ง ไอ้ฟาร์มนี่นั่งข้างพี่หมากซึ่งรับหน้าที่เป็นคนขับเรียบร้อยแล้วไอ้โก้ก็นั่งอยู่ตรงเบาะข้างหน้าผม

     “อะไรครับ?”

     “คือ…” 

     “แยม เดินไม่รอกันเลย!” 


     ทำไม…นอกจากบทสนทนาของสองคนมันเหมือนมีเพิ่มมาสามแล้วเลยวะ?


     “พอดีเพลงมันของไปด้วยน่ะค่ะ”  เป็นเเยมที่พูดขึ้น   

     หืม…?เพลง

     เมื่อชื่อนี้ดังขึ้นไอ้เสือมันถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยความสงสัยทันที ประมาณว่า  เพลงไปด้วยเหรอ อะไรทำนองนี้ แต่มึงครับได้โปรดอย่ามองกูแบบนั้นครับกูเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

ไม่รอช้าผมหันไปมองยังต้นเสียงทั้งสาม ไอ้เจมส์ยืนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ส่วนพี่เพลงเมื่อเห็นว่าผมมองไปเธอก็ฉีกยิ้มมาให้



     จ้า… กูขอถอนตัวตอนนี้ทันไหมวะ!!




     ทุกคนตอนนี้ทั้งในรถและนอกรถต่างก็หันมามองหน้าผมกับพี่เพลงสลับกัน เว้นไอ้พี่หมากไว้คนหนึ่งเพราะพี่มันรู้ว่าพี่เพลงคือแฟนของไอ้คนที่มันมารุมกระทืบผม


     “หวัดดีปิง”  และโบกมือมาให้ผมน้อย ก่อนจะทักทายไอ้เสือพี่หมากแล้วก็ไอ้โก้

สภาพทุกคนตอนนี้คงต้องบอกว่ายิ้มแห้งกันไปตามระเบียบไอ้เสือมันก็ไปตามแนวของมัน หน้านิ่งเดาอารมณ์ไม่ถูก ส่วนพี่หมากนี่ไม่ต้องพูดฉีกยิ้มกลับจนแทบจะถึงหูอยู่แล้ว


     “ขอไปด้วยนะคะ ไม่ได้ไปทะเลนานแล้วเหมือนกัน” เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่ได้ตอบอะไรพี่เพลงก็เลยพูดขึ้นพร้อมกับเข้ามานั่งในรถทันที 

     “แน่นอน มีแต่ผู้ชายไปมันก็ดูดิบเถื่อนไป”  เป็นไอ้พี่หมากอีกนั่นแหละ

     แหมมมมมมม  ไอ้ห่าพี่หนิเห็นคนสวยไม่ได้เลยนะมึง




     จากนั้นฟอจูนเนอร์ที่คล้ายว่าจะเริ่มเต็มไปด้วยความอึดอัดก็เคลื่อนตัวออกไปทันที โดยที่มีไอ้เจมส์พยายามชวนทุกคนคุย เอนเตอร์เทรนคนบนรถไม่ให้บรรยากาศตึงเครียดเกินไป  ส่วนมากกก็มีแต่มันกับพี่หมากนั่นแหละที่ดูท่าว่าจะพูดกันเป็นต่อยหอย
ไอ้ฟาร์มไอ้โก้ตัวผมเองก็มีพูดขึ้นมาบ้าง พอไม่ให้คนถามมันหน้าแตก ส่วนไอ้อีกคนน่ะเหรอ?


     กริบ…

     ขอใช้คำว่าเงียบกริบกริบกริบ เสียงลมหายใจก็ไม่แม้แต่จะได้ยิน ไม่ได้ว่ามันตายนะครับแค่จะเปรียบเทียบให้ฟังแล้วไอ้ผมที่นั่งข้างๆมันก็รู้สึกร้อนๆหนาวๆแปลกๆ ฮืออออสงสัยจะไม่สบายแน่ๆเลย
 
จะมีก็แต่ยัยเด็กอ้วนที่สบายอยู่คนเดียว ซึ่งผมกำลังจับขวดนมป้อนให้นี่แหละมีเธอนอนอยู่บนตัก สภาพนี่บ่งบอกเลยว่าง่วงมากขนาดไหนตาปรือกำลังได้ที่

     อยากไปเป็นเด็กก็ตอนนี้นี่แหละครับหัวหน้า!

     “เด็กที่ไหนเหรอปิง?” อยู่ๆพี่เพลงที่นั่งเบาะหน้าผมก็หันหน้ามาคุยกับผม

     “อ๋อ…ลูกไอ้เสือน่ะ”  พยักพเยิดหน้าไปทางคนตัวสูงที่กำลังนั่งพิมพ์งานยิกๆ ถึงแม้ว่าเรื่องที่กำลังพูดถึงอยู่จะเกี่ยวกับมัน เจ้าตัวก็ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองกันบ้างเลย ดูท่าว่ามันจะเงียบแสนเงียบตั้งแต่ที่พี่เพลงขึ้นรถมาแล้วนะ 

     “อ๋ออ…”  เธอตอบรับ “น้องน่ารักจังชื่ออะไรเหรอ?” 

     “น้องกวาง” 

     “กี่ขวบแล้วนั่น” เธอยังคงถามต่อ ดูท่าบทสนทนานี้ยังต้องอีกนานแน่ๆ

     “ขวบกว่าๆแล้ว”   

     “อ่า…” พี่เพลงพึมพำ พยักหน้ารับเล็กน้อย “กินข้าวมายัง?” 
     ยังอีก ยังชวนผมคุยอีกถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่จะดีใจมากแน่ๆ แต่ตอนนี้มันอึดอัดไปหมดเลย อึดอัดจนไม่สามารถเค้นคำพูดออกมาได้

     “ยัง” 

     “เพลงมีขนมปัง เอาไหม?”   เธอถาม

     เอ๊ะ!?  ดูเหมือนว่าสรรพนามที่เคยใช้เรียกมันจะเปลี่ยนไปนะ ดูเธอสิแทนตัวเองว่าเพลงด้วย

     “ก็ดีครับ”  ไม่ปฏิเสธหรอกครับ ก็คนมันหิว!

      อึดอัดยังไงก็แพ้ให้ความหิวนะ  แหม…เขารู้หมดเป็นคนยังไง

ว่าแล้วพี่เพลงก็ยื่นครัวซองค์ที่ซื้อจากเซเว่นมาให้ผม พร้อมกับนมจืดขวดใหญ่ ผมวางมันไว้ก่อนเพราะต้องเอาเด็กอ้วนที่หลับคาตักนั้นนอนลงบนเบาะข้างดีๆ ไอ้เสือหันมามองน้อยๆ ก่อนจะเอาโน๊ตบุ๊คลงจากตักและเป็นฝ่ายมาจัดท่าทางให้น้องกวางแทน เมื่อเสร็จแล้วมันก็กลับเข้าโลกของมันไปด้วยความเงียบงัน



     โอย…ใจไม่ดีเลยครับหัวหน้า

     ระหว่างทางพี่เพลงชวนผมคุยตลอดเรียกได้ว่าแทบไม่เปิดโอกาสให้เงียบกันเลยทีเดียว ที่จริงผมไม่ได้อยากคุยสักเท่าไรนะแต่มันคงเสียมารยาทถ้าหากทำปั้นปึ่งใส่กัน


     แต่รู้อะไรไหมครับ…

     พรึ่บ!!


     ไอ้เสือที่แทบจะอยู่ในสายตาผมตลอดผมเห็นมันขยับตัวไปมาทำอะไรสักอย่างก็ไม่รู้ และไม่กี่อึดใจถึงได้รู้ว่ามันเอาหูฟังในกระเป๋ามาเสียบต่อเข้าโน๊ตบุ๊คจากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป


     ฉิบหายแล้ว…

     เหมือนลางสังหรณ์แปลกๆของหลายๆอย่างกำลังลอยเต็มอยู่ในรถยังไงอย่างนั้นเลย

     หรือผมจะคิดไปเองเหมือนตอนนั้นวะครับ

     สงสัยต้องคิดไปเองแน่ๆ ไอ้เสือมันก็ปกตินะคงจะมีแค่ผมที่ไม่ปกติ

     ใช่แน่ๆผมต้องคิดไปเองแน่ๆ…
   
 

     TBC...









ออฟไลน์ กิงก่องโก๊ะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
    • เข้ามาฝอยกันได้นาจาาาาา
Talk with gom



สวัสดีค่าาาาา หายหน้าหายตาไปนานเลย แฮ่ๆๆ ขอโทษนะค้าาาาาา ก็ก๋อมกลับมาเล้ววววววว  :mew2:  คิดถึงน้องงงมั้ยยยยน้องคิดถึงคนอ่านม๊ากกกกมากกกกก


หลายคนอาจจะกลัวก๋อมเทนิยายเรื่องนี้ ไม่เเน่นอนก๋อมไม่เทนิยายเรื่องนี้เด้อออออ

เหตุผลที่หายไป ก็คือเหนื่อยค่ะเหนื่ยอจากการทำงานเหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เเถมยังต้องอ่านหนังสือเรียนอีก ฮ่อยยยย ช่วยน้องด้วย 
พอมันเหนื่อยเเล้วก็ไม่มีอารมณ์จนมาสามวันนี้เป็นวันหยุดเลยเคี่ยวเข็ญให้ตัวเองมาเขียนนิยายให้ได้สักตอน ซึ่งก็ได้เเค่เรื่องเดียว ก็คือรักของเสือ ส่วน sleep with me free break fast ก็ต้องขอเลื่อนไปก่อนค่ะ ฮือออออ ไม่ไหวจริงๆ

เห็นคนอ่านบอกอว่าหายไปนานได้เเต่กลับมาก็ให้ยาวสมกับคิดถึงหน่อย (ซึ่งก็ขอบคุณมากนะค้าาา ที่คิดถึงกัน)  เเต่จะมาเเจ้งตรงนี้ว่า คือเเต่ก่อนก๋อมอัพเรื่องนี้ยาวมากกก  ตอนนึงใช้คำไปประมานเกือบเจ็ดพัน เเต่ตอนนี้ก่อมลดลงมาเหลือสี่พันกว่าเเล้วค่ะ จริงๆไม่อยากให้เกินนี้เดี๋ยวมันอืดดดดด

ฮืออออเเค่นี้ก็เรื่อยๆเอื่อยๆพอเเล้ว เเต่ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องตื่นเต้นนะคะ มีเเน่นวนนนนน อิอิ ไม่รู้ว่าจะตื่นเต้นเเบบไหนไว้รอดูกัน อิอิ น้ำจิ้มมันอยู่เกือบท้ายเรื่อง

ก็อ่านกันเเล้วจะด่านังเพลงยังไงก็ได้นะคะ ฮ่าๆๆๆ เขียนไปยังหมั่นไส้ไป หล่อนนั่งข่นเฬวววววว!!
เเต่นังมีเหตุผลของนางเด้ออออออ 
อีกอย่างพี่หมากไม่ได้เป็นเเค่ตัวละครเสริมนะคะ  พี่หมากมีบทนาาจาาาาา ไว้เดี๋ยวจะพามาให้ทุกคนรู้จักนาาาาาา

เรื่องนี้ดำเนินมาอยู่ที่ประมาณ 60%เเล้วน้าาาาา จริงตั้งใจจะเขียนประมาณยี่สิบตอน เเต่เห็นทีว่าคงต้องยี่สิบนิดๆเเล้วล่ะค่ะ 

ก็กลัวคนอ่านว่าตอนนี้มันอาจจะสั้นไป ไว้ยังไงเดี๋ยวก๋อมเอาตอนพิเศษมาฝากนะคะ ซึ่งไม่ได้เขียนเกี่ยวกับเนื้อเรื่องเด้ออออ  ฟีลเเบบ short fic  อะไรทำนองนี้ เดี๋ยวขอดูคอมเม้นก่อนนนน ถ้าใครอยากอ่านก็อย่าลืมเม้นเด้ออออ ขอเเค่นี้เองงงง เป็นกำลังใจให้กันด้วนะคะ 

ฮือออ talkยาวเลยยยยย ก็คนมันคิดถึงคนอ่านนี่เนาะ 

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะค้าาาาา


รัก 

กิงก่องโก๊ะ

29/7/60

     



 

 
 



ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ลำไยชะนี พวกหล่อนจะจับละสิแหม  :เฮ้อ: :angry2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ปิงหนูจะไม่ชัดเจนไม่ได้แล้วนะคะลูก พี่เสือจะแดกหัวแล้วค่ะ

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โถถถถถ พี่เสือมีความงอน น้องปิงรีบๆง้อแบบ exclusive ด่วนลูก เอาร่างกายเข้าแลก รับรองคนขี้งอนหายเป็นปลิดทิ้ง  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
น่าโมโห ยกโทษก็ยกโทษให้แล้ว ยังจะตามมาตอแยอีก
ส่วนความสัมพันธ์ของพี่เสือกับปิงก็ยังไม่ชัดเจนนะ คือยังไม่ได้เป็นแฟนกันอะ พี่เสือจะหวงจะงอนอะไร ทำได้เหรอ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
นังเพลงแกจะกลับมาทำไมมมมมมมมว่ะ

ออฟไลน์ sangzaja122

  • บึนปากให้ทุกๆอย่าง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ืทำไม่ดีกับปิงไว้ แล้วยังมาทำท่าที่จะขอคืนดีอีกก ฮึ่มมมม ใจแข็งไว้นะคะน้องปิง!! :m16: :m16: :m31:

ออฟไลน์ กิงก่องโก๊ะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
    • เข้ามาฝอยกันได้นาจาาาาา
ตอนที่สิบเจ็ด: ทะเล จูบ ความรู้สึก





     ทันทีที่ได้ก้าวเท้าลงมาจากรถ กลิ่นทะเล เสียงคลื่นเสียงลมที่ไม่ค่อยได้สัมผัสเท่าไรกำลังตีเข้าประทะหน้าผมอย่างจัง

     สดชื่นจังว้อยยยยยย

     ทะเลจ๋า…ปิงมาหาแล้วววววววว

     ในที่สุดก็สามารถพูดคำนี้ได้เต็มปากเต็มคำสักทีเพราะตอนนี้พวกเรามาถึงกันแล้วววววว 

 
     วู้วววววว!

     เราเดินทางมาถึงที่พักกันประมาณสี่โมงเย็นได้ นั่งรถกันแทบเมื่อตูดเลยทีเดียวแต่เห็นทีว่าไอ้ที่เมื่อยกว่าตูดก็คงจะเป็นเบ้าหน้าผมนี่แหละครับ ไม่รู้จะปั้นหน้ากับสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจบนรถนี้ยังไงดี แหม…ไม่อยากจะพูด

     แต่ไหนๆก็ไหนๆละขอพูดสักหน่อยก็แล้วกัน

มันก็ไม่ได้อะไรมากหรอกครับหัวหน้า แต่ผมแค่รู้สึกแปลกๆบวกกับอึดอัดยังไงก็ไม่รู้ ครั้นว่าจะปรึกษาพวกไอ้สามตัวบาทแม่งต้องไม่ได้อะไรกลับมาแน่ ก็ดูสิหลังจากที่พวกเราลงจากรถมาแล้วพวกมันก็แจ้นเอาของไปเก็บไม่นานก็ลงมาพร้อมและเตรียมวางแพลนกันว่าจะเอายังไงต่อ  และดูกระเหี้ยนกระหือรือกับการเที่ยวครั้งนี้มาก เลยคิดว่าไม่น่าจะพูดกับพวกมันหรอก
ครั้นจะไปหาไอ้พี่หมากก็ดูท่าว่าจะไม่โอเคเพราะแม่งกำลังติสท์แตกไม่สนใจโลกตอนนี้เลย

 
     เห้ออออ ปิงเหนื่อย

     เอ้าๆออกทะเลไปไกลจากที่จะเล่าเยอะเลย ก็ไม่ใช่อะไรหรอกตอนอยู่บนรถน่ะผมพยายามเลี่ยงที่จะไม่คุยกับพี่เพลงเท่าไรและพยายามชวนไอ้เสือคุยมากกว่า แต่…ไอ้ฉิบหายเอ้ยยยยย

คนที่อยากคุยด้วยแม่งก็เสือกไม่คุยกับผม ไอ้คนที่ไม่อยากคุยด้วยก็คุยกับกูจัง นี่แหละครับมันก็จะอึดอัดใจตรงนี้นี่แหละ บอกแล้วไงถึงยังไม่ได้เลิกรู้สึกกับพี่เพลงแต่ก็ใช่ว่าความรู้สึกมันจะยังเพิ่มมากขึ้นไปอีก มีแต่มันจะลดลงมากกว่า


     เดี๋ยวนะ…รู้สึกว่ามันแปลกๆไหมครับ? 
     ทั้งที่บอกว่ายังรู้สึกอยู่แต่มันกลับไม่รู้สึก แถมยังจะลดน้อยลงอีก เอ๊ะ? ยังไง? ทำไมมันย้อนแย้งแบบนี้ ผมว่าผมควรที่จะคิดทบทวนใหม่ได้แล้วว่ะ ว่าที่จริงแล้วมันเป็นยังไง

     บางที…ผมอาจจะไม่รู้สึกแล้วก็ได้ที่บอกว่ายังรู้สึกอยู่มันอาจจะเป็นแค่ความเชื่อ 

     เชื่อว่าตัวเองยังคิดอย่างนั้น   




     บรรยากาศตรงบริเวณกลางบ้านตอนนี้ค่อนข้างครึกครื้นพอสมควร พวกมันสามคนวิ่งไปลากคอพี่หมากที่กำลังนั่งทำเอ็มวีให้เดินเข้ามานั่งรวมกันกับแยมและพี่เพลง จากนั้นก็เริ่มปรึกษาว่าจะทำอะไรกันต่อไปดี เรื่องอาหารหารกินจะทำอะไรกิน จะมีก็แต่แค่นั้นที่ออกความคิดเห็นกัน ไร้ซึ่งผมแถมยังไร้ซึ่งไอ้เสืออีก เพราะตอนนี้มันยังไม่ลงมาจากข้างบนน่ะสิ ส่วนผมที่ไม่ได้ออกความคิดเห็นเพราะไม่ค่อยมีอารมณ์เท่าไร เวลาถูกถามเลยมักจะตอบไปว่า ‘แล้วแต่พวกมึงเลย’ หลังจากนั้นพวกมันเลยไม่ได้หันมาขอความคิดเห็นจากผมเท่าไร


     ทำไมมันเป็นแบบนี้วะ…มันรู้สึกว้าวุ่น มันรู้สึกไม่สบายใจ อึดอัดยังไงก็ไม่รู้ นี่กูเป็นอะไรอีกล่ะเนี่ย!

     แล้วสาเหตุมันก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน ก็…ไอ้เสือไงเล่า!

     ต้องเป็นไอ้เสือแน่ๆ! 

     “ปิง จะไปไหน?”  ทันเท่าความคิดเลยครับ  เมื่อรู้ว่าใครเป็นสาเหตุผมก็ไม่รอช้าที่จะแจ้นไปหามัน แต่ขาสองข้างก็ต้องหยุดชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อพี่เพลงที่นั่งอยู่ข้างๆแยมนั้นเอ่ยขัดขึ้นมาพอเห็นว่าผมกำลังจะก้าวเท้าขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านพัก



      อ่อ…พอดีว่าบ้านพักของไอ้เจมส์มันเป็นบ้านสองชั้น ไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็ไม่ได้เล็กจนเกินไปมีหลายห้องนอนพักสิบคนก็ยังได้ ตกลงมันจะใหญ่หรือไม่ใหญ่ดีครับ แหมมม ขอโทษอย่างมากถ้าช่วงนี้มันจะย้อนแย้งไปหน่อย แต่ที่จริงช่วงนี้รู้สึกเหมือนกันว่าตัวเองย้อนแย้งหลายเรื่องมากพอสมควร   

     “ไปข้างบนน่ะ” ผมตอบแบบไม่ได้รอฟังคำพูดของพี่เพลงสักเท่าไร แอบเห็นว่าเธอกำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่างแต่ผมไม่ฟัง 


     เฮ้อออออ…ไม่ได้เล่นตัวนะครับ ก็ไม่อยากยุ่งนี่หว่า

     ผมรีบก้าวเท้ายาวๆขึ้นมาข้างบนบ้านแทบจะวิ่งเลยก็ได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องรีบ



     ก๊อกๆ!

     เมื่อหยุดอยู่ตรงหน้าห้องที่ไอ้เสือมันพักกับน้องกวาง ก็ไม่รอช้าที่จะเคาะประตูโดยเร็ว แต่ก็แค่เคาะให้พอเป็นพิธีแค่นั้นแหละไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็เลยลงมือเปิดมันออกไปแบบไม่ต้องคำอนุญาตจากใคร


     “ไอ้เสืออออออออออ”   พร้อมกับเรียกชื่อมันด้วยเสียงที่สอง 
      ฮือออออ ทำไมกูต้องมทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย!?

     เออนั่นสิ ทำไม!!

     รู้แค่ว่าตอนนี้ไม่ควรกวนตีนมันเท่าไรน่ะนะ หน้าตึงๆของมันทำเอาผมแทบขนลุกไปทั้งตัว คนบ้าอะไรมันจะเรียบตึงได้ขนาดนี้ เย็นชาฉิบหายด้วย แล้วมันเป็นอะไรของมันวะ! ตั้งแต่อยู่บนรถแล้วนะ อย่าว่าแต่บนรถเลยหลายวันก่อนหลังจากที่เจอพี่เพลงมันก็เป็นแบบนี้ 


     เห้ย! เดี๋ยวนะ!

     อย่าบอกนะว่า…

     ว่า…

     ว่ามันจะ ชะ ชอบ พะ พี่เพลง…

     เลยต้องเก๊กตลอดเวลา 

     ใช่แน่มันต้องใช่แน่ๆ!

     แหมมมม ก็ทำเป็นเข้มมาตั้งนาน ไม่สิๆอย่าว่าทำเป็นเข้มต้องว่าทำเป็นเย็น เพราะแม่งเย็น(ชา)ตลอดทางเหลือเกิน!

     แต่มันจะชอบจริงๆเหรอ…คนที่แอบชอบไมน่าจะเย็นชานี่หว่า อะๆ ช่างมันก่อนเถอะครับตอนนี้ถ้ามันยอมตอบสนองผมสักนิดก็คงจะดี เนื่องจากแม่งยังไม่แม้แต่จะพูดกับผมบ้างเลย


     “มีอะไร?”  คนตัวสูงหันหน้ามาถาม เพราะกำลังก้มๆเงยๆทำอะไรสักอย่างอยู่บนเตียงกับน้องกวาง ซึ่งผมขอเดาว่ามันกำลังเปลี่ยนแพมเพิร์สและเสื้อผ้าให้น้องแน่ๆ   

     “คะ คือ”  แล้วกูจะเสียงสั่นทำไมวะ “อ้อออ เปล่าแค่ขึ้นมาดูน่ะว่ามึงทำอะไรอยู่ ไม่เห็นลงไปสักที”

     “เปลี่ยนแพมเพิร์สกับเสื้อผ้าให้น้องกวางอยู่ เดี๋ยวตามลงไป” ตอบแล้วมันก็หันหน้ากลับไปเหมือนเดิม


     ไม่เคยรู้สึกไร้ตัวตนอย่างนี้มาก่อนเลยครับหัวหน้า!

     “ให้กูช่วยอะไรไหม?”  แหม…จริงๆมันทำคนเดียวก็ได้แล้วไง ที่พูดออกไปนี้เพราะอยากหาเรื่องชวนคุยมากกว่า

     “ไม่เป็นไร”   เจ้าตัวตอบเสียงเรียบ

     “มาน่าเดี๋ยวช่วย”  ไม่ยอมครับ ศึกครั้งนี้ไอ้ปิงไม่มีวันแพ้! ยังไงก็ต้องหน้าด้านไปนั่งข้างๆมัน 

     “บอกว่าเดี๋ยว…” ไอ้เสือพูด 

     “ว่าไงเจ้าอ้วน!” แต่ยังพูดไม่ทันจบผมก็พูดขัดมันขึ้นมาด้วยการกระโดดขึ้นไปนั่งบนเตียงพร้อมกับเข้าไปเล่นกับน้องกวางซึ่งกำลังนอนยิ้มหัวเราะเอิ้กอ้ากตอบสนองผม   

     “แอ๊ะ!”   เป็นเสียงน้องกวางที่ตอบกลับมาเมื่อผมใช้นิ้วเขี่ยที่พุงเธอเล่น พ้อมกับก้มหน้าลงไปฟัดพุงขาวๆของเธออย่างมันเขี้ยว 

เจ้าเด็กอ้วนหัวเราะชอบใจ “มัม มัม ม่า”  จากนั้นก็พลิกตัวกลับขึ้นมาจากที่นอนและคลานมาหาผม

 
     “น้องกวาง”  ไอ้เสือถึงกับเรียกเสียงเข้มเพราะเสือผ้าที่กำลังจะเอาใส่ให้นั้นยังไม่ทันได้ใส่เลย  แต่เด็กก็ยังคงเป็นเด็กน้องกวางไม่ได้รู้เรื่องอะไรหรอก เธอคลานเข้ามาหาผมเพื่อหวังว่าจะเล่นด้วยกัน

     “เมื่อไรน้องกวางจะพูดได้สักทีวะ”  ผมแกล้งเปลี่ยนเรื่อง พร้อมกับยกตัวน้องกวางที่อยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนและร่างขึ้นมาอุ้ม  ไอ้ที่ว่าเปลือยนี่หมายถึงไม่ได้ใส่แค่กางเกงกับเสื้อนะครับ ส่วนแพมเพิร์สน่ะใส่แล้ว

     “ไม่รู้ แต่น้าเล็กเคยบอกว่าแล้วแต่เด็กบางคน”  มันตอบเสียงเรียบเหมือนเดิม พร้อมกับพยายามจับเสื้อตัวสวยมาใส่ให้น้องกวางซึ่งผมกำลังอุ้มอยู่  แต่เจ้ากรรมเธอดันดิ้นไปมาไม่ยอมให้ใส่

     “แอ๊ะ!”  เสียงน้องกวางเองแหละครับ เธอส่งเสียงออกมาจากลำคอพร้อมกับใช้แขนป้อมๆสองข้างปัดป่ายไปทั่วจนกำปั้นน้อยๆโดนหน้าผมไปหลายรอบละ

     “น้องกวาง”   อีกครั้งที่คนตัวสูงเอ่ยเสียงเข้ม แต่ยังง๊ายยยยยยยังไง เด็กแม่งก็เป็นเด็กครับ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรหรอกว่าพ่อตัวเองกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน

     “นี่มึงเข้ามาช่วยหรือเข้ามาทำให้มันยุ่งยากกว่าเดิมวะ”  หันมาโวยวายใส่ผมเฉยเลย


     ผัวะ!   

     ไอ้ฉิบหายยยยยย

     ไม่ว่าเปล่าครับ มันพูดแล้วก็ตบเข้าที่หัวผมจังๆเลย  สงสัยว่าถ้าไม่ติดว่าอุ้มน้องกวางอยู่มันคงตบผมคว่ำมากกว่านี้แน่

     ไอ้สัดดดด อย่าให้กูเอาคืนนะว้อยยยยยย


     “ไอ้เชี่ยหนิ ตบมาได้มันเจ็บไหมล่ะ!?”  ผมบ่นและส่งตัวน้องกวางกลับคืนไปให้มัน

     “อะไร?”  แต่เจ้าตัวกลับถามเสียงเรียบ แถมยังไม่ยอมรับตัวน้องกวางไปอีก

     “ก็ไหนจะแต่งตัวให้น้องกวางไง กูจะลงไปข้างล่างละ”   

     “ไม่ต้อง อุ้มไว้อย่างนั้นแหละ”

     “อะไรของมึงครับไอ้คุณเสือ พอกูอยู่ก็บอกว่ายุ่งพอจะออกไปก็บอกให้อยู่?” 

     “ทำอะไรไว้ก็รับผิดชอบ  อุ้มน้องกวางดีๆเลย” 

     ครั้งนี้ไม่รอให้เสียเวลาไอ้เสือจัดการเอาเสื้อสวมเข้าทางศีรษะน้องกวางด้วยความรวดเร็ว และน้องกวางก็ร้องโวยวายออกมาด้วยความรวดเร็วเช่นกัน ชนิดที่ว่าใส่เสื้อให้ปุ้บร้องปั้บ!

     เอ้…ไอ้เด็กอ้วนมันเป็นอะไรหว่า…?   ดูท่าทางวันนี้จะงอแงผิดปกตินะ

     “วันนี้น้องกวางเป็นอะไรวะ ทำไมดูงอแงผิดปกติ?”  ไม่ปล่อยให้ความสงสัยครอบงำอยู่นานเท่าไร ผมก็เอ่ยถามไอ้คนที่กำลัง
จับแขนน้องกวางยัดใส่เข้าไปในช่องแขนเสื้อ

     “นอนไม่เต็มอิ่มน่ะ”  มันตอบพร้อมกับจดจ้องอยู่แต่กับการกระทำตรงหน้า ส่วนผมน่ะ…ก็จดจ้องอยู่แต่กับ 


     กับ…


     “มองหน้ากูอยู่นั่นแหละ ถ้าน้องกวางตกลงพื้นนะมึงโดนแน่!”  สงสัยว่าคนตรงหน้าจะรู้ตัวหลังจากที่มันใส่เสื้อให้น้องกวางเสร็จแล้วก็พูดขึ้น พร้อมกับจิ้มเข้าที่หน้าผากผมหนึ่งที


     โถ…ไอ้เหี้ยยยยยย ถ้าหน้าผากกูยุบนะมึงโดนแน่!


     “มึง!”  ผมขึ้นเสียง

     “อะไร!?”  มันถาม เลิกคิ้วขึ้นพร้อมหาเรื่องเต็มที่

     เดี๋ยวนะ? วันนี้มันเป็นวันอะไรวะ เกรี้ยวกราดงอแงกันทั้งพ่อทั้งลูกเลย ปกติก็ไอ้เสือมันไม่เคยเป็นแบบนี้นะ


     แปลก…



     แปลกมาก…


     ตัวผมเองก็แปลกครับ แปลกที่ว่าทำไมตอนนี้ถึงต้องให้ความสนใจมันมากขนาดนี้ด้วย 



     บันทึกของเสือ


     เขาว่ากันว่าคนหน้านิ่งและชอบทำหน้าไร้อารมณ์นั้นสามารถปกปิดความรู้สึกตัวเองในขณะนั้นได้ดีเป็นพิเศษ และไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าขณะนั้นเรากำลังคิดอะไรอยู่และอยู่ในอารมณ์ไหน แต่สำหรับผมแล้ว ผมว่ามันไม่ใช่ ผมรู้สึกเหมือนอาการเหล่านั้นของผมมันกำลังย้อนกลับมาทำร้ายผมมากกว่าแทนที่จะปกป้อง  เนื่องจากว่าเงียบเกินเหตุและสีหน้าจากเรียบเฉยมากๆจนผิดสังเกต
     
     จริงๆก็พอจะรู้ตัวเอง รู้สาเหตุ แต่มันไม่สามารถห้ามได้จริงๆ
     ผมหึงไอ้ปิงกับน้องเพลงเขามากเกินไปใช่ไหมครับ ?

     ผมเคยบอกไว้ว่าผมจะตัดใจจากปิง แต่เห็นทีว่ามันคงยาก ตอนแรกก็คิดว่าคงตัดใจได้แล้วแต่เอาจริงๆแล้วกลับไม่ใช่ พอเห็นมันอยู่กับผู้หญิงที่มันรักมันทำให้ความรู้สึกผมชัดมากขึ้นกว่าเดิม ว่าผมยังรู้สึกกับมันอยู่แถมยังมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ 

ความรู้สึกที่ผมมีต่อปิงมันล้นจนเต็มอกอยากพูดออกไปใจแทบขาดว่าชอบ ว่ารู้สึกยังไง ว่ายากให้มาอยู่ข้างๆกัน อยากเป็นมากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ 

     แต่ผมทำไม่ได้…

     ไม่ว่าจะเพราะลูกหรือเพราะตัวไอ้ปิงเอง ถ้าบอกไปแล้วเจ้าตัวไม่ได้ชอบ ไม่ได้รู้สึกเหมือนกันทุกอย่างก็จบและอะไรหลายๆอย่างมันก็ยากที่จะเป็นเหมือนเดิมได้อีก

     ถึงแม้จะไม่สามารถบอกความรู้สึกออกไปได้ แต่ภายในใจก็นิ่งอยู่เฉยไม่ได้เช่นกัน

     ผมโคตรสับสน

     อย่างตอนนี้ที่จริงผมพยายามหลบหน้ามันเพื่อจัดการกับอารมณ์ของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยเริ่มใหม่ แต่ก็ไม่สามารถทำได้เลย มันก็ยังตามผมขึ้นมาบนห้อง มาลอยหน้าลอยตาให้เห็น ทำแบบนี้แล้วผมจะทำให้อารมณ์ตัวเองอยู่ในระดับปกติได้ยังไง ยิ่งตอนที่มันกับน้องเพลงอยู่ใกล้กันผมยิ่งห้ามอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
ผมขี้หึงและหวงมากซึ่งนิสัยข้อนี้ผมไม่สามารถแก้ให้หายได้ผมรู้ดี  และรู้ด้วยว่าไม่มีสิทธิ์ในตัวมันแต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่อยู่จริงๆ

อย่างเช่นตอนอยู่บนรถ ที่ผมเงียบไม่ใช่ว่าไม่อยากคุยด้วยแต่ผมแค่ทนเห็นภาพมันกับน้องเพลงไม่ไหว ผมเลยเลือกที่จะอยู่แบบนั้นเพราะถ้าหากได้พูดออกไปแล้วความขี้หวงของผมมันคงแสดงออกมาไม่น้อย

หลังจากที่จัดการเสื้อผ้าให้น้องกวางเรียบร้อยแล้วผมกับไอ้ปิงก็เดินลงมาข้างล่างพร้อมกัน และทุกคนก็ต่างกำลังเตรียมตัวไหนกันสักที่


     “แหม…กว่าจะลงกันมาได้นะครับท่านชายทั้งสองงงงงง”  แล้วก็เป็นเสียงไอ้ฟาร์มที่พูดขึ้นหลังจากที่พวกผมโผล่หน้าลงมาจากข้างบน

     “มึงก็ลองมาจับน้องกวางแต่งตัวสิจะได้รู้ว่าลำบากขนาดไหน” ปิงพูด


      มันนี่เป็นประเภทเถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็จะต้องตอบกลับซะทุกอย่าง

   
      “แล้วจะไปไหนกัน?”  ผมถาม แล้วก็เดินไปหาไอ้หมากที่นั่งตรงโซฟาเพราะมันยื่นมือมาขอรับน้องกวางไปอุ้มต่อ
     จะว่าไปไอ้หมากกับน้องกวางก็มีส่วนคล้ายกันนิดหน่อยนะ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าอยู่ด้วยกันบ่อย


     “ก็ไปหาเดินดูของมาทำบาร์บีคิวกันน่ะพี่ เดี๋ยวจะไปเดินดูของแถวสตรีทวอล์คด้วย”   ฟาร์มพูด “แล้วพี่จะไปด้วยกันป้ะ?”

     “เอาดิ จะพาน้องกวางไปเดินเล่นด้วย”

     “ไอ้เสือ มึงขับรถนะ เดี๋ยวกูดูน้องกวางให้”  ระหว่างที่มันกำลังเล่นอยู่กับน้องกวาง ไอ้หมากก็โพล่งขึ้นมาทันที

     “ก็ได้”   

     “เราจะไปกันได้หรือยังคะ?”   เสียงหวานๆของใครสักคนในนี้พูดขึ้น และแน่นอนว่าไม่ใช่พวกผมซึ่งเป็นผู้ชายแน่
      นั่นเป็นเสียงของน้องเพลง ซึ่งมองไปอีกทีตอนนี้ก็ไปยืนเกาะแขนไอ้ปิงแจซะแล้ว

     ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันรู้สึกยังไง แต่ถ้ามันอยากกลับไปผมเองก็คงต้องยอมรับในความรู้สึกและบอกให้ตัวเองทำใจได้แล้ว มีสิทธิ์ชอบแต่ไม่มีสิทธิ์บอกมันเจ็บแบบนี้นี่เอง

     “ไปๆ”  และพวกชอบเอนเตอร์เทรนอย่างไอ้โก้ ไอ้เจมส์ ก็เปลี่ยนเรื่องทันทีรีบดึงดันให้ทุกคนออกไป

     พวกเราใช้เวลาขับรถไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ถึงที่หมายแต่ผมเลือกที่จะเดินเล่นทางโซนสตรีทวอล์คซึ่งอยู่ทางฝั่งตรงข้ามกับตลาดสดมากกว่าขณะนี้เวลาก็ล่วงเลยมาประมาณเกือบหกโมงเย็นแล้วผู้คนเองก็เริ่มพลุกพล่าน 
เพราะงั้นเลยมีผมกับไอ้หมากและน้องกวางที่เฟดตัวออกมาจากการเดินหาซื้อของสด ไม่ใช่ว่าไม่ถนัดซื้อของพวกนี้ แต่แค่ไม่อยากเห็นอะไรบางอย่างก็เท่านั้น 

     แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้…

     เพราะไอ้ปิงมันตามมาด้วยเดินเกาะแกะผมอย่างกับหมาน้อย แถมยังไม่ได้มีไอ้ปิงคนเดียวนะ มีน้องเพลงตามมาด้วย


     บรรเทิงเลยครับ!

     แล้วพักนี้รู้สึกว่าไอ้ปิงมันตามติดผมอย่างกับอะไรดี  นี่สินะที่เขาว่ายิ่งหนีก็ยิ่งเจอ



     หมับ!






  มีต่อนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-09-2017 00:00:38 โดย กิงก่องโก๊ะ »

ออฟไลน์ กิงก่องโก๊ะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
    • เข้ามาฝอยกันได้นาจาาาาา
ต่อค่ะ


     “มึงจะรีบเดินไปไหนวะ?” ผมแทบสะดุ้งเมื่ออยู่ๆก็มีมือปริศนาจับเข้าที่ช่วงไหลผมจังๆ ยังดีที่ไม่ได้แสดงความตกใจนั้นออกไป และเจ้าของมือปริศนาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน มันคือคนที่คอยมาเกาะแกะผมอยู่ตลอดเวลานั่นไง

     “ก็ไม่ได้รีบไปไหน?”  ผมตอบและหันเสี้ยวหน้ามามองคนที่กำลังเดินอยู่ข้างๆ

ตอนนี้น้องกวางไม่ได้อยู่กับผม เป็นเพราะไอ้หมากมันอาสาที่จะดูแลให้ แล้วช่วงนี้ก็ไม่รู้มันเป็นอะไรกัน ไอ้หมากเองมันก็ติดน้องกวางอย่างกับอะไรดี ส่วนลูกสาวผมน่ะไม่ต้องพูดถึง ติดไอ้หมากพอๆกัน

     “ไม่เร็วห่าอะไรเดินอย่างกับจะไปไล่ควาย!”   มันพูดประชดเสียงดัง

     “ปิง มาช่วยเพลงเลือกของหน่อยสิ” ยังพูดจบประโยคไม่ถึงเสี้ยวนาที น้องเพลงเธอก็พูดขึ้นพร้อมกับลากแขนไอ้ปิงให้เดินตามไป และไอ้ผมที่กำลังจะเดินหนีก็ถูกไอ้ปิงมันลากแขนให้เดินตามไปเช่นกัน 

     อะไรของเขาสองคนเนี่ย!? 

     “ไอ้เสือเดี๋ยวกูพาน้องกวางๆไปเดินเล่นแถวนู้นนะ ถ้าจะกลับแล้วยังไงก็โทรมาด้วย”  ช่วงที่ผมกำลังโดนลากไปไอ้หมากมันก็บอกผมอีกครั้ง ยังไม่ทันได้ตอบอะไรมันก็รีบเดินหนีไปแล้ว


     และตอนนี้เรา สอง เอ่อ…สามคนก็กำลังยืนอยู่ภายในร้านบิกินี่ร้านหนึ่งซึ่งน้องเพลงเป็นคนลากเรามา

     แน่นอนว่าผมค่อนข้างไม่โอเคน่ะนะกับการอยู่แบบนี้…

     “ปิงว่าแบบไหนดี?”  เธอถามพร้อมกับชูบิกีนี่สีแดงสด สีดำและอีกหนึ่งแบบที่มีลายเป็นวิวทะเล

     “อ เอ่อ…” คนข้างๆผมที่ถูกตั้งคำถามมันอึกอักไม่กล้าตอบ “มึงว่าอันไหนสวยวะ?” แม่งก็เลยหันมาถามผมแทนนี่ไง

     “ไม่รู้ไม่ใช่คนใส่” ผมตอบโดยใช้โทนเสียงรายเรียบแบบที่มักจะใช้เสมอ “เดี๋ยวไปรอข้างนอกนะ”  และหนีออกมารอข้างนอกร้านคนเดียวปล่อยให้มันอยู่กับเขา แม้ว่าใจจริงจะอยากลากคอมันออกมาแค่ไหนก็ตาม

     “เฮ้ยย รอกูด้วย”  ว่าแล้วมันก็แทบจะวิ่งตามผมมาติดๆ “พี่เพลงเลือกไปเลยนะ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เท่าไร ยังไงเดี๋ยวจะรอข้างนอก”  ก่อนจะออกมาก็หันไปพูดกับน้องเพลงแล้วออกมายืนรอกับผมอยู่ที่ข้างนอก

บางครั้งมันก็ดูเหมือนจะชอบนะที่น้องเพลงเขากลับมาแบบนี้ แต่ทำไมบางครั้งถึงรู้สึกว่ามันก็ดูเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรแถมพยายามหลบหลีกด้วยซ้ำ



     เราเงียบกันไปประมาณสามนาทีได้ ผมปล่อยสายตาไปกับผู้คนรอบๆที่กำลังเดินพลุกพล่านไปมาผู้คนเดินผ่านหน้าและรอบตัวเรา เสียงเพลงที่เปิดจากร้านเสื้อผ้าดังขึ้นเข้ากับบรรยากาศ แถมผมยังปล่อยใจไปกับคนข้างๆด้วยเช่นเดียวกัน

ผมลอบมองเสี้ยวหน้าของอีกคนอย่างอดไม่ได้ ยิ่งมองก็ยิ่งอยากมองอีกไม่อยากละสายตาเลย มันไม่ได้ดูดีอะไรขนาดนั้น แน่นอนว่าหน้าตาไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไรสำหรับผม แต่ที่สำคัญคือเวลาอยู่ด้วยแล้วรู้สึกดีต่างหาก

     และตอนที่ผมอยู่กับไอ้ปิงไม่ว่าจะตอนไหนๆมันก็ทำให้ได้รู้ว่าไอ้ความรู้สึกดีที่ว่ามันเป็นยังไง



     “ม มึงเป็นอะไรหรือเปล่าวะ?”  อยู่ๆไอ้ที่มันเงียบมานานก็เอ่ยถามผมขึ้น 

     “ทำไมอ่ะ? กูดูเหมือนคนเป็นอะไรมากเลยเหรอ?”  ไม่แปลกที่มันจะถาม ขนาดตัวผมเองก็ยังคงรู้สึกถึงอารมณ์นั้นๆที่กำลังเกิดขึ้น

     “ไม่รู้สิ มึงรู้ตัวไหมเนี่ยว่าช่วงนี้มึงแม่งไม่ค่อยปกติเลย?” 
     นี่มันสังเกตผมถึงขนาดนั้นเลยหรอ? หรือว่าอาอาการผมมันแสดงออกไปจนเกินไป

     “แล้วปกติของกูมันเป็นยังไงล่ะ?” 

     “ก็…”  มันพูดเสียงในลำคอ จากนั้นก็เงียบไปพักหนึ่ง
     
     จนผมต้องเอ่ยถามอีกครั้ง เพราะก็อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นยังไง “ก็… อะไร?” 

     “ไม่รู้ว่ะ กูอธิบายไม่ถูกมึงเข้าใจใช่ไหม?”

     “ไม่เข้าใจ” 

     “เออ ช่างมันเถอะ” แล้วมันก็ตอบแบบปัดๆไป พร้อมกับโบกมือไล่ว่าไม่เป็นไร ประมาณว่าปล่อยมันไปเถอะ

     แต่ที่จริงก็เข้าใจนะ ไอ้ปิงมันเป็นคนเข้าใจง่าย ไม่ว่าจะคิดอะไรพูดอะไรก็ตรงไปหมดเข้าถึงได้ง่ายไม่ได้ซับซ้อนเหมือนใคร

     “ไปหาไรกินดีกว่า”  ว่าแล้วมันก็ลากแขนให้ผมเดินตามไป

     “แล้วน้องเพลงล่ะ?”  เจ้าตัวยังเลือกชุดว่ายน้ำไม่ได้เลยหนิ จนป่านนี้ก็ยังไม่ออกมา

     “เขายังเลือกไม่เสร็จหรอก เดี๋ยวค่อยไปเจอกันที่รถก็ได้”  มันตอบแล้วก็ยังคงลากแขนผมให้ตามไปโดยไม่แม้แต่จะหันไป
  มองน้องเพลงเขาสักนิด เพราะผมแอบเห็นว่าเธอมองมาทางเรา ด้วยสายตาบางอย่างที่ผมไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเธอมองเราสองคนว่ายังไง


     “มึงกินอันนี้ป้ะ?”  และเราก็หยุดอยู่ที่หน้าร้านร้านหนึ่งซึ่งเขาเรียกกันว่าไอศกรีมผัด

     “ไม่ชอบกินของหวาน”  ผมตอบ
     และปฏิกิริยาที่คนตรงหน้าทำหลังจากที่ได้ฟังคำตอบจากผมก็คือการกรอกตาไปมาและเบ้ปากน้อยๆอย่างที่มันชอบทำ
ซึ่งดูแล้วสำหรับผมก็น่ารักดี แต่สำหรับคนอื่นผมคิดว่ามันคงน่าตบน่าดู

     “แต่กูจะกิน” มันแย้ง

     “ก็กินสิใครห้าม”  ผมไม่กินก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ให้มันกินนี่นา 

     “แต่มึงต้องรอกูด้วย” 

     อ้อ…ประเด็นสำคัญสินะ มันคงจะกลัวผมเดินหนีมั้ง

     “รีบๆสั่งก่อนที่คิวมันจะยาว” ว่าแล้วผมก็ดันหลังมันน้อยๆให้เดินเข้าไปใกล้หน้าร้านมากขึ้นกว่าเดิม
 
     จากนั้นไม่นานของที่มันสั่งก็ได้มาอยู่ในมือเรียบร้อยพร้อมกับหน้าตาของเจ้าตัวที่บ่งบอกว่ามีความสุขแค่ไหนที่ได้กิน

     “ลองไหม?” ยืนถ้วยไอศกรีมมาตรงหน้าผม และก็พูดต่อว่า “อร่อยนะ” 

     “ไม่อ่ะ”  ผมตอบปฏิเสธ

     ก็ผมไม่ชอบกินของหวาน

     “ลองดูหน่อยน่า” และมันก็ยังคงเร้าหรือผมไม่เลิก “นิดนึงๆ”  แถมยังตักไอศกรีมมาจ่ออยู่ที่ปากผมอีก

     “ไม่กิน” 

     “เร็วๆ”   มันเร่ง และยังขยับช้อนเข้ามาใกล้มากกว่าเดิมจนชิดริมฝีปาก รสชาติหวานๆของไอศกรีมซึมซาบข้ามาในปากผมเล็กน้อย สุดท้ายก็เลยต้องยอมกินเข้าไปเพื่อที่จะได้ให้มันจบๆ

     “เป็นไง อร่อยไหม?”  มันถาม พร้อมกับแววตาที่สั่นระริกรอฟังคำตอบสุดๆ

     “อือ แต่มันหวานไป” 

     “คนไม่ชอบกินหวานแบบมึงก็บอกว่ามันหวานไปสิวะ!”  มันบ่น และตักไอศกรีมเข้าปากต่อ


     แต่ผมว่าที่มันหวานไปไม่ใช่เพราะไอศกรีมหรอกนะ… อาจเป็นเพราะผมกินช้อนเดียวกัน กินแก้วเดียวกันกับมันต่างหาก


     “จะเอาอะไรอีกไหม?”  ผมถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

     “เอาดิ กูยังเดินแดกไม่ครบซอยเลย” ว่าแล้วมันก็เดินนำหน้าผมไป  เดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ดูมีความสุขมาก ถ้ามันเป็นหมาตอนนี้หูมันคงตั้งหางสั่นดุกดิกไปมา เดินไปทั่วเหมือนหมาดีดอะไรทำนองนั้น


     เราเดินกันสักพักให้มันหาของกินทุกอย่างจนหนำใจและเราก็เป็นสองคนสุดท้ายที่เดินมาถึงรถที่จอดไว้ และตอนนี้ทุกคนก็พร้อมใจกันบ่นเราสองคนมากโดยเฉพาะไอ้ฟาร์มกับไอ้หมาก “คิดว่าแต่เดินซื้อของกันแถวดาวอังคาร”

     “เพราะไอ้ปิงเลย มันมัวแต่หาของกินเนี่ย”  ผมโยนความผิดไปให้มันเต็มๆ จะเรียกว่าโยนก็ไม่ได้ผมพูดความจริงล้วนๆ 

     “หาของกินจนทิ้งเพลงไว้เลยนะคะ”  และบรรยากาศก็เปลี่ยนไปเมื่อน้องเพลงเธอพูดขึ้นบ้าง หน้าตาเธอถึงแม้ว่าจะไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นว่ากำลังรู้สึกยังไง แต่น้ำเสียงเธอนั้นฟังดูแล้วสัมผัสได้มากว่าเธอตัดพ้อมากแค่ไหน

     “อ เอ่อกูว่าเราไปกันเถอะ”  ไม่ปล่อยให้บรรยากาศอึดอัดอยู่นาน ไอ้ฟาร์มมันก็พูดขึ้นทันที




     อาหารเย็นวันนี้พวกเราเลือกตั้งวงกันที่ลานโล่งหน้าบ้านซึ่งติดกับผืนทราย ข้างหน้าก็เป็นทะเลสีสวยซึ่งตอนนี้โดนความมืดบดบังไปหมดแล้ว
พวกมันจัดการทำอาหารกันเองแบบงูๆปลาๆ  พอกินได้ซึ่งมีผมคอยช่วยอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้เต็มที่นักเพราะต้องจัดการกับน้องกวางที่ชอบมาก่อนกวนด้วย

และวันนี้น้องกวางดูมีความสุขมาก แต่เห็นทีมากกว่าความสุขก็จะเป็นความเหนื่อยเพราะไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้เธอถึงกับผล็อยหลับไปในขณะที่ผมกำลังป้อนข้าว เลยต้องขอตัวเอาลูกเข้ามานอนในบ้านก่อน จัดที่หลับที่นอนให้เรียบร้อยจากนั้นก็ออกมานั่งที่เดิม

อาหารวันนี้ก็คือบาร์บีคิว และอาหารทะส่วนสิ่งที่สำคัญมากๆอย่างแอลกอฮอลล์นั้นก็ขาดไม่ได้เช่นกัน เบียร์สามลังถูกเอามาตุนไว้อย่างรู้งานโดยฝีมือไอ้หมาก 


ผมขอเลี่ยงออกมาช่วยย่างของมากกว่าที่จะนั่งกิน  เพราะว่าพยายามลีกเลี่ยงสถานการณ์บางอย่างมากกว่าแต่ก็นั่นแหละไอ้ปิง
มันก็ยังคงตามมาคอยวนเวียนช่วยผมย่างนู่น นี่ นั่น  ใบหน้าของมันเริ่มออกสีแดงระเรื่อนิดๆเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ และไอ้อาการพูดมากของมันนั้นก็ค่อนข้างเป็นเยอะกว่าเดิมนั่นคงเป็นเพราะเริ่มเมาแล้วแน่นอน


มันลุกเดินไปมาช่วยผมย่างบ้างนั่งกินบ้าง อ้อ…แถมคนเมาอย่างมันยังดูแลสาวได้ดีซะด้วยสิ คอยแกะกุ้งแกะปูให้น้องเพลงกินจนเธอไม่ต้องทำอะไรเลย 


     แล้วก่อนหน้านี้ที่มันลากผมออกไปกับมันสองคนแล้วทิ้งน้องเพลงไว้นี่คืออะไรวะ…

     บางครั้งก็เหมือนมันพยายามจะไม่เข้าใกล้น้องเพลง แต่บางครั้งก็ทำดีกับเขาเหมือนว่ายังรักเขาอยู่ 

     แต่ก็ช่างเถอะไม่ว่ามันจะรู้สึกหรือไม่รู้สึกกับน้องเพลงยังไง สุดท้ายแล้วผมก็ได้เป็นแค่คนคอยมองมันอยู่อย่างนี้

     “แดกเปล่า?”   ไอ้หมากเดินมาพร้อมกับแก้วเบียร์ที่ยื่นมาให้ผม

     “ใจ” ผมรับมาไว้พร้อมกับยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนเกือบครึ่งแก้ว

     “ช่วงนี้มึงแปลกๆนะเนี่ย มีไรเล่าได้นะ”   มันพูดพร้อมกับขยับตัวเข้ามาช่วยผมย่างของในเตา

     “แปลกตรงไหนวะ?” ที่ถามไปทั้งที่รู้อยู่แก่ใจตัวเอง ก็เพราะว่าอยากจะรู้ว่าคนอื่นจะพอเดาออกหรือเปล่าว่ามันคือเรื่องอะไร

     “มึงดูนิ่งกว่าทุกครั้งนะ ดูเงียบเหมือนมีเรื่องในใจ” 

     “ขนาดนั้นเลยเหรอวะ?” 

     “เออสิ”

     “…”  ผมเงียบมาได้ต่อประโยคของมัน แต่มือก็ยังคงไม่วางจากการย่างของ

     “มึงเคยมีวันไนท์แสตนด์ไหมวะ?”  สุดท้ายผมก็ถามขึ้น

     “เคยแต่ก่อนบ่อยจะตาย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ละ”  ไอ้หมากตอบด้วยน้ำเสียงที่โคตรชิล พร้อมกับท่าทางสบายๆ

     “แล้วมึงเคยชอบเขาไหม?” 

     “ก็…มีคนหนึ่งนะ คนที่ทำให้กูไปชอบใครไม่ได้อีก” 
 
     “จริงเหรอวะ?”   จริงๆอดตกใจไม่ได้ว่าคนอย่างมันเนี่ยนะชอบใครเขาก็เป็นด้วย

     “จริง รู้ตัวอีกทีแม่งก็คิดถึงแต่เขา”

     “แล้วนั่นมันแปลว่าชอบเหรอ?” 

     “เรื่องของความรู้สึกกูอ่ะ กูรู้ดีกว่าใครเพราะงั้นก็เลยมั่นใจมากว่าชอบเขา”

     “แล้วทำไมไม่คบกันล่ะ?” 

     “ตอนแรกกูก็คิดแบบนั้น คิดไว้แล้วว่าจะบอกเขาว่ากูชอบหลังจากที่ชั่งใจอยู่นาน” 

     “แล้ว…?” 

     “เขาหายไป” 

     “หายไปไหนวะ?” 

     “กูไม่รู้ ถ้ารู้กูก็ตามหาเขาแล้วไหม?” 

     “เขาเป็นใครมาจากไหน?”

     “ตอนแรกก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มารู้ตัวอีกทีตอนเห็นเขาเดินผ่านในมหาลัย”

     “อ่อ.. ”

     “แล้วไงถามกูแบบนี้นี่อย่าบอกนะว่าไปมีอะไรกับใครแล้วชอบเขาเข้า?” 

     “ทำนองนั้น”  ผมตอบ และยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบ

     “แล้วไง? เขาไม่ชอบมึงเหรอ”

     “ไม่ใช่”

     “มึงไม่กล้าบอก?” 

     “เออ” 

     “ชอบก็บอกไปดิวะ ระวังเขาหนีไปเหมือนเคสของกูนะเว้ย” 

     “ไม่ได้หรอก กูกลัวน้องกวางจะมีปมด้อยเรื่องแม่”  ผมบอกความจริงมันไม่หมดนั่นก็คือไม่ได้บอกว่าใครคนนั้นเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง

     “อ่า…มันก็แล้วแต่มึงนะ กูไม่รู้จะแนะนำยังไงหรอก แต่ถ้าเป็นกูนะกูจะพูดมันออกไปเพราะอย่างน้อยก็ให้เขาได้รู้ไปเผื่อเขาเองก็จะได้รู้สึกตรงกันกับเรา” 

     “แต่…”

     “กูไม่ได้ยุให้มึงไปบอกชอบเขานะ” 

     “…”

     “ถ้ามึงตัดใจไม่ได้ก็ชอบต่อไป เพราะยังไงก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่” มันพูดและยกแก้วเบียร์ที่ถือติดมือมาขึ้นมาจิบบ้าง“ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้นะเว้ย” และพูดต่อ

     ขนาดมันบอกว่าไม่ได้ยุนะครับ แต่ดูแต่ละอย่างที่มันพูดสิ ทำเอาซะผมแทบอยากเดินเข้าไปบอกไอ้ปิงเลย

     “ย่างเสร็จแล้วก็มานั่งแดกบ้างนะมึง”   มันพูดพร้อมกับเอาจานบาร์บีคิวไป 



     ไม่นานนักผมก็เลยเดินตามมาสมทบนั่งร่วมวงบ้าง ทุกคนตอนนี้ดูกำลังสนุกสนานกันได้ที่เลย ไม่ได้มีเหตุการณ์ให้น่าอึดอัดใจเหมือนอย่างหลายๆรอบ อาจเป็นเพราะน้องเพลงเธอไม่ค่อยพูด 



     เวลาลวงเลยไปนานจนตอนนี้ทุกคนเมาและเข้าไปหลับกันในบ้าน ส่วนผมที่สติยังคงดีอยู่ที่สุดก็เลยต้องจัดการเคลียร์ของตรงหน้าบ้านก่อนเข้านอนสักหน่อย  กับไอ้ปิงนี่ไม่ต้องพูด เพราะมันเป็นคนที่เข้าไปนอนคนแรกและต่อมาก็ตามด้วยใครหลายๆคน

ผมใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงในการจัดการของทุกอย่าง และขั้นตอนสุดท้ายก็คือการเก็บจานเข้าไปล้าง ผมใช้กะละมังใบขนาดพอดีมือมาขนทุกอย่างเข้าไปตรงโซนครัวหลังบ้านซึ่งจะเป็นที่เก็บจานและมีซิงค์ล้าง


     ขณะที่กำลังเดินเข้าไปในโซนครัวสองขาผมกลับต้องหยุดชะงักเพราะเสียงบางอย่างซึ่งมันเป็นเสียงของคนสองคนกำลังสนทนากัน แต่ผมได้ยินไม่ชัดว่ากำลังคุยเรื่องอะไร แต่สิ่งที่แน่ใจมากนั้นว่าจะต้องเป็นเสียงของผู้ชายกับผู้หญิง และในทริปนี้
 
     ไม่มีใครที่ไหนนอกจากน้องแยมแฟนไอ้เจมส์กับน้องเพลง 
     และถ้าเป็นน้องแยมก็คงต้องคุยกับเจมส์ แต่ถ้าไม่ใช่ก็คงเป็นน้องเพลงกับ… ไอ้ปิง

     อยู่ๆก้อนเนื้อด้านซ้ายมันก็เต้นแรงขึ้นด้วยความรู้สึกบางอย่างคลายว่าจะตื่นเต้นแต่ก็ไม่ หรือว่าจะเพราะกลัวก็ไม่เชิง เมื่อคิดว่าถ้าหากเป็นน้องเพลงกับปิงคุยกันจริงๆ…

     ถ้าจะกลัวก็คงกลัวในเรื่องที่เขาสองคนกำลังคุยกัน  จริงอยู่ที่ผมบอกว่าปิงมันมีสิทธิ์ที่จะกลับไปหาน้องเพลง ผมห้ามอะไรไม่ได้

     แต่ผมก็แค่หวง…  ใช่ผมทำได้แค่หวงและความหวงของผมมันไม่สามารถแสดงออกไปได้

     ถึงปากจะบอกว่ากลัว แต่ลึกๆแล้วผมก็ยังอยากรู้ว่าน้องเพลงกับไอ้ปิงนั้นคุยอะไรกัน เลยค่อยๆโผล่หน้าไปเพียงเล็กน้อยและขยับเท้าเข้าไปใกล้หลังบานประตูครัวที่เปิดแง้มไว้แค่เพียงเล็กน้อย



     “อื้อ” 

     บทสนทนาหยุดไปแต่กลายเป็นภาพสุดร้อนแรงตรงหน้า เขาสองคนกำลังจูบกัน… 
 

     ไม่ควรมองสินะ

     ผมพอจะเดาได้แล้วว่าบทสนทนาของทั้งคู่คืออะไร และมันจะลงเอยไปในทิศทางไหน

     สุดท้ายผมเลือกที่จะเดินออกมา เพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้มีความอดทนมากขนาดที่จะยืนดูคนในใจของผมจูบกับคนอื่นได้ ผมเอากะละมังที่ใส่ถ้วยจานออกไปวางไว้ข้างนอกตามเดิม ไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยล้างก็คงไม่สาย



ผมเดินผ่านพวกไอ้ฟาร์มแล้วก็เพื่อนมันที่นอนกองอยู่ตรงกลางบ้าน เพื่อที่จะได้ขึ้นไปนอนบ้าง ส่วนน้องกวางเธอก็หลับยาวตั้งแต่ตอนนั้นก่อนจะเก็บของหน้าบ้านผมก็เลยย้ายให้เธอขึ้นไปนอนข้างบน
เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของน้องกวางทำให้รู้ว่าเธอคงจะหลับยาวไม่ตื่นแล้วแน่นอน  ผ้าห่มผืนเล็กที่ลูกสาวผมชอบนอนก่ายกอดเลื่อนหล่นลงไปอยู่ที่ปลายเท้า เลยจัดการเลื่อนมันขึ้นมาคลุมให้ถึงตรงหน้าอก ตุ๊กตาตัวเล็กที่เธอชอบกอดนั้นก็อยู่ในอ้อมแขนไม่ไปไหน


     ฟี้…

     เป็นเด็กก็สบายดีนะครับ ไม่ต้องคิดอะไรมาก…



มีต่อนะคะ

ออฟไลน์ กิงก่องโก๊ะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
    • เข้ามาฝอยกันได้นาจาาาาา
ต่อค่ะ


ผมทิ้งตัวลงนอนข้างๆนอนกวาง ซึ่งผมให้เธอนอนฝั่งเตียงที่ติดกับผนังห้อง ภายในห้องมืดมิด ได้ยินเสียงคลื่นทะเลเบาๆคลอเคลียมาพร้อมกับสายลม และผมพยายามจดจ่ออยู่กับเสียงของคลื่นทะเลมากกว่าภาพบางภาพที่ยังคงติดตาและวนเวียนอยู่ภายในหัว

     แต่ก็เปล่าประโยชน์ ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถลบภาพนั้นออกไปได้เลย

     มันคงจะถึงไหนต่อไหนแล้วสินะ… แล้วความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองหลังจากวันนี้ไปคงจะดีขึ้น ต่อจากนนี้ผมก็ควรเริ่มทำใจบ้างแล้ว


     เฮ้อ…


     ผมเอาโทรศัพท์ตรงหัวเตียงมากดดูเวลาซึ่งขณะนี้มันล่วงเลยมาแล้วถึงตีสาม แต่เปลือกตาก็ยังคงไม่แม้แต่จะปิดเลยด้วยซ้ำ พลิกซ้ายก็แล้วขวาก็แล้วก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหลับ สุดท้ายก็เลยตัดสินใจออกมาเดินเล่นข้างนอกตากลมทะเลพร้อมกับเบียร์ขวดหนึ่งที่เหลืออยู่ เพราะกลัวว่าขืนยังดิ้นไปดิ้นมาแบบนั้นน้องกวางจะตื่นเอาได้


     ลมทะเลตีพัดเข้ามาที่ใบหน้าและมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยแต่ก็ไม่ทั้งหมด ผมเลือกที่นั่งซึ่งไกลออกมาจากตัวบ้านแค่เพียงเล็กน้อย แถมยังแอบขโมยกีตาร์ไอ้หมากมันออกมาเล่นด้วย

ผมทิ้งตัวนั่งลงพร้อมกับวางขวดเบียร์ไว้ข้างกายพร้อมกับนำกีตาร์ขึ้นมาดีดจับคอร์ดไปพลางๆ และไปเรื่อยๆอย่างไม่คิดจะเล่นจริงจังเพราะยังนึกเพลงไม่ได้  สมองเองก็ยังคงไม่ว่างสักเท่าไร มันอดไม่ได้ที่จะจินตนาการภาพภายในบ้านหลังนั้นว่าเป็นยังไงต่อ

ผมจับคอร์ดลองเสียงไปเรื่อยๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนกระทั่งนึกเพลงหนึ่งขึ้นมาได้ มันเป็นเพลงจากหนังเรื่องหนึ่งที่เมื่อนานมาแล้วผมได้มีโอกาสนั่งดูกับแก้ม  คนที่เป็นแม่ของน้องกวาง

เสียงกีตาร์ที่ฟังแล้วค่อนข้างรู้สึกเหงาหน่อยๆถูกผมเล่นมันขึ้นมา

So you find yourself at this subway

When your world in a bag by your side

And all at once it seemed like a good way

You realized it’s the end of your life

For what it’s worth

Here comes the train upon the track

And there goes the pain it cuts to blak

Are you ready for the last act




     “มานั่งทำอะไรคนเดียวตรงนี้วะ?”   เสียงของใครคนหนึ่งดังขัดขึ้นมาในขณะที่กำลังเล่นเล่นเพลง
 
     และเสียงนั้นไม่ใช่ของใครที่ไหน เพราะไม่ต้องหันไปมองผมก็พอจะรู้ว่าใคร



     ไอ้ปิง…

     เจ้าตัวพูดแล้วก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ สายลมที่พัดผ่านทำเอาผมได้กลิ่นแอลกอฮอลล์อ่อนๆจากตัวไอ้ปิงลอยเข้ามากระทบที่ปลายจมูก


     “นอนไม่หลับ”  ผมตอบแค่เพียงสั้นๆ ตอนนี้ยังไม่แม้แต่จะกล้ามองหน้ามันด้วยซ้ำ

     “นี่มึงเล่นกีตาร์เป็นด้วยเหรอวะ?”  มันถาม และวางมือหมับเข้าที่ไหล่ผม

     “พอได้”

     “อ่อ…”  มันตอบรับเสียงในลำคอ




     เราเงียบกันไปพักใหญ่ราวกับว่าต่างคนต่างก็กำลังใช้ความคิด จมอยู่กับภวังค์ของตัวเอง มีแค่เพียงเสียงคลื่นทะเล เสียงลมที่ส่งเสียงอยู่ทุกขณะ และมีเสียงกีตาร์ที่ผมเล่นคลอเบาๆ

ผมปล่อยมือออกจากเครื่องดนตรีครู่หนึ่งก่อนจะยกขวดเบียร์ขึ้นมาดื่ม เผื่อว่ามันจะทำลายให้ความรู้สึกบางอย่างหายไปบ้าง “กูแดกด้วยนะ”  พอดื่มเสร็จ ยังไม่ทันที่จะวางขวดลงด้วยซ้ำไอ้ปิงมันเลยพูดพร้อมกับแย่งขวดเบียร์ผมไปจัดการต่อ

ผมอดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองคนข้างๆ  ด้วยความที่ไม่กล้ามองมันเต็มตาเลยเห็นได้แค่เพียงเสี้ยวหน้าเท่านั้น แก้มของมันแดงระเรื่อนิดหน่อย อาจจะยังไม่สร่างเมาดี


     “มองไร?”   เหมือนผมจะตกอยู่ในภวังค์เลยหลบหน้าหนีไม่ทัน คนข้างๆเลยถามขึ้นหลังจากที่วางขวดเบียร์ลงไว้ข้างกาย

     “เปล่า”  ผมปฏิเสธ

     “เล่นต่อดิ กำลังได้บรรยากาศเลย”

     “บรรยากาศไร”

     “เอ้า ก็ฟ้าสวย เพลงเพราะ เบียร์อร่อย”

     “เหรอ?” 

     “เออสิวะ”

     “อยากฟังเพลงไรล่ะ?”

     “อะไรก็ได้ เล่นมาเถอะ”

     สิ้นประโยคของมันผมก็นั่งคิดอยู่พักหนึ่ง 

     เพลงอะไรก็ได้เหรอ?   

     “ไม่รู้ คิดไม่ออก” ด้วยความที่คิดไม่ออกจริงๆเลยต้องเอ่ยปากบอกมันไป เผื่อว่าเจ้าตัวจะมีเพลงอะไรมาให้เล่น 

     “อืม…งั้นลองเอาเพลงตามความรู้สึก ตามอารมณืมึงตอนนี้ดิวะ”  ปิงตอบ

     เพลงตามอารมณ์งั้นเหรอ…?

     งั้นคงต้องเป็นเพลงนี้แล้วล่ะ



ก็ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ถึงไม่ลืมเธอ

มีเธอในใจฉันเสมอ…ไม่เข้าใจ

อยากกอดเธอเอาไว้ สักเท่าไร

แต่หัวใจ ฉันก็รู้ดี จูบเธอได้ในฝัน

เท่านี้…แค่นี้…เพียงข้างในใจ



     เสียงกีตาร์ดังคลอ และผมเปล่งเสียงร้องเพลงออกมาเบาๆ เบาจนเสียงของคลื่นทะเลรอบๆนั้นเกือบจะกลบไปหมด แต่ผมเชื่อว่าคนข้างๆมันต้องได้ยิน เพราะเรานั่งใกล้กันในระดับหนึ่ง


รักไม่ได้บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว

รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง

ชอบเขาเท่าไรก็ต้องหยุดไว้เอง

เป็นบททดสอบของเบื้องบน ให้ค้นหาหัวใจ

ส่งมาให้ตัวฉันข้ามไป

อยากจะลองใจฉันหรือเปล่า

จะได้รู้ว่ารัก ลึกแค่ไหน

ให้เห็นเงา สะท้อนหัวใจ

เก็บเธอไว้แค่ฝัน ได้ไหม

เพราะหัวใจฉันก็เสียดาย

รักไม่ได้บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว

รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง

ชอบเขาเท่าไรก็ต้องหยุดไว้เอง

รักไม่ได้บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว

รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง

ชอบเขาเท่าไร ก็รักเขาไม่ได้

บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว

รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง

ชอบเขาเท่าไรก็ต้องหยุดไว้เอง




     “นี่มึงกำลังอยู่ในอารมณ์นี้เหรอเนี่ย! ว่าแต่ใครคนนั้นของมึงวะที่รักไม่ได้น่ะ?”  คนข้างกายผมเอ่ยถามหลังจากที่เล่นจบยังไม่ถึงสิบวิด้วยซ้ำ และเจ้าตัวยังคงพูดต่อว่า “แม่งเจ๋งสาดดด คราวหลังสนกูเล่นบ้างด…” 



     หมับ!


     ผมไม่รอให้ปิงได้พูดจบประโยค ยิ่งได้อยู่ใกล้ก็ยิ่งห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ห้ามหัวใจที่มันร่ำร้องอยากจะบอกความในใจไม่ได้ สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะยังไง วันนี้สิ่งที่ผมตัดสินใจทำไปผมขอน้อมรับผลลัพธ์ทั้งหมดที่มันจะตามมาย้อนหลังอย่างไม่มีข้อกังขา
     เพราะวันนี้ความรู้สึกของผมมันเกินทนแล้วจริง ไม่สามารถเก็บความรู้สึกนี้ต่อไปได้แล้ว

     มือข้างหนึ่งของผมจับกีตาร์ไว้ ส่วนมืออีกข้างคว้าหมับเข้าที่ต้นคอของอีกฝ่ายไว้หลวมๆก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ เพื่อที่จะได้ใช้ริมฝีปากตัวเองฉกฉวยริมฝีปากของอีกคนไว้อย่างรวดเร็ว


     อื้อ…


     เสียงเป็นเสียงของปิงที่ร้องดังอื้ออึงอยู่ในลำคอ ไม่รู้ว่าปฏิเสธหรือเพราะตกใจ แต่ผมว่าน่าจะอย่างหลังเพราะถ้ามันปฏิเสธมันคงจะไม่ปล่อยให้ผมจูบอย่างนี้ เนื่องจากมือข้างเดียวขงผมไม่สามารถล็อคคอเจ้าตัวไว้ได้แน่

     จูบของผมไม่ได้ลุกล้ำ ทำแค่เพียงเน้นคลึงริมฝีปากนุ่มหยุ่นนั้นด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี ใช่…ผมถ่ายถอดความรู้สึกนั้นผ่านไปในการกระทำครั้งนี้  เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ได้ปฏิเสธ ผมเลยปรับองศาใบหน้าของเราให้ถนัดขึ้นด้วยการเอียงเล็กน้อย ให้เราสัมผัสกันได้มากขึ้นกว่าเดิม

กลิ่นแอลกอฮอลล์ของเราทั้งคู่ลอยคละคลุ้งอยู่ภายใน มันทำให้ผมมัวเมายิ่งกว่าดื่มเป็นลังซะอีก เผลอขบกัดริมฝีปากของอีกคนไปมาอย่างอดไม่ได้


     อื้อ…

     และก็เป็นสียงของอีกคนที่ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับริมฝีปากของเราที่ผละออกจากกันโดยฝีมือของมันเอง

     เสียงลมหายใจของเราทั้งสองดังแข่งกับเสียงคลื่นทะเล ผมยังคงจับต้นคอของอีกฝ่ายไว้แน่นก่อนจะแนบหน้าผากลงบนหน้าผากมนของอีกฝ่าย  ผมหลับตารอฟังคำพูดหลังจากนี้ที่คิดว่ามันต้องมี 


แต่ผ่านไปห้านาทีได้ก็ยังไม่แม้แต่จะมีอะไรเกิดขึ้น มีแค่เพียงเสียงลมหายใจเท่านั้นที่ดังอกมาเป็นระยะๆ ไม่สิพร้อมกับเสียงหัวใจของผมที่มันเต้นอยู่ภายในอกอย่างบ้าคลั่ง


      “ม มึง ช ชอบกูเหรอวะ?”  นานพอสมควรกว่าที่อีกคนจะยอมปริปากพูด

     ผมผละใบหน้าออกมา จากนั้นก็จ้องงลึกเข้าไปในตาของอีกฝ่าย


     อื้อ…

     อีกครั้งที่ผมไม่อยากใช้คำพูดเป็นการตอบคำถาม เลยเลือกแสดงออกจาการกระทำ
     ครั้งนี้ผมไม่แค่จูบเฉยๆ ไม่ได้แค่บดคลึงริมฝีปากนุ่มหยุ่น ผมสอดเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากของอีกฝ่ายอย่างจาบจ้วง
และมันเป็นความจาบจ้วงที่หอมหวาน ปิงไม่ได้จูบตอบผม นั่นมันทำให้ผมใจแป้วนิดๆ

     ผมกัดย้ำที่ริมฝีปากล่าง ครั้งนี้มันไม่ใช่เพราะอยากหยอกล้อ แต่มันเป็นเพราะผมกำลังอ้อนวอน

     อ้อนวอนให้อีกฝ่ายตอบความในใจออกมาว่าได้รู้สึกแบบเดียวกันกับผมหรือเปล่า



     อื้อ…

     อาจเป็นเพราะผมเอาแต่ใจมากเกินไป เลยทำให้อีกคนหายใจไม่ทัน เลยต้องผละออกมาอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ปิงมันยังไม่ได้จูบตอบผมแม้แต่น้อย


     มันคงไม่ได้รู้สึกสินะ...

     ผมอ้อยอิ่งอยู่กับริมฝีปากนั่นแค่เพียงครู่หนึ่ง


     “เออ กูชอบ”   ผมพูดออกไป


     “…”


     “แล้วมึงล่ะ ชอบกูไหม?”




จบบันทึกของเสือ




TBC...




กิ้สสสสส เเม่ขาพี่เขา ฟฟหทหดสาฟดสาดสกดายาดวสดวส แอ่กกกกก เขียนไปกัดลิ้นตัวเองไปค่ะ 55555555555

ตายเเล้นน สุดท้ายอีพี่เสือก็ทนความรู้สึกตัวเองไม่ไหว ฮ่าาาาาาาาาาาา 
เดี๋ยวยังไงตตอน  ทะเลจูบความรู้สึก จะมีพาร์ทของปิงให้ด้วยนะ รออ่านกันเด้อออ ในส่วนของวันนี้ ขอลาก่อยนะคะ เเอ่กกก


ฮืออออ ถึงกับสามReเลย เเง้งงง หวังว่าจะหายคิดถึงกันนบ้างนะคะ (ไม่รู้ง่าจะมีใครคิดถึงน้องอะเปปล่า  :mew2:


ปอลิง เพลงเเรกคือเพลง A step you can't take back จากหนังเรื่อง begin again นะคะ
เพลงที่สองคือเพลง รักไม่ได้ ของgroove rider

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ปิงอย่าทำให้พี่เสือผิดหวังนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนนี้ความกดดันมาอยู่ที่ปิงหมดละ

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
อร๊ายยยยยยย ตัดจบแบบละครไทยยยยยย

ฮือ ปิงก็ชอบเสือ เสือก็ชอบปิง น้องกวางกำลังจะมีแม่แล้ววปรบมือดัง ๆ ฮิ้วววววว :mc4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เสือ บอกชอบปิงแล้ว
แถมถามปิงกลับอีกด้วย

ว่าแต่สงสัย ใครนะที่ทำบทรักกันที่เสือได้ยิน
ไม่น่าใช่ปิง กับเพลง
ไม่น่าใช่เจมส์ กับแยม
หรือเป็นหมาก กับ เพลง  :z3: :z3: :z3:
เพลง คือคนที่หมากเคยมีวันไนท์สแตนด์ด้วย  o22 o22 o22
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เสิร์ฟตอนต่อไปมาด่วนๆๆ เลยจ้า รอไม่ไหวล้าววว  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หวังว่าคงไม่มีหักมุมประมาณว่า พี่หมากคือพ่อจริงๆของน้องกวางนะคะ ประมาณว่าแม่น้องกวางไปเผลอมี one night stand กับพี่หมากประมาณนั้น รู้สึกเนื้อเรื่องมันชงให้มี drama เรื่องนี้ไงพิกล ถ้าอย่างนั้นมันทำร้ายจิตใจพี่เสือเกินไปค่ะ พ่อแม่ก็ไม่ต้องการ ชีวิตปากกัดตีนถีบเลี้ยงลูก เมียมาทิ้ง แล้วถ้าลูกยังเป็นของคนอื่นอีกเนี่ย จะไม่แปลกใจเลยถ้าพี่เสือจะฆ่าตัวตาย ยังมีโชคอยู่บ้างที่ยังมีน้องปิงอยู่ด้วยกัน

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ กิงก่องโก๊ะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
    • เข้ามาฝอยกันได้นาจาาาาา
ตอนที่สิบแปด  คนเดิมๆแต่ทำไมไม่เหมือนเดิม
(18.1)



    ฮือออ ปวดฉี่…

     แต่…ขี้เกียจลุกว่ะ คือคนมันกำลังนอนได้ที่เข้าใจไหม…

     ลองนอนๆไปก่อนเเล้วกัน เดี๋ยวคงหายปวดเอง


     สามนาทีผ่านไป…

     โอ้ยยย ไม่ไหวแล้วว้อยยยย ทำไมมันจะต้องมาปวดอะไรตอนนี้ด้วยวะ ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะไม่ลุกเพราะขี้เกียจแต่สงสัยวันนี้ร่างกายจะรับของเหลวมากเกินไปเลยรู้สึกเหมือนเขื่อนกำลังจะแตกอยู่รอมร่อ

แล้วนี่กูนอนอยู่ไหนล่ะเนี่ย งงไปหมดแล้วมืดก็มืดมองไม่เห็น ที่สำคัญแม่งโคตรมึนหัวเลย อ่อ...นึกออกแล้วบ้านพักส่วนบนของไอ้เจมส์ไง และตอนนี้นอกจากมึนหัวก็รู้สึกเหมือนของเก่าในท้องมันกำลังจะขย้อนออกมายังไงอย่างนั้นเลย

     ระหว่างอ้วกกับปวดฉี่ผมควรทำอะไรก่อนดี…?

     แต่ก็นะ…ตอนนี้ผมว่าผมควรวิ่งไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า ไม่ไหวแล้วว้อยยยย  ทันเท่าความคิด ผมรีบลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความทุลักทุเล


     แต่…

     ไอ้ฝัดเอ้ยยยย! นี่มันเคราะห์ซ้ำกำซัดอะไรของกูวะเนี่ย! ห้องน้ำด้านบนเสือกปิดไม่ให้ใช้อีก ไอ้ฉิบหายแล้วจะวิ่งลงไปทันก่อนอ้วกจะออกมาไหมล่ะเนี่ย!?

แต่สุดท้ายและท้ายสุดก็ต้องจำยอมวิ่งสี่คูณร้อยมาด้วยความมึนๆเมาๆลงมาเข้าห้องน้ำที่ชั้นล่าง วิ่งไปก็จะล้มไป โลกทั้งโลกของผมตอนนี้หมุนเคว้งคว้าง ปวดฉี่ก็ปวด อยากอ้วกก็อยากอ้วก อาศัยเกาะราวบันไดเอาเพื่อพยุงตัวไม่ให้สะดุดขาหรือลื่นล้มลงไปได้ เพราะตอนนี้รู้สึกหัวหมุนโคตรๆ   

     ไอ้ฉิบหาย! นี่ต้องเจออะไรอีกไหมเนี่ย!

     อุ้บบบบ!

     นั่นไงมันมาแล้ว มันออกมาแล้ว มันมาจ่ออยู่ที่คอหอยแล้วครับหัวหน้า!


     พลั่ก!

     
     ไม่รอช้าที่จะผลักประตูห้องน้ำออกด้วยความว่องไว จะไม่ไวได้ไงก็ข้าศึกบุกจนถึงคอหอยแล้ว สรุปไม่ต้องเลือกแล้วครับว่าจะฉี่ก่อนหรือจะอ้วกก่อน  เพราะว่าไอ้ช้อยส์สุดท้ายมันดันด่วนอยากออกมาก่อนใครเขาก็เลยต้องจัดการมันก่อน 


     อ้วกกก!


     เข้ามาถึงห้องน้ำยังไม่เสี้ยววินาทีผมนี่แทบโก่งคออ้วกขย้อนของเก่าที่อยู่ในท้องลงไปในโถส้วมแทบไม่ทัน   


     อ้วกกก!


     แล้วก็กอดมันไว้ประหนึ่งว่าเป็นคู่ชีวิต เปล่าครับที่จริงมันหมดแรงแม้แต่จะนั่งยังไม่มีเลยไม่สามารถทรงตัวได้


     อ้วกกก!


     โว้ยยยย ทำไมมันทรมานอย่างนี้ครับหัวหน้า!  ฮืออ ไม่เอาแล้วไม่เอาแล้ว ช่วยด้วย… ต่อไปนี้จะไม่แตะแอลกอฮอล์เลย ไม่สิ แตะอยู่แต่จะแตะให้น้อยลงกว่าเดิม
นี่ก็จำได้แค่ว่าคลานกลับเข้ามานอนก่อนคนแรกเลย แล้วตอนนี้มันกี่โมงกี่ยามแล้ววะเนี่ย ไม่รู้เป็นบ้าอะไรถึงได้จังไรลุกขึ้นมาอ้วกแบบนี้

อ้อที่จริงปวดฉี่ก่อน หลังจากนั้นก็อยากอ้วก


     อ้วกกกก!

     ก๊อกสุดท้ายหมดไปพร้อมกับเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ฮือออ ค่อยโล่งหน่อย

     ผมนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นประมาณสองนาทีได้ จากนั้นก็จัดการกดชักโครกและคลานไปเกาะขอบอ่างล้างหน้าเพื่อที่จะได้บ้วนปากแปรงฟังล้างกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ให้ออกไป  พร้อมกับล้างหน้าล้างตาเผื่อจะได้สดชื่นขึ้นมาหน่อยเพราะที่จริงรู้สึกว่ายังไม่ได้สร่างเมาสักเท่าไร ยังคงมึนๆหัวอยู่ จริงๆอย่าเรียกว่ามึนๆ ให้พูดและลากเสียงยาวๆว่ามึนนนนนนนนนนน

แต่ไม่ถึงขั้นไม่มีสตินะรับรู้ทุกอย่างได้ แต่อาจจะควบคุมไม่ได้ ฮือออ เพราะตอนนี้โลกมันยังหมุนอยู่เลย  นี่ก็คิดว่ายืนอยู่บนม้าหมุนซะอีก 

พอเอาของเก่าออกไปหมดแล้วก็ถึงในส่วนของการปลดทุกข์สักทีทุกข์เบานะไม่ใช่ทุกข์หนัก เพราะถ้าช้ากว่านี้มีรายการคนฉี่แตกแน่ๆ

     เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นสมองมันก็สั่งการมาว่าให้ไปหาของเย็นๆดื่มแก้โลกหมุนซะหน่อย ว่าแล้วก็จัดการหอบสังขารตัวเองมาหยุดอยู่ตรงตู้เย็นตรงส่วนข้างในครัว คลำหาสวิตช์เปิดไฟเพื่อเปิด จากนั้นพื้นที่ตรงนี้ก็ไม่มืดอีกต่อไป  แล้วห้องครัวบ้านมันเนี่ยไม่รู้จะทำประตูปิดทำไม จริงๆเป็นคนไม่ชอบอยู่ที่แบบนี้คนเดียวผมเลยเปิดประตูค้างไว้อย่างนั้น

ถึงบ้านนี้จะไม่ค่อยมีคนมาพักแต่ก็มีคนคอยดูแลนะ เป็นพ่อบ้านที่ป๊าไอ้เจมส์เขาจ้างมาดูแล ซึ่งก็เป็นคนรู้จักแถวๆนี้แหละ บ้านเลยไม่ร้างเท่าไร ยังพอมีของที่สามารถใช้ได้อยู่บ้าง

     ผมเปิดตู้เย็นออกมายืนนึกคิดพิจารณาอยู่นานสองนาน ว่าจะเอาอะไร… เอ้ออ นี่ผมจะเอาอะไรวะ?


     อ๋อออ หาอะไรดื่ม นี่ก็ยืนนึกตั้งนานว่าจะเอาอะไร บ้าจริง!

     หลงลืมไปชั่วขณะว่าจะมาเอาอะไร พอนึกได้ก็เลยคว้าโค้กกระป๋องหนึ่งในตู้เย็นติดมือมา ป๊อก!  จัดการเปิดกระป๋องโค้กและยกขึ้นดื่มด้วยความรวดเร็ว


     อ่าซ์…

     ซ่าดีจริงๆ

     แต่…


     “ปิง”

     ขุ่นพระ!!

     อื้อหือ โค้กในปากนี่แทบพุ่ง ก็จะอะไรซะอีกล่ะ พี่เพลงไงครับ! แหมมไอ้เราก็คิดว่าผีที่ไหน  มาเงียบๆเชียว ตกอกตกใจหมดเลย ว่าแต่มาตั้งแต่ตอนไหนวะเนี่ย ทำไมไม่ได้ยินเสียงเลย   พี่เพลงลุกขึ้นมาทำอะไรตอนนี้วะจำได้ว่าดื่มเข้าไปเยอะเหมือนกันนี่หว่า


     “โห…ตกใจหมดเลย”  ผมพูดเมื่อสมองอันน้อยนิดประมวลผลสำเร็จแล้ว แต่เธอไม่ตอบกลับยืนจ้องผมอยู่อย่างนั้นไม่วางตา

     “…”
      หืม…อะไรเนี่ย?  หรือพี่เพลงจะละเมอเดินลงมา

     “พี่เพลงมีอะไรเหรอ?”  ถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าพี่เพลงยังคงเงียบและค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ผมช้าๆ   จนตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนกำลังจนมุมเข้าทุกที

     กูว่าไม่ละเมอละ

     “พี่เมาหรือเปล่า ไปนอนไหม?” ครั้งนี้พี่เพลงเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นกว่าเดิมจนแผ่นหลังมันแนบสนิทเข้ากับตู้เย็นและร่างกายส่วนด้านหน้าของเราสัมผัสกันมากขึ้น ชนิดที่ว่าแทบไม่พื้นที่ให้อากาศผ่านไปได้เลย

     “ปิง”  เสียงคนตรงหน้าแหบพร่าและเบาหวิวเมื่อเรียกชื่อผม แบบว่าถ้าไม่ได้ใกล้กันระดับนี้จะไม่ได้ยิน 

     “พี่…”  ครั้งนี้ไม่พูดเปล่า พี่เพลงเอื้อมแขนทั้งสองข้างมาคล้องคอผมไว้ ไม่ได้แน่นมากเท่าไร แต่ก็ทำให้ร่างกายของเราชิดกันมากกว่าเดิม

     “พี่เพลง ป เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” 

     “ไม่ ไม่เลย…” เธอตอบอ้อมแอ้มท่าทางยังคงดูมึนเมาเหมือนเดิม “แค่อยากกอดปิงก็เท่านั้นเอง”  และซุกใบหน้าลงตรงอกผม จากนั้นผมก็รับรู้ได้ถึงความเปียกชื้นที่กำลังไหลซึมผ่านเสื้อตัวบางมาถึงผิวเนื้อตรงช่วงอกของตัวเอง ซึ่งผมไม่ได้กอดตอบแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธทำได้เพียงแค่คลำๆหาพื้นที่ข้างหลังเพื่อที่จะได้เอากระป๋องโค้กวางไว้

     “พี่ร้องไห้ทำไมครับ” 

     “ไม่ได้ร้องสักหน่อย”  เธอตอบเสียงอู้อี้ทั้งที่ใบหน้ายังคงซุกอกผมอยู่อย่างนั้น

     “…”  ผมเงียบ เพราะไม่รู้จะพูโอะไรต่อไปดี ถ้าเธอตอบมาว่าไม่ร้องนั่นแสดงว่าอาจจะเป็นน้ำลาย


     อะล้อเล่น…

     “ปิงยังรู้สึกกับพี่เหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า?”  หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็ถามขึ้น และมันเป็นคำถามที่ผมไม่รู้จะตอบยังไงดี

     “อะ เอ่อ…” 

     “พี่ขอโทษนะ”  ยังไม่ทันที่จะตอบคำถามด้วยซ้ำพี่เพลงก็พูดแทรกขึ้นมาดื้อๆ

     “…”

     “พี่ไม่รู้จริงๆว่าเปอร์มันทำแบบนั้นกับปิง”

     “ไม่เป็นไรครับ เรื่องมันนานมาแล้วช่างมันเถอะ”  แม้ช่วงแรกจะเจ็บเหมือนตายผมยังจำได้ไม่เคยลืม แต่น่าแปลกที่พอมาวันนี้ผมกลับรู้สึกเฉยๆและไม่ได้อะไรแล้ว

     “แล้วเรื่องที่เคยรู้สึกกับพี่ล่ะ ปิงจะปล่อยมันไปอย่างนี้เหรอ?”   
 
     หืม…ที่ถามแบบนี้นี่คือยังไงวะ พี่ต้องการคำตอบแบบไหนกัน?  แต่ผมให้ไม่ได้หรอกนะขนาดตัวเองยังตอบไม่ได้เลย

     “ผม…”

     “ไม่ได้รู้สึกแล้วใช่ไหม?”    อีกครั้งที่พี่เพลงพูดแทรกขึ้นมาและรอบนี้เธอเลิกเอาหน้าซุกที่อกผมพร้อมกับช้อนตาขึ้นมองราวกับว่ากำลังคาดหวังในคำตอบนี้มาก

     “ผม…”  รอบนี้ไม่มีการพูดแทรกอะไรทั้งนั้น แต่มันติดอยู่ที่ผมเอง ที่ไม่รู้จะตอบยังไงเพราะคำตอบนั้นไม่ได้มีตั้งแต่แรก
 
     “ผม…” 

     “…”

     “มะ  ไม่รู้สิ”   

     ใช่…ตอนนี้ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น รู้แค่ว่าความรู้สึกมันได้เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนพอสมควร ยังรักไหม?ผมไม่รู้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังรู้สึกดีด้วย  ทำไมดูเป็นคนย้อนแย้งแบบนี้วะ 

     “ผม…” 


     อื้ออ

     ว่าจะต่อประโยคให้จบแต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรออกไปพี่เพลงก็เขย่งปลายเท้าให้ความสูงเราอยู่ในระดับเดียวกันก่อนจะประกบริมฝีปากลงมาเอาซะผมตั้งตัวแทบไม่ทัน

การโดนกอดและโดนจูบจากพี่เพลงผมก็ยังคงปฏิบัติเช่นเดิม นั่นคือการไม่ตอบสนองแต่ก็ไม่ได้ผลักใส ผมไม่เคยจูบใคร…ไม่สิอาจจะเคย แต่ตอนนั้นไม่ได้สติ พอโดนอย่างนี้เลยรู้สึกเหมือนเก้ๆกังๆทำอะไรไม่ถูก   

พี่เพลงยังคงจูบผมอย่างไม่ยอมลดละ เธอไม่ได้รุกล้ำหรืออะไรแค่บดคลึงเบาบ้างหนักบ้าง ความรู้สึกตอนนี้เหมือนเจ้าตัวพยายามถ่ายทอดความรู้สึกบางอย่างให้ได้รับรู้และแน่นอนว่าเธอเองก็ต้องการคำตอบอะไรสักอย่างจากผม ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยมั่นใจนักว่าการจูบมันทำให้เรารู้อะไรมากขนาดนี้เลยเหรอ
ผมไม่ใช่คนลึกซึ้ง แถมยังเป็นคนเข้าใจอะไรยากเพราะฉะนั้นเรื่องแบบนี้มันเลยทำให้ผมยากที่จะเข้าใจพอสมควร 


     “ปิงรู้สึกอะไรบ้างไหม?”   เธอเอ่ยถาม หลังจากที่ถอนริมฝีปากออกมา
     ที่จริงผมก็ยังไม่รู้นะ ว่ามันต้องรู้สึกยังไง  รู้สึกกับไม่รู้สึกมันต้องสื่อสารกันจากการสนทนาสิถึงจะรู้ มาจูบแบบนี้แล้วผมจะรู้เหรอ

     “ผม…”

     “ผมไม่ได้รู้สึกใช่ไหม?”  พี่เพลงว่า

     “เปล่า… ผมแค่ไม่รู้”

     “แต่พี่รู้…” 

     “หะ?” 

     “ปิงไม่ได้รู้สึกแล้วใช่ไหม?” 

     “…”

     “พี่รู้…แค่เมื่อครู่พี่ก็รู้แล้ว”   

     “…”  แค่จูบก็สามารถรู้ได้เลยเหรอวะ ว่าใครรู้สึกอะไรกับเรา?

     “จริงๆพี่ไม่น่าถามเลยเนอะ” 

     “พะ พี่เพลง” 

     “พี่ไปนอนก่อนนะ มึนหัวมาก”  ผมทำได้แค่เพียงเท่านี้  แม้ปากจะเรียกชื่อแต่มือกลับไม่คว้าตัวเธอไว้ ท้ายที่สุดพี่เพลงก็เดินออกไป 


     หรือผมจะไม่รู้สึกแล้วจริงๆ…

    ส่วนตัวผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม เพราะกำลังรู้สึกสับสนกับความคิดและความรู้สึกตัวเอง ไม่แน่ใจมากนักว่ายังรู้สึกกับพี่เพลงหรือเปล่าใจหนึ่งก็บอกว่าใช่ แต่อีกใจหนึ่งกลับบอกว่าไม่ แล้วผมกำลังรู้สึกกับใครอยู่กันแน่ เพราะตอนนี้ผมรู้ว่ามันไม่ได้ปกติอย่างที่เคยเป็น

ส่วนสมองมันก็คิดไปหลายๆอย่าง อย่างเช่นเรื่องแรกก็คือเรื่องที่พี่เพลงทำแบบนี้ คือยากรู้ว่าพี่ทำเพื่ออะไร แน่นอนว่าความคิดกับความรู้สึกมันสัมพันธ์กันพอคิดแล้วก็ต้องรู้สึกตอนนี้เลยเหมือนทุกอย่างกำลังผสมปนเปตีกันไปหมด เหมือนคนที่กำลังกินแอลกอฮอล์เข้าไปหลายขนานจนมันทำให้หัวหมุนจนแทบเวียนหัว

ผมว่าผมอาจจะยังมึนๆอยู่เลยไม่สามารถจัดความคิดของตัวเองและไตร่ตรองมันไม่ได้ เพราะงั้นเลยเลือกที่จะขึ้นไปนอนพักสักหน่อยไว้พรุ่งนี้เช้าแล้วค่อยว่ากัน



(บันทึกของเพลง)
 

     ฉันอาจจะเป็นผู้หญิงที่แย่มากคนหนึ่งในสายตาของปิง ฉันรับรู้มาโดยตลอดว่าน้องชอบฉัน และชอบมาตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนมัธยมโรงเรียนเดียวกัน และยังมีโอกาสได้มาเรียนมหาลัยเดียวกัน ครั้งแรกที่เจอฉันเองก็ตกใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้อะไรมากนัก
จนมาเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ ที่…

ที่ฉันได้ทำร้ายความรู้สึกของน้องไปอย่างไม่ใยดี  ตอนนั้นจะเรียกได้ว่าฉันหลงเปอร์แบบหัวปักหัวปำ ขาดเขาไม่ได้จนใช้น้องเป็นเครื่องมือเพื่อประชดแฟนเก่า

ฉันมันเลวฉันรู้ดี และตอนนี้ผู้หญิงเลวๆแบบฉันก็ไม่เหลือใครแล้ว  หลังจากที่กลับไปคบกับเปอร์เขาก็ยังคงไม่เลิกนิสัยแบบเดิม นั่นคือการไม่รู้จักพอและบวกเพิ่มมาด้วยการที่ชอบทำร้ายร่างกาย เขาทำร้ายฉันในเวลาที่เราทะเลาะกันแทบจะทุกครั้งเลยก็ว่าได้
จนตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ได้จบลงในที่สุด น่าแปลกที่ฉันกลับนึกถึงปิงขึ้นมาเป็นคนแรก ทั้งที่ในชีวิตฉันมีผู้คนมากหน้าหลายตาผ่านเข้ามา มีทั้งเพื่อนสนิทและไม่สนิทคนที่พร้อมจะดูแลฉันก็มีมากมายแต่ไม่รู้ทำไมหัวใจเจ้ากรรมมันดันมานึกถึงน้องซะได้ นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ฉันอยากกลับมา แต่ฉันคิดว่ามันสายไป..น้องคงไม่ได้มีฉันอยู่ในหัวใจอีกแล้วล่ะ

ถึงก่อนหน้านี้ฉันจะไม่ได้จูบกับปิงเพื่อพิสูจน์ความในใจหรือพิสูจน์เรื่องของความรู้สึกบ้าบออะไรนั่น ฉันก็พอที่จะมองออกได้ว่าในใจของปิงตอนนี้กำลีงมีใครอยู่และใครคนนั้นฉันเองก็พอจะรู้


     เขาคือ…


     พี่เสือ


     ฉันเเค่คิดว่าน่ะนะ สองคนนี้อาจจะมีความรู้สึกดีๆให้กัน แน่นอนว่ามันต้องมากกว่าที่รุ่นพี่รุ่นน้องจะมีให้กันได้ ตอนแรกฉันก็ไม่ได้สงสัยอะไรแต่พอมาวันนี้ฉันแน่ใจมากว่าต้องใช่ ฉันไม่ได้รังเกียจหรอกนะว่าน้องจะชอบผู้ชายหรือผู้หญิง และรสนิยมจะเป็นยังไง
แต่ฉันก็ตกใจเล็กน้อยตอนที่ตัวเองคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ ฉันก็แค่คิดไม่ถึงน่ะ  เพราะปิงดูไม่มีแนวโน้มแต่ก็นั่นแหละสุดท้ายแล้วเขาจะชอบใครมันก็เป็นสิทธิ์ของเขานี่นะ ส่วนฉันนะมันเป็นแค่คนที่น้องเคยชอบก็เท่านั้น 

แต่ก็คิดไว้แล้ว ถ้าน้องชอบพี่เสือจริงๆ ฉันก็คงจะช่วยให้ทั่งคู่ได้คบกันจริงๆ ถึงแม้ว่าในใจมันจะค้านมากก็ตามเพราะที่จริงฉันอยากแย่งน้องมาเป็นของฉันไม่อยากให้เขาไปเป็นของใคร แต่ก็นะฉันเคยทำไม่ดีกับน้องไว้พอสมควรความคิดชั่วร้ายทั้งหมดที่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหนเลยหยุดลง

เมื่อครู่นี้ ตอนที่ฉันจูบกับปิงฉันแอบเห็นพี่เสือด้วยล่ะ   จริงๆมันก็เป็นแผนของฉันด้วยเหมือนกัน ก็กะจะยิงปืนนัดเดียวให้ได้นกสองตัว

คือหนึ่งถ้าปิงไม่ได้ชอบฉันแล้วก็ถือว่าแค่พิสูจน์ถ้ายังชอบอยู่ก็อาจจะได้สานต่อแต่ถ้าไม่… พี่เสือที่แอบดูอยู่ตรงบานประตูนั้นจะได้ชัดเจนกับความรู้สึกตัวเองและน้องมันสักที เพราะฉันคิดว่าสองคนนี้ต้องรู้สึกดีๆให้กันแต่อาจจะไม่กล้าพูดมันออกมา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ฉันก็อยากช่วยให้น้องสมหวังนะ

ถือว่าเป็นการไถ่โทษก็แล้วกัน แม้ใจฉันจะคัดค้านมากขนาดไหน 

(จบบันทึกของเพลง)



     ฮืออออ 

     ช่วยด้วย ช่วยผมด้วยครับหัวหน้า…

     พลิกซ้ายก็แล้ว พลิกขวาก็แล้วก็ยังนอนไม่หลับจนตอนนี้มันเริ่มจะสร่างเมาแล้วเนี่ย 

     เฮ้อออ… เพราะหลายๆเรื่องกำลังตีกันในสมองให้ว้าวุ่นรบกวนจิตใจผมฉิบหายมันเลยเกิดอาการอย่างที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ 
โว้ยยยย!!

     เออ! ไม่อยากนอนนักใช่ไหม! ได้กูลุกก็ได้!


     ในเมื่อไอ้ร่างกายไม่รักดีมันไม่อยากพักผ่อน สุดท้ายก็เลยต้องหอบสารร่างตัวเองให้ลุกขึ้นมาจากที่นอน จากนั้นก็เปิดเครื่องวาร์ปให้ลงมาอยู่ที่หน้าชายหาดหน้าบ้านสักหน่อย  มารับบรรยากาศอื่นๆบ้างเผื่อสมองจะโล่ง เผื่อเลิกคิดเรื่องอะไรต่อมิอะไรได้ จากนั้นจะได้ขึ้นไปนอน


เรื่องที่คิดก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็เรื่องของพี่เพลงนั่นแหละ แถมยังเรื่องความรู้สึกผมในตอนนี้ที่มันค่อนข้างไม่ชัดเจน ไม่รู้สิ…จะว่าผมไม่รู้ใจตัวเองก็ได้นะ แต่ทำไงได้ ก็มันสับสนจริงๆ สับสนแบบสาเหตุไม่แน่ชัดด้วย ตอนนี้รอบตัวเหมือนอะไรต่างก็มืดๆมัวๆเหมือนมีหมอกบังอยู่ เออเอารอบตัวตอนนี้ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ต่างสับสน ไอ้ฉิบหาย!


     หืมมม…ละนั่นใครวะน่ะ? เห็นแล้วก็รู้สึกคุ้นๆ

     ผมเห็นใครบางคนนั่งทำอะไรไม่รู้อยู่ใกล้ๆกับทะเล ซึ่งเกือบโดนน้ำทะเลที่กำลังสาดซัดเข้ามาเป็นระรอกๆแต่ก็ไม่โดน

     ท่าทางคุ้นๆ
     เสื้อผ้าก็คุ้นๆ

     ไม่รอช้าที่คนอยากรู้อยากเห็นอย่างผมจะเดินเข้าไปใกล้ๆ

     และแล้ว…


     อ่านต่อข้างล่างนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2017 16:56:40 โดย กิงก่องโก๊ะ »

ออฟไลน์ กิงก่องโก๊ะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
    • เข้ามาฝอยกันได้นาจาาาาา
อ่อ ไอ้เสือเองครับหัวหน้า คิดว่าแต่ใครที่ไหน ก็ว่าอยู่ทำไมท่าทางคุ้นๆ แหนะ! มันไม่ได้นั่งเฉยนะ ยังพ่วงด้วยการเล่นกีตาร์คลอกับบรรยากาศตอนนี้อีก แหมมมมม เพิ่งรู้เลยนะครับว่ามันก็เล่นกีตาร์กับเขาก็เป็นด้วย แอบเห็นขวดเบียร์วางไว้ข้างกายอีกต่างหาก  นี่เอ็งติสท์แตกเหรอวะหรือยังไง

ผมค่อยๆเดินเข้าไปใกล้คนตัวสูงที่กำลังนั่งเล่นกีตาร์อย่างไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง และผมใกล้มันมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆจนได้ยินเสียงทุ้มนั้นร้องเพลงคลอกับเสียงกีตาร์ที่เจ้าตัวกำลังเล่น สงสัยว่ายังคงไม่รู้ตัว เพราะผมเองก็ตั้งใจจะมาแบบไม่ให้มันรู้ตัว 

อืม…เพลงอะไรวะ ทำไมฟังแล้วเหงาแบบนี้  ผมก็ไม่แน่ใจน่ะนะ ว่านี่เพลงอะไรรู้แค่ว่ามันคือเพลงสากล ปกติจะไม่ค่อยฟังเพลงแบบนี้เท่าไร เพราะไม่ใช่แนว แต่…ผมกลับรู้สึกว่าเพลงที่มันกำลังร้องอยู่เพราะจนอยากไปหาต้นฉบับฟังเลย


     “มานั่งทำอะไรคนเดียวตรงนี้วะ?”   เมื่อได้ฟังมันร้องได้สักพักผมก็เอ่ยถามพร้อมกับนั่งลงข้างๆ ไม่ได้ห่างกันมากแต่ก็ไม่ได้ชิดกันเกินไป

     “นอนไม่หลับ”  เจ้าตัวตอบ และทำท่าทีจับคอร์ดกีตาร์ สนใจแต่กีตาร์ไม่หันมามองผมบ้างเลย 

     “นี่มึงเล่นกีตาร์เป็นด้วยเหรอ?”  เพราะมันไม่ยอมหันมาสนใจ ผมก็เลยทำเนียนเอามือไปวางไว้ที่ไหล่มันซะเลย พร้อมกับทำหน้าตาเหมือนคนยากรู้อยากเห็น  เออเอาไหนๆก็ไหนๆละแกล้งเมามันซะเลยจะได้ไม่ถือสาถ้าผมเผลอทำหรือพูดอะไรที่บ้าๆออกไป

     “พอได้”  แต่เจ้าตัวกลับตอบเสียงเรียบ
     เฮ้! นี่หันมาสนใจกูบ้างดิวะ มานั่งด้วยทั้งทีนะเว้ย!

     เดี๋ยวนะ? แล้วทำไมผมถึงต้องอยากให้มันมาสนใจอะไรขนาดนี้ด้วย

     “อ่อ”  ด้วยความที่กำลังเกิดความเบลอชั่วขณะ เลยตอบมันไปแค่เท่านั้น มือข้างที่จับไหล่มันอยู่ตกลงมาที่เดิมซึ่งคือข้างกายของผม เป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย มันจะสนใจหรือไม่สนใจทำไมผมต้องเป็นเดือดเป็นร้อนด้วย?

     เฮ้! ไม่เอาน่าจะคิดอะไรนักหนายังมีเรื่องให้สับสนไม่พออีกหรือไง!

     ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ความเงียบกำลังกลืนกินบรรยากาศรอบตัวของเราสองคนไป เพราะต่างคนต่างก็ตกอยู่ในห้วงความคิดที่เตลิดไปไกล เสียงคลื่น เสียงลม เสียงกีตาร์ที่ดังคลอคอยกล่อมให้บรรยากาศตอนนี้ดีมากขึ้นกว่าเดิม   

ทำไมผมกำลังรู้สึกมีความสุขมากขนาดนี้ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เรื่องพี่เพลงก่อนหน้านี้ก็ถูกปัดเป่าออกไปเพราะคนข้างๆ น่าแปลกที่เวลาผมกำลังว้าวุ่นแต่พอได้อยู่ใกล้มันกลับรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจจนน่าประหลาด เพราะอะไรกันวะ?


เสียงกีตาร์หยุดลงพร้อมกับความคิดของผมที่กำลังเตลิดไปไกล แอบเห็นการเคลื่อนไหวของคนข้างกาย ซึ่งเจ้าตัวกำลังยกเบียร์ขึ้นมาดื่มและยังไม่ทันวางลงด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าด้วยความมือไวหรือเพราะอะไรผมถึงได้แย่งขวดเบียร์ในมือไอ้เสือมาดื่มทั้งที่ไม่ได้
อยากดื่ม “กูแดกด้วยนะ” 

     ไม่รู้สิ รู้แค่ว่าอะไรที่เป็นมันหรือเกี่ยวกับมันผมอยากเข้าใกล้อยากสัมผัสอยากมีส่วนร่วม ไม่เว้นแม้แต่การดื่มเบียร์ขวดเดียวกัน   
     ตลกว่ะ! นี่ผมเป็นบ้าอะไรวะ ทำไมคิดอะไรไม่เข้าท่าแบบนี้ได้

ทันทีที่ปากขวดสัมผัสกับริมฝีปาก ผมกลับรู้สึกร้อนขึ้นมาอย่างน่าประหลาดเพราะเมื่อครู่ไอ้เสือเองก็ดื่มเบียร์ขวดนี้ แน่นอนว่าปากมันก็ต้องโดนกับปากขวด ทั้งที่มันควรจะรู้สึกเย็นสิ แต่ทำไม… ผมกลับรู้สึกร้อนแปลกๆ 

หรือว่าแอลกอฮอล์ในร่างกายผมมันยังไม่หายไปนะ ดูดิรู้สึกเหมือนความร้อนกำลังรามมากองรวมอยู่ที่หน้ายังไงอย่างนั้น   
ผมทอดสายตามองออกไปข้างหน้ายังผืนทะเลที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด มันมืดสนิทและไกลสุดลูกหูลูกตาจนให้ความรู้สึกโหวงเหวงในช่องท้องแปลกๆ เห้ออ…ไม่รู้ว่าทะเลกับอนาคตผมอันไหนมันจะยาวกว่ากัน คิดแล้วก็ขำ วันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงต่อไปนะ ผมจะยังรู้สึกมีความสุขเหมือนอย่างกับตอนนี้อยู่หรือเปล่า…
แต่ผมว่าคงจะมีความสุขแหละ ถ้าข้างๆผมยังมีคนที่ชื่อเสืออยู่ด้วยกัน


เอ…จำได้ว่าก่อนหน้านี้ยังคิดเรื่องพี่เพลงนี่หว่า แล้วทำไมตอนนี้มาคิดเรื่องไอ้เสือซะได้ รู้ตัวอีกทีก็มีแต่มัน มัน และมัน อยู่ในหัวผมแล้วเนี่ย


     “มองไร?”  ผมตั้งคำถามทันทีที่หันไปแล้วพบว่าคนที่ลอยวนอยู่ในความคิดกำลังมองหน้าผมอยู่
จะบอกว่ารู้สึกแปลกๆกับสายตามันยังไงก็ไม่รู้ครับกับสายตาที่มันมองผมอยู่ตอนนี้

     “เปล่า”  มันตอบและหันหน้าไปยังทิศทางเดิม พร้อมกับวางกีตาร์ไว้ข้างกาย 

     “เล่นต่อดิ กำลังได้บรรยากาศเลย” 

     “บรรยากาศไร?”

     “เอ้า! ก็ฟ้าสวย เพลงเพราะ เบียร์อร่อย”   …แล้วก็มึง
     ไอ้อย่างสุดท้ายผมไม่ได้พูดออกไป เพียงแค่เป็นสิ่งที่คิดได้อยู่ในใจเท่านั้น ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงคิดได้

     “เหรอ” 

     “เออสิวะ!” ผมตอบ พลางสะบัดศีรษะน้อยๆเพื่อไล่ความคิดบ้าบอที่กำลังอยู่ในหัวให้หายไปสักที

     “อยากฟังเพลงอะไรล่ะ?”    คนข้างๆถามพร้อมกับนำกีตาร์ที่วางไว้เมื่อครู่กับมาอยู่ในมือและจับคอร์ดไปเรื่อยๆเตรียมพร้อมเพื่อเล่นเพลง

     “อะไรก็ได้ เล่นมาเถอะ”   ตอนนี้อะไรก็ได้ เพลงที่แม่งจะมากลบเสียงความคิดของกูไปเนี่ย
เจ้าตัวนั่งนิ่งไปพักหนึ่ง “ไม่รู้ คิดไม่ออก”  และพูดออกมาว่าคิดไม่ออก


     เออครับ… กูก็คิดไม่ออก

     “อืม…งั้นลองเอาเพลงตามความรู้สึกตามอารมณ์มึงตอนนี้ดิวะ” ก็เลยตอบไปแบบนี้ แทนที่จะเป็นชื่อเพลง
ก็คิดไม่ออกเหมือนกันนี่หว่า… หวังว่ามึงจะไม่นึกคึกลุกขึ้นมาร้องบัวลอยหรอกนะ

ก็ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ถึงไม่ลืมเธอ
มีเธอในใจฉันเสมอ… ไม่เข้าใจ
อยากกอดเธอเอาไว้ สักเท่าไร
แต่หัวใจ ฉันก็รู้ดี จูบเธอได้ในฝัน
เท่านี้…แค่นี้…เพียงข้างในใจ



     เพลงรักไม่ได้ ของGroove rider  นี่มันกำลังรู้สึกและอยู่ในอารมณ์แบบนี้เหรอ?  เพิ่งรู้นะว่าไอ้เสือมีคนในใจแล้ว ใครกันวะที่มันรักไม่ได้ น่าสงสารนะ แต่ก็น่าอิจฉาใครคนนั้นมากกว่า

     อิจฉาที่ได้มาอยู่ในใจคนดีๆแบบมึงไง

     มันไม่ได้ร้องเพลงเพราะอะไรมากหรอก แต่เสียงทุ้มๆบวกกับเสียงกีตาร์ที่ดังคลอช่างเข้ากันดีและน่าฟังจนอยากให้มันร้องแบบไม่ต้องหยุด 


รักไม่ได้บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง ต้องห้ามตัวเอง บอกอมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง
ชอบเขาเท่าไรก็ต้องหยุดไว้เอง

เป็นบททดสอบของเบื้องบน ให้ค้นหาหัวใจ
ส่งมาให้ตัวฉันข้ามไป
อยากจะลองใจฉันหรือเปล่า
จะได้รู้ว่ารัก ลึกแค่ไหน
ให้เห็นเงา สะท้อนหัวใจ
เก็บเธอไว้แค่ฝัน ได้ไหม
เพราะหัวใจฉันก็เสียดาย

รักไม่ได้บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง ต้องห้ามตัวเองบอกมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง
ชอบเขาเท่าไรก็ต้องหยุดไว้เอง

รักไม่ได้บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง ต้องห้ามตัวเองบอกมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง
ชอบเขาเท่าไรก็ต้องหยุดไว้เอง

รักไม่ได้บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง ต้องห้ามตัวเองบอกมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง
ชอบเขาเท่าไรก็ต้องหยุดไว้เอง



     เสียงร้องและดนตรีหยุดลง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่หยุดคือความคิดความสงสัยของผม   มันอยากจะรู้แบบใจจะขาดว่าคนคนนั้นที่แม่งทำให้มันต้องร้องเพลงรักไม่ได้นี้เป็นใคร “นี่มึงกำลังอยู่ในอารมณ์นี้เหรอเนี่ย! ว่าแต่ใครคือคนนั้นของมึงวะที่รักไม่ได้น่ะ?”

ผมพูดติดตลก พร้อมกับหันหน้าไปมองคนข้างๆที่ตอนนี้มันได้มองผมอยู่ก่อนแล้ว  เมื่อเห็นว่ามันยังไม่มีท่าทีที่จะตอบก็เลยพูดขึ้นว่า “แม่งเจ๋งสาดดด คราวหลังสอนกูเล่นบ้างด…”


     หมับ!

     อื้อ…

     แต่แล้วผมกลับถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว

     เหมือนกับโลกของผมกำลังหยุดนิ่ง รอบตัวไม่มีอะไรที่กำลังเคลื่อนไหว เมื่อการกระทำของคนข้างๆเล่นทำซะผมแทบหยุดหายใจ และตั้งสติไม่อยู่  เพราะอยู่ๆขณะที่ผมกำลังเอ่ยปากถามและยังไม่ทันได้จบประโยคดีด้วยซ้ำ ไอ้เสือมันก็รั้งต้นคอผมเข้าใกล้จากนั้นก็ทาบทับริมฝีปากลงมาด้วยความรวดเร็ว 


     มะ มัน จะ จูบผมทำไมวะ…

     ความสงสัยและคำถามตั่งต่างมากมายเกิดขึ้นจนนับไม่ถ้วน แต่กลับพูดอะไรได้ไม่มากนอกจากคำว่า ช็อค ช็อค และช็อค
ผมไม่ได้รังเกียจ แต่ในทางกลับกันมันเกิดความรู้สึกดีขึ้นมาอย่างน่าประหลาด  บรรยายไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกยังไงกับริมฝีปากที่
คลอเคลียและขบเม้มจนทำให้ผมรู้สึกโหวงเหวงที่ช่องท้องเหมือนกับมีผีเสื้อนับล้านที่กำลังบินว่อน

ไอ้เสือไม่ได้พันธนาการผมไว้แน่นหนาอะไรขนาดนั้น ซึ่งผมสามารถขยับตัวหนีได้ แต่ผมเลือกที่จะไม่ทำ เพราะผมเหมือนกำลังรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง  บางอย่างที่กำลังสื่อสารมาถึงผม... เเต่เเค่ไม่เเน่ใจ 


     อื้อ…

     แต่สุดท้ายก็เป็นผมที่ดันหน้าของอีกคนให้ออกห่าง เป็นผมที่เป็นฝ่ายผละออกมา ไม่ใช่ผมไม่รู้สึกดี แน่นอนว่ามันดี ดีกว่าตอนที่พี่เพลงทำแบบนี้กับผมซะอีก แต่ผมก็ยังเป็นผม ผมมันคนเข้าใจอะไรยากผมไม่รู้หรอกว่ามันหมายความว่าอะไร ยังไงซะ
การสื่อสารที่ดีที่สุดสำหรับผมคือการสนทนา ไม่ใช่การที่จะมาจูบกันแบบนี้

เราต่างก็เงียบไปพักหนึ่ง หอบหายใจกันเป็นว่าเล่น ก็จูบเมื่อครู่นี้เล่นเอาผมแทบหายใจหายคอไม่ทันจนไม่รู้ว่าตอนนี้ระหว่างเสียงลมกับเสียงลมหายใจของผมกับมันอันไหนดังกว่ากัน

ฝ่ามือที่จับต้นคอผมไว้ในครั้งแรกยังไม่ได้ละออกไป จนตอนนี้ไอ้เสือมันออกแรงมากขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยจากนั้นก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมอีกครั้งจนต้องหลับตาปี๋คิดว่ามันจะทำแบบเดิม แต่ที่ไหนได้เจ้าตัวกลับแนบหน้าผากตัวเองลงมาให้ชิดกับหน้าผากผม ใกล้กันมากจนลมหายใจนั้นรินรดใบหน้า

ผมเงียบไปเพราะยังหาเสียงและคำพูดของตัวเองไม่เจอ หัวใจผมเต้นแรง สติที่เคยมีมันวิ่งหนีหายไปไหนไม่รู้จนตอนนี้ก็หาไม่เจอ ผมทั้งตกใจและตื่นเต้นไปพร้อมๆกัน ถ้าให้พูดตอนนี้ปากและเสียงมันคงสั่นจนน่าอาย


     “มะ มึง ชะ ชอบกูเหรอวะ?”  ห้านาทีผ่านไปจนผมรวบรวมสติที่หายไปให้กลับมา  นี่ขนาดว่ามีสติขึ้นมาหน่อยแล้วนะ ขณะที่พูดไปเสียงมันยังสั่นๆอยู่เลย

     สั่นพอๆกับหัวใจที่เต้นแรงมากจนแทบจะทะลุออกมาจากอก

     ไอ้เสือผละหน้าผากที่กำลังแนบชิดกับหน้าผากผมให้ออกห่างพอประมาณ   มันจ้องเข้ามาในตาทำเอาผมแทบอาย อยากจะมุดลงไปในดินทรายให้มันรู้แล้วรู้รอด 

     อื้อ…

     มันจูบผมอีกครั้ง…

     และครั้งนี้กลับทำให้คนเข้าใจยากอย่างผมรู้ว่าทำไมถึงต้องจูบ จูบแล้วได้คำตอบยังไง…

    ผมรู้แล้วว่าจูบนี้นั้นต่างกับของพี่เพลงยังไง จริงอยู่ที่ครั้งหนึ่งเราน่าจะเคยจูบกันหรืออาจะไม่ก็ได้ ก็เพราะตอนนั้นเรามีอะไรกันทั้งที่ไม่มีสติ แต่ครั้งนั้นผมเมาและจำความรู้สึกไม่ได้ แต่ที่แน่ๆมันไม่ได้รู้สึกดีแบบนี้แน่นอน

ครั้งนี้ผมรู้สึกบิดเกร็งในช่องท้องมากกว่าเดิมเป็นล้านเท่าเพราะเรียวลิ้นที่เคลือบไปด้วยแอลกอฮอล์นั้นได้สอดแทรกเข้ามาอย่างจาบจ้วง จนทำให้ผมแทบจะมัวเมายิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ ผมไม่ได้จูบตอบเพราะไม่ประสาเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าถ้าอีกฝ่ายทำแบบนี้แล้วต้องทำยังไง


จูบครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งแรก ไม่ว่าจะในเรื่องของความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดมาอย่างชัดเจน แรงกระขบเม้มที่ส่งมาให้ซึ่งมันมากจนผมคิดว่าปากแม่งต้องบวม เจ่อมากแน่ถ้ายังไม่หยุดจูบ

จูบครั้งนี้ดูเอาแต่ใจจนผมแทบจะไม่ไหว และยิ่งหนักเข้าไปอีกเมื่อองศาของใบหน้าถูกปรับเอียงเล็กน้อยเพื่อให้สัมผัสกันมากขึ้น ลมหายใจของเรารุนแรงร้อนฉ่า เป่ารดที่ใบหน้าของกันและกัน


     หน้ากูแม่งต้องแดงมากแน่เลยครับหัวหน้า…

     เหมือนกับว่าอารมณ์ตั่งต่างกำลังประทุ จนตอนนี้ลมหายใจผมเริ่มติดขัด  ไอ้ฉิบหายกูเริ่มหายใจไม่ออกแล้วโว้ยยยย
สงสัยว่ามันคงรู้ว่าผมเริ่มอยู่ในอาการแบบไหน สุดท้ายเราต่างก็ผละริมฝีปากออกจากกันในที่สุด แต่ดูเหมือนว่าไอ้เสือมันจะเสียดายเพราะยังคงอ้อยอิ่งอยู่อย่างนั้นไม่ยอมปล่อย

     ไอ้เหี้ยตัดหัวกูเอาไปครองไว้เลยไหม ถ้าจะเสียดายขนาดนี้!

     แต่ผมไม่ได้จูบตอบมันเลยนี่นะ มันจะเป็นอะไรไหม คือกูไม่รู้ไงว่ามันต้องทำยังไง


     “เออ กูชอบ”   เสียงทุ้มตอบกลับมา จนผมแทบลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ถามมันว่าอะไร

     “…”  ผมเงียบเพราะยังไม่เลิกอึ้ง ทึ่งและช็อค

     คือตอนนี้สติก็ยังกลับมาไม่ครบถ้วนสักเท่าไร ในสมองมันมีแต่อะไรก็ไม่รู้เหมือนทุกอย่างกำลังรวนระบบกำลังร่ม  แม้แต่คำถามที่เกิดขึ้นมากมายก็ยังไม่ได้ถูกถามออกไป  ภายในใจนี่ยิ่งแล้วใหญ่สับสนตีรวนกับความรู้สึกตั่งต่างจนแทบอยากจะกดรีสตาร์ทให้มันสักหน่อย

     “แล้วมึงล่ะชอบกูไหม?” 

     เหมือนว่าหูจะอื้อไม่ได้ยินเสียงอะไร แม้แต่เสียงลมทะเล แต่น่าแปลกที่เสียงทุ้มๆของมันกลับดังเข้ามาในโสตประสาทซะได้ อย่าเพิ่งถามกันตอนนี้เลย ขอประมวลผมสักครู่ ตอนนี้กูตอบอะไรไม่ได้จริงๆ 

     “กะ กู มะ ไม่รู้”  นานมากกว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ แต่ไอ้เสือแม่งก็ยังรอคอยคำตอบจากผม ผมไม่กล้ามองหน้ามันเพราะตอนนี้รู้สึกว่าถ้ามองคงต้องละลายจมไปกับทรายแน่ๆ  เพราะจากความรู้สึก เหมือนว่ามันกำลังมองผมด้วยความร้อนแรง  มันคงจะร้อนแรงชนิดที่แบบว่าเผากูไหม้ได้แน่ๆ

ผมเกร็งเท้าจิกปลายเล็บลงบนพื้นทรายอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ส่วนมือทั้งสองข้างก็ไม่รู้ว่าเผลอกำเข้าหากันตอนไหน จนตอนนี้ทรายมันเปื้อนมือแทบจะทุกตารางนิ้ว


     ตึกตัก…

     หัวใจกลับมาเต้นระรัวอีกครั้งเมื่อคนข้างๆอยู่ก็จับเข้าที่มือผมเอาดื้อๆ ตอนแรกจากเกร็งๆพอเจอฝ่ามือใหญ่ของมันจับเข้าหน่อยกลับปล่อยออกแทบไม่ทัน นิ้วทั้งห้าสอดประสานเข้ากับมือผม ความอบอุ่นแผ่ซ่านผ่านเม็ดทรายที่ติดอยู่ตรงมือผ่านสู่ผิวเนื้อและหัวใจจนสัมผัสได้

แบบนี้เรียกว่าชอบได้ไหม… นี่เรียกว่าคำตอบได้หรือเปล่า  ถ้าถามว่ารู้สึกดีไหม คงตอบว่ามาก… รู้สึกดีจากหลายๆอย่างที่มันทำให้ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา และรู้สึกดีมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้อยู่กับมัน


     แต่… ผมชอบผู้ชายจริงๆเหรอ 

     ผม… เป็นเกย์จริงๆใช่ไหม?

     แล้วลูกมันล่ะ? ถ้าน้องกวางโตพอที่จะรับรู้เรื่องราวได้  น้องจะรู้สึกยังไงที่รู้ว่าพ่อของตัวเองเป็นเกย์

     “ว่าไง สรุปแล้วมึงรู้สึกเหมือนกันกับกูหรือเปล่า?”    ไอ้เสือถามย้ำอีกครั้ง ผมยิ่งสับสนมากพอตัว เพราะไม่สามารถให้คำตอบแก่มันได้ ผมไม่รู้…ไม่รู้อะไรทั้งนั้น

     “มะ ไม่รู้จริงๆว่ะ กูขอเวลาสักพักนะ”  เสียงของผมมันอาจจะเบามากจนไม่ได้ยิน

     แม่งโคตรสับสน สับสนฉิบหายจนไม่รู้จะทำยังไง เลยเลือกที่จะเอามือออกมาจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายและรีบลุกขึ้นเดินเข้าบ้านพักไป 


     หัวใจตอนนี้มันก็ยังเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นผสมปนเปกับตกใจ  มือไม้แข้งขารู้สึกอ่อนแรงจนแทบเดินไม่ไหว


     ฮืออออ   ช่วยกูด้วยครับ กูสับสนโว้ยยยยยยยยยยยยย!



   TO BE CONTINUDE...




 อะๆ อย่างเพิ่งว่าทำไมมาเเค่นี้นะคะ  คืออยากเขียนในด้านของความรู้สึกของปิงบ้างว่าเป็นยังไง เเละตอนที่สิบแปดที่จริงๆเเล้วยาวพอสมควรเลยเเบ่งเป็นสองพาร์ท ยังไงจะรีบเขียนเเละเอามาลงให้น้า  ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  ขอกอดเเรงๆสักทีนะคะ เหนื่อยเหลือหลาย TwwwwT


ปอลิง ฝากกดถูกใจเพจหน่อยนะคะ แฮ่ๆ :P

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด